โครงงานภาษาไทย เรื่อง ค าไทยที่มักเขียนผิด จัดท าโดย นางสาวอัญชลี แรกบุตร โครงงานฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชาภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนเทศบาลบ้านแปะ ๑ สังกัดกองการศึกษา เทศบาลต าบลบ้านแปะ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
โครงงานภาษาไทย เรื่อง ค าไทยที่มักเขียนผิด จัดท าโดย นางสาวอัญชลี แรกบุตร โครงงานฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชาภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนเทศบาลบ้านแปะ ๑ สังกัดกองการศึกษา เทศบาลต าบลบ้านแปะ
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ก ชื่อ : นางสาวอัญชลี แรกบุตร ชื่อโครงงาน : ค าไทยที่มักเขียนผิด กลุ่มสาระการเรียนรู้ : วิชาภาษาไทย สถานศึกษา : โรงเรียนเทศบาลบ้านแปะ ๑ อ.จอมทอง จงเชียงใหม่ บทคัดย่อ โครงงาน เรื่อง ค าไทยที่มักเขียนผิด ฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ๑) เพื่อรวบรวมค าที่มักเขียนผิดใน ภาษาไทย แล้วค้นคว้าแก้ไขให้ถูกต้อง ๒) เพื่อเขียนค าในภาษาไทยให้ถูกต้องตามแบบพจนานุกรม ฉบับ ราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.๑๔๔๓ ๓) เพื่อเป็นการศึกษาค้นคว้ารวบรวมการสะกดค าที่ถูกต้องให้กับคนรุ่นต่อๆไป จากการค้นคว้าข้อมูล การเขียนสะกดค าในภาษาไทยให้ถูกต้องนั้นนับเป็นสิ่งที่ส าคัญอย่างยิ่ง แสดงถึงความ เข้าใจและให้ความส าคัญกับภาษาซึ่งเป็นมรดกล้ าค่าของไทย จ าเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ หลักเกณฑ์การเขียน และต้องหมั่นฝึกฝนการเขียนอยู่เสมอ แต่ปัจจุบันค าภาษาไทยสามารถเขียนได้ หลากหลายแบบ ทั้งค าพ้องรูปพ้องเสียงต่างๆ ท าให้เกิดความสับสน และด้วยสังคมที่เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อน คนไทยโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นเริ่มตามกระแสการเขียนค าผิดๆ เพื่อท าตัวให้เข้ากับสังคมปัจจุบันจนท าให้เกิดการ เขียนค าผิดไม่ตรงตามหลักพจนานุกรมไทยทางผู้จัดท าจึงมีความประสงค์ที่จะรวบรวมท าภาษาไทยที่มักเขียน ผิด ซึ่งเป็นค าที่พวกเราคุ้นเคยจากการฟังการพูด และการท าตารางสรุปค าไทย โดยเรียงจากพยัญชนะ ก-ฮ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ศึกษาในการท าโครงงาน คืออินเตอร์เน็ต คือเว็บไซต์ต่างๆ และสื่อสังคมออนไลน์ ได้แก่ เฟซบุ๊ก และอินตราแกรม โดยรวบรวมค าที่เขียนสะกดผิดจากแหล่งต่างๆ แล้วแก้ไขค าที่มักเขียนผิดให้ ถูกต้อง และท าตารางสรุปค าภาษาไทยที่มักเขียนผิดโดยจัดเรียงตามแบบพจนานุกรม พบว่าค าที่มักเขียน สะกดผิดส่วนมากจะอยู่ในหมวดอักษร ป พ ส และ อ ส่วนหมวดอักษรที่ทางผู้จัดยังไม่พบ หรือไม่มีการเขียน ใช้บนอินเตอร์เน็ตและสื่อสังคมออนไลน์เลย ได้แก่ ฃ ฏ ฑ ฒ ฦ และ ฬ
ข กิตติกรรมประกาศ โครงงาน เรื่อง ค าไทยที่มักเขียนผิด ฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชาภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ๑) เพื่อรวบรวมค าที่มักเขียนผิดในภาษาไทย แล้วค้นคว้าแก้ไขให้ถูกต้อง ๒) เพื่อเขียนค าในภาษาไทยให้ถูกต้องตามแบบพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.๑๔๔๓ ๓) เพื่อเป็น การศึกษาค้นคว้ารวบรวมการสะกดค าที่ถูกต้องให้กับคนรุ่นต่อๆไปจากการค้นคว้าข้อมูล ทางผู้จัดท าต้องขอขอบผู้อ านวยการโรงเรียนเทศบาลบ้านแปะ ๑ ที่คอยให้ค าปรึกษา แนะน าแนวทาง และให้ความรู้ในการค้นคว้าข้อมูล และจัดท ารายงานโครงงานฉบับนี้ และขอขอบคุณคณะครูทุกคนที่ให้ความ ช่วยเหลือมาตลอด สุดท้ายนี้ผู้จัดท าหวังว่าโครงงาน เรื่อง ค าไทยที่มักเขียนผิด ฉบับนี้จะสามารถให้ความรู้และ เป็น ประโยชน์แก่ผู้อ่านทุกๆท่าน ผู้จัดท า นางสาวอัญชลี แรกบุตร ค
สารบัญ หน้า บทคัดย่อ ก กิตติกรรมประกาศ ข สารบัญ ค บทที่ ๑ บทน า ๑.๑ ที่มาและความส าคัญ ๑ ๑.๒ วัตถุประสงค์ ๒ ๑.๓ ขอบเขตการศึกษา ๒ ๑.๔. นิยามศัพท์เฉพาะ ๒ ๑.๕. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ ๒ บทที่ ๒ เอกสารที่เกี่ยวข้อง ๒.๑ ความหมายของภาษา ๔ ๒.๒ ความส าคัญของภาษา ๔ ๒.๓ องค์ประกอบของภาษา ๕ ๒.๔ การเขียนสะกดค า ๕ ๒.๕ ความส าคัญของการเขียนสะกดค า ๖ ๒.๖ พจนานุกรมภาษาไทย ๖ ๒.๗ ค าไทยที่มักเขียนผิด ๖ ๒.๘ การเรียงล าดับค าตามตัวอักษรในภาษาไทย ๖ ๒.๙ วิธีพิจารณาล าดับของค า ๗ ๒.๑๐ การเรียงล าดับและวิธีเก็บค า (ฉบับราชบัณฑิตยสถาน) ๗ บทที่ ๓ วิธีการด าเนินงาน ๓.๑ การรวมรวมค าไทยที่มักเขียนผิด ๙ ๓.๒ การสรุปเรียงค าตามแบบพจนานุกรม ๙ บทที่ ๔ ผลการด าเนินงาน ๔.๑ ตางรางค าไทยที่มักเขียนผิด ๑๐ บทที่ ๕ สรุปและอภิปรายผล ๕.๑ สรุปผล ๒๗ ๕.๒ อภิปรายผล ๒๗ ๕.๓ ประโยชน์ที่ได้รับ ๒๗ ๕.๔ ข้อเสนอแนะ ๒๗ บรรณานุกรม ๒๘
บทที่ ๑ บทน า ที่มาและความส าคัญ ภาษาไทยเป็นภาษาประจ าชาติ ถือเป็นมรดกอันล้ าค่าทางวัฒนธรรม อันก่อให้เกิดอันเป็นเอกภาพ เสริมสร้างคุณภาพของคนในชาติให้มีความเป็นไทย ภาษาเป็นเครื่องมือติดต่อสื่อสารให้มีประสิทธิภาพ ปัจจุบัน คนไทยใช้ภาษาไทยทั้งในภาษาพูดและภาษาเขียนในการแสวงหาความรู้และประสบการณ์ ส่งเสริมภูมิปัญญา และเป็นหลักฐานในการค้นคว้า บันทึกเรื่องราวต่างๆ ภาษาไทยจึงเป็นสมบัติของชาติที่ควรค่าแก่การเรียนรู้ (สมพงษ์ ศรีพยาต. ๒๕๕๓:๑) ดังที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงมีพระราชด ารัสในที่ ประชุมของชุมนุมภาษาไทย คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถึงความส าคัญของภาษาไทยดังนี้ (กระทรวงศึกษาธิการ,กรมวิชาการ.๒๕๓๙:๘) ประเทศไทยนั้นมีภาษาของเราเอง ซึ่งต้องหวงแหน ประเทศใกล้เคียงของเราหลายประเทศมีภาษา ของตนเองแต่ว่าเขาไม่แข็งแรง เขาต้องพยายามหาหนทางที่จะสร้างภาษาของตนเองไว้มั่นคง เราโชคดีที่มี ภาษาเป็นของตนเองมาแต่โบราณกาล ซึ่งสมควรอย่างยิ่งที่ต้องรักษาไว้ ปัญหาเฉพาะด้านในการรักษาภาษานี้ มีหลายประการ อย่างหนึ่งต้องรักษาให้บริสุทธิ์ในวิธี หมายความว่าใช้ค ามาเขียนให้ถูกต้องชัดเจน ซึ่งนับเป็น ปัญหาที่ส าคัญ ปัญหาถัดไปคือ ความร่ ารวยในค าของภาษาไทยที่พวกเรานึกว่ารวยไม่พอ จึงต้องมีการบัญญัติ ค าศัพท์ใหม่มาใช้ ทักษะที่นับว่ามีความส าคัญต่อการเรียนรู้ภาษาไทยอย่างมาก ได้แก่ ทักษะการเขียนเพราะการเขียน เป็นการถ่ายทอดการคิด เป็นเครื่องมือในการพัฒนาการคิด สติปัญญา และทัศนคติ สามารถน าไปใช้ใน ชีวิตประจ าวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในท่ามกลางสังคมยุคแห่งข้อมูลข่าวสารเช่นปัจจุบันนี้ บุคคลจ าเป็นต้องติดต่อสื่อสารกันมากขึ้น ทักษะการเขียนจึงจ าเป็นและทวีความส าคัญขึ้นเป็นล าดับเพราะการ เขียนถ่ายทอดความคิดความรู้สึกความเข้าใจของตนเองออกมาเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อสื่อความหมายให้คน เข้าใจได้อย่างกว้างขวางและสามารถเก็บไว้เป็นหลักฐานอ้างอิงได้ การเขียนที่ไม่สมบูรณ์เพราะเขียนสะกด ค าผิดหรือข้อความผิด ย่อมท าให้เกิดการสื่อสารขาดประสิทธิภาพ ทั้งยังอาจก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงได้ เช่น กรณีเขียนหนังสือสัญญาต่างๆ ไม่ถูกต้อง (พวงเล็ก.๒๕๓๓:๑๗๔) การเขียนสะกดค าในภาษาไทยให้ถูกต้องนั้นนับเป็นสิ่งที่ส าคัญอย่างยิ่ง การเขียนค าภาษาไทยได้ ถูกต้องเป็นการแสดงถึงความเข้าใจ และให้ความส าคัญกับภาษาซึ่งเป็นมรดกล้ าค่าของไทย จึงจ าเป็นต้องมี ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การเขียนค านั้นๆ และต้องหมั่นฝึกฝนเขียนอยู่เสมอ แต่ปัจจุบัน ภาษาไทยสามารถเขียนไปได้หลากหลายแบบ อีกทั้งค าพ้องรูปค าพ้องเสียงต่างๆ ท าให้เกิดความสับสนและ ด้วยสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อก่อนอย่างเห็นได้ชัด คนไทยโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นเริ่มตามกระแสการเขียน ค าผิดๆ ค าแสลง ค าวัยรุ่น เพื่อท าให้เข้ากับสังคมในปัจจุบันจนท าให้เกิดการเขียนค าผิดที่ไม่ตรงตามหลัก พจนานุกรมไทย ทางผู้จัดท าจึงมีความประสงค์ที่จะรวบรวมค าภาษาไทยที่มักเขียนผิด ซึ่งเป็นค าที่พวกเรา คุ้นเคยจากการฟัง และการพูด ทั้งนี้เพื่อให้ง่ายต่อการศึกษาและเกิดประโยชน์สูงสุด ผู้จัดท าจะขอน าเสนอค า ไทยที่มักเขียนผิดพร้อมทั้งความหมาย โดยเรียงจากพยัญชนะ ก-ฮ
