DREAMS Vol.4

DREAMS

BY ERAWAN

THAI - GIFTED

“ มองสิ่งที่มัน

ห มุ น เ วี ย น

เพื่ อยอมรับ

การเปลี่ยนแปลง ”

นิ ร น า ม

บรรณาธิการ

นายภูพิรัฐ พิกุลทอง
นางสาววิภา แซ่เตียว
นางสาวกัญญาณัฐ พัฒน์สีทอง

กองบรรณาธิการ

นักเรียนโครงการส่งเสริม
ความสามารถพิเศษด้านภาษาไทย

ฝ่ายออกแบบ

นายภูพิรัฐ พิกุลทอง
นางสาววิภา แซ่เตียว
นางสาวกัญญาณัฐ พัฒน์สีทอง

ที่ปรึกษา

นายวรพงศ์ สองเมือง

จากใจ บ.ก.

สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ นักอ่านทุกท่านพบกับวารสาร DREAMS
ฉบับที่ 4 ประจำเดือนกันยายน 2564 พบกับสาระน่ารู้ในเรื่อง
การเปลี่ยนแปลง

ภายในวารสารฉบับนี้ได้รวบรวมบทความการเปลี่ยนแปลง
ได้แก่ ภาษาไทยในปัจจุบัน การเตรียมพร้อมในการเข้าศึกษาต่อ
ทัศนคติ บุคลิกภาพ การรับมือกับสถานการณ์ปัจจุบัน ค่านิยม
การเหยียดสีผิว เทคโนโลยี การคมนาคมและการก้าวเข้าสู่วัยรุ่น
อีกทั้งบรรณาธิการได้สอดแทรกคำคม เพื่อจรรโลงใจ ให้ผู้อ่านได้
รับความเพลิดเพลิน

พวกเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าวารสารฉบับนี้จะช่วยให้นักอ่าน
ทุกท่านได้เข้าใจ และรับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงในด้านต่าง ๆ และ
อยากให้นักอ่านทุกท่านได้ปรับตัวและรับมือต่อการเปลี่ยนแปลง
เราเชื่ อว่าทุกการเปลี่ยนแปลงย่อมส่งผลดีเสมอ

สารบัญ หน้า

เรื่อง 1
3
บุคลิกภาพ 5
วัยรุ่น วัยร้อน 7
บอกเล่าก้าวเดิน 9
สู่ความสะดวก 11
พลังแห่งภาษา 13
อนาคตที่เรากำหนดเอง 15
กระจกสะท้อนความคิด 17
ความแตกต่างสู่การเปลี่ยนแปลง 19
เปลี่ยนแปลงเพื่อสังคม 21
เทคโนโลยีก้าวไกล
มาตรฐานตามค่านิยม

บุคลิกภาพ

บุคลิกภาพ หมายถึง ลักษณะโดยส่วนรวมเป็นจำเพาะแต่ละบุคคล
ทั้งลักษณะภายในและภายนอกซึ่งแสดงออกในลักษณะท่าทางหรือความรู้สึก
นึกคิด ความสามารถในการปรับตัวต่อสภาพแวดล้อมและบุคคลที่เกี่ยวข้อง
ทุกคนล้วนมีบุคลิกภาพที่แตกต่างกัน

บทความนี้กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงบุคลิกภาพของตนเองในช่วงระดับ
ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายที่เจาะจงกลุ่มตัวอย่างขึ้นมา ด้วยเหตุผล
จากกลุ่มตัวอย่างนี้ต้องเผชิญหน้าในอนาคตกับการเข้าสู่ระดับอุดมศึกษา
การเปลี่ยนแปลงบุคลิกภาพนั้นมีผลอย่างยิ่งก็ต่อเมื่อเราใช้ในการสอบ
สัมภาษณ์เพื่อเข้าศึกษา แน่นอนว่าหากผู้เข้าสัมภาษณ์มีบุคลิกภาพที่ดี
ดึงดูดและน่าสนใจ คณะกรรมการจะเกิดความสนใจในตัวเรามากยิ่งขึ้น

