การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ “เก่งคณิต...พิชิตโจทย์ปัญหาการบวกและการลบ” ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 รายงานวิจัยชั้นเรียน นางพัชรินทร์ เหล่าโคตร ต าแหน่งครู วิทยฐานะช านาญการพิเศษ โรงเรียนอนุบาลยางชุมน้อย(หน่วยคุรุราษฎร์รังสรรค์)
ความเป็นมาและความส าคัญของปัญหา คณิตศาสตร์ มีบทบาทสำคัญยิ่งต่อการพัฒนาความคิดของมนุษย์ ทำให้มนุษย์มีความคิดอย่าง สร้างสรรค์ คิดอย่างมีเหตุผล เป็นระบบ มีแบบแผน สมารถวิเคราะห์ปัญหาหรือสถานการณ์ได้อย่าง ถี่ถ้วน รอบคอบ ช่วยให้คาดการณ์ วางแผน ตัดสินใจ แก้ปัญหา และนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม นอกจากนี้คณิตศาสตร์ยังเป็นเครื่องมือในการศึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและศาสตร์ อื่นๆ วิชาคณิตศาสตร์จึงมีประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิต ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น และสามารถอยู่ ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข การสอนวิชาคณิตศาสตร์นั้นสื่อการเรียนการสอนนับว่ามีความสำคัญในการส่งเสริมความสามารถ ในการเรียนรู้ของผู้เรียนทำให้ผู้เรียนได้เรียนตามความสามารถและความต้องการ ซึ่งชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้สอนดำเนินการสอนไปตามลำดับขั้นผู้เรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนการสอน ทั้งรายบุคคลและรายกลุ่มทำให้นักเรียนได้รู้จักการวางแผนในการแก้ปัญหารู้จักช่วยเหลือซึ่งกันและกันทำให้ เกิดปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนกับผู้สอนและผู้เรียนกับผู้เรียนชุดกิจกรรม การเรียนรู้เป็นนวัตกรรมทาง การศึกษาอย่างหนึ่งที่ตอบสนองความต้องการของนักเรียนและกระทำร่วมกับเพื่อนๆ โดยเริ่มจากที่นักเรียน ได้เผชิญปัญหาแล้วตั้งคำถามเพื่อหาคำตอบโดยการเลือกวิธีการแก้ปัญหาที่เหมาะสมและสรุปข้อมูลได้อย่าง สมเหตุสมผลช่วยให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเองตามอัตภาพช่วยเสริมให้ผู้เรียนเกิดทักษะที่คงทนผู้เรียน สามารถนำไปฝึกเมื่อไรก็ได้ไม่จำกัดเวลาและสถานที่ฝึกความรับผิดชอบของผู้เรียน และผู้เรียนมีเจตคติที่ดี ต่อการเรียนรู้ ชุดกิจกรรมการเรียนการสอนเป็นสื่อการเรียนการสอนชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นชุดของสื่อประสม มี จุดมุ่งหมายเฉพาะเรื่องที่สอนมีการวางแผนการจัดการเรียนอย่างเป็นระบบ ทั้งทางด้านวิธีการจัดการเรียนรู้ กิจกรรม สื่อและการใช้สื่อ ตลอดจนการวัดผลประเมินผล โดยจัดเอาไว้เป็นชุดๆ บรรจุอยู่ในซองหรือกล่อง เพื่อให้ผู้สอนใช้เป็นเครื่องมือ ในการจัดการเรียนรู้ที่ทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพตาม จุดมุ่งหมายที่ตั้งไว้ นอกจากนี้ผลดีของการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนการสอน ว่าช่วยให้ครูผู้สอนสามารถ ดำเนินกิจกรรมการเรียนการสอนได้ อย่างมีคุณภาพ สามารถถ่ายทอด เนื้อหาวิชาการได้ดี แก้ปัญหาความ แตกต่างระหว่างบุคคลและการเรียนรู้จะเกิดขึ้นได้ดี เมื่อผู้เรียนมีส่วนร่วมอย่างกระตือรือร้น ในกระบวนการ เรียนรู้ การเรียนรู้อย่างดีเลิศจะเกิดขึ้นจากการได้คิด ได้สัมผัส ได้ตัดสินใจ และลงมือปฏิบัติ การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning เป็นกระบวนการเรียนการสอนที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนมี ส่วนร่วมในชั้นเรียน สร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างครูผู้สอนกับผู้เรียน มุ่งให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติ โดยมีครูเป็นผู้ อำนวยความสะดวก สร้างแรงบันดาลใจ ให้คำปรึกษา ดูแล แนะนำ จัดวิธีการเรียนรู้และแหล่งเรียนรู้ที่ หลากหลาย ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้อย่างมีความหมาย สร้างองค์ความรู้ได้ มีความเข้าใจในตนเอง ใช้ สติปัญญา คิด วิเคราะห์ สร้างสรรค์ผลงาน มีสมรรถนะสำคัญ มีทักษะวิชาการ ทักษะชีวิต บรรลุ เป้าหมายการเรียนรู้ตามระดับช่วงวัย (สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. 2562 : 4)
ลักษณะของการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning มีดังนี้ 1. เป็นการพัฒนาศักยภาพการคิด การแก้ปัญหา และการนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ 2. ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการจัดระบบการเรียนรู้ และสร้างองค์ความรู้โดยมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกันใน รูปแบบของความร่วมมือ 3. เปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้สูงสุด 4. เป็นกิจกรรมที่ให้ผู้เรียนบูรณาการข้อมูล ข่าวสาร สารสนเทศ สู่ทักษะการคิด วิเคราะห์ 5. ผู้เรียนได้เรียนรู้ความมีวินัยในการทำงานร่วมกับผู้อื่น 6. ความรู้เกิดจากประสบการณ์ และการสรุปของผู้เรียน 7. ผู้สอนเป็นผู้อำนวยความสะดวกในการจัดการเรียนรู้ เพื่อให้ผู้เรียนเป็นผู้ปฏิบัติด้วย ตนเอง (สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. 