The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การสรรหาและเลือกสรรพนักงานราชการ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by suvimolis213, 2022-04-24 23:30:13

การสรรหาและเลือกสรรพนักงานราชการ

การสรรหาและเลือกสรรพนักงานราชการ

คานา

เอกสารเลม่ นี้ จดั ทาข้ึนเพ่อื เปน็ แนวปฏิบตั ใิ นการสรรหา เลือกสรรพนักงานราชการให้เป็นไปตาม
ระเบียบสานักนายกรัฐมนตรวี ่าด้วยพนักงานราชการ พ.ศ. 2547 และระเบียบข้อกฎหมายท่เี กยี่ วข้อง
โดยศูนยถ์ า่ ยทอดเทคโนโลยกี ารสหกรณ์ท่ี 19 จังหวดั สุราษฎรธ์ านี เนือ้ หาภายในเล่มมีรายละเอยี ดข้นั ตอน
การดาเนนิ งานสรรหาและเลือกสรรพนกั งานราชการ

ทั้งน้ี หวงั เป็นอย่างย่ิง องคค์ วามรู้ในเรอ่ื งน้ี จะเป็นประโยชน์ไมม่ ากกน็ อ้ ยสาหรบั ผปู้ ฏบิ ัติงาน
และสง่ ผลให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการดาเนินงานสรรหาและเลือกสรรพนักงานราชการตอ่ ไป

ศนู ย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ท่ี 19
จังหวดั สุราษฎร์ธานี

สารบัญ หนา้

ประเภทของพนักงานราชการ 1
- พนักงานราชการทั่วไป 1
- พนกั งานราชการพิเศษ 3
5
แนวทางสรรหาและเลือกสรรพนกั งานราชการ 5
- ขนั้ ตอนการสรรหาและเลอื กสรรพนักงานราชการ (การดาเนินการสอบ) 8
- ขน้ั ตอนการใช้บัญชผี ู้ผ่านการเลือกสรรพนกั งานราชการที่ยังไมห่ มดอายุ 9
10
ขน้ั ตอนการทาสญั ญาจ้างพนกั งานราชการ 11
กระบวนการสรรหาและเลอื กสรรบุคคลเพอื่ จดั จา้ งเป็นพนกั งานราชการ (กรณีการสอบ) 12
กระบวนการสรรหาและเลือกสรรบคุ คลเพือ่ จดั จา้ งเปน็ พนักงานราชการ (กรณีการนารายชอื่ )
ระเบียบทเี่ ก่ยี วข้องกบั การดาเนนิ การสรรหาพนักงานราชการ

การสรรหาและเลอื กสรรพนักงานราชการ

พนกั งานราชการ หมายถึง บุคคลซึ่งไดร้ บั การจ้างตามสัญญาจ้างโดยไดร้ ับค่าตอบแทนจางกบประมาณ
ของสว่ นราชการ เพ่ือเปน็ พนกั งานของรฐั ในการปฏิบัติงานให้กบั ส่วนราชการนัน้

ประเภทของพนกั งานราชการ
พนกั งานราชการมี 2 ประเภท ดังน้ี
1. พนกั งานราชการท่ัวไป หมายถึง พนักงานราชการซ่งึ ปฏบิ ตั ิงานในลกั ษณะเปน็ งานประจาทั่วไป
ของสว่ นราชการในกล่มุ งานต่าง ๆ ไดแ้ ก่

1.1 กล่มุ งานบรกิ าร มีลกั ษณะงานและคุณสมบัติเฉพาะของผู้ปฏิบัติงานในกลุ่มงาน ดงั นี้
1) ลักษณะงานของกลมุ่ งานบรกิ าร
(ก) เป็นงานปฏบิ ัตริ ะดบั ต้นท่ีไม่สลบั ซบั ซ้อน หรือมกี ารกาหนดขน้ั ตอนการ

ปฏิบตั งิ านไวช้ ัดเจน และไมต่ อ้ งใชท้ กั ษะเฉพาะด้าน
(ข) มกี ารใชเ้ ครื่องมอื เครอื่ งใช้ตามลกั ษณะงาน
(ค) มกี ารแกไ้ ขปญั หาและตดั สินใจในระดับท่ไี ม่ย่งุ ยาก

