The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by 342ed000500, 2022-12-25 03:10:37

แบบฝึกทักษะทางวิชาการ ภาคเรียนที่ 2/2564 ระดับประถมศึกษา

ประถม2.64

11. หากมพี น้ื ทอ่ี คุ มสมบรู ณด์ ว้ ยทรพั ยากร ดนิ นำ�้ และ 17. การวางแผนกลยุทธ์ใด ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการ
มีสิง่ แวดล้อมท่ีดี การประกอบอาชพี ใดจงึ เหมาะสม พัฒนาตลาดได้
ก. ค้าขาย
ข. ทำ� การเกษตร ก. ธรุ กิจมีความมน่ั คง
ค. รบั จา้ งทวั่ ไป
ง. รับเหมากอ่ สร้าง ข. สนิ ค้ามคี วามหลากหลาย
12. การพฒั นาการตลาด หมายถึงขอ้ ใด ค. มผี ผู้ ลติ สนิ คา้ เพิ่มมากข้ึน
ก. การขยายกจิ การของผู้ประกอบการ ง. ขยายปรมิ าณลกู คา้ ได้อย่างชัดเจน
ข. การใหบ้ รกิ ารแกล่ ูกคา้ ของผู้ประกอบการ 18. “การผลิต” หมายถงึ ขอ้ ใด
ก. การลดต้นทนุ สนิ ค้า

ค. การพัฒนาการขายสนิ ค้าหรือบรกิ ารให้คงอย่ ู ข. การสรา้ งสรรค์สินคา้
ง. การวางแผนการตลาดและกจิ กรรมส่งเสริม ค. การเพิม่ ผลผลิตสินค้า
การขาย ง. การรักษาคุณภาพสินค้า
13. ขอ้ ใดเปน็ องคป์ ระกอบสำ� คญั ในการกำ� หนดทศิ ทาง
การตลาด 19. คุณลกั ษณะที่สำ� คัญต่อกระบวนการผลติ คอื ข้อใด
ก. หุ้นสว่ น ผูผ้ ลิต ผู้ขาย ก. ความซ่อื สตั ย์
ข. ตลาด หุ้นสว่ น ผ้ผู ลติ ข. ใชว้ สั ดุราคาถูก
ค. ผู้ผลิต สินคา้ ผบู้ ริโภค ค. หวงั ไดก้ �ำไรมาก
ง. ตลาด สนิ คา้ ผู้บริโภค ง. สินค้ามีความหลากหลาย
14. การใช้กลยุทธ์ทางการตลาดท่ีด�ำเนินการเฉพาะ 20. การสรา้ งผลติ ภัณฑ์ใหม่ขอ้ ใดถูกตอ้ ง
ส่วนใดสว่ นหนึ่ง ตรงกบั ทิศทางการตลาดในขอ้ ใด ก. ราคาขายสนิ คา้
ก. ตลาดทีต่ ่างกนั ข. มาตรฐานของสินคา้

ข. ตลาดทเ่ี หมอื นกนั ค. การสง่ เสริมการขาย
ค. ตลาดทกุ ประเภทสนิ ค้า ง. การลดต้นทนุ การผลิต
ง. ตลาดแบบมีเฉพาะส่วน
15. การกำ� หนดเปา้ หมายการตลาดขอ้ ใดกลา่ วไดอ้ ยา่ ง 21.ข้อใดกล่าวถึงลักษณะการประกอบอาชีพได้อย่าง
ถูกตอ้ ง ถกู ตอ้ ง
ก. ผลติ ภณั ฑ์ ราคา ผบู้ รโิ ภค ก. ลักษณะงานอาชีพในการเป็นผู้ซ้ือและผู้ขาย
ข. ผลิตภณั ฑ์ ราคา การจ�ำหนา่ ย ข. ลกั ษณะงานอาชพี ในการผลิตและการบริโภค
ค. ผลติ ภัณฑ์ การจ�ำหนา่ ย ราคา ค. ลกั ษณะงานอาชพี ในการผลติ และการใหบ้ รกิ าร
ง. ผลิตภณั ฑ์ การจำ� หน่าย ผบู้ ริโภค ง. ลกั ษณะงานอาชพี ในการเปน็ นายจา้ งและลกู จา้ ง
16. ข้อใดเป็นการนำ� กลยทุ ธ์สู่เป้าหมายทางการตลาด 22. ขอ้ ใดเป็นขั้นตอนการวางแผนการปลกู ผกั ได้

ไปปฏบิ ตั ไิ ด้ดที ่ีสดุ ถกู ต้อง

ก. เลยี นแบบสินคา้ ทีข่ ายดีในท้องตลาด ก. การเตรยี ม การปลกู การดแู ล การเกบ็ การสง่
ข. อธิบายสรพคณุ สนิ ค้าเกินความจรงิ
ค. ราคาแพงกวา่ สินค้าคแู่ ขง่ เพ่ือผลกำ� ไรสงู สุด ข. การเตรยี ม การดแู ล การปลกู การเก็บ การสง่
ง. ผลติ สินค้าจ�ำนวนนอ้ ยกอ่ นแล้วค่อยเพมิ่ ค. การปลูก การเกบ็ การดูแล การเตรยี ม การส่ง
จำ� นวนมากขึ้น ง. การปลูก การเตรียม การเก็บ การดูแล การส่ง

แบบฝึกทกั ษะทางวชิ าการเพื่อยกผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศกึ ษา 2564 กศน.จงั หวดั เลย 43


23. เศรษฐกิจปจั จบุ ัน การประกอบธรุ กจิ ขอ้ ใดทไี่ ด้รบั 29. “การพฒั นาสนิ คา้ ใหค้ วามสายงาม ทนทาน” หมาย
ความนยิ มจากผู้บรโิ ภคมากทส่ี ดุ ถึงข้อใด
ก. ธุรกจิ การท�ำแฟรนไซส ์ ก. การสร้างคณุ คา่ ของธุรกจิ
ข. ธรุ กจิ ซ้อื ขายออนไลน์ ข. การพฒั นาอาชพี ให้เกดิ รายได้
ค. ธุรกิจหา้ งสรรพสนิ ค้า ค. การแทรกความนิยมสผู่ บู้ ริโภค
ง. ธุรกิจขายของช�ำ ง. การสรา้ งรูปลกั ษณค์ ณุ ภาพสนิ ค้า
24. ขอ้ ใดคือหลกั ส�ำคญั ทีท่ �ำให้ธุรกจิ เจรญิ เตบิ โต 30. โครงการพัฒนาคาชีพท่ีประสบความส�ำเร็จควรมี
ก. แผนการพัฒนาการตลาด ลกั ษณะแบบใดดีที่สดุ
ข. ก�ำหนดกลยุทธส์ ู่เปา้ หมาย ก. โครงการมีความทันสมยั
ค. วิเคราะหก์ ลยุทธก์ ารตลาด ข. โครงการมคี วามถูกต้อง
ง. การกำ� หนดทิศทางการตลาด ค. โครงการสรา้ งประ โยชนใ์ หแ้ ก่องค์กร
25. ขอ้ ใดคอื ขัน้ ตอนแรกของการวางแผน ง. โครงการมีความสมบรู ณ์และเปน็ ไปได้
ก. ส�ำรวจ ทบทวน และวเิ คราะห์แนวโนม้
ในอนาคต
ข. วิเคราะห์พนั ธกิจขององคก์ ร
ค. สรา้ งวิสยั ทศั นข์ องแผน
ง. ส�ำรวจประเดน็ ทางเลอื ก
26. การศึกษาวงจรของผลิตภัณฑ์เป็นการวิเคราะห์
ความเปน็ ไปได้ของแผนในดา้ นใด
ก. ด้านการบริหาร
ข. ด้านการตลาด
ค. ด้านการเงิน
ง. ด้านบุคคล
27. ข้อใดเปน็ การเขียนจดุ ประสงค์ของโครงการ
“ปลูกผกั สวนครัว” ทีด่ ีท่สี ุด
ก. เพอ่ื ปลูกผกั สานครวั
ข. เพือ่ กำ� หนดสถานที่ปลกู ผัก
ค. เพือ่ ปลูกผักกาดจ�ำนวน 3 แปลง
ง. เพอื่ ลดอันตรายจากสารพิษในอาหาร
28. “สังคมไทยเป็นสังคมคุณภาพ” จากข้อความดัง
กล่าว ข้อใดถอื เป็นการแทรกความนยิ มสูผ่ บู้ ริโภค
ก. จุทามาศ เล้ียงจิ้งหรดี ขาย
ข. ดวงฤดี ขายผักปลอดสารพษิ
ค. สายสมร ขายรองเทา้ ออนไลน์
ง. พชั ราภา ไปขายของทห่ี ้างสรรพสนิ ค้า

44 แบบฝกึ ทักษะทางวชิ าการเพอ่ื ยกผลสัมฤทธทิ์ างการเรียน ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2564 กศน.จังหวดั เลย


สรปุ เนื้อหา

รายวิชา เศรษฐกจิ พอเพียง

ทช11001

จุดประสงค์การเรียนรู้
1. นักศกึ ษาสามารถบอกความเปน็ มา ความหมาย และแนวคดิ ของหลกั แนวคิดของเศรษฐกจิ พอเพยี งได้
2. นักศึกษามคี วามรคู้ วามเขา้ ใจแนวคิดของหลักเศรษฐกิจพอเพยี ง
ขอบเขตเนอ้ื หา
การพฒั นาประเทศตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง วเิ คราะหส์ ถานการณโ์ ลกความสาํ คญั ของการพฒั นา
ประเทศในกระแสโลกาภิวตั น์ การเลือกแนวทางของปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยกุ ตใ์ ช้อยา่ งเหมาะสม
บทที่ 1 ความพอเพยี ง
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งมีมติ ิ 4 ดา้ น
1. มิตดิ ้านเศรษฐกิจ : เศรษฐกิจพอเพยี งแบบพออยูพ่ อกนิ ให้มีความขยันหมน่ั เพยี รประกอบสัมมาอาชีพ
เพอ่ื ให้พงึ่ ตนเองได้ใหพ้ น้ จากความอยากจน
2. มิติด้านจติ ใจ : ยดึ เส้นทางสายกลาง(มชั ฌิมาปฏิปทา) เน้นท่ีจิตใจท่รี ูจ้ กั พอ คือ พอด ี พอประมาณ
และพอใจในส่งิ ที่มี
3. มิติด้านสังคม : สังคมทม่ี ีความสขุ สงบ ประชาชนมีความเมตตาเออื้ อาทรชว่ ยเหลอื ซ่งึ กันและกนั
4. มติ ดิ า้ นวัฒนธรรม : เศรษฐกิจพอเพยี งมุ่งใหเ้ กดิ วฒั นธรรมหรอื วถิ ีชวี ิตทปี่ ระหยัด อดออม มีชวี ิตท่เี รยี บ
งา่ ย ไมฟ่ มุ่ เฟอื ย
บทท่ี 2 ชุมชนพอเพียง
การบริหารจัดการชมุ ชน หมายถงึ การนาํ วธิ กี ารตา่ งๆมาใชเ้ พ่อื ชว่ ยในการดาํ เนินงานในชุมชนเป็นไปตาม
แผนชุมชนที่กาํ หนด เนน้ การดาํ เนินการดังน้ี
1.การมีสว่ นรว่ มของประชาชน
2.การปฏบิ ัติเพอ่ื กระทําสง่ิ ตา่ ง ๆ
3.การวดั ผลความสาํ เร็จของชมุ ชน
บทท่ี 3 การแกป้ ญั หาชุมชน
ปัญหาชุมชน แต่ละชุมชนมีปัญหาท่ีแตกต่างกันออกไปข้ึนอยู่กับบริบทของชุมชนเช่น ด้านการศึกษา
ด้านสุขภาพอนามยั ดา้ นสังคมการเมืองการปกครอง ด้านส่ิงแวดลอ้ มและทรัพยากรธรรมชาติ และดา้ นศาสตร์
ศลิ ปวฒั นธรรมการพฒั นาชมุ ชน เปน็ การแกป้ ญั หาชมุ ชนทมี่ รี ปู แบบและขนั้ ตอนชมุ ชนจะตอ้ งมคี ณะทาํ งาน ทมี่ า
จากหลายภาคส่วนเขา้ มามสี ว่ นรว่ มในการแก้ปญั หาของชุมชนด้วยตนเอง
บทที่ 4 สถานการณข์ องประเทศกบั ความพอเพยี ง
ปรัชญาของเศรษฐกิจพอพียง มุ้งเน้นให้เกิดการพิจารณาอย่างรอบคอบ มีความรอบคอบระมัดระวังใน
การวางแผน และการดําเนินงานทุกขั้นตอน เพ่ือมิให้เกิดความเสียหายต่อการพัฒนาแผนพัฒนาเศรษฐกิจและ
สังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 9 เน้นกระบวนการมีส่วนของประชาชนในทุกระดับทุกขั้นตอน โดยยึดหลักร่วมกันคิด

แบบฝกึ ทักษะทางวิชาการเพอ่ื ยกผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี น ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2564 กศน.จงั หวดั เลย 45


ร่วมกันทํา และร่วมกันรับผิดชอบในลักษณะเป็นเครือข่ายการพัฒนายึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็น
ปรชั ญาเพอ่ื นาํ ทางในการพฒั นาประเทศใหเ้ ขา้ สสู่ งั คมทยี่ ดึ หลกั ทางสายกลาง แบง่ เปน็ 4 ดา้ น ไดแ้ กด่ า้ นเศรษฐกจิ
ดา้ นทรพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม และดา้ นการบริหารจดั การทรพั ยากร
บทท่ี 5 สถานการณ์โลกกบั ความพอเพียง
ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งเปน็ ปรชั ญาทพี่ ระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ เดช (ร.9) ทรงชแี้ นวทางใน
การดําเนนิ ชวี ิตใหก้ ับประชาชน ให้ดําเนินชวี ิตแบบพออยู่พอกนิ พอใช้ รจู้ ักพ่ึงตนเอง เป็นการดํารงชีวิต ในทาง
สายกลางด้วยการนาํ ทรพั ยากรทม่ี ีอย่มู าใช้ใหเ้ กดิ ประโยชนส์ งู สุด
1. การประยกุ ต์ใชเ้ ศรษฐกจิ พอเพียงระดบั ชุมชน
2. การประยุกตใ์ ช้เศรษฐกิจพอเพียงระดับเกษตร
3. การประยกุ ตใ์ ช้เศรษฐกจิ พอเพยี งระดบั นกั ธรุ กจิ
บทที่ 6 การประกอบอาชพี ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง เพอื่ การสรา้ งรายไดอ้ ยา่ งมน่ั คงและยง่ั ยนื
การประกอบตามหลักเศรษฐกจิ พอพยี ง เพ่ือการสร้างรายได้ อย่างมั่นคง ม่งั คงั่ และยงั่ ยนื มงุ่ เนน้ ใหผ้ ู้เรียน
มีการพิจารณาอย่างรอบด้าน มีความรอบคอบ และระมัดระวังในการวางแผน ในการดําเนินงานทุกข้ันตอน
เพอ่ื มใิ หเ้ กดิ ความเสยี หายตอ่ การพฒั นา ขอ้ ควรคาํ นงึ ในการตดั สนิ ใจประกอบอาชพี การตดั สนิ ใจประกอบอาชพี
โดยใชข้ อ้ มลู อยา่ งเหมาะสมมคี วามรวู้ ชิ าชพี นน้ั ๆ มที นุ แรงงาน และสถานท่ี มวี ธิ กี ารปฏบิ ตั งิ านและจดั การอาชพี
มกี ลวธิ กี ารขาย การตลาด มกี ารจดั การการเงนิ การจดั ทาํ บญั ชี รายรบั - รายจา่ ย เพอื่ ใหท้ ราบผลการประกอบการ
มีมนุษยสัมพันธ์และมีจิตบริการมีคุณธรรมในการประกอบอาชีพ แนวทางการประกอบอาชีพให้ประสบผลการ
ประกอบอาชีพให้ประสบผลสําเร็จ มีความรู้ คือ ต้องรอบรู้ รอบคอบและระมัดระวัง มีคุณธรรมที่ส่งเสริมการ
ประกอบอาชพี ใหป้ ระสบความสาํ เรจ็ คอื ความส่อื สตั ย์ สจุ รติ ขยนั อดทน
หมายเหต ุ ใหน้ กั ศกึ ษา ศกึ ษาเพ่ิมเตมิ จากหนงั สือเรียนรายวิชาเศรษฐกิจพอเพียง ทช11001

46 แบบฝึกทักษะทางวชิ าการเพือ่ ยกผลสัมฤทธิท์ างการเรยี น ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศึกษา 2564 กศน.จังหวดั เลย


แบบทดสอบ รายวชิ าเศรษฐกจิ พอเพียง ทช11001

จงเลอื กคำ� ตอบทถี่ ูกต้องเพียงขอ้ เดียว

1. เศรษฐกิจพอเพียงเปน็ เร่ืองเก่ียวกบั อะไร 7. ข้อใดไม่ใช่การน�ำหลักความมีเหตุผลตามหลัก
ก. การเกษตร ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในการด�ำเนนิ ชวี ิต
ข. การด�ำเนินชวี ติ ก. สเุ ทพซอ้ื เสอ้ื ผ้าราคาแพงเพ่ือให้ทนั สมยั
ค. การคา้ ขาย ข. สมปองยา้ ยท่ีท�ำงานเพราะใกล้บา้ นมากกว่า
ง. การอตุ สาหกรรม ค. สมศรจี ดั ท�ำบญั ชรี ายรับ รายจ่ายของตนเอง
2. หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวทางการ ง. สมศกั ดิ์ท�ำงานเพิ่มรายไดอ้ อมเงินเพอ่ื ลงทนุ
ดำ� เนนิ ชวี ิตของใคร 8. เงื่อนไขความรตู้ ามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ
ก. นักธรุ กจิ พอเพยี ง เปน็ ความรอบรตู้ ามหลกั วชิ าการตามข้อใด
ข. นกั เรียน ก. วชิ าการตา่ งๆ ทเี่ ก่ยี วข้องอย่างรอบดา้ น
ค. ข้าราชการ ข. วิชาการเฉพาะเรอ่ื งทเี่ ก่ยี วข้องอย่างรอบด้าน
ง. ประชาชนทกุ คน ค. วิชาการต่างๆ ทเี่ ก่ียวข้องในดา้ นใดดา้ นหน่งึ
3. เป้าหมายหลักแนวคดิ เศรษฐกจิ พอเพียงคอื ขอ้ ใด ง. วชิ าการแขนงใดแขนงหนงึ่ ที่เกยี่ วขอ้ งอย่าง
ก. ชว่ ยเหลือซึง่ กนั และกัน รอบดา้ น
ข. พึง่ พาตนเองเปน็ หลกั 9. ข้อใดต่อไปน้ตี รงกบั เง่อื นไขคุณธรรม
ค. ใชจ้ ่ายแตส่ งิ่ ทจี่ �ำเป็นต่อการดำ� เนินชีวิต ก. สมชายเกบ็ เงนิ ออมไว้ใชใ้ นอนาคต
ง. มอี าชีพเกษตรกรรมทุกครอบครวั ข. สมหมายหยุดรถเพื่อใหร้ ถยนตค์ ันตรงขา้ ม
4. ข้อใดคอื เงื่อนไขส�ำคัญของเศรษฐกจิ พอเพียง ผ่านไปกอ่ น
ก. มีเหตุผล มคี วามรอบคอบ ค. สมปองตัดสนิ ใจซ้อื รถยนตเ์ พ่อื อ�ำนวย
ข. มีความรู้ มีคณุ ธรรม ความสะดวกในครอบครวั
ค. มีคณุ ธรรม จริยธรรม ง. สมหญงิ ผ่อนค่าเช่าซ้อื รถยนต์
ง. มภี ูมิคุ้มกันในตวั ที่ดี มเี หตุผล 10. บคุ คลใดดำ� เนนิ ชวี ติ โดยนำ� หลกั ความพอประมาณ
5. ข้อใดคือวิธีการจัดสรรเงินหรือวางแผนการใช้จ่าย ไปใช้
ทดี่ ที ี่สุด ก. เจา้ หลา้ เปน็ พนกั งานซพี แี ตช่ อบใชแ้ บรนดเ์ นม
ก. จัดสรรรายจา่ ยใหเ้ ท่ากบั รายได้ ข. เจา้ ป่ารับประทานอาหารทม่ี ีประโยชนแ์ ละ
ข. ปรกึ ษาเพ่ือนบ้านก่อนซื้อของ มีเงินเกบ็ เลก็ น้อย
ค. เปรยี บเทยี บค�ำโฆษณาตามหนังสือพมิ พ์ ค. เจา้ ขนุ รบั ประทานอาหารวนั ละสองมอ้ื
ง. การบันทกึ รายรับ – รายจา่ ย เพ่ือจะไดม้ ีเงนิ ออมวนั ละมากๆ
6. ขอ้ ใดถกู ต้องที่สุดในการจดบันทกึ รายรับ - รายจ่าย ง. เจา้ นางรับประทานอาหารและเดนิ ทาง
ก. จดทุกครั้ง ไปทำ� งานด้วยความเรง่ รบี
ข. จดทุกอาทิตย์
ค. จดทกุ เดอื น
ง. จดทกุ วนั เว้นวนั

