ก
คำนำ
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอภักดีชุมพล สังกัดสำนักงาน กศน.จังหวัดชยั ภูมิ
ได้จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงฐานการเรียนรู้กล้วยช่วยชีวิต กิจกรรมการทำ
กล้วยฉาบ เพื่อให้ความรู้แกผ่ ู้ท่ีมาศึกษาเรียนรู้ ซง่ึ เปน็ ทต่ี อ้ งการของนักเรียน ชมุ ชน เหมาะสมท่ีผู้สนใจในการเรียนรู้
เพ่ือใชเ้ ป็นแหล่งเรียนรู้ คน้ ควา้ ข้อมลู ในการพัฒนาตนเอง พัฒนาอาชพี ใหม้ ีความรู้ และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ใน
ชวี ิตประจำวนั ไดอ้ ย่างดียิง่
ผจู้ ดั ทำหวังเปน็ อย่างยงิ่ วา่ แผนการจดั การเรยี นรตู้ ามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ฐานกล้วยชว่ ยชีวิต
กจิ กรรมการทำกลว้ ยฉาบ จะเปน็ ประโยชนต์ อ่ ผู้ทสี่ นใจและเป็นแนวทางในการเพมิ่ ทักษะ การพฒั นาตนเองตอ่ ไป
กศน.อำเภอภักดีชุมพล
ผู้จดั ทำ
สารบัญ ข
คำนำ หนา้
สารบัญ ก
แผนการจดั การเรยี นรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงฐานการเรียนรู้กล้วยชว่ ยชีวติ ข
กิจกรรมการทำกลว้ ยฉาบ
1
วัตถปุ ระสงค์ 1
กิจกรรมการเรยี นรู้ 1
ส่ืออุปกรณ์ 2
ความร้ทู ี่ไดร้ บั จากฐานการเรยี นรู้ 2
ความสอดคล้องกบั หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง 2
การนำไปประยกุ ต์ใช้ 4
ใบงานฐานการเรยี นรู้ 5
ใบความรู้ 6
แบบประเมนิ ความพงึ พอใจฐาน 13
ใบงานถอดบทเรยี น 14
คณะผจู้ ัดทำ 15
ภาคผนวก
ภาพกจิ กรรมการจดั กิจกรรมการเรียนรู้
1
แผนฐานการเรียนรู้ “กล้วยชว่ ยชวี ิต”
สาระการเรียนรทู้ ักษะการดำเนนิ ชวี ติ วชิ าเศรษฐกจิ พอเพียง (ทช31001)
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
1. ชือ่ ฐานการเรยี นรู้ กล้วยช่วยชวี ติ เวลา 3 ชัว่ โมง
2. ทีต่ ้ัง ศนู ย์เรยี นรกู้ ารปลกู กลว้ ย บา้ นเลขที่ 68 หมทู่ ี่ 11 ตำบลเจาทอง อำเภอภกั ดชี ุมพล จังหวดั ชัยภูมิ
2.1 วทิ ยากรภูมิปัญญาท้องถ่ิน นายบรรจบ สู่ประเทศ
2.2 วิทยากรนักศึกษาแกนนำ นายร่งุ โรจน์ ปรากริม
2.3 วทิ ยากรประจำฐานการเรยี นร้/ู ผู้จัดทำ
นางสาวอโนชา ผยุ คำผิ ครกู ศน.ตำบล
นางโสภดิ า ปรากรมิ ครูศรช.
