The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by annenote168, 2022-12-16 23:40:29

การ

ilovepdf_merged

กล่มุ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ปี การศึกษา 2565
ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 4
วชิ า วิทยาการคานวณ เรื่อง การนาเสนอข้อมลู ด้วยซอฟต์แวร์
แผนกาเรียนรู้ท่ี 4 เวลา 12 ชั่วโมง

1. ผังมโนทศั น์

2. มาตรฐานการเรียนรู้

ว 4.2 เขา้ ใจและใชแ้ นวคดิ เชิงคานวณในการแกป้ ัญหาทพี่ บในชวี ติ จริงอย่างเป็นข้นั ตอนและเป็นระบบ
ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารในการเรียนรู้ การทางาน และการแกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งมี
ประสิทธิภาพ รูเ้ ท่าทนั และมจี ริยธรรม

3. ตัวชีว้ ัด

ป.4/4 รวบรวม ประเมนิ นาเสนอขอ้ มลู และสารสนเทศ โดยใชซ้ อฟตแ์ วร์ทีห่ ลากหลาย เพอื่ แกป้ ัญหา
ในชีวิตประจาวนั

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น

- การรวบรวมขอ้ มูล ทาไดโ้ ดยกาหนดหัวขอ้ ท่ี พิจารณาตามหลกั สูตรของสถานศึกษา
ตอ้ งการ เตรียมอปุ กรณใ์ นการจดบนั ทกึ
- การประมวลผลอยา่ งง่าย เชน่ เปรียบเทยี บ
จดั กลุ่ม เรียงลาดบั การหาผลรวม
- วเิ คราะห์ผลและสรา้ งทางเลอื กทีเ่ ป็นไปได้
ประเมินทางเลอื ก (เปรียบเทียบ ตดั สิน)
- การนาเสนอขอ้ มูลทาไดห้ ลายลกั ษณะตามความ
เหมาะสม เช่น การบอกเลา่ เอกสารรายงาน
โปสเตอร์ โปรแกรมนาเสนอ
- ก า ร ใ ช้ ซ อ ฟ ต์ แ ว ร์ เ พื่ อ แ ก้ ปั ญ ห า ใ น
ชีวติ ประจาวนั เช่น การสารวจเมนู อาหาร
กลางวนั โดยใช้ ซอฟต์แวร์สร้างแบบสอบถาม
และเกบ็ ขอ้ มูล
- ใช้ซอฟต์แวร์ตารางทางานเพ่ือประมวลผล
ขอ้ มลู รวบรวมข้อมูลเก่ียวกับคุ ณค่ า ท า ง
โภชนาการและสรา้ งรายการอาหารสาหรบั ๕ วนั
- ใช้ซอฟต์แวร์นาเสนอผลการสารวจรายการ
อ า ห า ร ที่ เ ป็ น ท า ง เ ลื อ ก แ ล ะ ข้อ มู ล ด้ า น
โภชนาการ

5. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด

ขอ้ มลู คอื ขอ้ เทจ็ จริงเกี่ยวกบั บุคคล สิ่งของ หรือสถานการณ์ ซ่ึงมปี ระโยชนใ์ นหลาย ๆ ดา้ น
เช่น ดา้ นการส่ือสาร ดา้ นการหาความรู้ ดา้ นการตดั สินใจ ดา้ นการวางแผนตา่ ง ๆ สาหรบั การนาเสนอขอ้ มูล
สามารถทาไดห้ ลากหลายวธิ ี เช่น การนาเสนอโดยใชโ้ ปรแกรม Microsoft Word การนาเสนอโดยใชโ้ ปรแกรม
Microsoft Excel การนาเสนอขอ้ มูลโดยใชโ้ ปรแกรม Microsoft PowerPoint

6. สมรรถนะสาคญั

1. ความสามารถในการส่ือสาร
- ทกั ษะการส่ือสาร

2. ความสามารถในการคดิ
- ทกั ษะการคดิ วิเคราะห์
- ทกั ษะการคดิ สังเคราะห์

3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา

- ทกั ษะการสงั เกต
4. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต

- ทกั ษะการทางานร่วมกนั
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

- ทกั ษะการสืบคน้ ขอ้ มูล
- ทกั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยี

7. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์

1. มวี ินยั รบั ผิดชอบ
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มุ่งมน่ั ในการทางาน

8. ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)

- ชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) เร่ือง การนาเสนอขอ้ มูลดว้ ยซอฟตแ์ วร์

