The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลจากฐานกำไรสุทธิ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

การคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลจากฐานกำไรสุทธิ

การคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลจากฐานกำไรสุทธิ

การคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลจากฐานกำไรสุทธิ ตามมาตรา 65 ทวิ สาระสำคัญ ในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล ฐานที่ใช้ในการคำนวณภาษีมีหลายฐาน ได้แก่ ฐานกำไรสุทธิ ฐานรายได้ก่อนหักรายจ่าย ฐานเงินได้ที่จ่ายจากประเทศไทย และฐานการจำหน่ายเงินกำไรไปต่างประเทศ ฐานที่ใช้ในการคำนวณภาษีมากที่สุดได้แก่ ฐานกำไรสุทธิ ซึ่งคำนวณจากรายได้หักค่าใช้จ่ายได้กำไรสุทธิ ทางบัญชีแล้วปรับปรุงให้เป็นกำไรสุทธิทางภาษีตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขกฎหมายตามมาตรา 65 ทวิ และ มาตรา 65 ตรีแห่งประมวลรัษฎากร สาระการเรียนรู้ 1. อัตราภาษีในการคำนวณภาษีจากฐานกำไรสุทธิ 2. เงื่อนไขการคำนวณกำไรสุทธิตามมาตรา 65 ทวิ 3. การคำนวณและการบันทึกบัญชีภาษีเงินได้นิติบุคคลจากฐานกำไรสุทธิ ตามมาตรา 65 ทวิ จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกอัตราภาษีในการคำนวณภาษีจากฐานกำไรสุทธิได้ 2. อธิบายเงื่อนไขกฎหมายตามมาตรา 65 ทวิได้ 3. สามารถคำนวณและการบันทึกบัญชีภาษีเงินได้นิติบุคคลจากฐานกำไรสุทธิตามมาตรา 65 ทวิได้


แบบทดสอบก่อนเรียน แสกนเพื่อทำแบทดสอบก่อนเรียน คำชี้แจง : จงเลือกคำตอบที่ถูกต้อง 1. กรณีเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ไม่ใช่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลต้องคำนวณภาษี ในอัตราร้อยละเท่าไรของกำไรสุทธิ ก. ร้อยละ 10 ข. ร้อยละ 15 ค. ร้อยละ 20 ง. ร้อยละ 25 จ. ร้อยละ 30 2. กรณีเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วในวันสุดท้ายของรอบ ระยะเวลาบัญชีไม่เกินกี่บาท ก. 3 ล้าน ข. 5 ล้าน ค. 7 ล้าน ง. 10 ล้าน จ. 12 ล้าน 3. กรณีเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีทุนจดทะเบียนมีรายได้จากการขายสินค้าและการ ให้บริการในรอบระยะเวลาบัญชี ไม่เกินกี่บาท ต่อเนื่องกัน ก. 10 ล้าน ข. 20 ล้าน ค. 30 ล้าน ง. 40 ล้าน จ. 50 ล้าน


4. นิติบุคคลใดต่อไปนี้ต้องเสียภาษีครึ่งรอบระยะเวลาบัญชีจากการประมาณการกำไรสุทธิ ก. บริษัท ไทย จำกัด ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ข. ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด ค. มูลนิธิหรือสมาคม ง. บริษัทเงินทุนทิสโก้จำกัด จ. ห้างหุ้นส่วนจำกัด 5. มาตรา 65 ทวิ (2) คือ ก. ค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคา ข. การตีราคาทรัพย์สิน ค. การโอนทรัพย์สิน ง. รายการค้าที่ไม่เป็นไปตามราคาตลาด จ. การคำนวณมูลค่าหของทรัพย์สินหรือหนี้สินซึ่งมีค่าหรือราคาเป็นเงินตราต่างประเทศ 6. การคำนวณเงินตราหรือทรัพย์สินต้องคำนวณตามอัตราข้อใด ก. อัตราถัวเฉลี่ยที่ธนาคารพาณิชย์รับซื้อ ข. อัตราถัวเฉลี่ยที่ธนาคารพาณิชย์รับขาย ค. อัตราถัวเฉลี่ยระหว่างอัตราซื้อและอัตราขาย ง. อัตราที่ตลาดรับซื้อ จ. อัตราที่ตลาดรับขาย 7. กิจการ SMEs ให้หักตามเงื่อนไขและอัตราที่กำหนดไว้ในระยะเวลากี่ปี ก. 2 ปี ข. 5 ปี ค. 10 ปี ง. 20 ปี จ. 25 ปี


8. มูลค่าต้นทุน หมายถึง อะไร ก. ราคาที่พึ่งซื้อทรัพย์สินนั้นรวมค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ข. ราคาทรัพย์สินที่คำนวณรายได้และค่าใช้จ่ายตามเกณฑ์อื่น ค. ราคาทรัพย์สินที่ได้ซื้อมาครั้งแรกรวมค่าใช้จ่ายในการติดตั้งและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ง. รายได้จากกิจการที่ดำเนินงานตามวัตถุประสงค์ที่จดทะเบียนไว้ต่อกระทรวงพาณิชย์ จ. ไม่มีข้อใดถูก 9. มาตรา 65 ทวิ ให้หักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาตามพระราชกฤษฎีกา ฉบับที่เท่าใด ก. ฉบับที่ 124 ข. ฉบับที่ 145 ค. ฉบับที่ 186 ง. ฉบับที่ 189 จ. ฉบับที่ 193 10. บริษัทจำกัดที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยได้รับเงินปันผลหรือส่วนแบ่งกำไรจากอะไรบ้าง ที่มาตรา 65 ทวิ (10) กำหนดให้เงินปันผลได้รับการยกเว้นภาษี ก. กองทุนรวม ข. กิจการร่วมค้า ค. บริษัทจำกัดที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ง. สถาบันการเงินที่มีกฎหมายจัดตั้งขึ้นสำหรับกู้ยืมเงินเพื่อส่งเสริมเกษตร พาณิชยกรรม หรือ อุตสาหกรรม จ. ถูกทุกข้อ


ผังความคิด (Mind Mapping) การคำนวณภาษีเงินได้ นิติบุคคลจากฐานกำไรสุทธิ ตามมาตรา 65 ทวิ อัตราภาษีในการคำนวณ ภาษีจากฐานกำไรสุทธิ การคำนวณและการบันทึกบัญชีภาษี เงินได้นิติบุคคลจากฐานกำไรสุทธิ 1. การคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งรอบระยะเวลาบัญชี 2. การคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลสิ้นรอบระยะเวลาบัญชี เงื่อนไขการคำนวณกำไรสุทธิ ตามมาตรา 65 ทวิ 1. รายการที่ระบุไว้ในมาตรา 65 ตรี ไม่ให้ถือเป็นรายจ่าย 2. ค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สิน 3. การตีราคาทรัพย์สิน 4. การโอนทรัพย์สิน 5. การคำนวณมูลค่าของทรัพย์สินหรือหนี้สิน ซึ่งมีค่าหรือ ราคาเป็นเงินตราต่างประเทศ 6. การตีราคาสินค้าคงเหลือ 7. การคำนวณราคาทุนของสินค้าที่ส่งเข้ามาจากต่างประเทศ 8. การคำนวณราคาทุนของสินค้าเป็นเงินตราต่างประเทศ 9. การจำหน่ายหนี้สูญ 10. เงินปันผลที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 11. ดอกเบี้ยเงินกู้ยืมที่อยู่ในบังคับต้องถูกหักภาษีไว้ ณ ที่จ่ายตามกฎหมายว่าด้วยภาษีเงินได้ปีโตรเลียม 12. เงินปันผลหรือส่วนแบ่งกำไรที่อยู่ในบังคับต้องถูกหักภาษี ไว้ ณ ที่ จ่าย ตามกฎหมายว่าด้วยภาษีเงินได้ปิโตรเลียม 13. มูลนิธิหรือสมาคมที่ประกอบกิจการซึ่งมีรายได้ 14. ภาษีขายของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่เป็น ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม


1. อัตราภาษีในการคำนวณภาษีจากฐานกำไร บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลจากฐานกำไรสุทธิจะต้องคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล และยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษีปีละ 2 ครั้ง คือ การคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งรอบ ระยะเวลาบัญชีและการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลสิ้นรอบระยะเวลาบัญชี ที่ รายการ ขั้นกำไรสุทธิ อัตรา ภาษี (%) 1 บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลรวมถึงบริษัท จดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์ฯ ทั้งจำนวน 20 2 บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีทุนที่ชำระแล้วใน วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกิน 5 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการใน รอบระยะเวลาบัญชีไม่เกิน 30 ล้านบาท (กิจการ SME) 0 – 300,000 300,001 – 3,000,000 เกิน 3,000,000 ขึ้นไป ยกเว้น 15 20 3 การสำนักงานปฏิบัติการภูมิภาค ทั้งจำนวน 10 4 กิจการนำเข้าส่งออกที่ได้อนุญาตจากกระทรวงพลังงาน ให้ค้าน้ำมันเชื้อเพลิง ทั้งจำนวน 10 5 การตั้งอยู่ในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ ทั้งจำนวน 3 6 กิจการศูนย์กลางการจัดหาสินค้าเพื่อการผลิตระหว่าง ประเทศ ทั้งจำนวน 15 7 กรณีได้รับอนุมัติจากกรมสรรพากรให้เสียภาษีจากยอด รายรับก่อนหักรายจ่าย - 5% ของ รายรับ


2. เงื่อนไขการคำนวณกำไรสุทธิตามมาตรา 65 ทวิ เงื่อนไขในการคำนวณกำไรสุทธิตามมาตรา 65 ทวิ เป็นข้อกำหนดในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ สินทรัพย์ หนี้สิน และรายได้ เงื่อนไขดังกล่าวมีรายละเอียดและข้อแตกต่างจากหลักการทางบัญชี ดังนี้ 1. รายการที่ระบุไว้ในมาตรา 65 ตรี ไม่ให้ถือเป็นรายจ่าย ประมวลรัษฎากรได้กำหนดห้ามไม่ให้นำรายจ่ายบางประเภทมาหักเป็นรายจ่าย ซึ่ง รายละเอียดจะกล่าวในหัวข้อต่อไปในหัวข้อ เงื่อนไขกฎหมายตามมาตรา 65 ตรี 2. ค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สิน มาตรา 65 ทวิ (2) กำหนดให้การหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาให้หักใต้ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และอัตราที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา การหักค่าสึกหรอและ ค่าเสื่อมราคา ดังกล่าวให้คำนวณหักตามส่วนเฉลี่ยแห่งระยะเวลาที่ได้ทรัพย์สินนั้นมา (พระราชกฤษฎีกา ฉบับที่ 145)


การหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาจะต้องไม่เกินอัตราร้อยละของ มูลค่าต้นทุนตามประเภทของทรัพย์สินดังต่อไปนี้ ประเภททรัพย์สิน ร้อยละ 1. อาคาร - อาคารถาวร - อาคารชั่วคราว 100 5 2. ต้นทุนเพื่อการได้มาซึ่งแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่สูญสิ้น ไปได้ 5 3. ต้นทุนเพื่อการได้มาซึ่งสิทธิการเช่า - กรณีไม่มีหนังสือสัญญาเช่าหรือมีหนังสือเช่าที่มี ข้อกำหนดให้ต่ออายุการเช่าได้ โดยเงื่อนไขในการต่ออายุนั้น ปิดโอกาสให้ต่ออายุการเช่าได้ต่อ ๆ ไป 10 - กรณีมีสัญญาเช่าที่ไม่มีกำหนดให้ต่ออายุการเช่าได้ หรือมีข้อกำหนดให้ต่ออายุการเช่าได้เพียงระยะเวลาอันจำกัด 100 หารด้วยจำนวนปีอายุ การเช่าและอายุที่ต่อได้รวมกัน 4. ต้นทุนเพื่อการได้มาซึ่งสิทธิในกรรมวิธี สูตร กู๊ดวิลล์เครื่องหมายการค้า สิทธิประกอบกิจการ ตามใบอนุญาต สิทธิบัตร ลิขสิทธิ์ หรือสิทธิอย่างอื่น - กรณีไม่จำกัดอายุการใช้ 10 - กรณีจำกัดอายุการใช้ 100 หารด้วยจำนวน ปีอายุการใช้ 5. ทรัพย์สินอย่างอื่นนอกจากที่ดินและสินค้า 20


