สอ่ื และอปุ กรณ์การรบั สง่ ขอ้ มูล
Communication
นาเสนอโดย
นางสาว สลิลทพิ ย์ ไทยลาว
ปวส. 1/9 เลขท่1ี 3
ครู วริ ยา สขี าว
วทิ ยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี
นครราชสีมา
สื่อหรือตวั กลางการสื่อสารข้อมูล
ส่ือหรือตวั กลางการสื่อสารขอ้ มูล(communication media) ถือวา่ เป็นองคป์ ระกอบสาคญั ของ
การสื่อสารขอ้ มูลเพราะการเลือกใชส้ ่ือท่ีเหมะสม ทาใหเ้ กิดประสิทธิภาพในการสื่อสารขอ้ มูลและประหยดั
ตน้ ทุน ตวั กลางหรือส่ือที่ใชใ้ นการส่ือสารแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ
1.ส่ือขอ้ มูล แบบมีสาย
2.ส่ือขอ้ มูล แบบไร้สาย
คุณสมบตั ิ: เน่ืองจากสายคู่บิดเกลียวประกอบดว้ ยสายทองแดงพนั เป็นเกลียว การพนั กนั เป็นเกลียวทาเพอ่ื รบ
การรบกวนจากสัญญาณแม่เหลก็ ไฟฟ้าจากคู่สายขา้ งเคียงในสายเคบิลเดียวกนั หรือภายนอกลงไดค้ วามถี่ในการ
ส่งขอ้ มูล : 100 เฮิรตซ์ (Hz) ถึง 5 เมกะเฮิรตซ์ (MHz)ส่ือขอ้ มูลสื่อขอ้ มูลแบบมีสายแบบมีสายส่ือขอ้ มูล
แบบมีสาย (wired media) หรือเรียกอีกอยา่ งหน่ึงวา่ guided media ซ่ึงกค็ ือ ส่ือท่ีสามารถบงั คบั ให้
สญั ญาณขอ้ มูลเคลื่อนท่ีไปในทิศทางท่ีกาหนดได้ แบ่งเป็น 3 ชนิด ดงั น้ี
1.สายคู่บดิ เกลยี ว (twisted pair cable)
ลกั ษณะทางกายภาพ : สายคู่บิดเกลียวเป็นสายสญั ญาณไฟฟ้านาขอ้ มูลไดท้ ้งั แอนะลอ็ กและดิจิทลั ลกั ษณะคลา้ ย
สายไฟทว่ั ไป ราคาไม่แพงมาก น้าหนกั เบาติดต้งั ไดง้ ่าย ภายในสายคู่บิดเกลียวจะประกอบดว้ ยสายทองแดงพนั
กนั เป็นเกลียว เป็นคู่ๆซ่ึง
อาจจะมี 2,4 หรือ 6 คู่ สายคู่บิดเกลียวแบ่งออกเป็น 2ประเภท ดงั น้ี
* แบบไม่มชี ้ัน โลหะห่อหุม้ เรียกวา่ unshielded twisted pair หรือเรียกยอ่ ๆวา่ สาย usp
* แบบมชี ้ันโลหะห่อหุ้ม เรียกวา่ shielded twisted pair หรือเรียกยอ่ ๆวา่ stp ซ่ึงภายในสายมีโลหะ
ห่อหุม้ อีกช้นั โลหะจะทาหนา้ ท่ีป้องกนั สัญญาณรบกวนท่ีมาจากภายนอกความเร็วในการส่งขอ้ มูล : 1 ลา้ นบิต
ต่อวนิ าที (Mbps)
2.สายโคแอก็ ซ์เชียล (coaxial cable)
ลกั ษณะทางกายภาพ : สายโคแอก็ ซ์เชียล เป็นสายสัญญาณไฟฟ้าขอ้ มูลไดท้ ้งั อนาลอ็ กและดิจิทลั เช่น เดียวกบั
สายคู่บิดเกลียว ลกั ษณะคลา้ ยสายเคเบิลทีวี โดยภายในมีตวั นาไฟฟ้าเป็นแกนกลางและห่อหุม้ ดว้ ยฉนวนเป็น