2562 : 5) ตัวอย่างเทคนิคการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning สามารถสร้างให้เกิดขึ้นได้ทั้งในห้องเรียนและนอก ห้องเรียน รวมทั้งสามารถใช้ได้กับนักเรียนทุกระดับ ทั้งการเรียนรู้เป็นรายบุคคล การเรียนรู้แบบกลุ่มเล็ก และการเรียนรู้แบบกลุ่มใหญ่ ตัวอย่างรูปแบบหรือเทคนิค การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่จะช่วยให้ผู้เรียนเกิด การเรียนรู้แบบ Active Learning ได้ดี ได้แก่ 1. การเรียนรู้แบบแลกเปลี่ยนความคิด (Think-Pair-Share) คือการจัดกิจกรรมการ เรียนรู้ที่ให้ผู้เรียนคิดเกี่ยวกับประเด็นที่ก าหนดแต่ละคน ประมาณ 2-3 นาที (Think) จากนั้นให้แลกเปลี่ยน ความคิดกับเพื่อนอีกคน 3-5 นาที (Pair) และน าเสนอความคิดเห็นต่อผู้เรียนทั้งหมด (Share) 2. การเรียนรู้แบบร่วมมือ (Collaborative learning group) คือการจัดกิจกรรม การเรียนรู้ที่ให้ผู้เรียนได้ท างานร่วมกับผู้อื่น โดยจัดเป็นกลุ่มๆ ละ 3-6 คน 3. การเรียนรู้แบบทบทวนโดยผู้เรียน (Student-led review sessions) คือการจัด กิจกรรมการเรียนรู้ที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ทบทวนความรู้และพิจารณาข้อสงสัยต่าง ๆ ในการปฏิบัติ กิจกรรมการเรียนรู้ โดยครูจะคอยช่วยเหลือกรณีที่มีปัญหา 4. การเรียนรู้แบบใช้เกม (Games) คือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ผู้สอนน าเกมเข้า บูรณาการในการเรียนการสอน ซึ่งใช้ได้ทั้งในขั้นการน าเข้าสู่บทเรียน การสอน การมอบหมายงาน และหรือ ขั้นการประเมินผล 5. การเรียนรู้แบบวิเคราะห์วีดีโอ (Analysis or reactions to videos) คือการจัด กิจกรรมการเรียนรู้ที่ให้ผู้เรียนได้ดูวีดีโอ 5-20 นาที แล้วให้ผู้เรียนแสดงความคิดเห็น หรือสะท้อนความคิด เกี่ยวกับสิ่งที่ได้ดู อาจโดยวิธีการพูดโต้ตอบกัน การเขียน หรือ การร่วมกันสรุปเป็นรายกลุ่ม
6. การเรียนรู้แบบโต้วาที (Student debates) คือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่จัดให้ ผู้เรียนได้น าเสนอข้อมูลที่ได้จากประสบการณ์และการเรียนรู้ เพื่อยืนยันแนวคิดของตนเองหรือกลุ่ม 7. การเรียนรู้แบบผู้เรียนสร้างแบบทดสอบ (Student generated exam questions) คือ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ให้ผู้เรียนสร้างแบบทดสอบจากสิ่งที่ได้เรียนรู้มาแล้ว 8. การเรียนรู้แบบกระบวนการวิจัย (Mini-research proposals or project) คือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่อิงกระบวนการวิจัย โดยให้ผู้เรียนก าหนดหัวข้อที่ต้องการเรียนรู้ วางแผนการ เรียน เรียนรู้ตามแผน สรุปความรู้หรือสร้างผลงาน และสะท้อนความคิดในสิ่งที่ได้เรียนรู้ หรืออาจเรียกว่า การสอนแบบโครงงาน(project-based learning) หรือ การสอนแบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (problem-based learning) 9. การเรียนรู้แบบกรณีศึกษา (Analyze case studies) คือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ที่ให้ผู้เรียนได้อ่านกรณีตัวอย่างที่ต้องการศึกษา จากนั้นให้ผู้เรียนวิเคราะห์และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นหรือ แนวทางแก้ปัญหาภายในกลุ่ม แล้วน าเสนอความคิดเห็นต่อผู้เรียนทั้งหมด 10. การเรียนรู้แบบการเขียนบันทึก (Keeping journals or logs) คือการจัดกิจกรรม การเรียนรู้ที่ผู้เรียนจดบันทึกเรื่องราวต่างๆ ที่ได้พบเห็น หรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน รวมทั้งเสนอ ความคิดเพิ่มเติมเกี่ยวกับบันทึกที่เขียน 10. การเรียนรู้แบบการเขียนจดหมายข่าว (Write and produce a newsletter) คือ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ให้ผู้เรียนร่วมกันผลิตจดหมายข่าว อันประกอบด้วย บทความ ข้อมูลสารสนเทศ ข่าวสาร และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วแจกจ่ายไปยังบุคคลอื่นๆ 11. การเรียนรู้แบบแผนผังความคิด (Concept mapping) คือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ที่ให้ผู้เรียนออกแบบแผนผังความคิด เพื่อน าเสนอความคิดรวบยอด และความเชื่อมโยงกันของกรอบ ความคิด โดยการใช้เส้นเป็นตัวเชื่อมโยง อาจจัดท าเป็นรายบุคคลหรืองานกลุ่ม แล้วน าเสนอผลงานต่อ ผู้เรียนอื่นๆ จากนั้นเปิดโอกาสให้ผู้เรียนคนอื่นได้ซักถามและแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม (สถาพร พฤฑฒิกุล, 2558) บทบาทของครูในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวทางของ Active Learning ดังนี้ 1. จัดให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางของการเรียนการสอน นำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตจริงของ ผู้เรียน 2. สร้างบรรยากาศของการมีส่วนร่วม และการเจรจาโต้ตอบที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนมี ปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับผู้สอนและเพื่อนในชั้นเรียน 3. จัดกิจกรรมการเรียนการสอนส่งเสริมให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในทุกกิจกรรม รวมทั้งกระตุ้น ให้ผู้เรียนความสำเร็จในการเรียนรู้ 4. จัดกิจกรรมการเรียนการสอนแบบร่วมมือ ส่งเสริมให้เกิดการร่วมมือในกลุ่มผู้เรียน 5. จัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้ท้าทาย และให้โอกาสผู้เรียนได้รับวิธีการสอนที่
