แผนปฏิบัติการพฒั นาการทอ่ งเท่ยี ว
ภายในเขตพัฒนาการทอ่ งเทย่ี วอันดามัน
พ.ศ. 2563 - 2565
บทที่ 1
หลกั การ แนวคิด และกระบวนการจดั ทาแผน
1.1 ความเปน็ มาและการประกาศเขตพฒั นาการท่องเทีย่ ว
พระราชบัญญัตินโยบายการท่องเท่ียวแห่งชาติ 2551 มาตรา 10 (4) ให้คณะกรรมการ
นโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติมีอานาจหน้าท่ีดาเนินการเพื่อใ ห้มีการกาหนดเขตพัฒนาการท่องเที่ยว
และมาตรา 17 เพ่ือประโยชน์ในการรักษา ฟ้ืนฟูแหล่งท่องเที่ยว หรือการบริหารและพัฒนาการท่องเท่ียวให้
สอดคลอ้ งกบั แผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติ คณะกรรมการอาจกาหนดให้เขตพื้นที่ใดเป็นเขตพัฒนาการท่องเท่ียว
ท้ังนี้ให้มี การรับฟังความคิดเห็นและความต้องการของชุมชนในพ้ืนที่เพื่อประกอบการพิจารณาด้วย เขตพัฒนา
การทอ่ งเท่ียวจะกาหนดเปน็ กลุม่ จังหวดั จังหวัด และพ้นื ทีเ่ ฉพาะก็ได้โดยให้ออกเปน็ กฎกระทรวง
ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการท่องเท่ียวแห่งชาติ คร้ังท่ี 2/2555 เมื่อวันที่ 9
พฤศจิกายน 2555 ได้เห็นชอบประกาศคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติเร่ืองหลักเกณฑ์ วิธีการ และ
เงอ่ื นไขในการกาหนดเขตพฒั นาการทอ่ งเทีย่ ว 2555 และประธานกรรมการนโยบายการท่องเท่ียวแห่งชาติได้ลงนาม
ในประกาศฯ เมื่อวันท่ี 11 ธันวาคม 2555 ซึ่งนาไปสู่กระบวนการกาหนดเขตพัฒนาการท่องเที่ยว โดยได้มี
การกาหนดเขตพัฒนาการท่องเท่ียวนาร่อง 5 กลุ่มท่องเท่ียว ตามประกาศคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยว
แห่งชาติประกอบด้วย (1) กลุ่มท่องเท่ียวอารยธรรมล้านนา (2) กลุ่มท่องเท่ียว Active Beach (3) กลุ่มท่องเท่ียว
อารยธรรมอีสานใต้ (4)กลุ่มท่องเที่ยว Royal Coast (5) กลุ่มท่องเที่ยวอันดามัน ได้มีการสารวจความคิดเห็น
ความต้องการของชุมชนและผู้แทนหน่วยงาน 18 กลุ่มจังหวัด ในปี 2556 ซ่ึงเป็นผลสารวจความเห็นคิด พบว่า
ร้อยละ 70 เห็นด้วยกับการกาหนดเป็นเขตพัฒนาการท่องเท่ียว เน่ืองจากแต่ละจังหวัดภายในกลุ่มท่ีมีลักษณะ
การทอ่ งเทย่ี วทีค่ ล้ายคลึงกนั สามารถหาจดุ เดน่ รว่ มกันเพื่อพัฒนาเป็นจุดขาย เพ่ือพัฒนาเส้นทางท่องเท่ียวเช่ือมโยงกัน
ช่วยสร้างรายได้และความเข้มแข็งในกลุ่มช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในแต่ละจังหวัดของประเทศ อย่างไรก็ตามมี
บางจังหวัดเห็นว่าควรมีการจัดแบ่งกลุ่มจังหวัดใหม่ เน่ืองจากแต่ละจังหวัดมีลักษณะจุดเด่นด้านการท่องเท่ียวท่ี
แตกต่างกันทิศทางการพัฒนาอาจไม่ตรงกัน การท่ีมีจังหวัดภายในกลุ่มเป็นจานวนมากอาจไม่คล่องตัวในการบริหาร
จดั การและการจัดสรรงบประมาณ
ผลการศึกษาดังกล่าวได้นาเสนอในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติคร้ังท่ี
1/2557 เมื่อวันท่ี 25 กรกฎาคม 2557 ซ่ึงได้มีมติเห็นชอบกาหนดกลุ่มจังหวัดท่องเท่ียวที่มีศักยภาพ 5 กลุ่มเป็น
เขตพัฒนาการท่องเท่ียวนาร่อง 5 เขต จากน้ันได้มีการเสนอให้คณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาโดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติ
เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2557 อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกาหนดเขตพัฒนาการท่องเท่ียว พ.ศ. ... และ
กฎกระทรวงกาหนดเขตพัฒนาการท่องเทย่ี ว 2558 ได้ประกาศในราชกจิ จานุเบกษาเลม่ 132 ตอนท่ี 22 เม่ือวันท่ี
27 มีนาคม 2558 โดยกาหนดเขตท้องทีใ่ นจังหวัดตา่ งๆ เป็นเขตพัฒนาการทอ่ งเทีย่ ว
คณะรัฐมนตรไี ดม้ ีมติอนมุ ัติหลักการรา่ งกฎกระทรวงกาหนดเขตพฒั นาการท่องเท่ียวเพ่ิมเติม 3 เขต
พ.ศ. .... ได้แก่ (1) เขตพฒั นาการท่องเท่ยี วมรดกโลกด้านวัฒนธรรม (2) เขตพัฒนาการท่องเที่ยววิถีชีวิตลุ่มแม่น้าโขง
(3) เขตพัฒนาการทอ่ งเที่ยววถิ ชี ีวติ ล่มุ แม่น้าเจา้ พระยาตอนกลาง ตามที่กระทรวงการท่องเท่ียวและกีฬาเสนอ และให้
ส่งสานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเมื่อวันท่ี 8 ธันวาคม 2558ได้ประกาศราชกิจจานุเบกษา
เมอื่ วนั ท่ี 12 พฤษภาคม 2559
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกาหนดเขตพัฒนาการท่องเที่ยวหมู่เกาะทะเลใต้
(เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า และหมูเ่ กาะอา่ งทอง) พ.ศ. .... ตามท่ีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ และให้ส่ง
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเมื่อวันท่ี 11 กรกฏาคม 2560ได้ประกาศราชกิจจานุเบกษา
เมือ่ วนั ที่1 พฤศจกิ ายน 2560
-1-
ตารางท่ี 1.1 สรปุ เขตพฒั นาการทอ่ งเทย่ี วท่ปี ระกาศในราชกจิ จานเุ บกษา
วนั ทป่ี ระกาศราช เขตพัฒนาการทอ่ งเทย่ี ว จังหวัด ศูนยป์ ฏิบัตกิ าร
กิจจานเุ บกษา จงั หวัดเชียงใหม่
เชียงใหม่ เชียงราย ลาพนู ลาปาง จังหวัดชลบุรี
เขตพัฒนาการท่องเทย่ี ว และพะเยา จงั หวัดนครราชสีมา
อารยธรรมลา้ นนา ชลบรุ ี ระยอง จนั ทบุรี และตราด จังหวัดเพชรบุรี
จังหวัดภูเก็ต
เขตพัฒนาการท่องเทยี่ ว นครราชสีมา บุรรี มั ย์ สรุ ินทร์ ศรีสะเกษ จังหวดั สโุ ขทยั
ฝั่งทะเลตะวนั ออก และอบุ ลราชธานี จังหวัดหนองคาย
วนั ที่ 27 มนี าคม เขตพฒั นาการท่องเทย่ี ว เพชรบรุ ี ประจวบคีรีขันธ์ ชมุ พร จังหวัด
พ.ศ.2558 อารยธรรมอีสานใต้ และระนอง พระนครศรอี ยธุ ยา
ภเู กต็ กระบ่ี พงั งา ตรังและสตูล จงั หวัดสุราษฎรธ์ านี
เขตพฒั นาการท่องเท่ียว
ฝง่ั ทะเลตะวนั ตก สุโขทยั ตาก กาแพงเพชร และพิษณโุ ลก
เขตพฒั นาการท่องเทย่ี ว หนองคาย เลย บงึ กาฬ มุกดาหาร และ
อนั ดามนั นครพนม
พระนครศรีอยุธยา สิงหบ์ รุ ี อ่างทอง
เขตพัฒนาการท่องเท่ียว ปทมุ ธานี และนนทบรุ ี
มรดกโลกดา้ นวัฒนธรรม
วันท่ี 12 เขตพฒั นาการท่องเทีย่ ว เกาะสมยุ เกาะพะงนั เกาะเต่า และหมู่
พฤษภาคม วถิ ีชีวติ ลุ่มแมน่ าโขง เกาะอา่ งทอง
พ.ศ. 2559 เขตพฒั นาการท่องเที่ยว
วิถีชีวติ ลุ่มแมน่ าเจา้ พระยา
ตอนกลาง
วันที่ 11 ตุลาคม เขตพฒั นาการท่องเที่ยว
พ.ศ. 2560 หมเู่ กาะทะเลใต้
1.2 กระบวนการแนวคิดในการดาเนินงานและวธิ ีการจัดทาแผนปฏิบัติการ
(1)ภายหลังการออกกฎกระทรวงกาหนดเขตพัฒนาการท่องเที่ยว 2558 รัฐมนตรีว่าการกระทรวง
การท่องเท่ียวและกีฬาได้ลงนามในคาสั่งแต่งต้ังคณะกรรมการพัฒนาการท่องเท่ีย วประจาเขตพัฒนาการท่องเที่ยว
อันดามันตามประกาศคณะกรรมการนโยบายการท่องเท่ียวแห่งชาติ เร่ือง หลักเกณฑ์และวิธีการและการประชุม
คณะกรรมการพัฒนาการทอ่ งเทีย่ วประจาเขตพัฒนาการท่องเท่ยี ว 2557 โดยมผี ู้วา่ ราชการจังหวัดภูเก็ตเป็นประธาน
กรรมการ และท่องเท่ียวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต เป็นกรรมการและเลขานุการเพื่อจัดทาแผนปฏิบัติการพัฒนา
การท่องเทีย่ วภายในเขตพฒั นาการท่องเทยี่ ว
(2 )คณะกรรมการพัฒนาการท่องเที่ยวประจาเขตพัฒนาการท่องเท่ียวอันดามันได้จัดประชุมคร้ังท่ี
1/2558 เมื่อวันท่ี 29 พฤษภาคม 2558 โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเท่ียวและกีฬาผู้บริหารกระทรวง
การท่องเที่ยวและกีฬาได้เข้าร่วมประชุมและมอบนโยบายให้กับคณะกรรมการ ท้ังน้ีสาระสาคัญของการประ ชุม
เพอ่ื ทาความเข้าใจบทบาทหน้าที่ และพจิ ารณาแนวทางการดาเนนิ งานของคณะกรรมการ โดยท่ีประชุมเห็นชอบจะนา
ผลการศึกษา “แผนพัฒนาการท่องเที่ยว 5 เขตพัฒนาการท่องเที่ยว 2559 - 2563” ท่ีกระทรวงการท่องเที่ยว
และกีฬาได้จัดทาไปใช้เป็นกรอบแนวทางในการจัดทาแผนปฏิบัติการพัฒนาการท่องเที่ยวในเขตพัฒนาการท่องเท่ียว
อันดามันพร้อมท้ังเห็นชอบให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการจัดทาแผนปฏิบัติการพัฒนาการท่องเที่ยวโดยมีกระบวนการ
และขั้นตอนในการจัดทาแผนปฏบิ ัตกิ ารพฒั นาการท่องเทยี่ วประจาเขตพัฒนาการท่องเที่ยว
-2-
ภาพที่ 1.1 กระบวนการการจัดทาแผนพัฒนาการทอ่ งเที่ยว9เขตพัฒนาการทอ่ งเท่ียว
การศึกษาขอ้ มูลทตุ ิยภมู ิ การคดั เลือกกลุ่มทอ่ งเที่ยวที่มศี ักยภาพ
ภาพรวมการท่องเที่ยว กรณีตัวอย่างหรือประเทศทีม่ ี การสัมภาษณ์เชงิ ลึก การประชุมกล่มุ ยอ่ ย
ภาคีท่ีเกย่ี วข้อง ภาคีท่ีเก่ียวข้อง
ของไทยและ การกาหนดเขตพัฒนา
เขตพฒั นาการท่องเท่ียว การทอ่ งเที่ยวและเมอื ง
ท่องเที่ยว
การสารวจพืนท่ที ีไ่ ดร้ บั การคดั เลือก การประเมนิ ศักยภาพ
การประชุมภาคีที่เกีย่ วข้อง
- เกบ็ รวบรวมข้อมูล
- ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น
- ตรวจสอบข้อมูลโดยผ้เู ชย่ี วชาญ
การจัดทาแผนพัฒนาการท่องเท่ียว แผนปฏบิ ตั ิการพัฒนาการทอ่ งเที่ยว
และแผนปฏบิ ัติ
(วสิ ัยทศั น์/พนั ธกจิ /เป้าประสงค์/ยุทธศาสตร์/
การประชมุ กลมุ่ ย่อย ตรวจสอบร่างแผนฯ แผนงาน/โครงการที่สาคญั )
ภาคที ่ีเก่ียวข้อง
(3) แผนปฏิบัติการพัฒนาการท่องเท่ียว ภายในเขตพัฒนาการท่องเท่ียวอันดามัน พ.ศ. 2559-
2563 ไดส้ น้ิ สุดลงในปี พ.ศ. 2563 สานกั งานการท่องเทีย่ วและกีฬาจังหวัดภูเก็ต ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการ
พัฒนาการท่องเท่ียว ประจาเขตพัฒนาการท่องเที่ยวอันดามัน ได้ดาเนินการพิจารณาจัดทาแผนปฏิบัติการฯร่วมกับ
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) และมีการประชุมเชิงปฏิบัติการคณะทางานทบทวนและจัดทาแผนปฏิบัติ
การพัฒนาการท่องเที่ยว ภายในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวอันดามัน พ.ศ. 2563-2565 ระหว่างวันที่ 14 -15
สิงหาคม พ.ศ.2562เพื่อปรับปรุงแผนปฏิบัติการฯ และนาเสนอต่อคณะกรรมการพัฒนาการท่องเท่ียว ประจาเขต
พัฒนาการท่องเที่ยวอนั ดามัน
(4) การประชุมคณะกรรมการพัฒนาการท่องเที่ยว ประจาเขตพัฒนาการท่องเท่ียวอันดามัน คร้ังท่ี
1/2563 เมื่อวันที่ 20 มกราคม พ.ศ.2563 ท่ีประชุมมีมติให้สานักงานการท่องเท่ียวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต
จัดประชุมคณะทางานทบทวนและจัดทาแผนปฏิบัตกิ ารพฒั นาการท่องเท่ียว ภายในเขตพัฒนาการท่องเท่ียวอันดามัน
พ.ศ. 2563 - 2565 ร่วมกับผู้ประกอบการและหน่วยงานที่เก่ียวข้องของทุกจังหวัดในเขตพัฒนาการท่องเที่ยว
อันดามันเพื่อปรับปรุงแผนอีกครั้งและสานักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ตได้แจ้งเวียนหนังสือเพื่อรับ
ข้อเสนอแนะการปรับปรุงแผนปฏิบัติการฯ ให้แก่คณะทางานทบทวนและจัดทาแผนปฏิบัติการฯ และหน่วยงาน
ท่ีเกี่ยวข้อง เนื่องจากไม่สามารถจัดการประชุมได้ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด 1 9 ซึ่งสานักนักงาน
การท่องเทย่ี วและกฬี าจังหวัดภเู กต็ ได้ปรับปรุงแผนฯ ตามข้อเสนอแนะดังกลา่ วเรยี บร้อยแลว้
-3-
ภาพท่ี 1.2 ขนั ตอนในการจัดทาแผนปฏบิ ัตกิ าร
ข้ันตอนการดาเนนิ งานการจดั ทาแผนปฏิบัติการ
คณะกรรมการพฒั นาการท่องเที่ยว ศึกษาทบทวนแผนพัฒนาการทอ่ งเท่ยี ว
ประจาเขตพฒั นาการท่องเทย่ี วอนั ดามัน 9 เขตพัฒนาการทอ่ งเทยี่ ว
ประชุมจัดทาแผนงาน
แตง่ ตั้งคณะอนกุ รรมการ ประชมุ จัดลาดบั ความสาคัญ
จัดทาแผนปฏิบตั กิ ารพัฒนาการทอ่ งเที่ยว ของแผนงานโครงการ
จดั ทาเกณฑก์ ารจัดลาดบั ความสาคัญโครงการ ปรบั ปรุงโครงการสาคัญ
ยกร่างแผนปฏบิ ตั ิการพัฒนาการท่องเทย่ี ว
ภายในเขตพัฒนาการท่องเทีย่ ว
เสนอคณะกรรมการพฒั นาการท่องเทย่ี ว
ประจาเขตพฒั นาการท่องเที่ยว
พจิ ารณาให้ความเหน็ ชอบ
เสนอคณะอนกุ รรมการกลน่ั กรองแผนปฏิบตั ิ
การพฒั นาการทอ่ งเท่ียว
