The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานผลการดำเนินงาน สำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหม ปี 2565

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Firstlove Jeh, 2024-01-04 02:07:57

รายงานผลการดำเนินงาน สำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหม ประจำปี 2566

รายงานผลการดำเนินงาน สำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหม ปี 2565

43 รายงานผลการดำเนินงาน สำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหม ประจำปี 2565 กรมหม่อนไหม 3. โครงการเปรียบเทียบพันธุ์เบื้องต้น Samia ricini ชนิดรังสีเหลือง หลักการและเหตุผล ปีงบประมาณ 2563 หน่วยส่งเสริมหม่อนไหมสระแก้วพบรังไหมอีรี่สีเหลือง จำนวน 28 รัง ในพื้นที่ ของ นางสาวน้อย ชะมาปะโคน สระแก้ว หน่วยส่งเสริมหม่อนไหมสระแก้ว โดยนายกสิณสันต์ ศรีสิวิไล จึงได้นำรังไหมอีรี่สีเหลืองดังกล่าวมาเลี้ยงเพื่อคัดสายพันธุ์ภายในหน่วยงานจำนวน 3 รุ่น รังไหมอีรี่ที่ได้มีรัง ขนาดใหญ่ หนอนไหมมีความแข็งแรงและผลผลิตรังค่อนข้างสูง แต่ยังพบการกระจายตัวของลักษณะและสี ของหนอน ลักษณะและสีของรังไหม เพื่อให้การคัดเลือกพันธุ์ไหมอีรี่ดังกล่าวเป็นไปตามหลักวิชาการปรับปรุง พันธุ์และเพื่อป้องกันการสูญหายของสายพันธุ์ไหมอีรี่พันธุ์ใหม่ จึงดำเนินการจัดทำโครงการพัฒนาพันธุ์ไหมอีรี่ เพื่อการใช้ประโยชน์เพื่อพัฒนาพันธุ์ไหมอีรี่สายพันธุ์ใหม่ให้มีความคงตัว ผลการดำเนินงาน ผลการดำเนินการโครงการพัฒนาพันธุ์ไหมอีรี่เพื่อการใช้ประโยชน์ ปีงบประมาณ 2564 ณ ศูนย์ หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ เชียงใหม่, ตาก และหน่วยส่งเสริมหม่อนไหมสระแก้ว ได้พันธุ์ไหมอีรี่สายพันธุ์ใหม่ 5 สายพันธุ์ ได้แก่ CMI-E-GPDY21008-02 (หนอนสีเขียวอมฟ้า รังสีเหลืองเข้ม), CMI-E-YPDY21001-04 (หนอนสีเหลือง รังสีเหลืองเข้ม), TAK-E-GPDY21003 (หนอนสีเขียวอมฟ้า รังสีเหลืองเข้ม), TAK-E-GPLY21003 (หนอนสีเขียวอมฟ้า รังสีเหลืองอ่อน) และ SKW-E-GPDY21008 (หนอนสีเขียวอมฟ้า รังสีเหลืองเข้ม) ปีงบประมาณ 2565 จึงได้นำไหมอีรี่สายพันธุ์ใหม่ทั้ง 5 สายพันธุ์ มาเลี้ยงเปรียบเทียบพันธุ์เบื้องต้น กับไหมอีรี่ชนิดรังสีขาว ณ ศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ เชียงใหม่, ตาก และหน่วยส่งเสริมหม่อนไหมสระแก้ว ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2564 - กันยายน 2565 พบว่า ไหมอีรี่สายพันธุ์ SKW-E-GPDY21008 (หนอนสีเขียวอมฟ้า รังสีเหลืองเข้ม) มีความแข็งแรง โดยมีเปอร์เซ็นต์การเลี้ยงรอดวัยอ่อน เปอร์เซ็นต์การเลี้ยงรอดวัยแก่ เปอร์เซ็นต์ การเข้าทำรัง เปอร์เซ็นต์รังดี และเปอร์เซ็นต์ดักแด้สมบูรณ์ ไม่แตกต่างกับไหมอีรี่รังสีขาว ในทุกรุ่นและทุกสถานที่ ซึ่งจะได้ทำการทดสอบในภาคเกษตรกรเป็นลำดับถัดไป หนอนไหมและรังไหมอีรี่ ชนิดสีเหลืองเข้ม


44 รายงานผลการดำเนินงาน สำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหม ประจำปี 2565 กรมหม่อนไหม หัวหน้าโครงการ: นายสุชาติ จุลพูล ผู้อำนวยการสำนักงานหม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ เขต 2 จังหวัดอุดรธานี ➢ โครงการวิจัย ปีงบประมาณ 2565 สำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหม โดยกลุ่มระบบวิจัย ทำหน้าที่ในการบริหารจัดการระบบ การจัดทำข้อเสนองานวิจัย จัดสรรงบประมาณงานวิจัย และติดตามประเมินผลการดำเนินงานวิจัยของ กรมหม่อนไหมในภาพรวม โดยในปี 2565 กรมหม่อนไหมได้จัดส่งข้อเสนอโครงการวิจัยผ่านสำนักงานคณะ กรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) และได้รับงบประมาณอุดหนุนจากกองทุนส่งเสริม วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ประเภท Function-based Research Fund จำนวน 30 โครงการ ดังนี้ 1. โครงการปรับปรุงพันธุ์ไหมไทยลูกผสมให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน หัวหน้าโครงการ: นางสาวจุฑารัตน์ จามกระโทก นักวิชาการเกษตรชำนาญการพิเศษ ศูนย์หม่อนไหมเฉลิม พระเกียรติฯ นครราชสีมา 2. โครงการปรับปรุงพันธุ์ไหมลูกผสมคู่ หัวหน้าโครงการ: นางสาวจุฑารัตน์ จามกระโทก นักวิชาการเกษตรชำนาญการพิเศษ ศูนย์หม่อนไหมเฉลิม พระเกียรติฯ นครราชสีมา 3. การปรับปรุงพันธุ์หม่อนผลสดให้มีก้านเกสรตัวเมียสั้น หัวหน้าโครงการ: นางกรรณิการ์ สนธิ นักวิชาการเกษตรชำนาญการศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ เชียงใหม่ 4. การสำรวจและรวบรวมเชื้อแบคทีเรียสาเหตุโรคไหม Bombyx mori L. ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และทดสอบประสิทธิภาพของยาปฏิชีวนะในการเลี้ยงไหมเพื่อต้านเชื้อแบคทีเรียสาเหตุโรคไหม หัวหน้าโครงการ: นางอรวรรณ ดอกเกี๋ยง นักวิชาการเกษตรชำนาญการศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ ขอนแก่น 5. การสำรวจและวินิจฉัยเชื้อ Nosema bombycis สาเหตุโรคเพบรินในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หัวหน้าโครงการ: นางสุกานดา คำปลิว นักวิชาการเกษตรชำนาญการ สำนักงานหม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ เขต 3 จังหวัดขอนแก่น 6. การประเมินและคัดเลือกพันธุ์หม่อนจากเมล็ดพันธุ์ที่ได้มาจากการผสมเปิด หัวหน้าโครงการ: นายสุกรรณ ปัญสวัสดิ์ผู้อำนวยการศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ หนองคาย 7. การศึกษาหม่อนทนต่อน้ำท่วมจากประชากรหม่อนลูกผสมที่ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด หัวหน้าโครงการ: นายแดนชัย แก้วต๊ะ ผู้อำนวยการศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ ตาก 8. เทคนิคการโน้มกิ่งหม่อนเพื่อเพิ่มผลผลิตใบหม่อนพันธุ์สกลนคร หัวหน้าโครงการ: นายสุชาติ จุลพูล ผู้อำนวยการสำนักงานหม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ เขต 2 จังหวัดอุดรธานี 9. เทคนิคการตัดแต่งกิ่งหม่อนและตัดยอดหม่อนต่อผลผลิตและคุณภาพใบหม่อนสำหรับเลี้ยงไหมวัยแก่ หัวหน้าโครงการ: นางอาภาพร บุญภา นักวิชาการเกษตรชำนาญการศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ ชัยภูมิ 10. การวิจัยและพัฒนาการทำต้นแบบแผ่นปิดแผลเบาหวานด้วยไหม หัวหน้าโครงการ: นางสุธิรา พลเจริญ นักวิชาการเกษตรชำนาญการพิเศษ กรมหม่อนไหม 11. โครงการวิจัยและพัฒนาไหมอีรี่และไหมดาหลาสำหรับเป็นต้นแบบโครงร่างในวิศวกรรมเนื้อเยื่อกระดูกและข้อเข่า หัวหน้าโครงการ: นางสาวทิพรรณี เสนะวงศ์ นักวิชาการเกษตรชำนาญการพิเศษ สำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหม 12. ผลของถุงแอคทีฟต่อการยืดอายุการเก็บรักษาใบหม่อนสำหรับการเลี้ยงไหม หัวหน้าโครงการ: นางบัณฑรี โชติมโนธรรม นักวิชาการเกษตรชำนาญการ สำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหม 13. ปัจจัยที่มีผลต่อความสำเร็จในการผลิตรังไหมอุตสาหกรรมของเกษตรกรในประเทศไทยปี 2564 แผนงาน: ยุทธศาสตร์การวิจัยและพัฒนานวัตกรรม


45 รายงานผลการดำเนินงาน สำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหม ประจำปี 2565 กรมหม่อนไหม 14. ผลของใบหม่อนและกิ่งหม่อนแห้งต่ออัตราการเจริญเติบโตของแพะขุน หัวหน้าโครงการ: นางสาวพัชรินทร์ โพธิ์ทอง ผู้อำนวยการกองส่งเสริมธุรกิจหม่อนไหม 15. การจัดการโซ่อุปทานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตผ้าไหมไทยตรานกยูงพระราชทานสีน้ำเงิน (Thai silk) ในพื้นที่ รับผิดชอบสำนักงานหม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ เขต 2 หัวหน้าโครงการ: นางสาวศิวาพร ทูปคันโธ นักวิชาการเกษตรชำนาญการ สำนักงานหม่อนไหมเฉลิม พระเกียรติฯ เขต 2 จังหวัดอุดรธานี 16. โครงการสร้างแบบจำลองความต้องการธาตุอาหารในหม่อนพันธุ์สกลนครโดยใช้ข้อมูลสำรวจระยะไกล (RS) จากอากาศยานไร้คนขับ (Drone) หัวหน้าโครงการ: นางสุธิรา พลเจริญ นักวิชาการเกษตรชำนาญการพิเศษ กรมหม่อนไหม 17. วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการเขตกรรมเพื่อเพิ่มผลผลิตหม่อน หัวหน้าโครงการ: นางสาวกานดา ฉัตรไชยศิริ นักวิชาการเกษตรชำนาญการพิเศษ สำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหม 18. ผลของสารละลายไพริโพรไซเฟนสังเคราะห์ต่อการยืดอายุหนอนไหมพันธุ์เหลืองสระบุรีซึ่งมีผลต่อผลผลิต หัวหน้าโครงการ: นางบัณฑรี โชติมโนธรรม นักวิชาการเกษตรชำนาญการ สำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหม 19. โครงการศึกษาและพัฒนาผ้าไหม เพื่อสร้างสรรค์แอคทีฟแวร์ หัวหน้าโครงการ: นายสุรเดช ธีระกุล นักวิชาการออกแบบผลิตภัณฑ์ชำนาญการสำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหม 20. โครงการหาลำดับเบสจีโนมไหมโดยวิธีการ Next generation sequencing (NGS) เพื่อการใช้ประโยชน์ หัวหน้าโครงการ:นางสาวรัตนาวดี โยธารักษ์ นักวิชาการเกษตรชำนาญการสำนักอนุรักษ์และตรวจสอบมาตรฐานหม่อนไหม 21. วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตหม่อนพันธุ์สกลนคร 85 ที่ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและเศรษฐกิจ หัวหน้าโครงการ: นายเพ็ชรรัตน์ โยวะบุตร ผู้อำนวยการศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ อุดรธานี 22. การใช้ปุ๋ยที่เหมาะสมในการผลิตหม่อนพันธุ์สกลนคร 85 ในจังหวัดเชียงใหม่ หัวหน้าโครงการ: นางกรรณิการ์ สนธิ นักวิชาการเกษตรชำนาญการศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ เชียงใหม่ 23. ศึกษาอัตราปุ๋ยเคมีที่เหมาะสมกับหม่อนพันธุ์สกลนคร 85 ที่ปลูกในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หัวหน้าโครงการ: นางสาวกานดา ฉัตรไชยศิริ นักวิชาการเกษตรชำนาญการพิเศษ สำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหม 24. การทดสอบเทคโนโลยีการผลิตใบหม่อนเพื่อเลี้ยงไหมอุตสาหกรรมในภาคเกษตรกร หัวหน้าโครงการ: นางสาวพิมลรัตน์ เมธินรังสรรค์ นักวิชาการเกษตรชำนาญการ ศูนย์หม่อนไหมเฉลิม พระเกียรติฯ ขอนแก่น 25. การทดสอบเทคโนโลยีการผลิตใบหม่อนเพื่อเลี้ยงไหมหัตถกรรมในภาคเกษตรกร หัวหน้าโครงการ: นางพะเยาว์ บุตรวาทิตย์ นักวิชาการเกษตรชำนาญการศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ ชุมพร 26. การทดสอบเทคโนโลยีการผลิตผลหม่อนในภาคเกษตรกร หัวหน้าโครงการ: นางสาวสุพัฒตรา วังกาวรรณ์นักวิชาการเกษตรชำนาญการศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ แพร่ 27. นวัตกรรมการผลิตเส้นไหมยืนด้วยอุปกรณ์สาวไหมด้วยมือลงภาชนะ หัวหน้าโครงการ: นางสาวภัควิภา เพชรวิชิต ผู้อำนวยการกองตรวจสอบและรับรองมาตรฐานหม่อนไหม 28. โครงการผลของการใช้ใบหม่อนในการเลี้ยงจิ้งหรีด (Gryllus assimilis) ต่อการเจริญเติบโต และลดต้นทุนการผลิต หัวหน้าโครงการ: นายสิทธิชัย บุญมั่น ผู้อำนวยการศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ สกลนคร 29. การพัฒนาผ้าทอมือจากเส้นไหมกับเส้นใยกล้วยผสมฝ้าย หัวหน้าโครงการ: นางสาวลำแพน สารจันทึก ผู้อำนวยการกองแผน 30. การผลิตหม่อนอินทรีย์เป็นอาหารโครีดนม หัวหน้าโครงการ: นางสาวลำแพน สารจันทึก ผู้อำนวยการกองแผน


