ผู้แต่ง พระสุนทรโวหาร (ภู่)
ประวัติผู้แต่ง พระสุนทรโวหาร (ภู่) หรือที่ทุกคนรู้จักกันในนามว่า สุนทรภู่ เป็นกวีคนสำคัญในสมัย
รัตนโกสินทร์ตอนต้น เกิดในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เมื่อวันจันทร์ที่ ๒๖
มิถนุ ายน พ.ศ. ๒๓๒๙ บิดาเป็นขา้ ราชบริพารในกรมพระราชวงั บวรสถานมงคลซึ่งภายหลังไดล้ าออกจากราชการ
กลับไปอยู่บ้านเกิดที่บ้านกร่ำ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง มารดานั้นพื้นเดิมเป็นคนเมืองเพชรบุรีตามทีป่ รากฏใน
นิราศเมืองเพชรแต่มารับราชการเป็นพระนมของพระองค์เจ้าจงกล พระธิดาในกรมพระราชวังหลัง บิดาและ
มารดาของสุนทรภูห่ ย่าร้างกันตั้งแต่สุนทรภู่ยงั เป็นเด็กเล็กอยู่ สนุ ทรภจู่ งึ อาศัยอยู่กับมารดาและได้ศึกษาเล่าเรียน
ณ วัดชปี ะขาวหรอื วัดศรสี ดุ ารามริมคลองบางกอกน้อย ตอ่ มามารดาได้พาเข้าไปถวายตวั เป็นข้าราชบริพารในกรม
พระราชวงั หลัง
เมอ่ื สุนทรภู่เติบโตข้ึนเป็นหน่มุ ได้แอบชอบพออยู่กบั นางจนั ด้วยความท่ีเป็นคนเจา้ คารมจึงไดล้ ักลอบเขียน
เพลงยาวให้นางจันอยู่เรื่อย ๆ จนบิดาของนางจันทราบเข้าจึงสั่งคนให้จับตัวมาแล้วนำความขึ้นกราบบังคมทูลแก่
กรมพระราชวังหลัง สุนทรภู่ถูกตัดสินให้จำคุกแต่ไม่นานนักก็ถูกปล่อยตัวเพราะกรมพระราชวังหลังทิวงคต เม่ือ
สุนทรภ่พู น้ โทษจงึ ออกบวชแลว้ ลาสิกขาบทมาสมรสกบั นางจนั และไดถ้ วายตวั เป็นมหาดเลก็ ในพระองค์เจ้าปฐมวงศ์
แต่ด้วยนิสัยเจ้าชู้ของสุนทรภู่ประกอบกับความชอบในสุราจึงทำให้ทะเลาะกับนางจันอยู่เนือง ๆ จนพระองค์เจ้า
ปฐมวงศ์ทรงระอา สุนทรภู่เกิดความน้อยใจจึงเดินทางไปเมืองเพชรบุรีเพื่อไปอาศัยอยู่กับหม่อมบุนนาคซึ่งเป็น
หมอ่ มในกรมพระราชวังหลงั
สุนทรภู่ได้กลับมารับราชการใหม่อีกคร้ังในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระพทุ ธเลิศหล้านภาลัยเน่อื ง
ด้วยทรงโปรดการกวี สุนทรภู่ได้รับพระกรุณาให้ดำรงตำแหน่งขุนสุนทรโวหารในกรมราชบัณฑิตและยังอยู่ใน
ตำแหน่งจางวางพระอาลกั ษณ์ควบคู่ไปดว้ ย ชวี ิตของสุนทรภใู่ นขณะน้ันมีความสขุ มากและมีบุตรกับนางจันคนหน่ึง
ช่อื ว่าหนูพัด แตน่ สิ ัยเจ้าชแู้ ละความชอบในสุราของสุนทรภ่ยู ังคงเหมือนเดิมจนไปไดน้ างน่ิมมาเป็นภรรยาอีกคนอัน
เป็นเหตุให้นางจันโกรธ ในตอนที่ทะเลาะกับนางจันนัน้ สุนทรภู่ได้ไปทำร้ายลุงของนางจันเขา้ จงึ เป็นเหตสุ นุ ทรภู่ถกู
จำคุกอีกครั้งหนึง่ ระหว่างที่ตดิ คุกครั้งน้ีเองที่สนุ ทรภู่ไดแ้ ตง่ พระอภัยมณีข้ึนเพื่อขายเลีย้ งชีพในยามทีต่ กยากอยู่ใน
คุก
เมื่อพ้นโทษในครัง้ หลงั นี้สุนภู่ไดเ้ ปน็ พระอาจารยถ์ วายอักษรให้เจ้านายในพระราชวงศ์หลายพระองค์
แตไ่ ม่นานเมื่อสิ้นรชั กาลที่ ๒ สุนทรภูก่ ็ตกทนี่ ั่งลำบากดว้ ยเคยทำให้ขดั เคืองพระทัยแก่พระบาทสมเด็จพระน่ังเกล้า
เจ้าอยู่หัว สุนทรภู่จึงตอ้ งออกบวชอีกครั้งเพ่ือหนีราชภัยและได้ออกเรือเดนิ ทางไปในทีต่ ่าง ๆ และแต่งวรรณคดีไป
พร้อม ๆ กันอีกหลายเรื่อง จนท้ายที่สุดได้มาพึ่งพระบารมีของพระองค์เจ้าลักขณานุคุณและกรมหมื่นอัปสรสุดา
เทพ ครั้นเมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวขึ้นครองราชย์สุนทรภู่ได้เข้ารับราชการอีกคร้ังหนึ่งและไดร้ ับ
บรรดาศกั ดเ์ิ ป็นพระสนุ ทรโวหารจนถึงแกก่ รรมในปี พ.ศ. ๒๓๙๘
ในปี พ.ศ. ๒๕๒๙ องค์กรวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติได้ประกาศยกย่องเชิดชู
เกยี รตใิ ห้สุนทรภูเ่ ปน็ บคุ คลท่ีมีผลงานดเี ด่นดา้ นวฒั นธรรมระดับโลก ในวนั ที่ ๒๖ มถิ นุ ายน พ.ศ. ๒๕๒๙
ลกั ษณะการประพนั ธ์ พระอภัยมณแี ต่งด้วยกลอนสุภาพในลักษณะนิทาน
ที่มาของเรื่อง สุนทรภู่ผูกเรื่องพระอภัยมณีขึ้นจากการฟังคำบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ของบุคคลในสังคม
ผสมผสานกบั จนิ ตนาการของตนเอง
จุดมุ่งหมายในการประพันธ์ สุนทรภู่แต่งพระอภัยมณีเพื่อขายเลี้ยงชีพในยามที่ตกยากอยู่ในคุกแต่เมื่อ
พ้นโทษแลว้ กแ็ ต่งเพือ่ ถวายพระองคเ์ จา้ ลกั ขณานคุ ุณและกรมหมื่นอัปสรสุดาเทพ
เนื้อเรอ่ื งย่อ
ความเดิมตอนต้นเรือ่ ง
พระอภัยมณีและศรีสุวรรณพระอนุชาถูกขับออกมาจากเมืองรัตนาของท้าวสุทัศนพ์ ระบดิ า เนื่องด้วยท้าว
สทุ ศั น์ทรงเห็นวา่ วิชาปี่ของพระอภัยมณีและวิชากระบี่กระบองของศรีสวุ รรณเป็นวิชาชั้นเลว ไม่มีประโยชน์ในการ
ปกครอง พระอภัยมณีและศรีสุวรรณเดินทางมาพบ ๓ พราหมณ์ คือ วิเชียร โมรา สานน และได้เป่าปี่ให้ฟังจน
ทง้ั หมดหลบั ไป นางผีเสอื้ สมทุ รผา่ นมาและพอใจในเสียงปี่จงึ ไดล้ ักพาพระอภยั มณีไปไว้ยังถ้ำแล้วแปลงกายเป็นสาว
งามมาปรนนิบัติ พระอภัยมณที ราบแต่ทำอะไรไม่ได้จึงจำใจอยูก่ นิ กบั นางผเี ส้อื
ตอนพระอภัยมณหี นีนางผเี สื้อ
พระอภัยมณีอยู่กับนางผีเสื้อสมุทรในถ้ำจนมีพระโอรสชื่อว่าสินสมุทร สินสมุทรมีมีลักษณะผสมระหว่าง
พระอภัยมณแี ละนางผีเสอื้ สมุทรดงั ความว่า
ไมค่ ลาดเคลอื่ นเหมือนองค์พระทรงเดช แต่ดวงเนตรแดงดูดงั สรุ ิย์ฉาย
ทรงกำลังดังพระยาคชาพลาย มเี ข้ียวคลา้ ยชนนีมีศกั ดา
พระอภัยมณีได้เลี้ยงและถ่ายทอดความรู้ที่พระองค์มีให้กับสินสมุทรจนหมดและมอบของสำคัญไว้ให้ คือ
พระธำมรงค์และผ้าคาดเอว วันหนึ่งเมื่อนางผเี สื้อสมุทรออกไปหาอาหาร ด้วยความซุกซนสินสมุทรได้ทดลองผลัก
หินปากถำ้ จนเปดิ แล้วออกไปเท่ียวเล่นในทะเล สินสมุทรพบเงอื กชราแต่ไม่รู้จักวา่ คืออะไรจึงนำเงือกกลับไปให้พระ
อภัยมณีทอดพระเนตร พระอภัยมณีเห็นดังนั้นจึงเล่าความจริงให้สินสมุทรฟังทั้งหมด สินสมุทรทราบความแล้วก็
เสยี ใจเป็นอนั มาก เงือกฟงั แล้วไดอ้ อ้ นวอนให้พระอภัยมณีส่ังให้สินสมุทรปลอ่ ยตนไปเสยี และใหส้ ัญญาว่าจะพาพระ
อภัยมณีหนีพึ่งพระโยคีที่เกาะแก้วพิสดารซึ่งอยู่ห่างออกไปราว ๑๐๐ โยชน์ เงือกชราบอกว่าการไปที่เกาะแก้ว
พิสดารนั้นตนต้องใช้เวลาถึง ๗ วัน ว่ายน้ำไปในมหาสมุทรแตก่ ลัวนางผีเส้ือสมุทรจะตามทันเพราะนางผเี สื้อสมุทร
นั้นมีพละกำลังมากเมื่ออยู่ในทะเลซึ่งใช้เวลาเพียง ๓ – ๔ วันก็ไปถึงเกาะแล้ว เงือกชราแนะให้พระอภัยมณีทำ
อุบายลวงนางผีเสือ้ สมุทรเพือ่ จะได้มีเวลาในการหลบหนี
ตกกลางคืนในวันเดียวกัน นางผีเสื้อสมุทรเกิดฝันร้ายว่ามีเทวดามาควักเอานางทั้งสองออกแล้วเหาะ
หายไป นางตกใจตืน่ แล้วเล่าความฝนั นั้นให้พระอภยั มณฟี งั ทั้งหมด พระอภัยมณเี หน็ เปน็ โอกาสดีจงึ ทำนายฝนั ไปว่า
นางน้ันจะมีเคราะหร์ า้ ยอาจถงึ แกช่ ีวิตและแนะนำให้นางไปบำเพ็ญศลี อย่บู นเขา ๓ วนั เพือ่ เป็นการสะเดาะเคราะห์
มณีตอ้ งห้าม ดังความวา่
สนิ สมุทรสดุ แสนสงสารแม่ ด้วยรู้แน่ว่าบดิ าจะพาหนี
ใหห้ ว่ งหลงั กงั วลด้วยชนนี เจา้ โศกีกราบกม้ บังคมคลั
บดิ าดรู ูแ้ จ้งจึงแกลง้ หา้ ม จะวอนตามเขาไปไยในไพรสัณฑ์
อยูเ่ ป่าป่ตี ีเกราะเสนาะครนั แลว้ รับขวัญลูกน้อยกลอยฤทัย
พระอภยั มณีและสินสมทุ รได้หนีไปกบั ครอบครัวเงือก เม่ือครบ ๓ วนั นางผเี สือ้ สมุทรกลับมาไม่พบใครจึง
ออกตระเวนทะเลตามหาด้วยร่างเนรมิตเป็นยักษ์แล้วเรียกภตู ผีในทะเลมาถามจนได้ความและตามพระอภัยมณีไป
ทนั ภายใน ๓ วัน สนิ สมุทรพยายามหา้ มแล้วแตน่ างผเี สอื้ สมุทรไม่ฟัง สินสมุทรจึงหลอกล่อใหม้ ารดาหลงทางเพื่อให้
เงือกลกู สาวพาพระอภัยมณีหนีไปใหถ้ งึ เกาะแก้วพิสดาร
เงือกชราสองผัวเมียถูกนางผีเส้ือฆ่าตายซึ่งในขณะเดียวกันพระอภัยมณี สินสมุทรและเงือกสาวได้หนีข้ึน
เกาะแก้วพิสดารทัน พระโยคีออกมาห้ามปรามนางผีเสื้อสมุทรแต่นางไม่ฟังและต่อว่าย้อนกลับมา พระโยคีจึงเสก
ทรายปกปอ้ งเกาะไวเ้ พอื่ ไม่ใหน้ างผเี สื้อสมุทรเขา้ มาได้
คำประพันธ์
นทิ านคำกลอน เรื่องพระอภัยมณี ตอน พระอภัยมณหี นีนางผเี สอ้ื สมุทร
๏ จะกลา่ วกลับจับความไปตามเรอื่ ง ถงึ บาทเบื้องปรเมศพระเชษฐา
องค์อภัยมณีศรีโสภา ตกยากอยคู่ ูหามาชา้ นาน