เสนอคณะกรรมการนโยบายการทอ่ งเทย่ี ว
แห่งชาตพิ ิจารณาอนุมัติ
ประกาศในราชกจิ จานุเบกษา
-4-
บทท่ี 2
สถานการณแ์ ละทิศทางการท่องเท่ียวในเขตพัฒนาการท่องเท่ียวอนั ดามัน
2.1 สถานการณ์การทอ่ งเที่ยว
สถานการณ์การท่องเท่ียวของกลุ่มจังหวัดในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวอันดามันมีแนวโน้มการเติบโต
ของนักท่องเท่ียวอย่างต่อเนื่อง แต่จะมีความแตกต่างกันของจานวนและประเภทของนักท่องเที่ยวเม่ือพิจารณาจาก
ตวั เลขสถติ นิ กั ทอ่ งเท่ยี วพบวา่ ในปี 2560 -2561 สามารถแบง่ กลุ่มโดยใช้ประเภทของนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ
ใน 5 จงั หวดั ของเขตพัฒนาการท่องเที่ยวอนั ดามันออกเป็น 2 สว่ นจานวนนักท่องเท่ียวไทยและต่างชาติ จังหวัดภูเก็ต
กระบี่และพังงามีจานวนนักท่องเท่ียวต่างชาติมากกว่าร้อยละ 80 ส่วนจังหวัดตรังและสตูลมีจานวนนักท่องเที่ยว
ต่างชาติกว่าร้อยละ 70
เมื่อพิจารณาจากจานวนนักท่องเท่ียวรายจังหวัดพบว่าภูเก็ตเป็นจังหวัดท่ีมีนักท่องเที่ยวมากท่ีสุด
โดยในปี 2561 มีนักท่องเท่ียวเดินทางเข้ามาจานวน 14,409,212 คน เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ จานวน
10,351,308 คน นักท่องเที่ยวชาวไทย 4,057,904 คน รองลงมา คือ จังหวัดกระบี่มีนักท่องเท่ียวจานวน
6,766,858 คน นักท่องเท่ียวชาวตา่ งชาติ 4,236,323 คน นักท่องเที่ยวชาวไทย 2,530,535 คน จังหวัดพังงามี
นักท่องเที่ยวจานวน 4,868,330 คน นักท่องเท่ียวชาวต่างชาติ 3,458,584 คน นักท่องเที่ยวชาวไทย
1,409,746 คน จังหวัดตรังมีนักท่องเที่ยวจานวน1,578,906 คน นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 198,079 คน
นักท่องเที่ยวชาวไทย 1,380,827 คน และจังหวัดสตูลมีนักท่องเที่ยวจานวน1,519,352คนนักท่องเที่ยว
ชาวต่างชาติ 180,477 คน นกั ท่องเทยี่ วชาวไทย 1,338,875 คน ตามลาดับ
จากการศึกษาจานวนผเู้ ยี่ยมเยอื นจะเหน็ ได้ว่าจังหวัดภูเก็ต กระบี่ และพังงาถือเป็นจังหวัดท่องเที่ยว
หลักของเขตพัฒนาการท่องเท่ียวอันดามันรวมถึงในระดับประเทศ เพราะเป็นเมืองท่องเท่ียวท่ีมี่ช่ือเสียงในระดับโลก
และเป็นท่ีรู้จักของนักท่องเที่ยวต่างชาติ อย่างไรก็ตามจังหวัดพังงายังมีจานวนนักท่องเที่ยวไม่มากนักเมื่อเทียบกับ
จังหวัดภูเก็ตและกระบ่ี ในขณะที่จังหวัดตรังและสตูลแม้ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนักในตลาดต่างประเทศแต่มี
แหล่งท่องเท่ียวที่นักท่องเท่ียวต่างชาติรู้จักในนามของจุดหมายปลายทางทางการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ คือ เกาะหลีเป๊ะ
ซึ่งเป็นที่รู้จักดีในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยและการท่องเท่ียวมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่องเนื่องจาก
มีแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ท่ีกาลังได้รับการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องและมีผลิตภัณฑ์ท่องเที่ยวท่ีอยู่ความนิยมของ
ตลาดตา่ งประเทศดว้ ยเช่นกัน
-5-
ตารางที่ 2.1 จานวนนักทอ่ งเที่ยวชาวไทยในเขตพัฒนาการทอ่ งเท่ียวอันดามนั พ.ศ. 2561
4,500,000 4,057,904
4,000,000 2,530,535
3,500,000 1,409,746 1,380,827 1,338,875
3,000,000
2,500,000 ภเู ก็ต กระบ่ี พงั งา ตรงั สตลู
2,000,000
1,500,000
1,000,000
500,000
0
ที่มา : กองเศรษฐกจิ การท่องเท่ยี วและกฬี า กระทรวงการทอ่ งเทีย่ วและกฬี า
ตารางท่ี 2.2 จานวนนกั ท่องเที่ยวชาวต่างชาติในเขตพัฒนาการท่องเท่ยี วอันดามัน พ.ศ. 2561
12,000,000 10,351,308
10,000,000
8,000,000
6,000,000 4,236,323 3,458,584
4,000,000
2,000,000
198,079 180,477
0
ภเู ก็ต กระบี่ พงั งา ตรงั สตลู
ทมี่ า : กองเศรษฐกจิ การทอ่ งเทย่ี วและกฬี า กระทรวงการทอ่ งเท่ียวและกฬี า
-6-
ข้อมูลการตลาดนักท่องเท่ียวของเขตพัฒนาการท่องเท่ียวอันดามันจากการสารวจและเก็บข้อมูลผู้พักแรม
โดยแบ่งตามสญั ชาติโดยการทอ่ งเท่ียวแห่งประเทศไทยพบว่าตลาดนักท่องเที่ยวของเขตพัฒนาการท่องเท่ียวอันดามัน
ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวที่มาจากภูมิภาคเอเชียตะวันออก รองลงมาเป็นภูมิภาคเอเชียและยุโรปตามลาดับสังเกตได้
ว่าจังหวัดภูเก็ตมีความหลากหลายของกลุ่มท่องเท่ียวเน่ืองจากเป็นเมืองท่องเที่ยวท่ีมีสินค้าท่องเท่ียวหลากหลาย
รูปแบบเป็นที่ดึงดูดของตลาดในหลายกลุ่มในขณะที่จังหวัดอ่ืนๆเน้นรูปแบบการท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจอย่างสงบ
ท่ามกลางธรรมชาติซ่ึงเป็นที่ช่ืนชอบของนักท่องเท่ียวกลุ่มตลาดยุโรป อย่างไรก็ตามในปี 2560 และ2561
เขตพัฒนาการท่องเท่ียวอันดามันได้มีนักท่องเท่ียวกลุ่มใหม่หล่ังไหลเข้ามามากคือ นักท่องเที่ยวจากประเทศจีน
รัสเซียและเยอรมนีซึ่งมีบทบาทอย่างย่ิงต่อการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ด้านการท่องเท่ียวตลอดจนแนวทาง
การพฒั นาการทอ่ งเทีย่ วของเขตพัฒนาการท่องเท่ยี วอนั ดามนั
เขตพัฒนาการท่องเท่ียวอันดามันมีฐานทรัพยากรการท่องเท่ียวท่ีหลากหลายและมีศักยภาพสูง
โดยเฉพาะทรัพยากรการท่องเที่ยวทางทะเลที่มีชื่อเสียงติดอันดับโลกและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวระดับ
นานาชาติจึงควรรักษาช่ือเสียงและเพิ่มมนต์เสน่ห์ด้วยการเพิ่มกิจกรรมท่องเท่ียวรูปแบบใหม่ๆโดยเฉพาะการเพ่ิม
บทบาท “Smart City” ของจังหวัดภูเก็ตสู่การเป็น “ฐานอุตสาหกรรมความรู้” พัฒนาคุณภาพมาตรฐานบริการ
ด้านการแพทย์และการพยาบาลตลอดจนพัฒนาสิ่งอานวยความสะดวกสาหรับธุรกิจ MICE และ Marina เพื่อเสริม
บทบาทด้านการเป็น “เมืองนันทนาการ” เพ่ิมจุดขายแก่กลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีรายได้สูงรวมท้ังการพัฒนา
จังหวัดพังงาให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวแบบ Long Stay จังหวัดกระบ่ีเป็นแหล่งท่องเท่ียวอนุรักษ์คุณภาพสูง
จังหวัดตรังเป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และจังหวัดสตูลเป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงนิเวศชั้นนาของภาคใต้ เศรษฐกิจ
มั่นคง สังคมมีคุณภาพ ด้วยการมีจุดเด่นธรรมชาติทั้งป่าไม้ชายทะเลและเกาะ ด้วยการพัฒนาระบบสาธารณูปโภค
สาธารณูปการให้เพียงพอได้มาตรฐานโดยเฉพาะระบบประปา ระบบขนส่งสาธารณะและการควบคุมมลภาวะ
ดา้ นสง่ิ แวดล้อม เปน็ ต้น เพอ่ื เสริมบทบาทสูก่ ารเป็นเมอื งทอ่ งเที่ยวชน้ั นาของโลก ท้งั นก้ี ระทรวงการท่องเท่ียวและกีฬา
ได้วางแผนกาหนดศักยภาพของพ้ืนที่ท่องเที่ยวโดยวิเคราะห์จากDemand Side (จานวนและรายได้จาก
การท่องเท่ียว) Supply Side (โครงสร้างพ้ืนฐาน) เพื่อกาหนดแหล่งท่องเท่ียวท่ีมีศักยภาพเป็น 3 กลุ่ม
คอื H (ศักยภาพสงู ) M (ศักยภาพปานกลาง) L (ศักยภาพต่า) โดยจังหวัดในเขตพัฒนาการท่องเท่ียวอันดามันติดอยู่ใน
กลมุ่ ทม่ี ีศกั ยภาพในการทอ่ งเทยี่ วสูง3 จังหวัดคือจงั หวดั ภเู ก็ตกระบแ่ี ละพังงา
ส่วนจังหวัดตรังและสตูลอยู่ในกลุ่มที่มีศักยภาพในการท่องเที่ยวปานกลางค่อนข้างสูงตามลาดับ
ตวั เลขสถิติมลู คา่ ผลิตภณั ฑ์ข้างตน้ สามารถสะท้อนศกั ยภาพของเขตพฒั นาการท่องเทยี่ วอันดามันเพียงส่วนหน่ึงเท่าน้ัน
ปจั จยั พื้นฐานทสี่ าคญั คอื ความโดดเด่นเอกลักษณ์ของมรดกธรรมชาติในพื้นท่ีท่ีมีความสวยงามตั้งแต่ท้องทะเลถึงภูเขา
สูง มีศิลปวัฒนธรรมท่ีหลากหลายตามประวัติศาสตร์มีความเจริญรุ่งเรืองในอดีตท่ีมีการผสมผสานทางอารยธรรม
ระหว่างพุทธ-พราหมณ์-จีน-อิสลามซึ่งสามารถสร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติโดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยว
ทีม่ รี ายไดส้ งู และยังคงมแี นวโน้มเติบโตอย่างต่อเน่ือง
อย่างไรก็ตามการท่องเท่ียวมีอัตราการเติบโตที่เพิ่มมากขึ้นดังข้อมูลเป็นข้อมูลนักท่องเท่ียว
ใ น 5จั ง ห วั ด ข อ ง เ ข ต พั ฒ น า ก า ร ท่ อ ง เ ท่ี ย ว อั น ด า มั น ใ น ปี 25 6 0 -2 5 6 1 โ ด ย แ ย ก ร ะ ห ว่ า ง นั ก ท่ อ ง เ ท่ี ย ว ช า ว ไ ท ย
และต่างชาติสามารถแบ่งกลุ่มจังหวัดออกเป็น 2 กลุ่มคือกลุ่มจังหวัดที่นักท่องเท่ียวเป็นชาวต่างชาติมากกว่าคนไทย
ได้แก่จังหวัดภูเก็ตกระบ่ีและพังงาส่วนอีกกลุ่มจังหวัดคือจังหวัดตรังและสตูลซึ่งเป็นจังหวัดท่ีนักท่องเที่ยว
ชาวไทยเดนิ ทางมาเยอื นมากกว่าตา่ งชาติ
-7-
ตารางที่ 2.3 จานวนรายได้จากการท่องเท่ียวของเขตพัฒนาการทอ่ งเที่ยวอนั ดามนั พ.ศ. 2559-2561
รายได้
จังหวดั รายได้ปี 2559 (ล้านบาท) รายได้ปี 2560 (ล้านบาท) รายไดป้ ี 2561 (ลา้ นบาท)
รวม ไทย ตา่ งชาติ รวม ไทย ตา่ งชาติ รวม ไทย ต่างชาติ
ภูเก็ต 377,878.09 43,991.21 333,886,388 423,012.85 48,111.24 374,901.61 449,100.73 51,850.72 397,250.01
46,758.39 5,719.31 41,039.08
พังงา 42,619.49 5,187.61 37,431.88 105,029.06 36,569.38 68,459.68 52,014.56 6,339.19 45,675.37
8,168.70 7,378.05
กระบ่ี 88,493.80 31,659.27 56,834.53 9,028.01 7,423.38 790.65 115,176.70 39,773.26 75,403.44
1,604.63
สตูล 7,560.00 6,838.68 721.32 8,822.00 7,916.31 905.69
ตรัง 8,347.01 6,890.69 1,456.32 9,745.85 7,993.50 1,752.35
ทมี่ า : กองเศรษฐกิจการท่องเท่ียวและกีฬา
ตารางท่ี 2.4 จานวนวันพกั เฉลย่ี ของนกั ท่องเที่ยวในเขตพฒั นาการทอ่ งเท่ยี วอนั ดามัน พ.ศ. 2559-2561
จังหวัด ปี 2559 วันพักเฉลี่ย ตา่ งชาติ ปี 2561
รวม ไทย ต่างชาติ ปี 2560 4.92 รวม ไทย ตา่ งชาติ
6.59 4.18 2.72 4.73
ภูเกต็ 4.34 2.75 4.94 รวม ไทย 4.73 5.27 2.42 6.61
4.34 2.76 2.55 4.41 4.12 4.66
พังงา 5.32 2.00 6.63 5.28 2.45 3.05 2.70 2.73 2.51
4.45 4.14 2.38 2.29 3.02
กระบี่ 4.51 4.16 4.81 2.78 2.80
2.42 2.33
สตูล 2.82 2.84 2.59
ตรงั 2.42 2.33 3.02
ที่มา : กองเศรษฐกจิ การทอ่ งเท่ยี วและกีฬา
อย่างไรก็ตามในพื้นท่ียังมีปัญหาสาคัญที่ส่งผลต่อการพัฒนาการท่องเที่ยวในอนาคตโดยปัญหา
และประเดน็ สาคัญในการพัฒนาการทอ่ งเที่ยวเขตพฒั นาการท่องเทย่ี วอนั ดามนั สรปุ ไดด้ ังน้ี
1. ปัญหาเรื่องการจัดการทรัพยากรและการสร้างคุณค่าให้กับทรัพยากรการท่องเท่ียวของ
เขตพฒั นาการทอ่ งเที่ยวอนั ดามัน
2. ปัญหาเกี่ยวกับความพร้อมของส่ิงอานวยความสะดวกและการรองรับนักท่องเท่ียวจังหวัดภูเก็ต
และจังหวัดกระบ่ี
3. ปัญหาด้านศักยภาพของแรงงานการใหบ้ ริการ ความเป็นสากลรวมถงึ ปรมิ าณแรงงาน
4. ปัญหาการขยายฐานนกั ท่องเทย่ี วทม่ี คี ณุ ภาพในเขตพัฒนาการท่องเทยี่ วอันดามนั
5. ปัญหาการเร่งขยายฐานตลาดนักท่องเท่ียวต่างชาติจากภูเก็ตเช่ือมโยงไปจังหวัดพังงา ตรัง
และสตูล และการเพมิ่ จานวนวันเขา้ พกั
6.ปัญหาด้านการกาหนดตาแหน่งของเมืองท่องเท่ียว คือ จังหวัดในเขตพัฒนาการท่องเที่ยว
อันดามนั ยงั ขาดการวางและพัฒนาความโดดเด่นของอัตลักษณ์สู่การวางตาแหน่งของเมืองท่องเที่ยวใน 5 จังหวัด คือ
จังหวดั ภเู ก็ต กระบ่ี พังงา ตรังและสตลู ให้มคี วามแตกตา่ งกนั
7. ปัญหาด้านการขาดมาตรการการควบคุมดูแลความปลอดภัย ให้นักท่องเท่ียวทั้งภัยที่อาจจะเกิด
จากธรรมชาตแิ ละมนุษย์
-8-
8. ปัญหาดา้ นความสะดวกในการคมนาคมในเมืองท่องเที่ยวภูเก็ตและการเช่ือมโยงเส้นทางคมนาคม
ไปยังแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดกระบี่ พังงา ตรัง และสตูล ตลอดจนการเช่ือมโยงเส้นทางกันของจังหวัดในเขตพัฒนา
