บ ริ ษั ท ไ ท ย รั บ เ บ อ ร์ ล า เ ท็ ค ซ์
ค อ ร์ ป อ ร์ เ ร ชั่ น ( ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย )
จำ กั ด ( ม ห า ช น )
ปฐมนิเทศ
พนักงานเข้าใหม่
ประวัติบริษัท แผนผังองค์กร ระเบียบ
ข้อบังคับบริษัท
กองทุน สวัสดิการ
สำรองเลี้ยงชีพ
คณะกรรมการบริหาร
คุณวรเทพ วงศาสุทธิกุล คุณไพบูลย์ วรประทีป คุณปรัชญ์นนท์ เต็มฤทธิกุลชัย
กรรมการผู้จัดการใหญ่ / กรรมการบริหาร กรรมการบริหาร
ประธานบริษัท
วิสัยทัศน์
เราจะเป็ นผู้นำในอุตสาหกรรมน้ำยางข้นของโลก
โดยเน้ นการตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ดีที่สุด
พันธกิจ
เป็ นผู้ผลิตน้ำยางข้นที่งมุ่งเน้นในคุณภาพเหนือกว่ามาตรฐานสากล
เพื่ อตอบสนองความต้องการและความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า
ค่านิ ยม
T = การทำงานเป็ นทีม
Only theH = คุณภาพดีเหนือกว่ามาตรฐาน
finest offeredA = ความรับผิดชอบต่อหน้าที่และผลงาน
I = ความซื่อสัตย์
T = ความโปร่งPใสresentations are communication
E = ความมีปรtะoสิoทlธsิภtาhพatแcลaะรnักbษeาสิu่งsแeวdดลa้อsมlectures.
X = มุ่งสู่ความเป็ นเลิศ
ประวัติบริษัท
ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์คอร์ปอร์เรชั่น
(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
ประวัติบริษัท
เกิดขึ้นในปี พ.ศ.2510 ที่จังหวัดสงขลา ภาคใต้ของประเทศไทย โดยการถือกำเนิดของห้างหุ้นส่วนจำกัด คลองแงะ
ยางพารา (หรือรู้จักกันในปั จจุบัน คือ บริษัท เอ็กซ์เซลล์รับเบอร์ จำกัด) เติบโตขึ้นจากการรวมตัวของพันธมิตร เช่น
บริษัท โอเรียนท์รับเบอร์ลาเท็คซ์จำกัด, บริษัท ไทยรับเบอร์แอนด์ลาเท๊คซ์ จำกัด สู่การรวมตัวเป็ น บริษัท ไทยรับเบอร์
ลาเท็คซ์คอร์ปอร์เรชั่น(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในปี 2533 หรือเป็ นที่รู้จักกันในนาม "ไทยเท็คซ์" ผู้เชี่ยวชาญใน
การผลิตน้ำยางข้น ยางสกิม และยางยืด
ในปี พ.ศ. 2533 บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์คอร์ปอร์เรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ได้แปรสภาพมาจาก
บริษัท โอเรียนท์ รับเบอร์ ลาเท็คซ์ จำกัด ซึ่งได้ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2529 โดยมีวัตถุประสงค์หลัก คือ ดำเนินกิจการ
อุตสาหกรรมผลิตน้ำยางข้น
ต่อมาได้ขยายการลงทุนในกิจการอื่นที่ประกอบกิจการอื่นที่ประกอบกิจการแบบเดียวกัน และกิจการอย่างต่อเนื่ อง
อาทิ การผลิตเส้นด้ายยางยืด ยางแท่ง หมอนและที่นอนยางธรรมชาติ กิจการสวนยางพารา จึงมีผลว่าขณะนี้การดำเนิน
การผลิตน้ำยางข้นที่อยู่ภายใต้การบริหารโดยตรงของคณะผู้บริหารในเครือเดียวกัน ที่มีชื่อว่า “THAITEX” คือ บริษัท
ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์คอร์ปอร์เรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มี 1 โรงงาน และ บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์กรุ๊ป
จำกัด มี 4 โรงงาน
แผนที่โรงงานในประเทศไทย
ที่ตั้งของโรงงาน & บริษัทย่อย
Thai Rubber Latex GROP CO.,Ltd.(Office)
ที่อยู่ 99/1-3 ม. 13 ถ. บางนาตราด กม. 7 ต. บางแก้ว อ. บางพลี จ.สมุทรปราการ
ที่ตั้งของโรงงาน & บริษัทย่อย
Thai Rubber Latex Corporation (Thailand) Public Co.,Ltd. ( “TRUBB” )
29 หมู่ 2 ถ.บ้านบึง-แกลง กม.56-57 ต.หนองใหญ่ อ.หนองใหญ่ จ.ชลบุรี
ที่ตั้งของโรงงาน & บริษัทย่อย
Thai Rubber Latex Group Co.,Ltd.( Branch 1 – PKT )
35 หมู่ 4 ต.กระโสมอ. ตะกั่วทุ่ง จ. พังงา
ที่ตั้งของโรงงาน & บริษัทย่อย
Thai Rubber Latex Group Co.,Ltd. ( Branch 3 – HAT )
124 หมู่ 11 บ้านคลองปอม ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
ที่ตั้งของโรงงาน & บริษัทย่อย
Thai Rubber Latex Group Co.,Ltd.( Branch 4 – SNI )
293/2 หมู่ 1 ถ.สุราษฎร์-นาสาร ต.ขุนทะเล อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี
ที่ตั้งของโรงงาน & บริษัทย่อย
Thai Rubber Latex Group Co.,Ltd. ( Branch 6 – RYG )
44/5 หมู่ 8 ถ.กระเฉด-หาดใหญ่ ต.กระเฉด อ.เมือง จ.ระยอง
ที่ตั้งของโรงงาน & บริษัทย่อย
Thai Rubber H P N R Co.,Ltd.