2) คุณสมบัตเิ ฉพาะสาหรบั ผู้ปฏิบัตงิ านในกลมุ่ งานบริการ
(ก) วุฒิการศกึ ษาประกาศนยี บัตรประโยคมธั ยมศึกษาตอนตน้ สายสามญั (ม.ศ. 3)
หรอื ประกาศนยี บตั รมธั ยมศกึ ษาตอนตน้ (ม.3) หรอื ประกาศนียบัตรมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม. 6) หรือเทียบได้
ไม่ตา่ กว่าน้ี หรอื
(ข) วุฒิการศึกษาประกาศนียบัตรวชิ าชีพ (ปวช.) หรือประกาศนียบัตรวชิ าชพี เทคนคิ
(ปวท.) หรือประกาศนยี บัตรวชิ าชีพช้นั สูง (ปวส.) หรือเทียบได้ไมต่ า่ กว่านี้ ในสาขาวชิ าทเ่ี หมาะสกมบั ลกั ษณะงาน
ทปี่ ฏบิ ัติ
1.2 กลุม่ งานเทคนิคมีลกั ษณะงานและคณุ สมบัตเิ ฉพาะของผปู้ ฏบิ ัติงานในกลุม่ งดานงั นี้
1) ลักษณะงานของกลุ่มงานเทคนคิ
(ก) เป็นงานที่ปฏิบัติโดยใช้ความรูค้ วามชานาญทางเทคนคิ ซ่งึ ตอ้ งผ่านการศึกษา
ในระบบการศึกษาในสาขาวชิ าท่ีตรงตามลกั ษณะงานท่จี ะปฏิบัติ หรือเป็นงานท่ีปฏบิ ัตโิ ดยใช้ทักษะเฉพาะของ
บคุ คล ซ่ึงมไิ ด้ผ่านการเรียนการสอนในสถาบันการศึกษาใดเป็นการเฉพาะ
(ข) มกี ารใช้เครอ่ื งมือเคร่ืองใชต้ ามลกั ษณะงาน
(ค) มกี ารแก้ไขปญั หาและการตดั สนิ ใจท่ตี ้องใชค้ วามรู้ทางเทคนคิ หรือทักษะ
เฉพาะของบคุ คลในสาขาน้ันๆ
2) คณุ สมบัตเิ ฉพาะสาหรบั ผ้ปู ฏิบัติงานในกลมุ่ งานเทคนิค
(ก) วฒุ ิการศกึ ษาประกาศนียบัตรวชิ าชพี (ปวช.) หรอื ประกาศนียบตั รวิชาชีพ
เทคนคิ (ปวท.) หรอื ประกาศนยี บตั รวิชาชพี ชั้นสงู (ปวส.) หรอื เทยี บได้ไม่ต่ากว่านี้ ในสาขาวชิ าท่เี หมาะสมกับ
ลกั ษณะงานท่ปี ฏบิ ตั ิ หรือ
(ข) ในกรณีท่ีเป็นงานทีต่ อ้ งใช้ทักษะเฉพาะของบุคคล ซงึ่ มิไดผ้ า่ นการเรยี นการสอน
ในสถาบนั การศกึ ษาใดเป็นการเฉพาะ ผนู้ ้นั จะต้องมคี วามรู้ ความสามารถและทักษะในงานทจ่ี ะปฏบิ ตั ิไม่ตา่
กว่า 5 ปี โดยตอ้ งสามารถพิสจู นใ์ หเ้ ห็นถึงความมีทักษะในงานนัน้ ๆ โดยมหี นังสือรบั รองการทางานจาก

2

นายจา้ งหรือหน่วยงานซึง่ ระบุถงึ ลกั ษณะงานทีไ่ ดป้ ฏบิ ัติ หรือมีการทดสอบทกั ษะเฉพาะบคุ คลดว้ ยการทดลอง
ปฏบิ ตั ิ

1.3 กลุ่มงานบรหิ ารทวั่ ไป มลี กั ษณะงานและคุณสมบัตเิ ฉพาะของผู้ปฏบิ ตั ิงานในกลุ่มงาน

ดังนี้

1) ลักษณะงานของกลมุ่ งานบริหารท่วั ไป

(ก) เปน็ งานในลักษณะเช่นเดยี วกับทข่ี า้ ราชการปฏิบตั ิ ซึ่งอาจเป็นงาน ในภารกิจ

หลัก ภารกิจรองหรอื ภารกจิ สนับสนนุ หรือเป็นงานตามนโยบายสาคญั ของรัฐบาล หรอื เป็นงานทีม่ ีความจาเปน็

เร่งด่วน ทมี่ รี ะยะเวลาเริ่มตน้ และส้ินสดุ แน่นอน หรือ

(ข) เป็นงานทไ่ี ม่ใชล่ ักษณะเชน่ เดียวกับท่ีข้าราชการปฏบิ ตั ิ แตจ่ าเป็นตอ้ งใช้ ผู้

ปฏิบตั ิทมี่ คี วามรู้ระดบั ปรญิ ญา

2) คณุ สมบตั ิเฉพาะสาหรบั ผปู้ ฏบิ ัติงานในกล่มุ งานบรหิ ารท่ัวไปกาหนด คุณวุฒิ

ไม่ตา่ กว่าปรญิ ญาตรีในสาขาวิชาท่ีเหมาะสมกับลักษณะงานท่ีปฏิบตั ิ

1.4 กลุ่มงานวิชาชพี เฉพาะมีลกั ษณะงานและคุณสมบตั ิเฉพาะของผู้ปฏบิ ัตงิ านในกลุ่มงาน
ดงั นี้