2.1 มูลค่าต้นทุนของทรัพย์สินที่จะหักค่าเสื่อมราคา การหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาต้องหักจากมูลค่าต้นทุนของทรัพย์สินนั้น มูลค่าต้นทุน หมายถึง ราคาทรัพย์สินที่ได้ซื้อมาครั้งแรกรวมค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ จนกระทั่งทรัพย์สินพร้อมใช้งาน 2.2 วิธีการคำนวณค่าเสื่อมราคารวมทั้งการเปลี่ยนแปลงวิธีคำนวณ ประมวลรัษฎากร กำหนดให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลคำนวณค่าสึกหรอและค่า เสื่อมราคาตามหลักการบัญชี โดยเมื่อใช้วิธีการทางบัญชีใดและอัตราใดให้ใช้วิธีการนั้นและอัตรานั้น ตลอดไป จะเปลี่ยนแปลงได้ ต้องยื่นคำขออนุมัติต่ออธิบดีกรมสรรพากร เช่น กิจการเลือกใช้วิธีการ คำนวณค่าเสื่อมราคาสำหรับ เครื่องจักรด้วยวิธีเส้นตรงในอัตราร้อยละ 20 ก็ให้ใช้เส้นตรง และอัตรา ร้อยละ 20 ตลอดไป 2.3 การเริ่มต้นการคำนวณค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคา การคิดค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สินนั้นให้คำนวณนับตั้งแต่วันที่ได้ทรัพย์สินมา หากเป็น เครื่องจักรให้เริ่มคิดค่าเสื่อมราคา ตั้งแต่วันที่ติดตั้งเครื่องจักรเสร็จพร้อมที่จะใช้งานได้ ในกรณีที่ได้ทรัพย์สินนั้นมาในระหว่างรอบระยะเวลาบัญชี จะต้องคำนวณค่าเสื่อมราคา ตามส่วนเฉลี่ยแห่งระยะเวลาที่ได้สินทรัพย์นั้นมา และในกรณีรอบบัญชีที่ไม่ครบ 12 เดือน ให้ คำนวณเฉลี่ยเป็นวันและให้นับวันที่ได้มาด้วย ตัวอย่างที่ 2.1 บริษัท ใจงาม จำกัด มีรอบระยะเวลาบัญชีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม ของทุกปี ซื้อเครื่องจักร ราคาทุน 200,000 บาท เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 25x1 กิจการคิดค่าเสื่อมราคา ทรัพย์สินด้วยวิธีเส้นตรงในอัตรา 20% ต่อปี ระยะเวลาที่ได้ทรัพย์สินมา มิถุนายน(30-20+1) 11 วัน กรกฎาคม 31 วัน สิงหาคม 31 วัน กันยายน 30 วัน ตุลาคม 31 วัน พฤศจิกายน 30 วัน ธันวาคม 31 วัน รวม 195 วัน ค่าเสื่อมราคาของเครื่องจักรในปี 25x1 = 200,000 × 20% × 195/365 = 21,369.86


2.4 การกำหนดมูลค่าต้นทุนสูงสุดสำหรับทรัพย์สินประเภทรถยนต์นั่ง การคิดค่าเสื่อมราคาสำหรับรถยนต์นั่งหรือรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน ให้คิด ค่าเสื่อมราคาได้ไม่เกิน ร้อยละ 20 จากต้นทุนเฉพาะส่วนที่ไม่เกิน 1 ล้านบาท และให้นำภาษีซื้อของ รถยนต์นั่งซึ่งเป็น ภาษีซื้อต้องห้าม รวมเป็นต้นทุนของรถยนต์นั่งด้วย ตัวอย่างที่ 2.2 กิจการซื้อรถยนต์นั่งนำมาใช้ในกิจการเมื่อวันที่ 20 ก.ย 25x1 ราคา 1,300,000 บาท ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% จำนวน 91,000 บาท มูลค่าทุนที่จะนำมาคิดค่าเสื่อมราคารถยนต์นั่ง = ราคาต้นทุน + ภาษีมูลค่าเพิ่ม = 1,300,000 + 91,000 = 1,391,000 แต่ต้องไม่เกิน 1 ล้านบาท ค่าเสื่อมราคาของรถยนต์นั่งปี 25x1 = 1,000,000 x 20% x 103/365 = 56,438.36 บาท


2.5 ทรัพย์สินที่ได้มาโดยการเช่าซื้อหรือซื้อขายเงินผ่อน ทรัพย์สินที่ได้มาโดยการเช่าซื้อหรือซื้อขายเงินผ่อนมูลค่าต้นทุนของทรัพย์สินให้ถือตาม ราคาที่ต้องชำระทั้งหมด (ราคาซื้อ บวก ดอกเบี้ย) แต่ค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาจะนำมาหักใน ระยะเวลาบัญชีจะต้องไม่เกินค่าเช่าซื้อหรือราคาที่ต้องผ่อนชำระในรอบระยะเวลาบัญชีนั้น ซึ่งหลักเกณฑ์ดังกล่าวแตกต่างจากหลักการบัญชีสรุปได้ดังนี้ ตามหลักการภาษีอากร ค่าเสื่อมราคา = มูลค่าของทรัพย์สินราคาเงินผ่อน x อัตราค่าเสื่อม x ระยะเวลา ตามหลักการบัญชี ค่าเสื่อมราคา = มูลค่าของทรัพย์สินราคาเงินสด x อัตราค่าเสื่อม x ระยะเวลา ผลต่างราคาเงินผ่อนและราคาเงินสดให้บันทึกไว้ในบัญชีดอกเบี้ยเช่าซื้อรอตัดบัญชีและ ทยอยตัดเป็นดอกเบี้ยจ่าย ตัวอย่างที่ 2.3 บริษัท ดวงดาว จำกัด เช่าซื้อรถยนต์บรรทุกเพื่อใช้ในกิจการวันที่ 1 มกราคม 25×1 ราคาตามสัญญาเช่าซื้อ 900,000 บาท ระยะเวลาตามสัญญา 30 งวด ๆ ละ 30,000 บาท รถยนต์ คันดังกล่าวราคาเงินสด 750,000 บาท จ่ายค่าเช่าซื้อปีละ 300,000 บาท คิดค่าเสื่อมราคาตาม วิธีเส้นตรง 20% ต่อปี ค่าเสื่อมราคาทางภาษีอากร (ใช้ราคาเงินผ่อน) = 900,000 × 20% = 180,000 ค่าเสื่อมราคาทางภาษีอากรหักได้ 180,000 บาท ไม่เกินค่าเช่าซื้อปีละ 300,000 บาท ค่าเสื่อมราคาทางบัญชี(ใช้ราคาเงินสด) = 750,000 × 20% = 150,000 และบันทึกดอกเบี้ยจ่ายจากการเช่าซื้อเป็นค่าใช้จ่ายตามวิธีอัตราดอกเบี้ยที่


2.6 มูลค่าของทรัพย์สินหลังหักค่าสึกหรอหรือราคาที่ต้องคงเหลือไว้ในบัญชี การหักค่าสึกหรอหรือค่าเสื่อมราคาจะหักจนหมดมูลค่าต้นทุนของทรัพย์สินนั้นไม่ได้ ต้องคงเหลือมูลค่าทรัพย์สินไว้ในบัญชีอย่างน้อย 1 บาท เพื่อให้ทราบแน่ชัดว่ามีรายการทรัพย์สินนั้น อยู่ในงบแสดงฐานะการเงินของกิจการ หากมีรายจ่ายบำรุงรักษาก็สามารถนำมาหักเป็นรายจ่ายได้ หากจําหน่ายทรัพย์สินนั้นออกไปเกินกว่า 1 บาท ให้ถือเป็นกำไรจากการขายทรัพย์สิน 2.7 การกำหนดวิธีการหักค่าสึกหรอ หรือค่าเสื่อมราคาสำหรับทรัพย์สินบาง ประเภทต่างจากสินทรัพย์อื่น ประมวลรัษฎากรได้กำหนดให้หักเป็นกรณีพิเศษดังนี้ (1) การหักค่าเสื่อมราคาทรัพย์สินที่มิใช่รถยนต์นั่ง กิจการสามารถหักค่าเสื่อมราคาในปีแรกเป็น 2 เท่าของอัตราที่กำหนดสำหรับปีถัดไปให้ หักได้ 2 เท่าของต้นทุนที่เหลือ แต่อายุการใช้ทรัพย์สินต้องไม่น้อยกว่า 100 หารด้วยจำนวนร้อยละ ที่กำหนดข้างต้น ทั้งนี้รอบระยะเวลาบัญชีสุดท้ายของอายุการใช้งานจะหักค่าเสื่อมราคาโดยรวม จำนวนมูลค่าต้นทุนส่วนที่เหลือทั้งหมดด้วยก็ได้ (2) การหักค่าเสื่อมราคาเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการวิจัยและพัฒนา การหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สินประเภทเครื่องจักรและอุปกรณ์ ของเครื่องจักรที่ใช้สำหรับการวิจัยและพัฒนา ประมวลรัษฎากรกำหนดดังนี้ การคิดค่าเสื่อมราคาเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการวิจัยและพัฒนา ค่าเสื่อมราคาเบื้องต้นในวันที่ได้รับทรัพย์สินนั้นมา = 40% ของมูลค่าต้นทุน ส่วนที่เหลือคิดค่าเสื่อมราคา = 20% ต่อปี


**ทรัพย์สินดังกล่าวต้องมีลักษณะและเงื่อนไขดังนี้** ต้องไม่เป็นเครื่องจักรและอุปกรณ์ของเครื่องจักรที่ใช้ผลิตสินค้า หรือใช้บริการ เว้นแต่ เครื่องจักรและอุปกรณ์ของเครื่องจักรดังกล่าวได้ใช้เพื่อการดังต่อไปนี้ (ก) การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือวัตถุดิบ ที่นำมาใช้ในการผลิต (ข) การทดสอบคุณภาพของผลิตภัณฑ์ หรือ (ค) การปรับปรุงกรรมวิธีการผลิตเพื่อลดต้นทุนการผลิตหรือเพิ่มผลผลิตทั้งนี้ ไม่ว่าจะใช้เพื่อกิจการของตนเองหรือกิจการของผู้อื่น ต้องเป็นเครื่องจักรและอุปกรณ์ของเครื่องจักรที่ไม่เคยผ่านการใช้งานมาก่อน โดยมีอายุ การใช้งานตั้งแต่ 2 ปี ขึ้นไป และมีมูลค่าต้นทุนไม่ต่ำกว่า 100,000 บาท ต้องแจ้งการใช้เครื่องจักรและอุปกรณ์ของเครื่องจักรเพื่อการวิจัยและพัฒนาโดยใช้ แบบ ค.จ.01 พร้อมกับแนบเอกสารหลักฐานประกอบต่ออธิบดีกรมสรรพากรภายในเวลา 30 วัน นับแต่วันที่ใช้เครื่องจักรและอุปกรณ์ของเครื่องจักรนั้น ตัวอย่างที่ 2.4 กิจการซื้อเครื่องจักรมาทำการวิจัยผลิตภัณฑ์เมื่อ 1 ม.ค. 25x1 ราคา 800,000 บาท คำนวณค่าเสื่อมราคาในอัตรา 20% ค่าเสื่อมราคาเพื่อการวิจัยและพัฒนาหักได้ดังนี้ ค่าเสื่อมราคาปีแรก ค่าเสื่อมราเบื้องต้น (800,000 x 40%) 320,000 ค่าเสื่อมราคาที่เหลือ (480,000 × 20%) 96,000 416,000 ค่าเสื่อมราคาปีที่ 2 (480,000 x 20%) 96,000 ค่าเสื่อมราคาปีที่ 3 (480,000 x 20%) 96,000 ค่าเสื่อมราคาปีที่ 4 (480,000 x 20%) 96,000 ค่าเสื่อมราคาปีที่ 5 (96,000 - 1) 95,999 รวมค่าเสื่อมราคาที่หักได้ 799,999 หมายเหตุการคิดค่าเสื่อมราคาในปีแรก ค่าเสื่อมราคาหากได้มาไม่เต็มปี การคิดค่าเสื่อมราคาที่ เหลือต้องเฉลี่ยเป็นวันนับแต่วันที่ได้มา