126 หมู่ 8 ถ. เพชรเกษม หลัก กม.441 ต.ไชยราช อ. ปะทิว จ. ชุมพร
โครงสร้างองค์กร
ORGANIZE CHART
บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์คอร์ปอร์เรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด มหาชน
คณะกรรมการกำหนดค่าตอบแทน คณะกรรมการบริษัท คณะกรรมการตรวจสอบ
คณะกรรมการบริหารความเสี่ยง สำนั กงานเลขานุการกรรมการ
บริหารความเสี่ยง คณะกรรมการบริหาร
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ประธานเจ้าหน้ าที่บริหาร
สายงานสนั บสนุนและปฏิบัติการ สายบริหารการขายและการผลิต
/ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์กรุ๊ป จำกัด และโรงงาน
บริษัท ไทยรับเบอร์ เอช พี เอ็น อาร์ จำกัด และโรงงาน
สายบัญชีและการเงิน สายวางแผนและบริหารทรัพยากร ธุรการสำนั กงาน บริษัท ไทยรับเบอร์ แลนด์แอนด์ แพลนเทชั่น จำกัด
การเงิน บริหารและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ กำกับและควบคุมภายใน และโรงงาน
การบัญชี วางแผนและกลยุทธ์การจัดซื้อ และตรวจสอบภายใน บริษัท เวิลด์เฟล็กซ์ จำกัด (มหาชน) และโรงงาน
เทคโนโลยีสารสนเทศ
บริษัท เลเท็กซ์ ซิสเทนส์ จำกัด และโรงงาน
Shipping & บริษัท แลโกรเวลท์ จำกัด
Transportation PV Department
ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ ายการตลาด
บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์คอร์ปอร์เรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด มหาชน (โรงงาน)
กรรมการผู้จัดการใหญ่
กรรมการผู้จัดการ
ผู้จัดการโรงงาน กรรมการผู้จัดการสายวางแผน กรรมการผู้จัดการสายบัญชี
ผู้ช่วยผู้จัดการโรงงาน และบริหารทรัพยากร และการเงิน
กลุ่มงานสนั บสนุน
แผนกผลิต แผนกควบคุมคุณภาพ แผนกเตรียม แผนกบุคคลและธุรการ แผนกบัญชี
และผสมสารเคมี /จัดซื้อ/จัดส่ง และการเงิน
หน่ วยรับน้ำยางสด หน่ วยควบคุมคุณภาพ หน่ วยเตรียม หน่ วยบุคคล หน่ วยบัญชี
หน่ วยผลิตน้ำยางข้น หน่ วยบำบัดน้ำทิ้ง และผสมสารเคมี หน่ วยธุรการ หน่ วยการเงิน
หน่ วยผลิตสกิม หน่ วยจัดซื้อ
หน่ วยซ่อมบำรุง หน่ วยจัดส่ง
บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์กรุ๊ป จำกัด
คณะกรรมการบริษัท
คณะกรรมการบริหาร กรรมการผู้จัดการ กรรมการผู้จัดการ
กรรมการผู้จัดการ สายบัญชีและการเงิน สายวางแผนและบริหารทรัพยากร
สายการผลิต สายการตลาด สายบัญชีและการเงิน สายวางแผนและ
และการขาย บริหารทรัพยากร
ฝ่ ายวิศวกรรม ฝ่ ายการตลาดและ ฝ่ ายการเงิน ฝ่ ายจัดซื้อ
ฝ่ ายวิจัยและพัฒนา ขายในประเทศ
ฝ่ ายประกันคุณภาพ ฝ่ ายการตลาดและ ฝ่ ายบัญชี ฝ่ ายทรัพยากรบุคคล
ขายต่างประเทศ
โรงงาน ฝ่ ายวางแผนงบประมาณ
ฝ่ ายชิปปิ้งและขนส่ง และวิเคราะห์โครงการ
ฝ่ ายเทคโนโลยี
และสารสนเทศ
บริษัท ไทยรับเบอร์ เอช พี เอ็น อาร์ จำกัด (โรงงาน)
กรรมการผู้จัดการ
กลุ่มงานสนั บสนุน ผู้จัดการโรงงาน กรรมการผู้จัดการสายวางแผน กรรมการผู้จัดการสายบัญชี
ผู้ช่วยผู้จัดการโรงงาน และบริหารทรัพยากร และการเงิน
แผนก แผนกผลิต แผนกควบคุมคุณภาพ แผนกซ่อมบำรุง แผนกบุคคลและธุรการ แผนกบัญชี
คลังสินค้า /จัดซื้อ/จัดส่ง และการเงิน
หน่ วยรับวัตถุดิบ หน่ วยควบคุมคุณภาพ หน่ วยซ่อมบำรุง หน่ วยบุคคล หน่ วยบัญชี
หน่ วยผลิต หน่ วยธุรการ หน่ วยการเงิน
หน่วย Paแking หน่ วยจัดซื้อ
และ ส่งออก หน่ วยจัดส่ง
หน่ วยบำบัดน้ำทิ้ง
บริษัท ไทยรับเบอร์ แลนด์ แอนด์ แพลนเตชั่น จำกัด
คณะกรรมการบริษัท
คณะกรรมการบริหาร กรรมการผู้จัดการ กรรมการผู้จัดการ
กรรมการผู้จัดการ สายบัญชีและการเงิน สายวางแผนและบริหารทรัพยากร
กลุ่มงานสวนยาง สายการตลาด สายบัญชีและการเงิน สายวางแผนและ
และการขาย บริหารทรัพยากร
ฝ่ ายวิศวกรรม ฝ่ ายการตลาดและ ฝ่ ายการเงิน ฝ่ ายจัดซื้อ
ขายในประเทศ ฝ่ ายบัญชี ฝ่ ายทรัพยากรบุคคล
ฝ่ ายวิจัยและพัฒนา
ฝ่ ายการตลาดและ ฝ่ ายควบคุมสวนยาง ฝ่ ายขนส่ง
