The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

(ร่าง) แผนแม่บทเฉพาะกิจภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติอันเป็นผลมาจากสถานการณ์โควิด-19 พ.ศ. 2564-2565 (ฉบับสมบูรณ์)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

(ร่าง) แผนแม่บทเฉพาะกิจภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติอันเป็นผลมาจากสถานการณ์โควิด-19 พ.ศ. 2564-2565 (ฉบับสมบูรณ์)

(ร่าง) แผนแม่บทเฉพาะกิจภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติอันเป็นผลมาจากสถานการณ์โควิด-19 พ.ศ. 2564-2565 (ฉบับสมบูรณ์)

Keywords: แผนแม่บทเฉพาะกิจภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติอันเป็นผลมาจากสถานการณ์โควิด-19 พ.ศ. 2564-2565

คานา

แผนแม่บทเฉพาะกิจภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติอันเป็นผลมาจากสถานการณ์
โควิด-19 พ.ศ. 2564 - 2565 ได้จัดทาข้ึนในช่วงเวลาของการพัฒนาประเทศท่ามกลาง
สถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เช้ือไวรสั โคโรนา 2019 (โควดิ -19) ความปกติใหม่
และแนวโน้มการเปลยี่ นแปลงทีส่ าคญั ของโลกอีกนานัปการ โดยในการจัดทาแผนแม่บท
เฉพาะกิจภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติฯ ครั้งนี้ สานักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม
แห่งชาติ (สศช.) ได้นาแนวคิด “ล้มแล้วลุกไว” อันประกอบด้วย การพร้อมรับ (Cope)
การปรับตัว (Adapt) และการเปล่ียนแปลงเพื่อพร้อมเติบโตอย่างยั่งยืน (Transform)
ซึง่ สอดคล้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มาเป็นหลักคิดในการพัฒนา เพื่อให้
ประเทศไทยมีความเข้มแข็ง เท่าทัน มีศักยภาพในการรับและลดความเสี่ยง สามารถ
สร้างสรรค์ผลประโยชน์จากโอกาสท่ีเกิดข้ึนได้อย่างเป็นรูปธรรม ตลอดจนยืนหยัด
และเจรญิ เตบิ โตต่อไปไดท้ ่ามกลางการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ

การขับเคล่ือนการพัฒนาประเทศตามแนวทางของแผนแม่บทเฉพาะกิจภายใต้
ยุทธศาสตร์ชาติฯ จึงเป็นการทบทวนและปรับเปล่ียนแนวทาง/วิธีการ และเคร่ืองมือ
ในการบรรลุเป้าหมายตามกรอบยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 - 2580) โดยการ
กาหนดประเด็นและแนวทางการพัฒนาท่ีต้องให้ความสาคัญเป็นพิเศษในช่วงระยะ 2 ปี
ต่อจากน้ี และดาเนินการคู่ขนานไปกับแผนแม่บททั้ง 23 ประเด็น เพื่อให้สามารถ
เยียวยาช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ ฟ้ืนฟูกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจน
นาเงื่อนไขการเปล่ียนแปลงดังกล่าวมาเป็น “จุดเปล่ียน” ในการขับเคลื่อนประเทศไปสู่
หมุดหมายใหม่ที่ดีกวา่ ในอนาคต

ท้ังน้ี สศช. ได้จัดทาแผนแม่บทเฉพาะกิจภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติฯ ฉบับนี้ขึ้น
โดยคานึงถึงกระบวนการมีส่วนร่วมจากภาคส่วนต่าง ๆ และได้นาความคิดเห็น
และข้อเสนอแนะของภาคีการพัฒนาที่เก่ียวข้อง มาปรับปรุงแก้ไขแผนฯ ให้มี
ความครบถ้วนสมบูรณ์ย่ิงขึ้น อันจะนาไปสู่การพัฒนาประเทศให้มีความมั่นคง มั่งคั่ง
ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
ตามเจตนารมณข์ องยทุ ธศาสตร์ชาติ ต่อไป



บ ท ส รุ ป ผู้ บ ริ ห า ร

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ได้ส่ง
ผลกระทบต่อประเทศไทยอย่างกว้างขวางและรุนแรง แม้ว่าที่ผ่านมาประเทศไทย
จะประสบความสาเรจ็ ในการป้องกันและควบคุมโรค ทว่าการแพรร่ ะบาดอยา่ งรนุ แรงและ
ต่อเน่ืองได้ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคม จนก่อให้เกิดความปกติใหม่
ในขณะเดียวกัน แนวโน้มสาคัญของโลกอีกนานัปการ ท่ามกลางความปั่นป่วนและ
การเปลี่ยนแปลงจะเป็นปัจจัยเร่งสาคัญทาให้ทิศทางการพัฒนาประเทศตามแผนแม่บท
ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติจาเป็นต้องได้รับการพิจารณาทบทวนให้มีความสอดคล้องกับ
สถานการณ์ เง่ือนไข และบริบทการพัฒนาใหม่ของประเทศย่ิงขึ้น โดยยังคง “เป้าหมาย”
ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 - 2580) ไว้เช่นเดิม หากแต่มีการทบทวนและ
ปรบั เปล่ยี น “แนวทาง/วิธีการ” และ “เคร่ืองมือ” ในรูปแบบของ “แผนแม่บทเฉพาะกิจ
ภายใตย้ ุทธศาสตร์ชาตอิ ันเป็นผลมาจากสถานการณ์โควิด-19 พ.ศ. 2564 - 2565” ซึ่งจะ
เป็นการระบุแนวทางการพัฒนาจากแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ที่ต้องมุ่งเน้น
ให้ความสาคัญเป็นพิเศษ และประเด็นการพัฒนาเพ่ิมเติมท่ีจาเป็นต้องเร่งดาเนินการ
เพอื่ ให้สามารถรบั มือและเตรียมความพร้อมในการเยียวยาช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ
ฟื้นฟูกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมให้เข้าสู่ภาวะปกติ รวมทั้งนาเง่ือนไข
การเปล่ียนแปลงมาเป็น “จุดเปลี่ยน” ในการขับเคลื่อนประเทศไปสู่หมุดหมายใหม่
ทดี่ ีกวา่ ในอนาคต

การกาหนดทิศทางการพัฒนาประเทศเพื่อให้มีความเท่าทันต่อการเปล่ียนแปลง
สามารถรับและลดความเสี่ยงขณะเดียวกันยังมีศักยภาพในการสร้างสรรค์ผลประโยชน์
จากโอกาสที่เกิดข้ึนได้อย่างเป็นรูปธรรม จาเป็นต้องให้ความสาคัญกับการพัฒนา
ศักยภาพของประเทศให้สามารถ “ล้มแล้วลุกไว” (Resilience) อันประกอบด้วย
มิติการพัฒนา 3 ประการ ได้แก่ 1) การพร้อมรับ (Cope) หมายถึง ความสามารถ
ในการบรหิ ารจัดการภายใต้สภาวะวิกฤติ ให้สามารถยืนหยัดและต้านทานความยากลาบาก
รวมถึงฟืน้ คืนกลบั สสู่ ภาวะปกตไิ ด้อย่างรวดเร็ว 2) การปรับตัว (Adapt) หมายถงึ การปรับ
ทิศทาง รูปแบบ และแนวทางการพัฒนาให้สอดรับกับความเปล่ียนแปลง พร้อมกระจาย
ความเสี่ยงและปรับตัวอย่างเท่าทันเพื่อแสวงหาประโยชน์จากสิ่งท่ีเกิดข้ึน และ
3) การเปล่ียนแปลงเพื่อพร้อมเติบโตอย่างย่ังยืน (Transform) หมายถึง
การเปล่ียนแปลงเชิงโครงสร้างและปัจจัยพ้ืนฐานให้สอดรับกับความเปลี่ยนแปลง



เพ่ือพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสสาหรับการพัฒนาประเทศต่อไป ท้ังนี้ แนวคิดดังกล่าว
มีความสอดคล้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเป็นหลักการสาคัญ
ในการพฒั นาประเทศตงั้ แต่แผนพัฒนาฯ ฉบบั ท่ี 8 จนถึงปัจจุบนั

แผนแม่บทเฉพาะกิจภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติฯ มีเป้าหมายสาคัญ คือ “คนสามารถ
ยังชีพอยู่ได้ มีงานทา กลุ่มเปราะบางได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง สร้างอาชีพและกระจาย
รายได้สู่ท้องถิ่น เศรษฐกิจประเทศฟ้ืนตัวเข้าสู่ภาวะปกติ และมีการวางรากฐาน
เพ่ือรองรับการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่” โดยได้ระบุประเด็นการพัฒนา 4 ประการ
ทีค่ วรใหค้ วามสาคัญเปน็ พเิ ศษในระยะ 2 ปีข้างหน้า เพือ่ เสริมสร้างศักยภาพในการฟื้นฟู
และขับเคล่ือนประเทศให้สามารถ “ล้มแล้ว ลุกไว หรือ Resilience” โดย 4 ประเด็น
การพฒั นา ประกอบด้วย

- การเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากภายในประเทศ
(Local Economy) เพอื่ ลดความเสย่ี งในการพงึ่ พาต่างประเทศ โดยม่งุ เน้นการกระจาย
ความเจริญและโอกาสทางเศรษฐกิจไปยังระดับท้องถิ่น ผ่านการส่งเสริมการจ้างงาน
โดยเฉพาะในระดับพ้ืนที่และชุมชน ร่วมกับการให้ความช่วยเหลือและพัฒนาศักยภาพ
ของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ให้สามารถปรับตัวสู่ธุรกิจใหม่ท่ี
มีแนวโน้มความต้องการมากขึ้นในอนาคต เพื่อให้เศรษฐกิจฐานรากเป็นกาลังหลัก
ในการขับเคล่อื นเศรษฐกิจของประเทศ

- การยกระดบั ขีดความสามารถของประเทศเพ่อื รองรับการเติบโตอย่างยงั่ ยืน
ในระยะยาว (Future Growth) โดยมุ่งเน้นด้านการเตรียมความพร้อมและส่งเสริม
ความสามารถในการแข่งขันของเคร่ืองยนต์ทางเศรษฐกิจหลัก ที่ประเทศไทยมีโอกาส
และมีศกั ยภาพภายใต้ภูมทิ ศั น์ของเศรษฐกจิ โลกแบบใหม่ ไดแ้ ก่ อุตสาหกรรมและบรกิ าร
ทางการแพทยค์ รบวงจร การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และเน้นคุณภาพ การเกษตรมูลค่าสูง
อตุ สาหกรรมอาหาร และอุตสาหกรรมยานยนตส์ มยั ใหม่

- การพฒั นาศักยภาพและคุณภาพชวี ติ ของคนใหเ้ ป็นกาลังหลักในการขับเคลื่อน
การพัฒนาประเทศ (Human Capital) โดยการยกระดับและปรับทักษะแรงงานให้
สนับสนุนอุตสาหกรรมและบริการเป้าหมายท่ีประเทศไทยมีโอกาสและมีศักยภาพ
ตลอดจนสอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานและโครงสร้างเศรษฐกิจ
ที่ปรับเปลี่ยนไป พร้อมท้ังเยียวยาผู้ท่ีได้รับผลกระทบจากภาวะวิกฤต และจัดสวัสดิการ



ทางสงั คมให้เหมาะสม เพียงพอกบั ความจาเป็นในการดารงชีวิตโดยเฉพาะในด้านรายได้
และสุขภาพ

- การปรับปรุงและพัฒนาปัจจัยพ้ืนฐานเพื่อส่งเสริมการฟ้ืนฟูและพัฒนา
ประเทศ (Enabling Factors) ใหส้ อดรบั กบั กระแสการเปล่ียนแปลงท่ีจะส่งผลกระทบ
ตอ่ ศักยภาพของประเทศ อาทิ การเรง่ รดั พัฒนาและใชป้ ระโยชน์จากโครงสร้างพ้ืนฐานท่ี
สาคัญ การปรับปรุงกฎหมายและการดาเนินงานของภาครัฐให้ทันสมัย การพัฒนาและ
ประยุกต์ใช้องค์ความรู้และนวัตกรรม การเสริมสร้างความมั่นคงและศักยภาพในการ
บริหารจัดการความเสีย่ ง รวมถงึ การส่งเสริมการมีรว่ มจากภาคเี ครือข่ายการพัฒนาต่าง ๆ
เพื่อลดอุปสรรค ข้อจากัด และส่งเสริมการฟ้ืนฟูและพัฒนาประเทศด้วยความร่วมมือ
จากทกุ ภาคส่วน





สารบญั

หนา้

คานา ก
บทสรุปผู้บรหิ าร 1
2
ส่วนที่ 1 สถานการณ์ ความท้าทาย และความจาเป็น 6
- สถานการณ์ผลกระทบของโควิด-19 ต่อเศรษฐกิจและสังคม
- ความท้าทายในการฟ้ืนฟูและพัฒนาประเทศจาก 11
สถานการณโ์ ควดิ -19
- ความจาเป็นในการจดั ทาแผนแม่บทเฉพาะกจิ 12
ภายใต้ยุทธศาสตรช์ าตฯิ
13
ส่วนที่ 2 กรอบแนวคดิ การพัฒนาและสาระสาคญั ของแผนแมบ่ ทเฉพาะกิจ
ภายใตย้ ุทธศาสตร์ชาตฯิ 16
- กรอบแนวคิดการพฒั นาภายใต้แผนแมบ่ ทเฉพาะกิจ 23
ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาตฯิ
- สาระสาคัญของแผนแมบ่ ทเฉพาะกิจภายใตย้ ทุ ธศาสตรช์ าตฯิ

- ตารางแนวทางการพัฒนาในแผนแมบ่ ทเฉพาะกจิ
ภายใตย้ ทุ ธศาสตร์ชาตฯิ เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ
ในระหวา่ ง พ.ศ. 2564 - 2565

1

สว่ นที่ 1

สถานการณ์ ความท้าทาย และความจาเปน็

2

สถานการณ์ผลกระทบของโควิด - 19 ตอ่ ภาวะเศรษฐกิจและสังคม

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด -19)
นับต้ังแต่ชว่ งตน้ ปี 2563 เปน็ ตน้ มา ไดส้ ่งผลกระทบต่อประเทศไทยอย่างกว้างขวางและ
รุนแรงในระดับทไ่ี ม่เคยปรากฏมากอ่ น แม้วา่ ทผ่ี ่านมาประเทศไทยจะประสบความสาเรจ็
ในการป้องกันและควบคุมโรคเม่ือเปรียบเทียบกับหลายประเทศในโลก ทว่าการแพร่
ระบาดของโรคอย่างรุนแรงและต่อเน่ืองได้ส่งผลกระทบไปถึงมิติด้านเศรษฐกิจและ
ด้านอ่ืน ๆ นอกเหนือไปจากวิกฤติการณ์ด้านสาธารณสุข ทั้งการหยุดชะงักของห่วงโซ่
การผลิตและการค้าระหว่างประเทศ การหดตัวของรายได้จากภาคการท่องเท่ียว
เน่ืองจากการจากัดการเดินทาง ความผันผวนรุนแรงในตลาดการเงินโลก และภาวะ
เศรษฐกิจถดถอย

แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2563 คาดว่าจะหดตัวลงรุนแรงท่ีสุดนับตั้งเเต่วิกฤติ
เศรษฐกิจปี 2540 โดยสานักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)
ได้รายงานสถานการณ์เศรษฐกิจไทยในไตรมาสท่ี 2 ปี 2563 ซ่ึงเป็นช่วงท่ีมีการแพร่
ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างรุนแรง และมีมาตรการปิดเมืองอย่างเข้มงวด พบว่า
มีการปรับตัวลดลงร้อยละ 12.2 อันจะส่งผลให้แนวโน้มเศรษฐกิจไทยตลอดท้ังปี 2563
จะปรับตัวลดลงในช่วงร้อยละ (-7.8) - (-7.3) เนื่องจากการปรับตัวลดลงมากของรายได้
จากนกั ทอ่ งเท่ียวต่างชาติ ภาวะเศรษฐกิจและปรมิ าณการคา้ โลก ผลกระทบจากการแพร่
ระบาดของโควิด-19 ในประเทศ และปัญหาภัยแล้ง โดยคาดว่ามูลค่าการส่งออกสินค้า
จะปรับตัวลดลงร้อยละ 10.0 การบริโภคภาคเอกชน และการลงทุนรวมปรับตัวลดลง
ร้อยละ 3.1 และร้อยละ 5.8 ตามลาดับ เมื่อวิเคราะห์ผลกระทบในรายสาขา พบว่า
ภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการหลายสาขาได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการแพร่
ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเฉพาะอย่างย่ิง ภาคบริการสาขาที่พักแรมและบริการ
ด้านอาหารหดตัวถึงร้อยละ 50.2 ขณะท่ีภาคการเกษตรปรับตัวลดลงร้อยละ 3.2
จากปญั หาภยั แลง้

ท่มี า: สศช. %YoY

-60.0 -30.0 GDP -12.2 0.0 10.0 7.4 20.0 ภาวะเศรษฐกิจไทยใ
ภาคการเกษตร -20.0
GDP -3.2 -1.4
เกษตรกรรม ป่าไม้ และประมง -40.0 ภาคอตุ สาหกรรม -10.0
ภาคบรกิ าร
การประปา -13.3 -14.0 -14.4
ไฟฟา้ ก๊าซ ไอน้า และระบบปรบั อากาศ -50.0

เหมอื งแร่และการย่อยหนิ 2.1
การผลิตสนิ คา้ อตุ สาหกรรม

การกอ่ สร้าง
การบริหารราชการ และการป้องกนั ประเทศ

3

ข้อมูลข่าวสาร และการส่อื สาร -6.0 3
กิจกรรมทางการเงิน และการประกันภัย -8.6 -9.8 -11.5
-14.7 ในไตรมาสท่ี 2 ของปี 2563
กิจกรรมเกยี่ วกบั อสงั หารมิ ทรพั ย์ -25.0
การศกึ ษา 1.7 1.7 0.4 0.2

กจิ กรรมด้านสขุ ภาพ และสังคมสงเคราะห์ -38.9 (ขอ้ มูล ณ วนั ท่ี 10 กันยายน 2563)
กิจกรรมวชิ าชพี และกจิ กรรมทางวชิ าการ
การขายส่ง การขายปลกี และการซ่อมยานยนต์ -46.0
-50.2
กิจกรรมการจา้ งงานในครวั เรอื น
กิจกรรมการบริการด้านอน่ื ๆ

กจิ กรรมการบริหาร และการสนบั สนุน
การขนส่ง และสถานทีเ่ กบ็ สินคา้

ศลิ ปะ ความบันเทงิ และนันทนาการ
ทีพ่ กั แรม และบรกิ ารด้านอาหาร

4

การหดตัวลงของเศรษฐกิจดังกล่าว ได้นาไปสู่ปัญหาสภาพคล่องทางธุรกิจ
และความเส่ียงตอ่ การปิดกิจการในภาคบรกิ าร การท่องเที่ยว และกลุ่มวิสาหกิจขนาดกลาง
และขนาดย่อม (SMEs) ที่มีความเปราะบางและมีขีดความสามารถในการรองรับ
ความเส่ียงได้นอ้ ยกวา่ ธุรกิจขนาดใหญ่ ในขณะเดียวกัน ปัญหาการว่างงานและการสูญเสีย
รายได้ ความยากจน และความเหล่ือมล้ากาลังเผชิญความท้าทายมากย่ิงขึ้น รวมถึง
ข้อจากัดของหลักประกันทางสังคม ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค
ซึ่งเป็นประเด็นท่ีส่งผลให้เศรษฐกิจและสังคมของประเทศอยู่ในภาวะกดดันมากย่ิงขึ้น
โดยพบว่าในไตรมาสท่ี 2 ของปี 2563 ผู้ว่างงานมีจานวนเพิ่มขึ้นมากถึง 0.75 ล้านคน
คิดเป็นอัตราการว่างงานร้อยละ 1.95 เพ่ิมขึ้นเป็นเท่าตัวจากอัตราว่างงานในภาวะปกติ
และนับเป็นอัตราการว่างงานสูงสุดตั้งแต่ไตรมาสที่สองของปี 2552 โดยร้อยละ 58.7
ของแรงงานที่ว่างงานดังกล่าว มีสาเหตุมาจากสถานท่ีทางานเลิก/หยุด/ปิดกิจการ หรือ
หมดสัญญาจ้าง และเมื่อพิจารณาผู้ว่างงานที่เคยทางานมาก่อนในช่วง 3 เดือน ซ่ึงเป็น
การว่างงานในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 พบว่า มากกว่าครึ่ง (ร้อยละ 55.4)
เป็นแรงงานท่ีถูกเลิกจ้างมาจากภาคบริการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในสาขาโรงแรมและ
ภัตตาคาร (ร้อยละ 18.3) และสาขาค้าปลีกส่ง (ร้อยละ 14.6) โดยแรงงานส่วนใหญ่
ท่ีได้รับผลกระทบมีอายุมากกว่า 40 ปี และจบการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
และต่ากวา่

5

ภาวะตลาดแรงงา

ท่ีมา: สศช.

5

านไทยปี 2562 - 2563

(ขอ้ มูล ณ วนั ที่ 10 กันยายน 2563)

6

ความท้าทายในการฟื้นฟูและพัฒนาประเทศ
จากสถานการณ์โควิด - 19

แม้ว่าในระยะที่ผ่านมา รัฐบาลจะดาเนินมาตรการเพื่อช่วยเหลือและเยียวยา
ผู้ท่ีได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงมีความท้าทายอีกหลายประการในการแก้ไข
ปัญหาท่เี กดิ ขึน้ ใหม้ ีความเทา่ ทันและเปน็ ไปอย่างมีประสทิ ธภิ าพ ดงั นี้

ความท้าทายประการแรก คือ โครงสร้างทางเศรษฐกิจของไทยที่เน้นพ่ึงพาการค้า
และการลงทนุ จากต่างประเทศในระดบั สงู และรวมศนู ย์ความเจริญอยเู่ ฉพาะในเมืองใหญ่
เพยี งไมก่ เี่ มอื ง โดยมูลค่าการส่งออกของไทยมีสัดส่วนเกินกว่าครึ่งของผลิตภัณฑ์มวลรวม
ในประเทศมาเป็นระยะเวลานาน ส่งผลให้สถานการณ์เศรษฐกิ จของประเทศมี
ความอ่อนไหวต่อการเปล่ียนแปลงจากภายนอก ในขณะเดียวกัน ความเหลื่อมล้า
ด้านรายไดแ้ ละโอกาสในการสรา้ งรายได้ระหว่างพื้นท่ียังอยใู่ นระดบั สูง โดยในปี 2561 พบวา่
จังหวัดระยองซ่ึงเป็นจังหวัดท่ีมีผลิตภัณฑ์จังหวัดต่อหัวสูงที่สุด มีผลิตภัณฑ์จังหวัดต่อหัว
สงู กว่าจงั หวดั แมฮ่ ่องสอน (ตา่ ทส่ี ุด) ถงึ 18.3 เท่า ในขณะท่ีค่าสัมประสิทธิ์ความแปรปรวน
(Covariance of Variation: CV) ของผลิตภัณฑ์จังหวัดเปรียบเทียบในภาค ซ่ึงสะท้อน
ความเหลื่อมล้าระหว่างจังหวัดภายในภูมิภาคเดียวกัน ลดลงน้อยกว่าร้อยละ 1.0 ในช่วง
ระยะเวลาเกือบสิบปีที่ผ่านมา การพ่ึงพาต่างประเทศและการกระจุกตัวของโอกาส
ทางเศรษฐกิจในบางพ้ืนที่ ส่งผลให้ประเทศไทยขาดแรงขับเคลื่อนจากภายในท่ีเข้มแข็ง
ทั้งในด้านอุปสงค์และอุปทาน เม่ือพิจารณาผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ท่ีทาให้
เกิดภาวะชะงักงันทางเศรษฐกิจ การชะลอตัวของการค้า การลงทุน และการส่งออก
ส่งผลให้ประเทศไทยไม่สามารถพ่ึงพาเศรษฐกิจภายนอกในระดับเดิมได้ รวมถึง
ผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงในเมืองใหญ่ท่ีส่งผลให้แรงงานในเขตเมือง
จานวนมากอพยพกลับถิ่นฐานเพื่อกลับไปหางานทาในบ้านเกิด ดังน้ัน การพัฒนา
ในระยะต่อจากน้ีจึงมีความจาเป็นท่ีจะต้องเพ่ิมความเข้มแข็งของเศรษฐกิจภายในประเทศ
ต้ังแต่ระดับท้องถิ่นฐานรากด้วยการกระจายโอกาสทางเศรษฐกิจไปยังระดับพื้นที่ และ
ยกระดับศักยภาพของธุรกิจภายในประเทศโดยเฉพาะ SMEs ซึ่งเป็นแหล่งจ้างงานท่ี
สาคญั เพือ่ รบั มอื กบั การเปลยี่ นแปลงในอนาคต

ความท้าทายประการที่สอง คือ การสร้างศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ท่ามกลางภาวะวิกฤตและการเปลี่ยนแปลงท่ีเกิดขึ้น ทั้งนี้ เน่ืองจากผลกระทบ
ด้านเศรษฐกิจท่ีรุนแรงอันเน่ืองมาจากการแพร่ระบาดของเช้ือโควิด-19 ประกอบกับ

7

สภาพพื้นฐานทางเศรษฐกิจของไทยท่ีขยายตัวต่ามาเป็นเวลานาน อาจทาให้การฟ้ืนตัว
เป็นไปอย่างล่าช้าและส่งผลต่อความสามารถในการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาว
โดยในช่วงหลายปีท่ีผ่านมาศักยภาพในการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยอยู่ในระดับ
คอ่ นข้างตา่ อตั ราการเติบโตทางเศรษฐกจิ เฉลีย่ ในช่วงปี 2556 - 2562 อยทู่ ่ีเพยี งร้อยละ 3.0
ซึ่งต่าที่สุดในภูมิภาค โดยมีปัจจัยหลักมาจากการที่โครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศยัง
พง่ึ พาการผลติ และบริการแบบดง้ั เดมิ อย่มู าก ภาคอตุ สาหกรรมขาดการพัฒนาเทคโนโลยี
และนวตั กรรมใหม่ ๆ ในขณะท่ีผลิตภาพและมูลค่าเพ่ิมของภาคการเกษตรและภาคบริการ
ยงั อย่ใู นระดับต่า ดังนัน้ นอกเหนอื จากมาตรการฟ้นื ฟูเศรษฐกิจที่ต้องเร่งดาเนินการแล้ว
การขบั เคล่ือนเศรษฐกจิ ของประเทศในอนาคตจาเป็นตอ้ งให้ความสาคัญกับการปรับปรุง
ภาคการผลติ เพอ่ื ยกระดับศักยภาพในการเจริญเติบโตในระยะยาว ด้วยการสร้างจุดแข็ง
และเคร่ืองยนต์ทางเศรษฐกิจที่หลากหลาย โดยเริ่มจากการส่งเสริมภาคการผลิตต่าง ๆ
ท่ีประเทศไทยมีความเข้มแข็งอยู่แล้ว ได้แก่ บริการทางการแพทย์และสุขภาพ
การท่องเท่ียว การเกษตร อุตสาหกรรมอาหาร และยานยนต์ ให้ผู้ผลิตมีความสามารถ
สูงข้ึนในการสร้างมูลค่าเพิ่ม และสามารถปรับตัวไปในทิศทางที่เหมาะสมกับกระแส
การเปลี่ยนแปลงของโลก

ความท้าทายประการทสี่ าม คือ การพฒั นาศักยภาพของคน เพื่อให้เป็นกาลังสาคัญ
ในการเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจภายในประเทศ และยกระดับการเจริญเติบโต
ทางเศรษฐกิจในระยะยาว โดยแม้ว่าทรัพยากรมนุษย์ของไทยในภาพรวมจะมีแนวโน้ม
ที่ดีข้ึน เมื่อพิจารณาจากดัชนีการพัฒนามนุษย์ (Human Development Index: HDI)
ของโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ซึ่งเพ่ิมข้ึนจาก 0.73 ในปี 2556 เป็น 0.77
ในปี 2561 อย่างไรก็ตาม ยังมีช่องว่างการพัฒนาเชิงคุณภาพท่ีสาคัญ โดยเฉพาะปัญหา
การขาดแคลนทักษะแรงงานท่ีสอดคล้องกับความต้องการและบริบทการเปล่ียนแปลง
ที่เกิดข้ึน โดยเม่ือพิจารณาจากดัชนีความสามารถในการแข่งขันระดับโลก (Global
Competitiveness Index: GCI) ของ World Economic Forum ในส่วนของตัวชี้วัด
ด้านทักษะ พบว่า อันดับความสามารถปรับตัวลดลงจากอันดับท่ี 66 ในปี 2561-2562
เป็นอันดับที่ 73 จาก 141 ประเทศทั่วโลก หรืออันดับท่ี 6 ของภูมิภาคอาเซียนในปี 2562-
2563 โดยมีอันดับลดลง ทั้งตัวช้ีวัดด้านชุดทักษะของผู้สาเร็จการศึกษา จากอันดับท่ี 61
ในปี 2561-2562 เป็นอันดับท่ี 79 ในปี 2562-2563 และด้านทักษะดิจิทัลในกลุ่มประชากร
จากอันดับท่ี 61 เป็น 66 ในช่วงระยะเวลาเดียวกัน ทั้งน้ี ส่วนหนึ่งของปัญหาดังกล่าวเป็น
ผลมาจากปัญหาคุณภาพการศึกษาที่ไม่สามารถผลิตกาลังคนให้สอดคล้องกับเทคโนโลยี