(3) การหักค่าเสื่อมราคาเครื่องบันทึกการเก็บเงิน ผู้ประกอบการที่ได้รับอนุมัติให้ใช้เครื่องบันทึกการเก็บเงินในการออกใบกำกับภาษี โดยอาจเลือกหักค่าเสื่อมราคาดังนี้ การคิดค่าเสื่อมราคาเครื่องบันทึกการเก็บเงิน วิธีที่ 1 ร้อยละ 100 ของมูลค่าต้นทุน ซึ่งหมายถึง 100% ของมูลค่าต้นทุน ทรัพย์สิน ของรอบระยะเวลาบัญชีถ้าได้มาไม่เต็มรอบระยะเวลาบัญชีต้องเฉลี่ยตามสัดส่วนโดย คิดเป็นรายวัน วิธีที่ 2 ค่าเสื่อมราคาเบื้องต้นในวันที่ได้รับทรัพย์สินนั้นมา = 40% ของมูลค่าต้นทุน ส่วนที่เหลือคิดค่าเสื่อมราคา = 20% ต่อปี ทั้งนี้ผู้ประกอบการต้องแจ้งการใช้เครื่องบันทึกการเก็บเงินในการออกใบกำกับภาษี อย่างย่อภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับอนุมัติให้ใช้เครื่องบันทึกการเก็บเงิน (4) ทรัพย์สินประเภทคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ การหักค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สินประเภทคอมพิวเตอร์ตามพระราชกฤษฎีกาฉบับที่ 395 มีเงื่อนไขดังนี้ ต้องเป็นทรัพย์สินประเภทคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ของคอมพิวเตอร์ที่บริษัทหรือห้าง หุ้นส่วนนิติบุคคลซื้อหรือได้รับโอนกรรมสิทธิ์เพื่อมีไว้ในการประกอบกิจการของตนเอง หักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาได้ภายใน 3 รอบระยะเวลาบัญชี (33.33%) นับแต่วันที่ ได้ทรัพย์สินนั้นมา ในกรณีที่รอบระยะเวลาบัญชีใดไม่เต็มสิบสองเดือนให้เฉลี่ยตามส่วนสำหรับรอบ ระยะเวลาบัญชีนั้น โดยจะเลือกใช้วิธีการทางบัญชีที่รับรองทั่วไปวิธีใดก็ได้


หากบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลเป็นกิจการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) คิดค่าเสื่อมราคาด้วยวิธีเส้นตรงให้หักได้ในอัตรา 40% ของมูลค่าต้นทุนในวันที่ได้มา ต้นทุนส่วนที่ เหลือหักได้อีก 60% โดยให้หักภายใน 3 ปี กิจการขนาดกลางและขนาดย่อม (Smalland Medum - Sized Enterprise : SMEs) ที่จะได้รับสิทธิการคำนวณค่าเสื่อมราคาข้างต้น หมายถึง บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ประกอบ กิจการอุตสาหกรรม กิจการค้าส่งและค้าปลีก และกิจการบริการที่มีสินทรัพย์ถาวรซึ่งไม่รวมที่ดินไม่ เกิน 200 ล้านบาท และมีการจ้างแรงงานไม่เกิน 200 คน ทรัพย์สินประเภทคอมพิวเตอร์ หมายถึง เครื่องอิเล็กทรอนิกส์แบบอัตโนมัติทำหน้าที่ เสมือนสมองกลใช้สำหรับแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งที่ง่ายและซับซ้อน โดยวิธีทางคณิตศาสตร์ อุปกรณ์ของคอมพิวเตอร์ หมายถึง เครื่องมือ เครื่องใช้ เครื่องช่วยหรือเครื่องประกอบกับ คอมพิวเตอร์ เพื่อให้คอมพิวเตอร์ใช้งานได้ตามวัตถุประสงค์ แต่ไม่รวมถึงโปรแกรมคอมพิวเตอร์ สรุปการหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมเครื่องคอมพิวเตอร์ราคาจะต้องไม่เกิน อัตราร้อยละของมูลค่าต้นทุนตามประเภทของทรัพย์สินดังต่อไปนี้ พรฎ.ฉบับที่ 395 (ใหม่) สำหรับกิจการ SMEs พรฎ.ฉบับที่ 395 (เดิม) พรฎ.ฉบับที่ 145 (เติม) ปีที่ 1 20% 33.33% 60% (40%+20%) 2 20% 33.33% 20% 3 20% 33.33% 20% 4 20% - - 5 20% - - รวม 100% 100% 100%


(5) ทรัพย์สินประเภทอาคารโรงงานของกิจการ SMEs เงื่อนไขการหักค่าเสื่อมราคาทรัพย์สินประเภทอาคารโรงงานตามพระราชกฤษฎีกา ฉบับที่ 395 มีเงื่อนไขดังนี้ 1) ต้องเป็นทรัพย์สินประเภทอาคารโรงงานที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซื้อหรือ ได้รับโอนกรรมสิทธิ์เพื่อมีไว้ในการประกอบกิจการของตนเอง 2) ต้องเป็นกิจการ SMES ให้หักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาเบื้องต้นในวันที่ได้ทรัพย์สินนั้นมาในอัตรา ร้อยละ 25 ของมูลค่าต้นทุน สำหรับมูลค่าต้นทุนส่วนที่เหลือ ให้หักตามเงื่อนไขและอัตราที่กำหนดไว้ใน ระยะเวลา 20 ปี การหักค่าเสื่อมราคา อาคารโรงงานกิจการ SMEs หักได้ดังนี้ ปีที่ พรฎ.ฉบับที่ 395 (ใหม่) พรฎ.ฉบับที่ 395 (ใหม่) สำหรับกิจการ SMEs 1 5% 28.75% (25%+3.75%) 2 ปีละ 5% ปีละ 3.5% รวม 100% 100% (6) ทรัพย์สินในประเภทเครื่องจักรและอุปกรณ์ของเครื่องจักรของของกิจการ SMEs เงื่อนไขการหักค่าเสื่อมราคาทรัพย์สินประเภทเครื่องจักรและอุปกรณ์ 1. ต้องเป็นทรัพย์สินประเภทเครื่องจักรและอุปกรณ์ของเครื่องจักรที่บริษัทหรือห้าง หุ้นส่วนนิติบุคคลซื้อหรือได้รับโอนกรรมสิทธิ์เพื่อมีไว้ในการประกอบกิจการของตนเอง 2. ต้องเป็นกิจการ SMEs การหักค่าเสื่อมราคาของเครื่องจักรและอุปกรณ์เครื่องจักรของกิจการขนาดกลางและ ขนาดย่อม (SMEs) หักได้ดังนี้ ให้หักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาเบื้องต้นในวันที่ได้ทรัพย์สินนั้นมาในอัตราร้อยละ 40 ของมูลค่าต้นทุน ค่าต้นทุนส่วนที่เหลือให้หักตามเงื่อนไขและอัตราที่กำหนดไว้ในเวลา 5 ปี


กรณีกิจการหักค่าเสื่อมราคาโดยวิธีเส้นตรงให้หักค่าเสื่อมราคาได้ไปอัตราร้อยละ 40 ในวันที่ได้มา ส่วนที่เหลือให้หักได้ 60% ภายในเวลา 5 ปี ดังนั้น ปีที่ 1 หักได้ 52% (ค่าเสื่อมราคาเบื้องต้น 40% บวกที่เหลือ 60% คูณอัตรา ค่าเสื่อมราคาแต่ละปี 20% ปีที่ 2 - ปีที่ 5 หักได้ปีละ 12% (60%คูณอัตราค่าเสื่อม ราคาแต่ละปี การหักค่าเสื่อมราคาของเครื่องจักรและอุปกรณ์ของกิจการ SMEs พรฎ.ฉบับที่ 395 (ใหม่) สำหรับกิจการ SMEs ปีที่ พรฎ.ฉบับที่ 145 (เดิม) 1 20% 52% (40%+12%) 2 20% 12% 3 20% 12% 4 20% 12% 5 20% 12% รวม 100% 100% ดังนั้น หากกิจการบันทึกค่าเสื่อมราคาตามหลักการบัญชีต่างจากที่กฎหมายภาษีอากร กำหนดจะต้องนำผลต่างของจำนวนที่สูงกว่าอัตราที่กำหนดไปปรับปรุง โดยบวกกลับหรือหักออก จากกำไรสุทธิทางบัญชี


3. การตีราคาทรัพย์สิน มาตรา 65 ทวิ (3) กำหนดให้ราคาทรัพย์สินอื่นนอกจากสินค้าคงเหลือ ให้ถือตามราคาที่ พึ่งซื้อทรัพย์สินนั้นได้ตามปกติ และในกรณีที่มีการตีราคาทรัพย์สินนั้นเพิ่มขึ้นห้ามมิให้นำราคาที่ดี เพิ่มขึ้น มารวมคำนวณกำไรสุทธิหรือขาดทุนสุทธิ ส่วนทรัพย์สินรายการใดที่มีการหักค่าเสื่อมราคา ให้หักค่าเสื่อมราคาในการคำนวณกำไรสุทธิหรือขาดทุนสุทธิตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขและอัตราเดิมที่ ใช้อยู่ก่อนตีราคาทรัพย์สินเพิ่มขึ้นโดยหักเพียงเท่าที่ระยะเวลาและมูลค่าต้นทุนที่เหลืออยู่สำหรับ ทรัพย์สินนั้นเท่านั้น 4. การโอนทรัพย์สิน มาตรา 65 ทวิ (4) กำหนดว่าหากกิจการมีการโอนทรัพย์สิน ให้บริการ หรือให้กู้ยืมเงิน โดยไม่มีค่าตอบแทน ค่าบริการ หรือดอกเบี้ยต่ำกว่าราคาตลาดโดยไม่มีเหตุอันสมควร เจ้าหน้าที่ ประเมินมีอำนาจประเมินค่าตอบแทน ค่าบริการ หรือดอกเบี้ยนั้นตามราคาตลาดในวันที่โอน ให้บริการหรือให้กู้ยืมเงินได้ 5. การคำนวณมูลค่าของทรัพย์สินหรือหนี้สิน ซึ่งมีค่าหรือราคาเป็นเงินตรา ต่างประเทศ ประมวลรัษฎากร มาตรา 65 ทวิ (5) ได้กำหนดหลักเกณฑ์ในการตีราคาทรัพย์สิน และหนี้สินเป็นเงินตราต่างประเทศไว้ดังนี้ 5.1 การตีราคาเงินตรา ทรัพย์สิน หรือหนี้สินซึ่งมีค่าหรือราคาเป็นเงินตราต่างประเทศ ที่กิจการได้รับมาหรือจ่ายไป ซึ่งเงินตราหรือทรัพย์สินในระหว่างรอบระยะเวลาบัญชี ให้คำนวณค่า หรือราคาเป็นเงินตราไทยตามราคาตลาดในวันที่รับมาหรือจ่ายไปนั้น


