สารสนเทศตำบลต้นแบบเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต ตำบลปรังเผล อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ปีงบประมาณ 2567 ส่วนที่ 1 ข้อมูลทั่วไปของตำบล (สภาพทั่วไป สภาพสังคม สภาพทางเศรษฐกิจ) 1 แผนที่ตำบล 2 ประวัติความเป็นมาของตำบล ตำบลปรังเผล เป็นตำบลหน้าด่านของอำเภอสังขละบุรี เหตุที่ได้ชื่อว่า“ปรังเผล” เนื่องจากในสมัยก่อน สภาพที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของตำบลปรังเผลอยู่บริเวณริมแม่น้ำแควน้อยซึ่งไหลผ่านทั้ง ๔ หมู่บ้านของตำบลเป็น ระยะทางตามแนวยาวของตำบล ทำให้เกิดหาดทรายขาวขึ้นริมตลิ่งของแม่น้ำดังกล่าว ซึ่งชาวบ้านท้องถิ่นเดิม (คนไทยเชื้อสายกระเหรี่ยง) เรียกหาดทรายขาวนี้ว่า “ปร่องผะเล” เมื่อระยะเวลาผ่านไปจึงเพี้ยนเป็น ปรังเผล และ ได้รับการจดทะเบียนบันทึกชื่อตำบลจากทางราชการว่า ตำบลปรังเผลตั้งแต่นั้นมา ในปี พ.ศ. 2526 รัฐบาลได้ กำหนดให้มีการสร้างเขื่อนเขาแหลม (ปัจจุบันคือเขื่อน วชิราลงกรณ์) ขึ้นในพื้นที่ของตำบล ทำให้เกิดการอพยพ ชาวบ้านของตำบลปรังเผลทั้ง 4 หมู่บ้านมาอยู่ในพื้นที่ปัจจุบัน หมู่บ้านดั้งเดิมซึ่งประกอบไปด้วยหาดทรายที่ สวยงามก็ถูกน้ำท่วมจนไม่เหลือให้เห็นอีก 2.1 รายชื่อหมู่บ้าน ประกอบด้วย 2.1.1 หมู่ที่ 1 บ้านท่าดินแดง 2.1.2 หมู่ที่ 2 บ้านวังขยาย 2.1.3 หมู่ที่ 3 บ้านห้วยต่อ 2.1.4 หมู่ที่ 4 บ้านจงอั่ว 2.2 รายชื่อผู้นำ / ตำแหน่ง ประกอบด้วย 2.2.1 นายนิล การะเวก ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 บ้านท่าดินแดง 2.2.2 นายอ๋อย คงสังคะ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 บ้านวังขยาย 2.2.3 นายฐกฤต จรัสกุลธาดา ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 บ้านห้วยต่อ 2.2.4 นายธวัชชัย อิ่มสุข
กำนันตำบลปรังเผล 3 อาณาเขต ลักษณะภูมิประเทศ แหล่งท่องเที่ยว 3.1 อาณาเขต ตำบลปรังเผล เป็นตำบลหนึ่งในจำนวน 3 ตำบลของอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งตั้งอยู่ที่ ชายแดนด้านตะวันตกของประเทศไทย อยู่ห่างจากอำเภอสังขละบุรีประมาณ 50 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากจังหวัด กาญจนบุรี มีพื้นที่ประมาณ 170 กิโลเมตร มีพื้นที่ทั้งหมด 712 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 445,000 ไร่ โดยสภาพภูมิประเทศของตำบลประกอบด้วย ทิศเหนือ ติดเขตตำบลไล่โว่ อำเภอสังขละบุรี ทิศตะวันออก ติดเขตชะแล อำเภอทองผาภูมิ ทิศตะวันตก ติดเขตตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี ทิศใต้ ติดเขตตำบลชะแล อำเภอทองผาภูมิ 3.2 ลักษณะภูมิประเทศ ตำบลปรังเผลมีพื้นที่ทั้งสิ้น 712 ตารางกิโลเมตร เป็นพื้นน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ 1 ใน 3 ของพื้นที่ทั้งหมด พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขา พื้นที่ลาดชันมีที่ราบลุ่มเป็นบางส่วน และพื้นที่ราบระหว่างหุบเขา ประชากรประกอบอาชีพ เกษตรกรรมเป็นอาชีพหลักและต้องอาศัยน้ำฝนตามฤดูกาลในการทำการเกษตร ไม่มีระบบชลประทานในพื้นที่ 3.3 ลักษณะภูมิอากาศ สภาพภูมิอากาศ มี 3 ฤดู ฤดูฝนระหว่างเดือนพฤษภาคม – เดือนตุลาคม จะมีฝนตกชุก บางครั้งตก ติดต่อกันเป็นเวลา 7 – 10 วัน ฤดูหนาว ระหว่างเดือน พฤศจิกายน– เดือนมกราคม อากาศจะเริ่มหนาวและหนาว จัดในเดือนธันวาคม – มกราคม ส่วนฤดูร้อน ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ – เดือนเมษายน ช่วงนี้อากาศจะร้อนจัด เพราะพื้นที่ตั้งอยู่ในที่สูง 3.4 ลักษณะของดิน ตำบลปรังเผลเป็นกลุ่มดินที่ประกอบด้วยดินหลายชนิดเกิดขึ้นปะปนกันบนพื้นที่ที่เป็นภูเขาสูงชัน