หลากหลาย 6. วางแผนเกี่ยวกับเวลาในการจัดการเรียนการสอนอย่างชัดเจน ทั้งในส่วนของเนื้อหา และกิจกรรม 7. ครูผู้สอนต้องใจกว้าง ยอมรับความสามารถในการแสดงออก และความคิดของผู้เรียน (ณัชนัน แก้วชัยเจริญกิจ, 2550) การสอนแบบเทคนิค เค ดับเบิ้ลยู ดี แอล (K W D L) หรือ เทคนิค เค ดับเบิ้ลยูดี แอล (K W D L) ได้พัฒนาขึ้นโดย Ogle (1989) เพื่อใช้สอนและฝึกทักษะทางการอ่าน และต่อมาได้พัฒนาให้สมบูรณ์ขึ้น โดย Carr และ Ogle ในปีถัดมา (1987) โดยยังคงสาระเดิมไว้ แต่เพิ่มการเขียนผังสัมพันธ์ทางความหมาย (Semantic Mapping) สรุปเรื่องที่อ่าน และมีการนำเสนอเรื่องจากผังอันเป็นการพัฒนาทักษะการเขียน และพูด นอกเหนือไปจากทักษะการฟัง และการอ่าน โดยมีวัตถุประสงค์หลักคือการสอนทักษะภาษา แต่ สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการเรียนวิชาอื่นๆที่มีการอ่านเพื่อทาความเข้าใจ เช่น วิชาสังคมศึกษา วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เป็นต้น เพราะว่าผู้เรียนจะได้รับการฝึกให้ตระหนักในกระบวนการการทาความ เข้าใจตนเอง การวางแผนการ ตั้งจุดมุ่งหมาย ตรวจสอบความเข้าใจในตนเอง การจัดระบบข้อมูล เพื่อดึงมา ใช้ภายหลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงมีประโยชน์ในการฝึกทักษะการอ่าน คิดวิเคราะห์ เขียนสรุป และ นำเสนอ โดยมีขั้นตอนการเรียนการสอบ 4 ขั้นตอนดังนี้ ขั้นที่ 1 K (What we know) นักเรียนรู้อะไรบ้างในเรื่องที่จะเรียนหรือสิ่งที่โจทย์บอกให้ทราบ มีอะไรบ้าง ขั้นที่ 2 W (What we want to know) นักเรียนหาสิ่งที่โจทย์ต้องการทราบหรือสิ่งที่นักเรียน ต้องการรู้ ขั้นที่ 3 D (What we do to find out) นักเรียนจะต้องทำอะไรบ้างเพื่อหาคำตอบตามที่โจทย์ ต้องการ หรือสิ่งที่ตนเองต้องการรู้ ขั้นที่ 4 L (What we learned) นักเรียนสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ การจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ให้มีประสิทธิภาพ หลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง 2562) ได้เสนอแนวทางการจัดการเรียนรู้ โดยให้ผู้สอน คำนึงถึงความสนใจความถนัดและความแตกต่างของผู้เรียน รูปแบบของกิจกรรมการเรียนการสอนควรมี ความหลากหลาย จัดให้เหมาะสมกับเนื้อหาวิชาและเหมาะสมกับผู้เรียน จัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้ผู้เรียนได้ เรียนรู้ด้วยตนเอง ได้ลงมือปฏิบัติจริง มุ่งให้ผู้เรียนได้ประสบการณ์ตรงจากการปฏิบัติจริงโดยใช้สื่อรูปธรรมที่ สามารถนำผู้เรียนไปสู่การค้นพบหรือได้ข้อสรุป
สาระและมาตรฐานการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 สาระที่ 1 จ านวนและพีชคณิต มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของ จำนวน ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการ สมบัติของการดำเนินการ และนำไปใช้ ตัวชี้วัด ค 1.1 ป.4/1 อ่านและเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือแสดงจำนวนนับที่ มากกว่า 100,000 ค 1.1 ป.4/2 เปรียบเทียบและเรียงลำดับจำนวนนับที่มากกว่า 100,000 จากสถานการณ์ต่างๆ ค 1.1 ป.4/3 บอกอ่านและเขียนเศษส่วนจำนวนคละแสดงปริมาณสิ่งต่างๆ และแสดงสิ่งต่างๆ ตามเศษส่วน จำนวนคละที่กำหนด ค 1.1 ป.4/4 เปรียบเทียบเรียงลำดับเศษส่วนและจำนวนคละที่ตัวส่วนตัวหนึ่งเป็นพหุคูณของอีก ตัวหนึ่ง ค 1.1 ป.4/5 อ่านและเขียนทศนิยมไม่เกิน 3 ตำแหน่งแสดงปริมาณของสิ่งต่างๆ และแสดงสิ่ง ต่างๆ ตามทศนิยมที่กำหนด ค 1.1 ป.4/6 เปรียบเทียบและเรียงลำดับทศนิยมไม่เกิน 3 ตำแหน่งจากสถานการณ์ต่างๆ ค 1.1 ป.4/7 ประมาณผลลัพธ์ของการบวก การลบ การคูณ การหารจากสถานการณ์ต่างๆ อย่าง สมเหตุสมผล ค 1.1 ป.4/8 หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์ แสดงการบวกและประโยคสัญลักษณ์ แสดงการลบของจำนวนนับที่มากกว่า 100,000และ 0 ค 1.1 ป.4/9 หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดงการคูณของจำนวนหลายหลัก 2 จำนวน ที่มีผลคูณไม่เกิน 6 หลักและประโยคสัญลักษณ์แสดงการหารที่ตัวตั้งไม่เกิน 6 หลัก ตัวหารไม่เกิน 2 หลัก ค 1.1 ป.4/10 หาผลลัพธ์การบวก ลบ คูณ หารระคนของจำนวนนับ และ 0 ค 1.1 ป.4/11 แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหา2ขั้นตอนของจำนวนนับที่มากกว่า 100,000 และ 0 ค 1.1 ป.4/12 สร้างโจทย์ปัญหา 2 ขั้นตอนของจำนวนนับ และ 0 พร้อมทั้งหาคำตอบ ค 1.1 ป.4/13 หาผลบวกผลลบของเศษส่วนและจำนวนคละที่ตัวส่วนตัวหนึ่งเป็นพหุคูณของ อีกตัวหนึ่ง ค 1.1 ป.4/14 แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาการบวกและโจทย์ปัญหาการลบเศษส่วนและ จำนวนคละที่ตัวส่วนตัวหนึ่งเป็นพหุคูณของอีกตัวหนึ่ง ค 1.1 ป.4/15 หาผลบวก ผลลบของทศนิยมไม่เกิน3 ตำแหน่ง ค 1.1 ป.4/16 แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาการบวก การลบ 2 ขั้นตอนของทศนิยมไม่เกิน3 ตำแหน่ง
มาตรฐาน ค.1.2 เข้าใจและวิเคราะห์แบบรูป ความสัมพันธ์ ฟังก์ชัน ลำดับและอนุกรม และนำไปใช้ (มีการจัดการเรียนการสอนเพื่อเป็นพื้นฐาน แต่ไม่วัดผล) สาระที่ 2 การวัดและเรขาคณิต มาตรฐาน ค 2.1 เข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสิ่งที่ต้องการวัดและนำไปใช้ ตัวชี้วัด ค 2.1 ป.4/1 แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับเวลา ค 2.1 ป.4/2 วัดและสร้างมุม โดยใช้โพรแทรกเตอร์ ค 2.1 ป.4/3 แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับความยาวรอบรูปและพื้นที่ของรูป สี่เหลี่ยมมุมฉาก มาตรฐาน ค 2.2 เข้าใจและวิเคราะห์รูปเรขาคณิต สมบัติของรูปเรขาคณิต ความสัมพันธ์ระหว่างรูป เรขาคณิต และทฤษฎีบททางเรขาคณิต และนำไปใช้ ตัวชี้วัด ค 2.2 ป.4/1 จำแนกชนิดของมุม บอกชื่อมุม ส่วนประกอบของมุมและเขียนสัญลักษณ์แสดงมุม ค 2.2 ป.4/2 สร้างรูปสี่เหลี่ยมมุมฉากเมื่อกำหนดความยาวของด้าน สาระที่ 3 สถิติและความน่าจะเป็น มาตรฐาน ค 3.1 เข้าใจกระบวนการทางสถิติ และใช้ความรู้ทางสถิติในการแก้ปัญหา ตัวชี้วัด ค 3.1 ป.4/1 ใช้ข้อมูลจากแผนภูมิแท่งตารางสองทางในการหาคำตอบของโจทย์ปัญหา จากประสบการณ์ของผู้วิจัยในการสอนคณิตศาสตร์ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนอนุบาล ยางชุมน้อย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1 จากการจัดกิจกรรรมการเรียนการ สอนที่ผ่านมา พบว่ายังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร จึงทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีคุณภาพต่ำกว่าเป้าหมายของทางโรงเรียนที่กำหนดไว้ คือร้อยละ 80
