The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

บทบาท วช. จากก้าวแรกสู่ก้าวต่อไป

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by NRCT, 2023-08-18 00:04:15

บทบาท วช. จากก้าวแรกสู่ก้าวต่อไป

บทบาท วช. จากก้าวแรกสู่ก้าวต่อไป

บทที่ 4 51 บทบาท วช. จากก้าวแรกสู่ก้าวต่อไป : การใช้ประโยชน์วิจัยและนวัตกรรมในการเสริมพลังผู้สูงวัย เพื่อหนุนเสริมการพัฒนาประเทศ โครงการวิจัยและนวัตกรรมด้านผู้สูงอายุ เป็นหนึ่ง ในกิจกรรม/โครงการที่ วช. ได้รับมอบหมายจาก กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและ นวัตกรรม (อว.) ในการสนับสนุนทุนวิจัยและนวัตกรรม เพื่อสร้างผลงานวิจัยและน�ำไปสู่การใช้ประโยชน์จาก ผลงานวิจัย จนเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือสร้างผลกระทบ ต่อการพัฒนาชุมชน พื้นที่ และประเทศในที่สุด ซึ่งในช่วง ปี 2563 - 2566 เป็นช่วงที่มุ่งเน้นงานวิจัยที่พร้อม ใช้ประโยชน์ มิใช่งานวิจัยพื้นฐานและงานวิจัยที่อยู่ใน ห้องทดลอง แต่เป็นงานวิจัยที่ต่อยอดไต่ระดับ TRL และ SRL ซึ่งเป็นหนึ่งในเงื่อนไขของการขอรับทุนวิจัยและนวัตกรรม จาก วช. ที่ผู้ขอรับทุนต้องมีผลงานวิจัยที่อยู่ในระดับ TRL 3 - 5 ดังนั้น การด�ำเนินการสนับสนุนทุนวิจัย และนวัตกรรมของ วช. ในช่วงเวลานี้จึงแตกต่างจาก การให้ทุนสนับสนุนวิจัยในอดีตที่ผ่านมา การขับเคลื่อนโครงการวิจัยและนวัตกรรมด้านผู้สูงอายุ ในช่วงปี 2563 - 2566 ในระบบนวัตกรรม ประกอบด้วย ผู้ผลิตงานวิจัย (Supply Side) ผู้ได้รับประโยชน์ จากงานวิจัย (Demand Side) รวมทั้งผู้ที่ท�ำให้เกิด การเชื่อมโยงระหว่างผู้ผลิต ผู้ใช้ประโยชน์ ผู้มีส่วนได้ ส่วนเสียในระบบนวัตกรรม และระบบนิเวศภายนอกระบบ นวัตกรรม ดังนั้น ในการวิเคราะห์จึงต้องให้ความส�ำคัญ ใน 3 ส่วน คือ หนึ่ง ด้านผู้ใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรม หรือกลุ่มเป้าหมายหรือพื้นที่เป้าหมาย จะเป็นผู้เลือกใช้ องค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อให้สอดคล้อง กับทิศทางการพัฒนาและความต้องการของคน หรือกลุ่มคนในพื้นที่ ดังนั้น ต้องมีการวิเคราะห์จุดเจ็บ (Pain Points) ของพื้นที่หรือกลุ่มเป้าหมายแบบมีส่วนร่วม หรือกล่าวอีกนัยคือ ต้องมีความเข้าใจหรือมีการลงพื้นที่ เพื่อรับทราบความต้องการของกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ ซึ่งมีลักษณะที่เรียกว่า Demand Driven โดยกลุ่ม ผู้ใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรมจะต้องมีบทบาท ในการน�ำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์จนเกิดผลลัพธ์และ ผลกระทบ ซึ่งปัจจัยภายนอกที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจ คือ เครือข่ายความร่วมมือ ศักยภาพ และความสามารถ ของชุมชน ที่พร้อมรับองค์ความรู้เพื่อเผชิญหน้ากับ ปัญหาหรือการแก้ไขปัญหาได้ รวมถึงตัวอย่างหรือสิ่งที่ เกิดขึ้นในลักษณะเดียวกันนี้ในพื้นที่อื่นๆ ที่สามารถ ด�ำเนินการได้ส�ำเร็จมาแล้วระดับหนึ่ง สอง ด้านผู้ผลิตผลงานวิจัยและนวัตกรรม ต้องสะท้อนศักยภาพและความพร้อมขององค์กรหรือ หน่วยงานหรือสถาบันการศึกษาในฐานะผู้ผลิตงานวิจัย และนวัตกรรม อาทิ มีนักวิจัย ผู้เชี่ยวชาญ องค์ความรู้ ที่ได้รับจากการวิจัยและพัฒนา และต้องการต่อยอด เป็นต้น ซึ่งจะสะท้อนความเป็นไปได้ในการด�ำเนินการ ตั้งแต่ปัจจัยน�ำเข้า กระบวนการ ผลผลิต การใช้ประโยชน์ ผลลัพธ์ และผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ซึ่งปัจจัยที่มีอิทธิพล ต่อการท�ำหน้าที่ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกลุ่มนี้คือ (1) นโยบายรัฐบาลและหน่วยงานกลาง และหน่วยงาน ในภูมิภาคและจังหวัด ได้แก่ ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติแผนระดับภาค จังหวัด กลุ่มจังหวัด แผนปฏิบัติการ วช. ภายใต้นโยบาย และยุทธศาสตร์การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรมเพื่อการพัฒนา พ.ศ. 2563 - 2570 ที่ยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นกลไกในการ ขับเคลื่อนการพัฒนาวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ และ (2) เครือข่ายวิจัยและนวัตกรรมระดับประเทศ การแพร่กระจายขององค์ความรู้ เทคโนโลยี สิ่งประดิษฐ์ ต้นแบบพร้อมใช้ไปในชุมชนอื่นๆ ในระบบนวัตกรรม ประเทศ สาม ผู้เชื่อมโยงระหว่างผู้ผลิตงานวิจัยและผู้ใช้ ประโยชน์งานวิจัย เป็นการสร้างความร่วมมือระหว่าง ผู้ผลิตงานวิจัย ผู้ใช้ประโยชน์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งส่วนกลางและพื้นที่ ได้แก่ วช. และหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนท้องถิ่น เพื่อขับเคลื่อนให้มีการน�ำผลงานวิจัย บทที่ 4 ท�ำอะไรไปแล้ว (ความส�ำเร็จของการขับเคลื่อน โครงการวิจัยและนวัตกรรม ด้านผู้สูงอายุ)


52 บทที่ 4 บทบาท วช. จากก้าวแรกสู่ก้าวต่อไป : การใช้ประโยชน์วิจัยและนวัตกรรมในการเสริมพลังผู้สูงวัย เพื่อหนุนเสริมการพัฒนาประเทศ และนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ซึ่งปัจจัยภายนอกระบบนวัตกรรมที่มีอิทธิพลต่อการ ตัดสินใจคือ (1) เครือข่ายการผลิตสินค้าและบริการ ของประเทศจะส่งผลต่อสินค้าและบริการที่เหลือบริโภค ในชุมชน ส่งออกสู่ตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศ (2) ศักยภาพและความสามารถในการผลิตของชุมชน อื่นๆ รวมถึงความต้องการสินค้าและบริการของชุมชน จากในประเทศและต่างประเทศ การวัดประสิทธิภาพและประสิทธิผลของโครงการ วิจัยและนวัตกรรมด้านผู้สูงอายุเพื่อต่อยอดนวัตกรรม บนเส้นทาง TRL และ SRL ของชุมชน/สังคมขึ้นอยู่กับระบบ ความสัมพันธ์เครือข่ายทางนวัตกรรมของผู้มีส่วนได้ ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องในชุมชน/สังคม (Community /Society Innovation Cluster) ซึ่งกลไกการสร้าง กระบวนการมีส่วนร่วมทุกภาคส่วน ท�ำให้เกิดการ แลกเปลี่ยนเรียนรู้จนเกิดการต่อยอดองค์ความรู้ ในเชิงวิชาการ และเกิดการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ชุมชน ในมิติเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม โดย วช. หน่วยงาน ภาครัฐและเอกชนในท้องถิ่น สถาบันการศึกษาและ สถาบันวิจัย องค์กรอิสระไม่หวังผลก�ำไรในชุมชน และ ชุมชน ได้เชื่อมโยงองค์ความรู้และเทคโนโลยีระหว่างกัน ในรูปแบบของความร่วมมือ มีหลากหลายวัตถุประสงค์ แต่ในการด�ำเนินงานของ วช. จะเน้นในด้านการวิจัยและ พัฒนา ตั้งแต่พัฒนาต้นแบบและขยายผลร่วมกัน ผ่านกลไกการถ่ายทอดองค์ความรู้ การใช้สิทธิบัตรร่วมกัน การตัดสินใจร่วมกัน การใช้เครื่องมือ องค์ความรู้ เทคโนโลยี และสิ่งประดิษฐ์ร่วมกัน เพื่อท�ำให้เกิดผลผลิต ผลลัพธ์ และผลกระทบทั้งในเชิงวิชาการ เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ในพื้นที่ชุมชนอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ดังนั้นการประเมินผลสัมฤทธิ์ (ซึ่งเป็นการประเมิน ความส�ำเร็จตามเป้าหมาย คือ ประหยัด ประสิทธิภาพ และประสิทธิผล ที่เกิดจากการสร้างผลผลิต + ผลลัพธ์ + ผลกระทบ) ของโครงการวิจัยและนวัตกรรมด้านผู้สูงอายุ สามารถวิเคราะห์ได้ ดังนี้ 1 1. การประเมินประสิทธิภาพ (Efficiency) จากการเก็บรวบรวมข้อมูลจากนักวิจัยที่ได้ด�ำเนิน โครงการวิจัยและนวัตกรรมด้านผู้สูงวัยที่ได้รับการ สนับสนุนจาก วช. ในช่วงปี 2563 - 2566 มีจ�ำนวน 204 โครงการ โดยสามารถสรุปรายละเอียดได้ดังนี้ • ปี 2563 โครงการการวิจัยผู้สูงวัย ที่ได้รับการ สนับสนุนจาก วช. มีทั้งหมด 70 โครงการ • ปี 2564 โครงการการวิจัยผู้สูงวัย ที่ได้รับการ สนับสนุนจาก วช. มีทั้งหมด 44 โครงการ • ปี 2565 โครงการการวิจัยผู้สูงวัย ที่ได้รับการ สนับสนุนจาก วช. มีทั้งหมด 58 โครงการ • ปี 2566 โครงการการวิจัยผู้สูงวัย ที่ได้รับการ สนับสนุนจาก วช. มีทั้งหมด 32 โครงการ นอกจากนี้ผลจากการศึกษาพบว่า บางโครงการ วิจัยและนวัตกรรมในหนึ่งโครงการสามารถกระจาย ไปในพื้นที่ต่างๆ มากกกว่า 1 พื้นที่ และหลายโครงการ วิจัยมิได้ระบุพื้นที่เป้าหมายที่ชัดเจน จึงไม่สามารถ วิเคราะห์ได้ ดังนั้น การวิเคราะห์การกระจายตัวของ โครงการในการศึกษานี้จะมีเฉพาะพื้นที่ที่นักวิจัยก�ำหนด พื้นที่เป้าหมายได้ชัดเจนเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ผลการ ด�ำเนินงานครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่าโครงการวิจัยและ นวัตกรรมด้านผู้สูงอายุมีกระจายอยู่ทั่วประเทศ โดย 1 เนื่องจากการเก็บข้อมูลครั้งนี้เป็นการเก็บข้อมูลด้านผู้ผลิตผลงานวิจัยยังไม่สะท้อนผู้ที่ได้รับประโยชน์จากงานวิจัยและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นๆ จึงอาจท�ำให้ผลการประเมินผลยังไม่สมบูรณ์ตามหลักการแนวคิดและเป้าหมายของการประเมินผลที่ตั้งไว้


บทที่ 4 53 บทบาท วช. จากก้าวแรกสู่ก้าวต่อไป : การใช้ประโยชน์วิจัยและนวัตกรรมในการเสริมพลังผู้สูงวัย เพื่อหนุนเสริมการพัฒนาประเทศ 1.1 การวิเคราะห์ปัจจัยน�ำเข้า • งบประมาณที่ได้รับ โครงการการวิจัยผู้สูงวัย ที่ด�ำเนินการในปี 2563 - 2566 ภาพรวมได้รับงบประมาณทั้งหมด 735,481,640 บาท และมีงบประมาณด�ำเนินโครงการเฉลี่ยอยู่ที่ 3,605,302 บาทต่อโครงการ • จ�ำนวนนักวิจัยในโครงการ ในภาพรวมทีมนักวิจัยที่ด�ำเนินโครงการเฉลี่ยอยู่ที่ 5.48 คน เมื่อพิจารณาตามปีงบประมาณ จะเห็นว่า โครงการการวิจัยผู้สูงวัย ที่ด�ำเนินการในปี 2563 จะมีจ�ำนวนนักวิจัยเฉลี่ยอยู่ที่ 4.01 คนต่อโครงการ โครงการการวิจัยผู้สูงวัย ที่ด�ำเนินการในปี 2564 จะมีจ�ำนวนนักวิจัยเฉลี่ยอยู่ที่ 4.32 คนต่อโครงการ โครงการการวิจัยผู้สูงวัย ที่ด�ำเนินการในปี 2565 จะมีจ�ำนวนนักวิจัยเฉลี่ยอยู่ที่ 6.94 คนต่อโครงการ และ โครงการการวิจัยผู้สูงวัย ที่ด�ำเนินการในปี 2566 จะมีจ�ำนวนนักวิจัยเฉลี่ยอยู่ที่ 7.00 คนต่อโครงการ N ค่าต�่ำสุด Minimum ค่าสูงสุด Maximum ผลรวม (Sum) ค่าเฉลี่ย (Mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) ภาพรวม งบประมาณที่ได้รับ 204 244,000 43,200,000 735,481,640 3,605,302 5,608,434.996 ปี 2563 70 40,000,000 3 216,831,000 3,097,386 5,925,097.611 ปี 2564 44 43,200,000 3 214,778,000 4,881,318 7,252,577.995 ปี 2565 58 30,000,000 2 180,497,000 3,112,017 123,375,640 ปี 2566 32 15,000,000 3 123,375,640 3,855,489 123,375,640 ตารางที่ 1 งบประมาณที่ได้รับ ใตชายแดนตะวันออกกลางเหนือตะวันออก เฉียงเหนือภาคใตอาวไทย และฝงอันดามัน ภาคเหนือ มีจำนวน 27 โครงการ รอยละ 13.12 จังหวัดเชียงใหม และจังหวัดลำปาง มีโครงการมากที่สุด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีจำนวน 42 โครงการ รอยละ 20.6 จังหวัดนครราชสีมา มีโครงการมากที่สุด ภาคใตอาวไทยและฝั่งอันดามัน มีจำนวน 19 โครงการ รอยละ 9.3 จังหวัดสงขลา มีโครงการมากที่สุด ภาคใตชายแดน มีจำนวน 4 โครงการ รอยละ 2.0 จังหวัดปตตานี มีโครงการมากที่สุด ภาคกลาง (รวมกรุงเทพฯ) มีจำนวน 89 โครงการ รอยละ 43.36 กรุงเทพมหานคร มีโครงการมากที่สุด ภาคตะวันออก มีจำนวน 14 โครงการ รอยละ 6.9 จังหวัดชลบุร� มีโครงการมากที่สุด


54 บทที่ 4 บทบาท วช. จากก้าวแรกสู่ก้าวต่อไป : การใช้ประโยชน์วิจัยและนวัตกรรมในการเสริมพลังผู้สูงวัย เพื่อหนุนเสริมการพัฒนาประเทศ ตารางที่ 2 จ�ำนวนนักวิจัยในโครงการ 54 บทที่ 4 จ�ำนวนนักวิจัย (คน) ร้อยละ ประเภทผลลัพธ์ การสร้างรายได้ และมีงานท�ำ ด้านสุขภาพ/ สาธารณสุข พัฒนาตนเองและ การมีส่วนร่วม ระบบนิเวศและ สภาพแวดล้อม การบริหารจัดการ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวนโครงการปี 2563 ทั้งหมด 70 โครงการ มีนักวิจัยทั้งสิ้น 253 คน 1-5 คน 1 1.4 46 65.7 0 0.0 1 1.4 3 4.3 1 1.4 6-10 คน 1 1.4 10 14.3 0 0.0 0 0.0 1 1.4 1 1.4 11-15 คน 0 0.0 1 1.4 0 0.0 0 0.0 0 0.0 0 0.0 16-20 คน 0 0.0 0 0.0 0 0.0 0 0.0 0 0.0 0 0.0 21-25 คน 0 0.0 0 0.0 0 0.0 0 0.0 0 0.0 0 0.0 26 คนขึ้นไป 0 0.0 1 1.4 0 0.0 0 0.0 0 0.0 0 0.0 ไม่ระบุ 0 0.0 0 0.0 0 0.0 0 0.0 0 0.0 0 0.0 ค่าเฉลี่ย/ ส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน = 4.01 S.D.=4.94 = - S.D.=- = - S.D.=- = - S.D.=- = - S.D.=- = - S.D.=- จ�ำนวนโครงการปี 2564 ทั้งหมด 44 โครงการ มีนักวิจัยทั้งสิ้น 274 คน 1-5 คน 5 11.4 12 27.3 0 0.0 2 4.5 6 13.6 5 11.4 6-10 คน 1 2.3 5 11.4 0 0.0 0 0.0 0 0 1 2.3 11-15 คน 0 0 1 2.3 0 0.0 0 0.0 0 0 0 0 16-20 คน 0 0 1 2.3 1 2.3 0 0.0 0 0 0 0 21-25 คน 1 2.3 2 4.5 0 0.0 0 0.0 0 0 1 2.3 26 คนขึ้นไป 0 0 0 0.0 0 0.0 0 0.0 1 2.3 0 0 ไม่ระบุ 0 0 0 0.0 0 0.0 0 0.0 0 0 0 0 ค่าเฉลี่ย/ ส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน = 4.32 S.D.= 14.28 = - S.D.=- = - S.D.=- = - S.D.=- = - S.D.=- = - S.D.=- จ�ำนวนโครงการปี 2565 ทั้งหมด 58 โครงการ มีนักวิจัยทั้งสิ้น 368 คน 1-5 คน 0 0.0 15 25.9 0 0.0 2 3.4 7 12.1 0 0.0 6-10 คน 4 6.9 7 12.1 2 3.4 1 1.7 7 12.1 4 6.9 11-15 คน 0 0.0 4 6.9 0 0.0 1 1.7 2 3.4 0 0.0 16-20 คน 0 0.0 2 3.4 1 1.7 1 1.7 0 0.0 0 0.0 21-25 คน 0 0.0 1 1.7 0 0.0 0 0.0 1 1.7 0 0.0 26 คนขึ้นไป 0 0.0 0 0.0 0 0.0 0 0.0 0 0.0 0 0.0 ไม่ระบุ 1 1.7 0 0.0 0 0.0 0 0.0 0 0.0 1 1.7 ค่าเฉลี่ย/ ส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน = 6.94 S.D.= 5.09 = - S.D.=- = - S.D.=- = - S.D.=- = - S.D.=- = - S.D.=-


