The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

งานประดับมุก (3)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by icemeow4455, 2021-08-01 18:29:23

งานประดับมุก (3)

งานประดับมุก (3)

01 งานประดบั มกุ



01 งานประดบั มกุ

คํานํา

หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เรือง งานประดับมุก เปนส่วน
หนึงของวิชา HUM1013 การเขียนรายงานและสารสนเทศ สาขาหัตถศิลป
ภาควิชาศิลปะประจําชาติ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินตร์วิทยาเขตเพาะช่าง มีเนือหาเกียวกับ งาน
ประดับมุก ความเปนมา วัสดุ-อุปกรณ์ ขันตอนการปฏบิ ัติ หากหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เล่มนี มีข้อผิดพลาดประการใด ผู้

จัดทําก็ขออภัยมา ณ ทีนีด้วย

สิราภาส แจ้งบุญ
3 สิงหาคม 2564

สารบัญ ห น้ า

เ นื อ ห า 1
2-5
บ ท นํา
ความเปนมา 6
วั ส ดุ - อุ ป ก ร ณ์ 7-8
ขั น ต อ น ก า ร ป ฏิ บั ติ
บ ร ร ณ า นุ ก ร ม 9
ป ร ะ วั ติ ผู้ เ ขี ย น 10

บทนํา

งานประดับมุก คืองานศิลปหัตถกรรมทีมีมาแต่โบราณเปนานช่างฝมือทีต้องใช้ทักษะใน
การฉลุเปลือกหอยมุก ประดับเปนลวดลาย ใช้ความประณีตและมีระยะเวลาในการทํางาน
ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่าเริมในสมัยใด แต่มีผลงานทีมีการใช้วิธีการฝงมุกประดับเปน

ลวดลายตกแต่งบนปูนปนทีเจดีย์ในสมัยทวาราวดี ในสมัยเชียงแสนมีการฝงมุกที
พระเนตรของพระพุทธรูป และมีหลักฐานการประดับมุกหลายอย่างในสมัยอยธุ ยา
ประเทศใกล้เคียงทีมีวิธีการประดับมุกคล้ายของไทย คือจีน ญปี ุน และเวียดนาม มุกทีนํา
มาประดับลวดลายคือเปลือกหอยทะเลทีมีประกายสีรุ้ง เปนเปลือกหอยมุกมีสีวาววาม เช่น
หอยนมสาว หอยจอบ หอยอูด เปนต้น การประดับมุกนิยมประดับเปนลวดลายบนภาชนะ
ของสงฆ์และพระมหากษัตริย์ ซึงถือว่าเปนของใช้ชันสูง ได้แก่ ตู้พระมาลัย ธรรมาสน์
ตะลุ่ม พานแว่นฟา ฝาบาตร กล่องใส่หมากพลู และประดับเปนลวดลายบนบานประตู
วิหาร บานประตูมณทป บานประตูพระอุโบสถ ลวดลายทีใช้นิยมใช้ลายไทย เช่น ลายกนก
ลายประจํายามก้ามปู ลายพุ่มทรงข้าวบิณฑ์ ลายกระจัง ลายก้านขด หรือลวดลายทีเปน
เรืองจากวรรณคดี เช่น รามเกียรติ ซึงช่างประดับมุกจะต้องมีความชํานาญออกแบบ
ลวดลายให้เหมาะสมสั มพันธ์กับรู ปทรงของภาชนะหรือบริเวณว่างทีต้องใช้ ลวดลายมุก

ประดับ ให้มีความสวยงามกลมกลืนกันและสืบสานศิลปไทยโบราณต่อไป

1

ความเปนมา

จากหลักฐานทางโบราณคดี การประดับมุกในประเทศไทย มีการทํามา
ตังแต่สมัยทราวดี โดยพบทีชินส่วนปูนปนประดับองค์เจดีย์ ตําบลคูบัว
อําเภอเมือง จังหวัดราชบุรี อายปุ ระมาณ ๑,๔๐๐ ปมาแล้ว สมัยต่อมาก็
มีการประดับมุกทีพระเนตรของพระพุทธรูป สําหรับหลักฐานอืนๆ ไม่พบ
อาจเปนเพราะเกิดการเสื อมสลายไป

