โครงการลูกชิ้นนึ่ง

โครงการลกู ชิ้นน่ึง

จดั ทาโดย
นางสาวกมุ ภา แซ่กือ
รหสั ประจาตวั 64302160002
ระดบั ช้นั ประกาศนียบตั รวชิ าชีพช้นั สูง
สาขาวชิ าการจดั การสานกั งาน หอ้ ง สบก.64.1

เสนอ
อาจารย์ ดาวสกาย พลู เกษ

รายงานน้ีเป็นส่วนหน่ึงของรายวชิ าทกั ษะภาษาไทยเชิงวชิ าชีพ
ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2564
วทิ ยาลยั เทคนิคกาแพงเพชร

ใบรับรองโครงการ

เรื่อง ลกู ชิน้ นงึ่
สาขาวชิ า การเลขานกุ าร

โดย
นางสาวสมฤดี ยมนา รหสั ประจาตวั 6122030002
นางสาวกมุ ภา แซก่ ือ รหสั ประจาตวั 6122030004
นางสาวอจั จิมา คาต๊ะ รหสั ประจาตวั 6122030010

คณะกรรมการได้พจิ ารณาเหน็ ควรอนมุ ตั ิโครงการนเี ้ป็ นสว่ นหนง่ึ ของการศกึ ษาตามหลกั สตู รประกาศนยี บตั ร
วิชาชีพ (ปวช.) สาขาวชิ าการเลขานกุ าร

.......................................................
นายสถาพร โพธิ์หวี

ผ้อู านวยการวทิ ยาลยั เทคนิคกาแพงเพชร

คณะกรรมการสอบโครงการ
.......................................... ประธานกรรมการ
นายรชต ดิลกรัชตสกลุ
.......................................... กรรมการ
นางสาวดวงใจ ไตรบตุ ร
หวั หน้าแผนกวิชาการเลขานกุ าร
.......................................... กรรมการและเลขานกุ าร
นางสาวศริ ิวรรณ สวนลา
ครูประจาวิชา โครงการ

ชื่อนกั ศกึ ษา : นางสาวสมฤดี ยมนา รหสั ประจาตวั 6122030002
นางสาวกมุ ภา แซก่ ือ รหสั ประจาตวั 6122030004
นางสาวอจั จิมา คาต๊ะ รหสั ประจาตวั 6122030010

ระดบั ชนั้ : ประกาศนียบตั รวิชาชีพ (ปวช.)
สาขาวชิ า: การเลขานกุ าร
สาขางาน: การเลขานกุ าร
ปี การศกึ ษา : 2563
สถานศกึ ษา : วทิ ยาลยั เทคนคิ กาแพงเพชร

กติ ติกรรมประกาศ

รายงานการวิจัย เรื่อง ลกู ชิน้ นึ่ง สาเร็จลลุ ว่ งเป็ นไปอยา่ งดีด้วยความช่วยเหลือและสนบั สนนุ จากบคุ คลหลาย
ท่าน โดยเฉพาะ อาจารย์ศิริวรรณ สวนลา ซ่ึงเป็ นครูที่ปรึกษาในการทาวิจยั ในครัง้ นีท้ ่ีได้กรุณาให้คาปรึกษา แนะนาการ
จดั ทา จนสาเร็จลลุ ว่ งไปได้ด้วยดี คณะผ้วู ิจยั กราบขอบพระคณุ เป็ นอยา่ งสงู ไว้ ณ โอกาสนี ้

ขอบคณุ วทิ ยาลยั เทคนคิ กาแพงเพชร ที่ให้การสง่ เสริมสนบั สนนุ งบประมาณในการจดั ทาและพฒั นาสิง่ ประดิษฐ์
คนรุ่นใหม่ ทาให้นกั เรียน นกั ศกึ ษา ได้มโี อกาสเรียนรู้และพฒั นาทกั ษาการวจิ ยั สงิ่ ประดิษฐ์

หากคณุ ความดีและประโยชน์อนั จะเกิดจากการวจิ ยั ครัง้ นี ้คณะผ้จู ดั ทาขอมอบให้ผ้มู ีพระคณุ ทกุ ทา่ นทีก่ ลา่ วไว้นี ้

คณะผ้จู ดั ทา
4 มนี าคม 2564

บทคดั ย่อ

ในการวจิ ยั ครัง้ นีม้ ีวตั ถปุ ระสงค์ คือ 1) เพ่ือสร้างรายได้ระหว่างเรียนให้กบั นกั ศกึ ษา 2) เพื่อให้นกั ศึกษาใช้เวลา
ว่างให้เกิดประโยชน์ 3) เพื่อให้นกั ศึกษาได้ฝึ กการทาบญั ชีรายรับ-รายจ่าย 4) เพื่อให้นกั ศึกษานาไปเป็ นแนวทางการ
ประกอบอาชีพเสริมได้ 5) เพ่ือให้นกั ศกึ ษาได้ฝึกประสบการณ์การขายจริง กลมุ่ ตวั อยา่ งท่ีใช้ในการวิจยั ครัง้ นีป้ ระกอบด้วย
คณะครูอาจารย์ และนกั เรียนนกั ศึกษาวิทยาลยั เทคนิคกาแพงเพชร เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่1) ผลิตภัณฑ์2)
แบบสอบถามความพึงพอใจ จานวน 5 ข้อ แบบ 5 ระดบั ค่าสถิติที่ใช้ในการวิจยั คือ1)ค่าร้ อยละ 2) ค่าคะแนนเฉลี่ย 3)
สว่ นเบยี่ งเบนมาตรฐาน

ผลการวิจัยสรุปได้ดงั นีจ้ ากตารางแบบสอบถามประเมินความพึงพอใจการจดั โครงการ“ลูกชิน้ น่ึง” เร่ืองการ
ออกแบบรูปแบบผลติ ภณั ฑ์ ประโยชน์ของผลติ ภณั ฑ์ ความเหมาะสมด้านราคา คณุ ภาพของผลติ ภณั ฑ์ ความพึงพอใจใน
ผลติ ภณั ฑ์พบวา่ ผ้ทู ดลองใช้ผลติ ภณั ฑ์เข้าร่วมโครงการมีความพงึ พอใจมากที่สดุ ในเร่ืองเกี่ยวกบั คณุ ภาพของผลิตภณั ฑ์
คิดเป็ นค่าเฉลี่ย 4.55 รองลงมาคือความพึงพอใจเก่ียวกับรูปแบบผลิตภณั ฑ์ คิดเป็ นค่าเฉล่ีย 4.34 และน้อยที่สดุ คือ
เกี่ยวกบั เรื่องความพงึ พอใจในผลติ ภณั ฑ์ คดิ เป็ นคา่ เฉลยี่ 4.06