3. วตั ถปุ ระสงค์
3.1 วัตถุประสงคก์ จิ กรรมการเรยี นรู้
3.1.1 เพ่ือศึกษาแหลง่ เรยี นร้เู กยี่ วกบั ศาสตรพ์ ระราชาศาสตรท์ ้องถน่ิ และฐานกลว้ ยชว่ ยชีวติ
3.1.2 เพอ่ื วิเคราะหห์ ลักความสอดคล้องของหลกั การทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ ัวกับ
ฐานการเรียนรู้ฐานกลว้ ยชว่ ยชวี ิต
3.1.3 เพื่อถอดบทเรียนความสอดคล้องของหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งกบั ฐานกล้วย
ช่วยชวี ติ
3.1.4 เพอื่ นำความรู้ ประสบการณท์ ี่ไดจ้ ากฐานการเรียนรู้ฐานกล้วยช่วยชีวติ ไปประยกุ ตใ์ ช้ใน
ชวี ติ ประจำวนั ได้
3.2 วตั ถปุ ระสงค์ของฐานการเรียนรู้
3.2.1 เพื่อใหผ้ มู้ าศกึ ษาสามารถนำกล้วยมาแปรรูปในรปู แบบต่าง ๆ เพอ่ื ใช้ในครวั เรอื นและ
จำหน่ายเป็นรายไดเ้ สรมิ
3.2.2 เพอ่ื ใหผ้ มู้ าศกึ ษาไดร้ บั ความรู้หลกั การในการปลกู กล้วย แปรรูปกลว้ ย
3.2.3 เพ่อื ให้ผมู้ าศึกษานำความรู้ไปประยกุ ตใ์ ชแ้ ละขยายผลิตภัณฑไ์ ด้อยา่ งถูกต้อง
4. กจิ กรรมการเรียนรู้
4.1 ครวู ทิ ยากรประจำฐานแนะนำตนเอง
4.2 ครูวิทยากรประจำฐานให้ผู้มาศกึ ษาดูใบความรู้
4.3 ครวู ทิ ยากรประจำฐาน อธบิ ายกระบวนการ ขัน้ ตอนวัสดุ อปุ กรณ์ วธิ กี าร
4.4 ผ้มู าศกึ ษาเรียนรดู้ ้วยตนเองในการทำกลว้ ยฉาบ
4.5 ครูประจำฐานซักถามและแลกเปลย่ี นเรยี นรูร้ ่วม
4.6 ผ้มู าศึกษาทำใบงานและถอดบทเรียนกจิ กรรมการทำกลว้ ยฉาบ ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
4.7 การวัดผลการประเมนิ โดยดูจากการถอดบทเรยี นและการตอบคำถาม
4.8 การประเมินความพงึ พอใจในการใชฐ้ านการเรียนรู้
2
5. สอื่ / อปุ กรณ์
1. ใบงาน
2. แผน่ พบั
3. สอื่ ไวนลิ
4. ภูมิปญั ญาทอ้ งถน่ิ
6. ความรูท้ ่ีได้รบั จากฐานการเรียนรู้
6.1 ศาสตรพ์ ระราชา
6.1.1 พออยู่พอกิน
6.1.2 ทำตามลำดบั ข้ันตอน
6.1.3 เศรษฐกิจพอเพียง
6.1.4 พึงพาตนเอง
6.2 ศาสตร์ท้องถนิ่
6.2.1 ภมู ปิ ญั ญา
วิธีการเลือกใชว้ ัสดุในการทำกล้วยฉาบ ให้มคี ุณภาพ
6.3 ศาสตรส์ ากล
6.3.1 การใชอ้ ุปกรณ์ การทำกลว้ ยฉาบ
6.3.2 วิธีการเก็บรักษากลว้ ยฉาบ
7. ความสอดคลอ้ งกับหลกั การทรงงาน
1. พออยู่พอกิน
2. ทำตามลำดบั ขน้ั ตอน
3. พ่ึงพาตนเอง
4. ความเพยี ร
3
ความสอดคล้องกับหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง (2 : 3 : 4)
2 เงอื่ นไข
เงือ่ นไขความรู้ เง่อื นไขคณุ ธรรม
1. รสู้ ่วนผสมกรทำกล้วยฉาบ 1. มคี วามอดทน
2. รวู้ ธิ กี ารทำกลว้ ยฉาบ 2. มีความซ่อื สตั ย์
3. รู้วิธีทใ่ี ช้ในการทำกลว้ ยฉาบ 3. มคี วามรับผิดชอบ
4. รอู้ ุปกรณท์ ่ีใชใ้ นการทำกล้วยฉาบ
5. รู้วธิ ีการทำบญั ชีรายรบั / รายจ่าย
6. รภู้ มู ปิ ัญญาทอ้ งถ่นิ / เทคนิคการทำ
พอประมาณ 3 หลักการ มีภูมคิ มุ้ กนั ในตัวทดี่ ี