5.2 เงินตรา ทรัพย์สิน หรือหนี้สิน ซึ่งมีค่าหรือราคาเป็นเงินตราต่างประเทศ เฉพาะที่เหลืออยู่ในวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชีเป็นเงินตราต่างประเทศ ให้คำนวณเป็น เงินตราไทย ดังนี้ (ก) กรณีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลทั่วไป เงินตราหรือทรัพย์สิน ให้คำนวณตามอัตราตัวเฉลี่ยที่ธนาคารพาณิชย์ รับซื้อ ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยได้คำนวณไว้ หนี้สิน ให้คำนวณตามอัตราถัวเฉลี่ยที่ธนาคารพาณิชย์ ขาย ซึ่งธนาคารแห่งประเทศ ไทยได้คำนวณไว้ (ข) กรณีธนาคารพาณิชย์หรือสถาบันการเงินอื่นตามที่รัฐมนตรีกำหนด ให้คำนวณเป็นเงินตราตามอัตราถัวเฉลี่ยระหว่างอัตราซื้อและอัตราขายของธนาคาร พาณิชย์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้คำนวณไว้ กรณีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลทั่วไป เงินตราหรือทรัพย์สิน → อัตราถัวเฉลี่ยที่ธนาคารพาณิชย์รับซื้อ หนี้สิน → อัตราถัวเฉลี่ยที่ธนาคารพาณิชย์ ขาย กรณีธนาคารพาณิชย์หรือสถาบันการเงินอื่นตามที่รัฐมนตรีกำหนด เงินตรา หรือ หนี้สินทรัพย์สิน → อัตราถัวเฉลี่ยระหว่างอัตราซื้อและขาย ของธนาคารพาณิชย์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้คำนวณไว้


6. การตีราคาสินค้าคงเหลือ มาตรา 65 ทวิ (6) กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการตีราคาสินค้าคงเหลือ สรุปได้ดังนี้ 6.1 การตีราคาสินค้าคงเหลือที่เหลืออยู่ในวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชีให้ใช้ ราคาทุนหรือราคาตลาดแล้วแต่อย่างใดจะน้อยกว่า 6.2 มูลค่าสินค้าคงเหลือ ณ วันสิ้นงวดของรอบระยะเวลาบัญชีปัจจุบันให้ถือเป็น ราคาของสินค้าคงเหลือยกมาของรอบระยะเวลาบัญชีใหม่ด้วย 6.3 การคำนวณราคาทุนของสินค้าคงเหลือให้เลือกใช้วิธีการทางบัญชีวิธีการใดวิธีการ หนึ่งก็ได้ และให้ใช้วิธีการนั้นตลอดไปจะเปลี่ยนแปลงได้ต่อเมื่อได้รับอนุมัติจาก อธิบดีกรมสรรพากร แล้วจึงจะเปลี่ยนแปลงได้ เช่นกิจการตีราคาสินค้าคงเหลือโดยวิธีเข้าก่อน - ออกก่อน (FIFO) หาก ต้องการเปลี่ยนเป็นวิธีถัวเฉลี่ย (Weighted Average) ต้องยื่นคำร้องขออนุมัติ ต่ออธิบดี กรมสรรพากรก่อนจึงจะเปลี่ยนแปลงได้ 7. การคำนวณราคาทุนของสินค้าที่ส่งเข้ามาจากต่างประเทศ มาตรา 65 ทวิ (7) กำหนดให้การคำนวณราคาทุนของสินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศ เจ้า พนักงานมีอำนาจประเมิน โดยเทียบเคียงกับราคาทุนของสินค้าประเภทและชนิดเดียวกันที่ส่งไปใน ประเทศอื่นได้การที่กฎหมายบัญญัติให้เปรียบเทียบก็เพื่อป้องกันกิจการที่เป็นบริษัทข้ามชาติที่เข้ามา ลงทุนในประเทศไทยไม่ให้สร้างตัวเลขของสินค้าให้สูง และเพื่อป้องกันการหลีกเลี้ยงภาษีศุลกากร


8. การคำนวณราคาทุนของสินค้าเป็นเงินตราต่างประเทศ มาตรา 65 ทวิ (8) กำหนดให้คำนวณเป็นเงินตราไทยตามอัตราแลกเปลี่ยนในท้องตลาด ของวันที่ได้สินค้ามาเว้นแต่เงินตราต่างประเทศนั้นจะแลกได้ในอัตราทางราชการก็ให้คำนวณเป็น เงินตราไทย ตามอัตราทางราชการนั้น ปัจจุบันอัตราทางราชการไม่มีแล้วดังนั้นสินค้านำเข้าจึงต้องแปลงค่าด้วยอัตราตลาด เท่านั้น โดยใช้อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่บันทึกบัญชีซื้อ 9. การจำหน่ายหนี้สูญ มาตรา 65 ทวิ (9) กำหนดให้การจำหน่ายหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้จะกระทำได้ต่อเมื่อ เป็นไปตามหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขที่กำหนดโดยกฎกระทรวงฉบับที่ 186 (พ.ศ. 2534) โดยจะให้ถือเป็นรายจ่ายในรอบระยะเวลาบัญชีที่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังกล่าว หลักเกณฑ์การจำหน่ายหนี้สูญตามกฎกระทรวงฉบับที่ 186 (พ.ศ.2534) 1) หนี้สูญที่จะจำหน่ายจากบัญชีลูกหนี้ต้องเป็นหนี้ที่มีลักษณะดังต่อไปนี้ (1) ต้องเป็นหนี้จากการประกอบกิจการหรือเนื่องจากการประกอบกิจการหรือหนี้ ที่ได้รวมเป็นเงินได้ในการคำนวณกำไรสุทธิ ทั้งนี้ไม่รวมถึงหนี้ที่ผู้เป็น หรือเคยเป็นกรรมการหรือ หุ้นส่วนผู้จัดการเป็นหนี้ไม่ว่าหนี้นั้นจะเกิดขึ้นก่อนหรือในขณะที่ผู้นั้นเป็นกรรมการหรือหุ้นส่วน ผู้จัดการ (2) ต้องเป็นหนี้ที่ไม่ขาดอายุความและมีหลักฐานโดยชัดแจ้งที่สามารถฟ้องลูกหนี้ได้ 2) การจำหน่ายหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้ในกรณีของลูกหนี้แต่ละราย มีจำนวนเกิน 500,000 บาทขึ้น ไป ต้องดำเนินการดังต่อไปนี้ ได้ติดตามทวงถามให้ชำระหนี้ตามสมควรแก่กรณี โดยมีหลักฐานการติดตามทวงถาม อย่างชัดแจ้งและไม่ได้รับชำระหนี้ โดยปรากฏว่า


ก. ลูกหนี้ถึงแก่ความตาย เป็นคนสาบสูญหรือมีหลักฐานว่าหายสาบสูญไปและไม่มี ทรัพย์สินใด ๆ จะชำระหนี้ได้ ข. ลูกหนี้เลิกกิจการและมีหนี้ของเจ้าหนี้รายอื่นที่บุริมสิทธิเหนือทรัพย์สินทั้งหมด ของลูกหนี้อยู่ในลำดับก่อนเป็นจำนวนมากกว่าทรัพย์สินของลูกหนี้ ได้ดำเนินการฟ้องลูกหนี้ในคดีแพ่งหรือได้ยื่นคำขอเฉลี่ยหนี้ในคดีที่ลูกหนี้ถูกเจ้าหนี้ รายอื่นฟ้องในคดีแพ่ง และในกรณีนั้น ๆ ได้มีคำบังคับหรือคำสั่งของศาลแล้ว แต่ลูกหนี้ไม่มีทรัพย์สิน ใด ๆ จะชำระหนี้ได้หรือ ได้ดำเนินการฟ้องลูกหนี้ในคดีล้มละลายหรือได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีลูกหนี้ ถูกเจ้าหนี้รายอื่นฟ้องในคดีล้มละลาย และในกรณีนั้น ๆ ได้มีการประนอมหนี้กับลูกหนี้โดยมีคำสั่ง เห็นชอบด้วยกับการประนอมหนี้หรือลูกหนี้ถูกศาลพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลายและได้มี การแบ่งทรัพย์สินของลูกหนี้ครั้งแรกแล้ว 3) การจำหน่ายหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้ ในกรณีของลูกหนี้แต่ละรายมีจำนวนไม่เกิน 500,000 บาท ต้องดำเนินการดังต่อไปนี้ ได้คิดตามทวงถามให้ชำระหนี้ตามสมควรแก่กรณี โดยมีหลักฐานการติดตามทวงถาม อย่างชัดแจ้งและไม่ได้รับชำระหนี้ โดยปรากฏว่า ก. ลูกหนี้ถึงแก่ความตาย เป็นคนสาบสูญหรือมีหลักฐานว่าหายสาบสูญไป และไม่มี ทรัพย์สินใด ๆ จะชำระหนี้ได้ ข. ลูกหนี้เลิกกิจการ และมีหนี้ของเจ้าหนี้รายอื่นที่บุริมสิทธิเหนือทรัพย์สินทั้งหมดของ ลูกหนี้อยู่ในลำดับก่อนเป็นจำนวนมากกว่าทรัพย์สินของลูกหนี้ ได้ดำเนินการฟ้องลูกหนี้ในคดีแพ่งและศาลได้มีคำสั่งรับคำฟ้องนั้นแล้ว หรือได้ยื่นคำขอ เฉลี่ยหนี้ในคดีที่ลูกหนี้ถูกเจ้าหนี้รายอื่นฟ้องในคดีแพ่ง และศาลได้มีคำสั่งรับคำขอนั้นแล้ว หรือทรัพย์สินใด ๆ จะชำระหนี้ได้ หรือ ได้ดำเนินการฟ้องลูกหนี้ในคดีล้มละลายและศาลได้มีคำสั่งรับคำฟ้องนั้นแล้ว หรือได้ยื่นคำ ขอรับชำระหนี้ในคดีที่ถูกเจ้าหนี้รายอื่นฟ้องในคดีล้มละลาย และศาลได้มีคำสั่งรับคำ ขอรับชำระงวด หนี้นั้นแล้ว


