The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือการจัดทำ-TOR-65

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Wasana Sa-ard, 2023-08-09 23:44:42

คู่มือการจัดทำ-TOR-65

คู่มือการจัดทำ-TOR-65

คู่มือการปฏิบัติงาน เกี่ยวกับงานพัสดุ การจัดทำร่างขอบเขตของงานหรือรายละเอียดคุณ ลักษณะเฉพาะของพัสดุ จัดทำโดย นายพัสกร อยู่สอน ผู้ปฏิบัติงานบริหาร ระดับปฏิบัติงาน มีนาคม 2565


คำนำ เพื่อให้การดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐมีกรอบการปฏิบัติงานที่ถูกต้อง มีการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างที่ตรงตามวัตถุประสงค์ของการใช้งานเป็นสำคัญ และคุ้มค่าในการใช้เงิน งบประมาณ มีการวางแผนการจัดซื้อจัดจ้างซึ่งจะทำให้การจัดซื้อจัดจ้างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล เป็นไป ตามหลักธรรมาภิบาล เพื่อให้การปฏิบัติราชการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้าง มีความโปร่งใสและ สุจริต เป็นไปตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 และประกาศ ประกาศมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีเรื่องมาตรฐานจริยธรรมเกี่ยวกับผลประโยชน์ทับซ้อน รวมทั้งสามารถใช้ เป็นแนวทางการป้องกันการทุจริตมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีด้านการจัดซื้อจัดจ้าง ข้าพเจ้าจึงจัดทำคู่มือการปฏิบัติงานเกี่ยวกับงานพัสดุ“การจัดทำร่างขอบเขตของงานหรือ รายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุ” เพื่อได้นำไปใช้เป็นแนวทางปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ที่รับผิดชอบ และเพื่อให้การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุของสำนักวิทยบริการ เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบที่ เกี่ยวข้อง กฎกระทรวงและประกาศคณะกรรมการต่างๆ นายพัสกร อยู่สอน ผู้ปฏิบัติงานบริหาร ระดับปฏิบัติงาน


สารบัญ เรื่อง หน้า บทที่ 1 ความเป็นมา ความจำเป็น และความสำคัญ 1 - วัตถุประสงค์การจัดทำคู่มือ 1 - ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 2 - ขอบเขตของการจัดทำคู่มือ 2 - คำจำกัดความเบื้องต้น 2 บทที่ 2 บทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบ 3 - มาตรฐานกำหนดตำแหน่ง ผู้ปฏิบัติงานบริหาร ปฏิบัติงาน 3 - โครงสร้างการบริหารการจัดการ 4 - โครงสร้างการแบ่งส่วนงาน สำนักวิทยบริการ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี 5 บทที่ 3 หลักเกณฑ์ในการปฏิบัติงานภายใต้กฎหมายและระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุ ภาครัฐ 6 - กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติงานด้านพัสดุ 6 - ความหมายที่เกี่ยวข้องกับการพัสดุ 6 - หลักการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุ 10 บทที่ 4 การจัดทำร่างขอบเขตของงานหรือรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุ 11 - ร่างขอบเขตของงาน (Term of Reference : TOR) 11 - ความสำคัญของร่างขอบเขตของงาน (Term of Reference : TOR) 11 - เหตุผลในการจัดทำร่างขอบเขตของงาน (Term of Reference : TOR) 11 - องค์ประกอบของการกำหนดร่างขอบเขตของงาน (Term of Reference : TOR) 11 - ร่างขอบเขตของงาน (Term of Reference : TOR) ที่ดีเป็นอย่างไร 12 - รายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะ 12 - รายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุที่จะซื้อหรือจ้าง 12 - ผู้มีหน้าที่จัดทำรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุ 12 - ลักษณะของรายละเอียดคุณลักษณะของพัสดุที่จะซื้อหรือจ้าง 13 - ตัวอย่างร่างขอบเขตของงาน (Term of Reference : TOR) 13 บทที่ 5 ปัญหา อุปสรรค แนวทางแก้ไข และการพัฒนางาน 42 - ปัญหา อุปสรรคในการปฏิบัติงาน 42 - แนวทางแก้ไขและพัฒนางาน 43 - ข้อเสนอแนะ 44 บรรณานุกรม 45


1 บทที่ 1 บทนำ 1.1 ความเป็นมา ความจำเป็น และความสำคัญ สำนักวิทยบริการ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เป็นหน่วยงานสนับสนุนการเรียน การสอน การวิจัย ของมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ก่อตั้งขึ้นพร้อมกับการจัดตั้งมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีตามราชกิจจานุเบกษา ฉบับพิเศษ เล่มที่ 109 ตอนที่ 131 ประกอบด้วย (1) ฝ่ายหอสมุด ให้บริการตอบคำถามและช่วยการค้นคว้า บริการยืม–คืน หนังสือ วารสาร บริการยืมระหว่างห้องสมุด บริการสืบค้นสารนิเทศออนไลน์ บริการวารสาร นิตยสาร จุลสาร และหนังสือพิมพ์ เป็นต้น (2) ฝ่ายเทคโนโลยีทางการศึกษา บริการผลิตสื่อภาพนิ่ง สื่อ มัลติมีเดีย สื่อวีดิทัศน์ สื่อบันทึกเสียง ออกแบบศิลปกรรมกราฟฟิก บริการโสตทัศนูปกรณ์ ประเภท เครื่อง เสียง เครื่องฉาย และอุปกรณ์จัดแสดง เป็นต้น และ (3) ฝ่ายผลิตและบริการเอกสาร ผลิตเอกสารในรูปแบบ ต่าง ๆ (4) สำนักงานเลขานุการ เป็นหน่วยสนับสนุนการให้บริการของฝ่ายหอสมุด และฝ่ายเทคโนโลยีทาง การศึกษา สำนักงานเลขานุการ สำนักวิทยบริการ เป็นหน่วยสนับสนุนการให้บริการของฝ่ายหอสมุด ฝ่าย เทคโนโลยีทางการศึกษา ฝ่ายผลิตและบริการเอกสาร โดยมีภาระหน้าที่ 3 ด้าน ดังนี้ 1. ด้านบริหารงานทั่วไป ประกอบด้วย งานบุคคล งานสารบรรณ งานประชุม งานยานพาหนะ งานสวน 2. ด้านการเงินและพัสดุ ประกอบด้วย งานการเงิน งานพัสดุ 3. ด้านแผน งบประมาณและสารสนเทศ ประกอบด้วย งานนโยบายและแผน งานประกัน คุณภาพ งานพัสดุ มีหน้าที่รับผิดชอบงานด้านการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุซึ่งจะปฏิบัติงาน ภายใต้พระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 รวมถึงแนวปฏิบัติต่างๆ ของ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ และก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่หน่วยงานของรัฐ สอดคล้องกับหลักการ คุ้มค่า โปร่งใส มีประสิทธิภาพและ ประสิทธิผล ตรวจสอบได้ และเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจของบุคลากรสำนักวิทยบริการ ในส่วนของความรับผิดชอบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้าง จึงจัดทำ คู่มือการปฏิบัติงานงานพัสดุขึ้น ทั้งนี้ คู่มือนี้จะเป็นประโยชน์ในทาง ปฏิบัติต่อสำนักงานเลขานุการ บุคลากร สำนักวิทยบริการ และมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี 1.2 วัตถุประสงค์การจัดทำคู่มือ ในจัดทำคู่มือการปฏิบัติงาน งานพัสดุ มีวัตถุประสงค์ของการดำเนินงาน 4 ข้อ ดังนี้ 1.2.1 เพื่อใช้เป็นเอกสารอ้างอิงในการปฏิบัติงาน 1.2.2 บุคลากรงานพัสดุปฏิบัติงานตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และ ถูกต้อง 1.2.3 เพื่อให้บุคลากรสำนักวิทยบริการมีความรู้ความเข้าใจในหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำ รายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุ เพื่อให้ตรงตามวัตถุประสงค์ของการใช้พัสดุ 1.2.4 เพื่อลดข้อผิดพลาดในงานที่ปฏิบัติ


2 1.3 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 1.3.1 เป็นเอกสารอ้างอิงในการปฏิบัติงาน 1.3.2 ผู้ปฏิบัติงานสามารถปฏิบัติงานให้เป็นไปตามที่กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องได้ถูกต้อง 1.4 ขอบเขตของการจัดทำคู่มือ การจัดทำคู่มือการปฏิบัติงานครั้งนี้ครอบคลุมขบวนการขั้นตอนการดำเนินงานเกี่ยวกับงานด้าน พัสดุที่ต้องปฏิบัติตาม เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 รวมถึงขั้นตอนการปฏิบัติงานโดยให้เป็นไปตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและ การบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 กฎกระทรวงและประกาศคณะกรรมการต่างๆ หนังสือเวียนที่เกี่ยวข้อง 1.5 คำจำกัดความเบื้องต้น 1.5.1 “การพัสดุ” หมายความว่า การจัดทำเอง การซื้อ การจ้าง การจ้างที่ปรึกษา การจ้าง ออกแบบและควบคุมงาน การแลกเปลี่ยนการเช่า การควบคุม การจำหน่าย และการดำเนินการอื่น ๆ ที่ กำหนดไว้ในระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 1.5.2 “พัสดุ”หมายความว่า วัสดุ ครุภัณฑ์ ที่ดิน และสิ่งก่อสร้างที่กำหนดไว้ในหนังสือการ จำแนกประเภทรายจ่ายตามงบประมาณของสำนักงบประมาณ หรือการจำแนกประเภทรายจ่ายตามสัญญา เงินกู้จากต่างประเทศ 1.5.3 “การซื้อ”หมายความว่า การซื้อพัสดุทุกชนิดทั้งที่มีการติดตั้ง ทดลอง และบริการที่ เกี่ยวเนื่องอื่น ๆ แต่ไม่รวมถึงการจัดหาพัสดุในลักษณะการจ้าง 1.5.4 “การจ้าง”ให้หมายความรวมถึงการจ้างทำของและการรับขนตามประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์ และการจ้างเหมาบริการ แต่ไม่รวมถึงการจ้างลูกจ้างของส่วนราชการตามระเบียบของระทรวง การคลัง การรับขนในการเดินทางไปราชการตามกฎหมายว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ การจ้างที่ ปรึกษา การจ้างออกแบบและควบคุมงาน และการจ้างแรงงานตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์


3 บทที่ 2 บทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบ 1. บทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบของตำแหน่ง มาตรฐานกำหนดตำแหน่ง ผู้ปฏิบัติงานบริหาร ปฏิบัติงาน ปฏิบัติงานในฐานะผู้ปฏิบัติงานซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้ผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโดยใช้ ความรู้ความสามารถปฏิบัติงานเกี่ยวกับงานบันทึกข้อมูลเพื่อใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์งานธุรการ งานสาร บรรณ งานประชาสัมพันธ์งานงบประมาณ งานการเงินและบัญชีงานพัสดุงานสถิติงานเวชสถิติหรืองาน บริการทั่วไป ตามคำสั่ง หรือแบบ หรือแนวทางปฏิบัติหรือคู่มือที่มีอยู่อย่างกว้างๆ ภายใต้การกำกับ ตรวจสอบ ตลอดจนให้คำปรึกษา แนะนำ และเสนอแนะวิธีการแก้ไขปรับปรุง การปฏิบัติงาน และปฏิบัติงานอื่นตามที่ ได้รับมอบหมาย 1.1 ด้านการปฏิบัติการ 1.1.1 ปฏิบัติงานช่วยและสนับสนุนงานบริหารต่างๆ เช่น งานบันทึกข้อมูลเพื่อใช้กับเครื่อง คอมพิวเตอร์งานธุรการ งานสารบรรณ งานประชาสัมพันธ์งานงบประมาณ งานการเงินและบัญชีงานพัสดุ งานสถิติงานเวชสถิติงานบริการทั่วไปธุรการ เพื่อสนับสนุนให้งานต่างๆ ดำเนินไปได้โดยสะดวก 1.1.2 ติดต่อประสานงานกับบุคคลภายในหน่วยงานเดียวกันหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ การปฏิบัติงานเป็นไปด้วยความราบรื่น 1.1.3 ผลิตเอกสารต่างๆ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานตามภารกิจของหน่วยงาน และปฏิบัติ หน้าที่อื่นที่เกี่ยวข้องตามที่ได้รับมอบหมาย 1.2 ด้านการบริการ 1.2.1 ให้คำแนะนำ ตอบปัญหา แก้ไขปัญหาในการปฏิบัติงานให้แก่ผู้รับบริการ ทั้งภายในและ ภายนอกหน่วยงาน เพื่ออำนวยความสะดวก และเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในงานบริหารงานทั่วไป 1.2.2 ประสาน แลกเปลี่ยนความรู้และข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับงานในหน้าที่ ทั้งภายในและ ภายนอกหน่วยงาน เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปด้วยความสะดวกรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ 1.3 ลักษณะงานที่ปฏิบัติ งานประจำ 1.3.1 การจัดหาพัสดุ (1) จัดซื้อครุภัณฑ์ (2) จ้างก่อสร้าง 1.3.2 ข้อตกลง สัญญา ใบสั่งซื้อสั่งจ้าง (1) สัญญาซื้อขายครุภัณฑ์ (2) สัญญาจ้าง 1.4 การบันทึกข้อมูลและการจัดซื้อ/จ้างในระบบ e-GP (1) การจัดทำโครงการ (2) การจัดหาพัสดุ (3) การตรวจรับ (4) การเบิกจ่าย (5) การจัดหาครุภัณฑ์ (6) สิ่งก่อสร้าง


4 1.5 ข้อมูล สถิติ (1) รายงานผลการปฏิบัติงานรายเดือน (2) รายงานผลการจัดซื้อ/จัดจ้าง (3) รายงานผลการปฏิบัติงานประจำวัน 1.6 งานยานพาหนะ (1) ควบคุม ดูแล การใช้รถ ต่อทะเบียนรถ งานเชิงพัฒนา 1.7 งานพัฒนาตนเอง พัฒนางาน (1) รับการอบรมเกี่ยวกับ พรบ. ระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุ ภาครัฐ พ.ศ.2560 (2) จัดทำคู่มือที่เกี่ยวข้องกับงานพัสดุ 1.9 งานพัฒนาหน่วยงาน (1) การมีส่วนร่วมในกิจกรรมของหน่วยงาน 1.4 โครงสร้างการบริหารการจัดการ สำนักวิทยบริการ เป็นหน่วยงานที่มีฐานะเทียบเท่าคณะหนึ่ง ในมหาวิทยาลัยประกอบด้วย ฝ่ายต่าง ๆ จัดตั้งขึ้นเพื่อให้บริการสนับสนุนการจัดการเรียนการสอน การวิจัยและกิจกรรมต่าง ๆ ของทั้ง มหาวิทยาลัยรวมทั้งหน่วยงานองค์กรและบุคคลภายนอก โดยมีคณะกรรมการประจำสำนัก ซึ่งเป็น ผู้ทรงคุณวุฒิทั้งจากภายในมหาวิทยาลัยและจากภายนอก มีอธิการบดีเป็นประธาน คอยให้คำปรึกษาแนะนำ และวางนโยบายการให้บริการ แก่ผู้อำนวยการสำนัก ซึ่งเป็นผู้สนองนโยบาย โดยมีคณะผู้บริหารสำนักวิทย บริการ ประกอบด้วย ผู้อำนวยการ รองผู้อำนวยการฝ่ายจัดการทรัพยากรและสารสนเทศ รองผู้อำนวยการ ฝ่ายเทคโนโลยีและนวตกรรมการเรียนรู้และหัวหน้าฝ่ายเป็นผู้ดำเนินการ โครงสร้างการบริหารงาน สำนักวิทยบริการ มีโครงสร้างการบริหารงานโดยคณะกรรมการประจำสำนักวิทยบริการ ประกอบด้วย 1. อธิการบดี มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ประธาน 2. ผู้อำนวยการสำนักวิทยบริการ รองประธาน 3. ผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอกมหาวิทยาลัย จำนวน 3 ท่าน กรรมการ 4. ผู้แทนสภาอาจารย์ กรรมการ 5. ผู้แทนคณะทุกคณะ กรรมการ 6. รองผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยีและนวัตกรรมการเรียนรู้ กรรมการ 7. รองผู้อำนวยการฝ่ายจัดการทรัพยากรและพัฒนาสารสนเทศ กรรมการและเลขานุการ 8. หัวหน้าสำนักงานเลขานุการ กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ


5 โครงสร้างการแบ่งส่วนงาน สำนักวิทยบริการ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี


6 บทที่ 3 หลักเกณฑ์ในการปฏิบัติงานภายใต้กฎหมายและระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างและการ บริหารพัสดุภาครัฐ 1. กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติงานด้านพัสดุ 1.1 พระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 (15 หมวด 132 มาตรา) ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2560 1.2 ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 (10 หมวด 223 ข้อ) 1.3 กฎกระทรวงตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 (11 ฉบับ) 1.4 ประกาศคณะกรรมการนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ (18 ฉบับ) 1.5 ประกาศคณะกรรมการราคากลางและขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการ (6 ฉบับ) 1.6 ประกาศคณะกรรมการความร่วมมือป้องกันการทุจริต (3 ฉบับ) 2. ความหมายที่เกี่ยวข้องกับการพัสดุ 2.1 “การจัดซื้อจัดจ้าง” หมายความว่า การดําเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งพัสดุโดยการซื้อ จ้าง เช่า แลกเปลี่ยน หรือโดยนิติกรรมอื่นตามที่กําหนดในกฎกระทรวง 2.2 “พัสดุ” หมายความว่า สินค้า งานบริการ งานก่อสร้าง งานจ้างที่ปรึกษาและงานจ้างออกแบบ หรือควบคุมงานก่อสร้าง รวมทั้งการดําเนินการอื่นตามที่กําหนดในกฎกระทรวง หน้า ๑๔ เล่ม ๑๓๔ ตอนที่ ๒๔ ก ราชกิจจานุเบกษา ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ 2.3 “สินค้า” หมายความว่า วัสดุ ครุภัณฑ์ ที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง และทรัพย์สินอื่นใด รวมทั้งงานบริการ ที่รวมอยู่ในสินค้านั้นด้วย แต่มูลค่าของงานบริการต้องไม่สูงกว่ามูลค่าของสินค้านั้น 2.4 “งานบริการ” หมายความว่า งานจ้างบริการ งานจ้างเหมาบริการ งานจ้างทําของและการรับขน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์จากบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล แต่ไม่หมายความรวมถึงการจ้าง ลูกจ้างของหน่วยงานของรัฐ การรับขนในการเดินทางไปราชการหรือไปปฏิบัติงานของหน่วยงานของรัฐงาน จ้างที่ปรึกษา งานจ้างออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้าง และการจ้างแรงงานตามประมวลกฎหมายแพ่งและ พาณิชย์ 2.5 “งานก่อสร้าง” หมายความว่า งานก่อสร้างอาคาร งานก่อสร้างสาธารณูปโภค หรือสิ่งปลูกสร้าง อื่นใดและการซ่อมแซม ต่อเติม ปรับปรุง รื้อถอน หรือการกระทําอื่นที่มีลักษณะทํานองเดียวกันต่ออาคาร สาธารณูปโภค หรือสิ่งปลูกสร้างดังกล่าว รวมทั้งงานบริการที่รวมอยู่ในงานก่อสร้างนั้นด้วย แต่มูลค่าของงาน บริการต้องไม่สูงกว่ามูลค่าของงานก่อสร้างนั้น 2.6 “อาคาร” หมายความว่า สิ่งปลูกสร้างถาวรที่บุคคลอาจเข้าอยู่หรือใช้สอยได้ เช่น อาคารที่ทํา การโรงพยาบาล โรงเรียน สนามกีฬา หรือสิ่งปลูกสร้างอย่างอื่นที่มีลักษณะทํานองเดียวกัน รวมทั้งสิ่งก่อสร้าง อื่น ๆ ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อประโยชน์ใช้สอยสําหรับอาคารนั้น ๆ เช่น เสาธง รั้ว ท่อระบายน้ำ หอถังน้ำ ถนน ประปา ไฟฟ้า หรือสิ่งอื่น ๆ ซึ่งเป็นส่วนประกอบของตัวอาคาร เช่น เครื่องปรับอากาศ ลิฟท์ หรือเครื่องเรือน 2.7 “สาธารณูปโภค” หมายความว่า งานอันเกี่ยวกับการประปา การไฟฟ้า การสื่อสาร การ โทรคมนาคมการระบายน้ำ การขนส่งทางท่อ ทางน้ำทางบก ทางอากาศ หรือทางราง หรือการอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งดําเนินการในระดับพื้นดิน ใต้พื้นดิน หรือเหนือพื้นดิน