หรือ เรียกว่า “ดินที่ลาดชันเชิงซ้อน” ลักษณะดินไม่เหมาะสมที่จะนำมาใช้ในการเพาะปลูกพืช เนื่องจากเป็นดินตื้น มีหินโผล่ที่ผิวดินเป็นส่วนใหญ่ และพื้นที่ภูเขาสูงชันมีความลาดเทเฉลี่ยเกิน 35 % ง่ายต่อการชะล้างพังทลายของดิน จึงเหมาะสมที่จะรักษาไว้เป็นพื้นที่ป่าไม้ธรรมชาติเพื่อรักษาสภาพแวดล้อมและเป็นพื้นที่ต้นน้ำลำธาร 3.5 ลักษณะของน้ำ ตำบลปรังเผลมีลำธารจากน้ำตกเกริงกระเวียไหลผ่านหมู่บ้านไปลงเชื่อนวชิราลงกรณ ตำบลปรังเผลมีแหล่ง น้ำที่สำคัญ 6 แหล่งคือ อ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ ห้วยเกริงกระเวีย ห้วยลิเจียห้วยทิโคร่ง ห้วยทิม่องทะ และห้วย ทิยะล่า 3.6 ลักษณะของไม้และป่าไม้ ตำบลปรังเผลมีพื้นที่ทั้งหมด ประมาณ 445,000 ไร่เป็นพื้นที่ป่าไม้ประมาณ 336,350 ไร่ และพื้นที่ เกษตรกรรมของประชาชนประมาณ 10,561 ไร่ 3.7 แหล่งท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ ได้แก่ น้ำตกเกริงกระเวีย, น้ำตกไดช่องถ่อง , น้ำตกกระเตงเจง, จุดชมวิวป้อมปี่ , เขาสันหนอกวัว ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติเขาแหลม 4 จำนวนประชากร จำนวนครัวเรือน
4.1 ข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนประชากร ตำบลปรังเผล มีจำนวนบ้านทั้งหมด 2,093 หลังคาเรือน มีประชากรรวมทังสิ้น 6,664 คน แบ่งออกเป็น ประชากรไทย จำนวน 4,248 คน ประชากรสัญชาติอื่นๆที่ไม่ใช่ไทย จำนวน 2,416 คน ( ข้อมูล ณ เดือนพฤษภาคม 2564) 4.2 ช่วงอายุและจำนวนประชากร ตำบลปรังเผล มีประชากรไทยทั่งสิ้น 4,248 คน ( ข้อมูล ณ เดือนพฤษภาคม 2564 ) แยกเป็น เพศ อายุ ม.1 ม.2 ม.3 ม.4 รวม ชาย หญิง ชาย หญิง ชาย หญิง ชาย หญิง ชาย หญิง รวม ต่ำกว่า 18 ปี 164 182 128 144 84 65 245 217 621 608 1,229 18-60 ปี 393 362 308 272 194 193 453 402 1,348 1,229 2,577 มากกว่า 60 ปี 54 64 56 27 27 24 66 87 203 239 442 รวม 611 608 492 305 305 282 764 706 2,172 2,076 4,248 5 ผู้นำชุมชน กลุ่มองค์กร 5.1 รายชื่อผู้นำ / ตำแหน่ง ประกอบด้วย 5.1.1 นายนิล การะเวก ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 บ้านท่าดินแดง 5.1.2 นายอ๋อย คงสังคะ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 บ้านวังขยาย 5.1.3 นายฐกฤต จรัสกุลธาดา ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 บ้านห้วยต่อ 5.1.4 นายธวัชชัย อิ่มสุข กำนันตำบลปรังเผล 5.2 คณะผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบลปรังเผล 5.2.1 นายไพศาล บัวหลวง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลปรังเผล 5.2.2 นางกิริยา โชติยะปุตตะ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลปรังเผล 5.2.3 นายลิขิต อุปวรรณ์ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลปรังเผล 5.2.4 นายวุธวิชา คลังเกษตร เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนตำบลปรังเผล สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลปรังเผล 5.2.5 นายสุรีย์ สบายเหลือ สมาชิกสภา อบต.ปรังเผล หมู่ที่ 1 5.2.6 นายมาโนด สวัสดิ์ธรรม สมาชิกสภา อบต.ปรังเผล หมู่ที่ 1 5.2.7 นายณงค์ทกรใหมบัวเขียว สมาชิกสภา อบต.ปรังเผล หมู่ที่ 2 5.2.8 นายชัดชัย คำอาจ สมาชิกสภา อบต.ปรังเผล หมู่ที่ 2 5.2.9 นายสุรัตน์ แสงสุริยวงศ์ สมาชิกสภา อบต.ปรังเผล หมู่ที่ 3 5.2.10 นางบุษบา อังคาวุธ สมาชิกสภา อบต.ปรังเผล หมู่ที่ 3 5.2.11 นายสำเริง หลำพา สมาชิกสภา อบต.ปรังเผล หมู่ที่ 4 5.2.12 นางสาวสุภาวดี เนาว์โนนทอง สมาชิกสภา อบต.ปรังเผล หมู่ที่ 4 5.3 คณะกรรมการพัฒนาสตรีตำบลปรังเผล (ประเภทองค์กรสตรี)