๒ วัตถุประสงค์ ๑. เพื่อรวบรวมค าที่มักเขียนผิดในภาษาไทย แล้วค้นคว้าแก้ไขให้ถูกต้อง ๒. เพื่อเขียนค าในภาษาไทยให้ถูกต้องตามแบบพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.๒๕๕๔ ๓. เพื่อเป็นการศึกษาค้นคว้า รวบรวมการสะกดค าที่ถูกต้องให้กับคนรุ่นต่อๆไป ขอบเขตการศึกษา ขอบเขตด้านระยะเวลา ระยะเวลาในการท าโครงงานฉบับนี้ ด าเนินการในภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๖ ตั้งแต่ วันที่ ๑๗ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๖ ถึงวันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๖๖ ขอบเขตด้านประชาชากร ศึกษารวบรวมค าไทยจากอินเตอร์เน็ต คือ เว็บไซต์ต่างๆ และจากสื่อสังคมออนไลน์ ได้แก่ เฟซบุ๊ก และ อินตราแกรม และนักเรียนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ และนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ ๓ (นักเรียนจ านวน ๙ คน) โรงเรียนเทศบาลบ้านแปะ ๑ สังกัดกองการศึกษาเทศบาลต าบลบ้าน แปะ อ าเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ค านิยามศัพท์ ๑. การเขียนสะกดค า หมายถึง การเขียนค าโดยใช้พยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ และตัวสะกด ตัวการันต์เรียบเรียงให้ถูกต้องและได้ความหมาย ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พุทธศักราช ๒๕๕๔ ๒. ค าที่มักเขียนผิด หมายถึง ค าไทยที่มักมีการเขียนสะกดผิดๆ ทั้งจากค าพ้องรูปและค าพ้องเสียง ต่างๆ ท าให้เกิดความสับสน และจากกระแสการเขียนค าผิดๆในกลุ่มวัยรุ่น ๓. พจนานุกรมไทย หมายถึง พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พุทธศักราช ๒๕๕๔ ซึ่งถือเป็น หนังสืออ้างอิงที่ได้ประมวลค าทั้งหมดที่มีอยู่ในภาษาไทย ให้ค าอ่าน ความหมาย ชัดเจนตลอดจนที่มาของค า ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ ๑. ได้ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับค าที่มักเขียนผิดในภาษาไทยและแก้ไขให้ถูกต้อง ๒. ผู้ศึกษาสามารถเขียนค าภาษาไทยได้ถูกต้องตามแบบพจนานุกรมไทย ๓. โครงงานฉบับนี้สามารถน าไปเผยแพร่และเป็นประโยชน์ให้กับผู้ที่สนใจหรือผู้อยากศึกษาได้
บทที่ ๒ เอกสารที่เกี่ยวข้อง ในการศึกษาโครงงานเรื่อง ค าไทยที่มักเขียนผิด ทางผู้จัดท าได้ท าการศึกษาค้นคว้ารวบรวมข้อมูล จาก เอกสารที่เกี่ยวข้องและจากเว็บไซต์บนเครือข่ายอินเตอร์เน็ตโดยจะน าเสนอตามล าดับ ดังนี้ ๑. ความหมายของภาษา ๒. ความส าคัญของภาษา ๓. องค์ประกอบของภาษา ๔. การเขียนสะกดค า ๕. ความส าคัญของการเขียนสะกดค า ๖. พจนานุกรมไทย ๗. ค าไทยที่มักเขียนผิด ๘. การเรียงล าดับตามตัวอักษรในภาษาไทย ๙. วิธีพิจารณาล าดับของค า ๑๐.การเรียงล าดับของค าและวิธีเก็บค า (ฉบับราชบัณฑิตยสถาน) ความหมายของภาษา ก าชัย ทองหล่อ (๒๕๓๓:๑๒-๑๖) ได้กล่าวถึงความหมายของภาษาว่า “ภาษา” เป็นค าภาษาสันสกฤต แปลตามรูปศัพท์หมายถึงค าพูดหรือถ้อยค าภาษาเป็นเครื่องมือของมนุษย์ที่ใช้ในการสื่อความหมายให้สามารถ สื่อสารติดต่อท าความเข้าใจกันโดยระเบียบของค าและเสียงเป็นเครื่องก าหนดในพจนานุกรมฉบับ ราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.๒๕๔๒ ให้ความหมายของค าว่า ภาษา คือเสียงหรือกิริยาอาการที่ท าความเข้าใจกันได้ ด้วยค าพูดถ้อยค าที่ใช้พูดจากัน ภาษาแบ่งออกเป็น ๒ ประเภท คือ ๑. ภาษาที่เป็นถ้อยค า ๒. ภาษาที่ไม่เป็นถ้อยค า ความส าคัญของภาษา ภาษาเป็นเครื่องที่ใช้สื่อสารกันของมนุษย์ มนุษย์ติดต่อสื่อสารเข้าใจกันได้ก็ด้วยอาศัยภาษาเป็น เครื่องมือช่วยที่ดีที่สุด ถือเป็นสิ่งช่วยยึดให้มนุษย์มีความผูกพันต่อกันเนื่องจากแต่ละภาษาต่างก็มีระเบียบแบบ แผนของคนซึ่ง เป็นที่ตกลงกันในแต่ละชาติ แต่ละกลุ่มชน การพูดภาษาเดียวกันจึงเป็นสิ่งที่ท าให้คนรู้สึกว่าเป็น พวกเดียวกันมีความผูกพันต่อกันในฐานะที่เป็นชาติเดียวกัน ซึ่งเป็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่งของมนุษย์และเป็น เครื่องแสดงให้เห็นวัฒนธรรมส่วนอื่นๆ ของมนุษย์ด้วย เราจึงสามารถศึกษาวัฒนธรรมตลอดจนเอกลักษณ์ของ ชนชาติต่างๆ ได้จากการศึกษาภาษาของชนชาตินั้นๆ
๔ ภาษาศาสตร์มีระบบกฎเกณฑ์ ผู้ใช้ภาษาต้องรักษากฎเกณฑ์ในภาษาไว้ด้วยอย่างไรก็ตามกฎเกณฑ์ใน ภาษานั้นไม่ตายตัวเหมือนกฎวิทยาศาสตร์แต่มีการเปลี่ยนแปลงไปตามธรรมชาติของภาษาเพราะเป็นสิ่งที่ มนุษย์ตั้งขึ้นจึงเปลี่ยนแปลงไปตามสมัยตามเห็นชอบของส่วนรวม และยังเป็นศิลปะที่มีความงดงามใน กระบวนการใช้ภาษากระบวนการในการใช้ภาษานั้นมีระดับและลีลาขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ หลายด้าน เช่น บุคคล กาลเทศะ ประเภทของเรื่อง ฯลฯ การที่เข้าใจภาษาและใช้ภาษาได้ดีจะจะต้องมีความสนใจศึกษาสังเกต ให้เข้าถึงรสของภาษาด้วย องค์ประกอบของภาษา องค์ประกอบของภาษาโดยทั่วไปจะมี๔ ประการ คือ ๑. เสียง นักภาษาศาสตร์จะใช้ความส าคัญของเสียงพูดมากกว่าเป็นลายลักษณ์อักษร เพราะภาษา ย่อมเกิดจากเสียงที่ใช้พูดกัน ส่วนภาษาเขียนเป็นสัญญาลักษณ์ที่ใช้แทนเสียงพูด ค าที่ใช้พูดจากันจะ ประกอบด้วยเสียงสระ เสียงพยัญชนะและเสียงวรรณยุกต์ แต่บางภาษาก็ไม่มีเสียงวรรณยุกต์ เช่น ภาษาบาลี ภาษาสันสกฤต ภาษาเขมร และภาษาอังกฤษ ๒. พยางค์และค า เป็นกลุ่มเสียงที่เปล่งออกมาแต่ละครั้งจะประกอบด้วย เสียงพยัญชนะ เสียงสระ และเสียงวรรณยุกต์จะมีความหมายหรือไม่มีความหมายก็ได้พยางค์แต่ละพยางค์จะมีเสียงพยัญชนะต้น ซึ่ง เป็นเสียงที่อยู่หน้าเสียงสระพยางค์ทุกพยางค์จะต้องมีเสียงพยัญชนะต้น เสียงสระและเสียงวรรณยุกต์บาง พยางค์ก็อาจมีเสียงพยัญชนะสะกดประกอบอยู่ด้วยเช่น “ปา” พยัญชนะต้น ได้แก่ เสียงพยัญชนะ /ป/ เสียงสระ ได้แก่ เสียงสระอา เสียงวรรณยุกต์ ได้แก่ เสียงสามัญ ๓. ค า เป็นการน าเสียงพยัญชนะ เสียงสระและเสียงวรรณยุกต์มาประกอบกันท าให้เกิดเสียงและมี ความหมาย ค าจะประกอบด้วยค าพยางค์เดียวหรือหลายพยางค์ก็ได้ ๔. ประโยค เป็นการน าค ามาเรียงกันตามลักษณะโครงสร้างของประโยคในภาษาไทยที่ก าหนดเป็น กฎเกณฑ์หรือระบบทางไวยากรณ์ของแต่ละภาษาและท าให้ทราบหน้าที่ของค า การเขียนสะกดค า เว็บสเตอร์(Webster.๑๙๖๖) กล่าวว่า การเขียนสะกดค าคือศิลปะหรือเทคนิคในการสร้างค าโดยใช้ อักษรตามแบบที่สังคมยอมรับ อดุลย์ ไทรเล็กพิม (๒๕๒๘ : ๖๓) ได้ให้ความหมายของการสะกดค าว่า เป็นการเขียนโดยเรียงล าดับ พยัญชนะ สระ และวรรณยุกต์ รวมทั้งตัวสะกด ตัวการันต์ ภายในค าหนึ่งๆ ได้ถูกต้องตามพจนานุกรมฉบับ ราชบัณฑิตยสถาน อรพรรณ ภิญโญภาพ (๒๕๒๙ : ๑๔) ได้อธิบายการเขียนสะกดค าว่า เป็นการฝึกทักษะการเขียนให้ ถูกต้องตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานแก่ผู้เรียน และจะต้องให้ผู้เรียนเข้าในการประสมค า
