ช่ือโครงการ อบรมหลักสูตรการพฒั นาศักยภาพ
ดา้ นการสอนสาหรับพยาบาลพเี่ ลยี้ ง
บทบาท
พยาบาลพเี่ ลีย้ ง
Vitchuta Pumchan 15 November 2022
ชื่อโครงการ อบรมหลักสูตรการพฒั นาดา้ นการสอนสาหรับพเ่ี ลีย้ ง
วตั ถุประสงค์
1. เพ่ือพฒั นาขีดความสามารถของพยาบาลพี่เลีย้ งดา้ นการสอนในคลนิ ิก
2. เพ่ือเสรมิ สรา้ งเจตคตทิ ่ีดตี อ่ การเป็นพยาบาลพี่เลยี้ งในคลนิ กิ
3. เพ่ือสนบั สนนุ การนาความรูไ้ ปประยกุ ตใ์ ชใ้ นการจดั การเรยี นการสอนในคลนิ กิ
4. ประเมนิ ผลการเรยี นการสอนและใชเ้ ครอ่ื งมือวดั และประเมนิ ผลการสอนใน
สถานการณจ์ รงิ ได้
5. มแี นวทางในการพฒั นาทกั ษะการเป็นพยาบาลพ่ีเลีย้ งท่ีมศี กั ยภาพดว้ ยตนเองได้
Outline แนวคดิ พยาบาลพเ่ี ลีย้ ง
ในการจัดการศกึ ษาสาขาพยาบาลศาสตร์
บทบาทพยาบาลพเี่ ลีย้ ง
และคุณลักษณะของพยาบาลพเ่ี ลีย้ ง
การสอนงาน
การวางแผนการนิเทศงาน
อภปิ รายแลกเปล่ียนเรียนรู้ประเดน็
การจัดการเรียนการสอน
แนวคดิ พยาบาลพเี่ ลยี้ งในการศกึ ษาสาขาพยาบาลศาสตร์
พยาบาลพ่ีเลยี้ ง ตามแนวคดิ ของ อาจารย์ พยาบาลผมู้ ี
พยาบาล ประสบการณ์
Vance,1982 คือ พยาบาลท่ี
มีประสบการณท์ างาน ฉลาด น.ศ.พยาบาล
รอบรู้มไี หวพริบ มี พยาบาลจบใหม่
ความสามารถในการสอนให้
พยาบาลใหม่ โดยมีบทบาทเป็นครู
ผสู้ นบั สนนุ ผชู้ ีแ้ นะ เป็ นแหล่ง
ความรู้และเป็นแบบอยา่ งท่ีดี
พยาบาลวชิ าชีพทม่ี สี มรรถนะดเี ลิศ
พยาบาลพเ่ี ลย้ี งคอื ใคร
พยาบาลประจาการท่ที าหนา้ ท่ใี นการจดั การสอนงานอยา่ งเป็ น
ทางการในสภาพท่เี ป็นจรงิ ทางคลนิ ิกใหแ้ กน่ กั ศึกษาพยาบาลหรอื
พยาบาลสาเรจ็ ใหม่ ตามวตั ถปุ ระสงคข์ องสถาบนั การศึกษาหรอื
ของหน่วยงาน ทาใหผ้ ูร้ บั การสอนงานมีความรู้ ทกั ษะและ
ทศั นคตทิ ่ดี ตี ่อการพยาบาล และสามารถปรบั ตวั ตามบทบาท
หนา้ ท่ที ่รี บั ผดิ ชอบได้ (ธานี กลอ่ มใจ, 2542)
การเป็ นพเี่ ลีย้ ง (Mentoring)
การสรา้ งความสมั พันธร์ ะหวา่ งบคุ ลากรเกา่ กบั
บคุ ลากรใหม่ เพอื่ นา ใหค้ าปรกึ ษา เป็ นแบบอยา่ ง
รปู แบบความสมั พันธอ์ าจเป็ นทางการหรอื ไมเ่ ป็ น
ทางการกไ็ ด ้
Is not about telling, giving solutions,
criticizing mistakes, giving advice or jumping
into handle solutions without being asked.
Who Can Be a Preceptor/Mentor?
Mentor หมายถงึ พ่ีเลยี้ งหรอื ท่ีปรกึ ษาท่ีมีประสบการณม์ ากกวา่ ผทู้ ่ีเป็น
แบบอยา่ งท่ีดใี นวชิ าชีพ ผทู้ ่ีใหค้ าปรกึ ษาท่ีเฉลียวฉลาด
▪Mentee หมายถึง ผทู้ ่ีอยภู่ ายใตก้ ารดแู ลและคมุ้ ครองของพ่ีเลยี้ งลยี้ ง
Mentor is the person who
guides another to success.
คุณลักษณะของพยาบาลพเ่ี ลยี้ ง
คุณลักษณะของพยาบาลพเี่ ลยี้ ง
✓ เป็ นพยาบาลวชิ าชพี ทม่ี ปี ระสบการณ์
✓ มคี วามชานาญในการปฏบิ ตั กิ ารพยาบาล
✓ มที กั ษะ และกระตอื รอื ลน้ ในการสอนการพยาบาลในคลนิ กิ
✓ สามารถบรหิ ารจัดการเวลาไดด้ ี
✓ มคี วามเป็ นผนู ้ าทส่ี ามารถถา่ ยทอดความคดิ รเิ รม่ิ สามารถ
ตดั สนิ ใจไดด้ ี และสรา้ งแรงจงู ใจใหก้ บั คนอนื่ ได ้
✓ สามารถใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศไดด้ ี
✓ มคี วามเอาใจใส่
✓ ความสามารถในการใหข้ อ้ เสนอแนะในเชงิ บวกและเชงิ ลบ
ในทางทส่ี รา้ งสรรค์
✓ มที ักษะการสอื่ สารแบบ Assertive Communication
ตวั อย่าง เกณฑ์การคดั เลือกพยาบาลพเ่ี ลยี้ ง (Preceptor Criteria )
1. ผ่านการอบรมโปรแกรมการเป็ นพยาบาลพเ่ี ลีย้ ง (Preceptorship program)
2. เป็ นพยาบาลระดับ 3 หรือ ระดับ 4
3. ไม่ไดด้ ารงตาแหน่งทางการบริหาร เช่น Nurse Manger, Nurse Supervisor
4. ยนิ ดแี ละสมัครใจเข้าทจ่ี ะเข้าร่วมโปรแกรม
5. เป็ นผู้ที่ได้รับการยอมรับว่ามีความเชี่ยวชาญในการปฏิบัติงานในแผนก ได้ถูกต้องตามหลักปฏิบัติ
และนโยบายโรงพยาบาลทุกครัง้
6. ได้รับการรับรองจากผู้จัดการแผนก ผู้จัดการแผนกอาวุโส หรือผู้อานวยการศูนย์ว่าเป็ นผู้ที่มีความ
เหมาะสมในการเป็ นพีเ่ ลีย้ ง
7. ได้รับการประเมนิ จากเพือ่ นร่วมงานว่าเป็ นผู้ทมี่ ีความสามารถในการเป็ นพีเ่ ลีย้ ง
8. ผลการประเมนิ PEER จากเพอื่ ร่วมงานในรอบการประเมนิ ทผี่ ่านมา > 80 %
9. ยนิ ดที จ่ี ะแบง่ ปันความรู้และเสียสละเวลาสอนผู้อนื่
10.ยนิ ดที จี่ ะใหก้ ารสนับสนุนและช่วยเหลือผู้อน่ื ทงั้ ดา้ นจติ ใจและดา้ นความรู้
11.สามารถใหค้ วามคดิ เหน็ และรับฟังความคดิ เหน็ ทม่ี ปี ระโยชนแ์ ละจริงใจ
12.เคารพในศักศรี และความไว้ใจ และใช่ใจผู้อน่ื
Educator
https://nursekey.com/mentorship-preceptorship-and-nurse-residency-programs/
ความสาคญั และบทบาทของ Clinical Nurse Educator และ Nurse Preceptor
Title Educator Preceptor
- เป็นตน้ แบบท่ีดี - เมปีป็นรตะน้สแบบกบารทณ่ีดี์
- ทรบั าผงาิดนชใอนบแงผานนกตามการมอบหมาย
What is a Nurse - มีประสบการณ์ -
Educator/Preceptor ? - ทางานนอกหรอื ในแผนก -
- รบั ผิดชอบงานตามตาแหน่งหนา้ ท่ี งาน/ตาแหนง่ งาน
- ออกแบบการเรยี นการสอนให้
What do nurse - ออกแบบหลกั สตู รการเรยี นรูข้ อง - เพปย็นาตบน้ าแลบใหบมคร่ ณุายลบกั คุ ษคณละเชิงวิชาชีพ
Educator /Preceptor - พยาบาลทกุ คน - สแลรา้ะงททกั กั ษษะะใในหกพ้ ายรปาบฏาิบลตั ใงิ หามน่ นาไปใช้
ใหค้ วามรู/้ ทกั ษะตามหลกั สตู รท่ีจดั
do? - ประเมินผลหลกั สตู ร และทบทวน - สงาอนนพยาบาลใหมใ่ หม้ ี วิจารณญาณ
หลกั สตู ร - ททากั งษคะลกนิ าิกรอยรู่ ว่ ม ความสมั พนั ธ์ และ
- พฒั นาหลกั สตู รใหท้ นั สมยั ใชช้ ีวิตในสงั คม/ การทางาน
Where do the Nurse - สอนในหอ้ งเรยี น - สอนงานท่ีคลนิ ิก/รายคน
Educator /Preceptor
Work? - สอนท่ีคลินิก/กลมุ่ /คน
Preceptor Mentor Clinical Coach
Paired or assigned to the Relationship tends to May be assigned or
new nurse for a short period originate voluntarily
of time through initial originate voluntarily but can
orientation period. be assigned.
