น้ำพริกปลาทู
เครื่องจิ้มเครื่อง
เคียงสำรับชุดน้ำ
พริก
จัดทำโดย นางสาว นิชิตา ชาห์ ม4/5
น้ำพริกปลาทู
น้ำพริกปลาทู เป็นเมนูอาหารที่มีการตำน้ำพริก
และใส่ปลาทูนึ่งเข้าไปตำร่วมด้วย ปรุงรสให้ออก
เผ็ด เปรี้ยว เค็ม รับประทานกับผักสด ผักต้ม
นานาชนิด และการปรุงน้ำพริกให้อร่อยนั้น มี
เคล็ดลับดี ๆ คือ ควรใช้ครก เพราะครกเป็น
เครื่องมือที่ใช้ในการปรุงอาหารที่เป็นเอกลักษณ์
ของไทย
ส่วนผสม
1.เนื้อปลาทูย่าง
2.พริก/กระเทียม/หอมแดง
3.มะนาว/น้ำปลา/น้ำตาล/
น้ำต้ม
วิธีทำ
วิธีทำน้ำพริกปลาทู
1. แกะปลาทูย่างเอาแต่เนื้อ เตรียมไว้
2. นำกระทะตั้งไฟพอร้อน ใส่กระเทียม หอมแดง และ
พริกขี้หนูลงคั่วจนไหม้เล็กน้อย ตักใส่ครก ใส่เนื้อปลา
ทูที่แกะไว้ โขลกพอหยาบ เติมน้ำต้มสุก
3. ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว น้ำปลา และน้ำตาลปี๊บ โขลก
ผสมให้เข้ากันดี ชิมรสตามชอบ ตักใส่ถ้วย เสิร์ฟคู่กับ
ผักสดหรือผักลวกตามชอบ
ผักที่ใช้รับประทาน
ผักสด : ถั่วพู แตงกวา มะเขือเสวย
ผักต้ม : ดอกแคต้ม ผักบุ้งต้นขาว ข้าวโพดอ่อน
วิธีเก็บรักษา
เอาใส่กระปุก ปิดฝาแน่นๆ ไม่เช่นนั้น
เวลาเปิดตู้เย็นล่ะก็ กลิ่นกะปิ หอมเลย
เก็บไว้ได้ ประมาณ 3 อาทิตย์
น้ำพริกปลาทู เป็นเมนูอาหารที่มีการตำน้ำพริก และใส่ปลาทูนึ่งเข้าไปตำร่วมด้วย ปรุง
รสให้ออกเผ็ด เปรี้ยว เค็ม รับประทานกับผักสด ผักต้ม นานาชนิด การปรุงน้ำพริกให้
อร่อยควรใช้ครก ครกเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการปรุงอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ไทย การตำ
อาหารด้วยครกจะทำให้อาหารอร่อย เพราะการตำจะทำให้รสชาติและสารต่างๆ ในพืชผัก
ที่ถูกตำออกมา ทำให้ได้รสชาติดีกว่าการใช้เครื่องปั่น
น้ำพริกปลาทู เป็นการเอาเนื้อปลาทูลงไปผสมในตัวเครื่องจิ้มหรือน้ำพริกโดยตรง
ทำให้เราไม่ต้องมีปลาทูเป็นเครื่องเคียง เพราะฉะนั้นน้ำพริกปลาทูจานนี้ ก็จะรับประทาน
ร่วมกับผักชนิดต่างๆ เป็นหลัก
ตัวน้ำพริกก็จะอุดมไปด้วยโปรตีน แล้วปลาทู เป็นแหล่งที่ดีของ
โปรตีน มีโอเมก้า 3 และไอโอดีน ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการบำรุง
สมอง โปรตีนในปลาเป็นโปรตีนที่ย่อยง่าย เมื่อรับประทานร่วมกับ
ผักหลายชนิด ส่วนใหญ่ก็จะเป็นผักสดหรือผักต้มเท่านั้นเอง ซึ่งผัก
สดก็จะประกอบไปด้วย มะเขือ อาจจะมีมะเขือหลากหลายชนิด เช่น
มะเขือเปราะ มะเขือม่วง หรือมะเขือต่างๆ ที่มีในท้องถิ่น นอกจาก
นั้นก็ยังมี ผักบุ้ง ซึ่งผักบุ้ง เวลาเรากินกับน้ำพริกมักจะนิยมเอาไป
ลวกให้นิ่ม รสชาติก็จะหวาน เวลารับประทานกับน้ำพริก ก็ค่อนข้าง
จะรับประทานได้ง่าย เพราะฉะนั้นอาหารจานนี้จึงเป็นอีกจานหนึ่งที่
มีประโยชน์ มีสารอาหารครบ 5 หมู่เมื่อรับประทานร่วมกับข้าว ข้อ
ควรระวังคือ อย่าทำให้รสจัดมากเกินไป เช่น เค็มจัด เปรี้ยวจัดหรือ
เผ็ดจัดเกินไป เพราะว่าไม่เป็นผลดีต่อระบบลำไส้หรือกระเพาะ
อาหาร นอกจากนี้ รสเค็มจัดก็จะมีผลต่อการเพิ่มความดันโลหิต ดัง
นั้นคนที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง ก็ควรที่จะระวังในเรื่องนี้ด้วย
THANKYOU