ก
คำนำ
รายงานฉบบั นี้เป็นส่วนหนึ่งของวชิ า วาดเสน้ 1 (EAR0302) โดยมจี ุดประสงคเ์ พ่ือการศกึ ษาความรู้ท่ีได้จากเร่อื ง
วาดเสน้ (Drawing) ซงึ่ รายงานนมี้ ีเน้อื หา 2 หมวดหลกั ๆคือ หมวดวาดเส้นหนุ่ นง่ิ และ หมวดวาดเส้นทิวทศั น์ การวาดเส้น
หุ่นน่ิงจะกล่าวถงึ ขนั้ ตอนพนื้ ฐาน การจัดหุ่น การเลือกมุม การรา่ งภาพ การแรเงา คา่ น้ำหนกั แสงเงา พนื้ ผิววตั ถุ ระยะและ
บรรยากาศภายในภาพ ตลอดจนการประยุกต์ ในสว่ นของหมวดวาดเสน้ ทวิ ทัศน์ จะกลา่ วถึง ทศั นยี ภาพ การเลอื กมุม และ
จะอธบิ ายเกยี่ วกับ ทวิ ทัศนบ์ ก ทวิ ทัศน์ทะเล ทิวทัศนส์ ิง่ กอ่ สร้าง ศกึ ษาเพ่ือให้ได้ความรู้การวาดเสน้ และไดศ้ ึกษาอยา่ ง
เขา้ ใจเพื่อเป็นประโยชนก์ ับนักศึกษา
อยา่ งไรก็ตาม เนอ้ื หาและข้ันตอนได้รบั การศึกษาและรวบรวมจากอนิ เทอร์เนต็ และอาจารย์ขอขอบคุณอาจารย์
มากๆ ท่ีใหค้ ำแนะนำตลอดการทำงานของผู้จัดงาน ฉันหวังวา่ รายงานนจ้ี ะเป็นประโยชน์กบั ผู้ทีใ่ ช้รายงานนี้ไมม่ ากกน็ ้อย
นางสาว เนตรทพิ ย์ สงิ หช์ ู
ผู้จัดทำ
สารบัญ ข
เรื่อง หน้า
คำนำ ก
สารบญั ข
หมวดวาดภาพหนุ่ น่ิง 1
วสั ดุอุปกรณใ์ นการวาดเสน้ 1
มุมภาพ และการจัดภาพ 3
การรา่ งภาพคน 4
การร่างภาพสัตว์เรขาคณิต 5
ความหมายของห่นุ นิ่ง 6
ประเภทของหุ่นนง่ิ 6
ขัน้ ตอนการวาดเส้นห่นุ นง่ิ 6
การแรเงา 7
ค่านำ้ หนกั 8
กำหนดฉากหลัง 8
ระยะของภาพ 9
พื้นผิวของวตั ถุ 9
การเก็บรายละเอียดภาพ 11
สรปุ 11
ภาพทิวทัศน์ 12
ทวิ ทศั นบ์ ก 12
ทิวทศั นท์ ะเล 12
ทิวทศั น์ส่ิงก่อสร้าง 12
ทศั นยี ภาพ 13
มุมมองภาพ 15
อ้างอิง 17
1
หมวดวาดภาพห่นุ นง่ิ
วาดเส้น (Drawing) เป็นวิธีการสร้างภาพโดยวิธีที่ง่ายและรวดเร็ว เพื่อสื่อความหมายทางการเห็นขั้นเริ่มแรกของ
มนุษย์ด้วยปัจจัยขั้นพื้นฐาน คือ ร่องรอยต่าง ๆ และเครื่องมือง่าย ๆ ที่อยู่ใกล้ตัว เช่น ถ่าน เศษไม้ หรือแม้แต่นิ้วมือของ
ตนเอง ซงึ่ มนุษยต์ ้องการแสดงออกในบางอยา่ งทเี่ ปน็ ส่วนตนออกมาใหป้ รากฏ ไมว่ ่าจะเป็นเร่ืองของความเชือ่ ความนกึ คิด
อารมณค์ วามร้สู กึ หรอื แม้แต่รอ่ งรอยง่าย ๆ ท่ีทำขึ้น
วาดเส้นเป็นพื้นฐานของงานทัศนศิลป์และออกแบบ เช่น จิตรกรรม ประติมากรรม ภาพพิมพ์ สถาปัตยกรรม
ออกแบบตกแต่ง ศิลปะไทย ลายรดนำ้ เป็นต้น ก่อนที่เราจะสรา้ งสรรค์งานศิลปะแขนงต่าง ๆ ดังที่ยกตัวอย่างมาข้างต้น
จำเป็นจะต้องมีความชำนาญทางการวาดเส้นให้แม่นยำเสียก่อน เมื่อมีความชำนาญทางการวาดเส้นแล้วก็จะทำให้การ
ทำงานศิลปะต่าง ๆ ง่ายข้นึ
วัสดุอุปกรณ์ในการวาดเสน้
๑. กระดานรองเขียน ขนาด ๔๐ x ๖๐ เซนติเมตรโดยประมาณ ความหนาประมาณ ๔ มลิ ลิเมตร
๒. กระดาษ กระดาษสำหรบั วาดเสน้ มหี ลายชนดิ สามารถเลือกใชไ้ ด้ ตามเทคนคิ ของการวาดเสน้ ซึ่งต้องดู
คุณสมบัตแิ ละความเหมาะสม เชน่ น้ำหนกั การซึมซับ และผวิ สัมผสั
๓. ยางลบ
๔. ตวั หนีบกระดาษ
๕. มีดเหลาดินสอ
๖. เครือ่ งเขียน อาจแบง่ ออกเปน็
๖.๑ ถา่ น มีคุณลกั ษณะตา่ งกันเนื่องจากความละเอยี ด ความแข็งของเน้อื ถา่ น เช่น
- ถ่านไม้ เป็นถ่านมีความแข็ง เปราะ คุณสมบัติในการวาดให้น้ำหนักอ่อนแก่ที่นุ่มนวลได้ค่อนข้างมาก
เหมาะสำหรับการเขียนแสงเงาท่ีนุ่มนวล และเงาที่เป็นพื้นที่กว้าง เช่น การเขียนภาพคนเหมือน ภาพเปลือย ทิวทัศน์ และ
ภาพหุ่นนิ่งต่าง ๆ มีส่วนช่วยจับลักษณะแสงเงาส่วนรวมเหมาะกับการเขียนลงบนกระดาษปรู๊ฟ ( Proof) หรือกระดาษ
หนังสอื พิมพ์
- ถ่านแท่ง หรือ เกรยอง (Crayon) เป็นถ่านแท่งส่ีเหลี่ยมมีความแข็งปานกลาง สามารถสร้างเงาที่นุม่ นวล
เกรดที่นิยมใช้ทั่วไปคือ B และ 2B มีหลายสีแต่ที่นิยมคือสีดำ เพราะเน้นน้ำหนักแสงเงาได้ชัดเจนกว่าสีอื่น เหมาะสมกับ
การเขยี นลงบนกระดาษขาวทั่วไป
ภาพจากการวาดเสน้ ดว้ ยถา่ นแท่ง หรือเกรยอง
2
- ดินสอถ่าน (Carbon pencil) เป็นถ่านที่บรรจุไว้ในไส้ดินสอมีน้ำหนักความเข้มเช่นเดียวกับถ่านไม้
สามารถใชว้ าดภาพวตั ถุท่มี ีรายละเอียดมาก
๖.๒ ชอล์ก (Chalk) ลกั ษณะเป็นแท่งกลม มหี ลายสีเหมาะสมกับการเขียนบนกระดาษสเี ข้ม เช่น สนี ำ้ ตาล สีเมา
สเี ขยี ว ฯลฯ
๖.๓ ดนิ สอ (Pencil) เปน็ อปุ กรณพ์ น้ื ฐานของการวาดเส้นในปัจจบุ ัน งา่ ยต่อการขนย้าย สามารถลบออกได้ มีทั้ง
ไสอ้ อ่ นและไสแ้ ข็ง