สารบัญ หน้า

ใบรับรอง
บทคดั ยอ่
กิตตกิ รรมประกาศ
สารบญั
บทท่ี 1 บทนา

1.1 ความเป็ นมาและความสาคญั ของปัญหา
1.2 คาถามสาหรับการวิจยั
1.3 วตั ถปุ ระสงค์ของการวจิ ยั
1.4 ขอบเขตการวจิ ยั
1.5 คาจากดั ความทใี่ ช้ในการวจิ ยั
1.6 ข้อตกลงเบอื ้ งต้น
1.7 วิธีการดาเนนิ การ
1.8 ประโยชน์ท่คี าดวา่ จะได้รับ
1.9 เครื่องมอื และอปุ กรณ์
1.10 งบประมาน
1.11 แผนผงั การทางาน
1.12 นยิ ามศพั ท์เฉพาะ
บทที่ 2 แนวคิด ทฤษฎี และงานวจิ ยั ทีเ่ กยี่ วข้อง
บทท่ี 3 วิธีดาเนนิ การวจิ ยั
3.1 ประชากรและกลมุ่ ตวั อยา่ ง
3.2 เคร่ืองมือทใี่ ช้ในการศกึ ษา
3.3 วิธีการดาเนินการ
3.4 วธิ ีการเก็บรวบรวมข้อมลู
3.5 สถิติท่ีใช้ในการวเิ คราะห์ข้อมลู
3.6 เวลาและสถานท่ี
บทท่ี 4 ผลการวจิ ยั
4.1 ผลการวเิ คราะห์ข้อมลู ด้านการทดลองใช้
4.2 ผลความพงึ พอใจของผ้ทู ดลองใช้นา้ ยาปรับผ้านมุ่
บทที่ 5 สรุป อภปิ รายผลและข้อเสนอแนะ
5.1 สรุปผลทดลอง
5.2 อภิปรายผล
5.3 คาแนะนา
บรรณานกุ รม
ประวตั ผิ ้ทู าวจิ ยั

บทท่ี 1
ความเป็ นมาและความสาคัญของปัญหา

1.1 ความเป็ นมาและความสาคญั ของปัญหา
พฤติกรรมการบริโภคอาหารของคนไทยทีเ่ กิดจากคา่ นยิ มในปัจจบุ นั พบวา่ มีหลากหลาย เช่น พฤติกรรมบริโภค

นิยม ซง่ึ จะมลี กั ษณะทช่ี อบบริโภคเป็ นหลกั ไมไ่ ด้คานึง ถึงสขุ ภาพ ชอบรับประทานของอร่อยเกินความจาเป็ น พฤติกรรม
เลยี นแบบตา่ งประเทศ เช่น รับประทานอาหารตา่ งชาติ ญ่ีป่ นุ เกาหลี หรือ ยโุ รป พฤติกรรมตามวยั เช่น วยั เดก็ ชอบอาหาร
ที่มสี สี นั วยั ผ้สู งู อายเุ ลอื กรับประทานอาหารสขุ ภาพ เป็ นต้น จากพฤตกิ รรม การบริโภคอาหารทีห่ ลากหลายนนั้ ได้สง่ ผลไป
ยงั สขุ ภาพทต่ี ามมา ทเ่ี รียกวา่ โรคร้ายสะสม จากการบริโภค คือ โรคที่เกิดจากการสะสมของอาหารท่ีกินเกิน กว่าร่างกาย
ขบั ถา่ ยออกได้หมด ทาให้เกิดการสะสม เชน่ สะสมในหลอดเลอื ดจนตบี ตนั หรือสะสมในเซลล์ อวยั วะต่าง ๆ จนเกิดความ
ผดิ ปกตขิ องการทางานของเซลล์ และอวยั วะตา่ ง ๆ (หมอชาวบ้าน, 2550) ทาให้เกิดโรคเบาหวาน ความดนั เลอื ดสงู ไขมนั
ผดิ ปกติ โรคทเ่ี กิดจากการสบู บหุ รี่ โรคท่เี กิดจาก ความอ้วน โรคหลอดเลอื ดหัวใจ (หลอดเลอื ดหวั ใจตีบตนั ทาให้เกิดหวั ใจ
ขาดเลือด กล้ามเนือ้ หวั ใจตาย) โรคหลอดเลอื ดสมอง (หลอดเลอื ดสมองตีบตนั ทาให้เป็ นอมั พฤกษ์ อมั พาต) และมะเร็ง
บางชนดิ เช่น มะเร็งปอด มะเร็งลาไส้ใหญ่ มะเร็งเต้านม เป็ นต้น
ทงั้ นีเ้ มื่อพิจารณาจากสถิติคนไทยจากร้ อยละของผู้เสียชีวิตจากโรคท่ีสาคัญในปี 2555 (สานกั งานคณะกรรมการ
พฒั นาการเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ. 2556) พบว่า โรคท่ีเกิด จากพฤติกรรมการบริโภคอาหารนนั้ ติดอนั ดบั 1 ใน 10
ของผ้เู สยี ชีวิต คือ โรคมะเร็งเป็ น อนั ดบั หนงึ่ (ร้อยละ 15) โรคหวั ใจ (ร้อยละ 5.1) โรคหลอดเลือดในสมอง (ร้อยละ 4.9)
โรคเบาหวาน (ร้อยละ 1.9) และโรคความดนั โลหติ สงู (ร้อยละ 0.9)
เน่ืองด้วยนกั เรียน นกั ศึกษา วิทยาลยั เทคนิคกาแพงเพชรมีพฤติกรรมการบริโภคที่เร่งรีบ เพราะต้องเข้าร่วมกิจกรรมเข้า
แถวเคารพธงชาติ เวลา 07.30 น. จึงทาให้นกั เรียน นกั ศกึ ษาไมม่ ีเวลารับประทานอาหารเช้าจากบ้าน และโรงอาหารใน
วิทยาลยั มีพืน้ ท่ีรองรับนกั เรียน นกั ศึกษาได้ไมเ่ พียงพอ เน่ืองจากดิฉนั เป็ นนกั ศึกษาแผนกวิชาการจดั การสานกั งาน ทาง
แผนกวชิ าฯ มกี ารจดั การเรียนการสอนรายวิชาโครงการ จงึ ทาให้ดิฉนั เลง็ เหน็ ถึงโอกาสในการขายอาหารเช้าที่หน้าอาคาร
6 คณะบริหารธุรกิจ เพ่อื เป็ นการหารายได้ระหวา่ งเรียน
จงึ เกิดธุรกิจการขายลกู ชิน้ นง่ึ ซง่ึ เป็ นอาหารที่ประกอบด้วยวตั ถดุ ิบทม่ี คี ณุ ภาพ ปรุงสดใหม่ สะดวกตอ่ การบริโภค คณุ ภาพ
รสชาติ ราคาเหมาะสมกบั กาลงั ในการซอื ้ ของนกั เรียน นกั ศกึ ษา และยงั สง่ ผลดตี อ่ สขุ ภาพ

1.2 วตั ถปุ ระสงค์ของการวจิ ัย
1.2.1 เพอ่ื เป็ นแนวทางสร้างรายได้เสริมให้กบั นกั เรียน นกั ศกึ ษา

