ผักสลัด
( lettuce )
เขียนโดย
นางสาวสิริภัทร มกกงไผ่
คำนำ
หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เล่มนี้ จัดทำขึ้นเพื่อประกอบการเรียนการสอนในรายวิชา
การผลิตพืชผักในหัวข้อการผักสลัด ผู้จัดทำได้รวบรวมเนื้อหาเกี่ยวกับความหมายของผัก
สลัด ชนิดของผักสลัดที่นิยมรับประทานคุณค่าทางโภชนาการของผักสลัด ลักษณะทาง
พฤษศาสตร์ การปลูก การดูแล และการเก็บเกี่ยวของผักสลัด 5 ชนิด ได้แก่
กรีนโอ๊ค บัตเตอร์เฮด ผักกาดคอส เรดโครอล ผักร็อคเก็ต และการนำผักสลัดไปใช้
ประโยชน์ในการประกอบอาหาร พร้อมทั้งวิดีโอวิดีโอการปลูก การดูแล และการเก็บ
เกี่ยวผักสลัดทั้ง 5 ชนิด และแบบประเมินผลการเรียนรู้ก่อนเรียนและหลังเรียน สำหรับ
ผู้ เ รี ย น เ พื่ อ เ ป็ น ก า ร ท ด ส อ บ ค ว า ม รู้
ผู้ เ ขี ย น ห วั ง เ ป็ น อ ย่ า ง ยิ่ ง ว่ า ห นั ง สื อ อิ เ ล็ ก ท ร อ นิ ก ส์ เ ล่ ม นี้ จ ะ เ ป็ น ป ร ะ โ ย ช น์ ต่ อ ผู้ ที่ มี
ส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษา และการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของผู้สอนรวมทั้งผู้ที่
ส น ใ จ ใ ฝ่ รู้ ใ น ก า ร นำ ค ว า ม รู้ ที่ ไ ด้ ไ ป ป ร ะ ยุ ก ต์ ใ ช้ ใ น ก า ร ต่ อ ย อ ด ค ว า ม รู้ ใ น ด้ า น ก า ร เ รี ย น
ทั้งนี้ ขอขอบพระคุณเจ้าของตำรา เอกสาร บทความ และงานวิจัยที่ผู้เขียนได้นำ
มาใช้ในการศึกษาค้นคว้าประกอบการเขียนหนังสือเล่มนี้ ขอขอบคุณอาจารย์ที่ปรึกษาที่
ให้โอกาส คำแนะนำผู้เขียนในการเขียนและเผยแพร่หนังสืออิเล็กทรอนิกส์การขยาย
พันธุ์พืชเล่มนี้ หากมีข้อผิดพลาดประการใด ผู้จัดทำต้องขออภัยไว ณ ที่นี้ด้วย
สิริภัทร มกกงไผ่
ผู้ จั ด ทำ
หน้า | ก
สารบัญ
เรื่อง หน้า
คำนำ……………….…………….…………….…………….…………….…………….…………….…….. ก
สารบัญ…………….…………….…………….…………….…………….…………….…………….……… ข
แบบประเมินผลการเรียนรู้ก่อนเรียน…………….…………….…………….…………….…………….…. 1
ความหมายของผักสลัด…………….…………….…………….…………….…………….…………….…. 4
ผักสลัดที่นิยมรับประทาน…………….…………….…………….…………….…………….…………….. 5
คุณค่าทางโภชนาการของผักสลัด…………….…………….…………….…………….…………….…… 10
ลักษณะทางพฤษศาสตร์ การปลูก การดูแล และการเก็บเกี่ยวของกรีนโอ๊ค…………….…. 11
ลักษณะทางพฤษศาสตร์ การปลูก การดูแล และการเก็บเกี่ยวของบัตเตอร์เฮด…………… 15
ลักษณะทางพฤษศาสตร์ การปลูก การดูแล และการเก็บเกี่ยวของผักกาดคอส…………… 19
ลักษณะทางพฤษศาสตร์ การปลูก การดูแล และการเก็บเกี่ยวของเรดโครอล…………….. 23
ลักษณะทางพฤษศาสตร์ การปลูก การดูแล และการเก็บเกี่ยวของผักร็อคเก็ต……………. 27
การนำผักสลัดไปใช้ประโยชน์ในการประกอบอาหาร…………………………………..…………. 31
วิดีโอการปลูก การดูแล และการเก็บเกี่ยวผักสลัดทั้ง 5 ชนิด………………….………………. 33
แบบประเมินผลการเรียนรู้หลังเรียน…………….…………….…………….…………….…………….…. 34
เฉลยแบบประเมินผลการเรียนรู้ก่อนเรียนและหลังเรียน…………….…………….…………….………. 38
บรรณานุกรม…………….…………….…………….…………….…………….…………….……………. 39
หน้า | ข
แ บ บ ป ร ะ เ มิ น ผ ล ก า ร เ รี ย น รู้ ก่ อ น เ รี ย น
1 . ข้ อ ใ ด คื อ ค ว า ม ห ม า ย ข อ ง ผั ก ส ลั ด
1) พืชที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในยุโรปและเอเชีย
2) ลำต้นเตี้ย แต่ส่วนที่เจริญมากที่สุดคือ ใบ
3) พืชที่อยู่ในตระกูล Compositae หรือ Asteraceae
4) ถูกทุกข้อ
2.ผักสลัด 100 กรัม ให้พลังงานประมาณกี่กิโลแคลอรี่
1) 10 กิโลแคลอรี่
2) 15 กิโลแคลอรี่
3) 20 กิโลแคลอรี่
4) 25 กิโลแคลอรี่
3.ทำไมผักกรีนโอ๊ค ( Green Oak Lettuce ) จึงเป็นผักที่เหมาะสำหรับ
มื อ ใ ห ม่ ที่ เ ริ่ ม รั บ ป ร ะ ท า น ผั ก ส ลั ด แ ล ะ เ ห ม า ะ กั บ ผู้ ที่ ค ว บ คุ ม น้ำ ห นั ก
1) ใบค่อนข้างนุ่ม มีแคลอรี่ต่ำ
2) ใบมีความกรอบ มีกากใยอาหารสูง
3) ใบมีรสชาติหวาน ช่วยย่อยอาหารได้ง่าย
4) ใบมีรสฉุนซ่า ขมเล็กน้อย ชาวยล้างสารพิษในร่างกาย
4.หากให้น้ำผักกาดคอส ( Cos ) มากเกินไป จะทำให้เกิดโรคอะไร
1) โรคใบจุด
2) โรคใบขาว
3) โรครากเน่า
4) โรคราน้ำค้าง
หน้า | 1
5.ข้อใดคือลักษณะทางพฤกษศาสตร์ทางใบของผักเรดโครอล ( Red coral
lettuce )
1) ใบยาวรี ซ้อนกันเป็นช่อ ใบบางกรอบ
2) ใบทรงรี เรียวยาว ขอบใบโค้งกลมเรียบหรือขอบใบหยักลึก เป็นซี่เลื่อย
3) ใบและขอบใบหยักเป็นฟันเลื่อย มีสีเขียวปนแดง สีแดงอ่อน หรือแดงเข้ม
4) ใบเรียงซ้อนกันเป็นชั้นๆคล้ายดอกกุหลาบ ห่อหัวแบบหลวม มีลักษณะ
ทรงกลม
6.ถ้าหากต้องการให้ต้นกล้ากรีนโอ๊คแข็งแรงและมีสีเขียว ควรเตรียมดินเพาะ
ต้ น ก ล้ า อ ย่ า ง ไ ร
1) ประกอบด้วยขุยมะพร้าว 1 ส่วน แกลบดำ (แกลบเก่า) 1 ส่วน
มูลไส้เดือน 1 ส่วน
2) ประกอบด้วยขุยมะพร้าว 2 ส่วน แกลบดำ (แกลบเก่า) 2 ส่วน
มูลไส้เดือน 2 ส่วน
3) ประกอบด้วยขุยมะพร้าว 1 ส่วน แกลบดำ (แกลบใหม่) 1 ส่วน
มูลไส้เดือน 1 ส่วน
4) ประกอบด้วยขุยมะพร้าว 2 ส่วน แกลบดำ (แกลบใหม่) 2 ส่วน
มูลไส้เดือน 2 ส่วน
7.การเก็บเกี่ยวบัตเตอร์เฮด ( Butterhead Lettuce ) ในขณะที่ต้นแก่
จ ะ ทำ ใ ห้ เ กิ ด ลั ก ษ ณ ะ ใ ด
1) ทำให้มีรสขม
2) ทำให้ใบเหนียว
3) ทำให้ใบไม่กรอบ
4) ทำให้ยางสีขาวเยอะ
