ความหลากหลาย
พื ชและสั ตว์
บ ริ เ ว ณ ป่ า ช า ย เ ล น
ตำบลสนามไชย อำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี
คำนำ
หนั งสื ออิเล็กทรอนิ กส์ (E-Book) เล่ม
นี้ เป็นส่ วนหนึ่ งของโครงการยกระดับ
เศรษฐกิจและสั งคมรายตำบลแบบ
บูรณาการ (U2T) ในหนั งสื อ
อิเล็กทรอนิ กส์ (E-Book) เล่มนี้
ประกอบไปด้วย พันธุ์พืชและพันธุ์สั ตว์
น้ำในป่าชายเลน
จัดทำหนั งสื ออิเล็กทรอนิ กส์ (E-
Book) เล่มนี้ ขึ้นมาเพื่อที่จะนำเสนอใน
รูปแบบใหม่ที่น่ าสนใจมากขึ้นและเพื่อ
ที่จะให้ประชาชนที่สนใจในเรื่องพันธุ์
พืชและพันธุ์สั ตว์น้ำในป่าชายเลนได้
ศึ กษาและทำความเข้าใจมากยิ่งขึ้น
หากมีความผิดพลาดประการใดพวก
เราคณะผู้จัดทำขออภัยไว้ ณ ที่นี้ ด้วย
สารบัญ
เรื่อง หน้ า
พันธุ์พืชในป่าชายเลน 2
5
โกงกางใบเล็ก 7
โกงกางใบใหญ่ 10
โปรงขาว 13
16
ปรงทะเล 19
โพทะเล
23
แสมขาว 25
หวายลิง 27
พันธุ์สั ตว์น้ำป่าชายเลน 29
32
กุ้งดีดขัน 34
36
ทากปุ่มหิน
ปลาตีน
ปูแป้น
ปูแสมก้ามแดง
ปูแสมก้ามม่วง
ปูแสมก้ามส้ ม
สารบัญ
เรื่อง หน้ า
38
หอยขี้ค้อน 40
หอยจุ๊บแจง 42
หอยหนามเล็ก 44
หอยหูแมว 46
การสำรวจพันธุ์ปูแสมแต่ละ
ชนิ ด
บรรณานุกรม
2
โกงกางใบเล็ก
ชื่อสามัญ : โกงกางใบเล็ก
ชื่อสามัญ(อังกฤษ) : -
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Rhizophora apiculata
ชื่อวงศ์ : Rhizophoraceae
3
ลักษณะทั่วไป
โกงกางใบเล็กเป็นไม้ต้นขนาดใหญ่
ระบบรากเป็นระบบรากแก้วมีรากเสริม
ออกมาเหนือโคนต้น 3 รากที่โคนต้น
หรือรากค้ำยันลำต้นแตกแขนงระเกะ
ระกะไม่เป็นระเบียบ ทำมุมเกือบตั้งฉาก
กับลำต้นและหักเกือบเป็นมุมฉากลงดิน
เพื่อพยุงลำต้น เรือนยอดรูปกรวยคว่ำ
แคบ ๆ
ลำต้นมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 30-50
เซนติเมตร เปลือกสีเทาคล้ำหรือเทาอม
ชมพู แตกเป็นร่องตื้น ๆ
ใบเป็นใบเดี่ยวเรียงตรงข้ามสลับทิศทาง
ตั้งฉาก ใบคู่ล่างๆ จะร่วงไปเหลือแต่คู่
ใบ 2-4 คู่ ร่วงง่าย ใบเล็กกว่าโกงกางใบ
ใหญ่
ผลมีรูปไข่ สีน้ำตาลคล้ำ ผิวค่อนข้าง
ขรุขระ
4
ลักษณะทั่วไป(ต่อ)
ถิ่นที่อยู่อาศั ย : พบได้ตามชายฝั่ งทะเล
ริมแม่น้ำ ชายคลองและป่าชายเลน
สรรพคุณทางสมุนไพร : พบว่าใบของ
โกงกางเป็นสมุนไพร ไว้คลาดร้อน ปวด
ท้องรุนแรง แต่ควรต้มก่อน สามารถ
รวมกับอย่างอื่นเพื่อเปลี่ยนรสชาติได้ น้ำ
จากเปลือกใช้ชะล้างแผล ห้ามเลือดได้