Teaching the day-to-day
clinical skills of the new Extends beyond the Clinically focused like
graduate nurse. initial orientation preceptors but are not there
period and longer term in to supervise or evaluate the
Protector ensuring the new nature. new graduate nurse
graduate nurse learns the
clinical skills of their job Provides guidance with setting Maximizes the performance
professional goals, career of the new nurse by helping,
Limited time investment planning, life-long learning, consulting
Extends beyond the Advising on clinical
initial orientation needs, Time limited
period and longer term in nature
https://nursing.uiowa.edu/ionrp/blog/preceptors
Nurse Preceptor Roles
NRS 1.28 Nursing Preceptorship Program โปรแกรมพยาบาลพเี่ ลยี้ งสายงานการพยาบาล
พยาบาลพเี่ ลยี้ ง (Preceptor) หมายถงึ พยาบาลทมี่ ี Skills
คณุ สมบตั คิ รบถว้ นตามเกณฑก์ ารคดั เลอื กพยาบาลพี่ Building
เลยี้ งและ ไดร้ บั การอบรมในโปรแกรมพยาบาลพเี่ ลยี้ ง
(Preceptorship Program) เพอื่ เตรยี มความพรอ้ ม Protector Roles Model
ในการเป็ นพยาบาลพเี่ ลยี้ ง และเตม็ ใจจะปฏบิ ตั ิ
บทบาทพยาบาลพเี่ ลยี้ งใหพ้ ยาบาลใหม่ และพฒั นา Preceptor
สมรรถนะใหแ้ กพ่ ยาบาลทมี่ ปี ระสบการณน์ อ้ ยกวา่ ให ้
สามารถปฏบิ ตั งิ านได้
Socialization Critical
Thinking
บทบาทหน้าทข่ี องพยาบาลพเ่ี ลีย้ ง
NRS Nursing โปรแกรมพยาบาลพเี่ ลยี้ ง Roles
1.28 Preceptorship สายงานการพยาบาล Model
Program
พยาบาลพ่ีเลยี้ ง (Preceptor) หมายถงึ Clinical Skills
พยาบาลท่ีมีคณุ สมบตั ิครบถว้ นตามเกณฑก์ าร Thinking Building
คดั เลอื กพยาบาลพ่ีเลยี้ งและ ไดร้ บั การอบรมใน
Preceptor
โปรแกรมพยาบาลพ่ีเลยี้ ง (Preceptorship Roles
Program) เพ่ือเตรยี มความพรอ้ มในการเป็น
พยาบาลพ่ีเลยี้ ง และเตม็ ใจจะปฏิบตั ิบทบาท Socializer Protector
พยาบาลพ่ีเลยี้ งใหพ้ ยาบาลใหม่ และพฒั นา
สมรรถนะใหแ้ ก่พยาบาลท่ีมีประสบการณน์ อ้ ยกวา่
Modified from Vermont Internship Project (Boyer, 20016)
Skills Building
1. สามารถวัดระดับความรู้ของพยาบาลเพ่ือเป็น Base line ในการจดั การเรยี นการสอนใหบ้ รรลเุ ปา้ หมาย
ของพยาบาลใหม่เป็นรายบคุ คล
2. มีความสามารถในการสร้างรูปแบบการเรียนรู้ท่ีเหมาะสมกบั Preceptee แตล่ ะคน
เพ่ือใหส้ ามารถบรรลุ วตั ถปุ ระสงคก์ ารเรยี นรูไ้ ด้
3. รว่ มวางแผนการเรียนรู้และถ่ายทอดประสบการณใ์ นคลินิกท่ีตรงกับความตอ้ งการของพยาบาลใหม่
4 มีความสามารถในการพฒั นารูปแบบการเรยี นรูท้ ่ีเหมาะสมกบั Preceptee แตล่ ะระดบั และแตล่ ะแผนก
เพ่ือใหส้ ามารถบรรลุวัตถุประสงคก์ ารเรียนรู้ได้
5.เปิดโอกาสใหม้ ีการเรียนรู้ทงั้ รายบุคคล และเป็ นกลุ่ม
6. มีสว่ นรว่ มในการเรยี นรูแ้ บบ Workshop ,Simulation lab
Skills Building