1) ลกั ษณะงานของกล่มุ งานวิชาชพี เฉพาะ
(ก) เป็นงานวิชาชพี ท่ตี อ้ งปฏบิ ัตโิ ดยผู้สาเรจ็ การศกึ ษาในระดับปริญญาทไี่ ม่อาจ
มอบหมายให้ผมู้ ีคณุ วฒุ อิ ย่างอนื่ ปฏบิ ตั ิงานแทนได้ และเป็นงานทม่ี ผี ลกระทบตอ่ ชวี ติ ร่างกายและทรพั ย์สินของ
ประชาชนอยา่ งเหน็ ได้ชัด โดยมีองคก์ รตามกฎหมายทาหนา้ ที่ตรวจสอบ กลัน่ กรอง และรับรองการประกอบ
วชิ าชพี รวมทั้งลงโทษผู้กระทาผิดกฎหมายเกี่ยวกบั การประกอบวิชาชีพดังกล่าว หรือ
(ข) เปน็ งานวิชาชพี ทีต่ ้องปฏบิ ตั ิโดยผ้สู าเร็จการศึกษาในระดับปรญิ ญาทีไ่ มอ่ าจ
มอบหมายใหผ้ ูม้ ีคุณวุฒิอยา่ งอื่นปฏิบัติงานแทนได้ และเปน็ งานที่มีผลกระทบตอ่ ชวี ิต ร่างกายและทรพั ย์สนิ ของ
ประชาชนอย่างเหน็ ได้ชดั อกี ทัง้ เป็นงานทีข่ าดแคลนกาลังคนในภาคราชการ หรือ
(ค) เป็นงานวิชาชีพท่ตี อ้ งปฏิบตั ิโดยผสู้ าเร็จการศึกษาในระดบั ปริญญาทไ่ี มอ่ าจ
มอบหมายใหผ้ ู้มีคณุ วุฒอิ ยา่ งอน่ื ปฏิบตั งิ านแทนได้ และเปน็ งานทางวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยที มี่ ลี กั ษณะ
ในเชิงวจิ ัยและพฒั นา อกี ทงั้ เป็นงานที่ขาดแคลนกาลงั คนในภาคราชการ

2) คุณสมบตั เิ ฉพาะสาหรับผ้ปู ฏิบตั ิงานในกลุ่มงานวชิ าชพี เฉพาะ
(ก) วฒุ ิการศึกษาไม่ต่ากว่าปริญญาตรี และไดร้ ับใบอนุญาตประกอบวชิ าชีพเฉพาะ หรือ

(ข) วฒุ กิ ารศึกษาไม่ตา่ กวา่ ปริญญาตรี และได้รับประกาศนียบตั รหรอื หนงั สือ
รบั รองความรู้ในสาขาวชิ าชีพเฉพาะในระดับทีส่ งู กวา่ ปรญิ ญาตรี หรอื
(ค) วุฒกิ ารศึกษาไมต่ ่ากว่าปรญิ ญาตรี

1.5 กลุ่มงานเชี่ยวชาญเฉพาะมีลักษณะงานและคณุ สมบตั ิเฉพาะของผปู้ ฏิบตั งิ านในกลุม่ งาน
ดงั น้ี

1) ลักษณะงานของผ้ปู ฏบิ ัตงิ านในกล่มุ งานเช่ยี วชาญเฉพาะ
(ก) เปน็ งานทปี่ ฏบิ ตั ิโดยอาศัยพนื้ ฐานความรู้ ประสบการณ์ การฝกึ ฝนทฤษฎี
หลกั วิชาการทเ่ี กย่ี วขอ้ งกับงาน หรอื ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ หรอื เป็นงานเชงิ พัฒนาระบบหรือมาตรฐานของงานท่ี
ต้องใชค้ วามรูค้ วามสามารถ และประสบการณ์เช่ียวชาญเฉพาะดา้ นนนั้ ๆ
(ข) ในบางลักษณะงานมกี ารใช้เครอื่ งมอื เครือ่ งใชท้ ่เี ก่ียวข้อง