1.2.2 เพ่ือให้นกั เรียน ศกึ ษาใช้เวลาวา่ งให้เป็ นประโยชน์
1.2.3 เพื่อให้นกั ศกึ ษานาความรู้ไปประกอบอาชีพได้

1.3 ขอบเขตการวิจยั
1.3.1 ขอบเขตด้านประชากรและกลมุ่ ตวั อยา่ ง
ประชากร คือ นกั เรียน นกั ศกึ ษา วิทยาลยั เทคนิคกาแพงเพชร
กลมุ่ ตวั อยา่ ง คือ นกั เรียน นกั ศึกษา คณะบริหารธุรกิจประกอบด้วยแผนกวิชาการบญั ชี แผนกวิชาการตลาด

และแผนกวิชาการจดั การสานกั งาน จานวน 226 คน

1.3.2 ขอบเขตด้านเนอื ้ หา
ศกึ ษาพฤตกิ รรมผ้บู ริโภค การบริการ นวตั กรรม ทส่ี ง่ เสริมความพงึ พอใจของนกั เรียน นกั ศกึ ษาวทิ ยาลยั เทคนิค

กาแพงเพชร
1.3.3 ขอบเขตด้านตวั แปร

ตวั แปรต้น
- ลกู ชิน้ นงึ่
ตวั แปรตาม
- พฤตกิ รรมการบริโภค ความพงึ พอใจของนกั เรียนนกั ศกึ ษาวทิ ยาลยั เทคนิคกาแพงเพช
- ความคิดเหน็ ของผ้บู ริโภค

1.4 วิธดี าเนินการ
1. ขนั้ เตรียมการ
1.1 ศกึ ษาโครงงาน
1.2 เขียนโครงงานเสนอและขออนมุ ตั ิ
1.3 ประชาสมั พนั ธ์ผ้สู นใจผลติ ภณั ฑ์
1.4 ตดิ ตอ่ ประสานงานกบั ผ้เู กี่ยวข้อง

2. ขัน้ ดาเนินการ
2.1 จดั เตรียมวสั ดอุ ปุ กรณ์
2.2 ออกแบบผลติ ภณั ฑ์
2.3 ทาการนาเสนอผลติ ภณั ฑ์
3. ขนั้ ประเมินผล
3.1 ประเมนิ จากแบบสอบถามความพงึ พอใจ
3.2 สรุปรายงานผล

1.5 ประโยชน์ท่คี าดว่าจะได้รับจากโครงงาน
1.5.1 สามารถหารายได้เสริมให้กบั นกั เรียน นกั ศกึ ษา
1.5.2 สามารถนาไปพฒั นาใช้ในชีวติ ประจาวนั และอนาคต
1.5.3 สามารถลดคา่ ใช้จา่ ยภายในครอบครัวได้

ตารางการดาเนินงาน

ประโยชน์ท่คี าดว่าจะได้รับ
1.8.1 นกั ศกึ ษามีรายได้ระหวา่ งเรียน.
1..8.2 นกั ศกึ ษาได้ใช้เวลาวา่ งให้เกิดประโยชน์
1.8.3 นกั ศกึ ษาได้ฝึกการทาบญั ชีรายรับ-รายจา่ ย
1.8.4 นกั ศกึ ษานาไปเป็ นแนวทางการประกอบอาชีพเสริมได้
1.8.5 นกั ศกึ ษาได้ฝึกประสบการณ์การขายจริง

งบประมาณ จานวน ราคาตอ่ หนว่ ย ราคารวม
ลาดบั รายการ 1 25 25
1 กระปกุ 1 12 12
2 กระบวย 1 5 5
3 เกลอื 1 25 25
4 นา้ ปลา 1 22 22
5 นา้ ตาล 1 10 10
6 นา้ กระเทยี มดอง 1 10 10
7 ผลชรู ส 1 1 1
8 นา้ สะอาด 1 50 50
9 พริกขหี ้ นู 1 25 25
10 กระเทยี มเมด็ 6 55 330
11 ลกู ชิน้ 16 240 515
รวม
515
รวมทงั้ หมด

คานิยามศพั ท์เฉพาะ
- การสารวจ หมายถงึ เทคนิคทางด้านระเบียบวิธีอยา่ งหนงึ่ ของการวจิ ยั ที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมลู จากกลมุ่ ตวั อยา่ งที่
ถกู เลอื กด้วยหลกั วชิ าการทางสถิติ หรือประชากรทีผ่ ้วู จิ ยั ต้องการศกึ ษา โดยการใช้แบบสอบถาม
- ความพงึ พอใจ หมายถงึ ความรู้สกึ นกึ คิดของนกั ศกึ ษาวา่ ดีหรือไมต่ อ่ ผลติ ภณั ฑ์ท่ที าออกจาหนา่ ย

บทท่ี 2
แนวคดิ ทฤษฎี และงานวจิ ยั ท่เี ก่ยี วข้อง

ในการวิจัยครัง้ นี ้ ได้ดาเนินการศึกษา แนวคิด ทฤษฎี และงานวิจัยท่ีเกี่ยวข้องต่าง ๆ เพ่ือนามาใช้เป็ นข้อมูล
ประกอบการดาเนินงาน ดงั นี ้

2.1 ทาความรู้จักผลิตภณั ฑ์
“ผลติ ภณั ฑ์ (Product)” หมายถึง สนิ ค้า หรือบริการ ที่ผ้ปู ระกอบการสามารถผลติ หรือ จดั หาเพ่ือสนองความ

ต้องการของ ตลาดได้ ปัจจุบนั ผลิตภณั ฑ์ หมายถึง ตวั สนิ ค้ารวมกบั ความพึงพอใจ และผลประโยชน์อ่ืนท่ีผ้บู ริโภคได้รับ
จาก การซอื ้ สนิ ค้านนั้ รวมถงึ การบรรจหุ ีบหอ่ และย่ีห้อผลติ ภณั ฑ์ทอ่ี อกสตู่ ลาด ต้องมคี ณุ ภาพดีเป็ นทยี่ อมรับของผ้บู ริโภค

2.2 จุดเด่นของผลติ ภณั ฑ์
1. ลกู ชิน้ นงึ่ มคี วามอร่อย หลากหลาย

2.3 ความต้องการของตลาด
เป็ นสินค้าประเภทอาหาร ลกู ชิน้ นึ่ง ซ่ึงเป็ นอาหารประเภทของว่าง อาหารแปรรูปกึ่งสาเร็จรูปและเป็ นสนิ ค้าที่

คณะผ้จู ดั ทาปรับปรุงให้ดขี นึ ้ และมีคณุ ภาพจากเดิม จดุ เดน่ ของสนิ ค้าๆมคี วามสด ใหม่ ทกุ วนั ไมม่ กี ารใช้วตั ถดุ บิ เกา่ และ
มรี สชาตอิ ร่อย

2.4 แนวคิดเก่ยี วกับความพึงพอใจ
Shelly อ้างโดย ประกายดาว (๒๕๓๖) ได้เสนอแนวคิดเกี่ยวกบั ความพึงพอใจ วา่ ความพงึ พอใจเป็ นความรู้สกึ