หน้า | 2
8.ผักร็อคเก็ต ( Arugula ) สามารถเจริญเติบโตได้ดีในดินชนิดใด
1) ดินเหนียว ดินทราย
2) ดินร่วนซุย ดินทราย
3) ดินเหนียว ดินร่วนซุย
4) ดินร่วนซุย ดินร่วนปนทราย
9.หากต้องการรับประทานผักสลัดที่เป็นแหล่งของกลูโคซิโนเลต ที่มีฤทธิ์ช่วย
กระตุ้นการทำงานของตับในการผลิตเอนไซม์ และช่วยต้านการเกิดโรคมะเร็ง ต้อง
รั บ ป ร ะ ท า น ผั ก ส ลั ด ช นิ ด ใ ด
1) ผักเคล ( Kale )
2) เรดโอ๊ค ( Red Oak )
3) ไวลด์ ร็อกเก็ต ( Radicchio )
4) เบเบี้ร็อคเก็ต ( Baby Rocket )
10.จงเรียงลำดับการเก็บเกี่ยวผักกาดคอส ( Cos Lettuce ) ให้ถูกต้อง
ก. บรรจุลงในถุงพลาสติกเพื่อรอขนส่ง
ข. ใช้มีดตัด โดยเหลือใบนอก 3-4 ใบ เพื่อป้องกันความเสียหาย
ใ น ก า ร ข น ส่ ง
ค. ลดอุณหภูมิเฉียบพลันลงเหลือ 3 องศาเซลเซียส
ง. ทาปูนแดงบริเวณแผลที่ตัด เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อโรคเข้าสู่หัว
1) ข ง ค ก
2) ข ง ก ค
3) ข ก ง ค
4) ข ค ง ก
หน้า |3
ความหมายของผักสลัด
ผักสลัด หมายถึง พืชที่อยู่ในตระกูล Compositae หรือ Asteraceac
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Lactuce sativa L. คำว่า lactuca มาจากภาษาละติน
หมายถึง พืชที่มียางสีขาวเหมือนน้ำนม มีถิ่นกำเนิดอยู่ในยุโรปและเอเชีย
ลำต้นเตี้ยแต่ส่วนที่เจริญมากที่สุดคือใบ ผักสลัดเป็นพืชที่ได้รับความนิยมใน
การบริโภคเป็นอย่างมาก โดยนิยมนำไปบริโภคสดและประกอบอาหารเพื่อ
สุขภาพที่ผ่านการปรุงแต่งน้อย เนื่องจากปลูกง่ายมีอายุการเก็บเกี่ยวสั้น อุดม
ไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆมากมาย นอกจากนี้ผักสลัดยังอุดมไปด้วย
ร ง ค วั ต ถุ ห ล า ย ช นิ ด ที่ มี คุ ณ ค่ า ท า ง โ ภ ช น า ก า ร ต่ อ ร่ า ง ก า ย ม นุ ษ ย์
หน้า | 4
ชนิดของผักสลัดที่นิยมรับประทาน
1. กรีนโอ๊ค (Green Oak Lettuce)
ภาพที่ 1 กรีนโอ๊ค เป็นผักที่นิยมกินกันมากที่สุด มีลักษณะเป็นทุ่ม ใบหยัก
ที่มา บริษัท ฟาร์มแชนเนล จำกัด (2563) สีเขียว ใบค่อนข้างนุ่มรับประทานง่าย จึงเหมาะมากสำหรับมือ
ใหม่ที่เริ่มรับประทานผักสลัด มีแคลอรีต่ำ กากใยอาหารสูง
ช่วยย่อยอาหารได้ง่าย จึงเป็นผักที่เหมาะกับผู้ที่ควบคุมน้ำหนัก
และยังมีวิตามินสูง ช่วยบำรุงสายตา บำรุงระบบประสาท และ
กล้ามเนื้อ
2.เรดโอ๊ค (Red Oak)
ภาพที่ 2 เรดโอ๊ค คล้ายกรีนโอ๊ค เป็นผักสลัดที่มีลักษณะเป็นพุ่มสวย
ที่มา บริษัท ฟาร์มแชนเนล จำกัด (2563) สีแดงเข้ม มีกากใยอาหารสูง ช่วยกำจัดไขมันส่วนเกิน ล้างผนัง
ลำไส้ ลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งลำไส้ กระตุ้นระบบขับถ่ายให้
ทำงานเป็นปกติ มีธาตุเหล็กและวิตามินซีสูง มีสารต้านอนุมูล
อิสระ ช่วยลดเสี่ยงป่วยเป็นหวัด ไม่เหมาะกับการปรุงร้อน
เหมาะสำหรับการรับประทานสดมากกว่า
ภาพที่ 3 เรดคอรัล 3. เรดคอรัล (Red Coral)
ที่มา บริษัท ฟาร์มแชนเนล จำกัด (2563)
มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า "ผักกาดหอมแดง" อยู่ในตระกูล
เดียวกันกับกรีนคอรัล แตกต่างกันที่สีสัน ใบมีสีแดงอมม่วง
ปลายใบหยักฟู มีลักษณะคล้ายกับปะการัง เป็นผักสีแดงที่ให้
แคลอรีต่ำ มีความกรอบ มีวิตามินบี วิตามินซีสูง และมีไฟเบอร์
ช่วยบรรเทาอาการท้องผูก มีแร่ธาตุหลายชนิดที่ดีต่อร่างกาย เป็น
ผักที่นิยมนำมาตกแต่งจาน สามารถเอาไปย่างหรือทำสลัด เป็น
เครื่องเคียงคู่เมนูยำช่วยดับเผ็ดได้
หน้า | 5
ภาพที่ 4 บัตเตอร์เฮด 4. บัตเตอร์เฮด (Butter Head)
ที่มา บริษัท ฟาร์มแชนเนล จำกัด (2563)
มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า ผักกาดบอสตัน หรือ บิบ ในอเมริกา
มีลักษณะกลม อวบอ้วน มีใบซ้อนกันหนาคล้ายกะหล่ำ มองจาก
ด้านบนคล้ายดอกกุหลาบ เป็นผักฉ่ำน้ำ รสชาติหวานกรอบ
มีสรรพคุณบำรุงเส้นผม บำรุงสายตา บำรุงระบบประสาท
บำรุงผิวพรรณ ช่วยลดความดันโลหิตสูง ป้องกันโรคโลหิตจาง
เป็นผักสลัดที่ทำได้หลายเมนูอร่อย เช่น รับประทานสด
ใส่ในแฮมเบอร์เกอร์ สามารถผัดน้ำมันหอยกินร้อน ๆ
5. ผักกาดคอส (Cos)
ภาพที่ 5 ผักกาดคอส มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า ผักโรเมน (Romaine) มีลักษณะ
ที่มา บริษัท ฟาร์มแชนเนล จำกัด (2563) ไม่เหมือนผักสลัดประเภทอื่น ๆ เพราะมีใบสีเขียวเรียวยาว
เป็นผักกรอบ ก้านอวบสีขาว ไม่ค่อยมีกลิ่นเหม็นเขียว ไม่ขม
มีวิตามินและธาตุเหล็กสูง ซึ่งช่วยเพิ่มปริมาณเม็ดเลือดแดง
ในร่างกาย เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคโลหิตจาง สามารถทน
ความร้อนได้ดีกว่าผักสลัดชนิดอื่นๆ นิยมนำไปทำซีซ่าสลัด
6. ผักกาดแก้ว (Iceberg Lettuce)
ภาพที่ 6 ผักกาดแก้ว มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า “ผักกาดหอมคริปส์เฮด หรือ ไอซ์เบิรก์”
ที่มา บริษัท ฟาร์มแชนเนล จำกัด (2563) เป็นผักสลัดที่ใบซ้อนเกาะกันหลวมๆ ลักษณะใบนิ่ม สีเขียวอ่อน
ก้านใบสีขาว ฉ่ำน้ำ อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง
ฮีโมโกลบินดีต่อผู้ป่วยโรคเลือด นิยมรับประทานสด ทำสลัด หรือ
ร่วมกับอาหารเมนูยำ ลาบ หรือทานร่วมกับหมูย่างเกาหลี
หน้า | 6
ภาพที่ 7 เบบี้ร็อคเก็ต 7. เบบี้ร็อคเก็ต (Baby Rocket)
