รายงาน เรื่อง ชนิดของคำสรรพนาม เสนอ นางสาวฐานิตย์ นาคศิริ จัดทำโดย นายวิริยะ ถาวรรัตน์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 รายงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาภาษาไทย ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนสุนทรภู่พิทยา อำเภอแกลง จังหวัดระยอง
กิตติกรรมประกาศ โครงงานภาษาไทย เรื่อง ชนิดของคำสรรพนาม นี้สำเร็จลุล่วงได้ด้วยความกรุณาช่วยเหลือ แนะนำ ให้คำปรึกษา ตรวจสอบแก้ไขข้อบกพร่องต่าง ๆ ด้วยความเอาใจใส่อย่างดียิ่งจาก ครูฐานิตย์ นาคศิริครูผู้สอนรายวิชาโครงงานภาษาไทย ท 30208ผู้เขียนกราบขอบพระคุณ เป็นอย่างสูง ขอขอบพระคุณครูฐานิตย์ นาคศิริกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนสุนทรภู่ พิทยา ที่กรุณาให้ผู้เขียนได้สัมภาษณ์เรื่องเกี่ยวกับคำพ้อง ขอขอบคุณครูบรรณารักษ์ห้องสมุดโรงเรียนสุนทรภู่พิทยาที่ให้ความอนุเคราะห์และ ความสะดวกในการค้นคว้าหาข้อมูล ขอขอบคุณนางสาวฐานิตย์ นาคศิริและญาติพี่น้องทุกคนที่ช่วยเหลือสนับสนุนทั้งด้าน กำลังใจและกำลังทรัพย์ด้วยดีตลอดมา นอกจากนี้ยังมีผู้ที่ให้ความร่วมมือช่วยเหลืออีกหลายท่าน ซึ่ง ผู้เขียนไม่สามารถกล่าวนามในที่นี้ได้หมด จึงขอขอบคุณทุกท่านเหล่านั้นไว้ ณ โอกาสนี้ด้วย คุณค่าทั้งหลายที่ได้รับจากรายงานการศึกษาความเรียงขั้นสูงฉบับนี้ ผู้เขียนขอมอบ เป็นกตัญญูกตเวทีแด่บิดามารดา และบูรพาจารย์ที่เคยอบรมส่งสอน รวมทั้งผู้มีพระคุณทุกท่าน วิริยะ ถาวรรัตน์
บทคัดย่อ โครงงานภาษาไทย เรื่องชนิดของคำสรรพนาม จัดทำขึ้นเพื่ออยากให้ทุกคนได้รู้จักการใช้ชนิดของ คำสรรพนาม วัตถุประสงค์ 1.เพื่อให้รู้จักและวิธีการใช้ชนิดของคำสรรพนาม 2.เพื่อให้เรียนวิชา ภาษาไทยได้ง่ายขึ้น
สารบัญ เรื่อง หน้า กิตติกรรมประกาศ ก บทคัดย่อ ข บทที่ 1 บทนำ 1-2 บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง 3-7 บทที่ 3 วิธีดำเนินการศึกษา 8 บทที่ 4 ผลการศึกษา 9 -คำสรรพนามแบ่งออกเป็น 6 ชนิด 9-10 -หน้าที่ของคำสรรพนาม 10-13 บทที่ 5 สรุปผลการศึกษา 14 บรรณานุกรรม
1 บทที่ 1 บทนำ 1.ที่มาของโครงงาน คำสรรพนาม หมายถึง เป็นคำที่เราใช้เรียกแทนคำนาม อันได้แก่ คน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ เพื่อเป็น การเลี่ยงการใช้คำนามเดิมๆ ซ้ำอีก ทำให้เนื้อความมีความสละสลวยยิ่งขึ้นเพื่อจะได้ไม่ต้องกล่าว คำนามนั้นซ้ำอีก จึงได้ทำโครงงานนี้เพื่ออยากให้ทุกคนได้รู้จักวิธีการใช้ชนิดของคำสรรพนาม 2.