บทที่ 4 55 บทบาท วช. จากก้าวแรกสู่ก้าวต่อไป : การใช้ประโยชน์วิจัยและนวัตกรรมในการเสริมพลังผู้สูงวัย เพื่อหนุนเสริมการพัฒนาประเทศ 1.2 กระบวนการ วช. ได้สร้างกระบวนการติดตามและประเมินผลความส�ำเร็จในการสนับสนุนทุนวิจัยและนวัตกรรม และการน�ำ ผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ โดยได้จัดตั้งคณะกรรมการ/คณะผู้ตรวจสอบทางวิชาการเพื่อท�ำหน้าที่ ในการก�ำกับ ตรวจสอบ และประเมินผล ตั้งแต่การจัดท�ำข้อเสนอการวิจัย การรายงานความก้าวหน้าและรายงาน ฉบับสมบูรณ์ นอกจากนี้ยังได้ให้ผู้ทรงคุณวุฒิ วช. ที่เป็นกรรมการในคณะกรรมการ/คณะผู้ตรวจสอบทางวิชาการ ลงภาคสนามเพื่อตรวจสอบหลักฐานเชิงประจักษ์ ซึ่งโครงการที่ได้รับการคัดเลือกส่วนใหญ่ เป็นโครงการที่สามารถ ด�ำเนินการได้ดีเยี่ยม และโครงการที่มีแนวโน้มจะมีปัญหา เพื่อท�ำให้แน่ใจว่าโครงการนี้มีประสิทธิภาพและสามารถ ท�ำให้เกิดผลสัมฤทธิ์หรือ OKR ที่ วช. ได้ตั้งค่าคาดหวังไว้ อย่างไรก็ตาม วช. ควรมีการด�ำเนินการประเมินผลการน�ำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ หรือ Tech Adoption โดยต้องมีการศึกษาตั้งแต่ความต้องการ กระบวนการจัดการความรู้เพื่อให้ได้องค์ความรู้/เทคโนโลยีที่เหมาะสม ความพึงพอใจและการพัฒนาต่อยอดองค์ความรู้ผ่านเครือข่าย จนท�ำให้มีการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน โดยแบ่งการ ศึกษาออกเป็น (1) ความส�ำเร็จในการบริหารจัดการอุปทานในระบบนวัตกรรม โดยต้องมีการเก็บข้อมูลจากผู้ผลิตผลงานวิจัย อาทิ เครื่องมือและวิธีการสร้างการยอมรับ เป็นต้น (2) ศักยภาพหรือความสามารถของผู้ใช้ประโยชน์ ตั้งแต่การรับหรือได้มา ความเข้าใจ การประยุกต์ใช้ และการ แพร่กระจายองค์ความรู้และเทคโนโลยี ซึ่งต้องเก็บข้อมูลจากกลุ่มเป้าหมายที่ใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรม ในพื้นที่เป้าหมาย (3) ระบบนิเวศ อาทิ บทบาทของหน่วยงานในพื้นที่ วช. และองค์กรอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง จ�ำนวนนักวิจัย (คน) ร้อยละ ประเภทผลลัพธ์ การสร้างรายได้ และมีงานท�ำ ด้านสุขภาพ/ สาธารณสุข พัฒนาตนเองและ การมีส่วนร่วม ระบบนิเวศและ สภาพแวดล้อม การบริหารจัดการ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวนโครงการปี 2566 ทั้งหมด 32 โครงการ มีนักวิจัยทั้งสิ้น 224 คน 1-5 คน 1 3.1 8 25.0 2 6.3 1 3.1 2 6.3 1 3.1 6-10 คน 0 0.0 9 28.1 1 3.1 0 0.0 3 9.4 0 0 11-15 คน 0 0.0 0 0.0 0 0 0 0.0 1 3.1 0 0 16-20 คน 0 0.0 4 12.5 0 0 0 0.0 0 0.0 0 0 21-25 คน 0 0.0 0 0.0 0 0 0 0.0 0 0.0 0 0 26 คนขึ้นไป 0 0.0 0 0.0 0 0 0 0.0 0 0.0 0 0 ไม่ระบุ 0 0.0 0 0.0 0 0 0 0.0 0 0.0 0 0 ค่าเฉลี่ย/ ส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน = 7.00 S.D.= 5.62 = - S.D.=- = - S.D.=- = - S.D.=- = - S.D.=- = - S.D.=-


56 บทที่ 4 บทบาท วช. จากก้าวแรกสู่ก้าวต่อไป : การใช้ประโยชน์วิจัยและนวัตกรรมในการเสริมพลังผู้สูงวัย เพื่อหนุนเสริมการพัฒนาประเทศ 2. การประเมินประสิทธิผล (Effectiveness) เป็นการประเมินคุณภาพและปริมาณของผลผลิตและผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากโครงการ โดย 2.1 ผลผลิต (Outputs) วช. มีกระบวนการประเมินคุณภาพและปริมาณของผลผลิต 2 เส้นทาง คือ การให้ผู้ทรงคุณวุฒิ วช. ใช้ความ เชี่ยวชาญในการตรวจสอบและผู้ผลิตงานวิจัยประเมินตนเอง (Inside Out) และการใช้ผู้เชี่ยวชาญในการประเมินผล ซึ่งจะเป็นการประเมินผลจากผู้ใช้ประโยชน์ โดยผลจากการส�ำรวจในลักษณะ Inside Out พบว่า ผลผลิตองค์ความรู้ และนวัตกรรมมากกว่า 344 องค์ความรู้ ที่ถูกน�ำไปพัฒนาให้เป็นเครื่องมือหรือต้นแบบ ประมาณ 683 เรื่อง ซึ่งอยู่ใน รูปของเครื่องมือพร้อมใช้เพื่อการถ่ายทอดสู่ไปการใช้ประโยชน์ สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะหนึ่งองค์ความรู้สามารถ พัฒนาให้เป็นทั้งสิ่งประดิษฐ์และคู่มือต่างๆ หรือเป็นหนังสือด้วย ซึ่งท�ำให้ผลผลิตพร้อมใช้จึงมีจ�ำนวนมากกว่า องค์ความรู้ ส�ำหรับภาพรวมของโครงการวิจัยและนวัตกรรมด้านผู้สูงอายุ นักวิจัยได้ระบุว่า มีการใช้สิ่งประดิษฐ์/เครื่องมือ/ เทคโนโลยี/ผลิตภัณฑ์ต้นแบบ เป็นเครื่องมือในการถ่ายทอดไปสู่การใช้ประโยชน์เป็นส่วนใหญ่ มีสัดส่วน คิดเป็นร้อยละ 37.5 ของจ�ำนวนผลผลิตทั้งหมด รองลงมาเป็นคู่มือต่างๆ/สิ่งพิมพ์ (ร้อยละ 25.2) อื่นๆ เช่น ระบบ ศูนย์การเรียนรู้ หลักสูตร (ร้อยละ 20.2) นโยบาย/ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย (ร้อยละ 14.2) และหนังสือ/ต�ำราที่พิมพ์ เผยแพร่ (ร้อยละ 2.9) ตามล�ำดับ กระจายอยู่ตามภูมิภาคต่างๆ ของประเทศไทย การมีเครื่องมือในการถ่ายทอด ผลงานสู่การใช้ประโยชน์ รวม ปีที่ได้รับทุนสนับสนุน ปี 2563 ปี 2564 ปี 2565 ปี 2566 จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ ภาพรวม* 683 230 135 181 137 คู่มือต่างๆ/สิ่งพิมพ์ 172 25.2 35 15.2 37 27.4 51 28.2 49 35.8 สิ่งประดิษฐ์/เครื่องมือ/เทคโนโลยี/ ผลิตภัณฑ์ต้นแบบ 256 37.5 126 54.8 36 26.7 48 26.5 46 33.6 หนังสือ/ต�ำราที่พิมพ์เผยแพร่ 20 2.9 7 87.5 5 3.7 7 3.9 1 0.7 นโยบาย/ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย 97 14.2 34 73.9 12 8.9 31 17.1 20 14.6 อื่นๆ เช่น ระบบ ศูนย์การเรียนรู้ หลักสูตร 138 20.2 28 12.2 45 33.3 44 24.3 21 15.3 ตารางที่ 3 จ�ำนวนร้อยละการมีเครื่องมือในการถ่ายทอดผลงานสู่การใช้ประโยชน์ อื่นๆ เชน ระบบ ศูนยการเร�ยนรู หลักสูตร, 20.2% คูมือตางๆ/สิ�งพ�มพ, 25.2% สิ�งประดิษฐ/เคร�่องมือ/ เทคโนโลยี/ผลิตภัณฑตนแบบ, 37.5% นโยบาย/ขอเสนอแนะเชิงนโยบาย 14.2% หนังสือ/ตำราที่พ�มพเผยแพร, 2.9%


บทที่ 4 57 บทบาท วช. จากก้าวแรกสู่ก้าวต่อไป : การใช้ประโยชน์วิจัยและนวัตกรรมในการเสริมพลังผู้สูงวัย เพื่อหนุนเสริมการพัฒนาประเทศ การมีเครื่องมือในการถ่ายทอด ผลงานสู่การใช้ประโยชน์ รวม ปีที่ได้รับทุนสนับสนุน ปี 2563 ปี 2564 ปี 2565 ปี 2566 จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ ภาคกลาง 196 63 29 62 42 คู่มือต่างๆ/สิ่งพิมพ์ 67 34.2 8 12.7 18 62.1 25 40.3 16 38.1 สิ่งประดิษฐ์/เครื่องมือ/เทคโนโลยี/ ผลิตภัณฑ์ต้นแบบ 66 33.7 46 73.0 3 10.3 7 11.3 10 23.8 หนังสือ/ต�ำราที่พิมพ์เผยแพร่ 3 1.5 0 0.0 0 0.0 2 3.2 1 2.4 นโยบาย/ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย 24 12.2 3 4.8 1 3.4 10 16.1 10 23.8 อื่นๆ เช่น ระบบ ศูนย์การเรียนรู้ หลักสูตร 36 18.4 6 9.5 7 24.1 18 29.0 5 11.9 ภาคใต้ทะเลอันดามันและชายฝั่ง 49 10 8 16 15 คู่มือต่างๆ/สิ่งพิมพ์ 19 38.8 4 40.0 2 25.0 4 25.0 9 60.0 สิ่งประดิษฐ์/เครื่องมือ/เทคโนโลยี/ ผลิตภัณฑ์ต้นแบบ 19 38.8 6 60.0 3 37.5 6 37.5 4 26.7 หนังสือ/ต�ำราที่พิมพ์เผยแพร่ 0 0.0 0 0.0 0 0.0 0 0.0 0 0.0 นโยบาย/ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย 9 18.4 0 0.0 3 37.5 6 37.5 0 0.0 อื่นๆ เช่น ระบบ ศูนย์การเรียนรู้ หลักสูตร 2 4.1 0 0.0 0 0.0 0 0.0 2 13.3 ภาคใต้ชายแดน 5 3 2 0 0 คู่มือต่างๆ/สิ่งพิมพ์ 1 20.0 0 0.0 1 50.0 0 0.0 0 0.0 สิ่งประดิษฐ์/เครื่องมือ/เทคโนโลยี/ ผลิตภัณฑ์ต้นแบบ 0 0.0 0 0.0 0 0.0 0 0.0 0 0.0 หนังสือ/ต�ำราที่พิมพ์เผยแพร่ 0 0.0 0 0.0 0 0.0 0 0.0 0 0.0 นโยบาย/ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย 1 20.0 0 0.0 1 50.0 0 0.0 0 0.0 อื่นๆ เช่น ระบบ ศูนย์การเรียนรู้ หลักสูตร 3 60.0 3 100.0 0 0.0 0 0.0 0 0.0 ภาคตะวันออก 33 6 10 8 9 คู่มือต่างๆ/สิ่งพิมพ์ 14 42.4 2 33.3 4 40.0 2 25.0 6 66.7 สิ่งประดิษฐ์/เครื่องมือ/เทคโนโลยี/ ผลิตภัณฑ์ต้นแบบ 12 36.4 4 66.7 4 40.0 2 25.0 2 22.2 หนังสือ/ต�ำราที่พิมพ์เผยแพร่ 0 0.0 0 0.0 0 0 0 0.0 0 0.0 นโยบาย/ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย 3 9.1 0 0.0 0 0 3 37.5 0 0.0 อื่นๆ เช่น ระบบ ศูนย์การเรียนรู้ หลักสูตร 4 12.1 0 0.0 2 20.0 1 12.5 1 11.1 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 124 54 10 26 34 คู่มือต่างๆ/สิ่งพิมพ์ 28 22.6 4 7.4 2 20.0 10 38.5 12 35.3 สิ่งประดิษฐ์/เครื่องมือ/เทคโนโลยี/ ผลิตภัณฑ์ต้นแบบ 47 37.9 25 46.3 3 30.0 7 26.9 12 35.3 หนังสือ/ต�ำราที่พิมพ์เผยแพร่ 1 0.8 0 0.0 0 0.0 1 3.8 0 0.0 นโยบาย/ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย 31 25.0 25 46.3 0 0.0 2 7.7 4 11.8 อื่นๆ เช่น ระบบ ศูนย์การเรียนรู้ หลักสูตร 17 13.7 0 0.0 5 50.0 6 23.1 6 17.6


58 บทที่ 4 บทบาท วช. จากก้าวแรกสู่ก้าวต่อไป : การใช้ประโยชน์วิจัยและนวัตกรรมในการเสริมพลังผู้สูงวัย เพื่อหนุนเสริมการพัฒนาประเทศ อย่างไรก็ตามหากพิจารณา 344 องค์ความรู้ที่น�ำมาใช้จนเกิดผลลัพธ์ พบว่าองค์ความรู้/เทคโนโลยี/นวัตกรรม ที่น�ำมาใช้ประโยชน์ส่วนใหญ่เป็นเรื่องสุขภาพ/สาธารณสุข (ร้อยละ 62.2) รองลงมาเป็นการบริหารจัดการ (ร้อยละ 14.8) การสร้างรายได้และมีงานท�ำ (ร้อยละ 11.9) ระบบนิเวศและสภาพแวดล้อม (ร้อยละ 5.8) และพัฒนาตนเองและ การมีส่วนร่วม (ร้อยละ 5.2) ดานสุขภาพ/สาธารณสุข, 62.2% ระบบนิเวศ และสภาพแวดลอม, 5.8% พัฒนาตนเอง และการมีสวนรวม, 5.2% การสรางรายได และมีงานทำ, 11.9% การบร�หารจัดการ, 14.8% การมีเครื่องมือในการถ่ายทอด ผลงานสู่การใช้ประโยชน์ รวม ปีที่ได้รับทุนสนับสนุน ปี 2563 ปี 2564 ปี 2565 ปี 2566 จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ ภาคเหนือ 71 17 10 28 16 คู่มือต่างๆ/สิ่งพิมพ์ 19 26.8 4 23.5 2 20.0 8 28.6 5 31.3 สิ่งประดิษฐ์/เครื่องมือ/เทคโนโลยี/ ผลิตภัณฑ์ต้นแบบ 22 31.0 10 58.8 3 30.0 3 10.7 6 37.5 หนังสือ/ต�ำราที่พิมพ์เผยแพร่ 5 7.0 0 0.0 2 20.0 3 10.7 0 0.0 นโยบาย/ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย 8 11.3 3 17.6 0 0.0 5 17.9 0 0.0 อื่นๆ เช่น ระบบ ศูนย์การเรียนรู้ หลักสูตร 17 23.9 0 0.0 3 30.0 9 32.1 5 31.3 ไม่ระบุพื้นที่ 61 20 13 21 7 คู่มือต่างๆ/สิ่งพิมพ์ 2 3.3 1 5.0 0 0.0 1 4.8 0 0.0 สิ่งประดิษฐ์/เครื่องมือ/เทคโนโลยี/ ผลิตภัณฑ์ต้นแบบ 30 49.2 13 65.0 3 23.1 10 47.6 4 57.1 หนังสือ/ต�ำราที่พิมพ์เผยแพร่ 3 4.9 1 5.0 1 7.7 1 4.8 0 0.0 นโยบาย/ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย 9 14.8 0 0.0 1 7.7 6 28.6 2 28.6 อื่นๆ เช่น ระบบ ศูนย์การเรียนรู้ หลักสูตร 17 27.9 5 25.0 8 61.5 3 14.3 1 14.3 หมายเหตุ : 1 โครงการสามารถสร้างผลผลิตได้มากกว่า 1 ประเภท และผลผลิตส่วนที่เหลือถูกระบุพื้นที่ใช้ประโยชน์ทั่วประเทศ