กับดว้ ยนางอสรุ ีนีรมิต เป็นคูช่ ดิ เชยชมสมสมาน
ตอ้ งรักใครไ่ ปตามยามกันดาร จนนางมารมีบตุ รบรุ ุษชาย
ไม่คลาดเคลอ่ื นเหมือนองค์พระทรงเดช แตด่ วงเนตรแดงดูดังสุรยิ ฉ์ าย
ทรงกำลงั ดงั พระยาคชาพลาย มีเข้ียวคล้ายชนนมี ศี ักดา
พระบติ รุ งค์ทรงศกั ดิ์กร็ ักใคร่ ดว้ ยเนือ้ ไขมิได้คดิ รษิ ยา
เฝา้ เลยี้ งลูกผูกเปลแล้วเหช่ ้า จนใหญก่ ลา้ อายุไดแ้ ปดปี
จงึ ให้นามตามอย่างข้างมนุษย์ ชอื่ สินสมทุ รกุมารชาญชยั ศรี
ธำมรงค์ทรงมาค่าบรุ ี พระภมู ีถอดผูกให้ลูกยา
เจยี ระบาดคาดองค์ก็ทรงเปลื้อง ให้เป็นเคร่อื งนงุ่ หม่ โอรสา
สอนใหเ้ จ้าเปา่ ปม่ี ีวชิ า เพลงสาตราสารพัดหัดชำนาญ
วันหน่ึงนางอสุรีผีเสอ้ื น้ำ ออกจากถำ้ เทีย่ วหาภกั ษาหาร
จับกระโหโ้ ลมากมุ ภาพาล กินสำราญร่ืนเรงิ บันเทิงใจ ฯ
๏ ฝา่ ยกุมารสินสมทุ รสดุ สวาท ไมห่ ่างบาทบดิ าอชั ฌาสัย
ความรกั พอ่ ยิ่งกว่าแม่มาแต่ไร ดว้ ยมไิ ดข้ ูเ่ ข็ญเช่นมารดา
เหน็ ทรงธรรมบ์ รรทมสนทิ นงิ่ หนีไปวง่ิ เลน่ อย่ใู นคหู า
โลดลำพองลองเชงิ ละเลิงมา เหน็ แผน่ ผาพงิ ผนดิ ปิดหนทาง
หนักหรอื เบาเยาว์อยู่ไม่ร้จู ัก เขา้ ลองผลักด้วยกำลงั ก็พังผาง
เหน็ หาดทรายพรายงามเปน็ เงินราง ทะเลกว้างข้างขวาลว้ นป่าดง
ไม่เคยเห็นเป็นน่าสนุกสนาน พระกุมารเพลนิ จติ พิศวง
ออกว่งิ เต้นเล่นทรายสบายองค์ แลว้ โดดลงเลน่ มหาชลาลัย
ดว้ ยหนอ่ นาถชาตเิ ชอื้ ผเี ส้อื สมุทร ดำไม่ผุดเลยทัง้ วันก็กล้นั ได้
ย่งิ ถูกน้ำกำลงั ย่ิงเกรยี งไกร เท่ียวเลีย้ วไลข่ ีป่ ลาในสาชล
ระลอกซัดพลดั เขา้ ในปากฉลาม ลอดออกตามซีกเหงือกเสือกสลน
เห็นฝูงเงือกเกลือกกลง้ิ มากลางชล คิดวา่ คนมหี างเหมือนอย่างปลา
คร้ันถามไถ่ไม่พดู กโ็ ผนจบั ดกู ลอกกลับกลางน้ำปล้ำมจั ฉา
คร้นั จบั ได้ให้ระแวงแคลงวิญญาณ์ เชน่ นี้ปลาหรืออะไรจะใคร่รู้
ฉุดกระชากลากหางขึ้นกลางหาด แลประหลาดลกั ษณามตี าหู
จะเอาไปให้พระบิดาดู แลว้ ลากลู่เข้าในถำ้ ด้วยกำลัง
ถึงหบุ หอ้ งร้องบอกบิตุเรศ พระลืมเนตรเหลียวหาท้ังหน้าหลัง
เหน็ ลูกลากเงือกนำ้ แตล่ ำพงั จากบลั ลงั กม์ าหา้ มแล้วถามไป
เม่ือกี้เห็นเล่นอย่ใู นคูหา เงอื กนี้เจา้ เอามาแต่ข้างไหน
พระลูกเลา่ ตามจรงิ ทุกสงิ่ ไป พระตกใจจึงว่าดว้ ยปรานี
แม้นแม่เจา้ เขารวู้ า่ แรงนัก กลัวจะลกั ลอบพาบดิ าหนี
จะโกรธเกรี้ยวเคีย้ วเล่นเปน็ ธุลี ไม่พอที่ชีวนั จะบรรลยั ฯ
ฟังพระบาทบิตุรงค์ให้สงสัย
๏ สนิ สมุทรกมุ ารชาญฉลาด เหตุไฉนจึงจะเปน็ ไปเช่นน้ัน ฯ
จงึ ทูลถามความจริงด้วยกริ่งใจ คดิ ถึงยากยามวโิ ยคยิ่งโศกศลั ย์
จนพากันมาบรรทมทีร่ ่มไทร
๏ พระฟงั คำน้ำเนตรลงพรากพราก ข้นึ ไปฉุดฉวยบิดาลงมาได้
แถลงเล่าลูกยาสารพัน จนเจ้าได้แปดปเี ขา้ นี่แล้ว
แม่ของเจ้าเขาเปน็ เช้อื ผเี ส้ือสมทุ ร ตายหรือเป็นว่าไม่ถกู เลยลกู แก้ว
จงึ กำเนดิ เกิดกายสายสุดใจ ไม่รอดแลว้ บติ รุ งค์กค็ งตาย ฯ
ไปเปิดประตคู ูหาถา้ เขาเหน็ รำคาญคดิ เสียใจมใิ ครห่ าย
แมน้ สนิ สมทุ รสดุ สวาทพ่อคลาดแคล้ว กฟ็ ูมฟายชลนาโศกาลัย ฯ
กิตตศิ ัพทส์ องแจ้งแถลงไข
๏ พระโอรสรแู้ จง้ ไมแ่ คลงจติ จะกราบไหว้วอนวา่ ให้ปรานี
ด้วยแม่กลบั อปั ลักษณ์เป็นยกั ษร์ า้ ย
๏ ฝ่ายเงือกนำ้ นอนกล้ิงนิ่งสดบั
รภู้ าษามนษุ ย์แน่ในใจ
คอ่ นเขย้ือนเลื่อนลุกขนึ้ ทงั้ เจ็บ ยงั มึนเหน็บน้อมประณตบทศรี
พระผ่านเกล้าเจ้าฟ้าในธาตรี ข้าขอชีวิตไว้อยา่ ใหต้ าย
พระราชบุตรฉดุ ลากลำบากเหลือ ดังหนงั เนือ้ นีจ้ ะแยกแตกสลาย
ทงั้ ลกู เตา้ เผ่าพงศ์กพ็ ลดั พราย ยังแต่กายเกอื บจะดิน้ สนิ้ ชีวนั
พระองคเ์ ล่าเขาก็พาเอามาไว้ เศร้าพระทยั ทุกขต์ รอมเหมอื นหม่อมฉนั
ขอพระองคจ์ งโปรดแก้โทษทัณฑ์ ชว่ ยผอ่ นผันใหต้ ลอดรอดชวี า
ซ่ึงปากถ้ำทำลายลงเสยี หมด ใหโ้ อรสยกต้ังบงั คูหา
ขา้ เหน็ อยา่ งนางมารจะนานมา จะอาสาเกลยี่ ทรายเสยี ให้ดี
หนง่ึ พวกพ้องของข้าคณาญาติ ขอรองบาทบงกชบทศรี
แมน้ ประสงคส์ ่ิงไรในนที ทส่ี ิง่ มีจะเอามาสารพัน ฯ
จงึ ว่าทา่ นคดิ นี้ดีขยัน
๏ พระฟังเงือกพดู ได้ให้สงสาร อยพู่ ดู กันอีกสักหน่อยจึงค่อยไป
รู้เจรจาสารพัดน่าอัศจรรย์ แตใ่ ตเ้ หนอื ไมร่ แู้ ห่งตำแหนง่ ไหน
เราตรองตรึกนึกจะหนนี างผีเสอ้ื ทำกระไรจงึ จะพน้ ทรมาน ฯ
ท่านเจนทางกลางทะเลคะเนใจ ขา้ พระบาททราบสน้ิ ทุกถ่นิ ฐาน
อโนมานเคียงกนั สีทนั ดร
๏ ฝ่ายเงอื กน้ำคำนับอภิวาท ขา้ งฝา่ ยเหนือถึงมหิงษะสิงขร
อันนำ้ นีม้ นี ามตามบรุ าณ หนทางจรเจด็ เดือนไมเ่ คลอื่ นคลา
เป็นเขตแคว้นแดนท่นี างผเี สอ้ื สมทุ รไทซ้ึงซึกลึกหนักหนา
ข้างทิศใต้ไปจนเกาะแกว้ มังกร เขาแล่นมามีบ้างอยู่ลางปี
ไปกลางยา่ นบ้านเรอื นหามไี ม่ ขน้ึ มาเลอื กเอาไปชมประสมศรี
แตส่ ำเภาชาวเกาะเมืองลังกา ด้วยเดมิ ทปี ่ยู ่าเป็นมนุษย์
ถา้ เสยี เรอื เหลอื คนแล้วนางเงือก จงึ แจ้งเหตุแถวทางกลางสมุทร
เหมอื นพวกพ้องของข้ารู้พาที เห็นไม่สุดส้ินแดนด้วยแสนไกล
อายขุ ้าหา้ ร้อยแปดสบิ เศษ อายถุ ึงพนั เศษถือเพทไสย
แมน้ จะหนผี เี สอ้ื ดว้ ยแรงรุทร กนิ ลูกไม้เผอื กมันพรรณผลา
แตโ่ ยคีมีมนต์อยู่ตนหน่ึง
อยูเ่ กาะแกว้ พสิ ดารสำราญใจ
พวกเรอื แตกแขกฝรง่ั แลอังกฤษ ขน้ึ เปน็ ศษิ ย์อยสู่ ำนกั นน้ั หนักหนา
ด้วยโยคมี ีมนตด์ ลวชิ า ปราบบรรดาภตู พรายไม่กรายไป
แมน้ พระองค์ทรงฤทธิ์จะคดิ หนี ถงึ โยคีเข้าสำนักไม่ตักษัย
เผอื่ สำเภาเขาซัดพลัดเข้าไป กจ็ ะได้โดยสารไปบา้ นเมอื ง
แตท่ างไกลไม่นอ้ ยถึงร้อยโยชน์ ลว้ นเขาโขดคีรรี ตั น์ขนัดเนื่อง
กลางคงคาสารพัดจะขดั เคือง จงทราบเบ้ืองบงกชบทมาลย์
แมน้ กำลงั ดังข้าจะพาหนี เจ็ดราตรเี จยี วจงึ จะถงึ สถาน
อสุรีมีกำลังดังปลาวาฬ ตามประมาณสามวนั จะทันตวั
ถ้าแก้ไขให้นางไปค้างป่า ได้ลว่ งหน้าไปเสียบ้างจะยงั ช่ัว
จะอาสาพาไปมไิ ดก้ ลัว ชีวติ ตวั บรรลยั ไม่เสียดาย
แต่พระองคท์ รงคดิ ให้รอบคอบ ถา้ เหน็ ชอบท่วงทีจะหนีหาย
จึงโปรดใช้ให้องค์พระลูกชาย ไปหาดทรายหาขา้ จะมาฟัง ฯ
ค่อยบรรเทาทุกข์สมอารมณ์หวัง
๏ พระแจง้ ความตามคำเงือกน้ำเล่า ใหไ้ ดด้ งั ถอ้ ยคำท่ีรำพัน
จงึ วา่ พ่ีมีคุณนอ้ งสักครงั้ จงงดโทษทำคุณอยา่ งหุนหัน
ซึ่งลูกรกั หักหาญให้ทา่ นโกรธ จวนสายัณหย์ ักษม์ าจะวา่ เรา
ชว่ ยไปปิดปากถำ้ ที่สำคญั ไปชว่ ยฉดุ ศลิ าใหญ่ขนึ้ ให้เขา
จึงบญั ชาวา่ เจ้าสินสมุทร ชว่ ยอุ้มเอาแกออกไปให้สบาย
ขอสมาตาปอู่ ยา่ ดูเบา มาปากถำ้ แลเหน็ วนชลสาย
กับลูกนอ้ ยคอ่ ยพยงุ จูงเงือกน้ำ พระฟมู ฟายชลนาดว้ ยอาลยั
หวนรำลึกตรึกตรองถึงน้องชาย เห็นมิดชดิ มั่นคงไม่สงสัย
แลว้ ใหล้ กู เลกิ ศิลาเข้ามาปิด ลงทใ่ี นวังวนชลธาร ฯ
พระกลับมาตาเงือกเสอื กลงไป จะมาถ้ำเทย่ี วหาพฤกษาหาร
ทั้งเปรยี้ วหวานสารพดั แล้วลดั มา
๏ ฝ่ายผเี ส้ือเม่อื ขึน้ จากฝั่งน้ำ นิมติ อยา่ งนางมนุษยเ์ สนหา
เก็บลูกไม้ใส่ห่อเหน็ พอการ ลีลามาเขา้ ในห้องเห็นสององค์
เห็นหนิ ปิดเปิดประตูคูหากวา้ ง
วรพกั ตร์นารศี รโี สภา
วางลกู ไม้ในห่อให้ลกู ผัว ท้องของตัวเต็มท้องไม่ตอ้ งประสงค์
พระทรงเลือกลูกมะซางปรางมะยง ประทานองค์โอรสสู้อดออม
ครน้ั พลบคำ่ ทำรกั นางยกั ษร์ ้าย ประคองกายกอดแอบแนบถนอม
ช่ืนแตห่ น้าอารมณ์นน้ั กรมกรอม แตค่ ิดอา่ นหว่านล้อมจะล่อลวง
ไม่เห็นช่องตรองตรึกนึกวติ ก ทุกข์ในอกนน้ั สักเทา่ ภเู ขาหลวง
พระกอดลูกน้อยประทับไวก้ บั ทรวง ใหเ้ หงางว่ งงีบหลับระงับไป ฯ
แตพ่ ลกิ ตวั กล้ิงกลับไม่หลบั ใหล
๏ ฝา่ ยผีเสือ้ เมอื่ จะจากพรากลูกผวั จนเสยี งไกแ่ กว้ ขันสนัน่ เนิน
ใหห้ มกม่นุ ข่นุ คลำ้ ในนำ้ ใจ วา่ เทวัญอยทู่ เ่ี กาะน้ันเหาะเหิน
พอมอ่ ยหลับกลบั จิตนิมติ ฝัน แกว่งพะเนนิ ทบุ นางแทบวางวาย
มาสงั หารผลาญถ้ำระยำเยนิ สำแดงเดชเหาะกลบั ไปลบั หาย
แล้วอารักษ์ควักลว้ งเอาดวงเนตร พอฟ้นื กายกพ็ อแจ้งแสงตะวนั
ท้ังกายสัน่ พรนั่ ตวั ดว้ ยกลวั ตาย แล้วนางยักษเ์ ล่าตามเนอื้ ความฝัน
