ศิศิศิ ลศิ ลปปะะบบนนผืผื ผื นผื นผ้ผ้ ผ้ า ผ้ า บาติก
แนะนำ ตัว เจ้าของกิจการ
นายวสันต์ เส้งเลี่ยม (พี่โป้ง) เจ้าของร้านลีลาวดีบาติก จบการศึกษาที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา ทางด้านศิลปะ แรงบันดาลใจในการทำ กิจการผ้าบาติก เนื่องจากพี่โป้งจบมาก จากมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา เกี่ยวกับศิลปะโดยตรง และมี ความชื่นชอบในการทำ ผ้าอยู่แล้ว เพราะสามารถประกอบอาชีพ ได้ การตลาดกว้าง เป็นงานที่มีหัตถกรรมเข้ามาเกี่ยวข้อง นำ มา ดัดแปลงให้เป็นรูปแบบของตนเอง ลองผิดลองถูกมาเรื่อย จนมี รูปแบบแนวทาง ลายเส้นเป็นของตัวเอง ซึ่งพี่โป้งชื่นชอบทาง ด้านศิลปะและมีทักษะอยู่แล้ว จึงมีพื้นฐานที่ค่อนข้างดี
ก่อตั้งมาใกล้จะครบ 18ปี เปิดร้านครั้งแรกที่ก่อนถึงไฟแดงขนส่ง แต่แล้วก็ย้ายร้านมาที่ปัจจุบัน (ทางเข้าเมืองสงขลา อยู่เยื้องกับค่าย รามคำ แหง) เพราะต้องการสถานที่ที่มีความกว้าง ระยะเวลาในการเปิดกิจการ เปิดตั้งแต่ช่วงเช้า - 4ทุ่ม
คำ ว่าบาติก (BATIK) หรือ ปาเต๊ะ เดิมเป็นคำ ในภาษา ชวา ใช้เรียกผ้าที่มีลวดลายที่เป็นจุด คำ ว่า " ติ๊ก " มีความหมายว่า เล็กน้อย หรือจุดเล็กๆมีความหมายเช่นเดียวกับคำ ว่าตริติก หรือตาริติก ดังนั้นคำ ว่า บาติก จึงมีความหมายว่าเป็นผ้าที่มี ลวดลายเป็นจุดๆ ด่างๆ
วิธีการทำ ผ้าบาติกในสมัยดั้งเดิมใช้วิธีการเขียนด้วยเทียน (WAX- WRITING) ดังนั้นผ้าบาติกจึงเป็นลักษณะผ้าที่ มีวิธีการผลิตโดย ใช้เทียนปิดในส่วนที่ไม่ต้องการให้ติดสี แม้ว่าวิธีการทำ ผ้าบาติกในปัจจุบัน จะก้าวหน้าไปมากแล้วก็ตาม แต่ลักษณะเฉพาะประการหนึ่งของผ้าบาติกก็คือ จะต้องมีวิธีการผลิต โดยใช้เทียนปิดส่วน ที่ไม่ต้องการให้ติดสี หรือปิดส่วนที่ ไม่ต้องการ ให้ติดสีซ้ำ อีก
กระบวนการทำ ผ้าบาติก มีทั้งพิมพ์เทียน แต้มสี ระบาย สี จึงมีลักษณะเป็นงานหัตถอุตสาหกรรมและงานทางศิลปะ อยู่ในตัว ลักษณะการซึมของสี การแต้ม การระบาย และ การย้อมสี อาจซึม เข้าไปตามรอยแตกของเทียนเหล่านี้ ทำ ให้ผ้าบาติกมีลักษณะราย ละเอียดปลีกย่อยไม่เหมือนกัน แม้ว่าจะใช้แม่พิมพ์อันเดียวกัน
๑. บาติก(ลายเขียน) ผ้าบาติกชนิดนี้จะต้องเขียนเทียนด้วยเครื่องมือที่เรียกว่า จันติ้ง (Tjanting) ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับกามีกรวยให้น้ำ เทียนไหลออกและมีด้ามสำ หรับจับเขียน การเขียนเทียนนั้น ต้องเขียนทั่วทั้งผืนในขณะที่เทียนกำ ลังร้อน ๆ เทียนจะ ไหลติดซึมลงไปในเนื้อผ้า และไหลซึมผ่านเส้นใยของผ้าลง ไปด้านหลังทำ ให้สามารถกันสีที่ระบาย แต้ม หรือย้อมได้ และทำ ให้เกิดลวดลายขึ้น จะย้อมสีกี่ชั้นก็ตาม จะต้องเขียน เทียนปิดด้วยจันติ้งทุกครั้ง