✓ กรรมการหรือหุ้นส่วนผู้จัดการของกิจการที่เป็นเจ้าหนี้หากได้ดำเป็นการตามข้อ 3 (1) แล้วสามารถอนุมัติให้ตัดหนี้สูญภายใน30วันนับแต่วันสิ้นรอบระยะเวลาบัญชีเว้นแต่กรณีตาม ข้อ 3(2) และ 3(3) ให้ถือเป็นรายจ่ายในรอบระยะเวลาบัญชีที่ศาลได้มีคำสั่งรับคำฟ้องขอเฉลี่ยหนี้ หรือคำขอรับชำระหนี้ หนี้สูญดังกล่าวหากได้รับชำระกลับคืนมาในรอบระยะเวลาบัญชีใดให้นำมา รวมคำนวณเป็นรายได้ในรอบระยะเวลาบัญชีนั้น สำหรับหนี้สูญรายใดที่ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ กำหนด หากได้นำไปถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรหรือขาดทุนสุทธิโดยปรับปรุงบวกกลับมา เป็นรายได้แล้วต่อมาหากได้รับชำระหนี้สูญนั้นกลับคืนก็ไม่ต้องนำมาคำนวณเป็นรายได้ การจำหน่ายหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้ของธนาคารหรือบริษัทเงินทุนตามกฎหมายว่าด้วย การประกอบธุรกิจเงินทุนธุรกิจหลักทรัพย์ธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ในกรณี ลูกหนี้แต่ละรายมีไม่เกิน 200,000 บาท ให้ตัดเป็นหนี้สูญได้หากปรากฏว่ามีหลักฐานการติดตามทวงถามให้ชำระหนี้ตาม สมควรแก่กรณีแล้ว และไม่ได้รับชำระหนี้หากฟ้องลูกหนี้จะเสียค่าใช้จ่ายไม่คุ้มกับหนี้ที่จะได้รับชำระ หากเป็นลูกหนี้ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ธนาคาร หรือ สถาบันการเงินหรือ บริษัทเงินทุน ลูกหนี้แต่ละรายมีไม่เกิน 100,000 บาท ให้ตัดเป็นหนี้สูญได้ หากปรากฏว่ามีหลักฐาน การติดตามทวงถามให้ชำระหนี้ตามสมควรแก่กรณีแล้ว และไม่ได้รับชำระหนี้ การตัดบัญชีหนี้เป็นสูญตามหลักการภาษีอากร ขั้นตอนปฏิบัติ ไม่เกิน 100,000 บาท ไม่เกิน 500,000 บาท เกิน 500,000 บาท 1. มีหลักฐานการติดตามทวงถาม 2. ไม่ได้รับชำระ 3. ฟ้องแล้วไม่คุ้มกับมูลค่าหนี้ที่ได้รับชำระ 4. ได้ดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีกับลูกหนี้ และศาลรับคำขอหรือยืนยันขอเกลี่ยหนี้ 5. ได้ดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีกับลูกหนี้ และศาลพิพากษาให้ชนะคดี ไม่เกิน 100,000 บาท สำหรับหนี้ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลทั่วไป ไม่เกิน 200,000 บาท สำหรับหนี้ของสถาบันการเงิน ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓


ตามหลักการบัญชี บัญชีหนี้สงสัยจะสูญที่ถือเป็นค่าใช้จ่ายในงบกำไรขาดทุน ตามกฎหมายภาษีอากร บัญชีหนี้สงสัยจะสูญถือเป็นรายจ่ายไม่ได้เพราะยังไม่ได้เกิดหนี้ สูญขึ้นจริงยกเว้นธุรกิจสถาบันการเงินเท่านั้น ที่กฎหมายยอมให้หักได้ การปรับปรุง นำหนี้สงสัยจะสูญ ไปบวกกลับกับกำไรสุทธิทางบัญชีในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อ เสียภาษี 10. เงินปันผลที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล มาตรา 65 ทวิ (10) กำหนดให้เงินปันผลดังต่อไปนี้ได้รับการยกเว้นภาษี 1) บริษัทจำกัดที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยและมิได้จดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์ได้รับเงินปันผล หรือเงินส่วนแบ่งกำไรจาก (ก) บริษัทจำกัดที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย (ข) กองทุนรวม (ค) สถาบันการเงินที่มีกฎหมายโดยเฉพาะของประเทศไทย จัดตั้งขึ้นสำหรับให้ กู้ยืมเงินเพื่อ ส่งเสริมเกษตรกรรม พาณิชยกรรม หรืออุตสาหกรรม (ง) กิจการร่วมค้า บริษัทดังกล่าวข้างต้นให้นำเงินปันผลหรือส่วนแบ่งกำไรมารวมคำนวณเป็นรายได้เพียงกึ่งหนึ่งของ จำนวนที่ได้รับ 2) บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หรือบริษัทจำกัดที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ซึ่งถือหุ้นใน บริษัทผู้จ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่าร้อยละ25 ของหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงโดยบริษัทผู้จ่ายไม่ได้ถือหุ้นใน บริษัทผู้รับเงินปันผลไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมได้รับเงินปันผลที่ได้รับจาก (ก) ถึง (ง) ข้างต้น บริษัทจดทะเบียนและบริษัทที่ถือหุ้นในบริษัทผู้จ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่าร้อยละ 25 ดังกล่าวให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องนำเงินปันผลมารวมคำนวณเงินรายได้


การได้รับยกเว้นทั้ง 2 กรณี จะไม่ได้รับสิทธิดังกล่าวหากถือหุ้นในบริษัทหรือถือหน่วย ลงทุนในกองทุนรวมที่ก่อให้เกิดเงินปันผลหรือส่วนแบ่งกำไร่ไม่ถึง 3 เดือน นับแต่วันที่มีเงินได้หรือ มีการโอนหุ้นไปก่อน 3 เดือนนับแต่วันที่มีเงินได้ ตามหลักการบัญชี เงินปันผลหรือส่วนแบ่งกำไรที่ได้รับต้องนำมารวมคำนวณเป็นรายได้ ทั้งจำนวน ตามกฎหมายภาษีอากร เงินปันผลที่ได้รับยกเว้นตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวข้างต้น การปรับปรุง ให้นำเงินปันผลที่ได้รับยกเว้นไปหักออกจากกำไรสุทธิทางบัญชีในการ คำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษี เงินปันผล/เงินส่วนแบ่งกำไรที่ได้รักยกเว้น ตามมาตรา 65 ทวิ (10)


11. ดอกเบี้ยเงินกู้ยืมที่อยู่ในบังคับต้องถูกหักภาษีไว้ ณ ที่จ่ายตามกฎหมาย ว่าด้วยภาษีเงินได้ปีโตรเลียม ตามมาตรา 65 ทวิ (11) กำหนดให้นำดอกเบี้ยเงินกู้ยืมที่อยู่ในบังคับต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย ตามกฎหมายว่าด้วยภาษีเงินได้ปิโตรเลียม มารวมคำนวณเป็นรายได้เพียงเท่าที่เหลือจะถูกหัก ภาษีไว้ ณ ที่จ่ายตามกฎหมายดังกล่าว 12. เงินปันผลหรือส่วนแบ่งกำไรที่อยู่ในบังคับต้องถูกหักภาษีไว้ ณ ที่จ่าย ตามกฎหมายว่าด้วยภาษีเงินได้ปิโตรเลียม ตามมาตรา 65 ทวิ (12) กำหนดให้นำเงินปันผล หรือส่วนแบ่งกำไรที่อยู่ในบังคับต้องถูก หักไว้ ณ ที่จ่าย ตามกฎหมายว่าด้วยภาษีเงินได้ปิโตรเลียม มารวมคำนวณเป็นรายได้เพียงเท่าที่เหลือ จากถูกหักภาษีไว้ ณ ที่จ่ายตามกฎหมายดังกล่าว และผู้รับเป็นบริษัทจดทะเบียนหรือบริษัทที่ตั้งขึ้น ตามกฎหมายไทย 13. มูลนิธิหรือสมาคมที่ประกอบกิจการซึ่งมีรายได้ มาตรา 65 ทวิ (13) กำหนดให้ไม่ต้องนำรายได้ต่อไปนี้มารวมคำนวณเป็นรายได้ 1) เงินค่าลงทะเบียนที่ได้รับจากสมาชิก 2) เงินค่าบำรุงที่ได้รับจากสมาชิก 3) เงินหรือทรัพย์สินที่ได้รับจากการรับบริจาค 4) เงินหรือทรัพย์สินที่ได้รับจากการให้โดยเสน่หา 14. ภาษีขายของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่เป็นผู้ประกอบการจด ทะเบียน ภาษีมูลค่าเพิ่ม มาตรา 65 ทวิ (14) กำหนดให้ภาษีมูลค่าเพิ่มที่ได้รับหรือพึงได้รับและภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งได้รับคืนเนื่องจากการขอคืน ไม่ต้องนำมารวมคำนวณเป็นรายได้ เงื่อนไขข้อนี้สอดคล้องกับ หลักเกณฑ์ทางบัญชี


3.การคำนวณและการบันทึกบัญชีภาษีเงินได้นิติบุคคล บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลจากฐานกำไรสุทธิจะต้องคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล และยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษีปีละ 2 ครั้ง ดังนี้ 1. การคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งรอบระยะเวลาบัญชี 2. การคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลสิ้นรอบระยะเวลาบัญชี 1 การคำนวณบัญชีภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งรอบระยะเวลาบัญชี การคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งรอบระยะเวลาบัญชีมีวิธีการคำนวณดังนี้ - การคำนวณจากกำไรสุทธิจริงของครึ่งรอบระยะเวลาบัญชี ได้แก่ บริษัทจดทะเบียนธนาคาร พาณิชย์ บริษัทเงินทุน บริษัทหลักทรัพย์ และบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ โดยคำนวณจากกำไรสุทธิจริง ของรอบระยะเวลา 6 เดือน นับแต่วันแรกของรอบระยะเวลาบัญชีตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในมาตรา 65 ทวิ และมาตรา 65 ตรี แห่งประมวลรัษฎากร - การคำนวณจากการประมาณการกำไรสุทธิ ได้แก่ บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ไม่ใช่ บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและบริษัทตามข้อ (1) ต้องเสียภาษีเงินได้นิติ บุคคลครึ่งรอบระยะเวลาบัญชีจากประมาณการกำไรสุทธิหรือขาดทุนสุทธิ ซึ่งได้จากกิจการหรือ เนื่องจากกิจการที่ได้กระทำหรือจะได้กระทำในรอบระยะเวลาบัญชีนั้นแล้วให้คำนวณและชำระภาษี เงินได้นิติบุคคล จากจำนวนกึ่งหนึ่งของประมาณการกำไรสุทธิในรอบระยะเวลาบัญชีนั้น


ในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งรอบระยะเวลาบัญชีจากการประมาณการได้มี บทบัญญัติตามมาตรา 67 ตรี ลงโทษบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ดังนี้ บทบัญญัติตามมาตรา 67 ตรี ลงโทษบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลดังนี้ * ไม่ยื่นรายการและชำระภาษีจากประมาณการกำไรสุทธิ หรือ * ยื่นรายการและชำระภาษีจากการประมาณการกำไรสุทธิ์โดยแสดงประมาณการขาดไปเกิน ร้อยละ 25 ของกำไรสุทธิ ซึ่งได้จากกิจการหรือเนื่องจากกิจการที่กระทำในรอบระยะเวลาบัญชีนั้น โดยไม่มีเหตุอันสมควร บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่กระทำดังกล่าว จะถูกลงโทษเสียเงินเพิ่มอีกร้อยละ 20 ของจำนวนเงินภาษีที่ต้องชำระจากประมาณการกำไรสุทธิหรือกึ่งหนึ่งของจำนวนเงินภาษีที่ต้องเสีย ในรอบระยะเวลาบัญชีนั้นหรือของภาษีที่ชำระขาดแล้วแต่กรณี แนวทางปฏิบัติกรมสรรพากร ได้วางไว้ว่าหากบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลได้จัดทำ ประมาณการกำไรสุทธิและยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีครึ่งรอบระยะเวลาบัญชีไว้ ไม่น้อยกว่ากึ่ง หนึ่งของภาษีเงินได้นิติบุคคลที่ได้ยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล ในรอบระยะเวลา บัญชีที่แล้วให้ถือเป็นกรณี"มีเหตุอันสมควร"


