โพรทิสต์
(protist)
โพรทิสต์ (protist)
โพรทิสต์ (อังกฤษ: protist มาจากคำในภาษากรีกว่า protiston
แปลว่า สิ่งแรกสุด) หมายถึงจุลชีพยูแคริโอตหลากหลายกลุ่มใหญ่
กลุ่มหนึ่ง ในอดีตกลุ่มโพรทิสต์มีสถานะเป็นอาณาจักร โพรทิส
ตา(อังกฤษ: Protista) ซึ่งรวมสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวที่ไม่สามารถจัด
ประเภทลงอาณาจักรอื่นได้เลย ซึ่งต่อมาก็ถูกคัดค้านในอนุกรม
วิธานสมัยใหม่ มันอาจพิจารณาได้ว่าเป็นการรวมกลุ่มอย่างหลวม
ๆ ของสิ่งมีชีวิต 30-40 ไฟลัมที่ผสมผสานกันต่าง ๆ นานาในเรื่อง
ภาวะโภชนาการ กลไกของการเคลื่อนไหวเอง ผนังที่ห่อหุ้มเซลล์
และวงจรชีวิต
ลักษณะสําคัญของสิ่งมีชีวิตในอาณาจักรโพรทิสตา
1. ร่างกายประกอบด้วยโครงสร้างง่ายๆไม่ซับซ้อน ส่วนมาก เซลล์
เดียว (unicellular) บาง ชนิดมีหลายเซลล์รวมกันเป็นกลุ่ม เรียก
ว่า โคโลนี (colony) หรือเป็นสายยาว (filament)
2. ไม่มีระยะตัวอ่อน (Embryo) ซึ่งต่างจากพืชและสัตว์ ที่มีระยะตัว
อ่อนก่อนที่จะ เจริญเติบโตเป็นตัวเต็มวัย
3. การดํารงชีพ มีท้ังชนิดที่เป็นผู้ผลิต (Autotroph) เพราะมีคลอ
โรฟิลล์ เป็นผู้บริโภค (Consumer) และเป็นผู้ย่อยสลายอินทรีย์
สาร (Decomposer)
4. โครงสร้างของเซลล์เป็นแบบยูคาริโอติก (Eukaryotic) ซ่ึงมี
เยื่อยุ้มนิวเคลียสได้แก่ โพรโท ซัว เห็ด รา ยีสต์ ราเมือก สาหร่าย
ต่างๆ
5. การเคลื่อนที่ บางชนิดเคลื่อนที่ได้โดยใช้ ซีเลีย (cilia) แฟลกเจ
ลลัม (flagellum) หรือซู โดโปเดียม (Pseudopodium) บางชนิด
เคลื่อนท่ีไมไ่ ด้
6. การสืบพันธุ์ ท้ังแบบไม่อาศัยเพศ (Asexual reproduction)
และแบบอาศยเพศ (Sexual reproduction)
โพรทิสต์ (Protista)
แบ่งเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ได้แก่
กลุ่ม I โปรติสต์คล้ายสัตว์ (Animal-like protists) ได้แก่ โปรโต
ซัว (protozoa)
กลุ่ม II โปรติสต์คล้ายเชื้อรา (Fungus- like protists) ได้แก่ รา
เมือก (slime mold)
กลุ่ม III โปรติสต์คล้ายพืช (Plant-like protists) ได้แก่สาหร่าย
(algae)
กลุ่ม I โปรติสต์คล้ายสัตว์ (Animal-like protists)
- พบได้ทั่วไปในแหล่งน้ําจืด
- ดํารงชีวิติเป็นอิสระ
- มีซิเลียรอบเซลล์
- ลักษณะเด่น มีนิวเคลียส 2 ขนาด คือ micronucleus ขนาด
เล็ก และmacronucleus ขนาดใหญ่
• มีออร์แกเนลล์ค่อนข้างสมบูรณ์
• เยื่อหุ้มเซลล์ใส ยืดหยุ่นได้ดี เป็นโปรตีนเรียก pellicle
• ใช้ซิเลียโบกพัดหาอาหารระหว่างที่ว่ายนํ้าไป ด้วย