ประโยชน์ : เปลือกให้น้ำฝาดสีน้ำตาล
ใช้ ย้อมผ้า อวน ลำต้นใช้ทำเสาเข็มในที่
น้ำทะเลขึ้นถึง เผาถ่าน เปลือกมีสาร
แทนนิ นและฟีนอล เป็นสารที่ใช้ทำสี
หมึกและยา จึงมีการนำไปสกัด
5
โกงกางใบใหญ่
ชื่อสามัญ : โกงกางใบใหญ่
ชื่อสามัญ(อังกฤษ) : -
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Rhizophora mucronata
ชื่อวงศ์ : Rhizophoraceae
6
ลักษณะทั่วไป
เปลือกลำต้นสีเทาเข้มถึงดำ แตกเป็น
ร่อง รอบ ๆ โคนต้นมีรากค้ำยันเพื่อพยุง
ลำต้นให้แข็งแรง สามารถดำรงต้นได้
ในดินโคลน ใบเดี่ยว ไม่ผลัดใบ เรียง
เป็นคู่ตรงข้าม ใบสีเขียวอ่อนมีจุดดำที่
ก้านใบ ใบเกล็ดสีแดง หุ้มยอดอ่อน
ดอกเป็นดอกช่อ ออกที่ง่ามใบ กลีบ
เลี้ยงสีเหลืองอ่อน มี 4 กลีบ กลีบดอกสี
ขาว 4 กลีบ มีกลิ่นหอม ผลเดี่ยว ทรง
คล้ายลูกข่าง สีน้ำตาล ผิวของผลหยาบ
สาก ผลงอกตั้งแต่อยู่บนต้น เป็นฝัก
ตรงสีเขียวอ่อน ส่วนที่ติดกับขั้วมีกลีบ
เลี้ยง
ถิ่นที่อยู่อาศั ย : พบในป่าชายเลน
สรรพคุณทางสมุนไพร : น้ำจาก
เปลือกใช้ล้างแผลและดื่มแก้ท้องร่วง
ประโยชน์ : เป็นไม้ใช้ก่อสร้าง เผาถ่าน
7
โปรงขาว
ชื่อสามัญ : โปรงขาว
ชื่อสามัญ(อังกฤษ) : -
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Ceriops decandra
ชื่อวงศ์ : Rhizophoraceae
8
ลักษณะทั่วไป
เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กกึ่งไม้พุ่ม สูง 2-7
เมตร โคนต้นมีพูพอนเล็กน้ อยพอง
ขยายออก รากหายใจรูปคล้ายเข่า อ้วน
สั้น กลม เหนื อผิวดิน เรือนยอดกลม
แน่ นทึบ เปลือกสีเทาอ่อน เรียบ ถึงแตก
เป็นสะเก็ด ช่องอากาศสีน้ำตาลอมชมพู
ใบเป็นใบเดี่ยว เรียงตรงข้ามสลับ
ทิศทาง เป็นกระจุกที่ปลายกิ่ง แผ่นใบรู
ไข่กลับ หรือรูปรีแกมรูปไข่กลับ ถึงรูป
ขอบขนานแกมรูปรี เป็นมัน ปลายใบ
ป้านมน กลม หรือเว้าตื้นๆ ฐานใบรูปลิ่ม
ผิวใบด้านบนสีเขียวเข้ม ท้องใบสีซีด มี
ก้านใบ มีหูใบ ดอกออกเป็นช่อตามง่าม
ใบ
9
ลักษณะทั่วไป(ต่อ)
แต่ละช่อมีดอกจำนวนมาก ก้านช่อดอก
หนา สั้น ไม่มีก้านดอกย่อย
ดอกอยู่เป็นกระจุกที่ปลายก้านช่อดอก
มีวงกลีบเลี้ยง กลีบเลี้ยง 5 กลีบ รูปไข่
แหลม ตรง หรือโค้งขึ้น กลีบดอกสีขาว
ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ผลเป็นผล
แบบงอกตั้งแต่ยังติดอยู่บนต้น ลำต้น
ใต้ใบเลี้ยง หรือ "ฝัก" เป็นรูปทรง
กระบอกเรียว สีเขียว โคนสีม่วงเข้ม มี
สันตามยาว ส่วนโคนชี้ไปทางปลายกิ่ง