1
ธันยพัต สาริขา

สิ่งแรกที่เราควรพึงปฏิบัติคือ การเชื่อมั่นในตนเอง ไม่เปรียบเทียบ
กับคนอื่น มีความคิดเชิงบวก มองโลกในแง่ดีและต้องเชื่อว่า
การเป็นตัวของตัวเองเป็นสิ่งที่ดึงดูดกรรมการได้ หากจำเป็นต้องพูด
เราควรสบตาผู้ฟังเสมอ ไม่ควรจ้องมองผู้ฟังนานเกินไป มีทัศนคติที่ดี
ยิ้มอย่างจริงใจและที่สำคัญต้องไม่กลัวการเป็นตัวของตัวเอง

บุคลิกของคนเราถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะละเลยไม่ได้ เพราะสิ่งเหล่านี้
จะแสดงออกถึงความเป็นตัวคุณได้อย่างดีมากที่สุด เหมือนกับคำที่ว่า
“ บุคลิกดี มีชัยไปกว่าครึ่ง ” เราทุกคนไม่ว่าจะอยู่ในช่วงวัยใดต้องไม่กลัว
กับการเป็นตัวของตัวเอง และมีแง่คิดในเชิงบวก เพราะทั้งหมดนี้ถือเป็น
การเปลี่ยนแปลงบุคลิกภาพเพื่อตัวพวกคุณ

2
ธันยพัต สาริขา

วัยรุ่น วัยร้อน



วัยรุ่นถือเป็นช่วงวัยเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงหลายด้าน
จริงหรือคำถามเหล่านี้มักจะขึ้นจากเด็กที่กำลังจะก้าวเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น
วัยรุ่นเป็นวัยที่มีอายุตั้งแต่ 10-20 ปี เป็นวัยที่ต้องเผชิญกับสิ่งที่ต้อง
เปลี่ยนแปลงทั้งด้านสภาพจิตใจ อารมณ์และร่างกาย รวมทั้งสังคม
และคนรอบข้างที่เปลี่ยนแปลงไป

อิทธิพลต่าง ๆ ทำให้เด็กวัยนี้มีความคิดทัศนคติที่แปลกใหม่
และมีความเชื่อมั่นในตนเองมากขึ้น ชอบพูด ชอบความอิสระ ชอบเข้า
สังคมและชอบแสดงความคิดเห็น เพื่อเรียนรู้สิ่งใหม่ วัยรุ่นนั้นมีความ
สนใจในการปรับตัวเข้าหาเพื่อนต่างเพศและมีการดูแลตนเองรักสวย
รักงามมากกว่าช่วงวัยอื่น เช่น การใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อรักษาผิวพรรณ
หรือแม้แต่การใช้เครื่องสำอางต่าง ๆ เป็นต้น

3
ปุณญรัศมิ์ ทอดสนิท

นอกจากนี้วัยรุ่นยังมีความวิตกกังวลเป็นอย่างมาก
เช่น การวิตกกังวลจากการผิดปกติของร่างกาย การวิตกกังวล
กับการแข่งขันเพื่ อเอาชนะผู้อื่ นและการวิตกกังวลเรื่อง
ความสัมพันธ์กับเพื่อน ทั้งเพื่อนเพศเดียวกันและเพื่อนต่างเพศ

ดังนั้น จึงควรหาวิธีรับมือและแก้ไขเพื่อไม่ให้กระทบ
ต่อตนเองและผู้อื่ นพฤติกรรมของวัยรุ่นผู้ใหญ่มักมองว่า
แปลกและมองว่าไม่เหมาะสมแท้จริงแล้วเป็นเรื่องธรรมดา
ของเด็กวัยรุ่นนั่นเอง ถ้าผู้ใหญ่เข้าใจ พูดคุยและสามารถให้
คำแนะนำได้ การเปลี่ยนแปลงของเด็กวัยรุ่นก็จะไปในทางที่ดี

แต่ถ้าหากผู้ใหญ่ไม่เข้าใจ ไม่พูดคุยและไม่ให้คำแนะนำ
คอยแต่จะต่อว่าหรือด่าทอ การเปลี่ยนแปลงของวัยรุ่นก็จะเป็น
ไปในทางที่ไม่ดีเพราะทุกการเปลี่ยนแปลงย่อมมีผลลัพธ์เสมอ
การให้ความสนใจเข้าใจและเข้าถึงเราจะอยู่ร่วมกันในสังคม
อย่างมีความสุข