3

2) คณุ สมบัตเิ ฉพาะสาหรบั ผปู้ ฏิบตั ิงานในกลุม่ งานเชยี่ วชาญเฉพาะ
(ก) วฒุ กิ ารศึกษาไม่ตา่ กวา่ ปริญญาตรี และมปี ระสบการณใ์ นงานที่จะปฏบิ ตั ิ
เป็นเวลาไมน่ อ้ ยกว่า 6 ปีสาหรับวุฒกิ ารศกึ ษาปรญิ ญาตรี 4 ปีสาหรบั วุฒิการศึกษาปรญิ ญาโท และ 2 ปี
สาหรับวุฒิการศึกษาปริญญาเอก หรือ
(ข) วฒุ ิการศึกษาไมต่ า่ กว่าปรญิ ญาตรี และไดร้ บั ประกาศนยี บตั รในสาขาทตี่ รง
กับความจาเป็นของลกั ษณะงาน โดยจะตอ้ งมีประสบการณ์ในงานท่จี ะปฏบิ ัตเิ ปน็ เวลาไมน่ ้อยกว่า 6 ปีสาหรบั
วุฒปิ รญิ ญาตรี 4 ปสี าหรบั วฒุ ปิ ริญญาโท และ 2 ปีสาหรับวฒุ ปิ ริญญาเอก หรือ
(ค) มีประสบการณใ์ นงานท่ีจะปฏบิ ัตเิ ป็นเวลาไม่ตา่ กว่า10 ปี และมีผลงานเป็นที่
ยอมรับในวงการนน้ั
ท้งั นี้ ประสบการณ์ที่กาหนดเป็นคุณสมบัติเฉพาะดงั กลา่ ว จะต้องสามารถพสิ จู นใ์ ห้
เหน็ ถึงความมปี ระสบการณใ์ นงานนนั้ ๆ โดยมหี นังสอื รบั รองการทางานจากนายจ้างหรอื หน่วยงานซ่งึ ระบถุ ึง
ลกั ษณะงานที่ไดป้ ฏิบัติหรอื มีการทดสอบความชานาญ หรอื ความเชยี่ วชาญ ในงานท่ีจะปฏบิ ตั ิ หรอื มีผลงานซึ่ง
แสดงถึงความมีประสบการณ์ในลกั ษณะงานท่ีจะปฏบิ ตั ิอย่างนอ้ ย 2 ช้นิ หรอื ตามทีส่ ว่ นราชการจะกาหนด

2. พนกั งานราชการพิเศษหมายถึง พนักงานราชการซง่ึ ปฏบิ ตั งิ านในลักษณะท่ตี ้องใชค้ วามรหู้ รือความ

เชย่ี วชาญสูงมากเป็นพเิ ศษ เพือ่ ปฏบิ ตั งิ านในเร่ืองท่ีมีความสาคัญและจาเปน็ เฉพาะเรือ่ ง ของส่วนราชการ หรอื

ลักษณะงานมีความจาเปน็ ต้องใช้บุคคลในลกั ษณะดังกลา่ วในการปฏบิ ัตงิ าน ได้แก่

กลมุ่ งานเชย่ี วชาญพเิ ศษ มลี ักษณะงานและคณุ สมบัติเฉพาะของผูป้ ฏิบตั ิงานใน กลมุ่ งาน

ดังนี้

1) ลกั ษณะงานของกล่มุ งานเชยี่ วชาญพิเศษ

(ก) เป็นงานท่ีตอ้ งปฏบิ ตั โิ ดยบุคคลท่มี ีความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์และ

ความเช่ยี วชาญเป็นพิเศษในสาขาวิชาท่ีเก่ียวขอ้ งกบั งานหรือโครงการ ซงึ่ เปน็ ทยี่ อมรับในวงการ ดา้ นน้นั แๆละ

(ข) เป็นงานหรือโครงการทม่ี ภี ารกจิ หรือเปาู หมายชดั เจน และมีกาหนดระยะเวลา

สิ้นสดุ แนน่ อน โดยไดร้ บั อนุมัติจากหัวหน้าส่วนราชการให้ดาเนนิ การไดภ้ ายในวงเงนิ งบประมาณที่ไดร้ ับจดั สรร

และ

(ค) เป็นงานหรอื โครงการทมี่ คี วามสาคัญ เรง่ ดว่ น ทีต่ ้องดาเนนิ การใหแ้ ล้วเสร็จ

โดยเร็ว และ

(ง) เป็นงานหรอื โครงการท่ีไม่อาจหาผู้ปฏิบตั ทิ ่ีเหมาะสมในหนว่ ยงานได้

2) คณุ สมบัตเิ ฉพาะสาหรับผูป้ ฏิบัติงานในกล่มุ งานเช่ยี วชาญพิเศษให้สว่ นราชการ
พิจารณากาหนดจากคุณวฒุ กิ ารศกึ ษา ประสบการณ์ และผลงานความเชยี่ วชาญพิเศษตามความต้อขงอกงางรานหรอื
โครงการ ดงั นี้

ระดับความเช่ยี วชาญ วุฒิการศึกษา ประสบการณ์ ผลงานดา้ น
พิเศษ ทีเ่ กีย่ วข้อง
สาเรจ็ การศึกษาจาก
ระดับสากล สถาบนั การศกึ ษาช้ันนา เปน็ ทย่ี อมรบั ในวงการ มผี ลงานทเ่ี กย่ี วข้องกับ
(World Class) ของตา่ งประเทศใน
ชาวต่างประเทศ หรอื สาขาวชิ าทเี่ กีย่ วขอ้ งกับ วชิ าการในระดบั สากล งาน/โครงการในระดับ
ชาวไทย
ไม่นอ้ ยกวา่ 10 ปี และมี สากลอยา่ งนอ้ ย 5 ช้ิน