๕ รู้หลักเกณฑ์ที่จะเรียบเรียงล าดับตัวอักษรในค าหนึ่งๆ ให้ได้ความหมายที่ต้องการ เพื่อประโยชน์ไปใช้ ในการสื่อสาร จากความหมายของการสะกดค าที่กล่าวมาข้างต้น สรุปได้ว่า การเขียนสะกดค า หมายถึง การเขียน โดยเรียงล าดับพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์และตัวสะกดเป็นค าได้อย่างถูกต้องตามหลักเกณฑ์ และถูกต้องตาม พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน เพื่อให้สามารถสื่อความหมายได้ถูกต้อง ความส าคัญของการเขียนสะกดค า การเขียนสะกดค าให้ถูกต้อง มีความส าคัญในเรื่องของการสื่อความหมายหากเขียนสะกดผิดพลาด จะ ท าให้สื่อสารความหมายผิดเพี้ยนไป เข้าใจไม่ตรงกัน พจนานุกรมภาษาไทย พจนานุกรมภาษาไทยเป็นหนังสือส าหรับค้นคว้าความหมายของค าให้ความรู้เกี่ยวกับค าในภาษา เช่น การเขียนสะกด การอ่านออกเสียง ชนิดของค าในไวยากรณ์ ที่มาของค าความหมาย ลักษณะของค าที่ให้ค าที่มี ความหมายเหมือนกันหรือตรงข้ามกัน ประวัติของค า ชื่อต่างๆ ที่ส าคัญเป็นต้น พจนานุกรมที่ใช้บรรทัดฐานใน การเขียนสะกดตัวการันต์ในภาษาไทยคือพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ค าไทยที่มักเขียนผิด ค าไทยที่มักเขียนผิด หมายถึง ค าไทยที่มักมีการเขียนตัวสะกดค าผิด จากการสะกด จากวรรณยุกต์ จากค าพ้องเสียงท าให้ตัวสะกดไม่ตรงตามในพจนานุกรมภาษาไทย ท าให้เกิดการเขียนผิด การสื่อความหมาย ผิดไปจากสิ่งที่ผู้เขียนต้องการจะสื่อ การเรียงล าดับค าตามอักษรในภาษาไทย วิธีเรียงล าดับค าตามตัวอักษรในภาษาไทย คือ การจัดล าดับก่อนหลังของค าต่างๆ ในภาษาไทยอย่าง เป็นระบบ เพื่อก่อให้เกิดความสะดวกและรวดเร็วในการค้นหาค า การเรียงล าดับค าอย่างเป็นระบบนี้ถูก น าไปใช้ประโยชน์โดยทั่วไป เช่น การท าพจนานุกรม การท าดัชนีของหนังสือ การเรียงรายชื่อผู้ติดต่อใน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การเรียงข้อมูลตามอักษรในโปรแกรมคอมพิวเตอร์ต่างๆ เป็นต้น โดยการเรียงล าดับค าจะมี กฎต่างๆที่น ามาใช้ในการพิจารณาเปรียบเทียบค า กฎล าดับอักขระ คือ กฎในการจัดเรียงล าดับก่อนหลังของอักขระในภาษาไทย ซึ่งมีความจ าเป็นที่ต้อง ทราบเพื่อใช้ในขั้นตอนการเปรียบเทียบอักขระของค าในภาษาไทย กฎล าดับพยัญชนะ คือ จะเรียงล าดับพยัญชนะดังนี้ ก ข ฃ ค ฅ ค ฆ ง จ ฉ ช ซ ฌ ญ ฏ ฎ ฐ ฑ ฒ ณ ด ต ถ ท ธ น บ ป ผ ฝ พ ฟ ภ ม ย ร ล ว ษ ศ ส ห ฬ อ ฮ ข้อสังเกต ฤ ฤา ฦ ฦา ไม่ใช่พยัญชนะ แต่ถูกน ามาพิจารณาร่วมกับพยัญชนะ กฎล าดับสระ คือ จะเรียงล าดับรูปสระดังนี้ อะ อา อิ อี อึ อื อุ อู เอะ เอ แอะ แอ โอะ โอ เอาะ ออ เออะ เออ เอียะ เอีย เอือะ เอือ อัวะ อัว อ า ไอ ใอ เอา ข้อสังเกต การเรียงสระจะยึดตามรูปที่เขียนไม่ใช่เสียง และสระประสมจะไม่น ามาจัดเรียงโดยตรง (เช่น เอีย เอือ เอาะ แอะ) แต่จะถูกแยกรูปพิจารณาเป็นอักขระเดี่ยว กฎล าดับวรรณยุกต์คือ จะเรียงล าดับดังนี้ ไม้ไต่คู้ ไม้เอก ไม้โท ไม้ตรี ไม้จัตวา ไม้ทัณฑฆาต ข้อสังเกต ไม้ไต่คู้ และ ไม้ทัณฑฆาต ไม่ใช่วรรณยุกต์แต่ถูกน ามาพิจารณาร่วมกับวรรณยุกต์
๖ วิธีพิจารณาล าดับของค า ในแต่ละค าให้พิจารณาพยัญชนะต้นก่อนสระและวรรณยุกต์เสมอ แม้จะมีสระเขียนไว้ด้านหน้า ด้านบน หรือด้านล่างพยัญชนะต้น ก็พิจารณาดั่งสระนั้นถูกเขียนไว้หลังพยัญชนะต้นเสมอ จากนั้นจับคู่ค าแล้ว แยกเปรียบเทียบอักขระทีละคู่ไปตามล าดับในค า จนกว่าจะพบต าแหน่งที่แตกต่าง แล้วจึงใช้กฎล าดับอักขระที่ กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ในการเรียง ๑. หากค าที่เปรียบเทียบ ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะที่ต่างกัน ให้ใช้กฎล าดับพยัญชนะได้ทันที เช่น กลอน จะมาก่อน คลอน เพราะต่างกันที่อักขระแรก ก มาก่อน ค ศาลา จะมาก่อน สาระ เพราะต่างกันที่อักขระแรก ศ มาก่อน ส ๒. หากค าที่เปรียบเทียบ ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะเดียวกัน ให้พิจารณาอักขระถัดไปเรื่อยๆ จนกว่าจะพบ อักขระที่ไม่เหมือนกัน เช่น จักรพรรณ (จ- ั–ก-ร-พ-ร-ร-ณ) จะมาก่อน จักรพรรดิ(จ- ั–ก-ร-ร-ด- ิ) เพราะต่างกันที่ อักขระคู่ที่ ๘ โดย ณ มาก่อน ด ๓. หากมีค าที่เปรียบเทียบ ขึ้นต้นด้วยสระหน้า ( เ แ โ ไ ใ ) ไม่ว่าจะเป็นสระเดียวกันหรือไม่ก็ตาม จะต้องข้ามไปพิจารณาพยัญชนะต้นก่อนเสมอ และพิจารณาดั่งสระหน้านั้นถูกเขียนอยู่หลังพยัญชนะต้นหนึ่ง ต าแหน่ง เช่น แกลบ (ก-แ-ล-บ) จะมาก่อน ครอง (ค-ร-อ-ง) เพราะพยัญชนะต้นต่างกันคือ ก กับ ค ไกล (ก-ไ-ล) จะมาก่อน เพลง (พ-ล-เ-ง) เพราะพยัญชนะต้นต่างกันคือ ก กับ พ เกวียน (ก-ว-เอีย-น) จะมาก่อน เกิน (ก-เ-อ-น) เพราะอักขระคู่ที่ ๓ ต่างกัน คือ ว มาก่อนสระอิ ๔. ไม่พิจารณาวรรณยุกต์และเครื่องหมายในตอนแรก ยกเว้นกรณีค าที่เปรียบเทียบต่างกันเฉพาะที่ วรรณยุกต์หรือเครื่องหมาย ก็ใช้เกณฑ์ล าดับวรรณยุกต์ ๕. หากค าที่เปรียบเทียบต่างกันเฉพาะต าแหน่งวรรณยุกต์เท่านั้น ถึงแม้ตัววรรณยุกต์จะต่างกัน ให้ถือ ว่าพยัญชนะที่ไม่มีวรรณยุกต์ก ากับมาก่อนตัวที่มีวรรณยุกต์ก ากับเสมอ การเรียงล าดับค าและวิธีเก็บค า (ฉบับราชบัณฑิตยสถาน) ๑. ตัวพยัญชนะล าดับไว้ตามตัวอักษร คือ ก – ฮ ไม่ได้เรียงล าดับตามเสียง เช่น จะค้นค า ทราบ ต้อง ไปหาในหมวดตัว ท จะค้นหาค าว่า เหมา ต้องไปหาในหมวดตัว ห ส่วน ฤ ฤา ตามล าดับ ไว้หลังตัว ร และ ฦ ฦา ล าดับไว้หลังตัว ล ๒. สระไม่ได้ล าดับไว้ตามเสียง แต่ล าดับไว้ตามรูปที่ประสมกัน หลายรูปจะจัดเรียงตามล าดับรูปสระ ที่อยู่ก่อนและหลังตามล าดับดังนี้ อะ อา อิ อี อึ อื อุอู เอะ เอ แอะ แอ โอะ โอ เอาะ ออ เออะ เออ เอียะ เอีย เอือะ เอือ อัวะ อัว อ า ไอ ใอ เอา ส่วนตัว ย ว อ นับล าดับอยู่ในพยัญชนะเสมอ ๓. การเรียงล าดับค า จะเรียงล าดับพยัญชนะก่อนเป็นส าคัญ แล้วจึงเรียงล าดับตามรูปสระ ดังนั้นค า ที่ไม่มีสระปรากฏอยู่เป็นรูปประสมอยู่ด้วย จึงอยู่ข้างหน้า เช่น กก อยู่หน้า กะ หรือ ขลา อยู่หน้า ขะข่ า ส่วน ค าที่มีพยัญชนะกับรูปสระปรากฏเป็นรูปประสมกันก็ใช้หลักการเรียงล าดับค าข้างต้นเช่นเดียวกัน เช่น จริก
๗ จริม จริง จรุก และโดยปรกติจะไม่ล าดับตามวรรณยุกต์ แต่จะจัดวรรณยุกต์เข้าในล าดับต่อเมื่อค านั้นเป็นค าที่ มีตัวสะกดตัวการันต์เหมือนกัน ค าที่มีไม้ไต่คู้จะล าดับก่อนวรรณยุกต์ ๔. จ าพวกค าที่มีน าด้วย กระ- บางพวกใช้แต่ กระ- อย่างเดียวบางพวกใช้เป็น กะ- ก็ได้ ประเภทที่ใช้ เป็น กะ- ได้นั้น ได้เก็บมารวมพวกไว้ที่ กะ- อีกครั้งหนึ่ง แต่เก็บเฉพาะค าโดยไม่มีบริบทนิยาม ดังนั้น ถ้าพบค า ที่ขึ้นต้นด้วย กะ- ในจ าพวกนั้น ให้ดูบทนิยามที่ กระ- เว้นไว้แต่ที่ใช้ได้ ๒ อย่างโดยความหมายต่างกัน จึงจะมี บทนิยามไว้ทั้ง ๒ แห่ง ๕. ค าที่เพิ่มพยางค์หน้าซึ่งใช้ในค าประพันธ์โบราณอันเป็นวิธีที่ภาษาบาลีเรียกว่า อัพภาส และภาษา สันสกฤตเรียกว่า อัภยาส แปลว่าวิธี ซ้อนตัวอักษร ค าเหล่านี้มีจ านวนมาก บางแห่งเก็บรวบรวมไว้ที่ค าขึ้นต้น ใช้หน้าค าที่ตั้งต้นตัว ค มีความแปลอย่างเดียวกับค าเดิมนั้นบางแห่งเก็บกระจายเรียงไปตามล าดับค า เช่น บะหมี่ แต่ก็คงจะเก็บไม่หมด ฉะนั้นถ้าค าใดค้นไม่พบที่ล าดับค าให้ไปดูค าที่เป็นต้นเดิม เช่น ยะแย้ม ดูที่ แย้ม ๖. ภาษาถิ่นบางถิ่นพูดสั้นๆ เช่น กะดะ พูดแต่เพียง ดะ (ไม่มี กะ) กะง้อนกะแง้น พุแต่เพียง ง้อน แง้น (ไม่มีกะ) แต่ความหมายของค าเหมือนกันกับค าที่มี กะ น าหน้า ค าเช่นนี้เก็บไว้ที่ กะ แห่งเดียว ๗. ค าที่มีเสียงกลับกัน เช่น ตะกรุด เป็น กะตรุด ตะกร้อ เป็น กะตร้อ ตะกรับ เป็น กะตรับ โยปกติ เก็บไว้ที่อักษร ก และ ต แต่ถ้าค้นไม่พบที่อักษร ก ก็ให้ค้นอักษร ต ๘. ค าต่อไปนี้ซึ่งเป็นค าที่ใช้มากในบทกลอน คือ ก. ค าที่เติม อา อี หรือ อิน ข้างท้าย เช่น กายา กายี กายิน ข. ค าที่เติม เอศ ข้างท้าย (ตามภาษากวีเรียกว่า ศ เข้าลิลิต ท าค าที่เรียกว่าค าสุภาพให้เป็นค า เอกตามข้อบังคับโคลง) เช่น กมเลศ มยุเรศ ค. ค าที่เติม อาการ ข้างท้าย เช่น จินตนาการ คมนาการ ทัศนาการ ง. ค าที่เติม ชาติ ข้างท้าย เช่น กิมิชาติ คชาชาติ ค าเหล่านี้มักมีความหมายต่างไปจากเดิม ได้รวบรวมไว้ในพจนานุกรมนี้ด้วยแต่อาจจะไม่หมด เพราะมีจ านวนมาก ถ้าค้นไม่พบในรูปค านั้นๆ ให้ดูที่ค าเดิม เช่น กายา กายี เมื่อค้นที่ค า กายา กายี ไม่พบให้ดู ที่ค าว่า กาย ค า กาย มีความหมายอย่างไร กายา กายี ก็มีความหมายเช่นเดียวกับค าอื่นๆ ให้ต้นดูในท านองนี้ ๙. ศัพท์ที่มีมูลรากอย่างเดียวกัน แต่แปลงรูปไปได้หลายอย่าง เช่น หิมวัต แปลงรูปเป็น หิมวันต์ หิมวา หิมวาต หิมวาน หิมพาน โดยความหมายไม่เปลี่ยนไป ให้บทนิยามไว้ที่ศัพท์เดิมคือ หิมวัต แต่แห่งเดียว ส่วนศัพท์ที่แปลงรูปไปจากศัพท์เดิมก็เก็บไว้ต่างหาก แต่บ่งชี้ให้ไปดูศัพท์เดิม เช่น หิมวินต์ กิมวา หิมวาต หิม วาน (หิมมะ)-น. หิมวัต. ๑๐.การเรียงล าดับค าที่เป็นนามย่อย เช่น ตะนอย ซ่อน คา ไม่ได้เรียงรวมกับตัวสามานยนามอย่างที่ ใช้พูด เป็น มดตะนอย ปลาซ่อน หญ้าคา แต่เรียงสามานยนาม มด ปลา หญ้า ไว้แห่งหนึ่งตามตัวอักษรและ เรียงนามย่อย ตะนอย ซ่อน คา ไว้ต่างหากตามตัวอักษรนั้นๆ เว้นแต่ค าซึ่งแยกออกไม่ได้เพราะเป็นชื่อของสิ่งใด สิ่งหนึ่งทั้งค า เช่น แมลงภู่ ซึ่งเป็นชื่อของหอยหรือปลาบางชนิด จะเรียงรวมไว้ด้วยกันที่อักษร ม หรือ ปลา กริม ซึ่งเป็นชื่อขนม ไม่ใช่ปลา จะเรียงไว้ด้วยกันที่อักษร ป ถึงกระนั้นก็มีค าบางค าที่ไม่อาจเรียงตามหลักนี้ได้ ฉะนั้น ค าในท านองนี้เมื่อค้นไม่พบในที่ที่เป็นนามย่อยก็ค้นต่อไปที่ที่เป็นสามานยนาม เช่น น้ าตาลกรวด เมื่อค้น ที่ กรวด ไม่พบ ก็ให้ไปค้นที่ค า น้ าตาล
๘ ๑๑.ค า ๒ ค าเมื่อประสมกันแล้ว โดยค าแรกเป็นค าเดียวกับแม่ค าหรือค าตั้ง และมีความหมาย เกี่ยวเนื่องกับค าตั้ง จะเก็บเป็นอนุพจน์ คือ ลูกค าของค าตั้งนั้นๆ เช่น กดขี่ กดคอ กดหัว เก็บเป็นลูกค าของค า กด เว้นแต่ค าที่ประสมกันนั้นจะมีความหมายเป็นอิสระหรือต่างไปจากค าตั้ง จึงจะแยกเป็นค าตั้งต่างหาก เช่น ขวัญอ่อน ที่หมายถึงผู้ตกใจง่าย คือ เด็กหรือหญิงซึ่งมักจะขวัญหายบ่อยๆเก็บเป็นลูกค าของค า ขวัญ ส่วน ขวัญอ่อน ที่เป็นชื่อเพลงร้องร าชนิดหนึ่ง จะแยกเป็นค าตั้งเพราะมีความหมายต่างออกไป ค าลักษณะนี้จะใส่ เลขก ากับไว้ด้วย เป็นขวัญอ่อน ๑ และขวัญอ่อน ๒ ส่วนค าที่น ามาประสมกันแล้ว มีความหมายไม่ต่างจากค า เดิม แปลได้ค าต่อค า จะไม่เก็บ เช่น ข้าวผัด ไม่เก็บเป็นลูกค าของข้าวเพราะมีความหมายเท่าเดิมแต่ละค า ๑๒.ค าค าเดียวกันซึ่งอาจประสมอยู่ข้างหน้าหรือข้างหลังค าอื่นๆ เช่น น้ า ประสมอยู่ในค าต่างๆเป็น แม่น้ า ลูกน้ า น้ าใจ น้ าต้อย น้ าเต้า ถ้าค าที่อยู่ข้างหน้าค าว่า น้ า เป็นอักษรตัวอื่น จะล าดับไว้อักษรนั้นๆ อย่าง ค า แม่น้ า ล าดับไว้ในอักษร ม ลูกน้ า ล าดับไว้ในอักษร ล ไม่ล าดับไว้ในอักษร น แต่ถ้าค าว่า น้ า อยู่ข้างหน้า ก็ ล าดับไว้ที่อักษร น โดยเป็นลูกค าของน้ า เช่น น้ ากรด น้ าแข็ง น้ าย่อย
บทที่ ๓ วิธีการด าเนินงาน โครงงานฉบับนี้เป็นการท าโครงงานเพื่อศึกษาเกี่ยวกับค าไทยที่มักเขียนผิด โดยวิธีการด าเนินงานของ การท าโครงงานฉบับนี้ ผู้จัดท าจะแบ่งเป็น ๒ ส่วน ดังนี้ การรวมรวมค าไทยที่มักเขียนผิด ขั้นตอนการด าเนินงาน ๑. รวมรวมค าไทยที่มักเขียนผิดบนอินเตอร์เน็ตโดยการค้นคว้าจากเว็บไซต์ต่างๆ ๒. รวบรวมค าไทยที่มักเขียนผิดจากสื่อสังคมออนไลน์ ได้แก่ เฟซบุ๊ก และ อินตราแกรม โดยการ รวบรวมจากโพสต์ต่างๆ บนสื่อสังคมออนไลน์ ๓. เก็บรวบรวมค าต่างๆ ที่มีการเขียนสะกดผิดจัดแบ่งไว้ตามตัวอักษรและรวมค าที่เขียนสะกดผิดที่มี ความหมายเข้าไว้ด้วยกัน ๔. แก้ไขค าที่เขียนผิดให้ถูกต้อง โดยเป็นค าที่เขียนถูก ค าที่เขียนผิด แบ่งไปตามตัวอักษร การสรุปเรียงค าตามแบบพจนานุกรม ขั้นตอนการด าเนินงาน ๑. ท าตารางสรุปค าไทยที่มักเขียนผิดโยจัดเรียงตามแบบพจนานุกรม โดยเรียงล าดับดังนี้ ๑.๑ พยัญชนะ เรียงล าดับตามตัวอักษร โดยยึดพยัญชนะตัวแรกเป็นหลักในการเรียง จะเรียงล าดับพยัญชนะดังนี้ ก ข ฃ ค ฅ ค ฆ ง จ ฉ ช ซ ฌ ญ ฏ ฎ ฐ ฑ ฒ ณ ด ต ถ ท ธ น บ ป ผ ฝ พ ฟ ภ ม ย ร ฤ ฤา ล ฦ ฦา ว ษ ศ ส ห ฬ อ ฮ ๑.๒ สระ เรียงล าดับตามรูปสระที่อยู่ก่อนหลัง จะเรียงล าดับรูปสระดังนี้ อะ อา อิ อี อึ อื อุ อู เอะ เอ แอะ แอ โอะ โอ เอาะ ออ เออะ เออ เอียะ เอีย เอือะ เอือ อัวะ อัว อ า ไอ ใอ เอา ๑.๓ ค าที่อยู่ในหมวดอักษรเดียวกัน ได้แก่ ตัวสะกด อักษรควบกล้ า หรืออักษรน า ๑.๔ ค าที่ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะและตามด้วยพยัญชนะ มาก่อนค าที่ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะและตาม ด้วยสระ ๑.๕ ค าที่ขึ้นไม่มีรูปวรรณยุกต์มาก่อนค าที่มีรูปวรรณยุกต์ ๒. บอกชนิดของค าและให้ความหมายค านั้นๆ ลงในตารางสรุป
บทที่ ๔ ผลการด าเนินงาน ในการศึกษาโครงงานเรื่อง ค าไทยที่มักเขียนผิด ทางผู้จัดท าได้ท าการศึกษาค้นคว้ารวบรวมค าที่มัก เขียนผิดจากเว็บไซต์บนอินเตอร์เน็ตและสื่อสังคมออนไลน์โดยจะขอน าเสนอผลการด าเนินงาน ดังนี้ ก ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ก็ ก้อ กะพรุน กระพรุน กงเกวียนก าเกวียน กงก ากงเกวียน กะเพรา กะเพา,กระเพา,กระเพรา กงสุล กงสุล กะล่อน กระล่อน กฎ กฎ กะละมัง กาละมัง กฐิน กฐิณ,กถิน กะลาสี กลาสี กบฏ กบฏ,กบถ,กบด กะละแม กาละแม,กาลาแม,กาละแมร์ กบาล,กระบาล กะบาล,กะบาน,บาน กะหรี่ กระหรี่ กรรมกร กรรมกรณ์,ก ามากอน กะเหรี่ยง กระเหรี่ยง กระเชอ กระเฌอ ,กะเชอ,กะเฌอ กะหล่ า กระหล่ า กระเพาะ กระเพาะ,กะเพราะ,กระ เพราะ กะโหลก กระโหลก (พระ) กระยาหาร (พระ) กายาหาร กังวาน กังวาล กริยา กิริยา กันแสง กรรแสง,กรรณแสง กรีฑา กรีธา,กรีทา กาลเทศะ กาละเทศะ กลยุทธ์ กลยุทธ,กลยุทธิ,กลยุทธิ์ กาลเวลา กาฬเวลา กลางคัน กลางครัน กาฬสินธุ์ กาฬสินธ์,กาลกลิ่นอาย กลิ่นไอ ก าเหน็จ ก าเน็จ,ก าเหน็ด กสิณ กสิน กิจจะลักษณะ กิจจะลักษณะ,กิจจลักษณะ กเฬวราก กเฬวราก กิตติมศักดิ์ กิตติมศักดิ์,เกียรติมศักดิ์ กอปร กอป,กอปร์ กินรี กินนรี กอล์ฟ กอลฟ,กอลฟ์,ก็อลฟ์,ก็อล์ฟ, ก๊อลฟ์,ก๊อล์ฟ กุฏิ กุฎ,กุฏี กะทันหัน กระทันหัน กู กรู กะเทย กระเทย เกม เกมส์ กะเทาะ กระเทาะ เกล็ดเลือด เกร็ดเลือด กะบังลม กระบังลม เกษียณ เกษียน,เกษียร กะปิ กระปิ เกสร เกสร กะพง กระพง เกาต์ เก๊าท์ กะพริบ กระพริบ แก๊ง แก๊งค์,แก๊งก์,แกงค์,แกงส์