บทที่ 4 59 บทบาท วช. จากก้าวแรกสู่ก้าวต่อไป : การใช้ประโยชน์วิจัยและนวัตกรรมในการเสริมพลังผู้สูงวัย เพื่อหนุนเสริมการพัฒนาประเทศ ตารางที่ 4 จ�ำนวนองค์ความรู้/เทคโนโลยี/นวัตกรรมที่ใช้ประโยชน์จนเกิดผลลัพธ์ (จ�ำแนกตามปีที่ได้รับทุน สนับสนุน) ประเภทผลลัพธ์ รวม ปีที่ได้รับทุนสนับสนุน ปี 2563 ปี 2564 ปี 2565 ปี 2566 จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ ภาพรวม 344 112 69 92 71 การสร้างรายได้และมีงานท�ำ 41 11.9 8 7.1 15 21.7 14 15.2 4 5.6 ด้านสุขภาพ/สาธารณสุข 214 62.2 90 80.4 35 50.7 41 44.6 48 67.6 พัฒนาตนเองและการมีส่วนร่วม 18 5.2 0 0.0 7 0.0 6 0.0 5 0.0 ระบบนิเวศและสภาพแวดล้อม 20 5.8 5 4.5 2 2.9 9 9.8 4 5.6 การบริหารจัดการ 51 14.8 9 8.0 10 14.5 22 23.9 10 14.1 ภาคกลาง 90 36 11 24 19 การสร้างรายได้และมีงานท�ำ 5 5.6 0 0.0 2 18.2 2 8.3 1 5.3 ด้านสุขภาพ/สาธารณสุข 71 78.9 35 97.2 8 72.7 13 54.2 15 78.9 พัฒนาตนเองและการมีส่วนร่วม 7 7.8 0 0.0 1 9.1 3 12.5 3 15.8 ระบบนิเวศและสภาพแวดล้อม 3 3.3 1 2.8 0 0.0 2 8.3 0 0.0 การบริหารจัดการ 4 4.4 0 0.0 0 0.0 4 16.7 0 0.0 ภาคใต้ทะเลอันดามันและชายฝั่ง 23 3 3 8 7 การสร้างรายได้และมีงานท�ำ 5 21.7 0 0.0 1 33.3 3 37.5 1 14.3 ด้านสุขภาพ/สาธารณสุข 12 52.2 3 100.0 1 33.3 3 37.5 5 71.4 พัฒนาตนเองและการมีส่วนร่วม 1 4.3 0 0.0 0 0.0 0 0.0 1 14.3 ระบบนิเวศและสภาพแวดล้อม 2 8.7 0 0.0 0 0.0 2 25.0 0 0.0 การบริหารจัดการ 3 13.0 0 0.0 1 33.3 2 25.0 0 0.0 ภาคใต้ชายแดน 4 3 1 0 0 การสร้างรายได้และมีงานท�ำ 1 25.0 0 0.0 1 100.0 0 0.0 0 0.0 ด้านสุขภาพ/สาธารณสุข 3 75.0 3 100.0 0 0.0 0 0.0 0 0.0 พัฒนาตนเองและการมีส่วนร่วม 0 0.0 0 0.0 0 0.0 0 0.0 0 0.0 ระบบนิเวศและสภาพแวดล้อม 0 0.0 0 0.0 0 0.0 0 0.0 0 0.0 การบริหารจัดการ 0 0.0 0 0.0 0 0.0 0 0.0 0 0.0 ภาคตะวันออก 16 4 4 4 4 การสร้างรายได้และมีงานท�ำ 2 12.5 0 0.0 1 25.0 0 0.0 1 25.0 ด้านสุขภาพ/สาธารณสุข 12 75.0 4 100.0 3 75.0 2 50.0 3 75.0 พัฒนาตนเองและการมีส่วนร่วม 0 0.0 0 0.0 0 0.0 0 0.0 0 0.0 ระบบนิเวศและสภาพแวดล้อม 0 0.0 0 0.0 0 0.0 0 0.0 0 0.0 การบริหารจัดการ 2 12.5 0 0.0 0 0.0 2 50.0 0 0.0


60 บทที่ 4 บทบาท วช. จากก้าวแรกสู่ก้าวต่อไป : การใช้ประโยชน์วิจัยและนวัตกรรมในการเสริมพลังผู้สูงวัย เพื่อหนุนเสริมการพัฒนาประเทศ ประเภทผลลัพธ์ รวม ปีที่ได้รับทุนสนับสนุน ปี 2563 ปี 2564 ปี 2565 ปี 2566 จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 60 24 6 11 19 การสร้างรายได้และมีงานท�ำ 4 6.7 0 0.0 1 16.7 2 18.2 1 5.3 ด้านสุขภาพ/สาธารณสุข 35 58.3 14 58.3 2 33.3 7 63.6 12 63.2 พัฒนาตนเองและการมีส่วนร่วม 4 6.7 0 0.0 3 50.0 0 0.0 1 5.3 ระบบนิเวศและสภาพแวดล้อม 7 11.7 5 20.8 0 0.0 2 18.2 0 0.0 การบริหารจัดการ 10 16.7 5 20.8 0 0.0 0 0.0 5 26.3 ภาคเหนือ 34 7 6 14 7 การสร้างรายได้และมีงานท�ำ 6 17.6 0 0.0 1 16.7 5 35.7 0 0.0 ด้านสุขภาพ/สาธารณสุข 16 47.1 7 100.0 2 33.3 4 28.6 3 42.9 พัฒนาตนเองและการมีส่วนร่วม 2 5.9 0 0.0 2 33.3 0 0.0 0 0.0 ระบบนิเวศและสภาพแวดล้อม 6 17.6 0 0.0 0 0.0 2 14.3 4 57.1 การบริหารจัดการ 4 11.8 0 0.0 1 16.7 3 21.4 0 0.0 ไม่ระบุพื้นที่ 26 11 8 14 4 การสร้างรายได้และมีงานท�ำ 3 11.5 1 9.1 2 25.0 1 7.1 0 0.0 ด้านสุขภาพ/สาธารณสุข 11 42.3 9 81.8 5 62.5 4 28.6 2 50.0 พัฒนาตนเองและการมีส่วนร่วม 2 7.7 0 0.0 0 0.0 2 14.3 0 0.0 ระบบนิเวศและสภาพแวดล้อม 0 0.0 1 9.1 0 0.0 0 0.0 0 0.0 การบริหารจัดการ 10 38.5 0 0.0 1 12.5 7 50.0 2 50.0 หมายเหตุ : 1 โครงการสามารถกระจายการใช้ประโยชน์ได้มากกว่า 1 จังหวัด และบางโครงการระบุพื้นที่ใช้ประโยชน์ทั่วประเทศ ตารางที่ 5 ผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีต้นแบบ ตัวอย่างขององค์ความรู้/เทคโนโลยี/นวัตกรรมที่อยู่ในลักษณะของผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีต้นแบบ ประเภท ตัวอย่างสิ่งประดิษฐ์/เครื่องมือ/เทคโนโลยี/ผลิตภัณฑ์ต้นแบบ การสร้างรายได้และมีงานท�ำ • เตาเผาอุณหภูมิสูงด้วยระบบไฟฟ้า และเครื่องร่อนท�ำความสะอาดข้าวเปลือกเพื่อส่งเสริมการท�ำงาน ของผู้สูงอายุ • ผลิตภัณฑ์งานของที่ระลึก D.I.Y ประเภทผลิตภัณฑ์ตกแต่งลวดลายบนผ้าเช็ดหน้า ผ้าคลุมไหล่ และเสื้อยืดที่ระลึก • เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินความเปราะบางของเกษตรกรสูงอายุไทยในระดับบุคคล ด้านสุขภาพ/สาธารณสุข • เครื่องมือ MoCA test ฉบับอิเล็กทรอนิกส์ • เครื่องมือในการตรวจวัดสมาธิและการเกิด Mind Wandering • เครื่องมือในการจ�ำแนกชนิดของความผิดปกติของสมาธิและความจ�ำ • อุปกรณ์ย้ายตัวจากรถยนต์สู่รถเข็น และ เก้าอี้ย้ายตัวจากเตียงส�ำหรับขับถ่ายและอาบน�้ำ • มอเตอร์ไซค์สามล้อไฟฟ้าส�ำหรับผู้สูงอายุและคนพิการทางการเคลื่อนไหว


บทที่ 4 61 บทบาท วช. จากก้าวแรกสู่ก้าวต่อไป : การใช้ประโยชน์วิจัยและนวัตกรรมในการเสริมพลังผู้สูงวัย เพื่อหนุนเสริมการพัฒนาประเทศ ประเภท ตัวอย่างสิ่งประดิษฐ์/เครื่องมือ/เทคโนโลยี/ผลิตภัณฑ์ต้นแบบ ด้านสุขภาพ/สาธารณสุข • หุ่นยนต์จ่ายยาต้นแบบ • แผ่นพื้นรองเท้า Surasole • หุ่นยนต์วีลแชร์เคลื่อนย้ายผู้พิการและผู้สูงอายุขับเคลื่อนอัตโนมัติด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ และสมองกลฝังตัว • รถล้อเลื่อนส�ำหรับผู้พิการด้านการเคลื่อนไหวตั้งแต่สะโพกลงมาถึงเท้าใช้กับผู้พิการประเภท T53-T54 • อุปกรณ์ถุงมือบังคับล้อ • หุ่นยนต์ต้นแบบถือกล้องผ่าตัด (Laparoscopic Manipulating Robot) • Smart Aging Shoes : ระบบรองเท้าอัจฉริยะระบุเพื่อเฝ้าระวังความปลอดภัยและสุขภาพ ส�ำหรับผู้สูงวัย • Smart Aging Bed : ระบบเตียงอัจฉริยะเพื่อเฝ้าระวังความปลอดภัยและสุขภาพส�ำหรับผู้สูงวัย • เครื่องคัดกรองผู้ป่วยโรคกระดูกพรุน • รถเข็นนั่งปรับนอนส�ำหรับการถ่ายภาพเอกซเรย์ผู้ป่วยสูงอายุ • สิ่งทอช่วยพยุงร่างกายส่วนบนและช่วยจัดสมดุลของล�ำตัว และช่วยพยุงหัวไหล่ส�ำหรับผู้สูงอายุ และผู้ที่มีอาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อ • ต้นแบบชุดบอดี้สูทช่วยพยุงร่างกายส่วนบนและการจัดสมดุลของล�ำตัวส�ำหรับเด็กที่มีพัฒนาการ ด้านการเคลื่อนไหวล่าช้า • เครื่องอ่านฉลากอัจฉริยะ • Smart Buckle : เข็มขัดอัจฉริยะติดตามตัวส�ำหรับผู้สูงอายุและผู้พิการ • ECare : นวัตกรรมดิจิตอลดูแลผู้สูงอายุที่มีความบกพร่องทางด้านความจ�ำ • Health Kit : ชุดตรวจวินิจฉัยโรคส�ำหรับบ้านผู้สูงอายุ • นานา (Nana): หุ่นยนต์ดูแลสุขภาพกายและใจในผู้สูงอายุ • ลู่วิ่งใต้น�้ำเพื่อกายภาพบ�ำบัดและออกก�ำลังกายของผู้สูงอายุ • ต้นแบบเซลล์แสดงผลอักษรเบลล์ • แอปพลิเคชันเกมภาษาไทย-ภาษามือไทยส�ำหรับเด็กหูหนวก • แคลเซียมจากกระดูกปลาทูน่า • เส้นก๋วยเตี๋ยวเสริมโปรตีนไฮโดรไลเซท • ซุปปลาทูน่าสกัด • ก๋วยเตี๋ยวข้าวแม่พญาทองด�ำเสริมโปรตีนไฮโดรไลเซท• เจโภชนาเสริมแคลเซียมจากกระดูกปลาทูน่า • กล้องอัจฉริยะเพื่ออ่านฉลากยาด้วยการเรียนรู้แบบ Deep Learning ส�ำหรับผู้มีความบกพร่อง ทางการมองเห็น • แผ่นปูพื้นไฮบริดคอมโพสิตธรรมชาติจากยางพาราและเส้นใยปาล์ม • ชุดตรวจวินิจฉัยส�ำหรับตรวจวัดระดับน�้ำตาลสะสมในเลือด• นวัตกรรมการใช้เลเซอร์เพื่อส่งเสริมสุขภาพช่องปากในระดับปฐมภูมิ • หลอดไฟฟ้าแสงสว่างที่ใช้แอลอีดีสีน�้ำเงิน เขียว แดง เหลือง และขาวมาช่วยเพิ่มคอนทราสของสี ให้ชัดเจนขึ้น • หลอดแสงสีเหลืองน�ำทางที่ไม่มีสเปกตรัมการกระจายพลังงานสีน�้ำเงินลดการรบกวนการนอนหลับ เมื่อใช้งานกลางคืน พัฒนาตนเองและการมีส่วนร่วม • Application ส�ำหรับการค้นหาและเสริมสร้างพฤฒพลังผู้สูงอายุ• นวัตกรรมการเรียนรู้ตลอดชีวิตเพื่อพัฒนาทักษะงานในยุคดิจิทัลส�ำหรับผู้สูงวัย ระบบนิเวศและสภาพแวดล้อม • ต้นแบบผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับกลุ่มผู้สูงอายุจากฐานภูมิปัญญาท้องถิ่นอีสาน • สนามออกก�ำลังกายส�ำหรับผู้สูงอายุ (Senior Playground) ต้นแบบ • โปรแกรมประยุกต์สื่อสารชีวิตประจ�ำวัน ส�ำหรับผู้สูงอายุ • สถานีออนไลน์สื่อสารเมืองแห่งการเรียนรู้ ส�ำหรับผู้สูงอายุ


62 บทที่ 4 บทบาท วช. จากก้าวแรกสู่ก้าวต่อไป : การใช้ประโยชน์วิจัยและนวัตกรรมในการเสริมพลังผู้สูงวัย เพื่อหนุนเสริมการพัฒนาประเทศ 2.2 การใช้ประโยชน์หรือการสร้างการยอมรับผลงานวิจัย (Tech Adoption) ผลลัพธ์จะเกิดขึ้นต้องมีการน�ำผลผลิตไปใช้ประโยชน์ ซึ่งต้องมีทั้งกลุ่มเป้าหมายและพื้นที่เป้าหมาย โดยผลจาก การศึกษาสามารถสรุปได้ ดังนี้ 2.2.1 กลุ่มผู้ใช้ประโยชน์หรือผู้ที่ได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้ ผลการศึกษาพบว่า 2 ภาพรวมของโครงการการวิจัยผู้สูงอายุ ที่ได้รับเงินทุนสนับสนุนในปี 2563 - 2566 ผู้ตอบแบบสอบถาม (เจ้าของโครงการหรือนักวิจัย) ระบุว่ากลุ่มเป้าหมายที่ได้รับการถ่ายทอดผลงานวิจัยไปสู่ การใช้ประโยชน์กระจายอยู่ทุกประเภท จ�ำนวนกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับประโยชน์ จ�ำนวนทั้งสิ้น 122,521 คน โดยกลุ่ม ที่ได้รับประโยชน์มากที่สุด คือ ประชาชนทั่วไป นิสิต นักศึกษา จ�ำนวน 71,557 คน รองลงมาเป็นอื่นๆ (เช่น ผู้สูงอายุ ตั้งแต่ 60 ปี ขึ้นไป ผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้ดูแลผู้ป่วย เป็นต้น) จ�ำนวน 26,824 คน ผู้ก�ำหนดนโยบาย จ�ำนวน 20,072 คน หน่วยงานภาครัฐ จ�ำนวน 1,545 คน นักวิจัย/นักวิชาการ จ�ำนวน 1,391 คน เกษตรกร จ�ำนวน 695 คน และ ผู้ประกอบการ จ�ำนวน 437 คน ตามล�ำดับ 2 การก�ำหนดกลุ่มเป้าหมายมีลักษณะทั่วไป เพราะ วช. มิได้มีการก�ำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน จึงท�ำให้ต้องใช้เทคนิคหรือรูปแบบทั่วไปของการก�ำหนด แต่จะให้มีประโยชน์มากขึ้นต้องมีการก�ำหนดเป็นช่วงอายุ เพราะในแต่ละช่วงอายุมีความต้องการในการพัฒนาทุนมนุษย์ไม่เหมือนกัน ตารางที่ 6 จ�ำนวนร้อยละของประเภทและจ�ำนวนของกลุ่มเป้าหมาย ประเภทผลลัพธ์ ประเภท กลุ่มเป้าหมาย ที่สอดคล้อง กับผลงานวิจัย* ปีที่ได้รับทุนสนับสนุน ปี 2563 ปี 2564 ปี 2565 ปี 2566 จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวนโครงการทั่วประเทศ 204 100.0 70 100.0 44 100.0 58 100.0 32 100.0 จ�ำนวนโครงการที่ระบุ กลุ่มเป้าหมาย 116 56.9 43 61.4 24 54.5 29 50.0 20 62.5 เกษตรกร 695 0.6 0 0 200 0.8 95 1.6 400 0.8 หน่วยงานภาครัฐ 1,545 1.3 509 1.3 366 1.5 576 9.6 94 0.2 ประชาชนทั่วไป นิสิต นักศึกษา 71,557 58.4 12,925 32.8 11,107 44.6 2,437 40.5 45,088 86.4 ผู้ประกอบการ 437 0.4 37 0.1 230 0.9 169 2.8 1 0.0 ผู้ก�ำหนดนโยบาย 20,072 16.4 20,024 50.8 37 0.1 7 0.1 4 0.0 นักวิจัย/นักวิชาการ 1,391 1.1 594 1.5 374 1.5 365 6.1 58 0.1 อื่นๆ 26,824 21.9 5,308 13.5 12,586 50.5 2,373 39.4 6,557 12.6 จ�ำนวนโครงการที่ไม่ระบุ กลุ่มเป้าหมาย 88 43.1 27 38.6 20 45.5 29 50.0 12 37.5 รวม 122,521 39,397 24,900 6,022 52,202 หมายเหตุ*ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ *อื่นๆ เช่น ผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ขึ้นไป ผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้ดูแลผู้ป่วย เป็นต้น