46 รายงานผลการดำเนินงาน สำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหม ประจำปี 2565 กรมหม่อนไหม วัตถุประสงค์ของงานวิจัย เพื่อพัฒนาและปรับปรุงพันธุ์ไหมไทยลูกผสมให้เหมาะสมกับพื้นที่เขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ระยะเวลาดำเนินการ ตุลาคม 2563 - กันยายน 2566 ผลการดำเนินงาน นำพันธุ์ไหมไทยลูกผสมที่มีสมรรถนะการผสมรวมเฉพาะ (SCA) ที่มีผลผลิตรังไหมสูงที่สุด 5 อันดับแรก มาเลี้ยงทดสอบผลผลิต ณ โรงเลี้ยงไหมงานปรับปรุงพันธุ์ของศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ สกลนคร จำนวน 1 รุ่น (เดือนกุมภาพันธ์) รุ่นละ 4 ซ้ำ (ซ้ำละ 6/6 แม่) เปรียบเทียบกับพันธุ์อุบลราชธานี60-35 ซึ่งใช้เป็นพันธุ์มาตรฐาน (standard variety) โดยใช้วิธีการปฏิบัติในการเลี้ยงทดสอบตามคำแนะนำของกรมหม่อนไหม เนื่องจากพ่อพันธุ์ไหมที่ใช้ ในโครงการวิจัยนี้ มีการเปลี่ยนแปลงลักษณะทางการเกษตร (สีเปลือกรังมีการเปลี่ยนแปลงจากเดิม) จึงได้รับข้อเสนอ จากคณะกรรมการกลั่นกรองงานวิจัยหม่อนไหม ให้เปลี่ยนพ่อพันธุ์ (male parent) ที่เหมาะสม ปัญหา/อุปสรรค พ่อพันธุ์ที่ใช้ในการสร้างคู่ผสมในครั้งนี้ ซึ่งเป็นพันธุ์ไหมชนิดฟักออกปีละ 2 ครั้ง (bivoltine) มีความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมของจังหวัดสกลนครได้ไม่ดีเท่าที่ควร จึงเห็นควรให้มี การเปลี่ยนพ่อพันธุ์ที่มีสมรรถนะใกล้เคียงกับพ่อพันธุ์ไหมพันธุ์เดิม แต่สามารถทนทานต่อสภาพอากาศร้อนได้ดีกว่า จะทำให้สามารถผลิตไข่ไหมพันธุ์ไทยลูกผสมได้เพิ่มมากขึ้นด้วย 1. โครงการปรับปรุงพันธุ์ไหมไทยลูกผสมให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาพกิจกรรมโครงการปรับปรุงพันธุ์ไหมไทยลูกผสมให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน


47 รายงานผลการดำเนินงาน สำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหม ประจำปี 2565 กรมหม่อนไหม วัตถุประสงค์ของงานวิจัย 1) เพื่อสร้างไหมลูกผสมคู่ที่มีความแข็งแรงเหมาะสมกับสภาพแวดล้อม 2) เพื่อสร้างไหมลูกผสมคู่ที่มีเปอร์เซ็นต์เปลือกรัง 18% ขึ้นไป 3) เพื่อสร้างไหมลูกผสมคู่มีศักยภาพในการผลิตไข่ไหม ระยะเวลาดำเนินการ ตุลาคม 2563 - กันยายน 2566 ผลการดำเนินงาน ศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ นครราชสีมา, แพร่, สระบุรี, กาญจนบุรี และเลย เลี้ยงไหมพันธุ์แท้ เพื่อสร้างพ่อแม่พันธุ์ และทดสอบการเลี้ยงไหมลูกผสมคู่ จำนวน 3 คู่ผสม ได้แก่ (K6xK10)x(J35xNe), (K10xK14)x(J35xNe) และ (PK1xTsukuba)x(K1xKT21) เปรียบเทียบกับไหมลูกผสมเดี่ยว พันธุ์ K1xK8 เป็น control มีวิธีการดังนี้ - วางแผนการทดลองแบบ CRD 4 กรรมวิธี 3 ซ้ำ ใช้ไข่ไหม 6/6 แม่ ในแต่ละกระด้ง - การเลี้ยงไหมให้ใบหม่อนวันละ 3 เวลา คือ 7.00 น. 11.00 น. และ 16.00 น. สุ่มนับหนอนไหม วัย 4 หลังจากให้ใบหม่อน 2 เวลา แต่ละกรรมวิธีไว้ซ้ำละ 300 ตัว เลี้ยงจนไหมสุกทำรัง - คัดเลือกรังไหมปกติ และสุ่มรังปกติ คัดแยกดักแด้เพศผู้และเพศเมีย อย่างละ 25 ตัว ในแต่ละซ้ำ นำไปชั่งน้ำหนักรังสด 1 รัง น้ำหนักเปลือกรัง 1 รัง และคำนวณหาเปอร์เซ็นต์เปลือกรัง - โดยเลี้ยงจำนวน 4 รุ่นต่อปีในเดือน ธ.ค. มี.ค. พ.ค. และ ส.ค. - สุ่มรังไหมทดสอบคุณสมบัติด้านการสาวไหมซ้ำละ 150 รัง - การบันทึกข้อมูล บันทึกลักษณะประจำพันธุ์ได้แก่ จำนวนไข่ไหมต่อแม่ เปอร์เซ็นต์การฟักออก อายุหนอนไหม เปอร์เซ็นต์ดักแด้สมบูรณ์ เปอร์เซ็นต์รังปกติ น้ำหนักรังสด 1 รัง น้ำหนักเปลือกรัง 1 รัง เปอร์เซ็นต์เปลือกรัง เปอร์เซ็นต์การสาวง่าย ความยาวเส้นใย เปอร์เซ็นต์เส้นใย ความเหนียวและการยืดตัว ของเส้นใย พบว่าพันธุ์ที่มีความแข็งแรง และให้ผลผลิตสูงได้แก่ พันธุ์ (PK1xTsukuba)x(K1xKT21) ซึ่งจะนำไป ทดสอบในภาคเกษตรกรต่อไป ปัญหา/อุปสรรค - 2. การปรับปรุงพันธุ์ไหมลูกผสมคู่ ภาพกิจกรรมโครงการปรับปรุงพันธุ์ไหมลูกผสมคู่


48 รายงานผลการดำเนินงาน สำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหม ประจำปี 2565 กรมหม่อนไหม วัตถุประสงค์ของงานวิจัย 1) เพื่อให้ได้พันธุ์หม่อนผลสดพันธุ์ใหม่เกสรตัวเมียสั้น เหมาะสำหรับการนำไปบริโภคเป็นผลสด 2) เพื่อเพิ่มทางเลือกการใช้หม่อนผลสดให้แก่เกษตรกรให้ตรงต่อความต้องการ ระยะเวลาดำเนินการ ตุลาคม 2561 - กันยายน 2566 ผลการดำเนินงาน - ทดสอบการขยายพันธุ์โดยวิธีการปักชำ และใช้เป็นพันธุ์ทดสอบตามขั้นตอนการปรับปรุงพันธุ์พืช - เตรียมแปลงปลูกและระบบน้ำในแปลง สำหรับการปลูกทดสอบพันธุ์เบื้องต้น ณ แปลงทดสอบพันธุ์ ของศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ สกลนคร เปรียบเทียบกับหม่อนผลสดพันธุ์เชียงใหม่ ภาพกิจกรรมโครงการวิจัยและพัฒนาพันธุ์หม่อนผลสดให้มีก้านเกสรตัวเมียสั้น ปัญหา/อุปสรรค - วัตถุประสงค์ของงานวิจัย 1) เพื่อศึกษาการกระจายตัวและจัดทำฐานข้อมูลของเชื้อ Bacillus thuringiensi และ Serratia marcescens แบคทีเรียสาเหตุโรคไหมในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2) เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการใช้ยาปฏิชีวะนะเพื่อต้านการติดเชื้อแบคทีเรียในขบวนการเลี้ยงไหม 3. การปรับปรุงพันธุ์หม่อนผลสดให้มีก้านเกสรตัวเมียสั้น 4. การสำรวจและรวบรวมเชื้อแบคทีเรียสาเหตุโรคไหม Bombyx mori L. ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และทดสอบประสิทธิภาพของยาปฏิชีวนะ ในการเลี้ยงไหมเพื่อต้านเชื้อแบคทีเรียสาเหตุโรคไหม


49 รายงานผลการดำเนินงาน สำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหม ประจำปี 2565 กรมหม่อนไหม ระยะเวลาดำเนินการ ตุลาคม 2563 - มีนาคม 2566 ผลการดำเนินงาน จากการสำรวจและรวบรวมเชื้อแบคทีเรียสาเหตุโรคไหม Bombyx mori L. จากแหล่งเลี้ยงไหม ในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน จำนวน 12 จังหวัด คือ กาฬสินธ์ ขอนแก่น ชัยภูมิมหาสารคาม มุกดาหาร ร้อยเอ็ด เลย นครพนม สกลนคร หนองคาย อุดรธานี และอำนาจเจริญ สามารถแยกเชื้อแบคทีเรีย ได้ทั้งหมด 601 ไอโซเลต หลังจากจำแนกความแตกต่างและคัดเลือกตามลักษณะทางสัณฐานวิทยาของโคโลนี เชื้อแบคทีเรีย สามารถแยกได้จำนวน 397 ไอโซเลต หลังจากทดสอบความสามารถในการทำให้เกิดโรคกับไหม วัย 3 พันธุ์ J108 X นางลายสระบุรีที่อุณหภูมิห้อง (27-33 °ซ) พบว่ามีไอโซเลตที่สามารถทำให้เกิดโรคกับไหม จำนวน 104 ไอโซเลต ซึ่งเมื่อนำไปจำแนกชนิดตามลักษณะสัณฐานวิทยาร่วมกับการทดสอบทางชีวเคมี สามารถจัดจำแนกเชื้อแบคทีเรียได้เป็น 3 ชนิด (species) ได้แก่ เชื้อ Bacillus thuringiensis (51 ไอโซเลต) เชื้อ Serratia marcescens (37 ไอโซเลต) และเชื้อ Staphylococcus aureus (16 ไอโซเลต) ปัญหา/อุปสรรค กรรมวิธีควบคุม (control) มีอัตราการตายของหนอนไหม ซึ่งคาดว่าน่าจะเกิดจากการปนเปื้อน ในขั้นตอนการปลูกเชื้อ ส่วนกรรมวิธี (treatment) อื่นๆ ได้มีการทำความสะอาดและฆ่าเชื้ออุปกรณ์และเตรียม สารต่างๆ ใหม่หมด เพื่อทำการทดลองครั้งต่อไป วัตถุประสงค์ของงานวิจัย 1) เพื่อสำรวจและเก็บข้อมูลการระบาดของเชื้อสาเหตุโรคเพบรินในประเทศไทย 2) เพื่อตรวจวินิจฉัยเชื้อ microsporidia ที่พบในหนอนไหม 3) เพื่อพัฒนาเทคนิคทางชีวโมเลกุลในการตรวจวินิจฉัยเชื้อสาเหตุโรคเพบรินของไหม ระยะเวลาดำเนินการ ตุลาคม 2564 - มีนาคม 2565 ผลการดำเนินงาน - เตรียมตัวอย่างเชื้อ และสกัด DNA เชื้อ microsporidia จำนวน 10 ไอโซเลต ภาพกิจกรรมการสำรวจและรวบรวมเชื้อแบคทีเรียสาเหตุโรคไหม Bombyx mori L. ในภาคะวันออกเฉียงเหนือ ตอนบน และทดสอบประสิทธิภาพของยาปฏิชีวนะในการเลี้ยงไหมเพื่อต้านเชื้อแบคทีเรียสาเหตุโรคไหม 5. การสำรวจและวินิจฉัยเชื้อ Nosema bombycis สาเหตุโรคเพบรินในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ


50 รายงานผลการดำเนินงาน สำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหม ประจำปี 2565 กรมหม่อนไหม - เตรียมตัวอย่างเชื้อ และสกัด DNA จากเชื้อไวรัส Nuclear Polyhedrosis Virus (NPV) - เตรียมตัวอย่างเชื้อ และสกัด DNA จากเชื้อรา Aspergillus flavus และ Beureria bassiana - เตรียมตัวอย่างเชื้อ และสกัด DNA จากเชื้อแบคทีเรีย Bacillus thuringiensis และ Serratia marcescens - วิเคราะห์หาลำดับเบส (DNA sequencing) เชื้อ microsporidia ทั้ง 10 ไอโซเลต - ทดสอบความเฉพาะเจาะจง (specificity) ในการตรวจสอบหาเชื้อสาเหตุโรคเพบริน Noseama bombycis ด้วยเทคนิค LAMP ปัญหา/อุปสรรค - วัตถุประสงค์ของงานวิจัย 1) เพื่อหาพันธุ์หม่อนที่ให้ผลผลิตสูง และคุณลักษณะที่เหมาะสมต่อสภาพพื้นที่ 2) เพื่อให้ได้พันธุ์หม่อนที่เหมาะสมต่อการเลี้ยงไหม สปอร์ของเชื้อ Nosema bombycis ภาพกิจกรรมโครงการสำรวจและวินิจฉัยเชื้อ Nosema bombycis สาเหตุโรคเพบรินในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 6. การประเมินและคัดเลือกพันธุ์หม่อนจากเมล็ดพันธุ์ที่ได้มาจากการผสมเปิด


51 รายงานผลการดำเนินงาน สำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหม ประจำปี 2565 กรมหม่อนไหม ระยะเวลาดำเนินการ ตุลาคม 2562 - กันยายน 2567 ผลการดำเนินงาน - การคัดเลือกพ่อแม่พันธุ์ที่ได้จากการผสมเปิด ที่มีลักษณะดี โดยทำการเก็บเมล็ดพันธุ์จากต้น ที่มีลักษณะดี มาเพาะเมล็ดแล้วย้ายลงถุงชำ แล้วทำการปลูกลงในแปลงปลูก สังเกตและจดบันทึกข้อมูล การเจริญเติบโต ได้แก่ ความสูงของต้น ความยาวข้อ เปอร์เซ็นต์รอดในการปักชำ เป็นต้น และผลผลิต ได้แก่ น้ำหนักใบ น้ำหนักกิ่ง เป็นต้น - ดำเนินการขยายพันธุ์หม่อนที่มีลักษณะดี จำนวน 10 พันธุ์ ซึ่งได้แก่ พันธุ์ที่ 5, 6, 8, 10, 11, 14, 15, 17, 19 และ 20 เพื่อทำการขยายพันธุ์ในแปลงเพาะชำ และเตรียมแปลงปลูกเพื่อคัดเลือกพันธุ์และย้ายลง ปลูกในแปลงคัดเลือกพันธุ์ เมื่อกล้าหม่อนมีความสูง 30 ซม. - นำหม่อนที่ได้รับการคัดเลือก จำนวน 10 พันธุ์ ลงปลูกในแปลงคัดเลือกพันธุ์ กำหนดหมายเลข พันธุ์ใหม่ โดยทำการไถผาน 3 ไถผาน 7 หว่านโดโลไมท์เพื่อปรับสภาพดิน ไถพรวน ปักเชือกกะระยะขุดหลุม ปลูก รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอก ทำการปลูก แล้วกลบดิน - ดูแลรักษาแปลงปลูก ด้วยการไถเปิดร่องใกล้โคนต้น ใส่ปุ๋ย กำจัดวัชพืช คลุมโคนต้นหม่อนด้วยฟาง และให้น้ำสัปดาห์ละ 3 ครั้ง - เก็บข้อมูลหลังตัดแต่ง โดยเก็บแยกแต่ละต้น จำนวน 8 ต้นต่อพันธุ์ เว้นต้นหัว - ท้ายข้างละ 1 ต้น ลักษณะข้อมูลที่เก็บ คือ ผลผลิตใบ (กรัม/ต้น) และองค์ประกอบของผลผลิต ได้แก่ ระยะข้อปล้อง (ซม.) จำนวนกิ่งสมบูรณ์ต่อต้น (กิ่ง) ความยาวกิ่งสมบูรณ์ (ซม.) ความยาวกิ่งเก็บเกี่ยว (ซม.) และน้ำหนัก 50 ใบ (กรัม) จำนวน 4 ครั้งต่อปี โดยใช้ระยะเวลาเก็บข้อมูลอีก 2 ปี (2563-2565) เพื่อคัดเลือกพันธุ์หม่อน ที่มีแนวโน้มให้ผลผลิตสูง แสดงลักษณะทางการเกษตรดี จำนวน 5 พันธุ์โดยดำเนินการที่ศมม.หนองคาย - ตัดแต่งกิ่ง ใส่ปุ๋ย ในแปลงหม่อนคัดเลือกพันธุ์ และทำการปักชำหม่อนเพื่อขยายพันธุ์เตรียมสำหรับ แปลงเปรียบเทียบพันธุ์ ณ ศมม.หนองคาย และ ศมม.เลย - ดูแลรักษาแปลงหม่อนคัดเลือกพันธุ์ เก็บข้อมูลและตัดแต่งกิ่ง จำนวน 4 ครั้งต่อปีคือ ตัดต่ำ ตัดกลาง ตัดแขนง 1 และตัดแขนง 2 แต่ละครั้งห่างกันประมาณ 3 เดือน - ปลูกหม่อนลงแปลงเปรียบเทียบพันธุ์ จำนวน 5 พันธุ์ ใน 2 สถานที่ คือ ศมม.หนองคาย และ ศมม.เลย เปรียบเทียบกับหม่อนพันธุ์แนะนำของกรมหม่อนไหม ได้แก่ พันธุ์บุรีรัมย์60 และสกลนคร โดยปลูกพันธุ์ละ 3 แถว แถวละ 10 ต้น วางแผนการทดลองแบบ RCB จำนวน 3 ซ้ำ ใช้ระยะปลูก 2.5 x 0.8 เมตร ใส่ปุ๋ยคอก ในอัตรา 3,000 กิโลกรัมต่อไร่ต่อปี ใส่ครั้งเดียวหลังตัดต่ำ ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 อัตรา 100 กิโลกรัมต่อไร่ต่อปี โดยเริ่มเก็บข้อมูลได้ในปลายปี พ.ศ. 2565 ภาพกิจกรรมโครงการประเมินและคัดเลือกพันธุ์หม่อนจากเมล็ดพันธุ์ที่ได้มาจากการผสมเปิด ปัญหา/อุปสรรค -