9. กิจกรรมการเรียนรู้

นกั เรียนทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 เร่ือง การนาเสนอขอ้ มูลดว้ ยซอฟตแ์ วร์

เร่ืองที่ 1 : การรวบรวมและประมวลผลข้อมูล เวลา 3 ชั่วโมง

วิธีการสอนโดยเนน้ กระบวนการกลมุ่ (Group Process–Based Instruction)
วธิ ีการสอนโดยเนน้ การเรียนรู้แบบร่วมมือ (Collaborative learning)
วิธีการสอนโดยใชก้ ารแสดงบทบาทสมมติ (Role Playing)

ข้นั นำ
1. ครูถามคาถามเพ่ือกระตนุ้ ความสนใจของนกั เรียนว่า “นกั เรียนรู้จกั วิธีการนาเสนอข้อมูลแบบใดบ้าง”
2. นกั เรียนทากิจกรรมกระตนุ้ ให้ผูเ้ รียนฝึกทกั ษะการคิดก่อนเขา้ สู่บทเรียน (Let’s do) ในหนงั สือเรียน
จากน้นั ครูสุ่มถามนักเรียน โดยเพื่อนร่วมช้นั เรียนและครูผสู้ อนใหข้ อ้ เสนอแนะตามความเหมาะสม

ขัน้ สอน

1. เปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนร่วมกนั สืบคน้ ขอ้ มลู จากอนิ เทอร์เนต็ เกย่ี วกบั ความหมายของขอ้ มลู และ
ชนิดของขอ้ มูล จากน้นั ให้นกั เรียนจบั คกู่ บั เพือ่ นท่ีนงั่ ขา้ ง ๆ เพ่ือพูดคุยแลกเปลีย่ นองค์ความรู้
2. ให้นกั เรียนแบง่ กล่มุ กลมุ่ ละ 3-6 คน หรือตามความเหมาะสม จากน้นั ให้นกั เรียนศึกษาการนา
ขอ้ มูลแบบประเมนิ มาใชป้ ระโยชน์ในดา้ นต่าง ๆ อภปิ รายร่วมกนั และบนั ทกึ ขอ้ มลู ลงใน
กระดาษขนาดใหญ่
3. นกั เรียนทากิจกรรม Activity 4.1 จากน้นั ครูสุ่มนกั เรียนตอบคาถามจากการทากจิ กรรม Activity 4.1

บริเวณหนา้ ช้นั เรียน
4. นกั เรียนศึกษาเกยี่ วกบั การรวบรวมขอ้ มูลจากหนงั สือเรียน และให้แต่ละกลุ่มวางแผนแสดงบทบาท

สมมติสถานการณเ์ กยี่ วกบั การรวบรวมขอ้ มูลในแต่ละวธิ ี จากน้นั เปิ ดโอกาสให้นกั เรียนแต่ละกลุม่
ออกมาแสดงบทบาทสมมตบิ ริเวณหนา้ ช้นั เรียน โดยครูคอยให้ขอ้ เสนอแนะตามความเหมาะสม
5. นกั เรียนแตล่ ะคนทากจิ กรรม Activity 4.2 และทากิจกรรม Activity 4.3 ในหนงั สือเรียน
6. ครูสุ่มนกั เรียนออกมาตอบคาถามจากการทากิจกรรม Activity 4.2 และกิจกรรม Activity 4.3 บริเวณ
หนา้ ช้นั เรียน
7. ครูถามคาถามสาคญั กบั นกั เรียนวา่ “การรวบรวมข้อมูลด้วยวิธีการต่าง ๆ มีประโยชน์อย่างไร”

ขนั้ สรุป

1. ครูประเมินผลนกั เรียนจากการสงั เกตการตอบคาถาม ความสนใจในการเรียน และการทา
กิจกรรมกระบวนการกลุ่มของนกั เรียน

2. ครูตรวจสอบผลการทากิจกรรม Activity ของนกั เรียน
3. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปขอ้ มลู ในดา้ นต่าง ๆ การรวบรวมขอ้ มูล และประมวลผลขอ้ มูล

เร่ืองที่ 2 : การนาเสนอข้อมลู โดยใช้โปรแกรมประมวลคา เวลา 3 ชั่วโมง
วิธีการสอนโดยเนน้ กระบวนการกลมุ่ (Group Process–Based Instruction)
วิธีการสอนโดยเนน้ การเรียนรูแ้ บบร่วมมือ (Collaborative learning)
วธิ ีการสอนโดยเนน้ ทฤษฎกี ารสรา้ งความรูด้ ว้ ยตนเองโดยการสร้างสรรคช์ ิ้นงาน (Constructionism)