จึงกม้ กราบบาทบงสุ์พระทรงศกั ดิ์ เชญิ ทรงธรรม์ช่วยทำนายร้ายหรือดี ฯ
ไมเ่ คยเห็นเปน็ วบิ ตั ิอศั จรรย์ ซ่ึงฝนั รา้ ยกเ็ พราะจิตเราคดิ หนี
แต่นางผีเสอื้ นั้นจะอันตราย
๏ พระฟงั นางพลางนึกคะนึงหมาย สมคะเนจะได้ไปดงั ใจหมาย
เห็นจะไปไดต้ ลอดรอดชวี ี เจ้าฝนั รา้ ยนกั น้องต้องตำรา
พอไดช้ ่องลองลวงดตู ามเลห่ ์ จะหมายมาดเอาชวี ิตรษิ ยา
จงึ กล่าวแกล้งแสรง้ เสเพทบุ าย อนจิ จาใจหายเจียวสายใจ
อันเทวัญนน้ั คือมจั จรุ าช ไม่มีทพ่ี ่งึ พาจะอาศยั
แล้วเสแสรง้ แกลง้ ทำบีบน้ำตา ระกำใจกวา่ จะมว้ ยไปดว้ ยกัน
แมส้ นิ้ สญู บุญนางในปางน้ี พอบรรเทาโทษาทอ่ี าสัญ
จะกอดศพซบหนา้ โศกาลัย กลวั แต่ขวัญเนตรพ่จี ะมิทำ ฯ
นึกจะใคร่สะเดาะพระเคราะห์เจ้า พระทรงยศจงชว่ ยชบุ อุปถัมภ์
เหมือนงอนง้อขอชีวิตแกเ่ ทวัญ ชว่ ยแนะนำอนุกูลอยา่ สญู ใจ ฯ
๏ นางผเี ส้ือเช่อื ถือรื้อประณต
ตามตำราสารพัดไม่ขัดคำ
๏ พระฟงั คำสำราญสำเรจ็ คิด จึงวา่ ผดิ สายสมรหาสอนไม่
ตำรานั้นแตค่ รงั้ ต้ังเมรุไกร วา่ ถ้าใครฝันร้ายจะวายปราณ
ให้ไปอยู่ผเู้ ดยี วท่ีตนี เขา แลว้ อดข้าวอดปลากระยาหาร
ถ้วนสามคนื สามวันจะบันดาล ให้สำราญรอดตายสบายใจ ฯ
คดิ วา่ ซอ่ื สุจริตพสิ มัย
๏ ฝา่ ยว่านางผีเสอื้ ก็เชอื่ ถือ อยู่เขาใหญ่ในป่าพนาวนั
จงึ ตอบวา่ ถา้ กระนน้ั ฉนั จะไป เล้ยี งรกั ษาลกู น้อยคอยหม่อมฉนั
พระโฉมยงจงอยู่ในคหู า ถ้วนสามวันก็จะมาอยา่ อาวรณ์
จะอดใจใหเ้ หมือนคำท่รี ำพัน ปลอบประโลมลูกแก้วแล้วสง่ั สอน
แลว้ วันทาลาองค์พระทรงโฉม แมน้ ไม่นอนมารดาจะมาตี ฯ
อยา่ แข็งนักรกั ตวั กลัวบดิ ร ดว้ ยรู้แน่วา่ บิดาจะพาหนี
เจ้าโศกีกราบกม้ บังคมคัล
๏ สนิ สมทุ รสดุ แสนสงสารแม่ จะวอนตามเขาไปไยในไพรสัณฑ์
ใหห้ ว่ งหลงั กงั วลดว้ ยชนนี แลว้ รับขวญั ลกู นอ้ ยกลอยฤทัย ฯ
บิดาดูรูแ้ จง้ จงึ แกล้งห้าม ครั้นทรงฤทธปิ์ ลอบลกู ชายหายสงสยั
อยู่เปา่ ปต่ี ีเกราะเสนาะครัน ไปเขาใหญใ่ นปา่ พนาวัน ฯ
ปลอบประโลมลูกชายจะผายผนั
๏ นางผเี สอื้ เมอื่ แรกกแ็ ปลกจิต เอาผา้ พันผูกดแี ลว้ ลีลา
จงึ รบี ออกนอกคหู าแล้วคลาไคล สมอารมณร์ ีบออกนอกคหู า
แลชลาล้วนคลืน่ เสยี งคร้นื โครม ฯ
๏ ฝ่ายองค์พระอภัยวไิ ลโฉม ไมว่ ายนกึ ถงึ องค์พระทรงโฉม
จงึ หยบิ ปท่ี ่ีเปา่ เมื่อคราวน้ัน ปลอบประโลมลกู เมยี เข้าเคลียคลอ
ให้ลูกรักผลักแผ่นศิลาล้ม ใหส้ มนดั ซึง่ สญั ญาเธอมาหนอ
เลยี บลีลาศหาดทรายชายคงคา ค่อยเคลื่อนคลายว่ายคลอกันไคลคลา
อยชู่ ายหาดพร้อมกนั กห็ รรษา
๏ ฝ่ายเงอื กนำ้ สำหรบั ทะเลลึก คลานขึน้ มาชายฝง่ั แล้วบังคม ฯ
พอแจ่มแจ้งแสงทองผ่องโพยม
จะไปลอยคอยองค์ทรงสวัสดิ์
แล้วออกจากวนวงั ไมร่ ้ังรอ
พอเห็นองค์ทรงยศโอรสราช
จงึ ชวนลกู สาวนั้นกับภรรยา
๏ พงศ์กษัตริย์ทัศนานางเงือกน้อย ดูแชม่ ชอ้ ยโฉมเฉลาทัง้ เผ้าผม
ประไพพักตรล์ ักษณล์ ำ้ ล้วนคำคม ท้งั เน้อื นมนวลเปล่งออกเตง่ ทรวง
ขนงเนตรเกศกรอ่อนสะอาด ดังสุรางค์นางนาฏในวงั หลวง
พระเพลินพิศคิดหมายเสยี ดายดวง แล้วหนักหน่วงนึกท่จี ะหนีไป
จึงตรสั วา่ ตาเงือกมาคอยรับ ช่างสมกับวาจาจะหาไหน
เราลอ่ ลวงนางผีเส้อื ก็เชื่อใจ เด๋ยี วน้ีไปแรมทางกลางอรญั
ชว่ ยเมตตาพาตรงไปสง่ ที่ พระโยคมี ีเวทวเิ ศษขยัน
กลางคงคาปลารา้ ยกห็ ลายพรรณ จะปอ้ งกนั ภยั พาลประการใด ฯ
ขอรองบาทบรริ ักษจ์ นตักษัย
๏ เงือกผูเ้ ฒา่ เคารพอภิวาท พระหน่อไทให้ขี่ภริยา
เสด็จข้ึนทรงบา่ จะพาไป ปลาไม่กล้ำกรายกลัวทว่ั ทิศา
อนั อำนาจชาตเิ ชื้อผเี ส้ือนำ้ เมอ่ื จับข้าขา้ จงึ อ่อนหย่อนกำลัง
ดว้ ยกล่นิ อายคลา้ ยทา่ นผ้มู ารดา เปรยี บเหมอื นเน้ือเห็นพยัคฆใ์ หช้ ักหลงั
สตั ว์ในน้ำจำแพ้แก่ผีเสือ้ ข้ึนนัง่ ยังบ่าข้าจะพาไป ฯ
อย่าเกรงภัยในชลทวี่ นวงั สอนให้บตุ รขอสมาอัชฌาสยั
พระหน่อไทยขอสมาขน้ึ บ่านาง
๏ พงศก์ ษัตรยิ ต์ รัสชวนสินสมทุ ร มีกำลังลีลาศค่อยวาดหาง
พระทรงบ่าเงือกนำ้ งามวไิ ล ลูกสาวนางเงือกงามตามลีลา ฯ
เงอื กประคองสององค์ลงจากฝง่ั เพลนิ ประพาสพิศดูหม่มู ัจฉา
ค่อยฟฟู ่องล่องนำ้ ไปทา่ มกลาง ค่อยเคลื่อนคลาคล้ายคลา้ ยในสายชล
ข้นึ ฟ่องฟูพน่ ฟองละอองฝน
๏ พระโฉมยงองค์อภัยมณนี าถ บา้ งผุดพ่นฟองน้ำบ้างดำจร
เหลา่ ฉลามล้วนฉลามตามกนั มา ลอยสล้างกลางกระแสแลสลอน
ฉนากอยู่คู่ฉนากไมจ่ ากคู่ ประชุมซ่อนแฝงชลข้นึ วนเวียน
ฝงู พิมพาพาฝูงเข้าแฝงวน ขน้ึ ลอยเล่นเล้ียวลดั ฉวดั เฉวยี น
กระโห้เรียงเคยี งกระโหข้ ึ้นโบกหาง ดาษเดียรดเู พลนิ จนเกนิ มา
มังกรเก่ียวเลยี้ วลอดกอดมังกร
ฝูงมา้ นำ้ ทำท่าเหมือนมา้ เผน่
ตะเพยี นทองลอ่ งน้ำนำตะเพยี น
เหน็ ละเมาะเกาะเขาเขียวชอุ่ม โขดตะคุ่มเคียงเคยี งเรียงรุกขา
จะเหลียวซ้ายสายสมุทรสดุ สายตา จะแลขวาควันคล้มุ กล้มุ โพยม
จะเหลยี วดสู รุ ยิ ์แสงเขา้ แฝงเมฆ ให้วิเวกหวาดองค์พระทรงโฉม
ฟงั สำเนียงเสยี งคลนื่ ดงั ครืน้ โครม ยิง่ ทุกข์โทมนัสในฤทยั ทวี
พอเย็นย่ำคำ่ พลบลงโพล้เพล้ ท้องทะเลมดื มัวทัว่ วิถี
พระหา้ มเงอื กสองราดว้ ยปรานี ประเด๋ียวนี้ลมกล้าสลาตัน
เหน็ ละเมาะเกาะใหญ่ทีไ่ หนกวา้ ง หยดุ เสียบา้ งใหส้ บายจงึ ผายผัน
เราหนนี างมาไดก้ ็ไกลครนั ตอ่ กลางวันจงึ ค่อยไปใหส้ ำราญ ฯ
ยังใกล้นกั อย่าประมาททำอาจหาญ
๏ ตาเงอื กน้ำซำ้ สอนพระทรงศักด์ิ จะพบพานพากันตายวายชวี นั
นางร้คู วามตามมาไมช่ ้านาน ท้งั เดนิ ทางเรี่ยวแรงแข็งขยัน
อันตาขา้ ถา้ ค่ำเห็นสว่าง จะผายผนั ลว่ งทางไปกลางคืน
ถา้ แดดกล้าตามัวเปน็ หมอกควัน พลางสะบดั โบกหางไปกลางคลื่น
แลว้ วา่ ยแหวกแบกองค์พงศ์กษัตรยิ ์ จนดึกด่นื รีบรดุ ไมห่ ยดุ เลย
สลาตันลนั่ พลิ ึกเสยี งครึกคร้ืน พระลกู ใหบ้ ิตุรงค์ทรงเสวย
คร้นั รงุ่ เชา้ เข้าเกาะเสาะลกู ไม้ แลว้ รบี เลยลว่ งไปในคงคา ฯ
เงอื กกห็ าอาหารกนิ ตามเคย ไปน่งั โซเซาอยรู่ มิ ภผู า
ต้องอดปลาอดนอนออ่ นกำลัง
๏ ฝ่ายนางผเี สือ้ สมทุ รท่ีสดุ โง่ เจยี นชวี ิตจะเด็ดดบั ไม่กลับหลัง
ขอชวี ติ พษิ ฐานตามตำรา ค่อยเซซังซวนทรงไม่ตรงตวั
ได้สามวนั รนั ทดสลดจิต กำลงั อยากยนื ขยอกจนกลอกหัว
อตุ ส่าห์ยนื ฝืนใจใหป้ ระทัง คดิ ถงึ ผัวเหยาะย่างมากลางไพร
เห็นลูกไม้ในป่าควา้ เข้าปาก เอะ๊ อกกเู กิดเขญ็ เป็นไฉน
ทีม่ ดื หน้าตาลายค่อยหายมัว ยิ่งตกใจเพยี งจะด้ินสนิ้ ชีวี
ถึงประตูคูหาเหน็ เปิดอยู่ นางยักษร์ ้ายร้วู ่าพากันหนี
เข้าในหอ้ งมองเขมน้ ไม่เห็นใคร สองมือตีอกตูมฟมู น้ำตา
แลดูปท่ี ่เี ปา่ เล่าก็หาย
เสียน้ำใจในอารมณ์ไมส่ มประดี
ลงกล้งิ เกลือกเสือกกายร้องไห้โร่ เสยี งโฮโฮดังก้องห้องคูหา
พระรปู หลอ่ พ่อคุณของเมยี อา ควรหรือมาทิง้ ขว้างหมองหมางเมยี
ทงั้ ลูกน้อยกลอยใจไปดว้ ยเลา่ เหมือนควกั เอาดวงใจนอ้ งไปเสยี
นอ้ งรอ้ นรุ่มกลุม้ ใจดงั ไฟเลีย ทนู หวั เมยี ช่างไม่ไวอ้ าลัยเลย
ถงึ แปดปีนีแ่ ล้วไมแ่ คล้วคลาด เคยร่วมอาสน์อกอนุ่ พ่อคุณเอ๋ย
ตง้ั แตน่ น้ี ้องจะได้ผใู้ ดเชย เหมือนพระเคยคเู่ คยี งเมื่อเท่ียงคนื
เสยี แรงรกั หนกั หนาอุตสา่ หถ์ นอม ส้อู ดออมสารพัดไมข่ ัดขืน
ชา่ งกระไรใจจืดไมย่ ดื ยืน นางสะอ้ืนอ้าปากจนรากเรอ
ดว้ ยแรงน้อยถอยทบสลบหลับ แล้วก็กลบั พลกิ ฟ้ืนตน่ื เผยอ
รอ้ งเรยี กลูกผัวเฟอื นเหมือนละเมอ ไม่เหน็ เธอทอดกายดงั วายปราณ
ระกำอกหมกมุน่ หุนพโิ รธ กำลังโกรธกลับแรงกำแหงหาญ
ประหลาดใจใครหนอมาก่อการ ชา่ งคิดอ่านเอาคู่ของกูไป
ศิลานที้ ี่มนษุ ยจ์ ะเปดิ น้ัน สักหมื่นพันกไ็ ม่อาจจะหวาดไหว
ยกั ขนิ ีผสี างหรอื อย่างไร มาพาไปไม่เกรงข่มเหงกู
พลางรำพึงถงึ จะไปไม่ไกลนัก จะตามหักคอกนิ เหมือนชน้ิ หมู
โมโหหุนผลนุ ออกนอกประตู เท่ียวตามดูรอยลงในคงคา
กระโดดโครมโถมวา่ ยสายสมทุ ร อตุ ลดุ ดำด้นเที่ยวคน้ หา
ไมเ่ หน็ ผัวควา้ ไปไดแ้ ต่ปลา ควักลกู ตาสบู เลือดด้วยเดือดดาล
ค่อยมีแรงแผลงฤทธคิ์ ำรนรอ้ ง ตะโกนก้องเรยี กหาโยธาหาญ
ฝ่ายปศี าจราชทตู ภตู พรายพาล อลหม่านขนึ้ มาหาในสาชล