1. เลือกวสั ดุท่เี หมาะสม มเี หตผุ ล 1. จดั หาวสั ดใุ หเ้ พยี งพอ
2. ใช้งบประมาณท่ีพอดีกบั การ 2. ตรวจสอบคณุ ภาพของกล้วย
ลงทนุ 1. เพื่อสรา้ งรายได้ สม่ำเสมอ
3. ปริมาณการผลิตสอดคล้องกับ 2. เพอ่ื ลดรายจา่ ยในครวั เรือน 3. จดั หาแหล่งวัสดสุ ำรองท่ใี ช้ใน
ความตอ้ งการของผ้บู ริโภค 3. เพือ่ ใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ การทำกลว้ ยฉาบ
4. ชว่ งเวลาการทำกลว้ ยฉาบท่ี 4. เพ่อื ให้ผูบ้ ริโภคไดบ้ ริโภคกล้วย 4. ปรึกษาภมู ปิ ัญญาผรู้ เู้ พ่อื
เหมาะสม ฉาบท่สี ะอาด ปลอดภัย ปรบั ปรงุ คุณภาพ
ชวี ติ ที่มคี วามสมดุลและพรอ้ มรับตอ่ การเปล่ียนแปลงใน 4 มติ ิ
ดา้ นวัตถุ ด้านสงั คม ด้านส่ิงแวดลอ้ ม ดา้ นวฒั นธรรม
1. ใชว้ ัตถดุ ิบในท้องถ่นิ 1. แบ่งปนั ความรู้ใหก้ ับผู้ 1. ไมใ่ ส่วัตถุกนั เสยี 1. ใชภ้ ูมปิ ัญญาในท้องถ่นิ
2. เพ่ิมรายได้ ลดรายจ่าย ทีส่ นใจ 2. ใชว้ ัตถดุ ิบปลอด 2. วตั ถดุ ิบในทอ้ งถนิ่
3. กล้วยฉาบตรงความ 2. เกิดความสมั พนั ธใ์ น สารพิษ 3. นำมารับประทานเป็น
ต้องการของผ้บู ริโภค ชมุ ชน 3. สถานทีใ่ นการผลติ อาหารประจำชุมชน
- ด้านปรมิ าณ 3. ความภาคภมู ใิ จ สะอาดปลอดภยั 4. เห็นคณุ คา่ ของภูมิ
- ดา้ นรสชาติ ปญั ญา
4
8. การนำไปประยกุ ตใ์ ช้
8.1 การประยุกต์ใช้ในชีวติ ประจำวนั
8.1.1 นำความรเู้ กีย่ วกบั การทำกล้วยฉาบ ไปใช้ในชีวติ ประจำวัน
8.1.2 นำความรูเ้ ก่ียวกบั การทำกลว้ ยฉาบ ไปใช้ในการลดร่ายจ่าย เพมิ่ รายไดใ้ นครอบครัว
8.2. การประยกุ ต์ใชใ้ นภารกจิ ตามหนา้ ที่
8.2.1 การวางแผนการทำงานรอบคอบ
9. การประเมินผลการเรยี นรู้และข้อเสนอแนะเพ่ิมเติม
1. ตรวจใบงาน สังเกตการณ์นำเสนอ และดูจากใบงาน
2. แบบประเมนิ ความพงึ พอใจ
5
ใบงาน
แผนฐานการเรยี นรู้ “กล้วยช่วยชีวติ ”
สาระการเรียนรทู้ ักษะการดำเนินชีวติ วชิ าเศรษฐกจิ พอเพียง (ทช31001)
ชอื่ -สกุล.........................................................................................................................................................................
1.ให้นักเรียนอธิบาย “กล้วยช่วยชีวิต” มาพอสงั เขป
............................................................................................................................. ...........................................................
............................................................................................................................. ...........................................................
.................................................................................................................................................... ....................................