ความเชี่ยวชาญรอบรูใ้ น

4

ระดับความเชี่ยวชาญ วฒุ กิ ารศึกษา ประสบการณ์ ผลงานด้าน
พเิ ศษ ท่เี กี่ยวข้อง

ระดบั ประเทศ งาน/โครงการทจ่ี ะ สาขาวชิ าอนื่ ๆ ท่เี ปน็

ระดับทว่ั ไป ปฏบิ ัติ ประโยชนต์ ่องาน

สาเร็จการศึกษาจาก เป็นท่ียอมรบั ในวงการ มีผลงานท่ีเกยี่ วขอ้ งกบั

สถาบนั การศึกษาช้นั นา วิชาการด้านทีเ่ กี่ยวขอ้ ง งาน/โครงการในระดบั

ของตา่ งประเทศหรอื ใน ในระดับประเทศ ประเทศอย่างนอ้ ย

ประเทศในสาขาวิชาท่ี ไมน่ อ้ ยกว่า 10 ปี และมี 5 ชิ้น

เกีย่ วขอ้ งกบั งาน/ ความเชย่ี วชาญรอบรู้ใน

โครงการท่จี ะปฏบิ ตั ิ สาขาวิชาอืน่ ๆ ที่เปน็

ประโยชนต์ อ่ งาน

สาเร็จการศึกษาจาก เป็นทีย่ อมรบั ในวงการ มผี ลงานทเ่ี ก่ียวข้อง

สถาบันการศกึ ษาชัน้ นา วชิ าการด้านทีเ่ กยี่ วข้อง กบั งาน/โครงการ

ของตา่ งประเทศ หรอื ใน 5 – 10 ปี ในระดับประเทศ

ประเทศ ในสาขาวิชาท่ี อยา่ งน้อย 3 ชิน้

เก่ยี วข้องกบั งาน/โครงการ

ท่จี ะปฏิบตั ิ

หลักการสาคญั ของการสรรหาและเลอื กสรรพนักงานราชการ
สว่ นราชการดาเนนิ การสรรหาและเลือกสรรบุคคลเพ่ือเป็นพนกั งานราชการโดยคานึงถงึ

1. ความรู้ความสามารถ ทักษะและสมรรถนะของบุคคลที่จาเปน็ ตอ่ การปฏิบตั ิงาน ซงึ่
สมรรถนะ หมายถึง คณุ ลักษณะเชงิ พฤตกิ รรมท่ีเปน็ ผลมาจากความรู้ ทกั ษะหรอื ความสามารถและคุณลักษณะ
อื่น ๆ ทท่ี าให้บุคคลสามารถสร้างผลงานได้โดดเด่นในองคก์ ร

2. ความเทา่ เทียมในโอกาส
3. ประโยชน์ของทางราชการ
และดาเนินการดว้ ยกระบวนการท่ีไดม้ าตรฐาน ยุตธิ รรม และโปร่งใส เพอื่ รองรับ การ
ตรวจสอบตามแนวทางการบริหารกจิ การบา้ นเมืองท่ีดี

ผูร้ บั ผดิ ชอบในการดาเนินการ
สว่ นราชการซ่งึ มกี รอบอัตรากาลัง และงบประมาณในการจดั จา้ งพนกั งานราชการเปน็
ผรู้ ับผิดชอบในการดาเนินการสรรหาและเลือกสรรพนกั งานราชการ ท้งั พนักงานราชการท่ัวไปและพนกั งาน
ราชการพเิ ศษ

5

แนวทางสรรหาและเลอื กสรรพนกั งานราชการ
การดาเนนิ การสรรหาและเลือกสรรพนักงานราชการ สามารถดาเนนิ การได้ ๒ วธิ ี
วธิ ที ี่ ๑ การดาเนินการสอบ
วธิ ที ี่ ๒ การใช้บญั ชีผผู้ า่ นการเลือกสรรพนกั งานราชการท่ยี ังไม่หมดอายุ

ขัน้ ตอนการสรรหาและเลอื กสรรพนกั งานราชการ (การดาเนินการสอบ)
1. วางแผนดาเนินการสรรหาและเลือกสรร
เมอ่ื หน่วยงานมีตาแหนง่ วา่ งจะดาเนนิ การวางแผนการสรรหาและเลอื กสรร และกาหนด

รายละเอียดแผนปฏิบัติงานสรรหาและเลอื กสรรเพ่ือจัดจ้างเป็นพนักงานราชการในตาแหน่งทว่ี ่าง โดย กาหนด
ลกั ษณะงานทีป่ ฏิบัตแิ ละหนา้ ที่ความรบั ผิดชอบ