ไม่เป็นระเบียบออกดอกและผลเกือบ
ตลอดปี
ถิ่นที่อยู่อาศั ย : พบตามพื้นที่ป่าชายเลน
ที่เป็นที่ดอนแห้ง
สรรพคุณทางสมุนไพร : รักษาแผลสด
ห้ามเลือด แก้ท้องร่วง คลื่นเหียน
อาเจียน บิด
ประโยชน์ : ลำต้นใช้ทำไม้ค้างพลู
10
ปรงทะเล
ชื่อสามัญ : ปรงทะเล
ชื่อสามัญ(อังกฤษ) : -
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Acrostichum aureum
ชื่อวงศ์ : Pteridaceae
11
ลักษณะทั่วไป
เป็นพืชพวกเฟิร์น มีลำต้นเป็นเหง้าอยู่
ใต้ดิน ชูส่วนของใบขึ้นมาเป็นกอ ที่
เหง้ามีเกล็ดใหญ่สีน้ำตาลคล้ำ โคนต้นมี
รากค้ำยัน
ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนกปลายคี่
แผ่นใบรูปใบหอก ก้านใบมีหนามแข็ง
สั้นๆ ใบย่อยรูปขอบขนานแคบ เรียง
สลับ ผิวเรียบเป็นมัน ใบไม่สร้างสปอร์
ปลายใบกลม ถึงหยักเว้า และมีติ่งหนาม
สั้นๆ ฐานใบรูปลิ่มถึงมนกลม สองข้าง
ไม่เท่ากัน เส้นกลางใบนูนเด่น เส้นใบ
สานกันเป็นร่างแห ก้านใบย่อยสั้น ใบ
ย่อยที่สร้าง สปอร์อยู่ตอนปลายกิ่ง มี
ขนาดเล็กกว่าใบย่อยที่ไม่สร้างสปอร์ ซึ่ง
อยู่ทางด้านโคนใบ กลุ่มของอับสปอร์
เรียงตัวชิดกัน เต็มพื้นที่ด้านล่างของ
แผ่นใบย่อย มีขนปกคลุมเล็กน้ อย ขยาย
พันธุ์โดยใช้ สปอร์และลำต้นปรงทะเล
12
ลักษณะทั่วไป(ต่อ)
ถิ่นที่อยู่อาศั ย : มักขึ้นเป็นกลุ่มตามที่ลุ่ม
ชื้นแฉะด้านหลังป่าชายเลน และป่าน้ำ
กร่อย แต่บางครั้งพบตามที่โล่งในป่าพรุ
ใบอ่อนกินได้
สรรพคุณทางสมุนไพร : บรรเทา
อาการฟกช้ำดำเขียว อาการปวดบวม
ของกล้ามเนื้ อ แก้เริมหรืองูสวัด แก้โรค
นิ่ ว แก้คัน
ประโยชน์ : -
13
โพทะเล
ชื่อสามัญ : โพทะเล
ชื่อสามัญ(อังกฤษ) : -
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Thespesia populnea
ชื่อวงศ์ : Malvaceae
14
ลักษณะทั่วไป
จัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก มีความสูง
ประมาณ 8-12 เมตร ลำต้นโค้งและแตก
กิ่งในระดับต่ำ ลักษณะของต้นเป็นทรง
เรือนยอดแผ่กว้างและค่อนข้างหนาทึบ
เปลือกเป็นสีเทาอ่อนหรือสีน้ำตาล มี
ลักษณะเรียบหรือขรุขระ มีรอยแตกตาม
ยาวเป็นร่อง ๆ ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการ
เพาะเมล็ด โดยจัดเป็นไม้กลางแจ้งที่
ชอบแสงแดดจัด เจริญเติบโตได้ดีใน
สภาพดินแทบทุกชนิ ดที่มีความชุ่มชื้น
และจะพบได้มากที่ดอนหรือตามชายฝั่ ง
ทะเลและตามริมแม่น้ำที่เป็นดินร่วนปน
ทรายมีเขตการกระจายพันธุ์เป็นวงกว้าง
15