5.3.1 นางกิริยา โชติยะปุตตะ 5.3.2 นางวันเพ็ญ ภิรมย์โพล้ง 5.3.3 นางสาวอิงฝัน คนบุญ 5.3.4 นางสาวสุภาวดี เนาว์โนนทอง 5.3.5 นางสาวกวีพร ไทรสังขชวลิต 5.3.6 นางสุมิตรา การะเวก 5.3.7 นางบุษบา อังคาวุธ 5.3.8 นางสาวอุไรรัตน์ เจริญพรประเสริฐ 5.3.9 นางสาวเบญจมาศ ป้องสา 6 การประกอบอาชีพ 6.1 การเกษตร ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ได้แก่ การปลูกยางพารา ไร่มันสำปะหลัง พริก นาข้าว ข้าวไร่ปลูกพืชล้มลุก หาของป่า รับจ้างทั่วไป เลี้ยงสัตว์และค้าขายบางส่วน ประชากรส่วนใหญ่มีฐานะยากจน เพราะไม่มีสินค้าที่เพิ่มรายได้ที่มั่นคง ผลผลิตทางการเกษตรค่อนข้างต่ำ เนื่องจากระยะทางการขนส่งไกลจากตัว จังหวัด และสภาพถนนชำรุดทรุดโทรมมาก สินค้าทางการเกษตรที่สำคัญ ได้แก่ มันสำปะหลัง ยางพารา 6.2 การประมง ประชากรที่ทำการประมงส่วนใหญ่หาในแหล่งน้ำอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ และ เลี้ยงปลาในกระชัง ได้แก่ ปลากด ปลาทับทิม ปลานิล ปลาช่อน เลี้ยงในบ่อ ได้แก่ ปลาดุก ปลานิล ปลาตะเพียน 6.3 การปศุสัตว์ การปศุสัตว์ในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลปรังเผลเป็นการประกอบการในลักษณะเลี้ยงในครัวเรือนเป็น อาชีพหลักและอาชีพเสริม เช่น การเลี้ยงไก่ เป็ด โค สุกร กระบือ เพื่อจำหน่าย และบริโภคเองในครัวเรือน 7 ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น อัตลักษณ์ 7.1 การนับถือศาสนา ประชากรร้อยละ 98 นับถือศาสนา พุทธ อีกร้อยละ 2 นับถือศาสนาอิสลาม และศาสนาคริสต์ 7.2 ประเพณีและงานประจำปี ตำบลปรังเผลจะให้ความสำคัญกับพระพุทธศาสนาเป็นส่วนใหญ่ จะไม่มีวัฒนธรรมที่เน้นเป็นของชาวบ้าน แต่จะเป็นการสืบทอดประเพณีวัฒนธรรมของไทย เช่น ประเพณีสงกรานต์ ก็จะดำเนินการทำบุญตักบาตร สรงน้ำ พระและรดน้ำผู้สูงอายุในชุมชนเป็นประจำทุกปี และจะทำบุญตักบาตรกันในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาทุกวัน เช่น วันเข้าพรรษา วันออกพรรษา วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา เป็นต้น ส่วนในทุกวันพระชาวบ้านก็จะมาร่วมทำบุญ ที่วัดที่เป็นจุดศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านเป็นประจำ 7.3 ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภาษาถิ่น ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวพื้นเมืองดั้งเดิม คือ ชาวผาผึ้ง มีเชื้อสายลาวมาแต่บรรพบุรุษ แต่จากสภาพภูมิ ประเทศ ที่ตั้งอยู่ในเขตชายแดนติดต่อกับประเทศพม่า และตามประวัติศาสตร์ พื้นที่บริเวณนี้เคยเป็นเส้นทาง เดินทัพของพม่า ตลอดจนเป็นพื้นที่กว้างใหญ่ประกอบกับความเจริญก้าวหน้าของการคมนาคมในปัจจุบัน และ ด้านเศรษฐกิจและการเมืองของประเทศเพื่อนบ้านจึงทำให้มีการอพยพย้ายถิ่นฐานของประชากรในพื้นที่ มีทั้งเชื้อ สายไทย และเชื้อสายอื่นๆชาวตำบลปรังเผลแต่ละหมู่บ้านจะมีภาษาถิ่นของตนเอง ได้แก่ หมู่ที่ 1 บ้านท่าดินแดง ภาษาไทย ภาษาลาว
หมู่ที่ 2 บ้านวังขยาย ภาษาไทย ภาษาลาว หมู่ที่ 3 บ้านห้วยต่อ ภาษาไทย ภาษากระเหรี่ยง หมู่ที่ 4 บ้านยางขาว ภาษาไทย ภาษากระเหรี่ยง ภาษาลาว 7.4 สินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึก ตำบลปรังเผลเป็นพื้นที่เกษตรกรรมและการประมง สินค้าส่วนใหญ่จึงเป็นสินค้าทางเกษตรกรรมและการ ประมง เช่น กล้วย มะละกอ ปลาย่างรมควัน เป็นต้น 8. ทรัพยากรธรรมชาติ 8.1 น้ำ ตำบลปรังเผลมีแหล่งน้ำที่สำคัญ 6 แหล่งคือ อ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ ห้วยเกริงกระเวีย ห้วยลิเจีย ห้วยทิโคร่ง ห้วยทิม่องทะ และห้วยทิยะล่า 8.2 ป่าไม้ ตำบลปรังเผลมีพื้นที่ทั้งหมด ประมาณ 445,000 ไร่เป็นพื้นที่ป่าไม้ประมาณ 336,350 ไร่ และพื้นที่ เกษตรกรรมของประชาชนประมาณ 10,561 ไร่ พื้นที่ป่าไม้เป็นพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติเขาแหลม พื้นที่ป่าสงวน แห่งชาติ นอกจากพื้นที่ป่าเบญจพรรณแล้วยังมีพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมซึ่งจะรวมถึงพื้นที่ที่ถูกบุกรุกทำลายเปลี่ยนเป็น พื้นที่เกษตรกรรมพื้นที่ดังกล่าวอยู่รอบๆ อ่างเก็บน้ำ ทางตะวันออกของพื้นที่อุทยานแห่งชาติและบริเวณแนวเขต ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของอุทยานแห่งชาติพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมเป็นพื้นที่ที่ถูกราษฎรบุกรุกแผ้วถางภายหลังปล่อย ทิ้งไว้ให้รกร้าง มีหญ้า ลูกไม้ต่างๆ และไผ่ขึ้นทดแทน ชนิดไม้ที่พบเช่น เปล้าใหญ่ หว้า อุโลก คอแลน เป็นต้น 8.3 ภูเขา อุทยานแห่งชาติเขาแหลมเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของแนวเทือกเขาตะนาวศรีที่มีเทือกเขาสลับซับซ้อนทอดตัว ตามแนวเหนือใต้ มีความสูงประมาณ 100-1,700 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลางส่วนใหญ่จะเป็นหินปูน หิน ทราย และหินดินดาน ยอดเขาที่สูงที่สุดคือ เขาใหญ่มีความสูงประมาณ 1,767 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง จากสภาพที่เป็นภูเขาสลับซับซ้อนก่อให้เกิดลำน้ำที่สำคัญหลายสายที่ไหลลงสู่แม่น้ำแควน้อยและอ่างเก็บน้ำเขื่อนว ชิราลงกรณได้แก่ แม่น้ำรันตี ห้วยป้อมปี่ ห้วยทิม่องทะ ห้วยเกริงกระเวีย เป็นต้น 8.4 คุณภาพของทรัพยากรธรรมชาติ สภาพโดยทั่วไปของป่าบริเวณอุทยานแห่งชาติเขาแหลม มีสภาพเป็นป่าเบญจพรรณมีไม้ชนิดต่างๆ ขึ้นอย่างหนาแน่น มีเรือนยอดทึบ บางบริเวณพื้นที่มีความชื้นสูง เช่นบริเวณริมลำห้วยหรือตามร่องห้วย จะมีต้นไม้ขึ้น หนาแน่นเป็นพิเศษมีสภาพคล้ายป่าดงดิบพื้นที่ป่าส่วนมากอยู่บริเวณทิศตะวันออกและทิศตะวันตกของอุทยาน แห่งชาติชนิดไม้ที่พบ ได้แก่ อินทรชิต แคยอดดำ แดง สมอพิเภก สะทิบ กาสามปีก เปล้าใหญ่ ลายหว้า ลูกดิ่ง พืช พื้นล่างได้แก่ ลูกไม้ของไม้ชั้นบน เต่าร้าง เข็มป่า ชะอมเหมือดโลด เป็นต้น นอกจากพื้นที่ป่าเบญจพรรณแล้วยังมี พื้นที่ป่าเสื่อมโทรมซึ่งจะรวมถึงพื้นที่ที่ถูกบุกรุกทำลายเปลี่ยนเป็นพื้นที่เกษตรกรรมพื้นที่ดังกล่าวอยู่รอบๆ อ่างเก็บ น้ำ ทางตะวันออกของพื้นที่อุทยานแห่งชาติและบริเวณแนวเขตทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของอุทยานแห่งชาติพื้นที่ ป่าเสื่อมโทรมเป็นพื้นที่ที่ถูกราษฎรบุกรุกแผ้วถางภายหลังปล่อยทิ้งไว้ให้รกร้าง มีหญ้า ลูกไม้ต่างๆ และไผ่ขึ้น ทดแทน ชนิดไม้ที่พบเช่น เปล้าใหญ่ หว้า อุโลก คอแลน เป็นต้น 9. ข้อมูลคมนาคม/สาธารณูปโภค 9.1 การคมนาคมขนส่ง ตำบลปรังเผลตั้งอยู่ห่างจากอำเภอสังขละบุรีประมาณ 50 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากจังหวัดกาญจนบุรี การคมนาคม ได้แก่ 9.1.1 รถยนต์โดยสารปรับอากาศกาญจนบุรี – สังขละบุรี(เอเชียไทรโยค) 9.1.2 รถยนต์โดยสารปรับอากาศกรุงเทพฯ – สังขละบุรี สาย 999 9.1.3 รถบัสโดยสารกาญจนบุรี – สังขละบุรี
9.2 สาธารณูปโภค 9.2.1 การไฟฟ้า ตำบลปรังเผลมีไฟฟ้าใช้ทุกหมู่บ้านแต่ยังไม่ทั่วถึง ในบริเวณชุมชนที่เกิดขึ้นใหม่ เพราะชุมชนมีการ ขยายตัวเพิ่มมากขึ้น 9.2.2 การประปา ตำบลปรังเผลมีประปาภูเขาใช้ทุกครัวเรือน ส่วนที่ 2 แนวทางการพัฒนาสารสนเทศตำบลต้นแบบเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต 2.1 ข้อมูล ข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.)