2. การแต่งตั้งคณะกรรมการดาเนนิ การสรรหาและเลอื กสรร

หวั หนา้ สว่ นราชการแตง่ ต้งั คณะกรรมการดาเนนิ การสรรหาและเลือกสรร จานวนไมน่ อ้ ยกว่า 3

คน ประกอบด้วย

1) หวั หน้าสว่ นราชการหรือผู้ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย เป็นประธาน

2) ผแู้ ทนทีร่ บั ผิดชอบงานหรือโครงการทมี่ ีตาแหนง่ ท่ีจะสรรหาและเลอื กสรร เป็นกรรมการ

และในกรณที เ่ี ห็นสมควร สามารถให้มผี ทู้ รงคณุ วฒุ ิหรอื ผู้มีประสบการณท์ เี่ ก่ียวขอ้ งทง้ั จากภายในหรือภายนอก

สว่ นราชการเปน็ กรรมการดว้ ยได้

3) นกั ทรัพยากรบุคคล หรือผู้ปฏบิ ตั ิงานด้านงานบุคคล ซึง่ เปน็ เจ้าหน้าท่ีท่ีปฏบิ ัติงานลกั ษณะ

เดยี วกับงานการเจ้าหนา้ ทข่ี องส่วนราชการหรือจังหวดั แตม่ ใิ ช่ดารงตาแหนง่ นักทรัพยากรบคุ คลก็ได้ เปน็

กรรมการและเลขานกุ าร

ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการดาเนินการสรรหาและเลือกสรร รับผิดชอบในการดาเนินการเลอื กสรร
พนกั งานราชการ ตามหลักเกณฑ์ และวิธกี ารทีก่ าหนดในประกาศรับสมคั ร แต่งตัง้ กรรมการหรือเจา้ หน้าที่
ดาเนนิ การในเรื่องอน่ื ๆ ทเี่ ก่ยี วกับการสรรหาพนกั งานราชการตามความจาเป็น ดาเนินการในเรื่องที่เก่ียวข้อง
เชน่ กาหนดวัน เวลา สถานที่ และระเบียบเกย่ี วกบั การประเมนิ สมรรถนะ รวมถงึ การตดั สินปญั หาต่าง ๆ ที่
เกย่ี วกบั การดาเนนิ การ โดยไม่ขดั ตอ่ หลักเกณฑ์ วธิ ีการสรรหาและเลอื กสรร ตามประกาศคณะ
กรรมการบริหารพนกั งานราชการ ลงวนั ท่ี 11 กันยายน 2552 และควบคมุ ดแู ลการดาเนินการใหเ้ ป็นไปด้วย
ความเรียบรอ้ ยและยุติธรรม และเมือ่ ดาเนินการเสร็จสิ้นแลว้ ใหร้ ายงานผลหวั หน้าส่วนราชการ

3. การประชมุ คณะกรรมการดาเนินการสรรหาและเลอื กสรร
คณะกรรมการดาเนินการสรรหาและเลอื กสรร ประชมุ เพือ่ กาหนดวนั เวลา และสถานทส่ี อบ

กาหนดวิธกี ารสอบ การออกขอ้ สอบ เกณฑ์การตัดสนิ รวมทั้งพจิ ารณาแผนดาเนนิ การสรรหาและเลือกสรร
พนกั งานราชการ เพือ่ ใหค้ ณะกรรมการฯ พิจารณากล่นั กรองร่างประกาศรบั สมัครก่อนนาเสนอหวั หนา้ ส่วน
ราชการ (ผู้รบั มอบอานาจ) ลงนาม

4. จัดทาประกาศรบั สมัคร
สว่ นราชการจดั ทาประกาศรบั สมัคร โดยผู้ปฏบิ ตั งิ านด้าน งานบุคคล ควรรว่ มกบั ผูแ้ ทนที่

รบั ผิดชอบงานหรือโครงการทมี่ ีตาแหน่งทจ่ี ะสรรหาและเลือกสรร จดั ทาร่างประกาศรบั สมัคร เพื่อเสนอหวั หน้า
ส่วนราชการ (ผู้รบั มอบอานาจ) ลงนามในประกาศรบั สมคั ร หรือผปู้ ฏิบัตงิ านดา้ น งานบคุ คล อาจร่วมกบั ผู้
แทนทรี่ บั ผดิ ชอบงานหรือโครงการท่ีมีตาแหน่งท่ีจะสรรหาและเลอื กสรรจัดทารา่ งประกาศรับสมัครและเสนอ

6

คณะกรรมการดาเนินการสรรหาและเลือกสรรพิจารณา ก่อนเสนอหวั หน้าส่วนราชการ (ผ้รู ับมอบอานาจ)
ลงนามในประกาศรบั สมคั ร โดยประกาศรบั สมคั รควรมีรายละเอียดดงั ต่อไปน้ี