ขัน้ นำ

1. ครูถามคาถามเพ่อื กระตนุ้ ความสนใจของนกั เรียนวา่ “ถ้านักเรียนต้องการจัดทารายงานส่งคณุ ครูโดย
ใช้คอมพิวเตอร์ นกั เรียนรู้หรือไม่ว่ามีโปรแกรมใดบ้างทชี่ ่วยในการทารายงาน”

ขนั้ สอน
1. ให้นกั เรียนแบ่งกลมุ่ กลุ่มละ 3-6 คน หรือตามความเหมาะสม
2. ให้นกั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันพจิ ารณาส่วนประกอบของใบงานที่ 4.2.1 เร่ือง ดอกไมป้ ระจาวนั เกิด
โดยให้นกั เรียนวิเคราะห์วา่ หากตอ้ งการสรา้ งงานให้ไดต้ ามใบงานน้ี นักเรียนจะตอ้ งทาอย่างไรบา้ ง
3. เปิ ดโอกาสให้นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มศึกษาและสงั เกตข้นั ตอนการแทรกอกั ษรศิลป์ การแทรกรูปภาพ
และการแทรกตวั อกั ษรข้นึ ตน้ ขนาดใหญจ่ ากหนงั สือเรียนหรือสืบคน้ จากอินเทอร์เนต็ เพิ่มเติม
4. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ลงมอื ปฏบิ ตั ิตามใบงานที่ 4.2.1 เรื่อง ดอกไมป้ ระจาวนั เกดิ และตรวจสอบ
ความถูกตอ้ งของผลงาน จากน้นั บนั ทึกงานลงในเคร่ืองคอมพิวเตอร์
5. นกั เรียนแต่ละกล่มุ คิดคน้ หัวขอ้ ท่ีตนเองสนใจ โดยแตล่ ะกลมุ่ จะมหี ัวขอ้ ท่ไี ม่เหมอื นกนั
6. จากน้นั ให้นกั เรียนสืบคน้ ขอ้ มูลท่เี กยี่ วขอ้ งกบั เร่ืองท่ตี นเองสนใจ และลงมือจดั ทาเอกสาร
เพ่อื นาเสนอขอ้ มลู โดยใชโ้ ปรแกรมไมโครซอฟตเ์ วริ ์ด (Microsoft Word)
7. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มส่งตวั แทนออกมานาเสนอชิน้ งานบริเวณหนา้ ช้นั เรียน โดยเพอื่ นร่วมช้นั เรียน
และครูคอยติชมและให้ขอ้ เสนอแนะเพม่ิ เติมตามความเหมาะสม
8. นกั เรียนแตล่ ะคนทากจิ กรรม Activity 4.4 ในหนงั สือเรียน จากน้นั ครูสุ่มนกั เรียนร่วมกนั ตอบ
คาถามจากการทากจิ กรรม Activity 4.4
9. ครูถามคาถามสาคญั กบั นกั เรียนว่า “โปรแกรมประมวลคามีประโยชน์ต่อการนาเสนองาน
อย่างไร”

ข้ันสรปุ

1. ครูประเมนิ ผลนกั เรียนจากการสงั เกตการตอบคาถาม ความสนใจในการเรียน และการทา
กจิ กรรมกระบวนการกลมุ่ ของนกั เรียน

2. ครูตรวจสอบความถกู ตอ้ งจากการทาใบงานท่ี 4.2.1 เรื่อง ดอกไมป้ ระจาวนั เกิด
3. ครูตรวจสอบผลการทากจิ กรรม Activity ของนกั เรียน
4. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปถงึ การนาเสนอขอ้ มูลโดยใชโ้ ปรแกรมประมวลคา

เร่ืองที่ 3 : การนาเสนอข้อมูลโดยใช้โปรแกรมตารางทางาน เวลา 3 ช่ัวโมงวิธีการสอน
โดยเนน้ กระบวนการกลมุ่ (Group Process–Based Instruction)
วิธีการสอนโดยเนน้ การเรียนรูแ้ บบร่วมมือ (Collaborative learning)
วธิ ีการสอนโดยเนน้ ทฤษฎีการสรา้ งความรูด้ ว้ ยตนเองโดยการสรา้ งสรรคช์ ิ้นงาน (Constructionism)