52 รายงานผลการดำเนินงาน สำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหม ประจำปี 2565 กรมหม่อนไหม วัตถุประสงค์ของงานวิจัย เพื่อคัดเลือกพันธุ์หม่อนลูกผสมที่ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ดให้เหมาะกับช่วงที่มีน้ำท่วมแปลง ระยะเวลาดำเนินการ ตุลาคม 2561 - กันยายน 2566 ผลการดำเนินงาน กิจกรรมที่ 1 ศึกษาข้อมูลผลผลิตใบหม่อนและองค์ประกอบผลผลิตใบ พันธุ์หม่อนลูกผสมที่ขยายพันธุ์ด้วยกิ่งชำ ให้เหมาะกับช่วงที่มีน้ำท่วมแปลง 1) เก็บข้อมูลองค์ประกอบผลผลิตหลังตัดกลาง 2) หลังจากหม่อนน้ำท่วม ตัดแต่งกิ่งหม่อน 3) เก็บข้อมูลองค์ประกอบผลผลิตหลังตัดแขนง 4) เก็บข้อมูลผลผลิตใบและองค์ประกอบของผลผลิต จำนวน 4 รหัส ได้แก่ รหัส PHRAE1301-10, PHRAE1301-14, PHRAE1301-19 และNO NAME โดยเปรียบเทียบกับพันธุ์บุรีรัมย์ และสกลนคร กิจกรรมที่ 2คัดเลือกพันธุ์หม่อนลูกผสมที่ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ดให้เหมาะกับช่วงที่มีน้ำท่วมแปลง - ดำเนินการผสมพันธุ์หม่อนจำนวน 4 คู่ผสม ได้แก่ 1). SRCM 8906-50 X SRCM 9124-12 2) SRCM 8906-50 X SRCM 9126-205 3) SRCM 9801-964 X SRCM 9124-12 และ 4) SRCM9801-964 X SRCM 9126-205 เพื่อให้ได้เมล็ดพันธุ์หม่อน แล้วนำเมล็ดพันธุ์มาเพาะ และย้ายลงถุง - ดูแลรักษาต้นหม่อนที่ย้ายปลูกลงถุง ทั้ง 4 คู่ผสม - เตรียมแปลงปลูกหม่อนทั้ง 4 คู่ผสม ปัญหา/อุปสรรค - เนื่องจากเกิดน้ำท่วมแปลงจึงไม่สามารถเก็บข้อมูลผลผลิตใบหม่อนและองค์ประกอบผลผลิตใบ ในกิจกรรมที่ 1 ได้ - สภาพอากาศที่แปรปรวนส่งผลให้การผสมพันธุ์หม่อนไม่ติดเมล็ด ส่วนเมล็ดที่ติดก็ไม่สมบูรณ์และได้ เมล็ดจำนวนน้อยซึ่งไม่เพียงพอต่อการทดสอบพันธุ์ในกิจกรรมที่ 2 7. การศึกษาหม่อนทนต่อน้ำท่วมจากประชากรหม่อนลูกผสมที่ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด ภาพกิจกรรมโครงการการศึกษาหม่อนทนต่อน้ำท่วมจากประชากรหม่อนลูกผสมที่ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด


53 รายงานผลการดำเนินงาน สำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหม ประจำปี 2565 กรมหม่อนไหม วัตถุประสงค์ของงานวิจัย 1) เพื่อได้วิธีการโน้มกิ่งหม่อนที่เหมาะสมในการเพิ่มผลผลิตใบหม่อนพันธุ์สกลนคร 2) เพื่อทราบอายุกิ่งหม่อนที่เหมาะสมในการโน้มกิ่ง เพื่อเพิ่มผลผลิตใบหม่อน ระยะเวลาดำเนินการ ตุลาคม 2563 - กันยายน 2568 ผลการดำเนินงาน จากผลการศึกษาเทคนิคการโน้มกิ่งหม่อนเพื่อเพิ่มผลผลิตใบหม่อนพันธุ์สกลนคร โดยได้ ทำการทดลองที่ศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ นครราชสีมา เมื่อต้นหม่อนมีอายุ 1 ปีทำการทดลอง 2 กิจกรรม ดังนี้ กิจกรรมที่ 1 เปรียบเทียบวิธีโน้มกิ่งหม่อนเพื่อเพิ่มผลผลิตใบหม่อน โดยแบ่งออกเป็น 4 กรรมวิธี 5 ซ้ำ คือ กรรมวิธีที่ 1 การตัดแต่งกิ่งแบบตัดต่ำ ตัดกลาง ตัดแขนง 1 และตัดแขนง 2 (Check) กรรมวิธีที่ 2 การโน้มกิ่งแบบโค้ง กรรมวิธีที่ 3 การโน้มกิ่งแบบขนานกับพื้นดิน และกรรมวิธีที่ 4 การโน้มกิ่งแบบรูปตัววี (V) กิจกรรมที่ 2 เปรียบเทียบอายุกิ่งหม่อนเพื่อเพิ่มผลผลิตใบหม่อนโดยวิธีโน้มกิ่ง แบ่งออกเป็น 3 กรรมวิธี 7 ซ้ำ คือ กรรมวิธีที่ 1 โน้มกิ่งหม่อนอายุ 135 วัน กรรมวิธีที่ 2 โน้มกิ่งหม่อนอายุ 150 วัน และกรรมวิธีที่ 3 โน้มกิ่งหม่อนอายุ 190 วัน ทำการเก็บข้อมูลผลผลิตใบหม่อนและองค์ประกอบของผลผลิต ได้แก่ จำนวนกิ่งต่อต้น น้ำหนัก 50 ใบ และจำนวนใบต่อความยาวกิ่ง 1 เมตร โดยเก็บข้อมูลปีละ 4 ครั้ง จำนวน 2 ปี แล้วนำข้อมูลแต่ละปีมารวมกันเป็นผลผลิตต่อปี พร้อมทั้งศึกษาต้นทุนการผลิตใบหม่อน ในแต่ละกรรมวิธีเพื่อหากรรมวิธีที่ดีที่สุด ภาพกิจกรรมโครงการเทคนิคการโน้มกิ่งหม่อนเพื่อเพิ่มผลผลิตใบหม่อนพันธุ์สกลนคร ปัญหา/อุปสรรค - 8. เทคนิคการโน้มกิ่งหม่อนเพื่อเพิ่มผลผลิตใบหม่อนพันธุ์สกลนคร


54 รายงานผลการดำเนินงาน สำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหม ประจำปี 2565 กรมหม่อนไหม วัตถุประสงค์ของงานวิจัย 1) เพื่อทราบปริมาณธาตุอาหารในใบหม่อนสำหรับเลี้ยงไหมวัยแก่หลังการตัดยอดในการนำไปเลี้ยง ไหมวัยแก่ 2) เพื่อให้ได้เทคนิคในการตัดแต่งกิ่งหม่อนที่เหมาะสมต่อการเพิ่มปริมาณและคุณภาพใบหม่อน สำหรับเลี้ยงไหมวัยแก่ ระยะเวลาดำเนินการ ตุลาคม 2562 - มีนาคม 2566 ผลการดำเนินงาน - ประชุมชี้แจง/วางแผนการดำเนินงาน -ควบคุมการบำรุงแปลงหม่อนในปีที่ 2 (2564) เพื่อใช้ในการทดสอบพร้อมทั้งรูปแบบการเก็บข้อมูล งานวิจัย และทราบปริมาณธาตุอาหารในใบหม่อนสำหรับเลี้ยงไหมวัยแก่หลังการตัดยอดในการนำไปเลี้ยงไหมวัยแก่ จำนวน 6กรรมวิธี ได้แก่1)ตัดแต่งกิ่งหม่อนทุกรอบการตัดที่ 50 วัน (ตัดยอด) 2)ตัดแต่งกิ่งหม่อนทุกรอบการตัด ที่ 50 วัน (ไม่ตัดยอด) 3) ตัดแต่งกิ่งหม่อนทุกรอบการตัดที่ 60 วัน (ตัดยอด) 4) ตัดแต่งกิ่งหม่อนทุกรอบการตัด ที่ 60 วัน (ไม่ตัดยอด) 5) ตัดแต่งกิ่งหม่อนทุกรอบการตัดที่ 70 วัน (ตัดยอด) 6) ตัดแต่งกิ่งหม่อนทุกรอบการตัด ที่ 70 วัน (ไม่ตัดยอด) ได้ผลการบันทึกข้อมูลดังนี้: สีของใบหม่อนใบที่ 1-5, จำนวนกิ่งต่อต้น (กิ่ง) ความยาวกิ่ง เก็บเกี่ยว (ซม.), ผลผลิตใบหม่อน (กก./ไร่), การเจริญเติบโต, ความแก่ของใบ และคุณค่าทางอาหารของใบหม่อน ได้แก่ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน เส้นใย และความชื้น ซึ่งผลการทดลองมีแนวโน้มได้ผลผลิตใบหม่อนที่มีอายุ หลังจากการตัดแต่งกิ่ง ที่อายุ 50, 60 และ70 วัน ซึ่งปริมาณผลผลิตใบหม่อนที่มีการตัดแต่งกิ่ง 70 วัน มีแนวโน้มได้ผลผลิตปริมาณที่สูงกว่า 50 วันหรือ 60 วัน แต่หากต้องการใบหม่อนในช่วงฤดูฝนไปใช้ในการ เลี้ยงไหมเร็วขึ้น ต้องมีการผสมผสานกับการตัดยอดเพื่อเร่งให้ปริมาณหม่อนมีความแก่ขึ้น และใช้เลี้ยงไหมได้ เร็วขึ้น สำหรับค่าการเปรียบเทียบหม่อนที่มีการตัดยอดกับไม่ตัดยอด หม่อนที่มีการตัดยอดก่อนนำไปเลี้ยงไหม 6 วัน จะทำให้ใบหม่อนแก่ขึ้น เหมาะกับการเลี้ยงไหมวัยแก่มากกว่าที่ไม่ตัดยอด การตัดแต่งกิ่งหม่อน ตามกรรมวิธี บันทึกข้อมูลการเจริญเติบโตและคุณภาพใบหม่อนที่ได้จากการทดลอง เก็บใบหม่อนส่งวิเคราะห์ ห้องปฏิบัติการ และบันทึกข้อมูลที่ได้จากการทดลอง กล่าวคือ คุณค่าทางอาหาร 5 ชนิด ประกอบด้วย โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน เยื่อใย และเถ้า แต่ละกรรมวิธีไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ แต่เมื่อพิจารณาปริมาณ ผลผลิตของใบหม่อนในรอบการตัดแต่งกิ่งหม่อน 70 วันมีแนวโน้มให้ผลผลิตสูงสุด รองลงมา คือการตัดตาม คำแนะนำกรมหม่อนไหม 9. เทคนิคการตัดแต่งกิ่งหม่อนและตัดยอดหม่อนต่อผลผลิตและคุณภาพใบหม่อน สำหรับเลี้ยงไหมวัยแก่