ฝ่ ายบริหาร ขายต่างประเทศ ฝ่ ายคลังสินค้า
และจัดการสวนยาง
โครงการพิเศษ
น้ำมันอินคา
ฝ่ ายส่งเสริม
พัฒนาสวนยาง
บริษัท เวิลด์เฟล็กซ์ จำกัด (มหาชน)
คณะกรรมการบริษัท
คณะกรรมการบริหาร กรรมการผู้จัดการ กรรมการผู้จัดการ
กรรมการผู้จัดการ สายบัญชีและการเงิน สายวางแผนและบริหารทรัพยากร
สายการผลิต สายการตลาด สายบัญชีและการเงิน สายวางแผนและ
และการขาย บริหารทรัพยากร
ฝ่ ายวิศวกรรม ฝ่ ายการตลาดและ ฝ่ ายการเงิน ฝ่ ายจัดซื้อ
ฝ่ ายวิจัยและพัฒนา ขายในประเทศ
ฝ่ ายประกันคุณภาพ ฝ่ ายการตลาดและ ฝ่ ายบัญชี ฝ่ ายทรัพยากรบุคคล
ขายต่างประเทศ
โรงงาน ฝ่ ายวางแผนงบประมาณ
ฝ่ ายชิปปิ้งและขนส่ง และวิเคราะห์โครงการ
ฝ่ ายเทคโนโลยี
และสารสนเทศ
บริษัท เวิลด์เฟล็กซ์ จำกัด มหาชน (โรงงาน)
กรรมการผู้จัดการ
ผู้จัดการโรงงาน กรรมการผู้จัดการสายวางแผน กรรมการผู้จัดการสายบัญชี
ผู้ช่วยผู้จัดการโรงงาน และบริหารทรัพยากร และการเงิน
ฝ่ ายคลังสินค้า ฝ่ ายผลิต ฝ่ ายซ่อมบำรุง ฝ่ ายคอมปาวด์ ฝ่ ายควบคุม ฝ่ ายวิศวกรรม/ ฝ่ าย ฝ่ ายบัญชี
สำนั กงาน
คุณภาพ สิ่งแวดล้อม
โรงงาน
หน่ วยคลังวัตถุดิบ หน่วยกะห้องแป้ ง หน่ วยบอยเลอร์ หน่ วยบุคคล หน่ วย หน่ วยบุคคล/ธุรการ
หน่ วยคลังอะไหล่ หน่ วยกะหัวเตา หน่ วยซ่อมบำรุง หน่ วยธุรการ ควบคุมคุณภาพ
หน่ วยคลังสินค้า หน่ วยช่างกลึง หน่ วยจัดซื้อ หน่ วยจัดซื้อ
หน่ วยจัดส่ง
หน่ วย
บัญชี
ระเบียบข้อบังคับ
1 การรับ บรรจุ 6 การจ่ายค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา
และประเภทพนั กงาน และค่าทำงานในวันหยุด
2 วันทำงาน เวลาทำงาน 7 สวัสดิการและผลประโยชน์อื่นๆ
และเวลาพัก
3 วันหยุดและหลักเกณฑ์การหยุด 8 วินัยและการลงโทษ
4 วันลา และหลักเกณฑ์การลา 9 การร้องทุกข์
5 การบริหารค่าจ้าง 10 การพ้นสภาพพนักงานและ
การจ่ายค่าชดเชย
หมวด 1
การรับ บรรจุ และประเภทพนักงาน
การรับและบรรจุพนั กงาน ประเภทพนั กงาน
มีอายุไม่เกิน 40 ปี บริบูรณ์ในวันที่บรรจุเข้าเป็ นพนักงาน 2.1 พนักงานทดลองงาน ได้แก่ พนักงานทดลองงานรายวัน
บริษัท เว้นแต่ในบางตำแหน่งที่มีความต้องการเป็ นพิเศษ หรือรายเดือนที่บริษัทแจ้งให้ทราบแต่แรกว่าให้ทดลองปฏิบัติ
งาน ซึ่งในช่วงของการทดลองปฏิบัติงานนั้นๆ บริษัทมีสิทธิ
มีสุขภาพพลานามัยสมบูรณ์ แข็งแรงไม่เป็ นโรคติดต่อ บอกเลิกจ้างเมื่ อใดก็ได้
เรื้อรังหรือโรคที่สังคมรังเกียจ
2.2 พนักงานประจำ ได้แก่ พนักงานที่ผ่านการทดลอง
การคัดเลือกให้เป็ นพนักงานบริษัท จะต้องทดลองปฏิบัติ งานแล้วและบริษัทได้บรรจุเป็ นพนักงานของบริษัท
งานระยะเวลาหนึ่ง ติดต่อกันไม่เกิน 119 วัน
2.3 พนักงานสัญญาจ้างพิเศษ ได้แก่ พนักงานที่บริษัทได้ว่า
นำหลักฐานประกอบการสมัครงานตามที่บริษัทระบุมา จ้างให้ปฏิบัติงานอันมีลักษณะงานเป็ นการเฉพาะหรืองานครั้ง
คราว งานจร งานตามฤดูกาล หรือเป็ นงานหรือโครงการ
บริษัทสงวนไว้ซึ่งสิทธิ์ในอันที่จะเปลี่ยนแปลง หรือโยกย้าย เฉพาะที่ไม่ใช่งานปกติของธุรกิจหรือการค้าของบริษัทซึ่งมี
หน้ าที่การงานหรือความรับผิดชอบของพนั กงานได้ตาม เงื่ อนไข
ความเหมาะสม
1. วันทำงานปกติ หมวด 2
วันทำงาน เวลาทำงาน และเวลาพัก
สำนักงานใหญ่ : บริษัทฯ กำหนดวันเวลาทำงานปกติโดยมีวันหยุดประจำสัปดาห์ ดังนี้
ทำงานสัปดาห์ละ 5 วัน จันทร์ - ศุกร์
โรงงาน :
ทำงานสัปดาห์ละ 6 วัน โดยมีวันหยุด 1 วัน 2. เวลาทำงานปกติ
ทำงานวันละ 8 ชั่วโมง โดยแบ่งเป็ นสามประเภท คือ 3. เวลาพัก
2.1 งานที่ไม่ใช่งานกะ
กำหนดเวลาพักไว้วันละ 1 ชั่วโมง หรือ
สำนักงานใหญ่ : เวลาทำงาน 08.30 น. - 17.30 น. รวมกันแล้วอย่างน้อยวันละ 1 ชั่วโมง
โรงงาน : เวลาทำงาน 08.00 น. - 17.00 น. งานที่ไม่ใช่งานกะ :
2.2 งานกะ ๆ ละ 8 ชั่วโมง โดยแบ่งเป็ น 3 กะ คือ เวลาพัก 12.00 น. - 13.00 น.
กะเช้า : เวลาทำงาน 07.00 น. - 16.00 น.
กะบ่าย : เวลาทำงาน 15.00 น. - 24.00 น.
กะดึก : เวลาทำงาน 23.00 น. - 08.00 น.