แบบฝกึ ทักษะทางวิชาการเพอื่ ยกผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี น ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2564 กศน.จงั หวดั เลย 47


11. ในการประกอบอาชพี ใหป้ ระสบผลส�ำเร็จ 16. ข้อใดเปน็ การลดรายจา่ ยในครอบครัวทไ่ี ม่ถูกต้อง
ตอ้ งยดึ หลักการในข้อใด ก. ซ้อื เสื้อผ้าใหม่ใหแ้ มท่ กุ เดือน
ก. มคี วามรู้ รอบคอบ รวดเรว็ แยง่ ชงิ ลกู คำ�้ ข. ใช้โทรศพั ท์-ไฟฟา้ เทา่ ทีจ่ �ำเป็น
ข. มคี วามรู้ รอบคอบ ซ่ือสตั ย์ สุจรติ ขยนั อดทน ค. นำ� กล้วยท่ีเหลือมาทำ� กลว้ ยตาก
ค. มคี วามรู้ รอบรู้ แสวงหาชอ่ งทางหาผลประโยชน์ ง. ปลกู ผักสวนครัวไวก้ ินแทนการซ้ือจากตลาด
ง. มคี วามรู้ รอบคอบ แขง่ ขนั แย่งชงิ ผลประโยชน์ 17. ขอ้ ใดเป็นการเพิ่มรายได้ท่ี ถูกต้องเหมาะสม
12. ขอ้ ใดเปน็ การปฏบิ ตั ติ นทสี่ อดคลอ้ งกบั การเพม่ิ ราย ก. การเส่ียง เพื่อเพมิ่ รายได้
ไดใ้ หก้ บั ตนเองและครอบครัวไดถ้ ูกต้อง ข. การปลกู พืชลม้ ลุกกลางรอ่ งสวนผลไม้
ก. ด�ำ เปน็ พอ่ คา้ คนกลางและขายสนิ ค้า ค. การนำ� ขา้ วสารแลกกบั พชื ผกั สวนครวั ใกลบ้ า้ น
ราคาสูงกว่าทอ้ งตลาด ง. ปลกู พชื ผกั เองขายเอง จะไดก้ ำ� หนดราคาเองได้
ข. เขยี วนำ� ผักเพือ่ นบ้านไปขาย เพือ่ สร้างรายได้ 18. พิศมร ไดด้ อกเบยี้ จากธนาคาร ควรใสใ่ นชอ่ งใด
ใหก้ ับครอบครวั ก. ชอ่ งรายรับ
ค. มาลี ชอบต่อรองสนิ คา้ และนำ� สินค้าที่ซื้อมา ข. ช่องรายจา่ ย
ไปขายต่อในราคาท่สี ูง ค. ช่องคงเหลือ
ง. แดง นำ� ผักท่ีปลกู ด้วยวธิ เี กษตรอนิ ทรียไ์ ปขาย ง. ชอ่ งหน้สี ิน
ไดร้ าคาสูงกว่าผกั ในทอ้ งตลาด 19. ขอ้ ใดเปน็ การลดรายจ่ายในครวั เรอื น
13. ข้อใดเปน็ การเพ่ิมรายได้จากอาชพี เดมิ ก. นรา ดภู าพยนตร์กบั เพอ่ื นทุกเดือน
ก. การเล้ยี งกบในบ่อซเี มนต์ ข. ยพุ นิ ซอื้ กางเกงใหม่ทุกครั้งท่เี งินเดอื นออก
ข. การเพาะเหด็ ฟางในสวนปาลม์ ค. สวุ รรณ ปดิ ไฟฟ้าทุกครั้งหลังจากทำ� งานเสร็จ
ค. การเล้ยี งจ้งิ หรีดส่งตลาดประเทศเพ่ือนบ้าน ง. สมศรี พาครอบครวั ไปทานอาหารนอกบา้ นทกุ วนั
ง. การขยายพนั ธม์ ะนาวเปน็ พนั ธม์ ะนาวไมม่ เี มลด็ 20. บุคคลในขอ้ ใดมนี ิสัยในการใช้จ่ายท่ีฟุม่ เฟือย
นำ้� ดี ลกู ดก ก. เอ ซือ้ อาหารให้สุนัขท่บี ้าน
14. ข้อใดเปน็ การปฏบิ ตั ติ นทีท่ �ำใหค้ รอบครวั มชี วี ติ ข. บี ซ้ือรองเท้าใหม่เพราะคเู่ กา่ ขาด
ความเปน็ อยทู่ ดี่ มี คี วามมัน่ คง ค. ดี ซอื้ นาฬกิ าราคาแพงเพราะมคี ณุ ภาพดี
ก. ใหเ้ งนิ เป็นหลกั ในการดำ� รงชพี ในสังคม ง. ซี ซื้อเสื้อครง้ั ละหลายตัวเพราะกลัววา่ จะขึน้
ข. คำ� นึงถงึ ผลประโยชนข์ องตนเองให้มากที่สดุ ราคา
ค. เตรยี มพรอ้ มกบั การเปลยี่ นแปลงทอี่ าจเกดิ ขนึ้ 21. ขอ้ ใดต่อไปน้ที ี่สามารถวางแผนการใช้จา่ ย
ง.จัดทำ� แผนชีวติ ของตนเอง โดยคำ� นงึ ถึงหลกั ของครอบครัวไดอ้ ย่างเหมาะสม
ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ก. นายสมมีรายได้ 300 บาทตอ่ วนั จา่ ยวนั ละ
15. ข้อใดแสดงว่าสมหมายลดรายจา่ ย 200 บาท อกี 100 บาท เก็บออมไว้
ก. ลดคา่ ใช้จา่ ยโดยใชโ้ ทรศัพท์เทา่ ที่จ�ำเป็น ข. นายสามมีรายได้ 500 บาทตอ่ วัน จา่ ยวนั ละ
ข. เพมิ่ รายไดโ้ ดยการออกเงนิ กู้ เพอ่ื จะไดม้ รี ายได้ 300 บาท ซอ้ื ล็อตเตอร่ี 1 คู่ ท่เี หลอื เกบ็ ออมไว้
เขา้ ทกุ เดือน ค. นายสยามมีรายได้ 800 บาทตอ่ วัน จ่ายวันละ
ค. น�ำรายการในชอ่ งรายจ่ายใส่ในชอ่ งรายรับ 50 บาท ท่เี หลือเกบ็ ออมไว้
เพอื่ ใหม้ รี ายรับมากกวา่ ง. นายสยาม มรี ายได้ 1,000 บาท ไปกนิ ข้าวท่ีวัด
ง. ลดรายจา่ ยโดยการตัดคา่ อาหารเยน็ ออก และเกบ็ เงนิ ออมไวท้ ้ังหมด
กินอาหารกลางวนั ม้อื เดียว

48 แบบฝกึ ทกั ษะทางวิชาการเพอ่ื ยกผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี น ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 กศน.จงั หวดั เลย


22. บุคคลใดมกี ารวางแผนการใช้จ่ายไดเ้ หมะสม 26. ขอ้ ใดแสดงถงึ การน�ำเงื่อนไขความรูไ้ ปใช้
ในการด�ำเนินชวี ิต
ก. จ�ำปี ซอ้ื สนิ ค้าท่ีมขี องแถม ก. บญุ มี รักอสิ ระจึงชอบงานบรกิ าร

ข. ลีนา ซ้ือสินคา้ ราคาถกู ตามตลาด
ค. สนิ ี คำ� นึงถึงความจำ� เป็นทุกครั้งทซี่ อื้ ของใช ้ ข. มานะ เปิดรา้ นซ่อมจักรยานเพราะใจรกั
ค. สมหวงั ชอบทำ� อาชีพตามอยา่ งเพอ่ื นๆ
สว่ นตวั ง. วิชัย มคี วามรูเ้ ร่อื งเกษตรอินทรีย์ จึงประกอบ

ง. มาลี ซื้อของใชส้ ่วนตัวตามคำ� แนะนำ� อาชีพ ทำ� ฟารม์ เกษตรธรรมชาติ
27. ขอ้ ใดแสดงถงึ การนำ� เงื่อนไขคณุ ธรรมไปใช้
ของพนักงานขาย ในการดำ� เนนิ ชีวิต
23. ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงทน่ี ำ� มาใช้ ก. ประกอบอาชพี ดว้ ยความมเี หตมุ ีผล
ในชีวติ ประจำ� วนั คือขอ้ ใด ข. ประกอบอาชพี ดว้ ยความเชอ่ื มนั่ เอารดั เอาเปรยี บ
ก. นายลี้ เลิกเหล้า บหุ ร่ี และนำ� เงินทีเ่ หลอื ค. ประกอบอาชพี ด้วยความซอื่ สตั ย์ ขยัน อดทน
มาใช้จ่ายในครอบครัว ง. ประกอบอาชีพด้วยความเสยี่ ง แสวงหากำ� ไร
ข. นายสบิ ด�ำรงตนอย่ตู ามปกติ โดยไม่สนใจ อยู่เสมอ
สภาพแวดล้อมภายนอก 28. ขอ้ ใดสอดคลอ้ งกบั การดำ� เนนิ ชวี ติ ตามหลกั ปรชั ญา
ค. นายสาม ปลกู พชื ผกั ปลอดสารพษิ จำ� นวน 15 ไร ่

และท�ำตาข่ายคลมุ พืน้ ทท่ี ั้ง 15 ไร่ ของเศรษฐกจิ พอเพียง

ง. นายสอง ประกอบอำ� ชพี ทำ� การเกษตรดว้ ยความรู้ ก. ชวี ติ นีย้ งั มีหวงั
และประสบการณข์ องตนเอง จงึ ไมจ่ ำ� เปน็ หาความรู้ ข. อย่าหวังน�้ำบอ่ หน้า
24. ขอ้ ใดเป็นการลดรายจา่ ยทีเ่ หมาะสมท่ีสุด ค. ตนเป็นที่พึง่ แหง่ ตน

ก. สมชาย ไมใ่ ช้พัดลมแม้อากาศจะร้อน ง. นำ้� เช่ียวอย่าเอาเรอื ไปขวาง

ข. สมหวัง ชวนลกู สาวปลกู ผกั สวนครวั ทบี่ า้ น 29. การจดบันทึกรายรบั -รายจา่ ย จะเปน็ ประโยชน์
ค. สมศกั ด์ิ เลกิ นั่งแท็กซ่ี ใช้มอเตอรไ์ ซค์รับจา้ งแทน ต่อการดำ� เนินชีวิตประจำ� วันได้อย่างไร
ง. สมศรี ไมย่ อมตักบาตรท�ำบุญเพราะกลวั ก. เพือ่ ให้เห็นรายรับ-รายจา่ ยและปรบั ลด
ตามความจำ� เป็น
สนิ้ เปลือง ข. เพ่อื จะไดท้ ำ� บญั ชรี ายรับ-รายจ่าย
และสอนคนในครอบครัวได้
25. บคุ คลใดใช้ชีวิตโดยนำ� หลักภมู ิคุ้มกันมาใช้ ค. เพือ่ จะไดเ้ หน็ ช่องทางในการพัฒนา ปรับปรงุ
ในครอบครวั อยา่ งพอเพยี ง และขยายธรุ กจิ ในอนาคตได้
ก. ปรีดา ซ้ือเนือ้ เก้งมาทำ� อาหารแทนเนอ้ื หมู ง. เตรยี มยน่ื ใหก้ รมสรรพกร เพอ่ื ชำ� ระภาษปี ระจำ� ปี
ทีข่ าดแคลน เพอื่ จะได้น�ำมาเปน็ คา่ ลดหย่อน
ข. สนุ ารี ซอื้ ครมี บำ� รงุ ผวิ ราคาถกู และซอื้ ทลี ะมากๆ 30. พิศมร ได้ดอกเบ้ียจากธนาคาร ควรใส่ในช่องใด
ค. อนนั ต์ ซือ้ กับขา้ วทีต่ ลาดทุกมอ้ื เพราะสะดวก ก. ช่องรายรบั
ไม่ตอ้ งทำ� เอง ข. ช่องรายจ่าย
ง. จ�ำปี ปลกู ผกั กนิ เองในช่วงทเี่ ศรษฐกจิ ไม่ดี ค. ชอ่ งคงเหลือ
และน�ำบางส่วนไปจ�ำหน่ายเพ่ือเปน็ รายได้เสรมิ

ง. ช่องหนสี้ ิน

แบบฝกึ ทักษะทางวชิ าการเพ่อื ยกผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี น ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศึกษา 2564 กศน.จงั หวัดเลย 49


สรุปเนอ้ื หา

รายวชิ า สขุ ศึกษา พลศึกษา

ทช11002

บทที่ 1 รา่ งกายของเรา
รา่ งกายของมนษุ ยป์ ระกอบดว้ ยอวยั วะตา่ งๆ ทงั้ ภายใน และภายนอกทท่ี ำ� หนา้ ทต่ี า่ งๆ ตามความสำ� คญั ของ
โครงสรา้ งร่างกายมนุษย์ รวมถึงการป้องกันดแู ลรกั ษาไม่ใหเ้ กดิ อาการผิดปกติ เพือ่ ใหร้ า่ งกายไดม้ กี ารพฒั นาและ
เปลยี่ นแปลงตามวัฏจักรชวี ิตของมนุษย์และมสี ขุ ภาพกายทีส่ มบรู ณต์ ามวยั
บทที่ 2 การวางแผนครอบครวั และพัฒนาการทางเพศ
การวางแผนชวี ติ จะชว่ ยใหบ้ คุ คลมที ศิ ทางในการดำ� เนนิ ชวี ติ ใหบ้ รรลเุ ปา้ หมายทตี่ งั้ ไว้ มคี วามสขุ และประสบ
ความสำ� เรจ็ การวางแผนชีวิตครอบครวั เป็นการวางแผนรว่ มกนั ของคสู่ มรส ชว่ ยให้มชี ีวิตคทู่ ่ยี งั่ ยืน ผาสขุ รวมทง้ั
เปน็ การวางแผนดว้ ยวา่ จะไมม่ ลี กู หรอื มลี กู เมอื่ ใด มกี ค่ี น หา่ งกนั กปี่ ี เพอื่ ใหล้ กู ทเี่ กดิ มามคี วามสขุ สขุ ภาพแขง็ แรง
เป็นการช่วยกันสร้างคนท่ีมีคณุ ภาพใหส้ งั คมดว้ ย
บทที่ 3 การดูแลสขุ ภาพ
อาหารเป็นปัจจัยส�ำคัญต่อการด�ำรงชีวิต ร่างกายจะเจริญเติบโตมีสุขภาพที่สมบูรณ์ เม่ือได้รับอาหาร
ท่ีมีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน ถูกลักษณะ และเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ไม่มีสารพิษหรือ
สงิ่ เจอื ปนทก่ี อ่ ใหเ้ กดิ อนั ตรายตอ่ รา่ งกาย ดงั นน้ั อาหารและโภชนาการจงึ มคี วามสำ� คญั ตอ่ รา่ งกายของมนษุ ยต์ งั้ แต่
วัยเดก็ จนถงึ วัยชรา
บทท่ี 4 โรคติดตอ่
โรคตดิ ตอ่ หมายถงึ โรคทเ่ี กดิ ขน้ึ กบั คนหรอื สตั ว์ โดยเกดิ จากเชอ้ื โรคทเ่ี ปน็ สง่ิ มชี วี ติ หรอื พษิ ของเชอ้ื โรค และ
เมอ่ื เกดิ เปน็ โรคขนึ้ แลว้ สามารถแพรก่ ระจายจากคนหรอื สตั วท์ ปี่ ว่ ยเปน็ โรคนน้ั ไปสคู่ นหรอื สตั วอ์ นื่ ไดโ้ ดยการแพร่
กระจายของโรคนัน้ อาจเป็นไดท้ ง้ั ทางตรงและทางออ้ ม
เรอ่ื งท่ี 5 ยาสามญั ประจ�ำบ้าน
ยาสามญั ประจำ� บ้านเปน็ ยาแผนปจั จบุ นั และแผนโบราณทปี่ ระชาชนทวั่ ไปสามารถหาซ้ือและจ�ำหน่ายได้
โดยไม่ตอ้ งมีใบอนญุ าตจากแพทย์ และใชร้ กั ษาอาการเจ็บป่วยเลก็ ๆ นอ้ ยๆ เช่น ไอ ปวดหัว ปวดท้อง ของมคี ม
บาด และแผลพุพอง ซ่งึ องค์การเภสชั กรรม กระทรวงสาธารณสขุ ไดผ้ ลิตยาตา่ ง ๆ ทมี่ คี ณุ ภาพดี ราคาถูก และได้
มาตรฐานส�ำหรับจ�ำหน่ายให้แก่ ประชาชนท่ัวไปหากใช้แล้วอาการไม่ดีขึ้นควรไปปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษา
ตอ่ ไป
บทท่ี 6 สารเสพตดิ
ปัจจุบันปัญหาการแพร่ระบาดของสารเสพติดมีแนวโน้มเพิ่มสูงข้ึน และมีรูปแบบที่หลากหลายยากแก่
การตรวจสอบขนึ้ ส่งผลให้เดก็ และเยาวชนมคี วามเส่ยี งตอ่ ภยั ของสารเสพตดิ มากขน้ึ จึงควรศกึ ษาอันตรายและ
วิธีการหลกี เลยี่ ง เพือ่ ป้องกนั สารเสพติดได้
องค์การอนามยั โลกได้ให้ความหมายของสารเสพตดิ ไว้วา่ สารใดก็ตามทีเ่ สพเข้าส่รู ่างกายโดยการ ฉดี สบู
หรือดม จะทำ� ใหม้ ผี ลตอ่ จติ ใจและร่างกาย 4 ประการ คอื
1. เม่อื เสพตดิ แลว้ จะมคี วามตอ้ งการทง้ั ทางด้านร่างกายและจิตใจ

50 แบบฝกึ ทักษะทางวิชาการเพือ่ ยกผลสมั ฤทธิท์ างการเรียน ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศกึ ษา 2564 กศน.จังหวดั เลย


