The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ok3999_, 2019-03-23 10:32:40

แบบฟอร์มประเมินครูจ้าง2

หน่วยที่ 8 การตอบรับและปฏเิ สธ สมรรถนะ :
1. พูดตอบรับหรือปฏิเสธดว้ ยความมีเหตุผล

จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม
ด้านความรู้

1. ขยายความความหมายของการพดู ตอบรับได้
2. สรุปความความหมายของการปฏิเสธได้

ด้านทกั ษะ
3. แกไ้ ขลกั ษณะการปฏิเสธได้
4. ปฏิบตั ิตามขอ้ แนะนาในการพดู ปฏิเสธได้

ด้านจิตพสิ ัย
5. ช้ีแจงประเภทของการตอบนรับได้

ด้านคุณธรรม จริยธรรม/บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง
6. พูดตอบรับหรือปฏิเสธด้วยความมีเหตุผล ถูกตอ้ ง
ตามกาลเทศะ และมารยาททางสงั คม

หน่วยท่ี 9 การแสดงความยนิ ดแี ละเสียใจ สมรรถนะ :
1. พดู แสดงความยนิ ดี หรือเสียใจดว้ ยความมีมารยาท

จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม
ด้านความรู้
1. รวมรวมความหมายของการแสดงความยินดีได้
2. ระบุความหมายของการแสดงความเสียใจได้

ด้านทกั ษะ
3. พูดแสดงความยนิ ดีในโอกาสตา่ ง ๆ ได้
4. พดู แสดงความเสียใจได้

ด้านจิตพสิ ัย
5. ใชเ้ หตุผลในหลกั การแสดงความยนิ ดีได้

ด้านคุณธรรม จริยธรรม/บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง
6. พูดแสดงความยินดี หรือเสียใจ ด้วยความมีมารยาท

ถูกตอ้ งตามวฒั นธรรมประเพณีของสงั คม

ชื่อเรื่อง สมรรถนะและจุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม
หน่วยที่ 10 การเขียนสรุปความ
สมรรถนะ :
1. เขียนสรุปความดว้ ยความละเอียดรอบคอบ

จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม
ด้านความรู้

1. แปลความหมายของการสรุปความได้
2. ประเภทการเขียนสรุปความ
3. ตวั อยา่ งการเขียนสรุปความได้

ด้านทกั ษะ
4. สงั เกตหลกั ในการเขียนสรุปความได้
5. ฝึกเขียนแบบข้ึนตน้ การเขียนสรุปความได้

ด้านจิตพสิ ัย
6. จดั ลาดบั ประเภทการเขียนสรุปความ

ด้านคุณธรรม จริยธรรม/บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง
7. เขียนสรุปความด้วยความละเอียดรอบคอบและ
ถูกตอ้ งตามรูปแบบ

ชื่อเรื่อง สมรรถนะและจุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม
หน่วยท่ี 11 การเขียนสะกดคา
สมรรถนะ :
1. เขียนสะกดคาตามหลกั การเขียนประเภทตา่ ง ๆ

จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม
ด้านความรู้

1. เปรียบเทียบหลกั การประวสิ รรชนียแ์ ละหลกั การ
ไมป่ ระวสิ รรชนียไ์ ด้

ด้านทกั ษะ
2. เขียน “บนั ” และ “บรร” ได้
3. สงั เกตหลกั การใชไ้ มย้ มกได้
4. สาธิตการเขียนเครื่องหมายวรรคตอนได้

ด้านจิตพสิ ัย
5. ยอมรับหลกั การเขียนตา่ งๆ ได้

ด้านคุณธรรม จริยธรรม/บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง
6. เขียนสะกดคาตามหลกั การเขียนประเภทตา่ ง ๆ
ดว้ ยความละเอียดรอบคอบและถูกตอ้ ง

ชื่อเร่ือง สมรรถนะและจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม

หน่วยท่ี 12 การเขียนอธิบายและการเขียน สมรรถนะ :

บรรยาย 1. เขียนอธิบายด้วยกลวิธีการเขียนอย่าง

สร้างสรรค์ และถูกตอ้ งชดั เจนอยา่ งมีประสิทธิภาพ

จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม

ด้านความรู้
1. บรรยายความหมายของการบรรยายได้
2. เรียบเรียงความหมายของการอธิบายได้

ด้านทกั ษะ
3. ปฏิบตั ิตามหลกั การเขียนอธิบายได้
4. ทดลองใชก้ ลวธิ ีการเขียนอธิบายได้
5. ฝึกขียนบรรยายตามหลกั การได้

ด้านจติ พสิ ัย
6. เลือกเน้ือหาท่ีใชใ้ นการบรรยายได้
7. สังเกตวธิ ีการบรรยายได้
8. ประพฤติตามคุณสมบตั ิของผอู้ ธิบายได้

ด้านคุณธรรม จริยธรรม/บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง
9. เขียนอธิบายและเขียนบรรยายด้วยความคิด
สร้างสรรคอ์ ยา่ งถูกตอ้ งชดั เจน และมีประสิทธิภาพ