4
ปุณญรัศมิ์ ทอดสนิท

บอกเล่าก้าวเดิน

เชื่ อว่าเด็กมัธยมปลายส่วนใหญ่ต้องเคยผ่านช่วงของ
การสอบเข้ามหาวิทยาลัยมาบ้างแล้วหรืออาจจะเจอในอีกไม่ช้า
ไม่ช้าโดยระบบสอบเข้ามหาวิทยาลัยไทยได้เปลี่ยนแปลงไปดังนี้
เริ่มแรกที่ระบบENTRANCE ยุคที่ 2 ระบบADMISSION
และระบบใหม่ล่าสุดคือระบบ TCAS โดย TCAS65 เป็นระบบ
ที่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเด็กซิ่วจากปีอื่ นจะได้รับ
โดยทปอ.ได้มีการปรับเปลี่ยนจำนวนรอบในการรับนักศึกษา
เข้าใหม่เป็น 4 รอบจากเดิมที่มี 5 รอบ

การสอบเข้ามหาวิทยาลัยในความคิดของนักเรียน
ส่วนใหญ่ก็เหมือนการเลือกทางเดินชีวิตในวันข้างหน้า แต่ทุกคน
ก็ไม่ควรกดดันตัวเองเกินไปให้เชื่อมั่นไว้ว่าเราเก่ง มีความสามารถ
และคอยให้กำลังใจตัวเองเสมอ ทุกคนจะพบกับเส้นทางชีวิตที่ดี
อย่างแน่นอน

5
กุลธิดา โอยิ่ง

01

รอบที่ 1 PORTFOLIO
สำหรับทุกคนที่มีความสามารถพิเศษตรงตาม
ที่มหาวิทยาลัยต้องการ ใช้แฟ้มสะสมผลงาน

เป็นเกณฑ์ในการคัดเลือก



02 รอบที่ 2 QUOTA

สำหรับนักเรียนในโครงการพิเศษและคนที่ภูมิลำเนา

อยู่ในพื้ นที่ตามเกณฑ์มหาวิทยาลัยกำหนด

โดยใช้คะแนนส่วนกลาง เช่น GAT-PAT วิชาสามัญ




รอบที่ 3 ADMISSION 03

รอบรับตรงร่วมกัน ที่ให้สมัครพร้อมกันทั่วประเทศ

ใช้ทั้งคะแนนส่วนกลางจำพวก GAT-PAT วิชาสามัญ

วิชาเฉพาะ อาจจะมีการกำหนดเกรดในบางมหาวิทยาลัย




04
รอบที่ 4 DIRECT ADMISSION

รอบรับตรงอิสระ ที่มหาวิทยาลัยจะจัดสอบขึ้นมาเอง

เกณฑ์ก็ขึ้นอยู่กับมหาวิยาลัยและใช้คะแนนส่วนกลาง
เช่น GAT-PAT วิชาสามัญ วิชาเฉพาะ



6
กุลธิดา โอยิ่ง

สู่ความสะดวก

นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันประเทศไทยได้มี
การวางแผนพัฒนาสภาพแวดล้อมอยู่เสมอ โดยเฉพาะ
การคมนาคมการคมนาคมคือการเดินทางและรวมถึง
การเคลื่อนย้ายของไปยังสถานที่ปลายทาง กล่าวคือ
การขนส่งการคมนาคมมีทั้งทางบกทางน้ำและทาง
อากาศ แต่ส่วนใหญ่แล้วจะนิยมการคมนาคมทางบก
ซึ่งในอดีตนั้นยังไม่มีการพัฒนาในด้านนี้มากนัก

ประเทศไทยจึงมีแผนพัฒนาการคมนาคม
อย่างต่อเนื่ องและให้ความสำคัญกับการคมนาคม
เป็นอย่างมากจนกระทั่งในปัจจุบันได้นเทคโนโลยี
เข้ามาประยุกต์ใช้และพัฒนาเส้นทางการเดินทางให้
สะดวก ทั้งการสร้างสะพานลอยฟ้า การซ่อมแซม
ถนน การตัดเลี่ยงถนนบางเส้น การเพิ่มทางเลือก
ในการเดินทางซึ่งได้แก่ ทางด่วน ทางลัด เป็นต้น