๒. บาติก (ลายพิมพ์) บาติกลายพิมพ์หรือบาติกที่พิมพ์ลวดลายโดยใช้แม่พิมพ์อาจทำ ได้จาก ไม้ หรือทำ จากทองแดง หรือโลหะชนิดอื่น โดยการใช้แม่พิมพ์จุ่มเทียน ที่กำ ลังร้อนพอเหมาะ พิมพ์ลวดลายลงบนผ้า จากนั้นจึงแต้มสีหรือนำ ไปย้อมต่อไป บาติกลายพิมพ์ที่มีลักษณะพิเศษ คือ ลักษณะลวดลาย ซ้ำ กัน ความงามของผ้าบาติกนี้ขึ้นอยู่กับแม่พิมพ์ที่มีลักษณะของ ลวดลายที่มีรายละเอียดและขบวนการผลิตที่ปราณีตมาก
๓. บาติก (ลายพิมพ์สี) ผ้าบาติกพิมพ์สี เป็นผ้าบาติกที่ได้รับความนิยมกันมากอีกแบบหนึ่ง เป็นผ้าที่ทำ เลียนแบบผ้าบาติกที่เขียนด้วยมือหรือบาติกลายเขียน ลักษณะลวดลายมีรายละเอียดที่สีสันสดใสกว่าเทคนิคอื่น ๆ ผ้าบา ติกชนิดนี้เป็นการผสมผสานระหว่างเทคนิคการพิมพ์ผ้ากับเทคนิค การเขียนด้วยมือ โดยการใช้ขี้ผึ้งผสมกัน
๑.มัสลิน ผ้าป่าน ผ้าฝ้าย มัสลินเป็นผ้าที่เกิดจากการฟอกผ้าขาว ผลิตจากด้ายดิบหรือเส้นไหม ๒.กรอบไม้สำ หรับการขึงผ้า กรอบไม้บาติก มี 3 ขนาด ขนาด 12" x 12" ขนาด 14" x 14" ขนาด 16" x 16" ตามแต่ลักษณะเฉพาะประการหนึ่งของผ้าบาติก ๓. จันติ้ง เครื่องมือที่ใช้ในการเขียนขี้ผึ้งลงบนผ้าบาติก
เครื่องมือสำ หรับทาสีและระบายสี พู่กันนั้น ผลิตโดยใช้เหล็กหนีบขนแปรงให้มีขนาด ต่างๆโดยจะมีเกณฑ์แบ่งเป็นเบอร์ๆไป ๔. พู่กัน ๕. สี ใช้ทาเคลือบผ้ามัดย้อมหรือผ้าบาติก เพื่อให้สีติดผ้าคงทน ๖.โซเดียมซิลิเกท(เคลือบสี) ใช้ทาเคลือบผ้ามัดย้อมหรือผ้าบาติก เพื่อให้สีติดผ้าคงทน
๑. นำ ผ้าขาวมาวัดขนาดกับกรอบไม้ เมื่อพอดีแล้ว ให้นำ เทียนมา ทาบริเวณกรอบไม้ และนำ ผ้าขาวมาขึง พร้อมใช้ขวดหรือวัสดุที่มี ลักษณะแบนและแข็งมารีดผ้า เพื่อให้ผ้าขาวยึดติดกับกรอบไม้ ๒.ร่างรูปได้ตามต้องการ เเล้วนำ จันติ้ง แช่ให้ร้อน หลังจาก นั้นตักเทียนมาตัดขอบภาพที่ร่างไว้ เพื่อกันสีลามออกนอภาพ
๓.ลงสีตามที่ต้องการลงในภาพ คล้ายเป็นการระบายสีลงในช่องว่าง ๔.เมื่อลงสีเสร็จ รอให้สีเเห้งเเล้วทาโซเดียมซิลิเกต เพื่อเป็นการ กันสีตก แล้วนำ ไปต้มเพื่อให้เทียนละลา เเละสุดท้ายนำ ผ้าไป ตากให้เเห้ง