วัตถุประสงค์ -เพื่อให้รู้จักและวิธีการใช้ชนิดของคำสรรพนาม -เพื่อให้เรียนวิชาภาษาไทยได้ง่ายขึ้น 3.ขอบเขตของโครงสร้าง ชนิดของคำสรรพนาม 4.วิธีดำเนินการ 1.คัดเลือกหัวข้อโครงงานที่สนใจ 2.ศึกษาค้นคว้าเอกสารและแหล่งข้อมูล 3.จัดทำเค้าโครงของโครงที่จะทำ 4.การลงมือทำโครงงาน 5.การเขียนรายงานและจัดทำคู่มือการใช้
2 5.ประโยชน์ที่ได้รับ เพื่ออยากให้ทุกคนได้รู้จักวิธีการใช้ชนิดของคำสรรพนาม
3 บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง โครงงานภาษาไทยเรื่องชนิดของคำสรรพนาม ได้ศึกษาและรวบรวมเอกสารดังนี้ .คำสรรพนาม คำสรรพนาม หมายถึง คำที่ใช้แทนคำนามที่กล่าวถึงมาแล้ว เพื่อจะได้ไม่ต้องกล่าวคำนามนั้นซ้ำอีก เช่นคำว่า ฉัน เรา ดิฉัน กระผม กู คุณ ท่าน ใต้เท้า เขา มัน สิ่งใด ผู้ใด นี่ นั่น อะไร ใคร บ้าง เป็นต้น ชนิดของคำสรรพนาม คำสรรพนามแบ่งออกเป็น ๖ ชนิด ดังนี้ ๑. บุรุษสรรพนาม คือ คำ สรรพนามที่ใช้แทนผู้พูด แบ่งเป็นชนิดย่อยได้ ๓ ชนิด คือ ๑.๑ สรรพนามบุรุษที่ ๑ ใช้แทนตัวพูด เช่น ผม ฉัน ดิฉัน กระผม ข้าพเจ้า กู เรา ข้าพระพุทธเจ้า อาตมา หม่อมฉัน เกล้ากระหม่อม ๑.๒ สรรพนามบุรุษที่ ๒ ใช้แทนผู้ฟัง หรือผู้ที่เราพูดด้วย เช่น คุณ เธอ ใต้เท้า ท่าน ใต้ฝ่า ละอองธุลีพระบาท ฝ่าพระบาท พระคุณเจ้า ๑.๓ สรรพนามบุรุษที่ ๓ ใช้แทนผู้ที่กล่าวถึง เขา มัน ท่าน พระองค์ ๒. ประพันธสรรพนาม คือ คำสรรพนามที่ใช้แทนคำนามและใช้เชื่อมประโยคทำหน้าที่เชื่อม ประโยคให้มีความสัมพันธ์กัน ได้แก่คำว่า ที่ ซึ่ง อัน ผู้ ๓. นิยมสรรพนาม คือ สรรพนามที่ใช้แทนนามชี้เฉพาะเจาะจงหรือบอกกำหนดความให้ผู้พูดกับ ผู้ฟังเข้าใจกัน ได้แก่คำว่า นี่ นั่น โน่น
4 ๔. อนิยมสรรนาม คือ สรรพนามใช้แทนนามบอกความไม่ชี้เฉพาะเจาะจงที่แน่นอนลงไป ได้แก่คำ ว่า อะไร ใคร ไหน ได บางครั้งก็เป็นคำซ้ำๆ เช่น ใครๆ อะไรๆ ไหนๆ ๕. วิภาคสรรพนาม คือ สรรพนามที่ใช้แทนคำนาม ซึ่งแสดงให้เห็นว่านามนั้นจำแนกออกเป็นหลาย ส่วน ได้แก่คำว่า ต่าง บ้าง กัน เช่น - นักเรียน"บ้าง"เรียน"บ้าง"เล่น - นักเรียน"ต่าง"ก็อ่านหนังสือ ๖. ปฤจฉาสรรพนาม คือ สรรพนามที่ใช้แทนนามที่เป็นคำถาม ได้แก่คำว่า อะไร ใคร ไหน ผู้ใด สิ่งใด ผู้ใด ฯลฯ เช่น - "ใคร" ทำแก้วแตก - เขาไปที่ "ไหน" หน้าที่ของคำสรรพนาม มีดังนี้คีอ ๑. เป็นประธานของประโยค เช่น - "เขา"ไปโรงเรียน - "ใคร"ทำดินสอตกอยู่บนพื้น ๒. ทำหน้าที่เป็นกรรมของประโยค (ผู้ถูกกระทำ) เช่น - ครูจะตี"เธอ"ถ้าเธอไม่ทำการบ้าน - คุณช่วยเอา"นี่"ไปเก็บได้ไหม ๓. ทำหน้าที่เป็นส่วนเติมเต็มหรือส่วนสมบูรณ์ เช่น - กำนันคนใหม่ของตำบลนี้คือ"เขา"นั่นเอง - เขาเป็น"ใคร" ๔. ใช้เชื่อมประโยคในประโยคความซ้อน เช่น - ครูชมเชยนักเรียน"ที่"ขยัน