การท่องเท่ียว
9. มาตรการการควบคมุ การดาเนนิ ธุรกิจและจริยธรรมทางธุรกิจ
10. ปญั หาสิง่ แวดลอ้ มในแหลง่ ท่องเท่ยี วและการจดั การน้าอย่างเป็นระบบ
11. ปัญหาด้านความร่วมมือในการพัฒนาเครือข่ายและกลไกการทางานร่วมกันของเครือข่าย
เพอ่ื ใหเ้ กิดการทางานท่มี ปี ระสทิ ธิภาพมากขึ้น
2.2 การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายในและสภาพแวดล้อมภายนอกด้านการท่องเที่ยวของ เขตพัฒนา
การทอ่ งเทย่ี วอันดามนั
ข้อมูลการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายในและภายนอกด้านการท่องเท่ียวของเขตพัฒนา
การท่องเท่ียวอันดามันประกอบด้วยจังหวัดภูเก็ตกระบ่ีพังงาตรังและสตูลเพ่ือเป็นแนวทางในการพัฒนาแผน
ยุทธศาสตร์แผนปฏิบัติการโดยการสังเคราะห์ข้อมูลจากการวิเคราะห์เดิมของหน่วยงานท่ีเก่ีย วข้องในพ้ืนท่ี
และวิเคราะห์เพมิ่ เติมตามประเดน็ ทเ่ี กย่ี วข้องกับการท่องเทยี่ วต่อไปนี้
จุดแข็ง
- จังหวดั ในเขตพฒั นาการทอ่ งเท่ียวอนั ดามนั มชี ื่อเสยี งเป็นทีร่ ู้จักในระดบั โลก
- การเข้าถึงที่สะดวกท้งั ทางอากาศและทางทะเล
- ทาเลทต่ี งั้ ทางยทุ ธศาสตรท์ เ่ี หมาะสม
- มฐี านวฒั นธรรมท่โี ดดเดน่ ในแตล่ ะจังหวัด
- มฐี านทรัพยากรการทอ่ งเที่ยวที่มคี วามหลากหลาย
- มคี วามเป็นพหุวัฒนธรรมและอยูร่ ่วมกนั อยา่ งสงบสขุ
- มีความหลากหลายของวัฒนธรรมอาหาร
โอกาส
- การท่องเท่ียวโลกเตบิ โตอย่างตอ่ เนอื่ ง
- เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชยี เตบิ โตทาใหน้ กั ท่องเท่ียวเอเชียเดินทางท่องเทีย่ วมากข้ึน
- แนวโนม้ นักท่องเทยี่ วนยิ มท่องเทยี่ วในภูมิภาคของตนเอง
- พฤตกิ รรมของนกั ท่องเทย่ี วต้องการเดินทางเพื่อแสวงหาประสบการณ์การท่องเทยี่ วในรูปแบบต่างๆ
- การพัฒนาของเทคโนโลยีสง่ ผลใหก้ ารเดินทางทอ่ งเที่ยวสะดวกมากข้ึน
- นักท่องเทยี่ วมีความสนใจในกิจกรรมเฉพาะอย่างมากขึ้น
- การทอ่ งเที่ยวไทยเป็นวาระแหง่ ชาติ
- การท่องเทย่ี วไทยมีการเตบิ โตอยา่ งต่อเนอ่ื ง
- การเติบโตของสายการบนิ ตน้ ทนุ ตา่
จุดอ่อน
- ขาดการทางานร่วมกันระหว่างภาคใี นการพัฒนาการท่องเที่ยว
- การกระจกุ ตัวของนกั ท่องเท่ยี วในพืน้ ทีห่ ลัก
- ภาพลกั ษณเ์ ร่อื งความปลอดภัย
- สภาพภมู ิอากาศทาให้การทอ่ งเท่ียวมีฤดูกาล
- แหล่งท่องเทีย่ วหลักทางทะเลเส่อื มโทรม
- เอารดั เอาเปรยี บนักท่องเท่ยี ว
- แรงงานขาดทักษะ โดยเฉพาะการสอ่ื สาร
- การคมนาคมภายในเขตพัฒนาการทอ่ งเที่ยวอนั ดามนั และภายในจังหวดั
-9-
- แรงงานแฝงจานวนมาก
- ขีดความสามารถในการแข่งขันของธุรกจิ SMEs อยู่ในระดับต่า
- ขาดศกั ยภาพในการยกระดับอัตลกั ษณ์ของแต่ละจงั หวัด
- ขาดการกาหนดจานวนนกั ท่องเทีย่ วในแหลง่ ท่องเท่ียวหลัก
- ขาดนวัตกรรมและความสร้างสรรค์ในการยกระดบั สร้างคุณค่าเพ่ือเพ่ิมมูลคา่ ให้กบั ทรัพยากรทางวัฒนธรรม
อุปสรรค
- รายไดจ้ ากการทอ่ งเท่ยี วกบั งบประมาณท่ีได้รบั การจัดสรรเพือ่ พฒั นาพนื้ ทไี่ ม่สมดุล
- ขาดการบงั คับใช้กฎหมาย ทาใหเ้ อ้ือต่อนายทุนและตา่ งชาติมาแสวงหาผลประโยชน์
- หลายประเทศในภมู ิภาคพฒั นาการท่องเที่ยวทาใหม้ คี ู่แขง่ เพิ่มมากข้นึ
- ขาดการบูรณาการระหวา่ งภาคีท่ีเก่ยี วข้องในการขับเคลื่อนการท่องเทีย่ ว
- การนาแผนยุทธศาสตรส์ กู่ ารปฏิบัติยังมีข้อจากัด
- ปญั หาจากภยั ธรรมชาตทิ ีเ่ กิดขึน้
ปัญหา
- ทรัพยากรเส่ือมโทรมและถูกทาลาย
- การบริหารจดั การข้อมลู สาหรับนักท่องเท่ียวยงั ไม่มีประสิทธิภาพ
- สาธารณูปโภคพ้นื ฐานยังไม่พรอ้ ม
- การจัดสรรงบประมาณเพื่อการพัฒนาพื้นท่ีไม่เหมาะสม
- การบังคับใชก้ ฎหมายในบางประเดน็ ยังไม่มีประสิทธิภาพเท่าท่ีควร
- ความปลอดภยั ในชีวติ และทรัพย์สนิ ของนกั ท่องเทย่ี ว
- การเอารดั เอาเปรียบนกั ทอ่ งเท่ียว
- การตดั ราคาของธรุ กจิ
- รายไดก้ ระจุกอยู่ในเมืองใหญ่และขาดการกระจายรายได้สชู่ ุมชน
- การขาดองค์ความรใู้ นการพัฒนาการท่องเท่ียว
- ขาดการควบคุมจานวนนกั ท่องเทีย่ วในแหลง่ ท่องเที่ยวหลัก
- ขาดการบรู ณาการเชงิ เครือข่าย
- ขาดนวัตกรรม ความคดิ สร้างสรรค์และการตอ่ ยอด
- นักทอ่ งเท่ยี วคุณภาพต่า
- แรงงานบางกล่มุ ขาดทักษะส่งผลใหม้ ีแรงงานตา่ งด้าวเข้ามาแยง่ งาน
- การนายุทธศาสตรส์ ู่การปฏิบัติไดจ้ ริง และขาดการประเมินผลการดาเนินงาน
-10-
2.3 การประเมนิ ปจั จยั แวดลอ้ มทางธุรกจิ เขตพฒั นาการท่องเท่ียวอันดามัน
1) เงอื่ นไขปัจจยั การผลติ (Factor Conditions)
ด้านเงื่อนไขปัจจัยการผลิตของเขตพัฒนาการท่องเที่ยวอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอันดามัน
ประกอบด้วยจังหวัดภูเก็ต กระบี่ พังงา ตรังและสตูล ท่ีมีศักยภาพสาคัญ คือ มีแหล่งท่องเที่ยวในภูมิภาคมีความโดดเด่น
เรอื่ งของทรพั ยากรธรรมชาติทางทะเลที่มีความอุดมสมบูรณ์และสวยงามติดอันดับโลกซ่ึงประกอบไปด้วย11 อุทยาน
แห่งชาติทางทะเล ได้แก่ 1 )อุทยานแห่งชาติสิรินาถ จังหวัดภูเก็ต 2) อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา จังหวัดกระบ่ี
3) อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา จังหวัดกระบี่ 4) อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่
5) อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี จังหวัดกระบ่ี 6) อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา จังหวัดตรัง 7) อุทยานแห่งชาติ
หมู่เกาะสุรินทร์ จังหวัดพังงา 8) อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน จังหวัดพังงา 9) อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา จังหวัด
พังงา 10) อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จังหวัดตรัง 11) อุทยานแห่งชาติตะรุเตา จังหวัดสตูลและวนอุทยานอีก
จานวน 5 แห่งประกอบด้วย 1) วนอุทยานน้าตกพ่าน จังหวัดตรัง2) วนอุทยานบ่อน้าร้อนกันตัง จังหวัดตรัง
3) วนอุทยานน้าตกรามัญ จังหวัดพังงา 4) วนอุทยานสระนางมโนราห์ จังหวัดพังงา 5) วนอุทยานน้าตกธารสวรรค์
จังหวดั สตลู
อย่างไรก็ตามบางพื้นท่ีมีการใช้ทรัพยากรเกินขีดความสามารถในการรองรับได้ขาดการดูแลรักษา
และประเมินความคุ้มค่าของการใช้ทรัพยากรอย่างจริงจัง โดยเฉพาะทรัพยากรท่ีเป็นเกาะท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต
และกระบ่ี ซ่ึงในแต่ละปีมีนักท่องเท่ียวมาเยือนเป็นจานวนมาก นอกจากน้ีแหล่งท่องเท่ียวบางแห่งมีศักยภาพ
และความสวยงามทจี่ ะดงึ ดดู ความสนใจของนกั ทอ่ งเทีย่ วได้แตย่ ังขาดการเพิ่มคุณค่าและการสร้างความเป็นเอกลักษณ์
ให้กับแหล่งท่องเที่ยว ทาให้จุดเด่นของแหล่งท่องเท่ียวลดลงตลอดจนขาดการพัฒนาองค์ประกอบการส่งเสริมการ
ท่องเที่ยวและขาดระบบการจัดการท่องเท่ียวที่สร้างคุณค่าและมูลค่าให้กับแหล่งท่องเที่ยวทาให้นักท่องเท่ียววันพัก
เฉล่ียไม่สูงมากนัก
ด้านบุคลากรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่มีอยู่ในบางสาขาของธุรกิจท่องเที่ยวยังขาดคุณภาพ
และจริยธรรมในการดาเนินธุรกิจ แรงงานจานวนมากมาจากจังหวัดอื่นๆ โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ของประเทศไทยและแรงงานต่างด้าว ประกอบกับบุคลากรหรือแรงงานในอุตสาหกรรมท่องเท่ียวในบางจังหวัดเช่น
จังหวัดตรังสตูลและพังงายังขาดความรู้ความสามารถและทักษะในการปฏิบัติงานที่เป็นมืออาชีพด้านการท่องเที่ยว
และขาดแผนการพัฒนาบคุ ลากรดา้ นการท่องเท่ยี วทต่ี รงกับความต้องการท่แี ทจ้ รงิ อยา่ งชดั เจน
ด้านความปลอดภัยเม่ือพิจารณาแล้วพบว่ายังขาดมาตรฐานที่เข้มงวดเร่ืองของการดูแล
ความปลอดภัยให้กับนักท่องเท่ียว ซึ่งความปลอดภัยน้ีเป็นเรื่องที่นักท่องเที่ยวให้ความสาคัญมากเม่ือเดินทางมาเท่ียว
ยังแหล่งท่องเท่ียวที่เป็นทะเลและการเดินทางไปท่องเที่ยวหรือประกอบกิจกรรมการท่องเท่ียวทางทะเล เช่น
เรือท่องเท่ียวกิจกรรมการดาน้าปีนผาเป็นต้นถึงแม้จะมีหน่วยงานตารวจท่องเที่ยวคอยให้การดูแลแต่มีกาลัง
ไม่เพียงพอทจ่ี ะรองรับจานวนนักท่องเที่ยวทเี่ พม่ิ มากขนึ้
ระบบสาธารณูปโภคด้านการคมนาคมขนส่งให้เลือกหลากหลาย มีความสะดวกในการเดินทางทาง
อากาศของเท่ียวบินตรงจากต่างประเทศมายังสนามบินนานาชาติภูเก็ตและกระบ่ีแต่สาหรับ จังหวัดอ่ืนๆคือ
จังหวัดพังงาตรังและสตูล ยังมีความสะดวกในระดับน้อยและสิ่งที่เป็นปัญหาเหมือนกันของเมืองท่องเที่ยวทั้งหมด
5จังหวัดคือระบบการคมนามคมขนส่งสาธารณะการเดินทางไปยังแหล่งท่องเท่ียวการเดินทางระหว่างจังหวัด
ยงั ขาดการจัดการท่ีเป็นระบบทาให้เกิดชอ่ งวา่ งของการประกอบอาชีพทค่ี วบคุมไดย้ าก
การรวมกลุ่มกันของธุรกิจ/กิจกรรมด้านการท่องเท่ียวต้นน้า กลางน้า และปลายน้าจากข้อมูลพบว่า
ใน 5 จังหวัดคือจังหวัดภูเก็ต กระบี่ พังงา ตรังและสตูล สามารถแบ่งระดับของการกระจุกตัวและการเช่ือมโยง
การพัฒนาในลักษณะของเขตพัฒนาการท่องเที่ยวหรือเครือข่ายได้ 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่มีความกระจุกตัวและ
การเชื่อมโยงในระดับสูงแต่ยังไม่เข้มแข็งและย่ังยืน คือจังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ส่วนอีกกลุ่มคือจังหวัดพังงา ตรังและ
-11-
สตูล มีจานวนของต้นน้า กลางน้าและปลายน้าในบางธุรกิจหรือบางหน่วยงานไม่มากนักทาให้เกิดปัญหาของ
การแข่งขันกันในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างไรก็ตามเม่ือพิจารณาภาพรวมพบว่าการเช่ือมโยงกันของเครือข่าย
กจิ กรรม/ธุรกจิ ดา้ นการท่องเท่ยี วจดั อยู่ในระดบั กลาง
ดังนั้นแผนการพัฒนาเขตพัฒนาการท่องเที่ยวจึงควรมุ่งและเร่งสร้างกลไกการเชื่อมโยงระบบห่วงโซ่
อุปทานของการท่องเท่ียวให้มีความสมดุล ไม่มุ่งพัฒนาหรือส่งเสริมเฉพาะเครือข่ายต้นน้า กลางน้าหรือปลายน้า
แบบแยกส่วนควรคานึงถึงการพัฒนาเชิงบูรณาการและการพัฒนาองค์ประกอบของระบบการจัดการท่องเท่ียว
ไปพรอ้ มๆกัน
2) ปัจจัยอุปสงค์ (Demand Conditions) จากข้อมูลจานวนนักท่องเท่ียวปัจจุบันของ
เขตพัฒนาการท่องเทย่ี วอนั ดามัน 5 จังหวัดนสี้ ามารถแบ่งกลมุ่ นักทอ่ งเทยี่ วดงั น้ี
อุปสงค์ของเมืองทอ่ งเที่ยวจังหวัดภูเก็ตคือนักท่องเท่ียวส่วนใหญ่ที่เดินทางท่องเที่ยวในภูมิภาคเป็น
นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศท่ีมีความพิถีพิถันด้านการท่องเที่ยวเป็นนักท่องเท่ียวจากประเทศในอาเซียน
คือมาเลเซียสิงคโปร์และนักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศทางยุโรปและมีนักท่องเท่ียวรัสเซีย จีน และอินเดีย
เพิ่มมากข้ึนในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาแต่ส่วนใหญ่จะมีการกระจุกตัวในเร่ืองของสถานที่และเวลา เช่น ในช่วงเทศกาล
หรือวันหยุดและสาหรับนักท่องเท่ียวชาวต่างชาติท่ีเดินทางมาท่องเที่ยวยังเขตพัฒนาการท่องเท่ียวอันดามัน
โดยมากจะเป็นนักท่องเที่ยวท่ีมีพฤติกรรมที่ชอบท่องเท่ียวที่เกี่ยวเนื่องกับทะเล กิจกรรมการท่องเที่ยวทางทะเล
การพักผ่อนการประกอบกิจกรรมตามความสนใจเฉพาะเช่นปีนผาพายเรือล่องเรือสาราญการท่องเที่ยว
เชิงสุขภาพเป็นต้นและโดยมากจะเดินทางมากับบริษัทนาเที่ยวท่ีมีมัคคุเทศก์นามาและส่วนหนึ่งเป็นนักท่องเที่ยว
กลุ่มครอบครัวและสูงอายุที่จองการเดินทางด้วยตนเองโดยจองกับโรงแรมที่พักที่เป็นรีสอร์ทระดับ 4-5 ดาวที่มีอยู่
จานวนมากในจังหวัดภูเก็ตและกระบ่ีนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะมาซ้ือบริการการเดินทางท่องเที่ยวทางทะเล
และการดาน้าเพ่ิมเตมิ
