บันทึกการประชุม คณะอนุกรรมาธิการการทรพยากรธรรมชาตั ิและสิ่งแวดล้อมทางทะเลและชายฝั่ง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ครั้งที่๑/๒๕๖๒ วันอังคารที่๑๕ มกราคม ๒๕๖๒ ณ ห้องประชุมคณะกรรมาธิการ หมายเลข ๒๐๖ ชั้น ๒ อาคารรัฐสภา ๒ ________________________ อนุกรรมาธิการผู้มาประชุม คือ ๑. พลเรือเอก วีระพันธ์ สุขก้อน ประธานคณะอนุกรรมาธิการ ๒. นายประมุท สูตะบุตร อนุกรรมาธิการ ๓. นายโรมรัญ ทองอินทร์อนุกรรมาธิการ ๔. นายณรงค์ มหรรณพ อนุกรรมาธิการ ๕. นายพิษณุพงศ์ กาญจนพยนต์อนุกรรมาธิการ ๖. เรือตรีกษิดิศ สระมุณีอนุกรรมาธิการ ๗. นางสุกาญจนวดี มณีรัตน์เลขานุการคณะอนุกรรมาธิการ อนุกรรมาธิการผู้ลาประชุม คือ ๑. ศาสตราจารย์สนิท อักษรแก้ว รองประธานคณะอนุกรรมาธิการ คนที่หนึ่ง ๒. พลเรือเอก พลเดช เจริญพูล รองประธานคณะอนุกรรมาธิการ คนที่สอง ๓. พลเรือเอก ทวีวุฒิ พงศ์พิพัฒน์ รองประธานคณะอนุกรรมาธิการ คนที่สาม ๔. พลเอก พิศณุ พุทธวงศ์อนุกรรมาธิการ ๕. นางนิศากร โฆษิตรัตน์อนุกรรมาธิการ รายชื่อผู้ชี้แจง กรมเจ้าท่า - นายภาณุ ภาศักดีผู้อํานวยการกลุ่มวิศวกรรมทางทะเล กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ๑. นางสาวแสงจันทร์ วายทุกข์นักวิชาการป่าไม้ชํานาญการพิเศษ ๒. นางสาวชุติมา บุญฤทธิ์ศรีพงษ์นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชํานาญการ ๓. นายธีระเดช บัวจันทร์ วิศวกรโยธาปฏิบัติการ กรมโยธาธิการและผังเมือง - นายไพโรจน์ เทศอ่ํา วิศวกรโยธาชํานาญการพิเศษ
- ๒ - ผู้ร้องเรียน ๑. เขมินทรา การันยภาชพงศ์ ๒. ณัฏฐ์คเณศ เดชสิทธิ์นุจพร ๓. ไพวิย์ กุลอณุวัฒนสิริ เริ่มประชุมเวลา ๑๐.๐๐ นาฬิกา เมื่ออนุกรรมาธิการมาครบองค์ประชุมแล้ว พลเรือเอก วีระพันธ์ สุขก้อน ประธาน คณะอนุกรรมาธิการ ได้กล่าวเปิดประชุมและดําเนินการประชุมตามระเบียบวาระการประชุม สรุปได้ดังนี้ ระเบียบวาระที่๑ เรื่องที่ประธานแจ้งต่อที่ประชุม - ไม่มี ระเบียบวาระที่๓ เรื่องสืบเนื่อง ๓.๒ พิจารณาเรื่องร้องเรียน กรณีการกัดเซาะชายฝั่งบริเวณด้านทิศเหนือราช นิเวศน์มฤคทายวัน เพชรบุรีโดยเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แก่กรมเจ้าท่า กรมทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่งกรมโยธาธิการและผังเมือง และผู้ร้องเรียนให้ข้อมูลต่อที่ประชุม ผู้ร้องเรียนได้ให้ข้อมูลต่อที่ประชุมสรุปได้ดังนี้ สืบเนื่องจากปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งอย่างรุนแรงด้านทิศเหนือราชนิเวศน์ มฤคทายวัน จังหวัดเพชรบุรีทําให้บริเวณดังกล่าวสูญเสียหาดทรายชายทะเลที่เดิมมีอยู่ค่อนข้างมาก โดยในปี๒๕๕๘ กรมเจ้าท่าได้มีโครงการซ่อมแซมบํารุงรักษาเขื่อนป้องกัน การกัดเซาะชายฝั่ง จึงได้เข้าทําการซ่อมแซมทรายชายทะเลบริเวณด้านทิศเหนือราชนิเวศน์ มฤคทายวัน