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4โรงเรียนอนุบาลยางชุมน้อย ปีการศึกษา 2565 และ ปีการศึกษา 2566 ปีการศึกษา คะแนนเฉลี่ยร้อยละ 2565 76.26 2566 73.63 ที่มา : (รายงานผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน. โรงเรียนอนุบาลยางชุมน้อย.) ด้วยเหตุผลดังกล่าว ผู้ศึกษาจึงเห็นว่า การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning โดยใช้ ชุดกิจกรรมน่าจะมีความเหมาะสมกับผู้เรียน จึงมีความสนใจที่จะออกแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning โดยใช้ชุดกิจกรรมที่เน้นทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหา การบวกและการลบ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เพื่อเป็นการ พัฒนาและแก้ปัญหาในด้านการคิด การคิดแก้ปัญหา การเชื่อมโยง การสื่อความ ภาษาและสัญลักษณ์ และการให้ เหตุผลของผู้เรียนหมดไป อันจะนำไปสู่การแก้ปัญหาดังกล่าวโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ การแก้โจทย์ปัญหา การบวกและการลบ ร่วมกับเทคนิค KWDL วัตถุประสงค์ของการวิจัย 1. เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาการบวก การลบ ด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning โดยใช้ชุดกิจกรรมที่เน้นทักษะกระบวนการทาง คณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ความส าคัญของการศึกษา 1. ได้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning โดยใช้ชุดกิจกรรมที่เน้นทักษะกระบวนการทาง คณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ ประกอบการสอน 2. เป็นแนวทางสำหรับครูหรือผู้เกี่ยวข้องในการจัดการเรียนการสอนกลุ่มสาระ การเรียนรู้คณิตศาสตร์ ขอบเขตของการศึกษา 1. ขอบเขตด้านประชากรและกลุ่มตัวอย่าง ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนอนุบาลยาง ชุมน้อย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต1 ปีการศึกษา 2566 จำนวนทั้งสิ้น 26 คน
2. ขอบเขตด้านเนื้อหา เนื้อหาที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ได้แก่ โจทย์ปัญหาการบวกการลบ สำหรับชั้นประถมศึกษาปีที่4 ตาม หลักสูตรสถานศึกษาของโรงเรียนอนุบาลยางชุมน้อย พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พุทธศึกราช 2562) กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ซึ่งเป็นไปตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับ ปรับปรุง พุทธศักราช 2562) ของกระทรวงศึกษาธิการ โดยมีเนื้อหารายละเอียดเกี่ยวกับการแก้โจทย์ปัญหา การบวก การลบ นำมาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning โดยใช้ชุดกิจกรรมที่เน้นทักษะ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ สำหรับนักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนอนุบาลยางชุมน้อย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต1 มีจำนวน 8 ชุด ดังนี้ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ชุดที่ 1 โรงเรียนของเรา ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ชุดที่ 2 หมู่บ้านแสนสุข ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ชุดที่ 3 วัดบ้านเรา ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ชุดที่ 4 มีอะไรในตลาด ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ชุดที่ 5 สถานีอนามัยใกล้บ้าน ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ชุดที่ 6 เที่ยวเขื่อนกันเถอะ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ชุดที่ 7 ย้อนรอยศาลสมเด็ก ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ชุดที่ 8 ชวนชมสวนสัตว์ 3. ระยะเวลาที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า ระยะเวลาที่ใช้ในการศึกษา ดำเนินการทดลองในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 4. ตัวแปรที่ศึกษา ตัวแปรอิสระ ได้แก่ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning โดยใช้ชุดกิจกรรมที่เน้น ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ สำหรับนักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 4 ตัวแปรตาม ได้แก่ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน สมมติฐานของการศึกษา นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่เรียนด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning โดย ใช้ชุดกิจกรรมที่เน้นทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ กลุ่ม สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