ที่มา บริษัท ฟาร์มแชนเนล จำกัด (2563)
มีใบเล็กเรียว นุ่ม สีเขียวอ่อน มีรสฉุนซ่า และขมเล็กน้อย
เหมาะกับการรับประทานคู่กับน้ำสลัดที่มีส่วนผสมน้ำส้มสายชู
หรือน้ำสลัดรสจัดเข้มข้น สารในเบบี้ร็อกเกตช่วยล้างสารพิษใน
ร่างกาย ควบคุมความดันเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ทำให้กระดูก
แข็งแรง
ภาพที่ 8 เบบี้ร็อคเก็ต 8. ไวลด์ ร็อคเก็ต (Wild Rocket)
ที่มา บริษัท ฟอร์ฟาร์ม จำกัด (2562)
มีชื่อเรียกอีกชื่อว่า “อลูกูล่าร็อกเก็ต” (Arugula Rocket)
เป็นผักสลัดใบเรียวยาว เป็นหยักแฉก มีรสซ่าๆ เผ็ดปนขม
กลิ่นฉุนมากกว่าเบบี้ร็อกเก็ต มีสรรพคุณช่วยบำรุงกระดูก
มีแคลเซียมสูง อุดมไปด้วยวิตามินซี วิตามินเค และโพแทสเซียมที่
มีประโยชน์ต่อร่างกาย เป็นแหล่งของกลูโคซิโนเลต ที่มีฤทธิ์ช่วย
กระตุ้นการทำงานของตับในการผลิตเอนไซม์ และช่วยต้านการ
เกิดโรคมะเร็ง อีกทั้งยังมีสารอาหารช่วยบำรุงดวงตาและหัวใจ และ
มีโฟเลต ลูทีน ซีแซนทีน ใยอาหาร และแคโรทีนอยด์
ฝรั่งนิยมรับประทานโดยโรยกับชีส
ภาพที่ 8 เรดิชิโอ 9. เรดิชิโอ (Radicchio)
ที่มา บริษัท ฟอร์ฟาร์ม จำกัด (2563)
เป็นผักในตระกูลผักกาดหอม ลักษณะรูปทรงคล้ายกะหล่ำ
แต่มีสีแดงอมม่วง มีก้านใบสีขาว ปลายใบสีแดงอมม่วงนี้
มีสารในกลุ่ม Flavonoid มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
มีวิตามินบีหลายชนิดและวิตามินเค รวมถึงแร่ธาตุสำคัญๆ
นิยมนำมารับประทานสด หรือตกแต่งในจานสลัด เพิ่มสีสัน
ในอาหาร หรือเป็นเครื่องเคียงกับอาหาร
หน้า | 7
ภาพที่ 10 มิซูน่า 10. มิซูน่า (Mizuna)
ที่มา บริษัท ฟอร์ฟาร์ม จำกัด (2563)
หรือผักน้ำญี่ปุ่น อาจรู้จักกันในนาม กิโยนะ (Kyona) และ
โพเธิร์บ มัสตาร์ด (Potherb Mustard) เป็นผักพื้นเมืองญี่ปุ่น
ใบสีเขียวเข้ม เรียวยาว ขอบใบหยัก ก้านยาวขาวอวบ กรอบ
และมีน้ำอยู่ข้างใน อุดมไปด้วยแคลเซียม ที่ช่วยให้กระดูกและฟัน
แข็งแรง ให้วิตามินซีสูงช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายและ
ลดคลอเลสเตอรอลได้ มีแคโรทีนสูงกว่าผักปกติถึง 2 เท่า เหมาะ
สำหรับนำมารับประทานสดในสลัด หรือเครื่องเคียง
อาหารประเภทเนื้อ หรือจะใส่ในซุปก็ได้
ภาพที่ 11 ผักโขมเบบี้ 11. ผักโขมเบบี้ (Baby Spinach)
ที่มา บริษัท กรีนเนท จำกัด (2562)
มีใบกลมสีเขียวเข้ม ก้านใบยาว คล้ายใบหูกวาง อุดมไปด้วย
ธาตุเหล็กบำรุงเลือด แคลเซียมบำรุงกระดูก โพแทสเซียมที่ช่วย
ควบคุมการเต้นของหัวใจ และความดันเลือด มีวิตามินซีป้องกัน
การเป็นหวัด วิตามินบี 2 ช่วยในการเจริญเติบโต มีรสหวานอร่อย
นำมาทำผักสลัด หรือทำซุปผักโขม
ภาพที่ 12 ฟิลเลย์ ไอซ์เบิร์ก 12. ฟิลเลย์ ไอซ์เบิร์ก (Frillice Iceberg Lettuce)
ที่มา บริษัท ฟอร์ฟาร์ม จำกัด (2562)
มีใบหยิกและเป็นฝอยคล้ายเกล็ดน้ำแข็ง มีใบสีเขียวอ่อนและ
หน้า | 8 สีเขียวเข้ม มีลักษณะอวบ กรอบ มีความฉ่ำน้ำ สรรพคุณช่วย
สร้างเม็ดเลือด วิตามินซีสูงมาก ป้องกันโรคหวัดและเสริมสร้าง
ภูมิคุ้มกันของร่างกายโรคหวัดได้เป็นอย่างดี ช่วยขับน้ำนมจึงดี
กับคุณแม่มือใหม่ สร้างเม็ดเลือด ช่วยลดท้องอืดท้องเฟ้อ ขับถ่าย
ได้เป็นอย่างดีเยี่ยม นิยมรับประทานสด ๆ อุดมไปด้วยสารอาหาร
เช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอื่น ๆ อีกมากมาย
13. ผักกาดหอม (Green Coral lettuce)
ภาพที่ 13 ผักกาดหอม อาจเรียกว่า “กรีนคอรัล” มีลำต้นอวบน้ำขนาดเล็ก
มีใบขนาดใหญ่นุ่มสีเขียวอ่อน ปลายใบหยิกกว้าง ห่อกันเป็นชั้นๆ
ที่มา สมาคมพัฒนาคุณภาพสิ่งแวดล้อม (2563) มีคุณค่าทางอาหารสูง อุดมไปด้วยวิตามิน ช่วยให้นอนหลับง่าย
ขับปัสสาวะ ล้างพิษ ขับเหงื่อ และแก้ไข้ มีรสขมเล็กน้อย
รับประทานได้ทั้งแบบสด หรือนำไปปรุงสุก
ภาพที่ 14 ผักเคล 14. ผักเคล (Kale)
ที่มา กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ (2563)
อาจเรียกกันว่า "คะน้าใบหยัก" เป็นผักตระกูลเดียวกับ
กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก กะหล่ำบรัสเซลส์ และบล็อคโคลี เป็นผัก
ใบหยักสีเขียวเข้มและมีลำต้นที่แข็งเป็นเส้นๆ มีสารอาหารมากมาย
เช่น โปรตีน, แคลเซียม, โพแทสเซียม, แมกนีเซียม, ธาตุเหล็ก,
วิตามินเอ, วิตามินซี, วิตามินเค, วิตามินบี 1 บี 2 บี 3,
มีไฟเบอร์สูง ช่วยลดความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน มีสารลูทีนและ
ซีแซนทีนในปริมาณมาก ช่วยดูแลดวงตาได้อย่างดี
หน้า | 9
คุณค่าทางโภชนาการของผักสลัด
โดยคุณค่าทางโภชนาการของผักสลัด 100 กรัม
ให้พลังงานประมาณ 15 กิโลแคลอรี
ซึ่งมีปริมาณคุณค่าทางโภชนาการดังนี้
โปรตีน 1.36 กรัม
คาร์โบไฮเดรต 2.87 กรัม
ไขมัน 0.15 กรัม
น้ำ 94.98 กรัม
เส้นใยอาหาร 1.3 กรัม
แคลเซียม 36 มิลลิกรัม
ฟอสฟอรัส 29 มิลลิกรัม
โพแทสเซียม 194 มิลลิกรัม
แมกนีเซียม 13 มิลลิกรัม
โซเดียม 28 มิลลิกรัม
วิตามินซี 9.2 มิลลิกรัม
หน้า | 10
กรีนโอ๊ค
GREEN OAK LETTUCE
หน้า | 11
ลักษณะทางพฤษศาสตร์
การปลูก การดูแล และ
การเก็บเกี่ยวของกรีนโอ๊ค
ลักษณะทางพฤษศาสตร์
ชื่อภาษาไทย : กรีนโอ๊ค
ชื่อภาษาอังกฤษ : Green Oak Lettuce
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Lactuca scariola var.
