The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Ponrada Tanpuk, 2021-01-07 04:06:51

คำที่มักเขียนผิดของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 โรงเรียนเทพศิรินทร์ พุแค จังหวัดสระบุรี

คำที่มักเขียนผิดในภาษาไทย

Keywords: คำ,เขียนผิด

การศกึ ษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง (Independent Study:IS)
คาทม่ี กั เขยี นผดิ ของนกั เรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่5/1
โรงเรยี นเทพศริ นิ ทร์ พแุ ค จงั หวดั สระบรุ ี

นางสาวจณิ ณพตั วงษแ์ ดง เลขท่ี 9
นางสาวพรดา ตนั พกุ เลขท่ี 16
นางสาวพรนภา จรญู โสตร เลขท่ี17
นางสาวยพุ เรศ ทองคา เลขที่ 20

ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปท่ี ่ี 5/1

เสนอ
คณุ ครยู วุ ดี ญาณสทิ ธิ์

รายงานเลม่ นเ้ี ปน็ สว่ นหนงึ่ ของวชิ าการศกึ ษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง(IS)
รหสั วชิ า ร30201 ภาคเรยี นที่1 ปกี ารศกึ ษา 2563

โรงเรยี นเทพศริ นิ ทร์ พแุ ค อาเภอเฉลมิ พระเกยี รติ จงั หวดั สระบรุ ี
สานกั งานเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษา เขต 4

สารบญั หนา้

เรอื่ ง ก

ประวัตผิ ูจ้ ัดทำ
บทคดั ย่อ 1
บทท่ี 1 บทนา 1
1
-ควำมเป็นมำและควำมสำคญั ของปญั หำ 1
-วตั ถุประสงคข์ องกำรศึกษำ 2
-ขอบเขตของกำรศกึ ษำ 2
-สมมตุ ิฐำนกำรศกึ ษำ
-นิยำมศัพทเ์ ฉพำะ 3
-ประโยชนท์ ี่คำดว่ำจะได้รับ 3
บทที่ 2 เอกสารทเ่ี กย่ี วขอ้ ง 8
-ควำมหมำยของคำทีเ่ ขียนผิด 13
-หมวดหมู่ของคำท่ีมักเขียนผดิ 14
-กำรใวำงแผนในกำรดำเนินกำรใช้คำท่ีมักเขียนผิด
-วินัยในกำรฝกึ ฝนกำรใช้คำ 16
-งำนวจิ ัยท่เี ก่ยี วข้อง 16
บทท่ี 3 วิธีการศกึ ษาคน้ ควา้ 16
-ระเบยี บวธิ ที ่ีใช้ในกำรศกึ ษำ 16
-ประชำกรและกลุ่มตัวอย่ำงทใ่ี ช้ในกำรศึกษำ 18
-ระยะเวลำท่ีใชใ้ นกำรศึกษำ 19
-วธิ ีดำเนินกำรศึกษำ 20
-ข้ันตอนกำรดำเนนิ งำน 20
-เครื่องมอื ทใี่ ชใ้ นกำรศึกษำ 20
-กำรเก็บรวบรวมข้อมูล
-วเิ ครำะห์ข้อมลู 21
-สถติ ิทใี่ ช้ในกำรศึกษำ 22
บทท่ี 4 ผลการศกึ ษาคน้ ควา้
-ตำรำงท่ี 1 คำ่ คะแนนร้อยละ
-ตำรำงที่ 2 ค่ำเฉล่ีย

บทที่ 5 สรุปอภปิ รายผลและข้อเสนอแนะ 23
-วัตถปุ ระสงคข์ องกำรศกึ ษำ 23
-ขอบเขตของกำรศึกษำ 24
-เคร่ืองมอื ทใี่ ช้ในกำรศกึ ษำ 24
-วิเครำะห์ข้อมลู 24
-สรุปผลกำรศึกษำ 24
-กำรอภปิ รำยผล 24
-ขอ้ เสนอแนะ 25
64
ภำคผนวก
บรรณำนกุ รม



ประวตั ผิ จู้ ดั ทา

ชื่อเรอื่ ง คาท่ีมักเขยี นผดิ ของนักเรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 5 โรงเรยี นเทพศริ นิ ทร์พแุ ค จงั หวดั สระบรุ ี
1. นำงสำวจิณณพตั วงษ์แดง

ประวตั สิ ่วนตัว
วันท่ี 11 เดอื น พฤศจิกำยน พ.ศ.2546 อำยุ 16
ท่ีอยู่ 9 หมู่ 9 ตำบลหว้ ยป่ำหวำย อำเภอพระพทุ ธบำท จังหวัดสระบุรี
ประวตั กิ ารศกึ ษา
ปี พ.ศ.2558 ชน้ั ประถมศึกษำปที ี่ 6 โรงเรยี นวดั ศรีจอมทอง
ปี พ.ศ.2563 ชน้ั มธั ยมศึกษำปีที่ 5/1 โรงเรียนเทพศริ ินทร์ พุแค
2. นำงสำวพรดำ ตนั พุก
ประวตั สิ ว่ นตวั
วนั ที่ 16 เดอื น กรกฎำคม พ.ศ.2546 อำยุ 17
ทอ่ี ยู่ 108 หมู่ 10 ตำบลพุแค อำเภอเฉลิมพระเกีรยรติ จงั หวัดสระบุรี
ประวัตกิ ารศกึ ษา
ปี พ.ศ.2558 ชั้นประถมศกึ ษำปีที่ 6 โรงเรียนวดั วังเลน
ปี พ.ศ.2563 ชัน้ มธั ยมศกึ ษำปที ี่ 5/1 โรงเรยี นเทพศิรนิ ทร์ พุแค
3. นำงสำวพรนภำ จรญู โสตร
ประวตั สิ ่วนตวั
วนั ท่ี 13 เดือน มิถุนำยน พ.ศ.2546 อำยุ 17
ที่อยู่ 15 หมู่ 7 ตำบลช่องสำริกำ อำเภอพัฒนำนิคม จังหวัดลพบรุ ี
ประวัตกิ ารศกึ ษา
ปี พ.ศ.2558 ชน้ั ประถมศกึ ษำปีท่ี 6 โรงเรยี นวดั ดำรงบลุ



ปี พ.ศ.2563 ชนั้ มธั ยมศึกษำปที ่ี 5/1 โรงเรยี นเทพศริ นิ ทร์ พแุ ค
4. นำงสำวยุพเรศ ทองคำ

ประวัตสิ ว่ นตัว
วนั ที่ 13 เดอื น สิงหำคม พ.ศ.2546 อำยุ 17
ท่อี ยู่ 26 หมู่ 3 ตำบลเขำดนิ พัฒนำ อำเภอเฉลมิ พระเกยี รติ จงั หวัดสระบรุ ี
ประวตั กิ ารศกึ ษา
ปี พ.ศ.2558 ชั้นประถมศกึ ษำปที ่ี 6 โรงเรยี นบำ้ นหว้ ยหนิ ขำวมิตรภำพที่ 213
ปี พ.ศ.2563 ชัน้ มัธยมศกึ ษำปีที่ 5/1 โรงเรยี นเทพศริ ินทร์ พแุ ค



ชื่อเรอ่ื ง คำทีม่ กั เขยี นผดิ ของนักเรียนช้นั มัธยมศกึ ษำปีที่ 5/1

ผศู้ กึ ษา นำงสำวจณิ ณพัต วงษแ์ ดง

นำงสำวพรดำ ตันพกุ

นำงสำวพรนภำ จรูญโสตร

นำงสำวยพุ เรศ ทองคำ

ครูทป่ี รกึ ษา ครูยวุ ดี ญำณสิทธ์ิ

ระดบั การศกึ ษา นักเรยี นมัธยมศึกษำปีที่ 5/1

โรงเรยี นเทพศิรนิ ทร์ พุแค จงั หวัดสระบุรี

รายวชิ า กำรศึกษำค้นควำ้ ดว้ ยตนเอง

ปกี ารศกึ ษา 2563

บทคดั ยอ่

กำรเขยี นคำภำษำไทยใหถ้ กู ต้องตรงตำมแบบแผนน้ันนับเปน็ สิ่งท่ตี อ้ งให้ควำมสำคัญอยำ่ งยง่ิ กำรเขียน
คำภำษำไทยไดถ้ กู ต้องเปน็ กำรแสดงถงึ ควำมเขำ้ ใจและให้ควำมสำคญั อย่ำงลกึ ซ้งึ กับภำษำซ่งึ เป็นมรดกล้ำค่ำ
ของไทยแต่โบรำณมำ ในปัจจบุ นั กำรเขยี นภำษำไทยเปน็ ปอย่ำงกว้ำงขวำงมีพยญั ชนะ 44 ตวั มีคำพอ้ งรูป พอ้ ง
เสียงมำกมำย จงึ ทำให้เกิดควำมสับสนกำรสะกดคำบำงคำ ผู้จดั ทำเห็นควำมจำเป็นทค่ี วรจะรวบรวมคำท่มี ัก
เขียนผิดในภำษำไทยซงึ่ มักจะเป็นคำท่คี ุ้นเคยในกำรฟงั และพดู แต่มักไมค่ อ่ ยเขียน เม่ือตอ้ งเขียนจึงมักเขียนผิด
กำรรวบรวมคำท่ีมักเขียนผิดพร้อมทั้งหำควำมหมำยน้ันได้จัดเรียงลำดบั ตัวอักษรเพอ่ื ใหง้ ่ำยต่อกำรศึกษำและ
เกดิ ประโยชน์มำกท่ีสดุ กลุ่มเป้ำหมำยเป็นนักเรียนชัน้ มธั ยมศกึ ษำปที 5ี่ /1 จำนวน 37 คนได้มำโดยวิธีกำรเลือก

