The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

Beige Blue Watercolor Farm Flowers Sunflower Sale Flyer

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by 037ศุภชัย โพธิสัย, 2024-01-17 21:40:30

การเลี้ยงไก่ชน

Beige Blue Watercolor Farm Flowers Sunflower Sale Flyer

หนังสือเสริมความรู้


หนังสือเล่มนี้ทำ ขึ้นเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับผู้ที่สนใจเกี่ยวกับการเลี้ยงไก่ชน เพื่อให้ได้หาความรู้ศึกษาในเรื่องของการเลี้ยงไก่ชนและเพื่อเป็นการศึกษา อย่างเข้าใจต่อผู้ที่สนใจในเรื่องการเลี้ยงไก่ชนเป็นประโยชน์ต่อการเรียน ของนักเรียนนักศึกษาเกษตร ผู้จัดทำ หวังว่าหนังสือเล่มนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านหรือนักเรียนนักศึกษา ที่กำ ลังหาข้อมูลเรื่องนี้อยู่หากมีข้อแนะนำ หรือข้อผิดพลาดประการใดผู้จัด ทำ ขอน้อมรับและขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย จัดทำ โดย นายสิงห์หาร เฮียงสอน คำ นำ


สารบัญ การเลี้ยงไก่ชน การจัดการอาหารไก่ชน การขยายพันธุ์ไก่ชน พันธุ์ไก่ชน ชื่อเรื่อง หน้าที่ 1-3 4 5-6 7-10


การเลี้ยงไก่สำ หรับชนนั้น มีหลายอย่างหลายชนิด แต่ที่จะนำ มากล่าวนี้เป็นที่ นิยมมากที่สุด ระยะการปล้ำ และทำ ตัวไก่หนุ่ม ไก่หนุ่มที่จะเริ่มเลี้ยงครั้งแรก ต้อง ลงขมิ้นให้ทั่วทั้งตัวเสียก่อน เพื่อสะดวกในการอาบน้ำ และป้องกันไรได้ดีอีกด้วย 1)เริ่มอาบน้ำ เวลาเช้าทุกวัน ควรใช้ผ้าประคบหน้าทุกครั้งที่มีการอาบน้ำ ลง กระเบื้อง เนื้อตัวบาง ๆ แล้วลงขมิ้นตามเนื้อบาง ๆ แล้วนำ ไปผึ่งแดด พอรู้ว่าหอบ ก็นำ ไก่เข้าร่ม อย่าให้กินน้ำ จนกว่าจะหายหอบจึงจะให้กินน้ำ ได้ไก่ผอมไม่ควรผึ่ง แดดให้มากเพราะจะทำ ให้ผอมมากไปอีก ถ้าอ้วนเกินไปต้องผึ่งแดดให้มากสัก หน่อย เพราะจะทำ ให้น้ำ หนักลดลงได้ ควรคุมน้ำ หนักทุกครั้งที่มีการซ้อม และการ เลี้ยงทุกวันตอนเช้า 2)อาบน้ำ ประมาณ 7 วัน แล้วจึงเริ่มซ้อมครั้งแรกสัก 2 ยก ๆ ละไม่เกิน 12 นาที ซ้อมสัก 3 ครั้ง ครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3 ซ้อมยกละ 15 นาที รวมแล้วให้ได้ 6 ยก ระยะ การปล้ำ แต่ละครั้งควรจะมีเวลาห่างกันประมาณ 10 -15 วันพอครบกำ หนดแล้วต้อง ถ่ายยาตามที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว การใช้ขมิ้น ทุกครั้งเวลาอาบน้ำ ไก่ในตอนเช้า ต้องใช้กระเบื้องอุ่น ๆ ประคบหน้าพอสมควร ถ้ามากนักจะทำ ให้หน้าเปื่อย แล้วทาขมิ้นบาง ๆ ทุกครั้ง บางคนใช้ทาเฉพาะ หน้าอก ขา ใต้ปีก ตามเนื้อเท่านั้น (ใช้ได้เหมือนกัน) การเลี้ยงไก่ชน 1