1) กลุ่มงานตามลกั ษณะงาน
2) ชื่อตาแหนง่ ซ่งึ ส่วนราชการสามารถกาหนดชื่อตาแหน่งได้ตามความเหมาะสม กับ
หนา้ ทค่ี วามรบั ผดิ ชอบ เสนอ อ.ก.พ. กระทรวงฯ อนุมัติ โดยการเห็นชอบของคณะกรรมการบรหิ ารพนกั งาน
ราชการ
3) ลกั ษณะงานท่จี ะปฏบิ ัติ และหน้าท่คี วามรบั ผิดชอบของตาแหน่ง
4) ระยะเวลาการจ้าง ตามความจาเป็นหรือตามภารกิจของส่วนราชการ แตไ่ มเ่ กนิ 4 ปี
หรือระยะเวลาของกรอบอตั รากาลังพนักงานราชการ
5) ค่าตอบแทนทจี่ ะไดร้ ับตามหลกั เกณฑท์ ่ีกาหนดในประกาศ คพร. เร่ือง
ค่าตอบแทนและสิทธิประโยชน์ของพนักงานราชการ
6) คุณสมบตั ิของผมู้ ีสทิ ธิสมคั ร กาหนดคุณสมบัติทว่ั ไปตามทก่ี าหนด ในข้อ 8 ของ
ระเบียบสานักนายกรัฐมนตรวี า่ ดว้ ยพนกั งานราชการ พ.ศ. 2547 ยกเว้นขอ้ 8 (8) ส่วนคณุ สมบตั เิ ฉพาะ
สาหรับตาแหน่งใหพ้ ิจารณากาหนดคณุ วฒุ ิการศึกษาทเ่ี หมาะสมและสอดคลอ้ งกบั ลักษณะงานท่ปี ฏิบตั ิ
7) หลกั เกณฑก์ ารเลอื กสรร กาหนดความรู้ ความสามารถหรอื ทกั ษะ และสมรรถนะ
ทจ่ี าเปน็ ตอ้ งใชส้ าหรับการปฏบิ ตั งิ านในตาแหนง่ และวิธีการประเมนิ ในเรอื่ งต่าง ๆ ทีก่ าหนด
8) เกณฑ์การตัดสนิ และเงอ่ื นไขการจ้างอนื่ ๆ ตามความเหมาะสมกับหลกั เกณฑ์ การ
เลอื กสรรที่กาหนด
9) คา่ ธรรมเนียมในการสอบ ส่วนราชการสามารถกาหนดค่าธรรมเนยี มในการสอบ
ไดต้ ามความเหมาะสมและความจาเปน็ กับการดาเนนิ การสรรหาและเลือกสรร
10) หลกั ฐานต่าง ๆ ทต่ี ้องใช้ในการรบั สมคั ร

5. แพร่ข่าวการรับสมคั ร
สง่ สาเนาประกาศรับสมัครเพอ่ื แพรข่ า่ วเป็นการท่วั ไปและในเว็บไซตข์ องสว่ นราชการที่เปดิ รบั

สมคั ร โดยมรี ะยะเวลาไมน่ ้อยกว่า 5 วนั ทาการ
เตรยี มเอกสารการสมัครต่าง ๆ เช่น ใบสมคั ร บตั รประจาตวั ผู้สมคั ร แบบคาขร้อสงมคั ร เปน็ ตน้

6. การรบั สมคั ร

จดั เตรียมการรบั สมคั ร ตามจานวนวันทก่ี าหนดไว้ในประกาศรบั สมคั ร ซึ่งอาจเป็นการรบั สมัคร

ด้วยตนเอง รบั สมัครทางไปรษณยี ์ หรือรบั สมัครผ่านทางอนิ เทอร์เนต็ โดยถ้าเป็นการรบั สมัครด้วยตนเอง

จะต้องจัดเตรียมสถานท่ีทรี่ ับสมัครและเจา้ หน้าท่ีรบั สมคั รทเ่ี หมาะสมและพอเพยี งกบั จานวนผู้ท่ีคาดวา่ จะมา

สมคั ร

7. การตรวจสอบคุณสมบตั ผิ ู้สมคั ร

ตรวจสอบหลักฐานต่าง ๆ เชน่ ใบสมคั ร สาเนาบตั รประจาตัวประชาชน ปรญิ ญาบัตร เป็นตน้

ตามที่ระบุไว้ในประกาศรับสมัคร ทง้ั น้ีในกรณกี ารตรวจสอบวฒุ กิ ารศกึ ษา หากไม่สามารถตรวจสอบได้แนช่ ัด

ใหป้ ระสานกลมุ่ สรรหาและบรรจุแตง่ ตั้ง กองการเจา้ หนา้ ที่ กรมสง่ เสรมิ สหกรณ์

8. การประกาศรายชอื่ ผู้มสี ทิ ธิเข้ารบั การประเมิน

7

หลังจากตรวจสอบคณุ สมบตั คิ รบถ้วนแลว้ ส่วนราชการจัดทาประกาศรายชือ่ ผูม้ ีสทิ ธเิ ข้ารับ
การประเมินความรคู้ วามสามารถ ทักษะ และสมรรถนะ พรอ้ มประกาศกาหนดวัน เวลา สถานท่ีและระเบยี บ
เกี่ยวกบั การประเมินความรู้ความสามารถ ทกั ษะ และสมรรถนะดงั กลา่ ว