บทที่ 4 63 บทบาท วช. จากก้าวแรกสู่ก้าวต่อไป : การใช้ประโยชน์วิจัยและนวัตกรรมในการเสริมพลังผู้สูงวัย เพื่อหนุนเสริมการพัฒนาประเทศ 2.2.2 พื้นที่ที่ได้รับประโยชน์ พื้นที่ที่ได้รับประโยชน์จากการถ่ายทอดผลงานวิจัยไปสู่การใช้ประโยชน์กระจายอยู่ในทุกภูมิภาคและทั่วประเทศ โดยภาคกลางเป็นภาคที่ได้รับผลประโยชน์จากการถ่ายทอดผลงานวิจัยมากที่สุด รองลงมาเป็นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคใต้ และภาคตะวันออก ตามล�ำดับ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20.6% ภาคเหนือ 13.2% ภาคตะวันออก 6.9% ภาคใตชายแดน 2.0% ภาคใตอาวไทยและฝงอันดามัน 9.3% ภาคกลาง 43.6% หมายเหตุ : โครงการสามารถกระจายการใช้ประโยชน์ได้มากกว่า 1 จังหวัด ตารางที่ 7 จ�ำนวนร้อยละของพื้นที่ที่ได้รับประโยชน์ พื้นที่ที่ได้รับประโยชน์ รวม ปีที่ได้รับทุนสนับสนุน ปี 2563 ปี 2564 ปี 2565 ปี 2566 จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวนโครงการทั้งหมด 204 70 44 58 32 ใช้ประโยชน์ทั่วประเทศ 71 34.8 22 31.4 24 54.5 14 24.1 11 34.4 ภาคกลาง 89 43.6 37 52.9 11 25.0 22 37.9 19 59.4 ภาคใต้อ่าวไทยและฝั่งอันดามัน 19 9.3 3 4.3 3 6.8 6 10.3 7 21.9 ภาคใต้ชายแดน 4 2.0 3 4.3 1 2.3 - 0.0 - 0.0 ภาคตะวันออก 14 6.9 4 5.7 3 6.8 3 5.2 4 12.5 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 42 20.6 14 20.0 5 11.4 9 15.5 14 43.8 ภาคเหนือ 27 13.2 7 10.0 5 11.4 8 13.8 7 21.9 ไม่ระบุพื้นที่ใช้ประโยชน์ 35 17.2 11 15.7 8 18.2 12 20.7 4 12.5


64 บทที่ 4 บทบาท วช. จากก้าวแรกสู่ก้าวต่อไป : การใช้ประโยชน์วิจัยและนวัตกรรมในการเสริมพลังผู้สูงวัย เพื่อหนุนเสริมการพัฒนาประเทศ 2.2.3 มิติของการน�ำผลผลิต (องค์ความรู้/เทคโนโลยี/ต้นแบบ/ข้อเสนอแนะ) วช. ได้แบ่งการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยหรือการน�ำผลงานวิจัยไปถ่ายทอดให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในลักษณะ เป็นผลประโยชน์ร่วม กล่าวคือ นักวิจัยต้องมีการน�ำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ในเชิงวิชาการ ในฐานะผู้ผลิต องค์ความรู้ ในขณะที่สังคมเป็นฐานในการใช้ประโยชน์จากผลงานวิจัยจึงได้รับประโยชน์ในเชิงเศรษฐกิจ เชิงสังคม ชุมชน และเชิงนโยบาย ส�ำหรับโครงการการวิจัยผู้สูงอายุ ที่ได้รับเงินทุนสนับสนุนในปี 2563 - 2566 หากพิจารณา ถึงมิติการน�ำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์แล้ว จะเห็นว่าผลงานวิจัยน�ำไปใช้ประโยชน์ในมิติเชิงวิชาการในสัดส่วน ที่สูงที่สุดถึงร้อยละ 78.4 รองลงมาเป็นมิติเชิงชุมชน/สังคม (ร้อยละ 61.8) มิติเชิงนโยบาย (ร้อยละ 31.4) และมิติเชิงพาณิชย์ (ร้อยละ 26.5) ตามล�ำดับ มิติเชิงวิชาการ, 78.4% เชิงพาณิชย์, 26.5% มิติเชิงนโยบาย, 31.4% มิติชุมชน/สังคม, 61.8% หมายเหตุ : 1 โครงการสามารถกระจายการประโยชน์ได้มากกว่า 1 จังหวัด ตารางที่ 8 จ�ำนวนร้อยละของมิติการน�ำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ มิติการน�ำผลงานวิจัย ไปใช้ประโยชน์ รวม ปีที่ได้รับทุนสนับสนุน ปี 2563 ปี 2564 ปี 2565 ปี 2566 จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวนโครงการทั้งหมด 204 70 44 58 32 มิติเชิงวิชาการ 160 78.4 52 74.3 32 72.7 49 84.5 27 84.4 มิติเชิงพาณิชย์ 54 26.5 22 31.4 10 22.7 14 24.1 8 25.0 มิติเชิงชุมชน/สังคม 126 61.8 37 52.9 31 70.5 38 65.5 20 62.5 มิติเชิงนโยบาย 64 31.4 12 17.1 14 31.8 28 48.3 10 31.3


บทที่ 4 65 บทบาท วช. จากก้าวแรกสู่ก้าวต่อไป : การใช้ประโยชน์วิจัยและนวัตกรรมในการเสริมพลังผู้สูงวัย เพื่อหนุนเสริมการพัฒนาประเทศ 2.3 ผลลัพธ์ เมื่อผลงานวิจัยถูกน�ำไปใช้ประโยชน์โดยกลุ่มเป้าหมาย เพื่อแก้ไขปัญหาในพื้นที่เป้าหมาย จนเกิดประโยชน์ในมิติ ต่างๆ ตามที่สรุปข้างต้น ผลลัพธ์ที่ตามมาคือ 2.3.1 การสร้างรายได้และมีงานท�ำ ผลลัพธ์ ที่ต้องวัดแบ่งเป็น ดังนี้ • ดัชนีพฤฒพลังผู้สูงอายุ เนื่องจากแผน ววน. ได้ก�ำหนดให้ดัชนีพฤฒพลังผู้สูงอายุ เป็นทั้งผลลัพธ์ และผลกระทบ และ วช. ได้ศึกษาข้อมูลดัชนีนี้ พบว่า ดัชนีพฤฒพลังย่อย คือ ความเพียงพอของรายได้/ การมีงานท�ำ สามารถสะท้อนหรือวัดผลลัพธ์ในระดับ โครงการได้ (อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะมีการเก็บตัวเลขนี้โดย ส�ำนักงานสถิติแห่งชาติ แต่เป็นการยากที่จะชี้ให้เห็นว่า ส่วนไหนที่เกิดขึ้นจากงานวิจัยและนวัตกรรมที่ได้รับการ สนับสนุนทุนวิจัยและนวัตกรรมจาก วช.) ดังนั้น วช. อาจจะต้องมีการส�ำรวจการใช้ประโยชน์ของกลุ่มเป้าหมาย ที่ใช้ประโยชน์จากผลงานวิจัยในส่วนนี้ • ศักยภาพและความสามารถของผู้ใช้ประโยชน์ สูงขึ้น โดยกลุ่มนักวิจัยและนักวิชาการ ผลการศึกษาพบว่า ผลงานวิจัยและนวัตกรรมสามารถเพิ่มพูนความ สามารถของนักวิจัย/นักวิชาการเพิ่มขึ้น ร้อยละ 95 ของ โครงการทั้งหมด ในขณะที่เกษตรกร ประชาชนทั่วไป และ นิสิตนักศึกษาได้เทคโนโลยีและแนวปฏิบัติใหม่ๆ สูงถึง ร้อยละ 70 และผู้ประกอบการประมาณร้อยละ 30 รวมทั้ง ผู้ก�ำหนดนโยบายและหน่วยงานภาครัฐประมาณร้อยละ 70 อีกทั้งอื่นๆ (ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้น, ผู้พิการ) มีศักยภาพ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 10 • เครือข่ายและความร่วมมือในลักษณะคลัสเตอร์ อยู่ในระดับสูงหรือประมาณ 8 จาก 10 ซึ่งเป็นความ สัมพันธ์ที่สูง ส่วนใหญ่เป็นความร่วมมือระหว่าง สถาบันวิจัย ภาคเกษตร/ชุมชน ภาครัฐ 2.3.2 ด้านสุขภาพและสาธารณสุข • ดัชนีพฤฒพลังผู้สูงอายุ วช. ได้ศึกษา พบว่า ดัชนีพฤฒพลังด้านสุขภาพ สามารถสะท้อนหรือวัด ผลลัพธ์ในระดับโครงการได้ ดังนั้น วช. อาจต้องมีการ ส�ำรวจการใช้ประโยชน์ของกลุ่มเป้าหมายที่ใช้ประโยชน์ จากผลงานวิจัยในส่วนนี้ • ศักยภาพและความสามารถของผู้ใช้ประโยชน์ สูงขึ้น โดยกลุ่มนักวิจัยและนักวิชาการ ผลการศึกษา พบว่า ผลงานวิจัยและนวัตกรรมสามารถเพิ่มพูนความ สามารถของนักวิจัย/นักวิชาการเพิ่มขึ้น ร้อยละ 97 ของโครงการทั้งหมด ในขณะที่เกษตรกร ประชาชนทั่วไป และนิสิตนักศึกษาได้เทคโนโลยีและแนวปฏิบัติใหม่ๆ สูงถึงร้อยละ 70 และผู้ประกอบการสามารถสร้างโอกาส ทางธุรกิจประมาณร้อยละ 80 รวมทั้งผู้ก�ำหนดนโยบาย และหน่วยงานภาครัฐประมาณร้อยละ 70 อีกทั้งอื่นๆ (ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้น, ผู้พิการ) มีศักยภาพเพิ่มขึ้น ร้อยละ 70 • เครือข่ายและความร่วมมือในลักษณะคลัสเตอร์ อยู่ในระดับสูงหรือประมาณ 9 จาก 10 ซึ่งเป็นความ สัมพันธ์ที่สูง ส่วนใหญ่เป็นความร่วมมือระหว่าง สถาบันวิจัย ภาคเกษตร/ชุมชน ภาครัฐ 2.3.3 การพัฒนาตนเอง/การมีส่วนร่วม • ดัชนีพฤฒพลังผู้สูงอายุ วช. ได้ก�ำหนดดัชนี พฤฒพลังย่อย คือ การเข้ามาร่วมกิจกรรมของหมู่บ้าน/ ชุมชนผู้สูงอายุ การดูแลบุคคลในครอบครัว ซึ่งสามารถ สะท้อนหรือวัดผลลัพธ์ในระดับโครงการได้ ดังนั้น วช. อาจจะต้องมีการส�ำรวจการใช้ประโยชน์ของกลุ่มเป้าหมาย ที่ใช้ประโยชน์จากผลงานวิจัยในส่วนนี้ • ศักยภาพและความสามารถของผู้ใช้ประโยชน์ สูงขึ้น โดยกลุ่มนักวิจัยและนักวิชาการ ผลการศึกษา พบว่า ผลงานวิจัยสามารถเพิ่มพูนความสามารถของ นักวิจัย/นักวิชาการเพิ่มขึ้น ร้อยละ 96 ของโครงการ ทั้งหมด ในขณะที่เกษตรกร ประชาชนทั่วไป และนิสิต นักศึกษาได้เทคโนโลยีและแนวปฏิบัติใหม่ๆ สูงถึงร้อยละ 70 และผู้ประกอบการประมาณร้อยละ 20 รวมทั้ง ผู้ก�ำหนด นโยบายและหน่วยงานภาครัฐประมาณร้อยละ 70 อีกทั้ง อื่นๆ (ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้น, ผู้พิการ) มีศักยภาพเพิ่มขึ้น ร้อยละ 70 • เครือข่ายและความร่วมมือในลักษณะคลัสเตอร์ อยู่ในระดับสูงหรือประมาณ 8 จาก 10 ซึ่งเป็นความ สัมพันธ์ที่สูง ส่วนใหญ่เป็นความร่วมมือระหว่าง สถาบันวิจัย ภาคเกษตร/ชุมชน ภาครัฐ


66 บทที่ 4 บทบาท วช. จากก้าวแรกสู่ก้าวต่อไป : การใช้ประโยชน์วิจัยและนวัตกรรมในการเสริมพลังผู้สูงวัย เพื่อหนุนเสริมการพัฒนาประเทศ 2.3.4 ระบบนิเวศและสภาพแวดล้อม • ดัชนีพฤฒพลังผู้สูงอายุ วช. ได้ก�ำหนดให้ดัชนี พฤฒพลังย่อย คือ การเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัย ลักษณะ การอยู่อาศัย/สภาพการอยู่อาศัยที่ปลอดภัย เพราะ สามารถสะท้อนหรือวัดผลลัพธ์ในระดับโครงการได้ ดังนั้น วช. อาจจะต้องมีการส�ำรวจการใช้ประโยชน์ ของกลุ่มเป้าหมายที่ใช้ประโยชน์จากผลงานวิจัย ในส่วนนี้ • ศักยภาพและความสามารถของผู้ใช้ประโยชน์ สูงขึ้น โดยกลุ่มนักวิจัยและนักวิชาการ ผลการศึกษา พบว่า ผลงานวิจัยสามารถเพิ่มพูนความสามารถของ นักวิจัย/นักวิชาการเพิ่มขึ้น ร้อยละ 95 ของการโครงการ ทั้งหมด ในขณะที่เกษตรกร ประชาชนทั่วไป และนิสิต นักศึกษาได้เทคโนโลยีและแนวปฏิบัติใหม่ๆ สูงถึงร้อยละ 70 และผู้ประกอบการประมาณร้อยละ 50 รวมทั้ง ผู้ก�ำหนด นโยบายและหน่วยงานภาครัฐประมาณร้อยละ 90 อีกทั้ง อื่นๆ (ผู้สูงอายุ 60 ปี ขึ้น, ผู้พิการ) มีศักยภาพเพิ่มขึ้น ร้อยละ 70 • เครือข่ายและความร่วมมือในลักษณะคลัสเตอร์ อยู่ในระดับสูงหรือประมาณ 8 จาก 10 ซึ่งเป็นความ สัมพันธ์ที่สูง ส่วนใหญ่เป็นความร่วมมือระหว่าง สถาบันวิจัย ภาคเกษตร/ชุมชน ภาครัฐ 2.3.5 บริหารจัดการ • ดัชนีการบริหารจัดการ วช. ได้ก�ำหนดตัวชี้วัด คือ จ�ำนวนข้อเสนอ/แนวทาง/ข้อมูลที่ถูกน�ำไปขับเคลื่อน ในเชิงนโยบาย สามารถสะท้อนหรือวัดผลลัพธ์ในระดับ โครงการได้ ดังนั้น วช. อาจจะต้องมีการส�ำรวจการใช้ ประโยชน์ของกลุ่มเป้าหมายที่ใช้ประโยชน์จากผลงาน วิจัยในส่วนนี้ • ศักยภาพและความสามารถของผู้ใช้ประโยชน์ สูงขึ้น โดยกลุ่มนักวิจัยและนักวิชาการ ผลการศึกษา พบว่า ผลงานวิจัยสามารถเพิ่มพูนความสามารถของ นักวิจัย/นักวิชาการเพิ่มขึ้น ร้อยละ 97 ของการโครงการ ทั้งหมด ในขณะที่เกษตรกร ประชาชนทั่วไป และนิสิต นักศึกษาได้เทคโนโลยีและแนวปฏิบัติใหม่ๆ สูงถึงร้อยละ 20 และผู้ประกอบการประมาณร้อยละ 20 รวมทั้ง ผู้ก�ำหนด นโยบายและหน่วยงานภาครัฐประมาณร้อยละ 80 อีกทั้ง อื่นๆ (ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้น, ผู้พิการ) มีศักยภาพเพิ่มขึ้น ร้อยละ 20 • เครือข่ายและความร่วมมือในลักษณะคลัสเตอร์ อยู่ในระดับสูงหรือประมาณ 8 จาก 10 ซึ่งเป็นความ สัมพันธ์ที่สูง ส่วนใหญ่เป็นความร่วมมือระหว่าง สถาบันวิจัย ภาคเกษตร/ชุมชน ภาครัฐ 66 บทที่ 4


บทที่ 4 67 บทบาท วช. จากก้าวแรกสู่ก้าวต่อไป : การใช้ประโยชน์วิจัยและนวัตกรรมในการเสริมพลังผู้สูงวัย เพื่อหนุนเสริมการพัฒนาประเทศ 3. ผลกระทบ (Impact) วช. ได้ก�ำหนดผลกระทบไว้ 3 ระดับ คือ 3.1 ผลกระทบที่เชื่อมโยงกับผลกระทบในแผน ววน. อว. จะใช้ดัชนีพฤฒพลังผู้สูงอายุภาพรวมซึ่งก�ำหนดไว้ที่ 0.8 อย่างไรก็ตามเป็นที่ทราบอยู่แล้ว ดัชนีนี้ถูกส�ำรวจ โดย ส�ำนักงานสถิติแห่งชาติ เป็นการสะท้อนผลการด�ำเนินงานของหน่วยงานทั้งในภาครัฐและเอกชน ดังนั้น อาจจะ เป็นการยากที่จะชี้ให้เห็นว่าส่วนไหนที่เกิดขึ้นจากงานวิจัยและนวัตกรรมที่สนับสนุนทุนวิจัยจาก วช. ดังนั้น วช. อาจ จะต้องมีการส�ำรวจการใช้ประโยชน์ของกลุ่มเป้าหมายที่ใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรมต่อไปในอนาคต 3.2 ผลกระทบระดับโครงการ เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการค�ำนวณความคุ้มค่าของโครงการ ซึ่งผลการศึกษาสามารถแบ่งออกเป็น ดังนี้ 3.2.1 ผลกระทบเชิงวิชาการ การใช้ประโยชน์ของนวัตกรรมท�ำให้สามารถสร้างผลงานเชิงวิชาการสูงถึงร้อยละ 74.2 จากผู้ตอบแบบสอบถาม ในโครงการวิจัยด้านผู้สูงอายุ ที่ได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยและนวัตกรรม ในปี 2563 - 2566 พบว่า ประมาณร้อยละ 78.8 จัดท�ำคู่มือต่างๆ/สิ่งพิมพ์ รองลงมาเป็นการน�ำเสนอเป็นบทความเพื่อตีพิมพ์ (ร้อยละ 9.9) หนังสือ/ต�ำราได้ พิมพ์เผยแพร่ (ร้อยละ 7.3) ตามล�ำดับ ตารางที่ 9 จ�ำนวนร้อยละของมิติการน�ำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ หมายเหตุ : 1 โครงการสามารถตอบได้มากกว่า 1 ข้อ การใช้ประโยชน์ของนวัตกรรม เชิงวิชาการ มีการเพิ่มพูน ความรู้ ความช�ำนาญ จนท�ำให้ สามารถสร้างผลงาน รวม ปีที่ได้รับทุนสนับสนุน ปี 2563 ปี 2564 ปี 2565 ปี 2566 จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวนโครงการทั้งหมด 204 70 44 58 32 ไม่มี 53 25.98 26 37.14 16 36.36 7 12.07 4 12.50 มี 151 74.02 44 62.86 28 63.64 51 87.93 28 87.50 (ระบุผลกระทบเชิงวิชาการ)* 151 44 28 51 28 บทความตีพิมพ์ 15 9.9 5 11.4 5 17.9 4 7.8 1 3.6 คู่มือ/สิ่งพิมพ์ 119 78.8 35 79.5 18 64.3 40 78.4 26 92.9 หนังสือ/ต�ำรา 11 7.3 2 4.5 4 14.3 4 7.8 1 3.6 อื่นๆ 6 4.0 2 4.5 1 3.6 3 5.9 0 0.0 คูมือ/สิ�งพ�มพ หนังสือ/ตำรา อื่นๆ บทความตีพ�มพ 9.9% 7.3% 78.8% 4%