๖.๔ หมึก (Ink) สีที่นิยมใช้ในการวาดเส้นคือ สีดำ สีน้ำตาล ควรเลือกใช้กระดาษที่มีความหนา เช่น ๘๐ ปอนด์
หรอื ๑๐๐ ปอนด์ จะใชผ้ วิ เรยี บ หรอื หยาบก็ได้ โดยมีอปุ กรณอ์ ื่นเขา้ มามสี ่วนเกี่ยวขอ้ ง เชน่ แปรง พูก่ นั ปากกา สันไม้ ไม้
ทุบปลาย เปน็ ตน้
ก่อนเขียนรปู ควรสังเกตดลู กั ษณะของหุน่
๑. รูปทรง ขนาด ระยะ สังเกตรูปทรงและขนาดของภาพให้ดี หากเราย่อหรือขยายสัดส่วนโดยสังเกตจากหุ่นที่
ใกลเ้ คยี ง เปรียบเทียบ ขนาด ระยะ ความสงู ต่ำ
๒. แสงและเงา ทิศทางที่แสงตกกระทบหุ่น แสงมีหลายลักษณะ คือ
- แสงสว่างทีส่ ุด (Highlight) อยู่ในสว่ นทีร่ บั แสงโดยตรง
- แสงสว่าง (Light) อยู่ในส่วนรบั อทิ ธพิ ลของแสง
- เงา (Shadow) อยใู่ นสว่ นรับอทิ ธพิ ลของแสงน้อยมาก
- เงามืด (Core of Shadow) อยู่ในสว่ นทไี่ ม่ไดร้ ับอทิ ธิพลของแสงเลย
- แสงสะท้อน (Reflects Light) บรเิ วณของวตั ถุท่ีไม่ได้รบั แสงโดยตรง แต่เปน็ การสะท้อนของแสงจากวัตถุ
ใกล้เคียง
- เงาตกทอด (Cast Shadow) บริเวณทเี่ งาของวตั ถนุ น้ั ๆ ตกทอดไปตามพนื้ หรือตามวัตถุอน่ื ทร่ี องรบั นำ้ หนักแก่
กว่าบรเิ วณแสงสะท้อน
ภาพการร่างรูปทรง ทิศทางแสงและเงา
๓. ผวิ สงั เกตหนุ่ ว่ามีลักษณะผิว
๔. นำ้ หนกั
๕. องค์ประกอบของภาพ
3
การเลอื กมุมวาดภาพและการจัดภาพ
การเลือกมมุ วาดภาพโดยใชก้ ระดาษแข็งตดั เป็นมุมฉากคลายรูปตัวแอล สองตวั นํามาประกบกนั ใชค้ ลิบหนบี
กระดาษใหต้ ิดกันทําเปน็ กรอบช่องสี่เหลยี่ มเรียกวา่ ชอ่ งหาสนามภาพ เพือ่ ไวใ้ ช้ส่องเลือกมุมทีจ่ ะวาด และจดั ภาพไดอ้ ยา่ ง
เหมาะสม
ภาพแสดงการใชช้ อ่ งหาสนามภาพ เพอ่ื เลือกทิวทัศน์สวยงามสาํ หรบั วาด
การจัดภาพ
ในขณะที่เราใช้ ช่องหาสนามภาพ ส่องเลือกมุมวาดภาพควรคดิ คํานึงถงึ วิธีการจัดภาพให้เกดิ คณุ คา่ ทางความ
งามควบคู่กนั ไปด้วย โดยการนาํ ส่วนประกอบต่างๆของศิลปะทมี่ องเห็น เชน่ จุด เสน้ รปู ร่าง รูปทรง ขนาด สัดสว่ น
แสงเงา สี บรเิ วณวา่ ง และพ้ืนผิว มาจัดใหม้ ีเอกภาพ(UNITY) ความสมดลุ (BALANCE) และจดุ สนใจ (POINT OF
INTEREST) หรอื จดุ เดน่ (DOMINANCE)
การวางตาํ แหนง่ จุดสนใจของภาพนิยมจัดวางไว้ในระยะใกล้ หรือ ระยะกลางแต่ไม่ควรวางไวต้ รงกลางของภาพ
เพราะจะทำให้รสู้ กึ หยุดน่ิงไมเ่ คลอ่ื นไหว จดุ สนใจที่ดีควรมีเพียงจุดเดียว
ภาพแสดงตำแหนง่ ทใ่ี ช้วางจุดสนใจของ ภาพโดยเลือกจุดใดจดุ หนงึ่ ทเ่ี หน็ ว่าเหมาะสมงดงาม
ลำดบั ข้ันในการสร้างงานวาดเส้น
๑. ขน้ั เตรียมการ ไดแ้ ก่ การเตรียมอุปกรณ์ให้พรอ้ มในการวาดภาพ การเตรียมใจ หมายถึง มใี จพร้อมท่จี ะวาดภาพ
และการเลือกมมุ มอง ดูทิศทางท่แี สงเขา้ และเงาตกทอดท่ชี ัดเจน
๒. ขั้นร่างภาพ การร่างภาพเป็นส่วนสำคัญของการวาดเส้น เพราะถือว่าเป็นการเริ่มต้นของโครงร่างของภาพ
ทั้งหมด ถ้ารา่ งไดเ้ หมาะสมกับหน้ากระดาษ การลงน้ำหนักหรอื แรเงาจะง่ายข้ึน เรม่ิ แรกคอื การหาส่วนรวมของภาพ จะทำ
ใหเ้ รากำหนดตำแหนง่ ของสว่ นละเอียดให้ถูกต้องข้ึน
4
๓. ขั้นลงน้ำหนัก เพื่อให้การลงน้ำหนักเหมือนของจริง ต้องสังเกต น้ำหนัก แสงและเงาในตัววัตถุที่เราเตรียมลง
นำ้ หนัก ดูจากขอ้ แสงและเงา การลงนำ้ หนกั มี ๒ ลักษณะ คือ
- การลงน้ำหนกั ตามหลกั การของแสงอาทิตย์ ลงน้ำหนกั ให้แสงเงาเหมอื นจริง
- การลงน้ำหนักตามความรู้สึก แสดงถึงความสามารถในการคิดสร้างสรรค์รูปร่างและรูปทรงขึ้นใหม่ จาก
ความคดิ และความร้สู ึกอนั ทำให้ไดค้ วามงามทแ่ี ปลกออกไป
การร่างภาพสง่ิ ของ
การร่างภาพคน
การวาดภาพคนเต็มตัวน้นั คอื การวาดคนตั้งแต่ศีรษะจนถึงปลายเทา้ การวาดคนเต็มตัว ( Figure ) มีการแบง่
สดั สว่ นออกเป็นทง้ั หมดของร่างกายโดยมาตรฐาน 7ส่วนครึ่ง
ส่วนที่ 1 จากศีรษะบนสุด จนถึง ปลายคาง
สว่ นท่ี 2 จากปลายคาง จนถึง กลางหน้าอก
สว่ นท่ี 3 จากกลางหน้าอก จนถงึ สะดอื
สว่ นที่ 4 จากสะดือ จนถึง โคนขา
ส่วนท่ี 5 จากโคนขา จนถงึ ก่ึงกลางขาอ่อน
ส่วนท่ี 6 จากกง่ึ กลางขาอ่อน จนถึง น่อง
ส่วนท่ี 7 จากน่อง จนถงึ ข้อเทา้
ส่วนที่ 7 1/2 จากขอ้ เท้า จนถงึ ส้นเทา้
5
การรา่ งภาพคน
การร่างภาพสตั วเ์ รขาคณติ
สังเกตลกั ษณะท่ีเป็นเอกลกั ษณ์ของสัตวแ์ ตล่ ะชนดิ หาจดุ เด่นและสังเกตลลี า ท่าทาง และอปุ นิสยั ของสตั วท์ เ่ี รา