7. สง่ เสรมิ ใหพ้ ยาบาลใหเ้ รยี นรูแ้ ละผา่ นประสบการณก์ ารปฏิบตั ิงานมีการทดสอบทลี ะขั้นตอน
8. เปิดโอกาสใหพ้ ยาบาลใหมไ่ ดป้ ฏิบตั ิงานเพ่ือใหเ้ กิดทกั ษะ ความชานาญ
9. ทางานรว่ มกบั Charge nurse ในการดแู ลพยาบาลใหมป่ ฏิบตั ิงานในคลนิ ิก
10. เป็นผทู้ ่ีสามารถประเมินและบง่ ชีไ้ ดว้ า่ Preceptee มีสมรรถนะท่ีเหมาะสมกบั การปฏิบตั งิ าน
ในแผนกหรอื ไม่
11. วางแผนการสอนการปฐมนิเทศในแผนก หรอื สายงานบรกิ ารของตนเอง ตรวจสอบการบนั ทกึ ใน
Orientation Checklist ของพยาบาลใหมใ่ หส้ มบรู ณแ์ ละเสรจ็ ภายในระยะเวลาท่ีกาหนด
Role Model
1.เป็ นแบบอย่างทด่ี ที างดา้ นเป็ นผู้มคี วามรู้และทกั ษะการปฏบิ ัตกิ ารพยาบาลแก่ผู้ป่ วยใน
สายงานบริการ
2.สามารถปฏิบตั ติ ามหลักปฏิบัตแิ ละนโยบายไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง และสามารถกระตุน้ ให้
พยาบาลปฏบิ ตั ติ ามได้อย่างมีประสทิ ธิภาพ
3.เป็ นแบบอย่างของผู้ทส่ี ามารถส่ือสารไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพททงั้ กับผู้ร่วมงาน และกับ
ผู้ป่ วยและญาติ
4. เป็ นนแบบอย่างการปฏบิ ัตงิ านอยา่ งมีมาตรฐานและมพี ฤตกิ รรมการบริการทดี่ ี และมี
การพฒั นาอย่างตอ่ เน่ือง
Role Model
5. ปฏบิ ตั ติ นเป็ นแบบอย่างทด่ี ใี นการประกอบวิชาชีพ และแนวคดิ ตาม
THB Way
6. เป็ นผู้ทมี่ ีการเรียนรู้ตลอดชวี ิตโดยเฉพาะความรู้ในเรอื่ งทต่ี นเองจะ
นามาใช้งานในหน้าท่ี Preceptor
7. เป็ นแบบอยา่ งในการวางแผนการทางาน โดยวางแผนการเรียนรู้
ของพยาบาลใหม่ร่วมกบั พยาบาลใหม่
8.กาหนดระยะเวลา การดาเนินการ และการประเมินไว้ล่วงหน้าและ
แจง้ ใหพ้ ยาบาลใหม่ทราบ
9. เป็ นผู้ทเ่ี ปิ ดกว้างยอมรับความคดิ เหน็ ผู้อน่ื โดยเปิ ดโอกาสให้
พยาบาลใหม่ประเมินพเี่ ลีย้ ง
Critical Thinking
1. สามารถประเมนิ สถานการไ์ ดว้ ่า สถานการณใ์ ดทจี่ ะสอนหรือยุตกิ ารสอนใหแ้ ก่
พยาบาลใหม่ และเวลาใด ท่ีเหมาะสมในการเปิดโอกาสใหพ้ ยาบาลใหมไ่ ดเ้ รยี นรู้
2. มคี วามตระหนักรู้ และมที ักษะการจัดการหลักปฏบิ ัตติ ามนโยบายเมอื่ เกดิ ภาวะ
ฉุกเฉิน และสามารถสอนพยาบาลใหมไ่ ด้
3. ใหก้ ารสนบั สนนุ และการช่วยเหลอื พยาบาลใหเ้ กิดความม่ันใจในการวเิ คราะหแ์ ละ
แก้ปัญหาไดเ้ อง
4. ดแู ลสิ่งแวดลอ้ มใหป้ ลอดภยั และสง่ เสรมิ ใหพ้ ยาบาลใหมป่ ฏิบตั งิ านอยา่ งปลอดภยั
Critical Thinking
5. กระตนุ้ ใหพ้ ยาบาลใหม่ ฝึกถามและตอบคาถามเชิงคลนิ ิก ตามกระบวนการพยาบาล
6.สามารถใหข้ อ้ มลู ยอ้ นกลบั และแสดงความเห็นในเชิงสรา้ งสรรค์
7.สามารถอธิบายเหตแุ ละผลของการปฏิบตั ทิ กั ษะการพยาบาลในแตล่ ะขนั้ ตอนของ
กระบวนการพยาบาลใหแ้ ก่พยาบาลใหมไ่ ด้
8.ดแู ลใหม้ ่นั ใจวา่ พยาบาลใหมม่ ีความสามารถเพยี งพอก่อนท่ีจะใหป้ ฏิบตั ิงานดว้ ยตนเอง
Socialization
1. แนะนาพยาบาลใหม่ใหร้ ูจ้ กั กนั รูจ้ กั เพ่ือนรว่ มงาน แพทย์ สหสาขาวิชาชีพ
2. ทางานร่วมกบั พยาบาลใหม่อยา่ งเตม็ ท่ี และแสดงใหพ้ ยาบาลใหมเ่ หน็ ถงึ ทกั ษะตา่ งๆ และสรา้ งทกั ษะ นนั้