สาหรับนักท่องเท่ียวชาวไทยท่ีเดินทางมาท่องเท่ียวในจังหวัดภูเก็ตและกระบี่ส่วนใหญ่มากับบริษัท
ทัวร์หรือซ้ือแพ็กเกจจากเทศกาลส่งเสริมการขายท่ีจัดข้ึนในกรุงเทพฯและกลุ่มท่ีเดินทางมาศึกษาดูงาน
การประชุมสมั มนาของหนว่ ยงานตา่ งๆ(MICE)และที่สาคัญนักทอ่ งเทย่ี วทงั้ ชาวไทยและต่างประเทศส่วนใหญ่ที่เดินทาง
มาท่องเท่ียวภายในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวอันดามันโดยเฉพาะในจังหวัดภูเก็ตและกระบ่ีซ่ึงยังมีความต้องการ
ม า ต ร ฐ า น ก า ร บ ริ ก า ร ที่ เ ป็ น ส า ก ล มี ค ว า ม ม่ั น ใ จ ใ น ก า ร บ ริ ก า ร ที่ ดี ขึ้ น แ ล ะ เ พี ย ง พ อ ต ล อ ด จ น ค ว า ม มั่ น ใ จ ด้ า น
ความปลอดภัยในชีวติ และทรพั ย์สินมากขึน้
อุปสงค์ของเมืองท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ พังงา ตรังและสตูล พบว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่
ทเี่ ดนิ ทางทอ่ งเทย่ี วภายในเขตพัฒนาการท่องเท่ียวอันดามันเป็นนักท่องเท่ียวชาวไทยที่มีภูมิลาเนาในภาคใต้รองลงมา
คื อ ก รุ ง เ ท พ ฯ ภ า ค ก ล า ง แ ล ะ ภู มิ ภ า ค อื่ น ๆ ซ่ึ ง ห า ก พิ จ า ร ณ า แ ล้ ว พ บ ว่ า นั ก ท่ อ ง เ ที่ ย ว จ า น ว น ม า ก ม า เ ท่ี ย ว
แบบนักทัศนาจร(Excursionist)ในจังหวัดพังงาและเดินทางมาเท่ียวต่อหรือมาพักค้างคืนท่ีจังหวัดกระบ่ีหรือ
จังหวัดภูเก็ตและมาแบบนักท่องเท่ียว(Tourist)ในจังหวัดตรังและสตูล คือ ตั้งใจเลือกจังหวัดตรังหรือจังหวัดสตูล
เป็นจุดหมายปลายทางของการเดินทางมีการพักค้างคืนอย่างน้อย2คืนกว่าๆในทั้งสองจังหวัดน้ี แต่ก็จะพบปัญหา
คล้ายกับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากต่างประเทศ คือส่วนใหญ่จะมีการกระจุกตัวในเรื่องของสถานท่ีและเวลา
เช่นในชว่ งเทศกาลหรอื วันหยดุ โดยมากจะเดินทางมากับบริษัทนาเท่ียวทีม่ีมัคคุเทศก์นามาหรือซ้ือแพ็กเกจทัวร์มาจาก
งานเทศกาลท่องเที่ยวต่างๆที่จัดข้ึนในกรุงเทพฯโดยมีวัตถุประสงค์หลักคือมาดาน้าหรือท่องเที่ยวในทะเลอันดามัน
ท่ีสวยงามนอกจากน้ียังมีนักท่องเท่ียวคนไทยจานวนมากท่ีเดินทางไปยังเขตพัฒนาการท่องเที่ยวอันดามันเพราะมี
วตั ถุประสงค์ในการเดนิ ทางไปร่วมประชุมสมั มนาในรูปแบบตา่ งๆ (MICE) และที่สาคญั นกั ทอ่ งเทยี่ วส่วนใหญ่ที่เดินทาง
มากท่องเท่ียวในภมู ิภาคยังต้องการมาตรฐานการบรกิ ารและความมั่นใจในความปลอดภัยและการบริการท่ีดีมีคุณภาพ
สาหรบั นกั ท่องเท่ียวชาวไทย
-12-
3) ปัจจัยบริบทกลยุทธ์การแข่งขัน (Strategy, structure, and rivalry) พบว่ามีการควบคุม
คณุ ภาพและมีการกาหนดมาตรฐานการบรกิ ารในธรุ กจิ อุตสาหกรรมทอ่ งเท่ียวแต่ไม่มีการบังคับใช้กฎหมายกฎระเบียบ
และไม่ครอบคลุมในทุกพ้ืนที่และทุกกิจกรรม ด้านการวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดในการส่งเสริมการท่องเที่ยว
สาหรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศยังขาดประสิทธิภาพ นอกจากนี้คุณภาพของธุรกิจในอุตสาหกรรมท่องเท่ียวในเขต
พัฒนาการทอ่ งเท่ียวอันดามัน คือ ธุรกิจที่พักธุรกิจนาเท่ียวร้านอาหารแหล่งท่องเท่ียวและร้านขายของที่ระลึกมีความ
แตกต่างกันสูงในแต่ละพืน้ ท่ใี นภมู ภิ าค นอกจากน้ีธุรกจิ ในอตุ สาหกรรมท่องเทยี่ วในภมู ิภาคส่วนใหญ่ยังไม่คานึงถึงเร่ือง
คุณภาพมาตรฐานการให้บริการบริษัทนาเที่ยวส่วนใหญ่ในภูมิภาคมีจานวนมากทาให้เกิดการแข่งขันอย่างรุนแรงใน
จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ประกอบกับมีธุรกิจนาเท่ียวต่างชาติเข้ามาดาเนินธุรกิจของตนเองแบบครบวงจรคือบริษัทนา
เท่ียวท่ีพักและร้านอาหารทาให้เกิดปัญหาเงินรั่วไหลไปต่างประเทศและบริษัทนาเ ที่ยวในพื้นท่ีเองก็ยังขาด
ความสามารถด้านการตลาดสาหรับนักท่องเท่ียวในประเทศนอกจากนี้ขีดความสามารถทางการแข่งขันด้านการตลาด
ด้านราคา ด้านความสามารถในการสื่อสารและการใช้ภาษาก็เป็นอุปสรรคท่ีสาคัญต่อการแข่งขันส่วนในจังหวัดพังงา
ตรงั และสตูลมจี านวนธุรกิจนาเท่ียวไม่มาก ทาให้ไม่เพียงพอต่อการให้บริการ ตลอดจนยังขาดความเป็นมืออาชีพด้าน
การบริการและส่วนใหญจ่ ะไมค่ อ่ ยมกี ารวางแผนบรหิ ารงานของบริษัทในระยะยาว
สาหรับเร่ืองของกฎระเบียบและนโยบายภาครัฐพบว่าทุกภาคส่วนในพ้ืนที่ให้ความสาคัญ
กับการพัฒนาการท่องเท่ียวอย่างจริงจังทั้งในจังหวัดภูเก็ตกระบี่พังงาตรังและสตูลต่างมีเป้าหมายและวิสัยทัศน์
ในการท่องเที่ยวเป็นยุทธศาสตร์หลักของการพัฒนาท้องที่หรือจังหวัดเมื่อเปรียบเทียบในด้านกลยุทธ์การแข่งขัน
มรี ายละเอียดดงั น้ี
ตารางที่ 2.5 เปรยี บเทยี บด้านกลยทุ ธ์การแข่งขนั การท่องเทยี่ วของจังหวดั ในเขตพัฒนาการท่องเทย่ี วอนั ดามัน
ประเด็น ระดบั การแข่งขนั
กฎระเบียบและนโยบายสนับสนนุ
อตั ราการเติบโตของธรุ กจิ (ภูเก็ต) (กระบี่/พงั งา/ตรัง/สตูล)
จานวนผู้ประกอบการ SME ดีมาก ดมี าก
บรรยากาศการแขง่ ขันในพืนที่ ดีมาก ดี
และการแขง่ ขนั ดา้ นราคา ควรหันมาส่งเสริมเจาะกลมุ่ ควรใหก้ ารส่งเสรมิ ตลาดต่างประเทศ
มากข้นึ และสร้างกลยุทธก์ ารส่งเสริม
ตลาดคณุ ภาพ
ตลาดนักท่องเที่ยวชาวไทย
มีจานวนมาก
ธุรกิจบางส่วนเปน็ ของ มีระดับปานกลาง
การลงทุนสว่ นใหญ่เป็นคนทอ้ งถน่ิ
ชาวต่างชาติ
สูงมาก และคนไทย
ปานกลาง
4) ปัจจัยสนับสนุนท่ีเก่ียวเน่ือง (Related and Supporting Industries) พบว่าหน่วยงาน
ภาครฐั ภาคเอกชนในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวอันดามันให้การสนับสนุนการรวมกลุ่มเครือข่ายอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
ท้ั ง ใ น ลั ก ษ ณ ะ ข อ ง น โ ย บ า ย แ ล ะ ก า ร ป ฏิ บั ติ ท า ใ ห้ มี ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร ก ลุ่ ม ส ม า ค ม ช ม ร ม ห น่ ว ย ง า น ที่ เ ก่ี ย ว ข้ อ ง
ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั้งในระดับจังหวัดอาเภอและท้องถ่ินเพื่อการพัฒนาการท่องเท่ียวจานวนมากแต่ขาด
การประสานความร่วมมือกันระหว่างกลุ่มหรือเครือข่ายแต่ละเครือข่ายยังทางานตามหน้าท่ี (Function)ของตนเอง
ขาดการบูรณาการการพัฒนาการท่องเที่ยวให้เป็นไปในทิศทางและเป้าหมายเดียวกันการทางานจะเป็ นลักษณะ
ตา่ งคนตา่ งทา ทผ่ี า่ นมายังพบว่านโยบายในการพฒั นาการทอ่ งเท่ยี วโดยมากจะมาจากระดับบนหรือส่วนกลางมากกว่า
-13-
มาจากความต้องการของคนท้องถ่ินอย่างแท้จริงทาให้ขาดกระบวนการมีส่วนร่วมและเมื่อพิจารณาระดับของการ
ประสานความร่วมมือกันทางธุรกิจในเครือข่ายวิสาหกิจท่องเที่ยวในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวอันดามันแล้วน้ัน ยังมี
การดาเนินงานในระดับน้อยมากทาให้ขาดความเชื่อมโยงในห่วงโซ่อุปทานและการประสานประโยชน์อย่างเป็น
รูปธรรมทาให้การพัฒนาการท่องเที่ยวอันดามันในแต่ละจังหวัดเป็นแบบแยกจังหวัด มีลักษณะของการแข่งขัน
และแยง่ ชิงทรัพยากร
อย่างไรก็ตามจากการศึกษาก็พบว่าในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวอันดามันมีจานวนองค์กร
สมาคม ชมรม กลุ่มที่จัดต้ังขึ้นเพื่อสร้างความร่วมมือในเครือข่ายวิสาหกิจทางการท่องเที่ยวข้ึนมาจานวนมาก
โดยเฉพาะในจังหวัดภเู กต็ และกระบ่ี
สาหรับสถาบันการศึกษาในพ้ืนท่ีอันดามันท้ังในระดับอาชีวศึกษาและระดับมหาวิทยาลัยท่ีเปิดสอน
หลักสูตรด้านการท่องเท่ียวและการโรงแรมมีอยู่หลายแห่ง ซึ่งเพียงพอต่อปริมาณการผลิตบุคลากรแต่หลักสูตร
การเรียนการสอนยังขาดความสามารถในการสนองตอบต่อความต้องการอย่างแท้จริงของท้องถิ่นเช่นหลักสูตร
ดา้ นการท่องเท่ียวเชิงสขุ ภาพการท่องเทยี่ วทางทะเลเรอื สาราญธรุ กจิ อาหารนานาชาติและอาหารฮาลาลเปน็ ตน้
2.4 ประเด็นสาคญั (Critical Issue) เพ่ือการพฒั นาขีดความสามารถในการแข่งขันของเขตพัฒนาการท่องเที่ยว
อนั ดามัน
จากข้อมูลขีดความสามารถทางการแข่งขันของเขตพัฒนาการท่องเท่ียวอันดามัน พบประเด็นที่จะ
ส่งผลตอ่ การพัฒนาการทอ่ งเที่ยวท่สี าคัญดังนี้
1. ประเด็นมูลค่าเพ่ิมของแหล่งท่องเที่ยวบนฐานอัตลักษณ์ของทรัพยากรทางการท่องเที่ยว
(Value-add tourism spots tourism environment) ตลอดจนการสร้างมาตรการในการจัดการกับขีดความสามารถ
ทางการรองรับไดข้ องพ้ืนท่แี หล่งท่องเทย่ี วอย่างยัง่ ยืน ได้แก่ เกาะ ชายหาด ทะเล เปน็ ตน้
2. ประเด็นสาธารณูปโภคพื้นฐานในการเช่ือมโยงภายในจังหวัดภายในเขตพัฒนาการท่องเที่ยว
อันดามันรวมถึงการเชื่อมโยงไปในระดับประเทศและประเทศเพ่ือนบ้านได้แก่ประเทศมาเลเซีย (Regional
transportation linkages)
3. ประเด็นดา้ นมาตรฐานของสนิ ค้าและบริการ (Standardization and service)
4. ประเด็นความปลอดภัยในแหล่งท่องเท่ียวท้ังท่ีเกิดจากภัยธรรมชาติและภัยมนุษย์โดยเฉพาะ
ผูใ้ ห้บรกิ ารทางการท่องเทยี่ ว ทั้งนเ้ี พอื่ การสร้างภาพลักษณ์ของการเปน็ เมืองท่องเท่ยี วคุณภาพ
5. ประเด็นคุณภาพของทรัพยากรบุคคล (Quality of human resources) และการเสริมหลักสูตร
การท่องเที่ยว“ภูมิปัญญาท้องถ่ินและวิถีท้องถิ่น”เฉพาะถิ่นในหลักสูตรระดับประถม ระดับมัธยมและระดับอุดมศึกษา
ทง้ั นี้เพ่ือเปน็ การสรา้ งฐานของความรคู้ วามเขา้ ใจด้านการทอ่ งเทีย่ วและทรัพยากรทางการท่องเท่ียว ซึ่งเป็นต้นทุนหลัก
ของการจัดการท่องเท่ียว ตลอดจนเป็นการสร้างและพัฒนาทุนมนุษย์ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวการสร้างกระบวนการ
มสี ่วนรว่ มของประชาชนทุกระดบั เช่นการพฒั นานกั ส่ือความหมายทางการทอ่ งเทีย่ ว มัคคุเทศก์น้อยอนั ดามัน เป็นต้น
6. ประเด็นการจัดการอุปสงค์ทางการท่องเที่ยวให้สมดุลการเจาะกลุ่มตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพ
การพักระยะยาว การกลับมาซ้า การใช้จ่ายท่ีมากขึ้นแต่คุ้มค่าตลอดจนการสร้างมาตรการการดูแลประโยชน์ให้กับ
นกั ทอ่ งเท่ยี วในทุกเรื่อง ทั้งนี้เพ่ือเปน็ การสง่ เสรมิ การเดินทางท่องเท่ียวของนักท่องเท่ียวทกุ ระดบั
7. ประเด็นการพัฒนาแบบเช่ือมโยงกันในเขตพัฒนาการท่องเท่ียวอันดามันและนอกเขตพัฒนา
การท่องเท่ียวอันดามันตลอดจนการเชื่อมโยงกันในอาเซียนและหน่วยงานระดับสากลโดยเน้นการเช่ือมโยงของ
เครือข่ายการคมนาคมทางน้า ทางอากาศ ทางบก รวมท้ังทางรถยนต์และทางรางเพื่อส่งเสริมการท่องเท่ียวตลอดจน
การเช่ือมโยงเส้นทางท่องเที่ยวร่วมกันท้ังทางทะเลและทางบกโดยรวมไปถึงการสร้างเครือข่ายพันธมิตรทางการค้า
การบริการด้านการท่องเที่ยวท้ังเขตพัฒนาการท่องเที่ยวด้วยกันและเขตพัฒนาการท่องเท่ียวที่จะเช่ือมโยงกับ
การทอ่ งเทย่ี วได้ เช่น ประมง เกษตรและของทรี่ ะลึก เป็นต้น
-14-
8. ประเด็นการประสานการทางานของภาครัฐ ภาคเอกชน ท้องถ่ินและภูมิภาคซึ่งเป็นกลไกใน
การขับเคลื่อนการท่องเท่ียวให้เกิดเป็นรูปธรรมได้ดังนั้นผู้ท่ีเก่ียวข้องจะต้องมองภาพรวมของการพัฒนาเชิงพ้ืนท่ี
หรือเขตพัฒนาการท่องเทย่ี วร่วมกัน เพ่อื การพัฒนาการทอ่ งเทยี่ วมที ิศทางเปน็ ไปตามวสิ ัยทศั น์และเป้าหมายทวี่ างไว้
9. ประเด็นการวางแผนแบบบูรณาการและปฏิบัติตามแผน(Comprehensive and Integrated
planning)คือในการพัฒนาการท่องเที่ยวจาเป็นอย่างย่ิงท่ีจะต้องมีการบูรณาการการท่องเท่ียวเข้ากับประเด็น
ยุทธศาสตร์อื่นๆในพ้ืนท่ีโดยให้การท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในเครื่องมือสาคัญของการสร้างรายได้ สร้างคน การดูแลรักษา
ทรพั ยากรและส่ิงแวดล้อม
10. ประเด็นการรักษาความสมดุลของความสุขของประชาชนท้องถ่ินกับนักท่องเท่ียวโดยให้
