The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Sureerat Homsuwan, 2022-06-22 21:47:11

เมนูยาพอกหัวเด็กและเมนูผักโขมปั้นก้อนอบ

หลักสูตรอาหารสูตรพระราชทาน

44

ตัวอย่ำง กำรคิดต้นทนุ กำไร กำรผลติ และคำ่ ใช้จำ่ ยในกำรทำเมนูผกั โขมปน้ั กอ้ นอบ

วนั เดอื น ปี รำยกำร จำนวนส่งิ ของ จำนวนเงนิ หมำยเหตุ
(บำท)
1,000 กรัม
ค่ำใชจ้ ำ่ ย (ต้นทนุ ) 1,000 กรัม การกาหนดราคา
100 กรัม
ผักโขม 75.- ขาย คิดจากต้นทนุ
เนือ้ ไก่ 1 ขวด 78.- + กาไรที่ตอ้ งการ
เนยสด 1 ถุง
พริกไทยป่น 1 ถงุ 95.-
เกลือปน่ 2,000 กรัม
เกล็ดขนมปัง 30.-
มนั ฝรั่ง -
1 มกราคม คา่ เบ็ดเตลด็ (ค่าไฟฟ้า 1 คน 5.-
2565 ค่านา้ ค่าแก๊ส และอื่น ๆ)
ค่าแรง 30% ตอ่ ช้ิน 100 ชนิ้ ๆ ละ 53.-
รวมคำ่ ใชจ้ ่ำย 15.- บาท
รำยได้ 114.-

200.-

200.-
850.-

ขายผกั โขมปั้นกอ้ นอบ 1,500.- กำไร 425.- บำท

การกาหนดราคาขายตอ่ หนว่ ย ดงั น้ี
1. กาหนดกาไรท่ตี ้องการได้จากตน้ ทุน X (กาไรที่ตอ้ งการหารด้วย 100)
ตัวอยำ่ งเชน่
ขายผกั โขมปนั้ กอ้ นอบจากต้นทนุ 850.- บาท ตอ้ งการกาไรรอ้ ยละ 50

ดงั นัน้ กาไรทต่ี ้องการ = 850.- X 50 หาร 100 = 425.- บาท
2. การกาหนดราคาขายตอ่ หนว่ ย ได้มาจากตน้ ทนุ + กาไร หารดว้ ยจานวนหนว่ ย
ตวั อย่ำง

ทาผักโขมป้ันก้อนอบได้ 100 ช้นิ จากต้นทุน 850.- บาท และกาไรทตี่ ้องการ 425.- บาท
ฉะน้ัน ราคาขายตอ่ ช้ิน = 850.- บาท + 425.- บาท หารด้วย 100 ช้ิน = 12.75.- บาท

หมำยเหตุ
การกาหนดกาไรท่ีต้องการขึ้นอยู่กับสิ่งเหล่าน้ีด้วย เช่น ราคาตลาด ลักษณะของสินค้าและบริการ

เป็นสินค้าหายาก เป็นสินค้าเฉพาะกลุ่ม หรือมีฤดูกาลเข้ามาเก่ียวข้องสามารถกาหนดกาไรที่ต้องการให้สูงขึ้น
ได้ การตงั้ ราคาให้สามารถแข่งขนั ได้นัน้ ต้องอยู่บนพ้นื ฐานความสมดุลระหวา่ งความพงึ พอใจของผซู้ ื้อและผู้ขาย
ถ้าสนิ ค้าโดยทั่วไปมขี ายกนั แพร่หลาย มคี ่แู ข่งมากตอ้ งกาหนดกาไรให้น้อยลง

45

ใบงำน
กำรคดิ ต้นทนุ กำไร

ผเู้ รียน/กลุ่ม..................................................................................................................................................

เรื่อง..............................................................................................................................................................

วัน เดอื น ปี รำยกำร จำนวนสิ่งของ จำนวนเงนิ หมำยเหตุ

(บำท)

คา่ ใช้จ่าย (ต้นทุน) 1. ใหก้ าหนดกาไรที่

.................................................. ต้องการ คดิ เป็น

.................................................. ร้อยละก่อน

.................................................. 2. แล้วคานวณหาราคา

.................................................. ตอ่ หน่วยจึงจะทราบ

.................................................. รายได้

.................................................. 3. นารายไดท้ ี่ได้

.................................................. มาใสล่ งในตาราง

..................................................

..................................................

..................................................

..................................................

รวมค่ำใช้จ่ำย

รายไดจ้ ากการขาย
..................................................
..................................................
..................................................
..................................................
..................................................
..................................................
..................................................
..................................................

รวมรำยได้
1. กาไรที่ตอ้ งการ = ต้นทุน x ( รอ้ ยละของกาไรทีต่ ้องการหารดว้ ย 100 )

2. กาหนดราคาขายต่อหน่วย = ตน้ ทุน + กาไร = ____________
จานวนหน่วย

46

ใบควำมรู้
ชอ่ งทำงกำรตลำด

ช่องทางการตลาด เป็นส่วนสาคญั ในการดาเนินธุรกิจ ช่องทางการตลาดหรือช่องทางการจัดจาหน่าย
มีความหมายเดียวกันซึ่งเป็นหนึ่งใน 4P ของส่วนประสมการตลาด (Marketing mix) ท่ีนักการตลาดนิยมนาส่วน
ประสมท้ังส่ีมาวางเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดและการขายในยุคปัจจุบัน ดังน้ัน ช่องทางการจัดจาหน่าย
(Marketing channel) จึงถูกเข้ารวมอยู่ใน P=Place คือสถานท่ีขาย แหล่งขาย ช่องทางการขายสินค้า ซ่ึงสินค้า
แต่ละชนิดอาจมีช่องทางขายท่ีแตกต่างกันไป สินค้าอุปโภคมีช่องทางการขายผ่านร้านสะดวกซื้อ อาหารสด
มีช่องทางการขายหน้าร้านหรือหน้าบ้านของผู้ผลิต อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เส้ือผ้าสาเร็จรูปอาจใช้ช่องทางการ
ขายได้หลายชอ่ งทาง เชน่ ขายทางออนไลน์ ขายหน้าร้านตนเอง ขายในตลาดนัด ขายในห้างสรรพสินคา้ เป็นต้น