บทท่ี 1
บทนา

ความเปน็ มาและความสาคญั ของปญั หา

กำรเขยี นภำษำไทยใหถ้ ูกต้องตำมแบบแผนน้ัน นับเป็นสิ่งทต่ี ้องใหค้ วำมสำคัญอยำ่ งยิ่งกำรเขยี นคำ
ภำษำไทยให้ถกู ต้องเป็นกำรแสดงถึงควำมเข้ำใจและให้ควำมสำคญั อยำ่ งลกึ ซึ้ง

กำรเขยี นภำษำไทยเป็นไปไดอ้ ยำ่ งกว้ำงขวำง ภำษำไทยเปน็ ภำษำที่งดงำมและซับซอ้ นมีพยญั ชนะถึง
44 ตวั มีคำพ้องรปู พ้องเสียงมำกมำย จงึ ทำใหเ้ กิดควำมสบั สนในกำรสะกดคำบำงคำนำนวนั เข้ำจงึ มีคำที่มัก
เขียนผดิ มำกมำย

ดงั น้ันรำยงำนกำรศึกษำค้นควำ้ ด้วยตนเองเรือ่ งคำท่ีมักเขียนผิดโรงเรียนเทพศริ ินทร์ พแุ ค จงั หวัด
สระบุรี ฉบบั น้ี ม่งุ ศกึ ษำเพอื่ ให้ควำมรขู้ องคำท่มี ักเขยี นผดิ ต่อไป

วัตถปุ ระสงคข์ องการศกึ ษา

1. เพื่อรวบรวมคำทีม่ ักเขยี นผดิ ในภำษำไทยค้นควำ้ และแก้ไขใหถ้ ูกต้อง
2. เพ่อื คน้ หำควำมหมำยของคำทีไ่ ด้แก้ไขให้ถูกต้องแล้วมำแสดงไว้เพอ่ื ให้งำ่ ยต่อกำรคน้ คว้ำ
3. เพือ่ ให้กำรเขยี นคำในภำษำไทยเป็นไปอยำ่ งถูกต้องตำมพจนำนกุ รมฉบบั รำชบัณฑิตย์
พ.ศ.2525 ซงึ่ เปน็ มำตรฐำนในกำรเขยี นคำภำษำไทย

ขอบเขตของการศกึ ษา

1. กลุ่มเปำ้ หมำยนกั เรยี นชน้ั มธั ยมศึกษำปที ี่ 5/1
2. เนื้อหำคำในภำษไทยทม่ี ักเขียนผดิ
3. ระยะเวลำปีกำรศกึ ษำ 2563

สมมตุ ฐิ านการศกึ ษา

ศึกษำพฤตกิ รรมกำรใชค้ ำผดิ ของนกั เรียนชน้ั มัธยมศกึ ษำปีที่ 5/1

2

นยิ ามศพั ทเ์ ฉพาะ

1. พระสูตร หมำยถึง มำ่ นหรือม้งุ
2. พระเขนย หมำยถงึ หมอนหนุน
3. พระภูษำ หมำยถงึ ผำ้ นุ่ง

ประโยชนท์ ี่คาดว่าจะไดร้ บั

1. มีควำมรู้และควำมเข้ำใจคำในภำษำไทยมำกขน้ึ
2. สำมำรถนำมำใชใ้ นชีวติ ประจำวนั ได้
3. คนไทยร่วมกันอนุรกั ษ์ภำษำไทยให้คงอยอู่ ย่ำงถูกตอ้ ง

3

บทที่ 2

เอกสารทเี่ กย่ี วขอ้ ง

ศึกษำคำท่ีมักเขยี นผดิ ของนักเรียนชน้ั มัธยมศึกษำปที ี่ 5/1 โรงเรียนเทพศริ ินทร์ พุแค จงั หวัดสระบุรี
รำยงำนวิชำกำรศึกษำค้นคว้ำด้วยตัวเอง รหัสวิชำ ร30201 ผศู้ ึกษำได้ศกึ ษำตำรำเอกสำร และงำนวจิ ัยที่
เกีย่ วข้องกับคำที่มักเขียนผดิ เพอ่ื เป็นกรอบแนวคิดในกำรดำเนินกำรศึกคน้ ควำ้ และอ้ำงอิง ตำมหวั ขอ้ ต่อไปน้ี

1. ควำมหมำยของคำท่มี ักเขยี นผดิ

2. หมวดหมู่ของคำทมี่ กั เขยี นผิด

3. กำรวำงแผนในกำรดำเนนิ กำรใชค้ ำท่ีมกั เขยี นผิด

4. วนิ ยั ในกำรฝกึ ฝนกำรใช้คำ

5. งำนวิจยั ทเ่ี กี่ยวขอ้ ง

ความหมายของคาทม่ี กั เขียนผิด

คำในภำษำไทย หมำยถงึ คำทม่ี กั เขียนผิดนน้ั โดยสว่ นใหญท่ ่ีผดิ นนั้ กค็ อื เกดิ จำกกำรท่ีคำนัน้ ๆ มีคำ
พอ้ งเสยี งหลำยคำ แตส่ ะกดคำตำ่ งกันจึงทำให้ใช้ผิด อกี ท้งั เป็นเพรำะคำไทยมีตัวพยญั ชนะถงึ 44 ตัว มีบำงตัว
ทีอ่ อกเสียงเดียวกัน ทำใหเ้ กดิ กำรใชผ้ ิดกนั

คำทบั ศัพท์ หมำยถึง กำรทบั ศพั ท์ หรือ กำรปริวรรต คอื กำรถอดอกั ษร หรือแปลงขอ้ ควำมจำกระบบ
กำรเขยี นหรือภำษำหน่ึงไปสอู่ กี ระบบหน่งึ อยำ่ งมีหลกั กำร เพื่อให้สำมำรถเขียนคำในภำษำต่ำงประเทศดว้ ย
ภำษำและอักษรในภำษำนั้น ๆ ได้สะดวก เช่น กำรทับศัพท์ภำษำอังกฤษซ่ึงเขียนด้วยอักษรโรมัน มำเป็น
อกั ษรไทยเพอื่ ใช้ในภำษำไทย หรือกำรทับศัพท์ภำษำไทย ไปเป็นอักษรโรมันเพือ่ ใช้ในภำษำอังกฤษ เป็นต้น
สว่ นมำกใช้กับวสิ ำมำนยนำมอำทิ ชือ่ บุคคล สถำนที่ หรือชอ่ื เฉพำะที่ไม่สำมำรถแปลควำมหมำยเปน็ ภำษำอ่ืน
ได้โดยสะดวก

คำท่ีเขียนถกู หมำยถงึ คำท่ีปรำกฏในพจนำนกุ รรมภำษำไทยหรือตำมประกำศของหนว่ ยงำนรำชกำร

หมวดหมขู่ องคาทม่ี กั เขยี นผดิ

1. กำรสะกดคำผดิ คำบำงคำ เป็นคำท่คี ้นุ เคย และมกั ใช้กันอยเู่ สมอๆ ในชวี ิตประจำวันแตก่ ็ยงั ปรำกฏ
กำรเขียนผดิ ทั้งนอี้ ำจเกิดจำกกำรไมส่ ังเกตในกำรอ่ำน และระมัดระวังในกำรเขียนคำท่ีมักเขยี นผิดเกดิ ขน้ึ ได้
หลำยกรณี เช่น (สุธวิ งศ์ พงธ์ไพบูลย์,2536 : 290 – 298)

4

เขียนผดิ เพรำะไมท่ รำบควำมหมำยของคำ เช่น บณิ ฑบำต (/) มกั เขยี นผดิ เป็น บิณฑบำต (x) คำว่ำ
“บณิ ฑ” แปลว่ำ กอ้ นข้ำว ส่วนคำ “บำต” มำจำก “ปำต” แปลว่ำ ตก

เขยี นผิดเพรำะใช้แนวเทยี บผิด เช่น “สงั วำล” (/) มักเขยี นผดิ เป็น “สังวำลย์” เพรำะนำไปเทียบกับ
“มำลย์” หรือเขียน “อำนสิ งส์” (/) มักเขยี นผิดเปน็ “อำนสิ งฆ์” เพรำะ เรำนำไปเทยี บกบั “พระสงฆ์”

เขียนผิดเพรำะออกเสียงผิด คำบำงคำ บำงคนออกเสียงไมต่ รงหรือออกเสียงไม่ชัดและติดนิสัย เมื่อ
เขียนจึงผิดด้วย แตค่ ำบำงคำ คนสว่ นใหญ่ออกเสยี งอย่ำงหน่ึง ซึ่งไม่ตรงกบั รูปที่เขียนตำมพจนำนกุ รม จำวก
หลังนี้ นบั เป็นส่งิ ทีย่ ำอกแก่กำรแก้ (อำจจะถือว่ำเป็นเพรำะพจนำนกุ รมรักษำหลักกำรจนไม่เออื้ เฟือ้ ต่อผใู้ ช้
ภำษำก็ได)้ ตัวอย่ำงคำสองพวกนี้ เช่น