ช่ือเร่ือง สมรรถนะและจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม

หน่วยที่ 13 การกรอกแบบฟอร์ม สมรรถนะ :
1. กรอกแบบฟอร์มประเภทตา่ ง ๆ

จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม
ด้านความรู้

1. ขยายความหมายของแบบฟอร์มได้
2. ยกตวั อยา่ งคุณสมบตั ิของผกู้ รอกแบบฟอร์มได้

ด้านทกั ษะ
3. กรอกแบบฟอร์มได้

ด้านจิตพสิ ัย
4. จดั ลาดบั ประเภทของแบบฟอร์มได้

ด้านคุณธรรม จริยธรรม/บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง
5. กรอกแบบฟอร์มประเภทต่าง ๆ ดว้ ยความละเอียด
รอบคอบและถูกตอ้ ง

ช่ือเรื่อง สมรรถนะและจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม
หน่วยท่ี 14 การเขยี นประวตั ิย่อ
สมรรถนะ :
1. เขียนประวัติย่อของตนเองด้วยความละเอียด
รอบคอบ

จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม
ด้านความรู้

1. อธิบายความหมายของการเขียนประวตั ิยอ่ ได้
2. ระบุความหมายของ Resume ได้
3. ยกตวั อยา่ งส่วนประกอบของ Resume ได้

ด้านทกั ษะ
4. ปฏิบตั ิตามเทคนิคการเขียน Resume ได้

ด้านจิตพสิ ัย
5. ริเร่ิมเขียนประวตั ิยอ่ ได้

ด้านคุณธรรม จริยธรรม/บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง
6. เขียนประวัติย่อของตนเองด้วยความละเอียด
รอบคอบอยา่ งมีประสิทธิภาพ

ช่ือเรื่อง สมรรถนะและจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม
หน่วยท่ี 15 การเขยี นรายงานเชิงวชิ าการ
สมรรถนะ :
1. เขียนรายงานเชิงวชิ าการ

จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม
ด้านความรู้

1. เรียบเรียงความหมายของการเขียนรายงานเชิง
วชิ าการได้

ด้านทกั ษะ
2. ปฏิบตั ิตามข้นั ตอนในการเขียนรายงานเชิงวชิ าการ
ได้

ด้านจติ พสิ ัย
3. จดั ลาดบั ส่วนประกอบของรายงานเชิงวชิ าการได้

ด้านคุณธรรม จริยธรรม/บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง
4. เขียนรายงานเชิงวิชาการ ด้วยความละเอียด
รอบคอบและถูกตอ้ งตามหลกั การเขียนรายงาน

ช่ือเร่ือง สมรรถนะและจุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม
หน่วยท่ี 16 การเขยี นโครงการ
สมรรถนะ :
1. เขียนโครงการดว้ ยความละเอียดรอบคอบ

จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม
ด้านความรู้

1. อธิบายความหมายของโครงการได้
2. ลงความเห็นเกี่ยวกบั หลกั การเขียนโครงการได้
3. ตวั อยา่ งการเขียนโครงการได้
ด้านทกั ษะ
4. ปฏิบตั ิตามรูปแบบการเขียนได้
5. เขียนโครงการ
ด้านจิตพสิ ัย
6. ยอมรับวตั ถุประสงคใ์ นการเขียนโครงการได้
7. ผสมผสานองคป์ ระกอบองคป์ ระกอบของโครงการ

ได้

ด้านคุณธรรม จริยธรรม/บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง
8. เขียนโครงการด้วยความละเอียดรอบคอบ และมี
ความคิดสร้างสรรคใ์ นการเขียน

งานวจิ ยั ในชั้นเรียน

เรอ่ื ง

ศึกษาเพอ่ื แสวงหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาของการไม่ส่งงาน
รายวิชาภาษาไทย ของนกั ศึกษา ระดบั ช้ันปวช.2
ภาคเรียนท่ี ๒ ปกี ารศกึ ษา 2561

ผูว้ จิ ยั
นายชัยมงคล คงไธยสงค์

วทิ ยาลยั เทคนคิ ระยอง
สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา

กระทรวงศกึ ษา

ช่อื งานวิจัย ศกึ ษาเพ่ือแสวงหาแนวทางในการแก้ไขปญั หาของการไม่สง่ งาน
รายวชิ างานปรบั อากาศรถยนต์ ของนักศึกษา ระดบั ชน้ั ปวช.2
ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศึกษา 2561

บทคัดยอ่
การวจิ ัยครง้ั นี้มีจดุ ประสงค์ เพื่อศกึ ษาเพื่อแสวงหาแนวทางในการแกไ้ ขปญั หาของการไม่ส่งงาน รายวิชา
ภาษาไทย ของนักศึกษา ระดับชัน้ ปวช.2ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2561 จานวน 46 คน เครอื่ งมอื ท่ใี ชใ้ นการวจิ ัย
การสง่ เสรมิ เจตคติโดยการใช้คาพูด ในการเสรมิ แรง การส่งเสริมเจตคตใิ นการใช้การใหร้ ะดบั ผลคะแนนการสง่ งาน
ระดับผลคะแนนการส่งงานวเิ คราะหข์ ้อมลู โดยใช้คา่ เฉล่ยี ร้อยละ
ผลการวิจัยสรุปไดด้ งั น้ี
คา่ เฉลย่ี ของการสง่ งาน ในรายวชิ างานปรับอากาศรถยนต์ หลังการสง่ เสริมเจตคติ พบวา่ การสง่ งานสงู ขึ้นกว่า
ก่อนไดร้ บั การส่งเสรมิ เจตคติ ซง่ึ หมายถึง ของนักศึกษา ระดบั ช้นั ปวช.2 ควรได้รบั การส่งเสริมเจตคติจากครูผ้สู อน
เพอื่ ชว่ ยใหน้ กั เรยี นมีความรบั ผิดชอนในการสง่ งานสงู ข้ึน
ข้อเสนอแนะ
ควรมกี ารเสรมิ แรงและยกยอ่ งชมเชยใหก้ าลังใจกับนักเรียนอย่างสมา่ เสมอ ในขณะท่ที าการเรียนการสอน