ลักษณะทั่วไป(ต่อ)
ถิ่นที่อยู่อาศั ย : พบมากทางภาคใต้และ
ภาคตะวันออกเฉี ยงใต้ตามแถบป่า
ชายทะเล
สรรพคุณทางสมุนไพร : รากใช้กิน
เป็นยาบำรุง ยารักษาอาการไข้ ยาระบาย
และยาขับปัสสาวะ เปลือกใช้เป็นยา
ทำให้อาเจียน และนำมาใช้ชะล้างแผล
เรื้อรังได้เช่นกัน
ประโยชน์ : -
16
แสมขาว
ชื่อสามัญ : แสมขาว
ชื่อสามัญ(อังกฤษ) : -
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Avicennia alba
ชื่อวงศ์ : Avicenniaceae
17
ลักษณะทั่วไป
เป็นพืชใน ป่าชายเลน สูงได้ถึง 30
เมตร รากแผ่เป็นร่างแห และมีราก
หายใจเป็นแท่งโผล่ขึ้นมา ใบมีลักษณะ
ยาวรีกว่าแสม แบบอื่นๆ ใบจะซีด
และมีสีอ่อนกว่า แสมดำ และ แสมทะเล
ใบหนา อวบน้ำ ป้องกันการสูญเสียน้ำ
มี ต่อมเกลือ ขับเกลือออกทางผิวใบ
ดอกสีขาวเหลือง มี4กลีบแบบเดียวกับ
แสมทะเลแต่ช่อดอกของแสมขาวเป็นช่อ
ยาวกว่า ผลเป็นทรงหยดน้ำ ยาวกว่าผล
แสมดำ ผลลอยน้ำได้
18
ลักษณะทั่วไป(ต่อ)
ถิ่นที่อยู่อาศั ย : พบได้ทั้งบริเวณหาด
ทรายและหาดเลน
สรรพคุณทางสมุนไพร : บรรเทา
อาการปวดของข้อกระดูก ช่วยเจริญ
อาหาร
แก้ปัสสาวะขัด ปัสสาวะเล็ด บรรเทา
อาการหอบหืด แก้ไอกรน รักษาฝี
ภายในต้านการอักเสบ ช่วยขับเสมหะ
ละลายเสมหะ แก้ริดสีดวงทวารแก้
อาการอาเจียน ลดอาการจุกเสียด แน่ น
ท้อง แก้อาการท้องเสีย
ประโยชน์ : มีสารแทนนิ นใช้ในการ
ฟอกหนั งได้ ทำไม้ค้ำยัน ไม้เสาโป๊ะ เสา
แพปลารวมถึงใช้กิ่ง และลำต้นเป็นฟืน
หุงหาอาหาร
19
หวายลิง
ชื่อสามัญ : หวายลิง
ชื่อสามัญ(อังกฤษ) : Whip vince
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Flagellaria indica
ชื่อวงศ์ : Flagellariaceae
21
ลักษณะทั่วไป
เป็นไม้เถาล้มลุกและเลื้อย ลำต้น กลม
แข็ง ลำต้นอ่อนสีเขียว พอแก่สีเทา
เหนี ยวมาก ชอบเลื้อยพันต้นไม้ที่อยู่ใกล้
เคียง ใบเป็นใบเดี่ยวออกเรียงสลับตาม
ต้น ก้านใบมีกาบหุ้ม โคนใบมน ปลาย
เรียวยาวและม้วนงอไปเกาะไม้อื่นเพื่อ
พยุงลำต้นให้สูงขึ้น ดอกออกเป็นช่อที่
ปลายกิ่ง แต่ละช่อมีดอกย่อยแยกแขนง
ขนาดเล็กจำนวนมากสีขาวอมเหลือง ผล
รูปทรงกลม ออกเป็นพวงจำนวนมาก ที่
ปลายผลมีติ่งแหลม ผิวเรียบเป็นมัน ผล
อ่อนสีเขียว พอแก่จัดเปลี่ยนเป็นสีชมพู
อมส้ม ภายในมีเมล็ด
1 - 3 เมล็ด ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ดหรือ
แยกกอ
21
ลักษณะทั่วไป(ต่อ)
ถิ่นที่อยู่อาศั ย : พบมากทางภาคใต้และ