น้ำ สำ หรับอาบไก่ ปกติไก่เลี้ยงจะต้องอาบน้ำ ยาจนกว่าไก่จะชน เครื่องยาที่ใส่น้ำ ต้มมีดังนี้ ไพล ประมาณ 5 แว่น ใบส้มป่อยประมาณ 1 กำ มือ ใบตะไคร้ ต้นตะไคร้ 3 ต้น ใบมะกรูด 5 ใบ ใบมะนาว 5 ใบ เอา 5 อย่างมารวมกันใส่หม้อต้มให้เดือดแล้วทิ้งไว้ให้อุ่น พออุ่น ๆ แล้วค่อย อาบน้ำ ไก่ แล้ว นำ ไปผึ่งแดดให้ขนแห้ง การปล่อยไก่ ไก่ที่เลี้ยงไว้ชนพอเวลาแดดอ่อนๆควรได้ปล่อยไก่ให้เดินตามสนามหญ้าแพรก นอกจากจะให้ไก่ได้เดินขยายตัวแล้ว ไก่ยังมีโอกาสได้กินหญ้าไปในตัวด้วย วิธี แก้ไขให้น้ำ หนักตัวลด เวลาไก่ชนที่เลี้ยงอ้วนเกินไปน้ำ หนักตัวจะมากบินไม่ขึ้น ควรผึ่งแดดให้หอบนาน ๆ หากไก่ผอมมากไปไม่ควรให้ถูกแดดมากเกินไป เวลา นอนควรให้นอนบนกาบกล้วย หรือเอาน้ำ เย็นเช็ดตัวบาง ๆ ก่อนนอน การนอนควร นอนในมุ้งทุกคืนเพื่อมิให้ยุงไปรบกวน ไก่จะได้นอนหลับสบาย การเลี้ยงไก่ถ่าย การเลี้ยงไก่ถ่าย หรือไก่ที่เปลี่ยนขนตั้งแต่หนึ่งครั้งขึ้นไป วิธีเลี้ยงเช่นเดียวกับไก่ หนุ่ม ผิดกันตรงที่ไก่ถ่ายต้องปล้ำ ให้ได้ที่ คือปล้ำ ครั้งละ 2 ยก ยกละ 15 นาที จำ นวน 5 ครั้ง รวม 10 ยก หรือปล้ำ จนกว่าจะบินไม่ล้ม แล้วผึ่งแดดให้นานกว่าไก่ หนุ่มหน่อย นอกนั้นเหมือนกันหมด 2


วิธีให้น้ำ ไก่ขณะกำ ลังชน การใช้น้ำ ไก่เป็นสิ่งจำ เป็นในการชนไก่เป็นอย่างยิ่ง เพราะถ้าท่านให้น้ำ ไก่ไม่เป็น เอาไก่ไปชนโอกาสแพ้มีมาก มือน้ำ เท่านั้นเป็นผู้ชี้ชะตาไก่ของท่าน เพราะฉะนั้น ท่านต้องเป็นคนให้น้ำ ไก่เก่งๆ จึงจะสู้เขาได้ วิธีให้น้ำ ไก่ก่อนชน ท่านต้องใช้ผ้า มุ้งบาง ๆ ชุบน้ำ เช็ดตัวให้ทั่วตัวทุกเส้นขน แต่อย่างให้ปีกเปียก (เพราะปีกเป็น อุปกรณ์สำ คัญในการต่อสู้) แล้วเช็ดให้แห้ง ให้กินข้าวสุก จนอิ่มแล้วปล่อยให้ เดินเพื่อจะได้ขยายตัว และแต่งตัวเรียบร้อยแล้วนำ ไก่เข้าชน พอหมดยกที่ 1 เอาผ้าชุบน้ำ เช็ดหน้าอก และใต้ปีกเสียก่อนจึงค่อยเช็ดตามตัวให้ทั่ว แล้วตรวจ บาดแผลตามหัว ตามตัวว่ามีผิดปกติหรือเปล่า ตรวจดูตา ตรวจดูปากให้ เรียบร้อย ถ้าปากฮ้อ ก็เตรียมผูก ถ้าตาหรี่ก็ควรเสนียดตา หรือถ่างตา เสร็จ เรียบร้อยแล้วให้กินข้าวสุกที่บดไว้ ประมาณ 3 - 4 ก้อน แตงกวาแช่น้ำ มะพร้าว อ่อน พอให้อิ่มแล้วเอาไก่นอน ๆ ประมาณ 5 นาที หลังจากนอนเสร็จเรียบร้อย แล้ว เอากระเบื้องอุ่นมาเช็ดตามตัว ตามหน้าแข้ง ขาให้ทั่วบริเวณที่ถูกตี แล้ว ปล่อยให้เดิน และให้ไก่ถ่ายออกมาเพื่อจะได้ให้ตัวเบา (ยกต่อไปก็ทำ เหมือน ยกที่ 1 จนกว่าจะแพ้ ชนะกัน) วิธีรักษาพยาบาลหลังจากไก่ชนแล้ว ตามปกติไก่ที่ชนมาแล้วจะมีบาดแผลมากน้อยแล้วแต่กำ หนดเวลาการต่อสู้ บาง ตัวก็ชนะเร็ว บางตัวก็ชนะช้าบาดแผลก็มีมาก เวลาชนเสร็จแล้วควรใช้เพนนิซิ ลิน อย่างเป็นหลอดทาตามหน้าให้ทั่ว เพื่อไม่ให้หน้าตึง อย่าใช้ขมิ้นเป็นอันขาด ถ้าบาดแผลมากจริงควรใช้ยาพวกสเตปโตมัยซิน หรือฉีดยาเทอรามัยซิน หรือจะ ให้กินยาเต็ดตร้าไซคลินก็ได้ วันละ 1 เม็ด ตอนเย็น ประการสำ คัญ อย่าให้ทับ ตัวเมียเป็นอันขาด หลังจาก 1 เดือนไปแล้วให้ทับได้ 3