68 บทที่ 4 บทบาท วช. จากก้าวแรกสู่ก้าวต่อไป : การใช้ประโยชน์วิจัยและนวัตกรรมในการเสริมพลังผู้สูงวัย เพื่อหนุนเสริมการพัฒนาประเทศ 3.2.2 ผลกระทบเชิงเศรษฐกิจ การใช้ประโยชน์ของนวัตกรรมท�ำให้สามารถสร้างผลกระทบเชิงเศรษฐกิจสูงถึงร้อยละ 71.57 จากผู้ตอบ แบบสอบถามในโครงการวิจัยด้านผู้สูงอายุ ที่ได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยและนวัตกรรม ปี 2563 - 2566 พบว่า ประมาณร้อยละ 56.8 ช่วยให้ผู้เกษียณอายุมีรายได้และการพัฒนาอาชีพ/มีงานท�ำ รองลงมาเป็นผลิตภาพ การผลิตของผู้สูงอายุสูงขึ้น (ร้อยละ 56.1) ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลของผู้สูงอาชีพ (49.0) เพิ่มการส่งออก ลดการน�ำเข้าผลิตภัณฑ์/สิ่งประดิษฐ์/เครื่องมือ/เทคโนโลยี (ร้อยละ 20.6) และสิ่งประดิษฐ์/เครื่องมือ/เทคโนโลยี ราคาถูกลง (ร้อยละ 20.6) ตามล�ำดับ ตารางที่ 10 จ�ำนวนร้อยละของโครงการวิจัย จ�ำแนกผลกระทบเชิงเศรษฐกิจเพื่อรองรับสังคมสูงวัย ผลกระทบเชิงเศรษฐกิจ การใช้ประโยชน์ของนวัตกรรม เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อรองรับสังคมสูงวัย รวม ปีที่ได้รับทุนสนับสนุน ปี 2563 ปี 2564 ปี 2565 ปี 2566 จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวนโครงการทั้งหมด 204 70 44 58 32 ไม่มี 49 19 27.14 5 11.36 15 25.86 10 31.25 มี 155 51 72.86 39 88.64 43 74.14 22 68.75 (ระบุผลกระทบเชิงเศรษฐกิจ)* 155 51 39 43 22 ผู้เกษียณอายุมีรายได้และการ พัฒนาอาชีพ/มีงานท�ำ 88 56.8 38 74.5 18 46.2 21 48.8 11 50.0 ผูเกษียณอายุมีรายไดและการพัฒนาอาชีพ/มีงานทำ 56.8% 56.1% 49.0% 20.6% 20.6% 16.1% ผลิตภาพการผลิตของผูสูงอายุข�้น ลดคาใชจายในการรักษาพยาบาลของผูสูงอาชีพ สิ�งประดิษฐ/เคร�่องมือ/เทคโนโลยีราคาถูกลง อื่นๆ เพ�่มการสงออก ลดการนำเขาผลิตภัณฑ/สิ�งประดิษฐ/เคร�่องมือ/เทคโนโลยี 68 บทที่ 4


บทที่ 4 69 บทบาท วช. จากก้าวแรกสู่ก้าวต่อไป : การใช้ประโยชน์วิจัยและนวัตกรรมในการเสริมพลังผู้สูงวัย เพื่อหนุนเสริมการพัฒนาประเทศ 3.2.3 ผลกระทบเชิงสังคม/ชุมชน การใช้ประโยชน์ของนวัตกรรมท�ำให้สามารถสร้างผลกระทบเชิงสังคม/ชุมชนสูงถึงร้อยละ 75.98 จากผู้ตอบ แบบสอบถามในโครงการวิจัยด้านผู้สูงอายุ ที่ได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยและนวัตกรรม ปี 2563 - 2566 พบว่า ประมาณร้อยละ 60.0 ช่วยให้ผู้สูงอายุสุขภาพดี เข้าสังคมร่วมกิจกรรม และพึ่งตนเองได้ (มีความสุข มีบ้าน มีความ เป็นอยู่ดีขึ้น ไม่ถูกทอดทิ้ง สามารถท�ำกิจกรรมได้ด้วยตนเอง) รองลงมาช่วยในการเข้าถึงบริการสุขภาพ และสิ่งประดิษฐ์/เครื่องมือ/เทคโนโลยี เนื่องจากสามารถพึ่งตนเอง ลดการน�ำเข้าจากต่างประเทศ (ร้อยละ 56.8) ลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลของผู้สูงอาชีพ (ร้อยละ 56.1) การเข้าถึงบริการสุขภาพและระบบคุ้มครอง และสวัสดิการ (ร้อยละ 49.0) การเข้าถึงในอาชีพ สร้างรายได้ดีขึ้น ครอบครัวอบอุ่น ผลิตภาพการผลิตของผู้สูงอายุ สูงขึ้น (ร้อยละ 20.6) สภาพแวดล้อมชุมชนมีความปลอดภัยมากขึ้น (ร้อยละ 19.4) มีผู้บริบาลมืออาชีพ (ร้อยละ 16.1) อ่านออกเขียนได้ และมี Digital Literacy สูงขึ้น รวมถึงเกิดความรักความสามัคคีในครอบครัว และชุมชนแตกต่างแต่ไม่แตกแยก (ร้อยละ 11.6) ตามล�ำดับ หมายเหตุ : 1 โครงการสามารถตอบได้มากกว่า 1 ข้อ ผลกระทบเชิงเศรษฐกิจ การใช้ประโยชน์ของนวัตกรรม เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อรองรับสังคมสูงวัย รวม ปีที่ได้รับทุนสนับสนุน ปี 2563 ปี 2564 ปี 2565 ปี 2566 จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ ผลิตภาพการผลิตของ ผู้สูงอายุสูงขึ้น 87 56.1 25 49.0 21 53.8 27 62.8 14 63.6 ลดค่าใช้จ่ายในการรักษา พยาบาลของผู้สูงอาชีพ 76 49.0 25 49.0 18 46.2 21 48.8 12 54.5 เพิ่มการส่งออก ลดการน�ำเข้า ผลิตภัณฑ์/สิ่งประดิษฐ์/ เครื่องมือ/เทคโนโลยี 32 20.6 4 7.8 11 28.2 13 30.2 4 18.2 สิ่งประดิษฐ์/เครื่องมือ/เทคโนโลยี ราคาถูกลง 32 20.6 2 3.9 12 30.8 15 34.9 3 13.6 อื่นๆ 25 16.1 7 13.7 10 25.6 5 11.6 3 13.6 การเขาถึงบร�การสุขภาพและสิ�งประดิษฐ/เคร�่องมือ/เทคโนโลยี 56.8 % การลดคาใชจายในการรักษาพยาบาลของผูสูงอาชีพ 56.1 % การเขาถึงบร�การสุขภาพและระบบคุมครองและสวัสดิการ 49.0 % การเขาถึงในอาชีพและสรางรายไดดีข�้น 20.6 % ครอบครัวอบอุน 20.6 % มีผูบร�บาลมืออาชีพ 16.1 % ผูสูงอายุสุขภาพดี เขาสังคมรวมกิจกรรม และพ�่งพาตนเองได 60.0 % อานออกเข�ยนได และมี Digital Literacy สูงข�้น 11.6 % สภาพแวดลอมชุมชนมีความปลอดภัยมากข�้น 19.4 % เกิดความรักความสามัคคีในครอบครัวและชุมชนแตกตางแตไมแตกแยก 11.6 % อื่นๆ 7.7 %


70 บทที่ 4 บทบาท วช. จากก้าวแรกสู่ก้าวต่อไป : การใช้ประโยชน์วิจัยและนวัตกรรมในการเสริมพลังผู้สูงวัย เพื่อหนุนเสริมการพัฒนาประเทศ ผลกระทบเชิงชุมชน/สังคม รวม ปีที่ได้รับทุนสนับสนุน ปี 2563 ปี 2564 ปี 2565 ปี 2566 จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวนโครงการทั้งหมด 204 70 44 58 32 ไม่มี 49 24.02 19 27.14 5 11.36 15 25.86 10 31.25 มี 155 75.98 51 72.86 39 88.64 43 74.14 22 68.75 (ระบุผลกระทบเชิงเศรษฐกิจ)* 155 51 39 43 22 การเข้าถึงบริการสุขภาพ และสิ่งประดิษฐ์/เครื่องมือ/ เทคโนโลยี เนื่องจากสามารถ พึ่งตนเองลดการน�ำเข้าจาก ต่างประเทศ 88 56.8 38 74.5 18 46.2 21 48.8 11 50.0 ลดค่าใช้จ่ายในการรักษา พยาบาลของผู้สูงอายุ 87 56.1 25 49.0 21 53.8 27 62.8 14 63.6 การเข้าถึงบริการสุขภาพและ ระบบคุ้มครองและสวัสดิการ 76 49.0 25 49.0 18 46.2 21 48.8 12 54.5 การเข้าถึงในอาชีพและ สร้างรายได้ดีขึ้น 32 20.6 4 7.8 11 28.2 13 30.2 4 18.2 ครอบครัวอบอุ่น 32 20.6 2 3.9 12 30.8 15 34.9 3 13.6 มีผู้บริบาลมืออาชีพ 25 16.1 7 13.7 10 25.6 5 11.6 3 13.6 ผู้สูงอายุสุขภาพดี เข้าสังคมร่วม กิจกรรม และพึ่งตนเองได้ (มีความสุข มีบ้าน มีความเป็นอยู่ ดีขึ้น ไม่ถูกทอดทิ้ง สามารถท�ำ กิจกรรมได้ด้วยตนเอง 93 60.0 23 45.1 27 69.2 27 62.8 16 72.7 อ่านออกเขียนได้ และมี Digital Literacy สูงขึ้น 18 11.6 3 5.9 7 17.9 4 9.3 4 18.2 สภาพแวดล้อมชุมชน มีความปลอดภัยมากขึ้น 30 19.4 6 11.8 12 30.8 6 14.0 6 27.3 เกิดความรักความสามัคคี ในครอบครัวและชุมชนแตกต่าง แต่ไม่แตกแยก 18 11.6 3 5.9 6 15.4 6 14.0 3 13.6 อื่นๆ 12 7.7 2 3.9 3 7.7 6 14.0 1 4.5 ตารางที่ 11 จ�ำนวน ร้อยละของโครงการวิจัย จ�ำแนกผลกระทบเชิงสังคม/ชุมชน


บทที่ 4 71 บทบาท วช. จากก้าวแรกสู่ก้าวต่อไป : การใช้ประโยชน์วิจัยและนวัตกรรมในการเสริมพลังผู้สูงวัย เพื่อหนุนเสริมการพัฒนาประเทศ 3.2.4 ผลกระทบเชิงนโยบายผู้สูงอายุ การใช้ประโยชน์ของนวัตกรรมท�ำให้สามารถสร้างผลกระทบเชิงนโยบายผู้สูงอายุ ร้อยละ 58.2 จากผู้ตอบ แบบสอบถามในโครงการวิจัยด้านผู้สูงอายุ ที่ได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยและนวัตกรรม ปี 2563 - 2566 พบว่า ประมาณร้อยละ 55.5 ช่วยในการพัฒนาระบบสุขภาพ รองลงมาช่วยในการบริหารจัดการ/การมีส่วนรวม ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และองค์กรไม่หวังผลก�ำไร ชุมชน) ในการพัฒนาผู้สูงอายุ และการเตรียมความพร้อม (ร้อยละ 42.5) การพัฒนาอาชีพ การมีงานท�ำและสร้างรายได้ รวมทั้งการเสริมศักยภาพ ของผู้สูงอายุ เช่น Digital Literacy เป็นต้น (ร้อยละ 33.3) ผู้บริบาลผู้สูงอายุ (ร้อยละ 32.5) สภาพแวดล้อมบ้าน และพื้นที่สาธารณะในระดับ ชุมชน จังหวัด ประเทศ (ร้อยละ 23.3) การสร้างระบบคุ้มครองและสวัสดิการ (ร้อยละ 22.5) ตามล�ำดับ ตารางที่ 12 จ�ำนวนร้อยละของโครงการวิจัย จ�ำแนกผลกระทบเชิงนโยบายผู้สูงอายุ ผลกระทบเชิงนโยบาย ผู้สูงอายุ รวม ปีที่ได้รับทุนสนับสนุน ปี 2563 ปี 2564 ปี 2565 ปี 2566 จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวนโครงการทั้งหมด 204 70 44 58 32 ไม่มี 84 41.18 37 52.86 12 27.27 21 36.21 14 43.75 มี 120 58.82 33 47.14 32 72.73 37 63.79 18 56.25 (ระบุผลกระทบเชิงนโยบาย ผู้สูงอายุ)* 120 33 32 37 18 การสร้างระบบคุ้มครองและ สวัสดิการ 27 22.50 3 9.09 7 21.88 12 32.43 5 27.78 การพัฒนาอาชีพ การมีงานท�ำ และสร้างรายได้ รวมทั้งการเสริม ศักยภาพของผู้สูงอายุ เช่น Digital Literacy เป็นต้น 40 33.33 5 15.15 12 37.50 15 40.54 8 44.44 การพัฒนาระบบสุขภาพ 66 55.00 22 66.67 19 59.38 23 62.16 12 66.67 การสรางระบบคุมครองและสวัสดิการ การพัฒนาระบบสุขภาพ สภาพแวดลอมบาน และพ�้นที่สาธารณะในระดับ ชุมชน จังหวัด ประเทศ ผูบร�บาลผูสูงอายุ 22.5% 33.33% 55.0% 23.33% 32.5% 42.5% อื่นๆ 10.0% การบร�หารจัดการ/การมีสวนรวมของผูมีสวนไดสวนเสีย (หนวยงานภาครัฐ เอกชน และองคกรไมหวังผลกำไร ชุมชน) การพัฒนาอาชีพ การมีงานทำและสรางรายได รวมทั้งการเสร�มศักยภาพของผูสูงอายุ เชน digital literacy


72 บทที่ 4 บทบาท วช. จากก้าวแรกสู่ก้าวต่อไป : การใช้ประโยชน์วิจัยและนวัตกรรมในการเสริมพลังผู้สูงวัย เพื่อหนุนเสริมการพัฒนาประเทศ ข้อมูลต่างๆ เหล่านี้นอกจากจะสะท้อนการเกิดผลกระทบเชิงประจักษ์และใช้เป็นข้อมูลที่ร้อยเรียงให้เชื่อมโยงกับ ผลกระทบภาพรวมของประเทศแล้ว ยังจะใช้เป็นข้อมูลในการประเมินความคุ้มค่าของโครงการในเชิงปริมาณ เพื่อสะท้อนว่าการลงทุนในโครงการวิจัยและนวัตกรรมด้านผู้สูงอายุมีความคุ้มค่าในเชิงการเงินหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากจ�ำเป็นต้องมีการเก็บข้อมูลเพิ่มเติม รวมทั้งต้องมีการสร้าง Proxy ส�ำหรับปัจจัยที่ไม่เป็นตัวเงิน ให้มีมูลค่าในเชิงตัวเงิน วช. มีแผนที่จะด�ำเนินการในส่วนนี้ต่อไป 3.3 ผลกระทบภาพรวมของประเทศ วช. ได้ก�ำหนดผลกระทบในระดับภาพรวม เพื่อสะท้อนผลกระทบที่เกิดขึ้นในระดับโครงการวิจัยและนวัตกรรม ด้านผู้สูงอายุ สามารถหนุนเสริมเป้าหมายการพัฒนาประเทศ เช่น การรักษาระดับ GDP เนื่องจากผลจากงานวิจัย ท�ำให้ราคาสิ่งประดิษฐ์/เครื่องมือ/เทคโนโลยีลดลง และผลิตภาพการผลิตของผู้สูงอายุสูงขึ้น ผู้สูงอายุมี Digital Literacy สูงขึ้น รวมทั้งเพิ่มการส่งออก ลดการน�ำเข้าผลิตภัณฑ์/สิ่งประดิษฐ์/เครื่องมือ/เทคโนโลยี อีกทั้งผู้เกษียณอายุ มีรายได้และสามารถพัฒนาอาชีพ/การมีงานท�ำ เทคโนโลยี นอกจากนี้ยังช่วยลดภาระการคลัง เพราะประมาณร้อยละ 48.6 ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลของผู้สูงอายุ ส�ำหรับความเหลื่อมล�้ำและความยากจนโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เช่น ช่วยให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพดี สามารถ เข้าสังคมเพื่อร่วมกิจกรรมและพึ่งตนเองได้ (มีความสุข มีบ้าน มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ไม่ถูกทอดทิ้ง และสามารถ ท�ำกิจกรรมได้ด้วยตนเอง) รวมทั้งช่วยให้สามารถเข้าถึงบริการสุขภาพและสิ่งประดิษฐ์/เครื่องมือ/เทคโนโลยี และการเข้าถึง บริการสุขภาพ ระบบคุ้มครองและสวัสดิการ ตลอดจนการเข้าถึงในอาชีพ สร้างรายได้เพิ่มขึ้น ครอบครัวอบอุ่น สภาพแวดล้อมชุมชนมีความปลอดภัยมากขึ้น มีผู้บริบาลมืออาชีพ รวมถึงเกิดความรักความสามัคคี ในครอบครัว และชุมชน แตกต่างแต่ไม่แตกแยก ผลกระทบเชิงนโยบาย ผู้สูงอายุ รวม ปีที่ได้รับทุนสนับสนุน ปี 2563 ปี 2564 ปี 2565 ปี 2566 จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ จ�ำนวน ร้อยละ สภาพแวดล้อมบ้าน และพื้นที่ สาธารณะในระดับ ชุมชน จังหวัด ประเทศ 28 23.33 10 30.30 8 25.00 6 16.22 4 22.22 ผู้บริบาลผู้สูงอายุ 39 32.50 11 33.33 13 40.63 11 29.73 4 22.22 การบริหารจัดการ/การมีส่วน ร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และ องค์กรไม่หวังผลกาไร ชุมชน) ในการพัฒนาผู้สูงอายุและการ เตรียมความพร้อม 51 42.50 11 33.33 15 46.88 16 43.24 9 50.00 อื่นๆ 12 10.00 3 9.09 4 12.50 4 10.81 1 5.56 หมายเหตุ : 1 โครงการสามารถตอบได้มากกว่า 1 ข้อ