• อาหาร คือ สาหร่ายและแบคทีเรีย จะถูก เก็บและย่อยในถุง เรียก
food vacuole
• Contractile vacuole ป๊ั มน้ําส่วนเกินออก ทิ้งนอกเซลล์
อะมีบา (ameba)
- สามารถเคลื่อนไหวได้โดยใช้เท้า เทียม (pseudopods)
- ใช้ขาเทียมในการหาอาหารด้วย โดยใช้ขาเทียมโอบล้อมอาหารเข้า
สู่เซลล์ เพื่อ
สร้าง food vacuole ย่อยด้วยเอนไซม์ แล้วจึง
ดูดซึม
- พบได้ในน้ําจืด ดิน โคลนเลน โดย ปกติอยู่ในพืชผักที่เน่าเปื่ อย
จมอยู่ในลําน้ํา แต่
ไม่ได้พบมากเป็นพิ เศษในธรรมชาติ
- อะมีบาที่ก่อให้เกิดโรคในคนได้ เช่น โรค เยื่อหุ้มสมองอักเสบ
อะมีบา
เซลล์ปกติเคลื่อนที่ได้ คล้าย
อะมีบา เรียก plasmodium
ภาวะขาดแคลน plasmodium
จะพัฒนาเป็น fruiting body
ที่สร้างอับสปอร์
เมื่ออับสปอร์แตก สปอร์งอก
ส่วนที่คล้ายวุ้นหรือเมือก เรียก
swarm cell ซึ่งเป็นแกมมีตที่
มี flagella เมื่อผสมกัน จะ
กลายเป็น zygote ซึ่งจะ
พัฒนาไปเป็น plasmodium
อีก ครั้ง
กลุ่ม II โปรติสต์คล้ายเชื้อรา (Fungus-like protists)
แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มย่อย คือ รานํ้า (water mold) และราเมือก
(slime mold)
- ราน้ํา (water mold) - พบบนซากสัตว์น้ํา หรือแมลง ราเมือก
(slime mold) - มีขนาดเล็ก มักพบในที่ชื้นแฉะ
ใบไม้เน่า ขอนไม้ผุ
ลักษณะสําคัญ
ปล่อยเอ็นไซม์ออกไปย่อยสลายซากพืช แล้วดูดซึม สารอินทรีย์เข้า
สู่เซลล์
กินอาหาร ด้วยวิธี มีเส้นใยคล้ายรา และมี โครงสร้าง fruiting
body และมักมีสีสันสดใส
• บางช่วงของชีวิตเคลื่อนที่ได้ เรียกระยะ plasmodium
• กินแคทีเรีย สาหร่าย โดยวิธีphagocytosis
ราน้ำ
Mycetozoa (ราเมือก)
พบในบริเวณที่ชื้นแฉะและตามขอนไม้หรือใบไม้เน่าเปื่ อย
มี 2กลุ่มคือ
ราเมือก ชนิด พลาสโมเดียม ( molds) ซึ่งเปีนเซลล์ที่มี
หลายนิวเคลียส
ราเมือก ชนิด เซลล์ลูลาร์ (cellular slime molds) เป็น
เซลล์ที่มี 1 นิวเคลียสและอยู่ได้อิสระ
ราเมือก
กลุ่ม III โปรติสต์คล้ายพืช (Plant-like protists)
กลุ่มสาหร่าย (algae)
สาหร่าย (algae)เป็นโพรทิสต์ที่สร้างอาหารเองได้ โดยการ
สังเคราะห์แสง
มีลักษณะสําคัญโดยรวม คือ
1. มีคลอโรฟิลล์aและc
2. มีแคโรทีนอยด์และแซนโทฟิลล์มากจึงเห็นเป็นสี
น้ําตาลหรือเหลืองแกมเขียว
3. ผนังเซลล์ประกอบด้วยเซลลูโลสและเพคติน
4. อาหารสะสมเป็นน้ํามันพบท้ังนํ้าจืดและน้ําเค็ม
5. บางชนิดเคล่ือนที่ได้โดยแฟลกเจลลา1เส้นหรือ
มากกว่า บางชนิดเคลื่อนที่ไม่ได้ เช่น สาหร่าย
กลุ่มไดอะตอม (diatom) เป็นต้น