8

สมัยใหม่และความต้องการของตลาดแรงงานที่เปลี่ยนไป ดังจะเห็นได้จากผลคะแนนสอบ
PISA ของเด็กไทย ซึ่งอยู่ในระดับต่ากว่าหลายประเทศและผลคะแนนมีแนวโน้มลดลง
อย่างต่อเน่ือง จากอันดับที่ 50 ในปี 2555 เป็นอันดับท่ี 66 ในปี 2561 จาก 79 ประเทศ/
เขตเศรษฐกิจ ขณะเดียวกัน แรงงานไทยยังมีผลิตภาพแรงงานต่า โดยในช่วงปี 2556-2562
ผลิตภาพแรงงานเฉล่ียเพิ่มข้ึนเพียงร้อยละ 3.0 ต่อปี ในขณะท่ีข้อมูลจาก Asian
Productivity Organization (APO) ในปี 2562 ระบุว่า ผลิตภาพแรงงานไทยมีอัตรา
การเติบโตค่อนข้างต่ามาตลอดช่วงสองทศวรรษ โดยปัจจุบันอยู่ในระดับใกล้เคียงกับ
ประเทศจีนและอินโดนีเซีย แต่ยังคงต่ากว่ามาเลเซีย (2 เท่า) เกาหลีใต้ (2.5 เท่า) และ
สิงคโปร์ (4.5 เท่า) นอกจากน้ี แรงงานไทยจานวนมากยังอยู่นอกระบบท่ีกลไกของภาครัฐ
จะสามารถดูแลได้อย่างท่ัวถึง โดยสัดส่วนของแรงงานท่ีอยู่ในระบบประกันสังคม
(รวมมาตรา 33, 39 และ 40) ในปี 2563 อยู่ทเ่ี พยี งรอ้ ยละ 43.0 ของกาลังแรงงานรวม
ในขณะเดียวกัน ระบบความคุ้มครองทางสังคมยังมีแนวโน้มจะประสบกับข้อจากัด
ท้ังในด้านงบประมาณ ความเพียงพอ และความครอบคลุม เน่ืองจากสัดส่วนของประชากร
วัยพ่ึงพิงที่เพ่ิมสูงข้ึน ฐานการจัดเก็บภาษีท่ีมีอยู่อย่างจากัด ขณะท่ีมีแนวโน้มวิกฤติและ
ภัยพิบัติเกิดขึ้นบ่อยครั้งและรุนแรงมากข้ึน ซ่ึงจะนาไปสู่ปัญหาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่
และระดับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่ลดลง ดังน้ัน ภาครัฐจึงจาเป็นท่ีจะต้องพัฒนา
คณุ ภาพทนุ มนุษย์ เพอ่ื ให้เปน็ ปจั จัยหลกั ในการขับเคล่อื นการพัฒนาตอ่ ไป

9

สถานการณท์ นุ ม

ทีม่ า: รวบรวมโดย สศช.

9

มนุษยข์ องประเทศไทย

10

ความท้าทายประการสุดท้าย คือ การพัฒนาและปรับปรุงปัจจัยพ้ืนฐานให้พร้อม
ต่อการฟื้นฟูและพัฒนาประเทศในอนาคต การแพร่ระบาดของเช้ือโควิด-19 ได้เร่งให้
ประเทศเกิดการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคดิจิทัลในอัตราท่ีรวดเร็วข้ึน พร้อมกับตอกย้าให้เห็นถึง
สถานการณ์การเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ท่ีมีความผันผวน ไม่แน่นอน ซับซ้อน และ
คลุมเครอื จากแนวโน้มการเปล่ียนแปลงที่สาคัญอ่นื ๆ นอกเหนือจากโควิด-19 ที่ประเทศไทย
กาลังเผชิญ อาทิ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีแนวโน้มทาให้ความเสี่ยงจาก
ภัยพิบัติเพิ่มสูงข้ึน ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีอย่างพลิกผันที่ส่งผลให้การมุ่งพัฒนา
องค์ความรู้และนวัตกรรมมีความจาเป็นมากยิ่งขึ้น รวมถึงสงครามการค้า กระแส
ชาตินิยม การทวนกระแสโลกาภิวัฒน์ และความขัดแย้งระหว่างขั้วอานาจของโลก
ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศในอนาคต ดังน้ัน การพัฒนาประเทศ
ในระยะต่อไป จึงจาเป็นต้องมีการพัฒนาเสริมสร้างปัจจัยพื้นฐานด้านต่าง ๆ ได้แก่
โครงสร้างพ้ืนฐาน กฎหมายกฎระเบียบ บทบาทและแนวทางการให้บริการของภาครัฐ
องค์ความรู้และนวัตกรรม การเสริมสร้างความม่ันคง การบริหารจัดการความเส่ียง
ตลอดจนกลไกการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายต่าง ๆ ให้พร้อมรองรับความแพร่หลาย
ของการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ส่งเสริมการปรับตัวของภาคส่วนต่าง ๆ ได้อย่างเท่าทัน
ตอ่ การเปลย่ี นแปลง รวมถงึ สนบั สนุนการพฒั นาประเทศได้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ

ความท้าทายต่าง ๆ ในการฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น กอปรกับกระแสการพัฒนาของโลกท่ามกลางความปั่นป่วนและ
การเปล่ียนแปลงล้วนเป็นปัจจัยเร่งท่ีส่งผลให้ประเทศไทย จาเป็นต้องปรับเปล่ียน
แนวทางการขับเคล่ือนการพัฒนาประเทศให้สามารถพร้อมรับและปรับตัวเข้ากับ
แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงทสี่ าคัญของโลกในระยะตอ่ ไปได้อย่างเทา่ ทัน

11

ความจาเป็นในการจัดทาแผนแม่บทเฉพาะกจิ ภายใตย้ ุทธศาสตรช์ าตฯิ

ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 - 2580) มีเป้าหมายการพัฒนาประเทศ คือ
“ประเทศชาติมนั่ คง ประชาชนมคี วามสุข เศรษฐกิจพัฒนาอย่างตอ่ เนอื่ ง สงั คมเปน็ ธรรม
ฐานทรัพยากรธรรมชาติยั่งยืน” โดยยกระดับศักยภาพของประเทศในหลากหลายมิติ
พัฒนาคนในทุกมิติและในทุกช่วงวัยให้เป็นคนดี เก่ง และมีคุณภาพ สร้างโอกาสและ
ความเสมอภาคทางสงั คม สร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวติ ทีเ่ ปน็ มิตรกบั สิ่งแวดล้อม และ
มีภาครัฐของประชาชนเพ่ือประชาชนและประโยชน์ส่วนรวม ประกอบกับ มาตรา 10
และ 11 แห่งพระราชบัญญัติการจัดทายุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2560 ได้กาหนดให้มี
การทบทวนยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ฯ ในกรณีท่ี
สถานการณ์ของโลกหรือสถานการณ์ของประเทศเปล่ียนแปลงไปจนไม่สามารถหรือไม่
เหมาะสมที่จะดาเนินการตามเป้าหมายหรือยุทธศาสตร์ด้านใดได้ และเม่ือพิจารณา
ถึงความเปลย่ี นแปลงทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศในทุกระดับอันเน่ืองมาจาก
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และกระแสการเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ จึงมี
ความจาเป็นที่แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติฯ ต้องได้รับการพิจารณาทบทวนให้มี
ความสอดคล้องกับสถานการณ์ เง่ือนไข และบริบทการพัฒนาใหม่ของประเทศยิ่งขึ้น
โดยยังคง “เป้าหมาย” การพัฒนาประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติฯ ไว้เช่นเดิม หากแต่มี
การทบทวนและปรับเปล่ียน “แนวทาง/วิธีการ” ใหม่ในรูปแบบของ “แผนแม่บทเฉพาะกิจ”
รวมถึงปรับเปล่ียน “เครื่องมือ” ใหม่ ในรูปแบบของ “แผนปฏิบัติการตามแผนแม่บทเฉพาะกิจ”
ซ่งึ ประกอบด้วย แผนงาน/โครงการต่าง ๆ ภายใต้กรอบนโยบายการฟ้ืนฟูเศรษฐกิจและ
สังคมของประเทศ และโครงการสาคญั ประจาปีงบประมาณ 2564 และ 2565

ท้ังน้ี แผนแม่บทเฉพาะกิจภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติฯ จะดาเนินการคู่ขนานไปกับ
แผนแมบ่ ทฯ ทง้ั 23 ประเด็น แตไ่ ดร้ ะบุแนวทางการพฒั นาจากแผนแม่บทฯ ท้ัง 23 ประเด็น
ที่ต้องมุ่งเน้นให้ความสาคัญเป็นพิเศษ รวมถึงกาหนดประเด็นการพัฒนาเพ่ิมเติม
ที่จาเป็นต้องเร่งดาเนินการ เพ่ือให้สามารถรับมือและเตรียมความพร้อมในการเยียวยา
ช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ ตลอดจนการฟื้นฟูกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมให้
เข้าสู่ภาวะปกติ รวมทั้งนาเงื่อนไขการเปลี่ยนแปลงมาเป็น “จุดเปลี่ยน” เพ่ือทบทวน
และปรับปรุง แนวทางการพัฒนา เพื่อสร้างโอกาสในการขับเคล่ือนประเทศไทยไปสู่
หมุดหมายใหม่ท่ีดกี ว่าในอนาคต

12

สว่ นท่ี 2

กรอบแนวคิดและสาระสาคัญ
ของแผนแมบ่ ทเฉพาะกิจภายใต้ยุทธศาสตร์ชาตฯิ

13

กรอบแนวคดิ การพฒั นาของแผนแมบ่ ทเฉพาะกิจ
ภายใตย้ ุทธศาสตรช์ าติฯ

แนวโนม้ การเปลีย่ นแปลงทเ่ี กดิ ข้ึนอย่างพลิกผันและรวดเร็วจากภายนอกประเทศ
ล้วนส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ภายในประเทศทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และ
สิ่งแวดล้อม ซ่ึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวอาจก่อให้เกิดเป็นความเส่ียงหรือโอกาสใน
การพฒั นาประเทศ ข้นึ อยู่กบั ศักยภาพและความพร้อมในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลง
ดังน้ัน การกาหนดทิศทางการพัฒนาท่ามกลางภาวะวิกฤตและความไม่แน่นอน เพื่อให้
ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย มี ค ว า ม ส า ม า ร ถ ใ น ก า ร บ ริ ห า ร จั ด ก า ร แ ล ะ ล ด ค ว า ม เ สี่ ย ง ท่ี จ ะ เ กิ ด ข้ึ น
ภาคส่วนต่าง ๆ สามารถปรับตัวให้อยู่รอดได้ ขณะเดียวกันยังมีศักยภาพในการสร้างสรรค์
ผลประโยชน์จากโอกาสท่ีเกิดขึ้นภายใต้กระแสการเปลี่ยนแปลงทั้งจากภายนอก
และภายในประเทศท่ีส่งผลกระทบเช่ือมโยงถึงกันให้ได้มากท่ีสุด จึงควรให้ความสาคัญ
กับการพัฒนาศักยภาพของประเทศให้สามารถ “ล้มแล้วลุกไว” (Resilience) โดยการ
พัฒนาประเทศภายใตแ้ นวคิด Resilience มมี ิติทีต่ ้องใหค้ วามสาคญั 3 ประการ ไดแ้ ก่

การพร้อมรับ (Cope) หมายถึง ความสามารถในการบริหารจัดการภายใต้
สภาวะวิกฤต ให้ประเทศยังคงยืนหยัดและต้านทานความยากลาบาก รวมถึงสามารถ
ฟื้นคืนกลับสู่สภาวะปกติได้อย่างรวดเร็วเมื่อภาวะวิกฤตผ่านพ้นไป ซ่ึงการสร้าง
ความสามารถของประเทศในการพร้อมรับน้ัน ต้องพิจารณาให้ความสาคัญกับ
การลดความเปราะบาง ผ่านการลดจุดอ่อนและขจัดข้อจากัดเดิมท่ีประเทศเผชิญ พร้อมกับ
การเยียวยาช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างอย่างเต็มศักยภาพภายใต้ทรัพยากรที่
มีอยู่อย่างจากดั

การปรับตัว (Adapt) หมายถึง การปรับทิศทางการพัฒนา รูปแบบ และแนวทาง
ท่ีดาเนินการอยู่ ให้สอดรับกับกระแสการเปล่ียนแปลง ความไม่แน่นอน และบริบท
การพัฒนาประเทศที่เปล่ียนแปลงไป รวมถึงต้องให้ความสาคัญกับการกระจายความเสี่ยง
เพือ่ ลดผลกระทบจากปัจจยั ภายนอกทีค่ วบคุมไม่ได้ และพร้อมท่ีจะปรับตัวอย่างรวดเร็ว
เพื่อแสวงหาแนวทางในการสรา้ งสรรค์ประโยชน์จากการเปลยี่ นแปลงท่เี กดิ ขึน้

การเปลี่ยนแปลงเพื่อพร้อมเติบโตอย่างย่ังยืน (Transform) หมายถึง การ
เปล่ียนแปลงเชิงโครงสร้างและปัจจัยพ้ืนฐาน เช่น กฎหมาย ระเบียบ นโยบาย และ
สถาบัน ท้ังทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองการปกครอง ให้สอดรับกับกระแส

14

การเปลี่ยนแปลงที่จะส่งผลกระทบต่อศักยภาพโดยรวมของประเทศ เพ่ือพลิกวิกฤต
จ า ก แ ร ง ก ด ดั น ทั้ ง ภ า ย น อ ก แ ล ะ ภ า ย ใ น ใ ห้ เ ป็ น โ อ ก า ส ส า ห รั บ ก า ร พั ฒ น า ป ร ะ เ ท ศ สู่
การเตบิ โตอยา่ งมีคุณภาพ ท่ัวถงึ เป็นธรรม และยงั่ ยนื ตอ่ ไป