ใหก้ บั พยาบาลใหม่
3. เปิดโอกาสใหพ้ ยาบาลใหมส่ ามารถทางานไดด้ ว้ ยตนเอง ใหค้ าชแี้ นะ และการสนบั สนนุ แก่พยาบาลใหม่
4. ใหค้ าปรึกษาและให้ข้อมูลทเ่ี ป็ นประโยชนท์ ่ีจะชว่ ยใหพ้ ยาบาลใหมส่ ามารถตดั สนิ ใจท่ีดี รบั ฟัง ให้
คาอธิบาย ท่ีเขา้ ใจ ปฏบิ ตั ใิ หเ้ หน็ และใหค้ าแนะนาท่ีดี
5. เป็นเพ่ือนทางวชิ าชีพโดยการใหก้ ารสนบั สนนุ ทางดา้ นจิตใจ ใหค้ วามเคารพ และแสดงความ ชน่ื ชมตาม
ความเหมาะสม
6. ชว่ ยเหลือพยาบาลใหมใ่ นการชแี้ นะว่าตอ้ งปฏิบัตอิ ยา่ งไรในการอยู่ร่วมกับผู้อนื่
Socialization
7.สังเกตพฤตกิ รรมการปรับตวั ของพยาบาลใหม่เป็นประจาทกุ เวร ในช่วงระยะเรม่ิ ปฏิบตั งิ าน
และสรา้ งปฏิสมั พนั ธก์ บั ผอู้ ่ืน
8.ทดลองใหป้ ฏิบตั งิ านกบั เพ่ือรว่ มงาน เพ่ือใหม้ ่นั ใจวา่ พยาบาลใหม่ได้รับการสนับสนุนและไดร้ บั การดแู ลจากทีม
9.ในกรณีท่ีมีภาระกิจอ่ืน ตอ้ งมีการจดั เตรยี มพ่ีเลยี้ งคนอ่ืนมาสอนแทน โดยมีการส่งต่อข้อมูลอยา่ งชัดเจน
10.รายงานผู้จัดการแผนกการทราบ หากมีปัญหาหรอื อปุ สรรคเกิดขนึ้ กบั พยาบาลใหม่
11.บง่ ชแี้ ละให้ข้อมูลยอ้ นกลับ อย่างสร้างสสรรคใ์ หพ้ ยาบาลใหมท่ ราบถงึ โอกาสทางการพฒั นาตนเอง
12.มีส่วนร่วมในกจิ กรรมของโปรแกรมพยาบาลพเ่ี ลยี้ ง เพ่ือส่อื สารขอ้ มลู และแลกเปล่ยี นขอ้ มลู กบั ผอู้ ่นิ
Protector
1. แสดงตนว่าเป็ นผู้พทิ กั ษส์ ทิ ธิ์ ในการปกป้องพยาบาลใหม่จากผู้ทม่ี พี ฤตกิ รรมทไี่ ม่
เหมาะสม
2. ส่งเสริมการพฒั นาทกั ษะ จนกระท่ังม่ันใจว่าพยาบาลใหม่สามารถปฏบิ ัตกิ ารดูแลผู้ป่ วย
ได้อย่างปลอดภยั
3. เตรียมสงิ่ แวดล้อมในการเรียนรู้ทม่ี คี วามปลอดภยั สาหรับพยาบาลใหม่ทเ่ี หมาะสมต่อ
การเรียนรู้ และปฏบิ ัตงิ าน
4.ดแู ลและป้องกันผู้ป่ วยไม่ให้เกดิ ความผดิ พลาดในการปฏิบัตงิ านจากพยาบาลใหม่
5.ดูแลและป้องกันพยาบาลใหม่ ไม่ใหเ้ กดิ ความผิดพลาดในการปฏบิ ตั งิ านทอี่ าจเกดิ
อันตรายตอ่ ตนเองและผู้อน่ื
6.ม่ันใจว่าพยาบาลใหม่ได้ปฏบิ ัตติ ามนโยบายและหลักปฏิบัตขิ องโรงพยาบาล
Protector
1.ดแู ลและป้องกันผู้ป่ วยไม่ใหเ้ กิดความผิดพลาดในการปฏิบัตงิ านจากพยาบาลใหม่
2.ดแู ลและป้องกันพยาบาลใหม่ ไม่ใหเ้ กดิ ความผิดพลาดในการปฏบิ ตั งิ านทอ่ี าจเกิด
อันตรายตอ่ ตนเองและผู้อน่ื
3.เตรียมส่ิงแวดล้อมในการเรียนรู้ทม่ี คี วามปลอดภยั สาหรับพยาบาลใหม่ทเ่ี หมาะสม
ตอ่ การเรียนรู้ และปฏิบัตงิ าน
4.ส่งเสริมการพัฒนาทกั ษะ จนกระท่งั ม่ันใจว่าพยาบาลใหม่สามารถปฏิบัตกิ ารดแู ล
ผู้ป่ วยไดอ้ ยา่ งปละอดภยั
5.ม่ันใจว่าพยาบาลใหม่ไดป้ ฏบิ ัตติ ามนโยบายและหลักปฏิบตั ขิ องโรงพยาบาล
การวางแผนการนิเทศและใช้สื่อบุคคล
การทางานของพยาบาลพเ่ี ลย้ี ง
มาเรยี ม เพราะสนุ ทร & อารยี ว์ รรณ อว่ มตานี (2556)
Micro Supervision COACHING - Initiate based on best practice
- Indicators from each department
Top Down Technique (Individual & Group) - Nursing care
Bottom Up SUPERVISION