ลำต้น : เป็นพืชฤดูเดียว มีลักษณะเป็นพุ่ม มีลำต้นอวบสั้น ช่วงข้อถี่
ใบ : ใบจะเจริญจากข้อเป็นกลุ่ม ใบมีเขียวอ่อนหรือเขียวเข้ม ขอบใบหยัก
ราก : มีระบบรากแก้วที่สามารถเจริญลงไปในดินได้อย่างรวดเร็ว
ดอก : ช่อดอกเป็นแบบ Panicle สูง 2-4 ฟุต ประกอบด้วย ดอก 10-25 ดอกต่อช่อเป็น
ดอกสมบูรณ์เพศกลีบดอกสีเหลือง หรือขาวปนเหลือง ดอกจะบานช่วงเช้าโดยเฉพาะ
ในช่วงที่อุณหภูมิต่ำ
การปลูก
สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม
เป็นพืชที่สามารถเจริญเติบโตได้ดีในดินแทบทุกชนิด แต่สามารถปลูกผักสลัดได้ผลดี
ที่สุดในดินร่วน มีความอุดมสมบูรณ์ และมีอินทรีย์วัตถุสูง ความเป็นกรดเป็นด่าง (PH)
ของดินอยู่ระหว่าง 6.0-6.8 ความชื้นในดินพอสมควร อุณหภูมิในการเพาะเมล็ด 16-20
องศาเซลเซียส อุณหภูมิที่เหมาะสมในการเพาะปลูก 18-25 องศาเซลเซียส พื้นที่ควรให้ได้
รับแสงเต็มที่ตลอดวัน และเนื่องจากใบมีลักษณะบาง ไม่ทนต่อฝน ดังนั้นในช่วงฤดูฝนควร
ปลูกใต้โรงเรือน
หน้า | 12
การเตรียมดิน
ขุดดินตากแดดและโรยปูนขาวหรือโดโลไมท์ อัตรา 0 – 100 กรัม/ตร.ม. ทิ้งไว้ 14 วัน
ให้วัชพืชแห้งตาย ขึ้นแปลงกว้าง 1 เมตร ใส่ปุ๋ย 12 – 24 – 12 และ 15 – 0 – 0 อัตรา
50 กิโลกรัม/ไร่ สัดส่วน 1 : 1 (รองพื้น) ปุ๋ยคอกอัตรา 2 – 4 ตัน/ไร่
การเพาะกล้า
สามารถเพาะกล้าแบบหยอดเมล็ดลงถาดหลุมแล้วค่อยย้ายได้
เตรียมดินเพาะต้นกล้า
ประกอบด้วย ขุยมะพร้าว 1 ส่วน แกลบดำ 1 ส่วน
(ไม่แนะนำให้ใช้แกลบใหม่เนื่องจากค่า pH สูงทำให้ต้นกล้าเหลือง)
และมูลไส้เดือน 1 ส่วน
1.นำดินเพาะใส่ถาดหลุมให้เต็มไม่ต้องอัดแน่น รดน้ำให้ชุ่ม
2.เจาะหลุมไม่ต้องลึกมาก แล้วหยอดเมล็ดลงหลุม 1-2 เมล็ด
จากนั้นกลบเบาๆไม่กดแน่น
3.รดน้ำให้ชุ่มแล้ววางถาดไว้ที่ร่มรำไร (ไม่ควรวางกลางแจ้ง
โดยตรงเพื่อป้องกันต้นกล้าเฉา และโดนฝน)
4.จากนั้นรดน้ำ เช้า-เย็น (หรือบางวันอากาศร้อนอาจจะ 3 ครั้ง
สังเกตหน้าดิน)
5.อายุกล้า 15-20 วัน ย้ายลงแปลงปลูก
หน้า | 13
การปลูก
รดน้ำแปลงให้ชุ่มก่อนย้ายกล้า ควรรดน้ำต้นกล้าก่อนย้ายประมาณ 30 นาที
เพื่อให้รากยึดเกาะกับดิน ระยะปลูกประมาณ 20-25 X 20-30 เซนติเมตร เจาะหลุม
จากนั้นนำต้นกล้าลงหลุมแล้วกลบโคนต้น (แนะนำให้ย้ายกล้าช่วงบ่ายจนถึงเย็น)
การดูแลรักษา
การให้น้ำ
ช่วง 2 สัปดาห์แรกที่ย้ายต้นกล้าลงปลูก ควรให้น้ำเช้า-เย็น อย่างสม่ำเสมอ
และไม่ควรรดจนแฉะเกินไป
การให้ปุ๋ย
หลังจากปลูกลงแปลงประมาณ 15-20 วัน สามารถใส่ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมักได้
โดยโรยห่างจากโคนต้นและพรวนกลบดิน
การเก็บเกี่ยว
อายุที่เหมาะสำหรับการเก็บรับประทานคือ ช่วง 40-45 วัน ควรเลือกเก็บขณะ
ที่ใบยังอ่อน กรอบ ไม่เหนี่ยวกระด้าง
ไม่ควรเก็บขณะต้นแก่เพราะจะมีรสขม
เก็บเกี่ยวด้วยวิธีการตัดโดยใช้มีดตัดตรงโคนต้น แล้วตัดแต่งใบเสียทิ้งไป
จุ่มน้ำเพื่อให้ยางสีขาวออก และสลัดน้ำออกให้หมด เพราะถ้ามีน้ำขังอยู่จะเน่าเสียง่าย
หน้า | 14
บัตเตอร์เฮด
BUTTERHEAD LETTUCE
หน้า | 15
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
การปลูก การดูแลรักษา และ
การเก็บเกี่ยวของบัตเตอร์เฮด
ลักษณะทางพฤษศาสตร์
ชื่อภาษาไทย : บัตเตอร์เฮด
ชื่อภาษาอังกฤษ : Butterhead Lettuce
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Lactuca sativa L.
ลำต้น : เป็นพืชล้มลุกขนาดเล็ก มีอายุสั้นฤดูเดียว ลำต้นเดี่ยว มีลักษณะกลมๆ อวบอ้วน มีข้อสั้นๆ
จะมีก้านใบหนาและอวบน้ำหุ้มอยู่ ออกเรียงสลับโดยรอบๆ กาบใบห่อซ้อนกัน ปกคลุมที่โคน
ลำต้น ห่อหัวแบบหลวม
ใบ : เป็นใบเลี้ยงเดี่ยว ออกตรงโคนลำต้น ออกตามข้อสั้น เรียงสลับรอบๆ กาบใบที่อยู่ด้านนอกใหญ่
กว่ากาบใบที่อยู่ด้านใน ใบเรียงซ้อนกันเป็นชั้นๆคล้ายดอกกุหลาบ ห่อหัวแบบหลวมใบ มีลักษณะ
ทรงกลม กว้างใหญ่เป็นมัน มีใบอ่อนนุ่ม มีก้านใบใหญ่ เป็นกาบหนาและอวบฉ่ำน้ำ
ราก : เป็นระบบรากแก้ว มีลักษณะอวบกลมๆ แทงลึกลงในดิน มีรากฝอยและรากแขนงเล็กๆออก
รอบๆบริเวณลำต้น มีสีน้ำตาล
ดอก : ออกเป็นช่อ ก้านช่อดอกใหญ่ยาว มีแขนงก้านย่อยมาก แบบเชิงหลั่น มีดอกย่อยออกที่โคนไป
ปลายยอด ดอกมีลักษณะเล็กๆ กลีบดอกมีสีเหลือง กลีบเลี้ยงสีเขียวอ่อน
หน้า | 16
การปลูก
สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม
เป็นพืชที่ต้องการสภาพอากาศเย็น อุณหภูมิที่เหมาะสมอยู่
ระหว่าง 10 – 24 องศาเซลเซียส ดินที่เหมาะสมต่อการปลูกควรร่วน
ซุย มีความอุดมสมบูรณ์ และมีอินทรียวัตถุสูง หน้าดินลึกและ
อุ้มน้ำได้ดีปานกลาง สภาพความเป็นกรด-ด่างของดินอยู่ระหว่าง 6.0
– 6.5 พื้นที่ปลูกควรโล่ง และได้รับแสงแดดอย่างเต็มที่เนื่องจากใบมี
ลักษณะบางไม่ทนต่อฝน ดังนั้นในช่วงฤดูฝนควรปลูกใต้โรงเรือน
การเตรียมดิน
ขุดดินตากแดดและโรยปูนขาวหรือโดโลไมท์ อัตรา 0 – 100
กรัม/ตร.ม. ทิ้งไว้ 14 วัน ให้วัชพืชแห้งตาย ขึ้นแปลงกว้าง 1 เมตร
ใส่ปุ๋ย 12 – 24 – 12 และ 15 – 0 – 0 อัตรา 50 กิโลกรัม/ไร่
สัดส่วน 1 : 1 (รองพื้น) ปุ๋ยคอกอัตรา 2 – 4 ตัน/ไร่