อสุรีผเี สือ้ จึงซกั ถาม มงึ อยู่ตามเขตแขวงทุกแหง่ หน
เห็นมนุษยน์ วลละอองทั้งสองคน มาในวนวงั บา้ งหรืออย่างไร ฯ
คร้นั ได้ยินจงึ แจ้งแถลงไข
๏ ผา่ ยพวกผที ี่อยู่ทศิ ทักษิณ ข้างทิศใตแ้ ตเ่ ม่อื คนื วานซนื น้ี
เหน็ เงอื กพามนุษยร์ บี รุดไป ด้วยลกู เลก็ เหลือตัวไม่กลัวผี
ขา้ นึกรา้ ยหมายจะตามก็ขามเด็ก ดว้ ยทว่ งทรี ีบร้อนไม่นอนใจ ฯ
เห็นจะไปได้ครันจนวันนี้
๏ นางผีเส้ือเหลอื โกรธโลดทะล่งึ โตดงั หนึง่ ยคุ ุนธร์ขนุ ไศล
ลุยทะเลโครมครามตามออกไป สมุทรไทแทบจะล่มถล่มทลาย
เหลา่ ละเมาะเกาะขวางหนทางยักษ์ ภเู ขาหักหินหลดุ ทรดุ สลาย
เสยี งครกึ ครนื้ คลื่นคลุ้มขึ้นกลุ้มกาย ผเี สือ้ รา้ ยรีบรดุ ไม่หยุดยืน ฯ
กับลกู รกั เงือกนำ้ ไปตามคลื่น
๏ ฝ่ายพระอภัยมณซี งึ่ หนยี ักษ์ เห็นทะมน่ื มาข้างหลังดงั สะเทือน
บรรลทุ างกลางชลาได้ห้าคืน สลาตันลมใหญ่กไ็ มเ่ หมือน
จึงถามเงือกวา่ ไฉนจงึ ไหวหวัน่ เป็นคลน่ื เคลือ่ นคลอนลนั่ สนน่ั ดัง ฯ
ไม่เหน็ แสงสุรยิ ันตะวนั เดือน คือว่าฤทธย์ิ กั ษ์รา้ ยมาภายหลงั
ชีวิตครั้งน้เี ห็นไมเ่ ปน็ ตน
๏ ฝ่ายเงือกน้ำสำเหนียกแน่ในจิต เสียงครกึ ครนื้ มารนางมากลางหน
ดว้ ยเดชนางยกั ษข์ ินีมีกำลัง เห็นสุดจนจำมว้ ยลงด้วยกัน ฯ
จงึ ทลู องค์พระอภยั ว่าใช่อื่น ใหเ้ ปลา่ เปล่ยี วนัยนาเพยี งอาสญั
คงทนั กันวันนี้หนีไม่พน้ อตุ ส่าหก์ ล้ันกลืนน้ำตาแลว้ พาที
วบิ ากกรรมกจ็ ะสอู้ ยู่เป็นผี
๏ พระอภยั ใจหายไมว่ ายเหลียว แล้วรีบหนีไปในน้ำแตล่ ำพัง
แต่มานะกษตั ริย์สู้กัดฟนั แมน้ นางยกั ษ์จะมารับจงกลบั หลงั
จะไปไหนไม่พน้ ผีเส้ือน้ำ กนั แสงสั่งลูกยาด้วยอาลัย ฯ
ทา่ นสง่ เราเข้าท่ีเกาะละเมาะนี้ ลูกไม่ขอจากพระองค์อยา่ สงสัย
แล้ววา่ แก่สนิ สมทุ รสดุ ท่รี กั พระรบี ไปก่อนข้าอย่าปรารมภ์
อันตัวพ่อขอตายวายชวี งั อยตู่ น้ ทางจะได้พบประสบสม
พระปรารมภ์เรยี กไวก้ ็ไม่ฟัง
๏ สินสมทุ รมิได้กลัวกลบั หัวร่อ พอจับได้ปลาอินทรขี ึ้นขีห่ ลัง
แม้มารดามาตามจะห้ามไว้ ค่อยลอยร้ังรอมาในวารนิ ฯ
ลูกจะค่อยลอยตามแตห่ า่ งหา่ ง ครัน้ ลุยออ่ นอตุ ส่าห์วา่ ยสายกระสนิ ธ์ุ
แล้วเผ่นโผนโจนลงทะเลลม เจยี นจะสิ้นชวี าในสาคร
เทยี่ วดำดน้ คน้ หามจั ฉาใหญ่
เสยี งโผงผางกลางน้ำแต่ลำพงั
๏ ฝ่ายผีเสอ้ื สมทุ รไม่หยดุ หย่อน
กำลังน้อยถอยถดด้วยอดกิน
ได้สามวันทันผัวกบั ลูกน้อย เห็นเลอื่ นลอยลิบลบิ ยงิ่ ถบี ถอน
กระโจมโจนโผนโผชโลทร คล่ืนกระฉ่อนฉาดฉานสะทา้ นมา ฯ
คร้นั จะหยดุ ยักษ์ไลใ่ กลน้ ักหนา
๏ ฝ่ายเงอื กนำ้ กำลงั กส็ ิ้นสุด เจ้าช่วยพาภูวไนยไปให้พ้น
เรยี กลูกสาวคราวนีพ้ ่อจะมรณา แบกกษัตริย์ว่ายเสือกเสลอื กสลน
นางเงอื กน้อยสร้อยเศรา้ เข้ามาผลดั ออกกลางชลโบกหางผางผางไป ฯ
กำลงั สาวคราวดว่ นด้วยจวนจน เหน็ ผดิ พักตร์มารดาน่าสงสัย
สงสยั ใจออกขวางกลางคงคา
๏ สนิ สมุทรหยดุ อยดู่ นู างยักษ์ นสี่ ัตวบ์ กหรอื สัตวน์ ำ้ ดำนกั หนา
ดว้ ยเหน็ แม่แตร่ ปู นิมิตไว้ จะเลน่ ข้าทา่ ไรจะใคร่รู้ ฯ
แลว้ รอ้ งถามตามประสาเป็นทารก ได้ยินคำโอรสนึกอดสู
โจนกระโจมโครมครามตามเรามา ไมเ่ หน็ อยู่ด้วยกนั นี่ฉนั ใด
หรือซุ่มซ่อนอยู่เกาะละเมาะไหน
๏ ฝ่ายนางอสุรีผเี ส้ือนำ้ จึงจะไดจ้ ับกมุ ตะลมุ บอน
เปน็ หว่ งผัวมัวแลชะแงด้ ู มใิ ช่ชาตยิ ักษ์มารชาญสมร
หรอื จวนตัวกลัวเมยี ไปเสียก่อน เมอื่ นงั่ นอนอยู่ในถ้ำไมจ่ ำแลง
จำจะปลอบโดยดีแม้นมิไป รปู จงึ ผดิ ไปกว่าเก่าเจ้าจงึ แหนง
จงึ ตอบโต้โป้ปดโอรสราช แมแ่ กลง้ แปลงตวั ตามเจ้างามมา
เจ้าแปลกหรอื คือน่ีแลมารดร อยา่ งหลงเล่นจงไปอย่ใู นคหู า
ออกเดนิ ทางอย่างนีต้ ้องนิมิต ขอมารดาอุ้มหนอ่ ยเถดิ กลอยใจ ฯ
ไมป่ ิดงำอำพรางอยา่ คลางแคลง รูว้ า่ แม่ม่ันคงไม่สงสยั
ไหนพ่อเจา้ เล่าแม่ไม่แลเห็น ช่างกระไรราศไี มม่ ีงาม
แต่จากอกหกวนั แลว้ ขวญั ตา ทั้งทว่ งทีไมส่ ุภาพทำหยาบหยาม
อย่าให้ตามเขา้ ไปชดิ พระบิดา
๏ สนิ สมุทรฟงั เสยี งสำเนยี งแน่ จะฉีกเน้ือกินเลน่ เป็นภักษา
ดูรูปรา่ งอยา่ งเปรตสมเพชใจ อย่างตามมามุ่งหมายให้วายปราณ
กระนหี้ รอื พระบิดามนิ า่ หนี
จำจะบอกหลอกลวงหนว่ งเน้อื ความ
จงึ เสแสรง้ แกลง้ วา่ ข้าไมเ่ ชื่อ
ถ้าเป็นแม่แน่กระน้ันจงกรุณา
ดว้ ยองค์พระชนนเี ปน็ ผีเส้ือ อนั ชาติเชื้ออยู่ถ้ำลำละหาน
พระบดิ รร้อนรนทนทรมาน เคยอยู่บ้านเมอื งมนษุ ยส์ ุดสบาย
คิดถงึ วงศ์พงศาคณาญาติ จึงสามารถมานี่ไมห่ นหี าย
เห็นมารดรซอ่ นตวั ด้วยกลัวตาย ลูกจงึ ว่ายน้ำอยแู่ ตผ่ เู้ ดยี ว
ประทานโทษโปรดปล่อยไปหน่อยเถิด ที่ละเมดิ แมค่ ุณอย่าฉนุ เฉียว
ลูกขอลาฝ่าธลุ สี ักปีเดียว ไปท่องเทยี่ วหาประเทศเขตนคร
แม้พบอายา่ ปู่อยเู่ ปน็ สุข บรรเทาทกุ ขภ์ ิญโญสโมสร
จึงจะชวนบติ ุเรศเสด็จจร มาสถานมารดรไมน่ อนใจ ฯ
นกึ วา่ นอ้ ยหรอื ตอแหลมาแก้ไข
๏ อสุรผี เี สือ้ ไม่เชื่อถ้อย ทำปราศรัยเสยี งหวานด้วยมารยา
แกลง้ ดับเดือดเงือดงดอดฤทยั ชนนีกจ็ ะได้ไม่เทย่ี วหา
ถ้าแม้นแม่แตแ่ รกรกู้ ระน้ี ไมโ่ กรธาทูนหัวอย่ากลัวเลย
นีน่ กึ แหนงแคลงความจึงตามมา ไหนทรงฤทธ์ิบิตุรงค์เล่าลูกเอ๋ย
จะไปไหนไม่ห้ามจะตามสง่ แล้วทรามเชยจึงค่อยพาบิดาไป ฯ
แมข่ อพบพูดจาประสาเคย ยังซำ้ หลอกลวงแมพ่ ูดแก้ไข
ขอเชญิ ไปอยู่ในถำ้ ให้สำราญ
๏ สินสมทุ รสุดฉลาดไม่อาจบอก บิดาขา้ ข้ีขลาดไมอ่ าจหาญ
มใิ ชก่ ารมารดาจะคลาไคล ไม่ช้านานบิตรุ งค์คงจะมา ฯ
ซ่ึงจะให้ไปบอกออกมาหา แคน้ โอรสราวกับไฟไหม้มงั สา
พระแมอ่ ย่าทารกรรมใหร้ ำคาญ แมน้ จะวา่ โดยดเี ห็นมิฟงั
แล้วหกั คอเสยี ใหต้ ายเม่ือภายหลงั
๏ อสรุ ผี ีเสือ้ เหลอื จะอด น้อยหรือยงั โหยกเหยกเดก็ เกเร
ช่างหลอกหลอนผ่อนผนั จำนรรจา มาพดู เอาเปรยี บผ้ใู หญ่ทำไพล่เผล
จะจับไว้ให้พาไปหาพ่อ ทำโวเ้ ว้ว่ากล่าวใหย้ าวความ
โกรธตวาดผาดเสียงสำเนยี งดงั แม้นไม่บอกโดยดีจะตีถาม
ชา่ งว่ากลา่ วราวกบั กไู มร่ ้เู ท่า เขา้ ไลต่ ามคลกุ คลีตไี ปพลาง
เอาบดิ รซ่อนไว้ในทะเล
ยิ่งปลอบโยนโอนอ่อนย่งิ หลอนหลอก
พลางโผโผนโจนโจมเสยี งโครมคราม
สนิ สมุทรผุดออกนอกรักแร้ แล้วล่อแมต่ บหตั ถผ์ ดั ผางผาง
แกลง้ หลบลหี้ นีวนไปตน้ ทาง หมายใหห้ า่ งพระบดิ าไดค้ ลาไคล
นางผเี สื้อเหลือแคน้ แสนสาหัส แต่ฉวยพลัดแพลงคลื่นลื่นไถล
อตุ ลดุ ผดุ ดำปล้ำกนั ไป เหมือนเล่นไล่ตามละเมาะทกุ เกาะเกยี น
ถึงเขาใหญ่ในนำ้ งำ้ ชะเงื่อม พระหลบเล่ือมเลย้ี วลดั ฉวดั เฉวยี น
เขา้ หาดทรายชายต้นื ขึน้ บนเตียน เท่ยี ววิง่ เวยี นวนรอบขอบคริ ี
เห็นมารดาลา่ ลับแลว้ ยับยง้ั แกลง้ ถอยหลังลงนำ้ แลว้ ดำหนี
ไม่พน่ ผุดรุดไปในนที ตัง้ ภกั ดตี ามตดิ พระบดิ ร ฯ
พอจวนค่ำคิดว่าว่งิ ขน้ึ สิงขร
๏ ฝ่ายผเี สอื้ เม่ือลกู ลอบลงน้ำ มาซมุ่ ซ่อนอยู่ท่ีนีจ่ ึงหนมี า
ดว้ ยใจนางคดิ วา่ พาบิดร ย่งิ มดื คลมุ้ กย็ ่งิ คล่ังต้ังแตห่ า
เที่ยวแลรอบขอบเขาเงาชะงุ้ม จนหน้าตาแตกยับลงสับเงา
เสยี งคลืน่ โครมโถมตะครบุ ก้อนศลิ า จนโคลงคลอนเคลื่อนดังท้ังภเู ขา
แลว้ ลุกข้นึ ยืนชะโงกโยกสิงขร ไม่พน้ เราเรง่ มาหาโดยดี
ยง่ิ มดื ค่ำสำเหนยี กร้องเรยี กเดา เขาระยำย่อยยบั ดังสับสี
เห็นไมข่ านมารร้ายทลายซ้ำ อสรุ เี หลือแค้นแนน่ อุรา
ไมพ่ บเห็นเป็นเพลาเขา้ ราตรี ลวงให้แม่หลงกลเท่ยี วคน้ หา
ชา่ งชาติชั่วหวั กระดูกลกู ตอแหล ให้บิดาเลยไปเสยี ไกลแลว้
เออกระนนั้ มนั จึงทบตลบมา ให้สองเนตรโชติช่วงดงั ดวงแก้ว
ดำริพลางนางมารอ่านพระเวท อย่โู น่นแลว้ ลยุ ตามโครมครามไป ฯ
แลเขมน้ เหน็ ไปไวแววแวว รีบมาทงั้ คืนคำ่ ในนำ้ ไหล
เหน็ เงอื กใหญ่ยายตายังล้านัก
๏ หน่อนรนิ ทร์สินสมทุ รไม่หยุดยัง้ โน่นนางมารหนุนไลม่ าใกล้หนัก
จนแจ่มแจ้งสุริโยอโณทัย พอนางยกั ษ์ทนั โถมกระโจมมา
จึงว่ารีบถีบถอนไปก่อนท่าน เหยยี บขยสี้ องแขนแนน่ นักหนา
แล้ววา่ ยรอคลอไปพอได้พกั ไยมงึ พาผัวพรากมาจากกู
พระลกู หลบพบเงือกจะเสอื กหนี