2. ผูท้ ใ่ี ช้ยาติดแล้ว จะมีการเพิม่ ปรมิ าณการเสพขึ้นเรอ่ื ยๆ ไป
3. เมือ่ หยดุ ใชย้ าจะเกดิ อาการอดหรอื เลิกยาท่เี รยี กวา่ อาการเสยี้ น หรอื ลงแดงทันที
4. สงิ่ เสพติดท�ำลายสขุ ภาพ
บทที่ 7 ความปลอดภัยในชวี ติ และทรพั ย์สนิ 51
การด�ำรงชีวติ ในปัจจบุ ัน มีปัจจัยเส่ยี งและอนั ตรายตา่ งๆท่ีเกดิ ขึ้นในชีวิตประจำ� วันของมนุษย์ ไม่ว่าจะเปน็
กาอรดนั าตรรงาชยีวทติ ีเ่ ใกนิดปขจั ้ึนจใบุนนับ้ามนปี อัจนัจตัยเรสา่ียยงจแาลกะกอาันรเตดรินาทยาตง่างแๆลทะีเ่อกนั ิดตขร้นึ าใยนจชาีวกิตภปัยรพะิบจาตั วิธนัรรขมอชงมาตนิษุ จยงึ ต์ ไ้อมงว่ ม่าแีจนะเวปท็นาองปนั อ้ตงรกานัย
ท่เี กิดข้นึ ในบแลา้ นะแอกนั ้ไขตภราัยยอจันาตกรกาายรตเดา่ งนิ ทๆาทงอี่ แาลจะเกอดินั ขต้นึรา ยดจังานก้ี ภยั พิบัตธิ รรมชาติ จึงตอ้ งมแี นวทางป้องกันและแก้ไขภัย
อันตรายตา่ ง ๆ ท่ีอเราอ่ืจงเกทิด่ี 1ขน้ึอนั ดตังรนายี้ ที่อาจเกดิ ข้ึนในบา้ น
เรอื่ งท่ี 1 เอรันื่องตทรี่า2ยทอี่อนั าตจรเากยิดทขี่อ้นึ าใจนจบะ้าเนกดิ ข้ึนจากการเดินทาง
เร่อื งท่ี 2 เอรัน่ืองตทร่ีา3ยทอี่อันาตจรจาะยเจกาดิ กขภึ้นัยจธารกรกมาชราเตดิินทาง
เร่ือบงททที่ 3่ี 8อนั ทตกั รษายะจชาวี กติ ภเพัยธ่ือรกรามรชคาิดติ
บทท่ี 8 ทัก ษะชวี เนติ เื่อพงจื่อากกาสรภคิดาพสังคม เศรษฐกจิ และการเมอื งในปจั จบุ นั มกี ารเปลีย่ นแปลงอยา่ งรวดเรว็ ท�ำใหป้ ระชาชน
เน่ืตออ้งจงปากรสบั ภตวัาเพพส่ือังดคำ� มรงเชศวี ริตษใฐหกอ้ ิจยรู่ แอลดะภกาายรใเตม้สือถงาในนกปาัจรจณุบ์ทัน่ีแขม็งีกขานั รเแปลละี่ยเรนง่ แรปีบลดงงัอกยล่าา่ งวรวซดึง่ เกรา็วรทที่จาะใปหร้ปับรตะัวชใาหช้อนยตู่ใ้นอง
ปรับตัวเพ่ือสดงั าครมงชไดีวอ้ิตยใหา่ งอ้ มยคี ู่รวอาดมภสาขุ ยจใตำ� เ้สปถน็ าตนอ้ กงามรที ณกั ์ทษี่แะขใน็งขกันารแดลำ� เะนเรนิ ่งชรวี ีบติ ดเชังน่กลท่ากั วษซะึ่งกกาารรแทก่ีจป้ ะญั ปหราับทตกัวษใหะ้อกยาู่ใรนตสดั ังสคนิ มใจไดท้อกั ยษ่าะงมี
วคจิวาารมณสญุขาจณกบาาทเรปเทปค็น่ีดิน็ 9ตอต้อย้นอง่าามงชมีทีพวี ักิจงษาาระนณใบนญรกิกาาาณรร ดด เ้าาปนเน็นสตินุข้นชภีวาิตพ เช่น ทักษะการแก้ปัญหา ทักษะการตัดสินใจ ทักษะการคิดอย่างมี
บทที่ 9 อา ชพี งาในนบปรัจิกจาุบรันดค้านสเรุขาภมีกาพารดูแลสุขภาพของตนเองกันมากขึ้น โดยให้ความส�ำคัญต่อตัวเองเพิ่มเติมจากปัจจัย
ใน4ปจัทจตี่ บุ อ้ นังใคหนค้ เวรามสกี ำ�าครดญั ูแอลยสแู่ ุขลภว้ าจพงึ ขเกอดิ งธตรุนกเจิองากนันบมรากิ าขรน้ึ ดา้ โนดสยขุใหภ้คาวพา มเพสอื่าคตัญอบตส่อนตอัวงเอคงวเาพม่ิมตเอ้ตงิมกจาารกขปอัจงจทยักุ ๆ4คทนีต่ ซ้อง่ึ มใหี ้
นคกาววราดนมแวสผดานแคไผทัญใหนยอนลไยททเาพู่แนี่ยยอ่ืลปจี้ เ้กวะรปาขะจ็นรอเึงทภลยเู่ทกทากสิดาตเปงชธวั ไุรน่าอปกยสกกิจา่ากู่างงรราานฝกรนกึปาวบรดโรรยนแะิกควกผาดะนอรแบไดกผทอ้าานยนารไชเกสทตพีาุขยน้ รกภแเทับพาอำ�พงอ่ืโสารเปนปบเาบน็พิครกล่ือแกิาทู่ตลราาอฝระงบดกึกไปสา้โายนนสรคลก่สูอะีลาุขงรคาภกปศวาารเารพพะมเไตก่อื ดตน้อส้้อแตบุขงออ่ภอกโไาาารปชรพบขพี คิ เอกปแงบั น็ทลงตะุกากน้นๆาบใครรนลนกิ ทลี าซี่นารศ่ึง้ีจดมเะา้พีหนขอ่ื อลสสยาขุ ขุ ยกภภปตาาพรวั พะอไดเยเภป้า่ตทน็งอ่ ตไเกชปน้ าน่ ร

เอกเอสกาสราศรึกศษกึ าษเนาเ้ือนหอื้ าหเรายีเรนียรนู้เพรเู้่ิมพเ่มิตเิมตมิ สาสมาามราถรสถแสกแนกไนดไท้ ด่ี ้ทQี่ RQ-RC-OCDOEDE

แบบฝึกทักษะทางวิชาการเพ่อื ยกผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี น ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2564 กศน.จงั หวดั เลย 51


แบบทดสอบ รายวชิ าสขุ ศึกษา พลศกึ ษา ทช11002

จงเลือกค�ำตอบท่ีถูกตอ้ งเพียงข้อเดียว

1. ร่างกายเส่ือมสภาพลง ผิวหนังเห่ียวย่นการ 8. วธิ ีใดป้องกันโรคตดิ ตอ่ ทางเพศสัมพนั ธไ์ ดด้ ที สี่ ุด
เคล่อื นไหวกช็ ้าลง เปน็ วฏั จกั รชีวิตคือ ก. ตรวจสุขภาพประจำ� ปี
ก. การเกิด ข. การแก่ ข. มีเพศสัมพนั ธท์ างทวารหนัก
ค. การเจบ็ ง. การตาย ค. ใชถ้ งุ ยางอนามัยทุกคร้งั ท่มี เี พศสมั พันธ์
2. ขอ้ ใดเปน็ หนา้ ทข่ี องผิวหนงั ง. ทำ� ความสะอาดร่างกายหลงั มเี พศสมั พันธ์
ก. ห่อหมุ้ รา่ งกาย 9. ข้อใดคือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดจากเช้ือ
ข. ช่วยให้รา่ งกายเกดิ ความเคลอื่ นไหว ไวรสั
ค. รับออกซิเจนภายนอกเข้าส่รู า่ งกาย ก. หนองในเทียม ข. เรมิ ทอี่ วยั วะเพศ
ง. น�ำอาหารและออกซิเจนไปเลีย้ งร่างกาย ค. ซอ่ งคลอดอักเสบ ง. ท่อปัสสาวะอักเสบ
3. อวัยวะแบ่งได้กปี่ ระเภท 10. ข้อใดคอื โรคที่เกิดจากเช้ือแบคทเี รยี
ก. 2 ประเภท ข. 3 ประเภท ก. โลหิตจาง
ค. 4 ประเภท ง. 5 ประเภท ข. หูดหงอนไก่
4. อวัยวะใดท่มี หี น้าที่ฟอกเลือด ค. ไวรสั ตบั อกั เสบบี
ก. ตบั ข. ปอด ค. มา้ ม ง. หัวใจ ง. ทอ่ ปสั สาวะอกั เสบ
5. หน้าทีส่ าํ คญั ของไต คอื 11. สารอาหารท่ีใหพ้ ลงั งานแก่รา่ งกายได้แกข่ อ้ ใด
ก. ฟอกเลือด ก. ไขมัน ข. โปรตนี
ข. ระบบหายใจ ค. วติ ามิน ง. คารโ์ บไฮเดรต
ค. ระบบขบั ถา่ ย 12. สารอาหารท่ีมีหน้าท่ีช่วยการท�ำงานของระบบ
ง. กรองของเสยี ออกจากเลอื ดแดง ต่างๆในรา่ งกายคอื ขอ้ ใด
6. ขอ้ ใดไม่ใช่การสรา้ งสัมพันธภาพทด่ี ใี นครอบครัว ก. ไขมนั ข. โปรตีน
ก. การให้กำ� ลงั ใจ ค. วติ ามนิ ง. คารโ์ บไฮเดรต
ข. การใหค้ วามรกั 13. ไอโอดีนพบมากในอาหารประเภทใด
ค. การปกปิดขอ้ เทจ็ จริง ก. เนือ้ หม ู ข. ผักสีเขยี ว
ง. การใชห้ ลกั ประชาธปิ ไตย ค. อาหารทะเล ง. ข้าวและน�ำ้ ตาล
7. บุคคลใดปฏิบัติตนในการดูแลอนามัยทางเพศได้ 14. ขอ้ ใดไมใ่ ช่โรคติดตอ่
เหมาะสมทสี่ ุด ก. โรคตาแดง ข. โรคอสี กุ อใี ส
ก. สมยศ ใชผ้ ้าเช็ดตัวร่วมกับเพ่ือน ค. โรคเบาหวาน ง. โรคไขห้ วดั ใหญ่
ข. สมทรง ใชน้ ้ำ� ยาซอ่ นเร้นอยเู่ สมอ 15. ข้อใดคอื ยาสามญั ประจำ� บ้าน
ค. สมศักดิ์ ไมอ่ าบน้ำ� หลงั จากออกกำ� ลังกาย ก. ยาเขยี ว ข. ยาแก้แพ้
ง. สมศรี เปลย่ี นผา้ อนามยั บอ่ ยๆขณะมปี ระจำ� เดอื น ค. ยาธาตุน้ำ� แดง ง. ว่านหางจระเข้

52 แบบฝึกทักษะทางวชิ าการเพ่อื ยกผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี น ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 กศน.จังหวดั เลย


16. ขอ้ ใดคือยาเสพตดิ ประเภทออกฤทธิ์หลายอยา่ ง 24. การกระทำ� ใดทำ� ใหอ้ วยั วะในระบบไหลเวยี นโลหติ
ก. ใบกระทอ่ ม ข. กัญชา ท�ำงานไดด้ ขี ้นึ
ค. ยาบา้ ง. ยาอี ก. ใชผ้ า้ ปิดจมกู ขณะทอ่ี ยู่ในทท่ี ีม่ ฝี ่นุ ละออง
17. ยานอนหลบั จดั อยู่ในสารเสพตดิ ประเภทใด ข. ออกกำ� ลังกายสัปดาห์ละ 3 ครงั้
ก. ประเภทออกฤทธ์หิ ลายอยา่ ง ค. อาบน้�ำทุกวนั วนั ละ 2 คร้งั
ข. ประเภทออกฤทธกิ์ ดประสาท ง. กนิ อาหารทีม่ กี ากใยสูง
ค. ประเภทออกฤทธิ์หลอนประสาท 25.ข้อใดเป็นผลกระทบร้ายแรงที่สุดของการมีเพศ
ง. ประเภทออกฤทธ์ิกระตุ้นประสาท สัมพันธ์ก่อนวยั อันควร
18. เมอ่ื มอี าการเมอ่ื ยล้า เครียด ควรใชว้ ิธีนวดแบบใด ก. ทำ� แทง้ ข. ต้ังครรภ์
ก. นวดกดจดุ ข. นวดจับเสน้ ค. ติดเชอื้ เอดส์ ง. ติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
ค. นวดไมเกรน ง. นวดผอ่ นคลาย 26. ในวยั ของนกั เรยี น ขอ้ ใดเปน็ การปอ้ งกนั ตนเองจาก
19. ขอ้ ใดไม่ใชอ่ นั ตรายจากภยั ธรรมชาติ การเสยี่ งตอ่ การติดเชอ้ื เอดส์
ก. สึนามิ ข. แผ่นดนิ ไหว ก. ไมม่ เี พศสัมพันธ์กอ่ นวยั อันควร
ค. การก่อการรา้ ย ง. น้ำ� ปา่ ไหลหลาก ข. ออกก�ำลังกายใหร้ ่างกายแขง็ แรงอยูเ่ สมอ
20. นพชัยมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ข้อมูล ค. สวมถุงยางอนามยั ทกุ ครง้ั เมือ่ มีเพศสัมพันธ์
ตา่ งๆแสดงว่าเขาเปน็ คนมที ักษะชวี ิตในด้านใด ง. ตรวจเลอื ดกอ่ นจะมเี พศสมั พนั ธก์ บั คนทเ่ี ราคบ
ก. ทักษะารตดั สินใจ 27. ข้อใดเปน็ การเคลื่อนไหวร่างกายแตกต่างจาก
ข. ทักษะารแกป้ ัญหา ขอ้ อ่ืน
ค. ทกั ษะการคดิ สร้างสรรค์ ก. กระโดดเชอื ก ข. ขวา้ งลกู บอล
ง. ทกั ษะการคิดอยา่ งมวี ิจารณญาณ ค. รับลูกบอล ง. เต้นลีลาศ
21.ถ้าต่อมลูกหมากท�ำงานผิดปกติ จะส่งผลต่อการ 28. ถ้าบ้านของนักเรียนถูกน�้ำท่วม ควรปฏิบัติตนใน
ทำ� งานของระบบใด การป้องกันโรคฉ่หี นอู ย่างไร
ก. ระบบหายใจ ก. ไมอ่ อกจากบ้านเลย
ข. ระบบไหลเวียนโลหติ ข. สวมเส้อื ชูชีพเมอ่ื ตอ้ งออกจากบ้าน
ค. ระบบสบื พนั ธุ์เพศชาย ค. สวมรองเท้าบตู เมอื่ ต้องออกจากบ้าน
ง. ระบบสืบพันธ์ุเพศหญงิ ง. ใชส้ �ำลชี บุ แอลกอฮอล์เชด็ ทเ่ี ทา้ ก่อนออก
22. การปฏบิ ตั ติ นอยา่ งไรเปน็ การชว่ ยดแู ลระบบสบื พนั ธ์ุ จากบา้ น
ก. ต้อมกินอาหารท่ีมีประโยชน์ 29. กอ่ นนำ� ขยะไปทง้ิ ในทท่ี ง้ิ ขยะของสว่ นรวม นกั เรยี น
ข. ตอ้ ยสวมเส้ือผา้ ท่มี ีราคาแพง ควรท�ำอยา่ งไร
ค. โต้งทำ� ความสะอาดอวัยวะเพศขณะอาบน�้ำ ก. แยกขยะตามประเภท
ง. ตัม้ หลกี เล่ยี งการอย่ใู นทท่ี ม่ี ีการจราจรแออดั ข. ย่อยขยะให้เป็นชิ้นเลก็ ๆ
23. การออกกำ� ลงั กายสมำ�่ เสมอ มผี ลดตี อ่ ระบบหายใจ ค. แยกขยะทีม่ พี ิษไปท้ิงเทา่ นน้ั
อย่างไร ง. ทงิ้ ขยะรวมกันแล้วมดั ปากถุงใหแ้ นน่
ก. ทำ� ใหป้ อดมีถุงลมเพ่มิ มากข้ึน 30. เพราะเหตใุ ดเดก็ ทอี่ ยใู่ นครอบครวั ทแ่ี ตกแยก จงึ มี
ข. ทำ� ให้หวั ใจเตน้ เร็วข้ึน สบู ฉดี เลอื ดไปเลย้ี ง โอกาสติดสารเสพตดิ ไดม้ ากทีส่ ดุ
ส่วนตา่ งๆ ไดเ้ ร็วขน้ึ ก. ถกู ชักจงู ได้ง่าย ข. ต้องการหาท่ีพึง่
ค. ทำ� ใหก้ ล้ามเน้อื หวั ใจแขง็ แรง สบู ฉีดเลอื ดไป ค. ต้องการเป็นผนู้ ำ� ง. ตอ้ งการการยอมรับ
เล้ยี งสว่ นตา่ งๆ ไดม้ ากขน้ึ
ง. ท�ำให้ปอดรบั แก๊สออกซิเจน และขับแก๊ส
คารบ์ อนไดออกไซด์ไดม้ ากข้นึ

แบบฝกึ ทักษะทางวชิ าการเพอื่ ยกผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียน ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2564 กศน.จงั หวดั เลย 53


สรุปเนือ้ หา

รายวิชา ศิลปศึกษา

ทช11003

ทศั นศลิ ป์ หมายถงึ ศลิ ปะที่รับรูไ้ ดด้ ้วยการมอง ได้แก่รปู ภาพทิวทัศน์ท่วั ไปเป็นสำ� คัญอันดบั ตน้ ๆ รปู ภาพ
คนเหมอื น ภาพลอ้ เลียน ภาพส่ิงของต่างๆ ก็ลว้ นแล้วแตเ่ ป็นเรอ่ื งของทศั นศิลป์ด้วยกนั ทั้งส้ิน ซง่ึ ถ้ากล่าวว่าทัศน
ศลิ ปเ์ ป็นความงามทางศลิ ปะ เชน่ งานประตมิ ากรรม งานสถาปัตยกรรม งานสง่ิ พิมพ์ ฯลฯ ทไี่ ด้จากการมอง หรือ
ทัศนา น่ันเอง แบ่งออกเป็น 4 ประเภท 1. จติ รกรรม 2. ประตมิ ากรรม 3. สถาปตั ยกรรม 4. ภาพพมิ พ์
ศลิ ปะพนื้ บา้ นมตี น้ ก�ำเนิดมาตงั้ แตส่ มยั ดกึ ด�ำบรรพ์ โดยมนษุ ยเ์ รม่ิ จากการขดี เขยี นลวดลายตา่ งๆ บนรา่ งกายของ
ตนเอง เพอื่ ใหเ้ กดิ ความสวยงามและนา่ เกรงขามและมนุษย์ยงั สามารถร้จู กั ท�ำกระดูกสตั ว์ หนิ สชี นดิ ต่างๆ มาทำ�
เปน็ เครอ่ื งประดบั มกี ารเขยี นลวดลาย บนภาชนะดนิ เผา เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความสวยงามเพอื่ ใหเ้ กดิ ความสวยงามสะทอ้ น
ความเชอ่ื มโยงระหวา่ งทัศนศิลปก์ ับวิถีชีวิตและภูมิปัญญาได้อย่างประสมกลมกลนื กัน
องคป์ ระกอบทัศนศิลป์พื้นบา้ น
1. ท�ำข้ึนเพ่ือใช้สอยในชีวิตประจ�ำวันของประชาชน ความงามเกิดจากความช�ำนาญการฝึกฝนของช่างท่ี
สบื ต่อมาหลายชั่วอายุคน
2. เปน็ ผลงานทมี่ รี ปู แบบเรยี บงา่ ยทมี่ คี วามงามจากวสั ดธุ รรมชาตแิ ละผา่ นการใชส้ อยจากอดตี จนถงึ ปจั จบุ นั
3. ผลติ เปน็ จำ� นวนมากซอื้ ขายในราคาปกตคิ วามงามเกิดจากการฝึกฝน
4. มีความเป็นธรรมชาติปรากฏอยู่มากกวา่ ความสละสลวย
5. เปน็ ลกั ษณะพเิ ศษเฉพาะถน่ิ
6. เปน็ ผลงานทท่ี ำ� ขึน้ ดว้ ยฝีมือเป็นสว่ นใหญ่
องคป์ ระกอบทัศนศิลป์
1. จดุ หมายถึง ส่วนประกอบทเ่ี ล็กท่ีสดุ เปน็ สว่ นเริ่มตน้ ไปสู่ส่วนอนื่ ๆ
2. เสน้ หมายถงึ จุดหลาย ๆ จดุ ทเ่ี คลือ่ นท่ีต่อเนอ่ื งไปในท่ีวา่ งเปล่า จากทิศทางการเคลือ่ นท่ีต่าง ๆ กัน
3. สี หมายถงึ ลกั ษณะของแสงสวา่ งที่ปรากฏแกส่ ายตาให้เห็น สีต่างกันสเี ปน็ ส่ิงทม่ี ีอทิ ธิพลตอ่ ความร้สู ึก
เม่ือมองเห็น และท�ำใหเ้ กดิ อารมณ์ สะเทือนใจตา่ ง ๆ สีชา่ งเขียนประกอบไปด้วยแมส่ ี 3สีคือ เหลือง แดง น้ำ� เงนิ
ซงึ่ เมือ่ น�ำแม่สมี าผสมกันจะไดส้ ีต่างๆ
4. พืน้ ผวิ หมายถงึ คณุ ลักษณะตา่ ง ๆ ของผวิ ด้านหน้าของวตั ถุทุกชนิดทีม่ ีลักษณะต่าง ๆ กันเชน่ เรยี บ
ขรขุ ระ เป็นมนั วาว หรือด้าน เป็นต้น
5. รปู รา่ ง หมายถึง การบรรจบกนั ของเส้นท่เี ปน็ ขอบเขตของวตั ถทุ ี่มองเห็นเป็น 2 มิติ คือ มีความกว้าง
และความยาว 2 ด้านเท่าน้นั
6. รปู ทรง หมายถงึ รปู ลักษณะที่มองเห็นเปน็ 3 มิติ คือ มีความกว้างความยาวและความหนาลึก
งานศลิ ปะพ้นื บา้ นของไทย จำ� แนกไดเ้ ปน็ ประเภทต่างๆ ดังน้ี
1. จิตรกรรม สว่ นมากทพี่ บเปน็ จิตรกรรมประเพณี ภาพพทุ ธประวตั ิ
2. ประติมากรรม มกั เป็นงานที่สรา้ งสรรคข์ นึ้ มาเพอ่ื ประโยชนใ์ ชส้ อยในชีวติ ประจำ� วนั
3. สถาปตั ยกรรม สรา้ งขนึ้ เกย่ี วขอ้ งกบั วถิ ชี วี ติ ของคนไทยในเรอ่ื งทอี่ ยอู่ าศยั และสถาปตั ยกรรมทางศาสนา
เชน่ สถูปเจดีย์ โบสถ์ วิหาร พระปรางค์ หอไตร เรือนไทย ปราสาท พระราชวงั เป็นตน้

54 แบบฝกึ ทักษะทางวิชาการเพอ่ื ยกผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี น ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศึกษา 2564 กศน.จงั หวดั เลย


4. ภาพพมิ พ์ เปน็ การพมิ พ์ลวดลายผ้าทส่ี รา้ งสรรค์เพ่ือประโยชนใ์ ชส้ อยเปน็ ส่วนใหญ่
ค�ำวจิ ารณ์
งานทัศนศิลปป์ ระเภท จิตกรรม ภาพเขยี นระบายสี