การเพาะกล้า
เพาะกล้าในถาดหลุมแบบประณีต ดินที่เพาะควรมีระบบน้ำที่ดี
อายุกล้าประมาณ 3 – 4 อาทิตย์
การปลูก
รดน้ำแปลงให้ชุ่มก่อนย้ายกล้า ควรรดน้ำต้นกล้าก่อนย้าย
ประมาณ 30 นาที ระยะปลูก 30x30 เซนติเมตร 3 แถวในฤดูร้อน
และ 40 x 40 เซนติเมตร 3 แถวในฤดูฝน (เพื่อป้องกันการระบาด
ของโรค ) เจาะหลุม จากนั้นนำต้นกล้าลงหลุมแล้วกลบโคนต้น
(แนะนำให้ย้ายกล้าช่วงบ่ายจนถึงเย็น)
หน้า | 17
การดูแลรักษา
การให้น้ำ
ควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอและเพียงพอต่อการเจริญเติบโต ไม่ควรให้น้ำมากเกินไป
อาจทำให้เกิดโรคโคนเน่า
การให้ปุ๋ย
หลังปลูก 7 วันใส่ปุ๋ย 46 – 0 – 0 หรือ ผสม 15 – 15 – 15 อัตรา 50 กิโลกรัม/
ไร่ อย่างละครึ่ง พร้อมกำจัดวัชพืช หลังปลูก 20 - 25 วัน ใส่ปุ๋ย 13 – 13 – 21
พร้อมกำจัดวัชพืช ขุดร่องลึก 2 – 3 เซนติเมตร รัศมีจากต้น 10 เซนติเมตร
โรยปุ๋ย1/2 ช้อนโต๊ะ กลบดินแล้วรดน้ำ
การเก็บเกี่ยว
อายุเก็บเกี่ยว 45-55 วัน หรือผักห่อหัวดีแล้ว การเก็บควรเลือกเก็บขณะที่ใบยังอ่อน
กรอบ ไม่เหนียว กระด้าง ไม่ควรเก็บขณะต้นแก่เพราะจะมีรสขม
เก็บเกี่ยวด้วยวิธีการตัดโดยใช้มีดตัดตรงโคนต้น มื่อตัดแล้วทาปูนแดงบริเวณ
แผลที่ตัด แล้วตัดแต่งใบเสียทิ้งไป จุ่มน้ำเพื่อให้ยางสีขาวออก และสลัดน้ำออกให้หมด
เพราะถ้ามีน้ำขังอยู่จะเน่าเสียได้ง่าย บรรจุในตะกร้าพลาสติกที่กรุกระดาษรองทั้งตะกร้าลด
อุณหภูมิเฉียบพลันลงเหลือประมาณ 3 องศาเซลเซียส แล้วขนส่งด้วยรถห้องเย็นอย่าง
ระมัดระวัง
หน้า | 18
ผักกาดคอส
COS LETTUCE
หน้า | 19
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ การปลูก
การดูแลรักษา และการเก็บเกี่ยวของผักกาดคอส
ลักษณะทางพฤษศาสตร์
ชื่อภาษาไทย : ผักกาดหวาน
ชื่อภาษาอังกฤษ : Cos Lettuce , Romain Lettuce
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Lactuce sativa var. Longifolla
ลำต้น : เป็นพืชล้มลุก ลำต้นเป็นกอ
ใบ : ลักษณะใบยาวรี ซ้อนกันเป็นช่อ ใบบางกรอบ ก้านอวบสีขาว ใบหยักสีเขียวอ่อน
ไปจนถึงสีเขียวเข้ม
การปลูก
สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม
ต้องการสภาพอากาศเย็นอุณหภูมิที่เหมาะสมอยู่
ระหว่าง 10-24 องศาเซลเซียส ดินที่เหมาะสมต่อการปลูก
ควรร่วนซุย มีความอุดมสมบูรณ์ และมีอินทรีย์วัตถุสูง
หน้าดินลึก และอุ้มน้ำได้ดีปานกลาง สภาพความเป็น
กรด-ด่างของดินอยู่ ระหว่าง 6.0 - 6.5 พื้นที่ปลูกควรโล่ง
และได้รับแสงแดดอย่างเต็มที่ เนื่องจากใบมีลักษณะบาง
ไม่ทนต่อฝน ดังนั้นในช่วงฤดูฝนควรปลูกใต้โรงเรือน
หน้า | 20
การเตรียมดิน
ขุดดินตากแดดและโรยปูนขาวหรือโดโลไมท์ อัตรา 0 - 100 กรัม/ตารางเมตร
ทิ้งไว้ 14 วัน ให้วัชพืชแห้งตาย ขึ้นแปลงกว้าง 1 เมตร ใส่ปุ๋ย 12 - 24 - 12 และ
15 - 0 - 0 อัตรา 50 กิโลกรัม/ไร่ สัดส่วน 1 : 1 (รองพื้น) ปุ๋ยคอกอัตรา
2 - 4 ตัน/ไร่
การเพาะกล้า
เพาะกล้าในถาดหลุมแบบประณีต ดินเพาะควรมีระบบน้ำดี อายุกล้าประมาณ
3 - 4 อาทิตย์
การปลูก
รดน้ำแปลงให้ชุ่มก่อนย้ายกล้า ควรรดน้ำต้นกล้าก่อนย้ายประมาณ 30 นาที
ระยะปลูก 30x30 เซนติเมตร 3 แถว ในฤดูร้อน และ 40 x 40 เซนติเมตร
3 แถว ในฤดูฝน (เพื่อป้องกันการระบาดของโรค ) เจาะหลุม จากนั้นนำต้นกล้า
ลงหลุมแล้วกลบโคนต้น (แนะนำให้ย้ายกล้าช่วงบ่ายจนถึงเย็น)
หน้า | 22 หน้า | 21
การดูแลรักษา
การให้น้ำ
ควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอและเพียงพอต่อการเจริญเติบโต ไม่ควรให้มากเกินไป
อาจทำให้เกิดโรคโคนเน่า
การให้ปุ๋ย
หลังปลูก 7 วัน ใส่ปุ๋ยสูตร 46 - 0 - 0 ผสมสูตร 15 - 15 – 15 อัตราส่วน 1 :
1 ปริมาณ 50 กิโลกรัม/ไร่ พร้อมกำจัดวัชพืช หลังปลูก 20 - 25 วัน ใส่ปุ๋ยสูตร
13 - 13 - 21 โดยขุดร่องลึก 2 - 3 เซนติเมตร รอบโคนต้น รัศมีจากต้น 10
เซนติเมตร โรยปุ๋ย 1/2 ช้อนโต๊ะ กลบดินแล้วรดน้ำพร้อมกำจัดวัชพืช
การเก็บเกี่ยว
อายุการเก็บเกี่ยวประมาณ 40 - 60 วัน หลังจากย้ายปลูกหรือใช้หลังมือกดดู
ถ้าแน่นก็สามารถเก็บได้ ( กดยุบแล้วกลับคืนเหมือนเดิม )
เก็บเกี่ยวโดยใช้มีดตัด และเหลือใบนอก 3-4 ใบ เพื่อป้องกันความเสียหาย
ในการขนส่ง หลีกเลี่ยงการเก็บเกี่ยวตอนเปียก และควรเก็บเกี่ยวตอนบ่ายหรือค่ำแล้วผึ่ง
ลมในที่ร่ม เมื่อตัดควรทาปูนแดงบริเวณแผลที่ตัด เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อโรคเข้าสู่หัว
แล้วบรรจุลงในพลาสติกเพื่อรอขนส่งต่อไป ลดอุณหภูมิเฉียบพลันลงเหลือประมาณ
3 องศาเซลเซียส แล้วขนส่งด้วยรถห้องเย็นอย่างระมัดระวัง
หน้า | 22
เรดโครอล
RED CORAL LETTUCE
หน้า | 23
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ การปลูก
การดูแลรักษา และการเก็บเกี่ยวของเรดโครอล
ภาพที่ 15 เรดโครอล ลักษณะทางพฤษศาสตร์
ที่มา บริษัท ฟอร์ฟาร์ม จำกัด (2562)
ชื่อภาษาไทย : ผักกาดหอมใบแดง
ชื่อภาษาอังกฤษ : Red Coral Lettuce
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Lactuca sativa.