55 รายงานผลการดำเนินงาน สำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหม ประจำปี 2565 กรมหม่อนไหม ภาพกิจกรรมโครงการเทคนิคการตัดแต่งกิ่งหม่อนและตัดยอดหม่อนต่อผลผลิตและคุณภาพใบหม่อน สำหรับเลี้ยงไหมวัยแก่ ปัญหา/อุปสรรค ช่วงเดือนตุลาคม พ.ศ.2564 อ่างลำเชียงไกร จ.นครราชสีมา แตก เกิดน้ำท่วมแปลงหม่อนงานวิจัย ทำให้เกิดความเสียหาย การเจริญเติบโตของต้นหม่อนหยุดชะงัก ส่งผลให้การดำเนินงานในการตัดแต่งกิ่งหม่อน การเก็บข้อมูลและสรุปผลการทดลองไม่เป็นไปตามแผนการปฏิบัติงาน มีความจำเป็นจะต้องปรับปรุงบำรุงแปลง หม่อนเพื่อให้สามารถเก็บข้อมูลได้ร่วมถึงผู้ร่วมวิจัยจะต้องลงพื้นที่การติดตามและปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง วัตถุประสงค์ของงานวิจัย 1) เพื่อพัฒนาต้นแบบแผ่นปิดแผลจากผงโปรตีนไหมไฟโบรอินผสมกาวไฟบรินที่อัตราส่วนแตกต่าง กันสำหรับปิดแผลผู้ป่วยเบาหวานที่มีแผลเรื้อรัง 2) พัฒนาปรับปรุงคุณสมบัติทางชีวภาพด้วยการผสมลำดับกรดอะมิโนอาร์จีดีและยิกเซอร์ เพื่อกระตุ้นการเพิ่มจำนวนของเซลล์และการสร้างหลอดเลือดได้ดีขึ้น 3) ทดสอบเปรียบเทียบคุณสมบัติของต้นแบบวัสดุปิดแผลในแต่ละกลุ่มทั้งทางด้านกายภาพ ระยะเวลาดำเนินการ ตุลาคม 2563 - มีนาคม 2566 ผลการดำเนินงาน - ผลผลิตเมมเบรน การเตรียมผสมสารละลายไหมไฟโบรอินและสารละลายเจลาตินที่ความเข้มข้น 3 เปอร์เซ็นต์ ที่อัตราส่วน 7:3 เปอร์เซ็นต์ จากนั้นผสมผงไหมลงไปในอัตราส่วนที่แตกต่างกันตามกลุ่มการทดลอง นำสารละลาย ที่ผสมเข้ากันแล้วเทลงแม่พิมพ์ขนาด 5×5 เซนติเมตร ปริมาตร 3 มิลลิลิตร นำไปแช่แข็ง ที่อุณหภูมิ -20 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 24 ชั่วโมง (freeze dry) แล้วนำมาแช่ในเมทานอล เพื่อให้มีโครงสร้าง เบต้าชีท ล้างด้วยน้ำกลั่นและทำ freeze dry อีกครั้ง ดำเนินการผลิตให้ได้ผลผลิตเมมเบรน จำนวน 160 ชิ้น สำหรับนำไปทดสอบคุณสมบัติโดยดำเนินการผลิตต้นแบบ ได้ออกมาในลักษณะของแผ่นเมมแบรน ขนาด 1x1 เซนติเมตร โดยทดลองกับกลุ่มตัวอย่างดังนี้ A Control: Silk fibroin+gelatin (7:3), B SF/GT+0.1 SF: Silkfibroin +gelatin (7:3)+0.1 mg of Silk fibroin particle (W/V),C SF/GT+0.5 SF: Silk fibroin+gelatin (7:3)+0.5 mg of Silk fibroin particle (W/V), D SF/GT+1.0 SF: Silk fibroin+gelatin (7:3)+1.0 mg of Silk fibroin particle (W/V), E SF/GT+2.0 SF: Silk fibroin+gelatin (7:3)+2.0 mg of Silk fibroin particle (W/V) 10. การวิจัยและพัฒนาการทำต้นแบบแผ่นปิดแผลเบาหวานด้วยไหม


56 รายงานผลการดำเนินงาน สำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหม ประจำปี 2565 กรมหม่อนไหม - ทำการทดสอบคุณสมบัติของเมมเบรนจากขั้นตอนที่ 1 ได้แก่ ศึกษาลักษณะภายนอกที่มองเห็นด้วย สายตาโดยกล้อง Stereo, ศึกษาลักษณะของเมมเบรน ภายใต้กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน (SEM), วัด Fourier transform infrared (FT - IR) ศึกษาหมู่ฟังก์ชันในของเมมเบรน, วัด Differential scanning calorimetry (DSC), วัดการบวมน้ำ, วัดการเพิ่มจำนวนของเซลล์บนเมมเบรน, วัดการรอดชีวิตของเซลล์: Cell viability ภายใต้กล้องถ่ายภาพฟลูโอเรสเซนต์และวัดการย่อยสลายของเมมเบรน ปัญหา/อุปสรรค - วัตถุประสงค์ของงานวิจัย 1) เพื่อพัฒนาโครงร่างสามมิติ จากโปรตีนไหมสองชนิด คือ ไหมอีรี่ และไหมดาหลา 2) เพื่อทดสอบคุณสมบัติโครงร่างสามมิติ ทางด้านกายภาพ และทางด้านชีวภาพ ให้มีความเหมาะสม ในการพัฒนาไปใช้ในงานทางด้านการแพทย์ ระยะเวลาดำเนินการ ตุลาคม 2563 - มีนาคม 2566 ผลการดำเนินงาน ขั้นตอนที่ 1: เตรียมสารละลายไหมอีรี่และไหมดาหลา กลุ่มการทดลองแบ่งออกเป็น 5กลุ่ม ดังนี้ กลุ่ม รายละเอียด อีรี่ อีรี่70 อีรี่50 อีรี่30 ดาหลา สารละลายไหม 100:0 ไหมอีรี่/ไหมดาหลา ในอัตราส่วน 70:30 ไหมอีรี่/ไหมดาหลา ในอัตราส่วน 50:50 ไหมอีรี่/ไหมดาหลา ในอัตราส่วน 30:70 สารละลาย ไหมดาหลา 100:0 ลักษณะของแผ่นปิดแผลจากเส้นไหม 11. โครงการวิจัยและพัฒนาไหมอีรี่และไหมดาหลาสำหรับเป็นต้นแบบโครงร่าง ในวิศวกรรมเนื้อเยื่อกระดูกและข้อเข่า


57 รายงานผลการดำเนินงาน สำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหม ประจำปี 2565 กรมหม่อนไหม - ตัดรังไหมอีรี่และไหมดาหลาให้มีขนาดเล็ก นำไปต้มลอกกาวไหม โดยเติม 0.2 โมลาร์ โซเดียมคาร์บอเนต ปริมาตร 500 มิลลิลิตรต่อน้ำหนักไหม 20 กรัม พร้อมกับให้ความร้อนที่อุณหภูมิ 80 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 20 นาที ต้มเป็นจำนวน 2 ครั้ง ล้างด้วยน้ำกลั่น แล้วไปอบที่อุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 18 ชั่วโมง จนเส้นไหมแห้ง - นำเส้นไหมที่ทำให้แห้งแล้ว จำนวน 4 กรัม มาเติม 9.3 โมลาร์ ลิเทียมโบรไมด์ ปริมาตร 20 มิลลิลิตร เพื่อละลายเส้นไหม นำไปแช่ที่ 70 องศาเซลเซียส เวลา 2 ชั่วโมง รอจนละลายสมบูรณ์ จากนั้นนำไปไดอะไลซิส (โดยใช้ถุงไดอะไลซิส MWCO เท่ากับ 12,000) ในน้ำกลั่น เป็นเวลา 72 ชั่วโมง เพื่อกำจัดลิเทียมโบรไมด์ออกจากสารละลาย เปลี่ยนน้ำกลั่นทุก 4 ชั่วโมง - เมื่อได้ไหมที่เป็นสารละลาย จากนั้นนำไปผสมกันในอัตราส่วนต่าง ๆ แล้วขึ้นรูปด้วยวิธีการ ทำแห้งแบบแช่เยือกแข็ง (Freeze dry) เมื่อได้เป็นโครงร่างสามมิติ นำไปแช่ที่ 80 เปอร์เซ็นต์เมทานอล เพื่อให้โครงร่างสามมิติ กลายเป็นโครงสร้างสอง คือ เบต้าชีส จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับโครงร่างสามมิติ มากขึ้น - นำโครงร่างสามมิติไปทำแห้งแบบแช่เยือกแข็ง จากนั้นตัดให้มีขนาด 2x10 มิลลิเมตร แล้วนำไปทดสอบทางกายภาพและทางชีวภาพ ขั้นตอนที่ 2: การทดสอบทางด้านกายภาพ - การศึกษาลักษณะภายนอกที่มองเห็นด้วยสายตาโดยกล้อง Stereo: ดูลักษณะพื้นผิว สี และรูปร่างของโครงร่างสามมิติ ที่สามารถมองเห็นด้วยระดับสายตา - การศึกษาลักษณะโครงสร้างของไหมอีรี่และไหมดาหลา ภายใต้กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน (SEM): ศึกษาลักษณะสัณฐานของโครงร่างสามมิติในระดับจุลภาค เช่น ดูลักษณะของรูพรุน หรือพื้นผิว และการยึดเกาะของเซลล์บนโครงร่างสามมิติ - วัดคุณสมบัติเชิงกล: วัดแรงกดศึกษาคุณสมบัติเชิงกลของโครงร่างสามมิติ - วัด Fourier transform infrared (FT-IR): ศึกษาหมู่ฟังก์ชันของโครงร่างสามมิติ - วัด Differential scanning calorimetry (DSC): ศึกษาลักษณะทางเคมีของโครงร่างสาม มิติเมื่อได้รับพลังงานความร้อน จะเกี่ยวข้องกับกระบวนการดูดหรือคายความร้อน เป็นต้น - การบวมน้ำ: เพื่อทดสอบการบวมน้ำและการเปลี่ยนแปลงรูปร่างของโครงร่างสามมิติ ภายหลังการแช่ด้วยสารละลายบัฟเฟอร์ (PBS) ที่อุณหภูมิ 37 องศาเซลเซียสในช่วงเวลาที่ต่างกัน โดยน้ำหนัก ก่อนแช่และหลังแช่จะถูกใช้เพื่อคำนวณอัตราการบวมน้ำของโครงร่างสามมิติ ขั้นตอนที่3: การทดสอบทางด้านชีวภาพ - การเพิ่มจำนวนของเซลล์ (Cell proliferation): วัดการเพิ่มจำนวนของเซลล์ด้วย WST1 จากนั้นนำไปวัดค่าการดูดกลืนแสง ที่ 440 นาโนเมตร ทดสอบการเจริญเติบโตของเซลล์ ในวันที่ 1, 3, 5 และ 7 - การรอดชีวิตของเซลล์ (Cell viability): การรอดชีวิตของเซลล์ประเมินด้วยการย้อมสีเรือง แสง Fluorescein Diacetate (FDA) ในวันที่ 1, 3, 5 และ 7 ซึ่งเซลล์ที่มีชีวิตจะถูกย้อมติดไซโทพลาสซึมด้วยสี เรืองแสงสีเขียวและดูภายใต้กล้องฟลูโอเรสเซนต์ - การย่อยสลายของโครงร่างสามมิติ (Degradation properties): เพื่อจำลองความสามารถ ในการย่อยสลายของโครงร่างสามมิติในร่างกาย นำโครงร่างสามมิติมาแช่ในเอนไซม์ไลโซไซม์ (Lysozyme) ที่ระยะเวลาต่างกัน ได้แก่ 1, 2, 3 และ 4 สัปดาห์ เริ่มการทดสอบโดยการชั่งน้ำหนักก่อนและหลังแช่เพื่อใช้ใน การคำนวณหาค่าอัตราการย่อยสลายของโครงร่างสามมิติ


58 รายงานผลการดำเนินงาน สำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหม ประจำปี 2565 กรมหม่อนไหม ผลการดำเนินงาน (ต่อ) - วัดค่าโปรตีนรวมทั้งหมด (Total protein): วัดค่าโปรตีนที่เซลล์สร้างมา หลังจากการเลี้ยงเซลล์ ในโครงร่างสามมิติ โดยจะศึกษาในช่วงเวลา 7, 14และ 21 วัน โดยทุก 2วันจะต้องเปลี่ยนอาหารเลี้ยงเซลล์ - วัดผลการตัดย้อมชิ้นเนื้อ (Histology analysis): ย้อม hematoxylin and eosin (H&E) เพื่อดูลักษณะของรูปร่างของเซลล์ การย้อม alcian blue ย้อมติดสีฟ้า ส่วนที่เซลล์กระดูกอ่อนสังเคราะห์ glycosaminoglycans (GAGs) ออกมา ผงไหมอีรี่และไหมดาหลา ปัญหา/อุปสรรค - วัตถุประสงค์ของงานวิจัย 1) เพื่อศึกษาผลการใช้ถุงแอคทีฟในการยืดอายุการเก็บรักษาใบหม่อนในสภาพตู้แช่มินิมาร์ท และห้องเก็บใบหม่อนที่มีความชื้นเปรียบเทียบกับใบหม่อนสด 2) เพื่อศึกษาการเปลี่ยนแปลงคุณค่าทางโภชนาการของใบหม่อนที่ผ่านการเก็บรักษาด้วยถุงแอคทีฟ ในสภาพตู้แช่มินิมาร์ทและห้องเก็บใบหม่อนที่มีความชื้นเปรียบเทียบกับใบหม่อนสด 3) เพื่อเปรียบเทียบการดึงดูดหนอนไหมของใบหม่อนที่ผ่านการเก็บรักษาด้วยถุงแอคทีฟในสภาพ ตู้แช่มินิมาร์ท ห้องเก็บใบหม่อนที่มีความชื้น และใบหม่อน ระยะเวลาดำเนินการวิจัย ตุลาคม 2563 - มีนาคม 2566 ผลการดำเนินงาน 1. ผลการเปรียบเทียบการเก็บรักษาใบหม่อนพันธุ์บุรีรัมย์60 ที่เหมาะสมกับการเลี้ยงไหมวัย 1-5 ด้วยถุงแอคทีฟแล้วบรรจุในห้องเก็บหม่อนและตู้แช่มินิมาร์ท พบว่า - ใบหม่อนที่เหมาะสมกับการเลี้ยงหนอนไหมวัย 1 ที่เก็บในห้องเก็บหม่อนจะเริ่มเหี่ยวและมีกลิ่น ในวันที่ 2 ส่วนใบหม่อนที่เก็บในตู้แช่มินิมาร์ทจะเริ่มเหี่ยวในวันที่ 5 - ใบหม่อนที่เหมาะสมกับการเลี้ยงหนอนไหมวัย 2-3 ที่เก็บในห้องเก็บหม่อนจะเริ่มเหี่ยวและมีกลิ่น ในวันที่ 4-5 ส่วนใบหม่อนที่เก็บในตู้แช่มินิมาร์ทจะเริ่มเหี่ยวในวันที่ 5 12. ผลของถุงแอคทีฟต่อการยืดอายุการเก็บรักษาใบหม่อนสำหรับการเลี้ยงไหม


59 รายงานผลการดำเนินงาน สำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหม ประจำปี 2565 กรมหม่อนไหม - ใบหม่อนที่เหมาะสมกับการเลี้ยงหนอนไหมวัน 4-5 ที่เก็บในห้องเก็บหม่อนจะเริ่มเหี่ยวและมีกลิ่น ในวันที่ 3 ส่วนใบหม่อนที่เก็บในตู้แช่มินิมาร์ทจะเริ่มเหี่ยวในวันที่ 5 2. ผลการเปรียบเทียบการดึงดูดหนอนไหมของใบหม่อนพันธุ์บุรีรัมย์60 ที่เหมาะสมกับการเลี้ยงไหม วัย 4 และวัย 5 ที่ผ่านการเก็บรักษาด้วยถุงแอคทีฟแล้วบรรจุในห้องเก็บหม่อนและตู้แช่มินิมาร์ท พบว่า - ใบหม่อนสามารถเก็บรักษาในห้องเก็บหม่อนได้เพียง 1 สัปดาห์ ส่วนการเก็บรักษาใบหม่อน ในตู้แช่มินิมาร์ทสามารถเก็บได้นานถึง 6 สัปดาห์ เมื่อนำไปดึงดูดหนอนไหมวัย 4 และวัย 5 - ใบหม่อนที่เก็บในตู้แช่มินิมาร์ทสามารถดึงดูดหนอนไหมพันธุ์นางลายสระบุรีวัย 4 มากกว่าใบสด ส่วนหนอนไหมพันธุ์ J108 ใบสดจะดึงดูดหนอนไหมมากกว่าใบหม่อนที่เก็บในตู้แช่มินิมาร์ท - ใบหม่อนสดสามารถดึงดูดหนอนไหมพันธุ์นางลายสระบุรีและพันธุ์ J108 วัย 5 มากกว่า ใบหม่อนที่เก็บในตู้แช่มินิมาร์ท 3. การวิเคราะห์ผลคุณค่าทางโภชนาการของใบหม่อน อยู่ระหว่างการคำนวณสถิติ ปัญหา/อุปสรรค - วัตถุประสงค์ของงานวิจัย 1) ได้ความสำคัญของปัจจัยความสำเร็จในอาชีพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม 2) ได้ทราบปัญหาและอุปสรรคของอาชีพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม 3) ได้แนวทางการแก้ปัญหาและอุปสรรคของอาชีพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ระยะเวลาดำเนินการ ตุลาคม 2564 - มีนาคม 2566 ผลการดำเนินงาน จากการลงพื้นที่เก็บรวบรวมข้อมูลและสัมภาษณ์เกษตรกรจากแบบสัมภาษณ์ที่สร้างขึ้นเป็น เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลจากเกษตรกรกลุ่มตัวอย่างและพื้นที่ที่ใช้ในการวิจัยในปี 2564 แบ่งออก เป็น 2 กลุ่ม โดยใช้แบบสัมภาษณ์ในการเก็บรวบรวมข้อมูล เพื่อจะดำเนินการแปรผลข้อมูลทางสถิติ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากการสัมภาษณ์เกษตรกร ดังนี้ 13. ปัจจัยที่มีผลต่อความสำเร็จในการผลิตรังไหมอุตสาหกรรมของเกษตรกร ในประเทศไทย ปี 2564 ลักษณะใบหม่อนที่เก็บพันธุ์บุรีรัมย์ 60 สำหรับไหมในแต่ละวัย ในถุงแอคทีฟที่ผ่านการเก็บรักษา ในตู้แช่มินิมาร์ท และห้องเก็บใบหม่อน