๑๑ ข ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ขบถ ขบฎ ขาดดุล ขาดดุลย์ ขโมย ขโมย ข้าวเหนียวมูน ข้าวเหนียวมูล ขริบ ขลิบ,ขริป,ขลิป ขี้เกียจ ขี้เกลียด,ขี้เกียด ขวาน ขวาญ ขึ้นฉ่าย คื่น-, -ช่าย ขะมักเขม้น ขะมักเขม้น เขยก เขยก,ขะเหยก ขัณฑสกร ขัณท-,ขันท-,ขันฑ- ไข่มุก ไข่มุก,ไข่มุก,ไข่มุกด์ ฃ ปัจจุบันไม่มีค าที่ใช้ “ฃ” โดยหันไปใช้ “ข” แทน เช่น “ฃวด” ก็ใช้เป็น “ขวด” เป็นต้น ค ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น คณบดี คณะบดี คัดสรร คัดสรรค์ คทา คฑา,คธา คาร์ป คาร์ฟ,คราฟ,คาร์พ,คราพ คน ตน คารวะ เคารวะ,คาราวะ,คราวะ ครรไล ครรลัย ค านวณ ค านวน ครองแครง คลองแคลง ค าสดุดี ค าดุษฎี ครองราชย์ ครองราช คุกกี้ คุ้กกี้,คุ๊กกี้ ครอบคลุม คลอบคลุม, -ครุม, -คุม คุรุศึกษา ครุศึกษา คริสตกาล คริสต์กาล เค้ก เค็ก,เค๊ก คริสตจักร คริสต์จักร เครียด เคียด,เคลียด คริสต์ทศวรรษ คริสตทศวรรษ เครื่องราง เครื่องลาง คริสต์ศตวรรษ คริสตศตวรรษ เครื่องส าอาง เครื่องส าอางค์ คริสต์ศาสนิกชน คริสตศาสนิกชน แค็ตตาล็อก แคตตาล็อก,แคตาล็อก คริสต์มาส คริสตมาส แคบหมู แค็บ-, แคป-,แค็ปครุฑ ครุท,ครุฑ,ครุต แคระแกร็น แคะแกรน,แคระแกน ครุภัณฑ์ คุรุภัณฑ์ ,แคระแกรน,แคระเกร็น ครุศาสตร์ คุรุศาสตร์ แครง แคลง คฤหาสน์ คฤหาสถ์ โค่ง โข่ง คลิก คลิ้ก,คลิ๊ก โคตร โครต,โคต,โคด คลินิก คลินิก,คลินิค โครงการ โครงการณ์,โคลงการ ค้อน ฆ้อน โควตา โควต้า คะ ค๊ะ คอลัมน์ คอลัมม์,คอลัมภ์ คะนอง คนอง
๑๒ ฆ ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ฆราวาส ฆรวาส,ฆารวาส,ฆราวาท ฆาตกรรม ฆาตรกรรม ฆาตกร ฆาตรกร เฆี่ยน เคี่ยน ง ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น งบดุล งบดุลย์ งูสวัด งูสวัส,งูสวัสดิ์ จ ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น จงกรม จงกลม จาระไน จารไน จระเข้ จรเข้ จาระบี จารบี จลนศาสตร์ จลศาสตร์ จ านง จ านงค์ จลาจล จราจล จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย จะงอย จงอย จะจะ จะๆ จะละเม็ด จาละเม็ด,จาระเม็ด,จรเม็ด ,จระเม็ด จินตนาการ จินตะนาการ,จินตรนาการ เจ๊ง เจ็ง,เจ้ง,เจ๋ง จักจั่น จั๊กจั่น,จั๊กกะจั่น เจ๋ง เจ๊ง จักร จัก,จักร์ เจตจ านง เจตจ านงค์ จักรพรรดิ จักรพรรดิ์ เจตนารมณ์ เจตนารมย์ จักรวรรดิ จักรวรรดิ์ เจียระไน เจียรไน จักสาน จักรสาน โจทก์ โจทย์ จัตุรัส จตุรัส ใจ จัย ฉ ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ฉบับ ฉะบับ ฉันท์ ฉัน ฉะนั้น ฉนั้น เฉพาะ ฉะเพาะ,ฉเพาะ ฉะนี้ ฉนี้ ไฉน ฉไน ฉัน ฉันท์
๑๓ ช ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น (พระ) ชนมพรรษา (พระ) ชนม์พรรษา ชะนี ชนี (พระ) ชนมานุ (พระ) ชนม์มานุ ชะมด ชมด ชมพู ชมภู ชะลอ ชลอ ชมพู่ ชมภู่ ชัชวาล ชัชวาลย์ ชลมารค ชลมาค,ชลมาคร ชานชาลา ชานชะลา ช็อกโกเลต, ช็อกโกแลต ช๊อกโกแลต,ช็อกโกแล็ต,ชอค โกแลต,ช๊อคโกแลต ชีวประวัติ ชีวะประวัติ ไชเท้า ไซเท้า ชอุ่ม ชะอุ่ม ไชโป๊ ไชโป๊ว,ไชโป้ว ซ ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ซวดเซ ทรวดเซ ซีรีส์ ซีรีย์,ซีรี่ย์ ซ่องเสพ ส้องเสพ ซุ่ม สุ่ม,สุ้ม ซาบซ่าน ทราบซ่าน,ซาบส้าน ซุ้ม สุ้ม ซาบซึ้ง ทราบซึ้ง เซ็นชื่อ เซ็นต์ชื่อ ซาลาเปา ซาละเปา,ซะละเปา เซนติเมตร เซ็นติเมตร ซาวเสียง ซาวด์เสียง, ซาวน์เสียง แซ่บ แซบ ฌ ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ฌาน ฌาณ เฌอ กระเชอ ,กะเฌอ ฌาปนกิจ ฌาปณกิจ ญ ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ญวน ญวณ ญาณ ญาน ญัตติ ญัติ ญาติ ญาต ฎ ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ฎีกา ฏีกา ฎ ปัจจุบันไม่มีค าที่ขึ้นต้นด้วย “ฏ”
๑๔ ฐ ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ฐาน ฐาณ ฑ ไม่มีค าที่เขียนผิด ฒ ไม่มีค าที่เขียนผิ ส าหรับ “เฒ่าแก่” และ “เถ้าแก่” ใช้ได้ทั้งสองค า ณ ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ณ ณ. ด ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ดอกจัน ดอกจันท์,ดอกจันทน์, ดอกจันทร์ ดาวน์ ดาว์น,ดาว ดาษดื่น ดาดดื่น ดอกจันทน์ ดอกจัน,ดอกจันทน์, ดอกจันทร์ ด ารง ด ารงค์ ด าริ ด าหริ,ด าริห์ ดอกไม้จันทน์ ดอกไม้จัน,ดอกไม้จันท์, ดอกไม้จันทร์ ดุล ดุล ดุษณี โดยดุษฎี ดัตช์ ดัชต์,ดัชท์,ดัทช์ เดินเหิน เดินเหิร ดาดตะกั่ว ดาษตะกั่ว แดก แดรก,แด่ก,แดร่ก,แด๊ก ดาดฟ้า ดาษฟ้า ไดร์ฟ ไดรฟ์ ต ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ต่างๆ ต่างต่าง ติดสัด ติดสัตว์ ตรรกะ,ตรรก- ตรรกกะ โต๊ะ โต้ะ ตระเวน ตระเวณ ใต้ ไต้ ตราสัง ตราสังข์ ใต้เท้า ไต้เท้า ตรึงตรา ตรึงตา ไต้ ใต้ ตะกร้า ตระกร้า ไต้ก๋ง ใต้ก๋ง ตาราง ตะราง ไต้ฝุ่น ใต้ฝุ่น ตานขโมย ตาลขโมย ไตรยางศ์ ไตรยางค์ ต ารับ ต าหรับ ไต้หวัน ใต้หวัน
๑๕ ถ ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ถนนลาดยาง ถนนราดยาง เถา เถาว์ ถ่วงดุล ถ่วงดุลย์ ไถ่ตัว ถ่ายตัว ถั่วพู ถั่วพลู ท ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ทโมน ทโมน,โทมน ทุศีล ทุจศีล ทยอย ทะยอย ทูต ฑูต ทแยง ทะแยง ทูนหัว ทูลหัว ทรงกลด ทรงกรด ทูลกระหม่อม ทูนกระหม่อม ทรมาทรกรรม ทรมานทรกรรม เท่ เท่ห์ ทรราช ทรราชย์ เทพนม เทพพนม ทระนง,ทะนง ทรนง,ทนง เทเวศ,เทเวศร์, เทเวศวร์ เทเวศน์ ทลาย ทะลาย ทศกัณฐ์ ทศกัณฑ์ เทโวรหณะ เทโวรหนะ ทอนซิล ทอมซิน เทอญ เทิญ ทะนุถนอม ทนุถนอม เทอม เทิม,เทิร์ม ทะนุบ ารุง, ท านุบ ารุง ทนุบ ารุง เท้าความ ท้าวความ เทิด เทอด ทะเลสาบ ทะเลสาป เทิดทูน เทิดทูล ทัณฑ์ ฑัณฑ์ แท็กซี่ แท๊กซี่ ทายาด ทายาท แทรกแซง แซกแซง ทารุณ ทารุน โทรทรรศน์ โทรทัศน์ ทีฆายุโก ฑีฆายุโก โทรทัศน์ โทรทรรศน์ ทุกรกิริยา ทุกขกิริยา,ทุกขรกิริยา โทรม โซม ทุคติ ทุกข์คติ ทรุดโทรม ซุดโซม ทุพพลภาพ ทุพลภาพ โทรศัพท์ โทรศัพย์ ทุพภิกขภัย ทุภิกขภัย ทราย ซาด ธ ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ธนบัตร ธนาบัตร ธัญพืช ธัญญพืช ธนาณัติ ธนานัติ,ธนาณัต ธ ามรงค์ ธ ามรง,ท ามะรงค์ ธรรมเนียม ท าเนียม ธ ารง ธ ารงค์
๑๖ น ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น นพปฎล นพปดล น้ าจัณฑ์ น้ าจัน, -จัณท์, -จันท์ นภดล นพดล น้ ามันก๊าด น้ ามันก๊าซ, -ก๊าส นวัตกรรม นวตกรรม น้ าแข็งไส น้ าแข็งใส นอต น็อต,น๊อต นิจศีล นิจสิน นะ น๊ะ นิตยสาร นิตยาสาร นะคะ นะค่ะ,นะค๊ะ นิเทศ นิเทศน์,นิเทส นันทนาการ สันทนาการ นิมิต นิมิตร,นิรมิตร นัย นัยยะ นิวัต นิวัติ นัยน์ตา นัยตา นิเวศวิทยา นิเวศน์วิทยา น่ารัก หน้ารัก เนืองนิตย์ เนืองนิจ นาฏกรรม นาฎกรรม แน่นหนา หนาแน่ นาที นาฑี โน้ต โน๊ต,โน้ท,โน๊ท นานัปการ นานับประการ นานา นาๆ บ ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น บรรทัด บันทัด บางล าพู บางล าภู บรรทุก บันทุก บาดทะยัก บาททะยัก,บาดทยัก บรรลุ บันลุ บาตร บาต บรรเลง บันเลง บาทบงสุ์ บาทบงส์ บรั่นดี บะหรั่นดี บาทหลวง บาดหลวง บริสุทธิ์ บริสุทธ,บริสุทธิ บ าเหน็จ บ าเน็จ บล็อก บล็อค,บล๊อก บิณฑบาต บิณฑบาตร,บิณฑบาท บ่วงบาศ บ่วงบาศก์,บ่วงบาต,บ่วงบาท บิดพลิ้ว บิดพริ้ว บอระเพ็ด บรเพ็ด,บอระเพชร บุคคล บุคล บังสุกุล บังสกุล บุคลากร บุคคลากร บังเอิญ บังเอิน บุคลิก บุคคลิก,บุคลิค,บุคคลิค บัญญัติไตรยางศ์ บัญญัติไตรยางค์ บุคลิกภาพ บุคคลิกภาพ, บัตรสนเท่ห์ บัตรสนเท่ บุคลิคภาพ,บุคคลิคภาพ บันดาล บรรดาล บุปผาชาติ บุปผชาติ บันได บรรได บุษราคัม บุษราค า,บุศราคัม บันเทิง บรรเทิง บูชายัญ บูชายัน,บูชายันต์ บันลือ บรรลือ บูรณปฏิสังขรณ์ บูรณะปฏิสังขรณ์