ลำต้น : เป็นพืชล้มลุก ลำต้นเป็นกออวบสั้น
ช่วงข้อถี่
ใบ : เจริญจากข้อเป็นกลุ่ม หยักเป็นฟันเลื่อย
มีสีเขียวปนแดง สีแดงอ่อน หรือแดงเข้ม
ใบซ้อนกันเป็นชั้นๆ ก้านใบด้านใน
เป็นสีเขียวอ่อน ลักษณะพุ่มจะคล้าย
กรีนโครอล แต่จะมีขนาดเล็กกว่า
ราก : มีระบบรากแก้วที่เจริญลงไปในดินได้อย่างรวดเร็ว
ดอก : ช่อดอกเป็นแบบ Panicle สูง 2 - 4 ฟุต ประกอบด้วย ดอก 10 - 25 ดอกต่อช่อ เป็นดอก
สมบูรณ์เพศ กลีบดอกสีเหลือง หรือขาวปนเหลือง ดอกจะบานช่วงเช้า โดยเฉพาะในช่วงที่อุณหภูมิต่ำ
หน้า | 24
การปลูก
สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม
สามารถเจริญเติบโตได้ดีในดินแทบทุกชนิด แต่ปลูกได้ผลดีที่สุดในดินร่วน เป็นพืชที่
ต้องการสภาพอากาศเย็น อุณหภูมิที่เหมาะสมอยู่ระหว่าง 10 - 24 องศาเซลเซียส ความเป็นก
รดด่าง (0H) ของดินอยู่ระหว่าง 6.0 - 6.8 มีความชื้นในดินพอสมควร พื้นที่ปลูกควรโล่งและ
ได้รับแสงแดดอย่างเต็มที่ เนื่องจากใบผักกาดหอมใบแดงมีลักษณะบาง ไม่ทนต่อฝน ดังนั้นใน
ช่วงฤดูฝนควรปลูกใต้โรงเรือน
การเตรียมดิน
ขุดดินตากแดดและโรยปูนขาวหรือโดโลไมท์ อัตรา 0 - 100 กรัม/ตารางเมตร ทิ้งไว้ 14
วัน ให้วัชพืชแห้งตาย ขึ้นแปลงกว้าง 1 เมตร ใส่ปุ๋ย 12 - 24 - 12 และ 15 - 0 - 0 อัตรา 50
กิโลกรัม/ไร่ สัดส่วน 1 : 1 (รองพื้น) ปุ๋ยคอกอัตรา 2 - 4 ตัน/ไร่
การเพาะกล้า
โดยหยอดเมล็ดลงถาดหลุมแล้วค่อยย้ายลงแปลง
เตรียมดินเพาะต้นกล้า
ประกอบด้วยขุยมะพร้าว 1 ส่วน แกลบดำ 1 ส่วน (ไม่แนะนำให้ใช้แกลบใหม่เนื่องจาก
ค่า pH สูงทำให้ต้นกล้าเหลือง) มูลไส้เดือน 1 ส่วน
1.นำดินเพาะใส่ถาดหลุมให้เต็มไม่ต้องอัดแน่น รดน้ำให้ชุ่ม
2.เจาะหลุมไม่ต้องลึกมาก แล้วหยอดเมล็ดลงหลุม 1-2 เมล็ด จากนั้นกลบเบาๆไม่กดแน่น
3.รดน้ำให้ชุ่มแล้ววางถาดไว้ที่ร่มรำไร (ไม่ควรวางกลางแจ้งโดยตรงเพื่อป้องกันต้นกล้าเฉา
และโดนฝน)
4.จากนั้นรดน้ำ เช้า-เย็น (หรือบางวันอากาศร้อนอาจจะ 3 ครั้งสังเกตหน้าดิน)
5.อายุกล้า 15-20 วัน ย้ายลงแปลงปลูก
หน้า | 25
การปลูก
รดน้ำแปลงให้ชุ่มก่อนย้ายกล้า ควรรดน้ำต้นกล้าก่อนย้ายประมาณ 30 นาที ระยะปลูก
ประมาณ 20-25 X 20-30 เซนติเมตร (แล้วแต่ชนิดพันธุ์ ) เจาะหลุม จากนั้นนำต้นกล้าลงหลุม
แล้วกลบโคน (แนะนำให้ย้ายกล้าช่วงบ่ายจนถึงเย็น)
การดูแลรักษา
การให้น้ำ
ช่วง 2 สัปดาห์แรกที่ย้ายต้นกล้าลงปลูก ควรให้น้ำเช้า-เย็น อย่างสม่ำเสมอ และไม่ควร
รดจนแฉะเกินไป อาจทำให้เกิดโรคโคนเน่า
การให้ปุ๋ย
หลังปลูก 7 วันใส่ปุ๋ย 46 - 0 - 0 หรือผสม 15 - 15 - 15 อัตรา 50 กิโลกรัม/ไร่
อย่างละครึ่ง พร้อมกำจัดวัชพืช หลังปลูก 20 - 25 วัน ใส่ปุ๋ย 13 - 13 - 21 พร้อมกำจัดวัชพืช
ขุดร่องลึก 2 - 3 เซนติเมตร รัศมีจากต้น 10 เซนติเมตร โรยปุ๋ย1/2 ช้อนโต๊ะ กลบดินแล้วรดน้ำ
การเก็บเกี่ยว
อายุเก็บเกี่ยว 45-55 วัน ควรเลือกเก็บขณะที่ใบยังอ่อน กรอบ ไม่เหนียว กระด้าง
ไม่ควรเก็บขณะต้นแก่เพราะจะมีรสขม
โดยเก็บเกี่ยวด้วยมีดตัดตรงโคนต้น แล้วตัดแต่งใบเสียทิ้งไป จุ่มน้ำเพื่อให้ยางสีขาวออก
และสลัดน้ำออกให้หมด เพราะถ้ามีน้ำขังอยู่จะเน่าเสียได้ง่าย เมื่อตัดแล้วทาปูนแดงบริเวณแผลที่ตัด
ลดอุณหภูมิเฉียบพลันลงเหลือประมาณ 3 องศาเซลเซียส แล้วขนส่งด้วยรถห้องเย็นอย่างระมัดระวัง
หน้า | 26
ผักร็อคเก็ต
ARUGULA
หน้า | 27
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ การปลูก การดูแลรักษา
และการเก็บเกี่ยวของผักร็อคเก็ต
ชื่อภาษาไทย : ร็อคเก็ต
ชื่อภาษาอังกฤษ: Arugula , Rucola
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Eruca sativa
ลำต้น : เป็นพืชล้มลุก ทรงพุ่มขนาดเล็ก สูงประมาณ 20 - 100
เซนติเมตร มีอายุสั้นฤดูเดียว ลำต้นเดี่ยว มีลักษณะกลมๆ
มีข้อสั้นๆ จะมีก้านใบหุ้มอยู่ ใบซ้อนกันแน่น ออกเรียงสลับ
โดยรอบๆ ปกคลุมที่โคนลำต้น ไม่ห่อหัว ก้านมีสีเขียวอ่อน
ภาพที่ 16 เรดโครอล ใบ : ใบเลี้ยงเดี่ยว ออกตรงโคนลำต้น ตามข้อสั้น เรียงสลับรอบๆ
ที่มา O-farm@Nonthaburi (2565) ใบที่อยู่ด้านนอกใหญ่กว่าใบที่อยู่ด้านในมีลักษณะทรงรี
เรียวยาว ขอบใบโค้งกลมเรียบ หรือขอบใบหยักลึก เป็นซี่เลื่อย
ใบสีเขียวเข้ม มีก้านใบยาว ก้านมีสีเขียวอ่อน
รสชาติกรอบเผ็ดซ่า มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว
ราก : เป็นระบบรากแก้ว มีลักษณะอวบกลมๆ แทงลึกลงในดิน
มีรากฝอยและรากแขนงเล็กๆ ออกรอบๆบริเวณลำต้น
มีสีน้ำตาล
ดอก : ออกเป็นช่อ ก้านช่อดอกใหญ่ยาว มีดอกย่อย แบบเชิงหลั่น มีดอกย่อยออกโคนไปที่ปลายยอดดอก
มีลักษณะเล็กๆ มีสี่กลีบ กลีบดอกมีสีเหลืองนวล กลีบเลี้ยงสีเขียวอ่อน
ผล : มีผลเป็นฝัก มีลักษณะทรงกรวย ยาวรี ฝักแก่มีสีน้ำตาล
เมล็ด : อยู่ในฝักแก่ มีเมล็ดจำนวนมาก มีลักษณะทรงกลมเล็กๆ มีเปลือกหุ้มเมล็ดเป็นมัน มีสีน้ำตาล
หน้า | 28
การปลูก
สภาพอากาศที่เหมาะสม
ชอบอากาศหนาวเย็น เป็นพืชชอบน้ำ ชอบแสงแดด เป็นพืชที่สามารถเจริญเติบโตได้ในดินทุกชนิด