- ดา้ นความงาม ภาพนผ้ี เู้ ขยี นมฝี มี อื และความชำ� นาญในการจดั ภาพสงู จดุ สนใจอยทู่ บ่ี า้ นหลงั ใหญ่ มเี รอื น
หลังเล็กกว่าเป็นตัวเสริมให้ภาพมีเร่ืองราวมากข้ึน ส่วนใหญ่ในภาพจะใช้เส้นในแนวนอนท�ำให้ดูสงบเงียบแบบ
ชนบท

- ดา้ นสาระ เปน็ ภาพทแี่ สดงใหเ้ หน็ วถิ ชี วี ติ ทอี่ ยใู่ กลช้ ดิ ธรรมชาติ มตี น้ ไมใ้ หญน่ อ้ ยเปน็ ฉากประกอบทง้ั หนา้
และหลงั มีสายน้�ำที่ใหค้ วามรู้สกึ เยน็ สบาย

- ดา้ นอารมณ์และความรู้สกึ เปน็ ภาพที่ใหค้ วามรู้สึกผ่อนคลาย สีโทนเขียวของตน้ ไมท้ �ำใหร้ สู้ ึกสดชืน่ เกิด
ความร้สู ึกสงบสบายใจแก่ผู้ชมเปน็ อยา่ งดี
ดนตรีพืน้ บา้ น ในสมยั อยุธยาตอนตน้ มีการกล่าวถึง “การขบั ซอ” ซงึ่ เปน็ ประเพณีของชาวไทยภาคเหนือ
ปรากฏในวรรณคดี ทวาทศมาส และลลิ ิตพระลอ และกล่าวถงึ “เพลงรอ้ งเรือ ซง่ึ เปน็ เพลงทีช่ ายหญิงชาวอยุธยา
ร้องเล่นในเรือ มีเคร่ืองดนตรีประกอบปรากฏใน กฎมณเทียรบาล ท่ีตราขึ้นสมัยพระบรมไตรโลกนาถ ในสมัย
อยธุ ยาตอนปลาย ในรัชกาลพระเจ้าบรมโกศ มกี ารกลา่ วถึง “เพลงเทพทอง” วา่ เปน็ เพลงโตต้ อบท่เี ป็นมหรสพ
ชนิดหน่ึงในงานสมโภชพระพุทธบาทสระบุรี ปรากฏในปุณโณวาทค�ำฉันท์ ของพระมหานาควัดท่าทราย สมัย
รตั นโกสนิ ทร์ สมยั รตั นโกสนิ ทรเ์ ปน็ สมยั ทม่ี หี ลกั ฐานเกยี่ วกบั เพลงพน้ื บา้ นชนดิ ตา่ ง ๆ มากทส่ี ดุ ตง้ั แตร่ ชั กาลท่ี 1
ถึงรัชกาลที่ 5 เป็น “ยุคทอง” ของเพลงพ้นื บ้านทเี่ ป็นเพลงปฏิพากย์จะเหน็ จากการปรากฏเป็นมหรสพในงาน
พระราชพิธแี ละมกี ารสร้างเพลงชนดิ ใหม่ ๆ ขน้ึ มา เช่น เพลงฉอ่ ย เพลงอแี ซว เพลงส่งเครื่อง ซง่ึ เปน็ ท่นี ยิ มของ
ชาวบา้ นไมแ่ พม้ หรสพอ่ืน
การอนุรกั ษเ์ พลงพ้นื บ้านให้คงอย่อู ยา่ งมชี วี ิตและมีบทบาทเหมือนเดิมคงเปน็ สิง่ ท่เี ป็นไปไมไ่ ด้ แตส่ ิง่ ท่ีอาจ
ทำ� ไดใ้ น ขณะนกี้ ค็ อื การอนรุ กั ษ์ เพอื่ ชว่ ยใหว้ ฒั นธรรมของชาวบา้ นซง่ึ ถกู ละเลยมานานปรากฏอยใู่ น ประวตั ศิ าสตร์
ของสงั คมไทยเชน่ เดยี ววฒั นธรรมทเ่ี ราถอื เปน็ แบบฉบบั การอนรุ กั ษม์ ี 2 วธิ กี าร ไดแ้ ก่ การอนรุ กั ษต์ ามสภาพดงั้ เดมิ
ท่เี คยปรากฏ และการอนุรักษ์โดยการประยุกต์ นาฏศลิ ป์พ้ืนบ้าน เปน็ การแสดงทเ่ี กดิ ขนึ้ ตามทอ้ งถิน่ ตา่ งๆ มัก
เลน่ เพอ่ื ความสนุกสนาน บนั เทิง ผ่อนคลายความเหนด็ เหนอื่ ย หรอื เป็นการแสดงทเี่ กยี่ วกบั การประกอบอาชีพ
ของประชาชนตามภาคนนั้ ๆ นาฏศลิ ปพ์ นื้ บา้ นเปน็ การแสดงทสี่ ะทอ้ นความเปน็ เอกลกั ษณข์ องภมู ภิ าคตา่ งๆ ของ
ประเทศไทย ตามลกั ษณะพน้ื ที่ วฒั นธร1ร.มฟท้ออ้ นงเถมน่ิ ืองปรหะมเพายณถที งึ ม่ี กอี ายรคู่ฟกู่ ้อบั นสรงัาคแมบชบนพบน้ื ทเมซืองึ่ งสอเปดน็แทการรกฟคอ้วานมรสาทนม่ีกุ สแี นบาบนแผน ถ่ายทอดสบื
ความบนั เทิงควบคู่ไปกบั การใชช้ ีวิตปรระาจำ�กวานัรฟอ้ นมีแต่ดนตรกี บั ฟ้อน ไม่มกี ารขับร้อง เช่น ฟ้อนเลบ็ ฟอ้ นดาบ ฟอ้ นเจงิ ฟอ้ นผีม
1. ฟ้อนเมือง หมายถึง การฟ2้อ.นฟรอ้�ำนแบมา่บนพ้ืนหเมมาือยงถงึ เปก็นารกฟาร้อฟน้อรานแรบ�ำบทมี่มอีแญบบหแรผือนแบถบ่าพยมท่าอดเปส็นืบกตา่อรกสันบื มทาอดรูปแบบท่ารา
ฟปร้อะนกแองบ้นดเว้ปย็นกตาน้รฟอ้ นรำ� การฟอ้ นมแี ตม3ด่.ีอนฟาตน้อรานกีจเบัเงห้ียฟนวอ้ อื นเชปนไ็นมพกม่ ืน้ากี รเามแรอืสขงดบั งเรชขอ้ น่องงเฟชช้อาน่ วนฟไพตอ้ มนหา่ เรลฟือบ็ ้อไทนฟยผอ้ ใีเนหมดง็ญาฟ่บรอ้ ูปฟนแอ้ จบนา๊ บเดจขหงิ อรฟงือกอ้แานสรผดแมีงสจดด๊างดจหะรเือปล็นเิ กกาไทรฟยใ้อห
2. ฟ้อนมา่ น หมายถงึ การฟอ้ นแรลำ� ะแฆบอ้บงมอเชญน่ หฟรอ้ ือนแไบตบฟพ้อมน่าเงเปย้ี ว็นกฟา้อรนสกืบิงทกอะดหรลปู ่าแฟบ้อบนทโ่าตร�ำ และดนตรี
เม่ือครั้งท่ีพม่าเข้ามามีอ�ำนาจเหนือชนพ้ืนเมือง เช่น ฟ้อนพม่า ฟ้อนผีเม็ง ฟ้อนจ๊าด
หรอื แสดงจา๊ ดหรือลิเกไทยใหญ่
3. ฟ้อนเง้ียว เป็นการแสดงของชาวไต หรือไทยใหญ่ รูปแบบของการแสดง
จะเป็นการฟ้อนร�ำประกอบกับกลองยาว ฉาบ และฆ้อง เช่น ฟ้อนไต ฟ้อนเงี้ยว
ฟ้อนกิงกะหล่า ฟ้อนโต

แบบฝกึ ทกั ษะทางวิชาการเพื่อยกผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 กศน.จงั หวัดเลย 55


แบบทดสอบ รายวชิ าศลิ ปศึกษา ทช11003

จงเลอื กค�ำตอบที่ถูกต้องเพียงข้อเดียว

1. งานทัศนศิลปพ์ นื้ บา้ นมพี ืน้ ฐานมาจากข้อใด 6. การน�ำองค์ประกอบทางทัศนศิลป์ มาจัดภาพให้
ก. ความเชอื่ ปรากฏเด่น และจัดเรื่องราวส่วนประกอบต่าง ๆ ใน
ข. ความงาม ภาพเขา้ ดว้ ยกนั อย่างเหมาะสมเรยี กวา่ อะไร
ค. การประกอบอาชีพ ก. การจัดภาพ
ง. การบอกเลา่ เรอ่ื งงานในท้องถ่นิ ข. การวางภาพ
2. ขอ้ ใดคอื ความหมายของทัศนศิลปท์ ถ่ี กู ท่ีสดุ ค. การวาดภาพ
ก. ศลิ ปะท่รี บั รู้ไดด้ ้วยการมอง ได้แก่รูปภาพ ง. การผสมองค์ประกอบภา
ทิวทศั นท์ ั่วไปเป็นสำ� คัญอันดบั ตน้ ๆ 7. ผีตาโขน เป็นทัศนศิลป์พ้ืนบ้าน ด้านจิตรกรรม
ข. ศิลปะที่รบั รไู้ ด้ด้วยการเหน็ คอื รูปภาพคน ประเภทใด
ค. ศลิ ปะทร่ี บั รไู้ ดด้ ว้ ยการมอง คอื เนน้ เฉพาะภาพ ก. เครอื่ งมโหรสพ
ทิวทศั นเ์ ป็นสำ� คญั ข. สิ่งของเครือ่ งใช้
ง. ศลิ ปะทร่ี บั รไู้ ดด้ ว้ ยการมอง คอื เนน้ เฉพาะภาพ ค. เครื่องเลน่ และพธิ ีกรรม
ชุมชนพืน้ บ้าน ง. เคร่อื งตกแตง่ ชวั่ คราว
3. ขอ้ ใดคอื ศลิ ปะพน้ื บา้ นของไทยทป่ี รากฏตามทอ้ งถนิ่ 8. นาฏศิลป์พื้นบ้านเป็นการแสดงที่สะท้อนความเป็น
ก. สมุดขอ่ ย เอกลักษณข์ องภูมภิ าคต่างๆ ของประเทศไทยยกเว้น
ข. พานบายศรี ขอ้ ใด
ค. หนุ่ กระบอก ก. แสดงตามลักษณะพน้ื ท่ี
ง. ถกู ทกุ ขอ้ ข. แสดงตามสภาพสงั คมปัจจุบนั
4. เส้นท่ีให้ความรู้สกึ สูงสงา่ มนั่ คง แขง็ แรง รงุ่ เรือง ค. แสดงตามวฒั นธรรมท้องถิน่
ก. เส้นตง้ั ง.แสดงตามประทีม่ อี ยูค่ กู่ ับสงั คมชนบท
ข. เสน้ โค้ง 9. ข้อใดคือการฟอ้ น แบบอยา่ งดง่ั เดิม ของภาคเหนอื
ค. เสน้ ตรง ท้งั หมด
ง. เสน้ นอน ก. ฟ้อนเมอื ง ฟ้อนมา่ น ฟอ้ นเงยี้ ว
5. การวเิ คราะห์ วจิ ารณ์ ถงึ ความสวยงานของทศั นศลิ ป์ ข. ฟ้อนเลบ็ ฟ้อนสาวไหม ฟ้อนเงี้ยว
พ้นื บ้านมีแนวทางก่ดี า้ น ค. ฟ้อนเมือง ฟ้อนมา่ น ฟอ้ นเทียน
ก. 1 ดา้ น คือ ดา้ นความงาม ง. ฟอ้ นลอ่ งน่าน ฟอ้ นม่าน ฟอ้ นเลบ็
ข. 2 ดา้ น คอื ด้านความงาม ดา้ นสาระ 10. เคร่ืองดนตรพี ื้นบ้านสะทอ้ นใหเ้ ห็นถึงส่ิงใด
ค. 3 ดา้ น คอื ดา้ นความงาม ดา้ นสาระ ดา้ นอารมณ์ ก. ความนา่ รัก
และความรู้สกึ ข. ความสมบรู ณ์
ง. 4 ดา้ น คอื ดา้ นความงาม ดา้ นสาระ ดา้ นอารมณ์ ค. ความสวยงาม
ด้านชุมชนสงั คม ง. ชีวิตความเป็นอยู่

56 แบบฝกึ ทกั ษะทางวชิ าการเพอื่ ยกผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี น ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศึกษา 2564 กศน.จังหวดั เลย


11. ลำ� เหย่อย คือ การร�ำพื้นเมืองที่เก่าแกช่ นิดหน่ึง 17. ข้อใดคือเครือ่ งดนตรที ี่ใชใ้ นงานสิรมิ งคล เปน็ ขวัญ
ของภาคกลาง มีต้นก�ำเนดิ มาจากจังหวัดใด ก�ำลังใจให้แก่เหล่าทหารในการต่อสู้ให้ได้ชัยชนะคือ
ก. พระนครศรีอยธุ ยา เครอ่ื งดนตรี ขอ้ ใด
ข. สุโขทัย ก. กลองตงึ่ โนง
ค. พษิ ณุโลก ข. กลองเต่งถ้ิง
ง. กาญจนบุรี ค. กลองสะบัดชยั
12. การละเลน่ ชนดิ ใดเปน็ การละเลน่ พนื้ เมอื งของภาค ง. กลองตะหลดปด
อีสาน 18. ขอ้ ใดคอื ความสำ� คญั ของนาฏศิลปพ์ น้ื บ้าน
ก. การแสดงฟ้อนเลบ็ ก. เปน็ เอกลกั ษณ์ประจ�ำชาติ
ข. การแสดงรองเงง็ ข. เป็นประชาธปิ ไตยของชาติ
ค. การเซงิ้ กระตบิ ขา้ ว ค. ทำ� ใหป้ ระชาชนในชาตริ กั กัน
ง. การแสดงหนงั ตะลุง ง. ทำ� ใหป้ ระชาชนในชาตมิ ีความสามคั คี
13. เคร่ืองดนตรที ้องถน่ิ ข้อใดทีม่ คี วามคล้ายคลงึ กัน 19. ค�ำ “ผญา” เป็นแบบอย่างฉันทลักษณ์ที่เข้าข้ัน
ก. ซึง – พิณ วรรณกรรมพ้ืนบา้ น ของภาคใด
ข. ขมิ - สะล้อ ก. เหนือ
ค. สะลอ้ - ฆอ้ ง ข. กลาง
ง. โปงลาง – ซอดว้ ง ค. อีสาน
14. ข้อใดเป็นเครื่องดนตรีประเภทเคร่อื งสี ง. ใต้
ก. จะเข้ 20. การแสดงพนื้ บา้ นทม่ี กี ารรอ้ งเกย้ี วพาราสี ประลอง
ข. ซอดว้ ง ฝีปากระหว่างชาย หญิง มีจังหวะสนุกสนาน คือการ
ค. ตะโพน แสดงในข้อใด
ง. พณิ น้�ำเตา้ ก. เซง้ิ
15. เครอ่ื งดนตรที ยี่ งั คงเปน็ เอกลกั ษณข์ องการแสดงโน ข. ลำ� ตดั
ราหแ์ ละชาตรีคอื ขอ้ ใด ค. ลิเกป่า
ก. โทน ฆ้อง และ ปี ง. ฟอ้ นเล็บ
ข. ซอดว้ ง แคน 21. การเซงิ้ บง้ั ไฟ เกย่ี วข้องกับวถิ ชี วี ิตชาวบ้านขอ้ ใด
ค. กลองกนั ตรึม ฉิ่ง ก. การขอให้ฝนตกตอ้ งตามฤดูกาล
ง. ปอ่ี ้อ ป่สี ไล และกรับ ข. การแก้บนต่อสง่ิ ศักด์สิ ทิ ธ์ิ
16. ข้อใดเกยี่ วข้องกับการกำ� เนิดดนตรีพ้นื บา้ น ค. การขอพรสิ่งศกั ดิ์สิทธ์ิ
ก. คนชัน้ สงู ง. การขอขมาสิง่ ศักด์ิสทิ ธิ์
ข. คนทอ้ งถ่นิ 22. การใช้ภาษาท่าทางประกอบเพลงปลุกใจควรมี
ค. ชาวต่างชาติ ลักษณะอย่างไร
ง. ชนชาติยุโรป ก. เชอื่ งชา้
ข. อ่อนช้อย
ค. แข็งกระด้าง
ง. กระฉบั กระเฉง

แบบฝกึ ทกั ษะทางวชิ าการเพือ่ ยกผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี น ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศึกษา 2564 กศน.จังหวัดเลย 57


23. ข้อใดคือลักษณะท่าร�ำ และท่วงท�ำนองของ 29. ถา้ ต้องการผลติ เคร่อื งดนตรีประเภท “แคน”เพื่อ
นาฏศิลปพ์ น้ื บา้ นภาคอีสาน จ�ำหน่าย ควรเลือกท�ำเลท่ีตั้งการผลิตและการตลาด
ก. ใช้ท่วงทา่ ลีลาอ่อนช้ายสวยงาม ภมู ิภาคใด
ข. กระชบั รวดเรว็ สนุกสนาน ก. เหนือ
ค. มลี ลี า การเช่ือมทา่ การขยบั เท้า ข. กลาง
ง. ใช้ทว่ งทา่ แบบเรียบงา่ ย เก้ียวพาราสี ค. อีสาน
24. การฝึกการแสดงพื้นบ้าน ผู้แสดงจะต้องมีทักษะ ง. ใต้
ภาษาในขอ้ ใด 30. ในสมัยใดถือว่าเป็นยุคทอง ของเพลงพื้นบ้านท่ี
ก. ภาษากลาง เป็นเพลงปฏิพากย์ปรากฏเป็นมหรสพในงานพระราช
ข. ภาษาสากล พธิ แี ละมกี าร สร้างเพลงชนดิ ใหม่ๆข้นึ มา
ค. ภาษาสแลง ก. สมยั อยุธยา
ง. ภาษาท้องถน่ิ ข. สมัยรัตนโกสินทร์
25. การแสดงในข้อใดทส่ี ะทอ้ นให้เหน็ ถึงวัฒนธรรม ค. สมัยสุโขทยั
ด้านภาษา ง. สมัยกรงุ ธนบรุ ี
ก. เซ้งิ บงั้ ไฟ
ข. หนังตะลงุ
ค. ร�ำกลองยาว
ง. ฟ้อนสาวไหม
26. เราสามารถอนรุ กั ษน์ าฏศลิ ป์พ้ืนบ้านได้ด้วยวธิ ใี ด
ที่งา่ ยทส่ี ุด
ก. ชมการแสดงลเิ ก
ข. ฝกึ การฟ้อนเลบ็
ค. ประดิษฐต์ วั หนงั ตะลงุ
ง. สมัครเป็นหางเคร่ืองวงหมอล�ำ
27. ขอ้ ใดเปน็ การอนรุ กั ษศ์ ลิ ปวฒั นธรรม ประเพณี และ
ภูมิปญั ญาของไทย
ก. ล�ำไย สมัครเรยี นล�ำไทย
ข. สชุ าติ สะสมภาพโบราณ
ค. สดุ า อา่ นหนังสือศิลปวฒั นธรรม
ง. สดุ ใจ สบื คน้ ขอ้ มลู นาฏศลิ ปไ์ ทยทางอนิ เทอรเ์ นต็
28. ขอ้ ใดกล่าวถงึ ลักษณะของขลยุ่ ทีด่ ีไดถ้ กู ตอ้ ง
ก. ขลุ่ยทำ� จากไมไ้ ผ่เฉพาะพนั ธุเ์ ท่าน้นั
ข. ไม้ไผท่ ที่ �ำขล่ยุ ส่วนใหญม่ าจากสระบุรีและ
นครราชสมี า
ค. ไมไ้ ผม่ ขี อ้ โดยธรรมชาติ ส่วนปลายของขลุ่ยที่
ไมใ่ ช่เปา่ มีขอ้ ติดอยดู่ ้วยแต่เจาะเป็นรู
ง. ถูกทกุ ข้อ

58 แบบฝกึ ทกั ษะทางวชิ าการเพือ่ ยกผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียน ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศึกษา 2564 กศน.จงั หวดั เลย