แนวคิดการพัฒนาประเทศในการพร้อมรับ ปรับตัว และเปล่ียนแปลงเพื่อพร้อม
เติบโตอย่างยั่งยืน (Cope, Adapt, Transform: CAT) ดังกล่าว เป็นการเสริมสร้างศักยภาพ
ของประเทศให้สามารถลุกได้อย่างรวดเร็วเม่ือล้ม ซึ่งมีความสอดคล้องกับหลักปรัชญา
ของเศรษฐกจิ พอเพียง ที่ประกอบด้วยความพอประมาณ ความมีเหตุผล ภูมิคุ้มกัน ความรู้
และคุณธรรม ซึ่งเป็นหลักการสาคัญในการพัฒนาประเทศมาต้ังแต่แผนพัฒนาเศรษฐกิจ
และสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 8 จนถึงปัจจุบัน ท้ังน้ี การพัฒนาประเทศบนหลักปรัชญา
ของเศรษฐกิจพอเพียง นั้น จะทาให้ประเทศมีการพัฒนาท่ีสมดุลและยั่งยืนภายใต้หลัก
3 ขั้นการพัฒนา ประกอบด้วย (1) ประเทศสามารถอยู่รอดได้ท่ามกลางภาวะวิกฤต
(Survive) ซึ่งการท่ีประเทศจะสามารถอยู่รอดได้นั้น ทุกองคาพยพท่ีเป็นภาคส่วนสาคัญ
ต้องมีความเข้มแข็ง ซ่ึงเป็นภูมิคุ้มกันจากภายใน มีการเตรียมพร้อมรองรับผลกระทบ
และการเปลี่ยนแปลงด้านต่าง ๆ ท่ีจะเกิดขึ้นจากทั้งภายในและภายนอก (2) เศรษฐกิจ
ในประเทศต้องมีความเข้มแข็งและมีการพ่ึงพาภายนอกในระดับที่เหมาะสม (Sufficient)
ซึง่ การตัดสนิ ใจเก่ียวกับระดับของความเหมาะสมที่พอดี น้ัน จะต้องเป็นไปอย่างมีเหตุผล
บนพ้ืนฐานของความรู้ โดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เก่ียวข้อง ตลอดจนคานึงถึงผลที่
คาดว่าจะเกิดข้ึนจากการกระทาน้ัน ๆ อย่างรอบคอบ และ (3) ประเทศมีการพัฒนา
ท่ีสมดุล และยั่งยืน (Sustain) มีความพอดีในทุกมิติการพัฒนาอย่างเก้ือกูล สนับสนุน
ซ่งึ กนั และกนั และมีศกั ยภาพพรอ้ มรบั กับการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบันและอนาคตทุกดา้ น

ท้ังน้ี ประเด็นการพัฒนาประเทศท่ีควรให้ความสาคัญเป็นพิเศษในระยะเวลา 2 ปี
ข้างหน้า (พ.ศ. 2564 - 2565) เพ่ือเสริมสร้างศักยภาพในการฟ้ืนฟูและขับเคล่ือนประเทศ
ให้สามารถ “ลม้ แล้วลุกไว” (Resilience) นั้น ประกอบด้วย 4 ประเด็นการพฒั นา ได้แก่

1) การเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากภายในประเทศ
(Local Economy) เพื่อลดความเสี่ยงในการพ่ึงพาต่างประเทศ โดยกระจายความเจริญ
และโอกาสทางเศรษฐกิจไปยังระดับพ้ืนที่ ส่งเสริมการลงทุน สร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่
ชุมชน ท้องถ่ิน และผู้ประกอบการโดยเฉพาะวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)
รวมถึงเสริมสร้างศักยภาพของท้องถิ่นให้พร้อมรับการกระจายตัวของการพัฒนา
และการเคลื่อนย้ายกาลังแรงงานกลับคืนถิ่น เพ่ือให้เศรษฐกิจฐานรากเป็นกาลังหลัก
ในการขบั เคล่ือนเศรษฐกจิ ของประเทศ ท้งั ด้านการผลติ และการบรโิ ภค

15

2) การยกระดับขีดความสามารถของประเทศเพ่ือรองรบั การเติบโตอย่างยั่งยืน
ในระยะยาว (Future Growth) โดยการส่งเสริมอุตสาหกรรมและบริการที่ประเทศไทย
มีโอกาสและมีศักยภาพภายใต้กระแสการเปล่ียนแปลงและบริบทโลกใหม่หลังเกิด
การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อาทิ อุปสงค์ต่อสินค้าและบริการเพ่ือสุขภาพ
ที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงข้ึน กระแสการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ
การเปลี่ยนแปลงของห่วงโซ่อุปทานโลก โดยมุ่งเน้นท่ีการคิดค้นและประยุกต์ใช้
เทคโนโลยแี ละนวัตกรรมในการสร้างมูลค่าเพ่ิมให้แก่สินค้าและบริการ พร้อมทั้งส่งเสริม
การมสี ว่ นรว่ มในห่วงโซม่ ลู ค่าของท้องถนิ่ และ SMEs

3) การพัฒนาศักยภาพและคุณภาพชีวิตของคนให้เป็นกาลังหลัก
ในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ (Human Capital) โดยการยกระดับและปรับ
ทักษะแรงงานให้ตรงกับความต้องการของนายจ้าง ร่วมกับการเสริมสร้างความเข้มแข็ง
ของเศรษฐกิจฐานรากให้สอดคล้องกับอุตสาหกรรมและบริการเป้าหมายที่ประเทศไทย
มีโอกาสและมีศักยภาพตามที่ได้ระบุไว้ในประเด็นการพัฒนาข้อ 2) Future Growth
ตลอดจนให้มีความสอดรับกับความต้องการของตลาดแรงงานและโครงสร้างเศรษฐกิจ
ท่ีปรับเปล่ียนไป พร้อมทั้งเยียวยาผู้ท่ีได้รับผลกระทบจากภาวะวิกฤต และจัดสวัสดิการ
ทางสงั คมให้เหมาะสม เพยี งพอกบั ความจาเป็นในการดารงชีวิต ทั้งความมั่นคงทางรายได้
และสุขภาพ

4) การปรับปรุงและพัฒนาปัจจัยพื้นฐานเพื่อส่งเสริมการฟื้นฟูและพัฒนา
ประเทศ (Enabling Factors) โดยการเร่งรัด พัฒนาและปรับปรุงโครงสร้างพ้ืนฐาน
ท่ีสาคัญ แก้ไขปรับปรุงกฎหมายและการดาเนินงานของภาครัฐให้ทันสมัย พัฒนาและ
ประยุกต์ใช้องคค์ วามรู้และนวัตกรรม เสริมสรา้ งความม่ันคงและพฒั นาระบบการบริหาร
จัดการความเส่ียง รวมถึงส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมจากภาคีเครือข่าย
ภาคประชาชน ภาคเอกชน ทอ้ งถน่ิ สถาบนั และองค์กรตา่ ง ๆ เพ่อื ลดอุปสรรค ขอ้ จากัด
และสง่ เสรมิ การฟื้นฟูและพฒั นาประเทศตามประเดน็ การพัฒนาทงั้ 3 ข้อข้างตน้

16

สาระสาคัญของแผนแม่บทเฉพาะกิจภายใต้ยทุ ธศาสตร์ชาติฯ

แผนแม่บทเฉพาะกิจภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติฯ มีเป้าหมาย ตัวชี้วัด และแนวทาง
การพัฒนา เพ่อื ขับเคลอ่ื นการพฒั นาประเทศในระหว่าง พ.ศ. 2564 - 2565 ดังน้ี

เป้าหมาย และตัวช้ีวัด แผนแม่บทเฉพาะกิจภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติฯ กาหนด
เป้าหมายการดาเนินงานในระยะเวลา 2 ปี โดยพิจารณาจากสถานการณ์ปัจจุบัน
ท่ีประเทศกาลังเผชิญอยู่ ร่วมกับเง่ือนไข ความจาเป็นด้านกรอบวงเงินงบประมาณ
ภาครัฐทีส่ ามารถบรหิ ารจดั การและจัดสรรได้ รวมถงึ การคาดการณ์ถึงโอกาสทพี่ ึงเกิดขน้ึ
จากแนวโน้มการเปล่ียนแปลงในอนาคต ซึ่งประเทศไทยมีศักยภาพในการท่ีจะสร้างสรรค์
และต่อยอดไปสู่การพฒั นาในระยะต่อไป ท้ังนี้ เพื่อให้เป้าหมายของยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
เกิดผลสัมฤทธิ์ตามท่ีกาหนดไว้ โดยแผนแม่บทเฉพาะกิจภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติฯ
มีเป้าหมายท่ีสาคัญ คือ

“คนสามารถยังชีพอยู่ได้ มีงานทา กลุ่มเปราะบางได้รับการดูแลอย่างท่ัวถึง
สร้างอาชีพและกระจายรายได้สูท่ อ้ งถน่ิ เศรษฐกจิ ประเทศฟนื้ ตวั เข้าสูภ่ าวะปกติ และ
มีการวางรากฐานเพ่ือรองรับการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่” และมีตัวช้ีวัด
ตลอดจนค่าเปา้ หมายการดาเนนิ งาน ในปี 2564 และ 2565 ดังนี้

เป้าหมาย ตวั ช้ีวัด คา่ เปา้ หมาย

1) คนสามารถยงั ชีพอยู่ได้ อตั ราการว่างงาน 2564 2565
มีงานทา กลุม่ เปราะบาง
ได้รบั การดูแลอยา่ งทั่วถึง ดชั นีความยากจนแบบหลากหลายมติ ิ ไม่เกนิ กวา่ ไมเ่ กนิ กว่า
ของกลมุ่ เปา้ หมายทตี่ ้องการความชว่ ยเหลือ รอ้ ยละ 1.5 ร้อยละ 1
สดั สว่ นผู้เข้าระบบประกนั สงั คม ลดลงไมน่ อ้ ยกวา่ ลดลงไม่นอ้ ยกวา่
(มาตรา 33 39 และ 40) ต่อกาลังแรงงานรวม รอ้ ยละ 10 เทียบ ร้อยละ 10 เทียบ
ความแตกตา่ งของทรัพยากรสาธารณสขุ กบั ปกี อ่ นหนา้ กับปกี อ่ นหน้า
เปรียบเทยี บระหว่างจังหวดั
ไมน่ อ้ ยกว่า ไมน่ อ้ ยกว่า
อัตราความรอบรู้ดา้ นสขุ ภาวะของประชากร ร้อยละ 45 รอ้ ยละ 48

ลดลงไมน่ อ้ ยกว่า ลดลงไมน่ ้อยกว่า
ร้อยละ 2.5 เทยี บ รอ้ ยละ 2.5 เทยี บ
กับปีกอ่ นหน้า กบั ปกี อ่ นหน้า

รอ้ ยละ 67 รอ้ ยละ 70

ของคะแนนเตม็ ของคะแนนเต็ม

17

เป้าหมาย ตัวชีว้ ดั ค่าเปา้ หมาย
2) สรา้ งอาชพี และกระจาย
ความแตกตา่ งของผลติ ภณั ฑ์จังหวดั 2564 2565
รายได้สทู่ ้องถ่ิน เปรียบเทยี บภายในภาค
ลดลงไมน่ อ้ ยกวา่ ลดลงไมน่ อ้ ยกว่า
3) เศรษฐกิจประเทศฟืน้ ตวั อัตราการขยายตวั ของการบรรจงุ านใหม่ ร้อยละ 1 เทยี บกบั ร้อยละ 1 เทียบกับ
เขา้ สูภ่ าวะปกติ ในแต่ละจังหวัดของประเทศ
ปกี ่อนหน้า ปีกอ่ นหน้า
4) มกี ารวางรากฐาน ผลิตภณั ฑ์มวลรวมประชาชาตติ อ่ หวั
เพอื่ รองรบั การปรบั เพิ่มข้นึ ไม่น้อยกวา่ เพม่ิ ขนึ้ ไมน่ อ้ ยกว่า
โครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ สดั ส่วนผลติ ภณั ฑม์ วลรวมในประเทศของ SMEs รอ้ ยละ 10 เทยี บ ร้อยละ 10 เทียบ
ต่อผลติ ภณั ฑม์ วลรวมในประเทศท้ังหมด กับปีก่อนหน้า กบั ปีกอ่ นหน้า
อัตราการขยายตัวของการจ้างงาน
ของ SMEs ไม่น้อยกว่า ไม่น้อยกวา่
236,000 บาท 245,000 บาท
อตั ราการขยายตวั ของการลงทนุ ตอ่ คน ต่อปี ต่อคน ตอ่ ปี
ในอตุ สาหกรรมและบรกิ ารเปา้ หมาย
ไมน่ อ้ ยกวา่ ไมน่ ้อยกว่า
อนั ดบั ความสามารถในการแขง่ ขัน ร้อยละ 42 รอ้ ยละ 42
การพัฒนาทุนมนุษยด์ ้านทักษะแรงงาน
เพมิ่ ข้ึนไมน่ อ้ ยกวา่ เพิม่ ขึ้นไม่นอ้ ยกว่า
สัดสว่ นมูลคา่ การลงทนุ ดา้ นการวจิ ัย รอ้ ยละ 1.8 เทยี บ ร้อยละ 1.8 เทียบ
และพัฒนานวัตกรรมตอ่ ผลติ ภณั ฑม์ วลรวม กบั ปกี อ่ นหนา้ กับปีก่อนหนา้
ในประเทศ
เพิ่มขน้ึ ไมน่ อ้ ยกว่า เพิ่มขน้ึ ไม่นอ้ ยกว่า
อันดบั ความสามารถในการแข่งขนั รอ้ ยละ 10 เทยี บ รอ้ ยละ 10 เทยี บ
ด้านดิจทิ ลั (IMD World Digital กับปีก่อนหน้า กับปีกอ่ นหนา้
Competitiveness Ranking)
อยูใ่ นกล่มุ ประเทศ อยู่ในกลมุ่ ประเทศ
ดชั นีชวี้ ัดประสิทธภิ าพของภาครัฐในการ ทม่ี ีความสามารถ ทมี่ ีความสามารถ
ทบทวนแก้ไขกฎหมายที่เป็นอุปสรรคและ สงู ทส่ี ุด 5 อันดบั สูงที่สุด 4 อนั ดบั
เปน็ ภาระในการดาเนินธุรกิจ แรกของภมู ภิ าค แรกของภูมภิ าค
อาเซยี น และมี อาเซียน และมี
คะแนนสูงขน้ึ คะแนนสงู ข้ึน
กวา่ ปีกอ่ นหนา้ กว่าปีกอ่ นหน้า