วาด รา่ งภาพจากโครงสร้างโดยส่วนรวมกอ่ น โดยอาศยั พน้ื ฐานโครงสรา้ งของรูปทรง
การร่างภาพสัตว์
วาดเส้น มีเรื่องของแสงและเงาเป็นหลักสำคัญ เป็นพื้นฐานแรกของการเข้าสู่การทำงานทางด้านทัศนศิลป์และ
ออกแบบ เป็นการแสดงออกโดยการสร้างภาพใหม้ องเหน็ ความคิดและความรู้สกึ ของผู้สรา้ งสรรค์ผลงานศลิ ปะ
การวาดเส้นหุ่นน่งิ
การวาดภาพหุ่นนิ่งนั้นนับว่าเป็นจุดเริ่มต้นพื้นฐานของการเริ่มวาดภาพ Drawing อย่างจริงจัง เนื่องจากเป็นการ
เร่ิมฝกึ ขบวนการทัง้ หมดท่ีจะพฒั นาไปสู่การวาดภาพประเภทอ่ืน ผลงานการฝึกวาดเส้นชิน้ แรก ๆ ของชีวิตนักศึกษาศิลปะ
แทนทุกคนนน้ั กน็ า่ จะเปน็ ภาพหนุ่ น่ิง สามเหลี่ยม ส่ีเหลีย่ ม วงกลม แทบ
ทั้งส้ิน
6
ความหมายของหุน่ นง่ิ
การวาดเส้นหุ่นน่ิง (STILL – LIFE) คือ สิ่งของเครื่องใชท้ ี่นำมาจดั ขึ้น โดยขอบเขตของหุน่ ไม่มากนักเป็นการจดั
ขึ้นเองภายในห้องในสมัยก่อน ศิลปินยุโรปให้ความสำคัญกับการวาดภาพหุ่นนิ่งเป็นเพียงภาพประกอบของภาพคน เพ่ือ
แสดงฐานะของเจ้าของภาพเทา่ น้ัน ภาพห่นุ นิง่ เร่ิมมคี วามสำคญั ตัง้ แต่ ศต. 16 โดยเรม่ิ จากศิลปนิ สกลุ ดตั ซ์ และองั กฤษ
ประเภทของหุ่นนงิ่
1. หุน่ นิง่ จากธรรมชาติ เช่น ดอกไม้ ผลไม้ ฯลฯ
2. หนุ่ นง่ิ จากวัตถุสง่ิ ของ เช่น ขวดแกว้ ไห ฯลฯ
3. หุ่นนงิ่ จากรปู ทรงทางวฒั นธรรม เช่น เครอ่ื งแต่งกาย หัวโขน ฯลฯ
4. หุ่นน่งิ จากวตั ถุทางเทคโนโลยี เชน่ โลหะ เครื่องจักรฯลฯ
การวาดภาพห่นุ นิ่งนน้ั นบั ว่าเปน็ จุดเริ่มตน้ พ้ืนฐานของการเรมิ่ วาดภาพ Drawing อย่างจรงิ จัง เนือ่ งจากเป็นการเร่ิม
ฝึกขบวนการทัง้ หมดท่จี ะพฒั นาไปส่กู ารวาดภาพประเภทอน่ื ผลงานการฝกึ วาดเส้นชิ้นแรก ๆ ของชวี ติ นกั ศึกษาศลิ ปะแทน
ทกุ คนนั้นก็นา่ จะเป็นภาพหุน่ น่งิ สามเหล่ยี ม สเ่ี หล่ยี ม วงกลม แทบทัง้ ส้ิน
เหตุใดจึงมีการบรรจุหลักสูตรการวาดภาพหุ่นนิ่งพื้นฐานของวิชาวาดเส้น คำตอบนั้นน่าจะเป็นเพราะมีบางสิ่งที่
มากกวา่ การนำแค่สงิ่ ของมาต้งั ไว้เฉย ๆ แล้วให้วาดตามทีต่ าเหน็
ขัน้ ตอนการวาดเส้นภาพหุ่นนงิ่
การวาดภาพหุ่นนิ่งนั้น ต่างจากการวาดเส้นประเภทอื่นตรงที่การวาดเส้นหุ่นนิ่งผู้วาดไม่ต้องไปกังวลกับการ
เปลี่ยนแปลงหรือการเคลื่อนท่ีของวัตถุ แต่สิ่งที่ซ้อนอยู่ในกลุม่ วัตถุน้ันนั่นก็คือ การรู้จักพื้นฐานในการเลือกมุมมอง การ
รจู้ ักจัดองคป์ ระกอบการลงนำ้ หนักแสงเงา เพราะหากให้คน 10 คนวาดเส้นห่นุ นิ่งแบบเดียวกนั กเ็ ช่ือแนว่ ่าจะได้ภาพนุ่นนิ่ง
ออกมา 10 แบบ 10 อารมณเ์ ลยทเี ดยี ว
สำหรับผทู้ ี่เร่ิมวาดภาพห่นุ น่ิงนั้นมขี น้ั ตอนการวาดดังน้ี
1. กำหนดพน้ื ทห่ี รอื ขอบเขตทั้งหมดของหนุ่ ใหเ้ หมาะสมกับหน้ากระดาษ
2. กำหนดตำแหนง่ ของวตั ถภุ ายในโดยให้มวี ตั ถุหลกั 1 ชิ้น ไวค้ อยกำหนดสดั ส่วนกับวตั ถชุ ้นิ อนื่
3. รา่ งภาพครา่ วๆ
4. ดูตำแหน่งสัดส่วนให้ถูกต้อง ปรับปรุงแก้ไขโดยเปรียบเทียบกับวัตถุหลักว่าใหญ่ไป เล็กไปหรือตำแหน่งสูงต่ำ
ถูกต้องหรอื ไม่
7
5. ให้นำ้ หนกั แสงเงาแบบรวมๆ ภาพห่นุ นิง่ นัน้ มีความสัมพันธ์เกยี่ วข้องกบั เรื่องของพื้นหลัง ฉะนั้นหากต้องการให้วัตถุ
โดยรวมเป็นน้ำหนกั อ่อน พ้นื หลงั ก็ควรจะเปน็ นำ้ หนักเขม้ หรือหากวัตถเุ ข้ม พื้นหลังก็ควรจะอ่อน ทัง้ นก้ี ็ข้ึนอยู่กบั ความ
เหมาะสมของเร่ืองราวทีจ่ ะนำเสนอ ดวู า่ ลงนำ้ หนักไปแลว้ งานดมู ีบรรยากาศหรือไม่ เพ่ือให้งานที่ออกมามีอารมณ์
ความรสู้ ึก
6. ขนั้ ตอนตอ่ มา คือการเพิม่ รายละเอียดของวตั ถุ แสงเงา
7. ปรับปรุงแก้ไขจนภาพเสร็จสมบรู ณ์
การแรเงา
คือ การสรา้ งรอยดินสอ ปากกาหรอื อนื่ ๆ ด้วยการควบคุมน้ำหนักผอ่ นหนักเบาในการ ขดี เขยี น เกลย่ี ปาด ทบั ไขว้
และใช้รอยเหล่านี้สร้างน้ำหนักใหเ้ กดิ ลักษณะผิวของธรรมชาติ หรอื หุ่นทใี่ ช้ในการเขยี นการแรเงาจึงเป็นการสร้างความเข้ม
ด้วยระยะต่างๆ ในรูปทรงของงานชิ้นหนึ่งๆ เมื่อใช้ตามลักษณะแสงเงาจะทำให้เกิดมิติของมวลสารและระยะ หรือปริมาณ
มาตรของรูปทรง น้ำหนักที่ไล่เรียงจากอ่อนไปหาแก่อย่างสม่ำเสมอนี้ เรียกวา่ ค่า (VALUE) ของสีหรือนำ้ หนักทีร่ ะบายเปน็
ระยะอ่อน กลาง แก่ คา่ ของระยะอ่อนแก่เหล่านน้ี ิยมเรยี กกนั ว่า น้ำหนกั
การแรเงาคา่ นำ้ หนกั ออ่ น กลาง เข้ม