ในสมัยศรีวิชัย ไม่ปรากฏหลักฐานใดๆ ในสมัยเชียงแสนพบหลักฐาน
เพียงหนึงชิน คือ พระพุทธบาทไม้ประดับมุก เปนภาพมลคล ๑๐๘ ภาพ
เขาพระสุเมรุ ปจจบุ ันเก็บรักษาไว้ทีพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จังหวัด
เชียงใหม่ หลักฐานอืนๆ ไม่ปรากฏ
สมัยลพบุรี ไม่ปรากฏหลักฐานใดๆ อาจเปนเพราะในช่วงเวลาดังกล่าวได้
รับอิทธพลมาจากขอม เทวรูปจะใช้วัตถมุ ีค่าประดับเทวรูป เช่น แผ่นเงิน
ทอง เครืองประดับอืนๆ ทําจากหินมีค่า
สมัยสุโขทัย ไม่พบหลักฐานใดๆ เช่นกัน

2

ความเปนมา

สมัยอยธุ ยา ศิลปะการช่างแขนงต่างๆ ได้เจริญรุ่งเรืองถึงขีดสุด งานประดับ
มุกก็เช่นกัน หอยมุกนีถือเปนวัตถมุ ีค่า หัวเมืองประเทศราช ทางแถบภาคใต้
ต้องส่งเปนบรรณาการ เข้ามายังเมืองหลวงตามวาระต่างๆ ตามหลักฐานตัว
อักษรจารึกเกียวกับการประดับมุกชินแรก ในสมัยพระเจ้าบรมโกศ ซึงเปน
กษัตริย์ทีมีบทบาทมากมาก คือ การสร้างบานประตูประดับมุกถวายพระ
อารามหลวงถึง ๓ แห่ง เพราะมีจารึกตัวอักษรไว้ทีบานประตูดังกล่าว

1. ๑. บานประตูพระอุโบสถประดับมุก ทีวัดบรมพุทธาราม(กรุงเก่า) ซึง
เปนต้นแบบอย่ทู ีหอพระมณเทียรธรรม ในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
พระบรมมหาราชวัง กรุงเทพมหานคร

2.๒. บ้าหน้าต่างและบานประตูประดับมุกพระวิหารหลวง วัดพระศรีรัตน
มหาธาตุ จังหวัดพิษณุโลก

3.๓. วิหารพระพุทธไสยยาสน์ วัดปาโมก จังหวัดอ่างทอง ปจจบุ ันอย่ทู ี
วิหารยอด (พระเศวตกฎุ าคาร) วัดพระศรีรัตนศาสดารามในพระบรม
มหาราชวังกรุงเทพมหานคร

3

ความเปนมา

สมัยธนบุรี ไม่ปรากฏหลักใดๆ
สมัยรัตนโกสินทร์ พุทธศักราช ๒๓๒๕ รัชกาลที ๑ ทรงสร้างพระบรม
มหาราชวัง และวัดประจําวังคือ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยใช้ช่างสมัย
อยธุ ยา ถอดแบบในสมัยกรุงเก่า จึงเริมมีการทําบานประตูประดับมุก บาน
หน้าต่างประดับมุก โดยยึดคติความเชือเดิมจากสมัยอยธุ ยา วัด
พระพุทธบาทสระบุรี รัชกาลที ๑ ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ช่างไปทําบานประตู
ประดับมุกอีกแห่งหนึง
ในรัชกาลที ๒ ไม่นิยมให้ช่างทําบานประตูและหน้าต่างประดับมุก แต่รัชกาล
ที ๒ ทรงโปรดทีจะทรงสลักบานประตูเอง ปจจบุ ันบานประตูดังกล่าวเก็บ
รักษาไว้ที พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ พระนคร กรุงเทพมหานคร
รัชกาลที ๓ ได้รับอิทธิพลมาจากประเทศจีน วัดประจํารัชกาลคือ วัดราช
โอรสาราม (วัดราชโอรส) มีลายประดับมุกเปนลายมังกรดันเมฆ เปนลาย
แบบจีน นอกจากนันยังมีบานประตูประดับมุกพระอุโบสถ วัดพระเชตุพนวิมล
มังคลาราม (วัดโพธิ) เปนเรืองรามเกียรติ รัชกาลที ๓ เปลียนคติความเชือ
จากการนับถือเทพ ๓ องค์ โดยใช้เรืองรามเกียรติทําเปนบานประตู และทีวัด
นางนอง วัดนางชี ลวดลายจีน สันนิฐานว่าเปนช่างชาวจีนทังหมด