ขั้นนำ

1. ครูถามคาถามเพ่ือกระตนุ้ ความสนใจของนกั เรียนวา่ “ถ้านกั เรียนต้องการคานวณค่าใช้จ่าย
ในชีวิตประจาวนั ของนักเรียนโดยใช้คอมพิวเตอร์ นกั เรียนสามารถทาได้โดยใช้โปรแกรมใด”

ขนั้ สอน
1. นกั เรียนแบ่งกล่มุ กลุ่มละ 3-6 คน หรือตามความเหมาะสม
2. ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั พจิ ารณารายละเอียดตา่ ง ๆ ในใบงานท่ี 4.3.1 เรื่อง การคานวณ
คะแนนสอบ และวเิ คราะหว์ ่าในใบงานน้ีมีการคานวณอะไรบา้ ง
3. ให้นกั เรียนแต่ละกลุม่ ลงมือปฏิบตั ติ ามใบงานที่ 4.3.1 เรื่อง การคานวณคะแนนสอบ และเติม
คาตอบลงในใบงานให้ถูกตอ้ ง โดยครูคอยใหค้ าแนะนาเพ่มิ เตมิ ตามความเหมาะสม
4. นกั เรียนตรวจสอบความถกู ตอ้ งของผลงานและบนั ทกึ งานลงในเครื่องคอมพิวเตอร์
5. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ส่งตวั แทนออกมานาเสนอผลงานบริเวณหนา้ ช้นั เรียน
6. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ศึกษาข้นั ตอนการนาเสนอในรูปแบบของกราฟแทง่ จากหนงั สือเรียน
7. จากน้ันให้นักเรียนนาความรู้ เรื่อง การนาเสนอในรูปแบบของกราฟแท่ง มาปรับใช้
8. นกั เรียนตรวจสอบความถูกตอ้ งของผลงานและบนั ทึกงานลงในเครื่องคอมพิวเตอร์
9. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มส่งตวั แทนออกมานาเสนอผลงานบริเวณหนา้ ช้นั เรียน
10. นกั เรียนแตล่ ะคนทากิจกรรม Activity 4.5 ในหนงั สือเรียน จากน้นั ครูสุ่มนกั เรียนร่วมกันตอบ
คาถามจากการทากจิ กรรม Activity 4.5
11. ครูถามคาถามสาคญั กบั นกั เรียนว่า “โปรแกรมตารางการทางานช่วยอานวยความสะดวกใน
ชีวิตประจาวันได้อย่างไร”

ขัน้ สรุป
1. ครูประเมนิ ผลนกั เรียนจากการสงั เกตการตอบคาถาม ความสนใจในการเรียน และการทา
กิจกรรมกระบวนการกลมุ่ ของนกั เรียน
2. ครูตรวจสอบความถูกตอ้ งของการทาใบงานท่ี 4.3.1 เร่ือง การคานวณคะแนนสอบ
3. ครูตรวจสอบผลการทากจิ กรรม Activity ของนกั เรียน
4. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปถึงการนาเสนอขอ้ มูลโดยใชโ้ ปรแกรมตารางทางาน

เรื่องท่ี 4 : การนาเสนอข้อมลู โดยใช้โปรแกรมนาเสนอ เวลา 3 ชั่วโมง
วิธีการสอนโดยเนน้ กระบวนการกลุ่ม (Group Process–Based Instruction)
วธิ ีการสอนโดยเนน้ การเรียนรูแ้ บบร่วมมือ (Collaborative learning)
วธิ ีการสอนโดยเนน้ ทฤษฎีการสร้างความรูด้ ว้ ยตนเองโดยการสรา้ งสรรคช์ ิน้ งาน (Constructionism)

ขน้ั นำ

1. ครูถามคาถามเพอื่ กระตนุ้ ความสนใจของนกั เรียนวา่ “ถ้านักเรียนต้องการนาเสนอรายงานเกีย่ วกบั
สถานทีท่ ีน่ ักเรียนช่ืนชอบหน้าชั้นเรียนโดยใช้คอมพิวเตอร์ นกั เรียนจะนาเสนอด้วยโปรแกรมใด”