7 2.8 “งานจ้างที่ปรึกษา” หมายความว่า งานจ้างบริการจากบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลเพื่อเป็นผู้ให้ คำปรึกษาหรือแนะนําแก่หน่วยงานของรัฐในด้านวิศวกรรม สถาปัตยกรรม ผังเมือง กฎหมายเศรษฐศาสตร์ การเงิน การคลัง สิ่งแวดล้อม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สาธารณสุข ศิลปวัฒนธรรมการศึกษาวิจัย หรือด้านอื่น ที่อยู่ในภารกิจของรัฐหรือของหน่วยงานของรัฐ 2.9 “งานจ้างออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้าง” หมายความว่า งานจ้างบริการจากบุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคลเพื่อออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้าง “การบริหารพัสดุ” หมายความว่า การเก็บ การบันทึก การเบิกจ่าย การยืม การตรวจสอบการบํารุงรักษา และ การจําหน่ายพัสดุ 2.10 “ราคากลาง” หมายความว่า ราคาเพื่อใช้เป็นฐานสําหรับเปรียบเทียบราคาที่ผู้ยื่นข้อเสนอได้ ยื่นเสนอไว้ซึ่งสามารถจัดซื้อจัดจ้างได้จริงตามลําดับ ดังตอไปนี้ (๑) ราคาที่ได้มาจากการคํานวณตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการราคากลางกําหนด (๒) ราคาที่ได้มาจากฐานข้อมูลราคาอ้างอิงของพัสดุที่กรมบัญชีกลางจัดทํา (๓) ราคามาตรฐานที่สํานักงบประมาณหรือหน่วยงานกลางอื่นกําหนด (๔) ราคาที่ได้มาจากการสืบราคาจากท้องตลาด (๕) ราคาที่เคยซื้อหรือจ้างครั้งหลังสุดภายในระยะเวลาสองปีงบประมาณ (๖) ราคาอื่นใดตามหลักเกณฑ์ วิธีการ หรือแนวทางปฏิบัติของหน่วยงานของรัฐนั้น ๆในกรณี ที่มีราคาตาม (๑) ให้ใช้ราคาตาม (๑) ก่อน ในกรณีที่ไม่มีราคาตาม (๑) แต่มีราคาตาม (๒) หรือ (๓) ให้ใช้ราคา ตาม (๒) หรือ (๓) ก่อน โดยจะใช้ราคาใดตาม (๒) หรือ (๓) ให้คํานึงถึงประโยชน์ของหน่วยงานของรัฐเป็น สําคัญ ในกรณีที่ไม่มีราคาตาม (๑) (๒) และ (๓) ให้ใช้ราคาตาม (๔) (๕) หรือ (๖) โดยจะใช้ราคาใดตาม (๔) (๕) หรือ (๖) ให้คํานึงถึงประโยชน์ของหน่วยงานของรัฐเป็นสําคัญ 2.11 “เงินงบประมาณ” หมายความว่า เงินงบประมาณตามกฎหมายว่าด้วยงบประมาณรายจ่าย กฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ หรือกฎหมายเกี่ยวด้วยการโอนงบประมาณ เงินซึ่งหน่วยงานของรัฐได้รับไว้ โดยได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีให้ไม่ต้องนําส่งคลังตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณหรือกฎหมายว่าด้วย เงินคงคลัง เงินซึ่งหน่วยงานของรัฐได้รับไว้โดยไม่ต้องนําส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดินตามกฎหมาย และเงิน ภาษี อากร ค่าธรรมเนียม หรือผลประโยชน์อื่นใดที่ตกเป็นรายได้ของราชการส่วนท้องถิ่นตามกฎหมายหรือที่ ราชการส่วนท้องถิ่นมีอํานาจเรียกเก็บตามกฎหมาย และให้หมายความรวมถึงเงินกู้ เงินช่วยเหลือ และเงินอื่น ตามที่กําหนดในกฎกระทรวง 2.12 “หน่วยงานของรัฐ” หมายความว่า ราชการส่วนกลาง ราชการส่วนภูมิภาค ราชการส่วน ท้องถิ่นรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ องค์การมหาชน องค์กรอิสระ องค์กรตาม รัฐธรรมนูญหน่วยธุรการของศาล มหาวิทยาลัยในกํากับของรัฐ หน่วยงานสังกัดรัฐสภาหรือในกํากับของรัฐสภา หน่วยงานอิสระของรัฐ และหน่วยงานอื่นตามที่กําหนดในกฎกระทรวง 2.13 “เจ้าหน้าที่” หมายความว่า ผู้มีหน้าที่เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างหรือการบริหารพัสดุ หรือผู้ที่ ได้รับมอบหมายจากผู้มีอํานาจให้ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างหรือการบริหารพัสดุของหน่วยงานของ รัฐ ที่มาของ “เจ้าหน้าที่” (1) โดยตำแหน่ง หมายถึง ผู้มีหน้าที่เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างหรือการบริหารพัสดุ (2) โดยแต่งตั้ง หมายถึง ผู้ที่ได้รับมอบหมายจากผู้มีอำนาจให้ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการ จัดซื้อจัดจ้างหรือการบริหารพัสดุ


8 หน้าที่เจ้าหน้าที่ (1) จัดทำแผนการจัดซื้อจัดจ้างประจำปีเสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐให้ความเห็นชอบ (2) จัดทำรายงานการเปลี่ยนแปลงแผนการจัดซื้อจัดจ้างเสนอหัวหน้าหน่วยงานให้ความ เห็นชอบ (3) ได้รับมอบหมายให้จัดทำร่างขอบเขตของงานหรือรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของ พัสดุหรือแบบรูปรายการงานก่อสร้าง (4) จัดทำรายงานขอซื้อหรือขอจ้างเสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐเพื่อขอความเห็นชอบ (5) จัดทำเอกสารซื้อหรือจ้างด้วยวิธีตลาดอิเล็กทรอนิกส์พร้อมประกาศเชิญชวนตามแบบ ที่คณะกรรมการนโยบายกำหนด (6) พิจารณาราคาของผู้ที่เสนอราคาเข้าสู่ระบบตลาดอิเล็กทรอนิกส์ และจัดทำรายงาน เสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐผ่านหัวหน้าเจ้าหน้าที่เพื่อพิจารณารับราคา และถ้าไม่มีผู้เสนอราคาให้เสนอ หัวหน้าหน่วยงานของรัฐผ่านหัวหน้าเจ้าหน้าที่เพื่อพิจารณายกเลิกการซื้อหรือจ้างในครั้งนั้น (7) ต่อรองราคากับผู้เสนอราคาผ่านทางระบบตลาดอิเล็กทรอนิกส์ ในกรณีที่ปรากฏว่า ราคาของผู้เสนอราคาต่ำสุดที่ชนะการเสนอราคายังสูงกว่าวงเงินที่จะซื้อหรือจ้าง รวมทั้ง เสนอยกเลิกการซื้อ หรือจ้าง ในกรณีที่ดำเนินการต่อรองราคาแล้วไม่ได้ผล (8) จัดพิมพ์ใบเสนอราคาและเอกสารของผู้เสนอราคาจากระบบตลาดอิเล็กทรอนิกส์ และ ลงลายมือชื่อกำกับไว้ในใบเสนอราคาและเอกสารการเสนอราคาทุกแผ่น (9) จัดทำรายงานเสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐผ่านหัวหน้าเจ้าหน้าที่เพื่อพิจารณายกเลิก การซื้อหรือจ้างในครั้งนั้น หรือพิจารณาผู้ที่เสนอราคาต่ำในลำดับถัดไปเป็นผู้ชนะการเสนอราคาก็ได้ ในกรณีที่ ผู้ชนะการเสนอราคา เสนอราคาผิดเงื่อนไขตามที่กำหนดไว้ หรือเสนอแค็ตตาล็อก (catalog) หรือรายละเอียด คุณลักษณะเฉพาะของพัสดุไม่ถูกต้องตรางตามเงื่อนไขที่กำหนด (10) จัดทำรายงานผลการพิจารณาและความเห็นพร้อมด้วยเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต่อ หัวหน้าหน่วยงานของรัฐผ่านหัวหน้าเจ้าหน้าที่เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ (11) จัดทำเอกสารซื้อหรือจ้างด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์พร้อมประกาศเชิญชวน ตามแบบที่คณะกรรมการนโยบายกำหนด (12) จัดทำเอกสารซื้อหรือจ้างด้วยวิธีสอบราคาพร้อมประกาศเชิญชวน ตามแบบที่ คณะกรรมการนโยบายกำหนด (13) รับซองสอบราคาโดยไม่เปิดซองพร้อมระบุวันและเวลาที่รับซอง ในกรณีที่ผู้ยื่น ข้อเสนอมายื่นโดยตรง ให้ออกใบรับให้แก่ผู้ยื่นข้อเสนอ และให้ส่งมอบซองเสนอราคาทั้งหมด และเอกสาร หลักฐานต่างๆ ที่ได้รับไว้ต่อคณะกรรมการพิจารณาผลการสอบราคาครั้งนั้น (13) รับซองข้อเสนอ สำหรับการจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีคัดเลือก โดยไม่เปิดซองพร้อมระบุ วันและเวลาที่รับซอง ในกรณีที่ผู้ยื่นข้อเสนอมายื่นโดยตรง ให้ออกใบรับให้แก่ผู้ยื่นข้อเสนอ และให้ส่งมอบซอง เสนอราคาทั้งหมด และเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่ได้รับไว้ต่อคณะกรรมการดำเนินการซื้อหรือจ้างโดยวิธีการ คัดเลือกครั้งนั้น (14) เจรจาตกลงราคากับผู้ประกอบการที่มีอาชีพขายหรือรับจ้างโดยตรง สำหรับการ จัดซื้อจัดจ้างตามมาตรา 56 วรรคหนึ่ง (2)(ข) (15) ในกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้คาดหมายไว้ก่อนและไม่อาจ ดำเนินการตามปกติได้ทัน ให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ที่รับผิดชอบในการปฏิบัติงานนั้นดำเนินการไปก่อนแล้วรีบ รายงานขอความเห็นชอบต่อหัวหน้าหน่วยงานของรัฐให้ความเห็นชอบ


9 (16) จัดทำรายงานขอเช่าอสังหาริมทรัพย์ เสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐเพื่อขอความ เห็นชอบ (17) ในการจ้างที่ปรึกษา ให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาคณะ หนึ่งหรือจะให้เจ้าหน้าที่หรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งจัดทำร่างขอบเขตของงานจ้างที่ปรึกษา รวมทั้งกำหนด หลักเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกข้อเสนอ (18) จัดทำรายงานขอจ้างที่ปรึกษาเสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐเพื่อขอความเห็นชอบ (19) จัดทำเอกสารจ้างที่ปรึกษาด้วยวิธีประกาศเชิญชวนทั่วไปพร้อมประกาศเชิญชวน ตามแบบที่คณะกรรมการนโยบายกำหนด (20) รับซองข้อเสนอโดยไม่เปิดซองพร้อมระบุวันและเวลาที่รับซอง ในกรณีที่ปรึกษามา ยื่นโดยตรง ให้ออกใบรับให้แก่ที่ปรึกษา และให้ส่งมอบซองข้อเสนอทั้งหมด และเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่ได้รับ ไว้ต่อคณะกรรมการดำเนินการจ้างที่ปรึกษาโดยวิธีประกาศเชิญชวนทั่วไปครั้งนั้น เพื่อดำเนินการต่อไป (21) ขอรายชื่อที่ปรึกษาในสาขางานที่จะจ้างจากศูนย์ที่ปรึกษา กระทรวงการคลัง แล้ว มอบให้คณะกรรมการดำเนินการจ้างที่ปรึกษาโดยวิธีคัดเลือก เพื่อดำเนินการต่อไป (22) ในการจ้างออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้าง ให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐแต่งตั้ง คณะกรรมการขึ้นมาคณะหนึ่งหรือจะให้เจ้าหน้าที่หรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งจัดทำร่างขอบเขตของงานจ้าง ออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้าง รวมทั้งกำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกข้อเสนอ (23) จัดทำรายงานขอจ้างออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้างเสนอหัวหน้าหน่วยงานของ รัฐเพื่อขอความเห็นชอบ (24) รับซองข้อเสนอโดยไม่เปิดซองพร้อมระบุวันและเวลาที่รับซอง ในกรณีผู้ยื่นข้อเสนอ มายื่นโดยตรง ให้ออกใบรับให้แก่ผู้ยื่นข้อเสนอ และให้ส่งมอบซองข้อเสนอทั้งหมด และเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่ได้รับไว้ต่อคณะกรรมการดำเนินการจ้างออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้างโดยวิธีประกาศเชิญชวนทั่วไปหรือ คณะกรรมการดำเนินการจ้างออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้างโดยวิธีคัดเลือก หรือคณะกรรมการดำเนินการ จ้างออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้างโดยวิธีประกวดราคา แล้วแต่กรณี เพื่อดำเนินการต่อไป (25) จัดทำเอกสารงานจ้างออกแบบงานก่อสร้างโดยวิธีประกวดแบบพร้อมประกาศเชิญ ชวน ตามแบบที่คณะกรรมการนโยบายกำหนด (26) ดำเนินการเผยแพร่ประกาศและเอกสารงานจ้างออกแบบงานจ้างก่อสร้างโดยวิธี ประกวดแบบในระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชีกลางและของหน่วยงานของรัฐ และให้ปิดประกาศ ณ สถานที่ปิดประกาศของหน่วยงานของรัฐนั้น (27) ลงบัญชีหรือทะเบียนเพื่อควบคุมพัสดุที่ได้รับมอบแล้ว และเก็บรักษาพัสดุให้เป็น ระเบียบเรียบร้อย ปลอดภัยและให้ครบถ้วนถูกต้องตรงตามบัญชีหรือทะเบียน (28) จัดทำรายงานการจำหน่ายพัสดุที่หมดความจำเป็น หรือหากใช้ราชการต่อไปจะ สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมาก เสนอหัวหน้าหน่วยงานขอรัฐเพื่อพิจารณาสั่งการให้ดำเนินการตามวิธีการอย่างใดอย่าง หนึ่ง (29) ลงจ่ายพัสดุ ที่ได้จำหน่ายหรือจำหน่ายเป็นสูญ นับออกจากบัญชีหรือทะเบียนทันที


10 3. หลักการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุ 3.1 คุ้มค่า โดยพัสดุที่จัดซื้อจัดจ้างต้องมีคุณภาพหรือคุณลักษณะที่ตอบสนองวัตถุประสงค์ในการใช้ งานของหน่วยงานของรัฐ มีราคาที่เหมาะสม และมีแผนการบริหารพัสดุที่เหมาะสมและชัดเจน 3.2 โปร่งใส โดยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุต้องกระทําโดยเปิดเผย เปิดโอกาสให้มีการ แข่งขันอย่างเป็นธรรม มีการปฏิบัติต่อผู้ประกอบการทุกรายโดยเท่าเทียมกัน มีระยะเวลาที่เหมาะสมและ เพียงพอต่อการยื่นข้อเสนอ มีหลักฐานการดําเนินงานชัดเจน และมีการเปิดเผยข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างและการ บริหารพัสดุในทุกขั้นตอน 3.3 มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล โดยต้องมีการวางแผนการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุ ล่วงหน้าเพื่อให้การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุเป็นไปอย่างต่อเนื่องและมีกําหนดเวลาที่เหมาะสมโดยมี การประเมินและเปิดเผยผลสัมฤทธิ์ของการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุ 3.4 ตรวจสอบได้โดยมีการเก็บข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุอย่างเป็นระบบเพื่อ ประโยชน์ในการตรวจสอบ


11 บทที่ 4 การจัดทำร่างขอบเขตของงานหรือรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุ 1. การจัดทำร่างขอบเขตของงานหรือรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุ 1.1 ความหมายในที่นี้ขอให้ความหมายกับคำว่า“ร่างขอบเขตของงาน”และ“รายละเอียดคุณ ลักษณะเฉพาะ”ไว้ดังนี้ 1.2 ร่างขอบเขตของงาน (Term of Reference : TOR) เป็นเอกสารที่กำหนดขอบเขตและ รายละเอียดของภารกิจที่ผู้จัดทำ ต้องการให้ผู้ขายหรือผู้รับจ้างดำเนินการ รวมทั้งความรับผิดชอบอื่นๆ ของ ผู้ขายหรือผู้รับจ้างที่เกี่ยวข้องกับภารกิจนั้น ซึ่งรายการละเอียดของงานที่ผู้ซื้อหรือผู้ว่าจ้างประสงค์จะให้ผู้ขาย หรือผู้รับจ้างทำงานให้ โดยการบอกขอบเขตของงานให้ชัดเจน ระยะเวลาที่ต้องการ คุณสมบัติของผู้ยื่น ข้อเสนอ ซึ่งผู้ว่าจ้างต้องการให้ทำงานตามขอบเขตดังกล่าว รวมถึงข้อกำหนดที่ผู้ซื้อหรือผู้ว่าจ้างต้องการให้ ดำเนินการ จะมีกี่ขั้นตอนแต่ละขั้นตอนประกอบด้วยอะไรบ้าง ผิดสัญญาจะถูกปรับอย่างไร สิ่งต่างๆ เหล่านี้ผู้ ซื้อหรือผู้ว่าจ้างจะจัดให้อยู่ในขอบเขตของงานทั้งหมด เพื่อประกาศหาผู้ขายหรือผู้รับจ้างตามกรรมวิธีต่อไป ซึ่ง ผู้ที่ประสงค์จะเป็นผู้ขายหรือผู้รับจ้างได้ศึกษาดูก่อนว่างานตามประกาศสามารถทำได้หรือมีคุณสมบัติครบถ้วน หรือไม่ เพื่อเป็นข้อมูลเบื้องต้นประกอบการพิจารณาในขั้นตอนการดำเนินการจัดหาของผู้ซื้อหรือผู้ว่าจ้าง 1.3 ความสำคัญของร่างขอบเขตของงาน (Term of Reference : TOR) ขอบเขตของงานมี ความสำคัญต่อคุณภาพของงานซื้อหรือจ้าง เป็นเอกสารอ้างอิงที่ใช้เป็นส่วนหนึ่งของสัญญาซื้อหรือจ้างพัสดุนั้น ดังนั้นขอบเขตของงานจึงต้องมีความชัดเจนเพียงพอต่อการตรวจรับของคณะกรรมการทั้งด้านปริมาณและ คุณภาพของงาน ขอบเขตของงานที่ดีจะช่วยให้ได้พัสดุที่ดี ตรงตามวัตถุประสงค์ของผู้ใช้งาน และเกิดประโยชน์ สูงสุด 1.4 เหตุผลในการจัดทำร่างขอบเขตของงาน (Term of Reference : TOR) เป็นเอกสารแสดง ข้อมูล รายการ รายละเอียดที่แจ้งให้ผู้ขายหรือผู้รับจ้างทราบถึงความต้องการและเงื่อนไขของผู้ซื้อหรือจ้าง และเพื่อให้สามารถจัดหาพัสดุได้ตรงตามความต้องการ เกิดความเป็นธรรมในการแข่งขันการเสนอราคา ประหยัดงบประมาณ เกิดความคุ้มค่า มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล และความรับผิดชอบต่อผลสำเร็จของ งาน เป็นประโยชน์แก่ทางราชการและหน่วยงาน 1.5 องค์ประกอบของการกำหนดร่างขอบเขตของงาน (Term of Reference : TOR) (1) ความเป็นมา (2) วัตถุประสงค์ (3) คุณสมบัติของผู้เสนอราคา (4) รูปแบบรายการหรือคุณลักษณะเฉพาะ (5) ระยะเวลาการดำเนินการ (6) ระยะเวลาส่งมอบ (7) วงเงินในการจัดซื้อจัดจ้าง (8) ราคากลาง (9) หลักเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกข้อเสนอ (10) การรับประกัน (ถ้ามี) (11) ค่าปรับ