1. กำรเลือกสถำนทีข่ ำยหรอื ทำเลทต่ี ้งั
1.1 ควำมสำคัญของกำรเลอื กทีต่ ัง้
การตัดสินใจเลือกสถานท่ีขายหรือทาเลท่ีต้ัง เป็นการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์เน่ืองจากมีผลกระทบต่อ
ธุรกิจในระยะยาว โดยเฉพาะต่อความได้เปรียบในเชิงแข่งขันทางธุรกิจและจะมีผลต่อความสาเร็จของธุรกิจ
ซึง่ ผูป้ ระกอบการตอ้ งพิจารณาถึงกลยทุ ธ์ทีต่ ั้งของธุรกิจท่มี ีความสาคญั ต่อการดาเนนิ งาน 2 กลยุทธ์สาคญั ไดแ้ ก่

1.1.1 กลยุทธ์ท่ีต้ังตำมพ้ืนที่ เป็นแนวทางในการกาหนดให้ที่ตั้งแต่ละแห่งรับผิดชอบพื้นท่ี
แต่ละส่วน โดยต้องผลิตสินค้าและบริการทุกอย่างสาหรับพ้ืนที่น้ัน ๆ ซ่ึงธุรกิจท่ีเลือกใช้กลยุทธ์ที่ตั้งตามพ้ืนที่
มักเปน็ ธุรกจิ คา้ ปลีกหรือบริการ

1.1.2 กลยุทธ์ที่ต้ังตำมผลิตภัณฑ์ เป็นแนวทางในการกาหนดให้ท่ีต้ังหน่ึงแห่งทาการผลิต
สนิ คา้ เพยี งหนงึ่ อย่าง โดยยดึ หลักของความสาคญั ของวตั ถุดิบทม่ี ใี นพ้ืนที่

1.2 หลกั เกณฑใ์ นกำรเลือกสถำนทท่ี ำเลทตี่ ้งั
การตัดสินใจเลือกสถานท่ีทาเลท่ีตั้ง เป็นกระบวนการที่มีความสลับซับซ้อนมากขึ้นเมื่อโลกก้าวเข้าสู่
ยุคโลกาภิวัตน์ อีกทั้งธุรกิจขนาดย่อมจานวนมากได้มีการเติบโตข้ึน และได้พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ดังน้ัน
ผู้ประกอบการควรพิจารณาถึงความจาเป็นที่มีลักษณะเฉพาะเจาะจงสาหรับกิจการควบคู่กันไปในแต่ละ
สถานการณ์ ดงั นี้

1.2.1 ควำมพงึ พอใจสว่ นบคุ คล โดยท่ีผ้ปู ระกอบการส่วนหน่ึงมักจะพิจารณาตั้งกิจการของ
ตนเองในชุมชนที่ตนอาศัยอยู่เป็นทาเลในการประกอบการ อย่างไรก็ตามในแง่ของการดาเนินธุรกิจไม่ได้
หมายความวา่ จะมีเพยี งพืน้ ท่ี ซึง่ ตนเองมีความเคยชินเทา่ น้นั ที่เหมาะสมต่อการต้ังกิจการเพราะผู้ประกอบการ
ธุรกิจสามารถใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ จากส่ิงเหล่านี้ได้ไม่ว่าจะเป็นในด้านภาพลักษณ์ส่วนตัว การได้รับ
ความเช่ือถือหรือการยอมรับจากสังคมและอาศัยประโยชน์จากความคุ้นเคย ความสามารถในการอ้างอิงกับ
บุคคลตา่ ง ๆ ภายในชมุ ชนที่เก่ียวขอ้ งกับกจิ การของผปู้ ระกอบการมากขึ้น

1.2.2 ควำมได้เปรยี บด้ำนต้นทุน โดยเฉพาะค่าแรงหรือค่าวัตถุดิบในพื้นท่ี ที่มีต้นทุนในการ
ดาเนินธุรกิจต่าซึ่งส่ิงเหล่าน้ีสะท้อนถึงค่าใช้จ่ายในการลงทุนในช่วงเริ่มต้นของกิจการท่ีจะช่วยลดต้นทุน
การผลิตใหต้ ่าลง

47

1.2.3 ควำมสำมำรถในกำรจัดกำรทรัพยำกร เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงค่าใช้จ่ายในการ
ดาเนินงานทั้งในระยะส้ันและระยะยาว เน่ืองจากทักษะประสบการณข์ องแรงงานจะมคี วามสมั พนั ธโ์ ดยตรงกับ
ผลติ ผลและคณุ ภาพในกระบวนการผลิตของผลิตภัณฑ์ความย่ังยืนของแรงงานในท้องถ่ินมีผลกระทบต่ออัตรา
ค่าจ้าง ซึ่งถือเป็นต้นทุนที่สาคัญผู้ประกอบการจะต้องคานึงถึงอยู่เสมออีกท้ังแหล่งท่ีตั้งต้องมีความใกล้กันกับ
วตั ถุดิบและความสามารถในการขนส่งท่ธี ุรกิจตอ้ งมีการบริหารจัดการอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ

1.2.4 กำรเขำ้ ถงึ ลูกค้ำ ธุรกิจขนาดยอ่ มยุคปัจจุบันต้องให้ความสาคัญผันแปรแหล่งท่ีต้ังของ
ธุรกิจไปตามประเภทของกจิ การ เช่น ธรุ กจิ คา้ ปลีกและบรกิ ารตอ้ งมรี ายละเอียดของสถานทแ่ี สดงสินค้าบรกิ าร
และรปู แบบ ดงั นน้ั การเลือกสถานท่ีหรือทาเลที่ต้ังต้องใกล้ชิดกับลูกค้าและอานวยความสะดวกต่อการเข้ามา
ตดิ ต่อและถอื เป็นปจั จยั ทมี่ ผี ลตอ่ ความสาเรจ็ ของกิจการ

ดงั น้นั เกณฑก์ ารเลอื กสถานท่ีหรือทาเลท่ีตั้ง ผู้ประกอบการต้องตัดสินใจก่อนว่าจะเลือกดาเนินธุรกิจ
ในชุมชน หมายถึง จังหวัดหรืออาเภอก่อนจึงทาการตัดสินใจขั้นสุดท้ายคือการเลือกบริเวณที่ต้ังจากหลาย ๆ
พืน้ ทภ่ี ายในชุมชน ซ่งึ เป็นการระบุถึงตาแหน่งของทตี่ ้ังอยา่ งละเอียด

2. กำรจัดและตกแต่งหนำ้ รำ้ น
ส่วนใหญ่ร้านขายสินค้ามักจะมีผู้ขายซ่ึงเป็นเจ้าของกิจการเอง หรือบางร้านอาจมีการจ้างพนักงาน
ขายของ โดยเฉพาะเพือ่ ทาหน้าที่เอาใจใส่ดแู ล และแนะนาใหค้ าอธิบายตา่ ง ๆ แกล่ ูกคา้ หากเป็นร้านขนาดใหญ่
มสี นิ คา้ หลายชนิดยอ่ มทาใหต้ อ้ งมีพนกั งานขายจานวนมาก การจัดตกแต่งร้านค้ามีความสาคัญต้องคานึงถึงสิ่ง
ตอ่ ไปนี้
2.1 แสงสวำ่ งภำยในรำ้ น ควรจัดรา้ นใหม้ ีความสว่างท่ัวท้ังร้านจากแสงไฟฟ้าท่ีร้านได้ติดเอาไว้แสงสว่าง
ธรรมชาติมักไม่เพียงพอ และแสงแดดมักทาความเสียหายให้แก่สินค้า การใช้แสงไฟฟ้าแม้จะมีค่าใช้จ่ายสูง
สามารถจูงใจลูกค้าให้เข้ามาซื้อสินค้าได้มากกว่าร้านที่ดูมืดสลัว มุมห้องมืด ๆ ก่อนตัดสินใจเร่ืองแสงสว่าง
ควรคานวณคา่ ไฟฟา้ และใชไ้ ฟฟ้าก่ีดวงถงึ จะคุ้มค่ากับการขายสนิ ค้า
2.2 กำรตกแตง่ สีภำยนอกและภำยในรำ้ น นอกจากการทาสีร้านคา้ ใหส้ ดใสสวา่ ง สวยงามแล้ว สีของ
หบี หอ่ และตัวสนิ ค้าก็สามารถนามาตกแต่งให้ร้านค้าดดู ีขึ้น และใหผ้ ้คู นเหน็ สนิ ค้าชดั เจนและสวยงาม
2.3 กำรจัดหมวดหมู่ของขนม ขนมท่ีมีลักษณะใกล้เคียงกันหรือขนมท่ีใช้รับประทานร่วมกันนามา
จัดวางไว้ดว้ ยกนั เช่น ขนมหม้อแกงวางใกลก้ ับขนมตะโก้ ข้าวเหนยี ววางใกล้กับสังขยา เป็นต้น
2.4 กำรติดปำ้ ยรำคำสนิ คำ้ การตดิ ป้ายบอกราคาสินค้าให้ชัดเจนที่ลูกค้าสามารถมองเห็นได้หรืออ่านได้
เปน็ การให้ความสะดวกกับลกู ค้าในการตัดสนิ ใจซื้อสินคา้
2.5 กำรจัดวำงสนิ ค้ำ มคี วามสาคญั ต่อการจูงใจลูกคา้ ใหเ้ ลือกซ้อื สินคา้ เพ่ือใหส้ ะดวกและเกดิ ความพึงพอใจ
ควรคานึงถงึ ส่ิงตอ่ ไปนี้

2.5.1 ความพึงพอใจของลูกคา้
2.5.2 จัดสนิ คา้ ไว้ในบรเิ วณทีจ่ ะขาย
2.5.3 จัดสนิ ค้าไว้ในระดับสายตาใหม้ ากทีส่ ุด
2.5.4 จัดสนิ ค้าดา้ นหนา้ บนชน้ั ใหเ้ ต็มอยเู่ สมอ
2.5.5 ชัน้ วางสินคา้ จะตอ้ งปรบั ระดับไดต้ ามขนาดของสินค้า
2.5.6 การใช้กล่องหนนุ สนิ ค้าใหด้ ูมมี ติ ิ สวยงามแมจ้ ะมสี นิ คา้ ไม่มากนัก
2.5.7 ความเป็นระเบียบเรียบรอ้ ย
2.5.8 สินค้ามาก่อนต้องจาหน่ายก่อน ต้องจาหน่ายสินค้าเก่าก่อนสินค้าใหม่เสมอ พยายาม
วางสนิ คา้ มากอ่ นไว้แถวหน้าเสมอ ควรจดั สนิ คา้ ทม่ี าก่อนให้ดสู ดใสสะอาดเหมือนสินค้าใหม่