2.3 งานที่กำหนดเวลาไม่แน่นอน ได้แก่ งานที่ต้องออกไปปฏิบัติ
งานนอกสถานที่เป็ นการประจำ อาทิเช่น งานการตลาด งานขาย
งานขนส่งลำเลียง ฯลฯ
2.4 บริษัทสงวนไว้ซึ่งสิทธิในอันที่จะเปลี่ยนแปลง หรือแก้ไข เวลา
ทำงานปกติ งานกะ หรือวันหยุดประจำสัปดาห์ตามที่กำหนดนี้ ได้
ตามความจำเป็ นและเหมาะสมโดยบริษัทจะปฏิบัติให้เป็ นไปตาม
กฎหมายแรงงาน
งานกะ :
ให้มีเวลาพักวันละ 1 ชั่วโมง หลังจาก
ทำงานมาแล้วไม่เกิน 5 ชั่วโมง
หมวด 3
วันหยุดและหลักเกณฑ์การหยุด
บริษัทฯ ได้กำหนดให้มีวันหยุดสำหรับพนักงานดังนี้
1. วันหยุดประจำสัปดาห์
1.1 สำนักงานใหญ่ : วันเสาร์ - วันอาทิตย์ เป็ นวันหยุดประจำสัปดาห์
1.2 โรงงาน : วันหยุดประจำสัปดาห์ๆ ละ 1 วัน หลังจากที่ได้ปฏิบัติงานติดต่อกันแล้ว 6 วัน โดยบริษัทจะจัดวันหยุด
ประจำสัปดาห์ให้พนักงาน และจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 3 วัน
2. วันหยุดตามประเพณี
บริษัทจะจัดวันหยุดตามประเพณีไม่น้อยกว่าปี ละ 13 วัน โดยรวมวันแรงงานแห่งชาติ ซึ่งพนักงานจะได้รับค่าจ้าง
ตามปกติ ในการนี้บริษัทจะประกาศให้พนักงานทราบล่วงหน้าเป็ นปี ๆ ไป
ในกรณี ที่วันหยุดตามประเพณี วันใดตรงกับวันหยุดประจำสัปดาห์ให้เลื่ อนวันหยุดตามประเพณี วันนั้นไปหยุด
ชดเชยในวันทำงานถัดไป
3. วันหยุดพักผ่อนประจำปี
บริษัทกำหนดวันหยุดพักผ่อนประจำปี โดยพนักงานจะได้รับค่าจ้างตามปกติ ตามหลักเกณฑ์ต่อไปนี้
3.1 มีอายุงานครบ 1 ปี ขึ้นไป นับตั้งแต่วันเริ่มงาน หยุดพักผ่อนประจำปี ได้ปี ละ 6 วัน
3.2 มีอายุงานครบ 3 ปี ขึ้นไป นับตั้งแต่วันเริ่มงาน หยุดพักผ่อนประจำปี ได้ปี ละ 8 วัน
3.3 มีอายุงานครบ 5 ปี ขึ้นไป นับตั้งแต่วันเริ่มงาน หยุดพักผ่อนประจำปี ได้ปี ละ 10 วัน
3.4 มีอายุงานครบ 10 ปี ขึ้นไป นับตั้งแต่วันเริ่มงาน หยุดพักผ่อนประจำปี ได้ปี ละ 14 วัน
กรณีที่พนักงานมีอายุงานครบ 3 , 5 หรือ 10 ปี บริบูรณ์ ในปี ใดจะได้สิทธิเพิ่มวันหยุดพักผ่อนในปี นั้นๆ และใช้
สิทธิได้จนสิ้นปี ปฏิทิน บริษัทฯ จะพิจารณากำหนดวันหยุดพักผ่อนประจำปี ให้กับพนักงาน โดยบริษัทจะประกาศช่วง
ระยะเวลาการลาหยุดให้ทราบเป็ นปี ๆ ไป
หมวด 4
วันลา และหลักเกณฑ์การลา
1. ลาป่ วย
พนักงานลาป่ วยอันมิใช่เนื่ องจากการปฏิบัติงานให้แก่บริษัท มีสิทธิลาป่ วยได้เท่าที่ป่ วยจริงโดยได้รับค่าจ้างปี ละไม่เกิน
30 วันทำงาน
กรณีที่พนักงานลาป่ วยตั้งแต่ 3 วันทำงานติดต่อกันพนักงานจะต้องแสดงใบรับรองแพทย์แผนปั จจุบัน
พนักงานที่ไม่สามารถทำงานได้เนื่ องจากประสบอันตรายหรือเจ็บป่ วยที่เกิดขึ้นเนื่ องจากการทำงานให้บริษัท มีสิทธิที่จะ
ลาป่ วยได้ตามคำวินิจฉัยของแพทย์แผนปั จจุบันชั้นหนึ่ง
2. ลากิจ
บริษัทอนุญาตให้พนักงานลากิจตามความจำเป็ นได้ปี ละไม่เกิน 3 วัน ทำงานโดยได้รับค่าจ้างตามปกติ
หมายเหตุ การลาป่ วยที่มิใช่เนื่ องจากอุบัติเหตุจากการปฏิบัติงาน ไม่ได้เป็ นไปตามความเห็นของแพทย์ รวมทั้งการลากิจนี้
บริษัทจะนำมาพิจารณาประกอบการประเมินผลการปฏิบัติงานของพนั กงานด้วย
3. ลาเพื่อการคลอด
3.1 บริษัทฯ อนุญาตให้พนักงานที่เป็ นหญิงลาคลอดครรภ์หนึ่งได้ไม่เกิน 90 วัน โดยบริษัทจะจ่ายค่าจ้างในวันที่ลาคลอด
เท่ากับค่าจ้างในวันทำงานตลอดระยะเวลาที่ลาแต่ไม่เกิน 45วัน ทั้งนี้วันลาคลอดให้รวมวันหยุดที่มีระหว่างวันลาด้วย
3.2 ในกรณีพนักงานมีครรภ์และมีใบรับรองแพทย์แผนปั จจุบันชั้นหนึ่งแสดงว่าไม่อาจปฏิบัติหน้าที่เดิมได้ บริษัทจะ
พิจารณาเปลี่ยนแปลงหน้าที่งานใหม่ให้แก่พนักงานเป็ นการชั่วคราวก่อนหรือหลังคลอดได้ตามที่บริษัทเห็นสมควร
หมวด 4
วันลา และหลักเกณฑ์การลา (ต่อ)
4. ลาเพื่อรับราชการทหาร
4.1 บริษัทอนุญาตให้พนักงานลาเข้ารับราชการทหารโดยพนักงานจะได้รับค่าจ้างปกติตามจำนวนวันที่ลา แต่ไม่เกินปี ละ
60 วัน
4.2 พนักงานต้องขออนุญาตเป็ นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้าพร้อมแสดงเอกสารหลักฐานทางราชการประกอบการลาต่อผู้
บังคับบัญชา
5. ลาเพื่อทำหมัน