กรอบแนวคิดของการศึกษา ผู้ศึกษาได้วางกรอบแนวคิดในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning โดยใช้ชุด กิจกรรมที่เน้นทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ กลุ่มสาระ การเรียนรู้คณิตศาสตร์ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ประกอบการสอน ดังนี้ ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 1. นักเรียนมีทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาการบวก การลบ 2. เป็นแนวทางสำหรับครูผู้สอนคณิตศาสตร์ในการเลือกกิจกรรมการเรียนการสอน 3. เป็นแนวทางในการปรับปรุงและพัฒนาการเรียนการสอนเรื่อง โจทย์ปัญหาการบวก การลบ ในสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 นิยามศัพท์เฉพาะ 1. การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning หมายถึง กระบวนการเรียนการสอนที่ส่งเสริมให้ ผู้เรียนมีส่วนร่วมในชั้นเรียน สร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างครูผู้สอนกับผู้เรียน มุ่งให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติ โดยมี ครูเป็นผู้อำนวยความสะดวก สร้างแรงบันดาลใจ ให้คำปรึกษา ดูแล แนะนำ จัดวิธีการเรียนรู้และแหล่ง เรียนรู้ที่หลากหลาย ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้อย่างมีความหมาย สร้างองค์ความรู้ได้ มีความเข้าใจในตนเอง ใช้ สติปัญญา คิด วิเคราะห์ สร้างสรรค์ผลงาน มีสมรรถนะสำคัญ มีทักษะวิชาการ ทักษะชีวิต บรรลุ เป้าหมายการเรียนรู้ตามระดับช่วงวัย 2. การสอนโดยใช้ชุดกิจกรรมที่เน้นทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ ปัญหาการบวกและการลบ หมายถึง การใช้ชุดกิจกรรมที่เน้นทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ มาใช้เป็นกิจกรรมประกอบการเรียนการสอนในเนื้อหาวิชา คณิตศาสตร์ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 3. แผนการจัดการเรียนรู้หมายถึง แผนการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning โดยใช้ชุด กิจกรรมที่เน้นทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ กลุ่มสาระ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบ Active Learning โดยใช้ชุดกิจกรรมที่เน้นทักษะ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาการ บวกและการลบ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ ด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning โดยใช้ชุดกิจกรรมที่เน้นทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ
การเรียนรู้คณิตศาสตร์ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ซึ่งประกอบไปด้วยจุดประสงค์การเรียนรู้สาระการเรียนรู้กระบวนการ จัดการเรียนรู้สื่อและแหล่ง การเรียนรู้การวัดผลประเมินผล 4. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หมายถึง ความรู้ ความสามารถของนักเรียนที่แสดงพฤติกรรมตาม ตัวชี้วัดของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2560 หลังจากสิ้นสุด การเรียนการสอนด้วยการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning โดยใช้ชุดกิจกรรมที่เน้นทักษะกระบวนการ ทางคณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ชั้น ประถมศึกษาปีที่ 4 ซึ่งสามารถวัดได้จากคะแนนของนักเรียนในการทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 30 ข้อ 5. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หมายถึง แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่4 ที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้น จำนวน 30 ข้อ เพื่อใช้ทดสอบนักเรียนก่อนเรียนและหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning โดยใช้ชุดกิจกรรมที่เน้นทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาการบวก และการลบ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 วิธีด าเนินการวิจัย 1. ประชากร ประชากรเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนอนุบาลยางชุมน้อย สังกัดสำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต1 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 2. เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย 2.1 แบบทดสอบการแก้โจทย์ปัญหาการบวก การลบ 2.2 ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ “เก่งคณิต...พิชิตโจทย์ปัญหาการบวกและการลบ” สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 3. ขั้นตอนการสร้างเครื่องมือ 3.1 ศึกษาเอกสารหลักสูตรสถานศึกษา แนวคิดทฤษฏีการเรียนการสอน 3.2 ศึกษาปัญหาของนักเรียน วิเคราะห์ข้อมูลที่พบในการจัดการเรียนการสอน 3.3 ศึกษาเทคนิควิธีการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning 3.4 ศึกษาเทคนิคการสร้างชุดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อให้เหมาะสมกับเนื้อหาและผู้เรียน 3.5 สร้างแบบประเมินผลก่อนเรียน - หลังเรียน 3.6 ประเมินผล ก่อนใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ “เก่งคณิต...พิชิตโจทย์ปัญหาการบวกและ การลบ” สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 3.7 ดำเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning โดยใช้ชุดกิจกรรมที่เน้น ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ สำหรับนักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 4