60 รายงานผลการดำเนินงาน สำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหม ประจำปี 2565 กรมหม่อนไหม - เกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมอุตสาหกรรมที่ผลิตไหมพันธุ์ไทยลูกผสมรังขาว (จำหน่ายรังขาว) ในพื้นที่ 4 จังหวัด รวมทั้งสิ้น 103 ราย - เกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมอุตสาหกรรมที่ผลิตไหมพันธุ์ไทยลูกผสม (จำหน่ายรังเหลือง) ในพื้นที่ 3 จังหวัด รวมทั้งสิ้น 127 ราย ทราบปัญหาและอุปสรรคของอาชีพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ได้สรุปดังนี้ - การขาดแคลนใบหม่อนในช่วงฤดูแล้ง (เดือนม.ค. – มี.ค.) ของเกษตรกรผู้เลี้ยงไหม - หนอนไหมตายในระยะวัย 5 ก่อนเข้าจ่อ ทำให้เปอร์เซ็นต์เลี้ยงรอดต่ำ - ภูมิประเทศ/ภูมิอากาศที่แตกต่างกันในการเลี้ยงไหม เช่น เลี้ยงไหมบนพื้นราบ/บนภูเขา ต้องมี การจัดการในการควบคุมเรื่องอุณหภูมิให้เหมาะสมในพื้นที่ที่แตกต่างกัน ปัญหา/อุปสรรค - วัตถุประสงค์ของงานวิจัย 1) เพื่อให้ได้สูตรอาหารที่เหมาะสมในการใช้หม่อนแห้งเพื่อทดแทนแหล่งโปรตีนในการผลิตแพะขุน 2) เพื่อประเมินผลการใช้หม่อนแห้งต่อต้นทุนการผลิตในการเลี้ยงแพะ ระยะเวลาดำเนินการ ตุลาคม 2563 - มีนาคม 2566 ผลการดำเนินงาน สภาวะการเลี้ยง ก่อนนำสัตว์เข้าทดลองทำการกำจัดพยาธิภายนอกด้วยยาไอเวอร์เมกติน อัตรา 1 มิลลิลิตรต่อน้ำหนักตัวแพะ 50 กิโลกรัม โดยฉีดใต้ผิวหนัง และให้ยานิโคลซาไมค์ เพื่อควบคุมพยาธิ ตัวตืด โดยการละลายยาถ่ายพยาธิกับน้ำสะอาดในอัตราส่วน 12 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร กรอกให้แพะกิน ทางปากในอัตราส่วน 1 มิลลิลิตรต่อน้ำหนักแพะ 1 กิโลกรัม วางแผนการทดลองแบบ RCBD มี 4 กรรมวิธี คัดเลือกแพะเพศผู้ลูกผสมบอร์อายุหย่านม 3 –4เดือน น้ำหนักเข้าขุนประมาณ 20กิโลกรัม ไม่ตอน จำนวน 32ตัว และเสริมด้วยอาหารข้น (สำเร็จรูป) มีโปรตีนไม่น้อยกว่าร้อยละ 16 โดยใช้ระยะปรับตัว 14 วัน เพื่อปรับสภาพ ให้คุ้นเคยกับสภาพการทดลองและอาหารก่อนเข้าสู่การทดลองจริง สภาวะการทดลอง ดำเนินการเลี้ยงแพะในคอกขังเดี่ยวยกพื้นสูง โดยได้รับน้ำและแร่ธาตุก้อน อย่างอิสระตลอดเวลาเป็นเวลา 30 วัน ดำเนินการทดลองเลี้ยงแพะด้วยอาหาร TMR เป็นเวลา 90 วัน โดยชั่งน้ำหนักทุก 15 วัน (เมษายน 2565 – กรกฎาคม 2565) ส่งวิเคราะห์องค์ประกอบทางเคมีของอาหาร 14. ผลของใบหม่อนและกิ่งหม่อนแห้งต่ออัตราการเจริญเติบโตของแพะขุน ภาพกิจกรรมโครงการปัจจัยที่มีผลต่อความสำเร็จในการผลิตรังไหมอุตสาหกรรมของเกษตรกรในประเทศไทยปี 2564


61 รายงานผลการดำเนินงาน สำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหม ประจำปี 2565 กรมหม่อนไหม หลังการทดลองโดยวิเคราะห์หาปริมาณวัตถุแห้ง โปรตีนหยาบ เยื่อใยหยาบ ไขมัน เถ้า วิเคราะห์ หาปริมาณเยื่อใยในรูป Acid Detergent Fiber (ADF) และผนังเซลล์ Neutral Detergent Fiber (NDF) และต้นทุนค่าอาหารพร้อมบันทึกและสังเกตอาการของแพะระหว่างการทดลอง ปัญหาและอุปสรรค - วัตถุประสงค์ของงานวิจัย เพื่อศึกษาสภาพการผลิต การตลาดโซ่อุปทาน การจัดการโซ่อุปทานและปรับปรุงโซ่อุปทานผ้าไหม ตรานกยูงพระราชทานสีน้ำเงินในพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานหม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ เขต 2 จังหวัดอุดรธานี ระยะเวลาดำเนินการวิจัย ตุลาคม 2563 - มีนาคม 2566 ภาพกิจกรรมโครงการผลของใบหม่อนและกิ่งหม่อนแห้งต่ออัตราการเจริญเติบโตของแพะขุน 15. การจัดการโซ่อุปทานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตผ้าไหมไทย ตรานกยูงพระราชทานสีน้ำเงิน (Thai silk) ในพื้นที่รับผิดชอบสำนักงาน หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ เขต 2


62 รายงานผลการดำเนินงาน สำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหม ประจำปี 2565 กรมหม่อนไหม ผลการดำเนินงาน - เก็บรวบรวมข้อมูลของทุกกลุ่มเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างการวิเคราะห์การจัดการโซ่อุปทาน โดยใช้แบบจำลอง SCOR วิเคราะห์ปัญหา/อุปสรรค และเสนอแนวทางการพัฒนา โดยได้ข้อมูลวัตถุดิบ กระบวนการผลิต และการจำหน่าย จากการสัมภาษณ์กลุ่มต่างๆ ปัญหา/อุปสรรค - วัตถุประสงค์ของงานวิจัย 1) เพื่อศึกษาความต้องการธาตุอาหารในหม่อนพันธุ์สกลนคร 2) เพื่อสร้างแบบจำลองการประเมินผลผลิตของหม่อนพันธุสกลนครด้วยโปรแกรม 3) เพื่อหาความสัมพันธ์และการสร้างสมการในการศึกษาประเมินประสิทธิภาพการใช้ปุ๋ยในหม่อนใบ 4) เพื่อจัดทำสมการต้นแบบเพื่อประเมินธาตุอาหารด้วยภาพถ่ายจากโดรนในหม่อนพันธุ์สกลนคร ระยะเวลาดำเนินการ ตุลาคม 2563 - กันยายน 2567 ผลการดำเนินงาน - ดำเนินการ ดูแลรักษาแปลง โดยใส่ปุ๋ยเคมี และปุ๋ยคอก (มูลวัว) ตามอัตราและระยะเวลาตาม แผนการทดลอง และเก็บบันทึกข้อมูล - ปฏิบัติดูแลรักษา /บันทึกข้อมูล เก็บบันทึกข้อมูลอุตุนิยมวิทยารายวัน การเก็บข้อมูลด้วยภาพถ่ายทางอากาศ การเก็บข้อมูลผลผลิต และการวัดปริมาณคลอโรฟิลล์ ปัญหา/อุปสรรค - 16. โครงการสร้างแบบจำลองความต้องการธาตุอาหารในหม่อนพันธุ์สกลนคร โดยใช้ข้อมูลสำรวจระยะไกล (RS) จากอากาศยานไร้คนขับ (Drone) ภาพกิจกรรมโครงการจัดการโซ่อุปทานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตผ้าไหมไทยตรานกยูงพระราชทาน สีน้ำเงิน (Thai silk) ในพื้นที่รับผิดชอบสำนักงานหม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ เขต 2 จังหวัดอุดรธานี


63 รายงานผลการดำเนินงาน สำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหม ประจำปี 2565 กรมหม่อนไหม วัตถุประสงค์ของงานวิจัย เพื่อศึกษาผลของการใช้ระบบน้ำหยด การใช้ราไมคอร์ไรซา และการใช้พลาสติกคลุมดิน ต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตในแปลงหม่อน ระยะเวลาดำเนินการ ตุลาคม 2563 - กันยายน 2567 ผลการดำเนินงาน ดำเนินการปลูกหม่อนตามกรรมวิธีที่กำหนดตามฤดูกาล ดูแลรักษาตามความจำเป็น รวมทั้งปลูกซ่อม หม่อนสำหรับต้นที่ตาย เพื่อให้หม่อนเจริญเติบโตครบแปลงย่อยละ 20 ต้น ใส่ปุ๋ยเคมีตามอัตราที่กำหนด หลังปลูกหม่อน รวมทั้งดำเนินการวางระบบน้ำหยดแบบอัจฉริยะตามกรรมวิธีที่กำหนด ต้นหม่อนมีลักษณะต้นเหลือง การตัดต่ำ การตัดแขนง เนื่องจากสภาพพื้นที่ปลูกมีฝนตกชุก การเจริญเติบโตของต้นหม่อนหลังการตัดต่ำ ปัญหา/อุปสรรค ในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน 2565 มีปริมาณฝนมากทำให้กรรมวิธีที่มีการคลุมผ้าพลาสติก หม่อนจะแสดงอาการเหลืองกว่ากรรมวิธีที่ไม่ได้มีการคลุมผ้าพลาสติก วัตถุประสงค์ของงานวิจัย 1) เพื่อศึกษาผลจากการยืดอายุหนอนไหมพันธุ์เหลืองสระบุรีด้วยสารละลายไพริโพรไซเฟนให้เพิ่มขึ้น 1วัน 2) เพื่อเพิ่มผลผลิตรังไหมแก่เกษตรกร 17. วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการเขตกรรมเพื่อเพิ่มผลผลิตหม่อน 18. ผลของสารละลายไพริโพรไซเฟนสังเคราะห์ต่อการยืดอายุหนอนไหมพันธุ์ เหลืองสระบุรีซึ่งมีผลต่อผลผลิต ระยะเวลาดำเนินการ ตุลาคม 2563 - มีนาคม 2566


64 รายงานผลการดำเนินงาน สำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหม ประจำปี 2565 กรมหม่อนไหม ผลการดำเนินงาน - ผลการทดสอบของสารไพริโพรไซเฟน 0.25% w/w จำนวน 7 กรรมวิธี 3 ซ้ำ ใช้หนอนไหมพันธุ์ เหลืองสระบุรี (แม่พันธุ์ J108 และแม่พันธุ์นางลายสระบุรี) ในศูนย์นวัตกรรมไหม มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ทำการทดลอง 2 ครั้ง พบว่าการใช้สารไพริโพรไซเฟนความเข้มข้นเพิ่มขึ้นจะทำให้หนอนไหมวัย 5 แม่พันธุ์ J108 และแม่พันธุ์นางลายสระบุรีมีอายุยาวนานขึ้น 1-2 วัน รังไหมที่ได้มีน้ำหนักรังสด 1 รัง เปอร์เซ็นต์เปลือกรัง น้ำหนักดักแด้เพิ่มขึ้น และจำนวนรังไหมต่อลิตรลดลง - ทดสอบผลของสารไพริโพรไซเฟน 0.25% w/w จำนวน 7 กรรมวิธี 3 ซ้ำ ใช้หนอนไหมพันธุ์เหลือง สระบุรี (แม่พันธุ์ J108 และแม่พันธุ์นางลายสระบุรี) ในศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ นครราชสีมา ทำการ ทดลองทั้ง 3 ฤดู พบว่าการใช้สารไพริโพรไซเฟนความเข้มข้นเพิ่มขึ้นจะทำให้หนอนไหมวัย 5 แม่พันธุ์ J108 และแม่พันธุ์นางลายสระบุรีรังไหมที่ได้มีน้ำหนักรังสด 1 รัง เปอร์เซ็นต์เปลือกรัง น้ำหนักดักแด้เพิ่มขึ้น และจำนวนรังไหมต่อลิตรลดลง เช่นเดียวกับการทดลองในศูนย์นวัตกรรมไหม มหาวิทยาลัยมหาสารคาม แต่เนื่องจากการใช้สารไพริโพรไซเฟน 0.25% w/w ความเข้มข้น 0.06 ppm ทำให้อายุหนอนไหมวัย 5 ยาวนานกว่าความเข้มข้นอื่น จึงได้เลือกการใช้สารไพริโพรไซเฟน 0.25% w/w ความเข้มข้น 0.05 ppm ทดสอบในระดับเกษตรกรต่อไป - การทดสอบความพึงพอใจในการใช้สารไพริโพรไซเฟนในเกษตรกร จำนวน 10 ราย ด้วยแบบสอบถาม พบว่า ความยากในการเตรียมหนอนไหมก่อนการฉีดสารไพริโพรไซเฟนอยู่ในระดับง่ายมาก ร้อยละ 57.14 และความยากของการฉีดสารไพริโพรไซเฟนอยู่ในระดับง่ายมากร้อยละ 71.44 ส่วนความพึงพอใจเกี่ยวกับผลผลิตรังไหมของเกษตรกรเท่ากับร้อยละ 71.44 และความพึงพอใจของเกษตรกร เกี่ยวกับเส้นไหมที่สาวได้อยู่ในระดับพอใจร้อยละ 60.00 ปัญหา/อุปสรรค - ภาพกิจกรรมโครงการผลของสารละลายไพริโพรไซเฟนสังเคราะห์ต่อการยืดอายุหนอนไหม พันธุ์เหลืองสระบุรีซึ่งมีผลต่อผลผลิต