ยาบำ รุงกำ ลังไก่ ยาบำ รุงที่นิยมกันมากมีหลายขนาน แต่จะยกมาขนานเดียว คือ ปลาช่อนใหญ่ย่างไฟ แล้วนำ ไปตากแดดให้แห้ง 1 ตัว กระชายหัวแก่ ๆ ประมาณ 2 ขีด (แห้ง) กระเทียมแห้ง 1 ขีด พริกไทย 20 เม็ด บอระเพ็ดแห้ง 1 ขีดนกกระจอก 7 ตัว หัวแห้วหมู 1 ขีด ยาดำ พอประมาณ นกกระจอกนำ ไปย่างไฟแล้วนำ ไปตากแดดให้แห้ง แล้วนำ ไปตำ ให้ป่น ปลา ช่อนก็ตำ ให้ป่น แล้วนำ ทั้ง 8 อย่างมาผสมน้ำ ผึ้งปั้นเป็นลูกกลอนเท่าเม็ดพุทรา ให้กินวันละ1 เม็ดก่อนนอนทุกวันจนกว่าไก่จะชน ยาบางตำ ราไม่เหมือนกันแต่ ได้ผลดีทั้งนั้น แต่ไปแพ้กันตรงที่ไก่เก่งไม่เก่งเท่านั้น ไก่ที่นำ ไปชนทุกครั้งถ้าไม่ ได้ชน กลับมาจะต้องฉะหน้าถอนแข้งทุกครั้ง ๆ ละ 5 นาที 1 ครั้ง ก่อนจะนำ ไป ชนต่ออีก ยาถ่ายไก่ ยาถ่ายโบราณคนนิยมใช้กันมากมีส่วนผสมดังนี้ เกลือประมาณ 1 ช้อนคาว มะขามเปียก 1 หยิบมือ ไพลประมาณ 5 แว่นบอระเพ็ดยาวประมาณ 2 นิ้ว หั่นเป็นแว่นบาง ๆ น้ำ ตาลปีบประมาณ 1 ช้อนคาวใบจากเผาไฟเอาถ่าน (ใช้ใบจากประมาณ 1 กำ วงแหวน) ใช้ครกตำ ให้ละเอียดเข้า ด้วยกัน เวลาใช้ยาควรให้ไก่กินเวลาเช้าท้องว่าง ปั้นเป็นลูกกลอนขนาดหัวแม่มือ 2 เม็ด ให้น้ำ กินมาก ๆ หน่อย แล้วครอบผึ่งแดดไว้ รอจนกว่ายาจะออกฤทธิ์ ถ่ายเป็นน้ำ 3 ครั้ง ก็พอแล้วเอาข้าวให้กินเพื่อให้ยาหยุดเดิน การจัดการอาหารไก่ชน 4