ภาคตะวันออกเฉี ยงใต้ตามแถบป่า
ชายทะเล
สรรพคุณทางสมุนไพร : เป็นยาแก้ไข้
ตัวร้อน แก้ไข้อันเนื่ องจากดีและโลหิต
แก้ไข้ดีซ่าน แก้พยาธิ เป็นยารักษาโรค
เกี่ยวกับทางเดินปัสสาวะ ใช้รักษา
บาดแผล
ประโยชน์ : สามารถนำมาใช้ทำเชือก
และทำเครื่องจักสานได้ คนในสมัย
ก่อนจะนำมาใช้สระผม
23
กุ้งดีดขัน
ชื่อสามัญ : กุ้งดีดขัน
ชื่อสามัญ(อังกฤษ) : Snapping shrimp
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Alpheus euphrosyne
ชื่อวงศ์ : Alpheidae
24
ลักษณะทั่วไป
มีรูปร่างคล้ายคลึงกับกุ้งก้ามกรามแต่มี
ขนาดเล็กกว่า หัวค่อนข้างโตและลำตัว
เรียวเล็ก นั ยน์ ตามีสีดำ กรีแหลมหยัก
เป็นฟันเลื่อย ขาเดินคู่ที่สองมีขนาดใหญ่
และยาวกว่าขาเดินคู่อื่น ๆ ส่วนปลาย
เป็นก้ามหนี บ เปลือกที่ปกคลุมอยู่ทั่ว ๆ
ไปนั้ นค่อนข้างแข็ง มีสีเหลืองเหลือบ
หรือขาวนวล ลำตัวค่อนข้างใส
ถิ่นที่อยู่อาศั ย : พบตามชายฝั่ งทะเลในที่
ตื้น พื้นท้องทะเลเป็นโคลนโดยเฉพาะ
ตามรากของต้นแสม ต้นโกงกาง หรือ
ตามแอ่งน้ำที่น้ำทะเลขัง ใต้กอหญ้าทะเล
หรือเศษสิ่งของต่าง ๆ ในเวลาน้ำแห้ง
อาหาร : กินตัวอ่อนของแมลงน้ำ
ขนาด : มีความยาวประมาณ 5-6
เซนติเมตร
25
ทากปุ่มหิน
ชื่อสามัญ : ทากปุ่มหิน,ทากเปลือกไม้
ชื่อสามัญ(อังกฤษ) : -
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Onchidium typhae
ชื่อวงศ์ : Onchidiidae
26
ลักษณะทั่วไป
ส่วนหลังโค้งนูน เป็นปุ่มปมทั่วตัว สี
น้ำตาลเขียว หรือดำ มีหนวดสั้นยื่นออก
มาจากหัว 2 เส้น ทากปุ่มหินมีสีผิว
กลมกลืนเข้ากับสภาพแวดล้อมมากจน
อาจไม่ทันสั งเกตเห็น
แต่ก็สามารถเห็นตัวได้จากการสั งเกต
รอยเดิน หรือขี้ทากที่เป็นเส้นดินขนาด
เล็กตามทาง หรือ รอยเมือกตามหิน
ถิ่นที่อยู่อาศั ย : พบตามโขดหิน หาด
ทรายปนเลน หาดเลนปนทราย และ
หาดเลน
อาหาร : กินซากพืชซากสัตว์ และ
สาหร่ายขนาดเล็ก
ขนาด : ตัวยาวประมาณ 3-4
เซนติเมตร
27
ปลาตีนเขี้ยว
ชื่อสามัญ : ปลาตีนเขี้ยว
ชื่อสามัญ(อังกฤษ) : Giant mudskipper
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Periophthalmodon
schlosseri
ชื่อวงศ์ : Gobiidae
28
ลักษณะทั่วไป
มีลักษณะลำตัวเป็นรูปทรงกระบอก มี
หัวขนาดใหญ่ ตามี 2 ข้าง มีขนาดใหญ่
และโปนออก ปากโค้ง และเฉียงลงเล็ก
น้ อย ปากมีมุมปากยาว สามารถอ้าได้
กว้าง และรูจมูกมี 2 รู เหงือกมีช่องเปิด
แคบ ทำให้สามารถเก็บอากาศไว้ได้นาน