3.8 ประเมินผลหลังใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ “เก่งคณิต...พิชิตโจทย์ปัญหาการบวกและ การลบ” สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 การเก็บรวบรวมข้อมูล ใช้การเก็บรวบรวมข้อมูลในสถานการณ์จริงในชั้นเรียน โดยใช้แบบประเมินผลก่อน ใช้และหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning โดยใช้ชุดกิจกรรมที่เน้นทักษะกระบวนการ ทางคณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และ สังเกตพฤติกรรมของผู้เรียนระหว่างจัดกิจกรรมการเรียนการสอน การวิเคราะห์ข้อมูล ข้อมูลที่รวบรวมได้จากแบบทดสอบเรื่อง โจทย์ปัญหาการบวก การลบ ก่อนเรียนและหลังเรียน นำมาวิเคราะห์หาค่าเฉลี่ย ( ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) แล้วเปรียบเทียบคะแนนความก้าวหน้า ของนักเรียนแต่ละคน ผลการวิเคราะห์ข้อมูล ข้อมูลทั่วไปของกลุ่มที่ศึกษา คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนอนุบาลยางชุมน้อย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต1 ทั้งหมดรวม 26 คน มีการทดสอบวัด ผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียน แล้วจึงดำเนินการสอนตามแผนการจัดการเรียนรู้ด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning โดยใช้ชุดกิจกรรมที่เน้นทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหา การบวกและการลบ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 หลังจากนั้นจึงทำการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ หลังเรียน แล้วจึงนำผลมาเก็บรวบรวม ข้อมูลก่อนเรียนและหลังเรียนที่รวบรวมได้จากเครื่องมือที่ผู้วิจัย สร้างขึ้นมาจำแนกผลการเรียนรู้ ดังนี้ สรุปได้ว่านักเรียนทั้ง 26 คน มีความก้าวหน้าในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning โดยใช้ชุดกิจกรรมที่เน้นทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาการบวก และการลบ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ประกอบการเรียนรู้
ค่าเฉลี่ยและค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานของนักเรียนในการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ “เก่งคณิต...พิชิตโจทย์ ปัญหาการบวกและการลบ” ส าหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 การฝึก จ านวน นักเรียน ผลรวม X ค่าเฉลี่ย X ร้อยละ ค่า S.D ก่อนเรียน 26 คน 332 12.77 42.56 3.216 หลังเรียน 26 คน 432 16.62 55.38 2.368 จากตารางสรุปได้ว่าการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning โดยใช้ชุดกิจกรรมที่เน้น ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ สำหรับนักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 4 ก่อนเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 12.77 หลังเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 16.62 จะเห็นได้ว่า คะแนนของค่าเฉลี่ยหลังเรียนมีค่ามากกว่าคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียน และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานของก่อนเรียน มีค่าเท่ากับ 3.216 ส่วนค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานหลังเรียนมีค่าเท่ากับ 2.368 แสดงว่าข้อมูลมีค่าคะแนน ใกล้เคียงกัน สรุปผลการวิจัย การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวก การลบ ด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning โดยใช้ชุดกิจกรรมที่เน้นทักษะกระบวนการทาง คณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เพื่อ แก้ปัญหาเรื่อง โจทย์ปัญหาการบวก การลบ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนอนุบาล ยางชุมน้อย พบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวก การลบ ดีขึ้น อภิปรายผล ผลการศึกษาค้นคว้าในครั้งนี้ปรากฏว่า ผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้ของนักเรียนหลังการใช้ชุดกิจกรรม การเรียนรู้ “เก่งคณิต...พิชิตโจทย์ปัญหาการบวกและการลบ” สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีคุณภาพและประสิทธิภาพอย่างดียิ่ง ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้ 1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ “เก่งคณิต...พิชิตโจทย์ปัญหาการบวกและการลบ” สำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เป็นสื่อที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพตามผลของการวิเคราะห์ข้อมูลดังกล่าว 2. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ “เก่งคณิต...พิชิตโจทย์ปัญหาการบวกและการลบ” สำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ชุดนี้สร้างขึ้นอย่างถูกวิธี ได้ผ่านขั้นตอนการสร้างและพัฒนาอย่างเป็นระบบ เริ่ม ตั้งแต่เอกสารหลักสูตรและเอกสารที่เกี่ยวข้องในการใช้หลักสูตร และยังได้รับการแนะนำ ข้อเสนอแนะจาก ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ด้านเนื้อหาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ความเหมาะสมของเนื้อหา 3. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning โดยใช้ชุดกิจกรรมที่เน้นทักษะ
กระบวนการทางคณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 4 นักเรียนเกิดความสนุกสนานในการเรียนรู้ 4. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning โดยใช้ชุดกิจกรรมที่เน้นทักษะ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ สำหรับนักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 4 ได้เรียงลำดับความยากง่ายสอดคล้องตามธรรมชาติการเรียนรู้ ทำให้เรียนรู้สึกว่า ตนเองประสบความสำเร็จในการเรียนรู้ จึงสรุปได้ว่าการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning โดยใช้ชุดกิจกรรมที่เน้นทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพอย่างยิ่ง สามารถนำไปใช้ในการจัดกิจกรรมการ เรียนรู้ ส่งผลให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น
ภาคผนวก
แบบบันทึกคะแนนทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน – หลังเรียน เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวก การลบ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปี ที่ 4 โรงเรียนอนุบาลยางชุมน้อย เลขที่ ชื่อ - สกลุ ก่อนเรียน หลังเรียน 30 คะแนน 30 คะแนน 1 เด็กชายนาวา ดาวงษ์ 10 16 2 เด็กชายเตชินท์ ศรีวงศ์ราช 12 17 3 เด็กชายแสนดีสีหะวงษ์ 14 16 4 เด็กชายคณาธิป ภักดีแพง 15 18 5 เด็กชายจิรศกัด์ิจนัทะศิลา 17 19 6 เด็กชายพิสิทธ์ิ สีหะวงษ์ 8 14 7 เด็กชายธัญเทพ ผมพันธ์ 7 13 8 เด็กชายทรงพล แสนบุตร 9 15 9 เด็กชายณิชชานน หลอมทอง 6 12 10 เด็กชายธนภัทร ขันค า 12 17 11 เด็กชายจิรสิน ผาสุจิตร 13 18 12 เด็กหญิงพิมพ์นภา ยศวิบูรณ์ 11 15 13 เด็กหญิงณิชาภัทร บุติพันคา 12 16 14 เด็กหญิงกาญจนานุช แก้วค า 15 18 15 เด็กหญิงรดามณี ศรีนาม 17 19 16 เด็กหญิงสุธิดา สีหะวงษ์ 17 19 17 เด็กหญิงมนัสนันท์ ขันค า 15 18 18 เด็กหญิงสิริกัญญา พิมโคตร 16 19 19 เด็กหญิงณัฐณิชา อินสว่าง 15 18 20 เด็กหญิงพิชญธิดา ชาเมืองกุล 12 15
แบบบันทึกคะแนนทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน – หลังเรียน เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวก การลบ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปี ที่ 4 โรงเรียนอนุบาลยางชุมน้อย เลขที่ ชื่อ - สกลุ ก่อนเรียน หลังเรียน 30 คะแนน 30 คะแนน 21 เด็กหญิงอัจฉริยารัตน์ แก้วคำ 11 15 22 เด็กหญิงธัญชนก แก้วคำ 15 18 23 เด็กหญิงรดาการต์ มีมุ้ย 18 23 24 เด็กหญิงพิมพ์พิกา ชาติมนตรี 12 15 25 เด็กหญิงพิชยา ชาติมนตรี 13 15 26 เด็กชายรัชชานนท์ รัตนะวัน 10 14 เฉลี่ย 12.77 16.62 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 3.216 2.368 ร้อยละ 42.56 55.38
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 1. โรงเรียนมีนักเรียนทั้งหมด 23,560 คน เป็นนักเรียนชาย 16,500 คน จะเป็นนักเรียนหญิงกี่คน ก. 5,060 คน ข. 6,050 คน ค. 6,060 คน ง. 7,060 คน 2. โรงเรียนมีโต๊ะ 11,230 ตัว มีเก้าอี้ 32,709 ตัว โรงเรียนมีเก้าอี้มากกว่าโต๊ะกี่ตัว ก. 21,479 ตัว ข. 24,694 ตัว ค. 42,147 ตัว ง. 43,939 ตัว 3. โรงเรียนมีเงินทั้งหมด 100,000 บาท จ่ายค่าไฟฟ้าไป 6,590 บาท โรงเรียนเหลือเงินกี่บาท ก. 83,410 บาท ข. 93,410 บาท ค. 73,410 บาท ง. 93,401 บาท 4. โรงเรียนซื้อคอมพิวเตอร์ 55,460 บาท ซื้อตู้เก็บเอกสาร 21,580 บาท โรงเรียนต้องจ่ายเงิน ทั้งหมดกี่บาท ก. 76,040 บาท ข. 77,400 บาท ค. 77,040 บาท ง. 67,040 บาท
5. ปีที่แล้วสวนสัตว์จ่ายค่าอาหารสัตว์ 75,000 บาท ปีนี้จ่าย 65,488 บาท ปีที่แล้วจ่ายค่าอาหารสัตว์ มากกว่าปีนี้กี่บาท ก. 9,512 บาท ค. 9,500 บาท ค. 9,215 บาท ง. 9,600 บาท 6. เดือนธันวาคมสวนสัตว์ขายของที่ระลึกได้เงิน 25,400 บาท เดือนมกราคมขายได้มากกว่าเดือน ธันวาคม 7,990 บาท เดือนมกราคมสวนสัตว์ขายของที่ระลึกได้เงินกี่บาท ก. 33,399 บาท ข. 34,399 บาท ค. 43,399 บาท ง. 33,330 บาท 7. วันนี้มีคนเข้าชมการแสดงแมวน้ำ 10,456 คน มีคนเข้าชมการแสดงช้าง 8,100 คน วันนี้มีคนเข้าชม การแสดงแมวน้ำมากกว่าชมการแสดงช้างกี่คน ก. 2,356 คน ข. 1,653 คน ค. 3,356 คน ง. 1,356 คน 8. เดือนนี้สวนสัตว์ขายตั๋วรถไฟฟ้าได้เงิน 47,200 บาท ขายตั๋วรถลางได้เงิน 37,500 บาท สวนสัตว์ขาย ตั๋วรถไฟฟ้าได้มากกว่ารถลางกี่บาท ก. 7,700 บาท ข. 8,700 บาท ค. 9,700 บาท ง. 9,007 บาท
9. ปี พ.ศ.2561 มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเขื่อน 23,250 คน ปี พ.ศ.2562 มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเขื่อน 22,988 คน รวมสองเดือนมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเขื่อนกี่คน ก. 45,238 คน ข. 46,283 คน ค. 46,238 คน ง. 47,238 คน 10. พื้นที่การเกษตรที่อาศัยน้ำจากเขื่อนแบ่งเป็นพื้นที่ทำนา 67,200 ไร่ พื้นที่ทำไร่ 22,745 ไร่ รวมพื้นที่การเกษตรที่อาศัยน้ำจากเขื่อนกี่ไร่ ก. 87,945 ไร่ ข. 88,945 ไร่ ค. 89,945 ไร่ ง. 86,945 ไร่ 11. วันนี้เขื่อนปล่อยน้ำ 45,100 ลูกบาศก์เมตร เมื่อวานปล่อยน้ำ 49,999 ลูกบาศก์เมตร รวมสอง วันเขื่อนปล่อยน้ำกี่ลูกบาศก์เมตร ก. 95,099 ลูกบาศก์เมตร ข. 95,909 ลูกบาศก์เมตร ค. 85,099 ลูกบาศก์เมตร ง. 95,990 ลูกบาศก์เมตร 12. เดือนนี้มีนักท่องเที่ยว 15,572 คน เป็นผู้ชาย 8,698 คน ที่เหลือเป็นผู้หญิง มีนักท่องเที่ยวที่ เป็นผู้หญิงกี่คน ก. 6,847 คน ข. 6,874 คน ค. 6,874 คน ง. 6,270 คน