การผสมพันธุ์ไก่ให้ประสบความสำ เร็จนั้นขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ และการถ่ายทอดทาง พันธุกรรมจากพ่อ – แม่พันธุ์ไปสู่รุ่นลูก สำ หรับการถ่ายทอดทางพันธุกรรม ถ้าเราผสมพันธุ์โดยใช้พ่อ – แม่พันธุ์แท้ หรือ ลงเหล่า จะให้ลูกเก่งประมาณ 50 – 60 % เกิดขึ้นเนื่องจากลักษณะยีนเด่นจากพ่อ แม่พันธุ์ จะสามารถข่มลักษณะด้อย ทำ ให้ลูกไก่ที่ได้จะแสดงลักษณะเด่นออกมา แต่แสดงออกมาไม่ได้ 100 % เนื่องจากยังมีบางลักษณะที่ยีนเด่นยังข่มลักษณะด้อย ได้ไม่หมด ถ้าเราผสมพันธุ์โดยใช้พ่อพันธุ์ที่เป็นไก่พันธุ์แท้ ผสมกับแม่พันธุ์ที่เป็นไก่ลูกผสม หรือ พ่อพันธุ์ที่เป็นไก่ลูกผสม ผสมกับแม่พันธุ์ที่เป็นไก่พันธุ์แท้ จะให้ลูกเก่ง ประมาณ 20 – 30 % เนื่องจากจะมียีนเด่นจากฝั่งพ่อพันธุ์ หรือแม่พันธุ์ฝั่งเดียวที่ จะไปข่มลักษณะด้อยของฝั่งตรงข้าม ถ้าเราผสมโดยใช่พ่อ – แม่พันธุ์ที่เป็นไก่ลูกผสมทั้งคู่ จะให้ลูกเก่งประมาณ 10 – 20 % เนื่องจากไม่มียีนเด่นที่จะสามารถข่มยีนด้อยได้ ดังนั้นลักษณะยีนจะกระจาย ตัวอาจจะมีไก่เก่งเกิดขึ้นเพียง 1 -2 ตัว หรืออาจจะไม่มีไก่เก่งเกิดขึ้นเลย ระบบการผสมพันธุ์สัตว์ (mating systems) แบ่งได้เป็น 2 ประเภท 1. การผสมพันธุ์แบบเลือดชิด (Inbreeding) เป็นการผสมระหว่างสัตว์ที่เป็นเครือญาติกัน เช่น พ่อผสมลูก / แม่ผสมลูก / ลูกที่ เกิดจากพ่อแม่เดียวกันผสมกัน (Full-sib) / ลูกที่เกิดจากพ่อเดียวกันแต่คนละ แม่ หรือ แม่เดียวกันแต่คนละพ่อมาผสมกัน (Half-sib) / การผสมในสาย (Line breeding) เพื่อให้ได้ไก่สายพันธ์แท้ต้องผสมให้ได้อย่างน้อย 3 – 4 รุ่น การขยายพันธุ์ไก่ชน 5


2. การผสมข้าม (Outbreeding) เป็นการผสมระหว่างสัตว์ที่ไม่เป็นเครือญาติกัน หรือไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด กัน หรือเป็นสัตว์พันธุ์เดียวกัน เช่น พันธุ์ไทยพนัสผสมพันธุ์ไทยตราด หรือต่างพันธุ์ กัน เช่น พันธุ์ไทยผสมพันธุ์เวียดนาม, พันธุ์พม่าผสมพันธุ์เวียดนาม เป็นต้น ไก่ที่จะใช้ผสมพันธุ์ ต้องคัดเลือกจากไก่ตัวผู้ และตัวเมียที่มีความสมบูรณ์ ปราศจากโรคขี้ขาว เป็นหน่อ มะเร็ง คอคอก หวัด เพราะถ้าพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ เป็น โรคแล้วอาจจะมาติดถึงลูกได้ เพื่อให้ได้ผลในการผสมพันธุ์ ควรใช้ตัวผู้ 1 ตัว ต่อ ตัวเมีย 5 ตัวและไม่ควรขังให้อยู่ในเล้าที่จำ กัด ควรปล่อยให้อยู่ในที่กว้าง ๆ อาหาร ต้องสมบูรณ์อาหารที่ใช้คือ ข้าวเปลือก ปลาสด (ควรต้มเสียก่อน) หญ้าอ่อน ถ้าไม่มี หญ้าควรให้ผักสดกิน ถ้าทำ เช่นนี้ได้จะได้ลูกไก่ที่สมบูรณ์ (ข้อสำ คัญไก่ที่จะทำ พ่อ พันธุ์ และแม่พันธุ์ ควรนำ ไปให้ปศุสัตว์ตรวจโรคเสียก่อน) 6