ช้นั ๆตวั นาโลหะทาหนา้ ท่ีส่งสญั ญาณ ส่วนฉนวนทาหนา้ ท่ีป้องกนั สัญญาณรบกวนจากภายนอก
คุณสมบตั ิ : สายโคแอก็ ซเ์ ชียลมีฉนวนห่อหุม้ หลายช้นั ทาใหป้ ้องกนั ส่งสัญญาณรบกวนไดม้ ากกวา่ สายคู่
บิดเกลียว ส่งขอ้ มูลไดร้ ะยะทางไกล และมีช่วงความกวา้ งในการส่งขอ้ มูลมาก ทาใหส้ ่งขอ้ มูลดว้ ยอตั ราเร็ว มี
ราคาสูงกวา่ สายคู่บิดเกลียว
ความถ่ีในการส่งขอ้ มูล : 100 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) ถึง 500 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) ความเร็วในการส่ง
ขอ้ มูล : 1 ลา้ นบิตต่อวนิ าที (Mbps) ถึง 1 พนั ลา้ นบิตต่อวนิ าที (Gbps)
3.สายใยแก้ว นาแสง (optical fiber cable)
ลกั ษณะทางกายภาพ : สายใยแกว้ นาแสง ภายในสายประกอบดว้ ย แกนกลางทาจากใยแกว้ นาแสง ซ่ึงเป็นท่อ
แกว้ หรือท่อซิลิกาหลอมละลาย และห่อหุม้ ดว้ ยวสั ดุป้องกนั แสง สัญญาณที่ส่งผา่ นสายใยแกว้ นาแสงคือ แสง
ดงั น้นั ขอ้ มูลจะถูกแปลงเป็นเเสงที่มีความเขม้ ของแสงต่างระดบั กนั เพือ่ ส่งผา่ นใยแกว้ นาแสง
คุณสมบตั ิ : เน่ืองจากสายใยแกว้ นาแสงนาสัญญาณที่เป็นแสง ดงั น้นั แสงมีการเคล่ือนท่ีเร็วมาก การส่งขอ้ มูล
ผา่ นสายใยแกว้ นาแสง จึงทาการส่งไดเ้ ร็วเท่ากบั ความเร็วแสง ส่งรบกวนจากภายนอกมีเพียงแสงเท่าน้นั ดงั น้นั
สญั ญาณรบกวนจากภายนอกจึงมีนอ้ ยมาก แต่ราคาของสายใยแกว้ นาแสงมีราคาสูง และการติดต้งั เดินสายทาได้
ยากกวา่ สายประเภทอื่นๆ ส่วนใหญ่การเดินสายจะเดินใส่ท่อลงใตด้ ินเพอื่ ป้องกนั แสงรบกวน
ความเร็วในการส่งขอ้ มูล : 10 ลา้ นบิตต่อวนิ าที (Mbps) ถึง 2 พนั ลา้ นบิตต่อวนิ าที (gbps)
ขอ้ ดี
1. ราคาถูก
2. ง่ายต่อการใชง้ าน
ขอ้ เสีย
1. ความเร็วในการส่งขอ้ มูลต่างๆ
2. ใชไ้ ดร้ ะยะทางส้นั ๆ
ส่ือประเภทกระจายคลื่น
เป็นสื่อแบบไร้สาย การรับส่งขอ้ มูล โดยทว่ั ไปจะผ่านอากาศซ่ึงภายในอากาศน้นั จะมีพลงั งานคล่ืน
แม่เหลก็ ไฟฟ้าแพร่กระจายอยทู่ ว่ั ไป โดยจะตอ้ งมีอุปกรณ์ที่ไวค้ ่อยจดั การกบั คลื่นแม่เหลก็ ไฟฟ้าเหล่าน้นั ซ่ึง
ปกติแลว้ จะมีอยู่ 2ชนิดดว้ ยกนั
1.แบบ Directional เป็นแบบกาหนดทิศทางของสัญญาณ ดว้ ยการโฟกสั คลื่นน้นั ๆ ซ่ึงจาเป็นตอ้ งทา