๑๗ ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น เบญจเพส เบญจเพศ แบงก์ แบ็งก์,แบ๊งก์,แบงค์,แบ็งค์, เบนซิน เบ็นซิน,เบนซิล แบ๊งค์ เบรก เบรค โบราณ โบราน,โบราญ ป ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ปฏิกิริยา ปฏิกริยา ประมาณ ประมาน ปฏิสันถาร ปฏิสันถาน,ปฏิสันฐาน ประเมิน ประเมิณ ปฏิทิน ปติทิน ประโยชน์โพดผล ประโยชน์โภชผล, ปฏิพัทธ์ ประติพัทธ์ ประโยชน์โภชน์ผล ปฏิสังขรณ์ ปฏิสังขร ประสบการณ์ ประสบการณ์,ประสบการ ปฐมนิเทศ ปฐมนิเทศก์,ปฐมนิเทศน์ ประสบผลส าเร็จ, ประสบความส าเร็จ ประสพผลส าเร็จ, ปณิธาน,ประณิธาน ปนิธาน,ประนิธาน ประสพความส าเร็จ ปรนนิบัติ ปรณนิบัติ ประสูติ ประสูต,ประสูตร ปรมาณู ปรมณู ประสูติการ ประสูติกาล ปรองดอง ปองดอง ประสูติกาล ประสูติการ ปรอด,ปรอท ประหลอด,ปะหลอด, ประหรอด ประหลาด ปะหลาด,ปหลาด ประหัตประหาร ปะหัตประหาร, ประกายพรึก ประกายพฤกษ์ ประหัตถ์ประหาร ประกาศนียบัตร ประกาศณียบัตร ปรัมปรา ปร าปรา,ปะร าปะรา ประกาศิต ประกาษิต ปรัศนี ปรัศนีย์ ประจัญ ประจัน ปรากฏ ปรากฎ ประจัญบาน ประจันบาน,ประจันบาล, ประจัญบาล ปรานีปราศรัย ปราณีปราศรัย ปรารถนา ปราถนา ประจันหน้า ประจัญหน้า ปราศจาก ปราศจาค ประจันห้อง ประจัญห้อง ปราศรัย ปราศัย ประจ าการ ประจ าการณ์ ปล้นสะดม ปล้นสดมภ์ ประณต ประนต ปะทะ ประทะ ประณม ประนม (ยกกระพุ่มมือ) ปะแล่ม ปแล่ม,แปล่ม ประฌาม ประนาม ปักษิน ปักษิณ ประณีต ปราณีต,ประนีต ปั๊ม ปั้ม ประดิดประดอย ประดิษฐ์ประดอย ปาฏิหาริย์ ปาฏิหาร,ปาฏิหารย์ ประนีประนอม ประณี- ,ปราณี- ,ปรานี-, -ประณอม,-ปรานอม ปาติโมกข์ ปาฏิโมกข์ ปาริชาต ปาริชาติ
๑๘ ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ปิกนิก ปิคนิค เปล่า ปล่าว,ป่าว ปิดปากเงียบ ปริปากเงียบ เปอร์เซ็นต์ เปอร์เซนต์ ปีติยินดี ปิติยินดี เป๋อเหลอ เป๋อเล๋อ ปุโรหิต ปุโลหิต แปรพักตร์ แปรพรรค ผ ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ผดุง ผะดุง ผุดลุกผุดนั่ง ผลุดลุกผลุดนั่ง ผรุสวาท ผรุสาวาส ผูกพัน ผูกพันธ์ ผลลัพธ์ ผลลัพท์ ผู้เยาว์ ผู้เยา ผล็อย ผลอย เผชิญ ผเชิญ,ผะเชิญ ผลัด ผัด เผลอไผล เผอไผ ผลานิสงส์ ผลานิสงฆ์ เผอเรอ เผลอเรอ ผอบ ผะอบ เผอิญ ผเอิญ,ผะเอิญ ผัดไทย ผัดไท เผ่าพันธุ์ เผ่าพัน ผัดผ่อน ผลัดผ่อน แผ่ซ่าน แผ่ส้าน,แผ่ซ้าน ผาสุก ผาสุข แผนการ แผนการณ์ ผีซ้ าด้ าพลอย ผีซ้ าด้ามพลอย แผลงฤทธิ์ แผงฤทธิ์ ผีพุ่งไต้ ผีพุ่งใต้ ไผท ผไท,ผะไท ฝ ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ฝรั่งเศส ฝรั่งเศษ ฝึกปรือ ฝึกปือ,ฝึกปลือ ฝากครรภ์ ฝากครร ไฝ ใฝ ฝีดาษ ฝีดาด พ ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น พงศ์พันธุ์ พงพันธุ์,พงษ์พันธุ์ พยุง พะยุง พจนานุกรม พจณานุกรม พเยีย พะเยีย,เพยีย พยัก พะยัก พรรณนา พรรณา พยักพเยิด พะยักพะเยิด,พยักเพยิด พรหมจรรย์ พรมจรรย์ พยัคฆ์ พยัค,พยัคร,พยัฆ พระวงศ์ พระวงค์ พยาน พญาณ,พยาณ,พะยาน พราหมณ์ พราห์มณ์,พรามณ์ พยาบาท พญาบาท,พยาตร พร่ าพลอด พร่ าพรอด
๑๙ ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น พฤศจิกายน พฤษจิกายน พิลิปดา ฟิลิปดา พฤษภาคม พฤศภาคม พิศวง พิสวง พลการ พละการ พิศวาส พิสวาส,พิสวาท พลศึกษา พละศึกษา พิสดาร พิศดาร พละก าลัง พลก าลัง พิสมัย พิศมัย พลาสติก พลาสติค พิสูจน์ พิสูตร พหูสูต พหูสูตร พึมพ า พึมพัม พะแนง พแนง,แพนง พุดดาน พุดดาล พะยอม พยอม พุทธชาด พุทธชาติ พะยูน พยูน พู่กัน ภู่กัน พะวันพะวน พวักพวน พู่ระหง ภู่ระหง พังทลาย พังทะลาย เพชฌฆาต เพชรฆาต พันทาง พันธุ์ทาง เพชร เพ็ชร พันธกิจ พันธะกิจ เพศสัมพันธ์ เพศสัมพันธุ์ พันธสัญญา พันธะสัญญา เพนียด พเนียด,พะเนียด พัศดี พัสดี เพริศพริ้ง เพริดพริ้ง พัสดุ พัศดุ เพิ่มพูน เพิ่มพูล พากย์ พากษ์ เพียบพร้อม เพรียบพร้อม พาณิชย์ พานิชย์,พานิช แพทยศาสตร์ แพทย์ศาสตร์ พานจะเป็นลม พาลจะเป็นลม โพชฌงค์ โพชงค์,โภพาหุรัด พาหุรัต,พาหุรัตน์ โพด า โพธิ์ด า พิณพาทย์ พิณภาทย์ โพแดง โพธิ์แดง พิธีรีตอง พิธีรีตรอง โพทะเล โพธิ์ทะเล พิบูล พิบูลย์ โพนทะนา โพนทนา พิพิธภัณฑ์ พิพิทธภัณฑ์ โพสพ โพศพ,โภพิราบ พิราป ไพฑูรย์ ไพทูรย์ ฟ ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ฟังก์ชัน ฟังก์ชั่น ฟุตบอล ฟุทบอล ฟั่น ฝั้น ฟุลสแก๊ป ฟูลสแกป ฟันคุด ฟันครุฑ,ฟันครุท เฟิน เฟิร์น ฟาทอม ฟาธอม,แฟทอม,แฟธอม แฟชั่น แฟชัน ฟิล์ม ฟิลม์,ฟลิม,ฟิมล์,ฟิม์ล ไฟแช็ก ไฟแชค,ไฟแช็ค ฟิวส์ ฟิว
๒๐ ภ ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ภคินี ภคิณี ภาวการณ์ ภาวะการณ์,ภาวะการ ภวังค์ พวังศ์ ภุซงค์ พุซงค์ ภววิสัย ภาววิสัย,ภาวะวิสัย ภูตผี ภูติผี ภัณฑารักษ์ พันธารักษ์ ภูมิใจ ภูมใจ ภาคทัณฑ์ ภาคฑัณฑ์ ภูมิล าเนา ภูมล าเนา ภาคภูมิ ภาคภูม เภตรา เพตรา ภาพยนตร์ ภาพยนต์ เภทภัย เพทภัย,เพศภัย ภารกิจ ภาระกิจ ม ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น มงกุฎ มงกุฏ มัณฑนศิลป์ มันทนศิลป์,มันฑนศิลป์ มณฑป มนฑป,มณทป มัธยัสถ์ มัธยัสต์ มนเทียร มนเฑียร,มณเฑียร มัศยา,มัดสยา มัสยา มนุษยสัมพันธ์ มนุษย์สัมพันธ์ มัสตาร์ด มัสตาด มรณภาพ มรณะภาพ มัสมั่น มัสหมั่น มฤตยู มฤตญู มาตรการ มาตราการ มลทิน มนทิน มาตรฐาน มาตราฐาน มลังเมลือง มะลังมะเลือง มานุษยวิทยา มนุษยวิทยา มหรรณพ มหรรนพ,มหันนพ ม่าเหมี่ยว มะเหมี่ยว มหรสพ มหรศพ มึง เมิง มหัศจรรย์ มหรรศจรรย์ มืดมน มืดมนต์,มืดมล มหาหิงคุ์ มหาหิงค์ มุกตลก มุขตลก มเหสักข์ มเหศักดิ์ เม.ย. เม.ษ.,ม.ย. มเหสี มเหศรี,มเหศี,มเหษี,เมหสี แมงมุม แมลงมุม มไหศวรรย์ มไหสวรรค์ แมลงดา แมงดา มอเตอร์ไซค์ มอเตอร์ไซด์,-ไซต์,-ไซท์,-ไซ แมลงภู่ แมลงพู่,แมงภู่ ม่อห้อม,ม่อฮ่อม, หม้อห้อม หม้อฮ่อม แมลงวัน แมงวัน แมลงสาบ แมลงสาป,แมงสาบ มะหะหมัด มหะหมัด,มะหะมัด ไมยราบ ไมยราพ มัคคุเทศก์ มัคคุเทศ,มัคคุเทศน์ ไมยราพณ์, มัยราพณ์ ไมยราพ มัคนายก, มรรคนายก มัคทายก, มรรคทายก ไมล์ ไมร์,ไมค์
๒๑ ย ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ยศถาบรรดาศักดิ์ ยศฐาบรรดาศักดิ์ เยื่อใย เยื่อไย ย่อมเยา ย่อมเยาว์ ใยแมงมุม ไยแมงมุม ยาเกร็ด ยาเกล็ด ไย ใย ยานัตถุ์ ยานัตถ์,ยานัด ไยดี ใยดี ยีราฟ จีราฟ ไยไพ ใยไพ เยอรมนี,เยอรมัน เยอรมันนี โยธวาทิต โยธวาฑิต เยาว์วัย เยาวัย ร ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น รณรงค์ รนรงค์ รัศมี รัศมี,รัษมี รถเมล์ รถเมย์ รากเหง้า รากเง่า รถยนต์ รถยนตร์ ราชภัฏ ราชภัฎ รมณีย์ รมนีย์,รมณี ราชัน ราชันย์ รสชาติ รสชาด ราชสาส์น ราชสาสน์ ร้องไห้ ร้องให้ ราชวงศ์ ราชวงค์ ระบบนิเวศ ระบบนิเวศน์ ราดหน้า ลาดหน้า ระเบงเซ็งแซ่ ระเบ็งเซ็งแซ่ ราพณาสูร ราพนาสูร ระเห็จ รเห็จ,เรห็จ,ระเห็ด ราศี ราศรี รักษาการ รักษาการณ์ ร าคาญ ร าคาน,ล าคาน,ล าคาณ รังเกียจ รังเกลียด,รังเกียด ริบบิ้น ริ้บบิ้น,ริบบิน,ริ๊บบิ๊น รังควาน รังควาญ รื่นรมย์ รื่นรมณ์ รังสี รังษี,รังศี เรี่ยไร เรี่ยราย รัชดาภิเษก รัชฎาภิเษก แร็กเกต แร็กเก็ต,แร๊กเก๊ต,แร๊กเกต รัญจวน รัญจวญ,รัญจวณ โรงธารค านัล โรงธารก านัล รัฐวิสาหกิจ รัฐวิสาหะกิจ โรมันคาทอลิก โรมันคาธอลิค ฤ ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ฤกษ์พานาที ฤกษ์ผานาที ฤา ฦา ฤทธิ์ ฤทธ,ฤทธ์ ฤาษี,ฤษี ฦาษี,ฦษี