บทที่ 5 บทเรียน และก้าวต่อไป


74 บทที่ 5 บทบาท วช. จากก้าวแรกสู่ก้าวต่อไป : การใช้ประโยชน์วิจัยและนวัตกรรมในการเสริมพลังผู้สูงวัย เพื่อหนุนเสริมการพัฒนาประเทศ บทเรียนที่ส�ำคัญที่ได้จากการติดตามและประเมินผลโครงการวิจัยและนวัตกรรมด้านผู้สูงอายุคือ กรอบการวิจัย และนวัตกรรม แม้ว่า วช. จะมีแผน ววน. อว. เป็นกรอบหรือทิศทางให้ปฏิบัติ แต่สิ่งที่ต้องค�ำนึงถึง คือการประเมินผล ก่อนเกิดโครงการวิจัยและนวัตกรรม (Ex-ante Evaluation) ซึ่งเป็นเครื่องมือหนึ่งของการจัดท�ำแผนหรือกรอบวิจัย และนวัตกรรม ดังนั้น สิ่งที่ส�ำคัญที่สุดต้องมีการวิเคราะห์ปัญหาหรือจุดเจ็บ (Pain Points) รวมทั้งท�ำความเข้าใจ กับแก่นหรือประเด็นหลัก (Theme) ของการพัฒนาผู้สูงอายุ ซึ่งเครื่องมือส�ำคัญคือ เส้นทางผลกระทบของงานวิจัย ซึ่งอยู่ภายใต้หลักการของทฤษฎีการเปลี่ยนแปลง (Theory of Change) จะท�ำให้เห็นเป้าหมายที่จะต้องด�ำเนินการ ไปสู่การสร้างการเปลี่ยนแปลง เช่น ท�ำอย่างไรให้ผู้มีอายุ 25 - 59 ปี สามารถเตรียมตัวเข้าสู่สังคมสูงวัย สิ่งที่ส�ำคัญ คือ การท�ำความเข้าใจในการพัฒนามนุษย์ ซึ่งนั่นก็คือ ทุนมนุษย์ และปัจจัยอื่นๆ ที่เป็นระบบนิเวศที่จะเป็นตัวหล่อหลอม ให้เกิดการพัฒนาไปสู่เป้าหมาย ซึ่งจะแตกต่างจาก กลุ่มอายุ 60 - 79 ปี และกลุ่มอายุ 80 ปีขึ้นไป รวมทั้งกลุ่มเปราะบาง ดังนั้น อนาคตที่ต้องท�ำต่อไปจะแบ่งเป็นดังนี้ บทที่ 5 บทเรียน และก้าวต่อไป 1. แนวทางการบริหารจัดการพัฒนาผู้สูงอายุด้วยวิจัยและนวัตกรรม แม้ว่า วช. จะได้มีการบริหารจัดการการพัฒนา ผู้สูงอายุด้วยวิจัยและนวัตกรรมครอบคลุมวงจรของการบริหาร โดยเริ่มจากวางกรอบวิจัยและนวัตกรรม น�ำกรอบวิจัยและนวัตกรรมสู่การปฏิบัติ และติดตามประเมินผล รวมทั้ง มีการน�ำผลการประเมินผลไปเป็นบทเรียนและเผยแพร่ให้สาธารณชนรับทราบ แต่การจัดท�ำกรอบวิจัยและนวัตกรรม ที่น�ำไปสู่การใช้ประโยชนทั้งในเชิงประเด็นพัฒนาและในเชิงพื้นที่ยังขาดความชัดเจน และยังขาดการก�ำหนดเป้าหมาย และตัวชี้วัด ทั้งในเชิงประเด็นการพัฒนาและในเชิงพื้นที่ที่เชื่อมโยงกับผลลัพธ์และผลกระทบ พร้อมทั้งตัวชี้วัดที่ก�ำหนด ภายใต้แผน ววน. อว. ยังขาดการก�ำหนดกลุ่มเป้าหมายหรือผู้รับประโยชน์ที่ชัดเจน เพราะผลงานวิจัยจะต้องถูกน�ำ ไปใช้ประโยชน์จึงจะเกิดผลลัพธ์และผลกระทบ ดังนั้น วช. ควรมีการปรับปรุงแนวทางการบริหารจัดการการพัฒนา ผู้สูงอายุด้วยวิจัยและนวัตกรรม แนวทางการบริหารจัดการการพัฒนาผู้สูงอายุด้วยวิจัยและนวัตกรรม ขั้นตอนที่ 1 การวางแผนเพ�่อการกำหนดกรอบว�จัย และนวัตกรรมดŒานผูŒสูงอายุจะตŒองเนŒน การใชŒประโยชนผลงานว�จัย และ นวัตกรรมเชิงเป‡าหมายยุทธศาสตร (Planning) ขั้นตอนที่ 2 การขับเคลื่อนกรอบว�จัยและนวัตกรรม ดŒานผูŒสูงอายุสู‹ความสำเร็จ (Doing) ขั้นตอนที่ 3 การวางระบบการติดตามประเมินผล สัมฤทธิ์ ประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และ ความคุŒมค‹าของโครงการทั้งในดŒาน ผูŒผลิตผลงานว�จัยและผูŒใชŒประโยชน จากผลงานว�จัย ขั้นตอนที่ 4 การวางระบบที่เร�ยกว‹าตอบกลับ (Feedback) เพ�่อใหŒเกิดการสะทŒอน ภาพ (Reflection) และการเร�ยนรูŒ (Learning)


บทที่ 5 75 บทบาท วช. จากก้าวแรกสู่ก้าวต่อไป : การใช้ประโยชน์วิจัยและนวัตกรรมในการเสริมพลังผู้สูงวัย เพื่อหนุนเสริมการพัฒนาประเทศ 1.1 การวางแผนเพื่อการก�ำหนดกรอบวิจัยและ นวัตกรรมด้านผู้สูงอายุจะต้องเน้นการใช้ประโยชน์ ผลงานวิจัยและนวัตกรรมเชิงเป้าหมายยุทธศาสตร์ (Planning) โดยแต่งตั้งคณะท�ำงานประสานความร่วมมือ การใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรม ท�ำหน้าที่ ก�ำกับดูแลบริหารการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและ นวัตกรรมเพื่อหนุนเสริมการขับเคลื่อนการพัฒนา ผู้สูงอายุของประเทศและในระดับพื้นที่ให้เป็นไปตาม เป้าหมายที่ก�ำหนด ซึ่งในกรอบวิจัยและนวัตกรรมจะมีทั้ง โจทย์วิจัยที่ได้จากพื้นที่ (Bottom Up) เพื่อตอบสนอง ความต้องการของพื้นที่ และโจทย์วิจัยที่ได้จากแผน ยุทธศาสตร์ส�ำคัญของประเทศ โดยเฉพาะแผน ววน. อว. เพื่อตอบสนองทิศทางการพัฒนาประเทศ รวมทั้งให้ ความส�ำคัญกับการก�ำหนดกลุ่มเป้าหมายและพื้นที่ เป้าหมายที่ชัดเจน พร้อมทั้งก�ำหนดค่าคาดหวัง และตัวชี้วัดตั้งแต่ปัจจัยน�ำเข้า กระบวนการ ผลผลิต กลุ่มเป้าหมาย/พื้นที่เป้าหมาย ผลลัพธ์และผลกระทบ ที่เกิดขึ้นจากการใช้ประโยชน์ ซึ่งต้องเชื่อมโยงกับ ค่าเป้าหมายและตัวชี้วัดทั้งในระดับประเด็นพัฒนา เชิงยุทธศาสตร์ของประเทศ และในระดับพื้นที่ 1.2 การขับเคลื่อนกรอบวิจัยและนวัตกรรมด้าน ผู้สูงอายุสู่ความส�ำเร็จ (Doing) เพื่อให้เกิดการ เชื่อมโยงระหว่างผู้ผลิตผลงานวิจัย (Supply Side/ Tech Providers) และผู้ใช้ประโยชน์ผลงานวิจัย (Demand Side/ Tech Seekers) โดยในขณะที่เปิดกรอบวิจัยและ นวัตกรรม ต้องสื่อสารให้ผู้ผลิตผลงานวิจัยและ นวัตกรรมเน้นการน�ำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ได้จริง โดยน�ำแนวคิดทฤษฎี Theory of Change และ Impact Pathway เป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์ข้อเสนอการวิจัย โดยข้อเสนอที่พัฒนาขึ้นต้องเน้นความต้องการ ใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรมจากพื้นที่/และกลุ่ม เป้าหมาย (Demand Push) และให้ความส�ำคัญกับ กิจกรรมที่น�ำไปสู่การยอมรับเทคโนโลยี (Tech Adoption) โดยอาจต้องเริ่มจากการศึกษาบริบท เข้าใจจุดเจ็บ (Pain Points) หรือความต้องการ จัดการความรู้ให้อยู่ ในลักษณะที่พร้อมใช้ ก�ำหนดกระบวนการน�ำส่งและ ถ่ายทอดองค์ความรู้สู่ผู้ใช้ประโยชน์ รวมทั้งการก�ำหนด ค่าคาดหวังในระดับโครงการ ตั้งแต่ปัจจัยน�ำเข้า กระบวนการ ผลผลิต กลุ่มเป้าหมาย/พื้นที่เป้าหมาย ผลลัพธ์และผลกระทบที่เกิดจากการใช้ประโยชน์ ผลงานวิจัยที่เชื่อมโยงกับความต้องการของพื้นที่ หรือ สนองตอบความต้องการของพื้นที่ 1.3 การวางระบบการติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์ ประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และความคุ้มค่าของ โครงการทั้งในด้านผู้ผลิตผลงานวิจัยและผู้ใช้ ประโยชน์จากผลงานวิจัย โดยจะต้องมีการประเมินผล ทั้งในระดับโครงการ กลุ่มโครงการ (ประเด็นพัฒนา) และ ภาพรวมที่ตอบเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ของแผน ยุทธศาสตร์ส�ำคัญของประเทศในระดับต่างๆ นอกจากนี้ ต้องมีการประเมินผลในเชิงพื้นที่เพื่อวิเคราะห์เชื่อมโยง ประเด็นพัฒนาในระดับพื้นที่ที่เชื่อมโยงกับเป้าหมาย เชิงยุทธศาสตร์ของแต่ละพื้นที่ตั้งแต่ระดับชุมชน จังหวัด ภูมิภาค และประเทศ อีกทั้งจะต้องมีการพัฒนาตัวชี้วัด เพื่อวัดเป้าหมายของกรอบวิจัยและนวัตกรรมทั้งในระดับ ผลผลิต ผลลัพธ์ และผลกระทบ โดยเฉพาะเป้าหมายตัวชี้วัด ที่ถูกก�ำหนดภายใต้แผน ววน. อว. เพื่อใช้ชี้วัดผลส�ำเร็จ ที่เกิดขึ้นจากการสนับสนุนการวิจัยและนวัตกรรม ของ วช. อาทิ ดัชนีพฤฒพลัง เพื่อลดปัญหา Over Claim ผลงาน หรือ Under Claim ผลงาน 1.4 การวางระบบที่เรียกว่าตอบกลับ (FeedBack) เพื่อให้เกิดการสะท้อนภาพ (Reflection) และการเรียนรู้ (Learning) ทั้งของเจ้าหน้าที่ วช. และนักวิจัยหรือผู้ผลิตผลงานวิจัย รวมทั้งผู้ใช้ประโยชน์ จากงานวิจัย ได้รับรู้และมีส่วนร่วม ในการสะท้อนภาพของการส่งเสริมการวิจัยและ นวัตกรรมด้านผู้สูงอายุ ซึ่งจะน�ำไปสู่การปรับปรุง บทบาทของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอนาคต โดยการมีการ ติดตามประเมินผลอย่างต่อเนื่อง และแจ้งผลการประเมินผล ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น การน�ำเสนอใน Website ของ วช. เป็นต้น


76 บทที่ 5 บทบาท วช. จากก้าวแรกสู่ก้าวต่อไป : การใช้ประโยชน์วิจัยและนวัตกรรมในการเสริมพลังผู้สูงวัย เพื่อหนุนเสริมการพัฒนาประเทศ 2. ประเด็นวิจัยเพื่อการพัฒนาผู้สูงอายุที่ต้องด�ำเนินการต่อไป แม้ว่า วช. ได้มีการส่งเสริมให้มีการวิจัยและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาผู้สูงอายุมาตั้งแต่ ปี 2563 - ปัจจุบัน แต่ประเทศยังต้องเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจ ที่ท�ำให้ผู้สูงอายุเข้าสู่ตลาดแรงงานเพิ่มขึ้น เพื่อลดปัญหาความไม่มั่นคง ทางการเงิน เนื่องจากความไม่เพียงพอของค่าใช้จ่ายในชีวิตประจ�ำวันเพราะภาระเงินเฟ้อและค่าใช้จ่ายในการรักษา พยาบาลสูงขึ้น และเนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจและพฤติกรรมการใช้ชีวิต ระดับการศึกษาไม่สูง ท�ำให้ผู้สูงอายุ บางกลุ่มต้องเผชิญกับปัญหาความยากจนและมีปัญหาสุขภาพ โดยเฉพาะเป็นโรค NCDs มากขึ้น ไร้บ้าน ถูกทอดทิ้ง ย้ายถิ่นกลับภูมิล�ำเนาเดิมและอยู่คนเดียวสูงขึ้น นอกจากนี้จ�ำนวนผู้สูงอายุไร้สิทธิและมีความหลากหลายทางเพศ สูงขึ้น ประกอบกับปัญหาโครงสร้างพื้นฐานและสภาพแวดล้อม รวมทั้งที่อยู่อาศัยยังไม่เอื้อต่อการด�ำเนินชีวิต ที่มีคุณภาพ แม้ว่าจะมีการจัดเตรียมโครงสร้างพื้นฐานและสภาพแวดล้อมเพื่อการด�ำรงชีวิตของผู้สูงอายุ ไปในระดับหนึ่งแล้ว แต่ไม่ได้มาตรฐานสากลและเป็นมิตรและเป็นธรรมกับผู้สูงอายุและคนพิการ พื้นที่สาธารณะ ยังเสื่อมโทรมและไม่เอื้อต่อการใช้ประโยชน์ ดังนั้น พื้นที่สาธารณะ สิ่งอ�ำนวยความสะดวก และบริการต่างๆ ยังเป็น อุปสรรคต่อการใช้ชีวิตอย่างสะดวกและปลอดภัยของผู้สูงอายุ ในขณะที่บ้านที่มีสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม ท�ำให้ผู้สูงอายุเกิดปัญหาการพลัดตกหกล้ม ยิ่งไปกว่านั้น ประเทศไทยจะต้องเตรียมความพร้อมประชากร Gen X และ Y ก่อนเข้าสู่วัยสูงอายุ (25 - 59 ปี) ในอีก 10 - 15 ปี หากรัฐไม่ด�ำเนินการใด จะท�ำให้จ�ำนวนผู้สูงอายุที่ต้องเผชิญกับ ปัญหาเศรษฐกิจและสังคม พร้อมทั้งอยู่สภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้อต่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดีสูงขึ้น ดังนั้น ผลจากการ วิเคราะห์ด้วยเส้นทางผลกระทบ พบว่า สิ่งที่ วช. จะต้องด�ำเนินการให้การสนับสนุนทุนวิจัยในประเด็น ดังนี้ ประเด็นวิจัยเพื่อการพัฒนาผู้สูงอายุที่ต้องด�ำเนินการต่อไป บร�หารจัดการและการมีสวนรวม • การเสร�มสรางพลังทางสังคม ใหชุมชนมีสวนรวมในการบร�หาร จัดการรองรับสังคมสูงวัย • พัฒนาศักยภาพหนวยงานทองถิ�นในการจัดการงานดานผูสูงอายุ • ปฏิรูประบบกฎหมายเพ�่อรองรับการดำเนินงานเชิงรุกของทุกภาคสวน ในการรองรับสังคมสูงวัย • พัฒนาระบบการพ�ทักษและคุมครองสิทธิผูสูงอายุ • พัฒนาขอมูลและสรางกลไกเชื่อมโยงฐานขอมูลดานผูสูงอายุจาก หนวยงานภาครัฐที่เกี่ยวของ ดานสภาพแวดลอมชุมชน/ที่อยูอาศัย • เรงตะหนักและรอบรูถึงความสำคัญของที่อยูอาศัยและ สภาพแวดลอมที่เหมาะสมกับผูสูงวัย • สงเสร�มการปรับปรุงที่อยูอาศัยของผูสูงอายุ • สงเสร�มใหมีการเพ�่มและกระจายพ�้นที่สาธารณะสำหรับผูสูงอายุ • พัฒนาชุมชนเปนพ�้นที่สำหรับการดูแลผูสูงอายุ • สงเสร�มการขยายตัวของธุรกิจและอุสาหกรรมการผลิตวัสดุ อุปกณและสิ�งอำนวยความสะดวกสำหรับผูสูงอายุ • สรางความเปนธรรมในการเขาถึงที่อยูอาศัย สิ�งอำนวยความสะดวก ใหผูสูงอายุ • เรงสรางโครงสรางพ�้นฐานทางสังคม การทำงาน การออม และสรางรายได • ผูสูงอายุอยูและเขาสูตลาดแรงงาน เพ�่อรักษาผลิตภาพการผลิต และผลิตภาพแรงงานของประเทศ • การพลิกว�กฤติใหเปนโอกาสทางเศรษฐกิจ โดยใชเทคโนโลยีและ นวัตกรรม มาชวยใหผูสูงอายุมีศักยภาพและคุณภาพชีว�ตเพ�่มข�้น การพัฒนาระบบสุขภาพ • การเตร�ยมความพรอมของประชากรกอนวัยสูงวัย (กลุมอายุ 25 - 59 ป) • กลุมอายุ 60 ปข�้นไป โดยเสร�มสรางความรอบรูดานสุขภาพ และพัฒนาระบบสุขภาพรองรับสังคมสูงวัย • เรงพัฒนามาตรฐานและแกไขปญหากลุมผูสูงอายุเปราะบาง ทางสังคม การสรางระบบสวัสดิการและการคุมครองเพ�่อยกระดับคุณภาพชีว�ต ของผูสูงอายุ • การรณรงคประชาสัมพันธใหผูสูงอายุที่มีสิทธิและตองการใชสิทธิมารับสิทธิ • พัฒนาระบบสวัสดิการและคุมครองใหสอดคลองกับบร�บทของการเปลี่ยนแปลงในปจจ�บัน • พัฒนาระบบสวัสดิการและคุมครองใหกับกลุมเปราะบางทางสังคม