สารบญั

บทท่ี หนา้
1 บทนา 1
2 เอกสารและงานวจิ ัยท่เี ก่ยี วข้อง 3
3 วธิ ีดาเนนิ การวจิ ยั 5
4 วิเคราะห์ขอ้ มูล 6
5 สรปุ และอภปิ รายผล 7
9
บรรณาณุกรม

สารบญั ตาราง หนา้
ตารางที่ 7
1 แสดงการส่งงานของนกั ศึกษา ระดบั ชั้นปวช.2 กอ่ นเสริมเจตคติ 8
2 แสดงการสง่ งานของนกั ศึกษา ระดับชั้นปวช.2 หลังเสริมเจตคติ

บทที่1
บทนา

ความเปน็ มาและความสาคัญของปญั หา
กระแสและวิวฒั นาการของการเจรญิ ก้าวหน้าของโลกไดเ้ ปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ประเทศไทยเป็นประเทศ

หนงึ่ ท่ีอยูท่ ่ามกลางกระแสการเปลยี่ นแปลงน้นั เพ่ือให้สังคมไทยก้าวทันโลกยคุ โลกาภิวฒั น์ สงั คมไทยต้องปรบั เปล่ยี น
แนวคดิ ในการปฏริ ูปการศึกษา การพฒั นาคุณภาพชีวิตของประชากรในการสรา้ งนิสยั ให้คดิ เป็น ทาเปน็ แก้ปัญหาเป็น
มีความใฝร่ ู้ ใฝเ่ รยี น มคี วามคดิ รเิ ร่มิ สร้างสรรค์ ให้เปน็ คนยุคใหม่ กา้ วทันโลกแห่งความเจรญิ ในปัจจบุ ันและอนาคต
สามารถปรบั ตวั “ ให้อยูร่ อด กา้ วทนั กา้ วหน้า กา้ วนา ” การเปล่ียนแปลงทางสงั คมไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ

การศึกษาของไทยมีการปฏิรูปครั้งใหญ่ ไดม้ วี ิวฒั นาการมาจนถึงการมรี ัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทย
พทุ ธศักราช 2540 เปน็ แม่บทสาคัญก่อให้เกดิ การปฏริ ูปการศกึ ษา โดยกาหนดไว้ในมาตราตา่ ง ๆ เชน่ มาตรา 40 ,42 ,
43, 46 , 53 ,54 , 69 โดยเฉพาะมาตรา 81 กาหนดให้มีการประกาศใช้พระราชบญั ญัตกิ ารศึกษาแห่งชาติ พ. ศ.
2542 เป็นกฎหมายทางการศึกษาฉบับแรกของประเทศไทย ซงึ่ ใหค้ วามสาคัญเร่ืองต่าง ๆ เชน่ มาตรา 6 การจัดการ
ศึกษาตอ้ งเปน็ ไปเพือ่ พัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ทสี่ มบรู ณ์ทง้ั ร่างกาย จิตใจ และสตปิ ัญญา ความรูแ้ ละคณุ ธรรม มี
จรยิ ธรรมและวฒั นธรรมในการดารงชีวติ ที่สามารถอยู่ร่วมกับผ้อ่ืนได้อย่างมีความสุข ในหมวด ต้งั แตม่ าตรา 22 – 30
ได้กลา่ วถงึ หวั ใจการปฏิรูปการเรยี นรู้ที่ยึดผู้เรยี นเป็นสาคัญ หรอื เปน็ ศนู ย์กลางการเรยี นรู้
(Child Centered )

เพือ่ พฒั นาคนไทยให้เปน็ มนษุ ยท์ ี่สมบรู ณท์ ัง้ ร่างกาย จติ ใจ สตปิ ัญญา ความรู้ และคุณธรรม
มีจริยธรรม และวัฒนธรรมในการดารงชีวิต สามารถอยู่รว่ มกับผูอ้ ่นื ได้อย่างมีความสุข

จะเหน็ ไดว้ า่ กระแสของการปฏิรปู การศึกษาไดส้ ่งผลการปฏบิ ตั ิงานของคนทกุ ฝา่ ยท่ีเกยี่ วข้องกบั การจัด
การศึกษา เพื่อพฒั นาผเู้ รยี นใหม้ ีคณุ ภาพและบรรลเุ ปา้ หมายตามหลกั สตู รการจัดการศึกษา ประกอบกับ
พระราชบัญญตั ิการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ไดร้ ะบุไว้ในมาตรา 24(5) มขี อ้ ความสาคัญ ใหค้ รูสามารถใชก้ ารวิจัย
เป็นส่วนหน่ึงของกระบวนการเรียนรู้ และมาตร 30 ระบุโดยสรุปวา่ ใหส้ ถานศกึ ษาส่งเสรมิ ให้ผสู้ อน สามารถวจิ ัยเพื่อ
พฒั นาการเรยี นรู้ ท่ีเหมาะสมกบั ผู้เรยี น ในแตล่ ะระดบั การศกึ ษา ดงั นนั้ ครเู ป็นบุคลากร