ลำตัวมีลักษณะอ่อนนุ่ ม มีเกล็ดขนาด
เล็กปกคลุม
ถิ่นที่อยู่อาศั ย : พบอาศัยตามป่าชายเลน
และบริเวณปากอ่าวหรือปากแม่น้ำที่มี
น้ำท่วมถึง
อาหาร : กินอาหารจำพวกสัตว์น้ำขนาด
เล็กในพื้นเลน
ขนาด : ลำตัวมีความยาวได้มากถึง 30
เซนติเมตรปลาตีนเพศผู้จะมีขนาดใหญ่
กว่าตัวเมีย
29
ปูแป้น
ชื่อสามัญ : ปูแป้น หรือ ปูใบไม้
ชื่อสามัญ(อังกฤษ) : Green tidal crab
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Varuna litterata
ชื่อวงศ์ : Varunidae
30
ลักษณะทั่วไป
จัดเป็นปูขนาดเล็กกระดองแบนและมีสี
น้ำตาลแกมเหลือง สีของกระดองจะเข้ม
กว่าสีของขาเดิน มีหนามข้างกระดอง
หยักเป็นฟันเลื่อยมี 2 ซี่ ขอบตาเว้าระยะ
ห่างพอ ๆ กัน ก้ามซ้ายขวามีลักษณะ
ค่อนข้างแบนและขนาดใกล้เคียงกัน ขน
อ่อนเส้นสั้น ๆ เรียงติดกันเป็นแผงตาม
ขอบบนด้านในของข้อที่ 3–4 ส่วนข้อที่
5 มีหนามยื่นยาวอยู่หนึ่ งอันเล็ก ๆ อีก
ข้างละอัน ข้องที่ 4 ขาเดินทั้งสี่ไม่มีหนาม
แต่มีขนอ่อนเรียงเต็มนิ้ วของขาเดินแบน
กว้าง ซึ่งจากลักษณะขาและขนทำให้
เป็นปูแป้นเป็นปูที่ว่ายน้ำเร็วอีกชนิ ด
หนึ่ ง
31
ลักษณะทั่วไป(ต่อ)
ถิ่นที่อยู่อาศั ย : เกาะตามโคนต้นไม้ ราก
ไม้ หรือโขดหิน พบกระจายพันธุ์ทั่วไป
ในหลายจังหวัดของไทยทั้งฝั่ งอ่าวไทย
ในภาคตะวันออก และภาคใต้ทั้งสองฝั่ ง
ทะเล โดยถือเป็นปูสองน้ำ เนื่ องจาก
ขณะที่ยังเป็นตัวอ่อนอยู่นั้ นจะอาศัยอยู่
ในทะเล จากนั้ นลอยตามน้ำขึ้นมาอาศัย
ในน้ำจืดและน้ำกร่อยจนเป็นตัวเต็มวัย
อาหาร : เศษอินทรีย์ต่างๆ ในป่าชาย
เลนเป็นอาหาร
ขนาด : มีขนาดประมาณ 5–7
เซนติเมตร
32
ปูแสมก้ามแดง
ชื่อสามัญ : ปูแสมก้ามแดง
ชื่อสามัญ(อังกฤษ) : Thai vinegar crab
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Chiromanthes eumolpe
ชื่อวงศ์ : Grapsidae
33
ลักษณะทั่วไป
กระดองเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส พื้นผิว
กระดองมีกลุ่มขนสั้ นกระจัดกระจาย
ก้ามสองข้างมีขนาดใกล้เคียงกัน ด้าน
ในของปล้องรองสุดท้ายของก้ามมีสั น
ตามขวาง ด้านบนมีขนเรียงกันเป็นแผง
คล้ายหวี 1 แถว ก้ามสีแดงอมม่วง
ถิ่นที่อยู่อาศั ย : ขุดรูอาศัยอยู่ตามพื้นป่า
ชายเลนหรือริมคันนาน้ำเค็ม มีการแพร่
กระจายทั่วไป
อาหาร : กินใบพืช และเศษอินทรีย์
ต่างๆ ในป่าชายเลนเป็นอาหาร
ขนาด : ความยาวกระดอง2.5เซนติเมตร
34
ปูแสมก้ามม่วง