โดยเฉพาะดินร่วนซุย ดินร่วนปนทรายจะเจริญเติบโตได้ดี
การเตรียมดิน
ขุดดินตากแดดและโรยปูนขาวหรือโดโลไมท์ อัตรา 0 - 100 กรัม/ตารางเมตร ทิ้งไว้ 14 วัน ให้
วัชพืชแห้งตาย ขึ้นแปลงกว้าง 1 เมตร ใส่ปุ๋ย 12 - 24 - 12 และ 15 - 0 - 0 อัตรา 50 กิโลกรัม/ไร่
สัดส่วน 1 : 1 (รองพื้น) ปุ๋ยคอกอัตรา 2 - 4 ตัน/ไร่
การเพาะกล้า
หยอดเมล็ดลงถาดหลุมแล้วค่อยย้ายลงแปลง
เตรียมดินเพาะต้นกล้า
ประกอบด้วยขุยมะพร้าว 1 ส่วน แกลบดำ 1 ส่วน (ไม่แนะนำให้ใช้แกลบใหม่เนื่องจากค่า pH สูง
ทำให้ต้นกล้าเหลือง) มูลไส้เดือน 1 ส่วน
1.นำดินเพาะใส่ถาดหลุมให้เต็มไม่ต้องอัดแน่น รดน้ำให้ชุ่ม
2.เจาะหลุมไม่ต้องลึกมาก แล้วหยอดเมล็ดลงหลุม 1-2 เมล็ด
จากนั้นกลบเบาๆไม่กดแน่น
3.รดน้ำให้ชุ่มแล้ววางถาดไว้ที่ร่มรำไร (ไม่ควรวางกลางแจ้งโดยตรงเพื่อป้องกันต้นกล้าเฉา และโดนฝน)
4.จากนั้นรดน้ำ เช้า-เย็น (หรือบางวันอากาศร้อนอาจจะ 3 ครั้ง สังเกตหน้าดิน)
5.อายุกล้า 15-20 วัน ย้ายลงแปลงปลูก
หน้า | 29
การปลูก
รดน้ำแปลงให้ชุ่มก่อนย้ายกล้า ควรรดน้ำต้นกล้าก่อนย้ายประมาณ 30 นาที ระยะปลูก
ประมาณ 20-25 X 20-30 เซนติเมตร (แล้วแต่ชนิดพันธุ์ ) เจาะหลุม จากนั้นนำต้นกล้าลงหลุม
แล้วกลบโคนต้น (แนะนำให้ย้ายกล้าช่วงบ่ายจนถึงเย็น)
การดูแลรักษา
การให้น้ำ
ช่วง 2 สัปดาห์แรกที่ย้ายต้นกล้าลงปลูก ควรให้น้ำเช้า-เย็น อย่างสม่ำเสมอ และไม่ควรรดจนแฉะ
เกินไป อาจทำให้เกิดโรคโคนเน่า
การให้ปุ๋ย
หลังปลูก 7 วันใส่ปุ๋ย 46 - 0 - 0 หรือผสม 15 - 15 - 15 อัตรา 50 กิโลกรัม/ไร่ อย่างละครึ่ง
พร้อมกำจัดวัชพืช หลังปลูก 20 - 25 วัน ใส่ปุ๋ย 13 - 13 - 21 พร้อมกำจัดวัชพืช ขุดร่องลึก 2 - 3
เซนติเมตร รัศมีจากต้น 10 เซนติเมตร โรยปุ๋ย1/2 ช้อนโต๊ะ กลบดินแล้วรดน้ำ
การเก็บเกี่ยว
เก็บเกี่ยวเมื่ออายุ 20 - 30 วัน หลังจากหยอดเมล็ด หรือเก็บเกี่ยวเมื่อต้นมีความยาวจาก
บริเวณโคนต้นถึงปลายใบระหว่าง 10 - 12 เซนติเมตร
โดยใช้มีดหรือกรรไกรตัดบริวณโคนราก ให้มีรากติดยาวประมาณ 0.5 - 1.0 เซนติเมตร
ตัดแต่งใบเลี้ยง และใบเหลืองออก เก็บเกี่ยวในช่วงเช้าหรือเย็น ลดอุณหภูมิเฉียบพลันลงเหลือ
3 องศาเซลเซียส แล้วขนส่งด้วยรถห้องเย็นอย่างระมัดระวัง ในกรณีที่ไม่มีการลดอุณหภูมิเฉียบพลัน
หลังจากตัดแต่ง ให้บรรจุผลผลิตในกล่องโฟมที่ใส่น้ำแข็งหรือเจลไอซ์ทันที
หน้า | 30
การนำผักสลัดไปใช้ประโยชน์
ในการประกอบอาหาร
สามรถนำผักสลัดมาประกอบอาหารที่เกี่ยวกับเมนูต้ม ได้แก่
ต้มจืด ชาบู
ก๋วยเตี๋ยว จิ้มจุ่ม
สุกี้
สามรถนำผักสลัดมาประกอบอาหารที่เกี่ยวกับเมนูห่อ ได้แก่
ห่อหมูย่าง ห่อไส้ทาโก้
ห่อปลาเผา ห่อเมนูอื่นๆตามใจชอบ
ห่อเมี่ยง
สามรถนำผักสลัดมาประกอบอาหารที่เกี่ยวกับเมนูยำ ได้แก่
ยำกุ้งสด ยำถั่วพลู
ยำแซลม่อน ยำหมูยอ
ยำวุ่นเส้น ใส่ยำอื่นๆตามใจชอบ
สามรถนำผักสลัดมาประกอบอาหารที่เกี่ยวกับเมนูผัด ได้แก่
ผัดผักน้ำมันหอย
ผัดผักใส่ไข่
ผัดผักใส่เนื้ออื่นๆ ตามใจชอบ
หน้า | 31
สามรถนำผักสลัดมาประกอบอาหารที่เกี่ยวกับเมนูเครื่องเคียง ได้แก่
ทานคู่กับสเต็ก
ทานคู่กับแฮมเบอร์เกอร์
ทานคู่กับเมนูย่าง เช่น หมูย่างเกาหลี
สามรถนำผักสลัดรับประทานสดกับน้ำสลัด ได้แก่
สลัดอกไก่
สลัดแซลมอน
ซีซาร์สลัด
สามรถนำผักสลัดรับประทานสดกับแกงและน้ำพริก ได้แก่
แกงเผ็ด
ผัดเผ็ด
ทานกับน้ำพริกต่างๆตามใจชอบ
หน้า | 32
วิดีโอการปลูก การดูแล และการเก็บเกี่ยว
ผักสลัดทั้ง 5 ชนิด
สแกน QR CODE
หรือ
เปิด LINK
HTTPS://DRIVE.GOOGLE.COM/FILE/D/1O0AEEE47CZP
HRVS3B9CJY3YHJ-PFKKXT/VIEW?USP=DRIVESDK
หน้า | 33
แ บ บ ป ร ะ เ มิ น ผ ล ก า ร เ รี ย น รู้ ห ลั ง เ รี ย น
1. คำว่า Lactuca มาจากภาษาละติน หมายถึงข้อใด
1) พืชที่มียางสีขาวเหมือนน้ำนม
2) พืชที่มีส่วนที่เจริญที่สุด คือ ใบ
3) พืชที่ปลูกง่าย มีอายุการเก็บเกี่ยวสั้น
4) พืชที่มีรสขมและจะมีรสขมมากเมื่อปลูกในที่มีอากาศร้อนและแห้ง
2.ผักสลัด 100 กรัม มีปริมาณคุณค่าทางโภชนาการของเส้นใยอาหารกี่กรัม
1) 1.1 กรัม
2) 1.2 กรัม
3) 1.3 กรัม
4) 1.4 กรัม
3.เรดิชิโอ ( Radicchio ) มีสารในกลุ่ม Flavonoid โดยสารกลุ่มนี้
มี คุ ณ ส ม บั ติ อ ย่ า ง ไ ร
1) ช่วยสร้างเม็ดเลือด
2) สารต้านอนุมูลอิสระ
3) ช่วยล้างสารพิษในร่างกาย
4) สารช่วยบำรุงดวงตาและหัวใจ
4.ผักเคล ( Kale ) เป็นผักตระกูลเดียวกับข้อใด
1) ผักชี
2) คะน้า
3) ผักบุ้ง
4) กะหล่ำปลี
หน้า | 34
5.ผักสลัดในข้อใดที่มีลักษณะใบเรียงซ้อนกันเป็นชั้นๆ คล้ายดอกกุหลาบ
1) ผักกาสคอส ( Cos )
2) ผักร็อคเก็ต ( Rocket )
3) กรีนโอ๊ค ( Green Oak )
4) บัตเตอร์เฮด ( Butterhead )
6.ถ้าต้องการปลูกกรีนโอ๊ค ( Green Oak ) ให้รากยึดเกาะกับดิน
ค ว ร ทำ อ ย่ า ง ไ ร
1) รดน้ำต้นกล้าก่อนย้ายประมาณ 10 นาที
2) รดน้ำต้นกล้าก่อนย้ายประมาณ 30 นาที
3) รดน้ำต้นกล้าหลังย้ายประมาณ 10 นาที
4) รดน้ำต้นกล้าหลังย้ายประมาณ 30 นาที
7.การให้ปุ๋ยเรดโครอล ( Red Coral ) หลังจากการปลูก 20-25 วัน