พันธุ์ไก่ชน สายพันธุ์ไก่ชนแบ่งตามสีขน ในตำ ราไก่ชนกล่าวว่า สายพันธุ์ไก่ที่เก่าแก่ของไทยที่ถูกบันทึกไว้มี 2 สายพันธุ์ คือ ไก่เหลืองหางขาว และไก่ประดู่หางดำ ต่อมาเมื่อนิยมเลี้ยงไก่ชนมากขึ้นจึงแสวงหา สายพันธุ์อื่น และถูกกล่าวขาลหรือบันทึกไว้มากขึ้นตามมา ซึ่งพอรวบรวมได้ ดังนี้ 1. ไก่เหลืองหางขาว ไก่เหลืองหางขาว ถือเป็นพันธุ์ไก่ชนที่เริ่มกล่าวขาล และถูกบันทึกไว้ครั้งแรก และ ถือเป็นสายพันธุ์ต้นตระกูลของพันธุ์ไก่ชนใหม่ๆหลายสายพันธุ์ มีลักษณะเด่น คือ ไก่ชนตัวผู้จะมีขนสร้อยต่างๆเป็นสีเหลือง หางแนบชิด สลวย โคนปีกหาง และกลาง หางมีสีขาวปลอด ส่วนปลายหางมีสีดำ โดยมีขนขาวแซมเล็กน้อย 7


2. ไก่ประดู่หางดำ ไก่ประดู่หางดำ เป็นไก่พันธุ์แท้ที่มีประวัติการชนไก่ดีไม่แพ้ไก่ชนเหลืองหางขาว และ เป็นไก่ชนที่เซียนไก่ต่างยอมรับว่าเหนือกว่าพันธุ์อื่นรองมาจากไก่ชนเหลืองหางขาว ลักษณะเด่น คือ ไก่ชนตัวผู้มีพื้นสีลำ ตัวดำ สนิท หนังบริเวณใบหน้ามีสีแดง สีของขน สร้อยต่างๆเป็นสีประดู่ คือ ดำ อมแดง คล้ายกับสีเมล็ดมะขาม และหากเป็นสีประดู อ่อน คือ มีสีแดงมากกว่าดำ จะเรียกว่า ประดู่แดง และหากมีสีเข้มหรือประดู่เข้มจะ เรียกว่า “ประดู่มะขามไหม้” ส่วนหางมีขนหางแนบชิดกัน หางยาวโค้งเป็นรูปพัด ขน หางมีสีดำ สนิท ส่วนสีของปาก สีแข้ง สีเล็บ และสีเดือย จะมีสีน้ำ ตาล ส่วนตัวเมียพื้นสี ลำ ตัวสีดำ อมน้ำ ตาล ส่วนอื่นคล้ายกับตัวผู้ 3. ไก่เขียวแมลงภู่หางดำ ไก่เขียวแมลงภู่หางดำ หรือบางพื้นที่เรียก “เขียวไก่ดำ ” จัดเป็นไก่ชนพันธุ์แท้ มีถิ่น กำ เนิดในภาคใต้ มีลักษณะเด่น คือ ไก่ชนตัวผู้มีขนสร้อยต่างๆสีเขียว ส่วนขนหูมีสี เขียวอมดำ คล้ายเปลือกหอยแมลงภู่ ส่วนสีพื้นของลำ ตัวจะมีสีดำ และเหลือบมัน พู่ หางแนบชิดกัน และเรียวยาว สีดำ ส่วนสีปาก สีแข้ง สีเล็บ และสีเดือยมีสีน้ำ ตาลอมดำ ส่วนนัยน์ตามีสีดำ อมเขียว หงอนมีลักษณะบาง สูงเด่นบริเวณกลางหงอน ส่วนตัวเมียมี สีพื้นเหมือนกับตัวผู้ สีปลายขนมีสีอมเขียว 4. ไก่ลายข้าวตอก ไก่ลายข้าวตอก หรือคนภาคกลางเรียก “ไก่เบี้ย” หรือคนภาคเหนือเรียก “ไก่ข่อย” ถือเป็นไก่ชนที่มีถิ่นกำ เนิดในภาคเหนือ แต่ปัจจุบันเลี้ยงกันมากในแถบภาคกลาง บริเวณจังหวัดอยุธยา และสุพรรณบุรี ไก่ชนสายพันธุ์นี้ เป็นพันธุ์แท้ดั้งเดิมที่มีลำ หักลำ โค่นดี แต่มีข้อเสียอย่างเดียว คือ เป็นไก่ที่ไม่เหนียวไม่ทน ออกน้ำ ได้ง่าย มีลักษณะ เด่น คือ ไก่ชนตัวผู้จะมีสีของขนสร้อยต่างๆเป็นลาย คล้ายลายของนกกระทา หรือ ลาย ขาวประดำ หรือประด้วยน้ำ ตาล และเขียว ส่วนสีของปาก สีแข้ง สีเล็บ และสีเดือย จะ มีสีขาวอมน้ำ ตาล ส่วนสีพื้นของลำ ตัวจะเป็นสีลายข้าวตอก ส่วนตัวเมียจะมีสีพื้นลำ ตัว เหมือนตัวผู้ และมีขนสร้อยต่างๆเป็นสีเหลืองอมน้ำ ตาล 8