48

3. กำรขำย
การขาย คือ กระบวนการท้ังทางตรงและทางอ้อมของการจูงใจให้ผู้ซ้ือสินค้าหรือบริการยินยอม
กระทาสงิ่ ใดสิ่งหนึ่ง ซึ่งจะทาให้เกิดประโยชน์ทางด้านการค้าแก่ผู้ขาย เมื่อผู้ผลิตสินค้าไปสู่ผู้บริโภคมีสิ่งที่ควร
พจิ ารณา ดงั น้ี
3.1 กำรหำตลำด ควรคานงึ ถึงความตอ้ งการของตลาดว่ามีมากน้อยเพยี งใด โดยใช้วธิ ีสังเกต สอบถาม
กับคนรู้จัก เพ่ือนบ้าน และผู้ซ้ือ กระแสการบริโภคของลูกค้ามีความต้องการซ้ือเป็นของขวัญของฝากหรือ
รับประทานในครอบครัว ตลาดควรเป็นตลาดที่มีการซ้ือขายอย่างต่อเนื่อง เช่น ขายทางออนไลน์ ขายหน้าร้าน
ตนเอง ขายในตลาดนดั ขายในห้างสรรพสินคา้ เปน็ ต้น ทง้ั นี้เพื่อจะไดต้ รงตามความต้องการของตลาด
3.2 วิธกี ำรจำหนำ่ ย เม่ือผู้ผลติ ลงทนุ ผลิตสนิ คา้ ขึน้ มาเพื่อนาสินคา้ ออกสตู่ ลาด ถา้ ผู้ผลติ สามารถเลอื ก
ช่องทางการตลาด การจาหนา่ ยสนิ ค้าไดอ้ ย่างถูกตอ้ งสนิ คา้ ก็จะเขา้ ถงึ ลูกคา้ ได้ง่าย ซึ่งอาจเป็นการจาหน่ายจาก
ผู้ผลิตถึงลูกค้าโดยตรงด้วยการจัดหาสถานที่สาหรับจาหน่ายสินค้าท่ีเป็นหลักแหล่ง มีการจัดวางสินค้าที่
สามารถนาเสนอสินค้าให้ดูสวยงาม หรือเป็นผู้ผลิตให้พ่อค้าคนกลางมารับซื้อไปขายให้กับผู้บริโภคอีกต่อหนึ่ง
เพือ่ กระจายสินค้าไดอ้ ยา่ งท่ัวถึง
3.3 กำรโฆษณำประชำสัมพนั ธ์ ถอื เปน็ ส่ิงสาคญั ทจี่ ะทาให้ผู้ซื้อหรือลูกค้ารู้จักเกิดความต้องการที่จะ
ซ้ือเป็นวิธีการโน้มน้าวผู้ซื้อ ท่ีสาคัญการโฆษณาประชาสัมพันธ์มีหลายวิธี เช่น ใช้วิธีบอกปากต่อปาก การจัด
กจิ กรรมประชาสมั พันธ์สินค้าการออกรา้ นตามงานเทศกาลตา่ ง ๆ การประชาสัมพนั ธ์ผ่านอนิ เตอร์เน็ต โดยส่ิงท่ี
เป็นการช่วยประชาสัมพันธ์อย่างหนึ่งก็คือคุณภาพสินค้า เม่ือผู้ซ้ือหรือลูกค้าได้ซ้ือสินค้าไป เช่น มีรสชาติดี
มีคุณภาพ ราคาย่อมเยา จะเปน็ การช่วยประชาสัมพนั ธ์อกี ชอ่ งทางหนึง่
4. กำรสง่ เสริมกำรขำย
การส่งเสริมการขาย หมายถึง การจูงใจท่ีเสนอคุณค่าพิเศษ หรือการจูงใจผลิตภัณฑ์แก่ผู้บริโภค
คนกลาง (ผู้จัดจาหนา่ ย) หรอื หนว่ ยงานขาย โดยมีวัตถุประสงค์เพอื่ การสร้างยอดขายในทันที สามารถสรปุ ได้ว่า
4.1 การสง่ เสรมิ การขายเปน็ การใหส้ ง่ิ จูงใจพิเศษเพ่ือกระตุ้นให้เกิดการซ้ือ เช่น คูปอง ของแถม การชิงโชค
การแลกซอ้ื เป็นต้น
4.2 การส่งเสริมการขายเป็นเคร่ืองมือกระตนุ้ กจิ กรรมการสง่ เสริมการขาย มีวตั ถปุ ระสงค์เพื่อกระตุ้น
ใหเ้ กิดการซ้ือจานวนมากข้ึน และสามารถตดั สินใจซื้อไดใ้ นเวลาทนั ทที นั ใด
4.3 การสง่ เสริมการขายใช้ในการจูงใจกลมุ่ ตา่ ง ๆ 3 กลุ่ม คอื

4.3.1 การส่งเสริมการขายท่ีมุ่งสู่ผู้บริโภค เป็นการส่งเสริมการขายที่มุ่งสู่ผู้บริโภคคนสุดท้าย
เพ่อื จงู ใจใหเ้ กดิ การซ้อื จานวนมากขน้ึ ตดั สินใจซอื้ ได้รวดเรว็ ข้ึน เกดิ การทดลองใช้ ถอื วา่ เปน็ การใช้กลยทุ ธ์ดึง

4.3.2 การส่งเสริมการขายท่ีมุ่งสู่คนกลาง เป็นการส่งเสริมการขายท่ี มุ่งสู่พ่อค้าคนกลาง ผู้จัด
จาหนา่ ย หรือผูข้ าย ถือว่าเป็นการใช้กลยทุ ธผ์ ลกั

4.3.3 การส่งเสริมการขายที่มุ่งสู่พนักงานขาย เป็นการส่งเสริมการขายที่มุ่งสู่พนักงานขาย
หรือหน่วยงานขาย เพ่อื ให้ใช้ความพยายามในการขายมากขึ้น ถือว่าเป็นการใชก้ ลยทุ ธ์ผลกั

วัตถุประสงค์ของการสง่ เสริมการขาย
1. การดึงลกู คา้ ใหม่
2. การรักษาลูกคา้ เก่าไว้
3. การสง่ เสริมลกู คา้ ในปัจจบุ นั ใหซ้ ้อื สินค้าในปริมาณมาก
4. การเพ่ิมอตั ราการใชผ้ ลติ ภณั ฑ์
5. การส่งเสริมการขายทาใหผ้ บู้ รโิ ภคเกิดการยกระดับ
6. การเสริมแรงการโฆษณาในตราสนิ คา้

49

5. กำรเลอื กชอ่ งทำงกำรจดั จำหนำ่ ย
การเลอื กช่องทางการจดั จาหน่าย สามารถแบง่ ชอ่ งทางการจาหน่ายสนิ ค้า แบง่ ออกเปน็ 2 ประเภท คือ
5.1 ช่องทำงกำรจำหนำ่ ยทำงตรง คอื ผู้ผลิตขายสินค้าไปยังผู้ใช้หรือผบู้ รโิ ภคดว้ ยตนเอง
5.2 ชอ่ งทำงกำรจำหน่ำยทำงออ้ ม คอื ผผู้ ลติ ขายสินคา้ ผา่ นตัวกลาง ตวั แทนจาหน่ายร้านค้าส่ง และ
รา้ นค้าปลกี เพือ่ จาหน่ายไปยังผใู้ ชห้ รอื ผบู้ ริโภค
ช่องทางการจาหน่ายทั้งสองประเภทน้ี ยังแบ่งเป็นช่องทางขายได้อีกหลายช่องทาง ซ่ึงจะกล่าวถึง
ชอ่ งทางขายทสี่ าคญั ดงั ต่อไปน้ี