จากเหตผุ ลดงั กลา่ ว ทาใหค้ ณะผู้วจิ ยั สนใจท่ีจะศึกษาเพื่อแสวงหาแนวทางในการแก้ไขปญั หาของการไมส่ ง่
งานของนกั เรียนระดับชนั้ ปวช.2รายวิชาภาษาไทยเพ่ือพัฒนาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสง่ เสริมควารับผดิ ชอบ การจดั
กระบวนการเรียนการสอน ให้การเรยี นการสอนมีประสิทธิภาพและมผี ลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียนสงู

วตั ถุประสงค์ของการวจิ ัย
1. เพือ่ เสรมิ สรา้ งเจตคตใิ นการส่งงานของนกั ศกึ ษาระดับช้นั ปวช.2
รายวิชาภาษาไทย
2. ส่งเสรมิ นักเรียนให้เป็นผตู้ รงต่อเวลาในการทางาน

ขอบเขตการวจิ ัย
1. ประชากรที่ใชใ้ นการวจิ ัย เปน็ นักศึกษาระดับช้ันปวช.2 ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศึกษา 25601
ของนักศึกษาแผนกวชิ าช่างยนต์ วิทยาลัยเทคนิคระยอง
2. ระยะเวลา คอื ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศึกษา 2561

นยิ ามศพั ทเ์ ฉพาะ
1. เจตคติ หมายถึง ความรู้สึกที่แสดงออกมาในทางบวก หรือทางลบ เช่น ความพอใจ –

ความไม่พอใจ ในการสง่ งาน ความรับผดิ ชอบต่องานที่ไดร้ ับมอบหมาย
2. งาน หมายถงึ แบบฝึกหดั ท่ีครูให้ในช่วั โมงเรยี น แบบฝกึ หดั การบา้ น ใบงาน รวมถึง

การทางานเปน็ กลุม่ หรือช้ินงาน

ประโยชนท์ ค่ี าดว่าจะได้รับจากงานวิจัย
1. ทาใหค้ รผู สู้ อนทราบเจตคติของนักเรยี นท่ีมตี ่อพฤติกรรมในการสง่ งานวชิ าภาษาไทย
2. เปน็ แนวทางใหค้ รผู สู้ อนในรายวชิ าอ่นื ๆ ได้ศกึ ษาและนาไปสารวจเจตคตทิ างนกั เรยี น

ในระดับชั้นชน้ั ต่าง ๆ ในเร่ืองของเจตคตติ ่อการสง่ งาน
3. สง่ เสริมพฤติกรรมการตรงต่อเวลาในการสง่ งาน

บทที่ 2
เอกสารและงานวิจัยทีเ่ กี่ยวข้อง

การวิจัยครั้งนี้ผูว้ จิ ัยไดท้ าการศึกษาเอกสารที่เกย่ี วข้องกบั การวิจยั ดงั ตอ่ ไปนี้

2.1 ความหมายของเจตคติ
เจตคติ หมายถึง ความรูส้ ึกท่ีแสดงออกมาในทางบวก หรอื ทางลบ เช่น พอใจ ไม่พอใจ เหน็

ดว้ ย ไม่เห็นด้วย ชอบหรอื ไม่ชอบต่อบุคคลหรอื สงิ่ ใดสิ่งหน่ึง
เจตคติ หมายถงึ ความรูสึกโนม้ เอียงของจิตใจทีม่ ีต่อสง่ิ ใดส่ิงหน่งึ หรอื เร่ืองใด เร่ืองหน่ึง หรอื แบง่ เปน็ 2