ปัญหาหลัก ๑. อากาศ : ถ้าอากาศร้อนงานก็จะดำ เนินการไปได้อย่างรวดเร็ว เพราะขั้นตอนในการทำ ต้องใช้ สี ใช้น้ำ ใช้อุณหภูมิ แต่ถ้าอากาศชื้น จะทำ ให้งานเสร็จล่าช้า ๒.สภาวะเศรษฐกิจ : หากสินค้ามีราคาแพงคนจะไม่ค่อยซื้อเสื้อผ้า เนื่องจากบาติกเป็นงานผ้าไทย เป็นสินค้าของใช้ที่ฟุ่มเฟือย มีการใช้ เฉพาะกลุ่มในฐานะข้าราชการ หรือกลุ่มปานกลาง ทำ ให้ชาวบ้านบาง ส่วนไม่สามารถเข้าถึงได้ เพราะสินค้ามีราคาสูงและต้องใช้เวลา ๓.สภาวะการปกครองการเมือง : เนื่องจากเศรษฐกิจและการเมืองในปัจจุบัน ไม่ค่อยดี จึงทำ ให้มีงบประมาณและค่าใช้จ่าย เนื่องจากกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ เป็นข้าราชการหรือกลุ่มภาครัฐ เป็นกลุ่มคนที่ต้องสวมใส่เสื้อผ้าบาติกเพื่อ ตามนโยบายของภาครัฐ ถ้าหากทางภาครัฐไม่มีงบประมาณ กลุ่มลูกค้าเหล่า นี้ก็จะไปเลือกซื้อเสื้อผ้าราคาถูกแทน เช่น เสื้อผ้าพิมพ์ ที่ใช้การผลิตโดยการ ปริ๊นซ์แล้วตัดทีเดียว ใช้โรงงานในการผลิตจึงทำ ให้ผลิตได้เป็นจำ นวนมาก แต่ผ้าบาติกเป็นงานที่สืบทอดความเป็นท้องถิ่นและเอกลักษณ์
หากช่วงฝนตก อากาศชื้น ก็ต้องดำ เนินการตามออเดอร์ ต้องทำ งานเร็วกว่าเดิม หรือบางครั้งจะใช้พัดลมในการเป่า และต้องคุยกับลูกค้าให้ชัดเจนและเข้าใจว่าต้องการขอเวลา เพิ่ม
ผลตอบรับค่อนข้างดี เพราะได้นโยบายมาจากทางภาครัฐ ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดได้ขอความร่วมมือให้หน่วยงานราชการ ได้สวมใส่ผ้าไทย ไม่ว่าจะเป็นลายผ้าที่พิมพ์มาแล้วและ ออกแบบเอง การตลาดก็ค่อนข้างกว้างขวาง คู่แข่งน้อย เนื่องจากคนที่ประกอบอาชีพนี้ค่อนข้างน้อย ซึ่งในสงขลาก็มี ไม่กี่เจ้าเท่านั้น แต่ทางร้านพี่โป้งค่อนข้างได้เปรียบ เพราะจบ มาจากด้านศิลปะโดยตรง ต่างจากกลุ่มย่อยๆ ที่ถูกฝึกมาอย่าง จำ กัดเท่านั้น
กลุ่มเป้าหมายลูกค้าที่เลือกซื้อ - หน่วยงานข้าราชการ - กลุ่มแม่บ้าน/สังคม - กลุ่มลูกค้าทั่วไป (แต่จะมีจำ นวนน้อยกว่า เพราะสถานที่ ไม่อำ นวย ติดกับถนนใหญ่) - ลูกค้าประจำ วิธีการเพิ่มยอดขายของทางร้าน มีการลงลวดลายต่างๆของทางร้าน คอลเลคชั่นประจำ ปี รวมไปถึง การจำ หน่ายผ่านทางหน้าเพจ " ลีลาวดีบาติกสงขลา " ทำ ให้มีกลุ่ม ลูกค้าจากต่างจังหวัดหลายภูมิภาคเกิดความสนใจ ทั้งภาคกลาง ภาคอีสาน อีกทั้งยังมีร้านประจำ ที่จังหวัดภูเก็ต และกระบี่ ซึ่งจะ เป็นสินค้าที่ขายให้แก่นักท่องเที่ยว เช่น เสื้อมัดย้อม เสื้อ ชายทะเล ขึ้นอยู่กับแต่ละช่วงเวลา
ส่วนใหญ่ที่ร้านจะเน้นลวดลายของดอกไม้ เนื่องจากก่อนหน้านี้ มีการทำ สินค้าส่งไปยังร้านสปา ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นลวดลายของ ดอกลีลาวดี จึงเป็นที่มาของชื่อร้านด้วย อีกทั้งยังมีลวดลายประจำ จังหวัดสงขลา เช่น นางเงือก ชายทะเล ปลา นอกเหนือจากนั้นก็จะเป็นลวดลายตามความต้องการของลูกค้า และความแตกต่างขึ้นอยู่กับผู้ออกแบบหรือช่าง ช่างแต่ละคนจะมี ความถนัดที่ไม่เหมือนกัน เพราะต้องใช้ความชำ นาญเป็นหลัก