............................................................................................................................. ...........................................................
............................................................................................................................................................. ...........................
........................................................................................................ ................................................................................
............................................................................................................................. ...........................................................
............................................................................................................................. ...........................................................
........................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...........................................................
2. ให้นักเรียนสรปุ ข้ันตอนการทำกลว้ ยฉาบตามความเขา้ ใจ
........................................................................................................................................................................... .............
...................................................................................................................... ..................................................................
............................................................................................................................. ...........................................................
................................................................................................................................... .....................................................
........................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...........................................................
.............................................................................................................. ..........................................................................
............................................................................................................................. ...........................................................
............................................................................................................................. ...........................................................
........................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...........................................................
............................................................................................................................. ...........................................................
........................................................................................................................................................... .............................
...................................................................................................... ..................................................................................
............................................................................................................................. ...........................................................
............................................................................................................................. ...........................................................
6
ใบความรู้
กล้วยถือว่าเป็นผลไม้พื้นเมืองของไทย นิยมรับประทานกันอย่างแพร่หลาย เป็นผลไม้ที่มีทุกฤดูกาลและ
ปราศจากสารพิษ มีประโยชน์สารพัดอย่าง สามารถนำเอาทุกส่วนของพืชชนิดนี้มาทำประโยชน์ใช้สอยและ
รับประทาน ไมว่ ่าจะเป็นใบ ดอก ก้านใบ ลำต้น ผล กล้วยนำ้ ว้าเปน็ กลว้ ยชนดิ ที่นยิ มปลูก เนอ่ื งจากกล้วยน้ำว้า
คงความสดอย่ไู ดห้ ลายวนั กอ่ นที่จะช้ำเกนิ ไป และมคี ุณคา่ ทางอาหารมากมาย
ที่มาและความสำคญั
กล้วยถือว่าเป็นผลไม้พื้นเมืองของไทย นิยมรับประทานกันอย่างแพร่หลาย เป็นผลไม้ที่มีทุกฤดูกาลและ
ปราศจากสารพิษ มีประโยชน์สารพัดอย่าง สามารถนำเอาทุกส่วนของพืชชนิดนี้มาทำประโยชน์ใช้สอยและ
รับประทาน ไม่ว่าจะเปน็ ใบ ดอก ก้านใบ ลำตน้ ผล
กล้วยน้ำว้าเป็นกล้วยชนิดที่นิยมปลูก เนื่องจากกล้วยน้ำว้าคงความสดอยู่ได้หลายวันก่อนที่จะช้ำเกินไ ป
และมีคุณคา่ ทางอาหารมากมาย มชี ือ่ เรยี กเป็นภาษาพนื้ เมืองแตกต่างกันออกไปในแตล่ ะท้องถนิ่ คือ ภาคเหนือ จะ
เรียกว่า กล้วยใต้ กล้วยมณีอ่อง กล้วยมะอ่อง กระเหรี่ยงที่แม่ฮ่องสอนเรียกว่า กล้วยสะถุย ที่จันทบุรี เรียกว่า
กล้วยเจก ภาคกลาง ภาคใต้และภาคอีสาน เรียกว่า กล้วยน้ำว้า นอกจากจะรับประทานสดแล้ว ยังสามารถนำมา
แปรรปู เปน็ กลว้ ยปิ้ง กลว้ ยเชอ่ื ม กล้วยบวชชี กล้วยฉาบ สามารถรับประทานเป็นอาหารหลักและเป็นอาหารเสริม
สำหรบั เดก็ ออ่ นด้วย
เนื่องจากกล้วยเป็นพืชที่หาง่ายในชุมชน และยังเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เราจึงคิดนำกล้วยมาแปรรูป
เป็นกล้วยฉาบ ที่สามารถทำกินเองได้ภายในครอบครัวและสามรถสร้างงานสร้างอาชีพแก่คนในครอบครัวและ
ชมุ ชนได้
ปัจจุบัน ในท้องถิ่นการทอดกล้วยฉาบเป็นจำนวนมากราคาถูก ใช้เวลาในการทำไม่นาน คนจึงหันมาใช้
กลว้ ยนำ้ วา้ จึงอยากจะนำมาแปรรูปเปน็ ผลิตภัณฑ์ทสี่ ามารถเก็บไว้รับประทานได้นาน มีความอร่อย และสามารถ
นำออกจำหน่ายหารายได้ระหว่างเรียน และปัจจุบันนี้วัยรุ่นไม่ค่อยจะรับประทานกล้วยฉาบของไทยมากนักซึ่งมี
คุณค่า ทางโภชนาการซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของไทย การทอดกล้วยฉาบนี้จึงอยากจะทำเป็นโครงงานขึ้นเพื่อเป็น