6. พบได้ทั้งเซลล์เดียวโคโลนีและเป็นเส้นสายตาม
แหล่งน้ําจืดและนํ้าเค็ม
สาหร่ายสีเขียว ( Green algae )
มีคลอโรฟิลล์ a และ b และมีความไกล้ชิดกับพืชมากที่สุด ส่วน
ใหญ่พบได้ในแหล่งน้ําจืดหรือบนบก มีเป็นส่วนน้อยที่พบในน้ําทะเล
บางชนิดสามารถเคลื่อนที่ได้ เช่น Chlamydomonas และ
Volvox ส่วนใหญ่ เป็นสาหร่ายทะเล เก็บสะสมอาหารในรูปของ
แป้ง บางชนิด สามารถนํามาประกอบอาหารบริโภคไดเ้ ช่น
Spirogyra sp. หรือ เทานํ้า เป็นสารอาหาร เช่น โปรตีน
คาร์โบไฮเดรต ไขมัน และวิตามินสูง
สาหร่ายสีแดง ( Rad algae )
มีสารสีไฟโคอีรีทริน (phycoerythrin) แคโรทีนและคลอโรฟิลล์ a
และ d สะสมอาหาร ในรูป floridian และแป้ง พบในเขตร้อน
มากกว่าในเขตอบอุ่น เช่น
- จีฉ่ายหรือพอไฟรา Porphyra sp. หรือโนริ (นํามาทําเป็นอาหาร
แกงจืด ข้าวปั้ น ทอดกรอบ)
- สาหร่ายผมนางหรือกราซิลลาเรีย Gracilaria sp.
(ใช้ผลิตวุ้น)
ไดอะตอม (Diatoms )
เป็นสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวที่มีสารสีชนิดเดียวกับสาหร่ายสีนํ้าตาล ทํา
ให้มีสีเหลือง หรือนํ้า ตาลแกมเหลือง ผนังเซลล์ประกอบด้วยซิลิกา
มีลักษณะเป็นฝาประกบกันสองฝา เมื่อไดอะตอมตายลง และ
ทับถมกันจะเกิดเป็น Diatomaceous earth นํามาใช้ใน
อุตสาหกรรม เช่น การกรอง น้ํายาขัดโลหะ ยาสีฟัน สารเคลือบ
วัสดุต่าง ๆ
สาหร่ายสีนําตาล (Brown algae )
มีคลอโรฟิลล์ a, c และสารสีนํ้าตาลเรียกว่า ฟิวโคแซนทิน
เป็นสาหร่ายที่มีฃนาดใหญ่ และ โครงสร้างซับซ้อน มีคุณค่าทาง
เศรษฐกิจ เช่น สาหร่ายเคล (Kelp/ Laminaria sp.) สาหร่ายทุ่น
หรือ Sagassum sp.
- สาหร่ายทุ่น Sagassum sp. เป็นสาหร่ายที่มีธาตุไอโอดีนสูง
ลามินาเรีย Laminaria sp. หรือคอมบุ นิยมนํามาทําซุป
พาใดนา Padina sp. ฟิวกัส Fucus sp. นํามาใช้ผลิต
โพแทสเซียม
ยูกลีนา (euglena)
- เป็นส่ิงมีชีวิตซลล์เดียวขยายพันธุ์ได้โดยวิธีแบ่งเซลล์เซลล์
เดียวขยายพั นธุ์ได้โดยวิธีแบ่งเซลล์
- มีเยื่อหุ้มหนาเรียก เพลลิเคิล (Pellicle)
- มีช่องเปิดขนาดเล็ก เรียก ไซโตสโตม (Cytostome)
- มีแฟลเจลลัม โดยมี 2 เส้น
- มีคอนแทร็กไทล์แวคิวโอ่ ทําหน้าที่รวบรวมนํ้า และกําจัดน้ํา
โดยการหดตัว
- มีจุดตาสีแดง (Eye spot or Stigm)
อ้างอิง
1.wikipedia.โพรทิสต์,สืบค้นเมื่อ 4 มกราคม
2566.จาก.https://th.wikipedia.org/wiki/โพรทิสต์
2. ngthai.(2565).อาณาจักรของสิ่งมีชีวิต:อาณาจักรโพรทิส
ตาhttps,สืบค้นเมื่อ 4 มกราคม
2566.จาก.https://ngthai.com/science/45804/protist
a/