การรับส่งดว้ ยความระมดั ระวงั โดยจะตอ้ งอยใู่ นระนาบเดียวกนั
2.แบบ Omni direction เป็นการกระจายสัญญาณรอบทิศทาง ซ่ึงสัญญาณที่ส่งออกไปน้นั จะกระจาย
หรือแพร่ไปทว่ั ทิศทางในทางอากาศ ทาให้ สามารถรับสัญญาณเหล่าน้ีไดดว้ ยการต้งั เสาอากาศ การกระจาย
สัญญาณแบบรอบทิศทาง เช่น วทิ ยกุ ระจายเสียง หรือการแพร่ภาพสัญญาณโทรทศั น์ ซ่ึงทาไดโ้ ดยการติดต้งั
เสาอากาศทีวี เพื่อรับภาพสัญญาณโทรทศั น์ ท่ีแพร่มาตามอากาศคลื่นวทิ ยุ (Radio Frequency)การ
ส่ือสารโดยอาศยั คลื่นวยิ ุ จะกระทาโดยการส่งคล่ืนไปยงั อากาศเพื่อ เขา้ ไปยงั เครื่องรับวิทยุ โดยการใชเ้ ทคนิค
การกลา้ สัญญาณ ท่ีเรียกว่า มอดูเลต ดว้ ย การรวมคลื่นเสียงท่ีเป็นคลื่นไฟฟ้าความถ่ีเสียงรวมกนั ทาใหก้ าร
ส่ือสารดว้ ยวทิ ยุ กระจายเสียงน้นั ไมจาเป็นตอ้ งใชส้ าย อีกท้งั ยงั สามารถส่งคลื่นไดใ้ นระยะทางท่ีไกลออกไป
ไดตามประเภทของคล่ืนน้นั ๆ
ไมโครเวฟ (Terrestrial Microwave Transmission)
คล่ืนโทรทศั นแ์ ละคลื่นไมโครเวฟจะสามารถทะลุผา่ นไปยงั ช้นั บรรยากาศไปยงั นอกโลก คลื่นโทรทศั นจ์ ะมี
ช่วงความถ่ี อยู่ 2 คู่ ความถี่ท่ีนิยมใชง้ านคือ คล่ืน UHFและ VHF สาหรับคลื่นไมโครเวฟบนพ้ืนโลกจะ
เดินทางเป็นแนวเส้นตรงในระดบั สายตามิไดโคง้ ไปตามเปลือกโลกดงั น้นั หากมีความตอ้ งการส่งขอ้ มูลใน
ระยะไกลออกไป จึงจาเป็นตอ้ งมีจานรับส่งท่ีทาหนา้ ท่ีทวนสญั ญาณเพื่อส่งต่อ ในระยะไกลออกไปไดข้ อ้ เสีย
ของสญั ญาณไมโครเวฟคือ สามารถถูกรบกวนไดง้ ่ายจากคลื่นแม่เหลก็ ไฟฟ้า รวมท้งั สภาพภูมิอากาศ
แปรปรวนกจ็ ะส่งผลต่อระบบการสื่อสาร และเนื่องจากการสื่อสาร
ดว้ ยไมโครเวฟบนพ้ืนดินน้นั จะมีขอ้ จากดั เรื่องของภูมิประเทศ เช่น
ภูเขาบดบงั สญั ญาณ ดงั น้นั จึงเกิดไมโครเวฟบนฟ้า ซ่ึงเรียกวา่
ดาวเทียม
โทรศัพท์เซลลูลาร์(Cellular Telephone)
ยคุ 1G (First-General Mobile Phone:
Analog Voice) เป็นโทรศพั ทเ์ ซลลูลาร์ระบบแรกท่ีนามา
ใชง้ าน ซ่ึงเป็นการส่งสญั ญาณไร้สายแบบ
อนาลอ็ กยคุ 2G (Second-General Mobile
Phone: Digital Voice) ไดม้ ีการพฒั นาระบบเซลลูลาร์
แบบดิจิตอลข้ึนเพื่อใหส้ ามารถสื่อสารกนั ไดท้ ว่ั โลกและเป็นไปตามมาตรฐานเดียวกนั
ยคุ 3G (Third-General Mobile Phone: Digital Voice and Data) ไดม้ ี การพฒั นา