หยิบหยง่ (/) หยิบโหย่ง (x)

เครอ่ื งรำง (/) เครือ่ งรำง (x)

นิจศีล (/) นิจสิน (x)

ชนั โรง (/) ชันนะโรง (x)

จกั จ่ัน (/) จักกระจ่นั (x)

ซ่ำหริม่ (/) สลิม่ (x)

เขยี นผดิ เพรำะมปี ระสบกำรณ์ผดิ คือ เหน็ คำน้ันๆ จนเคยชนิ และเปน็ คำทใ่ี ช้กันผดิ เสมอจดจำไดต้ ดิ ตำ
อำจจะเหน็ จำกหนังสือพิมพ์ หรือส่ิงพิมพอ์ ื่นๆ เชน่ บตั รเชญิ ประกำศโฆษณำ แจง้ ควำม ฯลฯ ควรจะไดฝ้ ึกกำร
พิจำรณำ อย่ำใช้ตำมโดยไมไ่ ด้ศกึ ษำ ควำมจรงิ เชน่

ประณีต (/) ปรำณตี (x)

สะดวก (/) สดวก (x)

อนุญำต (/) อนุญำติ (x)

รสชำติ (/) รสชำต (x)

ศรี ษะ (/) ศรษี ะ (x)

เกสร (/) เกษร (x)

เขยี นผิด เพรำะไมร่ ู้หลักภำษำ เช่น ใส่วรรณยุกต์ผิด ใช้พยัญชนะผดิ สะกดกำรนั ตผ์ ดิ ฯลฯ เชน่

5

เชติ้ (/) เชิต๊ (x)

มอ็ บ(/) มอ้ บ(x)

วิพำกษ(์ /) วพิ ำกย์(x)

สำอำง(/) สำอำงค์ (x)

2. ใช้คำที่ไม่ใช่ภำษำแบบแผน ปัญหำกำรใช้คำท่ีไมใ่ ชภ่ ำษำแบบแผน ท่ีมักพบในงำนเขียน ได้แก่
(ทวีศักด์ิ ปิ่นทอง,2552 : 34 – 43 ; 107 – 140)

-ใชค้ ำภำษำปำก เชน่ แซ่บ,เซ็ง (ภำษำแบบแผน – อร่อย,น่ำเบอื่ )

-ใช้คำทมี่ เี สยี งตำ่ งจำกภำษำแบบแผน (ใชค้ ำตำมภำษำเสยี งพูด) เชน่ ยงั ง้ี,อะ๊ ปำ่ ว (ภำษำแบบแผน –

อย่ำงนี้,หรือปำ่ ว)

-ใชค้ ำสแลง เช่น เด้ิน,แห้ว (ภำษำแบบแผน – ทนั สมัย,หมดหวงั )

-ใชค้ ำภำษำหนงั สือพมิ พ์ เชน่ ซัลโว – นว่ ม (ภำษำแบบแผน – ยิงประตู,ชำ้ )

3. ใช้คำฟุม่ เฟือยและซ้ำซอ้ น คำฟมุ่ เฟือย คือ คำส่วนเกิน ไม่มีควำมหมำยใหม่ สำมำรถตดั ออกไดเ้ พ่ือ
ควำมสละสลวยของคำ สว่ นคำซำ้ หมำยถึง คำท่มี ีเสยี งหรอื รูปแบบกำรเขียนเหมอื นกนั และคำซ้อน คอื คำท่ีมี
ควำมหมำยใกลเ้ คียงกนั หรือเหมือนกัน อำจเปน็ คำคลอ้ งจองท่ีเกดิ ควำมเคนชนิ ในกำรพูดหรอื กำรเขียน เชน่

คำฟมุ่ เฟือย - อนำคตขำ้ งหน้ำ คำภำษำแบบแผน - อนำคต

- มกี ำรช่วยเหลือ คำภำษำแบบแผน - ช่วยเหลือ

- ทำกำรกนิ คำภำษำแบบแผน - กนิ

คำซำ้ ซอ้ น - ห้ิวหิว คำภำษำแบบแผน - หิวมำก

- รถรำ คำภำษำแบบแผน - รถ

- ครูบำอำจำรย์ คำภำษำแบบแผน - ครู,อำจำรย์

4. ใชล้ กั ษณะนำมไม่ถูกตอ้ ง เช่น

เทยี น 1 แทง่ ลกั ษณะนำมทถี่ กู ตอ้ ง = เล่ม

ดินสอ 1 ดำ้ ม ลกั ษณะนำมทถ่ี ูกตอ้ ง = แทง่

6

ตู้เย็น 1 เคร่ือง ลกั ษณะนำมทถี่ กู ตอ้ ง = หลัง

5. ใช้คำภำษำตำ่ งประเทศ คำภำษต่ำงประเทศบำงคำมศี พั ทบ์ ญั ญัติใช้ ควรใช้คำศัพทท์ บ่ี ญั ญตั ขิ ้ึน
ยกเว้นคำบำงคำท่ีใชท้ ับศพั ทภ์ ำษำต่ำงประเทศ เช่น

คำภำษำตำ่ งประเทศ คำภำษำไทยท่คี วรใช้

อิน เข้ำถึง

รถเมล์ รถประจำทำง

ซฟี ู้ด อำหำรทะเล

โหวต ออกเสียง,ลงคะแนน

คำภำษำต่ำงประเทศบำงคำ ใช้ทบั ศัพท์ เชน่ เทคนคิ (Technic) ฟตุ บอล (Football) คลินกิ (Clinic)
คอมพวิ เตอร์ (Computer) เป็นตน้

6. ใช้คำไมต่ รงควำมหมำย กำรใชค้ ำไมต่ รงควำมหมำย มีลกั ษณะ เช่น

ไม่ใชค้ ำท่ีมคี วำมหมำยตรง เชน่

กนิ ควำมหมำยตรง =รบั ประทำน ควำมหมำยโดยนัย = โกง

หิน ควำมหมำยตรง = แร่ของแข็งชนิดหนึ่ง ควำมหมำยโดยนยั = ยำก

ควรใชค้ ำท่มี คี วำมหมำยตรง เขียนประโยค เช่น

คำที่ไม่ควรใช้ = เขำกนิ บ้ำนกินเมือง คำท่คี วรใช้ = เขำโกงบำ้ นโกงเมอื ง

คำทีไ่ ม่ควรใช้ = ขอ้ สอบหนิ มำก คำที่ควรใช้ = ข้อสอบยำกมำก

ใชค้ ำทไ่ี มถ่ ูกต้องกบั บคุ คล เช่น

คำที่ไมถ่ กู ต้อง = เชญิ พระ คำที่ถกู ต้อง = นิมนต์พระ

คำทไี่ ม่ถกู ต้อง = คนยว้ั เย้ีย คำทถี่ กู ตอ้ ง = คนเตม็ ไปหมดหรอื คนมำกมำย

ใชค้ ำไมถ่ ูกต้องกบั สภำพธรรมชำติหรอื สงิ่ ของ เชน่

คำท่ไี ม่ถูกต้อง = ถนนปลอดโปรง่ คำที่ถกู ต้อง = ถนนโล่ง

คำท่ไี ม่ถูกต้อง = ท้องฟำ้ สดชื่น คำท่ีถูกตอ้ ง = ทอ้ งฟ้ำสดใส

7

ใช้สำนวนเปรยี บเทียบไมถ่ กู ตอ้ ง เชน่

สำนวนทีผ่ ดิ = ตำเป็นตำข่ำย สำนวนที่ถูกต้อง = ตำเป็นสับปะรด

สำนวนทผี่ ดิ = มที องเทำ่ หัวกุ้ง สำนวนทถี่ กู ต้อง = มีทองเท่ำหนวดกุง้

ใช้คำตรงข้ำม เปรยี บเทยี บกันไม่ถกู ต้อง เชน่

คำเปรียบเทียบที่ผิด = ดำกบั แดง

คำเปรยี บเทียบท่ถี กู = ดำกับขำว

คำเปรยี บเทยี บทผ่ี ดิ = คนเก่งกบั คนขเี้ กยี จ

คำเปรียบเทียบที่ถกู = คนขยนั กบั คนข้เี กียจ

ใชค่ ำที่มเี สยี งใกล้เคยี งกนั คำบำงคำมีเสียงใกล้เคยี งกันแตค่ วำมหำยไม่เหมือนกนั จงึ ควรใชค้ ำใหถ้ กู ตอ้ ง
ตำมควำมหมำย เชน่

คำท่เี สียงใกลเ้ คยี งกัน = ปำ่ ทนึ ทึก คำที่ถกู ต้อง = ป่ำทึมทกึ

คำที่เสียงใกลเ้ คยี งกนั = คนแกท่ ึมทึก คำที่ถกู ต้อง = คนแกท่ ึมทกึ

7. ใช้คำย่อ กำรใชค้ ำย่อ ควรใชก้ บั คำทีเ่ ปน็ ทร่ี ู้จกั กันดี หรือคำท่ีคำเตม็ ยำวมำก ไม่ควรใชค้ ำย่อกับ
คำท่ไี มเ่ ป็นทร่ี ้จู กั กนั ดี หรือคำสนั้ ๆ เช่น