12 1.6 ร่างขอบเขตของงาน (Term of Reference : TOR) ที่ดีเป็นอย่างไร ลักษณะขอบเขตของ งานหรือรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุที่ดีจะช่วยให้หน่วยงานของรัฐได้พัสดุตรงตามวัตถุประสงค์ การใช้งานประหยัด เกิดประโยชน์สูงสุด ควรมีลักษณะดังนี้ (1) TOR ที่ดีจะทำให้ได้พัสดุตรงตามวัตถุประสงค์การใช้งาน ประหยัดและคุณภาพดีเกิด ประโยชน์สูงสุด (2) TOR ที่ดีจะต้องระบุความจำเป็นและคุณลักษณะที่ต้องการนำไปใช้ประโยชน์ให้ชัดเจน (3) TOR ที่ดีจะต้องระบุข้อความไม่กำกวม ตรวจสอบได้ (4) TOR ที่ดีจะไม่ระบุรายการที่เกินความจำเป็น (5) TOR ที่ดีจะต้องมีความชัดเจนที่สามารถจัดหาได้และทำให้คัดเลือกผู้ขายหรือผู้รับจ้างได้ ง่ายและโปร่งใส (6) TOR ที่ดีจะต้องไม่กว้างเกินไป จนทำให้ได้พัสดุที่ต้องการแต่ไม่มีคุณภาพ 1.7 รายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะ หมายถึง ข้อกำหนดทางเทคนิคเป็นเอกสาร ซึ่งกล่าวถึงความ ประสงค์ ความต้องการขององค์กร เช่น หน่วยงานราชการ ผู้ออกแบบ เจ้าของงาน หรือเจ้าของโครงการ เพื่อ สื่อสารไปยังผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตลอดจน บุคลากรผู้ที่เกี่ยวข้องในงานต่างๆ เช่น การจัดซื้อพัสดุครุภัณฑ์ งาน จ้างต่างๆ เช่น งานก่อสร้าง งานจ้างเหมาบริการ ฯลฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดขอบเขตงาน อธิบายคำ จำกัดความ นิยามที่ใช้ในงานนั้น มาตรฐานที่ต้องการให้ใช้ ชนิด ขนาด และรายละเอียดของวัสดุ ตลอดจนถึง วิธีการก่อสร้างหรือวิธีการดำเนินงาน รวมถึงคุณภาพของฝีมือ แรงงาน ความละเอียดและถูกต้องในงานนั้น 1.8 รายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุที่จะซื้อหรือจ้าง ตามมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติ การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 ได้กำหนดหลักการจัดทำร่างขอบเขตของงานหรือ รายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุหรือแบบรูปรายการงานก่อสร้างที่ใช้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง ไว้ดังนี้ (1) หลักการ การกำหนดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุที่จะทำการจัดซื้อจัดจ้าง ให้หน่วยงานของรัฐ คำนึงถึงคุณภาพ เทคนิค และวัตถุประสงค์ของการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุนั้น (2) ข้อห้าม ห้ามมิให้กำหนดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุให้ใกล้เคียงกับยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่ง หรือของ ผู้ขายรายใดรายหนึ่งโดยเฉพาะ (3) ข้อยกเว้น พัสดุที่จะทำการจัดซื้อจัดจ้างตามวัตถุประสงค์นั้นมียี่ห้อเดียวหรือจะต้องใช้อะไหล่ ของยี่ห้อใด ก็ให้ระบุยี่ห้อนั้นได้ 1.9 ผู้มีหน้าที่จัดทำรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุ ระเบียบข้อ 21 ได้กำหนดผู้มีหน้าที่ จัดทำร่างขอบเขตของงานหรือรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุหรือแบบรูปรายการงานก่อสร้าง ไว้ดังนี้ (1) การซื้อหรือจ้างที่มิใช่การจ้างก่อสร้าง ให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมา คณะหนึ่ง หรือจะให้เจ้าหน้าที่หรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งรับผิดชอบในการจัดทำร่างขอบเขตของงานหรือ รายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุที่จะซื้อหรือจ้าง รวมทั้งกำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือก ข้อเสนอด้วย (2) การจ้างก่อสร้าง ให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาคณะหนึ่งหรือจะให้ เจ้าหน้าที่หรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งจัดทำแบบรูปรายการงานก่อสร้าง หรือจะดำเนินการจ้างตามความในหมวด 4 งานจ้างออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้างก็ได้ (3) องค์ประกอบ ระยะเวลาการพิจารณา และการประชุมของคณะกรรมการ ให้เป็นไปตามที่ หัวหน้าหน่วยงานของรัฐกำหนดตามความจำเป็นและเหมาะสม


13 (4) การกำหนดรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุที่จะซื้อหรือจ้างมีมาตรฐาน และเป็น ประโยชน์ต่อทางราชการ ก. หากพัสดุที่จะซื้อหรือจ้างใดมีประกาศกำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมแล้ว ให้กำหนดรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุที่จะซื้อหรือจ้าง หรือรายการในการก่อสร้างตามมาตรฐาน ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือเพื่อความสะดวกจะระบุเฉพาะหมายเลขมาตรฐานก็ได้ ข. ในกรณีพัสดุที่จะซื้อหรือจ้างใดยังไม่มีประกาศกำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมแต่มี ผู้ได้รับการจดทะเบียนผลิตภัณฑ์ไว้กับกระทรวงอุตสาหกรรมแล้วให้กำหนดรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของ พัสดุที่จะซื้อหรือจ้างหรือรายการในการก่อสร้างให้สอดคล้องกับรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะตามที่ระบุใน คู่มือผู้ซื้อหรือใบแทรกคู่มือผู้ซื้อที่กระทรวงอุตสาหกรรมจัดทำขึ้น 1.10 ลักษณะของรายละเอียดคุณลักษณะของพัสดุที่จะซื้อหรือจ้าง ขอบเขตของงานหรือรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุที่จะซื้อหรือจ้างจะต้องมีความ ชัดเจนที่สามารถจัดหาหรือปฏิบัติได้ และกำหนดประเด็นต่างๆ ที่ผู้ขายหรือผู้รับจ้างจะต้องดำเนินการไว้อย่าง ชัดเจน ยิ่งมีความชัดเจนเพียงใดยิ่งทำให้การคัดเลือกผู้ขายหรือผู้รับจ้างได้ง่ายขึ้น โปร่งใสมากขึ้น เมื่อได้ตัวผู้ ชนะการเสนอราคาหรือได้รับการคัดเลือกแล้ว จะเป็นเอกสารอ้างอิงที่ใช้เป็นส่วนหนึ่งของสัญญา ดังนั้น ขอบเขตของงานหรือรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุที่ดีจะต้องกว้างเกินไป จนทำให้ได้สิ่งที่ต้องการแต่ ไม่มีคุณภาพ ผู้มีหน้าที่จัดทำจึงต้องมีการวิเคราะห์ปัญหาเบื้องต้น หรือในระดับแนวคิด โดยการร่วมหารือกับ กลุ่มต่างๆ เพื่อให้ได้มุมมองที่หลากหลายครบถ้วนครอบคลุม 2.ตัวอย่างร่างขอบเขตของงาน (Term of Reference : TOR) 2.1 ขอบเขตของงาน (Term of Reference : TOR) การจัดซื้อวัสดุสำนักงาน 2.2 ขอบเขตของงาน (Term of Reference : TOR) (ครุภัณฑ์) 2.3 ขอบเขตของงาน (Term of Reference : TOR) งานจ้างเหมาบริการ 2.4 ขอบเขตของงาน (Term of Reference : TOR) งานจ้างทำความสะอาด 2.5 ขอบเขตของงาน (Term of Reference : TOR) (วิธีเฉพาะเจาะจง – งานซื้อ) 2.6 ขอบเขตของงาน (Term of Reference : TOR) (วิธีเฉพาะเจาะจง - งานจ้าง) 2.7 ขอบเขตของงาน (Term of Reference : TOR) (วิธีคัดเลือก - งานซื้อ) 2.8 ขอบเขตของงาน (Term of Reference : TOR) (วิธีคัดเลือก - งานจ้าง) 2.9 ขอบเขตของงาน (Term of Reference : TOR) งานซื้อ-ด้วยวิธีการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) 2.10 ขอบเขตของงาน(Term of Reference : TOR)งานจ้าง-ด้วยวิธีการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding)


14 (ตัวอย่าง) รายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะ : การจัดซื้อวัสดุสำนักงาน 1. รายละเอียดของพัสดุที่ต้องการ ล ำดบัรำยกำร จ ำนวน หน่วยนับ 1 ปากกาหมกึแห้ง สีน ้าเงนิขนาด 0.5 มม 1 2 โหล 2 ปากกาหมกึแห้ง สีแดง ขนาด 0.5 มม 1 2 โหล 3 ไมบ้รรทัดพลาสตกิขนาด 12 นิ ว 2 4 อัน 4 เทปใส ขนาด 3/4 นิ ว (วงเล็ก) 4 8 มว้น 5 แท่นประทับตรา สีน ้าเงนิ 2 4 อัน 6 แท่นประทับตรา สีแดง 2 4 อัน 7 ดนิสอ HB 1 2 แท่ง 8 ยางลบดนิสอ 1 2 ก้อน 9 ถ่านไฟฉาย ขนาด AAA ชนิดแพค็ 4 ก้อน 6 แพค็ 2. เกณฑ์ที่ใช้ในการพิจารณา เกณฑ์ราคา 3. ระยะเวลาที่ต้องการใช้พัสดุ ผู้ขายต้องส่งมอบ ภายใน ........ วัน/วันทำการ นับถัดจากวันลงนามในใบสั่งซื้อ 4. วงเงินที่ประมาณที่จะซื้อ เป็นเงิน ..................................... บาท (...................................) ลงชื่อ.......................................................ผู้กำหนดรายละเอียด (......................................................)


15 (ตัวอย่าง) การกำหนดรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะพัสดุ (ครุภัณฑ์) ------------------------- ชื่อครุภัณฑ์ เครื่องพิมพ์เลเซอร์หรือ LED สี แบบ Multifunction ขนาด A3 รายละเอียดทั่วไป 1. ลักษณะการใช้งาน : เพื่อใช้สำหรับงานพิมพ์เอกสาร 2. ............................................ รายละเอียดทางเทคนิค 1. เทคโนโลยี : Color Laser หรือ Color Light Emitting Diode (LED.) แบบ All in one หรือ Multifunction (Print, Scan, Copy,Fax) 2. ขนาดของสื่อที่รองรับ: A3 หรือดีกว่า 3. รองรับงานด้านการพิมพ์(Print) 4. รองรับงานด้านการอ่านข้อมูล (Scan) และความละเอียดในการอ่านข้อมูล ไม่ต่ำกว่าผลคูณของ 600x600 dpi. หรือ 1,200 dpi (TWAIN) 5. ……………………………………………………………… การรับรองคุณภาพ 1. ผลิตภัณฑ์จะต้องผ่านการรับรองมาตรฐาน ISO , FCC หรือเทียบเท่า , UL หรือเทียบเท่า และ มาตรฐานสิ่งแวดล้อมหรือเทียบเท่าพร้อมแนบเอกสารรับรองที่สามารถตรวจสอบได้(รวมถึงกรณี OEM) 2. พัสดุที่เสนอจะต้องมีการรับประกันทุกชิ้นส่วน 1 ปีโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมใดๆทั้งสิ้น อุปกรณ์และคู่มือการใช้งาน ผู้ขายจะต้องส่งมอบสื่อบันทึกข้อมูล Driver และคู่มือการใช้งาน จำนวน 1 ชุด การเสนอราคา 1. ผู้เสนอราคาต้องแจ้งชื่อเว็บไซต์ของผลิตภัณฑ์ที่เสนอ ในหน้าที่บรรจุ Software Driver โดยมี ยี่ห้อและรุ่นตามที่นำเสนอเพื่อประโยชน์ของหน่วยงานอย่างน้อย 1 เว็บไซต์ 2. ………………… (ลงชื่อ)................................................ผู้จัดทำรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะ (................................................)


16 (ตัวอย่าง) ร่างขอบเขตของงาน - งานจ้างเหมาบริการ 1. รายละเอียดการจ้าง งานจ้างเหมาบริการบันทึกข้อมูล 2. ระยะเวลาการจ้าง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 25XX ถึงวันที่ 30 กันยายน 25XX 3. คุณสมบัติของผู้รับจ้าง 3.1 สัญชาติไทย 3.2 อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ และไม่เกิน 60 ปี 3.3 วุฒิการศึกษาไม่ต่ำกว่าชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นขึ้นไป 3.4 มีความรู้ความสามารถด้านโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูปได้ดี 3.5 มีความประพฤติเรียบร้อย สุขภาพแข็งแรง เหมาะสมกับตำแหน่งที่รับผิดชอบมีบุคลิกภาพ และมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี 3.6 ไม่เป็นผู้มีกายทุพพลภาพจนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ไร้ความสามารถ เสมือนไร้ ความสามารถวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ หรือเป็นโรคสังคมรังเกียจ 3.7 ไม่เป็นผู้อยู่ในระหว่างถูกสั่งให้พักราชการ หรือถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน หรือเคยถูก ลงโทษไล่ออกหรือปลดออกจากราชการเพราะกระทำผิดวินัยตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือน หรือตามกฎหมายอื่น 3.8 ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย 3.9 ไม่เคยต้องโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุด ให้จำคุกเพราะกระทำความผิดทางอาญา เว้นแต่ เป็นโทษหรือทำความผิดที่กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ 3.10 มีความรู้ ความสามารถในการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ และโปรแกรม Microsoft Office ได้เป็น อย่างดี 4. ขอบเขตของงานที่จ้าง 4.1 พิมพ์ และตรวจทานหนังสือราชการ 4.2 บันทึกข้อมูลทุกประเภทลงเครื่องคอมพิวเตอร์ 4.3 จัดทำทะเบียน รับ – ส่ง ออกเลขหนังสือลงเครื่องคอมพิวเตอร์ 4.4 ตรวจสอบ ดูแลครุภัณฑ์คอมพิวเตอร์ให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานอยู่เสมอ 4.5 ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่ผู้ว่าจ้าง เจ้าหน้าที่ของผู้ว่าจ้าง หรือผู้แทนของผู้ว่าจ้างมอบหมาย 5. ข้อบังคับและระเบียบการทำงาน 5.1 ผู้รับจ้างต้องปฏิบัติงานในวันและเวลาราชการ โดยต้องลงเวลาปฏิบัติงานทุกครั้ง ที่เข้าทำงานและเลิก งาน 5.2 ผู้รับจ้างต้องปฏิบัติงานนอกเวลาราชการเพื่อทำงานเร่งด่วนเป็นครั้งคราวตามระยะเวลาที่ผู้ว่าจ้าง กำหนด


17 5.3 ผู้รับจ้างต้องเดินทางไปปฏิบัติงานนอกพื้นที่เป็นครั้งคราวตามระยะเวลาที่ผู้ว่าจ้างกำหนด 6. วินัยในการปฏิบัติงาน 6.1 เคารพและปฏิบัติตามระเบียบวินัยในการทำงานโดยเคร่งครัด 6.2 เชื่อฟังและปฏิบัติตามคำสั่งของผู้ว่าจ้างหรือผู้ที่ผู้ว่าจ้างมอบหมาย 6.3 ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต ขยันหมั่นเพียร เสียสละ อดทน และมีความตั้งใจจริง 6.4 ไม่แจ้งหรือรายงานเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการทำงานต่อผู้ว่าจ้าง 6.5 ไม่ละทิ้งหน้าที่หรือขาดงาน กรณีหยุดงาน จะต้องแจ้ง/หรือรายงานให้ผู้ว่าจ้างทราบ 6.6 มาปฏิบัติงานตรงตามเวลาที่ผู้ว่าจ้างกำหนด 6.7 ไม่จงใจหรือปฏิบัติงานให้ล่าช้า จนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ว่าจ้าง 6.8 ห้ามผู้รับจ้างลงชื่อแทนผู้รับจ้างรายอื่น อันทำให้ผู้รับจ้างรายอื่นได้รับประโยชน์หรือเสีย ประโยชน์โดยเด็ดขาด 6.9 ไม่ก่อให้เกิดความเสียหาย สูญหาย แก่เครื่องมือ เครื่องใช้หรือทรัพย์สินอื่นใดของผู้ว่าจ้าง 6.10 ห้ามนำเครื่องมือ เครื่องใช้ หรือทรัพย์สินใดของผู้ว่าจ้างไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัว 6.11 ไม่เปิดเผยข้อมูลใด ๆ อันเป็นเรื่องปกปิดหรือความลับเกี่ยวกับการดำเนินงานของผู้ว่าจ้าง โดยเด็ดขาด 7. วินัยเกี่ยวกับความประพฤติ 7.1 ไม่ประพฤติตนไปในทางที่จะนำความเสื่อมเสียชื่อเสียงมาสู่หน่วยงาน 7.2 ไม่ใช่กิริยาวาจาไม่สุภาพ 7.3 ไม่กระทำหรือสนับสนุนให้มีการทะเลาะวิวาท หรือทำร้ายร่างกายเพื่อนร่วมงาน และผู้อื่น หรือกระทำการใด ๆ ที่ก่อให้เกิดความแตกแยก ความสามัคคีในระหว่างพนักงานด้วยกัน 7.4 ห้ามนำสิ่งเสพติด สุรา ของมึนเมา และของผิดกฎหมายเข้ามาในบริเวณหน่วยงาน 7.5 ห้ามเล่นการพนันทุกชนิด ในบริเวณหน่วยงาน 7.6 ไม่เสพสิ่งเสพติด สุรา หรือสิ่งมึนเมาระหว่างทำงานหรือมาทำงานในสภาพมึนเมา 7.7 ไม่กระทำหรือให้ความร่วมมือในการโจรกรรม หรือทำลายทรัพย์สินของผู้ว่าจ้างหรือกระทำการ อย่างใดอันเป็นเหตุทำให้ผู้ว่าจ้างได้รับความเสียหาย 7.8 ห้ามนำอาวุธทุกชนิดเข้ามาในบริเวณหน่วยงานโดยเด็ดขาด 7.9 ห้ามดำเนินการหรือกระทำการใด ๆ ในทางที่ขัดต่อกฎหมาย ระเบียบ แบบแผนของทาง ราชการและศีลธรรมอันดี 7.10 แต่งกายสุภาพ หรือตามเครื่องแบบที่ผู้ว่าจ้างกำหนด 8. ความรับผิดชอบของผู้รับจ้าง 8.1 ผู้รับจ้างต้องเป็นผู้มีความรู้ ความสามารถหรือมีประสบการณ์ในการปฏิบัติงานที่รับจ้างเป็น อย่างดี 8.2 หากผู้รับจ้างไม่สามารถปฏิบัติงานได้ ผู้รับจ้างต้องจัดให้มีผู้ทำงานแทนตามความเหมาะสมด้วย ค่าใช้จ่ายของผู้รับจ้างทั้งสิ้น โดยผู้ทำงานแทนต้องได้รับความยินยอมจากผู้ว่าจ้างหรือผู้แทนของผู้ว่าจ้างก่อน การกระทำใด ๆ ของผู้ทำงานแทนผู้รับจ้างดังกล่าวให้ถือเสมือนหนึ่งว่าเป็นการกระทำของผู้ รับจ้างเหมาทุกประการ และผู้รับจ้างต้องรับผิดชอบด้วยตนเองในความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการกระทำของผู้ ทำงานแทน