แบบอย่างของวัยรุ่น ที่พวกเรายังไม่ลืมขนมหวานของไทย สามารถนำผลิตภัณฑ์ที่มีมากจนล้นตลาดมาแปรรูปให้
เก็บไว้รับประทานได้นานและ เป็นการชว่ ยเหลือเกษตรกรของไทย อีกทั้งยังเป็นการอนุลักษณ์ขนมไทยให้อยู่คู่คน
ไทยตลอดไป
7
คุณประโยชน์ของกล้วย
กล้วยน้ำว้า สรรพคุณ ประโยชน์ บำรุงร่างกายและดูแลสุขภาพ กล้วยน้ำว้า เป็นผลไม้ไทยๆ ที่มีมาแต่
โบราณเปน็ ภมู ิปญั ญาไทยมีแค่ประเทศไทยประเทศเดียว คนไทยทกุ คนเกิดมาก็ตอ้ งร้จู กั กลว้ ยน้ำวา้ เปน็ อย่างดี
กล้วยน้ำว้า ถึงจะเป็นผลไม้ ที่ไม่น่าจะให้พลังงานได้เยอะ แต่เชื่อหรือไม่ว่า กล้วยเป็นแหล่งพลังงานสำรอง
ชัน้ ดี ในกลว้ ย 1 ผล สามารถให้พลงั งานไดร้ ่วม 100 แคลอรี่ มีน้ำตาลธรรมชาติอยู่ 3 ชนดิ ทั้ง ซโู ครส ฟรคุ โทส และ
กลูโครส รวมไปถึงเส้นใยและกากอาหาร และอุดมด้วย วิตามินบี 6 ที่ช่วยกระตุ้นระบบภูมิต้านทาน แถมแร่ธาตุ
อย่างแมกนีเซียมและโพแทสเซียม ทช่ี ่วยป้องกนั โรคความดนั อีก
ในบรรดากล้วยทั้งหมด กล้วยน้ำว้าให้แคลเวียมสูงสุด นอกจากนั้นก็ยังมีวิตามินบี 1 บี 2 ซี และไนอะซิน
(บี 6) ในปริมาณที่เท่า ๆ กัน แต่ที่ทำให้กล้วยน้ำว้า มีคุณค่าสารอาหารที่พิเศษกว่ากล้วยชนดิ อื่น นั่นก็คือ โปรตีนท่ี
อยู่ในกล้วยน้ำว้า มีกรดอะมิโน อาร์จินิน และฮีสติดิน ซึ่งมีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของทารก ถึงเป็นเหตุผล
ที่ว่าทำไมตอนเด็ก ๆ ผู้ใหญ่ถึงให้เรากินกล้วยบด เพราะอุดมด้วยสารอาหาร และวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกายเรา
นัน่ เอง
สรรพคุณของกลว้ ยนำ้ ว้าชว่ ยป้องกนั โรค
1.กล้วยน้ำว้า ช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอ รับประทานวันละ 5 - 6 ผล จะช่วยให้อาการคะคายเคืองลด
น้อยลง
2. กล้วยนำ้ วา้ ยงั ช่วยระงับกล่นิ ปากได้ วธิ ีการกค็ ือ รบั ประทานกลว้ ยน้ำวา้ หลงั ตน่ื นอนทันที แล้วค่อยแปรง
ฟัน จะชว่ ยลดกลิน่ ปากได้มาก
3.กลว้ ยนำ้ วา้ ยังสามารถรักษาโรคกระเพาะ เพราะในกลว้ ยน้ำว้ามสี ารแทนนินอยมู่ าก จงึ สามารถช่วยรักษา
อาการทอ้ งเสียแบบไม่รุนแรงได้
4.กลว้ ยนำ้ วา้ แกท้ อ้ งผกู ก็สามารถแก้ทอ้ งเดนิ หรอื ทอ้ งเสยี ได้
8
วิธีการทำกลว้ ยฉาบ
ข้นั ตอนในการทำกล้วยฉาบมีดังนี้
สว่ นผสมกลว้ ยฉาบ
กลว้ ยนำ้ หวา้ 1 หวี ประมาณ 10 ลูก (เลอื กกลว้ ยหา่ มๆ)
เกลอื 1 ช้อนชา (สำหรบั แช่กลว้ ยตอนปอก)
น้ำมนั พชื สำหรบั ทอด
เนยเคม็
ใบเตย
9
ส่วนผสมน้ำเช่ือม
น้ำ 1/2 ถ้วย
น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
เกลือ 2 ช้อนชา
อุปกรณ์ท่ีใชใ่ นการทำ
กระทะ
กระชอน
ที่ใสก่ ลว้ ย
10
ถังนำ้ หรอื โอง่ นำ้
ตะหลิว
ทัพพี
มีด
ถาด
เตา
มีดคู่
11
ถว้ ยตวง
แผน่ ซับนำ้ มนั ( กระดาษไข )
วิธีทำกล้วยฉาบ
▪ นำผลกลว้ ย มาตัดหวั และทา้ ยออก ปลอกเปลือกสีเขยี วออก นำผลกล้วยไปลา้ งน้ำ และแช่ไวใ้ นนำ้ สะอาดที่
ผสมเกลอื เลก็ น้อย (เพือ่ ไม่ให้กลว้ ยมสี ีดำ) ต้ังพักไว้ (เวลาปอกใส่ถงุ มือหรือใชน้ ำ้ มันทามือเพ่ือป้องกันยาง
กล้วยตดิ มอื )
▪ ฝานกล้วยดิบเปน็ แผน่ บาง ๆ ตาม ความยาวของผล ด้วยใชม่ ีดคู่ แลว้ นำกลว้ ยทีฝ่ านแล้วตากแดดเพื่อให้
สามารถหยบิ กลว้ ยได้ง่ายกลว้ ยจะไม่ติดกัน(หากมีเคร่อื งชว่ ยฝาน จะชว่ ยใหก้ ล้วยบางเท่ากัน และ เวลาทอด