5 ๕. ทำหน้าที่ขยายนามที่ทำหน้าที่เป็นประธานหรือกรรมของประโยค เพื่อเน้นการแสดงความรู้สึก ของผู้พูด จะวางหลังคำนาม เช่น - คุณครู"ท่าน"ไม่พอใจที่เราไม่ตั้งใจเรียน - ฉันแวะไปเยี่ยมคุณปู่"ท่าน"มา คำสรรพนาม เป็นคำที่ใช้แทนคำนาม เพื่อไม่ต้องใช้ชื่อซ้ำ หรือไม่ต้องการเรียกชื่อ นั้นโดยตรง คำ สรรพนาม แบ่งย่อยได้ 7 ชนิด ดังนี้ 1. สรรพนามแทนบุคคล (บุรุษสรรพนาม) เป็นคำที่ใช้แทนคำพูด เช่น ผม ฉัน ดิฉัน เรา หรือ คำที่ใช้แทนผู้ฟัง เช่น เธอ ท่าน คุณ และคำที่ใช้แทนบุคคลหรือสิ่งที่เรากล่าวถึง เช่น มัน แก เขา ท่าน เป็นต้น 2. สรรพนามใช้ชี้ระยะ (นิยมสรรพนาม) เป็นคำที่ใช้แทนนามที่อยู่ใกล้ ได้แก่ นี่ นี้ ถ้าห่าง ออกไป จะใช้ นั่น นั้น และถ้าห่างที่สุดจะใช้ โน่น โน้น นู่น นู้น เป็นต้น ตัวอย่างเช่น นั่นเป็นรถของคุณพ่อ ฉันชอบอยู่ที่นี่มากกว่าที่โน่น 3. สรรพนามใช้ถาม (ปฤจฉาสรรพนาม) เป็นสรรพนามที่ใช้ถาม ได้แก่ ใคร อะไร ไหน ตัวอย่างเช่น ใครจะไปบ้าง อะไรอยู่ในตู้ ไหนของฉัน
6 4. สรรพนามบอกความไม่เจาะจง (อนิยมสรรพนาม) เป็นสรรพนามที่ไม่ชี้เฉพาะ ได้แก่ ใคร อะไร ซึ่งมีรูปซ้ำกับสรรพนามใช้ถาม แต่ความหมายจะแสดงความไม่แน่นอน ไม่ได้ใช้ถามบางครั้งจะ ใช้คำซ้ำ เช่น ใดๆ ใครๆ อะไรๆ ตัวอย่างเช่น ใดๆ ในโลกล้วนอนิจจัง อะไรๆ ฉันก็กินได้ ใครๆ ก็ชอบคนเก่ง 5. สรรพนามบอกความชี้ซ้ำ แบ่งพวก หรือรวมพวก (วิภาคสรรพนาม) เป็นคำแทนนาม ข้างหน้า เพื่อให้รู้ว่านามนั้นแยกได้เป็นส่วนๆ เช่นเดียวกัน แต่ทำกริยาโต้ตอบซึ่งกันและกันอยู่หรือ เกี่ยวข้องกัน ตัวอย่างเช่น ทหารยิงกัน ผัวเมียตีกัน 6. ประพันธ์สรรพนาม เป็นคำสรรพนามที่ใช้เป็นบทเชื่อมข้อความหรือประโยคที่เกี่ยวกับนาม ที่อยู่ข้างหน้า มีอยู่ 3 คำ คือ ที่ ซึ่ง อัน ตัวอย่างเช่น เขาตีแมวที่กินปลาย่าง หล่อนรับประทานอาหารซึ่งแม่ปรุงให้ แป้งหอมตรามดแดงช่วยถนอมผิวอันบอบบางของทารก
7 7. สรรพนามที่ใช้แทนนามที่อยู่ข้างหน้า ตัวอย่างเช่น คุณนายเธออยากจะมีงานมากขึ้น นายแสวงเขาคงจะเรียนไม่จบ คุณครูท่านชอบคุยเรื่องส่วนตัว