หมวดที่ 3 การศึกษา ตัวชี้วัด
ข้อมูลการจัดเก็บข้อมูลพื้นฐานระดับหมู่บ้าน (กชช. 2ค)
2.2 เครื่องมือในการวิเคราะห์ข้อมูล
2.35 2.40 2.32 2.24 2.47 0.00 0.50 1.00 1.50 2.00 2.50 3.00 การพัฒนาด้าน อาชีพ การจัดการทุน ชุมชน การจัดการความ เสี่ยงชุมชน การแก้ปัญหาความ ยากจน การบริหารจัดการ ชุมชน Community Radar Analysis โปรแกรม Community Information Radar Analysis: CIA นับเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล และสารสนเทศอย่างง่าย ที่ถูกพัฒนามาจากโปรแกรม Microsoft Excel โดยมุ่งเน้น ผู้ใช้สามารถวิเคราะห์ข้อมูล ที่สำคัญต่าง ๆ ของชุมชน ในการจัดทำระบบสารสนเทศชุมชน เพื่อให้เป็นไป ตามเกณฑ์การพัฒนาคุณภาพชีวิตทั้ง 5 ด้าน ได้แก่ 1) สารสนเทศเพื่อการพัฒนาด้านอาชีพ (Information For Occupation Development) 2) สารสนเทศเพื่อการจัดการทุนของชุมชน (Information For Fund Management) 3) สารสนเทศเพื่อจัดการความเสี่ยงของชุมชน (Information For Risk Management) 4) สารสนเทศเพื่อแก้ปัญหาความยากจน (Information For Solve Poverty) 5) สารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการชุมชน (Information For Community Management) เพื่อต้องการให้ชุมชนได้วิเคราะห์ข้อมูลและทราบถึงปัญหาของชุมชน จากข้อมูลที่ชุมชนมีอยู่ โดยมุ่งเน้น ไปที่การพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนให้ได้อย่างน้อย 1 ด้าน เพื่อใช้เป็นแนวทางการพัฒนาสารสนเทศที่ ส่งเสริม สนับสนุน การพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน ให้เกิดคุณภาพชีวิตของคนและชุมชนที่ดีขึ้น มีการ พัฒนาที่เป็นรูปธรรม การวิเคราะห์ข้อมูลของชุมชนจึงเป็นขั้นตอนสำคัญ โดยนำข้อมูลที่จำเป็นของชุมชนมา วิเคราะห์ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลที่จัดเก็บเป็นประจำที่บ่งชี้ถึงสภาพของชุมชน เช่น ข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) ข้อมูล พื้นฐานระดับหมู่บ้าน (กชช. 2ค) นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลอื่น ๆ ที่มีในชุมชน หรือข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับชุมชน รวมทั้งความต้องการต่าง ๆ ของคนในชุมชนที่จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาและการพัฒนาคุณภาพชีวิตก็สามารถ นำมาใช้ประกอบในการวิเคราะห์ในโปรแกรม CIA 2.3 ประเด็นการพัฒนา
Community Development Information ล ำดับ คะแนน ประเด็นกำรพัฒนำ ตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้อง 1 2.24 การแก้ปัญหาความยากจน 2 2.32 การจัดการความเสี่ยงชุมชน 3 2.35 การพฒันาดา้นอาชีพ 4 2.40 การจัดการทุนชุมชน 5 2.47 การบริหารจัดการชุมชน ครัวเรือนมคีวามมนั่คงในที่อยู่อาศยั, คนอายุ15 - 59 ปีอ่าน เขียนภาษาไทยและคดิเลขอย่างงา่ยได้, คนอายุ15 - 59 ปีมอีาชีพและมรีายได้, คนอายุ60 ปีขึ้นไป มอีาชีพและมรีายได้, รายไดเ้ฉลี่ยของคนในครัวเรือนตอ่ ปี, การมทีี่ดนิทีท ากิน, ผลผลิตจาการท านา, ผลผลิตจาการท าไร่, ผลผลิตจาการท าเกษตรอื่น ๆ, ระกับ การศกึษาของประชาชน, อัตราการเรียนตอ่ของประชาชน, การไดร้ับการศกึษา, การเข้าถึงแหล่งทุน เดก็แรกเกิดมนี้ าหนัก 2,500 กรัม ขึ้นไป, เดก็แรกเกิดไดก้ินนมแมอ่ย่างน้อย 6 เดอืน, เดก็แรกเกิดถึง 12 ปีไดร้ับวัคซีค, ครัวเรือนกินอาหารถูกสุขลักษณะ, ครัวเรือนมกีารใช้ยาเพอื่บรรเทาอาการเจ็บป่วยอย่างเหมาะสม, คนอายุ35 ปีขึ้นไป ไดร้ับการตรวจสุขภาพประจ าปี, คนอายุ6 ปีขึ้นไป ออกก าลังกายอย่างน้อย สัปดาห์ละ3 วัน, ครัวเรือนมกีารจัดการบ้านเรือนถูกสุขลักษณะ, ครัวเรือนไมถู่กรบกวนจากมลพษิ, ครัวเรือนมกีาป้องกันอุบัตภิัยอย่างถูกวิธี, ครัวเรือนมคีวาม ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน, เดก็อายุ3 - 5 ปีไดเ้ตรียมความพร้อมก่อนวัยเรียน, เดก็อายุ6 - 14 ปีไดร้ับการศกึษาภาคบังคบั 9 ปี, เดก็จบชั้น ม.3 ไดเ้รียนตอ่ ชั้น ม.4 หรือเทียบเท่า, คนในครัวเรือนไมด่มื่สุรา, คนในครัวเรือนไมสู่บบุหรี่, ครอบครัวมคีวามอบอุ่น, ความปลอดภัยในการท างาน, การป้องกันโรคตดิตอ่ , คนที่จบการศกึษาภาคบังคบั 9 ปีที่ไมไ่ดเ้รียนและไมม่งีานท า, คนอายุ1 5-59 ปีมอีาชีพและรายได, ้คนอายุ60 ปีขึ้นไป มอีาชีพและมรีายได, ้น้ าเพอื่การเกษตร, การมทีี่ดนิท ากิน, การมงีานท า, การท างานในสถานประกอบการ, ผลผลิตจากการท านา, ผลผลิตจาการท าไร่, ผลผลิตจากการเกษตรอื่นๆ, การประกอบ อุตสาหกรรมในครัวเรือน, การเข้าถึงแหล่งทุน, คณุภาพดนิ, การใช้ประโยชน์จากที่ดนิ, คณุภาพน้ า ครัวเรือนมกีารออมเงนิ, ถนน, น้ าดมื่ , น้ าใช, ้ไฟฟา้, การตดิตอ่สื่อสาร, การไดป้ระโยชน์จากสถานที่ท่องเที่ยว, การเข้าถึงแหล่งทุน ครัวเรือนมนี้ าสะอาดส าหรับดมื่และบริโภค, ครัวเรือนมนี้ าใช้ตลอดปี, คนอายุ6 ปีขึ้นไป ปฏิบัตกิิจกรรมทางศาสนา, ผู้สูงอายุไดร้ับการด, ูผู้พกิาร ไดร้ับการดู, ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ไดร้ับการด, ูครัวเรือนมสี่วนร่วมท ากิจกรรมสาธารณะ, การไดร้ับผลประโยชน์จากสถานที่ท่องเที่ยว, การมสี่วนร่วมของชุมชน, การรวมกลุ่มของ ชุมชน, การเรียนรู้โดยชุมชน, การไดร้ับความคมุ้ครองทางสังคม, การใช้ประโยชน์จากที่ดนิ, การปลูกป่าหรือไมย้ืนตน้
2.4 ทีมตำบล แผนผังแสดงตำแหน่งหน้าที่ของทีมตำบล คณะทำงานด้าน คณะทำงานด้าน คณะทำงานด้าน คณะทำงานด้าน คณะทำงานด้าน พัฒนาอาชีพ จัดการทุนชุมชน ความเสี่ยงชุมชน แก้ไขปัญหาความยากจน บริหารจัดการชุมชน ปลัดอำเภอ นายไพศาล บัวหลวง นายก อบต. นายธวัชชัย อิ่มสุข กำนัน ต.ปรังเผล นางธวัลรัตน์ คล้อยเอี่ยม ปลัด อบต.ปรังเผล นางสาวจุฑามาศ ป้อมแสง เกษตร ต.ปรังเผล นางสาวกุ้งนาง กาญจน์มงคลกุล ครู สกร. ต.ปรังเผล นายธนกฤต จรัสกุลธาดา นายอรุณ เมืองนา นายนิล การะเวก นายอ๋อย คงสังคะ นายชัยณรินทร์ ทองสิน นายสุรีย์ สบายเหลือ นายจิรัชญา พงษ์สมบูรณ์ คณะทำงานและเลขานุการ
- ภาพแสดงการลงพื้นที่ขับเคลื่อนการดำเนินงานของทีมตำบล พร้อมคำอธิบาย ประชุมคณะทำงานขับเคลื่อนสารสนเทศตำบลต้นแบบเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต ตำบลปรังเผล อำเภอสังขละบุรี 1) สารสนเทศเพื่อการพัฒนาด้านอาชีพ (Information For Occupation Development) 2) สารสนเทศเพื่อการจัดการทุนของชุมชน (Information For Fund Management) 3) สารสนเทศเพื่อจัดการความเสี่ยงของชุมชน (Information For Risk Management)
4) สารสนเทศเพื่อแก้ปัญหาความยากจน (Information For Solve Poverty) 5) สารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการชุมชน (Information For Community Management) 2.5 ประเมินผล ผลสำเร็จที่เป็นรูปธรรม การดำเนินงานขับเคลื่อนสารสนเทศตำบลส่งผลให้ตำบลปรังเผล เป็นตำบลเข้มแข็ง ตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ผู้นำ กลุ่ม องค์กร หน่วยงานภาคีเครือข่าย และประชาชนได้เรียนรู้ และน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนิน ให้มีความเข้มแข็ง ทั้งด้านความมั่นคง ด้านความ มั่งคั่ง และด้านความยั่งยืน เสริมสร้างขีดความสามารถในการบริหารจัดการตำบลสู่ตำบลจัดการตนเอง เพื่อใช้ พื้นที่ตำบลเป็นฐานการพัฒนาภายใต้กลไกเครือข่ายผู้นำการเปลี่ยนแปลงระดับตำบล และกลไก 7 ภาคีเครือข่าย ในการขับเคลื่อน โดยประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ คือ ตำบลมีการบริหารจัดการชุมชนโดยชุมชน จัดการเพื่อ ประโยชน์ของสมาชิกและชุมชน เกิดเศรษฐกิจชุมชนเข้มแข็ง ประชาชนสามารถเข้าถึงแหล่งทุนชุมชนธรรมาภิบาล ที่มีการบริหารจัดการเพื่อประโยชน์ของสมาชิกและชุมชน ตลอดจนประชาชนในตำบลน้อมนำหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียงสู่การปฏิบัติจนเป็นวิถี มีการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตเพื่อการพึ่งตนเองอย่างยั่งยืน มีการ อนุรักษ์ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม โดยการบูรณาการความร่วมมีอทุกภาคส่วน