เทคโนโลยกี ารสื่อสารของระบบโทรศพั ทเ์ ซลลร์ ูลาร์อยา่ งเห็นได้ ชดั โทรศพั ทไ์ ม่ใช่แค่เพยี งใชง้ านเพื่อ ส่ือสาร
พูดคุยกนั เท่าน้นั แต่สามารถเขา้ ถึงระบบเครือข่ายได้ เช่นการเช่ือมต่อแบบไร้สายเพ่ือเขา้ สู่เครือข่าย
อินเตอร์เน็ต เพ่ือดาเนินธุรกรรมบนเครือข่ายและมีแนวโนม้ ในอนาคตกจ็ ะเป็นแบรนวดิ ท่ีสูงข้ึนเพ่อื เขา้ สู่ยคุ
4G ต่อไป
อนิ ฟราเรด (Infrared Transmission)
แสงอินฟราเรด กนั มาใชค้ วบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้า ดว้ ยการใชร้ ีโมทคอนโทรล ลาแสงอินฟราเรดจะเดินทางในแนว
เสน้ ตรง สามารถสะทอ้ นวตั ถุผวิ เรียบไดช้ ่วงระยะเพียงไม่ก่ีเมตรสาหรับขอ้ เสียของอินฟราเรดกค็ ือ แสง
อินฟราเรดกค็ ือ แสงอินฟราเรดไม่สามารถส่ือสารทะลุวตั ถุทึบแสงหรือกาแพงที่กีดขวางได้
บลูทูธ (Bluetooth)
เทคโนโลยี บลูทูธ ถูกออกแบบมาเพื่อ ใช้ เป็นวธิ ีใหม่ของการเชื่อมต่อหูฟังเขา้ กบั เซลลโ์ พนไดส้ ะดวกยงิ่ ข้ึนมี
ขอ้ ดี ตรงที่ลงทุนต่าและใชพ้ ลงั งานต่า มีความแตกต่างเมื่อเทียบกบั การส่ือสารดว้ ยแสงอินฟราเรดตรงที่
สามารถสื่อสารทะลุสิ่งกีดขวางหรือกาแพงได้ อีกท้งั ยงั เป็นการสื่อสารไร้สายดว้ ยการแผค่ ลื่นออกเป็นรัศมี
รอบทิศทางดว้ ยคล่ืนความถ่ีสูง บลูทูธ สามารถส่ือสารระหวา่ งอุปกรณ์หลายๆอุปกรณ์ดว้ ยกนั เช่น เครื่อง
คอมพิวเตอร์ เครื่องพมิ พ์ แฟกซ์ และรวมถึงเคร่ืองพดี ีเอขอ้ กาหนดความตอ้ งการของ บลูทูธ ไดม้ ีการระบุไวว้ า่
ระบบตอ้ งสามารถนาไปใชง้ านไดท้ วั่ โลก
-รองรับการใชง้ านท้งั ขอ้ มูลและเสียง หรือ มลั ติมีเดียได้
-อุปกรณ์รับส่งคลื่นสัญญาณวทิ ยจุ ะตอ้ งใชพ้ ลงั งานไฟฟ้าตา่ งและมีขนาดเลก็ เพือ่ ใหส้ ามารถนาไปบรรจุไวใ้ น
อุปกรณ์เคลื่อนท่ีอยา่ ง โทรศพั ท์ เคลื่อนที่ หูฟัง หรือเครื่องพดี ีเอได้
**แต่ ปัญหาของ บลูทูธ กม็ ีในเร่ืองของการสื่อสารกบั อุปกรณ์หลายๆอยา่ งพร้อมกนั ในดา้ นของการ
ซิงโครไนซข์ อ้ มูลกบั อุปกรณ์แต่ละตวั ท่ียงั ทางานไดไ้ ม่ดีนกั
**การพิจารณาตวั กลางส่งขอ้ มูลการพิจารณาตวั กลางในการส่งขอ้ มูลน้นั เป็นอยา่ งยง่ิ ที่จะตอ้ งพจิ ารณาถึง
เทคโนโลยที ี่รองรับในอนาคต รวมถึงปัจจยั ดา้ นอื่นๆประกอบ ซ่ึงจะพจิ ารณาเก่ียวกบั ดา้ นต่างๆ