เพชรบุรีโดยวิธีการวางถุงทรายเป็นลักษณะเป็นขั้นบันไดลงไปในทะเลและนําทรายบก มากลบทับให้เอียงลาดตามแนวที่วางไว้โครงการดําเนินแล้วเสร็จปี๒๕๕๙ จากนั้นช่วงปลาย ปี๒๕๖๐ ต่อเนื่องมาปัจจุบัน พบว่าแนวกระสอบทรายที่กรมเจ้าท่าได้ดําเนินการซ่อมแซมไว้มีการ ถูกกัดเซาะอย่างมาก ทําให้ทรายที่ถูกปกคลุมถุงทรายอยู่เดิมหายไป คงเหลือไว้ในสภาพถุงทราย ที่ไม่มีทรายปกคลุมและโผล่พ้นน้ําเป็นสภาพเนินสูงชัน พร้อมกับมีตะไคร่สีเขียวปะปนสีดําติด อยู่กับถุงทรายดังกล่าว ทิ้งไว้แต่ทัศนียภาพที่ไม่น่ามองหลงเหลืออยู่แทน สิ่งที่ผู้ร้องเรียนขอให้คณะอนุกรรมาธิการพิจารณา ดังนี้ ๑) การแก้ไขปัญหาด้วยวิธีการเดิมนั้น อาจไม่ใช่แนวทางการแก้ไขปัญหาที่ยังยืน
- ๓ - ๒) วิธีการนําทรายจากแหล่งเดิมซึ่งเป็นทรายบกมานั้น จะทําให้เกิดการสูญเสีย เรื่องทัศนียภาพชายฝั่ง ๓) การชํารุดจากการเกิดการกัดเซาะดังที่เป็นไปด้วยความรวดเร็ว ซึ่งอาจมี ผลกระทบจากถนนสําหรับใช้ลําเรียงวัสดุเพื่อก่อสร้างเขื่อนกันคลื่นบริเวณวัดไทรย้อย ที่เดิมที่มีการ สร้างเพื่อเข้าไปก่อสร้างเขื่อนกันคลื่นในทะเลเท่านั้น แต่ต่อมาได้มีการขออนุญาตก่อสร้างถนน ดังกล่าวและมีการอนุญาตในเวลาต่อมา โดยยังคงใช้งานจนถึงปัจจุบัน ผู้แทนจากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้ให้ข้อมูลต่อที่ประชุม สรุปได้ดังนี้ กรมได้มีการศึกษาและวิจัยการแก้ไขปัญหาระบบหาดบริเวณตําบลแหลมผักเบี้ย อําเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรีจนถึง ตําบลสามร้อยยอด อําเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จากการศึกษาพบว่าบริเวณ โรงแรม เดอะ รีเจ้น ชะอํา บีช รีสอร์ท ซึ่งเป็นบริเวณที่ผู้ร้องผู้ร้องเรียน กล่าวถึง มีการเคลื่อนที่ของตะกอนจากด้านล่างไปยังด้านเหนือ ซึ่งทําให้เกิดตะกอน หากมีโครงสร้าง บางอย่างขวางตะกอน จะทําให้บริเวณด้านเหนือขาดตะกอนทําให้เกิดการกัดเซาะชายฝั่ง ผลการศึกษา เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นสถานที่ท่องเที่ยว จึงเห็นควรให้มีการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะโดยการ เติมทราย ซึ่งน่าจะเป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุด ผู้แทนจากกรมเจ้าท่า ได้ให้ข้อมูลต่อที่ประชุม สรุปได้ดังนี้ กรมได้จัดทําแผนโครงการบํารุงรักษา แผนระยะสั้น คือ กรมเจ้าท่าได้รับงบประมาณ ปี๒๕๖๒ จํานวนเงิน ๕๐ ล้านบาทที่จังหวัดเพชรบุรีและระยอง ซึ่งจะทําเป็นวัสดุที่สามารถดูดซับ พลังงานคลื่นและปิดบังถุงทราย ซึ่งเป็นวัสดุที่เรียกว่า Elastocoast ซึ่งมีลักษณะเป็นชายหาดเทียม มีความสวยงาม ซึ่งกรมจะส่งแผนงานดังกล่าวมายังคณะอนุกรรมาธิการเพื่อประกอบการพิจารณาต่อไป แผนระยะยาว กรมเจ้าท่าได้กําหนดแผนแม่บทและสํารวจออกแบบเพื่อเสริมทราย ป้องกันการกัดเซาะชายหาดชะอํา