สองแบบของมนษุ ย์ คือ ความรู้สกึ ทางบวกและความรู้สกึ ทางลบ ความรู้สกึ ทางบวกเป็ นความรู้สกึ ท่ีเกิดขนึ ้ แล้วจะทาให้
เกิดความสขุ เป็ นความรู้สกึ ท่มี ีระบบย้อนกลบั ความสขุ สามารถทาให้เกิดความรู้สกึ ทางบวกเพ่ิมขนึ ้ ได้อีก ดงั นนั้ จะเห็นได้
วา่ ความสขุ เป็ นความรู้สกึ ที่สลบั ซบั ซ้อน และความสขุ นีม้ ีผลต่อบคุ คลมากกวา่ ความรู้สกึ ในทางบวกอื่น ๆ แนวคิดความ
พึงพอใจมีส่วนเก่ียวข้องกับความต้องการของมนุษย์ กล่าวคือ ความพึงพอใจจะเกิดขึน้ ได้ก็ต่อเม่ือความต้องการของ
มนษุ ย์ได้รับการตอบสนอง ซง่ึ มนษุ ย์ไม่วา่ อยใู่ นทใ่ี ดยอ่ มมีความต้องการขนั้ พนื ้ ฐานไมต่ า่ งกนั

2.5 ทฤษฎเี ก่ยี วกับความพึงพอใจ
Kotler and Armstorng (๒๐๐๒) รายงานวา่ พฤติกรรมของมนษุ ย์เกิดขนึ ้ ต้องมสี งิ่ จงู ใจ (Motive) หรือแรงขบั

ดนั (Drive) เป็ นความต้องการท่กี ดดนั จนมากพอทจี่ ะจงู ใจให้บคุ คลเกิดพฤติกรรมเพือ่ ตอบสนองความต้องการของตนเอง
ซงึ่ ความต้องการของแตล่ ะคนไมเ่ หมือนกนั ความต้องการบางอย่างเป็ นความต้องการทางชีววิทยา (Biological) เกิดขนึ ้
จากสภาวะตงึ เครียดเช่น ความหิวกระหายหรือความลาบากบางอย่าง เป็ นความต้องการทางจิตวิทยา (Psychological)
เกิดจากความต้องการการยอมรับ (Recognition) การยกยอ่ ง (Esteem) หรือการเป็ นเจ้าของทรัพย์สิน (Belonging)
ความต้องการสว่ นใหญ่อาจไมม่ ากพอทจี่ ะจงู ใจให้บคุ คลกระทาในช่วงเวลานนั้ ความต้องการกลายเป็ นสิ่งจงู ใจเมื่อได้รับ
การกระต้นุ อยา่ งเพยี งพอจนเกิดความตงึ เครียด โดยทฤษฎีที่ได้รับความนิยมมากท่ีสดุ มี 2 ทฤษฎีคือทฤษฎีอบั ราฮมั มาส
โลว์ และ ทฤษฎีของซกิ มนั ด์ฟรอยด์

2.6 ทฤษฎแี รงจูงใจของมาสโลว์ (Maslow’s theory motivation)
อบั ราฮมั มาสโลว์ ( A.H.Maslow) ค้นหาวิธีทีจ่ ะอธิบายวา่ ทาไมคนจงึ ถกู ผลกั ดนั โดยความต้องการบางอยา่ ง ณ

เวลาหนง่ึ ทาไมคนหนงึ่ จึงทมุ่ เทเวลาและพลงั งานอยา่ งมากเพื่อให้ได้มาซง่ึ ความปลอดภยั ของตนเอง แตอ่ กี คนนงึ กบั ทาส่งิ
เหลา่ นนั้ เพื่อให้ได้รับการยกย่องนบั ถือจากผ้อู ื่น คาตอบของมาสโลว์ คือ ความต้องการของมนษุ ย์จะถกู เรียงตามลาดบั
จากสง่ิ ทีก่ ดดนั มากทส่ี ดุ ไปถึงน้อยทส่ี ดุ ทฤษฎีของมาสโลว์ได้จดั ลาดบั ความต้องการของความสาคญั คือ

1. ความต้องการทางกาย เป็ นความต้องการพนื ้ ฐาน คอื อาหาร ทพี่ กั อากาศ ยารักษาโรค
2. ความต้องการการปลอดภยั เป็ นความต้องการที่เหนือกวา่ ความต้องการเพื่ออยรู่ อด เป็ นความต้องการในด้านความ
ปลอดภยั จากอนั ตราย
3. ความต้องการทางสงั คมเป็ นการต้องการยอมรับจากเพื่อน
4. ความต้องการการยกยอ่ งเป็ นความต้องการการยกยอ่ งสว่ นตวั ความนบั ถือและสถานะทางสงั คม
5. ความต้องการให้ตนเองประสบความสาเร็จเป็ นความต้องการสงู สดุ ของแตล่ ะบคุ คลความต้องการทาทกุ สิง่ ทกุ อย่างได้
ได้อยา่ งสาเร็จ บคุ คลพยายามท่ีจะสร้างความพงึ พอใจให้ความต้องการที่สาคญั ท่สี ดุ เป็ นอนั ดบั แรก เมื่อความต้องการนนั้
ได้รับความพึงพอใจความต้องการนนั้ จะหมดลงและเป็ นตวั กระต้นุ ให้บคุ คลพยายามสร้ างความพึงพอใจให้กับความ
ต้องการท่ีสาคญั ท่ีสดุ เป็ นลาดบั ตอ่ ไป ตวั อย่าง เช่น คนท่ีอดอยาก (ความต้องการทางกาย) จะไม่สนใจตอ่ งานศิลปะชิน้
ลา่ สดุ (ความต้องการสงู สดุ ) หรือไมต่ ้องการความยกยอ่ งจากผ้อู ่ืน หรือไมต่ ้องการแม้แตอ่ ากาศท่ีบริสทุ ธ์ิ (ความปลอดภยั )
แตเ่ มอื่ ความต้องการแตล่ ะขนั้ ได้รับความพงึ พอใจแล้วก็จะมีความต้องการในขนั้ ลาดบั ตอ่ ไป

2.7 ทฤษฎีแรงจงู ใจของฟรอยด์
ซกิ มลั ฟอยด์ ตงั้ สมมติฐานว่าบคุ คลมกั ไมร่ ู้ตวั มากนกั ว่าพลงั งานทางจิตวิทยา มีสว่ นช่วยสร้างพฤติกรรม ซอย