จะได้สุกพร้อมกนั )
▪ ตง้ั กระทะให้รอ้ นเติมน้ำมันพืชลงในกระทะไฟปานกลาง ใส่เนยลง เม่ือนำ้ มนั ร้อนพอดี มีควนั ลอยบาง ๆ ใส่
กล้วยและใบเตยตาม ลงทอดในน้ำมันทนั ที เม่ือกล้วยลอยตวั ขน้ึ มาบนผวิ น้ำมัน ใหห้ มั่นคนและพลิกชน้ิ
กลว้ ยกลบั ใหถ้ กู น้ำมัน เพ่ือความรอ้ นสม่ำเสมอทวั่ กันทกุ ชน้ิ
▪ เม่ือกลว้ ยสกุ จะมีสีเหลืองดีแล้ว (อยา่ เหลืองมาก เพราะกว่าจะเยน็ คลายตัว กลว้ ยจะไหม้ มสี ดี ำ และมรี ส
ขม) ตกั ขน้ึ ใส่กระชอนใหส้ ะเด็ดนำ้ มนั จากนนั้ นำไปพักทแี่ ผ่นซับนำ้ มันท่ีเตรียมไว้ท่ใี ส่กล้วน ทำจนกระทั่ง
เสร็จ
12
วิธีทำน้ำตาลเคลือบของกล้วยฉาบ
▪ นำกล้วยทีฉ่ าบแลว้ มา 1 ส่วน
▪ น้ำตาลทราย 4 ถ้วยตวง
▪ น้ำ 4 ถ้วยตวง
▪ นำกระทะทสี่ ะอาด ตง้ั ไฟเบาๆ ใสน่ ้ำตาล นำ้ ลงในกระทะนน้ั ตม้ จนนำ้ ตาลละลาย และเคีย่ วตอ่ อีกครู่ จน
นำ้ ตาลเหนียวเปน็ เส้น เมือ่ ใช้ชอ้ นจมุ่ ลงในนำ้ เชอื่ ม แลว้ ยกชอ้ นข้ึน นำ้ เชื่อมจะยดื ตามมีดเป็นเส้น
▪ ใส่กล้วยทที่ อดไว้ ลงในกระทะน้ำเชือ่ มทันทีทยี่ กลงจากเตา เคล้าเบา ๆ ให้น้ำเช่อื มจบั ชิน้ กลว้ ยให้ทว่ั ถึง
▪ พกั ไว้จนเย็นสนทิ และน้ำเช่ือมแหง้ สนทิ ดว้ ย จงึ เกบ็ ใสข่ วดโหล หรือภาชนะฝาปิดสนทิ เพ่ือป้องกนั ลมเข้า
รบั ประทานกนั ในครอบครวั หรือจะทำเพ่ือเปน็ อาชพี เสริม ใส่ในแพค็ เกจนา่ รกั ๆ สวยๆ เพ่อื เพ่ิมความนา่
ดงึ ดดู
ประโยชนข์ องกล้วยฉาบ
1. สามารถนำมาเปน็ อาหารทานเลน่ ได้
2. ได้เรยี นรกู้ ารถนอมอาหาร
3. สามารถนำมาเปน็ สนิ ค้าและจำหนา่ ยได้ เพือ่ สร้างรายไดเ้ สรมิ หรือหลักได้
4. สามารถใชเ้ วลาว่างให้เกดิ ประโยชน์
5. ได้นำ้ ผลไมท้ ี่มากในประเทศไทยมาตอ่ ยอดของอาชพี ได้ และทำใหเ้ กิดประโยชนส์ งู สดุ
13
แบบประเมนิ ความพงึ พอใจ
การดำเนนิ งานของศนู ยก์ ารเรยี นรูต้ ามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงด้านการศกึ ษา
ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอำเภอภักดีชมุ พล
สว่ นที่ ๑ ข้อมูลท่ัวไปของผู้ตอบแบบสอบถาม
๑. เพศ ชาย หญงิ
๒. อายุ นอ้ ยกวา่ ๒๐ ปี ๒๑ – ๓๐ ปี ๓๑ – ๔๐ ปี ๔๑ – ๕๐ ปี ๕๑ – ๖๐ ปี
มากกวา่ ๖๐ ปี
๓.สถานภาพ นกั ศึกษา ประชาชนทว่ั ไป ครู ผบู้ รหิ าร อื่น ๆ……………
สว่ นที่ ๒ ประเดน็ ความพึงพอใจ โปรดทำเครือ่ งหมาย ✓ ลงในชอ่ งคำตอบท่ีตรงกับความรู้สึก
ขอ้ ประเดน็ การวดั ความพึงพอใจ มากที่สุด ระดบั ความพึงพอใจ นอ้ ยท่สี ดุ
๕ มาก ๔ ปานกลาง ๓ นอ้ ย ๒ ๑
ดา้ นวทิ ยากร (ครูแกนนำ/นกั ศกึ ษาแกนนำ)
๑ การถา่ ยทอดความรู้ชดั เจน
๒ การเชอ่ื มโยงตามหลกั ๒ ๓ ๔
๓ มีเนื้อหาครบถ้วนครอบคลุมทุกกิจกรรม
๔ การใชเ้ วลาถา่ ยทอดความรู้ท่ีเหมาะสม
๕ การตอบขอ้ ซักถามได้เขา้ ใจ ถูกต้อง
ด้านสถานที่
๖ สถานท่สี ะอาด รม่ ร่นื ปลอดภัย และสวยงาม
๗ ความพร้อมของอุปกรณ์
ด้านความรู้ความเข้าใจ
๘ ความรคู้ วามเข้าใจเนื้อหาในแหล่งเรยี นรู้
ดา้ นการนำความรูไ้ ปใช้
๙ สามารถนำความรู้ทไ่ี ด้รับไปประยกุ ต์ใช้
ในชีวติ ประจำวัน
๑๐ คาดวา่ สามารถนำความรู้ไปเผยแพร่/ถ่ายทอดได้
ข้อเสนอแนะ............................................................................................................. ................................................................