บริษัทอนุญาตให้พนักงานลาเพื่อทำหมันและ เนื่ องจากการทำหมันโดยมีหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้
1. ให้พนักงานมีสิทธิลาทำหมัน และลาเนื่ องจากการทำหมันตามระยะเวลาที่แพทย์แผนปั จจุบันชั้นหนึ่งกำหนด และออก
ใบรับรองโดยได้รับค่าจ้างตามปกติ
2. การขอลาเพื่อการทำหมันล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 3 และให้นำใบรับรองของแพทย์แผนปั จจุบันชั้นหนึ่งมามอบต่อบริษัท
ภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันเริ่มเข้าทำงาน
6. ลาเพื่อฝึ กอบรมหรือพัฒนาความรู้
บริษัทอนุญาตให้พนักงานมีสิทธิลาเพื่อการฝึ กอบรม หรือพัฒนาความรู้ความสามารถ
ในกรณี ดังต่อไปนี้
6.1 เพื่อประโยชน์ต่อด้านแรงงานและสวัสดิการสังคมทั้งนี้จะต้องมีโครงการหรือหลักสูตรและกำหนดช่วงเวลาของ
โครงการหรือหลักสูตรที่แน่ นอนและชัดเจน
6.2 การสอบวัดผลทางการศึกษาที่ทางราชการจัดหรืออนุญาตให้จัดขึ้นในการลาเพื่อการฝึ กอบรมหรือการพัฒนาความรู้
ให้นายจ้างทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 7 วัน ก่อนวันลาเพื่อเข้ารับการฝึ กอบรมหรือพัฒนาความรู้ความสามารถ
หมวด 4
วันลา และหลักเกณฑ์การลา (ต่อ)
7. ลาอุปสมบท และลาพิธีการทางศาสนา
บริษัทอนุญาตให้พนั กงานลาอุปสมบทได้ตามหลักเกณฑ์ดัง
ต่อไปนี้
พนักงานที่ปฏิบัติงานครบ 1 ปี บริบูรณ์ นับตั้งแต่วันเริ่ม
เข้าทำงาน บริษัทอนุญาตให้ลาอุปสมบทได้ไม่เกิน 7 วัน
โดยได้รับค่าจ้างตามปกติ
พนักงานที่ปฏิบัติงานครบ 2 ปี บริบูรณ์ นับตั้งแต่วันเริ่ม
เข้าทำงาน บริษัทอนุญาตให้ลาอุปสมบทได้ไม่เกิน 15 วัน
โดยได้รับค่าจ้างตามปกติ
พนักงานที่ปฏิบัติงานครบ 3 ปี บริบูรณ์ นับตั้งแต่วันเริ่ม
เข้าทำงาน บริษัทอนุญาตให้ลาอุปสมบทได้ไม่เกิน 90 วัน
หรือสามเดือน โดยบริษัทจะจ่ายค่าจ้างให้ 30 วันทำงาน
การขอลาอุปสมบทต้องยื่ นใบลาต่อผู้บังคับบัญชาล่วงหน้ า
ไม่น้อยกว่า 60 วัน
พนั กงานจะหยุดงานเพื่ ออุปสมบทได้ต่อเมื่ อได้รับอนุญาต
จากผู้บังคับบัญชาเป็ นลายลักษณ์อักษรแล้วนั้น
หมวด 5
การบริหารค่าจ้าง
การปรับค่าจ้าง
เพื่อให้พนักงานของบริษัทได้รับค่าตอบแทนจากการทำงานในรูปค่าจ้างที่ยุติธรรม บริษัท
จึงกำหนดนโยบายในการบริหารค่าจ้าง ดังนี้
1. การขึ้นค่าจ้างตามความสามารถในการปฏิบัติงาน
การวัดความสามารถในการปฏิบัติงานของพนักงานเพื่อประกอบการพิจารณาขึ้นค่าจ้างนั้น บริษัทจะพิจารณาจาก
การประเมินผลการปฎิบัติงานของพนั กงานแต่ละคนที่ผู้บังคับบัญชาได้จัดทำขึ้นและได้รับความเห็นชอบจากผู้บังคับ
บัญชาชั้นเหนื อขึ้นไป
อัตราหรือจำนวนค่าจ้างที่จะขึ้นแต่ละคราวนั้น บริษัทจะเป็ นผู้กำหนดขึ้นตามความเหมาะสมแก่สภาวการณ์บริษัท
จะขึ้นค่าจ้างให้เฉพาะพนักงานที่มีผลการปฏิบัติงานไม่ต่ำกว่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ และประพฤติตนเหมาะสมกับ
ระเบียบและกฎข้อบังคับของบริษัท
2. การปรับค่าจ้างในกรณีที่พนักงานได้รับการเลื่อนตำแหน่ง
เมื่อพนักงานได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้ดำรงตำแหน่งที่สูงขึ้นไป ซึ่งมีความรับผิดชอบ และความ
สำคัญของงานมากขึ้น ก็จะได้รับการพิจารณาปรับค่าจ้างตามสมควรแก่กรณีให้เป็ นไปตามหลักเกณฑ์
ต่างๆ ที่บริษัทกำหนด
3. การกำหนดหรือเปลี่ยนแปลงค่าจ้าง
การกำหนดหรือเปลี่ยนแปลงค่าจ้างของพนั กงานต้องได้รับอนุมัติจากบริษัททุกครั้ง
4. ภาษีเงินได้
พนักงานเป็ นผู้ออกภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับเงินได้ที่พนักงานได้รับจากบริษัท
เงินรางวัลประจำปี (โบนัส)
บริษัทเป็ นผู้กำหนดอัตราเงินรางวัลประจำปี ซึ่งจะพิจารณาให้กับพนักงานที่ได้รับการบรรจุแล้ว เป็ นปี ๆ ไป
ตามความเหมาะสม ทางแต่สภาวการณ์เป็ นคราวๆ ไป
หมวด 6
การจ่ายค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา และค่าทำงานในวันหยุด
สำนั กงานใหญ่ : บริษัทจะจ่ายให้แก่พนักงานเดือนละครั้ง ภายในวันที่ 25 ของเดือนนั้น ๆ