Managerial Clinical
30
Unit-based Activity - Concerns/Problems are initiated by
(Daily, Just in Time) frontline staff (Unit based)
- Idea solution from frontline staff
- Focusing on Quality, Clinical
outcome, Risk anticipation, Services
Micro Supervision Observe Define
Problem Problem
&
Concern
Understand
Testing Idea
Deliver Create
Prototype Create
31
Micro Supervision
• ‘Everyone participating in training/session in intelligent,
capable, does their best, and want to learn’
• Center for Medical Simulation
32
Micro Supervision
• To observe and analyze brief presentation by each supervisor/manager
and practice the process of self-evaluation, consultation, and debriefing
Goal
33
Micro Supervision
34
• Meeting at>>>>>
Group Sharing
35
Debriefing Technique
1. Safe environment (again….SAFE environment)
2. Clear expectations/objective
3. Recall what happened
4. Open sharing- Genuine Inquiry/Good will
5. Identify impact/consequences
6. Engaged from your learner
7. Conclusion (take-home message)
36
• Quiet participant
• Dominant learner
• Upset participant
How to manage
37
Top Down COACHING - Initiate based on best practice
- Indicators from each
Bottom Up Technique (Individual & Group)
department
38 SUPERVISION - Nursing care
Managerial Clinical
Unit-based Activity - Concerns/Problems are
(Daily, Just in Time) initiated by frontline staff (Unit
based)
- Idea solution from frontline staff
COACHING Hospital Executive Meeting
Top Down Technique (Individual & Group) - IInnidtiaictaetboarsMsferaodnmoangeeabmcehsetndpterapcatritcmeent
-
Bottom Up SUPERVISION
Managerial Clinical - NMuresientgincga/rHeuddle/IPD or OPD
39
Unit-based Activity Standard
(Daily, Just in Time)
Clinical
Outcome
- Concerns/Problems are initiated by Quality &
frontline staff (Unit based) Patient
Safety
- Idea solution from frontline staff
- Focusing on Quality, Clinical Risk
outcome, Risk anticipation, Services
Service
Top Down COACHING - Total 40 h(Individual 30 h, Group 10 h)
- Record in PeopleSoft
Bottom Up Technique (Individual & Group)
- Record in Clinical supervision form
40 SUPERVISION
Managerial Clinical
Unit-based Activity - Record in Worksheet, Skills evaluation
(Daily, Just in Time) Checklist
Unit-based Activity (Daily, Just in time)
• Daily (at least 2-3 times/week)
• 10 minutes sharp activity
• May integrated in daily ward round
• Focusing on specific unit concerns (Anything, including
clinical outcome, risk anticipation, quality, etc.)