7
วรพรรณ ลาภยศ

ดังนั้นจึงส่งผลให้การคมนาคมนั้นมีความสะดวกรวดเร็ว
มีประสิทธิภาพ ทันสมัยและมีความปลอดภัย ครอบคลุมในพื้ นที่
ช น บ ท ม า ก ขึ้ น ทั้ง นี้ ยั ง มี ก า ร เ ปิ ด ตั ว ข อ ง ห ล า ก ห ล า ย บ ริษั ท ที่ เ กี่ ย ว ข้ อ ง
กับการคมนาคม ทำให้มีอาชีพใหม่ขึ้นมา เป็นการเปิดโอกาสสำหรับ
ผู้ที่ว่างงานรวมทั้งผู้ใช้บริการยังมีตัวเลือกที่หลากหลายในการขนส่ง
อีกด้วย

นอกจากนี้ยังมีการพัฒนายานพาหนะสำหรับอำนวย
ความสะดวกในการคมนาคมให้มีความทันสมัย เพื่ อเป็นตัวเลือก
ให้กับผู้ใช้บริการและที่สำคัญต้องรองรับผู้คนได้จำนวนมากควบคู่
กับความปลอดภัยต้องสูงเช่นกัน ในปัจจุบันประเทศไทยก็ยังคง
พัฒนาด้านการคมนาคมอย่างต่อเนื่ องเพื่ อให้มีความทันสมัย
ประกอบกับความปลอดภัยสูงและประสิทธิภาพที่ดียิ่งกว่าเดิม

8
วรพรรณ ลาภยศ

พลังแห่งภาษา

มนุษย์เรามีองค์ประกอบสำคัญในชีวิตประจำวันคือการสื่อสาร
การสื่อสารที่ดีคือการที่ผู้ส่งสารส่งข้อมูลออกไป ผู้ฟังสามารถเข้าใจ
ความหมายของสารที่สื่อมาได้อย่างถูกต้อง ไม่เกิดการผันแปรของ
ความหมายไปในทิศทางอื่ น

ภาษาไทยก็เช่นเดียวกัน ภาษาไทยนั้นเป็นภาษาที่มีการใช้
มาตั้งแต่โบราณและเป็นภาษาที่มีเอกลักษณ์ ปัจจุบันผู้คนส่วนใหญ่
ก็ยังคงเอกลักษณ์ของภาษาไทยไว้ดังเดิม แต่ยุคสมัยที่ปรับเปลี่ยน
ตามสังคมโลกเข้าสู่ความเป็นสากลยิ่งขึ้น สื่อโซเชียลมีเดียมีข้อมูล
ใหม่ ๆ ตลอดเวลา ทำให้คนรุ่นใหม่ได้รับอิทธิพลทางภาษา ดังนั้น
จึงก่อเกิดคำใหม่ที่มีความหมายต่างไปจากอดีต

9
นวิยา จันทรพิมล

การเพิ่มใส่ความหมายแฝงลงไปในคำหรือการพูดภาษาไทย
สลับกับภาษาอังกฤษ ส่งผลให้คนในแต่ละช่วงวัยมีความเข้าใจที่
ไม่ตรงกัน สื่อความหมายผิดพลาด เนื่องจากความไม่เข้าใจในคำ
ที่ก่อกำเนิดขึ้นมาในช่วงหนึ่ง แน่นอนว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่
อาจก่อความสับสนต่อผู้ที่ตามไม่ทันกระแสโลกาภิวัตน์

ในยุคที่สิ่งใหม่ ๆ เป็นที่นิยมเป็นช่วง ๆ การที่จะตามทัน
และเข้าใจในความหมายในทันทีนั้นเป็นไปได้ยาก ดังนั้นจึงต้องมี
การปรับตัว ทำความเข้าใจในการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เมื่อได้รับ
ข้อมูลใหม่ ๆ ควรวิเคราะห์และหากไม่เข้าใจควรสอบถามผู้พูดหรือ
ค้นหาความหมายที่แท้จริงของคำเพื่อหลีกเลี่ยงความผิดพลาด
ในการสื่อสาร