ลกั ษณะ คือ เชิงนิมาน และเชิงนิเสธ
2.2 ลกั ษณะของเจตคติ

กฤษณา ศกั ดศิ์ รี ( 2530 :185 – 188 ) ได้กล่าวถงึ ลักษณะที่สาคญั ของเจตคติ สรุปได้ดงั น้ี
1. เจตคติเกิดจากการเรยี นรหู้ รือประสบการณ์ของบคุ คลที่ไม่ใช่เป็นสิ่งทีต่ ิดตัวมาแต่กาเนิด
2. เจตคตเิ ปน็ ส่ิงท่ีเปลย่ี นแปลงไดข้ นึ้ อยู่กบั สภาพแวดล้อมสถานการณ์และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
3. เจตคติเปน็ ตวั กาหนดพฤติกรรมทง้ั ภายนอกและภายใน เราจะสังเกตไดว้ า่ บคุ คลมีเจต
คตใิ นทางยอมรับหรือไมย่ อมรับ โดยสังเกตพฤติกรรมท่ีบุคคลนัน้ แสดงออกมา
4. เจตคติเปน็ สิง่ ซับซ้อน มที ่ีมาสลับซบั ซอ้ น เพราะเจตคติขนึ้ อยู่กบั หลายประการ เช่น
ประสบการณ์การรบั รู้ ความรู้สึก ความคดิ เหน็ อารมณ์ ส่งิ แวดลอ้ ม ฯลฯ ฉะนนั้ จึงผนั แปรได้
5. เจตคตเิ กิดจากการเลยี นแบบ สามารถถ่ายทอดไปสูบ่ คุ คลอื่นๆได้
6. ทศิ ทางของเจตคติ มี 2 ทิศทาง คือ สนับสนนุ หรือต่อต้านและปรมิ าณของเจตคติมตี งั้
แตพ่ อใจอย่างยงิ่ ปานกลาง จนถึงไม่พอใจอย่างยง่ิ เจตคตขิ องบคุ คลแตล่ ะคนจะมีความรุนแรงตา่ งกนั ไป
7. เจตคตอิ าจเกดิ ขึน้ มาจากความมจี ิตสานึก หรอื จากจติ ไรส้ านกึ ก็ได้
8. เจตคตมิ ีลกั ษณะคงทนถาวรพอสมควร กวา่ บุคคลจะมเี จตติต่อสิ่งใดไดต้ ้องใชเ้ วลา
นาน ใช้ความคดิ ลึกซ้ึง พิจารณาละเอียดรอบคอบแลจ้ งึ เกิดเจตคติต่อสิง่ นั้น เจตคติอาจเกิดเปลีย่ นแปลงได้ แต่ไมไ้ ด้
หมายความวา่ จะเปลย่ี นไดใ้ นเวลาอนั รวดเรว็
9. บคุ คลแตล่ ะบุคคลย่อมมีเจตคติต่อบคุ คล สถานการณ์สงิ่ เดียวกนั แตกตา่ งกันได้ ทง้ั นี้

ขนึ้ อยู่กับประสบการณ์ของบุคคลนั้น
2.3 องคป์ ระกอบของเจตคติ
ประภาเพ็ญ สุวรรณ ( 2526 : 34 ) ไดก้ ลา่ วถึงองค์ประกอบของเจตคติไว้ดงั น้ี
1. องคป์ ระกอบดา้ นพุทธปญั ญา หรอื องค์ประกอบด้านความคดิ ( Cognitive component)

ไดแ้ ก่ ความคิดซ่ึงเปน็ องค์ประกอบทีม่ นุษย์ใชใ้ นการวัด ความคิดนี้อาจอยู่ในรปู ใดรปู หน่งึ ทีต่ า่ งกนั ขน้ึ อยู่กับความคิด
ของแต่ละบคุ คลทมี่ ีตอ่ สง่ิ เรา้

2. องค์ประกอบทางด้านท่าทคี วามรสู้ กึ ( Affective component ) เปน็ ส่วนประกอบใน
ดา้ นอารมณค์ วามรู้สึก ซึ่งเป็นตวั เร้าความคดิ อกี ต่อหน่งึ ถ้าบคุ คลมคี วามรสู้ ึกท่ดี ีหรือไมด่ ี ในขณะทคี่ ดิ ส่ิงใดส่ิงหนึ่ง
แสดงวา่ บคุ คลนั้นมีความรู้สึกในด้านบวก หรอื ด้านลบตามลาดบั ตอ่ สง่ิ นนั้

3. องคป์ ระกอบดา้ นปฏบิ ัติ หรือองค์ประกอบด้านพฤติกรรม ( Beharioral component)
เป็นองคป์ ระกอบท่ีมแี นวโน้มในทางปฏบิ ตั ิ ถ้ามสี งิ่ เร้าที่เหมาะสมจะเกดิ การปฏิบัตหิ รือปฏิกริ ิยาอย่างใดอยา่ งหนึ่ง

บทท่ี 3
วิธกี ารดาเนินการวิจัย

การวิจยั เร่ือง ศึกษาเพื่อแสวงหาแนวทางในการแก้ไขปญั หาของการไม่ส่งงาน รายวชิ าภาษาไทยของนกั ศึกษา ระดบั
ช้ันปวช.2ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศึกษา 2560 โดยมีรายละเอยี ดเกีย่ วกับการดาเนินการวจิ ัยดังนี้
3.1 ประชากรและกลุ่มตัวอยา่ ง

ประชากรทีใ่ ช้ในการวจิ ยั คือ เปน็ นกั ศกึ ษาระดับชัน้ ปวช.2 ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2561 ของนักศึกษา
แผนกวิชาชา่ งยนต์ วิทยาลยั เทคนิคระยองตาก จานวน 46 คน

กลุ่มตวั อย่างที่ใช้การวิจัย คือ เป็นนักศกึ ษาระดับชัน้ ปวช.2 กลมุ่ 1 - 2

3.2 ระยะเวลาทใ่ี ชใ้ นการวิจัย
ระยะเวลาที่ใชใ้ นการวจิ ัย ตลอดภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศึกษา 2561

3.3 เครื่องมือทใี่ ช้ในการวจิ ัย
- การสง่ เสรมิ เจตคติโดยการใช้คาพดู เสรมิ แรง ใหค้ าชมเชย
- การส่งเสรมิ เจตคติ โดยการให้ระดบั ผลคะแนนการสง่ งาน
- การสง่ เสรมิ เจตคติ เป็นรายบุคคล การให้รางวลั