ไม่นอ้ ยกวา่ ไม่น้อยกว่า
รอ้ ยละ 1.4 ร้อยละ 1.5

อยใู่ นกลุ่มประเทศ อยูใ่ นกลมุ่ ประเทศ
ทมี่ คี วามสามารถ ท่ีมคี วามสามารถ
สงู ทส่ี ุด 40 อันดบั
สูงที่สุด แรก โดยมีอันดบั
40 อันดับแรก ดขี ึ้นจากปีก่อนหน้า

อยใู่ นกลุ่มประเทศ อยใู่ นกลมุ่ ประเทศ
ทมี่ ปี ระสิทธิภาพ ทีม่ ปี ระสทิ ธิภาพ
ท่สี ดุ 45 อันดบั
สูงทสี่ ดุ แรก โดยมีอนั ดบั
50 อันดบั แรก ดขี ึ้นจากปกี อ่ นหน้า

18

แนวทางการพัฒนา เพ่ือบรรลุเป้าหมายของแผนแม่บทเฉพาะกิจภายใต้
ยุทธศาสตร์ชาติฯ ตามท่ีกาหนด ในระยะเวลา 2 ปี (พ.ศ. 2564 - 2565) แนวทาง
การพัฒนาท่ีต้องมุ่งเน้นในแผนแม่บทเฉพาะกิจภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติอันเป็นผล
สืบเนื่องโดยตรงจากสถานการณ์โควิด-19 จะต้องให้ความสาคัญกับการเร่งดาเนินการ
ในมติ ติ า่ ง ๆ ทีเ่ ชอื่ มโยงไปถึงการบรรลุค่าเป้าหมายตามท่ีกาหนดไว้ บนหลักการพื้นฐาน
ของแนวคดิ ในการพัฒนาศักยภาพของประเทศด้านการพร้อมรับ ปรับตัว และเปล่ียนแปลง
เพอื่ พร้อมเตบิ โตอย่างยั่งยืน (Cope, Adapt, Transform: CAT) โดยมีแนวทางการพัฒนาที่
สาคัญโดยสรุป ดงั น้ี

1) การเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากภายในประเทศ
(Local Economy) โดยการมุง่ เน้นการกระจายโอกาสทางเศรษฐกจิ ไปยงั ระดบั ท้องถิน่
ผ่านการส่งเสริมการจ้างงานโดยเฉพาะในระดับพื้นที่และชุมชน ร่วมกับการให้
ความช่วยเหลือและพฒั นาศกั ยภาพของผ้ปู ระกอบการ SMEs ให้สามารถปรับตัวสู่ธุรกิจ
ใหม่ท่ีมีแนวโน้มความต้องการมากข้ึนในอนาคต ตลอดจนดาเนินงานด้านการกระจาย
ศู น ย์ ก ล า ง ค ว า ม เ จ ริ ญ ท า ง เ ศ ร ษ ฐ กิ จ ไ ป ยั ง หั ว เ มื อ ง ห ลั ก ใ น ภู มิ ภ า ค แ ล ะ เ มื อ ง ร อ ง
ที่มีขีดความสามารถและความพร้อม เพ่ือให้การเติบโตของพื้นท่ีและเมืองในภูมิภาค
เป็นศูนย์กลางในการเชื่อมโยงความเจริญ พร้อมรับการกระจายตัวของการพัฒนาและ
การเคล่ือนย้ายกาลังแรงงานกลับคืนถิ่น เป็นแหล่งจ้างงาน สร้างอาชีพและกระจาย
รายได้ไปยังภาคท้องถน่ิ และชุมชนในพ้ืนท่อี ยา่ งทั่วถึง ดังน้ี

1.1) การส่งเสริมการจา้ งงาน โดยเฉพาะในระดับพ้นื ท่ี ด้วยการพัฒนา
ฐานข้อมูลแรงงานเพอ่ื เพ่มิ ประสิทธิภาพในการช่วยเหลือและจับค่คู วามตอ้ งการของผู้หา
งานและผู้จ้างงาน ร่วมกับการสร้างงานใหม่ที่สอดคล้องกับภาคเศรษฐกิจที่มีแนวโน้ม
เติบโตในอนาคต พร้อมท้ังปรับโครงสร้างตลาดแรงงานโดยการโยกย้ายแรงงานไปยัง
ภาคการผลติ ทมี่ ผี ลติ ภาพสงู กว่า และมรี ายได้มากกวา่ เดิม เป็นต้น

1.2) การช่วยเหลือและพัฒนาศักยภาพวิสาหกิจขนาดกลางและ
ขนาดย่อม (SMEs) ด้วยการเร่งแก้ปัญหาสภาพคล่องของ SMEs ให้สอดคล้องกับ
ความต้องการของแต่ละกลุ่มเป้าหมาย ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการปรับตัวสู่ธุรกิจใหม่
ทม่ี ีแนวโนม้ ความตอ้ งการมากข้นึ ในอนาคตและมีสว่ นร่วมในห่วงโซ่มูลคา่ ของอุตสาหกรรม
และบริการเป้าหมาย ตลอดจนปรับปรุงระเบียบกฎหมาย เพื่อลดต้นทุนในการดาเนิน
ธุรกิจของ SMEs แก้ปัญหาและป้องกันการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม บูรณาการระหว่าง

19

หนว่ ยงานเพ่อื ลดความซา้ ซ้อน และเพม่ิ ประสิทธภิ าพการชว่ ยเหลอื และสนบั สนุน SMEs
เป็นต้น

1.3) การกระจายความเจริญทางเศรษฐกิจไปยังหัวเมืองหลัก
ในภูมิภาคและเมืองรอง ด้วยการส่งเสริมการลงทุนในพื้นท่ี สร้างตาแหน่งงานใน
ภูมิภาคต่าง ๆ เพื่อรองรับผู้ว่างงาน แรงงานคืนถ่ิน และบัณฑิตจบใหม่ ตลอดจน
เสริมสร้างจุดเด่นทางเศรษฐกิจของแต่ละภาคหรือกลุ่มจังหวัด โดยการรวมกลุ่มและ
เช่ือมโยงผู้ประกอบการในพ้ืนที่ และเพิ่มศักยภาพและบทบาทหน้าที่ของท้องถ่ินใน
การกากบั ดแู ลการให้บริการสาธารณะและบรหิ ารจดั การเชงิ พื้นที่ เปน็ ตน้

2) การยกระดับขีดความสามารถของประเทศเพอ่ื รองรับการเจริญเติบโต
อย่างย่ังยืนในระยะยาว (Future Growth) โดยมุ่งเน้นด้านการเตรียมความพร้อม
ของปัจจัยแวดล้อมที่เอ้ือต่อการยกระดับผลิตภาพการผลิต การพัฒนาและประยุกต์ใช้
เทคโนโลยีและนวัตกรรม พร้อมทั้งส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันของเครื่องยนต์
ทางเศรษฐกิจหลักท่ีประเทศไทยมีโอกาสและได้รับการวิเคราะห์แล้วว่ามีศักยภาพ
ภายใต้ภมู ทิ ศั น์ของเศรษฐกจิ โลกแบบใหมท่ ่จี ะปรับเปลีย่ นไป ไดแ้ ก่

2.1) อุตสาหกรรมและบริการทางการแพทย์ครบวงจร ด้วยการขยาย
ช่องทางการตลาดทั้งการแพทย์แผนปัจจุบันและการแพทย์แผนไทย ยกระดับคุณภาพ
มาตรฐานของสินค้าและบริการ ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการแพทย์
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการด้านสุขภาพ และมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางทาง
การแพทย์ของภูมภิ าคแบบครบวงจร เป็นตน้

2.2) การท่องเทีย่ วเชงิ สร้างสรรคแ์ ละเน้นคณุ ภาพ ด้วยการเปลย่ี นแปลง
แนวทางการพัฒนาภาคการท่องเที่ยวท้ังระบบ ให้มุ่งเน้นที่เชิงคุณภาพมากกว่าปริมาณ
ทัง้ แนวทางการสง่ เสรมิ การลงทุน และรปู แบบการทอ่ งเที่ยวท่ีสนบั สนุน และการติดตาม
ประเมินผล พร้อมท้ังเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของเมืองรองและท้องถ่ินที่มีศักยภาพ
เพื่อกระจายรายได้ไปยงั ระดบั ท้องถ่นิ เปน็ ต้น

2.3) การเกษตรมูลค่าสูง ด้วยการสร้างแพลตฟอร์มการตลาดดิจิทัล
ให้กลุ่มเกษตรกรและวิสาหกิจชุมชน พัฒนาระบบคุณภาพมาตรฐานความปลอดภัย
ใช้ประโยชนจ์ ากความหลากหลายทางชวี ภาพ พัฒนาระบบโลจสิ ตกิ สแ์ ละห่วงโซ่อุปทาน
ภาคการเกษตร รวมถึงใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในกระบวนการผลิตและการบริหาร
จัดการเพ่ือสร้างมูลค่าเพ่ิมในสินค้าเกษตรให้สามารถเ ป็นวัตถุดิบท่ีมีคุณภาพ

20

ในอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เช่น อุตสาหกรรมอาหาร และอุตสาหกรรมทางการแพทย์
เป็นต้น

2.4) อุตสาหกรรมอาหาร ด้วยการส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุน
เพื่อเพ่ิมกาลังการผลิต และการจ้างงาน และส่งเสริมให้ผู้ประกอบการปรับตัว
ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ โดยการมุ่งสู่ธุรกิจอาหารมูลค่าสูง
เชน่ อาหารเพอ่ื สขุ ภาพ และอาหารทางการแพทย์ เปน็ ต้น

2.5) อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ ด้วยการสนับสนุนการปรับตัว
ของผู้ประกอบการและแรงงาน รวมถึงปัจจัยที่เก่ียวข้องต่าง ๆ ท้ังระเบียบ กฎหมาย
โครงสร้างพ้ืนฐาน และอุปสงค์ของผู้บริโภคในประเทศให้สามารถเปลี่ยนผ่านไปสู่
อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่โดยเฉพาะยานยนต์ไฟฟ้า ตลอดจนช่วยเหลือ
ผู้ประกอบการรายย่อยในอุตสาหกรรมเกี่ยวเน่ือง เช่น ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ และ
ผ้ใู หบ้ รกิ ารซอ่ มแซมและบารงุ รักษาทอี่ าจได้รับผลกระทบในช่วงเปล่ียนผา่ นนี้ เป็นตน้

3) การพัฒนาศักยภาพและยกระดับคุณภาพชีวิตของคน (Human
Capital) ด้วยการยกระดับทักษะ (Upskill) ปรับทักษะ (Reskill) และส่งเสริมการ
เรียนรู้เพื่อรองรับอุตสาหกรรมและบริการที่จะเป็นเคร่ืองยนต์ทางเศรษฐกิจหลักทั้ง 5
สาขาตามที่ระบุไว้ในประเด็นการพัฒนาท่ี 2) Future Growth ข้างต้น ร่วมกับการขยาย
และพัฒนาระบบประกันสังคม เพ่ือยกระดับคุณภาพชีวิตของประชากรทุกสาขาอาชีพ
และทกุ ชว่ งวยั ตลอดจนการส่งเสริมความม่นั คงทางสุขภาพ เพื่อให้คนใหเ้ ป็นกาลังหลักใน
การขบั เคลื่อนการพัฒนาประเทศไดอ้ ยา่ งยง่ั ยนื ดังนี้

3.1) การยกระดับทักษะ ปรับทักษะ และส่งเสริมการเรียนรู้
ด้วยการส่งเสริมแรงงานท่ีอยู่ในภาคการผลิตและบริการที่ได้รับผลกระทบ ให้ได้รับ
การฝึกอบรมยกระดับทักษะ และปรับศักยภาพแรงงานให้เหมาะสมกับรูปแบบธุรกิจ
และโครงสร้างเศรษฐกิจท่ีเปลี่ยนแปลงไป ยกระดับคุณภาพมาตรฐานของศูนย์พัฒนา
ฝีมือแรงงานโดยการมีส่วนร่วมของภาคเอกชน ส่งเสริมการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัล
ที่จาเป็นสาหรับการเรียนการสอน และการเรียนรู้ด้วยตนเอง และการพัฒนาทักษะ
อาชีพ พร้อมทั้งส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตของแรงงานเพื่อให้แรงงานมีความยืดหยุ่น
พรอ้ มปรบั ตัว ตลอดจนมงุ่ เนน้ การผลติ กาลงั คนทีม่ คี ณุ ภาพในระยะยาว เปน็ ตน้

3.2) การขยายและพัฒนาระบบหลักประกันทางสังคม ด้วย
การชว่ ยเหลอื เยยี วยา และชดเชยคนยากจน กลมุ่ เปราะบาง ทีไ่ ดร้ บั ผลกระทบ โดยคานงึ ถงึ

21

ระดบั ของปัญหาและความต้องการท่ีแตกต่างกันของกลุ่มเป้าหมาย พร้อมท้ังผลักดันให้
แรงงานเข้าสู่ระบบประกันสังคมมากข้ึน พัฒนาระบบและกลไกการช่วยเหลือ
กลุ่มเป้าหมายเพ่ือแก้ปัญหาเฉพาะกลุ่มให้ตรงจุด และพัฒนาระบบความคุ้มครอง
ทางสังคมให้เหมาะสมสอดคล้องกับรูปแบบตลาดแรงงานท่ีเปลี่ยนแปลงไป รวมถึง
มีการบูรณาการตั้งแต่ระดับนโยบายจนถึงระบบข้อมูลในการตรวจสอบและติดตาม
ประเมนิ ผล เป็นตน้

3.3) การเสริมสร้างความมั่นคงทางสุขภาพ ด้วยการพัฒนาระบบ
รับมอื ปรับตวั ตอ่ โรคอุบัติใหมแ่ ละโรคอุบตั ิซา้ สรา้ งความรอบรดู้ ้านสุขภาวะ สร้างภูมิคุ้มกัน
ท้ังทางร่างกายและจิตใจ กระจายบริการสาธารณสุขอย่างทั่วถึงและมีคุณภาพ และ
แสวงหาแนวทางดาเนินการปฏิรูประบบหลักประกันสุขภาพให้มีประสิทธิภาพ
สอดคลอ้ งกบั การเปน็ สงั คมสงู วัย และอยู่บนพนื้ ฐานของความยั่งยนื ทางการคลงั เป็นตน้