4

ความเปนมา

รัชกาลที ๔ ทรงสร้างบานประตู และบานหน้าต่างประดับมุก ณ โบสถ์พุทธ
รัตน หรือ พระพุทธรัตนสถาน ซึงอย่ใู นเขตพระราชฐานชันใน พระบรม
มหาราชวัง (สร้างถวายอุทิศแด่รัชกาลที ๒) นอกจากนันยังมีปรากฏ
ลวดลายประดับมุกเปนลายฝรัง เปนลายก้านแย่ง ทีวัดกัมมาตุยาราม อย่ทู ี
เยาวราช
รัชกาลที ๕ ทรงสร้างบานประตูและบานหน้าต่างประดับมุําก ลวดลายเครือง
ราชอิสริยาภรณ์ ปจจบุ ันอย่ทู ีวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เดิมอย่ทู ีพุทธ
ปรางค์ปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ซึงถกู ไฟไหม้แต่สามารถถอดบาน
ประตูและบานหน้าต่างประดับมุก ออกมาได้ทันการณ์
รัชกาลที ๖ จนถึงปจจบุ ันไม่มีการจัดสร้างบานประตูและหน้าต่างประดับมุก

5

วัสดุ–อุปกรณ์

- เปลือกหอย จะต้องเปนเปลือกหอยชนิดทีมีไฟคือมีการสะท้อนแสงออกเปนสีรุ้ง
แวววาว เช่น หอยอูด(หอยมุกไฟ) , หอยนมสาว , หอยเปาฮื อและหอยมุกจาน
เปนต้น ซึงล้วนแต่เปนหอยได้จากทะเล และมีหอยนาจืดบางชนิดเท่านันทีสามารถนํา
มาใช้งานได้ได้แก่หอยกาบ
- ยางรัก และ สมุก(ถ่านจากกะลามะพร้าวบดละเอียด) ผสมกันเรียกรักสมุกใช้ทํา
พืน,ประดับลายและถมพืน
- หุ่น คือชินงานทีจะประดับมุก โดยมากสร้างขึนจากไม้หรือหวายโดยการสานขึน
หุ่นหรือขึนรูปด้วยขบวนการช่าง ไม้ – โครงเลือยฉลุของช่างทอง,ใบเลือยฉลุ
ไม้,ตะไบ,คีมปากจิงจก,ปากคีบ.กระดาษ ทรายและกาว
- มอเตอร์หินเจียร,เครืองขัดไฟฟา

6

ขันตอนการปฏบิ ัติ

1. ขันเตรียมวัสดุอุปกรณ์ ได้แก่
การเตรียมเปลือกหอย
• การเตรียมเปลือกหอยคือการนําเปลือกหอยมาขัดเจียรเพือไล่หินปูนทีเกาะผิวนอกออกให้หมด
ให้ถึงชันทีใช้งาน
• แล้วทําการตัดแบ่งชินมุกให้มีขนาดเหมาะสมแก่การใช้งาน
• สุดท้ายขัดแต่งชินมุกให้มีความหนาบางสมาเสมอกันเหมาะแก่การนําไปใช้งาน การเตรียมพืน
หุ่น
• การขัดแต่งผิวให้ได้ระนาบ
• รองพืนด้วยรักสมุกให้เรียบพอเหมาะสะดวกแก่การประดับลาย ข้อสําคัญถ้าหุ่นเปนประเภทมี
เหลียมมุมมากๆเช่นตะลุ่มหรือเตียบจะต้องขัด แต่งให้เหลียมมุมทีจะประดับลายเหมือนๆกันให้มี
ขนาดใกล้เคียงกันเพือสะดวก ในการประดับลาย

2. ออกแบบลาย ควรออกแบบลายให้เหมาะสมแก่ชินงานแต่ละชนิดและจะต้องเข้าใจลักษณะของ
ลาย ประดับมุกคือตัวลายมุกจะต้องถกู แบ่งออกจากกันเปนตัวๆ เนืองจากเปลือกหอยมุกส่วนใหญ่
มีความโค้งไม่สามารถนําลายชินมุกทีโค้งมาวาง ประดับบนพืนงานทีเปนระนาบเรียบๆได้จําต้อง
แบ่งตัวลายออกเปนชินเล็กๆ สันๆจึงจะสามารถประดับลายได้สะดวก เมือได้ลวดลายทีต้องการแล้ว
นํามาคัดลอกหรือถ่ายเอกสารไว้ประมาณ 3 – 4 แบบสําหรับใช้งานดังนี
• แบบทีหนึงเปนแบบใช้ตรวจทานความเรียบร้อยในการประดับลายมุก
• แผ่นทีสองเปนแบบสําหรับผนึกลงบนผิวชินมุกเพือโกรกฉลุลาย
• แผ่นทีสาม สําหรับนําชินลายมุกทีฉลุและขัดแต่งขอบลายแล้วมาผนึกลงบนแบบด้วยกาวนา
เพือ รอการประดับบนพืนงานจริง,ปองกันการสับสนหลงลายและสูญหายเนืองจากมีจํานวน ชิน
ลายมากและขนาดเล็ก เมือเตรียมลายเรียบร้อยแล้วทําการผนึกลงบนผิวชินมุกเพือโกรกฉลุลายต่อ
ไป