การแรเงาน้ำหนักจงึ เปน็ การสร้างเงาในภาพ ให้ดูมีความลกึ มีระยะใกล้ไกลและดูมปี ริมาตร เปลย่ี นคา่ ของรปู ร่างทีม่ ี
เพียง 2 มิติให้เป็น 3 มิติ ทำให้รปู รา่ งทม่ี เี พียงความกวา้ ง-ยาวเปล่ยี นคา่ เป็นรูปทรงมีความต้ืนลกึ หนาบางเกิดข้ึน ความตื้น
ลึกหนาบางนเ่ี ป็นความรสู้ ึกเท่านั้น และการทำให้เกิดภาพเชน่ น้กี ค็ อื เทคนิคในการสร้างภาพลวงตา (ILLUSION) เป็น
วธิ กี ารสรา้ งสรรคง์ านศิลปะอยา่ งหนึ่ง
น้ำหนกั ในการวาดเขียนจงึ มคี วามหมายดงั นี้
1. บริเวณมืดและสว่างขององคป์ ระกอบต่างๆ ในภาพเขียน
2. แสดงความอ่อนแกร่ ะดบั ต่างๆ จากดำมาขาวให้แก่รปู ทรงทม่ี ีอย่ใู นภาพ นัยหนง่ึ คือ ทำหนา้ ทีแ่ สงเงาใหแ้ กร่ ปู ทรง
ลกั ษณะของนำ้ หนกั จะเป็นดงั น้ี
1. มี 2 มติ ิ คือ กว้างกบั ยาว
2. มที ิศทาง
3. มคี วามยาว ความสน้ั ความโคง้ หรือเป็นคล่นื ฯลฯ
4. มีรปู ร่าง กลม เหล่ยี ม หรืออสิ ระตามลักษณะของรูปทรง
5. มีความอ่อน แก่ และลกั ษณะผวิ ต่างๆ ตามแบบหรือหุน่ ที่วาด
8
ความสำคัญของค่าน้ำหนัก
1. ให้ความแตกตา่ งระหว่างรูปทรงกับพืน้ ที่ หรือรูปทรงกับท่วี า่ ง
2. ใหค้ วามรสู้ กึ เคล่ือนไหวต่อการนำสายตาผู้ดู บริเวณที่น้ำหนักตัดกันจะดงึ ดดู ความสนใจ ถ้าตัดกนั หลายแห่งจะนำ
สายตาใหเ้ คล่อื นที่จากบริเวณหนง่ึ ไปยังอกี บริเวณหนงึ่ ทั้งน้ีจะเป็นไปตามจังหวะที่ผ้เู ขยี นกำหนดไว้นั่นเอง ซ่ึงอาจ
กลมกลนื หรอื ตัดกันอย่างรนุ แรง
3. ให้ความเปน็ 2 มติ ิ หรอื 3 มิติแก่รปู ทรง
4. ให้ความรสู้ ึกในภาพ ด้วยการประสานกนั ของนำ้ หนกั
5. ใหค้ วามลกึ แก่ภาพ
แนวคดิ ในการแรเงานำ้ หนัก
เรามองเห็นสง่ิ ต่างๆ ได้ เพราะอาศัยแสงสวา่ งจากดวงอาทติ ย์ หรอื ต้นแสงจากแหล่งกำเนิดอน่ื เม่อื มแี สงสว่างก็ตอ้ ง
มีเงาควบอยู่ดว้ ย และแสงเงาทำให้เรามองเหน็ วตั ถุทผ่ี ิวสเี ดียวกนั มีนำ้ หนกั แตกต่างกัน เชน่ วตั ถสุ ขี าวส่วนทีถ่ ูกแสงจะเป็นสี
ขาวสว่างจา้ แต่สว่ นทไ่ี ม่ถูกแสงจะขาวหมน่ ทัง้ ที่วตั ถนุ นั้ กเ็ ป็นสีขาวเท่ากันตลอดพ้นื ผิว
เม่ือธรรมชาตขิ องแสงเงาใหผ้ ลท่มี องเห็นเช่นน้ี ผู้เขยี นจำตอ้ งเข้าใจการจัดนำ้ หนกั อ่อนแก่ใหไ้ ด้ใกลเ้ คียงกบั น้ำหนกั
ของแสงท่ีตกกระทบผวิ วัตถุ เพราะความแตกต่างของน้ำหนกั ทำใหเ้ กดิ ความรสู้ ึกทต่ี า่ งกันไปได้ เช่น นำ้ หนกั สที ่ีอ่อนให้
ความรู้สึกเบา นำ้ หนักสีที่แก่ทำใหด้ แู ลว้ รสู้ กึ หนกั นอกจากนยี้ ังทำใหเ้ กิดระยะต่างๆ ในการมองเหน็ ตลอดจนความรู้สึกด้าน
ความงามในทางศลิ ปะ
เทคนิคการแรเงานำ้ หนักทีน่ ิยมใชก้ ัน
1. ใหแ้ สงเขา้ ทางด้านหนง่ึ อีกดา้ นหนึง่ เป็นเงา เปน็ วิธกี ารที่ใชใ้ นการเขียนภาพเหมือนจริงทว่ั ไป
2. ใหแ้ สงเข้าตรงหน้า ส่วนท่ีอยู่ใกล้จะมนี ำ้ หนักอ่อน สว่ นท่ีอย่ไู กลจะมีน้ำหนักแก่ น้ำหนกั ทใี่ ชใ้ นวิธีนเี้ รยี กว่า จิอารอสคูโร
(CHIAROSCURO) เปน็ ภาษาอติ าเลียน แปลว่า ความสวา่ งและความมดื อนั ตา่ งไปจากการให้ปรมิ าตรของรปู ทรงดว้ ยการ
ให้แสงเงาทัว่ ไป
3. กำหนดใหแ้ สงขึน้ จากจดุ กลางภาพ ส่วนมากจะใชแ้ สงเทียนหรอื แสงไฟฟ้า
4. ให้แสงเกดิ ขึน้ ในจุดทตี่ ้องการ ส่วนอืน่ ใหอ้ ยู่ในเงามดื
5. ให้แสงกระจายเลื่อนไหลไปทั่วภาพ เนน้ ความใกล้ ไกล ลึก ตื้นด้วยบรรยากาศของนำ้ หนักจนเกอื บไม่คำนงึ ถงึ ปรมิ าตร
ของรูปทรง
6. ให้น้ำหนักอ่อนทง้ั รปู และพน้ื ไมเ่ น้นปริมาตรของรูปทรง แต่เนน้ ความสวา่ งของแสงให้จ้า ไมม่ ีเงา
7. ใหแ้ สงเตน้ ระรกิ กระจายไปทัว่ ๆ ภาพ
ค่านำ้ หนักของแสงและเงาทเี่ กดิ บนวัตถุ สามารถจำแนกเป็นลักษณะตา่ ง ๆ ไดด้ ังนี้
1. แสงสวา่ งทีส่ ุด (HIGH LIGHT) เป็นบรเิ วณทวี่ ัตถุกระทบแสงโดยตรง ทำใหส้ ่วนนนั้ มีน้ำหนกั อ่อนท่สี ดุ ถ้าวตั ถุเป็นสีขาว
บริเวณนัน้ จะปลอ่ ยว่าง ไมต่ ้องลงเงาก็ได้
2. แสงสว่าง (LIGHT) เปน็ บรเิ วณทไ่ี ม่ถูกแสงโดยตรง แต่มีบางส่วนทไ่ี ดร้ บั อิทธิพลจากแสง การลงนำ้ หนักบริเวณน้ีต้องให้
อ่อนจางแต่แก่กว่าบรเิ วณแสงสว่างที่สดดุ เล็กนอ้ ย
9
3. แสงสะท้อน (REFLECTED LIGHT) เป็นบริเวณของวตั ถุท่ีไมไ่ ด้กระทบแสงโดยตรง หากอยู่ในตำแหนง่ ท่ีเป็นเงาแต่ถูก