13. ถนนในหมู่บ้านเส้นที่หนึ่งยาว 8,210 เมตร เส้นที่สองยาว 3,990 เมตร ถนนเส้นที่สองสั้นกว่า ถนนเส้นที่หนึ่งกี่เมตร ก. 1,220 เมตร ข. 5,220 เมตร ค. 3,220 เมตร ง. 4,220 เมตร 14. ปีที่แล้วหมู่บ้านนี้มีประชากร 58,590 คน ปีนี้มีประชากร 33,664 คน ปีที่แล้วมีประชากร มากกว่าปีนี้กี่คน ก. 24,926 คน ข. 92,254 คน ค. 24,296 คน ง. 92,524 คน 15. ชาวสวนเก็บแตงโมวันแรกได้ 7,850 กิโลกรัม วันที่สองเก็บได้ 23,450 กิโลกรัม รวมสองวัน ชาวสวนเก็บแตงโมได้กี่กิโลกรัม ก. 15,600 กิโลกรัม ข. 31,003 กิโลกรัม ค. 41,300 กิโลกรัม ง. 31,300 กิโลกรัม 16. ในหมู่บ้านมีหนองน้ำกว้าง 3,450 เซนติเมตร ยาว 5,670 เซนติเมตร ด้านกว้างของหนองน้ำ สั้นกว่าด้านยาวเท่าไร ก. 2,222 เมตร ข. 2,220 เมตร ค. 9,120 เมตร ง. 3,220 เมตร
17. ศาลสมเด็จพระนเรศวรปลูกดอกกุหลาบ 9,230 ต้น ปลูกดอกพุทธรักษามากกว่าดอกกุหลาบ 1,980 ต้น ศาลสมเด็จพระนเรศวรปลูกดอกพุทธรักษากี่ต้น ก. 11,210 ต้น ข. 16,250 ต้น ค. 18,210 ต้น ง. 17,210 ต้น 18. นารีออกเดินทางจากบ้านเวลา 09.45 น. ถึงศาลสมเด็จพระนเรศวรเวลา 10.45 น. นารีใช้เวลา เดินทางกี่ชั่วโมง ก. 2 ชั่วโมง 30 นาที ข. 1 ชั่วโมง 30 นาที ค. 2 ชั่วโมง ง. 1 ชั่วโมง 19. เดือนกันยายนหนูนิดเก็บค่าบริการห้องน้ำได้เงิน 9,855 บาท เดือนตุลาคมเก็บได้ 7,450 บาท รวมสองเดือนหนูนิดเก็บเงินค่าบริการห้องน้ำได้เงินกี่บาท ก. 16,305 บาท ข. 18,305 บาท ค. 17,305 บาท ง. 15,305 บาท 20. ในการก่อสร้างศาลสมเด็จพระนเรศวรต้องใช้เงินทั้งหมด 100,000 บาท มีเงินอยู่แล้ว 70,321 บาท ต้องหาเงินมาเพิ่มอีกกี่บาท ก. 49,679 บาท ค. 39,679 บาท ค. 29,679 บาท ง. 59,679 บาท
21. วัดนี้เริ่มสร้างเมื่อปีพ.ศ. 2423 สร้างเสร็จปีพ.ศ. 2498 วัดนี้ใช้เวลาสร้างกี่ปี ก. 75 ปี ข. 85 ปี ค. 65 ปี ง. 55 ปี 22. เจดีย์สูง 1,050 เมตร วิหารสูง 975 เมตร เจดีย์สูงกว่าวิหารกี่เมตร ก. 65 เมตร ข. 75 เมตร ค. 85 เมตร ง. 95 เมตร 23. วัดนี้มีพระ 3,218 รูป มีเณรน้อยกว่าพระ 455 รูป วัดแห่งนี้มีเณรกี่รูป ก. 2,673 รูป ข. 2,763 รูป ค. 3,673 รูป ง. 3,763 รูป 24. ปีที่แล้วทางวัดทอดผ้าป่าได้เงิน 75,000 บาท ปีนี้ทอดผ้าป่าได้มากกว่าปีที่แล้ว 10,900 บาท ปีนี้ทางวัดทอดผ้าป่าได้เงินกี่บาท ก. 65,900 บาท ข. 75,900 บาท ค. 85,900 บาท ง. 95,900 บาท
25. สถานีอนามัยเปิดให้บริการวันละ 8 ชั่วโมง ถ้าวันนี้สถานีอนามัยเปิดเวลา 09.00 น. สถานี อนามัยต้องปิดให้บริการเวลาใด ก. 15.00 น. ข. 16.00 น. ค. 18.00 น. ง. 17.00 น. 26. มียาคุมกำเนิด 14,599 แผง จำหน่ายไปแล้ว 2,780 แผง จะเหลือยาคุมกำเนิดทั้งหมดกี่แผง ก. 17,379 แผง ข. 11,891 แผง ค. 11,819 แผง ง. 11,981 แผง 27. มีประชากรในเขตบริการ 11,200 คน เป็นประชากรเพศหญิง 5,577 คน จะเป็นประชากร เพศชายจำนวนกี่คน ก. 5,632 คน ข. 5,623 คน ค. 5,620 คน ง. 6,523 คน 28. แก้วตาขายปลาได้เงิน 20,800 บาท ขายกุ้งได้เงิน 77,210 บาท แก้วตาขายปลาและกุ้งได้เงิน กี่บาท ก. 96,900 บาท ข. 98,500 บาท ค. 98,010 บาท ง. 97,500 บาท
29. พ่อค้าต้องการซื้อผักราคา 55,000 บาท มีเงินอยู่แล้ว 30,989 บาท พ่อค้าต้องหาเงินเพิ่มอีกกี่ บาท ก. 85,989 บาท ข. 24,011 บาท ค. 85,998 บาท ง. 24,011 บาท 30. เดือนนี้หวานตาขายดอกไม้ได้เงิน 60,455 บาท เดือนที่แล้วขายได้มากกว่าเดือนนี้ 33,870 บาท เดือนที่แล้วหวานตาขายดอกไม้ได้เงินกี่บาท ก. 94,425 บาท ข. 26,585 บาท ค. 94,325 บาท ง. 26,485 บาท
เฉลยแบบทดสอบ 1. ง 16. ข 2. ก 17. ก 3. ข 18. ง 4. ค 19. ค 5. ก 20. ค 6. ง 21. ก 7. ก 22. ข 8. ค 23. ข 9. ค 24. ค 10. ค 25. ง 11. ก 26. ค 12. ข 27. ข 13. ง 28. ค 14. ก 29. ง 15. ง 30. ค
ตัวอย่างแบบฝึกทักษะ เล่มที่ 1
ตัวอย่างแผนการจัดการเรียนรู้ 1 แผน
ภาพกิจกรรม
บรรณานุกรม ไชยยศ เรืองสุวรรณ. Active Learning. ข่าวสารวิชาการ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ประจำเดือนพฤศจิกายน, ๒๕๕๓. ณัชนัน แก้วชัยเจริญกิจ. บทบาทของครูผู้สอนในการจัดกิจกรรมและวิธีการปฏิบัติตาม แนวทางของ Active Learning. สืบค้นจาก http//www.kroobannok.com เมื่อ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๖๔. จำรัส น้อยแสงสรี. คู่มือการศึกษาเทคนิคและวิธีสอนของครู. กรุงเทพมหานคร : มหาวิทยาลัยศรี นครินทรวิโรฒ ประสานมิตร, 2540. ชัยวัฒน์ สุทธิรัตน์. 80 นวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นส าคัญ. พิษณุโลก : โปรแกรม 2550 ชัยพร รูปน้อย. คู่มือเกม. กรุงเทพมหานคร : โอเดียนสโตร์, 2540. ดวงมน ปริปุณณะ. เทคนิคและวิธีสอนในระดับประถมศึกษา. กรุงเทพมหานคร : ไทยวัฒนาพานิช, 2547 ธีระพัฒน์ฤทธิ์ทอง. 30 รูปแบบการจัดกิจกรรมโดยยึดผู้เรียนเป็นส าคัญ. กรุงเทพฯ : เฟื่องฟ้า พริ้นติ้ง, 2545. นิรมล ชยุดลาหกิจ. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยยึดผู้เรียนเป็นส าคัญ. กรุงเทพมหานคร : ต้นอ้อ, 2544. สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระ การเรียนรู้คณิตศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น พื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศ ไทยจำกัด, 2560 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ตามมาตรฐานและตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (พิมพ์ครั้งที่ 1). กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ สกสค. ลาดพร้าว, 2562