การคำนวณภาษีครึ่งรอบระยะเวลาบัญชีจากการประมาณการกำไรสุทธิ ประมาณการรายรับทั้งปี xxx หัก ประมาณการรายจ่ายทั้งปี xxx ประมาณการกำไรทั้งปี xxx กำไรครึ่งรอบระยะเวลาบัญชี(xx/2) xxx คำนวณภาษีครึ่งรอบระยะเวลาบัญชีตามอัตราภาษี xxx ภาษีครึ่งรอบระยะเวลาบัญชี xxx หัก ภาษี หัก ณ ที่จ่าย 6 เดือนแรก xxx ภาษีเงินได้ครึ่งรอบระยะเวลาบัญชีที่ต้องชำระ xxx หมายเหตุ หากมีผลขาดทุนสะสมยกมาไม่เกิน 5 รอบระยะเวลาบัญชี สามารถนำมาหักจากประมาณ กำไรสุทธิทั้งปีก่อนจะคำนวณภาษีครึ่งรอบบัญชี การบันทึกบัญชีภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งรอบระยะเวลาบัญชีที่ชำระ เดบิต ภาษีเงินได้นิติบุคคลจ่ายล่วงหน้า xxx เครดิต เงินสด/ธนาคาร xxx ภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งรอบระยะเวลาบัญชีที่ชำระถือเป็นภาษีจ่ายล่วงหน้า (Taxprepayment) นำไปหักออกจากภาษีเงินได้นิติบุคคลที่คำนวณไว้ตอนสิ้นรอบระยะเวลาบัญชี (Annual tax payment) หมายเหตุ หากรอบระยะเวลาบัญชีปีแรกหรือรอบระยะเวลาบัญชีสุดท้ายของบริษัทหรือ ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลไม่ครบ 12 เดือน ไม่ต้องยื่นภาษีครึ่งรอบระยะเวลาบัญชีนั้น


ตัวอย่างที่ 3.1 บริษัท หงษ์ฟ้า จำกัด มีรอบระยะเวลาบัญชีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 25x1 ทุนที่ชำระแล้ว 3 ล้านบาท รายได้ทั้งปี 6 ล้านบาท ในการคำนวณภาษีครึ่งรอบระยะเวลาบัญชีได้ จัดทำประมาณการ ดังนี้ ประมาณการรายรับทั้งปี 5,000,000 บาท ประมาณการรายจ่ายทั้งปี 4,000,000 บาท ภาษีหัก ณ ที่จ่าย 6 เดือนแรก 20,000 บาท การคำนวณภาษีครึ่งรอบระยะเวลาบัญชีจากการประมาณการเป็นดังนี้ ประมาณการรายรับทั้งปี 5,000,000 ประมาณการรายจ่ายทั้งปี 4,000,000 ประมาณการกำไรทั้งปี 1,000,000 กำไรครึ่งรอบระยะเวลาบัญชี (1,000,000/2) 500,000 บริษัทมีทุนที่ชำระแล้วไม่เกิน 5 ล้านบาท รายได้รวมไม่เกิน 30 ล้านบาท ถือเป็นกิจการ SME จึงได้สิทธิยกเว้นภาษาดังนี้ กำไรสุทธิ 300,000 บาท ยกเว้น - กำไรสุทธิ 200,000 บาท 15% 30,000 ภาษีครึ่งรอบระยะเวลาบัญชี 30,000 หัก ภาษี หัก ณ ที่จ่าย 6 เดือนแรก 20,000 ภาษีเงินได้ครึ่งรอบระยะเวลาบัญชีที่ต้องชำระ 10,000 การบันทึกบัญชีเป็นดังนี้ เดบิต ภาษีเงินได้นิติบุคคลจ่ายล่วงหน้า 10,000 เครดิต เงินสด/ธนาคาร 10,000 บริษัท หงษ์ฟ้า จำกัด ต้องชำระภาษีครึ่งรอบระยะบัญชีจำนวน 10,000 บาท โดยภาษีเงินได้นิติ บุคคลจ่ายล่วงหน้า 10,000 ถือเป็นเครดิตภาษีนำไปหักออกจากภาษีเงินได้นิติบุคคลสิ้นรอบ ระยะเวลาบัญชี


2. การคำนวณและการบันทึกบัญชีภาษีเงินได้นิติบุคคลสิ้นรอบระยะเวลาบัญชี ในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลสิ้นรอบระยะเวลาบัญชีมีขั้นตอนดังนี้ 1) ปรับปรุงกำไรสุทธิทางบัญชีให้เป็นกำไรสุทธิทางภาษีอากรตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข กฎหมายตามมาตรา 65 ทวิ และมาตรา 65 ตรี แห่งประมวลรัษฎากร 2) นำกำไรสุทธิทางบัญชีบวกกลับรายจ่ายการกุศล (ถ้ามี) 3 รายการ ได้แก่ - รายจ่ายเพื่อสนับสนุนการศึกษาหรือการกีฬา - รายจ่ายการกุศลสาธารณะ - รายจ่ายเพื่อการศึกษาหรือการกีฬา 3) หากมีรายจ่ายสนับสนุนการศึกษาหรือการกีฬาให้นำมาหักได้ 2 เท่า แต่ไม่เกิน 10% ของกำไรก่อนหักการกุศลฯทั้ง 3 รายการ โดยนำกำไรก่อนหักการกุศลฯมาคูณด้วย10 หาร 110 แล้วเปรียบเทียบกับจำนวน 2 เท่าของรายจ่าย เพื่อสนับสนุนการศึกษาที่จ่ายจริง จำนวนใดน้อยกว่า ให้นำไปถือเป็นรายจ่ายทางภาษีอากรได้ตามจำนวนนั้น (หักได้ 2 เท่า น้อยกว่า 10/110 ของกำไร ก่อนการกุศล) 4) รายจ่ายสนับสนุนการศึกษาส่วนที่เกิน 10 หาร110 ที่หักไม่ได้ สามารถนำมารวมหัก รายจ่ายเพื่อการศึกษาหรือเพื่อการกีฬา โดยนำจำนวนรายจ่ายเพื่อการสนับสนุนการศึกษาในส่วนที่ เหลืออยู่มาหารด้วยสองเพื่อหาจำนวนที่จะนำมาหักรวมกับรายจ่ายเพื่อการศึกษาหรือเพื่อการกีฬา 5) คำนวณหารายจ่ายค่าการกุศลสาธารณะและรายจ่ายเพื่อการศึกษาหรือเพื่อการกีฬา (สามารถนำเงินสนับสนุนการศึกษาส่วนเกินตามข้อ 4 มาหักรวมกับรายจ่ายเพื่อการศึกษาหรือเพื่อ การกีฬาได้) โดยนำกำไรหลังหักรายจ่ายสนับสนุนการศึกษามาคูณด้วย 2 หาร 102 หรือ 2 หาร 104 แล้วแต่กรณี ดังนี้ กรณีมีรายจ่ายการกุศลสาธารณะหรือรายจ่ายเพื่อการศึกษาหรือการกีฬาเพียงรายการเดียวให้ หักได้ เท่าที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 2 หาร 102 ของกำไรก่อนหักค่าการกุศลฯ กรณีมีรายจ่ายทั้ง 2 รายการ หักได้ดังนี้ - รายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะและรายจ่ายเพื่อการศึกษาหรือการกีฬาที่กิจการได้จ่ายไปแต่ ละรายการสูงกว่า 2 หาร 104 ของกำไรก่อนหักค่าการกุศลให้หักแต่ละรายการได้เท่ากับ 2 หาร 104 ของกำไรก่อนหักค่าการกุศลทั้ง 2 รายการ


- รายจ่ายเพื่อการกุศลธารณะและรายจ่ายเพื่อการศึกษาหรือการกีฬาที่กิจการจ่ายไป แต่ละรายการต่ำกว่า 2 หาร 104 ของกำไรก่อนหักค่าการกุศล ให้หักได้แต่ละรายการเท่าที่จ่ายจริง โดยจะหักรายการใดก่อนก็ได้ให้ผลลัพธ์เท่ากันรายจ่ายเพื่อการกุศลที่กิจการได้จ่ายไป - รายการหนึ่งรายการใดสูงกว่า 2 หาร104 ของกำไรก่อนหักค่าการกุศล และอีกรายการหนึ่งต่ำ กว่า 2 หาร104 ของกำไรก่อนหักค่าการกุศล ให้หักรายจ่ายการกุศลที่ต่ำกว่าก่อนแล้ว จึงหักค่ากุศล ที่เหลือไม่เกิน 2 หาร 102 ของกำไรหลังหักต่ำการกุศลตัวแรก แล้วเปรียบเทียบกับจำนวนรายจ่าย เพื่อการกุศลสาธารณะ และรายจ่ายเพื่อการศึกษาหรือรายจ่ายเพื่อการกีฬาตามที่กิจการได้จ่ายไป จริง จำนวนใดน้อยกว่า ให้นำไปถือเป็นรายจ่ายทางภาษีอากรได้ตามจำนวนนั้น 6) นำกำไรสุทธิทางภาษีอากรคูณด้วยอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลจะได้ภาษีเงินได้สิ้นปี ถ้าขาดทุนสุทธิ บริษัทไม่ต้องเสียภาษี 7) เมื่อคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลสิ้นปีแล้วให้นำภาษีเงินได้นิติบุคคลจ่ายล่วงหน้า (ภาษีครึ่งรอบระยะเวลาบัญชีที่ชำระแล้วตามแบบ ภ.ง.ด.51) และภาษีเงินได้ถูกหัก ณ ที่จ่ายทั้งปีมา หักออกดังนี้ ภาษีเงินได้นิติบุคคลที่คำนวณได้ (กำไรสุทธิทางภาษี x อัตราภาษี) xx หัก ภาษีเงินได้นิติบุคคลจ่ายล่วงหน้า (ภาษีที่ชำระแล้วตาม ภ.ง.ด.51) (xx) ภาษีเงินได้ถูกหัก ณ ที่จ่าย (xx) (xx) ภาษีเงินได้นิติบุคคลที่ต้องชำระ (ชำระเกิน) xx


ตัวอย่างแสดงการปรับปรุงกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล กำไรสุทธิทางบัญชี (จากงบกำไรขาดทุน) xxx บวก - รายจ่ายเพื่อสนับสนุนการศึกษาหรือการกีฬา xxx - รายจ่ายการกุศลสาธารณะ xxx - จ่ายเพื่อการศึกษาหรือการกีฬา xxx xxx บวกหรือหัก - รายหารปรับปรุงตามเงื่อนไขกฎหมาย มาตรา 70 ตรี xxx - มาตรา 65 ทวิ มาตรา 65 ตรี xxx xxx กำไรสุทธิทางภาษีก่อนหักรายจ่ายเพื่อการกุศล xxx หัก รายจ่ายเพื่อสนับสนุนการศึกษาหรือการกีฬา xxx (หักได้ 2 เท่า < 10/110 ของกำไรก่อนการกุศล) การกุศลสาธารณะการศึกษาและการกีฬา xxx หัก - รายจ่ายการกุศลสาธารณะ (2/104 ของกำไรสุทธิ) xxx - รายจ่ายเพื่อการศึกษาหรือการกีฬา (2/104 ของกำไรสุทธิ) xxx xxx (กรณีมีเงินบริจาคประเภทเดียวคูณด้วย 2/102) กำไรสุทธิทางภาษีอากร xxx ภาษีเงินได้นิติบุคคล (กำไรสุทธิทางภาษีอากร x อัตราภาษี) xxx


เดบิต ภาษีเงินได้นิติบุคคล xx เครดิต ภาษีเงินได้นิติบุคคลจ่ายล่วงหน้า (ภาษีครึ่งปีที่ชำระตาม ภ.ง.ด.51) xx ภาษีเงินได้ถูกหัก ณ ที่จ่าย xx ภาษีเงินได้นิติบุคคลค้างจ่าย xx เดบิต ภาษีเงินได้นิติบุคคลค้างจ่าย xx เครดิต เงินสด / ธนาคาร xx กรณีมีภาษีต้องชำระ กรณีมีภาษีชำระเกิน เดบิต ภาษีเงินได้นิติบุคคล xx ภาษีเงินได้นิติบุคคลชำระเกิน xx เครดิต ภาษีเงินได้นิติบุคคลจ่ายล่วงหน้า (ภาษีครึ่งปีที่ชำระตาม ภ.ง.ด.51) xx ภาษีเงินได้ถูกหัก ณ ที่จ่าย xx *ภาษีเงินได้นิติบุคคลชำระเกินเป็นบัญชีประเภทสินทรัพย์หมุนเวียน ซึ่งกิจการสามารถขอคืนภาษี จากกรมสรรพากรได้