ตะคอกถามตามโมโหทโ่ี กรธา
เดย๋ี วนี้องค์พระอภยั อยู่ไหนเล่า ไมบ่ อกเราหรือกระไรทำไขหู
จะควักเอานยั นาออกมาดู ตะคอกขูค่ ุกถามคำรามรน ฯ
ถงึ ม้วยมอดมใิ ห้แจ้งแห่งนุสนธ์ิ
๏ ทงั้ สองเงือกเสือกกายหมายไม่รอด เธออย่บู นเขาขวางริมทางมา
จึงกลา่ วแกลง้ แสร้งเสดว้ ยเลห่ ์กล ใหไ้ ด้ดังม่งุ มาดปรารถนา
ข้าจะพาไปจบั จงกลับหลัง จงเขน่ ฆา่ ใหเ้ ราม้วยไปดว้ ยกัน ฯ
ไมเ่ หมือนคำรำพนั ทส่ี ัญญา ยุดเอามือขวาซา้ ยใหผ้ ายผัน
แกลง้ รำพนั พูดล่อใหต้ ่อไป
๏ อสรุ ีผเี สอ้ื ก็เชอ่ื ถือ จึงวา่ มึงตอแหลมาแก้ไข
เงือกกพ็ ามาถึงได้ครงึ่ วัน แกลง้ จะให้ห่างผวั ไม่กลวั กู
นางผีเสอื้ เบอื่ หูรู้เท่าถึง ไมห่ ายแคน้ เคย้ี วกินส้ินท้ังคู่
มาถงึ นี่ชี้โน่นเนื่องกันไป ออกวา่ ยว่แู หวกน้ำดว้ ยกำลัง ฯ
แล้วนางยกั ษ์หักขาฉีกสองแขน ตามบิดรทันสมอารมณห์ วัง
แล้วกลับตามข้ามทางท้องสนิ ธู พระทรงฟังลูกชายค่อยคลายใจ
พลิ ึกลำ้ กว่าคริ ีท่ีไหนไหน
๏ ฝา่ ยกมุ ารสินสมทุ รไมห่ ยดุ หย่อน เกาะอะไรแก้วตาตรงหนา้ เรา ฯ
จงึ เลา่ ความตามติดไม่ปดิ บงั คือเกาะแกว้ พิสดารเป็นชานเขา
พอเห็นเงาเขาขวางอยู่กลางน้ำ จงึ ว่าเราเห็นจะรอดไม่วอดวาย
จงึ ถามนางเงือกน้อยกลอยฤทัย ชะโงกเงื้อมน้ำวลชลสาย
มเี สาหงสธ์ งปลายปลวิ ระยบั
๏ นางเงือกน้ำบอกสำคัญว่าน่ันแล้ว โน่นแน่กฏุ ิ์มงุ กระเบ้อื งเหลืองสลับ
พระฟงั นางสรา่ งโศกค่อยบรรเทา หมายประทับท่เี สาหงสต์ รงเข้ามา ฯ
แล้วพศิ ดภู ูผาศิลาเสือ่ ม กบั คนเหล่าเหลือตายหลายภาษา
แลลิบลิบหลังคาศาลาราย วิลนั ดาฝรง่ั พรั่งพร้อมกัน
พระยินดชี ้ีบอกสนิ สมทุ ร บา้ งต้มนำ้ เก็บลกู ไม้มาใหฉ้ ัน
พระหน่อน้อยค่อยเรยี งเคยี งคำนับ บ้างนวดฟั้นปรนนิบัตนิ ่งั พัดวี
๏ ฝ่ายโยคที ่ีอย่บู นภเู ขา
ทัง้ จีนจามพราหมณ์แขกไทยชวา
เป็นรอ้ ยคนปรนนิบตั ิอยเู่ ช้าค่ำ
เป็นเหลา่ ลอ้ มพร้อมหนา้ เวลาน้ัน
พอบา่ ยเบ่ียงเสียงคลน่ื ดงั ครน้ื ครกึ อึกทึกมาข้างหนา้ คริ ีศรี
ครนั้ ดูลมก็ไม่พัดสงดั ดี พระโยคจี บั ยามตามตำรา
แลว้ บอกศิษย์ซึ่งนง่ั อยทู่ ้งั หลาย วนั นีช้ ายมศี กั ด์จิ กั มาหา
ผีเส้ือนำ้ ทำฤทธ์ติ ิดตามมา เสยี งชลาเล่ือนลั่นสนั่นดงั
จำจะไปคอยดูอยทู่ ี่หาด ชว่ ยตวาดขู่ขับให้กลบั หลัง
ฉวยไมเ้ ท้าก้าวยา่ งจากบลั ลังก์ แขกฝรั่งพรง่ั พร้อมล้อมลลี า
ถึงหาดกว้างทางแลกระแสสมุทร เห็นมนุษยไ์ รไรไหลนกั หนา
ผเี ส้ือนำ้ ทำฤทธิ์ตดิ ตามมา เวทนาแลดูอยทู่ ุกคน ฯ
ความกลวั เหลอื ว่ายควา้ งอยกู่ ลางหน
๏ พระอภยั มณีเห็นผเี สอ้ื พอเห็นคนอยู่ทห่ี าดตวาดครืน
ยักษก์ ระโจมโถมจับแทบอบั จน กระช้ันฉวยผดิ เสอื กเกลือกเข้าต้นื
เข้าถงึ ท่ีผีเสอื้ ก็ถึงดว้ ย ผีเสอ้ื ต่นื ตัวสนั่ ขยัน้ ย้ัง
พอโยคีมีคาถาลงมายืน ชว่ ยกันฉดุ นางเงอื กเสอื กเขา้ ฝ่ัง
พระอภยั ภูมนิ ทร์กบั สนิ สมุทร แขกฝร่ังพรัง่ พร้อมล้อมพดู จา ฯ
แลว้ กราบกรานโยคมี ีกำลงั จึงวา่ ทา่ นหนีตายหมายมาหา
แตก่ ิจจาไมก่ ระจา่ งยงั คลางแคลง ฯ
๏ พระโยคมี จี ติ คิดสงสาร จงึ ยกความกอ่ นเกา่ เลา่ แถลง
เราลงมาคอยช่วยดว้ ยเมตตา รำพันแจ้งความจรงิ ทุกส่ิงไป
จะรองบาทประดิพัทธ์จนตดั ษัย
๏ พระอภยั ไดส้ ดับสุนทรถาม แตพ่ อได้หยดุ หย่อนผอ่ นสบาย ฯ
จะหนนี างกลางสมทุ รกส็ ุดแรง จงสำนักอยู่ให้สมอารมณ์หมาย
แล้ววอนว่าข้ากบั โอรสราช มาถกู ทรายชายหาดก็ขาดใจ
ขอพระองค์ทรงธรรมช์ ว่ ยกนั ภยั ดงั เข่อื นเพชรภูตปศี าจไม่อาจใกล้
ทำไม่ไดน้ ัดดาเจ้าอยา่ กลัว ฯ
๏ พระโยคีมีญาณว่าหลานรัก เสยี งโผงผงึ เผ่นโผนตะโกนผัว
อันยกั ษีผีสางสมทุ รพราย เชิญทูนหัวเยย่ี มหน้ามาหาน้อง
เราลงเลขเสกทำไว้สำเร็จ
มนั อยู่แตห่ า่ งหา่ งช่างเป็นไร
๏ ฝา่ ยผีเสื้อเหลือโกรธโลดทะลึง่
เหตุไฉนไปน่งั กำบังตัว
นิจจาเอย๋ เคยอย่เู ปน็ คชู่ ืน่ ทุกวนั คืนค่ำเช้าไม่เศร้าหมอง
จนมีลูกปลูกเล้ยี งเคยี งประครอง มใิ ห้ข้องเคืองขัดพระอชั ฌา
อยูด่ ดี หี นีเมียมาเสียได้ เสยี นำ้ ใจนอ้ งรกั เป็นนกั หนา
จึงอุตสา่ ห์พยายามส้ตู ามมา ขอเปน็ ขา้ บาทบงสุ์พระทรงธรรม์
พระเสดจ็ ไปไหนจะไปด้วย เปน็ เพอื่ นม้วยภสั ดาจนอาสญั
ประทานโทษโปรดเลยี้ งแต่เพียงนั้น อย่าบากบน่ั ความรักน้องนักเลย ฯ
อตุ สา่ หฝ์ นื พกั ตร์วา่ นจิ จาเอย๋
๏ พระอภัยใจอ่อนถอนสะอน้ื พ่ีไม่เคยอยใู่ นถำ้ ให้รำคาญ
แมผ่ เี สือ้ เมื่อไม่เห็นในใจเลย จะสร้อยเศรา้ โศกาน่าสงสาร
คิดถึงน้องสองชนกทป่ี กเกลา้ ไม่แจง้ การวา่ ขา้ งหลังเปน็ อย่างไร
ดว้ ยพลัดพรากจากมาเปน็ ช้านาน จงงดโทษพีย่ าอชั ฌาสัย
จึงจำรา้ งห่างหอ้ งให้นอ้ งโกรธ น่ีจนใจเสยี ด้วยนางต่างกระกูล
แม้นไปไดก้ ็จะพาแก้วตาไป จงคดิ หักความสวาทให้ขาดสูญ
พ่มี นษุ ยส์ ดุ สวาทเปน็ ชาตยิ ักษ์ จงเพิม่ พูนภาวนารักษาธรรม์
กลบั ไปอย่คู หู าอยา่ อาดรู หมายวิมานเมืองแมนแดนสวรรค์
อยา่ ฆ่าสัตวต์ ดั ชีวิตพิษฐาน อย่าโศกศลั ย์แคลว้ คลาดเหมือนชาตนิ ้ี
จะเกิดไหนขอให้พบประสบกัน เป็นเพื่อนม้วยเหมือนสุดามารศรี
พ่ขี อบุตรสดุ ใจเอาไปดว้ ย อยา่ ราคีขุน่ ข้องให้หมองมัว ฯ
ขอลาแก้วแววตาไปธานี ไมโ่ ปรดปรานอนุกูลเลยทูนหวั
ทง้ั จากผวั จากบุตรสุดอาลัย
๏ ผีเสื้อน้ำซำ้ วอนด้วยอ่อนหวาน ไมเ่ หน็ จิตน้องรักจะตักษัย
ถ้าท้ิงไวไ้ หนน้องจะครองตัว เมยี จะให้มนตเ์ วทวเิ ศษครนั
มขิ ออยู่สู้ตายวายชีวติ แมจ่ ะขออำลาเจา้ อาสัญ
เชญิ พระองคล์ งมาชลาลัย ไม่รำพนั พดู ลวงเจ้าดวงใจ ฯ
แล้วรอ้ งเรยี กลูกยามาดว้ ยพ่อ ชำเลืองแลดูหน้านำ้ ตาไหล
อยา่ สงสัยใจจริงทุกสงิ่ อนั จะเข้าใกล้ทูนหวั ลกู กลัวนกั
๏ สินสมทุ รสดุ แสนสงสารแม่
จึงกราบกรานมารดาแล้ววา่ ไป
เมอื่ วานนี้ตีข้าน้อยไปหรอื ระบมมือเหมือนกระดกู ลูกจะหัก
ซ่งึ รกั ลกู ลูกก็รูอ้ ยู่วา่ รัก มใิ ชจ่ ักลมื คุณกรุณา
ถึงตัวไปใจลูกยังผูกคิด พอปลดปลดิ เปล้ืองธรุ ะจะมาหา
อยา่ กริ้วโกรธโปรดปรานเถิดมารดา ไปไสยาอยใู่ นถ้ำใหส้ ำราญ ฯ
ใหโ้ อวาทนางยักษ์ไม่หักหาญ
๏ ฝ่ายโยคีมยี ศพจนารถ อย่าปองผลาญลูกผัวของตัวเลย
จงตัดบ่วงห่วงใยอาลัยลาน จึงสนิ้ บุญวาสนาสกี าเอย๋
ทง้ั นเ้ี พราะเคราะหก์ รรมทำให้ว่นุ ดว้ ยสองเคยปลูกเลย้ี งกนั เพียงน้นั
เหน็ มไิ ด้ไปอยูเ่ ป็นคู่เชย จะเป็นโทษกับสกี าเม่ืออาสัญ
อย่าควรคิดติดตามดว้ ยความโกรธ ไปสวรรคน์ ฤพานสำราญใจ ฯ
จงยบั ย้งั ฟงั คำรปู รำพนั มาตั้งซ่องศลี จะมีอยู่ท่ไี หน
ไม่อยู่ในศีลสัตยม์ าตัดรอน
๏ นางผีเสือ้ เหลือโกรธพโิ รธรอ้ ง ย่นื จมกู เขา้ มาบา้ งชว่ ยส่งั สอน
ช่างเฉโกโยคหี นีเขาใช้ จะรานรอญรบเร้าเฝา้ ตอแย
เขาว่ากนั ผัวเมียกับแม่ลกู ทำซบเสอื กสอพลออีตอแหล
แมน้ คบคู่กูไวม้ ิให้นอน พ่อกบั แม่มงึ เข้าไปอยู่ในท้อง
แล้วชห้ี นา้ ดา่ อึงหงึ นางเงือก ระวังตวั มึงใหด้ ีอจี องหอง
เห็นผัวรกั ยกั คอทำท้อแท้ เสียงกกึ ก้องโกลาลูกตาโพลง ฯ
ทำปน้ั เจ๋อเย่อหยิง่ มาชิงผวั ยงั โว้เว้วุ่นวายอตี ายโหง
พลางเข่นเขยี้ วเคยี้ วกรามคำรามรอ้ ง ว่ากูโกงมึงก็ตกนรกเอง
รูปก็กากปากกเ็ ปราะไมเ่ หมาะเหมง
๏ พระโยคีชีห้ นา้ ว่าอเุ หม่ ผวั ของเองเขาระอาไมน่ ่าชม
เพราะหวงผัวมัวเมาเฝา้ ตะโกรง มิใช่กูรูเ้ ห็นเทา่ เส้นผม
อยี ักษาตาโตโมโหมาก จะใหส้ มนำ้ หน้าสาแก่ใจ
นมสองข้างอย่างกระโปรงดูโตงเตง ดังลูกปนื ยงิ ยกั ษใ์ หต้ ักษัย
จึงหนีมาอาศยั กูให้อยู่ ก็หลบไปตามวนชลธาร ฯ
มาตีชาวา่ กผู ดิ ในกจิ กรม
แลว้ เสกทรายปรายขว้างมากลางคลืน่
ผีเสื้อกลวั ตวั ส่ันเพยี งบรรลัย
ถอดคำประพนั ธ์
นิทานคำกลอน เร่อื งพระอภยั มณี ตอน พระอภัยมณหี นีนางผีเสอ้ื สมุทร
กล่าวถึงพระอภยั มณีอยู่กับนางผีเสอื้ จนมบี ตุ รชาย หน้าตาเหมอื นพระบิดา แต่ดวงตาแดงดังสรุ ียฉ์ าย (พระ
อาทิตย์) มกี ำลงั ดังพระยาคชาพลาย (ชา้ ง) มีเข้ียวคล้ายชนนมี ีศักดา (อำนาจ) พระบดิ ามีความรักใคร่เลีย้ งดูมาจน