ชื่อสามัญ : ปูแสมก้ามม่วง
ชื่อสามัญ(อังกฤษ) : Violet vinegar crab
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Episesarma versicolor
ชื่อวงศ์ : Grapsidae
35
ลักษณะทั่วไป
กระดองเป็นรูปสี่เหลี่ยมคางหมู พื้นผิว
เรียบ ขอบกระดองด้านหน้ าระหว่างตา
กว้าง ขอบด้านข้างกระดองเรียบไม่มีแง่
ยื่น ก้ามสองข้างมีขนาดใกล้เคียงกัน
ด้านล่างของก้ามมีสีขาว พบอาศัยอยู่
ตามโขดหินหรือเกาะกับเสาสะพาน
ท่าเรือทั่วไป
ถิ่นที่อยู่อาศั ย : พบอาศัยอยู่ในป่าชาย
เลน พื้นดิน และดินปนทราย ขุดรูตาม
ริมตลิ่งที่น้ำท่วมไม่ถึง
อาหาร : กินใบพืช และเศษอินทรีย์
ต่างๆ ในป่าชายเลนเป็นอาหาร
ขนาด : ขนาดกระดองประมาณ 4-5
เซนติเมตร กระดองกว้างประมาณ 2.5
เซนติเมตร
36
ปูแสมก้ามส้ ม
ชื่อสามัญ : ปูแสมก้ามส้ม
ชื่อสามัญ(อังกฤษ) : Orange-claw marsh
crab
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Parasesarma plicatum
ชื่อวงศ์ : Grapsidae
37
ลักษณะทั่วไป
กระดองเป็นรูปสี่เหลี่ยม มีความกว้าง
มากกว่าความยาวเล็กน้ อย พื้นผิวมีกลุ่ม
ขนสั้นกระจัดกระจาย ก้ามสองข้างมี
ขนาดใกล้เคียงกัน ด้านบนของปล้อง
รองสุดท้ายมีขนเรียงกันเป็นแถวคล้าย
หวี 2 แถว ปลายก้ามมีสีแดงสด ขุดรู
อาศัยอยู่ตามป่าชายเลนทั่วไป
ถิ่นที่อยู่อาศั ย : พบบริเวณป่าชายเลน
ตามโคนไม้และรากแสม โกงกาง
อาหาร : กินใบพืช และเศษอินทรีย์
ต่างๆ ในป่าชายเลนเป็นอาหาร
ขนาด : ขนาดกระดองประมาณ 3-4
เซนติเมตร
38
หอยขี้ค้อน
ชื่อสามัญ : หอยขี้ค้อน
ชื่อสามัญ(อังกฤษ) : Telescope creeper
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Telescopium
telescopium
ชื่อวงศ์ : Potamididae
39
ลักษณะทั่วไป
หอยขี้ค้อน เปลือกค่อนข้างหนามี
ทรวดทรงเป็นรูปกรวยสูงและเป็น
เกลียวปลายแหลม ขอบช่องเปิดมีร่องฝา
ปิดเปิดเป็นสารพวกไคตินสี น้ำตาลเข้ม
ถิ่นที่อยู่อาศั ย : อยู่ในบริเวณน้ำตื้นตาม
แม่น้ำและป่าชายเลนที่พื้นเป็นโคลนปน
ทราย
อาหาร : พวกสาหร่ายเซลล์เดียวและ
ของเน่ าเปื่ อย
ขนาด : สูงประมาณ 4-10 เซนติเมตร
40
หอยจุ๊บแจง
ชื่อสามัญ : หอยจุ๊บแจง
ชื่อสามัญ(อังกฤษ) : Horn shell
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cerithidea
rhizophorarum
ชื่อวงศ์ : Potamididae
41
ลักษณะทั่วไป
ลักษณะคล้ายหอยขี้นก เปลือกมีสีคล้ำ
เช่น สีเทาหรือสีน้ำตาล เปลือกไม่เรียบ