แสงสะท้อนจากวตั ถุที่อยู่ใกล้ๆ กนั มากระทบ นำ้ หนักของบริเวณนี้จะอ่อนกวา่ บรเิ วณท่ีเป็นเงา ค่าของแสงสะท้อนจะให้
ความรสู้ ึกในภาพมีมิติ มีมวลสาร มีชวี ิตชีวา ดูเหมอื นมีอากาศอยู่รอบๆ
4. เงา (DARK) เป็นบรเิ วณที่ได้รบั อิทธพิ ลของแสงน้อยมาก ซ่งึ เงาบริเวณน้ีจะต้องแรเงาใหม้ นี ำ้ หนักเข้มกวา่ บรเิ วณแสง
สว่างพอประมาณ พอทจี่ ะแยกแสงและเงาออกจากกนั ได้
5. เงามดื (DARKEST) เปน็ บรเิ วณทไ่ี ม่ได้รบั อิทธพิ ลของแสงจงึ ตอ้ งแรเงาด้วยนำ้ หนักท่ีเข้มกว่าบรเิ วณอื่นๆ ท้ังหมดของ
วตั ถุ
6. เงาตกทอด (CAST SHADOW) เปน็ บริเวณทเ่ี งาของวัตถุน้ันๆ ทอดไปตามพนื้ ท่ีรองรับวตั ถุ โดยจะมนี ำ้ หนักแก่กว่า
บริเวณแสงสะท้อน ขนาดและรปู รา่ งของเงาตกทอดจะขึ้นอยูก่ บั ทิศทางของแสง รูปรา่ งของวัตถุและพนื้
เทคนิคการแรเงาน้ำหนกั
เมือ่ ตรวจแกไ้ ขข้อบกพรอ่ งของภาพรา่ งดีแล้ว และเปน็ ภาพร่างท่ีพร้อมจะแรเงาน้ำหนกั การกำหนดแสงเงาบนวัตถุ
ในภาพรา่ งซ่ึงมีรปู ทรงตา่ งๆ นนั้ อาจลำดับขัน้ ตอนของกระบวนการได้ ดังนี้
1. หร่ีตาดวู ตั ถทุ ี่เป็นหุ่น กำหนดพ้นื ที่แบ่งส่วนระหว่างแสงเงาออกจากกนั ให้ชัดเจนดว้ ยเส้นร่างเบาๆบนรปู ทรงของภาพ
รา่ งทว่ี าดไว้นนั้ โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคร่าวๆ คอื แสงกบั เงาเท่าน้นั
2. แรเงาน้ำหนกั ในสว่ นพื้นท่ีทเี่ ปน็ เงาท้ังหมด ด้วยนำ้ หนักเบาทสี่ ุดของเงาท่ีตกทอดบนวัตถุ และเว้นพื้นทีส่ ่วนที่เปน็ แสงไว้
3. พิจารณาเปรยี บเทียบน้ำหนกั ท่เี บาทสี่ ดุ กบั นำ้ หนักทเี่ ข้มในส่วนข้ึนอกี เทา่ ใด แล้วแบ่งน้ำหนกั เงาท่ีอ่อนกับเงาที่เข้มขึ้น
ด้วยวิธรี ่างเสน้ แบง่ พ้นื ทีเ่ บาๆ เชน่ กันกบั ข้อ 1 จากนี้กแ็ รเงาเพมิ่ น้ำหนักในสว่ นทเ่ี ขม้ ขึ้น ตลอดเวลาจะตอ้ งเปรียบเทียบ
น้ำหนกั ของเงาทีล่ งใหม่กับเงาอ่อนและแสงท่ีเวน้ ไว้อยูเ่ สมอเพือ่ ให้การแรเงานำ้ หนักได้ใกล้เคียงความเป็นจรงิ การแรเงา
น้ำหนกั ตอ้ งลงรวมๆ ไปทีละน้ำหนัก จะทำใหค้ มุ นำ้ หนักไดง้ ่าย
4. การแรเงานำ้ หนักที่เข้มขน้ึ จะใชว้ ิธีการเดียวกับข้อ 1 และข้อ 3 จนครบกระบวนการจะทำให้ได้ภาพทม่ี ีน้ำหนักแสงเงา
ใกลเ้ คยี งกบั ความเป็นจริงจากนั้นเกลยี่ นำ้ หนกั ที่แบ่งไว้ในเบื้องตน้ ให้ประสานกลมกลนื กนั
5. พิจารณาในสว่ นของแสงท่ีเวน้ ไว้ จะเห็นวา่ มนี ำ้ หนกั อ่อนแกเ่ ชน่ เดยี วกบั ในส่วนของเงาต้องใช้ดินสอลงนำ้ หนักแผว่ ๆ ใน
สว่ นของแสงทเ่ี ว้นไว้ เพ่ือให้รายละเอยี ดของแสงเงามนี ำ้ หนักทีส่ มบูรณ์
6. เงาตกทอด ใชห้ ลักการเดียวกบั การแรเงาน้ำหนักบนวัตถทุ ี่กล่าวมาแล้ว แตต่ ้องสงั เกตทิศทางของแสงประกอบการเขยี น
แสงในการวาดเขียนปกติจะใชป้ ระมาณ 45 องศา กับพ้นื แตม่ ขี ้อสังเกต คอื ถ้าแสงมาจากมุมท่ีสงู จะเห็นเงาตกทอดส้ัน ถ้า
แสงมาจากมมุ ทต่ี ่ำลง เงาตกทอดจะยาวข้ึนในส่วนน้ำหนกั ของเงาตกทอดเองกจ็ ะมนี ำ้ หนกั อ่อนแกเ่ ช่นเดยี วกับแสงเงาบน
วัตถคุ อื เงาท่ีอยูใ่ กลว้ ตั ถจุ ะมีความเข้มกวา่ เงาทท่ี อดห่างตัววัตถุสาเหตุมาจากแสงสะท้อนรอบๆ ตวั วัตถุท่ีสะทอ้ นเข้ามาลบ
เงาใหจ้ างลง
กำหนดฉากหลัง
ฉากหลังคอื ส่วนที่ผู้วาดเสน้ กำหนดให้ปรากฏอยขู่ า้ งหลังหนุ่ น่ิงในภาพที่วาดขึ้น โดยหลักการวาดเสน้ ฉากหลังของ
ภาพ หรือทเ่ี รียกว่า แบกกราวน์ (Back Ground) เปน็ ส่วนหนึง่ ที่สำคญั ทำใหภ้ าพมคี วามสมบรู ณส์ วยงามขึ้น เพราะฉาก
10
หลงั คอื องค์ประกอบรว่ มในภาพนนั้ ๆ เมื่อเราเน้นหุ่นนิ่งเป็นจดุ เดน่ สว่ นท่เี ปน็ ฉากหลงั จะช่วยสง่ ให้ภาพหุ่นนั้นน่าสนใจ
ยงิ่ ขน้ึ ทั้งทำให้เกิดระยะข้ึนในภาพ มีความต่อเนื่องเช่อื มโยงกันทัง้ ภาพ
เกิดเปน็ เอกภาพ (Unity) ซ่งึ ฉากหลังในการวาดหนุ่ นิง่ นยิ มกำหนดขน้ึ 2 ลกั ษณะ คอื ฉากหลังทเ่ี ปน็ บรรยากาศ และ ฉาก
หลงั ท่ีมีลักษณะทึบตัน
ฉากหลงั ท่เี ปน็ บรรยากาศ หมายถงึ การสร้างฉากหลงั ของหนุ่ น่ิงให้เหน็ เปน็ บรรยากาศท่ีมมี ติ เิ ปน็ ความจริง มีระยะ
ลึก ตามลำดับอาจมองเห็นบริเวณว่างเปน็ พ้นื ผนัง และสิ่งของอืน่ ๆ ที่ไมต่ ้องการเน้นความสำคญั หรืออาจใชน้ ้ำหนักให้เบา
ลงตามระยะตำแหนง่ ของส่ิงเหลา่ นั้น ทงั้ แสดงทศิ ทางตามหลักทัศนยี ภาพ เพือ่ ใหม้ บี รรยากาศท่สี มจรงิ มากข้นึ
ฉากหลังทมี่ ลี ักษณะทึบตัน