พบวา่ บคุ คลและสงิ่ เร้าหลายอยา่ งเพมิ่ สงิ่ เร้าเหลา่ นอี ้ ยนู่ อกเหนอื การควบคมุ อยา่ งสนิ ้ เชิง บคุ คลจึงมีความฝัน คาพดู ที่ไม่
ตงั้ ใจพดู มกั มีอารมณ์อยเู่ หนือเหตผุ ลเสมอ และมีพฤติกรรมหลอกหลอนหรือเกิดอาการวิตกจริตอย่างมาก ขณะท่ี ชาริณี
(๒๕๓๕) ได้เสนอทฤษฎีการแสวงหาความพึงพอใจไว้ว่า บคุ คลพอใจจะกระทาส่ิงใดที่มีความสขุ และจะหลีกเล่ียงไม่
กระทาในสงิ่ ทเี่ ขาได้รับความทกุ ข์หรือความยากลาบาก โดยอาจแบง่ ประเภทความพอใจกรณีนไี ้ ด้ 3 ประเภท คือ
1. ความพอใจด้านจิตวิทยาเป็ นทศั นะของความพงึ พอใจว่ามนษุ ย์โดยธรรมชาติจะมีความแสวงหาความสขุ สว่ นตวั หรือ
หลกี เลยี่ งความทกุ ข์ใด ๆ
2. ความพอใจเกี่ยวกบั ตนเองเป็ นทศั นะของความพอใจวา่ มนษุ ย์จะพยายามแสวงหาความสขุ สว่ นตวั แต่ไมจ่ าเป็ นวา่ การ
แสวงหาความสขุ ต้องเป็ นธรรมชาตขิ องมนษุ ย์เสมอไป
3. ความพอใจเก่ียวกบั จริยธรรม ทศั นคตินีถ้ ือวา่ มนษุ ย์แสวงหาความสขุ เพ่ือผลประโยชน์ของมวลมนษุ ย์หรือสงั คม ที่ตน
เป็ นสมาชิกอยแู่ ละเป็ นผ้ไู ด้รับผลประโยชน์ผ้หู นง่ึ ด้วย

2.8 วิธีการวดั ความพงึ พอใจ
วิธีการวดั ความพงึ พอใจ โดยทวั่ ไปสามารถวดั ความพงึ พอใจของผ้ใู ช้บริการได้ 2 วธิ ี คอื
1. วิธีการวดั ความพงึ พอใจจากความคิดเห็นของผ้ใู ช้บริการโดยวดั จากการสอบถามความคิดเห็นของผ้ใู ช้

บริการท่ีเลอื กมาเป็ นตวั อยา่ งจานวนหนงึ่ เก่ียวกบั บริการแตล่ ะด้าน และบริการรวมทกุ ด้านท่ีได้รับจากผ้ใู ห้บริการ โดยที่
ผ้ใู ช้บริการจะต้องมปี ระสบการณ์ในการใช้บริการมาเป็ นระยะเวลานานมากพอ ทจ่ี ะประเมินคณุ ภาพของบริการที่ได้รับใน
แตล่ ะด้านได้

2. วิธีวดั ความพึงพอใจจากข้อมลู ที่สามารถสะท้อนระดบั ความพึงพอใจของผ้ใู ช้บริการโดยวดั จากเกณฑ์ท่ีตงั้ ขึน้
สาหรับวดั ระดบั ความพงึ พอใจของผ้ใู ช้บริการ ท่ีมตี อ่ บริการแตล่ ะด้าน และ บริการรวมทกุ ด้านของสนิ ค้าหรือบริการนนั้ ๆ
เช่นการวดั ความพงึ พอใจของผ้ใู ช้บริการทมี่ ีตอ่ ความรวดเร็วในการให้บริการฝากหรือถอนเงินจากธนาคาร เกณฑ์ที่ตงั้ ขนึ ้
ในการวดั ระดบั ความพงึ พอใจของผ้ใู ช้บริการฝากหรือถอนเงินคอื สอบถามระยะเวลาโดยเฉลย่ี ทีผ่ ้ใู ช้บริการแตล่ ะรายได้รับ
บริการเสร็จผ้บู ริโภคจะมคี วามพงึ พอใจมากน้อยเพียงใดขนึ ้ อยกู่ บั ความต้องการของตนวา่ จะได้รับการตอบสนองมากน้อย
เพียงใด หากได้รับการตอบสนองมากก็จะกอ่ ให้เกิดความจงรักภกั ดแี ละเกิดการสอ่ื สารแบบปากตอ่ ปากแตถ่ ้าจะได้รับการ
ตอบสนองน้อยก็จะรู้สกึ ในแง่ลบ
สาโรชไสยสมบตั ิ กลา่ วถึงการวดั ความพงึ พอใจตอ่ บริการว่าความพึงพอใจต่อการบริการจะเกิดขนึ ้ ได้หรือไม่นนั้ จะต้อง
พิจารณาถึงลกั ษณะของการให้บริการขององค์กรประกอบกบั ระดบั ความรู้สกึ ของผ้มู ารับบริการในมิติต่างๆ ของแต่ละ
บคุ คล ดงั นนั้ ในการวดั ความพงึ พอใจตอ่ บริการอาจจะกระทาได้หลายวธิ ีดงั ตอ่ ไปนี ้
1. การใช้แบบสอบถามเป็ นวธิ ีการทน่ี ยิ มใช้กนั อยา่ งแพร่หลายวิธีหนงึ่ โดยการขอร้องหรือขอความร่วมมอื จากกลมุ่ บคุ คลท่ี
ต้องการ แสดงความคิดเห็นลงในแบบฟอร์มท่ีกาหนดคาตอบไว้ให้เลือกตอบ หรือเป็ นคาตอบอิสระโดยที่คาถามอาจจ ะ
ถามถึงความพึงพอใจในด้านต่าง ๆที่หน่วยงานกาลงั ให้บริการอยู่เช่น ลกั ษณะของการให้บริการ สถานท่ีให้บริการ
ระยะเวลาในการให้บริการพนกั งานท่ใี ห้บริการเป็ นต้น
2. การสมั ภาษณ์ เป็ นอีกวิธีนงึ ในการท่ีจะได้ทราบถึงระดบั ความพึงพอใจของผ้มู าใช้บริการ ซ่ึงเป็ นวิธีการท่ีต้องอาศยั
เทคนิคและความชานาญพิเศษของผ้สู มั ภาษณ์ท่ีจะจงู ใจให้ผ้ถู กู สมั ภาษณ์ ตอบคาถามให้ตรงกบั ข้อเท็จจริงการวดั ความ
พงึ พอใจโดยวิธีการสมั ภาษณ์นบั วา่ เป็ นวิธีหนงึ่ ทป่ี ระหยดั และมปี ระสทิ ธิภาพมากอีกวธิ ีหนงึ่
3. การสงั เกต เป็ นอกี วิธีหนง่ึ ทีจ่ ะทาให้ทราบถึงระดบั ความพงึ พอใจของผ้มู าใช้บริการโดยวิธีการสงั เกตจากพฤติกรรมทงั้
ก่อนมารับบริการขณะรอรับบริการและหลงั จากการได้รับบริการแล้ว เช่น การสงั เกตกิริยาท่าทาง การพูด สีหน้า และ
ความถ่ีของการมาขอรับบริการเป็ นต้น การวัดความพึงพอใจโดยวิธีนีผ้ ู้ว่าจะต้องกระทาอย่างจริงจงั และมีแบบแผนที่
แนน่ อนจงึ จะสามารถประเมนิ ถงึ ระดบั ความพงึ พอใจของผ้มู าใช้บริการได้อยา่ งถกู ต้อง