โรงงาน : บริษัทจะจ่ายให้แก่พนักงานเดือนละ 2 ครั้ง โดยแบ่งเป็ นงวดกลางเดือนกับงวดสิ้นเดือน หรือ ตามที่เห็นว่าเหมาะสมโดยได้รับ
ความยินยอมจากพนั กงาน
1. การทำงานล่วงเวลาและการทำงานในวันหยุด
ในกรณีที่มีเหตุจำเป็นฉุกเฉินหรือเร่งด่วน ซึ่งอาจส่งผลเสียหายต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทหาก ไม่มีการทำงานโดยต่อเนื่องบริษัทจึงจำเป็น
ต้องให้พนักงานมาทำงานล่วงเวลา โดยจะแจ้งให้พนักงานทราบล่วงหน้ าทั้งนี้จะต้องได้รับความยินยอมจากพนักงานด้วย
2. อัตราการจ่ายค่าล่วงเวลา ค่าทำงานในวันหยุด และค่าล่วงเวลาในวันหยุด
2.1 การทำงานล่วงเวลาในวันทำงานปกติ
บริษัทจะจ่ายค่าล่วงเวลาให้ในอัตรา 1.5 เท่าของค่าจ้างมูลฐานโดยคำนวณตามชั่วโมงที่ทำงานล่วงเวลาในวันทำงานปกติ
2.2 การทำงานในวันหยุด
พนักงานรายวัน ไม่ได้รับค่าจ้างในวันหยุดประจำสัปดาห์ บริษัทจะจ่ายค่าจ้างในวันหยุดให้ 2 เท่าของค่าจ้าง โดยคำนวณตามจำนวนชั่วโมง
ที่ทำงานในวันหยุด
พนักงานรายวัน ได้รับค่าจ้างในวันหยุดตามประเพณี วันหยุดพักผ่อนประจำปี มาทำงานในวันหยุด บริษัทจะจ่ายค่าจ้างในวันหยุดเพิ่มขึ้น
ในอัตรา 1 เท่าของค่าจ้าง โดยคำนวณตามจำนวนชั่วโมงที่ทำงานในวันหยุด
พนักงานรายเดือน ได้รับค่าจ้างในวันหยุดประจำสัปดาห์ วันหยุดตามประเพณี วันหยุดพักผ่อนประจำปี บริษัทจะจ่ายค่าจ้างในวันหยุดให้
เพิ่มขึ้น อีกในอัตรา 1 เท่า ของค่าจ้าง โดยคำนวณตามจำนวนชั่วโมงที่ทำงานในวันหยุด
2.3 การทำงานล่วงเวลาในวันหยุด
กรณีที่พนักงานมาปฏิบัติงานในวันหยุดและได้ทำงานนอกเหนือจากเวลาปกติของการทำงาน บริษัทจะจ่ายค่าทำงานล่วงเวลาในวันหยุด
ในอัตรา 3 เท่า ของค่าจ้างตามจำนวนเวลาที่ทำเกินเวลาปกติ
หมวด 6
การจ่ายค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา และค่าทำงานในวันหยุด
(ต่อ)
2.4 พนักงานที่ไม่มีสิทธิ์ได้รับค่าล่วงเวลา และค่าล่วงเวลาในหยุด
พนักงานซึ่งมีอำนาจหน้ าที่ทำการแทนบริษัท สำหรับกรณีการจ้าง การให้
บำเหน็จการลดค่าจ้าง หรือการเลิกจ้าง
พนักงานที่ทำหน้ าที่เฝ้ าหรือดูแลสถานที่ หรือทรัพย์สินของบริษัทอันมิใช่
หน้ าที่การทำงานปกติ
พนักงานที่ทำงานนอกสถานที่ โดยสภาพของงานไม่อาจกำหนดเวลาทำงาน
แน่นอนได้
งานอื่น ๆ ตามที่บริษัทจะประกาศให้ทราบในโอกาสต่อไปตามที่ทางราชการ
จะให้กำหนดในภายหน้ า
3. การจ่ายค่าจ้างในกรณีบริษัทมีความจำเป็ นต้องหยุดกิจการชั่วคราว
ในกรณีที่บริษัทมีความจำเป็ นต้องหยุดกิจการทั้งหมดหรือบางส่วน
เป็นการชั่วคราวโดยเหตุหนึ่งเหตุใดที่มิใช่เหตุสุดวิสัย บริษัทจะจ่ายเงิน
ให้แก่พนักงานไม่น้ อยกว่าร้อยละ 75 ของค่าจ้างในวันทำงานที่พนักงาน
ได้รับก่อนบริษัทหยุดกิจการตลอดระยะเวลาที่บริษัทไม่ได้ให้พนักงานเข้า
ทำงาน
บริษัทจะแจ้งให้พนักงานและพนักงานตรวจแรงงานทราบล่วงหน้ าเป็นหนังสือ
ก่อนวันเริ่มหยุดกิจการไม่น้ อยกว่า 3 วันทำการ
หมวด 7
สวัสดิการและผลประโยชน์ อื่ นๆ
1. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
บริษัทได้จัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เพื่อให้พนักงานได้สะสมเงินได้ส่วนหนึ่งไว้และ
บริษัทสมทบเพิ่มอีกส่วนหนึ่งเพื่อความมั่นคงในอนาคตของพนักงานเอง ซึ่งหลักเกณฑ์
เป็ นไปตามที่บริษัทกำหนด
2. ของเยี่ยมกรณีคลอดบุตร
เมื่อพนักงานคลอดบุตรหรือมีบุตร บริษัทจะจัดของเยี่ยม เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจแก่
พนักงานเป็ นไปตามหลักเกณฑ์ที่บริษัทกำหนด
3. ของเยี่ยมไข้กรณีเจ็บป่ วย
เมื่อพนักงานเจ็บป่วย ซึ่งจะต้องเข้ารับการดูแลรักษาในสถานพยาบาลตั้งแต่ 1 คืนขึ้นไป
บริษัทจะส่งผู้แทนไปเยี่ยมพนักงานพร้อมทั้งของเยี่ยม
4. เงินช่วยเหลือกรณีเสียชีวิต
บริษัทได้จัดสวัสดิการเงินช่วยเหลือกรณีเสียชีวิตของบุคคลในครอบครัวของพนักงาน
หรือพนักงานเสียชีวิต
หมวด 7
สวัสดิการและผลประโยชน์อื่นๆ (ต่อ)
5. เงินยืมฉุกเฉิน
บริษัทได้จัดให้มีเงินยืมฉุกเฉินเพื่อช่วยเหลือพนักงาน
6. เงินช่วยเหลือกรณีใช้พาหนะส่วนตัวในกิจการบริษัท