ตัวอย่างที่ 3.2 บริษัท ชูเกียรติ จำกัด ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย มีทุนที่ชำระแล้ว 6 ล้านบาท มีกำไรสุทธิสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 25x1 ตามงบกำไรขาดทุน ดังนี้ รายได้ รายได้จากการขายสินค้า 4,500,000 บาท รายได้อื่น 500,000 บาท รวมรายได้ 5,000,000 บาท ค่าใช้จ่าย ต้นทุนขาย 2,700,000 บาท เงินเดือนและค่าจ้าง 450,000 บาท ค่าเบี้ยประกันภัย 300,000 บาท ค่าเสื่อมราคาสินทรัพย์ 20,000 บาท ค่าพาหนะเดินทาง 27,000 บาท ค่าบริจาคการกุศล 39,000 บาท ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด 10,000 บาท รวมค่าใช้จ่าย 3,546,000 บาท กำไรสุทธิ 1,454,000 บาท จากการตรวจสอบพบข้อมูลดังต่อไปนี้ 1. รายได้อื่นเป็นเงินปันผลจำนวน 100,000 บาทได้รับจากบริษัท เอกราช จำกัดถือหุ้น เป็นเวลา 4 ปี 2. ค่าบริจาคการกุศลเป็นรายจ่ายเพื่อสนับสนุนสถานพยาบาลของรัฐโรงพยาบาลพญาไท สมทบทุนซื้อเครื่องมือแพทย์ จำนวน 30,000 บาท 3. ค่าพาหนะเดินทาง 27,000 บาท มีค่าใช้จ่ายเดินทางส่วนตัวของผู้บริหารบริษัทรวมอยู่ ด้วย 7,000 บาท 4. บริษัท มีผลขาดทุนของรอบระยะเวลาบัญชีก่อน 150,000 บาท (ไม่เกิน 5 รอบบัญชี) 5. บริษัทจ่ายชำระภาษีครึ่งปีไปแล้วตามแบบ ภ.ง.ด.51 จำนวน 10,000 บาท 6. ภาษีถูกหัก ณ ที่จ่ายทั้งปี 13,000 บาท


ให้คำนวณ ภาษีเงินได้นิติบุคคลสิ้นรอบระยะเวลาบัญชีพร้อมบันทึกบัญชี และระบุแบบ ภ.ง.ด.และ ระยะเวลาในการยื่นแบบ การคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลสิ้นรอบระยะเวลาบัญชี กำไรสุทธิทางบัญชี 1,454,000 บวก เงินบริจาคสนับสนุนสถานพยาบาลของรัฐ 30,000 รายจ่ายส่วนตัวผู้บริหารบริษัท 7,000 37,000 รวม 1,491,000 หัก เงินปันผลที่ได้รับการยกเว้นครึ่งหนึ่ง (100,000/2) 50,000 ผลขาดทุนสะสมของรอบระยะเวลาบัญชีก่อน 150,000 200,000 กำไรก่อนหักเงินบริจาคสนับสนุนสถานพยาบาล 1,291,000 หัก เงินบริจาคสนับสนุนสถานพยาบาล 60,000 (หักได้เท่าที่จ่ายจริง 2 เท่า 30,000 x 2 = 60,000 แต่ไม่เกิน 1,291,000 x 10/110 = 117,909.09) กำไรสุทธิทางภาษีอากร 1,231,000 บริษัทมีทุนที่ชำระแล้ว 7 ล้านบาท (เกิน 5 ล้านบาท) จึงต้องใช้อัตราภาษีทั่วไปคือ 20% ภาษีเงินได้นิติบุคคลสิ้นรอบระยะเวลาบัญชี (1,231,000 x 20%) 246,200 หัก ภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งรอบระยะเวลาบัญชี 10,000 ภาษีเงินได้ถูกหัก ณ ที่จ่ายทั้งปี 13,000 23,000 ภาษีเงินได้นิติบุคคลสิ้นรอบระยะเวลาบัญชีที่ต้องชำระ 223,200 ดังนั้น บริษัท ชูเกียรติ จำกัด ต้องชำระภาษีเงินได้นิติบุคคลสิ้นปี 233,200 บาทและยื่นแบบ ภ.ง.ด.50 ภายใน 150 วัน นับแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี


อธิบาย 1. รายจ่ายสนับสนุนสถานพยาบาลของรัฐ 30,000 บาท ต้องนำไปบวกกลับกับกำไรสุทธิ ทางบัญชีก่อน 2. บริษัท ชูเกียรติ จำกัด ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ได้รับเงินปันผลจากบริษัท ชูชัย จำกัด ถือหุ้นเป็นเวลา 4 ปี จำนวน 100,000 บาทกฎหมายยกเว้นให้นำมาลงเป็นรายได้ครึ่งหนึ่งจำนวน 100,000/2 = 50,000 บาท การปรับปรุง เงินปันผลจากบริษัท เอกราช จำกัด มาหีกออกจากกำไรสุทธิทางบัญชี 3. ค่าพาหนะเดินทาง 27,000 บาท มีค่าใช้จ่ายเดินทางส่วนตัวของผู้บริหารรวมอยู่ด้วย 7,000 บาท ถือเป็นรายจ่ายที่มีลักษณะเป็นการส่วนตัว เป็นรายจ่ายต้องห้าม การปรับปรุง นำค่าใช้จ่ายเดินทางส่วนตัว 7,000 บาท ไปบวกกลับกับกำไรสุทธิทางบัญชี 4. ผลขาดทุนของรอบระยะเวลาบัญชีก่อน 150,000 บาท ไม่เกิน 5 รอบบัญชี ถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีได้ การปรับปรุง นำผลขาดทุนสะสมของรอบระยะเวลาบัญชีก่อน ไปหักกับกำไรสุทธิทางบัญชี 5. ภาษีครึ่งรอบระยะเวลาบัญชีที่ชำระแล้วจำนวน 10,000 บาท และภาษีหัก ณ ที่จ่าย ทั้งปีจำนวน 13,000 บาทถือเป็นเครดิตภาษีนำไปหักออกจากภาษีที่คำนวณได้ตอนสิ้นรอบ ระยะเวลาบัญชี การบันทึกบัญชีภาษีเงินได้นิติบุคคลสิ้นรอบระยะเวลาบัญชี เดบิต ภาษีเงินได้นิติบุคคล 246,200 เครดิต ภาษีเงินได้นิติบุคคลจ่ายล่วงหน้า 10,000 ภาษีถูกหัก ณ ที่จ่าย 13,000 ภาษีเงินได้นิติบุคคลค้างจ่าย 223,200


แบบฝึกทักษะที่ 1 มาตรา 65 ทวิ (2) ค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาทรัพย์สิน ............................................................................................................................. ................................................. เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2566 บริษัท อานันท์ จำกัด ซื้อรถยนต์นั่ง ในราคา 1,400,000 บาท ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% จำนวน 98,000 บาท คิดค่าเสื่อมราคาวิธีเส้นตรงในอัตรา 20% ต่อปี บริษัทมีผลกำไร ทางบัญชี 200,000 บาท ให้ทำ 1. คำนวณค่าเสื่อมราคา ตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด 2. บริษัทจะต้องชำระภาษีปี 2566 เท่ากับเท่าใด ให้ทำ 1. คำนวณค่าเสื่อมราคา ตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด หลักภาษี : ค่าเสื่อมราคารถยนต์นั่ง หรือรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 ที่นั่ง ให้คิดค่าเสื่อมราคา ในอัตราร้อยละ 20 ของมูลค่าต้นทุนส่วนที่ไม่เกิน 1 ล้านบาท บัญชีการเงิน ค่าเสื่อมราคา – รถยนต์นั่ง ....................................... (.........................................................) บัญชีภาษีอากร ค่าเสื่อมราคา – รถยนต์นั่ง ....................................... (.........................................................) ดังนั้น ค่าเสื่อมราคา - รถยนต์นั่ง บันทึกบัญชี ................. ....................................... ปรับปรุง .................... กำไรสุทธิ ให้ทำ 2. บริษัทจะต้องชำระภาษีปี 2566 เท่ากับเท่าใด กำไรสุทธิทางบัญชี ........................ บวก ค่าเสื่อมราคา - .......................... ........................ กำไรสุทธิเพื่อเสียภาษี ........................ คูณ อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล ....................%. ภาษีที่ต้องชำระ ........................ “รถยนต์” จะต้องมีหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ดังนี้ 1. ทรัพย์สินประเภทรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน หรือรถยนต์นั่ง ให้คิดค่าเสื่อมราคาจาก มูลค่าต้นทุน เฉพาะส่วนที่ไม่เกิน 1 ล้านบาท 2. การหักค่าเสื่อมราคาทรัพย์สินแต่ละประเภท จะหักจนหมดมูลค่าต้นทุนของทรัพย์สินนนั้นไม่ได้ โดยให้คงเหลือมูลค่าของทรัพย์สินนั้น เป็นจำนวนเงินอย่างน้อย 1 ล้านบาท เว้นแต่ ทรัพย์สินประเภทรถยนต์นั่ง หรือรถยนต์ที่มีต้นทุนเกิน 1 ล้านบาท ให้คงเหลือมูลค่าต้นทุนของ ทรัพย์สินเท่ากับต้นทุนส่วนที่เกิน 1 ล้านบาท


แบบฝึกทักษะที่ 2 มาตรา 65 ทวิ (2) ค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาทรัพย์สิน ............................................................................................................................. ................................................. เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 บริษัท อานันท์จำกัด ซื้อรถยนต์นั่ง ในราคา 963,000 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% คิดค่าเสื่อมราคาวิธีเส้นตรงในอัตรา 20% ต่อปี บริษัทมีผลกำไรทางบัญชี 250,000 บาท ให้ทำ 1. คำนวณค่าเสื่อมราคา ตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด 2. บริษัทจะต้องชำระภาษีปี 2566 เท่ากับเท่าใด ให้ทำ 1. คำนวณค่าเสื่อมราคา ตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด หลักภาษี : ค่าเสื่อมราคารถยนต์นั่ง หรือรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 ที่นั่ง ให้คิดค่าเสื่อมราคา ในอัตราร้อยละ 20 ของมูลค่าต้นทุนส่วนที่ไม่เกิน 1 ล้านบาท บัญชีการเงิน ค่าเสื่อมราคา – รถยนต์นั่ง ....................................... (.........................................................) บัญชีภาษีอากร ค่าเสื่อมราคา – รถยนต์นั่ง ....................................... (.........................................................) ดังนั้น ค่าเสื่อมราคา - รถยนต์นั่ง บันทึกบัญชี ................. ....................................... ปรับปรุง .................... กำไรสุทธิ ให้ทำ 2. บริษัทจะต้องชำระภาษีปี 2566 เท่ากับเท่าใด กำไรสุทธิทางบัญชี ........................ บวก ค่าเสื่อมราคา - .......................... ........................ กำไรสุทธิเพื่อเสียภาษี ........................ คูณ อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล ....................%. ภาษีที่ต้องชำระ ........................