คำยอ่ ทีไ่ มค่ วรใช้ = ร.ร. คำท่ีถกู ตอ้ ง = โรงแรม

คำยอ่ ทไ่ี ม่ควรใช้ = กทม. คำที่ถูกตอ้ ง = กรงุ เทพมหำนคร

8. ใช้คำต่ำงระดับ ในกำรเขยี นขอ้ ควำมแต่ละประโยค หรือแต่ละเรอื่ ง ควรใช้คำทอี่ ยใู่ นระดับ
เดียวกนั ไมค่ วรใช้คำต่ำงระดับกนั เช่น

คำต่ำงระดบั = ชำยหนุ่ม,สตรี

คำระดับเดยี วกันท่ีควรใช้ = ชำยหนุม่ ,หญิงสำว

คำต่ำงระดบั = ดวงอำทิตย์,จนั ทรำ

คำระดับเดยี วกนั ทค่ี วรใช้ = ดวงอำทติ ย์,ดวงจนั ทร์

8

9. ใชค้ ำสรรพนำมไม่เสมอกัน ในกำรเขยี นแตล่ ะคร้งั ควรใช้คำสรรพนำมให้สม่ำเสมอกันตลอดท้ัง
เรอ่ื ง เช่น หำกใชส้ รรพนำมบุรษุ ที่ 1 ว่ำ “ผม” กอ้ ควรใช้ “ผม” ตลอดไป หรือใช้ “ฉนั ” หรือ “ดิฉนั ”
อยำ่ งใดอย่ำงหน่ึง ตลอดทง้ั เรอื่ ง อย่ำใช้ “ผม” บำ้ ง “กระผม” บำ้ ง หรือ “ฉนั ” บำ้ ง “ดิฉัน” บ้ำง

10. ใช้คำที่มีควำมหมำยกำกวม คำบำงคำมีควำมหมำยกำกวม อำจทำให้ผู้อำ่ นตคี วำมไม่ชัดเจน
ดังนั้น จงึ ควรหลกี เลี่ยงกำรใชค้ ำกำกวม เช่น

คำกำกวม = 3 โมง ควำมหมำยท่ีไมแ่ น่ชัด ตีควำมหมำยได้ทั้ง 3 โมงเชำ้ หรอื 3 โมงเยน็ ควรเขียนใหช้ ัด
เปน็ 09.00น. หรอื 15.00น.

การวางแผนในการดาเนนิ การใชค้ าทมี่ กั เขยี นผดิ

1. ขอ้ บกพรอ่ งในกำรใช้คำ ข้อบกพร่องในกำรใช้คำทีม่ ักพบในงำนเขยี นของนกั ศึกษำมดี ังน้ี

บกพร่องเพรำะสะกดคำผิด คำบำงคำเป็นคำท่ีคุ้นเคยคำบำงคำเป็นคำท่ีคุ้นเคยและมักใช้อยู่เสมอ
เสมอในชวี ติ ประจำวนั แต่ยังปรำกฏกำรณ์เขยี นผิดทง้ั ทีนอ้ี ำจเกดิ จำกกำรที่นกั ศึกษำไม่จดจำจำกกำรอ่ำนและ
ขำดควำมระมดั ระวังในกำรเขยี นคำที่นักศกึ ษำมักสะกดผิดเกดิ ข้ึนไดห้ ลำยกรณีเช่น

สะกดเพรำะใชแ้ นวเทยี บผิดเชน่

คำสะกดผิด คำสะกดถกู แนวเทียบ

โลกำภิวัฒน์ โลกำภวิ ัตน์ มีวัฒนำกำร

สังเกต สังเกต หมำยเหตุ

อนญุ ำต อนญุ ำต ญำตพิ ่นี ้อง

รสชำด รสชำติ กำชำด
ลำใย ลำไย หว่ งใย

สะกดผดิ เพรำะไม่ทรำบควำมหมำยของคำ เชน่

สวรรค์ หมำยถึง สร้ำง เชน่ สรำ้ งสรรค์ สังสรรค์ (กำรรว่ มกนั เพื่อสร้ำง)

สรร หมำยถงึ เลือก เชน่ จัดสรร คดั สรร

ฉนั หมำยถึง สรรพนำมบรุ ุษที่ 1 แทนผู้พดู เชน่ ฉันเป็นเพอื่ นกบั เธอ

ฉนั หมำยถึง กนิ เช่น พระภิกษฉุ ันอำหำร

9

ฉัน หมำยถึง เสมอกนั เช่น ฉนั ญำติ ฉันใด ฉนั นัน้

ฉนั ท์ หมำยถงึ คำประพนั ธ์ เช่น ฉนั ทลักษณ์

ฉนั ท์ หมำยถงึ ควำมพอใจ ควำมคิดเห็นรว่ ม เชน่ เอกฉนั ท์ สมำนฉนั ท์

สะกดผิดเพรำะใชพ้ ยญั ชนะผิด เช่น

คำสะกดผดิ คำสะกดถกู

ปรำกฎ ปรำกฏ

อนุลักษณ์ อนุรักษ์

โอกำส โอกำส

วพิ ำกย์ วิพำกษ์

สะกดผิดเพรำะใส่วรรณยุกต์ผดิ เชน่

คำทส่ี ะกดผดิ คำที่สะกดถกู

เตน้ ท์ เตน็ ท์

แทก้ ซี่ แทก็ ซ่ี

ม้อบ มอ็ บ

เช๊ิต เช้ติ

จั๊กจ่ัน จักจ่นั

ปัม้ นำ้ มัน ปมั๊ นำ้ มัน

สะกดผิดเพรำะใสต่ วั กำรนั ต์ผดิ เช่น

คำท่ีสะกดผิด คำทสี่ ะกดถูก

สำอำงค์ สำอำง

ย่อมเยำว์ ยอ่ มเยำ

สำสน์ สำสน์

กอปร์ กอปร (ประกอบ)

10

โครงกำรณ์ โครงกำร

เซน็ ตช์ ื่อ เซ็นชื่อ

2. ใช้คำท่ีไม่ใชภ่ ำษำแบบแผน ปัญหำใชค้ ำท่ีไม่ใช่ภำษำแบบแผนที่มักพบในงำนเขียนของนักศึกษำ
ไดแ้ ก่

ใชค้ ำภำษำปำก เชน่

คำภำษำปำก คำภำษำแบบแผน

แซบ่ อรอ่ ย

เยอะแยะ มำก

แป๊บเดียว เดีย๋ วเดียว

เซ็งเบื่อ น่ำเบอื่

ซอื่ บอื้ ซ่อื ไม่ทันคน

สอบเอ็นท์ สอบเขำ้ มหำวิทยำลัย

ตวิ เรียนเพ่ิม,เรยี นพิเศษ

ห่วยแตก ไม่ได้เรอ่ื ง

หว้ิ หวิ หิวมำก

นำ้ วหนำว หนำวมำก

ใช้คำทีม่ ีเสยี งต่ำงจำกภำษำแบบแผน คือ กำรใช้คำตำมเสยี งภำษำพดู เช่น

คำเสยี งภำษำพดู คำ ภำษำแบบแผน

ทำงนู้น ทำงโนน้

ยงั งน้ั อย่ำงนน้ั

ยังงี้ อย่ำงน้ี

ยงั ไง อย่ำงไร

อย่ำงเนี่ย อย่ำงนี้

11

เชยี วแหละ เชยี วหรือ
อ๊ะเปล่ำ หรือเปลำ่
ซักครู่ สกั ครู่
เกอ้ ก็
นึง หน่งึ
ใช้คำสแลง ได้แก่
คำสแลงคำ ภำษำแบบแผน
ชิว ชิว สบำยๆงำ่ ยๆธรรมดำ
จีด๊ รู้สึกพอใจอย่ำงยิ่ง
ตสิ๊ ต์ คนทม่ี ีอำรมณแ์ ละจินตนำกำรทำงศลิ ปะ
มักมีควำมคดิ ท่ีแปลกจำกคนท่ัวไป
นงั กอ กระเทยเพศทส่ี ำมผชู้ ำยทมี่ จี ิตใจและจริตเปน็ หญงิ
กง่ ก๊ก มนึ ๆ งงๆ
กิ๊ก เพอื่ นสนทิ ตำ่ งเพศซึ่งอำจจะมีควำมสมั พันธ์ฉันชู้สำว
กิ๊บเก๋ น่ำรัก เท่
เกก๊ ชงค์,เกก๊ แมน วำงทำ่ ทำงเป็นผ้ชู ำยแท้ๆ ท้ังๆ ท่ปี กติเปน็ ต๊ดุ
ขำโจ๋,วยั โจ๋ วยั รนุ่
จอแบน หนำ้ อกเลก็ มำก
จ้ิน นักฝัน,นักสรำ้ งภำพ
ชะนี คำทกี่ ระเทยใชเ้ รียกผู้หญงิ
ชิ่ง หลบฉำก หลบไปอกี ทำงหนึ่ง
ซกมก สกปรก ซอมซอ
เนียน กลมกลืน แนบเนียน