4) การปรับปรุงและพัฒนาปัจจัยพ้ืนฐานเพ่ือส่งเสริมการฟ้ืนฟูและ
พัฒนาประเทศ (Enabling Factors) โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเกื้อหนุนการพัฒนา
เศรษฐกิจฐานราก เพิ่มขีดความสามารถในการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ
และยกระดับศักยภาพและคุณภาพชีวิตของคนตามท่ีกล่าวมาในข้อ 1) - 3) ให้ประสบ
ผลสาเรจ็ ซึง่ ปัจจัยพื้นฐานสาคญั ที่จาเป็นตอ้ งเรง่ ปรบั ปรุงและพัฒนา ประกอบดว้ ย

4.1) การพัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐานเพื่อรองรับการปรับโครงสร้าง
เศรษฐกิจใหม่ เช่น โครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล โครงสร้างพ้ืนฐานเชิงระบบ
การบริหารจัดการระบบโลจิสติกส์ รวมถึงการพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้
โครงสรา้ งพ้ืนฐานให้สอดคลอ้ งกับทิศทางการการพฒั นาประเทศ เป็นตน้

4.2) การปรับปรุงกฎหมายและส่งเสริมภาครัฐดิจิทัล ให้เท่าทันต่อ
การเปลี่ยนแปลงทั้งจากภายนอกและภายในประเทศ โดยการปรับปรุงและพัฒนา
ฐานข้อมูลแบบบูรณาการ การจัดเก็บและเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ
การนาเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการให้บริการประชาชน การปรับปรุงกฎหมาย
กฎระเบียบ ข้อบังคับ และมาตรการต่าง ๆ ตลอดจนการปฏิรูปการจัดเก็บรายได้และ
ประสทิ ธิภาพการจดั สรรและใชจ้ า่ ยงบประมาณของภาครัฐ ให้สอดคล้องกับบริบท และ
เอื้อต่อการพฒั นาประเทศ เปน็ ต้น

22

4.3) การพัฒนาองค์ความรู้และนวัตกรรม เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม
ใ น กิ จ ก ร ร ม ท า ง เ ศ ร ษ ฐ กิ จ แ ล ะ ก า ร ส่ ง เ ส ริ ม คุ ณ ภ า พ ชี วิ ต ข อ ง ป ร ะ ช า ช น ใ น ทุ ก มิ ติ
ด้วยการส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากงานวิจัยและนวัตกรรมในประเทศ ในการสร้าง
มูลค่าเพิ่มทางธุรกิจโดยเฉพาะ SMEs และ วิสาหกิจชุมชน ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา
นวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการของภาคการผลิตเป้าหมาย และแก้ไขกฎระเบียบท่ี
เปน็ อุปสรรคต่อการผลิตงานวจิ ัยและนวตั กรรม เป็นตน้

4.4) การเสริมสร้างความม่ันคงและบริหารจัดการความเส่ียง
เพื่อรองรับภัยพิบัติ เหตุการณ์ความไม่สงบและความขัดแย้ง ตลอดจนสาธารณภัย
ทุกรูปแบบ ด้วยการใช้ฐานข้อมูล เทคโนโลยี และนวัตกรรม การบูรณาการระบบการ
จัดการในภาวะฉุกเฉินให้มีเอกภาพและรองรับสาธารณภัยรูปแบบใหม่ในทุกมิติ อาทิ
ความปลอดภัยทางไซเบอร์ และภัยพิบัติทางธรรมชาติ และเสริมสร้างโอกาสให้ท้องถ่ิน
เข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการความเสี่ยงในพ้ืนที่ของตนเอง พร้อมท้ังพัฒนา
กลไกในการส่งเสริมให้ครัวเรือนบริหารจัดการหนี้ได้อย่างเป็นระบบ เพ่ือลดความเส่ียง
และสามารถดแู ลตนเองได้ในภาวะวิกฤต เป็นต้น

4.5) การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของเครือข่ายและภาคีการพัฒนา
เพ่ือให้การฟื้นฟูและขับเคลื่อนประเทศมีประสิทธิภาพสามารถบรรลุผลได้อย่างเป็น
รูปธรรม โดยการสนับสนุนการมีส่วนร่วมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน
ภาคประชาชนในพ้ืนที่และภาคส่วนอ่ืน ๆ ในสังคม ในการพัฒนาประเทศตามแผน
แม่บทเฉพาะกจิ ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติฯ พร้อมท้ังช่วยติดตามตรวจสอบการดาเนินงาน
ของหน่วยงานภาครัฐ และเสนอแนะแนวทางการปรับปรุงแก้ไขให้มีประสิทธิภาพ
มากยิง่ ข้นึ รวมถึงแก้ปญั หาเศรษฐกจิ สังคม และสง่ิ แวดลอ้ มอ่นื ๆ เปน็ ตน้

แนวทางการพัฒนาตามหลักการ 3 มิติ (Cope, Adapt, Transform) และ
4 ป ร ะ เ ด็ น ก า ร พั ฒ น า (Local Economy, Future Growth, Human Capital,
Enabling Factors) ในรายละเอยี ด ปรากฏตามตารางแนวทางการพัฒนาในแผนแม่บท
เฉพาะกิจภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติฯ เพ่ือขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศในระหว่าง
พ.ศ. 2564 - 2565 ดังน้ี

2

ตารางแนวทางการพฒั นาในแผนแมบ่
เพ่ือขบั เคลื่อนการพฒั นาประเทศ

แนวทางการพฒั นา พรอ้ มรับ
(Cope)

การลดความเปราะบาง โดยการขจัดจุดอ่อน กา

และข้อจากัดเดิมที่มี และพร้อมบริหาร ให

จัดการในทุกภาวการณไ์ ด้อย่างเต็มศักยภาพ คว

ภายใต้ทรัพยากรท่ีมีอยูอ่ ยา่ งจากัด รว

กา

1. การเสริมสร้างความเขม้ แขง็ ของเศรษฐกิจฐานรากภายในประเทศ (Loca

1.1 การส่งเสรมิ การจา้ งงาน 1) ส่งเสริมการจ้างงานใหม่ โดยเฉพาะ 1)

ในระดับพื้นที่ ในกลุ่มแรงงานนอกระบบ

แรงงานท่ีได้รับผลกระทบ และกลุ่ม

บัณฑิตจบใหม่ รวมถึงรักษาการจ้างงาน

ภายในประเทศเดิม โดยเฉพาะในสาขา 2)

ทีไ่ ด้รบั ผลกระทบจากโควดิ -19

2) พัฒนาฐานข้อมูลแรงงานที่ครอบคลุม

ทั้งในระบบและนอกระบบ ตลอดจน

ก า ลั ง แ ร ง ง า น ใ น วั ย เ รี ย น ท่ี จ ะ เ ข้ า สู่

ตลาดแรงงาน เพื่อจาแนกแรงงานที่

ต้องการความช่วยเหลือได้อย่างแม่นยา

รวมถงึ จับคู่ความต้องการของผู้หางานกับ

ผูจ้ า้ งงานได้อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ

23

บทเฉพาะกจิ ภายใต้ยทุ ธศาสตรช์ าตฯิ
ศในระหวา่ ง พ.ศ. 2564 - 2565

ปรับตัว เปลีย่ นแปลง เพื่อพร้อมเติบโต

(Adapt) (Transform)

ารปรับรูปแบบ และแนวทางการดาเนินการ การเปล่ียนแปลงเชิงโครงสร้างและปัจจัย

หส้ อดคลอ้ งกับกระแสการเปลีย่ นแปลงและ พ้ืนฐาน เช่น ระเบียบ กฎหมาย นโยบาย และ

วามไม่แน่นอน การกระจายความเส่ียง สถาบัน เพ่ือพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส และ

วมถึงการปรับตัวเพ่ือสร้างโอกาสจาก มุ่งสู่การเติบโตอย่างมีคุณภาพ ทั่วถึง และ

ารเปลย่ี นแปลง ยงั่ ยืน

al Economy)

ส่งเสริมการสร้างงานท่ีสอดคล้องกับ 1) ปรับโครงสรา้ งตลาดแรงงาน โดยโยกย้าย

ภาคเศรษฐกจิ ทมี่ ีแนวโน้มเติบโตในอนาคต แรงงานไปสู่ภาคการผลิตที่มีผลิตภาพ

รวมถึงศักยภาพ โอกาส และความต้องการ รายได้ และใช้ทักษะสงู กว่า

ของประชาชนในพืน้ ท่ี 2) พัฒนากลไกการติดตามประเมินผล

ส่งเสริมการจ้างงานผู้สูงอายุเพื่อให้ ให้สะท้อนสถานการณ์และนาไปสู่

สามารถพึ่งตนเองได้ ลดภาระของ การพัฒนาด้านแรงงานของไทยได้

ครอบครัว และบรรเทาปัญหาการลดลง อยา่ งมีประสิทธิภาพ

ของประชากรวยั แรงงาน 3) ปรับปรุงระเบียบกฎหมายเพ่ือไม่ให้เป็น

อุปสรรคต่อการดึงดูดแรงงานทักษะสูง

ให้เข้ามาทางานในประเทศ และส่งเสริม

การถ่ายทอดทักษะและองค์ความรู้ให้แก่

แรงงานภายในประเทศ

2

แนวทางการพัฒนา พร้อมรับ
(Cope)

1.2 การชว่ ยเหลือและ 1) เร่งแก้ปัญหาสภาพคล่องของ SMEs 1)
ให้สอดคล้องกับความต้องการของแต่ละ
พัฒนาศกั ยภาพ กลุ่มเป้าหมาย โดยการแบ่งเบาภาระ
วสิ าหกจิ ขนาดกลาง ค่าใช้จ่าย ปรับโครงสร้างหนี้ และเพิ่ม
และขนาดยอ่ ม (SMEs) ช่ อ ง ท า ง ก า ร เ ข้ า ถึ ง สิ น เ ชื่ อ แ ล ะ แ ห ล่ ง

เงินทุนด้วยต้นทุนที่เหมาะสม เพ่ือให้

ธุรกิจท่ีมีศักยภาพยังสามารถอยู่รอด

และรกั ษาการจ้างงานตอ่ ไปได้ 2)

3)

4)

1.3 การกระจายความเจริญ 1) สร้างตาแหน่งงานในภูมิภาคต่าง ๆ เพื่อ 1)
รองรับผู้ว่างงาน แรงงานคืนถ่ิน และ
ทางเศรษฐกจิ ไปยงั
หัวเมืองหลักในภูมิภาค บณั ฑิตจบใหม่

และเมอื งรอง

24

ปรับตวั เปลย่ี นแปลง เพ่ือพร้อมเตบิ โต

(Adapt) (Transform)

ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ SMEs และ 1) ปรับโครงสร้างปัจจัยแวดล้อมท้ังระบบ

วิสาหกิจชุมชนปรับตัวสู่ธุรกิจใหม่ท่ีมี เพือ่ ขจดั อุปสรรคในการดาเนินธุรกิจและ

แนวโน้มความต้องการมากข้ึนในอนาคต ยกระดบั ประสทิ ธภิ าพของ SMEs ไดแ้ ก่

เช่น สินค้าและบรกิ ารเพือ่ ผู้สูงอายุ สินค้า  ลดต้นทุนในการดาเนินธุรกิจของ
และบรกิ ารเพ่ือสุขภาพ และสินค้าสีเขียว
SMEs โดยการผ่อนคลายมาตรการ

เป็นต้น รวมถึงมีส่วนร่วมในห่วงโซ่มูลค่า ภาครัฐที่จะช่วยให้การดาเนินธุรกิจ

ของอตุ สาหกรรมและบรกิ ารเปา้ หมาย มีความสะดวก คลอ่ งตวั และมโี อกาส

สร้างแรงจูงใจให้ธุรกิจขนาดใหญ่ช่วย ทางธุรกิจมากขึ้น อาทิ การจัดซ้ือ

SMEs ในการพัฒนาและสรา้ งมูลค่าธุรกิจ จดั จ้างภาครฐั

รวมถึงใช้เทคโนโลยีในการดาเนินธุรกิจ  ปรับปรุงระเบียบกฎหมายเพื่อ
ตลอดกระบวนการ ท้ังการผลิต การบริหาร
แก้ปัญหาและป้องกันการแข่งขันที่
จดั การ และการตลาด
ไม่เป็นธรรม
ส่งเสริมการระดมทุนผ่านเคร่ืองมือ  บูรณาการระหว่างหน่วยงานเพื่อลด
ทางการเงินที่หลากหลาย อาทิ การใช้
ความซ้าซ้อน และเพ่ิมประสิทธิภาพ
แพลตฟอรม์ เพ่อื การระดมทุนสาธารณะ
การช่วยเหลือและสนับสนนุ SMEs
สนับสนุนเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนและ  ปรับโครงสร้างระบบงบประมาณ
เพ่ิมศักยภาพของผู้ประกอบการ SMEs
และกลไกการติดตามประเมินผล
ในระดบั พนื้ ที่
ให้เอ้อื ตอ่ การส่งเสริม SMEs
ส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่หัวเมืองหลัก 1) เสรมิ สร้างจดุ เด่นทางเศรษฐกิจของแต่ละ
ในภูมิภาค เมืองรอง และเขตเศรษฐกิจ ภาคหรือกลุ่มจังหวัด โดยการพัฒนาการ
พิเศษ โดย คานึงถึงฐานทรัพยากร
ความพร้อม และศักยภาพของพ้ืนท่ี 2) รวมกลุ่มและเชื่อมโยงผู้ประกอบการ
ผ่ า น ก า ร ใ ห้ สิ ท ธิ ป ร ะ โ ย ช น์ ท า ง ภ า ษี ในพ้ืนทีเพื่อสร้างศักยภาพในการเติบโต
พัฒนาสิ่งอานวยความสะดวกสาหรับ ทางเศรษฐกิจและสร้างการจ้างงานใน
การค้าการลงทุนแบบครบวงจร รวมถึง ระยะยาว
ส่งเสริมการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เพิ่มศักยภาพและบทบาทหน้าที่ของ

ที่จาเป็นสาหรับภาคธุรกิจ อาทิ ระบบ ท้องถิ่นในการกากับดูแลและกาหนด
การขนส่งและกระจายสนิ ค้า ม า ต ร ฐ า น ก า ร ใ ห้ บ ริ ก า ร ส า ธ า ร ณ ะ

แนวทางการพัฒนา พร้อมรับ 2
(Cope)
2)

2. การยกระดับขดี ความสามารถของประเทศเพอ่ื รองรบั การเจริญเตบิ โตอย่า

2.1 การส่งเสริม 1) ส่งเสริมการผลิตสินค้าและบริการ 1)