แบบฝึกทักษะที่ 3 มาตรา 65 ทวิ (2) ค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาทรัพย์สิน ............................................................................................................................. ................................................. เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2566 บริษัท สุดสวย จำกัด ซื้อเครื่องจักรเพื่อการวิจัยผลิตภัณฑ์ อุปกรณ์ดังกล่าว ไม่เคยผ่านการใช้งานมาก่อนอายุการใช้งาน 5 ปี ในราคา 600,000 บาท คิดค่าเสื่อมราคาวิธีเส้นตรงในอัตรา 20% ต่อปี บริษัทมีผลกำไรทางบัญชี 300,000 บาท ให้ทำ 1. คำนวณค่าเสื่อมราคา ตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด 2. บริษัทจะต้องชำระภาษีปี 2566 เท่ากับเท่าใด ให้ทำ 1. คำนวณค่าเสื่อมราคา ตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด หลักภาษี : ค่าเสื่อมราคาเครื่องจักรเพื่อการวิจัยและพัฒนาให้หักค่าเสื่อมราคาเบื้องต้นในวันที่ได้รับ มาในอัตรา 40% ต้นทุนส่วนที่เหลือให้ตามเงื่อนไขปีละ 20% ต้องเป็นเครื่องจักรที่ไม่เคยผ่านการใช้งานมา ก่อน อายุการใช้ตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป และมูลค่าต้นทุนไม่ต่ำกว่า 100,000 บาท 1 มกราคม 2566 ณ วันซื้อ คิดค่าเสื่อมราคา ........................................................................ ........................................................................ ต้นทุนส่วนที่เหลือ ........................................................................ 31 ธันวาคม 2566 คิดค่าเสื่อมราคา ........................................................................ ........................................................................ ค่าเสื่อมราคา - เครื่องจักร ตามหลักการบัญชี ............................................. ค่าเสื่อมราคา - เครื่องจักร ตามหลักภาษีอากร ............................................. ดังนั้น ค่าเสื่อมราคา - เครื่องจักร บันทึกบัญชี .............. ............................................. ปรับปรุง .............. กำไรสุทธิ ให้ทำ 2. บริษัทจะต้องชำระภาษีปี 2566 เท่ากับเท่าใด กำไรสุทธิทางบัญชี ........................ หัก ค่าเสื่อมราคา - .......................... ........................ กำไรสุทธิเพื่อเสียภาษี ........................ คูณ อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล ....................%. ภาษีที่ต้องชำระ ........................


แบบฝึกทักษะที่ 4 มาตรา 65 ทวิ (2) ค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาทรัพย์สิน ............................................................................................................................. ................................................. เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2566 บริษัท สุดสวย จำกัด ซื้อเครื่องจักรเพื่อการวิจัยผลิตภัณฑ์ อุปกรณ์ดังกล่าว ไม่เคยผ่านการใช้งานมาก่อนอายุการใช้งาน 5 ปี ในราคา 400,000 บาท คิดค่าเสื่อมราคาวิธีเส้นตรงในอัตรา 20% ต่อปี บริษัทมีผลกำไรทางบัญชี 100,000 บาท ให้ทำ 1. คำนวณค่าเสื่อมราคา ตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด 2. บริษัทจะต้องชำระภาษีปี 2566 เท่ากับเท่าใด ให้ทำ 1. คำนวณค่าเสื่อมราคา ตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด หลักภาษี : ค่าเสื่อมราคาเครื่องจักรเพื่อการวิจัยและพัฒนาให้หักค่าเสื่อมราคาเบื้องต้นในวันที่ได้รับ มาในอัตรา 40% ต้นทุนส่วนที่เหลือให้ตามเงื่อนไขปีละ 20% ต้องเป็นเครื่องจักรที่ไม่เคยผ่านการใช้งานมา ก่อน อายุการใช้ตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป และมูลค่าต้นทุนไม่ต่ำกว่า 100,000 บาท 1 สิงหาคม 2566 ณ วันซื้อ คิดค่าเสื่อมราคา ........................................................................ ........................................................................ ต้นทุนส่วนที่เหลือ ........................................................................ 31 ธันวาคม 2566 คิดค่าเสื่อมราคา ........................................................................ ........................................................................ ค่าเสื่อมราคา - เครื่องจักร ตามหลักการบัญชี ............................................. ค่าเสื่อมราคา - เครื่องจักร ตามหลักภาษีอากร ............................................. ดังนั้น ค่าเสื่อมราคา - เครื่องจักร บันทึกบัญชี .............. ............................................. ปรับปรุง .............. กำไรสุทธิ ให้ทำ 2. บริษัทจะต้องชำระภาษีปี 2566 เท่ากับเท่าใด กำไรสุทธิทางบัญชี ........................ ...... ค่าเสื่อมราคา - .......................... ........................ กำไรสุทธิเพื่อเสียภาษี ........................ คูณ อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล ....................%. ภาษีที่ต้องชำระ ........................


แบบฝึกทักษะที่ 5 มาตรา 65 ทวิ (5) เงินตรา ทรัพย์สิน หนี้สิน ซึ่งมีค่าหรือราคาเป็นเงินตราต่างประเทศที่ เหลืออยู่ในวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี ให้คำนวณค่าหรือเงินตราเป็นเงินตราไทย ............................................................................................................................. ................................................. บริษัท วนรัตน์ จำกัด ขายสินค้าเป็นเงินเชื่อให้ผู้ซื้อประเทศสหรัฐอเมริกา มูลค่า 20,000 ดอลล่าร์ อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลล่าร์ เท่ากับ 39.00 บาท ณ วันสิ้นรอบระยะเวลาบัญชี อัตราแลกเปลี่ยนของธนาคาร พาณิชย์ อัตรารับซื้อ 1 ดอลล่าร์เท่ากับ 40.50 บาท อัตราขาย 1 ดอลล่าร์เท่ากับ 38 บาท ให้ทำ 1. คำนวณผลกำไรขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันสิ้นรอบระยะเวลาบัญชีของลูกหนี้ 2. หากบริษัทมีกำไรสุทธิทางบัญชี 430,000 บาทจะต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในปี 2566 เท่ากับ เท่าไร ให้ทำ 1. คำนวณผลกำไรขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันสิ้นรอบระยะเวลาบัญชีของลูกหนี้ วิธีทำ บัญชีลูกหนี้ – ณ วันขาย (.........................................) ........................................... บัญชีลูกหนี้ – ณ สิ้นงวด (.........................................) ........................................... กำไร(ขาดทุน)จากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ........................................... ดังนั้น ปรับปรุง .............. กำไรสุทธิ ให้ทำ 2. หากบริษัทมีกำไรสุทธิทางบัญชี 430,000 บาทจะต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในปี 2566 เท่ากับ เท่าไร วิธีทำ กำไรสุทธิทางบัญชี ........................ บวก .......................................... ........................ กำไรสุทธิเพื่อเสียภาษี ........................ คูณ อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล ....................%. ภาษีที่ต้องชำระ ........................


แบบฝึกทักษะที่ 6 มาตรา 65 ทวิ (5) เงินตรา ทรัพย์สิน หนี้สิน ซึ่งมีค่าหรือราคาเป็นเงินตราต่างประเทศที่ เหลืออยู่ในวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี ให้คำนวณค่าหรือเงินตราเป็นเงินตราไทย ............................................................................................................................. ................................................. บริษัท วนรัตน์ จำกัด ซื้อสินค้าเป็นเงินเชื่อจากประเทศญี่ปุ่น มูลค่า 500,000 เยน อัตราแลกเปลี่ยน 100 เยน เท่ากับ 32.00 บาท ณ วันสิ้นรอบระยะเวลาบัญชี อัตราแลกเปลี่ยนของธนาคารพาณิชย์ อัตรารับซื้อ 100 เยน เท่ากับ 34 บาท อัตราขาย 100 เยน เท่ากับ 31 บาท ให้ทำ 1. คำนวณผลกำไรขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันสิ้นรอบระยะเวลาบัญชีของเจ้าหนี้ 2. หากบริษัทมีกำไรสุทธิทางบัญชี 500,000 บาทจะต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในปี 2566 เท่ากับ เท่าไร ให้ทำ 1. คำนวณผลกำไรขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันสิ้นรอบระยะเวลาบัญชีของเจ้าหนี้ วิธีทำ บัญชีเจ้าหนี้– ณ วันซื้อ (.........................................) ........................................... บัญชีเจ้าหนี้– ณ สิ้นงวด (.........................................) ........................................... กำไร(ขาดทุน)จากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ........................................... ดังนั้น ปรับปรุง .............. กำไรสุทธิ ให้ทำ 2. หากบริษัทมีกำไรสุทธิทางบัญชี 430,000 บาทจะต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในปี 2566 เท่ากับ เท่าไร วิธีทำ กำไรสุทธิทางบัญชี ........................ หัก .......................................... ........................ กำไรสุทธิเพื่อเสียภาษี ........................ คูณ อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล ....................%. ภาษีที่ต้องชำระ ........................


แบบทดสอบหลังเรียน แสกนเพื่อทำแบบทดสอบหลังเรียน คำชี้แจง : จงเลือกคำตอบที่ถูกต้อง 1. บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลจะต้องหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาโดยจะเลือกใช้วิธีการ อย่างไร ก. วิธีการทางบัญชีที่รับรองทั่วไป ข. วิธีการทางบัญชีที่ได้รับอนุมัติ ค. วิธีการทางบัญชีที่กำหนด ง. วิธีการทางบัญชีที่เปลี่ยนแปลง จ. ไม่มีข้อถูก 2. การหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาทรัพย์สินอย่างอื่นนอกจากที่ดินและสินค้าต้องคิดร้อยละเท่าไร ก. ร้อยละ 5 ข. ร้อยละ 10 ค. ร้อยละ 15 ง. ร้อยละ 20 จ. ร้อยละ 25 3. ค่าเสื่อมราคา = มูลค่าของทรัพย์สินราคาเงินผ่อน × อัตราค่าเสื่อม × ระยะเวลา คือการคิดค่า เสื่อมตามหลักการใด ก. ตามหลักการบัญชี ข. ตามหลักการภาษีอากร ค. ตามหลักการกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ง. ตามหลักการประมวลรัษฎากร จ. ถูกทุกข้อ


4. การคิดค่าเสื่อมราคาต้องเหลือมูลค่าทรัพย์สินไว้ในบัญชีอย่างน้อยเท่าไหร่ ก. 1 บาท ข. 2 บาท ค. 5 บาท ง. 10 บาท จ. 15 บาท 5. ทรัพย์สินประเภทคอมพิวเตอร์จะต้องหักค่าลึกหรอภายในกี่รอบระยะเวลาบัญชี ก. 1 รอบระยะเวลาบัญชี ข. 2 รอบระยะเวลาบัญชี ค. 3 รอบระยะเวลาบัญชี ง. 4 รอบระยะเวลาบัญชี จ. 5 รอบระยะเวลาบัญชี 6. มาตรา 65 ทวิ (9) คือ ก. การโอนทรัพย์สิน ข. การจำหน่ายหนี้สูญ ค. การตีราคาสินค้าคงเหลือ ง. การตีราคาทรัพย์สิน จ. ถูกทุกข้อ 7. การชำระภาษีของนิติบุคคลต้องชำระกี่ครั้ง ก. 1 ครั้ง ข. 2 ครั้ง ค. 3 ครั้ง ง. 4 ครั้ง จ. ไม่ต้องชำระ


8. บริษัท แก้ว จำกัดจ่ายเงินซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ในราคา 150,000 บาทเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2566 วันสิ้นงวดบัญชี 31 ธันวาคม 2566 หักค่าเสื่อมราคาทางภาษีได้เท่าใด ก. 49,995 ข. 49,996 ค. 49,956 ง. 49,959 จ. 50,000 9. บริษัท เมืองไทย จํากัดจ่ายเงินปันผลให้บริษัทเกาหลีในต่างประเทศ 200,000 บาทต้องหักภาษีณ ที่จ่ายเท่าใด ก. 10,000 ข. 20,000 ค. 30,000 ง. 50,000 จ. 60,000 10. การคิดค่าเสื่อมราคาเครื่องบันทึกการเก็บเงินมีกี่วิธี ก. 1 วิธี ข. 2 วิธี ค. 3 วิธี ง. 4 วิธี จ. 5 วิธี


Click to View FlipBook Version