65 รายงานผลการดำเนินงาน สำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหม ประจำปี 2565 กรมหม่อนไหม วัตถุประสงค์ของงานวิจัย 1) เพื่อสร้างแนวทางและวิธีการในการพัฒนาผ้าไหมสำหรับผลิตภัณฑ์ประเภทแอคทีฟแวร์ (Active wear) ที่เป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจด้านหม่อนไหม 2) เพื่อเป็นโอกาสในการแลกเปลี่ยนความคิด มุมมอง และเพิ่มพูนความรู้ความสามารถ ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ผ้าไหม ผู้เชี่ยวชาญ เป็นเครือข่ายเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ระยะเวลาดำเนินการ ตุลาคม 2563 - กันยายน 2565 ผลการดำเนินงาน - หารือคณะผู้วิจัยในเพื่อวางแผนและปรับรูปแบบในการดำเนินโครงการฯ โดยทำการจัดเตรียม ตัวอย่างผ้าผืนต้นแบบสำหรับการทดสอบ และพัฒนาแบบร่างคอลเลกชันแอคทีฟแวร์ต้นแบบ - ทำการจัดเตรียมผ้าผืนสำหรับผลิตคอลเลกชันต้นแบบ และดำเนินการผลิตคอลเลกชันต้นแบบ ภาพกิจกรรมโครงการศึกษาและพัฒนาผ้าไหมเพื่อสร้างสรรค์แอคทีฟแวร์ ปัญหา/อุปสรรค การปรับแผนการดำเนินงานให้สอดคล้องและเหมาะสมกับงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรและ ข้อจำกัดต่างๆ ในสถานการณ์โควิด 19 ในปัจจุบัน 19. โครงการศึกษาและพัฒนาผ้าไหม เพื่อสร้างสรรค์แอคทีฟแวร์


66 รายงานผลการดำเนินงาน สำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหม ประจำปี 2565 กรมหม่อนไหม วัตถุประสงค์ของงานวิจัย : 1) เพื่อศึกษาจีโนมไหมชนิด polyvoltine โดยใช้เทคโนโลยี Next generation sequencing หรือ NGS 2) เพื่อนำความรู้ทางด้านชีวสารสนเทศ (Bioinformatics) มาใช้ในการจัดการ วิเคราะห์ แปรผล ข้อมูลลำดับเบสจีโนมไหมที่วิเคราะห์ได้ 3) เพื่อให้ได้ข้อมูลจีโนมอ้างอิง (reference genome) ที่จัดเก็บไว้เป็นฐานข้อมูลของกรมหม่อนไหม 4) เพื่อประยุกต์ใช้ฐานข้อมูลลำดับเบสจีโนมไหมที่วิเคราะห์ได้โดยนำลำดับเบสจีโนมไหมที่สนใจ มาเปรียบเทียบกับข้อมูลจีโนมอ้างอิง ระยะเวลาดำเนินการ ตุลาคม 2563 - มีนาคม 2566 ผลการดำเนินงาน ได้ทำการศึกษาลำดับเบสทั้งจีโนมของไหมชนิดฟักออกตลอดปี(polyvoltine) เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูล อ้างอิง (reference genome) ในการศึกษาหน้าที่และการแสดงออกของยีนต่าง ๆ เพื่อเป็นประโยชน์ในการ ปรับปรุงพันธุ์ไหมของประเทศไทย โดยศึกษาลำดับเบสทั้งจีโนมของหนอนไหมพันธุ์นางตุ่ย โดยใช้วิธีการ Next generation sequencing ด้วยเทคนิค De novo sequencing เพื่อใช้เป็นลำดับจีโนมไหมอ้างอิง หลังจากนั้น ตรวจสอบความถูกต้องของลำดับเบสจีโนมไหมด้วยเทคนิค Whole genome resequencing โดยการคัดเลือก หนอนไหมจำนวน 3 พันธุ์ ได้แก่ เขียวสกล นางลาย และ นค.04 ผลการวิเคราะห์ลำดับเบสจีโนมไหมพันธุ์นางตุ่ย มีขนาดจีโนมเท่ากับ 701 ล้านเบส มีความคล้ายคลึงกับจีโนมอ้างอิงหนอนไหมของประเทศญี่ปุ่นซึ่งมีขนาด 530 ล้านเบส โดยลำดับเบสทั้งจีโนมที่ได้ค่อนข้างมีความสมบูรณ์สามารถใช้เป็นจีโนมอ้างอิงของหนอนไหมชนิดฟักออก ตลอดปีได้และเมื่อนำลำดับเบสทั้งจีโนมของหนอนไหมพันธุ์เขียวสกล นางลาย และนค.04 ไปเปรียบเทียบและ จัดเรียงกับจีโนมอ้างอิงหนอนไหมของประเทศญี่ปุ่น พบว่ามีความคล้ายคลึงกันมาก แสดงให้เห็นว่าข้อมูลลำดับเบส ทั้งจีโนมที่ได้ค่อนข้างสมบูรณ์สามารถนำไปใช้ในการศึกษาต่าง ๆ ได้แก่ การศึกษาความหลากหลายทางพันธุกรรม ศึกษาหน้าที่และการแสดงของยีนที่สำคัญต่าง ๆ และเพื่อประยุกต์ใช้ในการปรับปรุงพันธุ์ไหมไทยในอนาคตได้ อย่างไรก็ตาม ควรมีการตรวจสอบความถูกต้องเรียบร้อยของลำดับเบสจีโนมไหมอ้างอิงพันธุ์นางตุ่ยอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากมีขนาดจีโนมซึ่งใหญ่กว่าลำดับเบสจีโนมไหมอ้างอิงของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งอาจเกิดการอ่านลำดับเบสที่มี การซ้ำกัน จึงควรมีการตรวจสอบอีกครั้งก่อนจะดำเนินการเผยแพร่ฐานข้อมูลต่อไป ปัญหาอุปสรรค เนื่องจากกรมหม่อนไหมยังไม่มีห้องปฏิบัติการด้านชีวโมเลกุล คณะผู้วิจัยจึงจำเป็นต้องดำเนินงาน ที่ภาควิชาพันธุศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 20. โครงการหาลำดับเบสจีโนมไหมโดยวิธีการ Next generation sequencing (NGS) เพื่อการใช้ประโยชน์ เครื่อง Next generation sequencing (NGS) นางตุ่ย นค.04 เขียวสกล นางลาย พันธุ์ไหมที่ใช้ในการศึกษา


67 รายงานผลการดำเนินงาน สำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหม ประจำปี 2565 กรมหม่อนไหม วัตถุประสงค์ของงานวิจัย 1) เพื่อศึกษาระยะปลูกที่เหมาะสมต่อการเพิ่มผลผลิตของหม่อนพันธุ์สกลนคร 85 2) เพื่อศึกษาวัสดุคลุมดินในแปลงหม่อนเพื่อลดการกำจัดวัชพืช 3) เพื่อให้ได้วิธีการตัดแต่งหม่อนพันธุ์ต้านทานโรครากเน่าในแหล่งระบาดของโรครากเน่า ระยะเวลาดำเนินการ ตุลาคม 2561 - มีนาคม 2566 ผลการดำเนินงาน - ได้ดำเนินการดูแลจัดการแปลงหม่อนโดยกำจัดวัชพืช ให้น้ำ ตัดกิ่งแขนงส่วนที่ไม่ต้องการออก และให้ปุ๋ยตามอัตราแผนการทดลอง จำนวน 1 ครั้ง -ดำเนินการทดลอง โดยตัดแต่งกิ่งหม่อนตามแผนที่กำหนด และเก็บรวบรวมข้อมูลผลผลิตหม่อน ปัญหา/อุปสรรค - วัตถุประสงค์ของงานวิจัย เพื่อให้ทราบถึงระดับความต้องการธาตุอาหารพืชของหม่อนพันธุ์สกลนคร 85 ที่มีอายุแตกต่างกัน ทำให้ได้วิธีการที่เหมาะสมในการจัดการธาตุอาหารและอัตราการใช้ปุ๋ยที่เหมาะสมในการผลิตหม่อน พันธุ์สกลนคร 85 21. วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตหม่อนพันธุ์สกลนคร 85 ที่ให้เหมาะสม กับสภาพแวดล้อมและเศรษฐกิจ 22. การใช้ปุ๋ยที่เหมาะสมในการผลิตหม่อนพันธุ์สกลนคร 85 ในจังหวัดเชียงใหม่ ภาพกิจกรรมโครงการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตหม่อนพันธุ์สกล 85 ที่ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและเศรษฐกิจ ระยะเวลาดำเนินการ ตุลาคม 2561 - มีนาคม 2566


68 รายงานผลการดำเนินงาน สำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหม ประจำปี 2565 กรมหม่อนไหม ผลการดำเนินงาน - ดูแลหม่อนแปลงทดลองพันธุ์สกลนคร 85 ทดสอบปุ๋ยตามแผนการทดลอง และทำการเก็บข้อมูล ผลผลิตหม่อน จำนวน 3 ครั้ง ในเดือนมีนาคม มิถุนายน และกันยายน 2565 - ทำการตัดแต่งกิ่งหม่อนหลังการเก็บข้อมูล และใส่ปุ๋ยตามแผนการทดลอง การเก็บข้อมูลผลผลิตหม่อนพันธุ์สกลนคร 85 ดำเนินการตัดแต่งกิ่งหลังการเก็บข้อมูล และใส่ปุ๋ยตามแผนการทดลอง ปัญหา/อุปสรรค - วัตถุประสงค์ของงานวิจัย 1) เพื่อศึกษาผลของปุ๋ยเคมีต่อการเจริญเติบโตของหม่อนพันธุ์สกลนคร 85 2) เพื่อหาอัตราปุ๋ยเคมีที่เหมาะสมกับหม่อนพันธุ์สกลนคร 85 ที่ปลูกในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3) เพื่อหาอัตราปุ๋ยเคมีที่เหมาะสมกับหม่อนพันธุ์สกลนคร 85 ในดินทราย 4) เพื่อหาอัตราปุ๋ยเคมีที่เหมาะสมกับหม่อนพันธุ์สกลนคร 85 ในดินร่วนปนทรายและดินทรายปนร่วน ระยะเวลาดำเนินการ ตุลาคม 2561 - มีนาคม 2566 ผลการดำเนินงาน - ดำเนินการดูแลแปลงหม่อนและเก็บข้อมูลการเจริญเติบโตของหม่อน โดยวัดจากองค์ประกอบของ ผลผลิตและผลผลิตของรอบการตัดกลาง ตัดแขนง 1 และตัดแขนง 2 เก็บตัวอย่างใบหม่อน และตัวอย่างดิน ส่งวิเคราะห์ 23. ศึกษาอัตราปุ๋ยเคมีที่เหมาะสมกับหม่อนพันธุ์สกลนคร 85 ที่ปลูกในพื้นที่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ


69 รายงานผลการดำเนินงาน สำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหม ประจำปี 2565 กรมหม่อนไหม - ทำการตัดต่ำ ใส่ปุ๋ยเคมี 1 ครั้งในอัตราส่วนตามกรรมวิธีที่กำหนด ดูแลแปลงหม่อน เก็บตัวอย่างดิน ส่งวิเคราะห์และเก็บข้อมูลการเจริญเติบโตของหม่อนโดยวัดจากองค์ประกอบของผลผลิตและผลผลิต ปัญหา/อุปสรรค - มีการระบาดของโรครากเน่าทำให้ต้นหม่อนตายไปมากกว่า 30% วัตถุประสงค์ของงานวิจัย 1) เพื่อให้ได้รูปแบบการผลิตใบหม่อนที่ใช้เลี้ยงไหมอุตสาหกรรม ใน 3 ภูมิภาค ได้ผลผลิตสูงและ เหมาะสมต่อการปฏิบัติ ให้เกิดการยอมรับ 2) เพื่อเป็นข้อมูลในการส่งเสริมเกษตรกรผู้ผลิตหม่อน ระยะเวลาดำเนินการ ตุลาคม 2564 - กันยายน 2567 ผลการดำเนินงาน -ติดตามการดูแลรักษาแปลงหม่อนของเกษตรกรในโครงการวิจัยฯและเก็บข้อมูลแปลงหม่อนของเกษตรกร กิจกรรมโครงการการทดสอบเทคโนโลยีการผลิตใบหม่อนเพื่อเลี้ยงไหมอุตสาหกรรมในภาคเกษตรกร ปัญหา/อุปสรรค - มีการปรับเปลี่ยนพื้นที่เกษตรกรในการวิจัยบางแห่ง การตัดต่ำ การเจริญเติบโตของต้นหม่อนหลังการตัดต่ำ 24. การทดสอบเทคโนโลยีการผลิตใบหม่อนเพื่อเลี้ยงไหมอุตสาหกรรม ในภาคเกษตรกร


70 รายงานผลการดำเนินงาน สำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหม ประจำปี 2565 กรมหม่อนไหม วัตถุประสงค์ของงานวิจัย 1) เพื่อให้ได้รูปแบบการผลิตใบหม่อนเพื่อเลี้ยงไหมหัตถกรรมที่ได้ผลผลิตสูงและเหมาะสม ต่อการปฏิบัติ ให้เกิดการยอมรับของเกษตรกร 2) เพื่อเป็นข้อมูลในการส่งเสริมเกษตรกรผู้ผลิตใบหม่อนเพื่อเลี้ยงไหมหัตถกรรม ระยะเวลาดำเนินการ ตุลาคม 2563 - มีนาคม 2566 ผลการดำเนินงาน - 6 เดือนแรก ทำการติดตามการดูแลรักษาแปลงหม่อนของเกษตรกรในพื้นที่ที่คัดเลือกไว้ และดำเนินการเก็บข้อมูลการดำเนินงาน ข้อมูลแปลงหม่อน และนำตัวอย่างไปวิเคราะห์ - 6 เดือนหลัง ดำเนินการเก็บข้อมูลผลผลิตใบหม่อนจำนวน 2 รุ่น เพื่อเปรียบเทียบความแตกต่าง ของปริมาณใบหม่อนที่ได้จาก 2 กรรมวิธีการทดลอง รวมทั้งดำเนินการบำรุงแปลงหม่อนเพิ่มเติมหลังจาก เก็บเกี่ยวใบหม่อนเลี้ยงไหมในแต่ละรุ่น -ดำเนินการสอบถามความพึงพอใจของเกษตรกรเบื้องต้น พบว่ามีความพอใจกับผลการทดลอง ปัญหา/อุปสรรค - ปัญหาสภาพอากาศในพื้นที่ภาคใต้ที่มีฝนตกหนัก และค่อนข้างถี่ทำให้การออกไปปฏิบัติงานกระทำ ได้ลำบากและมีความล่าช้าไปบ้าง - แปลงหม่อนของเกษตรกรบางรายเกิดปัญหา เช่น การขุดย้ายต้นหม่อนออกจากจุดเดิมเพื่อเปลี่ยน พื้นที่ไปปลูกพืชเศรษฐกิจอื่น ทำให้ต้นหม่อนเกิดการชะงักหรือตาย ส่งผลให้การทดลองเกิดความล่าช้า ไปจากแผน หรือปัญหาการขายที่ดินซึ่งเป็นพื้นที่ทำการทดลอง ทำให้ต้องมีการเจรจาขอใช้พื้นที่ต่อไป - เกษตรกรเก็บใบหม่อนไปเลี้ยงไหมก่อนครบกำหนดระยะเวลา เนื่องจากบางรุ่นการเลี้ยงไหม ปริมาณใบหม่อนมีไม่เพียงพอ - เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงผู้ร่วมวิจัยในโครงการจึงทำให้การดำเนินงานล่าช้ากว่าแผนที่กำหนด 25. การทดสอบเทคโนโลยีการผลิตใบหม่อนเพื่อเลี้ยงไหมหัตถกรรมในภาคเกษตรกร กิจกรรมโครงการการทดสอบเทคโนโลยีการผลิตใบหม่อนเพื่อเลี้ยงไหมหัตถกรรมในภาคเกษตรกร