ชอ่ งทำงจำหน่ำยทำงตรง มีชอ่ งทางขายดงั น้ี
1. ขำยผ่ำนหน้ำร้ำนแบบไม่เคล่ือนท่ี เป็นการขายผ่านหน้าร้านสาขาท้ังเป็นร้านค้าของตนเองหรือ

เช่าหน้าร้านตามห้างสรรพสินค้า Modern trade เช่าพ้ืนท่ีขายในปั้มน้ามัน ขายออกบูทตามงานแสดงสินค้า
เชา่ พื้นทีใ่ นอาคารสานกั งาน เป็นต้น

2. ขำยผ่ำนหน้ำร้ำนท่ีเคล่ือนที่ไปมำ เช่น ขายผลไม้ในรถบรรทุกท่ีย้ายไปขายตามสถานท่ีต่าง ๆ
ได้ตามความต้องการเปิดท้ายขายของตามตลาดนัดต่าง ๆ หาบเร่แผงลอย เป็นการขายแบบอิสระ
เปลยี่ นเสน้ ทางขายบ้าง เปลี่ยนสินค้าขายบ้าง สินค้าที่ขายอาจเป็นสินค้าตามฤดูกาลหรือเป็นสินค้าท่ีผู้ขายไป
หาซอื้ ไดม้ าในชว่ งเวลานั้น ๆ

3. ขำยผ่ำนส่ืออิเล็กทรอนิกส์ สื่อออนไลน์ การขายลักษณะ E-commerce น้ีจะขายผ่านหน้า
โฮมเพจของของร้านค้าโดยมตี ะกรา้ ให้ซ้ือ และมีการโอนเงินก่อนซื้อซึ่งมีบริษัทหลายแห่งเพิ่มช่องทางการขาย
ทางอเิ ลก็ ทรอนิกส์จานวนมาก เช่น Shopee Lazada 7- 11 ขายโดยให้ลูกค้าเลือกซื้อใน Catalogue สาหรับ
การขายผ่าน Social media เป็นการขายที่นิยมกันในกลุ่มคนที่ยังทางานประจา และใช้เวลาว่างให้เป็น
ประโยชน์ และกลุ่มอาชีพอิสระที่ต้องการขายสินค้าเป็นอาชีพเสริม การขายประเภทน้ีจะขายผ่าน Facebook
Intragram Line เป็นตน้

4. ขำยผ่ำนส่ือกำรขำยที่เป็นอุปกรณ์ทันสมัย เช่น ขายผ่านโทรศัพท์มือถือ ผ่านเครื่องเอทีเอ็ม
ผ่านตู้หยอดเหรียญต่าง ๆ เช่น น้าอัดลม กาแฟ เกมส์ เคร่ืองกดน้าด่ืม เครื่องซักผ้า เป็นต้น การขายผ่าน
เครอ่ื งใช้เหล่านีท้ าใหป้ ระหยดั เร่ืองแรงงานคนทาให้ตน้ ทุนการขายตา่ ไปดว้ ย

5. ขำยผำ่ นพนักงำนขำย แมว้ า่ การขายผา่ นพนกั งานจะเป็นวิธีเก่าทีใ่ ช้กันมานานแต่ก็เป็นวิธีที่ดีท่ีสุด
สาหรับสินค้าท่ขี ายให้กบั อตุ สาหกรรมเพราะต้องการการสาธิต การอธิบายวธิ ีการใช้และรายละเอียดคุณสมบัติ
ของสินค้า สินค้าใหม่ท่ีต้องการการอธิบายและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายจาเป็นต้องใช้การขายผ่านพนักงาน
ขายเพ่อื ใหร้ ูจ้ ักสนิ คา้ และทราบถงึ คุณสมบัตขิ องสินคา้ กอ่ น นอกจากน้ันการขายผา่ นพนักงานขายทาให้กิจการ
ได้รับ Feedback จากลูกค้าว่าพอใจหรือไม่พอใจในสินค้าของกิจการซ่ึงทาให้เจ้าของกิจการนามาปรับปรุง
แก้ไขไดภ้ ายหลัง

50

ชอ่ งทำงกำรจำหนำ่ ยทำงออ้ ม มีช่องทางการขายดังนี้
1. ขำยผ่ำนตัวแทนจำหน่ำย สินค้าจาเป็นต้องมีการแต่งตั้งตัวแทนขายเพ่ือกระจายสินค้าได้ท่ัว

ประเทศ เช่น รถยนต์ เครื่องจักรต่าง ๆ ยางรถยนต์ อะไหล่รถยนต์ สินค้าบางประเภทจาเป็นต้องมีตัวแทน
จาหน่ายหากผู้ผลิตไม่เชี่ยวชาญในการตลาดแต่มีความเช่ียวชาญในการผลิตมากกว่า การขายผ่านตัวแทนยัง
เหมาะกบั การขายสินค้าทีเ่ ป็นบรกิ ารเช่นขายกรมธรรม์ประกนั ภยั รถยนตแ์ ละประกนั ชีวิตเป็นต้น

2. ขำยผ่ำนคนกลำงทั้งผู้ค้ำส่งหรือผู้ค้ำปลีก สาหรับผู้ผลิตสินค้าอุปโภคและบริโภคมักจะใช้วิธีการ
ขายผา่ นผูค้ ้าส่งตามอาเภอและจงั หวัดต่าง ๆ เพือ่ กระจายสินค้า สาหรบั ผผู้ ลติ รายเล็กกอ็ าจขายผ่านผคู้ า้ ปลีกที่
ขายตรงให้กับกล่มุ ลูกคา้ เป้าหมายได้

3. ขำยผ่ำนระบบแฟรนไชส์ ผู้ผลิตท่ีมีการขายแฟรนไชส์ให้กับบุคคลภายนอกสามารถใช้วิธีการขาย
ผลติ ภณั ฑผ์ า่ นเครือข่ายหรือแฟรนไชส์ของตนเองได้ เช่น ราชาบะหมีช่ ายสี่บะหมเ่ี กีย้ ว ข้าวมนั ไกม่ ิดไนท์ เปน็ ตน้