บริษัทได้จัดสวัสดิการเงินช่วยเหลือกรณีที่พนักงานใช้รถส่วนตัวไปติดต่อ หรือทำงานให้
บริษัท ตามหลักเกณฑ์ที่บริษัทกำหนด
7. เงินช่วยเหลือเนื่ องจากการโยกย้ายฐาน
การโยกย้ายสถานที่ทำงานใหม่ อันมีผลให้พนักงานต้องย้ายถิ่นที่อยู่ บริษัทจึงจัดให้มี
เงินช่วยเหลือดังกล่าว ตามหลักเกณฑ์ที่บริษัทกำหนด
8. เบี้ยขยัน
บริษัทจัดให้มีเบี้ยขยันสำหรับพนักงานที่เป็ นพนักงานของบริษัทเพื่ อเป็ นการส่งเสริม
และเพิ่มขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานของพนักงาน
9. เบี้ยเลี้ยง ค่าที่พัก
บริษัทได้จัดให้มีเงินช่วยเหลือในกรณีที่พนักงานไปปฏิบัติงานตามคำสั่งของบริษัท
เป็นการชั่วคราว ณ ที่ทำงานใหม่
หมวด 7
สวัสดิการและผลประโยชน์อื่นๆ (ต่อ)
10. เครื่องแบบพนักงาน
บริษัทได้จ่ายเครื่องแบบให้พนักงาน เมื่อเข้าทำงานและเมื่อครบรอบปี
11. การตรวจสุขภาพประจำปี
บริษัทจะจัดตรวจสุขภาพพนักงานตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
12. ประกันอุบัติเหตุ
บริษัทได้จัดให้มีการประกันอุบัติเหตุหมู่ ไว้สำหรับพนักงานรายเดือนซึ่งจะได้รับสิทธิ
ประโยชน์ตามที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ทุกประการ
13. อุปกรณ์ป้ องกันอันตรายส่วนบุคคล
จึงได้จัดให้มีอุปกรณ์ป้ องกันอันตรายส่วนบุคคล อาทิเช่น รองเท้าบู๊ต ถุงมือยาง ถุงมือ
ผ้า ผ้ายางกันน้ำ หน้ ากากกันฝุ่น อุปกรณ์ลดเสียงเป็นต้น
หมวด 8
วินั ยและการลงโทษ
1. ความประพฤติหรือการกระทำที่ฝ่ าฝื นระเบียบวินัย
พนักงานที่ประพฤติหรือกระทำการดังต่อไปนี้ บริษัทถือว่าพนักงานได้ประพฤติผิดหรือฝ่าฝืนระเบียบวินัย
ของบริษัท ซึ่งจะถูกพิจารณาโทษตามที่กำหนดไว้ เช่น
1.1 มาทำงานสาย
1.2 ไม่บันทึกเวลาเข้างาน หรือเลิกงาน
1.3 ไม่ติดบัตรประจำตัวพนักงานในขณะอยู่ในบริเวณบริษัทฯ
1.4 เจตนาปฏิบัติงานให้ล่าช้านอนหรือหลับในเวลาทำงาน ละทิ้ง
1.5 ฝ่าฝืนละเลย หลีกเลี่ยง เพิกเฉย หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งอันชอบของผู้บังคับบัญชา
1.6 แจ้ง หรือรายงานเท็จต่อบริษัท หรือต่อผู้บังคับบัญชา
1.7 กระทำการใด ๆ อันก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของบริษัท โดยเจตนาหรือประมาท
2. ความประพฤติหรือการกระทำที่ฝ่ าฝื นระเบียบวินัยขั้นร้ายแรง
พนักงานที่ประพฤติ หรือกระทำการดังต่อไปนี้ บริษัทถือว่าพนักงานได้ประพฤติผิด หรือฝ่าฝืนระเบียบวินัยร้ายแรง
ซึ่งบริษัทจะพิจารณาโทษโดยการเลิกจ้างโดยไม่ได้รับค่าชดเชย ในกรณีดังต่อไปนี้
2.1 ทุจริตต่อหน้ าที่ หรือกระทำความผิดอาญาโดยเจตนาแก่บริษัท
2.2 จงใจทำให้บริษัท ได้รับความเสียหาย
2.3 ฝ่าฝืนข้อบังคับ หรือระเบียบเกี่ยวกับการทำงาน หรือคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรมของบริษัทและ
บริษัทได้ตักเตือนเป็นหนังสือแล้ว ซึ่งหนังสือตักเตือนนั้นมีผลบังคับไม่เกิน 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ลูกจ้างได้กระทำความ
ผิด เว้นแต่เป็นกรณีร้ายแรง บริษัทไม่จำเป็นต้องตักเตือน
2.4 ขาดงาน หรือละทิ้งหน้ าที่เป็นเวลา 3วันทำงานติดต่อกันไม่ว่าจะมีวันหยุดคั่นหรือไม่ก็ตามโดยไม่มีเหตุอันสมควร
2.5 ประมาท เลินเล่อ เป็นเหตุให้บริษัทได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง
3. การลงโทษทางวินัย
ในกรณีที่พนักงานประพฤติผิด หรือฝ่าฝืนระเบียบวินัยข้างต้น บริษัทจะพิจารณาโทษตามความหนักเบาของลักษณะความผิด
ที่พนักงานผู้นั้นได้ก่อขึ้นดังนี้
3.1 ตักเตือนด้วยวาจา
3.2 ตักเตือนเป็นลายลักษณ์อักษร
3.3 เลิกจ้าง
ก) โดยได้รับค่าชดเชย
ข) โดยไม่ได้รับค่าชดเชย
หมวด 9
การร้องทุกข์
วิธีการและขั้นตอน
พนักงานที่ไม่พอใจหรือรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมเนื่องจากการทำงานดังกล่าวข้างต้น ให้ยื่นคำร้องทุกข์ต่อผู้บังคับ
บัญชาเหตุก็ให้ยื่ นคำร้องทุกข์ต่อผู้บังคับบัญชาระดับสูงขึ้ นไปอีกชั้นหนึ่ ง
การยื่ นคำร้องทุกข์ให้ร้องทุกข์ด้วยวาจาหรือทำเป็ นหนังสือตามความเหมาะสม
การสอบสวนและพิจารณา