๒๒ ล ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ลดาวัลย์ ลัดดาวัลย์,ลดาวัณย์ ลิงก์ ลิงค์ ลมปราณ ลมปราน ลิดรอน ริดรอน ลมหวน ลมหวล ลิปสติก ลิปสติค ล่มหัวจมท้าย ร่วมหัวจมท้าย ลิฟต์ ลิปต์,ลิฟ,ลิฟท์ ล็อกเกต ล็อกเก็ต ลือชา ฦาชา ลองไน ลองใน ลุกลี้ลุกลน ลุกลี้ลุกรน ละคร ละคอน ลูกเกด ลูกเกตุ ละเมียดละไม ลเมียดลไม ลูกนิมิต ลูกนิมิตร ละโมบ ลโมบ,ละโมภ ลูกบาศก์ ลูกบาศ ละเอียดลออ ละเอียดลออ,ละเอียดละออ เล่นพิเรนทร์ เล่นพิเรนท์ ลักเพศ ลักเพท,ลักเพส เลย เรย ลังถึง รังถึง เล่ห์กระเท่ห์ เล่กระเท่ ลาดตระเวน ลาดตระเวณ เลือกสรร เลือกสรรค์ ลาดยาง ราดยาง เลือดกบปาก เลือดกลบปาก ลายเซ็น ลายเซ็นต์ โล่ โล่ห์ ลาวัณย์ ลาวัลย์ โลกาภิวัตน์ โลกาภิวัฒน์ ล าไย ล าใย ไล่เลียง ไล่เรียง,ไร่เรียง,ไร่เลียง ล าไส้ ล าใส้ ฦ ปัจจุบันค าที่ขึ้นต้นด้วย ฦ ฦา ไม่นิยมใช้ ว ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น วงศ์,วงษ์ วงค์ วารดิถี วาระดิถี วงศ์วาน วงษ์วาน วาฬ วาล วัคซีน วักซีน วิ่งเปี้ยว วิ่งเปรี้ยว วัณโรค วันโรค,วรรณโรค วิ่งผลัด วิ่งผัด วันทยหัตถ์ วันทยาหัตถ์ วิจาร,วิจารณ, วิจารณ์ วีจารย์ วันทยาวุธ วันทยวุธ วางก้าม วางกล้าม วิญญาณ วิญญาน วาทกรรม วาทะกรรม วิดีโอ วีดีโอ,วีดิโอ วาทิต วาฑิต วิตถาร วิตถาน,วิตถาล วายชนม์ วายชน วิตามิน วิตตามิน,วิตะมิน
๒๓ ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น วินาที วินาฑี วิหารคด วิหารคต วินาศกรรม วินาศะกรรม วีดิทัศน์ วีดีทัศน์,วิดีทัศน์ วิพากษ์ วิพากย์ เวท เวทย์ วิพากษ์วิจารณ์ วิพากก์วิจารณ์, วิพากษ์วิจารย์, วิพากก์วิจารย์ เวทมนตร์ เวทย์มนตร์,เวทมนต์, เวทย์มนต์ เวนคืน เวรคืน วิศวกร วิศวะกร เวียดนาม เวียตนาม วิศวกรรม วิศวะกรรม ไวยากรณ์ ไวยกรณ์ ศ ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ศรัทธา,สัทธา ศัทธา ศิลป์,ศิลปะ ศิลป ศรีสะเกษ ศรีษะเกษ,ศรีษะเกศ ศิลปกรรม ศิลปะกรรม ศศิธร สสิธร,ศศิทร ศิลปวัตถุ ศิลปะวัตถุ ศักย์ ศักดิ์ ศีรษะ ศรีษะ ศัตรู สัตรู,ศตรู ศึกษานิเทศก์ เศรษฐินี ศึกษานิเทศก์,ศึกษานิเทศน์ ศัพท์ ศัพย์ เศรษฐีนี ศัสตราวุธ ศาสตราวุธ โศกนาฏกรรม โศกะนาฏกรรม, -ศาสตรดุษฎี โศกนาฎกรรม บัณฑิต -ศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต โศกเศร้า โสกเศร้า -ศาสตรบัณฑิต -ศาสตร์บัณฑิต โศกศัลย์ โสกศัลย์,โศกสันย์ -ศาสตรมหาบัณฑิต -ศาสตร์มหาบัณฑิต ไศล ไสล,ศไล ส ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น สกัด สกัด สไบ สะไบ,ไสบ สกาว สกาว สเปน เสปน,สเปญ สแกน แสกน สภาวการณ์, สภาพการณ์ สภาวะการณ์ สดับ สะดับ สถานการณ์ สถานการ,สถาณการณ์ สมดุล สมดุลย์ สถิต สถิตย์ สมเพช สมเพท,สมเพศ,สมเพส สนนราคา สงวนราคา สรรเพชญ สรรเพชร สบง สะบง สรรแสร้ง สรรค์แสร้ง สบาย สะบาย สรรหา สรรค์หา สบู่ สะบู่ สรวงสวรรค์ สวงสวรรค์
๒๔ ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น สร้างสรรค์ สร้างสรรค์ สาธารณสถาน สาธารณะสถาน สวรรคต สวรรณคต,สวรรค์คต สาธารณสมบัติ สาธารณะสมบัติ สอบเชาวน์ สอบเชาว์ สาธารณสุข สาธารณะสุข สะกด สกด สาบสูญ สาปสูญ สะกิด สกิด สาบาน สาบาญ สะคราญ สคราญ สาปแช่ง สาบแช่ง สะดวก สดวก สาปสรร สาบสรร สะพรึงกลัว สะพึงกลัว สามเส้า สามเศร้า สะพาน สพาน สายสิญจน์ สายสิญจ์ สะเหล่อ สะเหร่อ,เสร่อ,เสล่อ สารประโยชน์ สาระประโยชน์ สะอาด สอาด สารภี สารพี,สาระพี สักการบูชา สักการะบูชา สาระส าคัญ สารส าคัญ สังเกต สังเกตุ สารัตถประโยชน์ สารัตถะประโยชน์ สังเขป สังเขบ สารัตถะส าคัญ สารัตถส าคัญ สังคายนา, สังคายนาย สังคยานา,สังคยนา ส าอาง ส าอางค์ สิงโต สิงห์โต สังฆทาน สังขทาน,สังคทาน สิทธิ,สิทธิ์ สิทธ,สิทธ์ สังวร สังวรณ์ สีสวาด สีสวาท,สีสวาส สังวาล สังวาลย์ สีสัน สีสรร,สีสรรค์ สังสรรค์ สังสรร สุกียากี้ สุกี้ยากี้ สัญชาตญาณ สัญชาติญาณ สุข ศุข,สุก สัญลักษณ์ สัญลักษ์,สัญญลักษณ์ สุคติ สุขติ,สุขคติ สัณฐาน สันฐาน,สัณฐาณ,สัณฐาณ สุญญากาศ สูญญากาศ สันโดษ สัญโดษ สุพรรณบัฏ สุพรรณบัตร สันนิษฐาน สันนิฐาน,-ฐาณ เสกสรร เสกสรรค์ สับปลับ สัปลับ เสบียง สะเบียง,สเบียง สับปะรด สัปรด,สัปปะรด,สับปะรส เสพ เสพย์ สัปเหร่อ สัพเหร่อ,สัปปะเหร่อ เสิร์ฟ เสริฟ,เสริฟ์ สัพหยอก สรรพยอก เสลด สเลด สัมภาษณ์ สัมภาษ,สัมภาสน์ เสื้อกาวน์ เสื้อกาว,เสื้อกาวด์ สัมมนา สัมนา,ส ามะนา เสื้อเชิ้ต เสื้อเชิ๊ต สาทร สาธร แสตมป์ สแตมป์ สาธารณชน สาธารณะชน โสฬส โสรส สาธารณประโยชน์ สาธารณะประโยชน์ ไส้ ใส้
๒๕ ว ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น หกคะเมน หกคเมน,หกคะเมร หัวมังกุท้ายมังกร หัวมังกุฎท้ายมังกร หงส์ หงษ์ หัวหน่าว หัวเหน่า หน็อยแน่ หนอยแน่ หิรัญบัฏ หิรัญบัตร หนาแน่น แน่นหนา เหม็นสาบ เหม็นสาป หน้าปัดนาฬิกา หน้าปัทม์นาฬิกา เหล็กใน เหล็กไน หม้อห้อม,ม่อห้อม, ม่อฮ่อม หม้อฮ่อม เหลือบ่ากว่าแรง เหนือบ่ากว่าแรง เหิน เหิร หมาใน หมาไน แหลกลาญ แหลกราญ,แหลกราน หมามุ่ย,หมามุ้ย หมาหมุ้ย โหยหวน โหยหวล หมูหย็อง หมูหยอง โหระพา ไหรพา,โหระภา หยากไย่,หยักไย่ หยากใย่,หยักใย่ ใหลตาย ไหลตาย หย่าร้าง อย่าร้าง ไหม มั๊ย,ไม๊ หยิบหย่ง หยิบย่ง,หยิบโย่ง ไหหล า ใหหล า ห่วงใย ห่วงไย ฬ ปัจจุบันไม่มีค าที่ขึ้นต้นด้วย “ฬ” ค าโบราณที่ขึ้นต้นด้วย “ฬ”หันไปใช้ “ล” แทน เช่น “ฬา”ก็ใช้เป็น “ลา” , “ฬ่อ” ก็ใช้เป็น “ล่อ” เป็นต้น อ ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น (พระ) องค์ (พระ) องศ์ อภิรมย์ อภิรมณ์ องคชาต องคชาติ อภิเษก อภิเสก องคุลิมาล องคุลีมาล,องคุลิมาร อมต,อมตะ อัมตะ,อ ามตะ อธิษฐาน อธิฐาน อมรินทร์ อัมรินทร์ อนาถ อนาจ อมฤต,อ ามฤต อัมฤต อนาทร อนาธร อริยเมตไตรย อริยเมตไตร,อริยเมตตรัย อนุกาชาด อนุกาชาติ อริยสัจ อริยสัจจ์ อนุญาต อนุญาติ อลังการ อลังการ์ อนุมัติ อนุมัต อวสาน อวสาณ,อวสานต์ อนุรักษนิยม อนุรักษ์นิยม อสงไขย อสงขัย อนุสาวรีย์ อนุเสาวรีย์,อณุสาวรีย์ อหังการ์ อหังการ อเนก เอนก อหิวาตกโรค อะหิวาตกโรค อเนจอนาถ อเนถอนาถ ออฟฟิศ ออฟฟิช,ออฟฟิส,ออฟฟิต
๒๖ ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น ค าที่เขียนถูก มักเขียนผิดเป็น อะลุ่มอล่วย, อะลุ้มอล่วย อะลุ่มอะล่วย, อลุ้มอล่วย อินทรียวัตถุ อินทรีวัตถุ,อินทรีย์วัตถุ อินฟราเรด อินฟาเรด,อินฟาร์เรด อะไหล่ อะไหล่,อาไหล่ อิริยาบถ อิริยาบท อักขรวิธี อักขระวิธี อิสรภาพ อิสระภาพ อักษร อักศร,อักสร อิสรเสรี อิสระเสรี อัญชัน อัญชัญ อีเมล อีเมล์ อัญมณี อัญญมณี,อัญมนี อีสาน อิสาน,อีสาณ อัฒจันทร์ อัศจันทร์,อัธจันทร์ อุกกาบาต อุกาบาต อัตคัด อัตคัต อุกฤษฎ์ อุกฤติ อัตนัย อัตตะนัย อุดมการณ์ อุดมการ อัมพาต อัมพาส อีเมล อีเมล์ อัลบั้ม อัลบัม อุทธรณ์ อุธรณ์ อากาศ อากาส อุทาหรณ์ อุธาหรณ์,อุทาหร อาฆาตมาดร้าย อาฆาตมาตร้าย อุบาทว์ อุบาท อาเจียน อาเจียร อุปการคุณ อุปการะคุณ อานิสงส์ อานิสงฆ์ อุปถัมภ์ อุปถัมธ์,อุปถัมน์ อาเพศ อาเพส,อาเภส อุปโลกน์ อุปโลก อายัด อายัติ,อายัต อุปัชฌาย์ อุปัชฌา,อุปัชชา อารมณ์ อารมย์ อุปาทาน อุปทาน อาวรณ์ อาวร อุโมงค์ อุโมง อาสน์สงฆ์ อาสสงฆ์ เอกเขนก เอกขเนก อ านาจบาตรใหญ่ อ านาจบาตใหญ่, อ านาจบาทใหญ่ เอกฉันท์ เอกฉัน,เอกะฉันท์ เอ็นดอร์ฟิน เอ็นโดรฟิน อ ามหิต อัมหิต โอกาส โอกาศ อินทรธนู อินธนู,อิทร์ธนู ไอศกรีม ไอศกรีม.ไอตีม ฮ ค าที่ขึ้นต้นด้วย “ฮ” ไม่มีค าที่เขียนผิด และไม่นิยมใช้ค าขึ้นต้นด้วย “ฮ”