ความสาคัญกับการท่องเที่ยวโดยชุมชนท่ีจะช่วยในการกระจายรายได้และผลตอ บแทนไปยังชุมชนในทุกระดับ
ท้ังน้ี เนื่องจากปร ะชาชนห รือชุ มชน คือเ จ้าของทรัพย ากรทางการท่องเที่ย วอย่างแท้จ ริงเ ป็นกลุ่มสั งคมที่ใกล้ชิ ด
และจะดูแลรกั และหวงแหนทรพั ยากรไดด้ ีมากทีส่ ุด
11. ประเดน็ การจัดสรรงบประมาณเพื่อการพัฒนาพ้ืนท่ีไม่เหมาะสม การจัดสรรงบประมาณไม่ตรง
ตามทขี่ อรบั การจดั สรร และกรอบงบประมาณทมี่ ีจากดั
12. ประเด็นแรงงานบางกลุ่มขาดทักษะส่งผลให้มีแรงงานต่างด้าวเข้ามาแย่งงานการลักลอบ
เข้าเมืองของแรงงานต่างด้าวมีจานวนมาก จนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสังคม วัฒนธรรม และการเมืองระหว่าง
ประเทศ โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นแรงงานข้ามชาติระดับล่างบางกรณีอาจเข้าเมืองมาผิดกฎหมายบางกรณีอาจเข้า
เมืองมาถูกต้องตามกฎหมายแต่มีการลักลอบทางานในประเทศ หรือบางกรณีอาจประกอบอาชีพมิชอบ ซ่ึงข้อมูล
ดังกลา่ วมิไดป้ รากฏอยู่ในทะเบียนแรงงานข้ามชาติอยา่ งชดั เจน
2.5 การวางตาแหนง่ ทางการทอ่ งเท่ียวของจังหวดั ในเขตพัฒนาการท่องเทย่ี วอันดามนั
จากการวิเคราะห์ข้อมูลในเขตพัฒนาการท่องเท่ียวอันดามันทาให้สามารถวางตาแหน่งทา ง
การท่องเทย่ี วของแตล่ ะจงั หวดั ดงั นี้
• ความสวยงามของทะเลชายหาดเกาะของทะเลอันดามนั
• ทาเลทต่ี ้งั ชื่อเสียงด้านการทอ่ งเทีย่ ว
• วถิ วี ฒั นธรรมกลมุ่ คนภมู ิปัญญา
• พื้นท่ตี ดิ ทะเลเป็นเสน้ ทางการทอ่ งเท่ยี วเรอื สาราญระดบั นานาชาตเิ รอื ยอรช์
• ความอดุ มสมบรู ณข์ องทรพั ยากรทางธรรมชาติ
• มีขีดความสามารถในการรองรบั ความเป็นสากลและนานาชาตไิ ด้
• เช่อื มโยงกบั ประเทศเพื่อนบา้ น มาเลเซีย สงิ คโปร์
-15-
ตาราง 2.6 ผลการวิเคราะห์เพื่อวางตาแหนง่ ทางการท่องเท่ียวของจงั หวดั ในเขตพัฒนาการทอ่ งเทีย่ วอนั ดามัน
ประเด็นการพจิ าณา
จงั หวดั ความโดดเด่นของ กลมุ่ ตลาดเป้าหมาย วิสัยทศั น์และ การวางตาแหน่งทาง
ทรัพยากร/องคป์ ระกอบ ยุทธศาสตร์ การท่องเที่ยว
ทางการท่องเทย่ี ว จังหวัด
ภูเก็ต 1. ทะเล ชายหาด มเี ส้นทาง 1. ร้อยละ 72 เป็น “ภเู กต็ เมือง - ทะเลชายหาด
การเดนิ ทางทางทะเลท่ี นักทอ่ งเทย่ี วต่างชาติ ท่องเท่ียว - ทา่ เทียบเรือสาราญ
เช่ือมโยงกบั จังหวัดต่างๆ (นานาชาติ) นานาชาติ ขนาดใหญ่ Cruise
ในเขตพฒั นาการท่องเที่ยว 2. นักท่องเที่ยวท่ีมากับ บนพ้นื ฐานการ Destinationเรือยอรช์
อนั ดามัน เรอื สาราญ / เรือยอรช์ พัฒนาอยา่ ง - International
2. มาตรฐานและศักยภาพ 3. ความสะดวกและ ยั่งยืน” - โรงพยาบาล
ของแรงงาน ความพร้อมในการ ความทนั สมยั
3. ความพรอ้ มการให้บริการ จดั การธรุ กจิ MICE Health Tourism
ทเี่ ปน็ สากล การทอ่ งเทีย่ วความงาม - เชอื่ มต่อกับจงั หวัด
4. ช่ือเสยี งและภาพ ต่างๆได้สนามบนิ
ลักษณด์ า้ นการท่องเทีย่ ว รองรับนกั ท่องเท่ียวได้
ในตา่ งประเทศ จานวนมาก Tourism
Hub of South
กระบี่ 1. ทะเล เกาะ อ่าวและ 1. รอ้ ยละ 62 เป็น “เมืองทอ่ งเทีย่ ว - ทะเล เกาะ ชายหาด
คุณภาพระดบั - ธรรมชาติ (บ่อนา้ รอ้ น)
ทรพั ยากรทางธรรมชาตเิ ชน่ นักทอ่ งเทย่ี วตา่ งชาติ นานาชาติ แหล่ง - วถิ ีวฒั นธรรม
เกษตร อุตสาหกรรม
หนา้ ผา ถา้ บอ่ น้าร้อนและ (ข้อมลู ปี 2561) ทย่ี งั่ ยนื สงั คมน่า
อย”ู่
วัฒนธรรม
2. สนามบนิ นานาชาติ
3. ความพร้อมในการใหบ้ รกิ าร
ทเ่ี ปน็ สากล
พงั งา 1. ทะเล เกาะ อ่าวและ 1. รอ้ ยละ 71 เปน็ ศูนย์กลางการ - ทะเล เกาะ ชายหาด
ทอ่ งเทย่ี วเชิงนเิ วศ - ธรรมชาติ
ทรพั ยากรทางธรรมชาติ เช่น นกั ท่องเทยี่ วตา่ งชาติ เกษตรกรรมยัง่ ยนื - วิถชี วี ิต
สังคมแห่งการเรียนรู้
หน้าผาถา้ และวถิ ีวฒั นธรรมที่ (ข้อมูลปี 2561) สคู่ ณุ ภาพชีวติ ที่ดี
เช่อื มโยงกับทะเล
2. ไมไ่ กลจากจังหวัดภเู ก็ต
3. มีศักยภาพในการสง่ ออก
อาหารทะเลได้ดี
ตรัง 1. วถิ วี ัฒนธรรมทีผ่ สมผสาน 1. ร้อยละ 87 เปน็ “สวรรคแ์ ห่งการ - ทะเล เกาะ
ท่องเทีย่ วเชงิ อนรุ กั ษ์ - ธรรมชาติ
ระหว่างไทยจีนและคนใต้ นักทอ่ งเท่ียวชาวไทย เมอื งแห่งการเรยี นรู้ - วถิ ีชีวติ วฒั นธรรม
พฒั นาการเกษตร
สะทอ้ นออกมาในรูปของอาหาร (ขอ้ มูลปี 2561) อย่างยั่งยืน”
ประเพณีและวถิ ีชีวติ
2. ทะเล เกาะ อา่ วและ
ทรัพยากรทางธรรมชาติ
ถ้า น้าตก
-16-
ประเด็นการพิจาณา
จังหวดั ความโดดเด่นของทรพั ยากร/ กลุม่ ตลาดเปา้ หมาย วิสัยทศั นแ์ ละ การวางตาแหน่งทางการ
สตลู ทอ่ งเท่ยี ว
องคป์ ระกอบทางการ ยทุ ธศาสตร์จงั หวัด
ท่องเทีย่ ว
1. ทรพั ยากรทางธรรมชาติ 1. รอ้ ยละ 88 “สตลู เป็นเมือง ทรพั ยากรทางธรรมชาติ ถ้า
ท่องเท่ยี วเชงิ นเิ วศ น้าตก ซากดกึ ดาบรรพ์
ถา้ นา้ ตก ซากดกึ ดาบรรพ์ เปน็ นักทอ่ งเทย่ี วชาวไทย ชน้ั นาของภาคใต้ ทะเล และเกาะ
เศรษฐกิจม่ันคง
ทะเล และเกาะ (ขอ้ มูลปี 2561) สงั คมมคี ณุ ภาพ ”
2. เชื่อมโยงกบั การท่องเทยี่ ว
ของประเทศเพื่อนบ้าน คือ
มาเลเซีย
เขต ทะเลชายหาดทาเลท่ีตง้ั แบง่ ไดส้ องกลมุ่ คอื - ทะเลชายหาด
พัฒนาการ ช่อื เสยี งด้านการท่องเทย่ี ว 1. กลมุ่ จังหวัดทีม่ ีจานวน - ทาเลท่ตี ง้ั ช่อื เสยี ง
ท่องเที่ยว เรอื สาราญและเรอื ยอรช์ นักท่องเทย่ี วต่างชาตเิ ดนิ ทาง ด้านการท่องเที่ยว
อันดามัน วิถวี ัฒนธรรม ธรรมชาติ คือภูเก็ต กระบ่แี ละพังงา - เรอื สาราญและเรือยอร์ช
2. กลุ่มจงั หวดั ที่มีจานวน - วิถวี ัฒนธรรม
นกั ทอ่ งเทย่ี วชาวไทยเดินทาง -ธรรมชาติ
ท่องเทีย่ วจานวนมาก - มีขีดความสามารถใน
การรองรับความเปน็ สากล
และนานาชาตไิ ด้
2.7 ขอ้ เสนอแนะเชงิ นโยบายในการพัฒนาการท่องเทีย่ วของเขตพัฒนาการทอ่ งเทย่ี วอันดามัน
ประเดน็ ปญั หา สาเหตุ ผลที่ไดร้ ับ แนวทางการจัดการ
ปัญหาเร่อื งการจดั การ - จานวนนักทอ่ งเทย่ี วในฤดูกาล - แหล่งท่องเที่ยวรองรบั - พฒั นาคณุ คา่ และมลู คา่
ของทรัพยากรการทอ่ งเท่ียว
ทรพั ยากรและการสรา้ ง ทอ่ งเทย่ี วจานวนมาก นกั ท่องเทยี่ วมากเกิน ใหเ้ กิดประโยชนส์ ูงสุดและ
ยั่งยนื
คุณคา่ ให้กับทรพั ยากร - การเพิ่มขึน้ ของนักท่องเทย่ี ว ความสามารถของธรรมชาติ - การพัฒนาทรัพยากรและ
แหล่งทอ่ งเทยี่ วตามความโดด
การทอ่ งเที่ยวของเขต ชาวจีนและรสั เซยี ทร่ี วดเร็ว - ทรัพยากรการทอ่ งเท่ยี ว เด่นของแต่ละจงั หวัด
- เรง่ ศกึ ษาวางแผน
พัฒนาการทอ่ งเที่ยว - ขาดการให้ความสาคญั และ ของพังงา ตรังและสตลู และกาหนดมาตรการด้าน
การจดั การทรพั ยากรทาง
อนั ดามนั มาตรการการกาหนดขดี ยังขาดการสรา้ งคณุ คา่ และ การท่องเทย่ี ว
ความสามารถในการรองรบั ทาง มูลค่าทางการท่องเทยี่ ว
การท่องเทย่ี วท่ชี ดั เจน
-17-
ประเดน็ ปัญหา สาเหตุ ผลท่ีไดร้ ับ แนวทางการจัดการ
- พฒั นาสงิ่ อานวยความ
ปัญหาเกีย่ วกับความ - เมอื งภเู กต็ จะมีปัญหาเรื่อง - ข้อจากัดในการเดินทาง สะดวกในแหล่งท่องเท่ยี ว
ท่องเทีย่ ว อยา่ งเหมาะสมของแตล่ ะ
พรอ้ มของส่งิ อานวยความ การเดินทางและระบบโลจสิ ติกส์ - เกดิ ระบบการบริการ จงั หวดั
ทข่ี าดจรยิ ธรรมเน่อื งจาก - พัฒนาระบบการให้บรกิ าร
สะดวกรองรบั ภายในเมอื ง จานวนนกั ทอ่ งเท่ยี วมาก เชน่ และสงิ่ อานวยความสะดวก
ระบบการขนสง่ ทางการทอ่ งเที่ยวของแตล่ ะ
นกั ทอ่ งเทีย่ วของ - ขอ้ จากดั ในการเดินทาง จังหวดั อย่างเหมาะสม
และการใช้เวลาในการเที่ยว - พฒั นาส่ิงอานวยความ
ภูเกต็ และกระบ่ี สะดวกในแหล่งทอ่ งเท่ยี ว
- ขอ้ จากดั ในการเดินทาง อย่างเหมาะสมของแตล่ ะ
ปัญหาความพรอ้ ม - จงั หวัดพังงา ตรงั สตลู สง่ิ อานวย ท่องเที่ยวไปยังเมืองพงั งา จงั หวดั
ในสงิ่ อานวย ความสะดวกยังขาดความพรอ้ มใน ตรังสตลู - พฒั นาระบบการให้บริการ
ความสะดวกและ การรองรับนักทอ่ งเทีย่ วที่เหมาะสม - ขอ้ จากดั ในการเดินทาง และส่งิ อานวยความสะดวก
ความพรอ้ มในการ และการใช้เวลาในการเทย่ี ว ทางการทอ่ งเทย่ี วของแตล่ ะ
รองรับการท่องเทย่ี ว จังหวดั อยา่ งเหมาะสม
พงั งา ตรงั และสตูล - วางแผนการพัฒนา
บคุ ลากรดา้ นการท่องเทีย่ ว
ปญั หาศกั ยภาพดา้ น ในภเู ก็ตและกระบพี่ บปัญหา - ขีดจากัดในการใหบ้ ริการ ทุกระดบั และทุกภาคี
แรงงานด้าน การขาดแคลนแรงงานมอื อาชพี และ นกั ท่องเทีย่ ว - ส่งเสรมิ ใหผ้ ูป้ ระกอบการ
การใหบ้ รกิ ารความเปน็ แรงงานที่มศี กั ยภาพในจงั หวัด -สอื่ สารไมไ่ ด้ เช่น ภาษา ภาคเอกชนให้ความสาคญั กบั
สากลรวมถงึ พังงา ตรงั และสตลู พบปญั หาคือ รัสเซยี ทาให้เกดิ บคุ ลากร การพฒั นาบุคลากร
ดา้ นปรมิ าณแรงงาน บุคลากรขาดศักยภาพใน ทอ่ งเทย่ี วแฝง
การรองรับนกั ทอ่ งเท่ยี วนานาชาตไิ ด้ - มแี รงงานต่างชาติเข้ามา - วางแผนการจดั การตลาด
ปัญหาการขยายฐาน แทนทแี่ รงงานไทย ทีส่ ง่ เสรมิ การเดินทาง
นกั ท่องเทย่ี วทม่ี ี ปจั จบุ ันมนี ักทอ่ งเท่ยี วจานวนมาก - นกั ทอ่ งเทีย่ วมากแต่รายได้ ทอ่ งเท่ยี วของนกั ท่องเทยี่ ว
คณุ ภาพ ทมี่ าท่องเทยี่ วแตข่ าดคณุ ภาพ จากการทอ่ งเทยี่ วไมม่ าก คณุ ภาพ
ถึงแม้จะมปี รมิ าณหรอื จานวนมาก - นักท่องเทย่ี วคุณภาพ - เจาะกลุ่มตลาดท่มี ศี กั ยภาพ
ขยายฐานตลาด ขึน้ บางสว่ นมองหาจุดหมาย ในการจ่ายมากขึน้
นกั ท่องเท่ยี วตา่ งประเทศ ปลายทางทางการทอ่ งเทีย่ ว - สร้างเส้นทางทอ่ งเทยี่ ว
เชื่อมโยงจากจงั หวดั ภเู กต็ นกั ท่องเทย่ี วสว่ นใหญเ่ ป็นชาวไทย ใหม่ทัง้ ในและต่างประเทศ เชื่อมโยงการท่องเท่ยี ว
กระบ่ีตรงั พงั งา ถึงแม้ว่าในจังหวัดพงั งาจะมี - รายไดจ้ ากการท่องเทีย่ ว
และสตูล นักทอ่ งเท่ียวต่างชาติมากกว่า ไมม่ าก - สร้างความแตกต่างในจุดยืน
และการเพิ่มจานวน แตเ่ มือ่ เปรยี บเทยี บจานวน ทางการทอ่ งเท่ียวผลติ ภัณฑ์
วนั พกั นกั ทอ่ งเที่ยวกับจงั หวัดภูเกต็ และ นกั ทอ่ งเทยี่ วจานวนมาก ทางการท่องเที่ยวตลอดจน
การสร้างอตั ลกั ษณ์ จงั หวดั กระบีแ่ ลว้ ถือว่ายังมจี านวน จึงเลอื กเพียงแหล่งเดียวหรือ กจิ กรรมการทอ่ งเทย่ี ว และ
และตาแหนง่ เมือง น้อย จงั หวดั เดยี ว บรู ณาการทกุ จังหวัดเขา้
ทอ่ งเที่ยวของ 5 ดว้ ยกันในภาพรวมของ
จงั หวดั คือภูเก็ต จงั หวัดในเขตมที รัพยากร การเป็นจดุ หมายปลายทาง
กระบี่พังงาตรงั และสตูล การท่องเท่ียวคลา้ ยกันคอื ทะเล ทางการท่องเท่ียวภายใตช้ ่อื
ชายหาดเกาะและทาใหม้ ีกจิ กรรม อนั ดามนั
การทอ่ งเทีย่ วสาหรับนักทอ่ งเทย่ี ว
ท่ีคลา้ ยกัน
-18-
ประเดน็ ปัญหา สาเหตุ ผลทไี่ ด้รบั แนวทางการจัดการ
- สรา้ งหรอื พฒั นาหน่วยอาสา
มาตรการด้านความ -ทาเลทตี่ งั้ ส่งผลทาให้อาจจะเกิด - นักทอ่ งเท่ยี วกลุม่ ที่ให้ ด้านการดแู ลความปลอดภยั
ความสาคญั กบั ความ ของนกั ท่องเที่ยว
ปลอดภัยแหลง่ ท่องเท่ียว ภัยทางธรรมชาตไิ ด้ ปลอดภัยจะตดั สินใจเปลี่ยน - สร้างความม่ันใจใหก้ ับ
จุดหมายปลายทาง นักท่องเท่ยี ว
ทางทะเล -ในเมืองทอ่ งเท่ียวจังหวัดภเู กต็ - ส่งผลตอ่ ภาพลกั ษณ์
ทางการท่องเทีย่ วระยะยาว - พฒั นาระบบการเดนิ ทาง
และกระบ่มี ีนักทอ่ งเทีย่ วจานวน และการคมนาคมขนสง่ เพอื่
- นกั ท่องเท่ียวพึงพอใจ การท่องเทย่ี ว
มากอาจจะสง่ ผลต่อความ นอ้ ยลง
ปลอดภยั ในทรัพยส์ นิ และชวี ิตได้
ความสะดวกในการ - จังหวัดภูเก็ต จงั หวัดกระบ่ี
คมนาคม ประสบปญั หาความสามารถใน
การรองรับดา้ นการเดนิ ทาง
- จังหวดั พังงา ตรงั และสตลู
ขาดศักยภาพในการคมนาคมและ
การเดินทางเข้าไปยงั แหล่ง
ท่องเทยี่ ว
มาตรการการควบคุม ผู้ประกอบการเอารดั เอาเปรียบ - ภาพลกั ษณ์ทางการ - ส่งเสรมิ และกระตนุ้ ให้