เปน็ ฉากหลงั ท่ีมลี ักษณะตรงกันข้ามกับแบบแรกคือไม่แสดงความลึกและระยะสว่ นหลังของห่นุ นงิ่ แต่จะแสดงเพยี ง
ค่าน้ำหนักรวมรอบหนุ่ นง่ิ ถ้าจะมองเปน็ บรรยากาศ กจ็ ะมีลักษณะท่เี ป็นพน้ื ฉากหลังมืดมวั และทบึ ตนั ไมม่ ีส่งิ ใดอยู่ใน
บรรยากาศนน้ั นอกจากความมดื และความสวา่ งของค่าน้ำหนกั ทีก่ ำหนดไว้เปน็ ฉากหลงั การกำหนดฉากหลงั ของการวาด
เสน้ หุน่ น่ิงท้งั สองแบบผู้วาดเสน้ ต้องนำหลักของรูปและพนื้ มาใช้ให้ถูกต้อง กลา่ วคือถ้าห่นุ นง่ิ มีนำ้ หนกั เข้มฉากหลงั มักจะมี
น้ำหนกั เบาและลักษณะตรงกันขา้ มถา้ ภาพหุ่นนงิ่ น้ำหนักเบา ฉากหลงั ก็จะมีน้ำหนักเขม้ ทั้งนี้อยู่กับทศิ ทางของแสง
ระยะของภาพ
ช่วยทำให้ภาพวาดมมี ิติ เกดิ ระยะใกลไ้ กลในภาพ และทำให้ภาพท่วี าดมีอากาศดูแล้วไมต่ นั ระยะในการวาดภาพ นิยม
วาดอยดู่ ว้ ยกนั 3 ระยะ เป็นอย่างน้อย คอื ระยะหนา้ ระยะกลาง และระยะไกล
ระยะของภาพ มีหลักในการวาด คือ วตั ถทุ ี่อย่ใู กลต้ า จะมีความคมชดั และมีรายละเอียดตา่ ง ๆ ท่ชี ดั เจนกวา่ วัตถุท่ีอยไู่ กล
ตา เพราะเมอื่ มองไปยังวัตถุ ตาจะถูกบดบงั ด้วยช้ันบรรยากาศท่ีอยู่รอบ ๆ ตวั ดงั น้นั วตั ถทุ อ่ี ยใู่ กลต้ า จะถูกบดบงั โดยชั้น
บรรยากาศทีน่ ้อยกวา่ วัตถุที่อยไู่ กลตา กล่าวคือ ย่งิ วัตถทุ ่ีอยู่ไกลตามากเทา่ ไหร่ จะถูกบดบังโดยชนั้ บรรยากาศมากข้ึน
เท่านั้น ทำให้ความคมชดั และรายละเอียดต่างๆของภาพลดลงตามลำดับ
พื้นผิวของวตั ถุ
วตั ถแุ ต่ละชนดิ จะมีลักษณะพื้นผวิ ที่มีความแตกต่างกันไป มีทง้ั ลกั ษณะผวิ มัน เรยี บ มัน หยาบ ด้าน ขรุขระ ฯลฯ
ในการวาดภาพ ผู้วาดจะตอ้ งวาดให้เหน็ ถึงลกั ษณะความแตกตา่ งระหวา่ งพน้ื ผวิ ของวัตถุ แต่ละชนดิ ใหเ้ กดิ ความชดั เจน
- ผิวดา้ น เช่น กิ่งไมแ้ หง้ ใบไม้แหง้ เคร่ืองป้นั ดนิ เผา หุน่ ผวิ ลกั ษณะนี้แสงจะต้องนมุ่ นวล จากแสงอ่อนไปจนถึงแกจ่ ดั
- ผิวมนั เชน่ ผลไมส้ ด เซรามคิ ภาชนะพลาสติก หนุ่ ผิวประเภทน้จี ดั เปน็ จดุ และแสงจะต้องขาวไม่วา่ หุน่ จะเปน็ อะไรก็
ตาม
- ผวิ ใส เช่น แก้วนำ้ ขวดใส ถงุ พลาสติกใส่อาหาร โหลแก้ว หุน่ ประเภทน้ีต้องเขียนใหใ้ สมองทะลุถงึ วตั ถทุ อี่ ยู่ดา้ นหลงั ของ
หุน่ จะมคี วามแวววาวมาก
11
ภาพวาดเส้นทแ่ี สดงถงึ พนื้ ผวิ ของวัตถุนั้นๆ ภาพวาดถว้ ยชาทเี่ ป็นเซรามคิ
สีของวตั ถุ การกำหนดสขี องวตั ถุ เราควรเปรยี บเทียบสขี องวัตถุให้ไดว้ ่าสีใดมีคา่ นำ้ หนักเชน่ ไรเม่ือถา่ ยทอดออกมา
เปน็ ขาวดำเช่น สแี ดง มว่ ง น้ำเงนิ จัดเปน็ สีทมี่ คี ่านำ้ หนกั เขม้ สีเหลอื ง สม้ ชมพู ครมี เขียวออ่ น จัดเป็นสที ีม่ ีค่านำ้ หนกั
อ่อน ทั้งนขี้ ึน้ อยู่กบั สภาพของแสง และเงาทีจ่ ะเปน็ ตัวกำหนดค่านำ้ หนกั อกี ปัจจยั หน่ึงดว้ ย
เก็บรายละเอียดภาพ เปน็ ข้ันตอนสดุ ทา้ ยในการเขยี ดภาพหนุ่ น่ิง
เม่อื ลงน้ำหนกั รวมแล้ว ทีน้ีก็ต้องค่อยๆเกบ็ นำ้ หนักทลี ะนดิ ละคอ่ ยๆเพิ่ม ค่อยๆเก็บ หมน่ั สงั เกตุและวเิ คราะห์ ตาดู
สมองวิเคราะหพ์ ร้อมตัดสนิ ใจ ในขณะท่มี ือค่อยๆบรรจงฝนเส้นเขา้ ไป ทลี ะเสน้ ทลี ะเสน้ อย่าพยายามลากเส้นยาวเหมือน
ตอน ลอ็ คนำ้ หนัก อันนั้นมนั เสน้ รา่ งกับลอ็ คเพราะถ้าลากยาวเกนิ ไปแลว้ จะทำให้เราจะต่อน้ำหนกั ยากครับ ทำให้ภาพแบน
สนทิ พยายามใช้เสน้ ส้นั ตอ่ กันไปเรอ่ื ยๆจนเกิดน้ำหนัก ค่อยๆเพม่ิ ทลี ะนิด ๆ
สรปุ : การวาดเส้น Drawing ถอื เปน็ การฝึกสมาธทิ ด่ี ีอย่างหน่ึง งานดรออ้ิงไมใ่ ช่มแี ค่เพยี งแบบเหมือนจริงทเี่ กิดขึ้นจาก
ธรรมชาติ แต่ยงั มแี บบดัดแปลงจากความเปน็ จรงิ และตามความคดิ ความรู้สึก ถา้ จะทำผลงานการดรออง้ิ ออกมาให้ดีไดน้ ้นั
ต้องศึกษาพื้นฐานให้ดีก่อนเพ่ือความแม่นยำ ในการทจ่ี ะวาดควรใชว้ ัสดุอุปกรณ์ให้ถกู กับโจทย์งานทีเ่ ราจะทำ การรา่ งภาพ
มองภาพโดยรวมก่อน ลงมือวาดไปโดยที่ปรบั แกไ้ ปเร่ือยๆเพอื่ ให้ถูกต้องตามแบบที่เราต้องการ การแรงเงาต้องดภู าพรวม
ว่าแสงมาจากทิศทางใด เพ่ือมาลงน้ำหนกั อ่อน กลาง เขม้ ได้อยา่ งถูกต้อง ในส่วนของลกั ษณะพน้ื ผวิ ก่อใหเ้ กดิ ความรูสึก
ตา่ งๆ ทำใหว้ ัตถุแต่ละประเภทมีชวี ิตชวี ามากขึ้น การมองดูทิศทางแสงจะทำใหเ้ วลางานเสร็จแล้ว จะไดม้ ีความสมบูรณ์มาก