71 รายงานผลการดำเนินงาน สำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหม ประจำปี 2565 กรมหม่อนไหม วัตถุประสงค์ของงานวิจัย 1) เพื่อให้ได้รูปแบบการผลิตผลหม่อนที่ได้ผลผลิตสูงและเหมาะสมต่อการปฏิบัติให้เกิดการยอมรับ ของเกษตรกร 2) เพื่อเป็นข้อมูลในการส่งเสริมเกษตรกรผู้ผลิตผลหม่อน ระยะเวลาดำเนินการ ตุลาคม 2563 - กันยายน 2567 ผลการดำเนินงาน - จัดเตรียม วางแผน งานวิจัย และทำการสนับสนุนวัสดุเกษตรให้กับเกษตรกรเพื่อให้ดำเนินการตาม รูปแบบการทดลองที่กำหนดไว้ - ติดตามดูแลรักษาแปลงหม่อนให้เป็นไปตามรูปแบบที่กำหนดไว้ โดยมีการกำชับ ดูแล ให้คำปรึกษา แก่เกษตรกร ปัญหา/อุปสรรค - มีการปรับเปลี่ยนพื้นที่เกษตรกรในการวิจัยบางแห่ง วัตถุประสงค์ของงานวิจัย เพื่อให้ได้อุปกรณ์สาวไหมต้นแบบ ชนิดสาวด้วยมือลงภาชนะ สำหรับผลิตเส้นไหมยืนที่มีคุณภาพ ระยะเวลาดำเนินการ ตุลาคม 2564 - มีนาคม 2566 ผลการดำเนินงาน - ศึกษาวิเคราะห์ทฤษฎีการสาวไหมแบบดั้งเดิม และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง - วิเคราะห์ข้อดีข้อเสียของพวงสาวไหม ชนิดสาวด้วยมือลงภาชนะที่ใช้ในปัจจุบัน - ลงพื้นที่เก็บข้อมูลความต้องการ (Requirement) ของเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ - จัดซื้อวัสดุ ออกแบบอุปกรณ์ และจัดจ้างประกอบอุปกรณ์ต้นแบบ 26. การทดสอบเทคโนโลยีการผลิตผลหม่อนในภาคเกษตรกร 27. นวัตกรรมการผลิตเส้นไหมยืนด้วยอุปกรณ์สาวไหมด้วยมือลงภาชนะ ภาพกิจกรรมโครงการการทดสอบเทคโนโลยีการผลิตผลหม่อนในภาคเกษตรกร


72 รายงานผลการดำเนินงาน สำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหม ประจำปี 2565 กรมหม่อนไหม - ลงพื้นที่ทดสอบอุปกรณ์ - จัดซื้อวัสดุ และจัดจ้างประกอบอุปกรณ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ภาพกิจกรรมโครงการนวัตกรรมการผลิตเส้นไหมยืนด้วยอุปกรณ์สาวไหมด้วยมือลงภาชนะ ปัญหา/อุปสรรค การระบาดของโรคไวรัสโคโรน่า 2019 (Covid-19) ทำให้การลงพื้นที่ดำเนินงานไม่เป็นไปตามแผนงาน ที่วางไว้ ส่งผลทำให้จัดทำอุปกรณ์ต้นแบบได้ล่าช้า วัตถุประสงค์ของงานวิจัย 1) เพื่อศึกษาการใช้ใบหม่อนทดแทนแหล่งโปรตีนในอาหารจิ้งหรีดต่อสมรรถภาพการผลิต 2) เพื่อลดต้นทุนในกระบวนการผลิตแมลงจิ้งหรีด ระยะเวลาดำเนินการ ตุลาคม 2564 - กันยายน 2566 ผลการดำเนินงาน - ทำการเพาะเลี้ยงจิ้งหรีดตามกรรมวิธีต่างๆ ซ้ำต่างๆ ที่กำหนดไว้ในแผนการทดลองตั้งแต่ เดือนกุมภาพันธ์ - พฤษภาคม 2565 - เก็บข้อมูลตลอดการเลี้ยงจิ้งหรีด ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ - พฤษภาคม 2565 - เก็บเกี่ยวผลผลิต เก็บข้อมูลทั้งด้านปริมาณ และคุณภาพของจิ้งหรีดตั้งแต่เดือนเมษายน - พฤษภาคม 2565 - นำตัวอย่างจิ้งหรีดเพศผู้ และเพศเมีย ไปตรวจสอบคุณสมบัติทางเคมีในห้องปฏิบัติการ ในเดือนสิงหาคม 2565 - นำข้อมูลทางกายภาพและทางเคมี มาวิเคราะห์ผลทางสถิติในเดือนกันยายน 2565 28. โครงการผลของการใช้ใบหม่อนในการเลี้ยงจิ้งหรีด (Gryllus assimilis) ต่อการเจริญเติบโต และลดต้นทุนการผลิต ภาพกิจกรรมโครงการผลของการใช้ใบหม่อนในการเลี้ยงจิ้งหรีด (Gryllus assimilis) ต่อการเจริญเติบโต และลดต้นทุนการผลิต


73 รายงานผลการดำเนินงาน สำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหม ประจำปี 2565 กรมหม่อนไหม ปัญหา/อุปสรรค สภาพการกินใบหม่อนสดของจิ้งหรีดเป็นไปด้วยความราบรื่น และต่อเนื่อง แต่มีบางช่วงของการกิน ที่ใบหม่อนแห้งเหี่ยวเพราะจิ้งหรีดกินไม่ทัน ผู้วิจัยได้ให้ช่วงเวลาเพิ่มเติมในแต่ละรอบการให้อาหาร ทำให้จิ้งหรีดมีเวลากินใบหม่อนมากขึ้น และสามารถกินใบหม่อนแห้งที่เหลือได้จนหมด เนื่องจากมีน้ำให้ อย่างต่อเนื่องในกระบวนการเลี้ยง วัตถุประสงค์ของงานวิจัย 1) เพื่อทดสอบสมบัติทางกายภาพของผ้าทอมือจากเส้นไหมกับเส้นใยกล้วยผสมฝ้าย 2) เพื่อเพิ่มความหลากหลายในการใช้ผ้าไหมให้กับผู้บริโภค 3) เพื่อหาแนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ 4) ได้ผลิตภัณฑ์ผ้าทอมือจากเส้นไหมกับเส้นใยกล้วยผสมฝ้าย และผลิตภัณฑ์ในชีวิตประจำวันอื่น ๆ ระยะเวลาดำเนินการ ตุลาคม 2564 - กันยายน 2567 ผลการดำเนินงาน - ทดสอบเส้นด้าย ได้แก่ ความเหนียว และการยืดตัวก่อนขาดของเส้น จำนวน 3 ชนิด ได้แก่ เส้นไหม ขนาด 100/150 ขนาด 200/250 และเส้นใยกล้วยผสมฝ้ายขนาด 30/2 พร้อมบันทึกข้อมูล - นำเส้นที่ได้มาให้เกษตรกรทอผ้า จำนวน 2 ราย ทั้งหมด 3 กรรมวิธีๆ ละ 2 ซ้ำ (อยู่ระหว่าง ดำเนินการ) - เกษตรกรทอผ้า จำนวน 1 ราย ทั้งหมด 3 กรรมวิธี กรรมวิธีละ 1 ซ้ำ - ทำการทดสอบเส้นด้าย ได้แก่ ความเหนียว และการยืดตัวก่อนขาดของเส้น จำนวน 3 ชนิด ได้แก่ เส้นไหม (ยืน) ขนาด 100/150 จำนวน 10 ซ้ำ เส้นไหม (พุ่ง) ขนาด 200/250 จำนวน 10 ซ้ำ และเส้นใยกล้วย ผสมฝ้าย ขนาด 30/2 จำนวน 10 ซ้ำ ปัญหา/อุปสรรค เกิดฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี รวมไปถึงพื้นที่ที่มีการรับมวลน้ำจากทางภาคเหนือ ทำให้เกิดน้ำท่วมบริเวณพื้นที่ทอผ้า ส่งผลให้เกษตรกรไม่สามารถดำเนินการทอผ้าได้อย่างต่อเนื่อง และไม่เป็นไปตามแผนการปฏิบัติงาน 29. การพัฒนาผ้าทอมือจากเส้นไหมกับเส้นใยกล้วยผสมฝ้าย ภาพกิจกรรมโครงการการพัฒนาผ้าทอมือจากเส้นไหมกับเส้นใยกล้วยผสมฝ้าย


74 รายงานผลการดำเนินงาน สำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหม ประจำปี 2565 กรมหม่อนไหม วัตถุประสงค์ของงานวิจัย 1) เพื่อศึกษาวิธีการในการตัดแต่งหม่อนที่เหมาะสมที่ให้ผลผลิตสูงที่สุดสำหรับผลิตอาหารโครีดนม โดยกระบวนการบริหารจัดการแปลงหม่อนอยู่ในรูปแบบของหม่อนอินทรีย์ 2) เพื่อศึกษาผลการใช้ใบหม่อนอินทรีย์หมักที่อายุ 7, 14 และ 21 วัน ใช้เป็นส่วนผสมอาหารสัตว์ 3) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพการผลิต ในด้านปริมาณและคุณภาพของน้ำนมวัว 4) เพื่อศึกษาสูตรอาหารที่เหมาะสมสำหรับโครีดนมโดยมีหม่อนหมักเป็นส่วนผสม และศึกษาต้นทุน การผลิตหลังจากใช้ใบหม่อนหมักทดแทนหรือเป็นอาหารเสริมอาหารสัตว์ และผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ เพื่อนำไปใช้ในการส่งเสริมเกษตรกรต่อไป 5) ส่งเสริมเกษตรกรในการผลิตหม่อนอินทรีย์ เพื่อพัฒนาต่อยอดไปถึงน้ำนมอินทรีย์ในการเพิ่มมูลค่า การผลิต ระยะเวลาดำเนินการ ตุลาคม 2564 - กันยายน 2566 ผลการดำเนินงาน -ดำเนินการเก็บเกี่ยวหม่อนที่แตกต่างกัน 4 กรรมวิธี รุ่นแรก และบันทึกเก็บข้อมูล ภาพกิจกรรมโครงการการผลิตหม่อนอินทรีย์เป็นอาหารโครีดนม ปัญหา/อุปสรรค - เกิดการปนเปื้อนของสารเคมีในแปลงหม่อน เนื่องจากมีการใช้สารเคมีจากแปลงข้าวโพดด้านข้าง จึงไม่สามารถนำผลผลิตใบหม่อนดังกล่าวในรุ่นแรกไปใช้เป็นอาหารโครีดนมได้ - เกิดภาวะน้ำท่วมในคอกฟาร์มโครีดนมของเกษตรกรจึงต้องมีการเคลื่อนย้ายไปยังที่ปลอดภัย 30. การผลิตหม่อนอินทรีย์เป็นอาหารโครีดนม


75 รายงานผลการดำเนินงาน สำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหม ประจำปี 2565 กรมหม่อนไหม สำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหม ได้ร่วมกับสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) และศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จัดทำระบบศูนย์กลางข้อมูล งานวิจัยการเกษตรของประเทศไทย (Thailand Agricultural Research Repository หรือ TARR) มีวัตถุประสงค์ที่จะพัฒนาระบบรวบรวม จัดเก็บ บูรณาการ ข้อมูลงานวิจัย และความรู้ที่เกี่ยวข้อง นับตั้งแต่การนําเข้า เชื่อมโยงข้อมูลวิจัยสําหรับการใช้ประโยชน์ร่วมกัน โดยบูรณาการ ฐานข้อมูลความรู้ดิจิทัลด้านการเกษตรจากหลายแหล่ง และพัฒนาระบบสืบค้นข้อมูลเพื่อให้บริการข้อมูล การวิจัยการเกษตรแบบ ณ จุดเดียว หรือ Single Window ทําให้ผู้ใช้นับตั้งแต่เกษตรกร ผู้ประกอบการ นักวิจัย และผู้บริหารภาครัฐ สามารถเข้าถึงและนําข้อมูลความรู้ด้านการเกษตรแบบเชื่อมโยงไปใช้ประโยชน์ ทั้งทางด้านการผลิต การพัฒนาธุรกิจ และการพัฒนานวัตกรรม และวิจัยต่อยอด ซึ่งสำนักวิจัยฯ ได้รวบรวมข้อมูลงานวิจัยตั้งแต่ปี 2517 - 2563 (ยกเว้นงานวิจัยปี 2544 และ 2552 ที่ไม่มีผลงานวิจัย) และขณะนี้ในระบบ TARR มีงานวิจัยของกรมหม่อนไหมทั้งหมด 990 เรื่อง เว็บไซต์ของระบบศูนย์กลางข้อมูล งานวิจัยการเกษตรของประเทศไทย (Thailand Agricultural Research Repository หรือ TARR) : https://tarr.arda.or.th ฐานข้อมูลงานวิจัยระบบ TARR


76 รายงานผลการดำเนินงาน สำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหม ประจำปี 2565 กรมหม่อนไหม สำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหมได้มีการรวบรวมข้อมูลงานวิจัยด้านหม่อนไหม ตั้งแต่ ปี 2514 - 2563 รวมทั้งสิ้น 1,745 เรื่อง นักวิจัยหรือผู้ที่สนใจสามารถสืบค้นงานวิจัยด้านหม่อนไหมได้ที่เว็บไซต์ สำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหม -> คลังข้อมูล -> ฐานข้อมูลงานวิจัยหม่อนไหม -> ฐานข้อมูลงานวิจัยหม่อน ไหม (ปัจจุบัน) หรือ ที่เว็บไซต์ https://qsds.go.th/newosrd/reseachdb2022/ ฐานข้อมูลงานวิจัยหม่อนไหม


77 รายงานผลการดำเนินงาน สำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหม ประจำปี 2565 กรมหม่อนไหม การให้บริการห้องปฏิบัติการวิจัยกรมหม่อนไหม สำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหมมีภารกิจในการสนับสนุนการวิจัยและพัฒนา หม่อนไหม โดยทำหน้าที่ดูแลห้องปฏิบัติการวิจัยของกรมหม่อนไหม ณ อาคารกรมหม่อนไหม (ตึก 5 ชั้น) จำนวน 3 ห้อง ประกอบด้วย 1) ห้องปฏิบัติการวิจัย ชั้น 3 สำหรับการวิเคราะห์ทดสอบ ด้วยเครื่องมือวิทยาศาสตร์ 2) ห้องปฏิบัติการวิจัย ชั้น 4 สำหรับการเตรียมสารเคมี และตัวอย่าง สำหรับการวิเคราะห์ทั่วไป และ 3) ห้องครุภัณฑ์วิทยาศาสตร์และปฏิบัติงานวิจัย ชั้น 4 ปัจจุบัน สำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหมให้บริการการใช้ห้องปฏิบัติการวิจัย การใช้เครื่องมือวิทยาศาสตร์ และการยืมวัสดุ/อุปกรณ์วิทยาศาสตร์ แก่นักวิจัยและบุคลากรกรมหม่อนไหม ห้องปฏิบัติการวิจัย ชั้น 3 ห้องครุภัณฑ์วิทยาศาสตร์และปฏิบัติงานวิจัย ชั้น 4 ห้องปฏิบัติการวิจัย ชั้น 4