ทอ่ งเที่ยวเสยี หาย ผปู้ ระกอบการดาเนินธุรกิจ
การดาเนินธรุ กจิ และ นักทอ่ งเทย่ี ว - นกั ทอ่ งเทยี่ วบอกตอ่ คนที่ บนฐานของจรยิ ธรรม
ร้จู ักหรือเพื่อนที่จะเดนิ ทาง โดยการใหร้ างวลั เชดิ ชูเกียรติ
จริยธรรมทางธุรกิจ มาทอ่ งเท่ยี วทาให้เกดิ ความ - สร้างมาตรการการควบคุม
เชอ่ื มัน่ ในระยะยาว อย่างชดั เจนและใชม้ าตรฐาน
ปญั หาส่ิงแวดลอ้ มใน - นกั ท่องเทย่ี วมากเกนิ ความสามารถ อย่างเครง่ ครดั
แหลง่ ท่องเที่ยวและ ในการรองรบั ได้ - ภาพลักษณ์ทางการ
การจัดการน้าอยา่ ง - นกั ทอ่ งเทยี่ วและผู้ประกอบการ ทอ่ งเทีย่ วเสียหาย - ส่งเสริมและกระตุ้นให้
เปน็ ระบบ ขาดจิตสานึก - นักทอ่ งเท่ยี วบอกต่อคนท่ี ผปู้ ระกอบการดาเนินธุรกิจ
รูจ้ ักหรอื เพื่อนที่จะเดินทาง บนฐานของจริยธรรมด้าน
ปญั หาด้านความ - ผูป้ ระกอบการจานวนมาก มาท่องเทย่ี วทาใหเ้ กิดความ สงิ่ แวดลอ้ มโดยการใหร้ างวัล
ร่วมมือในการพัฒนา มาจากต่างถน่ิ ความเขา้ ใจและ เช่อื มัน่ ในระยะยาว เชดิ ชูเกยี รติ
เครอื ขา่ ยและกลไก สัมพนั ธภาพทางสงั คมห่างเหิน - แหล่งทอ่ งเทยี่ วเส่ือมโทรม - สร้างมาตรการการควบคุม
การทางานร่วมกนั - มีการชว่ ยเหลือกันในกลมุ่ ธุรกจิ อย่างชดั เจนและใช้มาตรฐาน
ของเครอื ขา่ ยทั้งนี้ เดยี วกนั แต่ยังเชอ่ื มโยงการเปน็ - ขาดการรว่ มแรงร่วมใจใน อย่างเคร่งครัด
เพอ่ื ใหเ้ กิดการทางาน ระบบต้นน้า กลางน้าและปลายนา้ การพัฒนาการทอ่ งเทยี่ วของ
ทมี่ ปี ระสทิ ธิภาพมาก ไม่ครอบคลุม ตนเอง - สร้างกลไกการทางาน
ขึ้น ร่วมกนั ของเขตพัฒนา
การทอ่ งเทีย่ วอนั ดามนั
-19-
บทที่ 3
ยทุ ธศาสตร์และแนวทางการพัฒนา
การจัดทาแผนพัฒนาการท่องเท่ียวของเขตพัฒนาการท่องเที่ยวอั นดามันซึ่งประกอบด้วย
จงั หวดั ภเู ก็ต กระบ่ี พังงา ตรัง และสตลู โดยมกี ารวเิ คราะห์ข้อมูลทุติยภูมทิ เ่ี กีย่ วข้อง การวิเคราะห์ปัจจัยแวดล้อมทาง
การตลาดและการวิเคราะห์ปัจจัยขีดความสามารถทางการแข่งขันสามารถสรุปความโดดเด่นและศักยภาพของแต่ละ
จังหวัดท่ีคัดเลือกมาในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวกาหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาการท่องเที่ยวเขตพัฒนาการท่องเที่ยว
อันดามนั ในปี 2563-2565 ดังนี้
3.1 วิสยั ทัศน์
“การท่องเทีย่ วทางทะเลท่ไี ด้มาตรฐานระดบั โลก บนฐานวฒั นธรรมอย่างย่ังยืน”
คาอธิบายวิสยั ทศั น์
“พัฒนาและสง่ เสริมใหเ้ ขตพฒั นาการทอ่ งเทย่ี วอันดามันเป็นเมืองท่องเท่ียวท่ีมีมาตรฐานสากลระดับ
โลกที่สะท้อนวิถีอันดามัน ซ่ึงหมายถึงวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของคนท่ีเป็นเอกลักษณ์ ได้แก่ คน ประเพณี วิถีชีวิต
สถาปัตยกรรม ธรรมชาติ ภาษา การแต่งกาย เป็นต้น ท่ีถูกส่งมอบจากรุ่นสู่รุ่นหรือถูกปรับปรุงให้สอดคล้องกับการ
ดารงชีวิตในปัจจุบัน ซึ่งอาจจะมีในลักษณะท่ีเป็นแบบด้ังเดิม (Traditional) และแบบร่วมสมัย (Contemporary)
สอดคล้องกับการท่องเท่ียววิถีไทยบนฐานอัตลักษณ์เฉพาะของแต่ละจังหวัดในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวอันดามัน อัน
ได้แก่ จังหวัดภูเก็ต กระบี่ พังงา ตรังและสตูล บนฐานความใส่ใจต่อทรัพยากรและแหล่งท่องเท่ียว”เป็นการใช้
ประโยชน์และการพัฒนาทรัพยากรการท่องเท่ียว รวมท้ังปัจจัยแวดล้อมท่ีเกี่ยวข้องกับการท่องเท่ียวเพื่อตอบสนอง
ความจาเป็นทางเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม สามารถรักษาเอกลักษณ์ของธรรมชาติและวัฒนธรรมไว้นานท่ีสุด เกิดผล
กระทบนอ้ ยท่สี ุด และใชป้ ระโยชน์ได้ตลอดไป
3.2 วตั ถุประสงค์
1. พัฒนาให้เขตพัฒนาการท่องเท่ียวอันดามันเป็นเมืองท่องเที่ยวทางทะเล เรือสาราญ เรือยอร์ช
ที่มีมาตรฐานระดับโลกโดยเน้นให้จังหวัดภูเก็ตและจังหวัดกระบ่ีเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมโยงและกระจาย
นักท่องเที่ยวพร้อมทั้งพัฒนาเมืองท่องเที่ยวเมืองรอง จังหวัดพังงา ตรัง และสตูลเป็นเมืองท่องเท่ียวที่มีศักยภาพ
ทางการแข่งขันไดใ้ นระดับสากล
2. ต่อยอดฐานและสร้างคุณค่าให้กับต้นทุนทางวิถีชีวิต วัฒนธรรม ที่เป็นเอกลักษณ์ของอันดามัน
สู่กิจกรรมการท่องเที่ยวเช่ือมโยงร่วมกับทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล เพ่ือการเพ่ิมวันพานัก และขยายตลาด
นกั ทอ่ งเทยี่ วให้ครอบคลมุ ทกุ จังหวัดในเขตพฒั นาการท่องเท่ียวอันดามัน
3. การส่งเสริมและจดั การการท่องเทย่ี วของเขตพัฒนาการทอ่ งเที่ยวอันดามนั โดยมุ่งตอบสนองความ
ต้องการของนกั ท่องเทีย่ วคุณภาพ ครอบคลมุ ทุกกลุ่ม โดยเน้นการพัฒนาคุณภาพการบริการในทุนมนุษย์ให้มีศักยภาพ
ในการรองรบั นักทอ่ งเท่ียวได้
4. การส่งเสริมการตลาดด้านการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ มุ่งเน้นการวิเคราะห์กลุ่มตลาดที่เหมาะสม
ตลอดจนนกั ทอ่ งเทีย่ วที่มคี ณุ ภาพของเขตพฒั นาการท่องเทยี่ วอันดามัน
5. การผลักดันให้เขตพัฒนาการท่องเท่ียวอันดามันเป็นศูนย์กลางในการเช่ือมโยงด้านการท่องเที่ยว
กับจังหวัดภายในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวอันดามันและภายนอกเขตพัฒนาการท่องเที่ยวอันดามันตลอดจน
การเชอื่ มโยงไปยงั ประเทศเพอ่ื นบ้าน เช่น ประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซยี
-20-
3.3 เปา้ หมาย
1. การเพ่มิ และกระจายรายได้อย่างเป็นธรรม และท่ัวถึงโดยเน้นการพัฒนาคุณภาพ ชีวิตของชุมชน
ท้องถน่ิ
2. การยกระดับฐานทรัพยากรทางวัฒนธรรม เพ่ือสร้างมูลค่าผ่านการเพิ่มคุณค่าและประสบการณ์
อย่างยัง่ ยืน
3. การม่งุ เน้นนักท่องเที่ยวคุณภาพ โดยทาการตลาดเฉพาะกลุ่ม
4. การสรา้ งกลไก เพ่อื การขบั เคล่ือนการท่องเทยี่ วผ่านการมีสว่ นร่วมแบบทกุ ภาคสว่ น
5. การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของเขตพัฒนาการท่องเที่ยวอันดามัน ภายใต้กรอบ
ความสะดวก ความสะอาด ความปลอดภัย และใสใ่ จสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานสากล
6. การรกั ษาและฟนื้ ฟูฐานทรัพยากรการท่องเทยี่ วทางธรรมชาตบิ นพนื้ ฐานสมดลุ อยา่ งย่งั ยนื
3.4 ประเดน็ ยุทธศาสตร์
ยทุ ธศาสตร์ท่ี 1 : เพิ่มมลู ค่าการทอ่ งเทยี่ ว ผา่ นการสง่ เสรมิ การสร้างประสบการณ์ด้านการท่องเท่ียว
โดยการมสี ่วนร่วมของทกุ ภาคส่วน
เป้าประสงคย์ ทุ ธศาสตร์
กลยทุ ธ์
กลยุทธ์ 1.1 พัฒนาการเพิ่มมลู คา่ ด้านการทอ่ งเท่ยี ว ผ่านนวตั กรรม และความคดิ สร้างสรรค์
กลยุทธ์ 1.2 สง่ เสริมกจิ กรรมการทอ่ งเท่ียวเชิงสุขภาพ และการแพทย์ทางเลอื ก
กลยุทธ์ 1.3 พัฒนาการเพ่ิมมูลค่าด้านการท่องเที่ยว ผ่านประสบการณ์การท่องเที่ยวที่เป็น
เอกลักษณข์ องพ้นื ที่
กลยทุ ธ์ 1.4 ส่งเสรมิ การทอ่ งเท่ียวเชิงกฬี า การจดั การแขง่ ขนั กีฬาทกุ ประเภททุกระดับ
กลยุทธ์ 1.5 พฒั นาเครอื ขา่ ยระหว่างภาคี เพ่ือส่งเสรมิ การท่องเทยี่ ว
กลยุทธ์ 1.6 พฒั นาทกั ษะ และสรา้ งระบบนิเวศในการสง่ เสรมิ การทอ่ งเทีย่ วทใี่ ช้ความคิดสรา้ งสรรค์
กลยุทธ์ 1.7 ส่งเสรมิ การสอื่ ความหมายด้านการท่องเท่ียว
กลยุทธ์ 1.8 ส่งเสริมกระบวนการการจัดการ และถ่ายทอดความรู้สู่เยาวชน เพื่อเป็นฐานในการ
พัฒนาการท่องเทยี่ ว
กลยุทธ์ 1.9 การพัฒนากลไกขับเคลอ่ื นเครือขา่ ยการทอ่ งเทีย่ วโดยชมุ ชน ในเขตพฒั นาการท่องเท่ียว
อนั ดามนั
กลยุทธ์ 1.10 ยกระดับสนิ ค้าและผลติ ภณั ฑ์ทางการทอ่ งเท่ียวชุมชนให้ได้มาตรฐานสากล
กลยุทธ์ 1.11 สร้างมาตรการป้องกันผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อมของชุมชน
และแหลง่ ทอ่ งเท่ียว
ยทุ ธศาสตร์ที่ 2 : ส่งเสริมการตลาดเพื่อเจาะกลมุ่ นกั ท่องเท่ยี วทม่ี ีคุณภาพ
เปา้ ประสงค์ยุทธศาสตร์
กลยุทธ์
กลยทุ ธ์ 2.1 สง่ เสริมการตลาดเฉพาะกลุม่ โดยเน้นกลุม่ ที่มีกาลงั ซ้อื
กลยุทธ์ 2.2 สง่ เสรมิ การตลาดดจิ ทิ ลั ของผ้ปู ระกอบการและชุมชน
กลยุทธ์ 2.3 สรา้ งการรบั รู้ ด้านการท่องเทย่ี วทม่ี อี ัตลักษณ์ของท้องถ่นิ
กลยุทธ์ 2.4 ส่งเสริมการตลาดเชิงบูรณาการระหว่าง หน่วยงานต่างๆในเครือข่ายของเขตพัฒนา
การทอ่ งเท่ียวอนั ดามัน
กลยุทธ์ 2.5 สง่ เสรมิ การทอ่ งเที่ยวเชิงประสบการณ์ เพ่ือเพ่ิมมูลคา่ ทางตลาดดา้ นการท่องเทยี่ ว
กลยุทธ์ 2.6 สง่ เสรมิ การศึกษาวิจยั ด้านพฤติกรรมความตอ้ งการของนักท่องเทีย่ ว
-21-
ยุทธศาสตร์ท่ี 3 : พัฒนาและปรับปรุงความปลอดภัย ความสะอาด และสุขอนามัย ให้ได้มาตรฐาน
รวมทงั้ สรา้ งความเชื่อมัน่ ใหก้ ับนกั ท่องเทย่ี ว
เปา้ ประสงค์ยทุ ธศาสตร์
กลยุทธ์
กลยุทธ์ 3.1 พฒั นาระบบยกระดบั มาตรฐานความปลอดภัยดา้ นการทอ่ งเทีย่ ว
กลยุทธ์ 3.2 สร้างเครือขา่ ยอาสาสมคั รเฝา้ ระวังเร่ืองความปลอดภยั ดา้ นการท่องเที่ยว
กลยทุ ธ์ 3.3 การนานวตั กรรม และเทคโนโลยีเขา้ มาจดั การความปลอดภยั ด้านการท่องเที่ยว
กลยทุ ธ์ 3.4 การสร้างจติ สานึกเรื่องการจัดการสงิ่ แวดลอ้ มดา้ นการทอ่ งเทยี่ วให้ไดม้ าตรฐานสากล
ยุทธศาสตร์ท่ี 4 : พฒั นาโครงสรา้ งพนื้ ฐาน สิ่งอานวยความสะดวกและฟ้ืนฟแู หล่งท่องเทย่ี ว
เปา้ ประสงคย์ ทุ ธศาสตร์
กลยทุ ธ์
กลยุทธ์ 4.1 พัฒนาระบบการคมนาคม เพ่ือการท่องเที่ยวของเขตพัฒนาการท่องเท่ียวอันดามัน
(ทางบก ทางทะเล และทางอากาศ)
กลยุทธ์ 4.2 พัฒนาโครงสรา้ งพื้นฐาน และสง่ิ อานวยความสะดวก เพอื่ รองรับการท่องเทีย่ ว
กลยุทธ์ 4.3 การบริหารจัดการแหลง่ ท่องเทย่ี ว เพ่อื ให้เกิดความยั่งยนื
กลยทุ ธ์ 4.4 กาหนดขีดความสามารถในการรองรบั ของแหล่งท่องเท่ยี ว
กลยุทธ์ 4.5 ส่งเสริมการศึกษาวิจัยต้นทุนทรัพยากรทางการท่องเท่ียวท่ีสอดคล้องกับการจัดการ
การท่องเท่ียวในเขตพัฒนาการท่องเทยี่ วอนั ดามัน
ยทุ ธศาสตร์ท่ี 5 : การพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมการท่องเท่ียวเพ่ือสร้างกลไกในการขับเคลื่อน
การท่องเที่ยวสคู่ วามย่งั ยืน
เปา้ ประสงค์ยุทธศาสตร์
กลยทุ ธ์
กลยุทธ์ 5.1 การยกระดับบุคลากรด้านการท่องเท่ียว เพื่อพัฒนาเครือข่ายบุคลากรด้านการท่องเท่ียว
ใหเ้ กิดความเข้มแข็ง
กลยทุ ธ์ 5.2 การพัฒนาระดับความรู้ ความสามารถ ให้มีจริยธรรมโดยยึดหลักธรรมาภิบาลในการดาเนิน
ธุรกจิ ด้านการท่องเที่ยวท่ีดี
กลยุทธ์ 5.3 สง่ เสริมการให้ความรู้ และพฒั นาทางวิชาชพี เพ่ือการเรียนรู้ให้กับทุกชว่ งอายุ
กลยทุ ธ์ 5.4 พฒั นาศกั ยภาพในการแข่งขนั ให้กบั ผปู้ ระกอบการท่องเที่ยว
กลยุทธ์ 5.5 ให้ความรู้ดิจิทัลแก่ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวเพ่ือเสริมขีดความสามารถทาง
การแขง่ ขัน
-22-
บ
แผนงา
(แผนงาน/โครงการสา
บทท่ี 4
าน/โครงการ
าคัญลาดบั สงู และแผนงาน)
-23-
แผนปฏบิ ตั กิ ารพฒั นาการท่องเทย่ี ว
แผนงานโครงก
ประเดน็ ยทุ ธศาสตร์ท่ี 1 เพ่มิ มูลคา่ การท่องเทยี่ ว ผา่ นการสง่ เสริมการสรา้ งประสบการณ์ดา้ นก
ลาดบั โครงการ กิจกรรม วัตถปุ ระสงค์ ป
63
กลยุทธ์ 1.1 พฒั นาการเพิม่ มลู ค่าด้านการท่องเท่ียว ผ่านนวตั กรรม และความคดิ สร้างสรร
โครงการพฒั นาการเพมิ่ มลู ค่าด้านการท่องเทีย่ ว ผ่านนวัตกรรม และความคิดสรา้ งสรรค์
1. คา่ ใชจ้ ่ายยกระดับ 1. กจิ กรรมผูกมติ รสัมพันธ์ 1.เพอื่ สร้างความเชอ่ื มโยง
ความสามารถในการ กบั ชาวกะทู้ ระหว่างพ้นื ทีท่ ม่ี ศี ักยภาพให้
แข่งขนั ด้วยการ 2. กิจกรรมทางศลิ ปะ เกิดเปน็ แหลง่ ท่องเทย่ี วใหม่
ท่องเท่ยี วเชงิ สร้างสรรค์ 3. การสะทอ้ นตน้ ทุนทาง 2.เพอื่ สร้างและพฒั นา
(งบประมาณ วัฒนธรรมของชมุ ชนกะทู้ แหลง่ ขอ้ มลู ทางประวัติศาสตร์