ป๊อท 12
มัว่ นิ่ม
เรศิ ไมก่ ลำ้ ไม่สู้
วนิ วิน ฉวยโอกำสปะปนเขำ้ ไปทำให้แยกไม่ออก
วีนแตก สวยหรดู ูเด่นเลอเลิศมักมลี กั ษณะเกนิ พอดี
เหยี ก ชนะหมดทกุ ฝำ่ ยทกุ ฝ่ำยไดป้ ระโยชน์
อนิ ดี้ แสดงอำรมณ์โกรธใสผ่ อู้ น่ื ยงั รนุ แรงในทนั ที
อนิ เทรนด์ ข้เี หร่
งำนเข้ำ เปน็ อิสระมคี วำมเป็นตัวของตัวเอง
ใช้คำภำษำหนังสอื พมิ พ์ เชน่ ทำตวั ตำมกระแสนิยม
คำภำษำหนงั สอื พิมพ์ มเี รื่องให้ตอ้ งทำ
เป่ำคดี
วิ คำภำษำแบบแผน
ซัลโว ทำใหค้ ดีจบเร่อื งเงียบไป
ซกุ วสิ ำมัญฆำตกรรม
อ่วมอรทัย ยิงประตู
น่วม ปดิ บงั
บิ๊ก อำกำรหนกั
โฉ่ ช้ำ
โม่แข้ง บุคคลสำคัญ,ผู้มีอำนำจ
เมอื งผูด้ ี เกดิ เร่อื งไม่ดี,ไมง่ ำม
เมอื งนำ้ หอม แขง่ ขนั ฟตุ บอล
เมืองเบยี ร์ ประเทศอังกฤษ
ประเทศฝรัง่ เศส
ประเทศเยอรมนั

13

เมอื งชำ้ ง จงั หวัดสรุ นิ ทร์

3. ใช้คำฟุม่ เฟือยคำฟุม่ เฟือยคือคำส่วนเกนิ ไม่มีควำมหมำยใหม่สำมำรถตัดออกได้เพื่อควำมสละสลวย
ของคำซงึ่ คำฟมุ่ เฟือยน้ีรวมท้ังคำซำ้ และคำซ้อนดว้ ยตัวอย่ำงคำฟุ่มเฟือย เชน่

คำฟุ่มเฟือย คำภำษำแบบแผน

ทำกำรกิน กนิ

มีกำรชว่ ยเหลือ ช่วยเหลือ

แบบวำ่ ดี ดี

อนำคตข้ำงหนำ้ อนำคต

อดีตแตห่ นหลงั อดตี

จำกประสบกำรณ์ทผี่ ำ่ นมำ จำกประสบกำรณ์

วนิ ัยในการฝกึ ฝนการใชค้ า

1. เพอ่ื สง่ั สอน เป็นกำรใหค้ วำมรู้แก่ผ้อู ำ่ นว่ำจะทำงำนชิ้นหนึง่ ให้สำเรจ็ ได้อย่ำงไร และทำไมจงึ ควรทำ
ให้สำเรจ็ เช่น คู่มอื ฝึกหดั คมู่ ือกำรใช้เครื่องจักร และหนังสอื คำสอนตำ่ งๆ

2. เพื่อบันทึก เป็นกำรเขียนบันทึกรำยละเอียดต่ำงๆ ของกำรกระทำ กำรตดั สินใจแผนกำรหรือ
ขอ้ ตกลงตำ่ งๆ เช่น แฟม้ รำยงำน รำยงำนจำกห้องปฏบิ ตั ิกำรทดลอง

3. เพ่อื แนะนำ เปน็ กำรเสนอขอ้ มลู และขอ้ แนะนำพฤติกรรมที่จำเพำะเจำะจง เช่น เคำ้ โครงแบบงำ่ ยๆ
และรำยงำนเสนอแนะแบบต่ำงๆ

4. เพื่อเลำ่ เรือ่ ง เป็นกำรนำเหตกุ ำรณ์หรอื เรือ่ งรำวท่ีเปน็ อันดับอยู่แล้วมำถำ่ ยทอด เชน่ กำรเขียนเล่ำ
ประวัติเหตกุ ำรณแ์ ละประสบกำรณต์ ่ำงๆ

5. เพื่ออธิบำย เป็นกำรแจกแจงให้ผู้อำ่ นเข้ำใจถงึ วิธีกำร โดยมีกำรเรียงลำดับข้ันตอนเหตุกำรณ์
ตำมลำดับก่อนหลัง เช่น กำรอธบิ ำยวิธกี ำรทำอำหำร อธบิ ำยควำมหมำยของคำ อธิบำยถอ้ ยคำท่ีมกั เขียนและ
อ่ำนผิด

6. เพื่อแสดงควำมคิดเห็น เป็นกำรวิเครำะห์ วิพำกษ์วิจำรณ์ กำรเขียนลักษณะนี้ต้องคำนึงถึง
ข้อเทจ็ จริง มหี ลักเกณฑแ์ ละเหตุผล เช่น กำรเขียนบทควำม กำรวิจำรณ์หนงั สือ

14

7. เพอื่ โฆษณำจูงใจ เป็นกำรเขียนเพ่ือจูงใจให้คนอ่ำนสนใจ มกี ำรใช้ภำษำที่สะดดุ ตำสะดดุ ใจคนอำ่ นมี
ควำมกระชบั รัดกุม เช่น โฆษณำภำพยนตร์ โฆษณำสินค้ำ

8. เพ่ือปลุกใจ เปน็ กำรเขียนเพื่อให้ผอู้ ่ำนเกดิ ควำมรสู้ กึ เป็นอันหน่ึงอันเดยี วกนั เกดิ ควำมรู้สึกฮึกเหิม
เข้มแข็ง พร้อมทีจ่ ะตอ่ สกู้ ับส่งิ ทคี่ ิดว่ำไมถ่ กู ตอ้ ง เชน่ บทควำมปลกุ ใจต่ำงๆ

9. เพ่อื สร้ำงจินตนำกำร เป็นกำรเขียนเพ่ือใหผ้ อู้ ำ่ นเหน็ ภำพเกดิ จนิ ตนำกำรตำมส่ิงที่กลำ่ วถึง หรือเกิด
ควำมรู้สกึ คล้อยตำมไปกับผเู้ ขียนและเนอื้ ควำมในเรอ่ื ง เชน่ นวนิยำย เรื่องส้นั บทร้อยกรอง บทละคร บท
ภำพยนตร์

10. เพื่อลอ้ เลยี นเสยี ดสี เป็นกำรเขียนเพอื่ ตำหนี้สิ่งใดสงิ่ หน่ึง แต่ใช้วิธีตำหนิแบบทเี ล่นทีจริงไม่รุนแรง
อำจเป็นกำรล้อเลยี นเสยี ดสีดว้ ยภำพถอ้ ยคำหรอื เรอื่ งรำว

11.เพ่อื บอกให้ทรำบข้อเทจ็ จริง เปน็ กำรเขียนเพอ่ื ชแ้ี จงเรื่องของทำงกำรให้ประชำชนได้รับรปู้ ระกำศ
คำช้แี จง ระเบียบ ขอ้ บังคบั แถลงกำรณ์

12. เพอื่ จุดประสงค์เฉพำะกิจ เชน่ กำรเขียนจดหมำย กำรเขยี นโทรเลข

งานวจิ ยั ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง

ไขสริ ิ ปรำโมช ณ อยุธยำ (2519) ได้กล่ำวถึงข้อผดิ พลำดในกำรเขียนภำษำไทยของนิสิต คณะอักษร
ศำสตร์ จฬุ ำลงกรณ์มหำวทิ ยำลัย ช้นั ปที ี่ 1 ปที ี่ 2 ปที ่ี 3 ไว้ในวิทยำนิพนธเ์ ร่ือง “ กำรศกึ ษำวเิ ครำะห์ลกั ษณะ
ขอ้ ผิดพลำดในกำรเขยี นภำษำไทย ของนิสติ คณะอักษรศำสตร์ จฬุ ำลงกรณม์ หำวิทยำลัย ปีกำรศึกษำ 2514
และ 2516” โดยแบ่งกำรศึกษำออกเป็น 2 ภำค คือ ภำคท่ี 1 น้ัน กล่ำวถงึ ข้อผิดพลำดในกำรเขียนภำษำไทย
และภำคเรียนที่ 2 กลำ่ วถงึ สำเหตุของ ข้อผิดพลำดตำ่ งๆ ในภำคที่ 1 น้ัน กลำ่ วถงึ ข้อผดิ พลำดในกำรใชค้ ำชนิด
ต่ำงๆ ข้อผิดพลำดในกำร แต่งประโยค ขอ้ ผดิ พลำดในเร่ืองควำมหมำย และข้อผิดพลำดในเรื่องกำรสะกด
กำรันต์ ส่วนในภำคท่ี 2 กล่ำวถึงสำเหตุข้อผิดพลำดต่ำงๆ เช่น กำรใช้แนวเทยี บผดิ กำรได้รบั อทิ ธพิ ลจำกภำษำ
บำลีและสันสกฤต และควำมสับสนเก่ียวกับกฎเกณฑก์ ำรใช้ภำษำไทย ไขสิริ ปรำโมช ณ อยธุ ยำ.(2554).คำไทย
ท่ีมักเขียนผิด.[ออน ไลน์ ].เข้ำถึงได้จ ำก : https://taneewitthaya.blogspot.com. (วัน ที่ค้น ข้อมูล : 13
สิงหำคม 2554)