7

ขันตอนการปฏบิ ัติ

3. โกรกฉลุลาย โดยใช้โครงเลือยฉลุเลือยลายออกเปนตัวๆ นําชินลายแต่ละตัวมาขัดแต่งขอบลาย
เพือลบคลองเลือยและทําให้ลายสวยงามตามที ออกแบบไว้ด้วยตะไบขนาดต่างๆและกระดาษทราย
นําลายทีขัดแต่งขอบไปผนึกบนแบบลายทีเตรียมไว้เพือรอการประดับจริงบนชิน งาน

4. ประดับลาย คัดลอกลายลงบนชินงานโดยวิธีลูบฝนุ โรยลายแบบช่างลายรดนา ถอดลายมุกจาก
แผ่นแบบทีละตัวนํามาผนึกลงบนชินงานในตําแหน่งทีถกู ต้องของตัว ลายโดยใช้ยางรักและรักสมุก
เปนตัวประสาน ทําการประดับลายจนครบทิงให้ยางรักแห้งสนิททายางรักเคลือบทับหน้าอีกชัน เพือ
ประสานลายมุกให้ติดสนิทกับพืนชินงานยิงขึนก่อนถมลาย

5. ถมลายด้วยรักสมุก หลังจากยางรักแห้งสนิทนํายางรักมาผสมกับสมุกให้เหนียวพอดีนํารักสมุก
มาถมลง ร่องระหว่างตัวลายมุกให้มีปริมาณครึงหนึงของร่องลายให้ทัวทังชินงาน ทิงให้แห้งสนิท
ดําเนินการถมรักสมุกรอบต่อไปอีกสองถึงสามชันตามกรรมวิธีเดิม จนเต็มร่องลายทิงให้แห้งสนิททุก
ครังก่อนถมชันต่อไป (ยางรักจะแห้งสนิทใช้เวลา 5 ถึง7วันต่อครัง)

6. ขัดแต่งผิวหน้าชินงาน เมือยางรักแห้งสนิททําการขัดแต่งผิวหน้าชินงานด้วยหินกากเพชรและ
กระดาษทราย ขนาดความหยาบต่างๆกัน ขัดจนปรากฏลายมุกใช้กระดาษทรายละเอียดขัดแต่งให้
เรียบและปรากฏลายมุกอย่าง ครบสมบูรณ์ทัวทังชินงาน

7. ขัดมัน โดยใช้ใบตองแห้งฉีกเปนฝอยชุบนามันมะพร้าวเล็กน้อยขัดถผู ิวชินงานพร้อมโรย ผงสมุก
ชนิดละเอียด ขัดให้เกิดความร้อนนานๆด้วยมือผิวชินงานจะค่อยๆเปนมันขึนตามธรรมชาติโดย ไม่
ต้องใช้นามันเคลือบเงา
งานช่างมุกเปนงานทีมีขันตอนและขบวนการผลิตทีละเอียดอ่อนและประณีตบรรจง มาก เปนงาน
ศิลปกรรมทีทรงคุณค่าคู่แผ่นดินไทยมานานแสนนาน ดังนันเราจึงควรสืบทอดและอนุรักษ์งานช่าง
แขนงนีไว้ให้อย่คู ู่ความเปนไทย ตลอดไป

8

บรรณานุกรม

สุเทพ ชูมาลัยวงศ์. การประดับมุกทีจังหวัดพระนครศรีอยธุ ยา . (กรุงเทพฯ :
คุรุสภาลาดพร้าว, 2528), หน้า 6-7

9

ประวัติผู้เขียน

ชือ สิราภาส แจ้งบุญ
วันเดือนปเกิด 9 เมษายน 2541
สถานทีเกิด ชัยนาท

ประวัติการศึ กษา
มัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนธนบุรีศึกษา
มัธยมศึกษาตอนปลาย กศน.เขตบางขุนเทียน
ทีอย่ปู จจบุ ัน
หมู่5 ซอยสุขสวัสดิ14/21 บ้านเลขที42/42 แขวงจอมทอง เขตจอมทอง
กรุงเทพ 10150

10


Click to View FlipBook Version