2.6 การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินงาน ผ่านสื่อสังคมออนไลน์และช่องทาง สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอสังขละบุรี https://www.facebook.com/profile.php?id=100011613003788&mibextid=ZbWKwL ช่องทาง youtube https://youtu.be/MLG4wKyfn1g 2.7 โครงการ 2.7.1 ชื่อกิจกรรมเพิ่มอาชีพ เพิ่มรายได้ ภายใต้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ตำบลปรังเผล (ประเด็นการพัฒนาด้านแก้ไขปัญหาความยากจน) 2.7.2 วัตถุประสงค์ 2.7.4 1) เพื่อส่งเสริมอาชีพตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง 2.7.4 2) เพื่อส่งเสริมให้เกิดการสร้างรายได้และทุนหมุนเวียนภายในชุมชน 2.7.3 วิธีการดำเนินการ 2.7.4 1) จัดทำโครงการอบรมให้ความรู้การเพิ่มอาชีพ เพิ่มรายได้ ภายใต้หลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง 2.7.4 2) ประชาสัมพันธ์โครงการให้ประชาชนในตำบลเข้าร่วมกิจกรรม 2.7.4 3) สาธิตวิธีการปลูกผักสวนครัวเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร และการทำปุ๋ยหมักชีวภาพ โดยปราชญ์ในชุมชน 2.7.4 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 2.7.4 1) ชุมชนเกิดความเข้มแข็ง และเกิดการเรียนรู้ในชุมชน 2.7.4 2) เกิดผลิตภัณฑ์ชุมชน และพัฒนาไปสู่ตลาดภายนอก 2.7.5 ผลผลิต 2.7.4 1) ประชาชนในตำบลได้รับความรู้ด้านการปลูกผักสวนครัวเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร และการทำปุ๋ยหมักชีวภาพ สามารถนำมาปรับใช้ในการประกอบอาชีพ 2.7.4 2) ประชาชนในตำบลมีอาชีพรองรับ บรรเทาปัญหาความยากจน
ส่วนที่ 3 ภาคผนวก - ภาพกิจกรรม สารสนเทศเพื่อการพัฒนาด้านอาชีพ (Information For Occupation Development) สารสนเทศเพื่อการจัดการทุนของชุมชน (Information For Fund Management) สารสนเทศเพื่อจัดการความเสี่ยงของชุมชน (Information For Risk Management) สารสนเทศเพื่อแก้ปัญหาความยากจน (Information For Solve Poverty)
สารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการชุมชน (Information For Community Management) - ข้อมูล จปฐ.
หมวดที่ 3 การศึกษา ตัวชี้วัด
- ข้อมูลการจัดเก็บข้อมูลพื้นฐานระดับหมู่บ้าน (กชช. 2ค)
(SWOT) การวิเคราะห์ปัจจัยภายในหรือสภาพแวดล้อมภายใน จะทำให้ตำบลทราบถึงความสามารถหรือความเป็น ตัวตนของตำบล (1) จุดอ่อน คือ ลักษณะหรือข้อด้อยของตำบลเมื่อเทียบกับตำบลอื่น (๑) พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ์ (๒) พื้นที่ทำการเกษตรมีน้อยและอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม (๓) พื้นที่อยู่อาศัยและพื้นที่ทำกินได้รับการจัดสรรจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ครัวเรือนละ ๒๕ ไร่ (๔) ภาคเกษตรกรรม อาศัยน้ำจากธรรมชาติ ปลูกพืชได้ปีละครั้ง (๕) การขนส่งผลผลิตทางการเกษตรมีต้นทุนสูง (2) จุดแข็ง คือ ศักยภาพความสามารถหรือข้อเด่นของตำบลเมื่อเทียบกับตำบลอื่น (๑) แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ เช่น น้ำตกเกริงกระเวีย จุดชมวิวป้อมปี่ อุทยานแห่งชาติเขาแหลม ฯ (๒) การคมนาคมสะดวก (๓) ชุมชนมีความเข้มแข็ง สามัคคี ปรองดอง (๔) ประเพณีวัฒนธรรม มีความหลากหลาย การวิเคราะห์ปัจจัยภายนอก หรือสภาพแวดล้อมภายนอก จะทำให้ตำบลทราบถึงโอกาสและอุปสรรคการ ทำงานของตำบล (1) โอกาส (๑) การท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ (๒) การผลิตสินค้าชุมชนขายนักท่องเที่ยว (๓) การประมงน้ำจืด (4) สถานที่ท่องเที่ยวเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว (5) หน่วยงานราชการจัดสรรงบประมาณในการพัฒนาบ่อยครั้ง (2) อุปสรรค (๑) ราษฎรไม่มีเอกสารสิทธิ์ในที่ดินทำกิน (๒) การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว การวิเคราะห์ปัญหาของตำบล สรุปสถานการณ์การพัฒนา