สรปุ เนือ้ หา

รายวชิ า สงั คมศกึ ษา

สค11001

สาระสำ� คญั
การไดเ้ รยี นรเู้ กย่ี วกบั ตนเอง สภาพแวดลอ้ มทอ้ งถน่ิ จงั หวดั ภาค และประเทศของตนทงั้ ดา้ นประวตั ศิ าสตร์
ลกั ษณะทางภูมศิ าสตร์ กายภาพ เศรษฐกจิ การเมอื ง การปกครอง ตลอดจนการไดร้ ับการพฒั นาความรู้ ความ
เข้าใจในศาสนา มจี ิตสำ� นกึ และมสี ่วนร่วมในการอนุรกั ษ์วฒั นธรรม ทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้อม
เพอ่ื การพัฒนาที่ย่งั ยืน
ผลการเรียนรู้ทค่ี าดหวัง
1. อธิบายข้อมูลเกี่ยวกับภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมือง การปกครองที่เกี่ยวข้องกับ
ตนเอง ชมุ ชน ท้องถิน่ และประเทศไทย
2. ระบสุ ภาพความเปลยี่ นแปลงด้านภมู ศิ าสตร์ ประวตั ศิ าสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมือง การปกครอง และ
กฎหมายท่ีมีผลกระทบต่อวถิ ชี มุ ชนทอ้ งถ่นิ ชีวติ คน สงั คม และประเทศ
3. เกิดความตระหนักและสามารถน�ำความรู้ทางด้านภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมือง
การปกครองไปประยกุ ตใ์ ชไ้ ด้
บทท่ี 1 ภมู ศิ าสตรท์ างกายภาพประเทศไทย
ลักษณะภมู ปิ ระเทศประเทศไทย
ประเทศไทยมีพนื้ ทป่ี ระมาณ 513,115 ตารางกิโลเมตร มพี ้ืนทีใ่ หญ่เปน็ อนั ดบั ท่ี 3 ของเอเชยี ตะวันออก
เฉยี งใต ้
- ทิศเหนอื จรดประเทศสหภาพเมยี นมาร์(พม่า)และสาธารณรัฐประชาธปิ ไตยประชาชนลาว
- ทศิ ตะวันออก จรดประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว กัมพูชา
- ทิศตะวนั ตก จรดประเทศสหภาพเมยี นมาร์(พม่า)
- ทิศใต้ จรดประเทศมาเลเซีย
การแบ่งภาคภูมิศาสตร์ของประเทศไทยแบ่งตามลักษณะภูมิศาสตร์ได้ 6 ภาค ได้แก่ 1) ภาคเหนือ,
2) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3) ภาคกลาง 4) ภาคตะวนั ออก 5) ภาคตะวนั ตก 6) ภาคใต ้
บทท่ี 2 ประวตั ิศาสตรช์ าติไทย
ประวัติศาสตร์ หมายถงึ เรื่องราวหรือประสบการณ์ในอดีตทเี่ กดิ ข้ึนจากการกระท�ำของมนษุ ย์ ทั้งเรื่องราว
ทีเ่ กีย่ วกับแนวคดิ พฤตกิ รรม สง่ิ ประดษิ ฐ์ มีวิวฒั นาการท่มี า ซ่ึงมนี ักประวตั ิศาสตร์ ไดศ้ ึกษาค้นควา้ ให้รู้เรือ่ งราว
ทเ่ี กิดขึ้นตามวธิ ีการของประวตั ิศาสตร ์ ซ่ึงมีความสำ� คญั ดงั น้ี
1. ช่วยใหม้ นษุ ย์รูจ้ ักตวั เอง
2. ชว่ ยให้เกิดความเข้าใจในมรดก วัฒนธรรมของมนษุ ยชาติ
3. ช่วยเสริมสร้างให้เกิดความระมดั ระวงั ความคดิ รเิ รม่ิ
4. สรา้ งสรรค์ ฝกึ ฝนความอดทน ความสุขุมรอบคอบ

แบบฝึกทักษะทางวิชาการเพอื่ ยกผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 กศน.จังหวดั เลย 59


5. เป็นเหตุการณ์ในอดีตที่มนษุ ย์สามารถนำ� มาเป็นบทเรียนใหแ้ ก่ปัจจุบนั
6. สอนใหค้ นรจู้ กั คดิ เปน็ ไมห่ ลงเชอ่ื สงิ่ ใดงา่ ย ๆ โดยมไิ ดไ้ ตรต่ รองพจิ ารณาใหถ้ ถี่ ว้ นเสยี กอ่ นประวตั ศิ าสตร์
ของชาตยิ อ่ มทำ� ใหเ้ กดิ ความภาคภมู ใิ จในบรรพบรุ ษุ ในตระกลู และในความเปน็ ชาตปิ ระเทศซง่ึ กอ่ ใหเ้ กดิ ความรกั
ชาติ และช่วยกนั รกั ษาชาตบิ า้ นเมืองให้คงอยูท่ ้ังก้าวไปสูค่ วามเจริญ
บทท่ี 3 เศรษฐศาสตร์
เศรษฐศาสตร์ หมายถงึ การศกึ ษาเกย่ี วกบั การเลือกใช้วธิ กี ารต่าง ๆ ในการน�ำเอาทรัพยากรธรรมชาตทิ มี่ ี
อยมู่ าใช้ในการผลติ สินค้าและบริการใหม้ ีประสทิ ธภิ าพมากทส่ี ุด เพ่อื สนองความตอ้ งการและหาวิธกี ารกระจาย
สนิ คา้ และการบรกิ ารไปส่ปู ระชาชนอย่างรวดเร็ว
เศรษฐศาสตร์มคี วามสำ� คัญตอ่ มนุษยท์ กุ สถานภาพ เชน่ ผู้ผลติ ผบู้ ริโภค และเจา้ ของกจิ การผูบ้ ริโภคทมี่ ี
ความร้ทู างเศรษฐศาสตร์ จะช่วยให้รขู้ อ้ มูลและเข้าใจสภาวะเศรษฐกิจของประเทศ สามารถปรับตัวและวางแผน
ทางเศรษฐกิจของครอบครัวได้อย่างเหมาะสมและเกิดประโยชน์ส่วนผู้ผลิต การมีข้อมูลจะช่วยในการวิเคราะห์
วางแผนการผลติ การบรกิ าร ใหม้ คี ณุ ภาพและไดม้ าตรฐานและสามารถพฒั นาสนิ คา้ ใหเ้ ปน็ ทต่ี อ้ งการของผบู้ รโิ ภค
มากขึน้
บทที่ 4 การเมอื งการปกครอง
การเมือง ( Politics)หมายถงึ กระบวนการและวธิ กี าร ทจ่ี ะนำ� ไปสกู่ ารตัดสนิ ใจของกลุ่มคน กิจกรรมทาง
การเมอื งสามารถเกิดข้นึ ได้ทั่วไปในทกุ กลุ่มคนทมี่ ปี ฏิสัมพนั ธก์ ัน ซ่ึงรวมไปถึงในแวดวงธุรกจิ แวดวงวชิ าการ และ
ในวงการศาสนา การเมืองจะมีความสำ� คญั ดังน้ี
1. เปน็ วิถีชีวติ แบบหนึง่ ของคนในรฐั
2. คนในรัฐไมส่ ามารถหนผี ลกระทบทางการเมอื งได้
3. กจิ กรรมทางการเมอื งนำ� ไปสกู่ ารใช้อ�ำนาจเพ่ือออกกฎหมายพัฒนาประเทศและแกป้ ญั หาของประเทศ 61

เอกสารศึกษาเนอ้ื เหอากเสราียรนศรึก้เู พษ่ิมาเเนตอ้ืมิ หาสเารมียานรรถู้เพสแ่มิ กเตนมิ ไดท้สาี่ QมาRร-CถสOแDกEนไดท้ ่ี QR-CODE

คาสั่ง จงเลือกคาตอบท่ีถกู ต้องที่สุดเพยี งขอ้ เดีย ค. การปลูกปา่ ชายเลน
1. ภูมภิ าคใดของประเทศไทยมีสภาพอากาศคล้ายคลงึ
กัน ง. การออกเรือหาปลาในน่านนา้ ไกล ๆ
คขก...6ภภภ0าาาคคคใเกหตล้นา-อืงต--ะวตใตันะ้อวนัอแอกบอบกฝกึ ทกั ษะทางวชิ าการเพอ่ื ยกผลสัมฤทธิท์ าง5ก.ารเขรีย้อนใดภกคา.คือเศหรยีิลลนาักทจ่ีฐ2าารปนึกกี ทาร่เี ศปึกน็ ษลาา25ย6ล4ักกษศนณ.จ์องั หกั วษดั รเลย


แบบทดสอบ รายวิชาสงั คมศึกษา สค11001

จงเลอื กค�ำตอบท่ถี ูกตอ้ งเพียงขอ้ เดียว

1. ภมู ภิ าคใดของประเทศไทยมสี ภาพอากาศคลา้ ยคลงึ กนั 7. ข้อใดแสดงถงึ การบริโภคสนิ ค้าแบบยั่งยืน
ก. ภาคเหนอื - ใต้ ก. ฟ้าใส ใช้ถงุ ผา้ เม่ือไปซือ้ อาหาร
ข. ภาคใต้ - ตะวันออก ข. แกว้ ตา เปดิ น�ำ้ รดตน้ ไมต้ ลอดท้งั วนั
ค. ภาคกลาง - ตะวนั ออก ค. สมชาย เปดิ ไฟไวร้ อบบา้ นในเวลากลางคืน
ง. ภาคตะวนั ออก – ตะวันออกเฉียงเหนอื ง. สมศรี เปลยี่ นโทรศพั ทม์ อื ถอื บอ่ ย ๆ เพอื่ ความ
2. ขอ้ ใดเปน็ การใชป้ ระโยชนจ์ ากตน้ ไมอ้ ยา่ งคมุ้ คา่ ทสี่ ดุ ทันสมัย
ก. โอ๋ ปลูกตน้ ไม้หน้าบ้าน เพือ่ บังแดด 8. บุคคลใดมีพฤตกิ รรมการบรโิ ภคของใชใ้ นครวั เรือน
ข. แขก ซอื้ ตน้ ไมม้ าประดบั บา้ นเพอ่ื ความสวยงาม อยา่ งเหมาะสม
ค. ขจี รว่ มกบั ชมุ ชนปลูกป่าเพ่ือปอ้ งกนั น้�ำท่วม ก. มะลิ ซอ้ื สินค้าตามสมยั นิยม
ในหมูบ่ ้าน ข. กุหลาบ ซื้อสินค้าตามความสนใจ
ง. แก้วปลกู ต้นไม้บรเิ วณข้างบ้านเพือ่ จะตดั ไป ค. ลำ� ใย ซือ้ สินค้าตามความต้องการ
ขายในอนาคต ง. มะนาว ซื้อสนิ คา้ ตามความจ�ำเปน็
3. ข้อใดเปน็ ผลกระทบท่ีสำ� คัญท่สี ุดของการตดั ไม้ 9. ข้อใดคือทุนในการผลติ ตามความหมาย ของปจั จัย
ทำ� ลายป่า การผลิต
ก. การเกดิ ภัยธรรมชาติ ก. แร่ นำ้� มัน
ข. สัตว์ปา่ ขาดทอ่ี ย่อู าศยั ข. เครื่องจักร โรงงาน
ค. มนษุ ยไ์ ม่มีพชื ผลทางการเกษตร ค. พนกั งานในสถานประกอบการ
ง. เกิดสภาวะเน่าเหม็นตามแมน่ �ำ้ ลำ� คลอง ง. ความรู้ ความสามารถของผูป้ ระกอบการ
4. ขอ้ ใดเป็นการอนุรกั ษ์ชายฝัง่ ทะเลได้อยา่ งถกู ตอ้ ง 10. ขอ้ ใดคอื ทรพั ยากรทใ่ี ชแ้ ลว้ สามารถนำ� มาทดแทน
ก. การสร้างเขอื่ น ใหมไ่ ด้
ข. การปลกู หญา้ แฝก ก. อากาศ ข. น�ำ้ มนั
ค. การปลกู ป่าชายเลน ค. แรธ่ าต ุ ง. ปา่ ไม้
ง. การออกเรือหาปลาในน่านน้�ำไกล ๆ 11. ข้อใดเป็นสนิ ค้าประเภทคงทน
5. ขอ้ ใดคอื หลักฐานที่เป็นลายลกั ษณอ์ ักษร ก. อาหาร
ก. ศิลาจารึก ข. หอกสำ� รดิ ข. ถา่ นหนิ
ค. กำ� ไลข้อมือ ง. เปลอื กหอย ค. อปุ กรณ์ไฟฟา้
6. ข้อใดคือพระราชกรณียกิจท่ีส�ำคัญด้านสังคมของ ง. น้ำ� มนั เชื้อเพลงิ
รชั กาลที่ 5 12. สิ่งใดมคี วามจำ� เปน็ ต้องทำ� เป็นอันดบั แรก เมอื่ เกดิ
ก. เลกิ ทาส ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ� การท�ำมาหากนิ ไม่คลอ่ งตวั
ข. พิธีพืชมงคล ก. การออม
ค. ตงั้ ศาลกงสลุ ข. การประหยดั
ง. ห้ามกนิ หมาก ค. การกู้ยมื เงินเพอ่ื ใชจ้ า่ ย
ง. การลงทุนเพือ่ เพมิ่ รายได้

แบบฝกึ ทกั ษะทางวิชาการเพอ่ื ยกผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี น ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศึกษา 2564 กศน.จงั หวัดเลย 61


13. เพราะเหตใุ ดชว่ งเทศกาลวันวาเลนไทน์ 19. ขอ้ ใดคอื ตวั อย่างของการเป็นผูผ้ ลติ ทีด่ ี
ดอกกุหลาบจึงมีราคาแพงกว่าปกติ ก. ขาว ซอ้ื ท่ดี นิ ในพ้นื ทปี่ า่ เพอื่ คดั ไมข้ าย
ก. เปน็ ดอกไม้ทีห่ ายาก ข. แดง น�ำขยะท่ีย่อยสลายไมไ่ ด้จากการผลิตไป
ข. ชาวสวนปลกู นอ้ ยลง ฝงั ดิน
ค. ความตอ้ งการสินค้าสูง ค. ดำ� บำ� บดั น�ำ้ เสยี ที่เกิดจากโรงงานกอ่ นปลอ่ ย
ง. เป็นช่วงฤดูแลง้ ขาดแคลนน้ำ� ลงทะเล
14. ข้อใดคอื องคป์ ระกอบของกิจกรรมทางเศรษฐกจิ ง. ฟ้า น�ำของคุณภาพต�่ำมาผลติ เปน็ สนิ ค้า และ
ก. การผลติ การตลาด การบริโภค ขายสนิ คา้ ในราคาที่ถูกมาก
ข. การผลติ การบริ โภค การแลกเปล่ยี น 20. ข้อใดคือผลงานของพระเจา้ ตากสนิ มหาราช
ค. การผลิต การบริโภค การนำ� เขา้ สินค้า ก. ประดิษฐล์ ายสือไทย
การขนสง่ ข. สถาปนากรุงรัตนโกสนิ ทร์
ง. การผลิต การบริโภค การแลกเปล่ียน ค. ยกทพั ดีคา่ ยพม่าท่ีด่านเจดีย์สามองค์
การกระจายรายได้ ง. นำ� ทหารตฝี า่ วงลอ้ มพมา่ ออกจากกรงุ ศรอี ยธุ ยา
15. ขอ้ ใดเป็นลักษณะสำ� คัญของการปกครองรูปแบบ 21. ขอ้ ใดต่อไปน้ ี ไมใ่ ชเ่ ครอ่ื งมือทางภูมิศาสตร์
ประชาธิปไตย ก. GIS
ก. มสี มาชิกสภาผู้แทนราษฎร ข. SRS
ข. การมีสว่ นรว่ มของประชาชน ค. GPS
ค. มกี ารเลือกตัง้ นายกรัฐมนตรี โดยตรง ง. AIS
ง. การตัดสนิ ใจท�ำการตา่ ง ๆ ไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ 22. ขอ้ ใดตอ่ ไปนเ้ี ปน็ แรอ่ โลหะ ทสี่ ำ� คญั ทพ่ี บในภาคเหนอื
16. ขอ้ ใคคอื การบริหารราชการส่วนกลาง ก. ฟลอู อไรต์
ก. อำ� เภอ ข. แร่ดบี ุก
ข. จังหวัด ค. ทังสเตน
ค. เทศบาล ง. ทองแดง
ง. กระทรวง 23. ประเทศใดบา้ งทม่ี กี ารพฒั นาการระบอบประชาธปิ ไตย
17. บคุ คลใดเปน็ ผปู้ ฏบิ ตั ติ นในการมสี ว่ นรว่ มทางการ ในชว่ ง “คริสต์ศตวรรษท่ี 18 – 19”
เมืองไดถ้ ูกตอ้ งทสี่ ดุ ก. อนิ เดยี ซเี รีย เกาหลี
ก. มานี ออกไปใชส้ ทิ ธใิ นการเลือกตงั้ ข. ไทย จนี ญีป่ นุ่
ข. มาลา ไปเดนิ รณรงค์หาเสียงเลือกต้ัง ค. สหรัฐอเมริกา รัสเซีย องั กฤษ
ค. มาลี ชว่ ยเพอ่ื นหาเสยี งในการเลือกตัง้ ง. สหรัฐอเมรกิ า ฝร่ังเศส นิวซีแลนด์
ง. มานพ ไปฟังการอภิปรายหาเสยี งเลอื กต้ัง 24. “คอสแซค็ ” มีความเก่ยี วขอ้ งกับประเทศยเู ครน
18. ต้องการศึกษาประวัติศาสตรข์ องหมบู่ า้ นไทด�ำ อยา่ งไร
ควรท�ำอะไรเป็นข้ันตอนแรก ก. เปน็ รฐั ทางการทหารของยเู ครน
ก. ต้ังสมมติฐาน ข. เป็นรฐั ที่ปกครองโดยประชาชนของยูเครน
ข. ตีความหลกั ฐาน ค. เปน็ รฐั ที่ปกครองแบบประชาธิปไตย
ค. ตง้ั ประเด็นค�ำถาม ง. ไม่มีขอ้ ใดถูก
ง. คน้ หาและรวบรวมข้อมลู

62 แบบฝกึ ทักษะทางวชิ าการเพ่อื ยกผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 กศน.จังหวัดเลย


25. สิง่ ทีใ่ ชว้ ัดระดบั การพฒั นาเศรษฐกิจของประเทศ 30. ประเทศไทยเขา้ สูก่ ารปกครองระบอบ
ตา่ ง ๆ คืออะไร ประชาธปิ ไตยในรัชสมยั ใด
ก. รายไดต้ ่อบคุ คล ก. รัชกาลท่ี 6
ข. รายได้ประชาชาติ ข. รัชกาลท่ี 7
ค. ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ค. รชั กาลที่ 8
ง. รายได้รวมจากสนิ ค้าและบรกิ าร ง. รัชกาลที่ 9
26. ข้อใดไม่ใช่ส่ิงบ่งบอกว่าเป็นประเทศด้อยพัฒนา
หรือก�ำลงั พฒั นา
ก. รายไดต้ ่ำ�
ข. ประชากรสว่ นใหญ่เปน็ เกษตรกร
ค. มีความแตกต่างกันมากเร่อื งรายได้
ง. เศรษฐกิจของประเทศพ่ึงตวั เองได้
27. ในการวางแผนพัฒนาเศรษฐกจิ จะมีกระบวนการ
พัฒนาโดยเร่มิ ต้นและส้ินสดุ อยา่ งไร
ก. สำ� รวจภาวะเศรษฐกจิ - กำ� หนดเปา้ หมาย
ข. สำ� รวจภาวะเศรษฐกจิ – ประเมนิ ผลการพฒั นา
ค. กำ� หนดเปา้ หมาย – ปฏบิ ตั งิ านตามแผนพฒั นา
ง. กำ� หนดเป้าหมาย – ประเมนิ ผลการพฒั นา
เศรษฐกิจ
28. ข้อใดไม่ใช่อุปสรรคของการด�ำเนินงานตามแผน
พฒั นาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับท่ี 3
ก. สภาพดนิ ฟ้าอากาศแปรปรวน
ข. ภาวะการคา้ และเศรษฐกิจโลกซบเซา
ค. ดลุ การคา้ และดลุ การช�ำระเงนิ ของประเทศ
เกนิ ดลุ
ง. การข้ึนราคาน้ำ� มนั ของกล่มุ โอเปคทำ� ให้เกิด
ภาวะเงนิ เฟ้อ
29. ประเทศใดบ้างที่จัดอยู่ใน “ยุคกลาง” ของการ
พฒั นาการระบอบประชาธปิ ไตย
ก. ไทย จีน ญป่ี นุ่
ข. กรกี ซเี รีย อนิ เดีย
ค. ยเู ครน องั กฤษ สหพนั ธ์ไอโรโควอิส
ง. องั กฤษ ฝรั่งเศส อเมริกา

แบบฝึกทักษะทางวิชาการเพอื่ ยกผลสัมฤทธท์ิ างการเรียน ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศึกษา 2564 กศน.จงั หวดั เลย 63