ยง่ิ ข้นึ ระยะ บรรยากาศภายในภาพจะสร้างความกลมกลืน ในขน้ั ตอนสดุ ทา้ ยของงานวาดเสน้ คอื การเกบ็ รายละเอยี ดภาพ
ในสว่ นน้ีตอ้ งเลอื กดินสอ หรือ อปุ กรณ์ทถ่ี นดั มอื สามารถเก็บรายละเอยี ดได้ ในระดับท่ีต้องการ จะเห็นไดว้ ่า ทุกขั้นตอนมี
ความสำคญั เพราะเป็นพน้ื ฐานในการวาดเสน้
12
ภาพวาดลายเส้นทิวทัศน์
ภาพทวิ ทศั น์ หรือ ภาพววิ หมายถึงภาพแสดงลักษณะธรรมชาตขิ องภูมิประเทศที่ปรากฏใหเ้ หน็ โดยทวั่ ไป เช่น ภาพ
ท้องนา ทุ่งหญ้า ภูเขา ทะเล บ้านเรือน ท้องฟ้า เป็นตน้ ซึ่งเปน็ ภาพทมี่ องเห็นในระยะไกล ถ่ายทอดความงามออกมาเปน็
ผลงานศิลปะ ดว้ ยการวาดภาพ ถา่ ยภาพ และการปัน้ รปู เป็นต้น โดยแสดงบรรยายกาศอันสวยงาม ทง้ั รปู ทรง สีสัน แสงเงา
และระยะใกลไ้ กล ภาพทวิ ทศั น์ แบง่ ตามลกั ษระธรรมชาตแิ ละสภาพแวดล้อมไดเ้ ป็น 3 ประเภท ดังน้ี
1. ภาพทิวทศั น์บก (Landscape Painting)
ภาพทิวทศั นบ์ ก หมายถึง ภาพทิวทัศนท์ ่ีแสดงความงามของธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดลอ้ มบนบก เช่น บนพน้ื ดนิ เป็น
สำคัญ ซึ่งมสี ่วนประกอบต่างๆ เชน่ ทอ้ งนา ทงุ่ หญา้ ปา่ ไม้ ต้นไม้ น้ำตก แม่นำ้ ลำธาร เป็นต้น อาจมีภาพคนหรอื สตั ว์เป็น
สว่ นประกอบ เพ่ือช่วยดสรมิ สรา้ งความเปน็ ธรรมชาติยิ่งข้นึ
ภาพวาดลายเส้นทิวทศั น์บก ผลงานของธนาสุทธิ์ นติ วิ ัฒนกุล
2. ภาพทิวทัศนท์ ะเล (Seascape Painting)
ภาพทิวทศั น์ทะเล หมายถงึ ภาพทวิ ทศั น์ท่ีแสดงความงามของธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เปน็ ทะเลเป็นสำคัญ ซ่งึ มี
สว่ นประกอบต่างๆ เชย่ ชายหาด พ้ืนทราย สะพานปลา โขดหนิ น้ำทะเล ภูเขา ท้องฟ้า ชาวประมง เป็นตน้
ภาพทวิ ทัศนท์ ะเล
3. ภาพทวิ ทัศน์สงิ่ กอ่ สร้าง ( Architectural Landscape)
ภาพทิวทศั น์ส่ิงก่อสรา้ ง หมายถึง ภาพเขียน รปู ป้ัน และภาพแกะสลักหรือภาพประเภทอ่นื ท่ีแสดงความงามของ
อาคาร บา้ นเรือน และสิง่ กอ่ สร้าง รวมท้งั ธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อมรอบ ๆ อาคาร ซง่ึ มสี ว่ นประกอบตา่ งๆ เชน่ วัด โบสถ์
วิหาร ตกึ บา้ น สะพาน ถนน ต้นไม้ แม่น้ำ ลำธาร ทอ้ งฟ้า เปน้ ตน้ เป็นการแสดงบรรยากาศ ท่ีเป็นรปู แบบของสง่ิ ก่อสรา้ ง
เช่ย สถาปัตยกรรมต่างๆ โดยเฉพาะ ความสมั พนั ธ์ของ เสน้ สี แสงเงา ทป่ี รากฏบนสงิ่ ก่อสรา้ ง ตอ้ งมีความกลมกลืนกับ
ส่งิ แวดลอ้ ม
13
ภาพทิวทัศนส์ ิ่งกอ่ สร้าง วัดวาอาราม
ทศั นยี ภาพ
การร่างภาพด้วยเส้นทศั นยี ภาพ Perspective เส้นทัศนียภาพ คือ เส้นท่ีชว่ ยให้การวาดภาพบนระนาบ 2 มิติ ดู
เป็นภาพ 3 มติ ิ มีความเหมือนจรงิ คือ มคี วามกว้าง ความยาว และความลึก เพอื่ แสดงให้เห็นว่าวตั ถทุ ี่มีขนาดเทา่ กัน ถ้าวาง
อยู่ในตำแหน่งทต่ี า่ งกันจะมีขนาดตา่ งกันดว้ ย เชน่ เสาไฟฟ้าทีอ่ ยู่ใกล้ดใู หญ่กว่าท่ีอยู่ไกลตา
ขัน้ ตอนการร่างภาพด้วยเสน้ ทศั นยี ภาพ
1.เขียนเสน้ ระดับสายตา (HL Horizontal Lline) : เป็นเสน้ ท่ีอยู่ในระดับเดียวกบั ตา หรือจะเป็นเส้นขอบฟ้า เสน้ ที่แบ่ง
ท้องฟ้ากบั พ้ืนน้ำ
2.หาจดุ รวมสายตา (VP Vanishing Point) : หาไดโ้ ดยการร่างเสน้ จากโครงสร้างของวตั ถทุ ่ีอยู่ในภาพไปยงั เส้นระดบั สายตา
ซงึ่ ชว่ ยสร้างภาพวัตถุท่จี ะวาดใหม้ รี ะยะและขนาดตา่ งกัน
3.วาดรายละเอียดของวตั ถุ เมื่อร่างเส้น HL และเส้นท่ีมุ่งไปหาจดุ VP แล้ว กเ็ ร่มิ ใส่รายละเอียด แนะนำให้เร่มิ รา่ งวัตถุทมี่ ี
ขนาดใหญ่กอ่ นแลว้ ค่อยๆร่างสว่ นย่อย
หลักการทัศนียภาพ (Perspective)
การวาดภาพตามหลักทศั นยี ภาพ (Perspective) เป็นสว่ นประกอบอยา่ งหนงึ่ ที่ทำใหภ้ าพมีมิตใิ นเร่ืองของความลกึ
ระยะ ใกล้-ไกล ในภาพมหี ลักในการวาด คือ ส่งิ ท่อี ยู่ใกลต้ าจะมขี นาดใหญ่ สงิ่ ที่อยู่ใกลต้ าจะมขี นาดเลก็
ลักษณะของเสน้ ต่างๆ ทใ่ี ช้ในการเขยี นภาพทศั นียวิทยา (Perspective)
1.Ground Plane (GP): แผ่นพนื้ ทวี่ างวตั ถแุ ผน่ ภาพ (PP) จะต้องวางต้งั ฉากกับแผ่นพน้ื หรือระนาบเสมอ
14
2.Horizon Line (HL) : เส้นขอบฟา้ ต้ังอยู่ในแนวระดบั ตา (Eye Level) เสน้ นี้มีความสำคัญมากจะเป็นเสน้ ทจี่ ุดรวมสายตา
(VP) ต้ังอยบู่ นเสน้ น้ี
3.Vanishing Point (VP) : จุดรวมสายตา คอื จุดกำหนดที่สำคัญมากในการเขยี นภาพ Perspective จดุ รวมสายตาจะตงั้ อยู่