3.4 การเกบ็ รวบรวมข้อมูล
การเกบ็ รวบรวมข้อมูล คณะผูว้ จิ ยั ไดด้ าเนนิ การเก็บรวบรวมขอ้ มูลด้วยตัวเองกับกลุ่มตวั อย่าง จานวน 46 คน

โดยจดั ทาตารางส่งงานของนักศึกษาระดับชน้ั ปวช.2 รายวชิ าภาษาไทย ภาคเรยี นท่ี 2 การศกึ ษา 2561วิทยาลัยการ
อาชีพบ้านตากและจดั ทาเป็นตารางกราฟแสดงขอ้ มลู เปรยี บเทียบ

3.5 การวิเคราะห์ข้อมลู และสถติ ิที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมลู
3.5.1 การวเิ คราะห์ข้อมลู คณะผ้วู ิจัยดาเนินการดังต่อไปน้ี
(1) ทาตารางบันทึกการส่งงาน แบบฝกึ หดั ในเวลา แบบฝกึ หัดการบ้าน ใบงาน รวมถึงผล

งานเปน็ กลุ่ม ในช่วงตน้ ภาคเรียนที่ 2 ของวิชาภาษาไทย
(2) รวบรวมหาเปน็ คา่ เฉล่ียร้อยละ
(3) บันทกึ การสง่ งานอย่างต่อเนือ่ ง หลงั จากการสง่ เสรมิ เจตคติ และนามาหาเป็นคา่ เฉล่ีย

ร้อยละ
(4) นาค่าเฉล่ยี รอ้ ยละของการส่งงานช่วงตน้ ภาคเรียนท่ี 2 ของรายวชิ างานปรบั อากาศรถยนต์ มา

เปรยี บเทยี บกับคา่ เฉลี่ยของการส่งงาน ชว่ งปลายภาคเรียนที่ 2

บทท่ี 4
ผลการวิจัยและอภิปรายขอ้ มูล

การวิจัยครัง้ น้ี ศกึ ษาเพ่ือแสวงหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาของการไม่ส่งงาน รายวชิ าภาษาไทย ของ
นกั ศกึ ษา ระดับชั้นปวช.2 ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2561 ได้ดาเนินการเกบ็ รวบรวมข้อมูล และวเิ คราะหข์ ้อมูลจะ
นาเสนอผลการวจิ ัยและอภิปรายผลต่อไปดังนี้

4.1 ผลการวิจยั
ตารางที่ 1 แสดงการสง่ งานของนักศกึ ษา ระดับชั้นปวช.2 ก่อนเสริมเจตคติ

ระดับชัน้ จานวนนักเรียน ผลการส่งงานรายวิชางานปรบั อากาศรถยนต์
ปวช.2/1 25 จานวนนกั เรียนทสี่ ่งงาน (คน) เปอร์เซ็นต์

10 47.62

ปวช.2/2 21 15 60

ตารางท่ี 2 แสดงการส่งงานของนกั ศกึ ษา ระดับชนั้ ปวช.2 หลงั เสริมเจตคติ

ระดับชัน้ จานวนนกั เรยี น ผลการสง่ งานรายวิชางานปรบั อากาศรถยนต์
ปวช.2/1 25 จานวนนักเรียนท่สี ่งงาน (คน) เปอรเ์ ซน็ ต์

18 85.71

ปวช.2/2 21 24 96

4.2 อภปิ รายผล
การส่งเสริมเจตคติเพ่ือกระตุ้นให้นกั เรียนสง่ งานตามท่คี รูในรายวิชางานปรบั อากาศรถยนต์ไดม้ อบหมายงาน

หรือแบบฝึกหัดให้นักเรยี นทาส่งครู เพื่อเปน็ การตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรยี นวา่ นกั เรยี นมีความเข้าใจมากน้อย
เพียงใด พบว่าหลงั จากการที่ครผู ู้สอน ให้การเสรมิ แรงเป็นการให้คาพูดชมเชย การให้รางวัลหรอื สัญลักษณ์ต่าง ๆ ใน
สมุดงานของนักเรยี น พบวา่ ร้อยละ 96.00 % มีพฤตกิ รรมเปลยี่ นไป คือมีการสง่ งานเพิ่มข้นึ จากเดมิ

บทท่ี 5
สรปุ ผลการวิจัยและข้อเสนอแนะ

การวจิ ยั เรื่อง ศกึ ษาเพ่อื แสวงหาแนวทางในการแกไ้ ขปัญหาของการไมส่ ่งงาน รายวชิ างานปรบั อากาศ
รถยนต์ ของนกั ศกึ ษา ระดบั ชน้ั ปวช.2 ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2561 ผวู้ จิ ัยได้ดาเนนิ การวจิ ยั สรปุ ผลการวจิ ยั
และข้อเสนอแนะ จะนาเสนอรายละเอยี ดดังนี้

5.1 สรปุ ผลการวจิ ัย
วัตถุประสงคข์ องการวิจัย
1. เพื่อสร้างเจตคตใิ นการส่งงานวิชางานปรบั อากาศรถยนต์ ของนักศึกษา ระดบั ชนั้ ปวช.2
ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2561 จาก 53.81 % เป็น 90.85 %
2. ส่งเสริมพฤติกรรมการตรงต่อเวลา ตามคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ของสถานศกึ ษา