อายุไดแ้ ปดปี จึงให้ช่อื ว่าสนิ สมุทร สอนวชิ าเป่าปแ่ี ละเพลงอาวธุ ใหจ้ นชำนาญ วนั หนึ่งนางผเี ส้ือน้ำออกจากถ้ำไป
หาอาหาร ฝ่ายสินสมุทรซึ่งรักพ่อมากกว่าแม่ เห็นพระอภัยหลับอยู่ก็หนีไปวิ่งเล่นในถ้ำ เห็นแผ่นหินปิดปากถ้ำ
ไว้ จึงเข้าลองผลักเล่น แต่ด้วยมีกำลังมาก ก็พังออก มองออกไปเห็นหาดทรายงาม ทะเลกว้างและป่าที่ไม่เคย
เห็นมาก่อน ก็ตื่นตาตื่นใจ ออกวิ่งเล่นและว่ายน้ำด้วยความสนุกสนาน ไปพบเงือกเข้าก็แปลกใจ เห็นเป็นครึ่งคน
ครึ่งปลา จึงจับไปให้พระบิดาดู พระอภัยทราบว่าสินสมุทรมีกำลังมากสามารถผลักหินที่ปิดปากถ้ำออกได้ ก็ตกใจ
บอกว่าถา้ แมข่ องสินสมทุ รรกู้ ็จะโกรธ ด้วยเกรงว่าจะพาพระบดิ าหนี จะพากันตายหมด
สินสมุทรได้ฟังก็สงสยั จึงถามความจริงจากพระบิดา พระอภัยก็เล่าใหฟ้ ังจนหมดส้ิน สินสมุทรรูเ้ รื่องแล้วก็
เสียใจที่มีแม่เป็นยักษ์ ฝ่ายเงือกน้ำฟังภาษามนุษย์รูเ้ รื่อง ก็ขออาสาพระอภัยที่ได้ไว้ชีวิตวา่ จะใช้ตนทำอะไรก็จะ
รับใช้ทุกอย่าง พระอภัยเห็นว่าเงือกพูดได้และได้ฟังเรื่องแล้วก็เกิดความสงสาร แล้วบอกว่าตนต้องการหนีนาง
ผเี สอ้ื แต่ไมร่ ูว้ ่าจะไปแหง่ หนใดเพราะไมร่ ู้ทาง ขอให้เงือกผเู้ จนทางกลางทะเลชว่ ยแนะนำดว้ ย เงือกน้ำจึงบอกว่า
ที่นี่เป็นถ่ินทอ่ี ยูข่ องนางผเี ส้อื ข้างฝา่ ยเหนือถงึ มหงิ ษะสิงขร ขา้ งทิศใตไ้ ปเกาะแก้วมงั กร ใชเ้ วลาเดินทางเจด็ เดือน
จึงจะถึง แถวนี้จะไม่มีบ้านเรือนคนเลย แต่บางทีมีเรือสำเภาชาวเกาะเมืองลังกา เขาแล่นมาบ้าง บางคร้ังถ้าเรือ
แตกพวกเงือกจะมาเลือกเอาคนไปเป็นคู่ เหมือนปู่ย่าของข้าที่เป็นมนุษย์ข้าจึงรู้ภาษามนุษย์ อายุข้าห้าร้อยแปด
สิบเศษ จึงรู้จกั ถ่นิ แถวนีด้ ถี ้าจะหนีนางผเี ส้ือผู้มีกำลังมากคงจะยาก แต่มีโยคตี นหนง่ึ มเี วทมนต์มาก อายุถงึ พันเศษ
อยู่เกาะแก้วพิสดาร กินลูกไม้เผือกมันเป็นอาหาร เวลาพวกแขกฝรั่งและอังกฤษเรือแตกก็จะมาพึ่งพิงฤาษีตนนี้
เพราะมีมนต์ดลวิชา ปราบบรรดาภูติพรายไม่กรายไป ถ้าท่านจะคิดหนีต้องหนีไปที่เกาะแก้วพิสดารนี้จึงจะรอด
เพราะนางยักษ์จะทำอะไรไม่ได้ เผ่ือวันใดมีเรือสำเภาหลงเข้ามาจะได้อาศัยติดเรือกลับไปบา้ นเมือง แต่ระยะทาง
จากน่ีไปไกลเหลือเกิน มีแต่ทะเลกับป่าและไม่มีความสะดวกสบาย ใด ๆ จึงขอใหพ้ ระอภัยคิดให้ดีเสียก่อน แล้ว
เงือกก็บอกว่า ด้วยกำลังของตนจะพาหนีก็ต้องใช้เวลาถึงเจ็ดราตรี แต่นางผีเสื้อน้ำมีกำลัง ถ้าติดตามไปเพียงสาม
วนั กจ็ ะตามทนั ถ้าจะแกไ้ ขใหน้ างผเี สื้อน้ำไปอยปู่ ่าล่วงหน้ากอ่ นกจ็ ะค่อยยงั ชวั่ บา้ ง
พระอภยั ได้ฟงั ความแลว้ ก็ค่อยคลายทุกข์ แลว้ ให้เงือกกบั สนิ สมุทรช่วยกันไปปิดปากถ้ำไว้อย่างเดิม อย่าให้
เป็นที่สงสัยของนางผีเสื้อน้ำได้ จากนั้นเงือกก็ลาไป เมื่อนางผีเสื้อกลับมายังถ้ำก็แปลงร่างเป็นสาวสวย เอา
ผลไม้มาให้พระอภยั เมื่อค่ำลงก็พากันหลบั ไป ฝ่ายนางผีเสื้อเมื่อจะพรากจากลูกผัว ได้เกิดฝันว่า เทวดาที่อยู่เกาะ
นัน้ มาทำลายถ้ำ แล้วเอาพะเนนิ (ค้อนใหญ)่ ทบุ นางจนแทบถึงชวี ิต จากน้นั ได้ควกั เอาดวงตาไปด้วย เมื่อนางต่ืนขึ้น
จงึ เล่าความฝันใหพ้ ระอภัยฟัง แลว้ ขอใหท้ ำนายฝนั ให้ดว้ ย
พระอภัยได้ฟังแล้วกเ็ หน็ ว่าท่ีตนคิดจะหนีนางผีเส้ือนั้นคงจะไปได้ แต่นางผีเสื้อจะเปน็ อนั ตราย จึงแกล้ง
ทำนายฝันว่าเปน็ ฝันร้ายนัก ตามตำราว่าเทวดาน้ันคือ มัจจุราชหมายเอาชีวิต แล้วแกล้งทำโศกเศร้าแนะนำให้นาง
ผีเสื้อสะเดาะเคราะห์ นางผีเสื้อก็ขอคำแนะนำว่าจะให้นางสะเดาะเคราะห์ด้วยวิธีการอย่างใด พระอภัยจึงบอกให้
นางไปอยู่ผู้เดียวที่ตีนเขา แล้วอดข้าวอดปลาให้ครบสามวัน นางผีเสื้อก็เชื่อแล้วออกไปอยู่ที่เขาใหญ่ สินสมุทร
สงสารแมย่ ง่ิ นัก รอ้ งไหอ้ าลยั ด้วยความเปน็ หว่ งแม่ พระบิดาจงึ ห้ามไม่ใหส้ ินสมุทรตามแมไ่ ป
เมื่อนางผีเส้ือไปแล้ว พระอภัยก็ให้สินสมทุ รผลักแผน่ ศิลาปดิ ปากถ้ำออกไปแลว้ พากันไปท่ีหาดทราย ฝ่าย
เงือกน้ำก็พาลูกเมียไปรอแล้วก็พาพระอภัยขึ้นบ่าพาไป ส่วนสินสมุทรก็ขี่หลังเมียเงือก บรรดาสัตว์น้ำทั้งหลายไม่
กลา้ เข้าใกล้ ดว้ ยกลน่ิ ตัวของสินสมทุ รคล้ายผเี สื้อผู้เป็นมารดา ส่วนลูกสาวเงอื กก็ว่ายน้ำตามไปโดยไม่ยอมหยุดพัก
ดว้ ยเกรงนางผีเสอ้ื จะตามมาทนั
ฝา่ ยนางผีเสือ้ สมุทร อดปลาอดนอนไดส้ ามวันก็อ่อนกำลังจวนเจียนถึงชวี ิต เมอื่ ครบกำหนดแล้วก็หาผลไม้
มากิน แล้วกลับมายังถ้ำ เห็นประตูถ้ำเปิดอยู่ เข้าไปดูในถ้ำไม่พบใครก็ตกใจ แลดูปี่ที่เป่าก็หายไปด้ วยก็รู้ว่าพากัน
หนีนางไปแล้ว มีความเสียใจมากท่ีทั้งลูกและผัวหนีจากไป แล้วก็เกิดความโกรธ ออกติดตามดูร่องรอยใน
มหาสมทุ รกไ็ มพ่ บ จงึ เรยี กสมุนของตนท่เี ป็นปีศาจ ภูตพิ รายมาซกั ถาม พวกผีท่ีอย่ทู ศิ ใต้ แจ้งวา่ เห็นเงือกพามนุษย์
ไปทางทศิ ใต้เมอ่ื คืนวานซนื ตนจะตามไปกเ็ กรงขามเดก็ ตัวเล็กแตไ่ ม่กลวั ผี
นางผีเสื้อรู้ความแล้วก็รบี ติดตามไปอย่างรีบร้อนและโกรธมาก ทำลายทุกสิ่งทีก่ ีดขวางทางอย่างโมโหไป
ตลอดทางฝ่ายพระอภัยมณี หนียักษ์มาได้ห้าคืน เห็นทะมื่นมาข้างหลังดังสะเทือนไปหมด จึงถามเงือกว่า เกิด
อะไรขึ้น ฝ่ายเงือกรู้ว่าสิ่งน้ันคือ ฤทธิ์ของยักษ์จึงตอบพระอภัยไปว่า นางยักษ์กำลังตามมา คงจะทันกันในวันน้ี
หนีไม่พ้น เห็นจะตายลงด้วยกันแน่ๆ พระอภัยจึงบอกเงือกว่า ให้เงือกหนีไปเสีย ส่วนสินสมุทรก็ให้กลับไปกับแม่
ตัวเขาจะขอส้จู นตายแตผ่ ูเ้ ดียว สนิ สมทุ รตอบว่า จะไม่ทิ้งพระบิดา ถ้าแมแ้ ม่ตามมาจะหา้ มไว้ แล้วใหพ้ ระบิดารีบ
หนไี ปก่อนฝา่ ยนางผีเส้ือสมุทรตามมาไดส้ ามวนั กต็ ามทนั ผวั กบั ลกู น้อย ฝา่ ยเงือกนำ้ ส้นิ กำลังทจ่ี ะพาพระอภัยหนี
ต่อไป จึงเรยี กลกู สาวให้ช่วยพาพระอภยั หนีตอ่
สินสมุทรเห็นมารดาในร่างเดิม ไม่ใช่ร่างนิมิตที่ตนเคยเห็น ก็สงสัยออกขวางกลางน้ำ แล้วร้องถามว่าเป็น
สัตว์บกหรือสัตว์น้ำทำไมดำนักหนา ที่ตามมานั้นต้องประสงค์อะไร นางผีเสื้อน้ำได้ยินคำพูดของลูกก็ให้นึกอดสู
จึงตอบไปว่าตนไม่ใช่ชาติยักษ์ เมือ่ อยู่ในถ้ำไม่ได้แปลงร่าง แตอ่ อกเดินทางอยา่ งนี้ต้องนิมิต รูปจึงผิดไปกว่าเก่าจน
เปน็ ทส่ี งสยั แล้วถามวา่ พอ่ ไปอยทู่ ไ่ี หน สินสมทุ รได้ฟงั สำเนยี งก็รวู้ ่าเปน็ แม่ แต่ดูรูปรา่ งแลว้ น่าสมเพช ด้วยเหตุน้ี
พระบดิ าจงึ หนี จงึ แกลง้ บอกว่าตนไมเ่ ช่ือ ถา้ หากเป็นแม่จริงก็อย่าตามมา ดว้ ยแมเ่ ป็นผเี สื้อ แต่พระบิดาเป็นมนุษย์
จึงขอให้ปล่อยพระบิดาไป ส่วนตนนั้นจะขอลาไปเที่ยวสักหนึ่งปี ถ้าได้พบ อา ย่า ปู่ อยู่เป็นสุขแล้วก็จะชวนพระ
บดิ ากลับมาหามารดาตอ่ ไป
นางผีเสื้อรู้ทันสินสมุทร เมื่อเจรจาหว่านล้อมไม่เป็นผลแล้วนางจึงเข้าโจนจับสินสมุทร แต่สินสมุทรก็
หลบหลกี ไปได้ แล้วหนลี อ่ ใหม้ ารดาตามตนไปอกี ทาง หมายให้ห่างพระบิดา นางผีเสอ้ื กไ็ ลต่ าม จะจับให้ได้ แต่
สนิ สมทุ รดำนำ้ หนีไป นางผเี ส้อื หาลกู และผวั ไม่พบ จึงอา่ นพระเวท มองหาพระอภัย เมอื่ เห็นแล้วก็ติดตามไปพบ
เงือกยายตาที่อ่อนกำลังว่ายน้ำอยู่จึงเข้าไปจับแล้วซักถาม สองเงือกก็หลอกนางผีเสื้อว่า พระอภัยอยู่บนเขาริม
ทางที่ผ่านมา ตนจะพาไปจับตัว ถ้าไม่เหมือนคำที่สัญญา ก็ขอให้ฆ่าตนทั้งสองเสีย นางผีเสื้อก็เชื่อ เงือกพา
นางผเี สอื้ มาได้คร่ึงวันแลว้ ก็พูดล่อหลอกต่อไป แตน่ างผเี สือ้ รทู้ ันจึงว่าสองเงือกตอแหล จึงหกั ขาฉีกสองแขน แล้ว
เค้ยี วกนิ เงือกทัง้ สองนัน้ เสยี จากนัน้ กอ็ อกตดิ ตามพระอภยั ต่อไป
ฝ่ายเงือกสาวพาพระอภัยและสินสมุทร มาถึงเกาะแก้วพิสดาร พระอภัยก็ดีใจว่าคงจะรอดตาย
แล้ว ฝ่ายโยคีที่อยู่บนภูเขา กับพวกเรือแตกทั้งหลาย มีทั้งจีนแขกไทยชวาฝรั่งจำนวนมาก พระโยคีได้ยินเสียง
ดงั โครมครามก็จบั ยามสามตาดู แลว้ บอกศิษย์ซ่ึงน่ังอยู่ทงั้ หลายว่า วันนี้ชายมีศกั ดิ์จักมาหา แต่มีผีเส้ือน้ำทำฤทธิ์
ติดตามมาด้วย เราจะต้องไปชว่ ยเสียหนอ่ ย พระอภัยหนผี เี สอื้ สมุทรมาถงึ ฝง่ั นางผีเสือ้ ตามมาทนั เกือบจะจับพระ