อตุ สาหกรรมและ ท า ง สุ ข ภ า พ ท่ี ผู้ บ ริ โ ภ ค มี แ น ว โ น้ ม
บรกิ ารทางการแพทย์ ความต้องการเพม่ิ สงู ขน้ึ
ครบวงจร 2) ขยายช่องทางการตลาดทั้งการแพทย์ 2)
แผนปจั จุบนั และการแพทยแ์ ผนไทย

2.2 การส่งเสรมิ การ 1) ส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ 1)
ท่องเที่ยวเชิง ทั้งในกลุ่มภาครัฐ เอกชน และประชาชน
สรา้ งสรรค์และเน้น ทว่ั ไป
คุณภาพ 2) ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย
โดยเฉพาะในการสอบสวนโรคและตดิ ตาม
กลมุ่ เสีย่ งอยา่ งทว่ั ถงึ และครอบคลมุ
3) ฟื้นฟูแหล่งท่องเท่ียวธรรมชาติ พร้อมท้ัง
พัฒนาชมุ ชน ผ้ปู ระกอบการ และบุคลากร
ท่เี กี่ยวข้อง โดยการมสี ่วนร่วมของท้องถิ่น
และมุ่งเน้นการใช้แรงงานและทรัพยากร 2)

ในทอ้ งถิ่น

25

ปรับตวั เปลี่ยนแปลง เพื่อพร้อมเติบโต

(Adapt) (Transform)
พัฒนาเมืองให้น่าอยู่ โดยจัดระบบขนส่ง รวมถึงมีความสามารถในการบริหาร
สาธารณะ สาธารณูปโภคสาธารณูปการ จดั การเชงิ พืน้ ที่มากยิง่ ขึน้
ที่ มี คุ ณ ภ า พ แ ล ะ ใ ห้ เ พี ย ง พ อ ต่ อ
ความต้องการของประชาชนและกิจกรรม 3) ยกระดบั สถาบันการศึกษาในพื้นที่ให้เป็น
เศรษฐกจิ ศูนย์กลางการพัฒนาและการเรียนรู้
ด้านเทคโนโลยนี วตั กรรมทสี่ ่งเสริมจดุ เด่น

ทางเศรษฐกจิ ของพน้ื ทน่ี ้ัน ๆ

างยั่งยืนในระยะยาว (Future Growth)

) ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม 1) มุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรม

ทางการแพทย์เพ่ือเพิ่มประสิทธิภาพ และบริการทางการแพทย์ โดยส่งเสริม

ในการใหบ้ รกิ ารดา้ นสุขภาพ ก า ร วิ จั ย แ ล ะ พั ฒ น า ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ ย า แ ล ะ

) เชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมอื่นท่ีเกี่ยวเน่ือง เครื่องมือแพทย์ พัฒนามาตรฐานคุณภาพ

เช่น การท่องเท่ียวเชิงสุขภาพ และ ตลอดห่วงโซ่คุณค่าของอุตสาหกรรม

อุตสาหกรรมอาหาร เพอ่ื สรา้ งมูลคา่ เพ่มิ การแพทย์ครบวงจร สร้างมูลค่าเพ่ิมให้แก่

สินค้าและบริการท่ีเกี่ยวข้อง และส่งเสริม

การพัฒนาขีดความสามารถในการแขง่ ขัน

ของผูป้ ระกอบการไทย
) ปรับรูปแบบและสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ 1) เปล่ียนแปลงแนวทางการพัฒนาภาค
การท่องเท่ียว โดยประยุกต์ใช้จุดแข็ง ก า ร ท่ อ ง เ ที่ ย ว ท้ั ง ร ะ บ บ ใ ห้ มุ่ ง เ น้ น
ของไทยภายใต้เงื่อนไขและบริบทใหม่
ของโลก อาทิ การส่งเสริมภาพลักษณ์ ทเ่ี ชิงคุณภาพมากกวา่ ปริมาณ ท้ังแนวทาง
ของไทยในฐานะประเทศที่ปลอดภัยจาก การส่งเสริมการลงทุน รูปแบบการ
โรคระบาด เพือ่ ให้เป็นจดุ หมายปลายทาง ท่องเท่ียวที่สนับสนุน รวมถึงกลไกและ
ของการท่องเที่ยวของกลุ่มผู้มีกาลังซ้ือสูง วิธกี ารในการติดตามประเมินผลที่สามารถ
แ ล ะ ก า ร ท่ อ ง เ ที่ ย ว แ บ บ เ ที่ ย ว ไ ป ด้ ว ย สะทอ้ นการดาเนนิ การไดอย่างเป็นรูปธรรม

ทางานไปดว้ ย 2) เสริมสร้างการมีส่วนร่วมของเมืองรอง

) เพ่มิ ความหลากหลายให้กับการท่องเที่ยว และท้องถิ่นที่มีศักยภาพ เพ่ือกระจาย
โดยเชือ่ มโยงกับบรกิ ารทางการแพทย์ และ รายได้ไปยงั ชุมชนและเศรษฐกิจฐานราก
การพฒั นาอุตสาหกรรมเชิงสร้างสรรค์เพ่ือ

2

แนวทางการพฒั นา พร้อมรับ
(Cope)

2.3 การยกระดบั ภาค 1) สร้างแพลตฟอร์มการตลาดดิจิทัลให้ 1)
การเกษตรสู่เกษตร กล่มุ เกษตรกรและวิสาหกิจชุมชนสามารถ
มูลค่าสูง เข้าถึงตลาดและผู้บริโภคทั้งในประเทศ
และต่างประเทศได้โดยตรง เพ่ือสร้าง
รายได้ และเป็นฐานรองรับให้แก่แรงงาน
ท่ีตกงาน

2)

2.4 การส่งเสรมิ 1) ชว่ ยเหลอื ด้านสภาพคล่องโดยการสง่ เสรมิ 1)
อตุ สาหกรรมอาหาร การเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพ่ือเพ่ิมกาลัง
การผลติ และการจ้างงาน

2) ส่งเสริมการเข้าถึงตลาด ทั้งตลาดภายใน
ประเทศและตลาดต่างประเทศ
2)

26

ปรบั ตัว เปล่ยี นแปลง เพ่ือพรอ้ มเตบิ โต

(Adapt) (Transform)
เพิ่มมูลค่า และใช้เทคโนโลยีดิจิทัล
เพื่อทาการตลาดและสร้างประสบการณ์
การท่องเทย่ี วรูปแบบใหม่

) ส่งเสริมการปรับตัวของเกษตรกร โดย 1) ปรั บโครงสร้ างภาคการเกษตรโด ย

การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตร การใช้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมใน

ผ่านการประยุกต์ใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น กระบวนการผลิตและการบริหารจัดการ

ท่ีมีเอกลักษณ์เฉพาะพ้ืนที่ พัฒนาระบบ เพื่อเพิ่มผลิ ตภาพการเกษตร สร้ าง

คุณภาพมาตรฐานผลิตภัณฑ์ มาตรฐาน มูลค่าเพ่ิมในสินค้าเกษตร และสามารถ

ความปลอดภัย และใช้ประโยชน์จาก เป็นวัตถุดิบที่มีคุณภาพในภาคการผลิต

ความหลากหลายทางชีวภาพ พร้อมทั้ง ทต่ี อ่ เนือ่ ง อาทิ อุตสาหกรรมอาหาร และ

เรยี นร้กู ารใช้แพลตฟอร์ม และเครื่องมือ อตุ สาหกรรมและบรกิ ารทางการแพทย์

ท า ง ก า ร ต ล า ด อ อ น ไ ล น์ รู ป แ บ บ ใ ห ม่

เพ่ือเพิ่มโอกาสในการสรา้ งรายได้

) พัฒนาระบบโลจิสติกส์และห่วงโซ่

อุปทานภาคการเกษตรให้ยังสามารถ

ขนส่งสินค้าทั้งในประเทศและระหว่าง

ประเทศได้ในสภาวะวิกฤตท่ีระบบตลาด

หยุดชะงัก รวมถึงเช่ือมโยงกับภาคการ

ผลิตอ่ืนได้อย่างมีประสทิ ธิภาพ

) สง่ เสรมิ ใหผ้ ้ปู ระกอบการในอุตสาหกรรม 1) ยกระดับโครงสร้างอุตสาหกรรมอาหาร

อ า ห า ร ป รั บ ตั ว ใ ห้ ส อ ด ค ล้ อ ง กั บ ท้ังห่วงโซ่มูลค่า โดยการสร้างและใช้

ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ และ ประโยชน์จากเทคโนโลยีและนวัตกรรม

มุ่งสู่ธุรกิจอาหารมูลค่าสูง อาทิ อาหาร อาทิ การส่งเสริมระบบเกษตรอัจฉริยะ

เพ่อื สขุ ภาพ และอาหารทางการแพทย์ เพ่ือผลิต วัตถุดิบ ท่ีมีคุณภ าพให้แ ก่

) ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ อุตสาหกรรมอาหาร

กระบวนการผลิต และจัดจาหน่าย 2) เปิดโอกาสให้ท้องถ่ินและวิสาหกิจชุมชน

ผลิตภัณฑอ์ าหารมูลคา่ สูง เข้ามามีส่วนรว่ มในห่วงโซอ่ ปุ ทาน

2

แนวทางการพัฒนา พรอ้ มรบั
(Cope)
2.5 การปรบั อุตสาหกรรม
ยานยนต์ไปสู่ 1) ช่วยเหลือผู้ประกอบการโดยเฉพาะ 1)
อุตสาหกรรมยานยนต์ ผู้ประกอบการรายยอ่ ยทีไ่ ด้รบั ผลกระทบ
สมัยใหม่ จากการเปล่ียนผ่านไปสู่อุตสาหกรรม
ยานยนต์สมัยใหม่ อาทิ ผู้ผลิตช้ินส่วน
รถยนต์ และผู้ให้บริการซ่อมแซมและ
บารงุ รักษา

2)

3. การพัฒนาศักยภาพและคณุ ภาพชีวติ ของคนให้เป็นกาลงั หลักในการขับเค

3.1 การพัฒนาทักษะ 1) ส่งเสริมแรงงานที่อยู่ในภาคการผลิต 1)

แรงงานและการเรียนรู้ และบริการที่ได้รับผลกระทบให้ได้รับ
การฝึกอบรมยกระดับทักษะ และปรับ

ศักยภาพแรงงานให้เหมาะสมกับรูปแบบ

ธุ ร กิ จ แ ล ะ โ ค ร ง ส ร้ า ง เ ศ ร ษ ฐ กิ จ ท่ี

เปลยี่ นแปลงไป 2)

2) ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐและ

เ อ ก ช น ใ น ก า ร ย ก ร ะ ดั บ แ ล ะ ค ว บ คุ ม

คุณภาพมาตรฐานของศูนย์พัฒนาฝีมือ

แรงงาน รวมถงึ พฒั นาหลักสูตรใหม้ คี วาม

27

ปรบั ตวั เปลีย่ นแปลง เพื่อพร้อมเตบิ โต

(Adapt) (Transform)

) สนับสนุนการปรับตัวของผู้ประกอบการ 1) ส่ ง เ ส ริ ม ก า ร เ ป ล่ี ย น แ ป ล ง ข อ ง

และแรงงานในอุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมยานยนต์ทั้งระบบไปสู่

และอตุ สาหกรรมและบริการทีเ่ ก่ียวเนื่อง ยา น ย น ต์ ส มั ย ใหม่ ท่ี เ ป็ นมิ ต ร ต่ อ

ให้พร้อมสาหรับการผลิตยานยนต์ ส่ิงแวดล้อม โดยการปรับระเบียบ

สมัยใหม่ ทง้ั ยานยนต์ไฟฟ้าและยานยนต์ กฎหมาย ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา

ขบั เคลื่อนอัตโนมัติ พร้อมทั้งกระตุ้นการ เทคโนโลยีที่เก่ียวข้อง อาทิ เทคโนโลยี

ลงทุนใหม่ ๆ ด้วยการให้สิทธิประโยชน์ แบตเตอร่ีและมอเตอร์ พร้อมท้ังกระตุ้น

ท่ีจาเป็น พร้อมทั้งส่งเสริมความร่วมมือ อุปสงค์ของผู้บริโภคในประเทศ และจัด

ระดบั ประเทศในการถ่ายทอดเทคโนโลยี ให้มสี ถานีบริการอัดประจทุ ท่ี ่ัวถึง

และความเช่ยี วชาญ 2) เชื่อมโยงอุตสาหกรรมยานยนต์กับสาขา

) ส่งเสริมการใช้ชิ้นส่วนในประเทศใน อ่ืน ๆ ท่ีเก่ียวข้องเพิ่มเติม เพ่ือขยายฐาน

การ พัฒนา อุตส าห กร รมย านยน ต์ อุตสาหกรรม อาทิอุตสาหกรรมต่อเรือ

ส มั ย ให ม่ ท่ีไ ม่ ขั ด ต่ อ ข้ อต กล ง ห รื อ อุตสาหกรรมระบบรางอุตสาหกรรม

กฎเกณฑ์ของความร่วมมือ/การค้า ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์

ระหวา่ งประเทศ

คล่ือนการพัฒนาประเทศ (Human Capital)

) ส่งเสริมให้แรงงานมีทักษะที่หลากหลาย 1) ผลักดันให้เกดิ การบรู ณาการ ความรว่ มมือ

มีความยืดหยุ่น พร้อมปรับตัวสู่วิธีการ ระหว่างภาครัฐและเอกชนในการปฏิรูป

ท า ง า น ห รื อ อ า ชี พ ใ ห ม่ เ มื่ อ มี ก า ร ระบบการผลิตกาลังคนท้ังการศึกษาและ

เปล่ียนแปลงเกิดขึน้ ด้วยการส่งเสริมการ การพัฒนาทักษะแรงงานให้เช่ือมโยงกัน

เรียนรตู้ ลอดชีวิตของแรงงาน และมีประสิทธิภาพมากข้ึน โดยให้

) ปรับรูปแบบการเรียนรู้และพัฒนาทักษะ สอดคล้องกับแนวคิดทักษะแห่งศตวรรษ

ให้มคี วามยืดหย่นุ และตอบสนองตอ่ ภาวะ ท่ี 21 ภาคการผลิตเป้าหมาย และทิศ

วิกฤตมากข้ึน อาทิ การเรียนรู้ทางไกล ทางการพฒั นาประเทศ

หลักสูตรระยะสน้ั และการผสมผสานการ 2) สร้างสภาพแวดล้อมและพัฒนาบุคลากร

เรียนรู้แบบออฟไลน์และออนไลน์ ให้เอ้ือต่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อให้