สรปุ เนอ้ื หา

รายวชิ า ศาสนาและหน้าทีพ่ ลเมอื ง

สค11002

สาระส�ำคญั
เปน็ สาระทเี่ กี่ยวกบั ความหมาย ความสำ� คัญของศาสนา ศาสนาในประเทศไทย ประวัติศาสดา หลักธรรม
ของศาสนา การปฏิบัติตนตามหลักศาสนา ความหมายและความส�ำคัญของวัฒนธรรมประเพณีในประเทศไทย
วฒั นธรรมประเพณที ส่ี ำ� คญั ของทอ้ งถนิ่ การอนรุ กั ษส์ บื สานวฒั นธรรมของประเพณไี ทย คา่ นยิ มทพี่ งึ ประสงคข์ อง
ไทยและของทอ้ งถน่ิ การประพฤตปิ ฏบิ ตั ติ นตามคา่ นยิ มทพ่ี งึ ประสงค์ ความหมายของประชาธปิ ไตย สทิ ธิ เสรภี าพ
บทบาทหนา้ ทขี่ องพลเมอื งใน วถิ ปี ระชาธปิ ไตย การมสี ว่ นรว่ มในการปฏบิ ตั ติ นตามกฎหมาย และการมสี ว่ นรว่ มใน
การปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ มคี ณุ ธรรมและคา่ นิยมพนื้ ฐานในการอย่รู ่วมกนั อยา่ งปรองดองสมานฉันท์
กฎหมายท่เี กี่ยวข้องกับตนเองและครอบครัว กฎหมายท่ีเก่ียวขอ้ งกับชมุ ชน กฎหมายอืน่ ๆ เชน่ กฎหมายแรงงาน
และสวัสดกิ าร กฎหมายว่าดว้ ยสิทธเิ ดก็ และสตรี
เนื้อหาโดยสรุป
เรอื่ งที่ 1 ความหมาย และความส�ำคญั ของศาสนา
“ศาสนา” คอื หลกั ธรรมคำ� สัง่ สอนของศาสดา ท่ีเป็นความเชื่อในหลักการกรรมวธิ ี การปฏิบตั ิตน เพอ่ื เป็น
แนวทางใหผ้ ปู้ ฏบิ ตั เิ กดิ ความเจรญิ ในชวี ติ ศาสนาเปน็ สง่ิ ยดึ เหนยี่ วจติ ใจของคน และศาสนาทกุ ศาสนามจี ดุ มงุ่ หมาย
เดียวกนั คือ สอนใหท้ กุ คนท�ำความดี ละเวน้ จากการทำ� ความช่ัว ดงั น้ันหากคนทุกคนปฏิบัตติ ามหลักธรรมคำ� ส่ัง
สอนของศาสนาทตี่ นนับถอื กจ็ ะท�ำให้ผู้ปฏิบตั มิ คี วามสงบสขุ และอยรู่ ว่ มกนั ในสังคมอยา่ งมคี วามสขุ
บทที่ 2 วัฒนธรรมประเพณี
วัฒนธรรม คอื มรดกแหง่ สงั คมที่มนษุ ยไ์ ดส้ รา้ งสรรคข์ น้ึ และได้รับการถ่ายทอดกนั มาจากอดีตสู่ปัจจุบนั
เป็นผลผลิตท่แี สดงถงึ ความเจรญิ งอกงามทัง้ ดา้ นวัตถุและทไี่ มใ่ ชว่ ัตถุ เชน่ อุดมการณ์ คา่ นยิ ม ประเพณี ศีลธรรม
กฎหมายและศาสนา เป็นต้น
ความส�ำคัญของวัฒนธรรม มีอยู่ 5 ประการ คือ
1. วฒั นธรรมชว่ ยใหม้ นษุ ยส์ ะดวกสบายขนึ้ ชว่ ยแกป้ ญั หาและสนองความตอ้ งการตา่ ง ๆ ของมนษุ ยส์ ามารถ
เอาชนะธรรมชาตไิ ด้ เพราะสร้างวฒั นธรรมขึน้ มาชว่ ย
2. วฒั นธรรมท�ำ ให้สมาชกิ ในสังคมมีความเปน็ อันหนึง่ อันเดียวกนั และสามัคคีกนั
3. วฒั นธรรม แสดงถงึ เอกลกั ษณข์ องชาติ ชาตทิ มี่ วี ฒั นธรรมสงู ยอ่ มไดร้ บั การยกยอ่ ง และเปน็ หลกั ประกนั
ความมนั่ คงของชาติ
4. วัฒนธรรมก�ำ หนดพฤตกิ รรมของคนในสังคมเพ่ือใหอ้ ยรู่ ว่ มกนั อยา่ งสนั ตสิ ขุ
5. วฒั นธรรมท�ำใหป้ ระเทศชาตมิ ีความเจริญรุ่งเรือง
บทท่ี 3 หน้าท่ีพลเมอื งไทย
เป็นสาระที่เก่ียวกับ ความหมายของประชาธิปไตย สิทธิ เสรีภาพ บทบาทหน้าท่ีของพลเมืองในวิถี
ประชาธปิ ไตย การมสี ่วนรว่ มในการปฏบิ ตั ิตนตามกฎหมายและการมสี ว่ นรว่ มในการป้องกนั และปราบปรามการ

64 แบบฝึกทกั ษะทางวชิ าการเพือ่ ยกผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี น ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศกึ ษา 2564 กศน.จงั หวัดเลย


ทุจริต มคี ณุ ธรรมและคา่ นิยมพนื้ ฐานในการอยรู่ ่วมกันอยา่ งปรองดอง สมานฉนั ท์ กฎหมายท่ีเกีย่ วขอ้ งกบั ตนเอง
และครอบครวั กฎหมายทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั ชมุ ชน กฎหมายอน่ื ๆ เชน่ กฎหมายแรงงานและสวสั ดกิ าร กฎหมายวา่ ดว้ ย
สิทธิเด็กแบละทสทต่ี 3รี หนา้ ทีพ่ ลเมืองไทย
ความหมายของปรเปะ็ชนาสธาิประไตทยี่เกี่ยวกับ ความหมายของประชาธปิ ไตย สิทธิ เสรีภาพ บทบาทหน้าที่ของพลเมืองในวิถีประชาธปิ ไ
ประกชาราธมิปีสไ่วตนยรเ่วปมน็ ใรนปู กแาบรปบกฏาิบรัตปิตกนคตราอมงใกนฎปหรมะาเทยแศลมะาจกาากรมคำ�ีส ่ว2นคร่ว�ำ มดใังนนกี้ ารป้องกันและปราบปรามการทุจริต มีคุณธรรมแ
รช านชเปบ็นัณ““ดใฑปอังหนธคคเิรตญกปิะ้ัน่าวย่ีย่ชนไาสวหตามิยปถขย”รมหาร้อือ”นะพมหงก“ป“ชหก้ืานมาปอพรายบัมฐาระธธรขย.ชาาถศปิชิะปนยถอุมือ.ชาไไถงึงใชเตธตานส2ปึงนปิปย”ยียก5รอ”ไรง4กาะหต�ำะหขร2ชฎหมยนชอ้ามาหมเาาางยปใาธยจาชมมหู่รยิปน็ยถสนาา่้วคถรถไึงยงูทกมวตึงปูสึงอเป่ีเกายปุดแปนื่อมปรันบใ็นน็ๆาะหนรอบในพชะมกยหเกาาลชชา่าาญจชาเ่นยงรามรสนป่”ปชขปือกูงทแนรกอสงกฎอล่เีคงปขุดปคหงปะรอกใร็นมศอนรดงคอพาะางปกอรงยปสลชาใรงอแตนเราระงมสระธปรปเหือทงิปมเากรทงรงจศาไะคาือขศตาเนรนอกทรยอแงฉยาศไงปลวรัน์มปะ้วปรดทาร่สาะกรจ์ะเวก.คาทเก“สัทฎกรศมรดศคอหะลกิ างมบาโาทอร2ดยอบยกคทงปกฎาี่ธเารกหรดระี่ยรมปังชวมานกาขชยี้ชค้อวานรงต่าอกดิ งพับว้ใทหยจตี่ถ้คสนนือทิวาเมาธนอมตเิ ุกงดหิขแรก็ มอลมแงาะฉลปยคบะววรสับ่างอตบรี ครัว กฎ หมา
“ประชาธิปไตย เปดน็ ังกนาร้ันปกปครระอชงาขธอิปงปไตระยชาหชมนาโยดถยึงปรปะรชะาชานชเนพปือ่ ปกรคะรชอางชหนร”ือการปกครองโดยประชาชน พจนานุกรมฉ
สรปุราปชรบะัณชาฑธิตปยไตสยถาหนมาพย.ถศงึ.ก2า5ร4ท2ป่ี รใหะช้คาวชานมหรมอื าพยลขเอมงอื ปงรขะอชงาปธริปะไเทตยศไมวอี ้วำ� ่านา“จรแะลบะอมบสี กว่ านรรปว่ กมคในรกอางรทก่ีถำ� ือหมนตดิของปวงชนเป็นใ
นโยบายในหกราือรกปากรคถือรอเสงียปงรขะ้าเทงมศาโกดเยปค็น�ำในหึงญถ่”ึงปแลระโศยาชสนตข์ รอาจงปารยะ์ชดารช.นกสมว่ลนทรวอมงธเปรร็นมหชลาักติ ให้ความหมายว่า “ประชาธิปไตย เป็น
หลักการสป�ำกคคัญรอขงอขงอกงาปรรปะกชคารชอนงรโะดบยปอบระปชราะชชนาธเพิป่ือไตปยระชาชน”
ม ค อืีอสิ กราะร4312ใท....นหหหป่ีหหนอกลลลรลสิโาละยกกักััักรรกั ชบคอกนะสกาำใว�ราติิทานชนายะธิธรมนกทใาร231สิสนเเจาใร�ำ...รสสาชรกอมใุปคหหมรหก้กนาธภีกอญัลลฎลรรปขิ ปาาภะปกักัหักอไขรพรทตาคอกบมสอปะคยาาควาิทแเงชกขใเนายรปกลปนธาคตอมเาระาิธน็ขปรขงจเะเรหิปออสขสน็ปออชปนงไบอมรหงราธตใกา้กงีเภะอชนลิปขคยทปฎเนภากัรไทตร่ีวหพะตทาไใหอขศงดนบคมยกุชมงอ้แแกอเาคโรนงาปปดกายลบะนกยรห็น่ยรบะปฎมกถแดะคมขหอคีราึหงลำ�ชาาอะรกนบวเมะานยนทชงาา้าปชมาถงึปมนิารปี่ทยนแีถรงึธเทวชระ่ีทนงึทปิปแงะไ่ีวีปปชา่วุกดไชรลติชเรารทตคะ้แทนะาเธะะยพาชนกชมยีโปิชงาอ่ืหมยน่มมีแปาไชกกชีคมหีกนมตชฏนาานวนาัีอลวยนริบเราย์ขทภกั�ำปทหอตัมถนอกาาน็ ่ียปริตเงึงงยาฎทเืรอู่รนปปจจใปหว่า่พตะา้ทอฏรเมรมขกช้ะทลัน่ีเิบะกาปอฎาชเยีชชัตยนัมชง็นหามอาิตเออืชนออปมกชบนำ�ยนงมิสาน็ันนนธทา่ขยสีอรกรภเาง่ีเอะป่วารฎปคสจางนภนม็นสวนัยเน็ปกราใาาเงูใตอจนวยรณตมจสสิสิา้มะใกก้เอดุ ฑขุตขทรเเาฎัในปทะ้ขอแ์า่นรแหชภเ็นองศลเกลทปมออาบหะมะายี็นยาาบกรีเลอเมขยนกใเปธตกัาจตกตาดิรกิกนค้า้ขนัจขรคาคขาวอสทมอวขรอจาบูงงาาใออมงแสนกงมเงงทเขลกุดฎกยทปปรตาะใตุหาา่รรพันรขมรธเิะะมเยกทอเีสมรเเาปททส์างียร่วอืยกร็นนิมศศมนงปฎเกรจกหัน่ว้าคมมทขราใาออยนงงงกกทปาารรรรัพะเกมเยทาือ์สหศงิน
ในสังคม 4. หลักนิติธรรม การปกครองในระบอบประชาธิปไตย มีหลักกฎหมายเป็นกฎเกณฑ์และกติกาของประเทศ
การทปี่ ระชาชนใช้กฎหมายเปน็ หลกั ในการดาเนนิ ชีวติ เพอื่ การอยู่รว่ มกันอย่างสนั ตสิ ขุ และเกดิ ความยตุ ธิ รรมในสงั คม

เอเกอสกาสราศรกึ ศษกึ าษเนาเอื้ นห้ือาหเรายีเรนียรนู้เพรูเ้ ่ิมพเ่มิตเมิ ติมสาสมาามราถรสถแสกแนกไนดไ้ทดี่ ท้ Q่ี RQ-RC-OCDOEDE

แบบฝึกทกั ษะทางวชิ าการเพอื่ ยกผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียน ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 กศน.จงั หวดั เลย 65


แบบทดสอบ รายวชิ าศาสนาและหน้าทพ่ี ลเมือง สค11002

จงเลือกคำ� ตอบท่ถี กู ตอ้ งเพยี งขอ้ เดียว

1. ข้อใดคอื ความส�ำคญั ของศาสนาทกุ ศาสนา 8. ขอ้ ใดเป็นขอ้ ควรปฏบิ ตั ใิ นการอยู่รว่ มกันของคนใน
ก. สอนใหค้ นเปน็ คนดี ชุมชนทีน่ บั ถือศาสนาตา่ งกัน
ข. สอนให้ยึดมนั่ ตนเอง ก. ลนิ ดา เขา้ รว่ มกิจกรรมของทกุ ศาสนา
ค. สอนใหเ้ ช่ือถอื ในพระเจา้ ข. นิชา คบเพอื่ นท่ีนบั ถือศาสนาพุทธเท่านั้น
ง. สอนให้เชือ่ ถือในส่งิ ศกั ด์สิ ิทธ์ิ ค. สมพร ไม่ยอมรับลกู เขยท่นี บั ถอื ศาสนาตา่ งกนั
2. หลักธรรมท่พี ระพุทธเจา้ ตรสั รู้คือขอ้ ใด ง. ชมขวญั ช่วยเหลอื ผยู้ ากไร้เฉพาะผนู้ บั ถือศาสนา
ก. อริยสจั 4 ข. ไตรลักษณ์ เดียวกัน
ค. พรหมวหิ าร 4 ง. โอวาทปาติโมกข์ 9. “บญุ บงั้ ไฟ” เปน็ ประเพณที จี่ ดั ขนึ้ เพอ่ื วตั ถปุ ระสงคใ์ ด
3. ขอ้ ใดต่อไปนี ้ คอื คา่ นยิ มของสังคมไทย ก. เพ่ือเปน็ การขอขมาฟา้ ดิน
ก. รกั ความเปน็ ไทย ข. เพ่อื เปน็ การสกั การะเทพเจ้า
ข. คนไทยไมช อบการเบยี ดเบยี นและหาเรอื่ งกบั คนอนื่ ค. เพอื่ บนั ดาลใหฝ้ นตกตามฤดูกาล
ค. การรจู กั ประสานประโยชนร์ จู กั การประนปี ระนอม ง. เพ่ือใหพ้ ชื ผลทางการเกษตรเจริญงอกงาม
ง. ถูกทกุ ข้อ 10. บคุ คลใดปฏิบตั ติ นเป็นผ้อู นุรกั ษป์ ระเพณี ไทย
4. ศาสนาพทุ ธ และศาสนาคริสต์ มจี ุดมุ่งหมายในการ ก. ทนงชยั นุ่งผ้าขาวมา้ เล่นน้�ำทะเล
สอนที่สอดคลอ้ งกันมากทส่ี ุดในขอ้ ใด ข. ลินดา ท�ำกระทงด้วยวัสดธุ รรมชาติ
ก. สอนใหเ้ ป็นคนเสยี สละ ค. จนิ ดา ใช้แจกนั ลายไทยทท่ี ำ� ดว้ ยขวดพลาสตกิ
ข. สอนให้มคี วามรักต่อกนั ง. ฟา้ ใหม่ เล้ยี งฉลองวนั เกิดดว้ ยอาหารไทยพ้ืนบา้ น
ค. สอนใหเ้ ป็นคนซอ่ื สตั ย์ 11. ประเพณใี นขอ้ ใดที่ปฏบิ ตั ิคลา้ ยคลงึ กนั ทุกภาค
ง. สอนใหเ้ ปน็ คนรจู้ ักให้อภยั ก. การโกนจุก ข. การบวชพระ
5. “ธ”ี ตามหลกั ค�ำสอนของศาสนาพราหมณ์ - ฮินดู ค. การโกนผมไฟ ง. การไหว้บรรพบุรษุ
คอื ข้อใด 12. บุคคลใดเป็นแบบอย่างในการอนุรักษ์ประเพณี
ก. ความข่มใจ ประเพณีต่าง ๆ ได้อย่างถกู ต้อง
ข. ปัญญา สติ ความคิด ก. จติ รา แอบเอาพระเครื่องทีพ่ อ่ เกบ็ ไวไ้ ปขาย
ค. ความซอ่ื ตรง ความจรงิ ข. วชิ ยั เกบ็ รวบรวมผา้ ทอโบราณจากทอ้ งถน่ิ ตา่ ง ๆ
ง. การกระทำ� ตนใหบ้ รสิ ุทธท์ิ ง้ั กายและใจ มาเปน็ ของตน
6. “พระมหาชนก” ใช้หลักธรรมในขอ้ ใดเด่นชัดทส่ี ดุ ค. บุษบา ประกาศขายโบราณวตั ถขุ องไทยทาง
ก. ความวริ ิยะ ข. ความเมตตา อินเทอรเ์ น็ต
ค. ความซ่อื สตั ย์ ง ความประหยัด ง. เกื้อกูล เป็นมคั คเุ ทศก์ซึ่งสามารถอธิบายและ
7. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช วฒั นธรรมไทยไดอ้ ย่างเหมาะสม
รชั กาลท่ี 9 ทรงใชห้ ลกั ธรรมใดปฏบิ ัตเิ ปน็ หลักธรรม 13. ประเพณีใดที่มีทกุ ภาคของประเทศไทย
ประจำ� พระองค์ ก. แขง่ เรอื ข. วิง่ ควาย
ก. หลักธรรมาภิบาล ค. สงกรานต์ ง. สารทเดือนสบิ
ข. หลักการและเหตผุ ล
ค. หลกั ทศพิธราชธรรม
ง. หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา

66 แบบฝกึ ทักษะทางวิชาการเพอื่ ยกผลสัมฤทธิท์ างการเรียน ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 กศน.จงั หวดั เลย


14. เม่ือมีคนเกิดในบ้าน ผู้ใดมีสิทธิอนุญาตให้แจ้งชื่อ 22. โทษสงู สุดเกย่ี วกับคดยี าเสพติด คืออะไร
เขา้ มาอยู่ในทะเบยี นบา้ น ก. จำ� คกุ 20 ปี
ก. เจ้าบา้ น ข. ผ้นู ำ� ชุมชน ข. จ�ำคุก 20 ปี ทง้ั จำ� ทง้ั ปรับ
ค. บิดา มารดา ง. บคุ คลในครอบครวั ค. จำ� คกุ ตลอดชีวติ
15. บคุ คลใดไม่ตอ้ งมบี ัตรประจำ� ตวั ประชาชน ง. ประหารชีวิต
ก. ทหาร ข. ตำ� รวจ 23. ประเทศไทยปกครองระบอบประชาธปิ ไตยตงั้ แต่
ค. ภิกษุ สามเณร ง. ผมู้ ีอายุ 60 ปีบรบิ ูรณ์ ปี พ.ศ. อะไร
16. ประชาธปิ ไตยมีความหมายตรงกับข้อใด ก. 2455 ข. 2465
ก. การปกครองของรัฐบาล ค. 2475 ง. 2485
ข. การปกครองคณะรัฐมนตรี 24. ประเพณใี ดท่ีมที ุกภาคของประเทศไทย
ค. การปกครองโดยผูม้ ีอ�ำนาจสูง ก. แข่งเรอื ข. วิ่งควาย
ง. การปกครองของประชาชนโดยประชาชนและ ค. สงกรานต ์ ง. สารทเดือน 10
เพ่ือประชาชน 25. วฒั นธรรม ประเพณมี คี วามสำ� คญั ตอ่ อตุ สาหกรรมใด
17. ขอ้ ใดเปน็ กฎหมายแพ่งเก่ียวกบั ครอบครวั ก. กฬี า ข. การท่องเทีย่ ว
ก. การหมัน้ ค. พาณชิ ยกรรม ง. นนั ทนาการ
ข. การทำ� นิตกิ รรม 26. ในความเป็นชาติแตล่ ะชาติมคี วามแตกต่างใน
ค. การจดทะเบยี นรบั รองสิทธ์ิ ดา้ นใด
ง. การท�ำบัตรประจำ� ตัวประชาชน ก. ภาษา ข. ศิลปะ
18. ข้อใดคอื สิทธิและเสรภี าพขั้นพน้ื ฐานทีส่ �ำคัญที่สุด ค. เชื้อชาติ ง. วฒั นธรรมประเพณี
ก. สิทธิเสรภี าพส่วนบคุ คล 27. การที่ประชาชนใช้หลักเหตุผลเป็นหลักในการหา
ข. สิทธิเสรีภาพในการศึกษา ขอ้ สรปุ เพอ่ื ทำ� งานรว่ มกนั หรอื การอยรู่ ว่ มกนั คอื หลกั
ค. สทิ ธิเสรภี าพทางการเมือง การใดของการปกครองประชาธิปไตย
ง. สทิ ธิเสรีภาพในการประกอบอาชพี ก. หลกั นติ ธิ รรม
19. บคุ คลใดไม่ใช่ทายาทโดยชอบธรรมตามกฎหมาย ข. หลกั การใชเ้ หตผุ ล
ก. บิดา มารดา ข. ผู้สืบสนั ดาน ค. หลกั การประนปี ระนอม
ค. ลงุ ปา้ นา้ อา ง. พน่ี อ้ งตา่ งมารดา บดิ า ง. หลกั การยอมรับเสยี งขา้ งมาก
20. ตามกฎหมายเกย่ี วกบั การศกึ ษา เดก็ ตอ้ งไดร้ บั การ 28. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ สถานภาพทตี่ ดิ ตัวมาต้งั แต่กำ� เนิด
ศึกษาภาคบงั คบั ถงึ ระดับใด ก. เพศหญิง ข. คนอังกฤษ
ก. ระดบั ประถมศกึ ษา ค. เชอ้ื พระวงศ์ ง. นายกรฐั มนตรี
ข. ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น 29. “ความดงี ามทถี่ กู ปลกู ฝงั ขนึ้ ในจติ ใจ มจี ติ สำ� นกึ ทด่ี ี
ค. ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ความละอาย และเกรงกลวั ในการที่จะประพฤติชัว่ ”
ง. ระดับประกาศนยี บตั รวชิ าชีพ คอื ความหมายถึงข้อใด
21. เมอื่ มคี นตายเกดิ ขนึ้ ในบา้ น ใหแ้ จง้ การตายภายใน ก. ค่านิยม ข. คุณธรรม
เวลาเทา่ ใด ค. ปรองดอง ง. ความสมานฉันท์
ก. 24 ชว่ั โมง ข. 2 วัน 30. “ตอ้ งสรา้ งความเขม้ แขง็ ใหค้ นในชมุ ชนทเ่ี ราเขา้ ไป
ค. 3 วัน ง. 7 วัน พัฒนาให้เกิดสภาพพร้อมที่จะรับการพัฒนาเสียก่อน
แลว้ จงึ ค่อยออกมาสสู่ งั คมภายนอก” คือหลกั การทรง
งานใดต่อไปน้ี
ก. ไม่ติดต�ำรา ข.แกป้ ญั หาที่จุดเล็ก
ค. ระเบดิ จากขา้ งใน
ง. ประหยัด เรียบง่าย ไดป้ ระโยชน์สูงสดุ