5. ไก่สีดอกหมากหางขาว ไก่สีดอกหมากหางขาว เป็นไก่ชนพันธุ์แท้ที่ปัจจุบันพบได้น้อยมาก มีลักษณะทั่วไป คล้ายกับไก่ชนเหลืองหางขาว และบางท่านเชื่อว่าเป็นสายพันธุ์ที่มาจากไก่เหลืองหาง ขาว โดยมีถิ่นกำ เนิดในภาคกลาง มีลักษณะเด่น คือ ไก่ชนตัวผู้จะมีสีพื้นเป็นสีดำ ขนสร้อยของส่วนคอ สร้อยปีก และและสร้อยอื่นๆ เป็นสีขาวอมเหลือง คล้ายกับสี ของดอกหมาก พู่หางชิดกัน และยาวตรง โคนหางมีสีขาวอมตะกั่ว ปลายหางมีสีดำ ส่วนสีปาก สีแข้ง และสีเล็บ รวมถึงสีเดือยมีสีขาวอมเหลือง ส่วนตัวเมียมีลักษณะ คล้ายกับตัวผู้เช่นกัน 6. ไก่เขียวเลาหางขาว ไก่เขียวเลาหางขาว หรือแต่ก่อนเรียก ไก่เลา (เพราะขนมีสีเหมือนดอกเลา) เป็น ไก่ชนพันธุ์แท้ดั้งเดิมที่มีถิ่นกำ เนิดในแถวจังหวัดเพชรบุรี ไก่ชนพันธุ์นี้ มีลักษณะ ทั่วไปคล้ายประดู่เลา ไก่ชนตัวผู้มีขนสร้อยต่างๆสีเขียวแกมขาว คือ โคนขนมีสีขาว ปลายขนมีสีเขียว หางโค้งเป็นรูปพัดสีดำ ปลายหางมีสีขาว หรือสีดำ อมเขียว ส่วนสี ปาก สีแข้ง และสีเล็บ รวมถึงเดือยมีสีขาวอมน้ำ ตาล 7. ไก่ทองแดง ไก่ทองแดง เป็นไก่ชนพันธุ์แท้พันธุ์หนึ่ง แต่ไม่ทราบแหล่งกำ เนิดที่แน่ชัด พบเล่น มากในแถวภาคกลาง และตะวันตก แถบจังหวัดอยุธยา สระบุรี และราชบุรี จัดเป็น ไก่ชนที่มีแข้งหนัก มีลำ หักลำ โค่นดี ตีแม่น และหนักหน่วง ลำ ตัวมีลักษณะเด่น คือ ตัวผู้ที่เป็นไก่ชนจะมีนัยน์ตาสีแดง ขนของสร้อยคอ ขนปีก และขนหลังจะมีสี ทองแดงเด่นชัดส่วนปาก แข้ง และเล็บจะมีสีน้ำ ตาลอมทองแดง ส่วนตัวเมียจะมีสี คล้ายกับตัวผู้ แต่สีจะจางกว่า คล้ายสีกาบอ้อย ทั้งนี้ ปัจจุบันไก่ชนพันธุ์นี้ค่อนข้างหา ยากมาก ส่วนมากจะเป็นพันธุ์ผสมร่วมกับพันธุ์ อื่น อาทิ ขนมีสีทองแดง แต่แข้งมีสี เขียวดำ 9


