The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by patchima.2547, 2022-09-11 21:44:44

ฟิวซูลินิดฟอสซิล

1AE92888-1B27-42B1-BBCA-0E2C906E47F3

ฟิวซูลินิดฟอสซิล
(Fusulinid Fossil)

คำนำ

หนังสืออิเล็กทรอนิกส์นี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นสื่อการเรียนรู้
เรื่อง ฟิวซูลินิดฟอสซิล คณะผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่า
หนังสืออิเล็กทรอนิกส์นี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่ได้อ่านไม่

มากก็น้อย

สารบัญ

เรื่อง หน้า

ฟิ วซูลินิดฟอสซิล 1-2
3
กลุ่มของฟิ วซูลินิด 4

เรื่องเล่าเกี่ยวฟิวซูลินิดฟอสซิล หรือคตข้าวสาร 5
6
ลักษณะของฟิ วซูลินิด
7

ซากดึกดำบรรพ์จำพวกฟิ วซูลินิดในประเทศไทย 8

ประโยชน์ 9

อ้างอิง
ผู้จัดทำ

ฟิวซูลินิดฟอสซิล (Fusulinid Fossil) 1

ฟิ วซูลินิด(Fusulinid) เป็ นชื่อของสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวที่อาศัยอยู่


ในทะเลและสูญพันธุ์ไปแล้วอยู่ในไฟลั่ม

ฟอรามินิ เฟรา(Foraminifera)ถ้าเปรียบก็เทียบเท่ากับพวก
อะมีบา(amoeba)ที่มีเปลือกที่เป็ นองค์ประกอบของแคลไซต์ชนิด
ผลึกเนียนละเอียด(Microgranular Calcite) ที่ถูกบรรจุอย่างแน่น
หนา ซึ่งอาจมีสองชั้นหรือมากกว่า

นักธรณีวิทยาสายปิ โตรเลียมยังใช้มันเป็ นกุญแจสำคัญสู่ที่ตั้งของ

แหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่สำคัญทางเศรษฐกิจ ฟิ วซูลินิตมี

ขนาดตั้งแต่ที่มองเห็นได้ยากจนถึงขนาดที่สามารถมองเห็นได้ง่าย

ด้วยตาเปล่าและอาจยาวได้ถึง

5 เซนติเมตร (ประมาณ 2 นิ้ว) ฟิ วซูลินิตหลายชนิดมีลักษณะคล้าย

ข้าว ผู้พบเห็นจึงเข้าใจว่า มันเป็ นฟอสซิลของข้าว จึงเรียกว่า "คต

ข้าวสาร" แต่อย่างไรก็ตามโครงสร้างภายในมีความซับซ้อนและโดด

เด่นมาก โดยภายในเปลือกประกอบด้วยชุดของห้องที่เกิดอยู่ภายใน

จากแกนกลางและขยายออกเป็ นแนวยาว

2

ฟิวซูลินิตมีชีวิตอยู่ในช่วงยุคเพนซิลวาเนียนและเพอร์เมียน
ประมาณ 323 ถึง 252 ล้านปีที่แล้ว และได้สูญพันธุ์ในช่วงการ

สูญพันธุ์ครั้งใหญ่ตอนปลายของยุคเพอร์เมียน(themass
extinction at the end of the Permian Period) ประมาณ 252

ล้านปีก่อน



ฟอสซิลฟิวซูลินิตสามารถพบได้ในทุกทวีปยกเว้นทวีปแอนตาร์
คติกา และพบได้ทั่วไปในพื้นที่ที่มีหินในยุคเพอร์เมียนและ
เพนซิลวาเนียน