สรุป

การวดั ความพึงพอใจต่อการให้บริการนนั้ สามารถจะทาการวดั ได้หลายวิธี ทงั้ นีจ้ ะต้องขึน้ อยู่กบั ความสะดวก ความ
เหมาะสม หรือเป้ าหมายของการวดั ความพึงพอใจด้วย จึงจะสง่ ผลให้การวดั ความพึงพอใจนนั้ มีประสทิ ธิภาพเป็ นเป็ นที่
นา่ เช่ือถือได้

บทท่ี 3
วิธีดาเนินการวิจยั

การดาเนินโครงการลกู ชิน้ นงึ่ ในครัง้ นี ้มวี ิธีการ และขนั้ ตอนการดาเนินงาน สามารถอธิบายรายละเอียดได้ ดงั นี ้
3.1 ประชากรและกลมุ่ ตวั อยา่ ง
3.2 เครื่องมอื ทใี่ ช้ในการศกึ ษา
3.3 วิธีการดาเนินการ
3.4 วิธีการเก็บรวบรวมข้อมลู
3.5 สถิตทิ ีใ่ ช้ในการวิเคราะห์ข้อมลู
3.6 เวลาและสถานที่

3.1 ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
- ประชากร คอื คณะครูอาจารย์ และนกั เรียนนกั ศกึ ษาวิทยาลยั เทคนคิ กาแพงเพชรจานวน 300 คน
- กลมุ่ ตวั อยา่ งทีต่ ้องการศกึ ษา คอื คณะครูอาจารย์ และนกั เรียนนกั ศกึ ษาวิทยาลยั เทคนคิ กาแพงเพชร จานวน

169 คน

3.2 วิธีการดาเนินการ

3.3.1 วัตถดุ บิ และอุปกรณ์

1. กระปกุ 1 ใบ

2. กระบวย 1 อนั

3. เกลอื 2 ถ้วยตวง

4. นา้ ปลา 2 ถ้วยตวง

5. นา้ ตาล 2 ถ้วยตวง

6. นา้ กระเทยี มดอง 1 ถ้วยตวง

7. ผงชรู ส 50 กรัม

8. นา้ สะอาด 1 ลติ ร

9. พริกขหี ้ นู 0.5 กิโลกรัม

10. กระเทยี มเมด็ 0.5 กิโลกรัม

3.3 วธิ กี าร

1. โคลกพริกขีห้ นู กระเทยี ม

2. กวนนา้ มะนาว นา้ กระเทยี มดอง เกลอื ผงชรู ส นา้ ตาล นา้ ปลา นา้ สะอาด ให้ละลาย

3. นาพริกบั ประเทียมทโ่ี คลกแล้วมากวนกบั นา้ ทป่ี รุงไว้

3.4 วิธีการเกบ็ รวบรวมข้อมลู
- แจกแบบสอบถามความพงึ พอใจ จานวน 169 คน เก็บรวบรวมข้อมลู และสรุปผล

3.5 สถติ ทิ ่ใี ช้ในการวิเคราะห์ข้อมลู
1. คา่ ร้อยละ โดยใช้สตู รดงั นี ้
ร้อยละ ร้อยละ
เมื่อ X แทน จานวนผ้กู รอกแบบสอบถามเพศชาย
Yแทน จานวนผ้กู รอกแบบสอบถามเพศหญิง
Nแทน จานวนผ้กู รอกแบบสอบถามทงั้ หมด

2. คา่ คะแนนเฉลย่ี โดยใช้สตู รดงั นี ้

คะแนนเฉลย่ี =
เมอื่ แทน ผลรวมของคะแนนทกุ ตวั
N แทน จานวนผ้กู รอกแบบสอบถามทงั้ หมด
สว่ นเบ่ียงเบนมาตรฐาน ใช้สตู รดงั นี ้

S.D. = √

เมื่อ S.D. แทน สว่ นเบยี่ งเบนมาตรฐาน

แทน ผลรวมของคะแนนทกุ ตวั

แทน ผลรวมของคะแนนแตล่ ะตวั ยกกาลงั สอง

N แทน จานวนผ้กู รอกแบบสอบถามที่นามาวเิ คราะห์

3.6 เวลาและสถานท่ี
- ดาเนินการในวนั ท่ี 18 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2563 เวลา 08.00 น. – 12.00 น. ณ แผนกวชิ าการการ

เลขานกุ าร ห้องเรียน 633 วิทยาลยั เทคนคิ กาแพงเพชร

บทท่ี 4
ผลการวิเคราะห์ข้อมลู

การจดั ทาโครงการ “ลกู ชิน้ นง่ึ ” ทางคณะผ้จู ดั ทาได้ ทาการแจกแบบสอบถามความพงึ พอใจของผลติ ภณั ฑ์
4.1 ผลการวเิ คราะห์ข้อมูลด้านการทดลองใช้
ผลการทดลองใช้สอื่ การเรียนการสอน แยกเป็ นบทเรียน 5 บท เรียงตามลาดบั การเรียนรู้ ผ้จู ดั ทาได้ยกตวั อยา่ ง 1
บทเรียน ดงั นี ้

รูปภาพ ภาพผลติ ภณั ฑ์

4.2 ความพึงพอใจของผู้ทดลองใช้
ตารางท่ี 1 ร้อยละของผ้ปู ระเมนิ ความพงึ พอใจแยกตามเพศ

.

เพศ ชาย หญิง
131
จานวนผ้กู รอกแบบสอบถาม 38 77.5

คิดเป็ นร้อยละ 22.5

ตารางท่ี 2 ความพงึ พอใจของครูอาจารย์และนักศึกษาวทิ ยาลยั เทคนิคกาแพงเพชร จานวน 169 คน ท่ีมตี ่อ
โครงการ “ โครงการลกู ชนิ้ น่ึง ”

หวั ข้อประเมนิ N = 169 S.D. ระดบั ความคดิ เห็น
คา่ เฉลยี่ มาก
1. รูปแบบผลติ ภณั ฑ์ 4.34 0.740 มาก
2. ประโยชน์ของผลติ ภณั ฑ์ 3.98 0.783 มาก
3. ความเหมาะสมด้านราคา 4.26 0.811 มากท่ีสดุ
4. คณุ ภาพของผลติ ภณั ฑ์ 4.55 0.689 มาก
5. ความพงึ พอใจในผลติ ภณั ฑ์ 4.06 0.898 มาก
รวม 4.24 0.784