• This activity will be monitored randomly
• Record in worksheet
• Discuss in unit monthly meeting, IPD & OPD Standard(earlier
if urgent issues) → Nursing management→ HEC
41
42
Your Roles • Group facilitators
• Clear objective
• Create Safe environment
• Allow your team to share
• Don’t provide solution first……(Again Don’t provide solution)
• Listen….Listen…Listen……
• Summary…Share & Learn
43
แนวทางการ Coach สาหรับ
Preceptor
ด้วย ......... GROW Model
แนวทางการ Coach สาหรบั Preceptor
1. Pre Coaching Session อธิบายทาความเข้าใจกฎ ทาการ
coach
1.1 กตกิ า ของการโคช้ หรอื เทคนคิ ท่ีจะใช้ จะทาอะไรบา้ ง
1.2 Building Rapport เพ่ือสรา้ งสายสมั พนั ธ์ ทาความคนุ้ เคยกบั ผู้
ถกู โคช
2. 2. Assessment จากน้ันเร่มิ กระบวนการการโค้ช Topic
initial และแจง้ เวลาท่ีจะโคช้
3. เร่ิมกระบวนการตาม G.R.O.W+ Model
G — Goal คน้ หาเปา้ หมาย เชน่ เปา้ หมายท่ีคณุ ตอ้ งการคอื เร่อื งอะไร,
ผลลพั ธท์ ่ีตอ้ งการใหเ้ กิด มีลกั ษณะอยา่ งไร, เปา้ หมายนีม้ ีความสาคญั กบั คณุ ใน
เร่อื งอะไร
R — Reality คน้ หาความเป็นจรงิ ในปัจจบุ นั เชน่ ปัจจบุ นั เม่ือเทียบกบั
เปา้ หมายแลว้ เป็นอยา่ งไร, ถา้ เปา้ หมายคอื 10 ปัจจบุ นั อยทู่ ่ีคะแนนเทา่ ไร, ปัจจยั
อะไรท่ีมีความสาคญั ท่ีจะทาใหค้ ณุ บรรลเุ ปา้ หมาย
O — Option คน้ หาทางเลือกท่ีมี เชน่ คณุ มีทางเลือกท่ีเหมาะสมในการ
ประสบความสาเรจ็ อะไรบา้ ง, คณุ มีแผนงาน หรอื วธิ ีการในการบรรลเุ ปา้ หมาย
อยา่ งไร
W — Will / Way Forward คนหาการตดั สนิ ใจ ความมงุ่ ม่นั ท่ีจะทา
เชน่ เพ่ือบรรลเุ ปา้ หมาย คณุ ตดั สนิ ใจท่ีจะปฏิบตั ใิ นเร่อื งอะไร, คณุ ชว่ ยสรุปส่งิ ท่ี
คณุ จะไปลงมือปฏิบตั ,ิ คณุ ม่นั ใจในแนวทางนีม้ ากแคไ่ หน, คณุ รูส้ กึ อยา่ งไรกบั การ
ตดั สินใจในครงั้ นี+้ Plus ใหก้ ารสนบั สนนุ ใหก้ าลงั ใจ
Coaching Skills with GROW Model โดยมี 3 ขัน้ ตอน 7 ขั้นตอนย่อย Coaching โดยใช้ Mentoring Coaching Model 7 ขนั้ ตอน
1. โคช้ จะอธิบายทาความเขา้ ใจกฎ ทาการ Pre Coaching Session 1.Preparation
1.1 กตกิ า ของการโคช้ หรือเทคนิคท่ีจะใช้ จะทาอะไรบา้ ง 2. Relationship building
1.2 Building Rapport เพ่ือสรา้ งสายสมั พนั ธ์ ทาความคนุ้ เคย 3. Assessment
4. Planning & goal setting
2. โค้ชจะขออนุญาต เร่ิมการโค้ช แจง้ เวลาท่ีจะโคช้ 5. Developing strategies
3. เริ่มกระบวนการตาม G.R.O.W+ Model 6. Taking action
G — Goal คน้ หาเปา้ หมาย เชน่ เปา้ หมายท่ีคณุ ตอ้ งการคอื เร่ืองอะไร, ผลลพั ธท์ ่ีตอ้ งการใหเ้ กิด มีลกั ษณะ 7. Evaluation of process feedback
อยา่ งไร, เปา้ หมายนีม้ ีความสาคญั กบั คณุ ในเร่ืองอะไร
R — Reality คน้ หาความเป็นจรงิ ในปัจจบุ นั เชน่ ปัจจบุ นั เม่ือเทียบกบั เปา้ หมายแลว้ เป็นอยา่ งไร, ถา้
เปา้ หมายคอื 10 ปัจจบุ นั อยทู่ ่ีคะแนนเทา่ ไร, ปัจจยั อะไรท่ีมีความสาคญั ท่ีจะทาใหค้ ณุ บรรลเุ ปา้ หมาย
O — Option คน้ หาทางเลือกท่ีมี เชน่ คณุ มีทางเลือกท่ีเหมาะสมในการประสบความสาเรจ็ อะไรบา้ ง,