การวิเคราะห์สถานการณ์การพัฒนาของตำบล โดยการนำเทคนิค SWOT มาใช้ในการวิเคราะห์ ซึ่งเป็น การวิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรค เพื่อนำมาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลของท้องถิ่น เพื่อนำไปสู่การ กำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาที่มีประสิทธิภาพขึ้น พิจารณาปัจจัยสภาวะแวดล้อมในตำบล และปัจจัยสภาวะ แวดล้อมภายนอก เป็นการประเมินศักยภาพและกำหนดเป้าหมายในอนาคตได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมกับ สถานการณ์นี้ จุดแข็ง (Strength) ของตำบล ตำบลปรังเผลเป็นชุมชนขนาดกลาง ประชาชนในพื้นที่ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม อาศัย ธรรมชาติในการประกอบอาชีพ ไม่มีโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่จึงไม่มีการทำลายสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ มากนัก จึงมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติเป็นอย่างมาก ประกอบกับตำบลปรังเผลเป็นพื้นที่ที่นักท่องเที่ยวเดิน ทางผ่านไปยังอำเภอสังขละบุรี ในปีหนึ่งๆทำให้มีนักท่องเที่ยวแวะชมและพักบริเวณน้ำตกเกริงกระเวียจำนวนมาก ซึ่งทำให้ประชาชนในพื้นที่มีรายได้และอาชีพเสริมจากการท่องเที่ยวในรูปแบบของกลุ่มอาชีพและกลุ่มผลิตภัณฑ์
ชุมชน ทำให้ประชาชนมีการทำงานร่วมกันเป็นกลุ่ม มีการใช้ผลิตภัณฑ์ในชุมชนเพื่อสร้างรายได้ซึ่งเป็นการส่งเสริม เศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น จุดอ่อน (Weakness) ของตำบล สภาพพื้นที่ของตำบลปรังเผลมีจำนวน 712 ตารางกิโลเมตร แบ่งการปกครองออกเป็น 4 หมู่บ้าน และ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ ถึง 1 ใน 3 ส่วนของพื้นที่ทั้งหมด สภาพพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขา และ อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ซึ่งองค์การบริหารส่วนตำบลปรังเผลไม่สามารถเข้าไปพัฒนาพื้นที่การ ท่องเที่ยวในบริเวณน้ำตกได้เนื่องจากอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ อีกทั้งงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรไม่เพียงพอต่อ ความต้องการพื้นฐานของประชาชน จึงทำให้ไม่มีการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้มีความสวยงามและสนองตอบต่อ ความต้องการของนักท่องเที่ยวได้เท่าที่ควร ทำให้ไม่เป็นจุดสนใจแก่นักท่องเที่ยวมากนัก และในภาคเกษตรกรรม พื้นที่ตำบลปรังเผลอาศัยน้ำจากธรรมชาติ จึงทำให้ปลูกพืชได้เพียงปีละครั้ง และพื้นที่อยู่ห่างไกลจากตลาดกลาง ทำให้การขนส่งผลผลิตทางการเกษตรต้องใช้ต้นทุนสูงทำให้ราคาผลผลิตทางการเกษตรต่ำ โอกาส (Opportunity) ของตำบล ด้วยนโยบายของรัฐบาลและนโยบายของจังหวัดเอื้อประโยชน์ในการกำหนดยุทธศาสตร์ของตำบลให้มี ความสอดคล้อง ซึ่งทำให้มีการพัฒนาที่หลากหลายด้านมากขึ้นและมีหลายๆหน่วยงานที่เข้ามามีส่วนช่วยในการ พัฒนาร่วมกับตำบลเปิดโอกาสให้มีการขอรับการสนับสนุนงบประมาณในส่วนที่เกินความสามารถของตำบลทำให้ บางโครงการที่เป็นปัญหาได้รับการแก้ไขไปได้ อุปสรรค (Treats) ของตำบล ขาดการมีส่วนร่วมของประชาชนส่วนใหญ่ในตำบล ทำให้ไม่ได้รับความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ขาดการกำหนดเป้าหมายและทิศทางการพัฒนาร่วมกัน ขาดการบูรณาการในการกำหนดทิศทางและขาดการ ตอบสนองในบางยุทธศาสตร์และแผนงานที่พัฒนา ผลกระทบ 1. ประชาชนยังขาดความรู้ความเข้าใจและไม่ให้ความสำคัญกับการทำแผนพัฒนาตำบล ทำให้การ ปฏิบัติงานยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาตอบสนองความต้องการให้กับประชาชนได้อย่างตรงจุด 2. การนำแผนไปใช้ ซึ่งจากการประเมินประสิทธิภาพของแผนจำนวนโครงการที่นำไปใช้ ยังมีเปอร์เซ็นที่ ต่ำ คณะผู้บริหาร สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล ตลอดจนผู้นำชุมชนต้องให้ความสำคัญของแผนพัฒนามาก ขึ้น