แบบฝึกทักษะทางวชิ าการเพื่อยกผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี น ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 กศน.จงั หวดั เลย 67


สรุปเนือ้ หา

รายวชิ า การพฒั นาตนเอง ชมุ ชน สงั คม

สค11003

บทท่ี 1 การพัฒนาตนเอง ชุมชน สงั คม
1. ความหมายของการพัฒนาตนเอง ชุมชน สังคม
การพฒั นาตนเอง หมายถงึ การปรบั ปรงุ เปลย่ี นแปลงสง่ิ ทต่ี นเองเปน็ อยู่ มอี ยใู่ หด้ ขี น้ึ และกา้ วหนา้ ไปกวา่ เดมิ
การพฒั นาตนเองต้องคดิ ให้รอบดา้ นว่า เดิมตัวตนของเราเปน็ อยา่ งไร ทงั้ สุขภาพกายและสขุ ภาพใจ เม่ือปรบั ปรุง
ตนเองแลว้ จะสามารถมชี วี ติ ทเี่ ปน็ ไปตามความตงั้ ใจทหี่ วงั ไวห้ รอื ไม่ ความเปลยี่ นแปลงทเ่ี กดิ ขนึ้ ทำ� ใหต้ วั เรามจี ติ ใจ
เบิกบาน มีอารมณ์แจ่มใสขึ้นกว่าเดิมหรือไม่นอกจากน้ียังเป็นความสามารถคิดหาเหตุผลมารองรับให้เกิดความ
กา้ วหน้าทางสตปิ ัญญาของตนเองได้ เมื่อพ่ึงพาสติปญั ญาตนเองได้ ก็ย่อมมโี อกาสให้ผู้อ่นื พงึ่ พาสติปญั ญาตวั เรา
ได้เชน่ กนั
การพฒั นาชมุ ชน หมายถงึ การกระทำ� ทมี่ ุ่งปรับปรุง และสง่ เสรมิ ให้กลุ่มคนทอ่ี ยรู่ ่วมกันมีการเปลี่ยนแปลง
ในทางที่ดขี ึ้น มีความเป็นอย่ทู ีด่ ขี นึ้ สขุ ภาพแขง็ แรง มอี าชพี ทม่ี น่ั คง มคี วามปลอดภยั ในชวี ิตและทรพั ยส์ ิน โดย
อาศยั ความร่วมมอื จากบคุ คลภายในชุมชน และหน่วยงานองค์การต่าง ๆ ท้ังภายในและภายนอกชุมชน
การพฒั นาสงั คม หมายถงึ กระบวนการเปลย่ี นแปลงในทางทด่ี ใี นดา้ นเศรษฐกจิ การเมอื ง สงั คม การปกครอง
และวฒั นธรรม เพอื่ ใหป้ ระชาชนในสงั คมมคี วามเปน็ อยทู่ ด่ี ขี นึ้ ทง้ั ดา้ นทอี่ ยอู่ าศยั อาหาร สขุ ภาพอนามยั การศกึ ษา
การมีงานท�ำและมีรายไดเ้ พยี งพอส�ำหรบั
บทที่ 2 ความหมาย ความส�ำคัญ และประโยชนข์ องข้อมลู
ข้อมูล คือ ขอ้ เทจ็ จริงหรือสภาพเปน็ จรงิ ทีป่ รากฏในรปู ตัวอักษร สัญลักษณ์ ตัวเลข ภาพเสยี ง ค�ำบอกเลา่
จากผู้รู้ สถานการณ์ที่เกิดขน้ึ รวมทัง้ การบันทกึ และการถ่ายทอดผา่ นส่ือต่าง ๆ ทั้งเอกสาร บุคคล วทิ ยุ โทรทัศน์
และอินเทอร์เนต็ เป็นต้น
ลักษณะของข้อมูลท่ีดีต้องเป็นข้อมูลที่มีความถูกต้องและเชื่อถือได้ ตรงตามความต้องการของผู้ใช้ข้อมูล
และควรเป็นข้อมูลทเี่ ปน็ ปจั จบุ ัน และมีความทนั สมัย ซึ่งขอ้ มูลด้านต่าง ๆ มีความส�ำคัญต่อประชาชนมากมาย
มหาศาลท้งั การใชใ้ นชีวิตประจำ� วนั และดา้ นการปฏิบตั งิ าน ดังต่อไปน้ี
- ดา้ นภูมศิ าสตร์ เชน่ บริบทของชมุ ชน ลักษณะของชมุ ชน และลกั ษณะภูมิอากาศ เปน็ ตน้
- ด้านประวัติศาสตร์ เช่น ความเปน็ มาของชุมชนน้ัน ๆ เปน็ ตน้
- ดา้ นการเมอื ง การปกครอง เชน่ การมสี ว่ นรว่ มในกจิ กรรมทางการเมอื งของชมุ ชนและการใชส้ ทิ ธเ์ิ ลอื กตง้ั
ต่าง ๆ เปน็ ต้น
- ดา้ นหน้าท่พี ลเมอื ง เช่น ความจงรกั ภักดีตอ่ สถานบนั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์ ความสามัคคี การมี
ส่วนร่วมแสดงความคดิ เหน็ ความรับผิดชอบต่อหน้าที่ การเคารพกฎ และระเบยี บชุมชน เปน็ ต้น
บทที่ 3 วธิ กี ารจัดเกบ็ วเิ คราะหข์ ้อมลู อยา่ งง่าย และการเผยแพร่ข้อมลู
การจดั เกบ็ ข้อมลู คอื การเก็บรกั ษาขอ้ มลู เพื่อการบรหิ ารโดยการเกบ็ ไว้ในรูปแบบต่างๆ เช่น การทำ� ดว้ ย
มอื ซึง่ เป็นแฟม้ เอกสาร หรือดว้ ยคอมพิวเตอร์ในรปู ของแฟ้มขอ้ มลู เป็นตน้ โดยมีวิธีการรวบรวมข้อมลู ไดแ้ ก่
การสงั เกต การสมั ภาษณ์ การส�ำรวจ การสอบถาม และการรวบรวมข้อมูลทผี่ ้อู ่นื รวบรวมไวแ้ ล้ว

68 แบบฝกึ ทักษะทางวชิ าการเพือ่ ยกผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียน ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2564 กศน.จังหวดั เลย


70
บทที่ 4 การมีสว่ นร่วมในการวางแผนพัฒนาตนเอง ชมุ ชน สังคม
บทท่ี 4 ก ารมีส่วกนารรม่วสี มว่ ในนรกว่ ามรวหามงาแยผถนงึ พกาัฒรนทาบี่ ตคุ นคเลอหงรชอื ุมกชลมุ่นเขสา้ ังมคามมสี ว่ นรว่ มเกยี่ วขอ้ ง รว่ มมอื รว่ มรบั ผดิ ชอบในกจิ กรรม
กพาัฒรนตาดิ ทตี่เา1กปม กก .า็น1ผาารปรรมลกพตรสีากะดิัฒว่ร11าโตรนยนร..ว่า21รชตามม่วกนทรกคมผวา์ตีเ่าิดลปจรหรอ่ รส็นรหกมว่ชอ่วปามามมุมบรรยาตคตชะยถกดั ิดรนโถงึ ยาสวงึ รกหชสนิจดกานังสมใแูจคราอ์ตาทลรมยบหอ่ มร่ีบถมดักีสชกคุึงางัษ่วุมาคยนกนราชลถ้ีาดรนหงึเรวู่แพรมเมสลม่ืออืีสใงัรอื่ใกน่วคักหกลนกมษ้กา่มุราาจิรดรว่เปขกปมเังพา้รรนใรมระนือ่้ีะมาชใกชหมโมุาุมคีสก้แรรว่ปปิจลงนกรว้รกกึระราตว่รชษรอ่ มมุมสามเโหากคาปเาีย่จรรรร็จงวะกึอื กตขตษา้อาอ้ใารนมงงหสเวกรลา�ำัตาว่รอืเรถรมือกว็จปุ มตาตใรืองดันาะโสมกสครนิวางรว่ ัตรคใงมจวกถ์ กราาุปับงจิรรโกผคะกริดสรารชงงรมกอคดหาบ์ารรเในอืนกนิแกานงิจราวกดนทร�ำราเนมงทินกเ่ีงาหารน็น
1ว.2่าดกีทาีส่รรดุ ว่ หมตรอืดั เสหินมใาจะหสมทายส่ี ถดุ ึง เมอ่ื การประชมุ แล้ว ตอ่ มาจะตอ้ งเลอื กตดั สนิ ใจกิจกรรมหรอื แนวทางที่เหน็ ว่า
ดีทสี่ ุด หรือ เหมา1ะ.ส3มกทา่ีสรุดรว่ มปฏบิ ตั ิ หมายถงึ การเขา้ รว่ มการดำ� เนนิ งานตามแผนงานโครงการ เชน่ รว่ มออกแรง รว่ มบรจิ าค
1ท.3รพักายร์ รว่ มปฏิบตั ิ รห่วมมาพยฒัถงึ นกาชารมุ เชขนา้ รเว่ ปม็นกตาน้รดาเนินงานตามแผนงานโครงการ เช่น รว่ มออกแรง ร่วมบริจาค
ทรพั ย์ ร่วม ปฏิบตั 1ิ .ร4่วรมว่ พมฒั ตดินตาชามุมแชลนะเปปร็นะตเมน้ นิ ผล หมายถึง การมสี ่วนรว่ มในการตรวจเยย่ี มดูแลรักษาผลประโยชนท์ เี่ กดิ ขึ้น
จากแผนง11าบ จ..45นาทกโรรทคแว่่ว่ีรผมม5ง1นตรก.ับ5ดิงากาผตรารนลาร่วโมปวมคแรารรละงบังโแะกผยปผาลชรรนปนะไร์เปหะมปโมนิ ยราผชะยลนยถ์กุหึงหตมกม์ใาาาชยรยใ้ ถชถนึงนื่ึงชชกวีกมาติารยรปมินชรีสดน่ื ะว่ แีชจนลม�ำระวย่วในันิมหดใ้กนแี ากลลาะังรใใหตจรกก้ วบั�ำจลผเงัลยใส่ยีจามกเบัดรแู็จผลขลรอสกังำ� กษเราาจ็ รผขดลอาปงเนรกะาินโรงยดาชน�ำนเรนท์ว่ นิ ม่เี กงกาดิ ันนขร้นึ ่วมกัน
บทท่ี 5 ก ารวางกแาผรนวาไงปแปผรนะมยปี กุ รตะใ์ โชยใ้ ชนนชอ์ ีวยติ า่ ปงยระง่ิ ตจอ่าวตนั เอง ชมุ ชน สงั คม เพราะเปน็ สิ่งทบ่ี อกใหเ้ หน็ ถึงทิศทางการพัฒนา
กตานรวเอางงแชผมุนชมนีปรสะงัโคยมชในน์ออยน่าางคยติ่งตเ่อพตอื่ นใหเอท้ งุกชฝุมา่ ยชทนรสาบังครม่วมเกพันราแะลเปะ็นเปส็นิ่งเทค่ีบรออ่ื กงมใหือ้เทห่ใี ็นชเ้ถปึงน็ทแิศนทวาทงากงาใรนพกัฒารนปารตะนสเาอนง
ชุมชน สังคงามนในในอชนุมาชคนตแเลพะื่อรใะหห้ทวุก่าฝงช่าุมยทชนราบชร่ว่วยมใหก้ปันระแชลาะชเปน็นสเาคมรา่ือรงถมปือรทับี่ใตชัว้เเปข็น้ากแับนสวทภางพใแนวกดาลร้อปมรขะอสงาชนุมงชานในแชลุมะชสนังคแมลทะ่ี
ระหว่างชุมเปชลนยี่ ชน่วไปยไใดห้ ปตลระอชดาจชนนชสว่ ยามใหาผ้รน้ถู ปำ� รมับแี ตนัวเคขดิ ้ากกวับา้ สงแภลาะพไแกวลดกลา้อรมวขางอแงผชนุมทชด่ีนเี ปแน็ ลสะง่ิสสังำ�คคมญั ทท่ีเปจ่ี ะลชี่ยถี้ นงึ ไกปาไรดบ้ รตรลลอเุ ปดจา้ หนมชา่วย
ให้ผู้นา มีแอนยว่าคงคิดมุ้กคว้า่ งตแ่อลกะาไกรลงกทาุนรวแาลงะแมผปี นรทะ่ีดสีเทิ ปธน็ ภิ สาิง่ พสานค�ำัญไปทสี่จู่กะาชรี้ถยึงกกราะรดบบั รครณุลเุ ภปา้ พหชมีวาติยปอรยะ่าชงคาชุ้มนคใ่าหต้ด่อีขกน้ึ ารลงทุน และมี
ใปปหรฏ้เะบิกสดิัติทกใิ นธาิภแกรแ จผเาาปุดนพรนลหเวพสนี่ยมทัฒรนาาาแิมไยแนงปผสทปปานรสต่ตีลฏาู้่กพนง้องิบาัฒตแงเรัตออ่กลนยิใงไะากนาปรเตรชพกสะุนมาิ่ม่งดรชเผพอบัเลนูนสงคใรลหสณุ ชิมกัั้เงภุกมสษคดิาชรมณพก้นาะชงเาปทแรีวสเ็น่ีจลิตังปาแปะคลเเผมรป่ียพะน็นนิ่มชเทใแปพาห่ีคปช็นูน้เนลนกแลใงิดใผดักตหปนคษอ่้ดรทนไณขีะปี่คหึน้สะนนิททใ่ึงธด่ีจหภิ ค�ำราเนือปพหก็แนนลลใ่ึงุ่หมะหเค้เพกรนือิ่มิดหกคปลลุณราุ่มะภยคสคานิทพนหธกจิภลานาาหยไพปนคแสดนลู่จขกะุด้ึน�ำเหพหมม่ิามนาคดเยพุณขทึ้่ืนอภต่ี เมอ้าปาพง็นกแเาพจนรนื่อสวไเ่งทปปผา็นสลงู่

เอกเสอากรสศากึ รษศกึาเษนาื้อเหนา้ือเหรายี เนรรียู้เนพริ่มูเ้ พเติม่ มิ เตมิสามสาารมถาสรแถกสนแไกดนท้ ไี่ดQท้ Rี่ Q-CRO-CDOEDE

แบบฝึกทกั ษะทางวชิ าการเพือ่ ยกผลสมั ฤทธิท์ างการเรียน ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2564 กศน.จังหวัดเลย 69


แบบทดสอบ รายวชิ าการพฒั นาตนเอง ชมุ ชน สงั คม สค11003

จงเลอื กค�ำตอบทถี่ ูกต้องเพยี งขอ้ เดียว

1. การพัฒนาตนเอง ควรอาศยั หลกั การใด 7. ข้อมลู ที่อธิบายประวัตคิ วามเป็นมาของชมุ ชน
ก. การมีส่วนรว่ ม เปน็ ขอ้ มูลประเภทใด
ข. การพัฒนาความรู้ ก. ข้อมูลสงั คม
ค. การพัฒนาความคิด ข. ข้อมูลตนเอง
ง. การพฒั นาบคุ ลกิ ภาพ ค. ข้อมูลเชิงคณุ ภาพ
2. แนวคิดขอ้ ใดเป็นหวั ใจของการพัฒนาชุมชน ง. ขอ้ มูลเชงิ ปริมาณ
ก. ความตอ้ งการของชุมชน 8. ขอ้ มลู ชมุ ชนดา้ นการศึกษา มีความสำ� คญั ต่อคนใน
ข. การจดั การศกึ ษาของชุมชน ชุมชนอยา่ งไร
ค. ความคดิ ริเริ่มของประชาชน ก. ท�ำใหม้ ีสขุ ภาพท่ีดี
ง. การมีส่วนร่วมของประชาชน ข. ท�ำใหเ้ กิดงานอาชีพรายไดท้ ม่ี น่ั คง
3. ข้อใดบอกความหมายของขอ้ มลู ไดถ้ ูกต้อง ค. ทำ� ให้เกิดความสมานฉนั ท์ เอ้อื อาทรตอ่ กนั
ก. เชอ่ื ถือได้ ง. ทำ� ให้มีความคดิ สร้างสรรค์ พรอ้ มรับ
ข. มีความทันสมัย การเปลี่ยนแปลงอยูเ่ สมอ
ค. ตรงตามความต้องการของผ้ใู ช้ 9. ขอ้ มลู การพยากรณอ์ ากาศ มคี วามสำ� คญั ตอ่ ประชาชน
ง. ถกู ทกุ ข้อ ด้านใดมากทสี่ ดุ
4. ขอ้ ใดเป็นขอ้ มูลเชงิ คุณภาพ ก. การสอื่ สาร
ก. ราคาข้าวโพดต่อกโิ ลกรัม ข. การปกครอง
ข. หมายเลขทะเบยี นรถยนต์ ค. การประกอบอาชพี
ค. คะแนนสอบวิชาภาษาไทย ง. การบรกิ ารสาธารณสขุ
ง. จ�ำนวนผูโ้ ดยสารรถประจำ� ทาง 10. ขอ้ มูลเกยี่ วกับกลุ่มอาชพี ของคนในชมุ ชน มคี วาม
5. ขอ้ ใดบอกความส�ำคัญของขอ้ มลู ได้ถกู ต้อง สำ� คญั อยา่ งไร
ก. ขอ้ มูลดิบจะถูกนำ� มาวิเคราะหเ์ กบ็ ไว้ ก. บอกความเจรญิ ของชมุ ชน
ข. ข้อมูลท่ีดีจะเกบ็ ไว้ในเครือ่ งบันทกึ ขนาดใหญ่ ข. เป็นแนวทางในการพฒั นาชมุ ชน
ค. ขอ้ มลู ที่คลาดเคลื่อนจะตอ้ งนำ� มาปรบั ปรุงแก้ไข ค. ทำ� ให้ทราบความเป็นมาของชุมชน
ง. ข้อมูลชว่ ยในการตดั สินใจการดำ� เนนิ ชวี ติ ง. เกิดการตัดสนิ ใจในการประกอบอาชพี
ประจ�ำวนั ไดอ้ ย่างต่อเน่ือง 11. “ความจงรกั ภกั ดตี อ่ สถาบนั ชาติ ศาสนา พระมหา
6. ครพู รพรรณ ตอ้ งการศึกษาพฤตกิ รรมการทำ� งาน กษัตริย”์ เปน็ ทม่ี าของขอ้ มลู ด้านใด
ของเดก็ หญงิ ก้อย ควรเกบ็ ขอ้ มูลดว้ ยวธิ ีการใด ก. ดา้ นหนา้ ทพ่ี ลเมอื ง
ก. การสอบ ข. ด้านประวัตศิ าสตร์
ข. การพูดคุย ค. ดา้ นการเมอื ง การปกครอง
ค. การสงั เกต ง. ด้านศาสนา วฒั นธรรม ประเพณี
ง. การสัมภาษณ์

70 แบบฝึกทกั ษะทางวชิ าการเพื่อยกผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี น ภาคเรียนที่ 2 ปีการศกึ ษา 2564 กศน.จังหวดั เลย