18 8.3 ผู้รับจ้างต้องรับผิดชอบต่อการสูญหาย ความเสียหายที่เกิดจากการใช้พัสดุและอุปกรณ์ต่าง ๆ ของทางราชการ อย่างไม่ถูกต้อง จงใจ หรือประมาทเลินเล่อ และเมื่อเกิดความเสียหายผู้รับจ้างไม่ยอมแก้ไข ให้ลุล่วงภายในระยะเวลาอันควรจนเป็นเหตุให้ผู้ว่าจ้าง ต้องดำเนินการเอง ผู้ว่าจ้างมีสิทธิเรียกค่าใช้จ่ายที่ เกิดขึ้นจากผู้รับจ้างได้ตามที่เป็นจริง 9. ความรับผิดชอบของผู้ว่าจ้าง ผู้ว่าจ้างยินยอมให้ผู้รับจ้างใช้วัสดุครุภัณฑ์ของทางราชการได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม 10. ค่าปรับและการหักเงินค่าจ้าง 10.1 ถ้าผู้รับจ้างไม่มาปฏิบัติหน้าที่ในวันและเวลาตามที่กำหนด ผู้ว่าจ้างจะปรับเป็นรายวันตามที่ ระบุไว้ในสัญญา 10.2 ในกรณีที่มาปฏิบัติงานสาย หรือเลิกงานก่อนเวลาอย่างหนึ่งอย่างใด หรือทั้งสองอย่างรวมกัน เกินกว่า 3 วัน ผู้ว่าจ้างจะถือว่าเป็นการหยุดงานหนึ่งวัน 11. เงื่อนไขการชำระเงิน 11.1 ค่าจ้างจะชำระเป็นงวด งวดละหนึ่งเดือน โดยชำระให้ผู้รับจ้างหลังจากผู้รับจ้างได้ทำงานเสร็จ เรียบร้อย และผู้ว่าจ้างได้ตรวจรับมอบงานจากผู้รับจ้างที่ส่งมอบให้แต่ละงวดเรียบร้อยแล้ว 11.2 ในกรณีที่ผู้รับจ้างทำงานนอกเวลาราชการ ให้ผู้รับจ้างได้รับเงินค่าตอบแทนในการปฏิบัติงาน นอกเวลาราชการ ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจ่ายเงินค่าตอบแทนการปฏิบัติงานนอกเวลา ราชการ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม* โดยอนุโลม 11.3 ในกรณีเดินทางไปปฏิบัติราชการในราชอาณาจักรให้ผู้รับจ้างได้รับเงินค่าใช้จ่ายในการ เดินทางตามพระราชกฤษฎีกาค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ พ.ศ. 2526 และที่แก้ไขเพิ่มเติม * โดย อนุโลม *ให้หน่วยงานปรับข้อความให้เป็นไปตามกฎหมาย ข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศใด ๆ ของหน่วยงาน 12. เงื่อนไขหลักประกัน 12.1 ผู้รับจ้างต้องจัดให้มีหลักประกันอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่ระบุไว้ในสัญญา 12.2 ในกรณีมีผู้ทำงานแทนผู้รับจ้าง ผู้ทำงานแทนมีหน้าที่จัดให้มีหลักประกันเช่นเดียวกับผู้รับจ้าง 13. เกณฑ์ที่ใช้ในการพิจารณา เกณฑ์ราคา 14. วงเงินที่ประมาณว่าจะจ้าง เป็นเงิน ..................................... บาท (...................................) ลงชื่อ.......................................................ผู้กำหนดรายละเอียด (......................................................)


19 (ตัวอย่าง) รายละเอียดการจ้างทำความสะอาดอาคารประจำปีงบประมาณ พ.ศ. .......... ของ สำนักวิทยบริการ 1. สถานที่ต้องทำความสะอาด ผู้รับจ้างต้องให้บริการทำความสะอาดอาคารและสถานที่ ดังนี้ 1.1 อาคารที่ทำการของ ..........(ชื่อหน่วยงาน)......... จำนวน ....... หลัง 1.2 อาคารจอดรถของ ..........(ชื่อหน่วยงาน)......... จำนวน ......... หลัง 1.3 ลานจอดรถกลางแจ้งของ ..........(ชื่อหน่วยงาน)......... จำนวน ......... ตารางเมตร ...................ฯลฯ......................... 2. พนักงานทำความสะอาด และอุปกรณ์สำหรับทำความสะอาด ผู้รับจ้างต้องจัดหาต้องจัดหาพนักงานทำความสะอาดและอุปกรณ์สำหรับทำความสะอาด โดยมี รายละเอียด ดังต่อไปนี้ 2.1 พนักงานทำความสะอาด ต้องมีคุณสมบัติอย่างน้อย ดังนี้ - มีสัญชาติไทย - อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ และไม่เกิน ........... ปี บริบูรณ์ - วุฒิการศึกษาไม่ต่ำกว่าชั้น.................ขึ้นไป - ความประพฤติเรียบร้อย สุขภาพแข็งแรง - ไม่เป็นผู้มีกายทุพพลภาพจนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ไร้ความสามารถ เสมือนไร้ความสามารถ วิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ หรือเป็นโรคสังคมรังเกียจ - ไม่เคยต้องโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุด ให้จำคุกเพราะกระทำความผิดทางอาญา เว้นแต่ เป็นโทษหรือทำความผิดที่กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ .....................ฯลฯ..................... 2.2 อุปกรณ์สำหรับทำความสะอาด - เครื่องขัดพื้น - เครื่องดูดฝุ่น - เครื่องซักพรม - ไม้กวาด ไม้กวาดหยากไย่ชนิดด้ามยาว - ไม่ถูพื้น และแปรงขัดห้องน้ำ - ผ้าเช็ดโต๊ะ - เครื่องมือเช็ดกระจก - รถเข็นถังน้ำ ถังน้ำ ขันน้ำ สายยาง - น้ำยาฆ่าเชื้อโรค - ถุงดำใส่ขยะ ขนาดใหญ่ กลาง เล็ก ............ฯลฯ..........


20 3. บริเวณและสิ่งของที่ต้องทำความสะอาด 3.1 พื้นอาคารและห้องน้ำทุกแห่งทั้งภายในและภายนอกอาคาร 3.2 กระจกอาคารทั้งภายในและภายนอกอาคาร รวมทั้งกระจกในที่สูงและทางเดินทั้งหมด 3.3 ฝาผนัง และฝ้าเพดานภายในอาคาร 3.4 ผ้าม่าน มูลี่ ภายในอาคาร 3.5 อุปกรณ์สำนักงานของเจ้าหน้าที่ เช่น - โต๊ะทำงาน - เก้าอี้ทำงาน - ตู้เก็บเอกสาร - เครื่องโทรศัพท์ เครื่องโทรสาร เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องถ่ายเอกสาร - ชุดรับแขก - พัดลมทุกชนิด - เครื่องทำน้ำเย็น - ตู้เย็น - อุปกรณ์หรือสิ่งของอื่นใด ที่ผู้ว่าจ้าง หรือ ตัวแทนของผู้ว่าจ้าง หรือ เจ้าหน้าที่ของผู้ว่าจ้าง มอบหมาย .......................ฯลฯ....................... 4. รายละเอียดการปฏิบัติงาน 4.1 การทำความสะอาดในวันทำการ ระหว่างเวลา ............. น. ถึงเวลา .............. น. - ทำความสะอาดหน้าต่างห้องทำงาน - ทำความสะอาดพื้นห้องทำงาน - ทำความสะอาดโต๊ะทำงาน เก้าอี้ทำงาน และอุปกรณ์อื่นใดบนโต๊ะทำงาน - ทำความสะอาดห้องโถง - ทำความสะอาดทางเดินภายในสำนักงาน - ทำความสะอาดบันไดอาคาร - ทำความสะอาดห้องน้ำ - เก็บขยะภายในห้องทำงานนำไปทิ้งในบริเวณที่ผู้ว่าจ้างกำหนด ...............ฯลฯ................ 4.2 การทำความสะอาดในวันหยุด (วันเสาร์) ระหว่างเวลา ............... น. ถึงเวลา ................. น. - ทำความสะอาดหน้าต่างห้องทำงาน - ทำความสะอาดพื้นห้องทำงาน - ทำความสะอาดโต๊ะทำงาน เก้าอี้ทำงาน และอุปกรณ์อื่นใดบนโต๊ะทำงาน - ทำความสะอาดห้องโถง - ทำความสะอาดทางเดินภายในสำนักงาน - ทำความสะอาดบันไดอาคาร - ทำความสะอาดห้องน้ำ - เก็บขยะภายในห้องทำงานนำไปทิ้งในบริเวณที่ผู้ว่าจ้างกำหนด ...............ฯลฯ................


21 4.3 การทำความสะอาดราย 3 เดือน - ขัดพื้น โดยการลงน้ำยาขัดพื้น และใช้เครื่องขัดพื้น ในห้องทำงานทุกห้อง - ขัดพื้น โดยการลงน้ำยาขัดพื้น และใช้เครื่องขัดพื้น บริเวณทางเดินภายในสำนักงาน - ขัดล้างพื้นอาคารจอดรถ พื้นลานจอดรถ 4.4 การปฏิบัติงานอื่น ๆ - ในการทำความสะอาดในวันทำการ และ/หรือ นอกวันทำการ หากพบสิ่งของชำรุด เสียหาย ต้อง รายงานให้ผู้ว่าจ้าง หรือผู้แทนของผู้ว่าจ้าง หรือเจ้าหน้าที่ของผู้ว่าจ้างทราบ - ในกรณีจำเป็นผู้ว่าจ้าง หรือผู้แทนของผู้ว่าจ้าง หรือเจ้าหน้าที่ของผู้ว่าจ้าง อาจร้องขอให้พนักงาน ทำความสะอาด ปฏิบัติงานอื่นใดได้ตามความจำเป็น เช่น การจัดเตรียมอาหาร อาหารว่างและ เครื่องดื่ม ให้แก่ผู้เข้าร่วมประชุม เป็นต้น 4.5 จำนวนพนักงานทำความสะอาด ตำแหน่ง จำนวนคน วันทำการ หมายเหตุ เวลา ........ ถึง .......... วันหยุด เวลา ........ ถึง .......... 1. หัวหน้าพนักงานทำความ สะอาด .............. ................. จำนวน พนักงาน ประจำสถานที่ ต่างๆ ให้ เป็นไปตามที่ผู้ ว่าจ้างกำหนด 2. พนักงานทำความสะอาด .............. ................. รวม .............. ................. 5. เงื่อนไขอื่น ๆ 5.1 ผู้รับจ้างต้องจัดหาพนักงานทำความสะอาดซึ่งมีคุณสมบัติไม่ต่ำกว่าข้อ 2.1 และจำนวนของพนักงาน ทำความสะอาด เป็นไปตามข้อ 4.5 ให้แก่ผู้ว่าจ้าง ตามวัน เวลา ที่ผู้ว่าจ้างกำหนด 5.2 ผู้รับจ้างต้องจัดให้มีการตรวจสอบประวัติการก่ออาชญากรรมของพนักงานทำความสะอาดทุกคน และจัดส่งสำเนาผลการตรวจสอบให้แก่ผู้ว่าจ้างภายใน 30 วันทำการ นับถัดจากวันที่ลงนามใน สัญญา 5.3 ผู้รับจ้างต้องจัดหาเครื่องแบบให้พนักงานทำความสะอาดสวมใส่ ให้เป็นไปในมาตรฐานเดียวกัน พร้อมทั้งติดป้ายชื่อประจำตัวที่ผู้รับจ้างออกให้แก่พนักงานทำความสะอาดทุกคน 5.4 ผู้รับจ้างต้องจัดให้มีการฝึกอบรมมาตรฐานการทำความสะอาด ให้แก่พนักงานทำความสะอาดทุกคน ก่อนส่งตัวพนักงานทำความสะอาดให้แก่ผู้ว่าจ้าง 5.5 ผู้รับจ้างต้องรับผิดชอบและยินยอมชดใช้ค่าเสียหายเต็มจำนวน ในกรณีที่เกิดการชำรุด เสียหาย สูญ หาย ต่อทรัพย์สินของผู้ว่าจ้าง และ/หรือ ต่อทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่ของผู้ว่าจ้าง ซึ่งเกิดจากการทำ


22 กระของพนักงานทำความสะอาดของผู้ว่าจ้าง ทั้งนี้ การชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าวไม่เป็นการตัดสิทธิ์ ในการฟ้องร้องดำเนินคดีตามกฎหมายของผู้ว่าจ้าง 5.6 ผู้รับจ้างต้องจัดให้มีความคุ้มครองต่อพนักงานทำความสะอาดให้เป็นไปตามกฎหมายแรงงาน ด้วย ค่าใช้จ่ายของผู้รับจ้าง 6. การส่งมอบงานและการจ่ายเงิน 6.1 ผู้ว่าจ้างจะจ่ายเงินค่าจ้างให้แก่ผู้รับจ้าง จำนวน 12 งวด งวดละ 1 เดือน โดยเบิกจ่ายงวดละเท่า ๆ กัน โดยมีรายละเอียดการคำนวณค่าจ้างรายเดือน ดังนี้ 6.2 ผู้ว่าจ้างจะจ่ายเงินให้แก่ผู้รับจ้างเมื่อผู้รับจ้างจัดหนังสือส่งมอบงาน และจัดทำสรุปรายงานการ ปฏิบัติงานเป็นรูปเล่ม จำนวน ... ชุด พร้อมเอกสารการแจ้งหนี้ให้แก่ ........ชื่อหน่วยงาน.......... และ คณะกรรมการตรวจรับพัสดุได้ตรวจรับไว้ถูกต้องแล้ว 6.3 กรณีที่ผู้รับจ้างไม่สามารถจัดหาพนักงานทำความสะอาดมาปฏิบัติงาน ตามวัน เวลา ณ ........ชื่อหน่วยงาน.......... ได้ ผู้รับจ้างยินยอมให้ผู้ว่าจ้างปรับเงิน โดยมีรายละเอียด ดังนี้ - ในกรณีที่พนักงานทำความสะอาดมาปฏิบัติงานสายเกินกว่า 30 นาที ผู้รับจ้างยินยอมให้ผู้ว่าจ้าง ปรับในอัตราชั่วโมงละ ........ บาท โดยเศษของชั่วโมงที่เกิน 30 นาที ให้นับเป็นหนึ่งชั่วโมง - ในกรณีที่พนักงานทำความสะอาดไม่มาปฏิบัติงาน ผู้รับจ้างยินยอมให้ผู้ว่าจ้างปรับในอัตราวันละ ..... บาท 7. วงเงินที่ประมาณว่าจะจ้าง เป็นเงิน ..................................... บาท (...................................) ลงชื่อ.......................................................ผู้กำหนดรายละเอียด (......................................................) มูลค่างานจ้างทั้งสัญญา 12 งวด = ค่าจ้างรายงวด


23 ตัวอย่าง – ปรับใช้ตามความจำเป็นและเหมาะสม การกำหนดขอบเขตของงาน (วิธีเฉพาะเจาะจง – งานซื้อ) --------------------------- 1. ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการ ชื่อโครงการ เงินงบประมาณโครงการ ......................................... บาท (..........................................) ราคากลาง .......................................... บาท (..............................................) 2. คุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอ* 2.1 มีความสามารถตามกฎหมาย 2.2 ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย 2.3 ไม่อยู่ระหว่างเลิกกิจการ 2.4 ไม่เป็นบุคคลซึ่งอยู่ระหว่างถูกระงับการยื่นข้อเสนอหรือทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐไว้ ชั่วคราวเนื่องจากเป็นผู้ที่ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้ประกอบการตามระเบียบที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกำหนดตามที่ประกาศเผยแพร่ในระบบเครือข่ายสารสนเทศของ กรมบัญชีกลาง 2.5 ไม่เป็นบุคคลซึ่งถูกระบุชื่อไว้ในบัญชีรายชื่อผู้ทิ้งงานและได้แจ้งเวียนชื่อให้เป็นผู้ทิ้งงานของ หน่วยงานของรัฐในระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชีกลาง ซึ่งรวมถึงนิติบุคคลที่ผู้ทิ้งงานเป็นหุ้นส่วน ผู้จัดการ กรรมการผู้จัดการ ผู้บริหาร ผู้มีอำนาจในการดำเนินงานในกิจการของนิติบุคคลนั้นด้วย 2.6 มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่คณะกรรมการนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างและการ บริหารพัสดุภาครัฐกำหนดในราชกิจจานุเบกษา 2.7 เป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลผู้มีอาชีพขายพัสดุดังกล่าว 2.8 ไม่เป็นผู้ได้รับเอกสารสิทธิ์หรือความคุ้มกัน ซึ่งอาจปฏิเสธไม่ยอมขึ้นศาลไทย เว้นแต่รัฐบาลของ ผู้ยื่นข้อเสนอได้มีคำสั่งให้สละเอกสิทธิ์และความคุ้มกันเช่นว่านั้น 2.9 ไม่เป็นผู้มีผลประโยชน์ร่วมกันกับผู้ยื่นข้อเสนอรายอื่นที่เข้ายื่นข้อเสนอให้แก่กรม ณ วันยื่น ข้อเสนอ หรือไม่เป็นผู้กระทำการอันเป็นการขัดขวางการแข่งขันอย่างเป็นธรรม ในการซื้อครั้งนี้ 2.10 ผู้ยื่นข้อเสนอต้องลงทะเบียนในระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Government Procurement : e - GP) ของกรมบัญชีกลาง 2.11 ผู้ยื่นข้อเสนอต้องไม่อยู่ในฐานะเป็นผู้ไม่แสดงบัญชีรายรับรายจ่ายหรือแสดงบัญชีรายรับ รายจ่ายไม่ถูกต้องครบถ้วนในสาระสำคัญ ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กำหนด 2.12 ผู้ยื่นข้อเสนอซึ่งได้รับคัดเลือกเป็นคู่สัญญาต้องรับและจ่ายเงินผ่านบัญชีธนาคาร เว้นแต่การ จ่ายเงินแต่ละครั้งซึ่งมีมูลค่าไม่เกินสามหมื่นบาทคู่สัญญาจ่ายเป็นเงินสดได้ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กำหนด 2.13 ……………………………………………………….* *กำหนดเพิ่มเติมได้ตามความเหมาะสม 3. ข้อสงวนสิทธิ์ในการยื่นข้อเสนอและอื่นๆ 3.1 เงินค่าพัสดุสำหรับการซื้อครั้งนี้ ได้มาจากเงินรายได้สำนักวิทยบริการ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี


24 3.2 หน่วยงานของรัฐอาจยกเลิกการจัดซื้อในกรณีต่อไปนี้ได้ โดยที่ผู้ยื่นข้อเสนอจะเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ จากมหาวิทยาลัยไม่ได้ (1) หน่วยงานของรัฐไม่ได้รับการจัดสรรเงินที่จะใช้ในการจัดซื้อหรือที่ได้รับจัดสรรแต่ไม่เพียง พอที่จะทำการจัดซื้อครั้งนี้ต่อไป (2) มีการกระทำที่เข้าลักษณะผู้ยื่นข้อเสนอที่ชนะการจัดซื้อหรือที่ได้รับการคัดเลือกมี ผลประโยชน์ร่วมกัน หรือมีส่วนได้เสียกับผู้ยื่นข้อเสนอรายอื่น หรือขัดขวางการแข่งขันอย่างเป็นธรรม หรือสมยอมกัน กับผู้ยื่นข้อเสนอรายอื่น หรือเจ้าหน้าที่ในการเสนอราคา หรือส่อว่ากระทำการทุจริตอื่นใดในการเสนอราคา (3) การทำการจัดซื้อครั้งนี้ต่อไปอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่หน่วยงานของรัฐหรือกระทบ ต่อประโยชน์สาธารณะ (4) กรณีอื่นในทำนองเดียวกับ (1) (2) หรือ (3) ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ซึ่งออกตาม ความในกฎหมายว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ 4. คุณลักษณะเฉพาะ 4.1 รายการที่ 1 ................................... รายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะ (ตามเอกสารแนบท้าย) 4.2 รายการที่ 2 ................................... รายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะ (ตามเอกสารแนบท้าย) 5. การเสนอราคา และกำหนดส่งมอบ 5.1 ราคาที่เสนอจะต้องเสนอกำหนดยืนราคาไม่น้อยกว่า …........... วัน นับแต่วันยื่นข้อเสนอ โดยภายในกำหนดยืนราคา ผู้ยื่นข้อเสนอต้องรับผิดชอบราคาที่ตนได้เสนอไว้ และจะถอนการเสนอราคามิได้ 5.3 ผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องเสนอกำหนดเวลาส่งมอบพัสดุไม่เกิน …......…… วัน นับถัดจากวันลงนาม ในสัญญาซื้อขาย หรือวันที่ได้รับหนังสือแจ้งให้ส่งมอบพัสดุ 6. การทำสัญญา ผู้ชนะการยื่นข้อเสนอ จะต้องทำสัญญาซื้อขายกับกรมภายใน …….. วัน นับถัดจากวันที่ได้รับ 7. อัตราค่าปรับ ค่าปรับ ให้คิดในอัตราร้อยละ .............. บาท ต่อวัน 8. การรับประกันความชำรุดบกพร่อง รับประกันความชำรุดบกพร่องของสิ่งของงานซื้อที่เกิดขึ้นภายในระยะเวลาไม่น้อยกว่า ..............ปี .....เดือน......วันนับถัดจากวันที่กรมได้รับมอบงาน โดยผู้ขายต้องรีบจัดการซ่อมแซมแก้ไขให้ใช้การได้ดีดังเดิม ภายใน.......วัน นับถัดจากวันที่ได้รับแจ้งความชำรุดบกพร่อง 9. เกณฑ์การพิจารณาผลการยื่นข้อเสนอ ในการพิจารณาผลการยื่นข้อเสนอครั้งนี้ กรมจะพิจารณาตัดสินโดยใช้ราคา โดยพิจารณาจาก....(ราคารวม/ราคาต่อรายการ/ราคาต่อหน่วย) …… ลงชื่อ.......................................................ผู้กำหนดรายละเอียด (......................................................)