เมื่อผู้บังคับบัญชาได้รับคำร้องทุกข์จากพนักงานแล้ว ให้รีบดำเนินการสอบสวนเพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงในเรื่องที่
ร้องทุกข์นั้นโดยละเอียดเท่าที่จะทำได้
หากเป็นเรื่องที่อยู่ในขอบเขตของอำนาจหน้ าที่ของผู้บังคับบัญชานั้นและผู้บังคับบัญชาสามารถแก้ไขได้ก็ให้ผู้
บังคับบัญชาดำเนินการแก้ไขให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว แล้วแจ้งให้พนักงานผู้ยื่นคำร้องทุกข์ทราบโดยทำเป็นหนังสือ
พร้อมทั้งรายงานให้บริษัททราบ
หากเรื่องราวนั้นเป็นเรื่องที่อยู่นอกเขตอำนาจหน้ าที่ของผู้บังคับบัญชานั้นให้ผู้บังคับบัญชาดังกล่าวเสนอเรื่องราว
ที่ร้องทุกข์พร้อมทั้งข้อเสนอในการแก้ไขหรือความเห็นต่อผู้บังคับบัญชาระดับสูงขึ้นไปตามลำดับ
ให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงขึ้นไปดำเนินการสอบสวนและพิจารณาคำร้องทุกข์เช่นเดียวกับผู้บังคับบัญชาระดับต้นที่
ได้รับคำร้องทุกข์
ผู้บังคับบัญชาแต่ละชั้นต้องดำเนินการเกี่ยวกับคำร้องทุกข์โดยเร็ว อย่างช้าไม่เกิน 15 วัน
หมวด 9
การร้องทุกข์ (ต่อ)
กระบวนการยุติข้อร้องทุกข์
เมื่อผู้บังคับบัญชาแต่ละชั้นที่ได้พิจารณาคำร้อง ก็ให้แจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบโดยเร็ว แต่ถ้าพนักงานผู้ยื่นคำร้องทุกข์ไม่
พอใจก็ให้ยื่นอุทธรณ์ต่อกรรมการผู้จัดการภายใน 7วันนับแต่วันที่ทราบผลการร้องทุกข์จากผู้บังคับบัญชาที่พิจารณา
กรรมการผู้จัดการจะพิจารณาอุทธรณ์และดำเนินการแก้ไขหรือยุติเหตุการณ์ตามคำร้องทุกข์ และแจ้งผลการพิจารณาดำเนิน
การให้พนักงานผู้ยื่นคำร้องทุกข์ทราบภายใน 15วัน
การสอบสวนและพิจารณา
เมื่อผู้บังคับบัญชาได้รับคำร้องทุกข์จากพนักงานแล้ว ให้รีบดำเนินการสอบสวนเพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงในเรื่องที่ร้องทุกข์
นั้นโดยละเอียดเท่าที่จะทำได้
หากเป็นเรื่องที่อยู่ในขอบเขตของอำนาจหน้ าที่ของผู้บังคับบัญชานั้นและผู้บังคับบัญชาสามารถแก้ไขได้ก็ให้ผู้บังคับบัญชา
ดำเนินการแก้ไขให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว แล้วแจ้งให้พนักงานผู้ยื่นคำร้องทุกข์ทราบโดยทำเป็นหนังสือ พร้อมทั้งรายงานให้
บริษัททราบ
หากเรื่องราวนั้นเป็นเรื่องที่อยู่นอกเขตอำนาจหน้ าที่ของผู้บังคับบัญชานั้นให้ผู้บังคับบัญชาดังกล่าวเสนอเรื่องราวที่ร้อง
ทุกข์พร้อมทั้งข้อเสนอในการแก้ไขหรือความเห็นต่อผู้บังคับบัญชาระดับสูงขึ้นไปตามลำดับ
ให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงขึ้นไปดำเนินการสอบสวนและพิจารณาคำร้องทุกข์เช่นเดียวกับผู้บังคับบัญชาระดับต้นที่ได้รับคำ
ร้องทุกข์
ผู้บังคับบัญชาแต่ละชั้นต้องดำเนินการเกี่ยวกับคำร้องทุกข์โดยเร็ว อย่างช้าไม่เกิน 15 วัน
ความคุ้มครองผู้ร้องทุกข์และผู้เกี่ยวข้อง
เนื่องจากการร้องทุกข์ การพิจารณา และการยุติข้อร้องทุกข์ เป็นกระบวนการสร้างแรงงานสัมพันธ์ที่ดีดังนั้นพนักงานผู้ยื่น
คำร้องทุกข์ พนักงานผู้ให้ถ้อยคำ ให้ข้อมูล ให้ข้อเท็จจริงหรือให้พยานหลักฐานใดเกี่ยวกับการร้องทุกข์ แม้จะเป็นเหตุให้เกิด
ข้อยุ่งยากประการใดแก่บริษัทก็ย่อมได้รับการรับรองจากบริษัทว่าจะไม่เป็นเหตุหรือถือเป็นเหตุที่บริษัทจะเลิกจ้าง ลงโทษ หรือ
ดำเนินการใด ๆ ที่เกิดผลร้ายต่อพนักงานดังกล่าว
หมวด 10
การพ้นสภาพพนักงาน และการจ่ายค่าชดเชย
1. ลาออก
พนักงานที่ประสงค์จะลาออกจากการเป็นพนักงานของบริษัท ให้ยื่นหนังสือขอลา
ออกต่อผู้บังคับบัญชา เพื่อพิจารณาอนุมัติตามลำดับขั้นเป็นการล่วงหน้ าไม่น้ อย
กว่า 30 วัน ต่อเมื่อได้รับอนุมัติแล้ว จึงจะถือว่าพ้นสภาพจากการเป็นพนักงาน
โดยสมบูรณ์
2. เลิกจ้างโดยไม่ได้รับค่าชดเชย
ในกรณีที่พนักงานประพฤติผิดวินัยขั้นร้ายแรงตามที่บริษัทได้กำหนดลักษณะ
ความผิดขั้นร้ายแรงไว้ในหมวดที่ 8 (ข้อ 2) บริษัทอาจพิจารณาเลิกจ้างโดยไม่
จ่ายค่าชดเชย
3. ถึงแก่กรรม
พนักงานที่ถึงแก่กรรม ถือว่าพ้นสภาพจากการเป็นพนักงานของบริษัทในวันที่
ถึงแก่กรรมนั้น