10
นวิยา จันทรพิมล

อนาคตที่เรากำหนดเอง

ในช่วงชีวิตของเราดำเนินมาเรื่อย ๆ มักมีการเปลี่ยนแปลงที่แตกต่าง
ออกไป ตั้งแต่ช่วงชั้นปฐมวัยก้าวไปสู่ประถมศึกษา หลังจากนั้นก็ต้องแยก
กันไปเพื่อเข้าสู่ระดับมัธยมศึกษา และหลังจากช่วงวัยมัธยมศึกษาจบ
ก็ต้องเตรียมตัวเพื่อเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา เราก็จะมีการพัฒนา
และการเปลี่ยนแปลงในตัวเองมากมาย

บทความนี้จะกล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงตนเองก่อนเข้าสู่ระดับอุดมศึกษา
ก่อนอื่นเราต้องรู้จักการวางแผน ตั้งเป้าหมาย และจัดการกับสิ่งที่เป็น
อุปสรรคต่าง ๆ เช่น ความเครียด แรงกดดันและความขี้เกียจของตนเอง
หลังจากนั้นก็เริ่มไล่เรียงว่าเราต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้างตามลำดับ

11
วิภา แซ่เตียว

ประเด็นแรก คือการวางแผนและตั้งเป้าหมาย เราควรที่จะ
ค้นหาตนเองว่าเราสนใจที่จะศึกษาต่อในด้านใด แล้วจึงหาข้อมูลของ
คณะและมหาวิทยาลัยนั้น ๆ จากนั้นก็เริ่มจัดตารางเวลาในการอ่าน
หนังสือทบทวนเนื้อหา โดยควรเน้นในรายวิชาที่เราใช้คะแนนเพื่อยื่น
กับทางมหาวิทยาลัย แต่ก็ไม่ควรละทิ้งวิชาอื่น ๆ สำหรับบางคนอาจ
มีการเรียนพิเศษเพิ่มเติมนอกเหนือจากการเรียนในโรงเรียน
เพื่อมุ่งเน้นให้เข้าใจเนื้อหามากยิ่งขึ้น

ประเด็นต่อมา คือการจัดการกับสิ่งที่เป็นอุปสรรคต่าง ๆ เช่น
ความเครียดของตัวเราเอง แรงกดดันจากคนรอบข้าง รวมไปถึง
ความขี้เกียจของตัวเอง ในชีวิตของเด็กมัธยมศึกษาตอนปลายมัก
ได้รับแรงกดดันจากคนรอบข้างมากมายทำให้วัยนี้เป็นวัยที่มักจะ
เกิดความเครียดได้ง่าย เราจึงควรหาวิธีรับมือและผ่อนคลายตนเอง
เช่น หาเวลาว่างในการพักผ่อนหรือทำกิจกรรมที่ชื่นชอบ เพื่อไม่ให้
เกิดเป็นความเครียดสะสม

ประเด็นสุดท้ายเกี่ยวกับความสม่ำเสมอ ในการลงมือทำ
ทั้งการตั้งใจเรียนในห้องเรียน การอ่านหนังสือทบทวนบทเรียน
และฝึกทำข้อสอบต่าง ๆ อยู่สม่ำเสมอ หากเราเปลี่ยนแปลงตนเอง
ไปในทางที่ดีขึ้นได้ เราก็จะก้าวเดินไปตามความฝันที่จะเข้าศึกษาต่อ
ในระดับอุดมศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

12
วิภา แซ่เตียว

กระจกสะท้อนความคิด

ความคิดที่แตกต่างกัน เป็นความหลากหลายที่มีปะปนกันในสังคม
ทุกช่วงอายุของเรา ซึ่งขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างที่เกิดกับตัวเราหรือ
จดจำจากการมองเห็นการกระทำผู้อื่ นรอบตัวในระยะหนึ่งจนทำให้เกิด
กระบวนการทางความคิดเหล่านั้นที่เกิดขึ้น ซึ่งความคิดเหล่านี้จะสามารถ
ช่วยเหลือหรือสร้างประโยชน์ได้มากแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับตัวของบุคคล
ที่แสดงให้เราได้เห็น ซึ่งบุคคลภายนอกจะสามารถเห็นมุมมองนั้นได้
อย่างชัดเจน