สาหรับผู้ประกอบการท่ีดาเนินธุรกิจส่งออกสินค้าไปต่างประเทศก็มีช่องทางการขายสองทางเช่นกัน
คือ เป็นผู้ส่งออกเองโดยขายตรงให้กับลูกค้า และอีกทางหน่ึงคือขายสินค้าผ่าน Trader ที่เป็นตัวกลางขาย
สินค้าใหก้ บั ต่างประเทศ ปจั จุบันธรุ กิจขนาดใหญ่มักใช้ช่องทางการขายทั้งทางตรงและทางอ้อมร่วมไปด้วยกัน
โดยขายผ่านหนา้ ร้าน ผ่านสื่อออนไลน์ ผา่ นสาขา ผ่านตวั แทนจาหนา่ ยและใชก้ ลยุทธ์ต่าง ๆ ในการส่งเสรมิ การ
ขายและประชาสมั พันธอ์ ย่างกว้างขวางเพื่อทาให้ธุรกิจเติบโตข้ึนอยา่ งรวดเร็ว

51

แบบทดสอบก่อนเรียน
หลักสตู รเมนยู ำพอกหวั เด็ก และเมนูผักโขมป้ันกอ้ นอบ

ชือ่ -สกุล................................................................................................................................

โปรดทาเคร่ืองหมาย  หนา้ ข้อทถี่ กู และทาเคร่อื งหมาย X หน้าขอ้ ท่ผี ิด

.............. 1. หลักสตู รอาหารสตู รพระราชทาน เป็นการรวบรวมเมนอู าหารสตู รพระราชทาน
จากหนงั สือครวั สระปทมุ อรอ่ ยชัยพัฒน์ อร่อยอทุ ยาน

.............. 2. เมนูยาพอกหวั เด็ก เป็นเมนทู ีท่ าผกั โขมและขนมปัง เปน็ อบุ ายใหเ้ ดก็ รบั ประทานผัก

.............. 3. ก่อนนาผักโขมไปป่ัน ควรบีบน้าออกให้หมด เพอื่ จะช่วยให้ป่ันเป็นเนอ้ื ละเอียดได้งา่ ยข้นึ

.............. 4. เมนยู าพอกหวั เดก็ เปน็ เมนทู ีป่ ระกอบด้วยโปรตนี คารโ์ บไฮเดรต เกลือแร่ และใยอาหารครบถ้วน

.............. 5. เม่อื ห่นั ขนมปงั เปน็ ชน้ิ ตามยาว แล้วควรนาไปเข้าเตาอบใชไ้ ฟบนอณุ หภูมิ 180 องศา
เซลเซียส อบให้ขนมปังกรอบ ใชเ้ วลาอบประมาณ 25 – 30 นาที

.............. 6. เมนผู กั โขมปนั้ กอ้ นอบ เปน็ เมนูสขุ ภาพท่ีมีสว่ นผสมของผกั โขม มนั ต้มบด เนือ้ ไก่บด
ขนมปงั นม เนย เกลอื และพริกไทย

.............. 7. ควรใช้เนยในการทาเนยท่ีก้นหม้อ ในการผดั ส่วนผสมทัง้ หมด

.............. 8. การอบผกั โขมปน้ั ก้อน ควรนาเข้าเตาอบโดยใชไ้ ฟบนลา่ งอณุ หภมู ิ 140 องศาเซลเซียส
ใชเ้ วลาอบประมาณ 40 นาที

.............. 9. การเลือกใช้เนยในเมนผู ักโขมปนั้ กอ้ น สามารถเลือกใช้ไดท้ ้ังเนยเค็ม หรือเนยสด
เพราะในเนยสดไม่มไี ขมนั ทรานซ์ หากเลอื กเนยเคม็ ไม่ตอ้ งเตมิ เกลือเพ่มิ

.............. 10. เมนผู ักโขมปนั้ กอ้ น หากเลือกใชเ้ นยเคม็ ควรเตมิ เกลอื เพิม่ อีก ประมาณ ½ ช้อนชา
เพือ่ เพ่ิมความกลมกล่อม

    

เฉลย
ขอ้ 1.  ขอ้ 2.  ข้อ3. X ข้อ4.  ขอ้ 5. X ข้อ6.  ขอ้ 7.  ข้อ8. X ข้อ9.  ข้อ10. X

52

แบบทดสอบหลงั เรยี น
หลักสตู รเมนยู ำพอกหวั เดก็ และเมนูผักโขมปั้นกอ้ นอบ

ชอื่ -สกลุ ................................................................................................................................

โปรดทาเครือ่ งหมาย  หน้าขอ้ ท่ถี ูก และทาเคร่ืองหมาย X หน้าข้อทผ่ี ิด

.............. 1. หลกั สูตรอาหารสตู รพระราชทาน เป็นการรวบรวมเมนอู าหารสตู รพระราชทาน
จากหนังสอื ครวั สระปทมุ อรอ่ ยชัยพัฒน์ อรอ่ ยอุทยาน

.............. 2. เมนูยาพอกหวั เดก็ เป็นเมนูที่ทาผักโขมและขนมปงั เป็นอบุ ายใหเ้ ด็กรับประทานผกั

.............. 3. ก่อนนาผกั โขมไปปน่ั ควรบีบน้าออกใหห้ มด เพื่อจะช่วยให้ปน่ั เป็นเน้อื ละเอียดไดง้ ่ายข้ึน

.............. 4. เมนยู าพอกหวั เด็ก เปน็ เมนทู ป่ี ระกอบดว้ ยโปรตนี คาร์โบไฮเดรต เกลอื แร่ และใยอาหารครบถ้วน

.............. 5. เมอื่ หน่ั ขนมปงั เป็นชน้ิ ตามยาว แล้วควรนาไปเข้าเตาอบใช้ไฟบนอณุ หภมู ิ 180 องศาเซลเซยี ส
อบให้ขนมปังกรอบ ใชเ้ วลาอบประมาณ 25 – 30 นาที