บนเส้นระดับตาในข้อ 2 อาจมจี ดุ เดียวหรือ 2 จดุ ก็ได้ตามชนดิ การมองของภาพ Perspective
4.Station Point (SP) : เป็นจุดยืนในการมองไปยงั ภาพ ซึ่งเน้นเป็นลักษณะของภาพทศั นียวทิ ยา
5.Ground Line (GL) : เป็นเสน้ พื้นทจี่ ดแผ่นภาพเสน้ นี้มีความสำคัญในการเขยี นภาพ Perspective มากเพราะใชเ้ ป็นท่ตี ้งั
ของภาพ Perspective ทมี่ องเหน็
6.Center of Vision (CV) : จดุ รวมสายตาทต่ี ้งั อยูต่ รงกลางของภาพ
การวาดภาพตามหลกั ทัศนียภาพ (Perspective) มี 3 แบบ คือ
1.แบบจดุ รวมสายตา (Vanishing Point) จดุ เดียว (One Point Perspective) : มแี นวเส้นระดบั ด้านหนา้ ขนานกบั
เสน้ ระดบั ตา (Horizon Line หรือ Eye Level) สว่ นด้านลกึ จะไปรวมกนั ทีจ่ ุดรวมสายตา (VP) ซง่ึ ตง้ั อยบู่ นเสน้ ระดบั ตา
.แบบจดุ รวมสายตาจุดเดียว
2. แบบจดุ รวมสายตา 2 จุด (Two Point Perspective) : ภาพ Perspectiveทมี่ เี สน้ แนวระดับทงั้ ด้านหน้าและดา้ นข้างไป
รวมตรงจุดรวมสายตา (VP. 1และ VP. 2) ซึง่ อยดู่ า้ นซ้ายและขวา
แบบจุดรวมสายตา 2 จดุ
3.แบบรวมจดุ สายตา 3 จดุ (Three Point Perspective) : ภาพ Perspective ที่คล้ายกบั แบบจดุ รวมสายตา 2 จดุ แต่
เพิม่ การมองจุดรวมสายตาจากจุดที่ 3 (VP. 3) ตรงตามแนวดง่ิ จุดรวมสายตาที่ 3 (VP. 3) ดูภาพไดเ้ มื่ออยู่ท้ังด้านบนและ
ด้านล่างของเสน้ ระดับตา (HL)
15
แบบรวมจุดสายตา 3 จุด
มมุ มองภาพ
จุดดภู าพท่ปี รากฏบนจอภาพยนตรแ์ ละจอโทรทัศน์ ผ้กู ำกบั จะกำหนดวา่ จะเสนอภาพจากมุมใด คือให้ผดู้ ูมองเหน็
ภาพจากมุมใดจงึ จะน่าสนใจและสมจรงิ กับเรื่องราวที่เสนอ มมุ มองภาพหรือท่นี ิยมเรียกว่ามมุ กล้องโดยท่วั ไปจะ
ประกอบดว้ ย 3 มุม ได้แก่
1.ภาพมุมสูง (High Angle)
ตัง้ กล้องถ่ายภาพยนตร์และโทรทศั น์ไว้สูงกวา่ วตั ถุ ถ้าเป็นภาพสถานที่กว้างใหญ่ การถ่ายภาพไกลจากมุมสงู ทำให้
เห็นภาพได้กว้างไกล เปน็ การเปดิ ฉากแนะนำสถานที่ไดเ้ ปน็ อย่างดี แต่ถ้าเป็นการถ่ายคน จะเปน็ การเสนอใหเ้ หน็ ว่าคนๆ
น้นั ไมส่ ำคัญ เป็นคนต่ำต้อย ไม่สง่าผ่าเผย
ภาพมุมสูง
2. ภาพมมุ ระดบั สายตา (Eye Level Angle)
ภาพมุมระดบั สายตาเปน็ ภาพท่ตี ้งั กล้องในระดบั สายตาของคน หรือของวัตถุที่ถูกถา่ ย ภาพในระดบั สายตาเพ่ือส่ือ
ความหมายว่าภาพที่ปรากฏจะเปน็ ภาพให้ความรูส้ ึก ธรรมดา ไมเ่ ด่นอะไร
16
ภาพมมุ ระดับสายตา
3. ภาพมุมตำ่ (Low Angle)
ภาพมมุ ต่ำเปน็ ภาพท่ตี ัง้ กลอ้ งถ่ายในระดบั ตำ่ กว่าคนหรอื วัตถุท่ถี ูกถา่ ย เปน็ ภาพท่แี หงนดู ส่ือความหมายหรือให้
เกิดความรูส้ กึ ว่าคนหรือวตั ถุที่ถูกถ่ายมคี วามสำคญั มากกว่าปกติ น่าเคารพ ถือนับ
ภาพมมุ ต่ำ
17
อา้ งอิง
การเก็บรายละเอยี ดภาพ. (ออนไลน์). แหลง่ ท่ีมา:
https://www.bloggang.com/m/viewdiary.php?id=alphafo&month=07-2009&date=26&group=3&gblog=2.
18 ตุลาคม 2564
การวาดลายเสน้ ทิวทัศน์. (ออนไลน)์ . แหลง่ ทีม่ า :
http://119.46.166.126/self_all/selfaccess10/m4/art4_2/lesson1/more/art4.php. 19 ตลุ าคม 2564
การวาดเสน้ ภาพหุ่นน่งิ . (ออนไลน)์ . แหล่งที่มา : shorturl.at/afoBE. 18 ตลุ าคม 2564
มุมมองภาพ. (ออนไลน์). แหลง่ ทมี่ า :
https://sites.google.com/site/photo263318/mum-mxng-phaph. . 19 ตลุ าคม 2564
หลักการทัศนยี ภาพ. (ออนไลน)์ . แหล่งทมี่ า :
https://sites.google.com/site/artlearning26/kar-wad-phaph-thiwthasn/thasniyphaph. 19 ตุลาคม 2564
เบญจมาศ ราวกลาง. การแรเงา. (ออนไลน์). แหลง่ ทมี่ า :
https://sites.google.com/site/smildced/kar-wad-phaph-raengea. 18 ตลุ าคม 2564
ฟารุต สมคั รไทย. วาดเส้น (Drawing). (ออนไลน์). แหล่งทมี่ า :
https://sites.google.com/site/phunthansilpa/bth-thi3-xngkh-prakxb-silp/bth-thi4-wad-sen-drawing.
18 ตุลาคม 2564
ศุภวัฒน์ คุณานวุ ฒั น์. ระยะของภาพ และพืน้ ผิวของวัตถุ. (ออนไลน)์ . แหล่งทีม่ า :
https://kroobannok.com/blog/17117. 18 ตลุ าคม 2564
อจั จริ า จนั ทรเ์ รือง. กำหนดฉากหลัง. (ออนไลน์). แหลง่ ทีม่ า :
https://sites.google.com/site/41136atjima/prapheth-khxng-citrkrrm/citrkrrm-prapheth-hun-ning.
18 ตุลาคม 2564
THANK YOU