จากตารางท่ี 2 แบบสอบถามประเมินความพงึ พอใจการจัดโครงการ“ ลกู ชิน้ น่ึง ” เรื่องการออกแบบรูปแบบ
ผลติ ภณั ฑ์ ประโยชน์ของผลติ ภณั ฑ์ ความเหมาะสมด้านราคา คณุ ภาพของผลิตภณั ฑ์ ความพงึ พอใจในผลิตภณั ฑ์พบว่า
ผ้เู ข้าร่วมโครงการมีความพึงพอใจมากท่ีสดุ ในเรื่องเก่ียวกบั คณุ ภาพของผลิตภณั ฑ์ คิดเป็ นค่าเฉล่ีย 4.55 รองลงมาคือ
ความพงึ พอใจเก่ียวกบั รูปแบบผลติ ภณั ฑ์ คิดเป็ นคา่ เฉลยี่ 4.34 และน้อยทส่ี ดุ คือเก่ียวกบั เร่ืองความพงึ พอใจในผลิตภณั ฑ์
คดิ เป็ นคา่ เฉลยี่ 4.06

สรุปผลการประเมนิ ความพึงพอใจ

โครงการลูกชนิ้ น่ึง

รายการประเมิน มากทสี่ ดุ มาก ปาน น้อย น้อย N MEAN SD แปล
กลาง ที่สดุ ความ

5 4 3 2 1 169

1. รูปแบบผลติ ภณั ฑ์ 63 75 21 10 0 169 4.34 0.74 มาก

2. ประโยชน์ของผลติ ภณั ฑ์ 109 50 10 0 0 169 3.98 0.783 มาก

3. ความเหมาะสมด้านราคา 99 61 9 0 0 169 4.26 0.811 มาก
39 8 0 0 169 4.55 มาก
4. คณุ ภาพของผลติ ภณั ฑ์ 122 21 33 30 0 169 4.06
85 246 81 40 0 0.689 ทีส่ ดุ
5. ความพงึ พอใจใน 478 0.898 มาก
ผลติ ภณั ฑ์
845 4.24 0.784 มาก
รวม

เกณฑ์ 4.60

4.51 – 5.00 = มากท่ีสดุ 4.50 4.55
3.51 – 4.50 = มาก 4.40
2.51 – 3.50 = ปานกลาง
1.51 – 2.50 = น้อย 4.30 4.34 4.26
1.00 – 1.50 = น้อยทส่ี ดุ 4.20
ผลการวดั ความพงึ พอใจ
ได้คา่ เฉลยี่ = 4.13 4.10
คา่ สว่ นเบ่ียงเบนมาตรฐาน = 0.782
แปลความ = มาก 4.00 4.06
3.90 3.98

3.80

3.70

3.60
12345

บทท่ี ๕
สรุป อภปิ ราย และข้อเสนอแนะ

ลกู ชิน้ นงึ่ เป็ นอาหารวา่ งท่ที กุ คนให้ความนยิ มในการรับประทานมากในปัจจบุ นั และ ผ้บู ริโภคยงั ชอบรับประทาน
รสชาติ เผ็ด เปรีย้ ว และหวาน เพอื่ เป็ นการหาแนวทางการจดั จาหน่าย ลกู ชิน้ นง่ึ นา้ จิม้ รสเด็ดต่อไป ผ้จู ดั ทาได้ทาการวิจยั
ครัง้ นีเ้ป็ นการศกึ ษาพฤติกรรมการบริโภคลกู ชิน้ นงึ่ ของประชากรในโรงเรียนวทิ ยาลยั เทคนิคกาแพงเพชร กาหนดขนาดของ
กลมุ่ ตวั อยา่ งจานวน 40 ราย เคร่ืองมอื ที่ใช้ในการวจิ ยั คอื แบบสอบถาม เก็บรวบรวมข้อมลู โดยการสมุ่ ตวั อย่าง สถิติท่ีใช้
ได้แก่ คา่ ร้อยละ คา่ เฉลยี่ คา่ สว่ นเบีย่ งเบนมาตรฐาน ผลการวจิ ยั มีดงั นี ้

๕.๑ สรุปผลการวิจยั
๕.๑.๑ ผลการจดั ทาการขายลกู ชิน้ นงึ่ พบวา่ เป็ นการจดั การขายทเ่ี หมาะสม

๕.๑.๒ ผลการสอบถามความพงึ พอใจ พบวา่ นกั ศกึ ษามคี วามพงึ พอใจตอ่ การบริการและการขายจากลกู ชิน้ น่งึ นา้ จิม้ รส
เด็ด อยใู่ นระดบั ความพงึ พอใจมากท่สี ดุ ไมว่ า่ จะเป็ นเรื่องปริมาณของอาหาร ราคาอาหาร การบริการของผ้ใู ห้บริการเป็ นท่ี
นา่ พอใจมาก

๕.๒ อภปิ รายผล
๕.๒.๑ จากการดาเนนิ โครงการการขาย ธรุ กิจลกู ชิน้ นงึ่ มีผลประกอบการจากการดาเนนิ ธรุ กิจ มีผลกาไร จานวน

1500 บาท โดยแบ่งอัตราส่วนกาไร 1:1:1 ได้กาไรจากการดาเนินโครงการในครัง้ นี ้ คนละประมาณ 500 บาท ทาให้
นกั ศึกษาทราบว่าธุรกิจ ลกู ชิน้ นึ่ง เป็ นธุรกิจท่ีนา่ สนใจสามารถจดั ตงั้ ได้ง่าย มีการลงทนุ ไม่สงู จนเกินไป กาไรเป็ นท่ีน่าพึง
พอใจในการจดั ทา และผ้บู ริโภคยงั ให้การตอบรับเป็ นนอยา่ งดี

๕.๒.๒ จากการวิจยั ในครัง้ นีผ้ ลการวิจยั พบว่าผ้ตู อบแบบสอบถาม สว่ นใหญ่เป็ นนกั ศกึ ษาเพศหญิง มีอายุ 16-
20 ปี ความพงึ พอใจของผ้บู ริโภคลกู ชิน้ นง่ึ นา้ จิม้ รสเด็ด โดยมีภาพรวม อยใู่ นระดบั ความพงึ พอใจมาก เม่อื จาแนกเป็ นราย
ข้อ พบว่าผ้บู ริโภคมีความพึงพอใจในปัจจัยด้านผลิตภณั ฑ์ การรู้จักหมึกย่างนา้ จิม้ รสเด็ด ด้านคว ามสะอาดลกู ชิน้ น่ึง
ปัจจยั ด้านราคา ราคาเหมาะสมกบั ปริมาณ ปัจจยั ด้านการจดั จาหน่าย ด้านความพอใจกบั สถานที่จัดจาหน่าย ปัจจยั
ทางด้านการตลาดมปี ้ ายบอกราคาทชี่ ดั เจน ด้านความพอใจกบั การบริการของผ้ใู ห้บริการ