16,700,000) และวัฒนธรรมในชมุ ชน
3. เพอ่ื สง่ เสรมิ ใหส้ มาชิกใน
ชุมชนเหน็ ความสาคญั ของ
การรเิ ริ่มทาธรุ กิจท่เี กยี่ วข้อง
กบั การการท่องเท่ยี ว
เชิงสร้างสรรคโ์ ดยมีรากฐาน
ของวฒั นธรรมทอ้ งถ่นิ ได้แก่
การทาอาหารและขนมท้องถิ่น
การทาไมก้ วาด เปน็ ตน้
4. เพอื่ เพ่ิมศกั ยภาพทาง
เศรษฐกจิ ในชมุ ชนด้วยการ
ท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ผ่าน
เทคโนโลยีมลั ติมเี ดยี
ภายในเขตพัฒนาการทอ่ งเทีย่ วอันดามนั
การสาคัญลาดบั สูง
การทอ่ งเที่ยวโดยการมสี ่วนร่วมของทกุ ภาคส่วน
ปีงบประมาณ ประโยชน์ที่ไดร้ บั หน่วยงาน รูปแบบการ ความเหมาะสม
รับผดิ ชอบ ลงทนุ ของแผนงาน /
64 65
รค์ 1 2 3 โครงการ
1. ชมุ ชนตระหนกั ถงึ มหาวทิ ยาลยั ๑.สอดคล้องกบั
คุณค่าดา้ นวฒั นธรรม สงขลานครินทร์ แผนฯ
สังคม และเสรมิ สร้าง วิทยาเขตภเู กต็ ๒.สอดคลอ้ งกับ
ความสัมพนั ธ์ระหวา่ ง ยทุ ธฯกระทรวง/
คนในชมุ ชน หน่วยงาน
2. การพัฒนาเป็นแหล่ง ๓.มีความสาคญั สงู
ท่องเทย่ี วทางวฒั นธรรม ๔.มคี วามพร้อมฯ
3. ผลกระทบจะ ๕.ความเหมาะสม
สามารถสะทอ้ นไปเปน็ ของงบประมาณ
ตวั อยา่ งให้แก่ชมุ ชน
ใกล้เคยี ง
-24-
ลาดบั โครงการ กิจกรรม วตั ถุประสงค์ ป
2. โครงการพัฒนา 1. เพอ่ื ปรับปรุงเสน้ ทาง 1. การจัดงานมหกรรมเสน้ ทาง 63
การทอ่ งเทีย่ ว การทอ่ งเที่ยวเมอื งเกา่ การท่องเทย่ี วจังหวัดสตลู
เชงิ สรา้ งสรรคแ์ ละ จงั หวดั สตูลและเชื่อมโยง เช่อื มโยงเมืองเก่ากลุม่ จังหวดั
นวตั กรรมการจดั การ เส้นทางท่องเท่ียว อนั ดามัน
การทอ่ งเทย่ี วเมืองเก่า เขตพัฒนาการทอ่ งเที่ยว 2. การจดั ทาข้อมลู พรอ้ ม
พื้นทีจ่ ังหวัดสตูล อนั ดามันพนื้ ท่ีของ จัดทาวดิ ีโอเล่าเร่อื งเมอื งเกา่
เชือ่ มโยงเมอื งเกา่ กระบี่ จังหวัดสตูลเชอื่ มโยงเสน้ ทาง เส้นทางการท่องเที่ยวเมอื งเก่า
ตรัง พงั งา และภูเก็ต เมอื งเก่าจังหวดั กระบี่ ตรัง จงั หวัดสตลู กลมุ่ จงั หวดั
(งบประมาณ พังงา และภูเกต็ อันดามัน
5,9๐๐,๐๐๐) 2. เพอ่ื เชื่อมโยงเส้นทาง
ท่องเที่ยวเมอื งเก่าท่ีมี
ศักยภาพของจงั หวดั สตูล
และเชื่อมโยงเส้นทาง
ทอ่ งเทยี่ วเขตพัฒนา
การท่องเทีย่ วอันดามัน พ้ืนที่
ตามเส้นทางเมืองเก่าจังหวดั
กระบ่ี ตรัง พังงา และภเู กต็
3. เพ่อื ประชาสัมพันธ์
การท่องเทีย่ วเมอื งเก่าและ
เสนอขายเสน้ ทางทอ่ งเทย่ี ว
เมืองเก่าจังหวดั สตลู ภายใต้
เขตพัฒนาการท่องเทย่ี ว
อนั ดามันให้กับ
ผู้ประกอบการการทอ่ งเที่ยว
และสื่อมวลชน
ปงี บประมาณ ประโยชน์ทีไ่ ดร้ ับ หนว่ ยงาน รูปแบบการ ความเหมาะสม
64 65 รับผิดชอบ ลงทนุ ของแผนงาน /
โครงการ
สานกั งาน 123
การทอ่ งเทีย่ ว ๑.สอดคล้องกับ
และกฬี า แผนฯ
จงั หวัดสตลู ๒.สอดคล้องกับ
ยทุ ธฯกระทรวง/
หน่วยงาน
๓.มีความสาคัญสูง
๔.มคี วามพรอ้ มฯ
๕.ความเหมาะสม
ของงบประมาณ
-25-
ลาดบั โครงการ กจิ กรรม วตั ถปุ ระสงค์ ป
3. คา่ ใช้จา่ ยกอ่ สรา้ ง ก่อสร้างประติมากรรมใต้ทะเล 1. พัฒนาแหล่งทอ่ งเทย่ี วใหม่ 63
ประตมิ ากรรมใต้ ใตท้ อ้ งทะเลอนั ดบั ต้นๆ ของ
ทะเลเพ่อื การ เอเชยี และระดบั โลก
ท่องเทยี่ ว 2. สร้างกจิ กรรมการทอ่ งเทยี่ ว
(งบประมาณ ในพน้ื ที่ ดึงดูดนักท่องเทยี่ วให้
30,000,000) พักและกระจายรายไดส้ ู่พืน้ ที่
ใหเ้ พิ่มขน้ึ
3. สรา้ งความยัง่ ยืนทาง
ทรพั ยากรทางทะเลควบคู่ไป
กบั การพัฒนาการทอ่ งเที่ยว
ปงี บประมาณ ประโยชน์ทีไ่ ด้รับ หนว่ ยงาน รปู แบบการ ความเหมาะสม
64 64 รับผิดชอบ ลงทนุ ของแผนงาน /
โครงการ
123
๑.สอดคล้องกับ
1. อนุรักษท์ รัพยากรใต้ สานกั งาน แผนฯ
ทอ้ งทะเลให้มีความอุดม การทอ่ งเทีย่ ว ๒.สอดคลอ้ งกบั
สมบรู ณจ์ ากการวาง และกฬี า ยุทธฯกระทรวง /
ประติมากรรม และ จงั หวัดพงั งา หน่วยงาน
ปะการังเทียม ๓.มีความสาคัญสงู
2. เปน็ แหลง่ ท่องเทย่ี ว ๔.มีความพรอ้ มฯ
ทางทะเลทสี่ ร้างช่ือเสียง ๕.ความเหมาะสม
ใหแ้ กป่ ระเทศ ของงบประมาณ
3. เป็นการสรา้ งรายได้
นาเข้าให้กบั ประเทศ
-26-
ลาดบั โครงการ กจิ กรรม วัตถุประสงค์ ป
63
4. ค่าใชจ้ ่ายสง่ เสรมิ ๑.จัดฝกึ อบรมถ่ายทอดความรู้ ๑.เพอ่ื ส่งเสรมิ อาชีพการปลกู
การปลูกมะพร้าว เทคโนโลยกี ารปลูกมะพรา้ ว มะพร้าวนา้ หอม โดยใช้
น้าหอมสร้างรายได้ นา้ หอม เทคโนโลยีทีเ่ หมาะสม สร้าง
ใหแ้ กเ่ กษตรกร ๒.สนบั สนุนตน้ พันธุ์มะพร้าว รายได้ให้แกเ่ กษตรกร
เพื่อรองรบั นา้ หอม ตอบสนองความตอ้ งการของ
การทอ่ งเท่ยี วของ นกั ทอ่ งเทยี่ วท่ีมีความตอ้ งการ
จังหวัดพังงา บรโิ ภคมะพรา้ วนา้ หอมใน
(งบประมาณ ปรมิ าณมากและเพอ่ื รองรับ
763,200) การทอ่ งเทยี่ วของจังหวดั พังงา
๒.เพือ่ ถ่ายทอดความรดู้ ้านการ
ปลูกมะพร้าวน้าหอม
การลดต้นทุนการผลติ
๓.เพอ่ื ดาเนินการตอบสนอง
นโยบายของกระทรวงเกษตร
และสหกรณ์ และกระทรวง
การท่องเทยี่ วและกีฬา
ปงี บประมาณ ประโยชน์ทไ่ี ด้รบั หน่วยงาน รปู แบบการ ความเหมาะสม
รับผดิ ชอบ ลงทนุ ของแผนงาน /
64 65 ๑.สร้างงานสรา้ งรายได้ โครงการ
แกเ่ กษตรกร สานกั งานเกษตร 123
๒.เกษตรกรมรี ายได้ จังหวัดพังงา ๑.สอดคลอ้ งกับ
เพิ่มข้ึน สรา้ งความ แผนฯ
ภาคภูมใิ จในอาชีพ ๒.สอดคล้องกบั
ของตัวเอง ยุทธฯกระทรวง/
๓.ตอบสนองความ หน่วยงาน
ตอ้ งการของ ๓.มีความสาคญั สงู
นกั ท่องเท่ยี วและ ๔.มีความพร้อมฯ
ผบู้ รโิ ภคทมี่ ีความ ๕.ความเหมาะสม
ต้องการบรโิ ภค ของงบประมาณ
มะพร้าวนา้ หอมเป็น
อย่างมาก
๔.เป็นการเตรียมความ
พร้อมเพื่อรองรบั
นักทอ่ งเทย่ี วทข่ี ยายตวั
เพิ่มมากขนึ้ ของจังหวัด
พงั งาและจังหวัด
ใกลเ้ คียง
-27-
ลาดบั โครงการ กจิ กรรม วัตถปุ ระสงค์ ป
63
5. คา่ ใชจ้ า่ ย Light & 1.การแสดงแสงสเี สยี ง 1.เพอ่ื สง่ เสริมการทอ่ งเทยี่ วทงั้
Water show at 2.การแสดงโชวช์ ดุ นา้ พุ ภายในและภายนอกประเทศ
marine Andaman และมา่ นฟา้ 2.การแสดงโชวช์ ดุ น้าพุและ
(งบประมาณ 3.การจัดแสดงโชวว์ ฒั นธรรม มา่ นน้า
25,000,000) กล่มุ จงั หวดั ภาคใตฝ้ งั่ อนั ดามนั 3.เพ่ือเผยแพรว่ ัฒนธรรมของ
และชาติพันธุ์ กลุ่มจงั หวัดภาคใต้ฝ่งั อนั ดามนั
4.การจาหนา่ ยสนิ คา้ ชุมชน ให้สงั คมได้เรียนรู้ความ
(OTOP)และอาหารพ้ืนบา้ น สวยงามของวฒั นธรรม
ของกลมุ่ จงั หวดั ฝงั่ อันดามัน 4.เพื่อสง่ เสรมิ การกระจาย
รายไดแ้ ละเศรษฐกิจกลมุ่
จงั หวดั ภาคใตฝ้ ่งั อนั ดามัน
5.เพอ่ื เปน็ ท่องเท่ยี วใหมแ่ ละ
เป็นอัตลักษณ์ของกลุ่มจังหวัด
ภาคใตฝ้ ง่ั อันดามัน
ปงี บประมาณ ประโยชนท์ ีไ่ ดร้ บั หน่วยงาน รปู แบบการ ความเหมาะสม
รบั ผิดชอบ ลงทุน ของแผนงาน /
64 65 ทาให้ชุมชน จังหวดั โครงการ
กลุม่ จังหวัดไดร้ ับ มหาวิทยาลยั 123
ผลประโยชนจ์ ากการ เทคโนโลยรี าช ๑.สอดคลอ้ งกบั
นาเอาวฒั นธรรม มงคลศรีวชิ ัย แผนฯ
ผลติ ภณั ฑ์ชุมชน วิทยาเขตตรงั ๒.สอดคลอ้ งกับ
ตลอดจนแหล่ง ยทุ ธฯกระทรวง/
ท่องเทีย่ ว ทาให้เกิด หน่วยงาน
การตลาดและมรี ายได้ ๓.มคี วามสาคัญสูง
เขา้ สู่ชมุ ชน และเป็น ๔.มคี วามพรอ้ มฯ
การสง่ เสรมิ ๕.ความเหมาะสม
การท่องเท่ียวในทกุ มติ ิ ของงบประมาณ
-28-
ลาดบั โครงการ กจิ กรรม วัตถุประสงค์ ป
63
6. ค่าใช้จ่ายยกระดบั 1.สารวจรวบรวมชดุ ขอ้ มลู ๑.เพอื่ จดั ทาชุดขอ้ มูลทางดา้ นการ
มลู คา่ เพ่มิ อาหาร ทางดา้ นการทอ่ งเทย่ี วเชิงอาหาร ท่องเท่ียวเชงิ อาหาร จากกลมุ่
จากกลมุ่ ตลาดนกั ทอ่ งเทย่ี วหลกั ตลาดนกั ทอ่ งเท่ียวหลักในพนื้ ที่
ทอ้ งถิน่ เพือ่ การ ในพืน้ ทอี่ นั ดามัน ทัง้ ชาวไทย จงั หวัดอนั ดามนั ท้ังชาวไทยและ
ท่องเทยี่ วเชงิ อาหาร และชาวต่างชาติ นักท่องเท่ียวตา่ งชาติ ในด้านการ
ในพ้นื ทจ่ี งั หวัด ๒.สารวจรวบรวมชดุ ขอ้ มูล ปัจจัย รบั รู้และพฤตกิ รรมนกั ท่องเทยี่ ว
อนั ดามัน ทมี่ ีผลตอ่ การรองรบั ทางด้านอาหาร
(งบประมาณ การจดั การการทอ่ งเที่ยว ๒.ศึกษาปัจจัยทีม่ ผี ลต่อการสรา้ ง
4,253,200) เชงิ อาหารและการสร้างการรับรู้ การรับรแู้ ละเลอื กบรโิ ภคอาหาร
การทอ่ งเทย่ี วเชงิ อาหาร จากลุม่ ผู้ ในกล่มุ ตลาดนกั ทอ่ งเทีย่ ว
ใหบ้ รกิ าร ครวั ชุมชน ผทู้ ีม่ ีสว่ นได้ ๓.ศกึ ษาปัจจยั ทม่ี ผี ลตอ่
สว่ นเสียจากท้งั ภาครฐั และ การรองรับการจัดการทอ่ งเทยี่ ว
ภาคเอกชน และหน่วยงานที่ เชิงอาหารและสรา้ งการรับรู้
เกี่ยวขอ้ ง การทอ่ งเที่ยวเชงิ อาหาร จากกล่มุ
๓.ออกแบบยกระดบั มลู คา่ เพม่ิ ผู้ใหบ้ รกิ ารอาหาร สถาน
การส่งมอบผลิตภณั ฑแ์ ละ ประกอบการร้านอาหาร ผู้ทม่ี ี
ประสบการณ์ ทงั้ ในด้าน ส่วนไดส้ ว่ นเสยี จากท้ังภาครฐั และ
เมนอู าหารความหลากหลายของ เอกชน และหนว่ ยงานทเี่ กยี่ วขอ้ ง
รายการอาหารทางโภชนาการ ๔.ออกแบบและยกระดับ
การจดั ตกแตง่ อาหาร ตลอดจน มูลค่าเพ่มิ ในดา้ นรายการอาหาร
การวางแผนระดับราคา ความหลากหลายของรายการ
การวางแผนช่องทางการจดั อาหารและคณุ ภาพอาหารทาง
จาหนา่ ยและการสอ่ื สารทาง โภชนาการ การจัดตกแต่งอาหาร
การตลาดในชอ่ งทางออนไลน์ ๕. เพือ่ จดั ทาระบบ Matching
ตลอดจนการให้บรกิ ารลกู ค้า Model ระหว่างผ้ผู ลติ อาหาร
๔.จัดทาเส้นทางการทอ่ งเทย่ี วเชงิ ผู้ประกอบการการทอ่ งเท่ียว
อาหาร โดย mapping อาหาร เชิงอาหาร ไปส่ตู ลาดรฐั ทอ้ งถน่ิ
ท้องถน่ิ ของแตล่ ะพน้ื ทเี่ พ่อื และตลาดของเอกชน โดยม่งุ
เช่ือมโยงกบั แหล่งทอ่ งเทยี่ ว พฒั นาตลาดใหเ้ ปน็ ตลาดที่
สาคัญ สนบั สนุนและสง่ เสรมิ
การท่องเที่ยวเชิงอาหารในพนื้ ท่ี
อนั ดามัน
ปงี บประมาณ ประโยชน์ท่ีได้รบั หน่วยงาน รูปแบบการ ความเหมาะสม
รับผดิ ชอบ ลงทนุ ของแผนงาน /
64 65 ๑.รายไดข้ องชุมชน โครงการ
ทอ่ งเที่ยวเชงิ อาหาร คณะการบรกิ าร 123
(โซนอันดามัน)ในพน้ื ท่ี และ ๑.สอดคล้องกบั
เพิม่ ข้ึน การทอ่ งเทีย่ ว แผนฯ
๒.เกดิ การบรู ณาการ มหาวทิ ยาลัย ๒.สอดคลอ้ งกับ
ของหน่วยงานที่ สงขลานครินทร์ ยทุ ธฯกระทรวง/
เกย่ี วกบั การพัฒนา วทิ ยาเขตภเู ก็ต หน่วยงาน
แหลง่ ทอ่ งเทีย่ ว ๓.มีความสาคญั สงู
๓.ความพึงพอใจของ ๔.มคี วามพร้อมฯ
นกั ทอ่ งเทย่ี วที่เข้ามา ๕.ความเหมาะสม
เย่ียมชมแหล่งท่องเที่ยว ของงบประมาณ
เชงิ อาหารเพิ่มขน้ึ
๔.รายการอาหาร
ทอ้ งถน่ิ ได้รับการฟน้ื ฟู
อนรุ ักษ์ และมีการ
ถ่ายทอดจากรุ่นสรู่ ุ่น
และมกี ารสร้าง
มลู คา่ เพ่ิมทางเศรษฐกจิ
-29-
ลาดบั โครงการ กจิ กรรม วัตถุประสงค์ ป
63
กลยุทธ์ 1.2 สง่ เสริมกจิ กรรมการทอ่ งเที่ยวเชงิ สขุ ภาพและการแพทย์ทางเลอื ก
โครงการการท่องเท่ียวเชงิ สุขภาพและการแพทยท์ างเลอื ก
7. ค่าใชจ้ า่ ยศูนยก์ ลาง ๑.กจิ กรรมการจดั ต้ังศูนย์ ๑.จดั ตงั้ ศนู ย์กลางสุขภาพ
ประสานงานกลางสขุ ภาพ
สุขภาพนานาชาติ นานาชาติ นานาชาติ ( Medical Hub )
(Medical Hub)กลมุ่ ( Medical Hub )
จงั หวัดอนั ดามนั กลุ่มจังหวดั อนั ดามัน กลมุ่ จังหวดั อนั ดามนั
(งบประมาณ ๒.เพ่ือเพม่ิ รายไดจ้ าก
60,000,000) ๒.กจิ กรรมการจัดทาระบบ การทอ่ งเที่ยวเชิงสขุ ภาพใหก้ ล่มุ
ผู้เชยี่ วชาญเพอื่ ชว่ ยบริหารจัดการ จงั หวดั อนั ดามนั
ภาวะวกิ ฤตแบบ Human – ๓.เพอื่ ทาใหเ้ กดิ ศนู ยก์ ลาง
Induced Crisis ในธุรกิจการ การแพทยม์ คี วามน่าเชอ่ื ถอื ใน
ทอ่ งเทย่ี วเชงิ การแพทย์ มมุ มองนานาชาติ
๓.กิจกรรมจัดทาระบบตดิ ตามการ ๔.สถานพยาบาลมีระบบ
ดาเนนิ การมาตรฐาน JCI : JCI บรหิ ารงานทีม่ ีประสิทธิภาพ
Standard Monitoring System
๔.กิจกรรมการจดั ทาระบบจดั การ
ควิ ผปู้ ่วยอัจฉริยะ (Intelligent
Patient Queue)Resource
Allocation)
๖.กิจกรรมจัดทาโมเดลพยากรณ์
คลงั สินค้าแบบ Non – Human
Resource