บทที่ 5 77 บทบาท วช. จากก้าวแรกสู่ก้าวต่อไป : การใช้ประโยชน์วิจัยและนวัตกรรมในการเสริมพลังผู้สูงวัย เพื่อหนุนเสริมการพัฒนาประเทศ 2.1 การท�ำงาน การออม และสร้างรายได้ 2.1.1 ผู้สูงอายุอยู่และเข้าสู่ตลาดแรงงานเพื่อรักษา ผลิตภาพการผลิตและผลิตภาพแรงงานของประเทศ ท�ำให้รักษาอัตราการเติบโตของ GDP และลดภาระ การคลังอันเนื่องจากสวัสดิการ รวมทั้งลดความไม่มั่นคง ทางรายได้หลังเกษียณจากการมีชีวิตยืนยาวเกินกว่า มูลค่าทรัพย์สินที่สะสมในช่วงวัยหลังเกษียณ ซึ่งส่วนหนึ่ง คือค่าครองชีพสูงขึ้นจากสภาวะเงินเฟ้อและค่าใช้จ่าย ในการรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้น โดยให้ความส�ำคัญกับ การพัฒนาให้เกิดความมั่นคงทางรายได้ด้วยการสร้างทุน ทางปัญญาและทุนทางสุขภาพ (1) ประชากรก่อนวัยสูงวัย (25 - 59 ปี) ต้องเน้น การเตรียมความพร้อมของประชากรก่อนเข้าสู่วัยสูงวัย เพื่อให้มีชีวิตดีในยามสูงอายุ โดย • การเพิ่มภาพการผลิตเพื่อรักษาผู้เข้าสู่วัยสูงอายุ ให้อยู่ในตลาดแรงงานนานขึ้นเพื่อสร้างรายได้และ รักษาอัตราการเติบโตของ GDP ด้วยการขยาย อายุเกษียณและส่งเสริมการท�ำงานอย่างต่อเนื่องของ ประชากรวัยท�ำงาน เสริมสร้างทุนทางปัญญา โดยให้ ความส�ำคัญกับการเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ต่อเนื่องตลอดชีวิต และพัฒนาทักษะที่จ�ำเป็นตรงตามความต้องการ ของตลาดที่ปรับเปลี่ยนไปตามบริบท รวมทั้งการเรียนรู้ เท่าทันสื่อ และการใช้สื่อสารสนเทศและเทคโนโลยีดิจิทัล อย่างสร้างสรรค์ • การส่งเสริมการออมเพื่อท�ำให้ปริมาณเงินออม อยู่ในระดับที่เพียงพอต่อการด�ำรงชีวิตหลังเกษียณ ซึ่งปัจจุบันผู้สูงอายุส่วนใหญ่มีเงินออมต�่ำและไม่เพียงพอ ต่อการใช้ชีวิตหลังเกษียณ โดยเร่งมูลค่าของเงิน ให้ชนะเงินเฟ้อ ด้วยการลงทุน เช่น การลงทุนที่สามารถ ลดหย่อนภาษีได้ (RMF , LTF) หรือประกันแบบบ�ำนาญ เมื่อได้เงินภาษีคืนก็ให้น�ำเงินคืนภาษีมาลงทุนต่อ เพื่อเพิ่มเติมความมั่งคั่งทางรายได้ รวมทั้งสร้างพฤติกรรม การออมระยะยาวเพื่อการใช้ชีวิตหลังจากเกษียณอายุ และเพิ่มระบบออมภาคบังคับส�ำหรับกลุ่มแรงงานนอกระบบ • พัฒนาระบบบ�ำนาญ อาทิ การเพิ่มอัตราสมทบ หรือมาตรการช่วยเหลือแบบให้เปล่าจากภาครัฐ ในจ�ำนวนที่เพียงพอเพื่อไว้ใช้ในยามเกษียณได้ ปัจจุบัน ประเทศไทยมีอัตราการทดแทนรายได้หลังเกษียณ ในระดับที่ยังไม่เพียงพอต่อการด�ำรงชีวิตหลังเกษียณ และเร่งปฏิรูประบบหลักประกันยามชราภาพให้เป็นไป อย่างบูรณาการและยั่งยืน สามารถครอบคลุมผู้สูงอายุ อย่างพอเพียง ทั่วถึง และเป็นธรรม • จัดการแผนค่ารักษาพยาบาลหลังเกษียณ เพื่อเพิ่มหรือรักษาทุนทางสุขภาพ ให้มีแผนสวัสดิการ สุขภาพตลอดชีวิต โดยการท�ำประกันสุขภาพ ให้ครอบคลุมถึงอายุขัยที่คาดการณ์ไว้และต้องลงทุนเงิน เพื่อให้มูลค่าเพียงพอให้การจ่ายเบี้ยประกันในอนาคต (2) กลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป โดยการส่งเสริมผู้สูงอายุ เข้าสู่ตลาดแรงงาน การจะน�ำกลุ่มนี้เข้าสู่ตลาดแรงงาน อาจต้องพิจารณาคุณลักษณะของทุนมนุษย์กับ ความต้องการในการท�ำงาน เพื่อก�ำหนดประเด็นการ พัฒนาให้เหมาะสมกับกลุ่ม ซึ่งปัจจุบันมีผู้สูงอายุ ร้อยละ 34.7 ของผู้สูงอายุทั้งหมดยังคงท�ำงานอยู่ สาเหตุของ การท�ำงานส่วนใหญ่ประมาณร้อยละ 47.3 เป็นกลุ่มที่ ยังมีทุนทางสุขภาพดี และประมาณร้อยละ 44.6 ต้องการ เลี้ยงครอบครัวและตนเอง และพบอีกว่า 1 ใน 5 ของ ผู้มีอายุ 60 - 79 มีสุขภาพไม่ดี ไม่ต้องการท�ำงาน แต่ต้องท�ำงาน ส�ำหรับที่เหลือร้อยละ 65.3 ไม่มีงานท�ำ และผลจากการศึกษาพบว่า 1 ใน 4 ของผู้มีอายุ 60 - 79 ปี ยังมีสุขภาพดี ต้องการท�ำงานแต่ไม่มีโอกาสท�ำงาน อย่างไรก็ตามผู้สูงอายุที่มีสุขภาพดี มีแนวโน้มที่จะ ท�ำงานเชิงเศรษฐกิจมากกว่าผู้สูงอายุที่สุขภาพไม่ดี ประกอบกับผลการส�ำรวจของส�ำนักงานสถิติพบว่า ร้อยละ 96.9 เป็นกลุ่มติดสังคม ที่เหลือคือติดบ้าน และติดเตียง กลุ่มติดสังคมแม้ว่าจะมีปัญหาสุขภาพ ด้วยโรค NCDs และปัญหาสายตาไม่ดี แต่ยังสามารถ ออกไปสู่สังคมได้ สะท้อนว่ายังมีต้นทุนทางสุขภาพที่ดี ที่สามารถท�ำงานได้ นอกจากนี้ ความต้องการท�ำงาน จะลดลงตามวัยที่สูงขึ้น ซึ่งอาจอนุมานว่าในกลุ่มผู้มีอายุ 80 ปีขึ้นไป ความต้องการในการท�ำงานลดลง และต้นทุน สุขภาพน่าจะลดลงด้วย ดังนั้น ประเด็นการวิจัยเพื่อการ พัฒนาในกลุ่มนี้จึงสามารถแบ่งได้ ดังนี้


78 บทที่ 5 บทบาท วช. จากก้าวแรกสู่ก้าวต่อไป : การใช้ประโยชน์วิจัยและนวัตกรรมในการเสริมพลังผู้สูงวัย เพื่อหนุนเสริมการพัฒนาประเทศ • เพิ่มผลิตภาพการผลิตและรักษาผู้สูงอายุ ที่ยังท�ำงานอยู่ให้อยู่ในตลาดแรงงานให้นานที่สุด โดยเฉพาะช่วงอายุ 60 - 79 ปี โดยการสร้างทุน ทางปัญญา อาทิ สร้างโอกาสการเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ ต่อเนื่องตลอดชีวิต และพัฒนาทักษะที่จ�ำเป็นตรงตาม ความต้องการของตลาดที่ปรับเปลี่ยนไปตามบริบท รวมทั้งการรู้เท่าทันสื่อ และใช้สื่อสารสนเทศและเทคโนโลยี ดิจิทัลอย่างสร้างสรรค์ ส�ำหรับผู้มีสุขภาพไม่ดีแต่มีความ จ�ำเป็นต้องท�ำงานเนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจ รัฐควรมี มาตรการรองรับที่ส�ำคัญ เช่น การให้โอกาสผู้สูงอายุ ที่มีศักยภาพในการท�ำงานให้สามารถเข้าสู่ระบบประกัน สุขภาพเพื่อดูแลรักษาสุขภาพ หรือจัดหางานให้เหมาะสม กับศักยภาพหรือทุนมนุษย์ เป็นต้น • เร่งดึงผู้สูงอายุที่ยังไม่ท�ำงานแต่ยังมีศักยภาพ เข้าสู่ตลาดแรงงาน โดยเฉพาะช่วงอายุ 60 - 79 ปี ที่มีสุขภาพดีและต้องการท�ำงานเข้าสู่ระบบตลาดแรงงาน โดยเร่งพัฒนาทุนทางปัญญาหรือศักยภาพของผู้สูงอายุ ที่ยังต้องการท�ำงานให้มีความพร้อมในการท�ำงานและ สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงาน ปัจจุบัน อาทิ เพิ่มทักษะและการจัดหางานให้เหมาะสม กับแรงงานเพื่อเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพที่หลากหลาย มากขึ้น มีระบบคุ้มครองทางสังคมให้ผู้สูงอายุพึ่งพา ตนเองได้ และสนับสนุนให้มีการจ้างงานผู้สูงอายุ รวมทั้ง ปรับเปลี่ยนอาชีพให้เหมาะสมในแต่ละช่วงวัยทั้งในระบบ และนอกระบบ และเพิ่มพูนทักษะหรือโอกาสในการท�ำงาน ด้วยการเพิ่มช่องทางการเรียนรู้ส�ำหรับผู้สูงอายุ เป็นต้น (3) กลุ่มเปราะบางทางสังคม กลุ่มนี้มี 6 ประเภท ซึ่งแต่ละประเภทอาจต้องการการท�ำงานที่แตกต่าง ตามคุณลักษณะ มีความสามารถพิเศษที่แตกต่าง ดังนั้น อาจต้องมีการศึกษาเพื่อก�ำหนดนโยบายหรือมาตรการ ช่วยเหลือเฉพาะกลุ่ม 2.1.2 การพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสทางเศรษฐกิจ ด้วยการส่งเสริมสนับสนุนทุนวิจัยและนวัตกรรม และน�ำ ผลงานวิจัย เทคโนโลยีและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ จนท�ำให้ผู้สูงอายุมีศักยภาพและคุณภาพชีวิตเพิ่มขึ้น นอกจากจะเพิ่มโอกาสการเข้าถึงเทคโนโลยีแล้ว ยังลด การน�ำเข้าและเพิ่มการส่งออกสินค้าและบริการ ด้านผู้สูงอายุอีกด้วย การเข้าสู่สังคมสูงวัยท�ำให้หลาย ประเทศให้ความส�ำคัญกับพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะช่วยให้ผู้สูงอายุสามารถใช้ชีวิตด้วยตัวเองได้ง่าย และปลอดภัยขึ้น อาทิ นวัตกรรมอาหาร นวัตกรรม สุขภาพ นวัตกรรมเพื่อความสะดวกและความปลอดภัย และนวัตกรรมเพื่อการดูแลผู้สูงอายุ เป็นต้น 2.2 การพัฒนาระบบสุขภาพ สุขภาพของผู้สูงอายุมีแนวโน้มเสื่อมโทรมเมื่อมีอายุ มากขึ้น โดยประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไป มีอัตราการป่วยตาย ด้วยโรค NCDs เพิ่มขึ้นทุกปี จนเป็นผลท�ำให้ ผู้สูงอายุ ที่อยู่ในสภาวะพึ่งพาสูงขึ้น โดยคาดว่าจะเพิ่มจาก 6 แสนคนในปี 2559 เป็น 1.6 ล้านคนในปี 2593 สาเหตุหลักมาจากพฤติกรรมการดูแลสุขภาพ ที่พึงประสงค์มีน้อย คือประมาณร้อยละ 25.1 หรือ 1 ใน 4 ของผู้สูงอายุทั้งหมด จนกลายเป็นผู้สูงอายุ ติดบ้านและติดเตียงในที่สุด ดังนั้นการแก้ไขปัญหา ด้านสุขภาพ ต้องให้ความส�ำคัญกับการพัฒนาในเชิงรุก เน้นการป้องกันมากกว่าแก้ไขที่สอดคล้องกับความต้องการ ของแต่ละกลุ่ม โดย 2.2.1 การเตรียมความพร้อมของประชากร ก่อนวัยสูงวัย (กลุ่มอายุ 25 - 59 ปี) โดย (1) เสริมสร้าง ความรู้ความเข้าใจถึงกระบวนการชราภาพ ตระหนักถึง คุณค่า ศักดิ์ศรี และมีความรับผิดชอบต่อผู้สูงอายุ (2) ส่งเสริมการพัฒนาความรู้และศักยภาพของตนเอง อย่างต่อเนื่อง รู้เท่าทัน และสามารถเลือกใช้ประโยชน์ จากสื่อสารสนเทศและเทคโนโลยีดิจิทัล (3) เร่งเสริมสร้าง ความรอบรู้ด้านสุขภาพและสร้างความตระหนัก ถึงความส�ำคัญของการมีสุขภาพดีและพฤติกรรมสุขภาพ ที่พึงประสงค์ และ (4) ส่งเสริมความรู้เกี่ยวกับที่อยู่อาศัย และสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับวัยสูงอายุ ยกระดับ คุณภาพชีวิตด้านสุขภาพ เพื่อผู้สูงอายุมีสุขภาพกาย และสุขภาพจิตที่ดี สามารถพึ่งตนเองได้นานที่สุด 2.2.2 กลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป โดยเสริมสร้างความรอบรู้ ด้านสุขภาพ และพัฒนาระบบสุขภาพรองรับสังคมสูงวัย เชิงรุกที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้สูงอายุ