อภัยได้ แต่พระโยคีช่วยไว้ได้ทัน ตวาดเสียงดังนางผีเสื้อกลัวยืนตัวสั่นอยู่ไม่กล้าขึ้นฝั่ง พระอภัยกับสินสมุทร
ช่วยกันลากนางเงือกสาวข้ึนฝั่งได้แล้วก้มกราบโยคีขอให้ช่วย โยคีก็มีเมตตาบอกว่าจะช่วยแต่ขอให้เล่าความจริง
ใหฟ้ งั ก่อน พระอภัยจึงเลา่ ความจรงิ ให้ฟงั โยคีจึงบอกวา่ ไม่ต้องกลวั ให้พักอยู่ทีน่ ี่เถอะ เพราะยักษ์หรือภูตผีขึ้นมา
บนเกาะไม่ได้เนื่องจากพระฤาษีเสกคาถาอาคมไว้ ถ้ามาถูกทรายก็จะขาดใจตายทันที มันแค่อยู่ห่าง ๆ ไม่
เป็นไร ฝา่ ยนางผีเสอ้ื วิงวอนพระอภัยขอติดตามไปด้วยจนตลอดชีวิต ขอใหพ้ ระอภัยอย่าได้ตัดรอนความรักของเธอ
เลย พระอภยั ได้ฟังกส็ งสาร และไดช้ ้ีแจงนางไปถงึ ความจำเป็น และเหตผุ ลทีต่ อ้ งหนมี า โดยบอกวา่ เราเป็นคน
ละเผา่ พนั ธุ์อย่ดู ้วยกนั ไม่ได้ ขอให้หกั ใจเสยี ถา้ ชาตหิ นา้ มีจริงขอให้ได้พบกันใหม่อย่าได้แคล้วคลาดจากกันเหมือน
ชาตนิ เ้ี ลย นางผีเสอ้ื กพ็ ยายามอ้อนวอนทำทวี า่ ขอให้เห็นใจในความรกั ของเธอด้วย หากพระอภัยไม่เห็นใจนางๆก็
จะขอลาตายแต่ขอให้พระอภัยลงมากลางน้ำนี้ก่อนเถิด นางจะให้มนต์เวทวิเศษแก่พระอภัย แล้วร้องเรียกสิน
สมุทรว่า ให้มาด้วยกันกับพ่อ ก่อนที่แม่จะขอลาตาย สินสมุทรสุดแสนสงสารแม่แล้วบอกว่า ลูกรู้ว่าแม่รักลูกไม่
ลมื บญุ คณุ หรอก ถงึ ตัวไกลใจลกู ยังผกู พัน อยา่ โกรธลูกเลย แม่กลับไปอยู่ถำ้ เสียเถิด
ฝ่ายพระโยคีก็ช่วยพูดจาปลอบโยนและให้โอวาทนางผีเสื้อ แต่นางผีเสื้อไม่ฟัง และโกรธต่อว่าด่าทอพระ
โยคีด้วยคำหยาบต่าง ๆ นานา ด่ารวมไปถึงเงือกสาว ว่ามายุ่งเรื่องผัวเมียคนอื่น จนพระโยคีโกรธ เสกทราย
ขวา้ งไป ทรายนัน้ เปน็ ดังลกู ปนื ยิงยักษเ์ จบ็ ปวดไปหมด นางผีเส้ือกลวั ตวั ส่ันงนั งกจงึ หลบออกไป
แนวทางในการพจิ ารณาวรรณกรรม
เน้ือเร่ือง
พระอภยั มณีมีความโดดเดน่ เพราะมตี ัวละครหลากหลายท้ังมนษุ ย์ อมนุษย์ และสัตว์ประหลาด กระทั่งใน
กลมุ่ มนษุ ย์เองก็ยงั มหี ลายเชือ้ ชาติจงึ เปน็ ความแปลกใหม่ในสายตาผ้อู ่าน อุปนสิ ยั ตัวละครทุกตวั ถกู สร้างใหม้ ีความ
สมจริงตามนิสัยแท้ของมนษุ ย์ ด้านฉากท่ีดำเนินเรอ่ื งสว่ นใหญ่ในมหาสมุทรสะท้อนจินตนาการกว้างไกลของผู้เขยี น
นอกจากน้ียงั แทรกเกรด็ ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เชน่ การสืบทอดลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม เปน็ ตน้
ศลิ ปะการประพนั ธ์ ทุกวันคนื ค่ำเชา้ ไมเ่ ศรา้ หมอง”
๑. มีความไพเราะ มสี ัมผัสในเกอื บทุกวรรค เชน่
“นจิ จาเอย๋ เคยอยู่เป็นคชู่ ื่น
๒. มกี ารสรรคำท่ีโดดเดน่ สือ่ ความหมายไดก้ ินใจ เชน่ ไมม่ ที พ่ี ึ่งพาจะอาศยั
“แม้นส้นิ สูญบญุ นางในปางนี้ ระกำใจว่าจะมว้ ยไปด้วยกนั ”
จะกอดศพซบหน้าโศกาลัย
๓. ใชภ้ าษาพูดทว่ั ไป ทำให้อ่านเขา้ ใจง่าย เช่น นีส่ ัตว์บกหรอื สตั วน์ ำ้ ดำหนกั หนา
“แล้วรอ้ งถามตามประสาเป็นทารก จะเล่นข้าทา่ ไรจะใคร่รู้”
โจนกระโจมโครมครามตามเรามา
๔. ใชค้ ำอปุ มาเพ่อื ใหภ้ าพชดั เจน เช่น แต่ดวงเนตรแดงดูดังสุรยิ ฉ์ าย”
“ไมค่ ลาดเคลื่อนเหมือนองค์พระทรงเดช
๕. ใช้คำพรรณนาเพ่ือสือ่ ความเคลือ่ นไหว เชน่ บา้ งผดุ พ่นฟองน้ำบา้ งดำจร”
“ฝูงพิมพาพาฝูงเขา้ แฝงวน
๖. ใชค้ ำเลียนเสยี งธรรมชาติ เชน่ เสียงโฮโฮดงั ก้องห้องคูหา”
“ลงกลงิ้ เกลือกเสอื กกายรอ้ งไห้โร่
๗. บรรยายเหตุการณ์ไดเ้ หน็ ภาพและสะเทือนอารมณ์ เช่น
“เสียแรงรักหนักหนาอตุ สา่ หถ์ นอม สู้อดออมสารพดั ไม่ขัดขนื
ช่างกระไรใจจดื ไมย่ ืดยนื นางสะอืน้ อ้าปากจนรากเรอ”
ข้อคิด คตคิ ำสอน และความจรรโลงใจ
๑. ความรกั ควรมีสติ ไมค่ วรใช้ความหลงเพราะจะทำใหร้ ักนน้ั ย้อนกลับมาทำร้ายเชน่ เดียวกบั นางผีเสื้อสมุทร
๒. เดก็ ต้องมคี วามเคารพผูใ้ หญ่ ดงั จะเหน็ ไดจ้ ากการที่พระอภัยมณสี อนใหส้ ินสมุทรขอขมาเงือกชราก่อนจะพา
ขน้ึ บ่าหนไี ป
๓. คนเราควรรู้จักปลอ่ ยวาง ไม่ยึดติดกบั สงิ่ ตา่ ง ๆ มากเกินไป
การนำไปใช้ในชวี ติ จริง
๑. เราควรเลือกคบคนจากนิสยั ท่ีแทจ้ รงิ ไม่ใชภ่ าพลกั ษณ์ เพราะภาพลักษณน์ ้นั ไม่จรี ังถาวร
๒. การอยู่ร่วมกันในสงั คมเปน็ การพง่ึ พาอาศัยกนั ไม่ควรต่างคนตา่ งอยู่โดยปราศจากน้ำใจ
สรปุ
นิทานคำกลอน เรื่อง พระอภัยมณี ตอน พระอภยั มณีหนีนางผเี สื้อ เปน็ สว่ นหน่งึ ของวรรณกรรมชิน้ เอกของ
สนุ ทรภู่ ทเ่ี หมาะกบั ผู้อ่านทกุ คน เพราะใหค้ วามบันเทงิ เพลิดเพลิน สง่ เสริมจินตนาการ และแสดงให้เหน็ ถึงคติ
ขอ้ คิดตา่ ง ๆ เชน่ การรกั อย่างมีสติ การรู้จกั ปล่อยวาง การชว่ ยเหลอื เก้ือกูลกนั การมีสมั มาคารวะต่อผูใ้ หญ่
พระโฉมยงองค์อภยั มณนี าถ บทอาขยาน
เหล่าฉลามลว้ นฉลามตามกนั มา
ฉนากอยู่คู่ฉนากไม่จากคู่ เพลนิ ประพาสพิศดูหมมู่ จั ฉา
ฝงู พิมพาพาฝงู เข้าแฝงวน คอ่ ยเคล่ือนคลาคล้ายคลา้ ยในสายชล
กระโห้เรยี งเคยี งกระโหข้ ้นึ โบกหาง ขน้ึ ฟ่องฟูพน่ ฟองละอองฝน
มังกรเกีย่ วเลย้ี วลอดกอดมงั กร บ้างผดุ พ่นฟองน้ำบา้ งดำจร
ฝูงมา้ นำ้ ทำท่าเหมือนมา้ เผ่น ลอยสลา้ งกลางกระแสแลสลอน
ตะเพยี นทองล่องน้ำนำตะเพยี น ประชมุ ซอ่ นแฝงชลขึน้ วนเวียน
เห็นละเมาะเกาะเขาเขยี วชอุ่ม ขน้ึ ลอยเล่นเลี้ยวลดั ฉวดั เฉวยี น
จะเหลียวซา้ ยสายสมทุ รสดุ สายตา ดาษเดยี รดเู พลนิ จนเกินมา
จะเหลียวดสู รุ ิยแ์ สงเขา้ แฝงเมฆ โขดตะคุ่มเคียงเคยี งเรยี งรุกขา
ฟังสำเนียงเสียงคล่ืนดังครนื้ โครม จะแลขวาควนั คลมุ้ กลุม้ โพยม
ใหว้ ิเวกหวาดองค์พระทรงโฉม
ยิ่งทกุ ขโ์ ทมนัสในฤทัยทวี
*** มอบหมายงาน***
คำชี้แจ้ง : ให้นักเรียนศึกษาการอ่านทำน องเสนาะบทอาขยานข้างต้นจาก You Tube ตามLink
นี้ https://www.youtube.com/watch?v=L-TGv5lD468&t=74s (หรือจากคลิปที่ครู Upload ให้ในกลุ่ม) แล้วฝึก
ท่องจำและฝึกอ่านทำนองเสนาะให้ได้อย่างแมน่ ยำ จากนน้ั อดั คลปิ VDO การทอ่ งทำนองเสนาะบทอาขยานส่งครู
ในกล่องข้อความส่วนตัวใน Facebook : Kru GimGim ภายในวันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๓ เมื่อครูตรวจแล้ว
จะแจง้ คะแนนให้ทราบนะคะ (ทอ่ งเปน็ ทำนองเสนาะแบบไม่ดเู น้ือหา)
** ป.ล. หากใครมขี ้อสงสัยสอบถามไดน้ ะคะ
แบบฝกึ หดั
ตอนที่ ๑ จงเรียงลำดับคำประพนั ธ์ต่อไปน้ีใหส้ อดคล้องกับลำดับกอ่ นหลัง
.......... ๑. อันเทวญั นนั้ คอื มัจจุราช จะหมายมาดเอาชวี ิตริษยา
แลว้ เสแสร้งแกลง้ ทำบบี นำ้ ตา อนิจจาใจหายเจียวสายใจ
นกึ วา่ น้อยหรือตอแหลมาแก้ไข
.......... ๒. อสรุ ผี เี ส้ือไม่เชอ่ื ถ้อย ทำปราศรัยเสียงหวานดว้ ยมารยา
แกล้งดบั เดอื ดเงอื ดงดอดฤทยั ด้วยรแู้ นว่ า่ บิดาจะพาหนี
เจา้ โศกีกราบก้มบังคมคัล
.......... ๓. สนิ สมทุ รสุดแสนสงสารแม่ ไปนง่ั โซเซาอยูร่ มิ ภผู า
ใหห้ ว่ งหลังกังวลด้วยชนนี ตอ้ งอดปลาอดนอนออ่ นกำลงั
ใหเ้ ป็นเคร่อื งนุ่งห่มโอรสา
.......... ๔. ฝ่ายนางผีเสือ้ สมุทรท่สี ุดโง่ เพลงศาสตราสารพดั หัดชำนาญ
ขอชวี ิตพษิ ฐานตามตำรา จงคดิ หักความสวาทใหข้ าดสูญ
จงเพ่มิ พูนภาวนารักษาธรรม์
.......... ๕. เจียระบาดคาดองค์ก็ทรงเปลื้อง มึงอยู่ตามเขตแขวงทุกแหง่ หน
สอนให้เจ้าเปา่ ปี่มวี ิชา มาในวนวังบ้างหรืออยา่ งไร
จะฉีกเน้ือกินเล่นเปน็ ภักษา
.......... ๖. พม่ี นษุ ย์สุดสวาทเปน็ ชาตยิ ักษ์ อยา่ ตามมามงุ่ หมายใหว้ ายปราณ
กลับไปอยู่คูหาอย่าอาดรู ขึน้ ไปฉุดฉวยบิดาลงมาได้
จนเจ้าได้แปดปเี ข้าน่แี ลว้
.......... ๗. อสุรผี ีเสื้อจึงซกั ถาม ลวงให้แมห่ ลงกลเท่ยี วคน้ หา
เหน็ มนุษยน์ วลละอองทั้งสองคน ให้บิดาเลยไปเสยี ไกลแล้ว
จงึ แจง้ เหตแุ ถวทางกลางสมุทร
.......... ๘. จงึ เสแสรง้ แกล้งวา่ ขา้ ไมเ่ ช่ือ เห็นไมส่ ุดส้นิ แดนดว้ ยแสนไกล
ถา้ เปน็ แม่แน่นนั้ จงกรุณา โนน่ แน่กุฏมิ์ ุงกระเบื้องเหลอื งสลบั
หมายประทบั ที่เสาหงส์ตรงเข้ามา
.......... ๙. แมข่ องเจา้ เขาเป็นเชือ้ ผีเสือ้ สมทุ ร ถ้าเห็นชอบท่วงทีจะหนหี าย