12. เคร่ืองมือข้อใดใช้ในการจัดเก็บข้อมูลโดยการซัก 17. ข้อใดแสดงใหเ้ ห็นถงึ การไดร้ บั ประโยชน์จากการ
พัฒนาชมุ ชน
ถามและพดู คยุ ก. มีการตดิ ตามประเมนิ ผล

ก. แบบสัมภาษณ์ ข. มแี ผนการพัฒนาท่แี น่นอน
ค. สร้างบคุ ลิกภาพทีด่ ีให้คนในชุมชน
ข. แบบทดสอบ ง. ชมุ ชนพึ่งตนเองได้ คนในชมุ ชนมีความสุข
ค. แบบบนั ทกึ 18. ข้อใดจัดอย่ใู นประเภทของข้อมูล
ง. แบบสังเกต ก. ข้อมูลเชิงตัวเลข
13. การน�ำผลที่ได้จากการวิเคราะห์ข้อมูลไปน�ำเสนอ ข. ข้อมูลเชงิ คุณภาพ
ใหด้ งึ ดดู ความสนใจ ควรเลอื กวธิ ใี ด ค. ข้อมลู เชงิ คณุ สมบัติ
ก. การนำ� เสนอเปน็ กราฟ ง. ขอ้ มลู เชงิ สัญลักษณ์
ข. การน�ำเสนอเป็นตาราง 19. ข้อมูลเกีย่ วกบั ปา่ ไม้ แร่ธาตุ แหล่งนำ�้ เปน็ ข้อมูล
ค. การน�ำเสนอเป็นรูปภาพ ประเภทใด
ง. การน�ำเสนอเปน็ บทความ ก. ขอ้ มูลตนเอง
14. ข้อใดเป็นการน�ำเสนอข้อมลู ท่กี ะทัดรดั ส้ัน ข. ขอ้ มลู ชมุ ชน
อา่ นได้งา่ ย ค. ขอ้ มูลภมู ิศาสตร์
ก. การนำ� เสนอเป็นตาราง ง. ขอ้ มูลประวัตศิ าสตร์
ข. การนำ� เสนอเป็นกราฟ 20. ขอ้ ใดคือความสำ� คัญของข้อมูลด้านประวตั ศิ าสตร์
ค. การน�ำเสนอเป็นรูปภาพ ก. รู้เหตกุ ารณท์ ่เี กดิ ขึน้ ในอดีตทั้งหมด
ง. การนำ� เสนอเป็นบทความ

15. ข้อใดไม่ใช่องค์ประกอบของการจัดท�ำเวที ข. รขู้ อ้ มูลเหตุการณค์ วามเป็นมา
ประชาคม ของประเทศชาติ

ก. มีวตั ถปุ ระสงคท์ ช่ี ัดเจน ค. เร่ืองราวในอดตี มกี ารเก็บข้อมลู
ด้วยการตีความในส่งิ พมิ พต์ ่าง ๆ
ข. มกี ารสรปุ ประเดน็ ปญั หาไดช้ ดั เจน ง. มีการบันทกึ หลักฐานประวดั ศิ าสตร ์

ค. มีผเู้ ขา้ รว่ มอภิปรายแสดงความคิดเหน็ ความเปน็ มาของตนเองในชมุ ชน

ง. มเี จ้าหนา้ ที่ของรฐั เขา้ รว่ มเป็นส่วนมาก
16. ขอ้ ใดเปน็ ประโยชน์จากการเขา้ ร่วมเวทปี ระชาคม 21. ชายทม่ี สี ญั ชาตไิ ทย ต้องไปแสดงตนทีอ่ �ำเภอ
เพอื่ ลงบัญชที หารกองเกิน เมอ่ื มอี ายุยา่ งเทา่ ใด
เพื่อการพฒั นาตนเอง ก. 15 ปี ข. 16 ปี
ค. 17 ปี ง. 18 ปี
ก. ได้รว่ มประชุมเพอื่ ให้ครบองคป์ ระชมุ 22. ทรพั ยส์ ินในขอ้ ใดเป็นอสงั หารมิ ทรพั ย์
ข. ไดม้ กี ารแลกเปลีย่ นความคดิ เหน็ และเกดิ ก. รถยนต์
การเรยี นรู้ ข. ทองค�ำแทง่
ค. ได้พบปะพูดคุย วพิ ากษ์วจิ ารณ์การท�ำงานของ ค. คอน โดมเิ นยี ม
ผนู้ �ำชมุ ชน ง. เครอ่ื งคอมพิวเตอร์
ง. ไดม้ สี ว่ นชว่ ยออกเสยี งและอำ� นวยความสะดวกใน
การประชมุ ของชมุ ชน

แบบฝึกทักษะทางวิชาการเพอ่ื ยกผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี น ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2564 กศน.จงั หวัดเลย 71


23. ตามกฎหมายเกี่ยวกับจราจร เมื่อสัญญาณไฟ 29. “การที่ประชาชนไม่ใช้ความรุนแรงในการแกไข
เหลืองกระพรบิ ต้องปฏบิ ัตอิ ยา่ งไร ปัญหา” คือหลักการใดของการปกครองระบอบ
ก. เคลื่อนรถไปเร็วๆ ประชาธปิ ไตย
ข. เตรยี มตัวเคล่ือนรถ ก. หลกั การประนปี ระนอม
ค. ลดความเรว็ และเตรียมหยุดรถ ข. หลกั การยอมรับเสียงขา้ งมาก
ง. หยุดรถ ดจู นแนใ่ จว่าปลอดภัยไม่กดี ขวางทาง ค. หลกั สทิ ธิ เสรภี าพ และหนา้ ท่ี
จราจร ง. หลกั อํานาจอธปิ ไตยเปน็ ของปวงชน
24. พระราชบญั ญตั ิสงิ่ เสพติดใหโ้ ทษ พ.ศ. 2522 สง่ิ 30. สถานภาพใดท่ีตดิ ตัวมาตงั้ แต่กําเนดิ
เสพตดิ ให้โทษชนดิ ร้ายแรงประเภทที่ 1 คือขอ้ ใด ก. สถานภาพทางเพศ
ก. ฝ่ิน ข. กญั ชา ข. สถานภาพทางการเมอื ง
ค. โคเคน ง. เฮโรอีน ค. สถานภาพทางอาชพี
25. พ.ร.บ. ควบคุมผลิตภณั ฑ์ยาสบู พ.ศ.2560 หา้ ม ง. สถานภาพทางการสมรส
ขายบหุ รีใ่ ห้แกผ่ ทู้ ม่ี ีอายุต่�ำกว่าก่ปี ี
ก. 17 ปี
ข. 18 ปี
ค. 19 ปี
ง. 20 ปี
26. กรณที ตี่ อ้ งเขา้ ไปตรวจคน้ เคนสถานทส่ี งสยั วา่ มกี าร
ละเมิดสิทธิเด็ก เจา้ หนา้ ท่มี ีหลกั ปฏบิ ัตอิ ย่างไร
ก. ตอ้ งน�ำแพทย์ไปดว้ ย
ข. ขอให้ศาลออกหมายคน้
ค. ไปพร้อมกบั นักจติ วทิ ยา
ง. ไมต่ ้องขอหมายค้นจากศาล
27. ฟา้ ใส ซอื้ อาหารกระป๋องมา พบสิง่ แปลกปลอมอยู่
ในกระปอ๋ ง ขอ้ ใดต่อไปน้คี ือสทิ ธขิ องฟา้ ใสที่พงึ ได้รบั
ก. สิทธิในการรบั ข่าวสาร
ข. สทิ ธิในการเลือกซือ้ สินค้าโดยอสิ ระ
ค. สิทธไิ ด้รบั การชดเชยจากการเสยี หาย
ง. สทิ ธิได้รบั ความเป็นธรรมในการท�ำสญั ญา
28. สาเหตใุ ดที่รัฐตอ้ งบัญญัตสิ ิทธิ เสรีภาพและหนา้ ที่
ของบคุ คลไว้ในรฐั ธรรมนูญ
ก. เพอื่ รักษาสทิ ธิเสรภี าพของบคุ คล
ข. เพอื่ ความรักความสามัคคีของกลุม่ คน
ค. เพ่อื ให้ประเทศไดร้ บั การพฒั นาเท่าเทยี ม
ประเทศอนื่ ๆ
ง. เพอ่ื ให้ประชาชนไดร้ ับการค้มุ ครองและปฏิบัติ
อยา่ งเสมอภาค

72 แบบฝึกทกั ษะทางวชิ าการเพื่อยกผลสัมฤทธท์ิ างการเรียน ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2564 กศน.จงั หวดั เลย


เฉลยแบบทดสอบ

เฉลยแบบทดสอบ วิชาทกั ษะการเรยี นรู้ รหสั วชิ า ทร11001
1. ง 6. ข 11. ค 16. ค 21. ข 26. ง
2. ค 7. ข 12. ข 17. ค 22. ง 27. ก
3. ก 8. ข 13. ข 18. ข 23. ค 28. ง
4. ง 9. ค 14. ค 19. ง 24. ค 29. ก
5. ก 10. ง 15. ก 20. ก 25. ข 30. ก

เฉลยแบบทดสอบ วิชาภาษาไทย รหสั วิชา พท11001
1. ค. 6. ก. 11. ข. 16. ค. 21. ค. 26. ข.
2. ก. 7. ค. 12. ค. 17. ง. 22. ง. 27. ก.
3. ง. 8. ค. 13. ง. 18. ค. 23. ค. 28. ง.
4. ข. 9. ค. 14. ก. 19. ก. 24. ก. 29. ค.
5. ค. 10. ง. 15. ก. 20. ข. 25. ข. 30. ค.

เฉลยแบบทดสอบ วิชาภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน รหัสวิชา พต11001
1. c 6. a 11. a 16. a 21. a 26. c
2. c 7. a 12. c 17. d 22. b 27. b
3. c 8. a 13. a 18. c 23. c 28. d
4. b 9. b 14. c 19. b 24. d 29. c
5. a 10. d 15. b 20. b 25. c 30. c

เฉลยแบบทดสอบ วิชาคณิตศาสตร์ รหัสวชิ า พค 11001
1. ข 6. ง 11. ข 16. ก 21. ค 26. ข
2. ข 7. ข 12. ข 17. ข 22. ง 27. ง
3. ก 8. ข 13. ค 18. ก 23. ค 28. ก
4. ก 9. ง 14. ก 19. ข 24. ค 29. ง
5. ง 10. ก 15. ค 20. ค 25. ก 30. ก

เฉลยแบบทดสอบ วิชาวทิ ยาศาสตร์ รหสั วิชา พว 11001
1. ข 6. ค 11. ข 16. ง 21. ก 26. ก
2. ค 7. ก 12. ข 17. ค 22. ง 27. ง
3. ก 8. ค 13. ข 18. ง 23. ก 28. ง
4. ง 9. ง 14. ก 19. ค 24. ง 29. ง
5. ก 10. ง 15. ง 20. ง 25. ค 30. ค

แบบฝกึ ทกั ษะทางวิชาการเพื่อยกผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี น ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2564 กศน.จังหวดั เลย 73


เฉลยแบบทดสอบ วิชาช่องทางการเขา้ สู่อาชพี รหสั วิชา อช11001
1. ข 6. ก 11. ค 16. ข 21. ง 26. ค
2. ง 7. ก 12. ค 17. ค 22. ก 27. ค
3. ก 8. ง 13. ก 18. ข 23. ค 28. ง
4. ง 9. ก 14. ง 19. ก 24. ก 29. ก
5. ก 10. ค 15. ก 20. ก 25. ก 30. ข

เฉลยแบบทดสอบ วิชาทักษะการประกอบอาชพี รหัสวิชา อช11002
1. ค 6. ข 11. ก 16. ง 21. ง 26. ข
2. ค 7. ก 12. ง 17. ค 22. ง 27. ก
3. ง 8. ก 13. ง 18. ค 23. ง 28. ค
4. ค 9. ง 14. ง 19. ง 24. ข 29. ง
5. ง 10. ค 15. ก 20. ง 25. ง 30. ก

เฉลยแบบทดสอบ รายวชิ าพัฒนาอาชีพให้มีอยู่มีกิน รหัสวิชา อช 11003
1. ง 6. ง 11. ข 16. ง 21. ค 26. ข
2. ง 7. ก 12. ค 17. ง 22. ก 27. ง
3. ข 8. ค 13. ง 18. ข 23. ข 28. ค
4. ง 9. ค 14. ง 19. ง 24. ค 29. ง
5. ก 10. ง 15. ง 20. ข 25. ก 30. ง

เฉลยแบบทดสอบ รายวิชาเศรษฐกิจพอเพยี ง รหัสวชิ า ทช 11001
1. ค 6. ก 11. ง 16. ข 21. ก 26. ก
2. ก 7. ค 12. ค 17. ค 22. ง 27. ก
3. ง 8. ข 13. ก 18. ก 23. ข 28. ง
4. ก 9. ก 14. ข 19. ค 24. ง 29. ค
5. ค 10. ง 15. ก 20. ข 25. ข 30. ข

เฉลยแบบทดสอบ รายวิชาสขุ ศึกษา พลศกึ ษา รหัสวชิ า ทช 11002
1. ข 6. ค 11. ง 16. ข 21. ค 26. ก
2. ก 7. ง 12. ค 17. ข 22. ก 27. ง
3. ก 8. ค 13. ค 18. ง 23. ค 28. ค
4. ข 9. ข 14. ค 19. ค 24. ข 29. ก
5. ง 10. ง 15. ค 20. ง 25. ข 30. ข

74 แบบฝึกทกั ษะทางวชิ าการเพอื่ ยกผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี น ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศึกษา 2564 กศน.จังหวัดเลย


เฉลยแบบทดสอบ รายวิชาศิลปศึกษา รหัสวชิ า ทช 11003
1. ค 6. ก 11. ง 16. ข 21. ก 26. ก
2. ก 7. ค 12. ค 17. ค 22. ง 27. ก
3. ง 8. ข 13. ก 18. ก 23. ข 28. ง
4. ก 9. ก 14. ข 19. ค 24. ง 29. ค
5. ค 10. ง 15. ก 20. ข 25. ข 30. ข

เฉลยแบบทดสอบ รายวชิ าสังคมศกึ ษา รหัสวชิ า สค11001
1. ข 6. ก 11. ค 16. ง 21. ง 26. ค
2. ค 7. ก 12. ข 17. ก 22. ก 27. ง
3. ข 8. ง 13. ค 18. ค 23. ง 28. ก
4. ค 9. ข 14. ง 19. ค 24. ก 29. ค
5. ก 10. ก 15. ข 20. ง 25. ข 30. ข

เฉลยแบบทดสอบ รายวชิ าศาสนาและหน้าท่พี ลเมือง รหสั วิชา สค11002
1. ง 6. ค 11. ง 16. ค 21. ก 26. ง
2. ง 7. ก 12. ค 17. ก 22. ง 27. ข
3. ข 8. ค 13. ก 18. ง 23. ค 28. ง
4. ข 9. ข 14. ค 19. ข 24. ค 29. ข
5. ก 10. ข 15. ง 20. ข 25. ข 30. ค

เฉลยแบบทดสอบ รายวิชาการพฒั นาตนเอง สังคม และชมุ ชน รหัสวชิ า สค11003
1. ค 6. ค 11. ก 16. ข 21. ง 26. ค
2. ง 7. ก 12. ก 17. ง 22. ค 27. ค
3. ง 8. ง 13. ก 18. ข 23. ค 28. ง
4. ค 9. ค 14. ง 19. ค 24. ง 29. ก
5. ง 10. ข 15. ง 20. ง 25. ง 30. ก

แบบฝึกทกั ษะทางวิชาการเพ่อื ยกผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี น ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศึกษา 2564 กศน.จังหวดั เลย 75


แบบบนั ทกึ การพฒั นาการเรยี นรู้ รายวชิ าบงั คบั
ระดบั ประถมศกึ ษา

ชอื่ -สกลุ ..................................................................................รหสั นกั ศกึ ษา............................................................

กศน.ตำ� บล...............................................................กศน.อำ� เภอ............................................................จงั หวดั เลย
จากการท่ีผเู้ รยี นได้ศกึ ษาเรยี นรจู้ ากแบบเรยี น และสรปุ เน้ือหาจากบทเรียนในรายวิชาตา่ ง ๆ ตามเอกสาร
เล่มนีแ้ ล้ว ผเู้ รยี นสามารถทราบได้ว่าทำ� แบบทดสอบในรายวชิ าต่างๆ ถกู ต้องจำ� นวนก่ีขอ้ โดยการบนั ทกึ ในแบบ
บนั ทกึ การพฒั นาการเรียนรู้ รายวชิ าบงั คบั ระดับประถมศึกษา ดงั น้ี

ท่ี วชิ า คะแนนเตม็ คะแนนทไ่ี ด้ ผลการประเมิน

1 ทักษะการเรยี นรู้ ทร11001 20

2 ช่องทางการเข้าสูอ่ าชีพ อช11001 20

3 ทกั ษะการประกอบอาชีพ อช11002 20

4 พัฒนาอาชีพให้มอี ยมู่ กี ิน สค11003 20

เกณฑก์ ารประเมนิ ผลการพฒั นาทกั ษะวชิ าการผเู้ รยี นรายบคุ คล
ระดบั ประถมศกึ ษา

เมอ่ื ท�ำแบบทดสอบในแตล่ ะรายวิชาบงั คับระดบั ประถมศึกษาแล้ว ซงึ่ มีแบบทดสอบรายวชิ าละ 20 ข้อ ผู้
เรียนสามารถทราบไดว้ ่ามีความร้อู ยู่ในระดับใด ดงั นี้

จำ�นวนขอ้ สอบทผ่ี ู้เรียนทำ�ถกู ต้อง อยู่ในระดับ หมายเหตุ

18 - 20 ข้อ ดีมาก 18 - 20 ข้อ
16 - 17 ขอ้ ดี 16 - 17 ขอ้
14 - 15 ข้อ 14 - 15 ขอ้
10 - 13 ขอ้ ปานกลาง 10 - 13 ข้อ
ตำ่� กว่า 10 ขอ้ พอใช้ ตำ่ �กวา่ 10 ข้อ

ควรปรบั ปรุง

หมายเหตุ: ผลจากการประเมนิ ผู้เรียนสามารถน�ำไปปรบั ปรุงตนเองเพือ่ ให้เกดิ การพัฒนาต่อไป

76 แบบฝกึ ทักษะทางวชิ าการเพือ่ ยกผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียน ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2564 กศน.จงั หวัดเลย


บรรณานุกรม

สํานักงานสงเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย สํานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
กระทรวงศึกษาธิการ. หนงั สือเรยี นสาระทักษะการเรยี นรู้ รายวิชาทักษะการเรียนรู้ (ทร11001) ระดับ
ประถมศกึ ษา (ฉบบั ปรบั ปรงุ 2554). กรงุ เทพ. ลขิ สทิ ธเิ์ ปน็ ของ สาํ นกั งาน กศน. สาํ นกั งานปลดั กระทรวง
ศกึ ษาธิการ .2554
หนังสือเรียนสาระความรพู้ นื้ ฐาน รายวชิ าภาษาไทย (พท11001) ระดบั ประถมศกึ ษา, กรุงเทพ, 2554
การศกึ ษานอกโรงเรยี น, กรม. ชดุ วชิ าพฒั นาอาชพี . ระดบั ประถมศกึ ษาชดุ วชิ าการศกึ ษาชอ งทางการประกอบ
อาชพี . กรุงเทพฯ : โรงพมิ พช ุมนมุ สหกรณการเกษตรแหงประเทศไทย จาํ กดั , 2541.
หนังสือเรียนสาระการพัฒนาสังคม รายวิชา ศาสนาและหน้าที่พลเมือง (สค11002) ระดับประถมศึกษา
หลกั สตู รการศกึ ษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)
ส�ำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย.ส�ำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ.
กระทรวงศึกษาธิการ

แบบฝึกทักษะทางวชิ าการเพือ่ ยกผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี น ภาคเรียนที่ 2 ปีการศกึ ษา 2564 กศน.จังหวัดเลย 77


คณะผจู้ ดั ท�ำ

ท่ปี รึกษา ผอ. กศน.จงั หวัดเลย
1. นายประกอบ โพธร์ิ าม ผอ. กศน.อ.เชยี งคาน
2. นายปกรณ์ คามวลั ย์ ผอ. กศน.อหนองหิน
3. นางพลพธู วรฉตั ร ผอ. กศน.อ.ภหู ลวง
4. นายอุทัย ยิง่ ยง ผอ. กศน.อ�ำเภอท่าลี่
5. นางนงลักษณ์ พรอ้ มจะบก

คณะทำ� งาน
1. บคุ ลากร กศน.อำ� เภอเชยี งคาน
2. บคุ ลากร กศน.อ�ำเภอหนองหนิ
3. บุคลากร กศน.อ�ำเภอภูหลวง
4. บคุ ลากร กศน.อ�ำเภอ ท่าล่ี

รวบรวม/เรียบเรียง
กล่มุ งานสง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบสำ� นักงาน กศน.จังหวัดเลย

78 แบบฝกึ ทกั ษะทางวิชาการเพ่ือยกผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 กศน.จังหวดั เลย


Click to View FlipBook Version