2

แนวทางการพัฒนา พร้อมรับ

3.2 การขยายและพัฒนา (Cope)
ระบบหลักประกันทาง
สังคม สอดคล้องกับบริบทของตลาดแรงงาน 3)

3.3 การเสริมสร้างความ และเง่อื นไขความต้องการของผู้เรยี น
ม่ันคงทางสุขภาพ
3) ส่งเสริมการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัล

ท่ี จ า เ ป็ น ส า ห รั บ ก า ร เ รี ย น ก า ร ส อ น

การเรียนรู้ด้วยตนเอง การพัฒนาทักษะ

อาชีพ และการแสวงหาโอกาสทาง

เศรษฐกจิ

1) ช่วยเหลอื เยียวยา และชดเชยคนยากจน 1)

กลุ่มเปราะบาง และผู้ท่ีได้รับผลกระทบ

จากโควิด-19 และภาวะวิกฤตอ่ืน ๆ

ให้ไดร้ บั การดแู ลอย่างท่ัวถึง โดยคานึงถึง

ร ะ ดั บ ข อ ง ปั ญ ห า แ ล ะ ค ว า ม ต้ อ ง ก า ร

ทแ่ี ตกต่างกันของกลุม่ เป้าหมาย 2)

2) ส่งเสริมและผลักดันให้แรงงานเข้าสู่ระบบ

ประกันสังคมเพิ่มมากขึ้น เพ่ือเสริมสร้าง

ความมน่ั คงทางรายได้

3) ส่งเสริมการจัดสวัสดิการโดยชุมชน

แบบพงึ่ ตนเอง โดยมภี าคีตา่ ง ๆ เก้ือหนุน

ตามศักยภาพ
1) พัฒนา ระ บบ รับ มือปรั บตั วต่ อโ ร ค 1)
อุบัติใหม่และโรคอุบัติซ้า ทั้งระบบ
ติ ด ต า ม ต ร ว จ ส อ บ แ ล ะ เ ฝ้ า ร ะ วั ง โ ร ค
ระบาด อุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์
ตลอดจนการจัดการภาวะฉุกเฉินทั้งวงจร 2)
และเพ่ิมขีดความสามารถในการติดตาม
ประเมินแนวโน้มโอกาสการเกิดโรคภัย
โดยเน้นใหช้ ุมชนมีส่วนร่วม

28

ปรับตวั เปล่ยี นแปลง เพื่อพรอ้ มเติบโต
(Adapt) (Transform)

) ส่งเสริมทักษะที่จาเป็นโดยเฉพาะทักษะ ค น ทุ ก ช่ ว ง วั ย ส า ม า ร ถ เ ข้ า ถึ ง โ อ ก า ส
ภาษาตา่ งประเทศ และทักษะดิจิทัล รวมถึง ในการยกระดบั และปรบั ทกั ษะความรู้และ
ทักษะท่ีสาคัญอ่ืน ๆ เช่น ทักษะการคิดเชิง ทักษะเพ่ือการพัฒนาตนเองและประกอบ
วิพากษ์ ทักษะทางการเงิน และทักษะทาง อาชพี ที่หลากหลายได้อยา่ งต่อเน่อื ง
อารมณ์ เป็นตน้

ส่งเสริมการใช้และพัฒนาระบบและกลไก 1) พัฒนาระบบความคุ้มครองทางสังคม

การช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายเพ่ือแก้ปัญหา ให้มีความบูรณาการระหว่างหน่วยงาน/

เฉพาะกลุ่มให้ตรงจุด โดยใช้ระบบข้อมูล โครงการเพื่อลดความซ้าซ้อนและเพิ่ม

และเทคโนโลยีสารสนเทศท่ีเชื่อมโยง การเกื้อกูลระหว่างกัน และเชื่อมโยง

ฐานขอ้ มลู ตา่ ง ๆ เขา้ ดว้ ยกนั ครอบคลุมคนทุกกลุ่มอย่างเหมาะสม

ริเริ่มออกแบบหลักประกันทางสังคม และสอดคล้องกบั ความยั่งยนื ทางการคลัง

ท่ีรองรับรูปแบบการทางานในอนาคต อาทิ โดยมุ่งเน้นการลงทุนเพื่อพัฒนาคุณภาพ

การจ้างแรงงานแบบช่วั คราว คนในระยะยาว

) กระจายบริการสาธารณสุขอย่างท่ัวถึง 1) ศึกษาแนวทางการปฏิรูประบบหลักประกัน
และมีคุณภาพ พร้อมทั้งใช้เทคโนโลยี สุขภาพให้มีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับ
ดิจิทัลมาช่วยในการขยายการให้บริการ การเป็นสังคมสูงวัย และอยู่บนพื้นฐาน
เพื่อลดความเหลอ่ื มลา้ ระหวา่ งพน้ื ที่ ของความยง่ั ยืนทางการคลงั
) ส่งเสริมการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน
ให้ประชาชนมีความรอบรู้ด้านสุขภาวะ
ในการจัดการดูแลสุขภาพตนเอง และ
มีความภูมิคุ้มกันท้ังร่างกายและจิตใจ

2

แนวทางการพัฒนา พรอ้ มรบั
(Cope)

3)

4. การปรับปรุงและพฒั นาปัจจยั พืน้ ฐานเพอ่ื ส่งเสรมิ การฟื้นฟแู ละพัฒนาประ
4.1 การพฒั นาโครงสรา้ ง 1) พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล 1)
พ้นื ฐานเพ่อื รองรบั การ โดยเฉพาะอินเทอร์เน็ตให้ครอบคลุม
ปรับโครงสรา้ ง ท่ัวประเทศ สามารถให้บริการประชาชน

เศรษฐกิจใหม่ อยา่ งมีคณุ ภาพและท่ัวถงึ

2) พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเชิงระบบ เช่น

ระบบบริหารจัดการข้อมูลภาครัฐ ระบบ

การบริหารจัดการงานวิจัยสู่การผลิต

เชิงพาณิชย์ และระบบการแก้ปัญหาและ

เ ยี ย ว ย า ผู้ ไ ด้ รั บ ผ ล ก ร ะ ท บ จ า ก วิ ก ฤ ต

ตา่ ง ๆ เป็นตน้

3) ช่วยเหลือประชาชนและธุรกิจรายย่อย

ใหเ้ ขา้ ถึงเทคโนโลยีดิจทิ ัล เพ่ือรับประโยชน์

จากมาตรการช่วยเหลือ บริการของรัฐ

การศกึ ษา และโอกาสทางเศรษฐกิจ
4.2 การปรบั ปรุงกฎหมาย 1) ปรับปรุงและพัฒนาฐานข้อมูลแบบ 1)
และส่งเสริมภาครัฐ บูรณาการ โดยการจัดเก็บและเชื่อมโยง

ดิจทิ ลั ข้อมูลระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ รวมถึง
ก า ร เ ปิ ด เ ผ ย แ ล ะ ใ ช้ ป ร ะ โ ย ช น์ จ า ก

ฐานข้อมูล ในการวิเคราะห์ปัญหา

ความต้องการ ศักยภาพ และวางแผน

การพัฒนาให้สอดคล้องกับบริบทเชิง

พ้ืนที่ อาทิ ฐานข้อมูลประชาชนเพื่อ

29

ปรบั ตัว เปลยี่ นแปลง เพ่ือพร้อมเตบิ โต

(Adapt) (Transform)
เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรค รวมถึง
โรคอบุ ตั ใิ หม่
) สนับสนุนสินค้าและเทคโนโลยีที่ส่งเสริม
การมีสุขภาวะทดี่ ี

ะเทศ (Enabling Factors)

) ส่งเสริมการพัฒนา ใช้ประโยชน์ และ 1) พัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐานและการใช้

ประยุกต์ใช้โครงสร้างพื้นฐานให้สอดคล้อง ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานท่ีเช่ือมโยง

กับทิศทางการพัฒนาประเทศ เช่ น ครอบคลุม และทั่วถึง เพื่อขับเคลื่อน

โครงสร้างพ้ืนฐานด้านโลจิสติกส์ท่ีสามารถ การพัฒนาประเทศสู่การเป็นศูนย์กลาง

เชื่อมโยงระหว่างพื้นที่และรองรับการ ทางเศรษฐกิจของภูมิภาค อาทิ ศูนย์กลาง

เติบโตของเศรษฐกิจท้องถ่ิน รวมถึงการ การให้บริการโลจิสติกส์ การค้าและ

ปรับตัวของโรงแรมท่ีเคยมีเป้าหมายเพื่อ การลงทนุ

รองรับนักท่องเท่ียวจานวนมาก ให้เป็น

สถานท่พี ักผ่อนดูแลผู้สูงอายุแบบระยะยาว

หรอื สถานทพี่ ัฒนาฝีมอื แรงงาน เป็นต้น

) นาเทคโนโลยดี ิจทิ ลั มาใช้ในการให้บริการ 1) ปรับปรุงกฎหมาย กฎระเบียบ ข้อบังคับ
ประชาชน อาทิ กลไกเพื่อช่วยเหลือ และมาตรการต่าง ๆ ให้ส่งเสริมการแข่งขัน
กลุ่มเป้าหมาย และระบบเตรียมความ ไม่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาโครงสร้าง
พร้อมด้านการจัดการสาธารณภัย เศรษฐกิจ สอดคล้องกับบริบท และเอ้ือต่อ
เพือ่ บรกิ ารที่รวดเร็วและมีประสทิ ธภิ าพ การพัฒนาประเทศ

2) ริเริ่มดาเนินการปฏิรูปการจัดเก็บรายได้
ของรัฐท้ังระบบ ท้ังรายได้จากภาษีและ
การบริหารจัดการทรัพย์สิน ควบคู่ไปกับ

แนวทางการพฒั นา 3

พรอ้ มรบั
(Cope)

พัฒนาคุณภาพชีวิตคนในพ้ืนที่ และ
ฐ า น ข้ อ มู ล ท รั พ ย า ก ร ธ ร ร ม ช า ติ เ พื่ อ
พัฒนาการผลติ

4.3 การพฒั นาองคค์ วามรู้ 1) ส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากงานวิจัย 1)
และนวัตกรรม
และนวัตกรรมในประเทศ เพื่อสร้าง

มูลค่าเพิ่มทางธุรกิจโดยเฉพาะ SMEs

และวิสาหกิจชุมชน และยกระดับ

คุณภาพชวี ติ ของประชาชน 2)

4.4 การเสริมสร้างความ 1) ส่งเสริมการบรรเทาภาวะวิกฤตด้วยการใช้ 1)
มั่นคงและการบริหาร ฐานขอ้ มูล เทคโนโลยี และนวตั กรรม เพ่ือให้
จัดการความเสย่ี ง สามารถตอบสนองความต้องการผปู้ ระสบภยั
อย่างรวดเรว็ ท่ัวถึงและเป็นธรรม

30

ปรับตัว เปลย่ี นแปลง เพ่ือพร้อมเติบโต

(Adapt) (Transform)

การเพิ่มประสิทธิภาพของการจัดสรรและ

ใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อให้มีงบประมาณ

เพยี งพอตอ่ การฟืน้ ฟแู ละพฒั นาประเทศ

3) พัฒนาโครงสร้างระบบและมาตรการ

ทางภาษีให้มีความเสมอภาคและเป็นธรรม

ยกระดับเศรษฐกิจฐานราก รวมถึงส่งเสริม

และไม่เป็นอปุ สรรคต่อการพฒั นาเศรษฐกิจ

4) ปรับโครงสร้างและวิธีปฏิบัติราชการให้

มีความยืดหยุ่น คล่องตัว มีความบูรณาการ

เชื่อมโยงระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

เพื่อเพ่ิมประสิทธิภาพในการทางานท่ียึด

ภารกจิ หรือพน้ื ทเ่ี ปน็ พน้ื ฐาน และสามารถ

ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงได้อย่าง

เทา่ ทัน

) ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม 1) แก้ไขกฎระเบียบท่ีเป็นอุปสรรคต่อ

ที่ตอบโจทย์ความตอ้ งการของภาคเกษตร การผลิตงานวิจัยและนวัตกรรม เพิ่ม

อุตสาหกรรม และบริการเป้าหมาย จานวนและคุณภาพบุคลากร และพัฒนา

ที่สามารถใชป้ ระโยชน์เชงิ พาณชิ ย์ได้จริง โครงสร้าง พื้นฐานด้านการวิจัยเพื่อ

เสริมสร้างกลไกความร่วมมือในการวิจัย ส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง

และพัฒนาและร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐ การวิจัยและพัฒนานวัตกรรมท่ีสนับสนุน

เอกชน ภาควิชาการ และระบบการเงิน ภาคการผลิตเป้าหมายในระดับภมู ิภาค

ในการพัฒนาและประยุกต์ใช้องค์ความรู้

และนวตั กรรม

พัฒนาระบบการเตรียมความพร้อมด้าน 1) เปิดโอกาสให้ท้องถิ่นมีส่วนร่วมใน

การจัดการภาวะวิกฤตให้มีประสิทธิภาพ การ บริหารจัดการความเส่ียงในพื้นที่ของ

โดยการบูรณาการระบบการจัดการ ตนเอง ตั้งแต่การพัฒนาระบบเฝ้าระวัง

ในภาวะฉุกเฉินให้มีเอกภาพ สามารถ และเตือนภัยล่วงหน้า การจัดการภาวะ

3

แนวทางการพฒั นา พรอ้ มรับ
(Cope)

2)

4.5 การสง่ เสริมการมี 1) ผลักดันให้เกิดการบูรณาการความร่วมมือ 1)
ส่วนร่วมของเครอื ขา่ ย ระหว่างหน่วยงานของรัฐ ภาคเอกชน
และภาคีการพฒั นา ภาคประชาชน และภาคีการพัฒนาอ่ืน ๆ
ทั้งในและต่างประเทศในการทางาน
ร่ ว ม กั น เ พื่ อ ใ ห้ แ ผ น แ ม่ บ ท เ ฉ พ า ะ กิ จ
ภายใตย้ ทุ ธศาสตร์ชาติฯ บรรลุเป้าหมาย
อยา่ งเปน็ รปู ธรรม

2) สนบั สนุนการมีสว่ นร่วมของภาคประชาชน
ในพ้นื ที่และภาคสว่ นอื่น ๆ ในสังคม เพื่อ
ช่วยติดตามตรวจสอบ และเสนอแนะ
แนวทางการฟ้ืนฟูและพัฒนาประเทศ
โดยการใช้แพลตฟอร์มและช่องทางการ
ส่อื สารตา่ ง ๆ ท่ีประชาชนสามารถเข้าถึงได้


Click to View FlipBook Version