ค ว ร ใ ส่ ปุ๋ ย สู ต ร ใ ด
1) สูตร 46-0-0
2) สูตร 15-15-15
3) สูตร 13-13-21
4) สูตร 20-20-20
8.ผักร็อคเก็ต ( Rocket ) ควรเก็บเกี่ยวเมื่อต้นมีความยาวจากโคนต้นถึง
ป ล า ย ใ บ เ ท่ า ใ ด
1) 10 – 12 เซนติเมตร
2) 15 – 17 เซนติเมตร
3) 20 – 22 เซนติเมตร
4) 24 – 26 เซนติเมตร
หน้า |35
9.ในการเก็บเกี่ยวผักกาดคอส ( Cos ) เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่เชื้อโรค
เข้าสู่หัว ควรทำอย่างไร
1) ล้างน้ำบริเวณแผลที่ตัด
2) ทาปูนแดงบริเวณแผลที่ตัด
3) นำถุงพลาสติกมาคลุมบริเวณแผลที่ตัด
4) ถูกทุกข้อ
10.จงเรียงลำดับการเพาะกล้าของกรีนโอ๊ค ( Green Oak ) ให้ถูกต้อง
ก. นำดินเพาะใส่ถาดหลุมให้เต็มไม่ต้องอัดแน่น รดน้ำให้ชุ่ม
ข. รดน้ำให้ชุ่มแล้ววางถาดไว้ที่ร่มรำไร
ค. เจาะหลุม แล้วหยอดเมล็ด 1 - 2 เมล็ด
ง. คอยรดน้ำเช้า - เย็น
จ. อายุกล้า 15 – 20 วัน ย้ายลงแปลงปลูก
1) ก ข ค ง จ
2) ก ค ง ข จ
3) ก ค ข ง จ
4) ก ง ค ข จ
หน้า | 36
หน้า | 37
เฉลยแบบประเมินผลการเรียนรู้ก่อนเรียนและหลังเรียน
ข้อ ผลการเรียนรู้ก่อนเรียน ผลการเรียนรู้หลังเรียน
1 4 1
2 2 3
3 1 2
4 3 4
5 3 4
6 1 2
7 1 3
8 4 1
9 3 2
10 2 3
หน้า | 38
บรรณานุกรม
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์. (2563). 10 ประโยชน์ 'เคล' ราชินีผักใบเขียวที่สาย 'สุขภาพ' ต้องรู้จัก.
ค้นจาก https://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/900964
กรมส่งเสริมการเกษตร. (2547). เอกสารวิชาการ การปลูกผักบนพื้นที่สูง. กลุ่มงานพัฒนา พื้นที่สูง:
กรุงเทพฯ
ดุลยพร ตราชูธรรม. (2563). 14 ผักสลัดยอดนิยม เคล มิซูน่า ราชินีผักใบเขียว แคลอรีต่ำ กินแล้ว
ไม่อ้วน. ค้นจาก https://www.thairath.co.th/scoop/1985401
ทำความรู้จัก 14 ผักสลัดยอดฮิต แต่ละชนิดแตกต่างกันอย่างไร. (2565). ค้นจาก
https://www.bigc.co.th/blog/th/ชนิดผักสลัด/
บริษัท กรันแนท จำกัด. (2562). ผักโขมเบบี้. ค้นจาก https://greatyeat.com/product/ผักโขม
เบบี้/
บริษัท ทำฟาร์มดี จำกัด. (2563). ผักสลัด ทำฟาร์มดี ทำเมนูอะไรได้บ้างที่ไม่ใช่สลัด. ค้นจาก
https://www.tamfarmdee.com/content/8286/ผักสลัด-ทำฟาร์มดี-ทำเมนูอะไรได้บ้างที่
ไม่ใช่สลัด-
บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด. (2565). แจกไอเดีย ทานเมนูผักสลัดแบบไม่มีเบื่อ
สายคลีนห้ามพลาด. ค้นจาก https://www.bigc.co.th/blog/th/เมนู-ผักสลัด/
บริษัท ฟาร์มแชนแนล จำกัด. (2563). ผักสลัด. ค้นจาก https://farmchannelthailand.com/main/
ผักสลัด/
บริษัท ฟอร์ฟาร์ม จำกัด. (2563). Lettuce. ค้นจาก https://farm.co.th/category/lettuce/
ผักสลัด. (2563). ค้นจาก https://farmchannelthailand.com/main/ผักสลัด/
ไร่คุณลุงท๊อป ต้นอ่อนทานตะวัน ออแกนิค. (2563). ผักสลัดกรีนโอ๊ค.
ค้นจาก https://www.railungtop.com/รายละเอียด/ผักสลัดกรีนโอ๊ค?q=TP1
ไร่คุณลุงท๊อป ต้นอ่อนทานตะวัน ออแกนิค. (2563). ผักสลัดบัตเตอร์เฮด.
ค้นจาก https://www.railungtop.com/รายละเอียด/ผักสลัดบัตเตอร์เฮด
หน้า | 39
บรรณานุกรม ( ต่อ )
ไร่คุณลุงท๊อป ต้นอ่อนทานตะวัน ออแกนิค. (2563). ผักเรดโครอล.
ค้นจาก https://www.railungtop.com/รายละเอียด/ผักสลัดเรดโครอล?q=TP1
สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง. (2558). ผักกาดหอมบัตเตอร์เฮด.
ค้นจาก https://hkm.hrdi.or.th/page/knowledge/detail/4
สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง. (2558). ผักกาดหวาน.
ค้นจาก https://hkm.hrdi.or.th/page/knowledge/detail/6
สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง. (2558). ผักกาดหอมใบแดง.
ค้นจาก https://hkm.hrdi.or.th/page/knowledge/detail/5
สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง. (2558). ร็อคเก็ตสลัด.
ค้นจาก https://hkm.hrdi.or.th/page/knowledge/detail/30
สมาคมพัฒนาคุณภาพสิ่งแวดล้อม. (2563). ผักกาดหอม.
ค้นจาก https://adeq.or.th/ผักกาดหอม/
Honestdocs. (2563). ผักกาดหอม (Lettuce). ค้นจาก https://hd.co.th/lettuce
Farm channel. (2563). Green Oak Lettuce (กรีนโอ๊ค).
ค้นจากhttps://farmchannelthailand.com/main/ผักสลัด/green-oak-lettuce-กรีนโอ๊ค/
Farm channel. (2563). Rocket Arugula Lettuce (ผักร็อคเก็ต หรือ ผักอลูกูล่า).
ค้นจาก https://farmchannelthailand.com/main/ผักสลัด/rocket-arugula-lettuce-ผัก
ร็อคเก็ต-หรือผักอ/
THAI-THAIFOOF.COM. (2560). ผักร็อคเก็ต.
ค้นจาก https://www.thai-thaifood.com/th/ผักร็อคเก็ต/
zen hydroponics. (2559). สลัดกรีนโอ๊ค (Green Oak Lettuce).
ค้นจาก https://zen-hydroponics.blogspot.com/2014/12/green-oak-lettuce.html
zen hydroponics. (2559). สลัดเรดโครอล (Red Coral Lettuce).
ค้นจาก https://zen-hydroponics.blogspot.com/2014/12/red-corallettuce.html
หน้า | 39