.............. 6. เมนผู กั โขมป้ันกอ้ นอบ เป็นเมนูสุขภาพทีม่ ีส่วนผสมของผักโขม มันต้มบด เนื้อไก่บด
ขนมปงั นม เนย เกลือ และพรกิ ไทย

.............. 7. ควรใชเ้ นยในการทาเนยทก่ี น้ หมอ้ ในการผัดสว่ นผสมทงั้ หมด

.............. 8. การอบผักโขมป้นั ก้อน ควรนาเขา้ เตาอบโดยใชไ้ ฟบนล่างอุณหภมู ิ 140 องศาเซลเซยี ส ใชเ้ วลา
อบประมาณ 40 นาที

.............. 9. การเลอื กใชเ้ นยในเมนผู ักโขมป้ันกอ้ น สามารถเลอื กใช้ได้ท้งั เนยเคม็ หรอื เนยสด
เพราะในเนยสดไม่มไี ขมนั ทรานซ์ หากเลือกเนยเค็มไม่ต้องเตมิ เกลอื เพ่มิ

.............. 10. เมนผู กั โขมปัน้ กอ้ น หากเลือกใชเ้ นยเค็มควรเตมิ เกลอื เพ่มิ อกี ประมาณ ½ ช้อนชา
เพ่ือเพ่มิ ความกลมกล่อม

    

เฉลย
ข้อ1.  ขอ้ 2.  ขอ้ 3. X ข้อ4.  ข้อ5. X ขอ้ 6.  ขอ้ 7.  ขอ้ 8. X ข้อ9.  ขอ้ 10. X

53

แบบประเมินผลกำรจดั กำรศึกษำและฝกึ อบรมหลกั สูตรระยะสัน้

หลกั สูตรวชิ า.................................................................................... จานวน..........................................ชวั่ โมง
ระหวา่ งวันท่.ี .........เดอื น......................พ.ศ..................ถงึ วนั ท.่ี .........เดอื น......................พ.ศ..........................
สถานท่ีจัด ณ....................................................................................................................................................
เกณฑก์ ำรใหค้ ะแนนประเมนิ ผลกำรจดั กำรศึกษำและฝกึ อบรมหลกั สตู รระยะสัน้ ศูนยว์ งเดอื น อำคมสรุ ทณั ฑ์

1. ควำมรคู้ วำมเข้ำใจในเน้อื หำสำระ 20 คะแนน
1.1 แบบทดสอบ (20 คะแนน)

2. ทักษะกำรปฏบิ ตั ิ 40 คะแนน
2.1 การเตรยี มวัสดอุ ปุ กรณ์ (10 คะแนน)
2.1.1 การจดั เตรียมวัสดุ (5 คะแนน)
2.1.2 การจัดเตรยี มอปุ กรณ์ (5 คะแนน)
2.2 ปฏิบัตติ ามข้นั ตอน (20 คะแนน)
2.2.1 ปฏบิ ตั ติ ามขน้ั ตอน (5 คะแนน)
2.2.2 ปฏบิ ตั งิ านเสรจ็ ตามเวลา (5 คะแนน)
2.2.3 ปฏบิ ัตงิ านดว้ ยความสะอาดเรยี บร้อย (5 คะแนน)
2.2.4 ปฏิบัตงิ านดว้ ยความคล่องแคล่ว (5 คะแนน)
2.3 มที ักษะในการทางานเปน็ ทมี (10 คะแนน)
2.3.1 การเคารพกฎ กตกิ า และการยอมรับความคดิ เหน็ ของผอู้ น่ื (5 คะแนน)
2.3.2 การมปี ฏสิ มั พนั ธ์กับผ้อู น่ื (5 คะแนน)

3. คุณภำพของผลงำน/ผลกำรปฏบิ ตั งิ ำน (40 คะแนน)
3.1 ผลงาน/ชน้ิ งาน เปน็ ไปตามทหี่ ลักสตู รกาหนด (30 คะแนน)
3.1.1 คณุ ภาพของชน้ิ งาน (10 คะแนน)
3.1.2 องคป์ ระกอบของชนิ้ งาน (10 คะแนน)
3.1.3 การตกแต่ง/บรรจภุ ัณฑข์ องชนิ้ งาน (10 คะแนน)
3.2 การนาเสนอผลงาน/ชิน้ งาน (10 คะแนน)

ระดบั ผลกำรเรียน
การตดั สินผลการเรียนใหน้ าคะแนนระหวา่ งการจัดการเรียนการสอนรวมกับคะแนนจากแบบทดสอบ

หลงั เรียนแลว้ นาไปเปรยี บเทยี บกบั เกณฑท์ ่กี าหนด เพื่อใหค้ ่าระดบั ผลการเรยี นทัง้ 5 ระดบั ดังนี้
1. ได้คะแนน 80 – 100 ไดเ้ กรด 4 หมายถึง ดีมาก
2. ไดค้ ะแนน 70 - 79 ไดเ้ กรด 3 หมายถงึ ดี
3. ได้คะแนน 60 - 69 ได้เกรด 2 หมายถึง ปานกลาง
4. ได้คะแนน 50 - 59 ไดเ้ กรด 1 หมายถงึ ผ่านเกณฑ์ขั้นต่าท่กี าหนด
5. ได้คะแนน 0 - 49 ได้เกรด 0 หมายถึง ต่ากว่าเกณฑท์ ี่กาหนด

ลำดบั เลขประจำตัว ชื่อ – สกลุ 1. ควำมรคู้ วำม 2. ท
ที่ ประชำชน เขำ้ ใจในเนอื้ หำ
2.1 กำร
สำระ เตรียมวัสดุ
20 คะแนน อปุ กรณ์

1.1 แบบทดสอบ (10)
(20)

2.1.1 (5)
2.1.2 (5)

ลงชอ่ื ..................................................วทิ ยากร ลงชอ่ื ..............................................
(......................................................) (...............................................