25 ตัวอย่าง – ปรับใช้ตามความจำเป็นและเหมาะสม การกำหนดขอบเขตของงาน (วิธีเฉพาะเจาะจง - งานจ้าง) --------------------------- 1. ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการ ชื่อโครงการ เงินงบประมาณโครงการ ......................................... บาท (..........................................) ราคากลาง .......................................... บาท (..............................................) 2. คุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอ 2.1 มีความสามารถตามกฎหมาย 2.2 ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย 2.3 ไม่อยู่ระหว่างเลิกกิจการ 2.4 ไม่เป็นบุคคลซึ่งอยู่ระหว่างถูกระงับการยื่นข้อเสนอหรือทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐไว้ ชั่วคราวเนื่องจากเป็นผู้ที่ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้ประกอบการตามระเบียบที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกำหนดตามที่ประกาศเผยแพร่ในระบบเครือข่ายสารสนเทศของ กรมบัญชีกลาง 2.5 ไม่เป็นบุคคลซึ่งถูกระบุชื่อไว้ในบัญชีรายชื่อผู้ทิ้งงานและได้แจ้งเวียนชื่อให้เป็นผู้ทิ้งงานของ หน่วยงานของรัฐในระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชีกลาง ซึ่งรวมถึงนิติบุคคลที่ผู้ทิ้งงานเป็นหุ้นส่วน ผู้จัดการ กรรมการผู้จัดการ ผู้บริหาร ผู้มีอำนาจในการดำเนินงานในกิจการของนิติบุคคลนั้นด้วย 2.6 มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่คณะกรรมการนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างและการ บริหารพัสดุภาครัฐกำหนดในราชกิจจานุเบกษา 2.7 เป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลผู้มีอาชีพรับจ้างงานดังกล่าว 2.8 ไม่เป็นผู้ได้รับเอกสารสิทธิ์หรือความคุ้มกัน ซึ่งอาจปฏิเสธไม่ยอมขึ้นศาลไทย เว้นแต่รัฐบาลของ ผู้ยื่นข้อเสนอได้มีคำสั่งให้สละเอกสิทธิ์และความคุ้มกันเช่นว่านั้น 2.9 ไม่เป็นผู้มีผลประโยชน์ร่วมกันกับผู้ยื่นข้อเสนอรายอื่นที่เข้ายื่นข้อเสนอให้แก่กรม ณ วันยื่น ข้อเสนอ หรือไม่เป็นผู้กระทำการอันเป็นการขัดขวางการแข่งขันอย่างเป็นธรรม ในการซื้อครั้งนี้ 2.10 ผู้ยื่นข้อเสนอต้องลงทะเบียนในระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Government Procurement : e - GP) ของกรมบัญชีกลาง 2.11 ผู้ยื่นข้อเสนอต้องไม่อยู่ในฐานะเป็นผู้ไม่แสดงบัญชีรายรับรายจ่ายหรือแสดงบัญชีรายรับ รายจ่ายไม่ถูกต้องครบถ้วนในสาระสำคัญ ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กำหนด 2.12 ผู้ยื่นข้อเสนอซึ่งได้รับคัดเลือกเป็นคู่สัญญาต้องรับและจ่ายเงินผ่านบัญชีธนาคาร เว้นแต่การ จ่ายเงินแต่ละครั้งซึ่งมีมูลค่าไม่เกินสามหมื่นบาทคู่สัญญาจ่ายเป็นเงินสดได้ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กำหนด 2.13 ……………………………………………………….* *กำหนดเพิ่มเติมได้ตามความเหมาะสม 3. ข้อสงวนสิทธิ์ในการยื่นข้อเสนอและอื่นๆ 3.1 เงินค่าพัสดุสำหรับการซื้อครั้งนี้ ได้มาจากเงินรายได้สำนักวิทยบริการ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี


26 3.2 หน่วยงานของรัฐอาจยกเลิกการจัดซื้อในกรณีต่อไปนี้ได้ โดยที่ผู้ยื่นข้อเสนอจะเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ จากมหาวิทยาลัยไม่ได้ (1) หน่วยงานของรัฐไม่ได้รับการจัดสรรเงินที่จะใช้ในการจัดซื้อหรือที่ได้รับจัดสรรแต่ไม่เพียง พอที่จะทำการจัดซื้อครั้งนี้ต่อไป (2) มีการกระทำที่เข้าลักษณะผู้ยื่นข้อเสนอที่ชนะการจัดซื้อหรือที่ได้รับการคัดเลือกมี ผลประโยชน์ร่วมกัน หรือมีส่วนได้เสียกับผู้ยื่นข้อเสนอรายอื่น หรือขัดขวางการแข่งขันอย่างเป็นธรรม หรือสมยอมกัน กับผู้ยื่นข้อเสนอรายอื่น หรือเจ้าหน้าที่ในการเสนอราคา หรือส่อว่ากระทำการทุจริตอื่นใดในการเสนอราคา (3) การทำการจัดซื้อครั้งนี้ต่อไปอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่หน่วยงานของรัฐหรือกระทบ ต่อประโยชน์สาธารณะ (4) กรณีอื่นในทำนองเดียวกับ (1) (2) หรือ (3) ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ซึ่งออกตาม ความในกฎหมายว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ 4. แบบรูปรายการงานก่อสร้าง หรือรายละเอียดและขอบเขตของงาน 4.1 แบบรูปรายการงานก่อสร้าง (ตามบัญชีเอกสารแนบท้าย) 4.2 รายละเอียดและขอบเขตของงาน (ตามรายละเอียดแนบท้าย) 5. การเสนอราคา และกำหนดส่งมอบ 5.1 ราคาที่เสนอจะต้องเสนอกำหนดยืนราคาไม่น้อยกว่า …........... วัน นับแต่วันยื่นข้อเสนอ โดยภายในกำหนดยืนราคา ผู้ยื่นข้อเสนอต้องรับผิดชอบราคาที่ตนได้เสนอไว้ และจะถอนการเสนอราคามิได้ 5.2 ผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องเสนอกำหนดเวลาดำเนินการแล้วเสร็จไม่เกิน.................วัน นับถัดจาก วันลงนามในสัญญาจ้าง หรือวันที่ได้รับหนังสือแจ้งจากกรมให้เริ่มทำงาน 6. การทำสัญญา ผู้ชนะการเสนอราคา หรือผู้ได้รับการคัดเลือก จะต้องทำสัญญากับกรมภายใน …….. วัน นับถัดจาก วันที่ได้รับแจ้ง 7. อัตราค่าปรับ 7.1 กรณีที่ผู้รับจ้างนำงานที่รับจ้างไปจ้างช่วงให้ผู้อื่นทำอีกทอดหนึ่งโดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรม จะกำหนดค่าปรับสำหรับการฝ่าฝืนดังกล่าวเป็นจำนวนร้อยละ.............ของวงเงินของงานจ้างช่วงนั้น 7.2 กรณีที่ผู้รับจ้างปฏิบัติผิดสัญญาจ้างนอกเหนือจากข้อ 7.1 จะกำหนดค่าปรับเป็นรายวัน ในอัตราร้อยละ 10 ของราคาค่าจ้าง 8. การรับประกันความชำรุดบกพร่อง ผู้ชนะการเสนอราคา หรือผู้ได้รับการคัดเลือก ซึ่งได้ทำข้อตกลงเป็นหนังสือ หรือทำสัญญา แล้วแต่ กรณี จะต้องรับประกันความชำรุดบกพร่องของสิ่งของงานจ้างที่เกิดขึ้นภายในระยะเวลาไม่น้อยกว่า .............. ปี.....เดือน......วันนับถัดจากวันที่กรมได้รับมอบงาน โดยผู้รับจ้างต้องรีบจัดการซ่อมแซมแก้ไขให้ใช้การได้ดี ดังเดิมภายใน.......วัน นับถัดจากวันที่ได้รับแจ้งความชำรุดบกพร่อง 9. เกณฑ์การพิจารณาผลการยื่นข้อเสนอ ในการพิจารณาผลการเสนอราคาครั้งนี้ กรมจะพิจารณาตัดสินโดยใช้หลักเกณฑ์ราคา โดยพิจารณาจาก.... (ราคารวม/ราคาต่อรายการ/ราคาต่อหน่วย) …… ลงชื่อ.......................................................ผู้กำหนดรายละเอียด (......................................................)


27 ตัวอย่าง – ปรับใช้ตามความจำเป็นและเหมาะสม การกำหนดขอบเขตของงาน (วิธีคัดเลือก - งานซื้อ) --------------------------- 1. ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการ ชื่อโครงการ เงินงบประมาณโครงการ ......................................... บาท (..........................................) ราคากลาง .......................................... บาท (..............................................) 2. คุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอ 2.1 มีความสามารถตามกฎหมาย 2.2 ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย 2.3 ไม่อยู่ระหว่างเลิกกิจการ 2.4 ไม่เป็นบุคคลซึ่งอยู่ระหว่างถูกระงับการยื่นข้อเสนอหรือทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐไว้ ชั่วคราวเนื่องจากเป็นผู้ที่ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้ประกอบการตามระเบียบที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกำหนดตามที่ประกาศเผยแพร่ในระบบเครือข่ายสารสนเทศของ กรมบัญชีกลาง 2.5 ไม่เป็นบุคคลซึ่งถูกระบุชื่อไว้ในบัญชีรายชื่อผู้ทิ้งงานและได้แจ้งเวียนชื่อให้เป็นผู้ทิ้งงานของ หน่วยงานของรัฐในระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชีกลาง ซึ่งรวมถึงนิติบุคคลที่ผู้ทิ้งงานเป็นหุ้นส่วน ผู้จัดการ กรรมการผู้จัดการ ผู้บริหาร ผู้มีอำนาจในการดำเนินงานในกิจการของนิติบุคคลนั้นด้วย 2.6 มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่คณะกรรมการนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างและการ บริหารพัสดุภาครัฐกำหนดในราชกิจจานุเบกษา 2.7 เป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลผู้มีอาชีพขายพัสดุดังกล่าว 2.8 ไม่เป็นผู้ได้รับเอกสารสิทธิ์หรือความคุ้มกัน ซึ่งอาจปฏิเสธไม่ยอมขึ้นศาลไทย เว้นแต่รัฐบาลของ ผู้ยื่นข้อเสนอได้มีคำสั่งให้สละเอกสิทธิ์และความคุ้มกันเช่นว่านั้น 2.9 ไม่เป็นผู้มีผลประโยชน์ร่วมกันกับผู้ยื่นข้อเสนอรายอื่นที่เข้ายื่นข้อเสนอให้แก่กรม ณ วันยื่น ข้อเสนอ หรือไม่เป็นผู้กระทำการอันเป็นการขัดขวางการแข่งขันอย่างเป็นธรรม ในการซื้อครั้งนี้ 2.10 ผู้ยื่นข้อเสนอต้องลงทะเบียนในระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Government Procurement : e - GP) ของกรมบัญชีกลาง 2.11 ผู้ยื่นข้อเสนอต้องไม่อยู่ในฐานะเป็นผู้ไม่แสดงบัญชีรายรับรายจ่ายหรือแสดงบัญชีรายรับ รายจ่ายไม่ถูกต้องครบถ้วนในสาระสำคัญ ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กำหนด 2.12 ผู้ยื่นข้อเสนอซึ่งได้รับคัดเลือกเป็นคู่สัญญาต้องรับและจ่ายเงินผ่านบัญชีธนาคาร เว้นแต่การ จ่ายเงินแต่ละครั้งซึ่งมีมูลค่าไม่เกินสามหมื่นบาทคู่สัญญาจ่ายเป็นเงินสดได้ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กำหนด 2.13 ……………………………………………………….* *กำหนดเพิ่มเติมได้ตามความเหมาะสม 3. หลักฐานการเสนอราคา


28 ผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องเสนอเอกสารหลักฐานยื่นมาพร้อมกับซองใบเสนอราคา โดยแยกไว้นอกซองใบ เสนอราคาเป็น 2 ส่วน คือ 3.1 ส่วนที่ 1 อย่างน้อยต้องมีเอกสารดังต่อไปนี้ (1) ในกรณีผู้ยื่นข้อเสนอเป็นนิติบุคคล (ก) ห้างหุ้นส่วนสามัญหรือห้างหุ้นส่วนจำกัด ให้ยื่นสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียน นิติบุคคล บัญชีรายชื่อหุ้นส่วนผู้จัดการ ผู้มีอำนาจควบคุม พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง (ข) บริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัด ให้ยื่นสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติ บุคคล หนังสือบริคณห์สนธิ บัญชีรายชื่อกรรมการผู้จัดการ ผู้มีอำนาจควบคุม และบัญชีผู้ถือหุ้นรายใหญ่ พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง (2) ในกรณีผู้ยื่นข้อเสนอเป็นบุคคลธรรมดาหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล ให้ยื่นสำเนาบัตร ประจำตัวประชาชนของผู้นั้น สำเนาข้อตกลงที่แสดงถึงการเข้าเป็นหุ้นส่วน (ถ้ามี) สำเนาบัตรประจำตัว ประชาชนของผู้เป็นหุ้นส่วน พร้อมทั้งรับรองสำเนาถูกต้อง (3) ในกรณีผู้ยื่นข้อเสนอเป็นผู้ยื่นข้อเสนอร่วมกันในฐานะเป็นผู้ร่วมค้า ให้ยื่นสำเนาสัญญา ของการเข้าร่วมค้า สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ร่วมค้า และในกรณีที่ผู้เข้าร่วมค้าฝ่ายใดเป็นบุคคล ธรรมดาที่มิใช่สัญชาติไทย ก็ให้ยื่นสำเนาหนังสือเดินทาง หรือผู้ร่วมค้าฝ่ายใดเป็นนิติบุคคลให้ยื่นเอกสารตามที่ ระบุไว้ใน (1) (4) ……….… (ระบุเอกสารอื่นตามที่หน่วยงานของรัฐที่ดำเนินการจัดซื้อเห็นสมควรกำหนด เช่น สำเนาใบทะเบียนพาณิชย์ สำเนาใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม เป็นต้น) ………............... (5) บัญชีเอกสารส่วนที่ 1 ทั้งหมดที่ได้ยื่นพร้อมกับซองใบเสนอราคา 3.2 ส่วนที่ 2 อย่างน้อยต้องมีเอกสารดังต่อไปนี้ (1) แค็ตตาล็อกและหรือแบบรูปรายการละเอียดคุณลักษณะเฉพาะ (2) หนังสือมอบอำนาจซึ่งปิดอากรแสตมป์ตามกฎหมายในกรณีที่ผู้ยื่นข้อเสนอมอบอำนาจให้ บุคคลอื่นลงนามในใบเสนอราคาแทน (3) .....(ระบุเอกสารอื่นตามที่หน่วยงานของรัฐที่ดำเนินการจัดซื้อเห็นสมควรกำหนด)....... (4) บัญชีเอกสารส่วนที่ 2 ทั้งหมดที่ได้ยื่นพร้อมกับซองใบเสนอราคา 4. คุณลักษณะเฉพาะ และเอกสารแนบท้าย 4.1 รายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะ 4.2 แบบใบเสนอราคา 4.3 แบบสัญญาซื้อขาย 4.4 แบบหนังสือค้ำประกัน (1) หลักประกันสัญญา (2) หลักประกันการรับเงินค่าพัสดุล่วงหน้า 4.5 บทนิยาม (1) ผู้มีผลประโยชน์ร่วมกัน (2) การขัดขวางการแข่งขันอย่างเป็นธรรม 4.6 แบบบัญชีเอกสาร (1) บัญชีเอกสารส่วนที่ 1 (2) บัญชีเอกสารส่วนที่ 2 4.7 …………………………………………….