78 รายงานผลการดำเนินงาน สำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหม ประจำปี 2565 กรมหม่อนไหม ผลการดำเนินงานด้านห้องปฏิบัติการวิจัย ประจำปีงบประมาณ 2565 จำแนกตามประเภทต่างๆ ดังนี้ 1. ช่วงเวลาในการใช้บริการห้องปฏิบัติการวิจัย ช่วงเวลาที่มีผู้เข้าใช้บริการห้องปฏิบัติการวิจัย มากที่สุด 3 ลำดับแรก คือ เดือนเมษายน และพฤษภาคม 2565 ร้อยละ 15 เดือนมิถุนายน 2565 ร้อยละ 12 และเดือนธันวาคม 2564 และมกราคม 2565 ร้อยละ 9 ช่วงเวลาในการใช้บริการห้องปฏิบัติการวิจัย 2. ประเภทการใช้บริการห้องปฏิบัติการวิจัย มีผู้ใช้วัสดุ/อุปกรณ์วิทยาศาสตร์/สารเคมี ร้อยละ 45 ใช้ห้องปฏิบัติการวิจัย ร้อยละ 35 และใช้เครื่องมือวิทยาศาสตร์ ร้อยละ 20 ตุลาคม, 5 วัน, 5% ธันวาคม, พฤศจิกายน, 4 วัน, 4% 8 วัน, 9% มกราคม, 8 วัน, 9% กุมภาพันธ์, 8 วัน, 8% มีนาคม, 6 วัน, 6% เมษายน, 14 วัน, 15% พฤษภาคม, 14 วัน, 15% มิถุนายน, 11 วัน, 12% กรกฎาคม, 4 วัน, 4% สิงหาคม , 7 วัน, 7% กันยายน, 6 วัน, 6% การใช้ห้องปฏิบัติการ วิจัย, 95 ครั้ง, 35% การใช้เครื่องมือทาง วิทยาศาสตร์, 55 ชิ้น, 20% การใช้วัสดุ/อุปกรณ์ วิทยาศาสตร์, 122 ครั้ง, 45% ผลการดำเนินงาน ประเภทการใช้บริการห้องปฏิบัติการวิจัย


79 รายงานผลการดำเนินงาน สำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหม ประจำปี 2565 กรมหม่อนไหม 3. ประเภทเครื่องมือวิทยาศาสตร์ที่มีผู้ใช้บริการ เครื่องมือวิทยาศาสตร์ที่มีผู้ใช้บริการมากที่สุด 3 ลำดับแรก ได้แก่ ตู้อบความร้อน ร้อยละ 28 ชุดเตาแม่เหล็กไฟฟ้า ร้อยละ 16 และเครื่องชั่งไฟฟ้าทศนิยม 4 ตำแหน่ง ร้อยละ 14 ประเภทเครื่องมือวิทยาศาสตร์ที่มีผู้ใช้บริการ 4. ประเภทวัสดุ/อุปกรณ์วิทยาศาสตร์ที่มีผู้ใช้บริการ วัสดุ/อุปกรณ์วิทยาศาสตร์ที่มีผู้ใช้บริการมาก ที่สุด 3 ลำดับแรก ได้แก่ ขวดดูแรน ร้อยละ 38 บีกเกอร์ ร้อยละ 18 และกระบอกตวง ร้อยละ 8 ประเภทวัสดุ/อุปกรณ์วิทยาศาสตร์ที่มีผู้ใช้บริการ วันและเวลาการให้บริการ วันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 8.30 – 16.30 น. (เว้นวันหยุดราชการ) โทรศัพท์ 0 2558 7924 ต่อ 7220 เว็บไซต์ https://qsds.go.th/newosrd อีเมล์ [email protected] ตู้อบความร้อน, 16 ครั้ง, 28% ชุดเตาแม่เหล็กไฟฟ้า, 9 ครั้ง, 16% เครื่องชั่งไฟฟ้าทศนิยม 4 ต าแหน่ง, 8 ครั้ง, 14% ตู้ดูดอากาศ, 6 ครั้ง, 11% เครื่องวัดค่าสี , 3 ครั้ง, 5% เครื่องปั่นเหวี่ยง ชนิดควบคุมอุณหภูมิ, 3 ครั้ง, 5% เครื่องกวนสารละลาย พร้อมให้ความร้อน, 3 ครั้ง, 5% ชุดวิเคราะห์สารฟูเรียร์ฯ (FTIR), 2 ครั้ง, 3% ชุดกลั่นระเหยสารระบบ สูญญากาศ, 2 ครั้ง, 4% เครื่องวัดคลอโรฟิลล์, 1 ครั้ง, 2% เครื่องวัดความเป็น กรด - ด่าง, 1 ครั้ง, 2% กล้องสเตอริโอ แบบ 3 ตา, 3 ครั้ง, 5% ขวดดูแรน, 46 ชิ้น, 38% บีกเกอร์, 22 ชิ้น , 18% กระบอกตวง, 9 ชิ้น, 8% หม้อสตูว์, 9 ชิ้น , 7% ปิเปต ทิป, 8 ชิ้น , 7% เหยือกตวง, 4 ชิ้น, 3% แท่งแก้ว, 4 ชิ้น, 3% ชามระเหย, 3 ชิ้น, 3% เบ็ดเตล็ด, 16 ชิ้น, 13%


80 รายงานผลการดำเนินงาน สำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหม ประจำปี 2565 กรมหม่อนไหม การให้บริการห้องสมุดกรมหม่อนไหม สำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหมได้รับมอบหมายให้ดูแลห้องสมุดของกรมหม่อนไหม ซึ่งตั้งอยู่ ณ ชั้น 2 อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยให้บริการยืม-คืน หนังสือ และวารสารประเภทต่างๆ เช่น รายงานประชุมวิชาการหม่อนไหม หนังสือความรู้ด้านหม่อนไหม หนังสือความรู้ด้านการย้อม สี-เส้นไหม-ผ้าไหม หนังสือความรู้ด้านการส่งเสริมหม่อนไหม ฯลฯ แก่บุคลากรกรมหม่อนไหม และบุคคลภายนอก ห้องสมุดกรมหม่อนไหม


81 รายงานผลการดำเนินงาน สำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหม ประจำปี 2565 กรมหม่อนไหม ปัจจุบัน ห้องสมุดกรมหม่อนไหม มีหนังสือ และวารสารประเภทต่างๆ จำนวน 34 หมวด รวม 3,499 เล่ม ดังนี้ ลำดับ รายชื่อหมวดหมู่หนังสือ สัญลักษณ์ หมวดหมู่ จำนวน (เล่ม) ลำดับ รายชื่อหมวดหมู่ หนังสือ สัญลักษณ์ หมวดหมู่ จำนวน (เล่ม) 1 เฉลิมพระเกียรติฯ A 216 18 เกี่ยวกับหน่วยงาน อื่น O 127 2 เกี่ยวกับ กรมหม่อนไหม B 53 19 กฎหมาย PL 187 3 ความรู้ด้านหม่อน C 72 20 สังคม ศาสนาและ วัฒนธรรม PS 132 4 ความรู้ด้านไหม D 141 21 อาเซียน PA 27 5 ความรู้ด้านหม่อนและ ไหม E 121 22 คอมพิวเตอร์ PC 23 6 ความรู้ย้อมสี-เส้นผ้าไหม F 109 23 อ่านนอกเวลา PN 66 7 ความรู้แปรรูปผลิตภัณฑ์ G 25 24 วิทยานิพนธ์ Q 19 8 ส่งเสริมหม่อนไหม H 42 25 วารสารด้านหม่อน ไหม R 211 9 รายงานประชุมวิชาการ หม่อนไหม I 362 26 วารสารอื่นๆ S 389 10 โครงการวิจัย กรมหม่อนไหม J 49 27 ผลงานประเมิน ปรับระดับ T 155 11 รายงานประจำปี กรมหม่อนไหม K 49 28 หม่อน Eng C 9 12 ความรู้เกษตรด้านพืช LP 108 29 ไหม Eng D 41 13 ความรู้เกษตร ด้านสัตว์ LA 21 30 หม่อนและไหม Eng E 77 14 ความรู้ดิน และภูมิศาสตร์ LS 43 31 ย้อม เส้น ผ้าไหม Eng F 7 15 ความรู้เกษตร ด้านการส่งเสริม LE 96 32 เกษตร Eng L 101 16 สถิติเกษตร M 91 33 อื่นๆ Eng P 31 17 รายงานประจำปี หน่วยงานอื่น N 279 34 ภาษาอื่นๆ For 8 รวม 3,499 เล่ม


82 รายงานผลการดำเนินงาน สำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหม ประจำปี 2565 กรมหม่อนไหม ผลการดำเนินงานด้านห้องสมุด ประจำปีงบประมาณ 2565 จำแนกตามประเภทต่างๆ ดังนี้ 1. ช่วงเวลาในการใช้บริการยืมหนังสือจากห้องสมุดกรมหม่อนไหม ในปีงบประมาณ 2565 ช่วงเวลาที่มีผู้ใช้บริการยืมหนังสือมากที่สุด 3 ลำดับแรก คือ เดือนพฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 29 ในขณะที่ เดือนกุมภาพันธ์ 2565 ร้อยละ 26 และเดือนมีนาคม 2565 ร้อยละ 11 ตุลาคม, 6 เล่ม, 5% พฤศจิกายน, 35 เล่ม, 29% ธันวาคม, 13 เล่ม, 11% กุมภาพันธ์, 32 เล่ม, 26% มีนาคม, 17 เล่ม, 14% มิถุนายน, 13 เล่ม, 11% กรกฎาคม, 3 เล่ม, 2% กันยายน, 3 เล่ม, 2% ตุลาคม พฤศจิกายน ธันวาคม กุมภาพันธ์ มีนาคม มิถุนายน กรกฎาคม กันยายน ผลการดำเนินงาน ช่วงเวลาในการใช้บริการยืมหนังสือ 2. ประเภทผู้ใช้บริการห้องสมุดกรมหม่อนไหม ในปีงบประมาณ 2565 สำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหม ให้บริการห้องสมุดแก่บุคลากร เจ้าหน้าที่กรมหม่อนไหม ร้อยละ 100 3. ประเภทหนังสือที่ถูกยืม ในปีงบประมาณ 2565 มีประเภทหนังสือที่ถูกยืมจากห้องสมุดกรมหม่อนไหม มากที่สุด 3 ลำดับแรก คือ ความรู้ด้านหม่อนและไหม ร้อยละ 30 ความรู้ด้านไหม ร้อยละ 20 และรายงาน ประชุมวิชาการหม่อนไหม ร้อยละ 19 ตามลำดับ


83 รายงานผลการดำเนินงาน สำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหม ประจำปี 2565 กรมหม่อนไหม ประเภทหนังสือที่ถูกยืมจากห้องสมุดกรมหม่อนไ [email protected] ประเภทหนังสือที่ถูกยืม วันและเวลาการให้บริการ วันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 8.30 – 16.30 น. (เว้นวันหยุดราชการ) โทรศัพท์ 0 2558 7924 ต่อ 7220 เว็บไซต์ https://qsds.go.th/newosrd อีเมล์ [email protected] ความรู้ด้านหม่อนและไหม, 37 เล่ม, 30% ความรู้ด้านไหม, 24 เล่ม, 20% รายงานการประชุม วิชาการหม่อนไหม, 23 เล่ม, 19% ผลงานประเมิน ปรับระดับ, 16 เล่ม, 13% ความรู้ย้อมสี-เส้น-ผ้าไหม, 7 เล่ม, 6% ไม่มีรหัสหนังสือ, 6 เล่ม, 5% ส่งเสริมหม่อนไหม, 4 เล่ม, 3% เฉลิมพระเกียรติฯ, 2 เล่ม, 1% ไหมภาษาอังกฤษ, 2 เล่ม, 2% วิทยาพนธ์, 1 เล่ม, 1% ความรู้ด้านไหม รายงานการประชุมวิชาการหม่อนไหม ผลงานประเมินปรับระดับ ความรู้ย้อมสี-เส้น-ผ้าไหม ไม่มีรหัสหนังสือ ส่งเสริมหม่อนไหม เฉลิมพระเกียรติฯ ไหมภาษาอังกฤษ วิทยาพนธ์ ประเภทหนังสือที่ถูกยืม


“รายงานผลการดำเนินงาน สำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหม ประจำปี 2565” นางบุษรา จงรวยทรัพย์ นักวิชาการเกษตรชำนาญการพิเศษ รักษาการในตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญด้านการ อนุรักษ์และตรวจสอบมาตรฐานหม่อนไหม นางสุธิรา พลเจริญ นักวิชาการเกษตรชำนาญการพิเศษ รักษาการในตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ หม่อนไหม นางสาวทิพรรณี เสนะวงศ์ นักวิชาการเกษตรชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนา หม่อนไหม นางสาวสมพร เลิศจิรกุล นักวิชาการเกษตรชำนาญการพิเศษ นางสาวกานดา ฉัตรไชยศิริ นักวิชาการเกษตรชำนาญการพิเศษ นางบัณฑรี โชติมโนธรรม นักวิชาการเกษตรชำนาญการ นางสาวพนาไพร เงินอยู่ นักวิชาการเกษตรชำนาญการ นางสาวศศิพิมพ์ ลิ่มมณี นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการ นายสุรเดช ธีระกุล นักวิชาการออกแบบผลิตภัณฑ์ชำนาญการ นายสงกรานต์ จันทะรัง นักวิชาการเกษตรปฏิบัติการ นางสาววโรทัย รุ่งแสง นักวิชาการเกษตรปฏิบัติการ นางเกณิกา นันทนพิบูล นักวิทยาศาสตร์ปฏิบัติการ นายกฤตไชย พลินทรนันท์ นักวิทยาศาสตร์ปฏิบัติการ นางสาวเจะรอฮานี ยามา นักวิทยาศาสตร์ปฏิบัติการ นางสาวไสบ๊ะ สันดาเส็น เจ้าพนักงานธุรการชำนาญงาน นางสาวจีรนันท์ เบสูงเนิน นักวิชาการเกษตร นางสาวชามิพร แย้มนวล นักวิชาการเกษตร นายกิตติชัย สุขดี จ้างเหมาช่วยปฏิบัติงานนักวิชาการเกษตร นางสาวกรรณิการ์ นามสว่าง จ้างเหมาช่วยปฏิบัติงานนักวิชาการเกษตร นางสาวกนกพร บัวพันธ์ จ้างเหมาช่วยปฏิบัติงานนักวิชาการเกษตร คณะผู้จัดทำ


Click to View FlipBook Version