สวุ รรณณำ เกรียงไกรเพ็ชร์ และคณะ (2523) ได้รบั กำรวจิ ัยของภำควิชำภำษำไทย คณะอักษรศำสตร์
จุฬำลงกรณม์ หำวทิ ยำลยั ปี 2523 โดยศกึ ษำข้อบกพรอ่ งในกำรใชภ้ ำษำไทยของ นสิ ิตคณะอกั ษรศำสตร์
จฬุ ำลงกรณม์ หำวิทยำลยั ทง้ั ระดบั ตน้ และระดบั ปลำย ปีกำรศึกษำ 2516 - 2520 เรอื่ ง “สมรรถภำพกำรใช้
ภำษำไทยขน้ั ต่ำงๆ" ผลปรำกฏว่ำ ลกั ษณะควำมผิดและควำม บกพร่องด้ำนกำรใช้ภำษำ

15

วำรณุ ี เศวตำลัย (2523Lydfb) ไดศ้ ึกษำเรอื่ ง “กำรศึกษำวิเครำะห์ลกั ษณะข้อผดิ พลำดในกำรเขียนขำ่ ว
ลงใน วิทยำสำรประจำวัน ปี พ.ศ. 2520” กล่ำวคือ อยู่ในลักษณะผิดพลำดทำงด้ำนไวยำกรณ์ ผิดพลำด
ทำงด้ำนควำมหมำย และบกพร้องทำงด้ำนกำรใช้คำ และยงั มีลักษณะท่ยี ังมีปรำกฏในจำกงำนวิจยั ท่ีเก่ียวข้อง
กบั กำรเขียนท่ีกลำ่ วมำ พบวำ่ ข้อผดิ พลำดหรือข้อบกร่องของกำร ใชภ้ ำษำไทยในกำรเขียนมีลักษณะที่
ใกล้เคยี งกันมำกทสี่ ุด ซงึ่ ยงั เปน็ ปญั หำทพี่ บในปัจจบุ ันพอ สรปุ ได้ดังนี้ คือ

1. กำรใชค้ ำกลุ่มคำและสำนวนผิด

2. กำรใชป้ ระโยคผดิ

3. กำรสะกดกำรนั ตผ์ ิด

4. กำรใชเ้ ครอื่ งหมำยวรรคตอนผิด

5. กำรใช้อกั ษรยอ่ ผิด

อิงอร อมำตยกลุ (2535) ได้วิจัยเรอ่ื ง กำรศกึ ษำควำมสำมำรถทำงกำรเขียนเรยี งควำมของนักเรยี นชั้น
มัธยมศึกษำปีที่ 6 สังกดั กรมศึกษำเขตกำรศกึ ษำ 1 ผลกำรวจิ ยั พบว่ำ

1. กำรเขียนเรียงควำมด้ำนกำรเสนอเนื้อหำสำระ ส่วนทบ่ี กพร่องมำกทสี่ ุด คอื กำรเสนอ เนอ้ื หำทไ่ี ม่
แปลกใหม่ รองลงมำตำมลำดับคือ กำรเขยี นท่ขี ำดเหตผุ ลสนับสนนุ ควำมคิดเหน็ ข้อคิดสำคัญไม่ปรำกฏเดน่ ชดั
กำรเรียบเรยี งเนือ้ หำไมต่ อ่ เน่ืองสมั พันธ์กัน เน้ือหำขำดกำรเป็น เอกภำพ กำรเสนอควำมคดิ ทไ่ี มส่ ร้ำงสรรค์และ
กำรเขยี นเนื้อหำที่ไมส่ อดคลอ้ งกับช่ือเรื่อง

2. กำรเขยี นเรยี งควำมด้ำนกำรใช้ภำษำส่วนทีบ่ กพรอ่ งมำกที่สุด คอื กำรใช้คำ ลักษณะทพ่ี บมที ั้งกำรใช้
คำท่ีเป็นภำษำพดู กำรใชค้ ำฟมุ่ เฟือย กำรใช้คำเชื่อมไมเ่ หมำะสม กำรใชค้ ำกำกวม กำรใช้คำย่อหรอื อกั ษรยอ่
และกำรใชค้ ำทับศพั ท์ รองลงมำคือ กำรใช้กล่มุ คำ และประโยคไม่กระชบั รัดกุม กำรเรยี งคำเข้ำประโยคไม่
ถกู ตอ้ ง กำรเขียนสะกดกำรันตผ์ ิด กำรวำงสระวรรณยุกต์ไมถ่ ูกตอ้ งตรงตำมตำแหนง่ และกำรใชเ้ ครื่องหมำย
ต่ำง ๆ ไม่ถูกตอ้ ง

3. กำรเขยี นเรยี งควำมตำ้ นรปู แบบกำรเขยี น สว่ นทีบ่ กพรอ่ งมำกท่ีสดุ คือ กำรเขยี นยอ่ หน้ำไม่ได้
สดั ส่วน และไมเ่ หมำะสม ส่วนทบ่ี กพรอ่ งน้อยทีส่ ุด คอื กำรเขยี นท่ไี ม่มสี ่วนคำนำ และสรปุ

4. กำรเขยี นเรียงควำมตำ้ นส่วนประกอบกำรเขียน สว่ นทบ่ี กพรอ่ งมำกท่สี ุด คอื กำรอำ้ งอิงตำ่ ง ๆ ไม่
เหมำะกบั ตวั เร่อื ง หรือไมม่ ีกำรอำ้ งอิงใด ๆ เลย รองลงมำคือกำรวำงวรรคตอน

16

บทที่ 3

วิธกี ารศกึ ษาคน้ ควา้

ในกำรศึกษำครงั้ นี้ ผู้ศกึ ษำไดท้ ำกำรศึกษำคำท่มี กั เขียนผิดของนักเรยี นชัน้ มธั ยมศกึ ษำปที ่ี 5/1 โรงเรียน
เทพศริ ินทร์ พุแค จังหวัดสระบุรี ซึ่งมวี ิธกี ำรดงั นี้

ระเบยี บวธิ ที ใ่ี ช้ในการศกึ ษา

ในกำรศึกษำใช้รปู แบบกำรสำรวจกำรศึกษำค้นควำ้ ด้วยวิกำรสบื คน้ ขอ้ มูลจำกหนงั สือ อินเตอร์เน็ต
และตอบแบบสอบถำม

ประชากรและกลมุ่ ตวั อยา่ งทใ่ี ชใ้ นการศกึ ษา

ปร ะชากร
ประชำที่ใช้ในกำรศึกษำคร้ังน้ีเป็นนักเรียนระดับช้ันมัธยมศึกษำปีท่ี 5 โรงเรยี นเทพศิรนิ ทร์ พุแค
จังหวดั สระบุรี ภำคเรียนที่ 1 ปีกำรศกึ ษำ 2563 จำนวน 6 ห้องเรียน หอ้ งเรยี นละ 10 คน เป็นนักเรยี นท้ังส้ิน
60 คน
กลมุ่ ตัวอย่าง
กลุ่มตวั อย่ำงทีใ่ ชใ้ นกำรศกึ ษำคร้ังนี้ได้แกน่ ักเรยี นช้นั มธั ยมศึกษำปีท่ี 5/1โรงเรียนเทพศริ นิ ทร์ พุแค
จังหวัดสระบรุ ี ภำคเรียนที่ 1 ปกี ำรศึกษำ 2563 เป็นนักเรียนทั้งสิ้น 37 คน เพอ่ื ตอบแบบสอบถำมทส่ี รำ้ งขนึ้
ระยะเวลาทใี่ ชใ้ นการศกึ ษา
ระยะเวลำทีใ่ ช้ในกำรศึกษำ ภำคเรยี นที่ 1 ปีกำรศกึ ษำ 2563 เป็นเวลำ 3 เดอื น ต้งั แตเ่ ดือนสงิ หำคมถึง
เดอื นตลุ ำคม
วิธีดาเนนิ การศกึ ษา
ผศู้ กึ ษำไดด้ ำเนนิ กำรตำมขั้นตอนดังนี้
1. กำหนดเร่อื งที่จะศึกษำ โดยมสี มำชิกทง้ั 4 คนประชุมรว่ มกนั และร่วมกันคิดและวำงแผน วำ่ จะ
ศกึ ษำเรือ่ งคำทม่ี ักเขียนผิดของนักเรยี นช้ัน มัธยมศึกษำปที ี่ 5/1 โรงเรียนเทพศริ นิ ทร์ พุแค
จังหวัดสระบุรี
2. สำรวจปญั หำในห้องเรยี น

17

3. เลือกเรอ่ื งทจ่ี ะศึกษำโดยเลอื กเรือ่ งที่มคี วำมสนใจมำกท่ีสดุ เพือ่ เป็นแรงจูงใจในกำรค้นหำคำตอบ
4. ศกึ ษำแนวคิดในกำรแกไ้ ขปัญหำ
5. ตั้งชื่อเร่ือง
6. สมำชกิ ทง้ั 4 คนของกลุ่ม พบครูผ้สู อนเพื่อปรกึ ษำ วำงแผนและรับฟงั ควำมคดิ เห็นนำมำปรับปรงุ
แกไ้ ข
7. เขยี นควำมสำคัญควำมเปน็ มำของปญั หำ วตั ถุประสงค์ สมมตุ ิฐำน ขอบเขต กำรวิจัยและ
ประโยชน์ทีค่ ำดว่ำจะไดร้ บั โดยศึกษำข้อมูลจำกหนงั สอื วทิ ยำนพิ นธ์ และสบื ค้นข้อมลู จำก
อนิ เตอร์เน็ต และจดบันทกึ ในโครงร่ำงรำยงำนเชงิ วิชำกำร
8. สรำ้ งเครือ่ งมือทีเ่ ปน็ แบบสอบถำมจำนวน 10 ข้อ
9. นำเคร่ืองมือท่ีปรับปรุงแลว้ ไปใชก้ บั กลุ่มตัวอย่ำง
10. รวบรวมขอ้ มลู
11. วิเครำะห์ขอ้ มูล
12. สรุปผลกำรศึกษำ