๕.๓ ข้อเสนอแนะในการวจิ ยั
๕.๓.๑ นาเสนอสาหรับการนาผลวจิ ยั ไปใช้
แนวทางในการเสนอแนะจากการศกึ ษาการค้นคว้าอิสระ ควรดาเนินการในด้านดงั ตอ่ ไปนี ้
ในสว่ นผ้ซู ือ้ ด้านผลติ ภณั ฑ์ผ้บู ริโภคต้องบริโภคผลติ ภณั ฑ์ทีม่ รี สชาติทีด่ ี มีคณุ ภาพ รวมถงึ มคี วามสะอาด และปลอดภยั
๑. ด้านราคา สาหรับปัจจยั ราคาทผี่ ้บู ริโภครู้สกึ วาเหมาะสมกบั คณุ ภาพของผลติ ภณั ฑ์จะสามารถกระต้นุ ผ้บู ริโภคได้
๒ .ด้านสถานที่จดั จาหนา่ ย ผ้ซู ือ้ ต้องการร้านค้าท่ีไมไ่ กลจาก สถานที่ที่ตนทางานหรืออาศยั อยู่ สามารถเดินทางไปซือ้ ได้
สะดวก
๓. ด้านการสง่ เสริมการขาย ผ้ซู ือ้ ต้องการโปรโมชนั่ ในการลด แลก แจกแถม เน่ืองจากต้องการสนิ ค้ าเดิมในราคาท่ีต่าลง
เป็ นการกระต้นุ ยอดขาย

บรรณานุกรม

ความหมายของการวางแผน และความสาคัญของการวางแผน จากเวิลด์ไวด์เว็บ

https://sites.google.com/site/mbakrabi/kar-wangphaen-kar-peliynpaelng-rabb-ngan-him

ลักษณะของแผนท่ีดี จากเวิลด์ไวด์เว็บ
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=mhajoy&month=01-
2008&date=12&group=19&gblog=6
ความหมายของต้นทุนและประเภทของต้นทุน จากเวิลด์ไวด์เวบ็

https://www.nanosoft.co.th/tips-business/95.php

ความหมายของกาไร และประเภทของกาไร จากเวิลด์ไวด์เว็บ

http://www.businesssoft.com/forum/showthread.php?t=300

ความหมายของการผลิต จากเวลิ ด์ไวดเ์ วบ็
http://member-production.tripod.com/Recycled/Dd74/page1_1.html
ความหมายของการจดั จาหน่าย ช่องทางการจดั จาหน่าย ความสาคัญของคนกลางทางการตลาด
จากเวิลด์ไวด์เวบ็ http://marketing3200-1003.blogspot.com/p/9.html
ความหมายของการทาบญั ชี ประโยชน์และวัตถุประสงค์ของการทาบัญชี จากเวลิ ด์ไวด์เวบ็

http://www.pdaccounting.com/accounting-article

ความหมายของผู้บริโภค จากเวลิ ด์ไวด์เว็บ
https://sites.google.com/site/daranee7032/khwam-hmay-khxng-phu-briphokh-2
ความหมายของการบริการ จากเวิลด์ไวด์เว็บ
http://il258chutipa.blogspot.com/2016/03/blog-post_24.html
ความหมายของความพงึ พอใจ จากเวลิ ด์ไวด์เวบ็ https://www.gotoknow.org/posts/355352

วทิ ยาลัยเทคนิคกาแพงเพชร
แบบประเมินผลการจดั โครงการ

“ ลกู ชิน้ นงึ่ ”

…………………………......…………………………………………………………………………………

โปรดทาเครื่องหมาย  ลงในช่อง ตามความคิดเหน็ ของทา่ น

ตอนท่ี 1 ข้อมลู ทว่ั ไปเกี่ยวกบั ผ้ตู อบแบบสอบถาม เพศ ชาย หญิง
ตอนที่ 2 ความคดิ เหน็ เกี่ยวกบั ผลติ ภณั ฑ์
ตอนที่ 3 ข้อเสนอแนะ

รายการประเมนิ ระดบั ความคดิ เหน็ ปานกลาง น้อย น้อยทีส่ ดุ
3 2 1
1. รูปแบบผลติ ภณั ฑ์ มากท่สี ดุ มาก
2. ประโยชน์ของผลติ ภณั ฑ์ 54
3. ความเหมาะสมด้านราคา
4. คณุ ภาพของผลติ ภณั ฑ์
5. ความพงึ พอใจในผลติ ภณั ฑ์

ข้อเสนอแนะ

…………………………………………………………………..............................................................................................
..................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................

ประวัตผิ ้ทู าวจิ ยั

ประวตั ิส่วนตวั

ช่ือ-สกลุ นางสาวสมฤดี ยมนา

วนั /เดือน/ปี เกิด 10 ตลุ าคม 2545

ที่อยู่ 37/2 หมู่ 6 ตาบลสระแกว้ อาเภอเมือง จงั หวดั กาแพงเพชร 62000

E-mail Address [email protected]

หมายเลขโทรศพั ท์ 064-353-9506

ประวตั ิการศึกษา

จบการศึกษาระดบั อนุบาล โรงเรียนบา้ นลามะโกรก

จบการศึกษาระดบั ประถมศึกษา โรงเรียนบา้ นลามะโกรก

จบการศึกษาระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ โรงเรียนบา้ นลามะโกรก

กาลงั ศึกษาระดบั ประกาศนียบตั รวชิ าชีพ สาขาวิชาการเลขานุการ วทิ ยาลยั เทคนิคกาแพงเพชร

ประวตั ิผทู้ าวจิ ยั

ประวตั ิส่วนตวั

ช่ือ-สกลุ นางสาวกมุ ภา แซ่กือ

วนั /เดือน/ปี เกิด 28 กมุ ภาพนั ธ์ 2545

ที่อยู่ 84/21 หมู่ 14 ตาบลช่องแคบ อาเภอพบพระ จงั หวดั ตาก

E-mail Address [email protected]

หมายเลขโทรศพั ท์ 0625872904

ประวตั ิการศึกษา

จบการศึกษาระดบั ประถมศึกษา โรงเรียนไทยราษฎร์คีรีสาขาบา้ นสามยอดดอย

จบการศึกษาระดบั มธั ยมตน้ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 46 จงั หวดั ชยั นาท

กาลงั ศึกษาระดบั ประกาศนียบตั รวชิ าชีพ สาขาวชิ าการเลขานุการ วทิ ยาลยั เทคนิคกาแพงเพชร

ประวตั ิผทู้ าวจิ ยั

ประวตั ิส่วนตวั

ชื่อ-สกลุ นางสาวอจั จิมา คาตะ๊

วนั /เดือน/ปี เกิด 2 มกราคม 2546

ที่อยู่ 70 ถนนประสานมิตร ตาบลในเมือง อาเภอเมือง จงั หวดั กาแพงเพชร 62000

E-mail Address [email protected]

หมายเลขโทรศพั ท์ 065-342-0267

ประวตั ิการศึกษา

จบการศึกษาระดบั อนุบาล โรงเรียนเทศบาล 2

จบการศึกษาระดบั ประถมศึกษา โรงเรียนบา้ นดอนขวาง

จบการศึกษาระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ โรงเรียนขาณุวทิ ยา

กาลงั ศึกษาระดบั ประกาศนียบตั รวชิ าชีพ สาขาวชิ าการเลขานุการ วทิ ยาลยั เทคนิคกาแพงเพชร