8. ไก่แดงนกกรด ไก่แดงนกกรด จัดเป็นไก่ชนเชิงดี มีลูกหักลูกโค่น แต่ไม่ค่อยเหนียวหรืออดทนนัก จึง ไม่ค่อยนิยม ไก่ชนตัวผู้มีลักษณะทั่วไปคล้ายกับไก่ชนเหลืองหางขาว แต่ต่างกันที่ไก่ แดงนกกรดจะมีขนสร้อยคอ ขนสร้อยปีก และขนหน้าอกเป็นลายแดงคล้ายกับขนนก กะปูด ส่วนพื้นสีลำ ตัวจะมีสีดำ โดยมีสีขนของปีกท่อนล่างจะเป็นสีแดงอมน้ำ ตาลคล้าย กับสีปีกแมลงสาบ ส่วนหางมีรูปพัดหรือหางกะลวดสีดำ ส่วนตามีสีแดง ส่วนสีปาก สี แข้ง สีเล็บ และเดือยมีสีน้ำ ตาล 9. ไก่เหลืองโนรี ไก่ชนตัวผู้ของเหลืองโนรี มีลักษณะเด่น คือ ขนสร้อยคอ ขนปีก และขนสร้อยหลัง มี สีเหลืองสด ส่วนขนสร้อยบริเวณอื่นๆก็จะมีสีเหลืองสดเช่นกัน ส่วนสีพื้นของขนส่วน อื่นจะมีสีดำ หางพัดสีดำ คล้ายกับหางนกกะปูด ตามีสีเหลืองอมแดง ส่วนสีปาก สีแข้ง และสีเล็บมีสีขาวอมเหลือง และขอบเกล็ดแข้งมีสีแดงคล้ำ ส่วนตัวเมียมีสีพื้นสีดำ 10. ไก่เทา ไก่เทา ถือเป็นไก่ชนที่มีเชิงดี มีลำ หักลำ โค่น แต่เป็นไก่ที่ไม่ค่อยเหนียว ไม่ค่อยอดทน นัก แบ่งได้เป็น 3 ลักษณะ คือ – ไก่เทาหม้อ หรือเรียกเทาดำ เทาขี้ควาย มีลักษณะเด่นที่สีขนของสร้อยต่างๆมีสีประ ดูดำ หางสีดำ อมเทา ส่วนปาก แข้ง และเล็บมีสีเทาตะกั่ว – ไก่เทาขาว หรือเรียกเทาขี้เถ้า มีลักษณะเด่นที่สีพื้นมีสีเทา ส่วนสีสร้อยขนต่างๆมีสี เทาอ่อน ส่วนขนหางมีสีมีสีเทาเช่นกัน ส่วนปาก แข้ง และเล็บมีสีขาว – ไก่เทาเหลือง หรือเรียก เคราฤาษี มีลักษณะเด่น คือ สีขนของสร้อยต่างๆมีสีเหลือง ตัวสีพื้นลำ ตัวมีสีเทา ส่วนหางมีสีขาว ส่วนสีปาก สีแข้งสีเล็บ และสีเดือยมีสีขาวออก เหลืองเล็กน้อย 10


บรรณานุกรม https://www.gaichon.com/leangkaichon.html


การเลี้ย ลี้ งไก่ชก่ น จัด จั ทำ โดย ชั้น ปวส.2 สาขาสัตวศาสตร์ ครูที่ปที่ รึก รึษา คุณครูอุรารัต รั น์ มอญขาม นาย สิงห์ห ห์ าร เฮียงสอน


Click to View FlipBook Version