บทที่ ๕ สรุปและอภิปรายผล ในการศึกษาโครงงานเรื่อง ค าไทยที่มักเขียนผิด ผู้จัดท าได้ท าการศึกษาค้นคว้ารวบรวมค าที่มักเขียน ผิดในภาษาไทยจากเว็บไซต์บนอินเตอร์เน็ตและสื่อสังคมออนไลน์โดยจะขอสรุปผลการด าเนินงานไว้ดังนี้ สรุปผล โครงงานเรื่อง ค าไทยที่มักเขียนผิด ฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ เพื่อ ๑) เพื่อรวบรวมค าที่มักเขียนผิดใน ภาษาไทย แล้วค้นคว้าแก้ไขให้ถูกต้อง ๒) เพื่อเขียนค าในภาษาไทยให้ถูกต้องตามแบบพจนานุกรม ฉบับ ราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.๑๔๔๓ ๓) เพื่อเป็นการศึกษาค้นคว้ารวบรวมการสะกดค าที่ถูกต้องให้กับคนรุ่นต่อๆไป จากการศึกษาค้นคว้าข้อมูลในโครงงานเรื่อง ค าไทยที่มักเขียนผิด โดยการรวบรวมค าไทยที่มักเขียนสะกดผิด จากเว็บไซต์บนอินเตอร์เน็ตและสื่อสังคมออนไลน์คือ เฟซบุ๊กและอินตราแกรม แล้วแก้ไขค าที่เขียนผิดให้ ถูกต้องและท าตารางสรุปค าไทยที่มักเขียนผิดโดยจัดเรียงตามแบบพจนานุกรม พบว่า ค าที่มักเขียนสะกดผิด ส่วนมากจะอยู่ในหมวดตัวอักษร ป พ ส และ อ ส่วนหมวดตัวอักษรที่ทางผู้จัดท ายังไม่พบ หรือไม่มีการเขียนใช้ บนอินเตอร์เน็ตและสื่อสังคมออนไลน์ได้แก่ ฃ ฏ ฑ ฒ ฦ ฬ และ อ อภิปรายผล การเขียนสะกดค าในภาษาไทยให้ถูกต้องนั้นนับเป็นสิ่งส าคัญอย่างยิ่ง แต่ปัจจุบันค าภาษาไทยสามารถ เขียนไปได้หลากหลายแบบ อีกทั้งค าพ้องรูปค าพ้องเสียงต่างๆ ท าให้เกิดความสับสน และด้วยสังคมที่เปลี่ยนไป จากเมื่อก่อนอย่างเห็นได้ชัด คนไทยโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นเริ่มตามกระแสการเขียนค าผิดๆ เพื่อท าตัวให้เข้ากับ สังคมปัจจุบันท าให้เกิดการเขียนค าผิดไม่ตรงตามหลักพจนานุกรมไทย ดังนั้นเราทุกคนจึงจ าเป็นต้องศึกษา เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การเขียนค านั้นๆและต้องหมั่นฝึกฝนเขียนค าภาษาไทยอยู่ เสมอ ประโยชน์ที่ได้รับ ๑. ได้ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับค าที่มักเขียนผิดในภาษาไทยและแก้ไขให้ถูกต้อง ๒. ผู้ศึกษาสามารถเขียนค าภาษาไทยได้ถูกต้องตามแบบพจนานุกรมไทย (ฉบับราชบัณฑิตสถาน) ๓. โครงงานฉบับนี้สามารถน าไปเผยแพร่และเป็นประโยชน์ให้กับผู้ที่ศึกษาได้ ข้อเสนอแนะ ๑. ควรศึกษาค้นคว้าค าที่มักเขียนสะกดผิดจากแหล่งอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น เรียงความของนักเรียน นวนิยาย เป็นต้น ๒. ควรมีการบอกชนิดของค าและความหมายของค าที่มักเขียนผิด ท าเป็นตารางสรุปและจัดท าเสนอเพื่อ มีการเผยแพร่ค าที่สามารถรวบรวมมาได้และสามารถเป็นประโยชน์ให้กับผู้ที่ศึกษาได้
บรรณานุกรม ภาษาไทย กระทรวงศึกษาธิการ กรมวิชาการ. (๒๕๓๙). บันทึกการเสด็จพระราชด าเนินพระราชทานกระแส พระราชด าริ เรื่องปัญหาการใช้ค าไทย ในการประชุมทางวิชาการ ชุมนุมภาษาไทย คณะ อักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ ๒๘ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๐๕. สารสถาบัน ภาษาไทย. กรุงเทพฯ:คุรุสภาลาดพร้าว. กัลยารัตน์ ฐิติกานต์นาร; และ อภิลักษณ์ ธรรมทวีธิกุล. (๒๕๔๙,มกราคม-มิถุนายน). การเน้นพยางค์ กับท านองเสียงภาษาไทย. วารสารภาษาและภาษาศาสตร์. ปีที่ ๒๔: หน้า ๕๙-๗๖. สืบค้น เมื่อ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๖๒. ก าชัย ทองหล่อ. (๒๕๓๓). หลักภาษาไทย. พิมพ์ครั้งที่ ๘. กรุงเทพฯ: บ ารุงสาส์น จุฑามาศ กันติ๊บ. (๒๕๕๔). การพัฒนาความสามารถในการเรียนรู้เรื่องการเขียนสะกดค า โดยใช้ เทคนิคจิกซอว์ ๒ ร่วมกับเกมการศึกษาของนักเรียนชั้นเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑. วิทยาพิพนธ์ศึกษาศาสตร์ มหาบัณฑิต สาขาวิชาการสอนภาษาไทย.บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร. จุติตา คงด้วง. (๒๕๔๙). การพัฒนาแบบฝึกทักษะวิชาภาษาไทยเรื่องการเขียนสะกดค า ของ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ๔. สารนิพนธ์กศ.ม. (มัธยมศึกษา). กรุงเทพฯ: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. อาจารย์ที่ปรึกษา สารนิพนธ์: ผู้ช่วยศาสตราจารย์สุมานิน รุ่งเรืองธรรม. แจ่มใส. (๒๕๖๐). ๔๐ ค าสะกดผิดในโลกออนไลน์ที่พบเจออยู่บ่อยๆ. สืบค้นเมื่อ ๑๘ สิงหาคม ๒๕๖๖. จาก http://www.jamsai.com/4qincorrect_word/ ซูเปอร์ บิ๊ก อีเกิ้ล!!. (๒๕๕๙). “๗๒ ค าภาษาไทย”ที่มักเขียนผิดบ่อยๆ รู้ไว้ใช่ว่า ภาษาของเรา. สืบค้นเมื่อ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๖. จาก http://www.winnews.tv/news/๕๙๕๙ ซูเหลียน. (๒๕๕๑). การเขียนสะกดค า. สืบค้นเมื่อ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๖. จาก http://supervis-nited.blogspot.com/2008/07/blog-post_5524”html บิวตี้ ฮันเตอร์. (๒๕๖๐). สะกดแบบนี้นะ จ าเอาไว้...รวม “ค าศัพท์ออนไลน์” ที่มักเขียนผิด!. สืบค้น เมื่อ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๖๖.จาก http://www.beautyhunter.co.th/online-vocabulary/ พวงล็ก อุตระ. (๒๕๓๓). วิธีการวิจัยทางพฤติกรรมศาสตร์และสังคมศาสตร์. พิมพ์ครั้งที่ ๘. กรุงเทพฯ: วิทยาลัยครูพระนคร. พัทธนันท์ ใจโชติ. (๒๕๕๘). ค าในภาษาไทยที่มักเขียนผิด. สืบค้นเมื่อวันที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๖๖.จาก http://pattananjoyjoy.blogspot.com/2015/08/50.html ราชบัณฑิตยสถาน. (๒๕๕๖). ค าน า พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.๒๕๕๔ เฉลิมพระ เกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระ ชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔. สืบค้นเมื่อวันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๖๖. จาก. http://www.royin.go.th/dictionary/introduction.php
๒๙ บรรณานุกรม (ต่อ) ราชบัณฑิตยสถาน. (๒๕๕๔). อ่านอย่างไรและเขียนอย่างไร ฉบับราชบัณฑิตยสถาน. พิมพ์ครั้งที่ ๒๑. หจก.อรุณการพิมพ์. เลิฟ กฤตยา. (๒๕๕๒). รายการค าในภาษาไทยที่มักเขียนผิด. สืบค้นเมื่อวันที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๖. จาก. http://th,wikipedia.org/wiki/รายการค าในภาษาไทยที่มักเขียนผิด วิจิตรา หลวงแก้ว. (๒๕๖๑). ๑๐๐ ค าที่มักเขียนผิดในภาษาไทย มีค าอะไรบ้าง แล้วต้องเขียน อย่างไร มาดูกันเลย. สืบค้นเมื่อวันที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๖. จาก. http://www.sanook.com/campus/1391961/ สมพงษ์ ศรีพยาต. (๒๕๕๓). การพัฒนาชุดแบบฝึกเขียนสะกดค า ส าหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปี ที่ ๖. วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัยบัณฑิต สาขาวิชาการสอนภาษาไทย. บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร. สมศักดิ์ ทองช่วย. เอกสารประกอบการเรียนการสอน รายวิชา หลักภาษาไทยในชีวิตประจ าวัน (การใช้พจนานุกรม). สืบค้นเมื่อวันที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๖. จาก. http://www.mwit.ac.th/-saktong/learn6/85.pdf แอดมิน. (๒๕๖๐). ค าทับศัพท์โซเซียล ที่มักเขียนผิด-ตัวอย่างการเขียนให้ถูก ตามแบบ พจนานุกรมไทย. สืบค้นเมื่อวันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๖๖. จาก. http://lifestyle.campus-star.com/knowledge/79067.html อดุลย์ ไทรเล็กทิม. (๒๕๒๘). การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเขียนสะกดค ายากและทักษะสัมพันธ์ของ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนชุมชนบ้านชัฎป่าหวาย จังหวัดราชบุรี. วิทยานิพนธ์ ศศ.ม. กรุงเทพฯ: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. อัดส าเนา. อรพรรณ ภิญโญภาพ. (๒๕๒๙). การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเขียนสะกดค ายากและทักษะสัมพันธ์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ โรงเรียนในแหล่งเสื่อมโทรมคลองเตย. วิทยานิพนธ์ ศศ.ม. กรุงเทพฯ: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโวฒ. อัดส าเนา. ภาษาอังกฤษ Webster, N. (1966). Webster’s Third New International Dictionary. Springfield, Massachusetts: G and C Merrjam Company.