ความคิดเป็นส่วนสำคัญในการดำเนินชีวิตและการทำงานในหลาย
เหตุการณ์ เป็นจุดเริ่มต้นของความคิดจากสิ่งตรงหน้า สำหรับผู้ที่มี
มุมมองกว้างจะสามารถมองเห็นถึงแก่นที่กำเนิดปัญหาเหล่านั้น
และลงมือแก้ไขในสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว เมื่อความคิดของเรา
เป็นความคิดเชิงบวกต่อให้เจออุปสรรคในการทำงานเราก็จะหาทางออก
ที่ดีและถูกต้องได้เสมอ รวมถึงการแยกสิ่งที่จำเป็นต้องคิดและสิ่งที่ไม่
จำเป็นออกจากกันได้เป็นอย่างดี

13

กฤษณา คงคาไหว

ผู้มีทัศนคติที่ดี มีความคิดที่ดีจะดำเนินชีวิตอย่างสงบ เรียบง่าย
เพราะคนเหล่านี้มองเห็นถึงสิ่งรอบตัวที่เข้ามาอย่างทั่วถึง และไม่มีอคติกับ
สิ่งเหล่านั้น ในปัจจุบันการรับคนเข้าทำงานภายใต้บริษัทหรือการมองหา
เพื่อนใหม่รอบตัวก็มองจากทัศนคติในการตอบคำถามหรือการพูดคุย
เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่แสดงตัวตนของเราออกมา

และสิ่งเหล่านี้ถือเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งอีกด้วย และสามารถแสดง
ออกมาได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งการกระทำ การพูดจาสนทนาระหว่างกัน
และความคิด การที่เราหมั่นฝึกฝนให้ตนเองมีทัศนคติที่ดีจึงมีผลต่อการ
ดำเนินชีวิตต่อไปในอนาคตอย่างมาก

14

กฤษณา คงคาไหว

ความต่างสู่การเปลี่ยนแปลง

การเหยียดเชื้อชาติหรือสีผิว เป็นปัญหาที่สร้างความเจ็บปวด
แก่หลายต่อหลายคนซึ่งมีมาอย่างยาวนาน จนในปัจจุบันศตวรรษ
ที่ 21 ก็ยังคงมีอยู่ เรามักจะเจอข่าวความรุนแรงจากการเหยียด
เชื้อชาติ เหยียดสีผิวอยู่บ่อยครั้ง

ในสมัยก่อนมีการค้าแรงงานมนุษย์ หรือค้าทาส ที่ทำให้ปัญหา
การเหยียดเชื้อชาตินั้นถูกปลูกฝังมาอย่างยาวนานตัวอย่างเช่น
ในสหรัฐอเมริกา ชาวแอฟริกันมักจะโดนเหยียดและปฏิบัติอย่างไม่
เท่าเทียมกับคนผิวขาวหรือสิทธิบางอย่างที่คนผิวดำไม่อาจทำได้
เช่นคนผิวขาว จนเวลาผ่านไปความคิดของคนก็เปลี่ยนไปและเริ่มมี
การปฏิวัติในเรื่องต่าง ๆ รวมไปถึงความคิดของคน จึงทำให้คนผิวดำ
ได้รับการยอมรับมากยิ่งขึ้นและมีความเท่าเทียมกันกับทุกชนชาติ

15
ชฎาทิพย์ รัตตัญญู

ในปี 2020 การเสียชีวิตอย่างไม่เป็นธรรมของ
จอร์จ ฟลอยด์ ที่ทำให้เกิดการปลุกระดมเพื่อเรียกร้อง
ความยุติธรรมของคนผิวดำหลาย ๆ พื้นที่ในสหรัฐอเมริกา
เกิดการประท้วง ซึ่งไม่ได้มีเพียงแค่คนผิวดำแต่ทุกชนชาติ
ในสหรัฐอเมริกาล้วนออกมาเรียกร้องความยุติธรรม
และต่อต้านความรุนแรงที่เกิดขึ้น ต่างกับในสมัยก่อน
ปัญหานี้อาจถูกมองข้ามเป็นเรื่องธรรมดา ที่ไม่มีใครสนใจ