8 บทที่ 3 วิธีการดำเนินการโครงงาน ผู้จัดทำโครงงานมีวิธีดำเนินงานโครงงานตามขั้นตอนดังนี้ -ศึกษาจาก http://www.digitalschool.club/digitalschool/thai2_4_1/thai1_1/more/page 3.php ขั้นตอนการดำเนินโครงงาน 1.ขั้นเตรียมการ ศึกษาและค้นคว้าหาชนิดของคำสรรพนาม 2.ขั้นวางแผนดำเนินการ เรียบเรียงข้อมูลที่หามา 3.ขั้นดำเนินงานตามแผนที่วางไว้ จัดทำหนังสืออิเล็กทรอนิก 4.ขั้นติดตามและประเมินผล คาดหวังว่าจะตรงตามวัตถุประสงค์
9 บทที่ 4 ผลการดำเนินงาน จากการศึกษาชนิดของคำสรรพนามนั้น สามารถรวบรวมคำพ้อง ได้ดังนี้ .คำสรรพนาม คำสรรพนาม หมายถึง คำที่ใช้แทนคำนามที่กล่าวถึงมาแล้ว เพื่อจะได้ไม่ต้องกล่าวคำนามนั้นซ้ำอีก เช่นคำว่า ฉัน เรา ดิฉัน กระผม กู คุณ ท่าน ใต้เท้า เขา มัน สิ่งใด ผู้ใด นี่ นั่น อะไร ใคร บ้าง เป็นต้น ชนิดของคำสรรพนาม คำสรรพนามแบ่งออกเป็น 6 ชนิด ดังนี้ 1. บุรุษสรรพนาม คือ คำ สรรพนามที่ใช้แทนผู้พูด แบ่งเป็นชนิดย่อยได้ ๓ ชนิด คือ 1.1 สรรพนามบุรุษที่ 1 ใช้แทนตัวพูด เช่น ผม ฉัน ดิฉัน กระผม ข้าพเจ้า กู เรา ข้าพระพุทธเจ้า อาตมา หม่อมฉัน เกล้ากระหม่อม 1.2 สรรพนามบุรุษที่ 2 ใช้แทนผู้ฟัง หรือผู้ที่เราพูดด้วย เช่น คุณ เธอ ใต้เท้า ท่าน ใต้ฝ่า ละอองธุลีพระบาท ฝ่าพระบาท พระคุณเจ้า 1.3 สรรพนามบุรุษที่ 3 ใช้แทนผู้ที่กล่าวถึง เขา มัน ท่าน พระองค์ 2. ประพันธสรรพนาม คือ คำสรรพนามที่ใช้แทนคำนามและใช้เชื่อมประโยคทำหน้าที่เชื่อมประโยค ให้มีความสัมพันธ์กัน ได้แก่คำว่า ที่ ซึ่ง อัน ผู้ 3. นิยมสรรพนาม คือ สรรพนามที่ใช้แทนนามชี้เฉพาะเจาะจงหรือบอกกำหนดความให้ผู้พูดกับผู้ฟัง เข้าใจกัน ได้แก่คำว่า นี่ นั่น โน่น
10 4. อนิยมสรรนาม คือ สรรพนามใช้แทนนามบอกความไม่ชี้เฉพาะเจาะจงที่แน่นอนลงไป ได้แก่คำ ว่า อะไร ใคร ไหน ได บางครั้งก็เป็นคำซ้ำๆ เช่น ใครๆ อะไรๆ ไหนๆ 5. วิภาคสรรพนาม คือ สรรพนามที่ใช้แทนคำนาม ซึ่งแสดงให้เห็นว่านามนั้นจำแนกออกเป็นหลาย ส่วน ได้แก่คำว่า ต่าง บ้าง กัน เช่น - นักเรียน"บ้าง"เรียน"บ้าง"เล่น - นักเรียน"ต่าง"ก็อ่านหนังสือ 6. ปฤจฉาสรรพนาม คือ สรรพนามที่ใช้แทนนามที่เป็นคำถาม ได้แก่คำว่า อะไร ใคร ไหน ผู้ใด สิ่งใด ผู้ใด ฯลฯ เช่น - "ใคร" ทำแก้วแตก - เขาไปที่ "ไหน" หน้าที่ของคำสรรพนาม มีดังนี้คีอ ๑. เป็นประธานของประโยค เช่น - "เขา"ไปโรงเรียน - "ใคร"ทำดินสอตกอยู่บนพื้น ๒. ทำหน้าที่เป็นกรรมของประโยค (ผู้ถูกกระทำ) เช่น - ครูจะตี"เธอ"ถ้าเธอไม่ทำการบ้าน - คุณช่วยเอา"นี่"ไปเก็บได้ไหม ๓. ทำหน้าที่เป็นส่วนเติมเต็มหรือส่วนสมบูรณ์ เช่น - กำนันคนใหม่ของตำบลนี้คือ"เขา"นั่นเอง - เขาเป็น"ใคร" ๔. ใช้เชื่อมประโยคในประโยคความซ้อน เช่น - ครูชมเชยนักเรียน"ที่"ขยัน