5.2 ประชากรและกลุ่มตวั อย่าง
ประชากรท่ใี ชใ้ นการวจิ ัย คือ เปน็ นกั ศกึ ษาระดับชัน้ ปวช.2 ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศึกษา 2561 ของนักศึกษา

แผนกวิชาเครอื่ งกล วิทยาลัยการอาชีพบา้ นตาก จานวน 46 คน
กลุ่มตัวอย่างทีใ่ ช้การวิจัย คือ เปน็ นักศกึ ษาระดบั ช้ันปวช.2 กลุม่ 1 - 2

5.3 เครอื่ งมือทใี่ ชใ้ นการวิจัย
- การส่งเสรมิ เจตคติโดยการใช้คาพูด เสริมแรง ให้คาชมเชย
- การสง่ เสริมเจตคติ โดยการใช้การให้ระดับผลคะแนนการส่งงาน
- การสง่ เสริมเจตคติ เปน็ รายบุคคล การใหร้ างวัล

5.4 การเกบ็ รวบรวมข้อมูล
การเกบ็ รวบรวมข้อมลู คณะผู้วิจยั ไดด้ าเนินการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลด้วยตัวเองกับกลุ่มตวั อย่าง จานวน 46 คน

โดยจัดทาตารางสง่ งานของนักศกึ ษาระดบั ช้ันปวช.2 รายวชิ างานปรบั อากาศรถยนต์
ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศึกษา 2561 วิทยาลัยการอาชพี บา้ นตาก

5.5 การวิเคราะหข์ อ้ มลู
1. การหาคา่ เฉลย่ี ร้อยละ กอ่ นการสง่ เสรมิ เจตคติ
2. การหาค่าเฉลี่ยร้อยละ หลังการสง่ เสรมิ เจตคติ
3. นาคา่ เฉลยี่ เปรียบเทยี บความกา้ วหน้าในรูปกราฟเพ่ือใช้ในการแปลความหมาย

5.6 ผลการวเิ คราะห์ข้อมลู
1. การส่งงานวิชางานปรบั อากาศรถยนต์ ของนกั ศกึ ษาระดับชัน้ ปวช.2 อยใู่ นเกณฑ์ รอ้ ยละ 90.85 %
2.คา่ เฉลีย่ ของการสง่ งานหลังการส่งเสริมเจตคติพบว่าสูงข้ึนกว่าเดิม ทาใหส้ รปุ ไดว้ ่า การทคี่ รผู ้สู อนไดศ้ ึกษา

นักเรียนเป็นรายบุคคลเพ่ือถามถึงสาเหตุการไมส่ ่งงาน และให้แรงเสริมเปน็ เจตคตติ า่ ง ๆ ทั้งในดา้ นคาพูดเสรมิ แรง ,
การให้ระดับผลคะแนนการส่งงานพบว่าของนักศกึ ษาระดับช้นั ปวช.3 มกี ารส่งงานสงู ขน้ึ
จากร้อยละเฉลยี่ จาก 53.81 % เป็น 90.85 %

5.7 ข้อเสนอแนะ
1. ครูผสู้ อนในวิชาอื่น ๆ ควรมีการสารวจถึงเจตคตขิ องนักเรียนทม่ี ีต่อพฤติกรรมในการ

ส่งงานของนักเรียน เพ่อื ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนเปน็ รายบคุ คล
2. ในการสอนวิชางานปรบั อากาศรถยนต์ครผู ู้สอนตอ้ งเอใจใสอ่ ยา่ งใกลช้ ดิ เปิดโอกาสใหน้ กั เรยี นได้ซักถาม
ขอ้ สงสัยในขณะทาการเรียนการสอนให้มากทีส่ ุด
3. ควรมกี ารเสรมิ แรง ยกยอ่ งชมเชย และใหก้ าลังใจกบั นักเรียนอยา่ งสมา่ เสมอ ในขณะที่

ทาการเรยี นการสอน

บรรณานุกรม

กฤษณา ศักดิ์ศรี. จติ วิทยาการศึกษา. กรุงเทพมหานคร :สานักพิมพน์ ิยมวิทยา , 2530.
กาญจนา วังฆายุ. การวจิ ัยในชน้ั เรียนเพื่อพัฒนาการเรียนการสอน , 2544.
บญุ ชม ศรสี ะอาด. การวจิ ัยเบือ้ งตน้ . กรุงเทพมหานคร:ชมรมเด็ก, 2535
ประภาเพ็ญ สุวรรณ. ทศั นคติ การวัด การเปล่ียนแปลงและพฤติกรรมอนามยั , กรงุ เทพมหานคร:

โรงพมิ พ์โอเดียนสโตร์ ,2526
กระทรวงศกึ ษาธิการ. พระราชบัญญตั กิ ารศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 . บรษิ ัทพริกหวานกราฟฟกิ

จากดั กรุงเทพมหานคร , 2542
ประวัติ เอราวรรณ์ . การวิจยั ในช้ันเรยี น กรงุ เทพมหานคร:สานักพมิ พ์ดอกหญ้าวชิ าการ จากัด,2542
สโุ ขทัยธรรมาธริ าช , การวจิ ยั หลกั สตู รและกระบวนการเรียนการสอน , มหาวทิ ยาลัยสโุ ขทยั

ธรรมาธริ าช นนทบุรี , 2540

สง่ ผลการเรยี น

























นเิ ทศการสอน



๔. ดา้ นการเขา้ ร่วมกิจกรรม (๑๐ คะแนน)