ปัญหาการเหยียดเชื้อชาติ รวมไปถึงการฉกฉวยทาง
วัฒนธรรม ที่เป็นประเด็นละเอียดอ่อนและต้องใช้ความเข้าใจ
ในปัจจุบันเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น หลายคน
เริ่มเข้าใจว่าการกระทำต่าง ๆ ที่เรามองว่าเป็นเรื่องปกตินั้น
จะส่งผลเสียและความเจ็บปวดต่อใครบางคน ซึ่งเป็นสิ่งที่
ทุกคนควรศึกษาเอาไว้และไม่ควรละเลย

16
ชฎาทิพย์ รัตตัญญู

เปลี่ยนแปลงเพื่อสังคม



ในปัจจุบันประเทศไทยเข้าสู่สถานการณ์ COVID-19
ขั้นวิกฤต นั่นจึงทำให้หลายภาคส่วนได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง
ประชาชนจึงต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อรักษา
และเอาตัวรอดจากสถานการณ์นี้ เนื่องจากภัยของโรคร้ายชนิดนี้
คร่าชีวิตผู้คนไปหลายชีวิต เราจึงต้องปรับตัวเข้าสู่สภาวะไม่ปกติ
ในขณะนี้อย่างรวดเร็วที่สุด

COVID-19 อาจจะเกิดจากสัตว์และแพร่เชื้อถึงคน ซึ่งได้รับ
ผลกระทบทั่วโลก การแพร่เชื้อของโรคร้ายนี้เกิดจากการหายใจ
โดยละอองฝอยจากจมูกหรือปากที่ขับออกมาจากผู้ติดเชื้อ รวมไปถึง
การใกล้ชิดกับผู้ที่รับเชื้อชนิดนี้มาจึงทำให้เกิดการแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง
และรวดเร็ว การเปลี่ยนแปลงตนเองเพื่อรับมือกับโรคร้ายชนิดนี้ ต้องเริ่ม
จากการศึกษาความร้ายแรงของเชื้อนี้ก่อนแล้วจึงเริ่มการปรับตัวเข้าสู่
สภาวะไม่ปกติ โดยการเปลี่ยนอุปนิสัยในด้านการรักษาความสะอาดรอบตัว
และในตัวเรา เปลี่ยนแนวปฏิบัติในสังคมเมืองหรืออื่น ๆ

17
กัญญาณัฐ พัฒน์สีทอง

การรักษาความสะอาด เช่น ล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์
การใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันละอองฝอยจากการหายใจร่วมกันกับคน
รอบข้าง การใช้ของส่วนตัวไม่ใช้ร่วมกับผู้อื่นและการไม่คลุกคลีกับผู้ที่
ติดเชื้อหรือกลุ่มสุ่มเสี่ยง การดูแลตนเองภายใน เช่น การสังเกตอาการ
ของตนเองอยู่เสมอ หากมีไข้ขึ้นหรือมีอาการเจ็บคอร่วมกับการไอให้รีบ
พบแพทย์ เพื่อปรึกษาแพทย์และเพื่อสังเกตอาการเบื้องต้น สถานการณ์นี้
ไม่ได้มีผลกระทบแค่ร่างกายแต่ยังมีผลกระทบทางจิตใจอีกด้วย ดังนั้น
การเรียนรู้เพื่อปรับตัวเข้าสู่สถานการณ์จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ

ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงตนเองเพื่อปรับตัวเข้าสู่สถานการณ์
COVID-19 จึงเป็นสิ่งที่สำคัญต่อประชากรทุกคนในช่วงนี้ เพราะการที่
เรานั้นรับมือกับสถานการณ์ไม่ปกตินี้ได้ถือว่าเป็นวัคซีนชนิดหนึ่งที่สามารถ
บรรเทาร่างกายและจิตใจเราได้ หากทุกคนร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ของตนเอง
เชื่อว่าเชื้อร้ายชนิดนี้จะหายไป เพราะฉะนั้นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต้องเริ่มต้น
ที่ตนเอง