ระยะทางจากบริเวณหน้าปูนซีเมนต์ถึงพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน โดยปัจจุบันจะอยู่ในขั้นตอนดําเนินการของบประมาณ ๒๕๖๓ กรณีการใช้ทรายบกนั้น ปัจจุบัน กรมจะนําทรายทะเลที่อยู่ในทะเลห่างจากชายฝั่ง ประมาณ ๒๐ กิโลเมตร เพื่อนํามาเสริมทรายบริเวณกล่าว กรณีถนนสําหรับใช้ลําเรียงวัสดุเพื่อก่อสร้างเขื่อนกันคลื่นบริเวณวัดไทรย้อย เมื่อมี การก่อสร้างเขื่อนกันคลื่นเสร็จแล้ว ไม่มีการดําเนินการรื้อถอนเนื่องจากองค์การบริหารส่วนตําบลขอ คงไว้แต่คณะอนุกรรมาธิการพิจารณาแล้วเห็นว่า เมื่อมีการก่อสร้างแล้วเสร็จเห็นควรดําเนินการรื้อถอน ตามสัญญาเมื่อการก่อสร้างเขื่อนกันคลื่นดังกล่าวแล้วเสร็จ ผู้แทนจากกรมโยธาธิการและผังเมือง ได้ให้ข้อมูลต่อที่ประชุมสรุปได้ดังนี้ ปัจจุบันมีนโยบายป้องกันการกัดเซาะริมตลิ่ง โดยไม่เน้นโครงสร้างแข็ง แต่จะมีการ เติมทราย ซึ่งกรมได้มีการทํางานอย่างบูรณาการกับกรมเจ้าท่าและกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โดยใช้ระบบผสมผสานวิธีทางธรรมชาติกับการออกแบบโครงสร้างแข็งจากเดิมที่เป็นแนวตั้ง เปลี่ยนเป็น
- ๔ - แนวนอน เพื่อลดความเสียหายจากการกัดเซาะชายฝั่ง ทั้งนี้กรมได้มีการตรวจติดตามทุกโครงการที่กรม ได้ดําเนินการในปีผ่านมา และมีโครงการศึกษาและลดผลกระทบ โดยเริ่มดําเนินการตั้งแต่ปี๒๕๖๒ ซึ่งจะได้ดําเนินการของบประมาณในการปรับปรุงโครงการต่างๆ ที่ได้ดําเนินการในปีที่ผ่านมาด้วย ทั้งนี้ทั้ง ๓ หน่วยงานและผู้ร้องเรียนยืนยันว่า บริเวณดังกล่าวเป็นทางสาธารณะ ที่ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกัน มติที่ประชุม : เนื่องจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกําลังดําเนินการพิจารณาการแก้ไข ปัญหาดังกล่าว และผู้ร้องเรียนมีความพอใจ คณะอนุกรรมาธิการจึงมีมติเห็นควรยุติการพิจารณาเรื่อง ร้องเรียนดังกล่าว และมีหนังสือแจ้งผลการพิจารณาไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ร้องเรียนเพื่อทราบ ต่อไป ระเบียบวาระที่๔ เรื่องเสนอเพื่อพิจารณา - ไม่มี ระเบียบวาระที่๕ เรื่องอื่น ๆ - พิจารณากําหนดนัดประชุมคณะอนุกรรมาธิการครั้งต่อไป ที่ประชุมคณะอนุกรรมาธิการได้มตินัดประชุมครั้งต่อไป ในวันพุธที่๒๓ มกราคม ๒๕๖๒ เวลา ๑๐.๐๐ นาฬิกา ณ ห้องประชุมคณะกรรมาธิการหมายเลข ๒๐๕ ชั้น ๒ อาคารรัฐสภา ๒ เมื่อหมดวาระการประชุมแล้ว พลเรือเอก วีระพันธ์ สุขก้อน ประธานคณะอนุ กรรมาธิการ ได้กล่าวขอบคุณอนุกรรมาธิการและผู้เข้าร่วมประชุมทุกท่าน และกล่าวปิดการประชุม เลิกประชุมเวลา ๑๑.๒๐ นาฬิกา นางสาวภาระนา แก้วทรายขาว นิติกรปฏิบัติการ ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมาธิการ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สํานักกรรมาธการิ๑ ผู้จดบันทึกการประชุม