๔.๑ ใหค้ าปรึกษาในการแกป้ ญั หาหรือใหค้ าแนะนาแก่ นกั เรียน นักศึกษา จนเปน็ ผลสาเรจ็ (๕ คะแนน)

๔.๒ การเข้ารว่ มกจิ กรรมตามท่ีวทิ ยาลัยฯ มอบหมาย (๕ คะแนน)

ลาดับท่ี ผลงาน/รายงานการปฏบิ ตั ิงาน หลักฐานอ้างองิ

๑ ให้คาแนะนาเด็กท่ีผมเปน็ ที่ปรกึ ษา รปู ภาพตอนใหค้ าปรึกษา

ใหค้ าแนะนาเดก็ ทผ่ี มเปน็ ที่ปรกึ ษา

๔. ด้านการเขา้ ร่วมกจิ กรรม (๑๐ คะแนน)
๔.๒ การเขา้ รว่ มกิจกรรมตามที่วทิ ยาลัยฯ มอบหมาย (๕ คะแนน)

ลาดบั ท่ี ผลงาน/รายงานการปฏิบตั ิงาน หลักฐานอ้างอิง
รูปภาพ
๑ -เขา้ คา่ ยลกู เสือ

๒ -แข่งทักษะพนื้ ฐาน รปู ภาพ

๓ -กิจกรรมวันคริสต์มาส รปู ภาพ

๔ -ตกั บาตรวันปีใหม่ กีฬาสคี รู รูปภาพ

๕ -วนั ครู กฬี าสี อศจ รูปภาพ

๖ -อบรมPLC รปู ภาพ

๗ -อบรมRMS รูปภาพ

๘ -ไหว้พระวษิ ณุกรรม รปู ภาพ

๙ -ควบคุมนกั เรียนนักศึกษาท่ีแก้คะแนนปรับเปลี่ยนพฤติกรรม รปู ภาพ

๑๐ เวรยืนหน้าประตูทางเขา้ รูปภาพ

๑๑ -แต่งต้ังคณะกรรมการดาเนินการสอบคัดเลือกเขา้ ศกึ ษาตอ่ ระดับ คาสัง่ วท. รย. ที่ ๐๕๐๘/๒๕๖๒

ประกาศนยี บัตรวิชาชพี (ปวช.ปวส) ประจาปกี ารศึกษา 2562 คาสั่ง วท. รย. ท่ี ๐๕๐๙/๒๕๖๒

๑๒ -กีฬาสีนกั เรียนนักศึกษา คาสง่ั วท. รย. ท่ี ๐๒๕๗/๒๕๖๒

๑๓ -คมุ สอบ v-net ปวช-ปวส คาสง่ั วท. รย. ที่ ๐๗๑/๒๕๖๒
คาสงั่ วท. รย. ท่ี ๐๗๒/๒๕๖๒

๑๔ -การมอบหมายหนา้ ท่ีเวรยามกลางคืน คาสั่ง วท. รย. ท่ี ๐๕๖๖/๒๕๖๒

๑๕ -คาสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการดาเนินงานโครงการปัจฉมิ นเิ ทศ คาส่งั วท. รย. ที่ ๐๔๔๓/๒๕๖๒
ประจาปีการศึกษา 2561 คาสงั่ วท. รย. ที่ ๒๖๗๐/๒๕๖๑
-คาส่งั ประชุมผปู้ กครอง ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2561

๕. หนา้ ที่พเิ ศษท่ไี ด้รบั มอบหมาย (ผชู้ ่วยหัวหน้างานตามคาสัง่ มอบหมายหนา้ ท่ีจากวิทยาลยั ฯ) (๕ คะแนน)

ลาดบั ผลงาน/รายงานการปฏบิ ตั ิงาน หลกั ฐานอ้างอิง
ท่ี

๑. -ครูที่ปรกึ ษา ปวช. บญั ชี 3/3

๒ -งานวิทยบริการและห้องสมดุ คาสง่ั วท. รย. ที่๒๑๒๙/๒๕๖๑
๓ -งานประชาสัมพนั ธ์

๔ -งานปกครอง

๖. ผลงานเดน่ (๑๐ คะแนน)

๖.๓ ระดับจังหวัด

ลาดบั ที่ ผลงาน/รายงานการปฏิบตั ิงาน หลักฐานอา้ งอิง



เขา้ คา่ ยลูกเสอื
แขง่ ทกั ษะพื้นฐาน

กจิ กรรมวันครสิ ตม์ าส
ตกั บาตรวนั ปใี หม่ กีฬาสคี รู

วนั ครู กีฬาสี อศจ.ระยอง
อบรมPLC

อบรมRMS
ไหวพ้ ระวษิ ณุกรรม

ควบคมุ นกั เรยี นนกั ศกึ ษาท่แี กค้ ะแนนปรบั เปลี่ยนพฤติกรรม

กีฬาสนี กั เรียนนักศกึ ษา

กฬี าสนี ักเรยี นนักศึกษา

สอบคัดเลอื กเขา้ ศึกษาตอ่ ระดบั ประกาศนยี บัตรวชิ าชพี (ปวช.ปวส)
เวรยนื หน้าประตูทางเขา้


Click to View FlipBook Version