18

ขน้ั ตอนวธิ กี ารดาเนนิ งาน

กาหนดเร่อื งทจ่ี ะศึกษา

สารวจปัญหาและเลือกเร่ือง

ศกึ ษาแนวคิดและการแกป้ ัญหา

ตงั้ ช่ือเรือ่ งทจี่ ะศกึ ษา
พบครูท่ีปรกึ ษา (คณุ ครูยวุ ดี ญาณสิทธิ)์

ศึกษาวิธีการเขยี นบทนา

สรา้ งเครอื่ งมือแบบ (แบบสอบถาม)
ปรบั ปรุง เคร่ืองมือและนาไปทดลอง

ใชก้ ับกล่มุ ตวั อย่าง
รวบรวมขอ้ มลู
วิเคราะหข์ อ้ มลู
สรปุ ผลการศกึ ษา

19

เครอื่ งมอื ทใ่ี ชใ้ นการศกึ ษา

เครื่องมือทีใ่ ช้ในกำรศึกษำคร้ังน้คี อื แบบสอบถำม 1 ฉบบั ซึง่ มรี ำยละเอยี ดดังนี้
1. ออกแบบสอบถำม เร่อื ง คำที่มกั เขียนผดิ ของนกั เรยี นชน้ั มัธยมศกึ ษำปที ี่ 5/1 โรงเรียนเทพศริ นิ ทร์
พุแค จงั หวัดสระบุรี โดยขอคำแนะนำจำกคณุ ครูยุวดี ญำณสทิ ธิ์ โดยเตรียมร่ำงขอ้ คำถำม
มีลกั ษณะเป็นแบบมำตรำส่วนประมำณ 5 ระดับ คือ
5 หมำยถึง เห็นด้วยมำกที่สดุ
4 หมำยถึง เหน็ ด้วยมำก
3 หมำยถงึ เห็นด้วยปำนกลำง
2 หมำยถึง เห็นดว้ ยน้อย
1 หมำยถงึ เหน็ ด้วยน้อยทีส่ ดุ
พิจำรณำค่ำเฉลยี่ ใชเ้ กณฑด์ งั น้ี
ค่ำเฉลย่ี 4.51 - 5.0 หมำยถึง เห็นด้วยมำกทส่ี ุด
ค่ำเฉลีย่ 3.51 - 4.50 หมำยถึง เหน็ ด้วยมำก
คำ่ เฉลี่ย 2.51 - 3.50 หมำยถึง เห็นด้วยปำนกลำง
ค่ำเฉลี่ย 1.51 - 2.50 หมำยถึง เห็นดว้ ยน้อย
คำ่ เฉลย่ี 1.00 - 1.50 หมำยถงึ เห็นด้วยนอ้ ยทีส่ ุด
2. สร้ำงแบบสอบถำม เร่อื งคำทม่ี กั เขยี นผดิ ของนกั เรียนช้ันมัธยมศึกษำปที ่ี 5/1 โรงเรยี นเทพศิรินทร์
พุแค จังหวดั สระบรุ ี โดยขอคำแนะนำจำกคุณครูยวุ ดี ญำณสทิ ธ์ิ จำกนั้นนำมำปรบั ปรงุ แกไ้ ข แล้ว
นำไปตรวจควำมเหมำะสม
3. นำแบบสอบถำม เรื่องคำที่มักเขียนผดิ ของนกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษำปที ่ี 5/1 โรงเรียนเทพศิรินทร์
พแุ ค จังหวดั สระบุรี ทแ่ี กไ้ ข ปรับปรุงแลว้ ใหก้ ลมุ่ ตวั อยำ่ งประเมนิ หลงั จำกนน้ั นำผลทไ่ี ด้หำค่ำเฉล่ีย

20

การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู

กำรศึกษำครัง้ นี้ได้ดำเนินกำรโดยนำแบบสอบถำมทีส่ ร้ำงข้นึ ให้นกั เรียนกลุ่มตัวอย่ำงตอบ จำนวน 37
คน และเกบ็ รวมรวมข้อมูลจำกนกั เรยี น ที่เปน็ กลุ่มตวั อย่ำง โดยผู้ศึกษำท้ัง 4 คน ดำเนนิ กำรเกบ็ รวบรวมข้อมูล
ดว้ ยตนเอง

การวเิ คราะหข์ อ้ มลู

ในกำรวิเครำะห์ขอ้ มูลผู้ศึกษำไดว้ เิ ครำะห์ขอ้ มลู ดงั น้ี
1. นำแบบสอบถำมทัง้ หมดทต่ี อบโดยนักเรยี นกลมุ่ ตวั อยำ่ งมำหำค่ำคะแนนรวม
2. นำผลรวมมำคิดเปน็ รอ้ ยละ 5

สถิตทิ ใี่ ชใ้ นการศกึ ษา

สถติ ิท่ีใช้ในกำรศกึ ษำครั้งนี้คอื กำรหำค่ำเฉลย่ี คดิ เปน็ รอ้ ยละ 5

21

บทที่ 4

ผลการศกึ ษาคน้ ควา้

กำรศกึ ษำค้นควำ้ ครัง้ นมี้ วี ตั ถุประสงคเ์ พื่อใหน้ ักเรียนชัน้ มัธยมศกึ ษำปที ี่ 5 โรงเรยี นเทพศิรนิ ทร์
พแุ ค จงั หวดั สระบรุ ี รูจ้ ักกำรใช้คำในภำษำไทยให้ถกู ต้อง มวี นิ ยั ในกำรใชค้ ำ โดยนำเสนอผลกำรกำร

วิเครำะห์ขอ้ มลู ตำ่ งๆ ดงั นี้
นกั เรยี นมธั ยมศกึ ษำปีท่ี 5 โรงเรยี นเทพศิรินทร์ พุแค จังหวัดสระบุรี เพ่ือรวบรวมคำท่ีมักเขยี นผดิ ใน

ภำษำไทยคน้ คว้ำและแก้ไขให้ถูกตอ้ งเพอ่ื ค้นหำควำมหมำยของคำทไี่ ด้แก้ไขให้ถูกต้องแล้วมำแสดงไว้เพือ่ ใหง้ ำ่ ย
ต่อกำรคน้ ควำ้ เพ่อื ใหก้ ำรเขยี นคำในภำษำไทยเป็นไปอยำ่ งถกู ต้องตำมพจนำนุกรมฉบับรำชบัณฑิตย์

ตารางท่ี 1 แสดงผลระดับคะแนนกำรประเมนิ เร่อื ง คำที่มักเขียนผดิ ของนักเรียนมธั ยมศกึ ษำปีที่ 5
โรงเรียนเทพศิรนิ ทร์ พุแค จงั หวดั สระบรุ ี จำนวนกลุ่มตวั อย่ำง 37 คน

ร ายการ ประเมนิ ค่าคะแนนรอ้ ยละ

1. นกั เรยี นเขยี นผิดเนือ่ งจำกสะกดคำผดิ 5 4 321
2. นักเรียนเขยี นผดิ เนื่องจำกใชค้ ำภำษำต่ำงประเทศ 54 13 27 5 0
3. นักเรียนเขยี นผดิ เน่ืองจำกใชค้ ำที่ไม่ใช่แบบแผน 27 18 40 8 5
4. นักเรยี นเขยี นผดิ เน่อื งจำกใชล้ ักษณะนำมไม่ถกู ต้อง 21 32 13 24 8
5. นักเรียนเขียนผิดเนอ่ื งจำกเขยี นตำมท่ีออกเสียง 10 8 27 54 0
40 27 21 10 0

จำกตำรำงท่ี 1 พบวำ่ นกั เรียนเขียนผิดเน่ืองจำกสะกดคำผิด อยูใ่ นระดบั 4 คดิ เปน็ รอ้ ยละ 4.16
นักเรียนเขียนผดิ เน่ืองจำกใชค้ ำภำษำต่ำงประเทศ อยู่ในระดับ 4 คดิ เป็นร้อยละ 3.54 นกั เรียนเขยี นผดิ
เนอ่ื งจำกใชค้ ำท่ีไมใ่ ช้แบบแผน อยใู่ นระดบั 3 คดิ เปน็ ร้อยละ 3.35 นักเรยี นเขยี นผดิ เน่ืองจำกใช้ลักษณะ
นำมไม่ถกู ต้อง อยู่ในระดับ 2 คดิ เป็นร้อยละ 2.76 นกั เรียนเขียนผดิ เนื่องจำกเขยี นตำมทอี่ อกเสยี งอยู่ใน
ระดับ 4 คดิ เปน็ รอ้ ยละ 3.97

22

ตารางที่ 2 แสดงผลกำรประเมนิ เรอ่ื ง คำทม่ี ักเขียนผิดของนักเรียนมธั ยมศึกษำปีท่ี 5 โรงเรยี น
เทพศิรินทร์ พแุ ค จังหวัดสระบุรี