๗.กิจกรรมการพัฒนาสถาน
ประกอบการให้มคี วามพร้อมใน
การรองรบั Medical Hub
๘.กิจกรรมการพัฒนาศักยภาพ
บุคลากร เพ่อื เตรยี มความพร้อม
การเป็น Medical Hub
กลมุ่ จงั หวดั อันดามัน
๙.กิจกรรมส่งเสรมิ การตลาด
การทอ่ งเท่ียวเชิงการแพทย์ด้วย
Familiarization Trip
ปงี บประมาณ รูปแบบการ ความเหมาะสม
ประโยชนท์ ี่ได้รบั หนว่ ยงาน ลงทุน ของแผนงาน /
64 65 รับผดิ ชอบ 1 2 3 โครงการ
๑. เกิดการขับเคลอื่ น มหาวิทยาลัย ๑.สอดคลอ้ งกบั
นโยบายศูนยก์ ลางสขุ ภาพ สงขลานครนิ ทร์ แผนฯ
นานาชาติ( Medical วทิ ยาเขตภเู ก็ต ๒.สอดคลอ้ งกับ
Hub )ของประเทศไทย ยุทธฯกระทรวง/
๒. รายได้จาก หนว่ ยงาน
การท่องเทีย่ วเชิงสุขภาพ ๓.มคี วามสาคัญสงู
ในกล่มุ จังหวีดอันดามัน ๔.มีความพร้อมฯ
เพิ่มขนึ้ ๕.ความเหมาะสม
๓.ศนู ย์กลางการแพทยม์ ี ของงบประมาณ
ความนา่ เช่อื ถือในมมุ มอง
ของนานาชาติ
๔.สถานพยาบาลมีระบบ
การบรหิ ารงานทมี่ ี
ประสิทธภิ าพ
-30-
ลาดับ โครงการ กจิ กรรม วัตถปุ ระสงค์ ป
8. คา่ ใชจ้ า่ ยพัฒนา 1. พัฒนาศกั ยภาพด้านการ 1. เพอื่ พฒั นาองค์ความรู้และ 63
ศกั ยภาพผปู้ ระกอบการ บรหิ ารจัดการการทอ่ งเที่ยว ทักษะดา้ นการบริหารจัดการ
การทอ่ งเทยี่ วเชงิ เชิงสุขภาพ ให้แกผ่ ้ปู ระกอบกจิ การนา้ แร่
สุขภาพ ในเขต 2. ฝึกอบรมเชิงปฏบิ ตั ิการ น้าพรุ ้อน สาหรับธุรกจิ สปา
พัฒนาการท่องเทยี่ ว พฒั นาผลิตภัณฑ์ การบรกิ าร (Spa Industry) และธรุ กจิ
อันดามันใหม้ คี วาม และนวตั กรรมการตลาด บริการสขุ ภาพ (Wellness
พรอ้ มในการแข่งขนั ใน ท่เี ก่ยี วขอ้ งกับการท่องเทย่ี ว Industry)
ระดับสากล เชงิ สุขภาพเพ่อื เพมิ่ ขีด 2. เพ่อื พัฒนาองค์ความรู้ด้าน
(งบประมาณ ความสามารถในการแข่งขัน ผลิตภัณฑ์ (Product) และ
1,8๐๐,๐๐๐) 3. เช่ือมโยงเครือข่ายเรียนรู้ ทกั ษะด้านการบริการ
การบริหารจดั การแหลง่ (Service) ให้แก่ ผู้ใหบ้ รกิ าร
ทอ่ งเท่ียวเชงิ สุขภาพ สาหรบั ธุรกจิ สปา (Spa
ภายในประเทศ Industry) และธรุ กจิ บริการ
สขุ ภาพ (Wellness Industry)
เพอื่ เพ่มิ ขดี ความสามารถใน
การแขง่ ขนั
3. เพอื่ ใหเ้ กิดการสร้าง
เครือขา่ ยการบูรณาการท้ัง
ภาครัฐ ภาคเอกชน ทีเ่ กีย่ วข้อง
กบั การส่งเสริมและสนบั สนนุ
แก่ผู้ประกอบการดา้ นการ
ท่องเที่ยวเชงิ สุขภาพ รวมถึง
ธรุ กจิ ทีเ่ กยี่ วเนอื่ งให้เปน็ ที่
ยอมรบั จากผูบ้ ริโภค
ปงี บประมาณ ประโยชนท์ ่ไี ดร้ ับ หนว่ ยงาน รูปแบบการ ความเหมาะสม
64 65 รับผิดชอบ ลงทนุ ของแผนงาน /
โครงการ
123
๑.สอดคล้องกบั
1.ผปู้ ระกอบกจิ การนา้ แร่ สานักงาน แผนฯ
นา้ พุรอ้ น สาหรับธรุ กจิ การทอ่ งเท่ยี ว ๒.สอดคล้องกบั
สปา(Spa Industry) และ และกฬี า ยทุ ธฯกระทรวง/
ธรุ กจิ บรกิ ารสขุ ภาพ จังหวดั กระบี่ หนว่ ยงาน
(Wellness Industry) ๓.มคี วามสาคญั สูง
ได้รับการพัฒนาองค์ ๔.มีความพร้อมฯ
ความรแู้ ละทกั ษะด้านการ ๕.ความเหมาะสม
บรหิ ารจัดการ ของงบประมาณ
2.ผ้ใู ห้บริการสาหรบั ธุรกจิ
สปา (Spa Industry)
และธรุ กจิ บรกิ ารสุขภาพ
(Wellness Industry)
ได้รับการพฒั นาองค์
ความรดู้ า้ นผลิตภัณฑ์
(Product) ทกั ษะด้านการ
บรกิ าร (Service) และ
นวัตกรรมการตลาด
รวมถงึ มีความสามารถใน
การแข่งขนั เพมิ่ ข้นึ
3.เกิดการสร้างเครอื ขา่ ย
การบรู ณาการทัง้ ภาครฐั
ภาคเอกชน ทีเ่ ก่ยี วขอ้ งกับ
การส่งเสรมิ และสนบั สนนุ
แก่ผปู้ ระกอบการด้านการ
ทอ่ งเท่ียวเชิงสุขภาพ
รวมถึงธรุ กจิ ท่ีเกี่ยวเนือ่ ง
ใหเ้ ปน็ ทีย่ อมรับจาก
ผบู้ ริโภค
-31-
ลาดับ โครงการ กจิ กรรม วตั ถปุ ระสงค์ ป
63
กลยุทธ์ 1.3 พัฒนาการเพ่ิมมลู ค่าดา้ นการท่องเท่ียว ผา่ นประสบการณก์ ารทอ่ งเท่ียวทเี่ อก
โครงการเพ่ิมมูลค่าด้านการทอ่ งเท่ียว ผา่ นประสบการณก์ ารท่องเที่ยวท่ีเอกลักษณ์ของพนื ท
9. คา่ ใช้จา่ ยจดั งาน 1.มีกิจกรรมแสง สี เสยี งในวัน 1.เพื่อฟืน้ ฟู อนรุ กั ษ์
เทศกาล เปิดงาน(มกี ารนาเสนอ สร้างสรรค์ สืบสาน
ศลิ ปวฒั นธรรมและ ประวตั ศิ าสตร์เมืองตรัง ตอน ศิลปวัฒนธรรมทอ้ งถ่นิ และ
การท่องเทย่ี วโดย ไทยมลายรู ว่ มรบกับพมา่ ในศึก การท่องเทย่ี วโดยชมุ ชน กลมุ่
ชุมชน กลมุ่ จงั หวัดฝงั่ ถลางพ.ศ. 2532 ) จงั หวดั ฝงั่ อันดามนั
อันดามัน ครัง้ ท่ี 1 2.การออกบูธร้านคา้ ขายสนิ ค้า 2.เพ่ือเผยแพรศ่ ลิ ปวัฒนธรรม
(งบประมาณ OTOP ของชุมชนกลุม่ จงั หวดั ทอ้ งถ่นิ กลุม่ จังหวดั ฝั่งอันดา
15,000,000) ฝั่งอันดามัน มนั มากยง่ิ ขนึ้
3.การแสดงศิลปวัฒนธรรม 3.เพือ่ สง่ เสริมการทอ่ งเที่ยว
และวิถีชมุ ชนทัง้ กลมุ่ จงั หวดั โดยชุมชนในการสรา้ ง
ฝั่งอันดามัน เศรษฐกิจฐานรากใหเ้ ข้มแขง็
4.รา้ นจาหน่ายอาหารฮาลาล ม่นั คง ม่งั ค่ัง และย่ังยนื
และอาหารพืน้ บา้ นของกลุ่ม 4.เพื่อยกระดับจังหวดั ตรังให้
จังหวัดฝงั่ อนั ดามัน เปน็ ศูนย์กลางเมืองท่องเท่ยี ว
5.การแข่งขนั กีฬาพนื้ บา้ นวิถี เชงิ ศิลปวัฒนธรรมภาคใต้
ชุมชน กลุ่มจงั หวัดฝ่งั อนั ดามัน
เชน่ แขง่ ขนั นกชวา , กีฬาววั
ชน ,แขง่ ขันว่าว เป็นต้น
6.การจดั นทิ รรศการปรชั ญา
เศรษฐกจิ พอเพียง(แสดง
ผลสาเร็จหม่บู ้านเศรษฐกิจ
พอเพยี ง)
ปีงบประมาณ ประโยชน์ท่ีไดร้ ับ หนว่ ยงาน รูปแบบการ ความเหมาะสม
รบั ผิดชอบ ลงทนุ ของแผนงาน /
64 64
กลักษณ์ของพนื ท่ี เพม่ิ รายได้จาก สมาคมธรุ กิจ 1 2 3 โครงการ
ที่ การทอ่ งเทีย่ วโดยเพ่ิม การทอ่ งเท่ียว
นกั ทอ่ งเท่ยี วและรายได้ จงั หวดั ตรัง ๑.สอดคล้องกับ
ต่อหวั นักทอ่ งเท่ยี วที่ แผนฯ
เพิม่ ขึน้ คานวณ ๒.สอดคลอ้ งกบั
นกั ท่องเทีย่ วทเ่ี ขา้ มา ยุทธฯกระทรวง/
คา้ งคนื และซอ้ื โปรแกรม หน่วยงาน
การท่องเทย่ี วตลอดจน ๓.มคี วามสาคัญสงู
ค่าอาหาร และซอื้ สนิ คา้ ๔.มีความพร้อมฯ
ของทร่ี ะลึกพร้อม ๕.ความเหมาะสม
กจิ กรรมบริการอ่ืนๆ ของงบประมาณ
คาดวา่ ในช่วงจดั งาน
10 วนั 10 คนื
-32-
ลาดับ โครงการ กิจกรรม วัตถุประสงค์ ป
63
10. คา่ ใชจ้ า่ ยส่งเสริมการ ๑.อบรมศึกษาดูงานเกษตรกร ๑.เพอ่ื พฒั นาศักยภาพผูผ้ ลติ
ผลติ ไม้คุณภาพ เพ่ือ แปลงผู้ปลูกมังคุดในการผลิต มังคดุ ให้มีความรสู้ ามารถผลติ
รองรบั การทอ่ งเทีย่ ว สนิ ค้าปลอดภยั มังคดุ คณุ ภาพรองรับ
ของจงั หวัดพงั งา ๒.สนับสนนุ ตะกร้าพลาสตกิ ใส่ การทอ่ งเทย่ี วของจงั หวัดพงั งา
(งบประมาณ ผลผลติ มังคุดคุณภาพเพอ่ื ๒.ขยายชอ่ งทางทางการตลาด
1,533,500) ขยายชอ่ งทางทางการตลาด สูผ่ ู้บริโภคและสร้างรายได้แก่
เกษตรกร
ปงี บประมาณ ประโยชน์ทีไ่ ด้รับ หนว่ ยงาน รปู แบบการ ความเหมาะสม
รบั ผิดชอบ ลงทนุ ของแผนงาน /
64 65 ผู้ผลิตมังคุดแปลงใหญ่ โครงการ
ไดร้ ับการสง่ เสริมและ สานกั งานเกษตร 123
พฒั นาศักยภาพได้ จงั หวดั พงั งา ๑.สอดคลอ้ งกบั
รบั รองมาตรฐาน GAP แผนฯ
ไมน่ อ้ ยกวา่ รอ้ ยละ ๕๐ ๒.สอดคล้องกับ
ยทุ ธฯกระทรวง/
หน่วยงาน
๓.มคี วามสาคญั สงู
๔.มคี วามพร้อมฯ
๕.ความเหมาะสม
ของงบประมาณ
-33-
ลาดับ โครงการ กจิ กรรม วัตถุประสงค์ ป
63
กลยุทธ์ 1.4 ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา การจดั การแข่งขนั เชิงกีฬาทุกประเภท ทุกระดบั
โครงการสง่ เสริมการทอ่ งเทย่ี วเชิงกีฬา การจัดการแข่งขันเชงิ กฬี าทกุ ประเภท ทกุ ระดับ
11. คา่ ใชจ้ า่ ยแข่งขัน ๑.ประสานหน่วยงานที่ ๑.เพ่ือส่งเสริมให้จงั หวดั พังงา และ
แขง่ ขันเรือคายคั เกยี่ วขอ้ งเพอ่ื เตรียมความ พ้ืนท่อี ่าวพงั งาเปน็ สนามแข่งขัน
ระดับอาชพี และ พร้อมในการจดั กจิ กรรม ท้ัง คายคั ทไ่ี ดม้ าตรฐานและเป็นที่รู้จัก
สมัครเลน่ นานาชาติ ดา้ นสถานท่ี ดา้ นอานวยความ ของนักกฬี าทางน้าในระดับสากล
๒.เพอื่ กระตนุ้ กระแสการแขง่ ขันกีฬา
๒๐๒๑ สะดวกและอื่นๆที่เกย่ี วขอ้ ง ทางนา้ และกิจกรรมเก่ียวเนอ่ื งใหเ้ ป็น
(งบประมาณ ๒.ประชาสัมพันธก์ ารจดั ทน่ี ยิ มในพ้นื ทแ่ี ละสอดคลอ้ งกับ
10,000,000) กจิ กรรมอยา่ งกวา้ งขวางผา่ น แนวโนม้ การเล่นกฬี าระดบั สากลให้
สอ่ื ชอ่ งต่างๆ เกดิ ขน้ึ ในจังหวัดพังงา
๓.จัดกจิ กรรมการแข่งขันพาย 3.เพ่อื กระตนุ้ กระแสการแข่งขันกีฬา
เรือคายคั ทางน้าและกิจกรรมเก่ียวเนื่องให้เปน็
ที่นิยมในพื้นที่และสอดคลอ้ งกับ
๔.รายงานผลการดาเนินงาน แนวโนม้ การเล่นกฬี าระดับสากลให้
เกดิ ข้ึนในจังหวัดพงั งา
แข่งขันพายเรือคายัค 4. เพ่ือประชาสัมพนั ธ์การทอ่ งเท่ียว
- รายงานผลการดาเนนิ งาน รว่ มของจงั หวัดโดยผ่านการนาเสนอ
การแหล่งทอ่ งเทยี่ วเชิงกฬี าสู่
นานาชาติ
5.การส่งเสริมการรับรถู้ ึง
การสนบั สนุนการแขง่ ขันกิจกรรม
กีฬาคายคั และกิจกรรมกีฬาทางน้า
ประเภทอ่นื ใหเ้ ยาวชนไทยและบคุ คล
ทั่วไปได้สัมผัสการแขง่ กีฬาระดบั
นานาชาติ
6.เพื่อเปน็ การส่งเสรมิ การเล่นกีฬา
ใหเ้ ติบโตอย่างรวดเร็วในประเทศไทย
และให้บคุ คลทวั่ ไปหันมาสนใจเรอื
พายมากย่ิงขึน้ ผ่านช่องทาง
ประชาสัมพันธ์โครงการแขง่ ขันอย่าง
รวดเร็วในประเทศไทย และใหบ้ คุ คล
ทวั่ ไปหนั มาสนใจเรือพายมากย่ิงขน้ึ
ผ่านชอ่ งทางประชาสัมพันธโ์ ครงการ
แขง่ ขัน
ปงี บประมาณ ประโยชน์ท่ีไดร้ ับ หนว่ ยงาน รปู แบบการ ความเหมาะสม
รับผิดชอบ ลงทนุ ของแผนงาน /
64 64
บ 1 2 3 โครงการ
สานักงาน ๑.สอดคล้องกบั
การทอ่ งเทย่ี ว แผนฯ
และกีฬา ๒.สอดคลอ้ งกับ
จังหวดั พังงา ยุทธฯกระทรวง/
หนว่ ยงาน
๓.มคี วามสาคัญสงู
๔.มคี วามพร้อมฯ
๕.ความเหมาะสม
ของงบประมาณ
-34-
ลาดบั โครงการ กจิ กรรม วัตถุประสงค์ ป
12. ค่าใชจ้ า่ ย แขง่ ขัน “Andaman 1. เพอื่ เป็นการประชาสมั พันธ์ 63
แหล่งท่องเทย่ี วของ
เขตพัฒนาการท่องเทย่ี ว
อนั ดามันให้สอดคลอ้ ง
มหกรรมกฬี า Swimathon 2020” และเหมาะสม สรา้ งความ
เชือ่ มโยงของการท่องเท่ียว
เพอื่ การทอ่ งเทยี่ ว ระหว่างเขตพฒั นาการ
ทอ่ งเท่ยี วอนั ดามนั และสร้าง
อนั ดามันอนิ เตอร์ รายได้ใหก้ ับเขตพฒั นาการ
ทอ่ งเทยี่ วอนั ดามัน และ
เนชน่ั แนล 2020( ประเทศ
๒. เพอื่ ส่งเสรมิ กีฬาเพือ่
งบประมาณ การท่องเทยี่ ว (Sport
Tourism)
20,5๐๐,๐๐๐) โดยใช้กีฬาเปน็ ส่อื ในการ
พฒั นาลกั ษณะนสิ ัยเยาวชนให้
มีนา้ ใจนกั กฬี า มวี นิ ยั ปฏบิ ัติ
ตามกติกามารยาท และมคี วาม
สามคั คี
๓. เพื่อกระตนุ้ กระแสการ
แข่งขันกีฬาระดบั สากลให้
เกดิ ขน้ึ ใน
เขตพฒั นาการท่องเทย่ี วอนั ดา
มนั
๔. เพ่ือปลูกฝงั ให้เยาวชนไทย
และบุคคลทว่ั ไปไดส้ ัมผัส
การแขง่ ขันกีฬาระดบั
นานาชาติ
ปงี บประมาณ ประโยชนท์ ไี่ ดร้ บั หนว่ ยงาน รูปแบบการ ความเหมาะสม
64 64 รับผดิ ชอบ ลงทุน ของแผนงาน /
โครงการ
สานกั งาน 123
การท่องเท่ียว ๑.สอดคลอ้ งกบั
และกีฬา แผนฯ
จงั หวดั กระบ่ี ๒.สอดคล้องกบั
ยุทธฯกระทรวง/
หนว่ ยงาน
๓.มีความสาคัญสูง
๔.มคี วามพร้อมฯ
๕.ความเหมาะสม
ของงบประมาณ
-35-
ลาดับ โครงการ กิจกรรม วตั ถุประสงค์ ป
63
13. คา่ ใชจ้ า่ ย
ส่งเสรมิ และเพมิ่ ๑.จดั กจิ กรรมการแขง่ ขนั 1. เพอ่ื พฒั นาบุคลากรทาง
ศกั ยภาพทาง Phangnga Trail Running การท่องเทย่ี วและเพิ่ม
การแข่งขันดา้ น @KhaoLampee ศักยภาพทางการแขง่ ขนั
การท่องเทยี่ ว ๒.จัดกิจกรรมการแขง่ ขัน ทางการทอ่ งเทีย่ ว
จังหวดั พังงา Phangnga Trail Running 2.ประชาสัมพันธ์
Phangnga Trail @Kapong การทอ่ งเทยี่ วจังหวัดพังงา
Running2021 และกระตุ้นเศรษฐกิจใน
(งบประมาณ ภาคอุตสาหกรรมการทอ่ งเทยี่ ว
3,600,000) 3.เพ่อื เป็นกิจกรรมรองรับ
นกั ทอ่ งเท่ยี วและส่งเสริม
การท่องเทย่ี วในพื้นท่ี
จังหวดั พงั งาตลอดทง้ั ปี
4. เพ่อื เสริมสรา้ งรายได้และ
กระจายรายได้ให้กบั คนใน
พน้ื ทีบ่ รเิ วณใกลเ้ คยี ง