29 5. การเสนอราคา 5.1 ผู้ยื่นข้อเสนอต้องเสนอราคาตามแบบที่กำหนด โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น และจะต้องกรอก ข้อความให้ถูกต้องครบถ้วน ลงลายมือชื่อของผู้ยื่นข้อเสนอให้ชัดเจน จำนวนเงินที่เสนอต้องระบุตรงกันทั้งตัว เลขและตัวหนังสือโดยไม่มีการขูดลบหรือแก้ไข หากมีการขูดลบ ตกเติม แก้ไข เปลี่ยนแปลง จะต้องลงลายมือ ชื่อผู้ยื่นข้อเสนอ พร้อมทั้งประทับตรา (ถ้ามี) กำกับไว้ด้วยทุกแห่ง 5.2 ผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องเสนอราคาเป็นเงินบาท และเสนอราคาเพียงราคาเดียว โดยเสนอราคารวม หรือราคาต่อหน่วย หรือราคาต่อรายการ ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ท้ายใบเสนอราคาให้ถูกต้อง ทั้งนี้ ราคารวมที่ เสนอจะต้องตรงกันทั้งตัวเลขและตัวหนังสือ ถ้าตัวเลขและตัวหนังสือไม่ตรงกันให้ถือตัวหนังสือเป็นสำคัญ โดย คิดราคารวมทั้งสิ้น ซึ่งรวมค่าภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีอากรอื่นๆ ค่าขนส่ง ค่าจดทะเบียน และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ทั้ง ปวง จนกระทั่งส่งมอบพัสดุให้ ณ .............................................................................................. ราคาที่เสนอจะต้องเสนอกำหนดยืนราคาไม่น้อยกว่า …........... วัน นับแต่วันยื่นข้อเสนอ โดยภายในกำหนดยืนราคา ผู้ยื่นข้อเสนอต้องรับผิดชอบราคาที่ตนได้เสนอไว้ และจะถอนการเสนอราคามิได้ 5.3 ผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องเสนอกำหนดเวลาส่งมอบพัสดุไม่เกิน …......…… วัน นับถัดจากวันลงนาม ในสัญญาซื้อขาย หรือวันที่ได้รับหนังสือแจ้งจากกรม ให้ส่งมอบพัสดุ 6. การทำสัญญา ผู้ชนะการยื่นข้อเสนอ จะต้องทำสัญญาซื้อขายกับกรมภายใน …….. วัน นับถัดจากวันที่ได้รับแจ้ง และจะต้องวางหลักประกันสัญญาเป็นจำนวนเงินเท่ากับร้อยละ 5 ของราคาค่าจ้างที่เสนอราคาได้ ให้กรม ยึดถือไว้ในขณะทำสัญญา โดยใช้หลักประกันอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้ 6.1 เงินสด 6.2 เช็คที่ธนาคารสั่งจ่ายให้แก่กรม โดยเป็นเช็คลงวันที่ที่ทำสัญญาหรือก่อนหน้านั้นไม่เกิน 3 วันทำ การ 6.3 หนังสือค้ำประกันของธนาคารภายในประเทศ 6.4 หนังสือค้ำประกันของบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือบริษัทเงินทุน หรือ บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการเงินทุนเพื่อการพาณิชย์และประกอบธุรกิจค้ำ ประกันตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งได้แจ้งชื่อเวียนให้ส่วนราชการต่าง ๆ ทราบแล้ว โดย อนุโลมให้ใช้ตามแบบหนังสือค้ำประกัน 6.5 พันธบัตรรัฐบาลไทย หลักประกันนี้จะคืนให้โดยไม่มีดอกเบี้ย ภายใน 15 วัน นับถัดจากวันที่ผู้ชนะการเสนอราคา (ผู้ขาย) พ้นจากข้อผูกพันตามสัญญาซื้อขายแล้ว 7. อัตราค่าปรับ ค่าปรับ ให้คิดในอัตราร้อยละ .............. บาท ต่อวัน 8. การรับประกันความชำรุดบกพร่อง ผู้ชนะการยื่นข้อเสนอ ซึ่งได้ทำข้อตกลงเป็นหนังสือ หรือทำสัญญา แล้วแต่กรณี จะต้องรับประกัน ความชำรุดบกพร่องของสิ่งของงานซื้อที่เกิดขึ้นภายในระยะเวลาไม่น้อยกว่า ..............ปี.....เดือน......วันนับถัด จากวันที่กรมได้รับมอบงาน โดยผู้ขายต้องรีบจัดการซ่อมแซมแก้ไขให้ใช้การได้ดีดังเดิมภายใน.......วัน นับถัด จากวันที่ได้รับแจ้งความชำรุดบกพร่อง 9. เกณฑ์การพิจารณาผลการยื่นข้อเสนอ ในการพิจารณาผลการยื่นข้อเสนอครั้งนี้ กรมจะพิจารณาตัดสินโดยใช้หลักเกณฑ์ ………….. (หลักเกณฑ์ราคา/หลักเกณฑ์ราคาประกอบเกณฑ์อื่น) ……………


30 (ก) กรณีใช้หลักเกณฑ์ราคาในการพิจารณาผู้ชนะการเสนอราคา ......(ระบุชื่อหน่วยงาน)...... จะ พิจารณาจาก............................(ราคารวม/ราคาต่อรายการ/ราคาต่อหน่วย) ……......................…… (ข) กรณีใช้หลักเกณฑ์ราคาประกอบเกณฑ์อื่นในการพิจารณาผู้ชนะการยื่นข้อเสนอ ......(ระบุชื่อ หน่วยงาน)...... จะพิจารณาโดยให้คะแนนตามปัจจัยหลักและน้ำหนักที่กำหนด ดังนี้ (1) ราคาที่ยื่นข้อเสนอ (Price) กำหนดน้ำหนักเท่ากับร้อยละ ...................... (2) ......................................... กำหนดน้ำหนักเท่ากับร้อยละ ...................... (3) ......................................... กำหนดน้ำหนักเท่ากับร้อยละ ...................... โดยกำหนดให้น้ำหนักรวมทั้งหมดเท่ากับร้อยละ 100 10. ข้อสงวนสิทธิ์ในการยื่นข้อเสนอและอื่น ๆ 10.1 เงินค่าพัสดุสำหรับการซื้อครั้งนี้ ได้มาจากเงินงบประมาณ........................................... /เงินกู้จาก ........................................................./เงินช่วยเหลือจาก ……………………………………….………….. การลงนามในสัญญาจะกระทำได้ ต่อเมื่อกรมรับอนุมัติเงินค่าพัสดุจากงบประมาณ ...................................... /เงินกู้จาก……………………./เงินช่วยเหลือจาก………………….……………..แล้วเท่านั้น 10.2 กรมอาจประกาศยกเลิกการจัดซื้อในกรณีต่อไปนี้ได้ โดยที่ผู้ยื่นข้อเสนอจะเรียกร้อง ค่าเสียหายใดๆ จากกรมไม่ได้ (1) กรมไม่ได้รับการจัดสรรเงินที่จะใช้ในการจัดซื้อหรือที่ได้รับจัดสรรแต่ไม่เพียงพอที่จะทำ การจัดซื้อครั้งนี้ต่อไป (2) มีการกระทำที่เข้าลักษณะผู้ยื่นข้อเสนอที่ชนะการจัดซื้อหรือที่ได้รับการคัดเลือกมี ผลประโยชน์ร่วมกัน หรือมีส่วนได้เสียกับผู้ยื่นข้อเสนอรายอื่น หรือขัดขวางการแข่งขันอย่างเป็นธรรม หรือ สมยอมกันกับผู้ยื่นข้อเสนอรายอื่น หรือเจ้าหน้าที่ในการเสนอราคา หรือส่อว่ากระทำการทุจริตอื่นใดในการ เสนอราคา (3) การทำการจัดซื้อครั้งนี้ต่อไปอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่กรมหรือกระทบต่อประโยชน์ สาธารณะ (4) กรณีอื่นในทำนองเดียวกับ (1) (2) หรือ (3) ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ซึ่งออกตาม ความในกฎหมายว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ 11. การปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบ ในระหว่างระยะเวลาการซื้อ ผู้ยื่นข้อเสนอที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้ขายต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ ที่กฎหมายและระเบียบได้กำหนดไว้โดยเคร่งครัด ลงชื่อ.......................................................ผู้กำหนดรายละเอียด (......................................................)


31 ตัวอย่าง – ปรับใช้ตามความจำเป็นและเหมาะสม การกำหนดขอบเขตของงาน (วิธีคัดเลือก - งานจ้าง) --------------------------- 1. ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการ ชื่อโครงการ เงินงบประมาณโครงการ ......................................... บาท (..........................................) ราคากลาง .......................................... บาท (..............................................) 2. คุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอ 2.1 มีความสามารถตามกฎหมาย 2.2 ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย 2.3 ไม่อยู่ระหว่างเลิกกิจการ 2.4 ไม่เป็นบุคคลซึ่งอยู่ระหว่างถูกระงับการยื่นข้อเสนอหรือทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐไว้ ชั่วคราวเนื่องจากเป็นผู้ที่ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้ประกอบการตามระเบียบที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกำหนดตามที่ประกาศเผยแพร่ในระบบเครือข่ายสารสนเทศของ กรมบัญชีกลาง 2.5 ไม่เป็นบุคคลซึ่งถูกระบุชื่อไว้ในบัญชีรายชื่อผู้ทิ้งงานและได้แจ้งเวียนชื่อให้เป็นผู้ทิ้งงานของ หน่วยงานของรัฐในระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชีกลาง ซึ่งรวมถึงนิติบุคคลที่ผู้ทิ้งงานเป็นหุ้นส่วน ผู้จัดการ กรรมการผู้จัดการ ผู้บริหาร ผู้มีอำนาจในการดำเนินงานในกิจการของนิติบุคคลนั้นด้วย 2.6 มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่คณะกรรมการนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างและการ บริหารพัสดุภาครัฐกำหนดในราชกิจจานุเบกษา 2.7 เป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลผู้มีอาชีพรับจ้างงานดังกล่าว 2.8 ไม่เป็นผู้ได้รับเอกสารสิทธิ์หรือความคุ้มกัน ซึ่งอาจปฏิเสธไม่ยอมขึ้นศาลไทย เว้นแต่รัฐบาลของ ผู้ยื่นข้อเสนอได้มีคำสั่งให้สละเอกสิทธิ์และความคุ้มกันเช่นว่านั้น 2.9 ไม่เป็นผู้มีผลประโยชน์ร่วมกันกับผู้ยื่นข้อเสนอรายอื่นที่เข้ายื่นข้อเสนอให้แก่กรม ณ วันยื่น ข้อเสนอ หรือไม่เป็นผู้กระทำการอันเป็นการขัดขวางการแข่งขันอย่างเป็นธรรม ในการซื้อครั้งนี้ 2.10 ผู้ยื่นข้อเสนอต้องลงทะเบียนในระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Government Procurement : e - GP) ของกรมบัญชีกลาง 2.11 ผู้ยื่นข้อเสนอต้องไม่อยู่ในฐานะเป็นผู้ไม่แสดงบัญชีรายรับรายจ่ายหรือแสดงบัญชีรายรับ รายจ่ายไม่ถูกต้องครบถ้วนในสาระสำคัญ ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กำหนด 2.12 ผู้ยื่นข้อเสนอซึ่งได้รับคัดเลือกเป็นคู่สัญญาต้องรับและจ่ายเงินผ่านบัญชีธนาคาร เว้นแต่ การจ่ายเงินแต่ละครั้งซึ่งมีมูลค่าไม่เกินสามหมื่นบาทคู่สัญญาจ่ายเป็นเงินสดได้ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กำหนด 2.13 ……………………………………………………….* *กำหนดเพิ่มเติมได้ตามความเหมาะสม 3. หลักฐานการเสนอราคา


32 ผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องเสนอเอกสารหลักฐานยื่นมาพร้อมกับซองใบเสนอราคา โดยแยกไว้นอกซองใบ เสนอราคาเป็น 2 ส่วน คือ 3.1 ส่วนที่ 1 อย่างน้อยต้องมีเอกสารดังต่อไปนี้ (1) ในกรณีผู้ยื่นข้อเสนอเป็นนิติบุคคล (ก) ห้างหุ้นส่วนสามัญหรือห้างหุ้นส่วนจำกัด ให้ยื่นสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียน นิติบุคคล บัญชีรายชื่อหุ้นส่วนผู้จัดการ ผู้มีอำนาจควบคุม พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง (ข) บริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัด ให้ยื่นสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติ บุคคล หนังสือบริคณห์สนธิ บัญชีรายชื่อกรรมการผู้จัดการ ผู้มีอำนาจควบคุม และบัญชีผู้ถือหุ้นรายใหญ่ พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง (2) ในกรณีผู้ยื่นข้อเสนอเป็นบุคคลธรรมดาหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล ให้ยื่นสำเนาบัตร ประจำตัวประชาชนของผู้นั้น สำเนาข้อตกลงที่แสดงถึงการเข้าเป็นหุ้นส่วน (ถ้ามี) สำเนาบัตรประจำตัว ประชาชนของผู้เป็นหุ้นส่วน พร้อมทั้งรับรองสำเนาถูกต้อง (3) ในกรณีผู้ยื่นข้อเสนอเป็นผู้ยื่นข้อเสนอร่วมกันในฐานะเป็นผู้ร่วมค้า ให้ยื่นสำเนาสัญญาของ การเข้าร่วมค้า สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ร่วมค้า และในกรณีที่ผู้เข้าร่วมค้าฝ่ายใดเป็นบุคคลธรรมดา ที่มิใช่สัญชาติไทย ก็ให้ยื่นสำเนาหนังสือเดินทาง หรือผู้ร่วมค้าฝ่ายใดเป็นนิติบุคคลให้ยื่นเอกสารตามที่ระบุไว้ใน (1) (4) ……….… (ระบุเอกสารอื่นตามที่หน่วยงานของรัฐที่ดำเนินการจัดจ้างเห็นสมควรกำหนด เช่น สำเนาใบทะเบียนพาณิชย์ สำเนาใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม เป็นต้น) ………............... (5) บัญชีเอกสารส่วนที่ 1 ทั้งหมดที่ได้ยื่นพร้อมกับซองใบเสนอราคา 3.2 ส่วนที่ 2 อย่างน้อยต้องมีเอกสารดังต่อไปนี้ (1) แค็ตตาล็อกและหรือแบบรูปรายการละเอียดคุณลักษณะเฉพาะ (2) หนังสือมอบอำนาจซึ่งปิดอากรแสตมป์ตามกฎหมายในกรณีที่ผู้ยื่นข้อเสนอมอบอำนาจให้ บุคคลอื่นลงนามในใบเสนอราคาแทน (3) .....(ระบุเอกสารอื่นตามที่หน่วยงานของรัฐที่ดำเนินการจัดจ้างเห็นสมควรกำหนด)....... (4) บัญชีเอกสารส่วนที่ 2 ทั้งหมดที่ได้ยื่นพร้อมกับซองใบเสนอราคา 4. แบบรูปรายการงานก่อสร้าง หรือรายละเอียดและขอบเขตของงาน และเอกสารแนบท้าย 4.1 แบบรูปรายการงานก่อสร้าง รายละเอียดและขอบเขตของงาน 4.2 แบบใบเสนอราคา 4.3 แบบสัญญาจ้าง 4.4 แบบหนังสือค้ำประกัน (1) หลักประกันสัญญา (2) หลักประกันการรับเงินค่าพัสดุล่วงหน้า 4.6 บทนิยาม (1) ผู้มีผลประโยชน์ร่วมกัน (2) การขัดขวางการแข่งขันอย่างเป็นธรรม 4.7 แบบบัญชีเอกสาร (1) บัญชีเอกสารส่วนที่ 1 (2) บัญชีเอกสารส่วนที่ 2 4.8 ………………………………………….


33 5. การเสนอราคา 5.1 ผู้ยื่นข้อเสนอต้องเสนอราคาตามแบบที่กำหนด โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น และจะต้องกรอก ข้อความให้ถูกต้องครบถ้วน ลงลายมือชื่อของผู้ยื่นข้อเสนอให้ชัดเจน จำนวนเงินที่เสนอต้องระบุตรงกันทั้งตัว เลขและตัวหนังสือโดยไม่มีการขูดลบหรือแก้ไข หากมีการขูดลบ ตกเติม แก้ไข เปลี่ยนแปลง จะต้องลงลายมือ ชื่อผู้ยื่นข้อเสนอ พร้อมทั้งประทับตรา (ถ้ามี) กำกับไว้ด้วยทุกแห่ง 5.2 ผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องเสนอราคาเป็นเงินบาท และเสนอราคาเพียงราคาเดียว โดยเสนอราคารวม หรือราคาต่อหน่วย หรือราคาต่อรายการ ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ท้ายใบเสนอราคาให้ถูกต้อง ทั้งนี้ ราคารวมที่ เสนอจะต้องตรงกันทั้งตัวเลขและตัวหนังสือ ถ้าตัวเลขและตัวหนังสือไม่ตรงกันให้ถือตัวหนังสือเป็นสำคัญ โดย คิดราคารวมทั้งสิ้น ซึ่งรวมค่าภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีอากรอื่นๆ ค่าขนส่ง ค่าจดทะเบียน และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ทั้ง ปวง จนกระทั่งส่งมอบพัสดุให้ ณ .............................................................................................. ราคาที่เสนอจะต้องเสนอกำหนดยืนราคาไม่น้อยกว่า …........... วัน นับแต่วันยื่นข้อเสนอ โดยภายในกำหนดยืนราคา ผู้ยื่นข้อเสนอต้องรับผิดชอบราคาที่ตนได้เสนอไว้ และจะถอนการเสนอราคามิได้ 5.3 ผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องเสนอกำหนดเวลาดำเนินการแล้วเสร็จไม่เกิน.................วัน นับถัดจาก วันลงนามในสัญญาจ้าง หรือวันที่ได้รับหนังสือแจ้งจากกรมให้เริ่มทำงาน 6. การทำสัญญา ผู้ชนะการเสนอราคา จะต้องทำสัญญากับกรมภายใน …….. วัน นับถัดจากวันที่ได้รับแจ้งและจะต้อง วางหลักประกันสัญญาเป็นจำนวนเงินเท่ากับร้อยละ 5 ของราคาค่าจ้างที่เสนอราคาได้ ให้กรมยึดถือไว้ในขณะ ทำสัญญา โดยใช้หลักประกันอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้ 6.1 เงินสด 6.2 เช็คที่ธนาคารสั่งจ่ายให้แก่กรม โดยเป็นเช็คลงวันที่ที่ทำสัญญาหรือก่อนหน้านั้นไม่เกิน 3 วันทำ การ 6.3 หนังสือค้ำประกันของธนาคารภายในประเทศ 6.4 หนังสือค้ำประกันของบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือบริษัทเงินทุน หรือ บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการเงินทุนเพื่อการพาณิชย์และประกอบธุรกิจค้ำ ประกันตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งได้แจ้งชื่อเวียนให้ส่วนราชการต่าง ๆ ทราบแล้ว โดย อนุโลมให้ใช้ตามแบบหนังสือค้ำประกัน 6.5 พันธบัตรรัฐบาลไทย หลักประกันนี้จะคืนให้โดยไม่มีดอกเบี้ย ภายใน 15 วัน นับถัดจากวันที่ผู้ชนะการเสนอราคา (ผู้ขาย) พ้นจากข้อผูกพันตามสัญญาแล้ว 7. อัตราค่าปรับ 7.1 กรณีที่ผู้รับจ้างนำงานที่รับจ้างไปจ้างช่วงให้ผู้อื่นทำอีกทอดหนึ่งโดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรม จะกำหนดค่าปรับสำหรับการฝ่าฝืนดังกล่าวเป็นจำนวนร้อยละ.............ของวงเงินของงานจ้างช่วงนั้น 7.2 กรณีที่ผู้รับจ้างปฏิบัติผิดสัญญาจ้างนอกเหนือจากข้อ 7.1 จะกำหนดค่าปรับเป็นรายวัน ในอัตราร้อยละ 10 ของราคาค่าจ้าง 8. การรับประกันความชำรุดบกพร่อง ผู้ชนะการเสนอราคา ซึ่งได้ทำข้อตกลงเป็นหนังสือ หรือทำสัญญา แล้วแต่กรณี จะต้องรับประกัน ความชำรุดบกพร่องของสิ่งของงานจ้างที่เกิดขึ้นภายในระยะเวลาไม่น้อยกว่า ..............ปี.....เดือน......วันนับถัด จากวันที่กรมได้รับมอบงาน โดยผู้รับจ้างต้องรีบจัดการซ่อมแซมแก้ไขให้ใช้การได้ดีดังเดิมภายใน.......วัน นับถัด จากวันที่ได้รับแจ้งความชำรุดบกพร่อง


34 9. เกณฑ์การพิจารณาผลการยื่นข้อเสนอ ในการพิจารณาผลการเสนอราคาครั้งนี้ กรมจะพิจารณาตัดสินโดยใช้หลักเกณฑ์ ………….. (หลักเกณฑ์ราคา/หลักเกณฑ์ราคาประกอบเกณฑ์อื่น) …………… (ก) กรณีใช้หลักเกณฑ์ราคาในการพิจารณาผู้ชนะการเสนอราคา ......(ระบุชื่อหน่วยงาน)...... จะ พิจารณาจาก............................(ราคารวม/ราคาต่อรายการ/ราคาต่อหน่วย) ……......................…… (ข) กรณีใช้หลักเกณฑ์ราคาประกอบเกณฑ์อื่นในการพิจารณาผู้ชนะการยื่นข้อเสนอ ......(ระบุชื่อ หน่วยงาน)...... จะพิจารณาโดยให้คะแนนตามปัจจัยหลักและน้ำหนักที่กำหนด ดังนี้ (1) ราคาที่ยื่นข้อเสนอ (Price) กำหนดน้ำหนักเท่ากับร้อยละ ...................... (2) ......................................... กำหนดน้ำหนักเท่ากับร้อยละ ...................... (3) ......................................... กำหนดน้ำหนักเท่ากับร้อยละ ...................... โดยกำหนดให้น้ำหนักรวมทั้งหมดเท่ากับร้อยละ 100 10. ข้อสงวนสิทธิ์ในการเสนอราคาและอื่น ๆ 10.1 เงินค่าพัสดุสำหรับการจ้างครั้งนี้ ได้มาจากเงินงบประมาณ.........................../เงินกู้จาก ..................................................../เงินช่วยเหลือจาก ……………………….………….. การลงนามในสัญญาจะกระทำได้ ต่อเมื่อกรมรับอนุมัติเงินค่าพัสดุจากงบประมาณ ........................... /เงินกู้จาก……………………./เงินช่วยเหลือจาก………………….……………..แล้วเท่านั้น 10.2 กรมอาจประกาศยกเลิกการจัดจ้างในกรณีต่อไปนี้ได้ โดยที่ผู้ยื่นข้อเสนอจะเรียกร้อง ค่าเสียหายใดๆ จากกรมไม่ได้ (1) กรมไม่ได้รับการจัดสรรเงินที่จะใช้ในการจัดจ้างหรือที่ได้รับจัดสรรแต่ไม่เพียงพอที่จะทำ การจัดจ้างครั้งนี้ต่อไป (2) มีการกระทำที่เข้าลักษณะผู้ยื่นข้อเสนอที่ชนะการจัดจ้างหรือที่ได้รับการคัดเลือกมี ผลประโยชน์ร่วมกัน หรือมีส่วนได้เสียกับผู้ยื่นข้อเสนอรายอื่น หรือขัดขวางการแข่งขันอย่างเป็นธรรม หรือ สมยอมกันกับผู้ยื่นข้อเสนอรายอื่น หรือเจ้าหน้าที่ในการเสนอราคา หรือส่อว่ากระทำการทุจริตอื่นใดในการ เสนอราคา (3) การทำการจัดจ้างครั้งนี้ต่อไปอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่กรมหรือกระทบต่อประโยชน์ สาธารณะ (4) กรณีอื่นในทำนองเดียวกับ (1) (2) หรือ (3) ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ซึ่งออกตาม ความในกฎหมายว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ 11. การปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบ ในระหว่างระยะเวลาการจ้าง ผู้ยื่นข้อเสนอที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้รับจ้างต้องปฏิบัติตาม หลักเกณฑ์ที่กฎหมายและระเบียบได้กำหนดไว้โดยเคร่งครัด ลงชื่อ.......................................................ผู้กำหนดรายละเอียด (......................................................)