บทที่ 5 79 บทบาท วช. จากก้าวแรกสู่ก้าวต่อไป : การใช้ประโยชน์วิจัยและนวัตกรรมในการเสริมพลังผู้สูงวัย เพื่อหนุนเสริมการพัฒนาประเทศ แต่ละกลุ่ม (กลุ่มติดสังคม ติดบ้าน และติดเตียง) และ เหมาะกับบริบทของพื้นที่ และต้องเร่งพัฒนาระบบการดูแล ที่เหมาะสม อาทิ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต�ำบล ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พัฒนาบุคลากร ดูแลผู้สูงอายุ พัฒนาระบบสุขภาพเชื่อมโยงจาก สถานพยาบาลสู่ชุมชน และส่งเสริมให้ชุมชนท้องถิ่น มีระบบการดูแลและส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ ซึ่งเรื่อง การดูแลรักษาฟื้นฟูผู้สูงอายุนั้นมีความแตกต่าง จากประชาชนทั่วไป ทั้งลักษณะอาการป่วย การตรวจ วินิจฉัยโรค เพราะร่างกายอยู่ในวัยเสื่อม/เสี่ยงบาดเจ็บ พิการ และเสียชีวิตได้ง่ายกว่าวัยอื่น 2.2.3 เร่งพัฒนามาตรการและแก้ไขปัญหา กลุ่มผู้สูงอายุเปราะบางทางสังคม กลุ่มนี้ต้องได้รับการดูแล เป็นพิเศษ เพราะต้องเผชิญกับปัญหาสุขภาพเสื่อมโทรม ตามอายุที่มากขึ้น และยังต้องเผชิญกับปัญหาสุขภาพ เฉพาะที่เกิดขึ้นจากพฤติกรรมหรือรูปแบบการใช้ชีวิต ที่ไม่เหมือนกลุ่มผู้สูงอายุทั่วไป มีความเสี่ยงในการด�ำเนินชีวิต สูงกว่ากลุ่มอื่นๆ ดังนั้น รัฐต้องเร่งหามาตรการป้องกัน มิให้ผู้สูงอายุทั่วไปต้องเข้ามาในกลุ่มเปราะบางเพิ่มขึ้น และเยียวยาปัญหากลุ่มเปราะบางที่มีอยู่ 2.3 การสร้างระบบสวัสดิการและการคุ้มครอง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ เนื่องจากปัญหาทางเศรษฐกิจเพราะทุนทางปัญญา และทุนทางสุขภาพ ท�ำให้ผู้สูงอายุจ�ำนวนมากมีรายได้ ต�่ำกว่าเส้นความยากจน ณ ปี 2565 มีผู้สูงอายุ ร้อยละ 34 หรือประมาณ 1 ใน 3 ของผู้สูงอายุทั้งหมด ต้องเผชิญกับปัญหาความยากจน แม้ว่าจะมีงานท�ำ และมีรายได้จากบุตร ก็ยังไม่เพียงพอต่อการด�ำรงชีวิต จนกลายเป็นภาระของบุตร และด้วยภาวะทางเศรษฐกิจ และคุณธรรมที่เสื่อมถอย จึงท�ำให้จ�ำนวนผู้สูงอายุ ถูกทอดทิ้งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และบางรายเป็นผู้สูงอายุ ไร้บ้าน รวมทั้งภาวะเศรษฐกิจในเขตเมืองท�ำให้ผู้สูงอายุ และใกล้สูงอายุย้ายถิ่นกลับ นอกจากนี้ผู้สูงอายุไร้สิทธิ และความหลากหลายทางเพศก็มีแนวโน้มสูงขึ้น ผู้สูงอายุ เหล่านี้กลายเป็นกลุ่มเปราะบางทางสังคม ต้องมีการ เตรียมการเพื่อดูแลเป็นพิเศษ เพราะนอกจากจะ ประสบปัญหาพื้นฐานเช่นเดียวกับผู้สูงอายุทั่วไปแล้ว ยังต้องประสบปัญหาซับซ้อนเฉพาะกลุ่ม นอกจากนี้ การพัฒนาทุนมนุษย์ นอกจากทุนทางปัญญาและทุนทาง สุขภาพแล้ว ยังต้องมีการพัฒนาทุนทางอารมณ์และ ทุนทางสังคมเพื่อน�ำไปสู่การมีทุนมนุษย์ที่สมบูรณ์ ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีการศึกษาทั้งสองเรื่องนี้มากนัก อย่างไรก็ตามทุนทางอารมณ์และทุนทางสังคมจะลดลง หากผู้สูงอายุมีปัญหาสุขภาพและสถานะทางการเงิน เนื่องจากมีรายจ่ายในการด�ำรงชีวิตสูง ท�ำให้ไม่สามารถ ออกจากบ้าน โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่อยู่คนเดียว ซึ่งมีแนวโน้ม เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ท�ำให้รู้สึกเหงา ไม่มีคนดูแล เมื่อยามเจ็บป่วยและถูกทอดทิ้ง ปัจจุบันสวัสดิการสังคมส�ำหรับผู้สูงอายุ ด�ำเนินงาน อยู่ภายใต้กรอบกฎหมายที่ส�ำคัญคือ พระราชบัญญัติ ผู้สูงอายุ พ.ศ. 2546 และฉบับแก้ไข พ.ศ. 2553 และแผน ผู้สูงอายุแห่งชาติ ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่ปี 2545 จนถึง ปัจจุบัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ผู้สูงอายุ มีคุณภาพชีวิตที่ดีด้วยการด�ำรงชีวิตอย่างมีคุณค่า พึ่งพาตนเองได้ และมีหลักประกันที่มั่นคง เพื่อการเป็น ผู้สูงอายุที่มีคุณภาพ ซึ่งมีสวัสดิการที่ส�ำคัญ ดังนี้ (1) ด้านสุขภาพและสาธารณสุข โดยมีการดูแลสุขภาพ ผู้สูงอายุผ่านระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการและระบบ ประกันสังคม พร้อมทั้งการจัดช่องทางพิเศษเฉพาะเพื่อให้ ผู้สูงอายุได้รับการบริการที่สะดวก รวดเร็ว (2) ด้านการ ศึกษา โดยจัดศูนย์การเรียนรู้ในชุมชน และให้มีหลักสูตร การศึกษาเกี่ยวกับผู้สูงอายุ ตั้งแต่การศึกษาขั้นพื้นฐาน ถึงขั้นอุดมศึกษาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัย และมีรายการต่างๆ เพื่อผู้สูงอายุ (3) ด้านการสร้างงานและมีรายได้ เน้นการประกอบอาชีพ ฝึกอาชีพที่เหมาะสม โดยมีข้อมูลคําปรึกษา ข่าวสาร ตลาดแรงงาน การจัดหางาน รับสมัครงาน บริการข้อมูล ทางอาชีพ ต�ำแหน่งงาน การอบรมและฝึกอาชีพ โดยมี ศูนย์กลางข้อมูลทางอาชีพและต�ำแหน่งงานส�ำหรับ ผู้สูงอายุเป็นการเฉพาะที่ส�ำนักงานจัดหางานทุกแห่ง รวมทั้งการช่วยเหลือเงินเบี้ยยังชีพให้กับผู้สูงอายุ


80 บทที่ 5 บทบาท วช. จากก้าวแรกสู่ก้าวต่อไป : การใช้ประโยชน์วิจัยและนวัตกรรมในการเสริมพลังผู้สูงวัย เพื่อหนุนเสริมการพัฒนาประเทศ ตลอดชีพที่มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ เพื่อให้มีรายได้ เพียงพอในการด�ำรงชีวิต (4) ด้านการพัฒนาตนเอง การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคม การรวมกลุ่ม ในลักษณะเครือข่ายชุมชน การส่งเสริมและสนับสนุน กลุ่มหรือชมรมผู้สูงอายุ ให้มีส่วนร่วมในกิจกรรม ทางสังคมภายในชุมชนและ/หรือระหว่างชุมชน และส่งเสริม การใช้ศักยภาพผู้สูงอายุ โดยเพิ่มการจัดกิจกรรมกีฬา นันทนาการ และการถ่ายทอดภูมิปัญญา (5) ด้านสภาพ แวดล้อมและระบบนิเวศเพื่ออ�ำนวยความสะดวก และความปลอดภัยในสถานที่สาธารณะ โดยลดหย่อน ค่าโดยสารครึ่งราคาทุกชั้นตลอดทาง รวมทั้งการจัด สภาพแวดล้อม สถานที่ท่องเที่ยว สนามกีฬาและ ส่วนนันทนาการ และจัดบริการเพื่ออ�ำนวยความสะดวก ด้านพิพิธภัณฑ์ โบราณสถาน หอจดหมายเหตุแห่งชาติ และสถานที่จัดกิจกรรมด้านศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม ให้เหมาะสม พร้อมมีเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือและบริการอื่นๆ เพื่อความปลอดภัยของผู้สูงอายุตามที่คณะกรรมการ ผู้สูงอายุแห่งชาติประกาศ รวมทั้งก�ำหนดยกเว้นค่าเข้าชม สถานที่ของรัฐ (6) ด้านกลุ่มเปราะบางทางสังคม โดยให้การช่วยเหลือด้านที่พักอาศัย อาหาร และ เครื่องนุ่งห่มตามความจ�ำเป็น กรณีผู้สูงอายุเดือดร้อน และให้ค�ำปรึกษาพร้อมช่วยเหลือผู้สูงอายุกรณีที่ ถูกทารุณกรรม แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฎหมาย และถูกทอดทิ้ง รวมทั้งสงเคราะห์ในการจัดการศพ ตามประเพณีส�ำหรับผู้สูงอายุอยู่ในครอบครัวที่ยากจน1 อย่างไรก็ตามระบบสวัสดิการและการคุ้มครองผู้สูงอายุ นอกจากขาดการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ผู้สูงอายุ รับรู้สิทธิแล้ว ยังต้องพัฒนาระบบนี้ให้สอดคล้องกับ บริบทของการเปลี่ยนแปลง และให้สอดคล้องและสมดุล กับรายได้ทางการคลัง เพื่อมิให้เป็นภาระทางการคลัง ในอนาคต ดังนั้น ประเด็นวิจัยควรประกอบด้วย 2.3.1 การรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ผู้สูงอายุ ที่มีสิทธิและต้องการใช้สิทธิมารับสิทธิตามสิทธิที่มี โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง 2.3.2 พัฒนาระบบสวัสดิการและคุ้มครอง ให้สอดคล้องกับบริบทของการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน และสอดคล้องกับฐานะทางการคลังของประเทศ เพื่อมิให้เป็นภาระทางการคลังในอนาคต รวมทั้ง เพิ่มโอกาสและลดความเหลื่อมล�้ำในการเข้าถึง เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ 2.3.3 พัฒนาระบบสวัสดิการและคุ้มครองให้กับ กลุ่มเปราะบางทางสังคม แม้ว่ารัฐจะมีมาตรการ อาทิ ให้ความช่วยเหลือผู้สูงอายุที่ถูกทอดทิ้งตามความจ�ำเป็น และเหมาะสม และหากเป็นกรณีที่ผู้สูงอายุประสบปัญหา หรือได้รับความเดือดร้อนและมีความจ�ำเป็นเรื่องที่พักอาศัย สามารถเข้ารับบริการในศูนย์บริการผู้สูงอายุหรือสถานที่ อื่นที่เหมาะสมตามที่กฎหมายก�ำหนดไว้ นอกจากนี้ ในแผนผู้สูงอายุแห่งชาติได้ให้ความส�ำคัญกับครอบครัว ของผู้สูงอายุเป็นผู้รับผิดชอบหลักในการดูแลผู้สูงอายุ ส่วนชุมชนหรือท้องถิ่นจะเป็นผู้ให้การสนับสนุนการดูแล ในล�ำดับรอง และรัฐจะให้ความช่วยเหลือเท่าที่จ�ำเป็น เท่านั้น แต่มาตรการเหล่านี้ยังไม่เพียงพอ และไม่เหมาะสม กับสถานการณ์ผู้สูงอายุที่ถูกทอดทิ้งในปัจจุบัน รวมถึง จ�ำนวนผู้สูงอายุถูกทอดทิ้งที่อาจเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต ซึ่งกลุ่มเฉพาะนี้ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ 2.4 ด้านสภาพแวดล้อมชุมชน/ที่อยู่อาศัย เน้นการใช้ชุมชนเป็นฐานในการสร้างและปรับปรุง สภาพแวดล้อมทางกายภาพที่เป็นมิตรต่อคนทุกกลุ่ม ทั้งภายในบ้านและนอกบ้าน รวมทั้งระบบการคมนาคม และบริการต่างๆ ที่เอื้อต่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ในลักษณะความปกติใหม่ (New Normal) ที่เชื่อมโยง กับการใช้ชีวิตประจ�ำวัน การมีสุขภาวะที่ดี และการมีส่วนร่วม ในสังคมอย่างสะดวกและปลอดภัย โดย 2.4.1 เร่งตระหนักและรอบรู้ถึงความส�ำคัญของ ที่อยู่อาศัยและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับผู้สูงวัย และเพิ่มโอกาสในการปรับสภาพที่อยู่อาศัย 1 หนังสือคู่มือสิทธิผู้สูงอายุ (dop.go.th)


บทที่ 5 81 บทบาท วช. จากก้าวแรกสู่ก้าวต่อไป : การใช้ประโยชน์วิจัยและนวัตกรรมในการเสริมพลังผู้สูงวัย เพื่อหนุนเสริมการพัฒนาประเทศ 2.4.2 ส่งเสริมการปรับปรุงที่อยู่อาศัยของ ผู้สูงอายุทั้งภายในและภายนอก โดยเฉพาะครัวเรือน ที่มีบิดามารดาสูงอายุอาศัยอยู่ด้วย 2.4.3 ส่งเสริมให้มีการเพิ่มและกระจายพื้นที่ สาธารณะ สิ่งอ�ำนวยความสะดวก และบริการสาธารณะ ที่เอื้อต่อคนทุกวัยให้เหมาะกับบริบทของสังคมเมือง และชนบท 2.4.4 พัฒนาชุมชนเป็นพื้นที่ส�ำหรับการดูแล ผู้สูงอายุให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีในระยะยาว 2.4.5 ส ่ ง เ ส ริ ม ก า ร ข ย า ย ตั ว ข อ ง ธุ ร กิ จ แ ล ะ อุตสาหกรรมการผลิตวัสดุอุปกรณ์และสิ่งอ�ำนวย ความสะดวกส�ำหรับผู้สูงอายุ 2.4.6 สร้างความเป็นธรรมในการเข้าถึงที่อยู่อาศัย วัสดุอุปกรณ์และสิ่งอ�ำนวยความสะดวก ให้แก่ผู้สูงอายุ นอกจากนี้ต้องสร้างระบบทางสัญจรและการคมนาคม ทางบกที่เอื้อต่อคนทุกวัย 2.4.7 เร่งสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางสังคมเพื่อให้ ผู้สูงอายุร่วมเป็นพลังทางสังคม ขับเคลื่อนสังคมไทย ด้วยการน�ำความรู้ประสบการณ์และภูมิปัญญา ที่สั่งสมมาตลอดช่วงชีวิตมาถ่ายทอดสู่คนรุ่นหลัง ในขณะเดียวกันผู้สูงอายุต้องได้รับการยอมรับไม่ถูก กีดกันหรือเลือกปฏิบัติ ได้รับการให้คุณค่าและเคารพ ยกย่องตามวัฒนธรรมอันดีงามของชาติ ด้วยการ รณรงค์ให้สังคมตระหนักถึงคุณค่าและศักดิ์ศรี ของผู้สูงอายุ รวมทั้งรักษาค่านิยมของสังคมในการดูแล รับผิดชอบผู้สูงอายุในครอบครัวและชุมชน ร่วมกับ การส่งเสริมสื่อสารสนเทศเพื่อผู้สูงอายุและการสร้าง ความเข้มแข็งของครอบครัวและชุมชนให้สามารถ ท�ำหน้าที่ดูแลเกื้อหนุนผู้สูงอายุ เพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถ อยู่ในบ้าน อยู่กับครอบครัว อยู่ในชุมชนเดิมได้นานที่สุด ด้วยการเพิ่มบทบาทและการมีส่วนร่วมของภาครัฐ เอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ครอบครัว และ ชุมชน ในการพัฒนาผู้สูงอายุให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น อย่างต่อเนื่อง 2.5 บริหารจัดการและการมีส่วนร่วม เพื่อให้มีระบบการจัดการด้านการพัฒนาคุณภาพ ชีวิตผู้สูงอายุและการรองรับสังคมสูงวัยเชิงบูรณาการ และมีประสิทธิภาพ โดย 2.5.1 การเสริมสร้างพลังทางสังคมโดยมุ่งให้ ชุมชนมีการบริหารจัดการเพื่อรองรับสังคมสูงวัย เชิงบูรณาการอย่างมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะ ภาคเอกชน เริ่มตั้งแต่ให้มีการจัดท�ำแผนในระดับชุมชน ที่เชื่อมโยงกับแผนระดับต�ำบล อ�ำเภอ จังหวัด กลุ่มจังหวัด และภาค เน้นการสร้างประชาธิปไตยชุมชน จัดให้มี เวทีกลางเพื่อสร้างกระบวนการเรียนรู้ร่วมกัน และเป็น เวทีปรึกษาหารือ รวมทั้งการขับเคลื่อนและติดตาม ประเมินผลแผน 2.5.2 พัฒนาศักยภาพหน่วยงานท้องถิ่น อาทิ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและสถาบันการศึกษา เป็นต้น เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของชุมชนในการ พัฒนาการจัดการงานด้านผู้สูงอายุ 2.5.3 ปฏิรูประบบกฎหมายเพื่อรองรับการด�ำเนิน งานเชิงรุกของทุกภาคส่วนในการรองรับสังคมสูงวัย 2.5.4 พัฒนาระบบการพิทักษ์และคุ้มครองสิทธิ ผู้สูงอายุ โดยเฉพาะกลุ่มที่เป็นกลุ่มเสี่ยง กลุ่มเปราะบาง และกลุ่มที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง ทั้งในฐานะผู้รับบริการ ผู้รับ สวัสดิการ หรือผู้บริโภค 2.5.5 พัฒนาข้อมูลและสร้างกลไกเชื่อมโยง ฐานข้อมูลด้านผู้สูงอายุจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ในระดับประเทศ จังหวัด และท้องถิ่น รวมทั้งพัฒนาระบบ สืบค้นที่ง่ายและมีประสิทธิภาพ เพื่อให้มีการใช้ประโยชน์ จากข้อมูลมากขึ้น


ที่ปรึกษาและผู้ก�ำหนดกรอบการด�ำเนินงาน ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อ�ำนวยการส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ผู้ด�ำเนินการให้เป็นไปตามกรอบการด�ำเนินงาน ดร.มารยาท สมุทรสาคร ผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้เชี่ยวชาญด้านยุทธศาสตร์ ทีมปฏิบัติงานเพื่อจัดท�ำเอกสาร นางสาวศิรินทร์พร เดียวตระกูล ผู้อ�ำนวยการภารกิจการวิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ด้านการเตรียมรับสังคมสูงวัย นางสาวศรีรัตน์ รอดณรงค์ นักวิเคราะห์นโยบายและแผน ช�ำนาญการ นางสาวฐิติมา ทองทับ นักวิเคราะห์นโยบายและแผน ปฏิบัติการ นางสาวชนัญญา ปาลีตา นักวิเคราะห์นโยบายและแผน ปฏิบัติการ


Click to View FlipBook Version