มีสันเล็กๆ ทั่วเปลือก เมื่อหอยจุ๊บแจง
ยื่นหัวและตีนออกมานอกเปลือก ที่หัว
และหลังมีจุดประสีแดงอมส้ม และที่
ปลายสุดของตีนจะมีสี แดงอมส้ ม
ถิ่นที่อยู่อาศั ย : อาศัยอยู่ในเขตน้ำตื้นที่
พื้นเป็นโคลน โดยเฉพาะบริเวณป่าชาย
เลนและป่าจาก พบเกาะตามลำต้น กิ่ง
ก้าน และรากต้นโกงกาง รวมทั้งต้นไม้
อื่นๆ ในบริเวณดังกล่าว
อาหาร : สาหร่ายขนาดเล็ก ซากพืช
ซากสัตว์ จุลินทรีย์ และสารอินทรีย์
ขนาด : สูงประมาณ 4 เซนติเมตร
42
หอยหนามเล็ก
ชื่อสามัญ : หอยหนามเล็ก
ชื่อสามัญ(อังกฤษ) : Murex small shell
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Murex trapa
ชื่อวงศ์ : Muricidae
43
ลักษณะทั่วไป
เปลือกอาจมีรูปทรงคล้ายกระบวยตัก
น้ำ รูปกระสวย หรือรูปอื่นๆ ลักษณะ
เด่นคือ เปลือกไม่เรียบ มักมีหนามสั้น
หนามยาว หนามใหญ่ มีปุ่ม ปม สัน
แตกต่างกันไปตามแต่ชนิ ด หอยหนาม
บางชนิ ดจะมีชื่อเรียกเฉพาะชนิ ด ตาม
ลักษณะปรากฏ เช่น หอยก้างปลา หอย
หวี หอยหน้ ายักษ์หรือหอยเงาะ หอย
หนามดำ หอยหนามดอกไม้
ถิ่นที่อยู่อาศั ย : พบอาศัยอยู่ทั่วไป ทั้งใน
เขตน้ำตื้นและน้ำลึก พื้นเป็นทราย
โคลน แนวปะการัง ป่าชายเลนและ
แหล่งหญ้าทะเล
อาหาร : หอยกาบเดี่ยว หอยกาบคู่
เพรียง รวมถึงสัตว์ขนาดเล็กตามพื้น
ทะเล
ขนาด : สูงประมาณ 8-9 เซนติเมตร
44
หอยหูแมว
ชื่อสามัญ : หอยหูแมว
ชื่อสามัญ(อังกฤษ) : Cat’s ear cassidula
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cassidula aurisfelis
ชื่อวงศ์ : Ellobiidae
45
ลักษณะทั่วไป
มีเปลือกแข็ง รูปทรงเกือบเป็นสี่เหลี่ยม
ผิวเปลือกมีร่อง ตื้นๆ ในแนวตั้งและ
แนวนอนสลับกัน ส่วนบนของเปลือก
บิดเป็นวงตื้น วงเปลือกวงสุดท้ายมี
ขนาดใหญ่ ช่องเปิดเปลือกแคบและมี
ลักษณะคล้ายใบหู ไม่มีแผ่นปิดเปลือก
ขอบนอกของริมขอบปากไม่หนามาก
ลักษณะเป็นแผ่นทอดยาวไปตามแนว
สันนอกของช่องเปิดเปลือก ริมขอบปาก
ด้านในมีซี่ฟันที่แข็งแรง 2 ซี่ สันบริเวณ
แกนกลางไม่พัฒนา เปลือกมีสีน้ำตาล
เข้ม
ถิ่นที่อยู่อาศั ย : พบบริเวณรากไม้ ใบไม้
ในป่าชายเลนป่าชายเลน
อาหาร : กินซากพืชซากสัตว์เป็นอาหาร
ขนาด : ยาวประมาณ 2 เซนติเมตร
46
การสำรวจพันธุ์
ปูแสมแต่ละชนิ ด
จากการศึกษาความหลากหลายและ
ความหนาแน่ นของพันธุ์ปูแสมบริเวณป่าชาย
เลย ณ คลองปากตะโปน หมู่ที่ 4
ตำบลสนามไชย จังหวัดจันทบุรี ผลศึกษา
จากการสำรวจสามารถสรุปผลการศึกษา
ได้ดังนี้