35 ตัวอย่าง ขอบเขตของงาน งานซื้อ .......................................... ด้วยวิธีการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) 1. ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการ ชื่อโครงการ เงินงบประมาณโครงการ ......................................... บาท (..........................................) ราคากลาง .......................................... บาท (..............................................) 2. คุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอ 2.1 มีความสามารถตามกฎหมาย 2.2 ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย 2.3 ไม่อยู่ระหว่างเลิกกิจการ 2.4 ไม่เป็นบุคคลซึ่งอยู่ระหว่างถูกระงับการยื่นข้อเสนอหรือทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐไว้ ชั่วคราว เนื่องจากเป็นผู้ที่ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้ประกอบการตามระเบียบที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกำหนดตามที่ประกาศเผยแพร่ในระบบเครือข่ายสารสนเทศของ กรมบัญชีกลาง 2.5 ไม่เป็นบุคคลซึ่งถูกระบุชื่อไว้ในบัญชีรายชื่อผู้ทิ้งงานและได้แจ้งเวียนชื่อให้เป็นผู้ทิ้งงานของ หน่วยงานของรัฐในระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชีกลาง ซึ่งรวมถึงนิติบุคคลที่ผู้ทิ้งงานเป็นหุ้นส่วน ผู้จัดการ กรรมการผู้จัดการ ผู้บริหาร ผู้มีอำนาจในการดำเนินงานในกิจการของนิติบุคคลนั้นด้วย 2.6 มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่คณะกรรมการนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างและการ บริหารพัสดุภาครัฐกำหนดในราชกิจจานุเบกษา 2.7 เป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลผู้มีอาชีพขายพัสดุที่ประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าว* 2.8 ไม่เป็นผู้มีผลประโยชน์ร่วมกันกับผู้ยื่นข้อเสนอรายอื่นที่เข้ายื่นข้อเสนอให้แก่กรม..... ณ วัน ประกาศประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์หรือไม่เป็นผู้กระทำการอันเป็นการขัดขวางการแข่งขันอย่างเป็นธรรมใน การประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ครั้งนี้ 2.9 ไม่เป็นผู้ได้รับเอกสิทธิ์หรือความคุ้มกัน ซึ่งอาจปฏิเสธไม่ยอมขึ้นศาลไทย เว้นแต่รัฐบาลของผู้ยื่น ข้อเสนอได้มีคำสั่งให้สละเอกสิทธิ์และความคุ้มกันเช่นว่านั้น 2.10 ผู้ยื่นข้อเสนอต้องลงทะเบียนในระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Government Procurement: e - GP) ของกรมบัญชีกลาง 2.11 ผู้ยื่นข้อเสนอซึ่งได้รับการคัดเลือกเป็นคู่สัญญาต้องลงทะเบียนในระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วย อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Government Procurement: e - GP) ของกรมบัญชีกลางตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กำหนด 2.12 ผู้ยื่นข้อเสนอต้องไม่อยู่ในฐานะเป็นผู้ไม่แสดงบัญชีรายรับรายจ่าย หรือแสดงบัญชีรายรับ รายจ่ายไม่ถูกต้องครบถ้วนในสาระสำคัญ ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กำหนด 2.13 ผู้ยื่นข้อเสนอซึ่งได้รับคัดเลือกเป็นคู่สัญญาต้องรับและจ่ายเงินผ่านบัญชีธนาคาร เว้นแต่การ จ่ายเงินแต่ละครั้งซึ่งมีมูลค่าไม่เกินสามหมื่นบาทคู่สัญญาอาจจ่ายเป็นเงินสดก็ได้ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กำหนด


36 2.14 ....................................(คุณสมบัติอื่น*) .................................. เช่น (1) ผู้ยื่นข้อเสนอต้องมีผลงานประเภทเดียวกันกับงานที่ประกวดราคาซื้อในวงเงินไม่น้อยกว่า .................บาท (........................................) และเป็นผลงานที่เป็นคู่สัญญาโดยตรงกับหน่วยงานของรัฐ หรือ หน่วยงานเอกชนที่น่าเชื่อถือ (2) ผู้ยื่นข้อเสนอต้องเป็นตัวแทนจำหน่าย...................... *หน่วยงานสามารถปรับใช้ได้ตามความเหมาะสม 3. รายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะ และเงื่อนไขเฉพาะ 3.1 รายการที่ 1 ................................................ (รายละเอียดตามเอกสารแนบท้าย) 3.2 รายการที่ 2 ................................................ (รายละเอียดตามเอกสารแนบท้าย) 4. การเสนอราคา การส่งมอบ และการจ่ายเงิน 4.1 สถานที่ส่งมอบพัสดุ ณ ..............................................................................................* 4.2 กำหนดยืนราคาไม่น้อยกว่า …........... วัน* นับแต่วันยื่นข้อเสนอ 4.3 กำหนดส่งมอบพัสดุไม่เกิน.................วัน* นับถัดจากวันลงนามในสัญญาซื้อขาย *ให้หน่วยงานกรอกข้อมูลตามความเหมาะสม 5. การทำสัญญา ผู้ชนะการเสนอราคาที่ได้รับการคัดเลือกเป็นให้เป็นผู้ขายจะต้องทำสัญญากับกรม..... ภายใน……..วัน นับถัดจากวันที่ได้รับแจ้ง 6. การจ่ายเงิน ก. กรมจะชำระเงินค่าสิ่งของครบถ้วน ให้แก่ผู้ขาย เมื่อกรมได้รับมอบสิ่งของไว้โดยครบถ้วนแล้ว ข. กรมตกลงชำระเงินค่าสิ่งของให้แก่ผู้ขาย ดังนี้ 6.1 เงินล่วงหน้า จำนวน……....................บาท (………......…………………………………..) จะจ่ายให้ ภายใน…….…............(…….........……….) วัน นับถัดจากวันลงนามในสัญญา ทั้งนี้ โดยผู้ขายจะต้องนำหลักประกัน เงินล่วงหน้าเป็น.....…….............(หนังสือค้ำประกันหรือหนังสือค้ำประกันอิเล็กทรอนิกส์ของธนาคาร ภายในประเทศหรือพันธบัตรรัฐบาลไทย)…................เต็มตามจำนวนเงินล่วงหน้าที่จะได้รับ มามอบให้แก่ผู้ซื้อ เป็นหลักประกันการชำระคืนเงินล่วงหน้าก่อนการรับชำระเงินล่วงหน้านั้น และผู้ซื้อจะคืนหลักประกันเงิน ล่วงหน้าให้แก่ผู้ขายเมื่อผู้ซื้อจ่ายเงินที่เหลือตามข้อ 6.2 6.2 เงินที่เหลือ จำนวน……….................บาท (………....…………..) จะจ่ายให้เมื่อผู้ซื้อได้รับมอบ สิ่งของ ตามข้อ 5 ไว้โดยถูกต้องครบถ้วนแล้ว 7. อัตราค่าปรับ หากผู้ขายไม่สามารถส่งมอบพัสดุภายในกำหนด จะต้องชำระค่าปรับให้แก่กรม..... ในอัตราร้อยละ 0.2 ของมูลค่าพัสดุที่ยังไม่ได้รับมอบ 8. การรับประกันความชำรุดบกพร่อง ชนะการเสนอราคาที่ได้รับการคัดเลือกเป็นให้เป็นผู้ขาย จะต้องรับประกันความชำรุดบกพร่องของ พัสดุที่ส่งมอบ ที่เกิดขึ้นภายในระยะเวลาไม่น้อยกว่า .......ปี......เดือน.........วันนับถัดจากวันที่กรม..... ได้รับ มอบพัสดุ โดยผู้ขายต้องรีบจัดการซ่อมแซมแก้ไขให้ใช้การได้ดีดังเดิมภายใน.......วัน นับถัดจากวันที่ได้รับแจ้ง ความชำรุดบกพร่อง 8. เกณฑ์การพิจารณาผลการยื่นข้อเสนอ 8.1 การพิจารณาผลการยื่นข้อเสนอครั้งนี้ กรม.......... จะพิจารณาตัดสินโดยใช้หลักเกณฑ์.... (หลักเกณฑ์ราคา/หลักเกณฑ์ราคาประกอบเกณฑ์อื่น)....*


37 8.2 การพิจารณาผู้ชนะการยื่นข้อเสนอ **(ก) กรณีใช้หลักเกณฑ์ราคาการพิจารณาผู้ชนะการยื่นข้อเสนอ กรม.......... จะพิจารณาจาก ....(ราคารวม/ราคาต่อรายการ/ราคาต่อหน่วย) .... **(ข) กรณีใช้หลักเกณฑ์ราคาประกอบเกณฑ์อื่นในการพิจารณาผู้ชนะการยื่นข้อเสนอ กรม .......... จะพิจารณาโดยให้คะแนนตามปัจจัยหลักและน้ำหนักที่กำหนด ดังนี้*** (1) ราคาที่ยื่นข้อเสนอ (Price) กำหนดน้ำหนักเท่ากับร้อยละ....... (2) ต้นทุนของพัสดุนั้นตลอดอายุการใช้งาน กำหนดน้ำหนักเท่ากับร้อยละ....... (3) มาตรฐานของสินค้าหรือบริการ กำหนดน้ำหนักเท่ากับร้อยละ ........ (4) บริการหลังการขาย กำหนดน้ำหนักเท่ากับร้อยละ....... (5) พัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน กำหนดน้ำหนักเท่ากับร้อยละ....... (6) การประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้ประกอบการ กำหนดน้ำหนักเท่ากับร้อยละ....... (7) ข้อเสนอด้านเทคนิคหรือข้อเสนออื่น กำหนดน้ำหนักเท่ากับร้อยละ....... *หน่วยงานกำหนดได้ตามความเหมาะสมของการจัดซื้อในครั้งนั้น ๆ ***การกำหนดน้ำหนักของแต่ละตัวแปรเมื่อรวมแล้วต้องเท่ากับ 100 9. การใช้งบประมาณ เงินค่าพัสดุสำหรับการจ้างครั้งนี้ ได้มาจากเงินงบประมาณ.............................................................. /เงินกู้จาก ................................................................../เงินช่วยเหลือจาก ……………………………………….………….. 10. การสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม* สำหรับผู้สนใจที่ต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับร่างขอบเขตของงานฉบับนี้ สามารถสอบ ทางได้ทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ [email protected] หรือหมายเลขโทรศัพท์ ...................................... ทั้งนี้ ระยะเวลาในการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมให้เป็นไปตามเงื่อนไขในเอกสารประกวดราคา *เลือกใช้ในกรณีที่หน่วยงานต้องการให้ผู้ประกอบการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม 11. การรับฟังความคิดเห็น* รับฟังความคิดเห็น ผู้ประกอบการสามารถเสนอแนะความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างขอบเขตของงานฉบับนี้ ได้ที่ สถานที่ติดต่อ................................................................... โทรศัพท์.......................................................................... E-Mail............................................................................. ทั้งนี้ในการเสนอแนะความคิดเห็น ผู้เสนอแนะต้องเปิดเผยชื่อ และที่อยู่ ที่สามารถติดต่อได้ ให้กรม...........ทราบด้วย ไม่รับฟังความคิดเห็น เนื่องจาก............................................................................................... *สำหรับการจัดซื้อจัดจ้างกรณีวงเงินเกิน 500,000 บาท แต่ไม่เกิน 5,000,000 บาท ขึ้นกับดุลยพินิจของ หัวหน้าหน่วยงานที่จะรับฟังความคิดเห็นหรือไม่ก็ได้ / สำหรับการจัดซื้อจัดจ้างกรณีวงเงินเกินกว่า 5,000,000 บาท หน่วยงานของรัฐต้องรับฟังความคิดเห็นทุกครั้ง


38 ตัวอย่าง เอกสารแนบท้าย ข้อ 3.1 รายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะ


39 ตัวอย่าง ขอบเขตของงาน งานจ้าง .......................................... ด้วยวิธีการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) 1. ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการ ชื่อโครงการ เงินงบประมาณโครงการ ......................................... บาท (..........................................) ราคากลาง .......................................... บาท (..............................................) 2. คุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอ 2.1 มีความสามารถตามกฎหมาย 2.2 ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย 2.3 ไม่อยู่ระหว่างเลิกกิจการ 2.4 ไม่เป็นบุคคลซึ่งอยู่ระหว่างถูกระงับการยื่นข้อเสนอหรือทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐไว้ ชั่วคราวเนื่องจากเป็นผู้ที่ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้ประกอบการตามระเบียบที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกำหนดตามที่ประกาศเผยแพร่ในระบบเครือข่ายสารสนเทศของ กรมบัญชีกลาง 2.5 ไม่เป็นบุคคลซึ่งถูกระบุชื่อไว้ในบัญชีรายชื่อผู้ทิ้งงานและได้แจ้งเวียนชื่อให้เป็นผู้ทิ้งงานของ หน่วยงานของรัฐในระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชีกลาง ซึ่งรวมถึงนิติบุคคลที่ผู้ทิ้งงานเป็นหุ้นส่วน ผู้จัดการ กรรมการผู้จัดการ ผู้บริหาร ผู้มีอำนาจในการดำเนินงานในกิจการของนิติบุคคลนั้นด้วย 2.6 มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่คณะกรรมการนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างและการ บริหารพัสดุภาครัฐกำหนดในราชกิจจานุเบกษา 2.7 เป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลผู้มีอาชีพรับจ้างงานดังกล่าว 2.8 ไม่เป็นผู้ได้รับเอกสารสิทธิ์หรือความคุ้มกัน ซึ่งอาจปฏิเสธไม่ยอมขึ้นศาลไทย เว้นแต่รัฐบาลของ ผู้ยื่นข้อเสนอได้มีคำสั่งให้สละเอกสิทธิ์และความคุ้มกันเช่นว่านั้น 2.9 ไม่เป็นผู้มีผลประโยชน์ร่วมกันกับผู้ยื่นข้อเสนอรายอื่นที่เข้ายื่นข้อเสนอให้แก่กรม ณ วันยื่น ข้อเสนอ หรือไม่เป็นผู้กระทำการอันเป็นการขัดขวางการแข่งขันอย่างเป็นธรรม ในการซื้อครั้งนี้ 2.9 ผู้ยื่นข้อเสนอต้องลงทะเบียนในระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Government Procurement : e - GP) ของกรมบัญชีกลาง 2.10 ผู้ยื่นข้อเสนอต้องไม่อยู่ในฐานะเป็นผู้ไม่แสดงบัญชีรายรับรายจ่ายหรือแสดงบัญชีรายรับ รายจ่ายไม่ถูกต้องครบถ้วนในสาระสำคัญ ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กำหนด 2.11 ผู้ยื่นข้อเสนอซึ่งได้รับคัดเลือกเป็นคู่สัญญาต้องรับและจ่ายเงินผ่านบัญชีธนาคาร เว้นแต่การ จ่ายเงินแต่ละครั้งซึ่งมีมูลค่าไม่เกินสามหมื่นบาทคู่สัญญาจ่ายเป็นเงินสดได้ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กำหนด 2.12 ผู้ยื่นข้อเสนอต้องมีผลงานงประเภทเดียวกันกับงานที่ประกวดราคาจ้างในวงเงินไม่น้อยกว่า .................บาท (........................................) และเป็นผลงานที่เป็นคู่สัญญาโดยตรงกับหน่วยงานของรัฐ หรือ หน่วยงานเอกชนที่กรมเชื่อถือ 2.13 ……………………………………………………….* *หน่วยงานสามารถเพิ่มเติมคุณสมบัติได้ตามความเหมาะสม