11 ๕. ทำหน้าที่ขยายนามที่ทำหน้าที่เป็นประธานหรือกรรมของประโยค เพื่อเน้นการแสดงความรู้สึก ของผู้พูด จะวางหลังคำนาม เช่น - คุณครู"ท่าน"ไม่พอใจที่เราไม่ตั้งใจเรียน - ฉันแวะไปเยี่ยมคุณปู่"ท่าน"มา คำสรรพนาม เป็นคำที่ใช้แทนคำนาม เพื่อไม่ต้องใช้ชื่อซ้ำ หรือไม่ต้องการเรียกชื่อ นั้นโดยตรง คำ สรรพนาม แบ่งย่อยได้ 7 ชนิด ดังนี้ 1. สรรพนามแทนบุคคล (บุรุษสรรพนาม) เป็นคำที่ใช้แทนคำพูด เช่น ผม ฉัน ดิฉัน เรา หรือ คำที่ใช้แทนผู้ฟัง เช่น เธอ ท่าน คุณ และคำที่ใช้แทนบุคคลหรือสิ่งที่เรากล่าวถึง เช่น มัน แก เขา ท่าน เป็นต้น 2. สรรพนามใช้ชี้ระยะ (นิยมสรรพนาม) เป็นคำที่ใช้แทนนามที่อยู่ใกล้ ได้แก่ นี่ นี้ ถ้าห่าง ออกไป จะใช้ นั่น นั้น และถ้าห่างที่สุดจะใช้ โน่น โน้น นู่น นู้น เป็นต้น ตัวอย่างเช่น นั่นเป็นรถของคุณพ่อ ฉันชอบอยู่ที่นี่มากกว่าที่โน่น 3. สรรพนามใช้ถาม (ปฤจฉาสรรพนาม) เป็นสรรพนามที่ใช้ถาม ได้แก่ ใคร อะไร ไหน ตัวอย่างเช่น ใครจะไปบ้าง อะไรอยู่ในตู้ ไหนของฉัน
12 4. สรรพนามบอกความไม่เจาะจง (อนิยมสรรพนาม) เป็นสรรพนามที่ไม่ชี้เฉพาะ ได้แก่ ใคร อะไร ซึ่งมีรูปซ้ำกับสรรพนามใช้ถาม แต่ความหมายจะแสดงความไม่แน่นอน ไม่ได้ใช้ถามบางครั้งจะ ใช้คำซ้ำ เช่น ใดๆ ใครๆ อะไรๆ ตัวอย่างเช่น ใดๆ ในโลกล้วนอนิจจัง อะไรๆ ฉันก็กินได้ ใครๆ ก็ชอบคนเก่ง 5. สรรพนามบอกความชี้ซ้ำ แบ่งพวก หรือรวมพวก (วิภาคสรรพนาม) เป็นคำแทนนาม ข้างหน้า เพื่อให้รู้ว่านามนั้นแยกได้เป็นส่วนๆ เช่นเดียวกัน แต่ทำกริยาโต้ตอบซึ่งกันและกันอยู่หรือ เกี่ยวข้องกัน ตัวอย่างเช่น ทหารยิงกัน ผัวเมียตีกัน 6. ประพันธ์สรรพนาม เป็นคำสรรพนามที่ใช้เป็นบทเชื่อมข้อความหรือประโยคที่เกี่ยวกับนาม ที่อยู่ข้างหน้า มีอยู่ 3 คำ คือ ที่ ซึ่ง อัน ตัวอย่างเช่น เขาตีแมวที่กินปลาย่าง หล่อนรับประทานอาหารซึ่งแม่ปรุงให้ แป้งหอมตรามดแดงช่วยถนอมผิวอันบอบบางของทารก
13 7. สรรพนามที่ใช้แทนนามที่อยู่ข้างหน้า ตัวอย่างเช่น คุณนายเธออยากจะมีงานมากขึ้น นายแสวงเขาคงจะเรียนไม่จบ คุณครูท่านชอบคุยเรื่องส่วนตัว
14 บทที่ 5 สรุปผลการศึกษา 1.ประโยชน์ที่ได้รับจากการทำโครงงาน เพื่ออยากให้ทุกคนได้รู้จักการใช้ชนิดของคำสรรพนาม 2.การนำผลการศึกษาไปใช้ ใช้ในการเรียนรู้และศึกษาชนิดของคำสรรพนาม 3.ข้อเสนอแนะ 1.ทำโครงงานเรื่องนี้ต่อไป รวบรวมข้อมูลคำพ้องให้ได้มากที่สุด