คณุ มีแผนงาน หรือวิธีการในการบรรลเุ ปา้ หมายอยา่ งไร
W — Will / Way Forward คนหาการตดั สนิ ใจ ความมงุ่ ม่นั ท่ีจะทา เชน่ เพ่ือบรรลเุ ปา้ หมาย คณุ
ตดั สนิ ใจท่ีจะปฏิบตั ใิ นเร่อื งอะไร, คณุ ชว่ ยสรุปส่ิงท่ีคณุ จะไปลงมือปฏิบตั ิ, คณุ ม่นั ใจในแนวทางนีม้ ากแคไ่ หน,
คณุ รูส้ กึ อยา่ งไรกบั การตดั สินใจในครงั้ นี้
+ Plus ใหก้ ารสนบั สนนุ ใหก้ าลงั ใจ
The 5 Minute Preceptor Model
Step ตวั อย่าง 5 Minute Preceptor
Step1: Get the students Preceptor: เลา่ ใหฟ้ ังหน่อยคะ คนไขข้ องหนเู ป็นอยา่ งไร
to take a stand Preceptee: นาง ก เป็น Alzheimer’s เชา้ นีเ้ ธอปฏเิ สธการกินยา ทงั้ ท่ีเม่อื วาน หนดู แู ลเธอเป็นวนั แรก เธอก็ทานยาทกุ เมด็ เลยคะ่
หนวู า่ จะโทรศพั ทร์ ายงานแพทยเ์ ร่อื งนี้
Step2: Probe for
supportive evidence Preceptor: ไหนลองเลา่ ใหพ้ ่ีฟังเพ่มิ วา่ สง่ิ ใดท่ีทาใหต้ ดั สนิ ใจท่ีจะรายงานแพทย์
Preceptee : คะ หนทู ราบดีวา่ คนไขม้ สี ทิ ธิ์ท่ีจะปฏิเสธการรกั ษา หรอื ยา แตเ่ น่ืองจากว่า นาง ก เป็นผปู้ ่วยท่ีมคี วามบกพรอ่ งดา้ นการ
Step3: Teach general รบั รู้ หนรู ูส้ กึ ไมส่ บายใจว่าเธอจะตดั สนิ ใจทางดา้ นสขุ ภาพไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง ผปู้ ่วยรายนีต้ ดั สนิ ใจไมข่ อรบั ประทานยาใด ๆ
rules Preceptor: หนลู องไปอธิบายผปู้ ่วยเพ่มิ เก่ียวกบั ยาลดความดนั วา่ หากผปู้ ่วยไมท่ านจะเป็นอยา่ งไร ก่อนท่ีจะโทรตามแพทยน์ ะคะ
Preceptee: อืม หนคู ิดวา่ หนไู มม่ ีความสามารถท่ีจะบงั คบั ผปู้ ่วยรายนีไ้ ดค้ ่ะ และหนกู ็กงั วลว่าผปู้ ่วยรายนีจ้ ะตอ้ งไดร้ บั ยา ก่อนท่ี
Step4: Reinforce the ความดนั จะเกินควบคมุ ได้ หนไู มแ่ น่ใจวา่ พ่ีจะไปกบั หนมู ๊ยั คะ
Positive
Step5: Correct error and Preceptor: สง่ิ แรก ท่ีจะปฏิบตั ิกบั ผปู้ ่วยรายนี้ คือทาดว้ ยความม่นั ใจ และหนอู อกมาจากหอ้ งผปู้ ่วยเม่อื 15 นาทีแลว้ กลบั เขา้ ไปใหม่
misinterpretations ผปู้ ่วยAlzheimer’s จะมีปัญหาความจาระยะสน้ั จากนนั้ ผปู้ ่วยจะใหค้ วามรว่ มมอื
Preceptee:ถา้ มนั ไมไ่ ดผ้ ลละ่ คะ
Preceptor: ถา้ วธิ ีนีไ้ มไ่ ดผ้ ล หากผปู้ ่วยยงั คงปฏเิ สธยา รวมถึงปฏเิ สธยาลดความดนั ดว้ ย ใหป้ ระเมนิ อาการผปู้ ่วยวดั ความดนั บนั ทกึ
สง่ิ ท่ีไดป้ ฏบิ ตั ิ แลว้ จงึ รายงานใหแ้ พทยท์ ราบ
Preceptor: หนไู ดแ้ สดงใหเ้ ห็นวา่ เขา้ ใจเร่อื ง สทิ ธิผปู้ ่วยเป็นอยา่ งดี ผปู้ ่วยมสี ทิ ธเ์ ลือกรกั ษาได้ และพ่ีก็ชอบมากเลยท่ีหนู มีความคดิ
เชิงรุกท่ีจะดแู ลเร่อื งความดนั ใหผ้ ปู้ ่วยอยา่ งมวี จิ ารณญาณ วางแผนปอ้ งกนั ก่อนท่ีจะเกิดปัญหา
Preceptor:หนไู มไ่ ดผ้ ิดท่ีคดิ จะรายงานแพทยเ์ ร่อื งผปู้ ่วยปฏิเสธรบั ยา อยา่ งไรก็ตามจากประสบการณข์ องพ่ี พยาบาลจะตอ้ งแน่ใจว่า
ไดป้ ระเมนิ ผปู้ ่วยทกุ ครงั้ และไดใ้ หก้ ารพยาบาลแก่ผปู้ ่วยแลว้ ก่อนท่ีจะรายงานแพทย์ หนอู าจจะโดดขา้ มไปรายงานแพทย์ แพทยจ์ ะใหห้ นู
ไปหาผปู้ ่วยครงั้ ท่ี 2 และ 3 และใหพ้ ยายามใหย้ าครง้ั แลว้ ครงั้ เลา่ พรอ้ ม ๆกบั วดั ความดนั การเรยี นรูใ้ นครงั้ นี้ บอกถงึ การเพ่มิ คณุ ค่าในการ
one-minute preceptor