ร ายการ ประเมนิ ค ่าเฉ ลยี่ ระดบั คณุ ภาพ
4.16 มำก
1. นักเรยี นเขยี นผดิ เนื่องจำกสะกดคำผดิ 3.54 มำก
2. นกั เรียนเขยี นผดิ เนอ่ื งจำกใชค้ ำภำษำตำ่ งประเทศ 3.35
3. นกั เรยี นเขียนผดิ เนื่องจำกใช้คำท่ไี ม่ใชแ่ บบแผน 2.76 ปำนกลำง
4. นักเรียนเขียนผิดเนอื่ งจำกใช้ลักษณะนำมไมถ่ กู ตอ้ ง 3.97 ปำนกลำง
5. นกั เรยี นเขยี นผดิ เนอ่ื งจำกเขียนตำมทอ่ี อกเสียง 3.56
มำก
รวมทงั้ หมด มำก

จำกตำรำงท่ี 2 พบวำ่ นกั เรียนมธั ยมศึกษำปที ่ี 5 โรงเรยี นเทพศิรนิ ทร์ พุแค จังหวัดสระบุรี
มีกำรศกึ ษำและแกไ้ ขปญั หำคำทม่ี ักเขยี นผดิ อยู่ในระดับคุณภำพ มำก ค่ำเฉล่ยี 3.56

23

บทท่ี 5
สรปุ อภปิ รายผลและขอ้ เสนอแนะ

จำกกำรศึกษำคร้ังนี้เพอื่ ให้นักเรยี นชน้ั มัธยมศกึ ษำปีท่ี 5 โรงเรยี นเทพศิรนิ ทร์ พุแค จงั หวัดสระบุรี
รู้จักกำรเขยี นคำใหถ้ ูกต้องสำมำรถสรปุ ผล อภิปรำยผล และข้อเสนอแนะไดด้ ังน้ี

วัตถปุ ระสงคข์ องการศกึ ษา

1. เพื่อให้นักเรียนชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 5 โรงเรียนเทพศริ นิ ทร์ พุแค จังหวัดสระบุรี เพื่อรวบรวมคำท่ีมัก
เขยี นผิดในภำษำไทยค้นควำ้ และแก้ไขให้ถกู ตอ้ ง

2. เพ่ือให้นักเรยี น ชั้นมัธยมศึกษำปีท่ี 5 โรงเรียนเทพศิรินทร์ พุแค จังหวัดสระบุรี เพื่อค้นหำ
ควำมหมำยของคำท่ีไดแ้ กไ้ ขให้ถูกต้องแลว้ มำแสดงไว้เพื่อให้งำ่ ยต่อกำรค้นควำ้

3.เพอ่ื ให้นักเรียนชัน้ มัธยมศึกษำปที ่ี 5 โรงเรยี นเทพศริ นิ ทร์ พุแค จงั หวดั สระบุรี เพ่อื ให้กำรเขียนคำใน
ภำษำไทยเป็นไปอย่ำงถูกต้องตำมพจนำนุกรมฉบบั รำชบณั ฑติ ย์

ขอบเขตของการศกึ ษา

1. ประชำกรท่ีใช้ในกำรศกึ ษำ
ประชำท่ใี ชใ้ นกำรศกึ ษำคร้งั นี้เปน็ นกั เรียนระดับชน้ั มัธยมศกึ ษำปีที่ 5 โรงเรียนเทพศริ นิ ทร์

พแุ ค จังหวัดสระบุรี ภำคเรยี นที่ 1 ปีกำรศึกษำ 2563 จำนวน 6 ห้องเรยี น หอ้ งเรยี นละ 10 คน เปน็ นกั เรยี น
ท้งั สน้ิ 60 คน

2. กลมุ่ ตัวอย่ำงทใี่ ช้ในกำรศึกษำ
กลุ่มตัวอย่ำงทใ่ี ช้ในกำรศึกษำครงั้ นไ้ี ด้แก่นักเรียนช้ันมธั ยมศกึ ษำปีที่ 5/1โรงเรยี นเทพศริ ินทร์

พแุ ค จังหวัดสระบุรี ภำคเรียนที่ 1 ปกี ำรศึกษำ 2563 เป็นนักเรียนทั้งสิ้น 37 คน เพือ่ ตอบแบบสอบถำมทีส่ รำ้ ง
ข้ึน

24

เครอ่ื งมอื ทใี่ ช้ในการศกึ ษา

เครือ่ งมอื ทีใ่ ช้ในกำรศึกษำครงั้ นี้ ประกอบด้วยแบบสอบถำม จำนวน 1 ฉบับ เร่ือง คำทม่ี ักเขยี นผิด
ของนักเรยี นมธั ยมศึกษำปีที่ 5 โรงเรียนเทพศิรนิ ทร์ พแุ ค จงั หวดั สระบุรี จำนวน 5 ขอ้

การวเิ คราะหข์ อ้ มลู

ในกำรวเิ ครำะห์ข้อมูล ผู้ศึกษำได้วิเครำะห์ขอ้ มลู ของนักเรียนทม่ี ตี ่อเร่อื ง คำท่ีมักเขยี นผิดของนักเรียน
ช้ันมัธยมศกึ ษำปที ี่ 5 โรงเรียนเทพศิรินทร์ พแุ ค จังหวดั สระบรุ ี โดยกำรคิดคะแนนเฉลี่ย เปน็ ค่ำร้อยละ 3.56

สรปุ ผลการศกึ ษา

ผลกำรศกึ ษำที่มตี ่อกำรศึกษำ เรอื่ งคำที่มักเขียนผิดของนักเรียนช้นั มธั ยมศึกษำปที ี่ 5 โรงเรียนเทพศิริ
นทร์ พแุ ค จงั หวดั สระบรุ ี อยใู่ นระดับคณุ ภำพมำก

การอภปิ รายผล

จำกกำรศึกษำคำท่ีมักเขยี นผิดของนักเรียนชน้ั มัธยมศึกษำปที ่ี 5 โรงเรียนเทพศิรนิ ทร์ พุแค จงั หวัด
สระบรุ ี พบวำ่ นกั เรยี นทุกคน มีควำมพึงพอใจหรือทัศนะคตอิ ยู่ในระดบั มำก คดิ เปน็ รอ้ ยละ 3.56

ข้อเสนอแนะ

ขอ้ เสนอแนะในกำรศกึ ษำคร้ังน้ี
1. สำมำรถนำไปศึกษำปญั หำต่ำงๆ ทพี่ บในโรงเรยี นได้ แตค่ วรมีตัวแปรรว่ มด้วยเพ่อื ให้กำรศกึ ษำ

มคี ุณภำพ
2. สำมำรถนำไปศกึ ษำกบั กลมุ่ ตัวอย่ำงอ่นื ได้
3. ควรมเี วลำในกำรศกึ ษำมำกขน้ึ
4. ควรเพ่มิ รำยกำรประเมนิ ให้มำกขนึ้

25

ภำคผนวก

26

แ บบสอบถาม

เร่อื ง คาท่มี ัดเขียนผิด
นักเรียนชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 5โรงเรยี นเทพศริ นิ ทร์พแุ ค จงั หวดั สระบรุ ี

นกั เรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่5 หอ้ ง 1

ร ายการ ประเมนิ 5 คะแนน 2 1
43
1. นักเรียนเขยี นผดิ เนอ่ื งจำกสะกดคำผิด
2. นกั เรียนเขยี นผดิ เนอ่ื งจำกใช้คำภำษำต่ำงประเทศ
3. นกั เรยี นเขยี นผิดเนอ่ื งจำกใช้คำทไ่ี มใ่ ชแ่ บบแผน
4. นกั เรียนเขียนผิดเนอ่ื งจำกใชล้ ักษณะนำมไมถ่ ูกต้อง
5. นักเรยี นเขียนผิดเน่อื งจำกเขียนตำมท่อี อกเสียง
คาชี้แจง ใหน้ ักเรียนใสเ่ คร่ืองหมำย √ ลงในชอ่ งทเ่ี ห็นดว้ ยมำกท่สี ุด

ขอ้ เสนอแนะ

............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................

27

บรรณานกุ รม

คำท่ีมักเขยี นผดิ . (2556). [ออนไลน์]. เข้ำถึงได้จำก : https://www.sanook.com/campus .
(วนั ทค่ี ้นข้อมลู : 20 สงิ หำคม 2563).
คำท่มี กั เขียนผิดบอ่ ย. (2554). [ออนไลน์]. เข้ำถงึ ไดจ้ ำก : https://www.winnews.tv/news .
(วันที่คน้ ขอ้ มูล : 21 สิงหำคม 2563).
คำที่ใชผ้ ดิ ควำมหมำย. (2557). [ออนไลน์]. เขำ้ ถงึ ไดจ้ ำก : https://lifestyle.campus-star.com.
(วนั ทค่ี ้นข้อมลู : 30 สิงหำคม 2563).
คำศัพท์โซเชียล.(2556). [ออนไลน์]. เขำ้ ถงึ ได้จำก : http://www.trueplookpanya.com/tcas.
(วนั ท่ีค้นข้อมลู : 19 ตุลำคม 2563)
งำนวจิ ัยที่เกยี่ วข้อง.(2559). [ออนไลน์]. เขำ้ ถงึ ไดจ้ ำก : http://www.abpk.ac.th/.
(วันทีค่ น้ ขอ้ มูล : 21 ตุลำคม 2563)


Click to View FlipBook Version