3

กลุ่มของฟิวซูลินิด

ฟิวซูลินิด คือกลุ่มของโปรโตซัวไฟลั่มฟอ

แรมมินิเฟอราที่สูญพันธุ์ไปแล้ว ฟิวซูลินิดจะ

สร้างเปลือกของสารเนื้ อปูนซึ่งเป็ นสาร

แคลไซต์เนื้อละเอียด พบเป็นซากดึกดำบรรพ์

อย่างแพร่หลายในเนื้อหินปูน อย่างเช่นแนว

เทือกเขาหินปูนในจังหวัดราชบุรี สระบุรี และ

ลพบุรี ซึ่งถือเป็นซากดึกดำบรรพ์ดัชนีที่สำคัญ

4

เรื่องเล่าเกี่ยวฟิวซูลินิดฟอสซิล หรือคตข้าวสาร

มีความเชื่อว่า เป็นข้าวสารที่พระพุทธเจ้าทรงฉัน และ
เมื่อฉันเสร็จแล้ว จึงทำการอธิษฐานเพื่อให้เป็นของ
มงคลในแผ่นดิน บางตำนานเชื่อว่า เกิดจากฤทธิ์
อำนาจของพระแม่ธรณี ที่เก็บข้าวสารไว้ไม่ให้เน่าให้
เปื่อย ทั้งหมดทั้งมวล เข้าใจว่า เป็นข้าวสารที่เกิดจาก

การอธิษฐานหรือปลุกเสกโดยผู้มีบารมีทั้งสิ้น

5

ลักษณะของฟิวซูลินิด

เป็นสัตว์ทะเลเซลล์เดียวจัดอยู่ในไฟลัมโพรโทซัว อันดับฟอแรมมินิเฟอรา อาศัย
อยู่ในเขตอบอุ่น และบริเวณน้ำตื้น ลักษณะภายนอกส่วนใหญ่มีรูปร่างยาว หัวท้าย
แหลม ลักษณะคล้ายกับเมล็ดข้าวสาร และมีขนาดเล็ก คือยาวประมาณ ๑ - ๑.๕
เซนติเมตร ทำให้คนทั่วไปคิดว่า เป็นข้าวสารหิน จึงนิยมเรียกว่า คตข้าวสาร พบ
มากในยุคคาร์บอนิเฟอรัสและยุคเพอร์เมียน สูญพันธุ์ไปตั้งแต่ปลายยุคเพอร์เมียน

จึงนิยมใช้เป็นซากดึกดำบรรพ์ดัชนี เนื่องจากแต่ละสกุลมีช่วงชีวิตสั้น เกิดแพร่
หลาย เป็นบริเวณกว้าง มีวิวัฒนาการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และสามารถ

กำหนดอายุได้แน่นอน

6

ซากดึกดำบร
รพ์จำพวกฟ
ิวซูลินิดในประเทศไทย

ซากดึกดำบรรพ์ฟิวซูลินิด ที่พบใน
บริเวณนี้ ได้แก่ Verbeekina
verbeeki, Parafusulina
gigantea, Pseudodoliolina

pseudolepida และ Sumatrina
annae

7

ประโยชน์

ฟิวซูลินิ ตได้รับการยอมรับว่า มี
ประโยชน์ อย่างยิ่งสำหรับการหาข้อมูล
ของพื้นที่ในเชิงธรณีวิทยา เนื่ องจากมัน
มีความสั มพันธุ์กับหินตะกอนทำให้
สามารถประมาณช่วงเวลาของพื้นที่นั้ นๆ
รวมถึงความสั มพันธุ์ของพื้นที่แยกออก
จากกันของเปลือกโลก

8

อ้างอิง

https://www.pwsalestone.com/category/
https://th.wikipedia.org/wiki/
https://www.sanook.com/news/7113350/

9

ผู้จัดทำ

นายภูริณัฐ สุนนท์นาม เลขที่3
นายธนโชติ จงบวกกลาง เลขที่10
นางสาวศิโรรัตน์ พลอยงาม เลขที่17
นางสาวปัจฉิมา ทอนสูงเนิน เลขที่18
นางสาวปรียาภัส งามฉวีพันธุ์ เลขที่31

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/6


Click to View FlipBook Version