ขั้นสอน
1. ให้นกั เรียนแบง่ กลมุ่ กลุม่ ละ 3-6 คน หรือตามความเหมาะสม โดยร่วมกนั พิจารณารายละเอียดต่าง ๆ
ในบตั รภาพ เร่ือง อาหารหลกั 5 หมู่
2. ให้นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ลงมือสร้างงานนาเสนอตามบตั รภาพ เรื่อง อาหารหลกั 5 หมู่
โดยครูคอยใหค้ าแนะนาเพิ่มเตมิ ตามความเหมาะสม
3. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ศึกษาข้นั ตอนต่าง ๆ จากหนงั สือเรียนและนามาปรับใชก้ บั ผลงานตามความ
เหมาะสม และให้นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ส่งตวั แทนออกมานาเสนอผลงานบริเวณหนา้ ช้นั เรียน
4. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มสืบคน้ ขอ้ มูลจากอนิ เทอร์เนต็ ทเี่ กี่ยวขอ้ งกบั เร่ืองทต่ี นเองสนใจ และลงมอื จดั ทา
เอกสารนาเสนอขอ้ มูลโดยใชโ้ ปรแกรมไมโครซอฟตเ์ พาเวอร์พอยต์ (Microsoft PowerPoint)
5. นกั เรียนแต่ละกลุ่มส่งตวั แทนออกมานาเสนอขอ้ มลู บริเวณหนา้ ช้นั เรียน
6. นกั เรียนแต่ละคนทากจิ กรรม Activity 4.6 จากน้นั ครูสุ่มนกั เรียนร่วมกนั ตอบคาถามจากการ
ทากิจกรรม Activity 4.6
7. ครูถามคาถามสาคญั กบั นกั เรียนวา่ “การนาเสนอข้อมูลโดยใช้โปรแกรมนาเสนอจะส่งผล
อย่างไร”

ขนั้ สรปุ
1. ครูประเมินผลนกั เรียนจากการสงั เกตการตอบคาถาม ความสนใจในการเรียน และการทา
กิจกรรมกระบวนการกลุม่ ของนักเรียน
2. ครูตรวจสอบผลการทากิจกรรม Activity ของนกั เรียน
3. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปถึงการนาเสนอขอ้ มูลโดยใชโ้ ปรแกรมนาเสนอ
4. นกั เรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 เรื่อง การนาเสนอขอ้ มูลดว้ ยซอฟตแ์ วร์ หรือทา
แบบทดสอบ (Unit Test) ในหนงั สือเรียนเพ่อื วดั ความรู้ทน่ี กั เรียนไดร้ บั หลงั จากผ่าน
การเรียนรู้
5. นกั เรียนทาชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) เร่ือง การนาเสนอขอ้ มลู ดว้ ยซอฟตแ์ วร์ และนามาส่ง
ในชว่ั โมงถดั ไป

10. การวัดและประเมินผล

รายการวดั วิธีวัด เคร่ืองมือ เกณฑ์การประเมนิ
- แบบทดสอบก่อน ประเมนิ ตามสภาพจริง
10.1 การประเมนิ กอ่ นเรียน เรียน

- แบบทดสอบก่อนเรียน - ตรวจแบบทดสอบ
หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 4 ก่อนเรียน

เรื่อง การนาเสนอขอ้ มลู
ดว้ ยซอฟตแ์ วร์

10.2 การประเมินระหวา่ ง
การจดั กิจกรรม
1) ประโยชน์ของขอ้ มลู - ตรวจ Activity 4.1 - Activity 4.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์

- ตรวจสอบชิ้นงาน - แบบประเมนิ ชิ้นงาน ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
2) การรวบรวมขอ้ มลู - ตรวจ Activity 4.2 - Activity 4.2 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์

- ตรวจ Activity 4.3 - Activity 4.3 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์

3) การใชโ้ ปรแกรม - ตรวจใบงานที่ 4.2.1 - ใบงานที่ 4.2.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์

ประมวลคา - ตรวจ Activity 4.4 - Activity 4.4 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
- ตรวจสอบชิ้นงาน - แบบประเมนิ ชิ้นงาน รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
4) การใชโ้ ปรแกรม - ตรวจใบงานท่ี 4.3.1 - ใบงานท่ี 4.3.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ตารางทางาน - ตรวจ Activity 4.5 - Activity 4.5 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์

- ตรวจสอบชิ้นงาน - แบบประเมินชิน้ งาน รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
5) การใชโ้ ปรแกรม - ตรวจ Activity 4.6 - Activity 4.6 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
นาเสนอ - ตรวจสอบชิน้ งาน - แบบประเมนิ ชิ้นงาน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
6) การนาเสนอผลงาน - ประเมินการนาเสนอ - แบบประเมิน ระดบั คณุ ภาพ 2
ผลงาน การนาเสนอผลงาน ผ่านเกณฑ์
7) พฤติกรรมการ - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ระดบั คุณภาพ 2
ทางาน รายบุคคล การทางานรายบคุ คล การทางานรายบคุ คล ผา่ นเกณฑ์