............................................................................................................................. ....................................................................
............................................................................................................................. ....................................................................
................................................................................................................................................................................... ..............
14
ผลท่เี กดิ ขึน้ กับผู้เรียน
จากการจัดกจิ กรรมการเรียนรตู้ ามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อำเภอภกั ดีชมุ พล
*************************************************
ฐานการเรียนรู้.........................................................................กิจกรรม............................................................
ผเู้ รียนไดฝ้ ึกคดิ และฝึกปฏบิ ัตติ ามหลัก ปศพพ. ดังน้ี
๒ เงอ่ื นไข
ความรู้ คุณธรรม
…………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………….
๓ หลกั การ
หลักพอประมาณ หลกั มีเหตุผล หลักภูมิคุม้ กนั
......................................................... ..................................................... .........................................................
…………………………………………………. ……………………………………………… ………………………………………………….
………………………………………………… ……………………………………………… …………………………………………………
…………………………………………………. ……………………………………………… ………………………………………………….
………………………………………………… ……………………………………………… …………………………………………………
……………………………………………….. …………………………………………… ………………………………………………..
ผลลพั ธ์ทเี่ กิดขน้ึ กับผ้เู รียนจากการจัดกิจกรรมการเรียนร้บู ูรณาการหลัก ปศพพ. ดังน้ี
อยู่อย่างพอเพยี ง....สมดุลพร้อมรับการเปล่ียนแปลงใน ๔ มติ ิ
วัตถุ สงั คม
…………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………….
สิง่ แวดล้อม วฒั นธรรม
…………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………….
15
ทป่ี รกึ ษา คณะผู้จดั ทำ
นายจรูญศักดิ์ พุดนอ้ ย ผูอ้ ำนวยการสำนักงาน กศน.จังหวดั ชัยภมู ิ
นางสาวหลิงฟา้ ขันติรตั น์ รองผอู้ ำนวยการสำนกั งาน กศน.จังหวัดชยั ภมู ิ
นางลทั ธพรรณ ตุงชีพ ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอภกั ดชี มุ พล
คณะทำงาน ครู
ครูผ้ชู ่วย
นางสาวธญั พัฒน์ อ่อนตา ครู กศน.ตำบล
นางสาวสมฤทัย อุ่มพมิ าย ครู กศน.ตำบล
นางนงนชุ เพียววงค์ ครู กศน.ตำบล
นางสาวอโนชา ผุยคำผิ ครู กศน.ตำบล
นายณัฐชยั สงิ หอ์ ำพล ครู กศน.ตำบล
นางสาวม่งิ ขวัญ เพียรวิชา ครู กศน.ตำบล
นางอไุ ร แพงแกว้ ครปู ระจำศูนย์การเรยี นชุมชน
นายณฐั พงษ์ บัวระบัดทอง ครูประจำศนู ย์การเรยี นชมุ ชน
นายหลกั ชัย ไชยบรรพ์ ครูประจำศนู ย์การเรยี นชุมชน
นางสาวพลอยมณี วงค์สกลุ เกยี รติ ครปู ระจำศูนย์การเรียนชมุ ชน
นางโสภดิ า ปรากรมิ บรรณารักษ์
นายธนวฒั น์ พงษ์เดชาตระกูล
นางสาวมุกครินทร์ สงู ชัยภูมิ ครูประจำศนู ย์การเรียนชุมชน
ผู้พิมพ์ต้นฉบับ ครปู ระจำศูนย์การเรยี นชุมชน
นางโสภิดา ปรากรมิ
รปู เล่ม/เรียบเรยี ง
นางโสภดิ า ปรากริม