18
กัญญาณัฐ พัฒน์สีทอง

เทคโนโลยีก้าวไกล

มนุษย์เรามีความต้องการไม่จบสิ้น สิ่งที่ตอบสนอง
หรือเติมเต็มความต้องการให้กับเราคือสิ่งที่เรียกว่า
เทคโนโลยีซึ่งเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวก
ความสะดวกหลายด้าน เช่น เทคโนโลยีทางการแพทย์
ที่สามารถช่วยชีวิตหรือรักษามนุษย์ได้ เทคโนโลยีสารสนเทศ
เพื่อการสื่อสารที่สามารถกว้างไกลไร้ขีดจำกัดทุกที่ทั่วโลก
นี่เป็นแค่สิ่งที่เกิดขึ้นและยังมีอีกหลายด้านมากมาย
ที่เทคโนโลยีเข้ามาช่วยมนุษย์

เทคโนโลยีนั้นเปลี่ยนแปลงอย่างไม่หยุดหย่อน
และมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ในทุกวันนี้หรือในยุคนี้
เทคโนโลยีที่มีประโยชน์จะมีการใช้อย่างกว้างขวาง
และที่สุดคือโทรศัพท์มือถือหรือโทรศัพท์เคลื่ อนที่
ในประเทศไทยนั้นมีการใช้โทรศัพท์ครั้งแรกใน
พ.ศ. 2450 นับจากตอนนั้นมาถึงตอนนี้ผ่านเวลาร่วม
ศตวรรษเศษโทรศัพท์มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจน
สามารถทำได้แทบทุกอย่าง

19
ภูพิรัฐ พิกุลทอง

เปรียบง่าย ๆ หากว่าในวันนี้ เวลานี้คุณจะเลือกเอาสิ่งหนึ่ง
ออกจากบ้านได้แค่อย่างเดียวระหว่างกระเป๋าสตางค์กับโทรศัพท์
คุณจะเลือกสิ่งใดล่ะและจะเห็นได้ว่าทุกวันนี้เราใช้เทคโนโลยีแทบทุก
บริบทในชีวิตประจำวัน เช่นด้านการทำอาหารเราก็มีหม้อหุงข้าว เตาแก๊ส
มีเครื่องใช้ไฟฟ้ามากมาย ในส่วนของด้านการเดินทางก็มียานพาหนะ
ให้เลือกใช้ตามความสะดวก

สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่มนุษย์คิดค้นขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการ
พวกมันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไม่หยุดยั้งและแต่ละสิ่งก็มอบความสะดวก
สบายแก่เรา อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปอย่าง
ไม่อาจหยุดได้ ขอให้เราปรับตัวและใช้เทคโนโลยีไปในด้านที่ดีและทำให้เกิด
ประสิทธิภาพสูงสุดแก่ตัวเรา

20
ภูพิรัฐ พิกุลทอง

มาตรฐานตามค่านิยม

ความสวยรูปร่างหน้าตาในอุดมคติเป็นเช่นนี้ อะไรคือสิ่งที่ใช้วัด
มาตรฐานและใครคือคนตั้งกฏเกณฑ์เหล่านี้ขึ้นมาเป็นบรรทัดฐาน
ในสังคม ถ้าไม่ใช่ตัวเราเองที่คล้อยตามค่านิยมที่มีมาเนิ่นนาน
และไม่รู้ว่าใครเป็นผู้สร้างมา

เราทุกคนต่างมีเอกลักษณ์ เสน่ห์เป็นของตนเอง อย่าดูถูก
รูปลักษณ์ตัวเราเองตามค่านิยมในสังคมที่ว่า “ ต้องขาวสวยถึงจะ
ผ่านมาตรฐานของสังคม ” ดังนั้นเราต้องมีความมั่นใจในตัวเอง
เพราะแท้จริงแล้วทุกคนต่างชอบความงามจากภายในมากกว่า
ภายนอก

21
อาทิตย์ นาคบุญช่วย

“ การเปลี่ยนแปลงที่ดีที่สุด
ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงเพื่อใคร
แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงเพื่อตนเอง ”

- สาระอัปเดต -

“ เมื่อเราไม่สามารถ
เปลี่ยนแปลง
สถานการณ์ได้

เราท้าทายมันด้วย
การเปลี่ยนแปลงตนเอง ”

- Viktor Frankl -