40 3. รายละเอียดและขอบเขตของงาน ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... 4. การเสนอราคา และกำหนดส่งมอบ 4.1 สถานที่ส่งมอบพัสดุ ณ .............................................................................................. 4.2 กำหนดยืนราคาไม่น้อยกว่า …........... วัน นับแต่วันยื่นข้อเสนอ 4.3 กำหนดเวลาดำเนินการแล้วเสร็จไม่เกิน.................วัน นับถัดจากวันลงนามในสัญญาจ้าง หรือ วันที่ได้รับหนังสือแจ้งจากกรมให้เริ่มทำงาน 5. ค่าจ้างและการจ่ายเงิน 5.1 (สำหรับการจ้างที่จ่ายค่าจ้างให้ผู้รับจ้างครั้งเดียว) 2 ............................ 1กจะจ่ายค่าจ้างซึ่งได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่มตลอดจนภาษีอากรอื่นๆ และค่าใช้จ่าย ทั้งปวงแล้วให้แก่ผู้ยื่นข้อเสนอที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้รับจ้าง เมื่อผู้รับจ้างได้ปฏิบัติงานถูกต้องและ ครบถ้วนตามสัญญาจ้างหรือข้อตกลง และ............................ 1กได้ตรวจรับมอบงานจ้างเรียบร้อยแล้ว 5.2 (สำหรับการจ้างที่จ่ายค่าจ้างให้ผู้รับจ้างแบ่งเป็นงวด) 2 ............................ 1กจะจ่ายค่าจ้างซึ่งได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่มตลอดจนภาษีอากรอื่นๆ และค่าใช้จ่าย ทั้งปวงด้วยแล้วให้แก่ผู้ยื่นข้อเสนอที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้รับจ้าง โดยแบ่งออกเป็น…………….งวด ดังนี้ งวดที่ 1 เป็นจำนวนเงินในอัตราร้อยละ….....……ของค่าจ้าง เมื่อผู้รับจ้างได้ปฏิบัติงาน………………….… ให้แล้วเสร็จภายใน…………………วัน งวดที่ 2 เป็นจำนวนเงินในอัตราร้อยละ…………ของค่าจ้าง เมื่อผู้รับจ้างได้ปฏิบัติงาน……………..……. ให้แล้วเสร็จภายใน…………………วัน ……………………………..ฯลฯ…………………………… งวดสุดท้าย เป็นจำนวนเงินในอัตราร้อยละ…………….ของค่าจ้าง เมื่อผู้รับจ้างได้ปฏิบัติงาน ทั้งหมดให้แล้วเสร็จเรียบร้อยตามสัญญาหรือข้อตกลงจ้างเป็นหนังสือ และ............................ 1ก ได้ตรวจรับมอบ งานจ้างเรียบร้อยแล้ว 6. การทำสัญญา ผู้ชนะการเสนอราคา จะต้องทำสัญญากับกรมภายใน …….. วัน นับถัดจากวันที่ได้รับแจ้ง 7. อัตราค่าปรับ 7.1 กรณีที่ผู้รับจ้างนำงานที่รับจ้างไปจ้างช่วงให้ผู้อื่นทำอีกทอดหนึ่งโดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรม จะกำหนดค่าปรับสำหรับการฝ่าฝืนดังกล่าวเป็นจำนวนร้อยละ 10 ของวงเงินของงานจ้างช่วงนั้น 7.2 กรณีที่ผู้รับจ้างปฏิบัติผิดสัญญาจ้างนอกเหนือจากข้อ 7.1 จะกำหนดค่าปรับเป็นรายวัน ในอัตราร้อยละ 0.1 ของวงเงินตามสัญญาจ้าง 8. การรับประกันความชำรุดบกพร่อง ผู้ชนะการเสนอราคา ซึ่งได้ทำข้อตกลงเป็นหนังสือ หรือทำสัญญา แล้วแต่กรณี จะต้องรับประกัน ความชำรุดบกพร่องของสิ่งของงานจ้างที่เกิดขึ้นภายในระยะเวลาไม่น้อยกว่า ..............ปี.....เดือน......วันนับถัด จากวันที่กรมได้รับมอบงาน โดยผู้รับจ้างต้องรีบจัดการซ่อมแซมแก้ไขให้ใช้การได้ดีดังเดิมภายใน.......วัน นับถัด จากวันที่ได้รับแจ้งความชำรุดบกพร่อง 9. เกณฑ์การพิจารณาผลการยื่นข้อเสนอ 9.1 การพิจารณาผลการยื่นข้อเสนอครั้งนี้ กรม.......... จะพิจารณาตัดสินโดยใช้หลักเกณฑ์.... (หลักเกณฑ์ราคา/หลักเกณฑ์ราคาประกอบเกณฑ์อื่น)....*


41 9.2 การพิจารณาผู้ชนะการยื่นข้อเสนอ **(ก) กรณีใช้หลักเกณฑ์ราคาการพิจารณาผู้ชนะการยื่นข้อเสนอ กรม.......... จะพิจารณาจาก ....(ราคารวม/ราคาต่อรายการ/ราคาต่อหน่วย) .... **(ข) กรณีใช้หลักเกณฑ์ราคาประกอบเกณฑ์อื่นในการพิจารณาผู้ชนะการยื่นข้อเสนอ กรม .......... จะพิจารณาโดยให้คะแนนตามปัจจัยหลักและน้ำหนักที่กำหนด ดังนี้*** (1) ราคาที่ยื่นข้อเสนอ (Price) กำหนดน้ำหนักเท่ากับร้อยละ....... (2) ต้นทุนของพัสดุนั้นตลอดอายุการใช้งาน กำหนดน้ำหนักเท่ากับร้อยละ....... (3) มาตรฐานของสินค้าหรือบริการ กำหนดน้ำหนักเท่ากับร้อยละ ........ (4) บริการหลังการขาย กำหนดน้ำหนักเท่ากับร้อยละ....... (5) พัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน กำหนดน้ำหนักเท่ากับร้อยละ....... (6) การประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้ประกอบการ กำหนดน้ำหนักเท่ากับร้อยละ....... (7) ข้อเสนอด้านเทคนิคหรือข้อเสนออื่น กำหนดน้ำหนักเท่ากับร้อยละ....... *หน่วยงานกำหนดได้ตามความเหมาะสมของการจัดซื้อในครั้งนั้น ๆ ***การกำหนดน้ำหนักของแต่ละตัวแปรเมื่อรวมแล้วต้องเท่ากับ 100 10. การใช้งบประมาณ เงินค่าพัสดุสำหรับการจ้างครั้งนี้ ได้มาจากเงินงบประมาณ.............................................................. /เงินกู้จาก ...................................................................../เงินช่วยเหลือจาก ……………………………………….………….. 11. การสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม* สำหรับผู้สนใจที่ต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับร่างขอบเขตของงานฉบับนี้ สามารถสอบทางได้ทาง จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ [email protected] หรือหมายเลขโทรศัพท์ 045-353140 ทั้งนี้ ระยะเวลาในการสอบถาม รายละเอียดเพิ่มเติมให้เป็นไปตามเงื่อนไขในเอกสารประกวดราคา *เลือกใช้ในกรณีที่หน่วยงานต้องการให้ผู้ประกอบการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม 12. การรับฟังความคิดเห็น* รับฟังความคิดเห็น ผู้ประกอบการสามารถเสนอแนะความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างขอบเขตของงานฉบับนี้ ได้ที่ สถานที่ติดต่อ................................................................... โทรศัพท์.......................................................................... E-Mail............................................................................. ทั้งนี้ในการเสนอแนะความคิดเห็น ผู้เสนอแนะต้องเปิดเผยชื่อ และที่อยู่ ที่สามารถติดต่อได้ ให้กรม...........ทราบด้วย ไม่รับฟังความคิดเห็น เนื่องจาก............................................................................................... *สำหรับการจัดซื้อจัดจ้างกรณีวงเงินเกิน 500,000 บาท แต่ไม่เกิน 5,000,000 บาท ขึ้นกับดุลยพินิจของหัวหน้าหน่วยงานที่จะรับฟังความ คิดเห็นหรือไม่ก็ได้ / สำหรับการจัดซื้อจัดจ้างกรณีวงเงินเกินกว่า 5,000,000 บาท หน่วยงานของรัฐต้องรับฟังความคิดเห็นทุกครั้ง


42 บทที่ 5 ปัญหา อุปสรรค แนวทางแก้ไข และการพัฒนางาน ในบทที่ 5 ปัญหา อุปสรรค แนวทางแก้ไข และการพัฒนาในการจัดทำขอบเขตของงาน (Term of Reference : TOR) ของสำนักวิทยบริการ ซึ่งประกอบด้วย 5.1 ปัญหา อุปสรรคในการปฏิบัติงาน 5.2 แนวทางแก้ไขและพัฒนางาน 5.3 ข้อเสนอแนะ ดังรายละเอียดต่อไปนี้ 5.1 ปัญหา อุปสรรคในการปฏิบัติงาน ปัญหา และอุปสรรคในการจัดทำขอบเขตของงาน (Term of Reference : TOR) ของสำนักวิทย บริการ สามารถแยกได้ตามขั้นตอนการปฏิบัติงาน ดังนี้ ขั้นตอนการปฏิบัติงาน ปัญหา อุปสรรค 1.การจัดทำร่างขอบเขตของงาน (Term of Reference : TOR) 1) ขออนุมัติและแต่งตั้งคณะกรรมการจัดทำ TOR 2) คณะกรรมการจัดทำราคากลางตามมาตรา 4 และกำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือก ข้อเสนอ 3) รายงานผลการจัดทำและเสนอหัวหน้า หน่วยงานของรัฐให้ความเห็นชอบ 4) ประกาศราคากลางเผยแพร่ในระบบเครือข่าย สารสนเทศของกรมบัญชีกลางและของหน่วยงาน ปัญหาด้านการจัดทำร่างขอบเขตของงาน (Term of Reference : TOR) เป็นเรื่องที่อยู่ในขั้นตอนของการ จัดทำร่างขอบเขตของงาน เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการ จัดทำร่างขอบเขตของงาน (Term of Reference : TOR) ในส่วนที่พบปัญหามากที่สุดเป็นการกำหนดขอบเขตของ งานที่กว้างจนเกินไป ซึ่งอาจทำให้ไม่ได้พัสดุที่มีคุณภาพ หรือตรงตามความต้องการของผู้ใช้งาน ในบางครั้ง คณะกรรมการจัดทำร่างขอบเขตของงานกำหนดเงื่อนไข ของพัสดุตรงตามความต้องการเกินไปจนทำให้เป็น การล๊อคสเปคได้ 2.ความต้องการในการใช้พัสดุ ดำเนินการจัดซื้อ/จัดจ้างในราคาและแหล่งขายที่ เหมาะสมซึ่งมีราคาพัสดุที่ยุติธรรมโดยสืบราคาจาก ท้องตลาดจำนวน 3 ร้านค้าและผู้ขายมีความพร้อม ในการจัดหาในการส่งพัสดุได้ตรงตามความ ต้องการของหน่วยงานโดยยึดถือและปฏิบัติตาม พรบ.จัดซื้อจัดจ้างฯ และให้เกิดความคุ้มค่า โปร่งใส มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล และให้ตรงตาม ขอบเขตของงาน (Term of Reference : TOR) ปัญหาด้านการจัดหา พบว่าในการจัดหาพัสดุของแต่ละ หน่วยนั้นยังมีปัญหาในเรื่องของความต้องการในการใช้ พัสดุ เนื่องจากฝ่ายนั้นล้วนแต่มีความต้องการพัสดุเพื่อใช้ ดำเนินงานในฝ่ายตน ผู้ใช้พัสดุไม่มีการวางแผนความ ต้องการในการใช้พัสดุ ผู้ใช้พัสดุ ไม่สามารถประมาณการ จำนวนพัสดุหรือระยะเวลาได้ ไม่สามารถกำหนดขอบเขต ของงาน (Term of Reference : TOR) ได้ จึงทำให้ใน บางครั้งเกิดการจัดหาที่เร่งด่วนหรือล่าช้าไปทำให้ได้พัสดุ ไม่ตรงตามขอบเขตของงาน (Term of Reference : TOR) ไม่ทันเวลาทำให้การดำเนินงานภายในของแต่ละ ฝ่ายเกิดความล่าช้าออกไป


43 5.2 แนวทางแก้ไขและพัฒนางาน จากปัญหาในการปฏิบัติงานพัสดุ ของสำนักวิทยบริการ ข้างต้น ผู้จัดทำคู่มือมีแนวทางแก้ไขและ พัฒนางาน ดังนี้ ขั้นตอนการปฏิบัติงาน ปัญหา อุปสรรค แนวทางแก้ไขและพัฒนางาน 1.การร่างขอบเขต ของงาน (Term of Reference : TOR) (1) ขาดวัตถุประสงคเฉพาะของการซื้อหรือ การจางการกําหนดกลุมเปาหมายของ แผนงานที่ตองการไวอยางชัดเจนครบถวน (2) ขาดวัตถุประสงคเฉพาะของการซื้อหรือ การจาง และการกําหนดกลุมเปาหมายกวาง เกินไป สวนใหญมักไมกําหนดเปาหมายหรือ วัตถุประสงคเฉพาะของการจัดซื้อหรือจาง ในแตละกิจกรรม ทําใหเกิดปญหาการ ตีความความตองการที่ยากตอการพิจารณา คัดเลือกขอเสนออยางเปนธรรม (3) ขาดการแสดงยอดงบประมาณใน TOR ทําใหผู้ประกอบการตองใชความพยายามส วนตัว สอบถามและ หาขอมูลใหทราบถึงจํานวนเงินงบประมาณ ที่มีแมในบางกรณีจะมีการแจงขอมูลงบ ประมาณอยางคราวๆในการใหขอมูลเบื้องต นประกอบการเสนอแผนเพื่อการจัดหาก็ ตาม ซึ่งอาจกอใหเกิดความลําเอียงได สําหรับ (4) ขาดความเขาใจในการกําหนดคุณสมบัติ ของผู้ขายหรือรับจาง ผูจัดทํา TOR ที่ไมมี ประสบการณ หรือความเขาใจโดยตรงใน เรื่องการกําหนดคุณสมบัติของผู้ขายหรือ รับจาง มักจะกําหนดในลักษณะกวางๆ และ ระบุคุณสมบัติของผู้ขายหรือรับจาง เพียงเป นนิติบุคคลหรือบุคลคธรรมดาที่มีประสบกา รณและผลงานที่เกี่ยวของเทานั้นซึ่งวิธีการ กําหนดคุณสมบัติเชนนี้ทําใหขาดการชี้ชัดถึง ลักษณะความชํานาญพิเศษที่จําเปนในการ ดําเนินโครงการ จึงไดผู้ขายหรือรับจาง ไม ตรงกับความตองการของผู้ซื้อหรือผูวาจาง นอกจากนี้ การกําหนดคุณสมบัติของผูรับจ างอาจเกิดเปนขอครหาในเรื่องของความไม ตองมีการกําหนดเปาหมายเฉพาะของ แตละกิจกรรมอยางชัดเจน การกําหนด กลุมเปาหมายที่ชัดเจน จะเกิดประโยชน ในการเลือกพัสดุ ที่ตรงตามความ ต้องการและมีประสิทธิภาพสูงสุดปญหา ที่เกิดขึ้นจากการกําหนดวัตถุประสงค และกลุมเปาหมาย มีพื้นฐานมากจาก ความไมรูและไมเขาใจในการวางแผน โครงการ วิธีการแกปญหาคือเจาของ โครงการจะตองมีความเขาใจเรื่องของ งาน และกลุมเปาหมาย มีงบประมาณ อยางเพียงพอและดําเนินการเปนขั้น ตอนตอเนื่องจนกวาจะบรรลุเปาหมาย ทั้งนี้ ผู้ต้องการใช้พัสดุควรระบุ งบประมาณที่ชัดเจน ในการจัดทําใบขอ ซื้อแตละงานวามีงบประมาณอยูเทาไร เนื่องจากเปนขอมูลที่ควรจะเปดให ผู้ประกอบการทั่วไปรับรูไดโดยหนวย งานควรเนนไปที่การพิจารณาความคุม คาของการจัดทําโครงการ และ ประสิทธิภาพประสิทธิผลของโครงการ เปนหลัก


44 โปรงใสได เนื่องจากหนวยงานสามารถ กําหนดคุณสมบัติใหเอื้อประโยชนตอผู้ ประกอบการรายใดรายหนึ่งเปนพิเศษ 2.ความต้องการใน การใช้พัสดุ ปัญหาด้านการจัดหา พบว่าในการจัดหา พัสดุของแต่ละหน่วยนั้นยังมีปัญหาในเรื่อง การจัดทำของขอบเขตของงาน (Term of Reference : TOR) ที่กว้างเกินไปทำให้ไม่ ตรงตามความต้องการในการใช้พัสดุ เนื่องจากฝ่ายนั้นล้วนแต่มีความต้องการ พัสดุเพื่อใช้ดำเนินงานในฝ่ายตน ผู้ใช้พัสดุไม่ มีการวางแผนความต้องการในการใช้พัสดุ ผู้ใช้พัสดุ ไม่สามารถประมาณการจำนวน พัสดุหรือระยะเวลาได้ จึงทำให้ในบางครั้ง เกิดการจัดหาที่เร่งด่วนหรือล่าช้าไปทำให้ได้ พัสดุไม่ตรงตามความต้องการ ไม่ทันเวลาทำ ให้การดำเนินงานภายในของแต่ละฝ่ายเกิด ความล่าช้าออกไป ตามมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติการ จัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 ได้กำหนดหลักการจัดทำ ร่างขอบเขตของงานหรือรายละเอียด คุณลักษณะเฉพาะของพัสดุหรือแบบรูป รายการงานก่อสร้างที่ใช้ดำเนินการ จัดซื้อจัดจ้าง ไว้ดังนี้(1) หลักการ การ กำหนดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุที่จะ ทำการจัดซื้อจัดจ้าง ให้หน่วยงานของรัฐ ค ำ น ึ ง ถ ึ ง ค ุ ณ ภ า พ เ ท ค น ิ ค แ ล ะ วัตถุประสงค์ของการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุ นั้น (2) ข้อห้าม ห้ามมิให้กำหนดคุณลักษณะ เฉพาะของพัสดุให้ใกล้เคียงกับยี่ห้อใด ยี่ห้อหนึ่ง หรือของผู้ขายรายใดรายหนึ่ง โดยเฉพาะ (3) ข้อยกเว้น พัสดุที่จะทำการจัดซื้อ จัดจ้างตามวัตถุประสงค์นั้นมียี่ห้อเดียว หรือจะต้องใช้อะไหล่ของยี่ห้อใด ก็ให้ ระบุยี่ห้อนั้นได้ 5.3 ข้อเสนอแนะ จากปัญหา อุปสรรค และแนวทางแก้ไขและพัฒนางานข้างต้นแล้วนั้น ผู้จัดทำคู่มือมีข้อเสนอแนะ เพื่อให้การปฏิบัติงานเกิดประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น ดังนี้ 1. ควรมีการแลกเปลี่ยนความรู้ แนวทางการจัดทำขอบเขตของงาน (Term of Reference : TOR) เพื่อให้มีแนวปฏิบัติที่ดีในการจัดทำขอบเขตของงาน (Term of Reference : TOR) 2. ควรมีการนำระบบเทคโนโลยีมาใช้ในการขอบเขตของงาน (Term of Reference : TOR) ตาม แผนทั่วทั้งองค์กร ทั้งนี้เพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณในการจัดซื้อกระดาษ และหมึกพิมพ์ 3. ควรมีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการประชุมคณะกรรมการต่างๆในงานพัสดุ เช่น ประชุมแบบ Video Conference เพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณในการเดินทาง อีกทั้งยังประหยัด รวดเร็ว และทันเวลา ในการเสนอการดำเนินงานเกี่ยวกับงานพัสดุต่างๆ ที่ไม่ขัดต่อพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหาร พัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560


45 บรรณานุกรม 1. พระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 : 132 มาตรา 2. ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 : 223 ข้อ 3. กฎกระทรวง : 12 ฉบับ 4. ประกาศคณะกรรมการนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ : 18 ฉบับ 5. ประกาศคณะกรรมราคากลางและขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการ : 6 ฉบับ 6. ประกาศคณะกรรมความร่วมมือป้องกันการทุจริต : 3 ฉบับ 7. คำสั่งมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีเรื่อง มอบอำนาจให้คณบดีและผู้อำนวยการสำนักปฏิบัติราชการแทน อธิการบดี พ.ศ.2560 8. คำสั่งมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีเรื่อง มอบหมายภาระหน้าที่และมอบอำนาจให้คณบดีและผู้อำนวยการ สำนักปฏิบัติราชการแทนอธิการบดี (เพิ่มเติม) พ.ศ. 2563 9. ระเบียบมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีว่าด้วย ค่าตอบแทนการดำเนินการเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างและบริหาร พัสดุ พ.ศ.2562 10. คำสั่งมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เรื่อง มอบหมายผู้ปฏิบัติหน้าที่ เจ้าหน้าที่ สำนักวิทยบริการ มหาวิทยาลัย อุบลราชธานี 15 กันยายน 2564 11. พัสกร อยู่สอน (2555). ปริญญาศิลปศาสตร์บัณฑิต แขนงวิชาสารสนเทศศาสตร์สาขาสารสนเทศทั่วไป มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช 12. มาตรฐานกำหนดตำแหน่งของข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๓


Click to View FlipBook Version