จึงกำเนิดเกิดกายสายสุดใจ ไปหาดทรายหาข้าจะมาฟัง
ลอยสล้างกลางกระแสแลสลอน
..........๑๐. ช่างชาติชว่ั หวั กระดูกลูกตอแหล ประชมุ ซ่อนแฝงชลขึน้ วนเวียน
เออกระนั้นมนั จึงทบตลบมา กับลกู รกั เงือกนำ้ ไปตามคลื่น
เห็นทะมื่นมาขา้ งหลงั ดงั สะเทือน
..........๑๑. อายขุ า้ ห้าร้อยแปดสิบเศษ
แม้นจะหนผี ีเสือ้ ด้วยแรงรทุ ร
..........๑๒. พระยนิ ดีช้บี อกสินสมุทร
พระหนอ่ น้อยค่อยเรียงเคียงคำนบั
...........๑๓. แตพ่ ระองค์ทรงคิดใหร้ อบคอบ
จึงโปรดใชใ้ หอ้ งค์พระลูกชาย
..........๑๔. กระโหเ้ รยี งเคียงกระโหข้ ึ้นโบกหาง
มังกรเกยี่ วเลี้ยวลอดกอดมังกร
..........๑๕. ฝ่ายพระอภัยมณีซึ่งหนยี กั ษ์
บรรลทุ างกลางชลาไดห้ า้ คนื
ตอนที่ ๒ จงเลือกคำตอบที่ถูกต้องทีส่ ดุ เพียงคำตอบเดยี ว
๑. ขอ้ ใดคือสงิ่ แรกทส่ี นิ สมทุ รพบเม่ือออกจากถำ้
ก. เหน็ ฝงู เงือกเกลอื กกล้ิงมากลางชล คิดว่าคนมหี างเหมือนอยา่ งปลา
ข. เห็นหินปดิ เปดิ ประตูคูหากวา้ ง นมิ ิตอย่างนางมนุษย์เสน่หา
ค. เหน็ หาดทรายพรายงามเปน็ เงินราง ทะเลกวา้ งขา้ งขวาล้วนปา่ ดง
ง. เห็นละเมาะเกาะใหญ่ทีไ่ หนกว้าง หยุดเสยี บา้ งให้สบายจงึ ผายผัน
๒. ขอ้ ใดแสดงว่านางผีเส้ือสมุทรผดิ ศีลข้อท่ี ๕
ก. ออกเดนิ ทางอยา่ งนต้ี ้องนิมิต รูปจึงผิดไปกวา่ เก่าเจา้ จึงแหนง
ข. ซึง่ จะใหไ้ ปบอกออกมาหา พระบิดาข้ีขลาดไม่อาจหาญ
ค. คิดถงึ วงศพ์ งศาคณาญาติ จงึ สามารถมาน่ีไมห่ นหี าย
ง. จึงกลา่ วแกลง้ แสรง้ เสด้วยเลห่ ก์ ล เธออยบู่ นเขาขวางริมทางมา
๓. “อายุขา้ ห้าร้อยแปดสิบเศษ” เปน็ อายุของใคร
ก. เงือกเฒ่า ข. พระโยคี
ค. นางผีเสอื้ สมทุ ร ง. พรายทะเล
๔. เหตุใดเงือกเฒ่าจงึ ตอ้ งออกเดินทางในเวลากลางคนื
ก. พอเยน็ ย่ำคำ่ พลบลงโพลเ้ พล้ ทอ้ งทะเลมดื มัวท่วั ทศิ า
ข. ถ้าแดดกล้าตามัวเปน็ หมอกควนั จะผายผันลว่ งทางไปกลางคืน
ค. เงอื กก็หาอาหารกนิ ตามเคย แลว้ รีบเลยล่วงไปในคงคา
ง. ดว้ ยแรงนอ้ ยถอยทบสลบหลบั แล้วก็กลบั พลกิ ฟ้ืนตน่ื เผยอ
๕. ขอ้ ใดเป็นเหตุให้ “สินสมุทรมิได้กลวั กลบั หัวรอ่ ”
ก. ถ้าแมน้ แม่แตแ่ รกรกู้ ระนี้ ชนนกี ็จะได้ไม่เทย่ี วหา
ข. ไปเปดิ ประตคู หู าถ้าเขาเห็น ตายหรอื เป็นวา่ ไมถ่ ูกเลยลกู แกว้
ค. จะไปไหนไม่หา้ มจะตามสง่ ไหนทรงฤทธิป์ ิตุรงคเ์ ล่าลูกเอ๋ย
ง. แลว้ ว่าแกส่ นิ สมทุ รสุดทร่ี กั แมน้ นางยกั ษจ์ ะมารบั จงกลบั หลงั
๖. นางผเี สื้อสมทุ รพูดอย่างไรจงึ เปน็ เหตใุ หพ้ ระโยคีจึงกลา่ วว่า
“อียักษาตาโตโมโหมาก รูปก็กากปากกเ็ ปราะไมเ่ หมาะเหมง็
นมสองข้างอย่างกโ็ ปรงดูโตงเตง ผวั ของเอ็งเขาระอาไมน่ า่ ชม”
ก. เขาวา่ กันผัวเมยี กับแมล่ กู ย่นื จมกู เข้ามาบ้างช่วยสัง่ สอน
ข. อยา่ สงสยั ใจจริงทกุ สิง่ อัน ไม่รำพนั พดู ลวงเจา้ ดวงใจ
ค. เหตไุ ฉนไปน่ังกำบงั ตวั เชิญทนู หวั เยยี่ มหน้ามาหาน้อง
ง. นางผเี สื้อเบ่อื หูรู้เท่าถึง จึงว่ามงึ ตอแหลมาแก้ไข
๗. เหตใุ ดพระอภยั มณีจงึ เกดิ กล่าววา่ “จงึ ว่าเราเห็นจะรอดไมว่ อดวาย”
ก. จงึ เล่าความตามติดไม่ปิดบัง พระทรงฟงั ลูกชายค่อยคลายใจ
ข. นางเงือกนำ้ บอกสำคัญวา่ นน่ั แล้ว คือเกาะแก้วพิสดารเปน็ ชานเขา
ค. พระโยคมี ีญาณว่าหลานรกั จงสำนกั อยใู่ หส้ มอารมณ์หมาย
ง. ฝ่ายโยคีมยี ศพจนารถ ให้โอวาทนางยกั ษ์ไม่หักหาญ
๘. ขอ้ ความใดตรงกับสำนวนทว่ี า่ “หมเู ขาจะหามเอาคานเขา้ ไปสอด”
ก. เสียแรงรกั หนกั หนาอุตส่าห์ถนอม สู้อดออมสารพดั ไม่ขดั ขืน
ข. ทง้ั นี้เพราะเคราะห์กรรมทำใหว้ นุ่ จงึ สิน้ บญุ วาสนาสีกาเอ๋ย
ค. แลว้ ชห้ี นา้ ด่าอึงหึงนางเงอื ก ทำซบเสอื กสอพลออตี อแหล
ง. เขาวา่ กันผัวเมียกับแมล่ กู ยืน่ จมกู เข้ามาบ้างช่วยส่งั สอน
๙. ข้อใดแสดงวา่ พระอภยั มณีแสร้งพูดออกมา
ก. ซึ่งลกู รกั หกั หาญใหท้ ่านโกรธ จงงดโทษทำคณุ อย่าหนุ หนั
ข. อันตวั พอ่ ขอตายวายชวี ัง กนั แสงส่ังลกู ยาด้วยอาลัย
ค. แม้นไปได้กจ็ ะพาแก้วตาไป นีจ่ นใจเสยี ด้วยนางต่างตระกูล
ง. แมน้ ส้ินสูญบญุ นางในปางนี้ ไม่มีท่พี งึ่ พาจะอาศัย
๑๐. เหตกุ ารณ์ตอนใดทำให้รู้วา่ นางผเี สือ้ รักพระอภัยมณมี ากกวา่ สินสมทุ ร
ก. อสุรผี ีเสือ้ เหลอื จะอด แคน้ โอรสราวกับไฟไหมม้ ังสา
ชา่ งหลอกหลอนผอ่ นผันจำนรรจา แมน้ จะว่าโดยดีเหน็ มฟิ งั
ข. พระโฉมยงจงอย่ใู นคูหา เล้ียงรกั ษาลูกน้อยคอยหม่อมฉนั
จะอดใจใหเ้ หมือนคำทร่ี ำพัน ถ้วนสามวนั กจ็ ะมาอยา่ อาวรณ์
ค. นิจจาเอ๋ยเคยอยเู่ ปน็ คชู่ ่ืน ทุกวนั คืนคำ่ เช้าไม่เศรา้ หมอง
จนมีลูกปลูกเลย้ี งเคียงประคอง มิใหข้ ้องเคืองขัดพระอัชฌา
ง. มขิ ออยสู่ ู้ตายวายชวี ติ ไม่เหน็ จติ น้องรักจะตักษัย
เชิญพระองค์ลงมาชลาลัย เมียจะให้มนตร์เวทวิเศษครนั
๑๑. ขอ้ ใดแสดงถึงการใชป้ ัญญาอย่างฉบั พลนั ของพระอภยั มณี
ก. พมี่ นุษย์สดุ สวาทเป็นชาติยกั ษ์ จงคดิ หกั ความสวาทให้ขาดสูญ
กลับไปอยู่คูหาอยา่ อาดรู จงเพมิ่ พนู ภาวนารกั ษาธรรม์
ข. พ่ีขอบุตรสดุ ใจเอาไปดว้ ย เปน็ เพือ่ นม้วยเหมอื นสุดามารศรี
ขอลาแก้วแววตาไปธานี อยา่ ราคีขนุ่ ข้องใหห้ มองมัว
ค. พอไดช้ อ่ งลองลวงดตู ามเลห่ ์ สมคะเนจะได้ไปดงั ใจหมาย
จึงกล่าวแกล้งแสร้งเสเพทุบาย เจา้ ฝนั รา้ ยนกั นอ้ งต้องตำรา
ง. เราตรองตรกึ นึกจะหนนี างผเี สื้อ แต่ใตเ้ หนือไมร่ ู้แห่งตำแหนง่ ไหน
ท่านเจนทางกลางทะเลคะเนใจ ทำกระไรจงึ จะพน้ ทนทรมาน
๑๒. ขอ้ ใดแสดงว่ามีการวางแผน
ก. จะโกรธเกรยี้ วเคยี้ วเลน่ เปน็ ธุลี ไมพ่ อทช่ี ีวันจะบรรลัย
ข. ทำปน้ั เจ๋อเย่อหย่ิงมาชิงผัว ระวังตัวมงึ ใหด้ ีอจี องหอง
ค. หนง่ึ พวกพ้องของขา้ คณาญาติ ขอรองบาทบงกชบทศรี
ง. ลูกจะค่อยลอยตามแต่ห่างหา่ ง อยตู่ น้ ทางจะไดพ้ บประสบสม
๑๓. “จะไปไหนไมพ่ ้นผเี สื้อน้ำ วบิ ากกรรมก็จะสู้อยู่เป็นผี
ทา่ นสง่ เราเข้าทเ่ี กาะละเมาะนี้ แล้วรีบหนีไปในน้ำแตล่ ำพงั ”
ขอ้ ความข้างต้นแสดงวา่ ผู้พดู มีลักษณะนสิ ัยอย่างไร
ก. เชอื่ วิบากลากความไปตามกรรม
ข. เปน็ ผู้ทำเสียสละแกผ่ อู้ น่ื
ค. คิดรอบคอบด้วยเหตุผลไม่แตกต่ืน
ง. ชอบร้อื ฟื้นความหลังแก่ก่อนกาล
๑๔. “แมน้ กำลงั ดังขา้ จะพาหนี เจด็ ราตรเี จยี วจึงจะถงึ สถาน
อสรุ ีมกี ำลังดังปลาวาฬ ตามประมาณสามวนั จะทันตวั ”
ขอ้ ความขา้ งต้นส่งผลใหเ้ กดิ เหตกุ ารณใ์ ดต่อมา
ก. อันอำนาจชาติเชื้อผีเสือ้ นำ้ ปลาไมก่ ลำ้ กลายกลวั ทว่ั ทศิ า
ด้วยกลิน่ อายคลา้ ยท่านผูม้ ารดา เม่อื จบั ข้าข้าจึงอ่อนหย่อนกำลงั
ข. เสียแรงรักหนกั หนาอุตสา่ หถ์ นอม สู้อดออมสารพดั ไมข่ ดั ขนื
ช่างกระไรใจจดื ไมย่ ดื ยืน นางสะอืน้ อา้ ปากจนรากเรอ
ค. พระโยคมี ีตติ คดิ สงสาร จงึ ว่าทา่ นหนตี ายหมายมาหา
เราลงมาคอยชว่ ยดว้ ยเมตตา แต่กจิ จาไมก่ ระจา่ งยังคลางแคลง
ง. ใหไ้ ปอยผู่ ้เู ดียวท่ีตีนเขา แล้วอดข้าวอดปลากระยาหาร
ถว้ นสามคืนสามวันจะบนั ดาล ใหส้ ำราญรอดตายสบายใจ
๑๕. “เมอ่ื กีเ้ หน็ เล่นอยู่ในคหู า เงอื กนีเ้ จา้ เอามาแต่ขา้ งไหน
พระลกู เลา่ ตามจริงทุกส่งิ ไป พระตกใจจึงวา่ ด้วยปรานี”
จากขอ้ ความข้างตน้ พระอภยั มณตี กใจเพราะกลัววา่ จะเกิดอะไรขนึ้
ก. อสรุ มี ีกำลงั ดังปลาวาฬ ตามประมาณสามวันจะทันตัว
ข. ไปเปิดประตูคูหาถ้าเขาเหน็ ตายหรอื เปน็ ว่าไม่ถกู เลยลูกแก้ว
ค. ท้ังลกู เต้าเผ่าพงศก์ ็พลัดพราย ยังแตก่ ายเกอื บจะด้ินสิน้ ชวี า
ง. จะควกั เอานยั นาออกมาดู ตะคอกขคู่ ุกถามคำรามรน
หมายเหตุ : .ให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดทั้ง ๒ ตอน โดยเขียนคำตอบลงในกระดาษรายงานหรือสมุดให้เรียบร้อย
(ไม่ต้องลอกโจทย์) จากนั้นถ่ายรูปกระดาษคำตอบส่งมาให้ครูในกล่องข้อความส่วนตัวใน Facebook :
Kru GimGim เมื่อครูตรวจแล้วจะแจ้งคะแนนให้ทราบนะคะ (สำหรับคนที่ต้องการไฟล์บทอาชยาน ไฟล์
แบบฝึกหัด ครูมีไฟล์ Word ให้ค่ะ เด๋ยี วจะ Upload ไว้ในกล่มุ นะคะ)