54

ทกั ษะกำรปฏิบัติ 40 คะแนน 3. คุณภำพของผลงำน
ผลกำรปฏิบัตงิ ำน
40 คะแนน

2.2 ปฏิบตั ิตำมขั้นตอน 2.3 มที กั ษะ 3.1 ผลงำน/ช้ินงำน 3.2 กำร รวม ผลกำร
(20) ในกำร เปน็ ไปตำมที่ 100 เรียน
นำเสนอ คะแนน
ทำงำนเป็น หลกั สูตรกำหนด ผลงำน/
(30) ชนิ้ งำน (10)
ทมี
(10)

2.2.1 (5)
2.2.2 (5)
2.2.3 (5)
2.2.4 (5)
2.3.1 (5)
2.3.2 (5)
3.1.1 (5)
3.1.2 (5)
3.1.3 (5)

.....หวั หนา้ กลุ่มส่งเสรมิ ปฏบิ ัตกิ าร ลงชอ่ื ..................................................ผู้อนมุ ตั ิ 54
........) (......................................................)

55

บรรณำนกุ รม

กระทรวงสาธารณสขุ . (2546). กนิ ตามแม่. พิมพ์คร้ังที่ 2. กรุงเทพฯ: 21 เซน็ จรู .่ี

กองบรรณาธกิ าร. (2561). โฆษณาและทาตลาดออนไลนใ์ ห้ดังเปร้ยี ง. พิมพ์ครงั้ ที่ 1.
กรงุ เทพฯ: รีไวว่า.

เชียงใหม่นวิ ส.์ (2569). ม.แมฟ่ ้าหลวงชวนชาวไทยเปน็ เจ้าของไดอารีค่ รวั สระปทมุ 2550/2007. เชียงใหม.่

มลู นธิ ิชยั พฒั นา. อร่อยชัยพฒั น์. กรงุ เทพฯ: อมรนิ ทร์พรน้ิ ตง้ิ .

มูลนิธิชยั พฒั นา. อรอ่ ยอทุ ยาน. กรงุ เทพฯ: อมรินทรพ์ ริ้นตงิ้ .

มูลนิธิสมเดจ็ พระพันวสั สาอยั ยกิ าเจา้ . (2550). ครวั สระปทมุ . กรุงเทพฯ: วงั สระปทุม.

ศนู ยว์ ิจยั และพัฒนาชานา้ มันและพชื นา้ มัน มูลนิธชิ ยั พัฒนา. (2558). เมนพู ระราชทาน 60 พรรษา.
พมิ พ์ครง้ั ที่ 1. เชยี งราย: มลู ินิธชิ ัยพฒั นา.

สานกั งานพลงั งานแหง่ ชาติ. (2527). คมู่ อื การผลิตและใชเ้ ตาหุงต้มประสิทธภิ าพสงู .
กรงุ เทพฯ: ฟนั น่ีพบั บลิชช่งิ .

อบเชย วงศ์ทอง และขนิษฐา พูนผลกลุ . (2556). หลกั การประกอบอาหาร (พมิ พ์ครั้งที่ 10).
กรุงเทพฯ: มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์.

แหล่งอำ้ งองิ ออนไลน์
กรมส่งเสรมิ อุตสาหกรรม. (2561). ช่องทางการขายในยคุ ปัจจบุ นั . สืบคน้ เม่ือ 18 มิถนุ ายน 2562,

จาก https://bsc.dip.go.th/th/category/marketing2/fs-salechannelpresent

กราฟฟกิ โปรดวิ ซ.์ (2561). หลกั การออกแบบบรรจุภณั ฑ.์ สบื ค้นเม่ือ 20 กันยายน 2561,
จาก http://www.graphicproduce.com/knowledgedetail.php?no=19

The.Than. ผกั เพอ่ื สุขภาพ. สืบค้นเม่ือ 23 มีนาคม 2565
จาก http://www.the-than.com/samonpai/P/P1.html

56

คณะผ้จู ดั ทำ

ทป่ี รกึ ษำ โพธ์กิ ระจ่าง ผูอ้ านวยการศูนยว์ งเดอื น อาคมสรุ ทณั ฑ์
นางอุทยั วรรณ

คณะทีป่ รึกษำจดั ทำหลักสตู ร

นางอุมาพร แขดอน วิทยากรผทู้ รงคณุ วฒุ ดิ า้ นอาหารและขนม

ผู้จดั ทำหลักสูตร พุ่มพนั ธว์ งศ์ ครผู ู้ชว่ ย
พลอยสง่ ศรี ครูผชู้ ว่ ย
นายบดนิ ทร์ภทั ร์ ศรีชัย ครผู ้ชู ว่ ย
นางวชั รนิ ทร์ ภักดอี ักษร ครูผู้ชว่ ย
นางร่งุ นภา เทยี นขา ครผู ู้ชว่ ย
นางสาวพัฒนีนาถ เครอื อ่อน นกั จัดการงานทัว่ ไป
นายวทิ วสั
นางสาวดาววดี หอมสมบัติ นกั วิชาการเงินและบญั ชี
ศาสตรป์ ระสิทธิ์ นักจดั การงานทัว่ ไป
นางสาวนชุ จรี หน่วงกลาง นกั วิชาการศกึ ษา
นายสิทธชิ ยั แพง่ ประสิทธิ์ เจ้าพนักงานธุรการ
นายสมเกยี รติ สดุดี เจ้าพนกั งานการเงนิ และบญั ชี
นางสุรียร์ ัตน์ อนิ เฉียน นกั วชิ าการพัสดุ
นายดนยั
นางสาวสุวมิ ล ชรู ัศมี นักวชิ าการศึกษา
ครธุ พันธ์ นกั จดั การงานทั่วไป
นางสาวอุนนดา สรี ะวฒั น์ นกั วชิ าการโสตทัศนศึกษา
นางสาวณัฐกานต์ เกตปุ ระทุม เจ้าหน้าทเี่ กษตร
นางสาวชลธชิ า
นางสาวศริ ิพร

รูปเล่ม / หน้ำปก พ่มุ พนั ธว์ งศ์ ครผู ชู้ ว่ ย
นายบดนิ ทรภ์ ทั ร์ แพง่ ประสิทธิ์ เจา้ พนกั งานธรุ การ
นางสุรียร์ ตั น์ ครุธพันธ์ นักจดั การงานทว่ั ไป
นางสาวณัฐกานต์

57


Click to View FlipBook Version