ทุกขั้นตอนมีความสำ คัญทั้งหมด แต่หากจำ แนกในรูปแบบของ ผ้า การวาดเส้นจะเป็นขั้นตอนที่ยากที่สุด เพราะต้องใช้ปากกา น้ำ เทียนร้อนๆแทนดินสอ จะบังคับอย่างไรให้ไหลเวียน ซึ่งขั้น ตอนการวาดเส้นเป็นขั้นตอนการวัดว่าช่างคนนั้นมีฝีมือเป็น อย่างไร ในการทำ ผ้าบาติกบนวัสดุที่มีความแตกต่างกัน มีความ ยากหรือง่ายในการทำ ผ้าบาติกบนวัสดุที่มีความแตกต่างกัน มี ความยากหรือง่าย ผ้าแต่ละชนิดจะไม่เหมือนกัน บางชนิดเขียน ได้ บางชนิดเขียนไม่ได้ ผ้าบางชนิดหนาเกินไป ถ้าหากเป็นผ้า ที่มีผิวเรียบจะความง่ายกว่า แต่ถ้าเป็นผ้าที่มีความหยาบก็จะ ทำ ได้ยากกว่า
รวมถึงทางร้านได้มีการเสริมสร้างด้านสิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม มีการควบคุมสารเคมีภายในร้าน เพราะส่วนใหญ่ที่ร้านจะใช้ เป็นสีกึ่งธรรมชาติ ไม่ใช่เคมี100% แต่มีงานบางชิ้นที่ใช้สีย้อม ธรรมชาติ แต่จะแยกขายอีกกลุ่มหนึ่ง เพราะขั้นตอนการทำ ค่อน ข้างยาก จึงขายในราคาที่สูง
ทิศทางของร้านคงจะต้องอยู่ไปเรื่อยๆ ส่วนเด็กรุ่นใหม่ยังให้ ความสนใจอยู่มั้ย ก็ยังมีบางส่วนที่ยังใส่ใจในงานด้าน วัฒนธรรมอยู่ อย่างเช่น มหาวิทยาลัยทักษิณ มหาวิทยาลัย ราชภัฏ อีกทั้งยังมีอาจารย์บางท่านที่ยังสอนผ้าบาติดอยู่ ส่วน ทางมหาวิทยาลัยราชมงคลศรีวิชัย ก็ยังมีสาขาวิชาแฟชั่นที่ยัง ต้องใช้ผ้าบาติกอยู่ คิดว่าในอนาคตนักศึกษาเหล่านี้ก็ยังมีการ เข้ามาเรียนรู้การทำ ผ้าบาติกอยู่เรื่อยๆ
ตอนนี้คู่แข่งทางธุรกิจค่อนข้างน้อย มีเพียง2เจ้าใหญ่ๆใน สงขลาเท่านั้นที่เปิดเป็นหน้าร้าน ส่วนที่เหลือจะเป็นเพียงกลุ่ม แม่บ้านที่ไม่ได้เปิดหน้าร้าน ซึ่งในเรื่องของการแข่งขันทางร้าน ไม่ได้คิดมากอยู่แล้ว แต่เป็นเรื่องของความชอบของลูกค้า มากกว่า
ส่งผลกระทบกับทุกอย่าง ไม่ใช่เพียงแค่ผ้าบาติกแต่กระทบกับ ทุกอย่าง แต่ก่อนที่จะถึงช่วงสถานการณ์โควิด ทางร้านพอมีเงิน เก็บสะสมจากการทำ งานมาก่อนหน้านี้ มีการวางแผนทางด้าน การตลาดเอาไว้แล้ว แต่ก็ยังทีผลกระทบในเรื่องของการ จำ หน่ายสินค้าอยู่ เพราะเป็นช่วงที่หน่วยงานราชการทำ งานกัน อยู่ที่บ้าน จึงไม่จำ เป็นต้องตัดผ้า ทำ ให้สินค้าขายไม่ได้ ส่วน ร้านประจำ ที่จำ หน่ายนักท่องเที่ยวก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน จน กระทั่งต้องหาอาชีพเสริมทำ ในช่วงนั้น
ทางร้านจะมีเพจทางFacebook ชื่อว่า " ลีลาวดีบาติก " มีการจำ หน่ายตามออร์เดอร์ที่ลูกค้าสั่งทางช่องทางออนไลน์