8) พฤติกรรมการ - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดบั คุณภาพ 2
ทางาน การทางานกลมุ่ การทางานกลุ่ม ผ่านเกณฑ์

กลุ่ม - สังเกตความมวี ินยั - แบบประเมิน ระดบั คุณภาพ 2
9) คณุ ลกั ษณะ ความรบั ผิดชอบ คณุ ลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์
อนั พงึ ประสงค์ ใฝ่เรียนรู้ และมุง่ มน่ั อนั พึงประสงค์
ในการทางาน

รายการวัด วธิ วี ดั เครื่องมือ เกณฑ์การประเมนิ
10.3 การประเมนิ หลงั เรียน
1) แบบทดสอบหลงั เรียน - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบหลงั เรียน รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 4 หลงั เรียน
เรื่อง การนาเสนอ
ขอ้ มลู ดว้ ยซอฟตแ์ วร์
2) การประเมินชิน้ งาน/ - ตรวจชิ้นงาน/ - แบบประเมินชิน้ งาน ระดบั คณุ ภาพ 2
ภาระงาน (รวบยอด) ภาระงาน (รวบยอด) /ภาระงาน (รวบยอด) ผ่านเกณฑ์
เร่ือง การนาเสนอ

ขอ้ มูลดว้ ยซอฟตแ์ วร์

11. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้

11.1 ส่ือการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียนรายวิชาพ้นื ฐาน (ชดุ แมบ่ ทมาตรฐาน) เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ป.4
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เร่ือง การนาเสนอขอ้ มูลดว้ ยซอฟตแ์ วร์

2) ใบงานท่ี 4.2.1 เร่ือง ดอกไมป้ ระจาวนั เกิด
3) ใบงานท่ี 4.3.1 เรื่อง การคานวณคะแนนสอบ

4) บตั รภาพ เร่ือง อาหารหลกั 5 หมู่
5) กระดาษขนาดใหญ่
11.2 แหล่งการเรียนรู้
1) ห้องคอมพิวเตอร์

2) อินเทอร์เน็ต

วิ ท ย า ก า ร คำ น ว ณ

ชั้ น ป ร ะ ถ ม ศึ ก ษ า ปี ที่ 4

Micro Soft Word

การใช้ซอฟต์แวร์ประยุก์ในการแก้ปัญหา

@ครูกัญญ์นิษฐา พูนคุณาศิริ

โปรแกรม Microsoft Word

โปรแกรมไมโครซอฟท์เวิร์ด เป็นโปรแกรมประมวลผลคํา ที่ผลิตโดยบริษัทไมโครซอฟท์ จึง
นิยมเรียกว่าไมโครซอฟท์เวิร์ด ซึ่งปัจจุบันพัฒนามาถึงรุ่นหรือเวอร์ชั่น (Version) 2021 ตามปีค.ศ. เป็น
โปรแกรมที่นิยมใช้สําหรับการพิมพ์งานเอกสารต่างๆ เช่น จดหมาย รายงาน หนังสือ หนังสือราชการ
วิทยานิพนธ์ เป็นต้น และสามารถจัดรูปแบบของเอกสารให้ดู สวยงาม นอกจากนี้ยังสามารถสร้างงานพิมพ์
แบบคอลัมน์ (Column) ได้

ส่วนประกอบของโปรแกรม Microsoft Word

โปรแกรมไมโครซอฟท์เวิร์ด เป็นโปรแกรมประมวลผลคํา ที่ผลิตโดยบริษัทไมโครซอฟท์ จึง
นิยมเรียกว่าไมโครซอฟท์เวิร์ด ซึ่งปัจจุบันพัฒนามาถึงรุ่นหรือเวอร์ชั่น (Version) 2021 ตามปีค.ศ. เป็น
โปรแกรมที่นิยมใช้สําหรับการพิมพ์งานเอกสารต่างๆ เช่น จดหมาย รายงาน หนังสือ หนังสือราชการ
วิทยานิพนธ์ เป็นต้น และสามารถจัดรูปแบบของเอกสารให้ดู สวยงาม นอกจากนี้ยังสามารถสร้างงานพิมพ์
แบบคอลัมน์ (Column) ได้


Click to View FlipBook Version