ซึ่งการประเมนิ ในแตล่ ะเรอื่ งมวี ธิ ีการประเมินได้หลากหลายวิธี แตว่ ิธีท่ีสว่ นราชการนยิ มใชใ้ น
ปัจจุบนั คือ การสอบขอ้ เขียน การทดสอบตวั อย่างงาน (Work Samples) และการสอบสมั ภาษณ์ ซึ่งวธิ กี าร
ต่าง ๆ ดงั กลา่ วนี้ ฝาุ ยเลขานุการคณะกรรมการดาเนินการสรรหาและเลอื กสรรควรเตรยี มการในเรอื่ งต่าง ๆ
ดงั นี้

กรณกี ารประเมนิ สมรรถนะ ครงั้ ที่ 1 (สอบข้อเขียน หรอื การทดสอบตวั อย่างงาน)
1) จดั หาสถานที่สอบทเ่ี หมาะสมกับจานวนผ้สู มัครสอบ
2) จดั ทาประกาศกาหนดวัน เวลา และสถานท่สี อบ และระเบยี บเกี่ยวกับการสอบ
3) จัดทาคาส่ังแตง่ ตัง้ เจ้าหน้าท่จี ัดทาแบบทดสอบ และกระดาษคาตอบ หรอื สมดุ

เขียนตอบ สาหรบั การสอบขอ้ เขียน และอปุ กรณ์ตา่ ง ๆ ทตี่ อ้ งใช้ในการทดสอบตวั อยา่ งงาน คาสั่งแตง่ ตัง้
คณะกรรมการออกข้อสอบและเจา้ หน้าทีป่ ฏบิ ตั งิ านในวันสอบ รวมทั้งคาสัง่ แตง่ ตง้ั เจา้ หน้าทกี่ รอกและรวม
คะแนน โดยคาสงั่ ต่าง ๆ ยกเว้นคาสง่ั แตง่ ตั้งเจา้ หนา้ ทีป่ ฏิบตั ิงานในวนั สอบ ถือเปน็ เรอ่ื งลับท่ไี ม่ควรเปดิ เผยใหผ้ ู้
ทไี่ ม่มสี ่วนเก่ียวขอ้ งทราบ

4) จัดหางบประมาณและค่าตอบแทนแก่เจ้าหน้าท่ีและกรรมการ
5) จัดให้มีการประชมุ ชีแ้ จงกรรมการและเจา้ หนา้ ท่ีปฏบิ ัตงิ านในวันสอบก่อน
การดาเนนิ การสอบ เพ่อื ให้ทราบและตระหนกั ถึงความสาคญั แนวทางในการปฏบิ ัตงิ านท้งั ทเี่ ป็นความลบั และ
ไมเ่ ปน็ ความลบั และมาตรการรักษาความปลอดภยั

กรณกี ารประเมินสมรรถนะ ครัง้ ท่ี 2 (สอบสมั ภาษณ์)
1) จัดหาสถานท่ี ได้แก่ ห้องรอสอบสมั ภาษณ์และหอ้ งสอบสัมภาษณ์
2) จัดทาประกาศกาหนดวัน เวลา และสถานทส่ี อบ และระเบียบเกี่ยวกบั การสอบ
3) จัดทาคาส่งั แต่งต้งั กรรมการสอบสัมภาษณแ์ ละเจา้ หนา้ ที่ปฏบิ ัติงาน รวมทั้งคาสัง่

แตง่ ตัง้ เจา้ หน้าท่กี รอกและรวมคะแนน
4) จดั หางบประมาณและคา่ ตอบแทนแก่เจา้ หน้าท่แี ละกรรมการ
5) จัดเตรยี มเอกสารในวันสัมภาษณ์ เช่น แบบฟอรม์ การประเมิน ใบเซ็นช่อื ทหี่ น้าซอง

กรรมการสอบสัมภาษณ์ เป็นต้น
6) จัดให้มีการประชมุ ชแ้ี จงกรรมการสัมภาษณ์และเจ้าหน้าที่ปฏิบตั งิ าน เพ่อื ให้ทราบ

และตระหนักถึงความสาคัญ และซกั ซอ้ มความเข้าใจและตกลงเกย่ี วกบั แนวทางการสมั ภาษณแ์ ละแนวทากงารให้
คะแนนทีเ่ ปน็ ความลบั เพ่ือใหก้ ารปฏบิ ตั ิงานเป็นมาตรฐานเดยี วกัน

9. การประกาศรายชอื่ ผผู้ า่ นการเลือกสรร

เมื่อเจ้าหนา้ ทท่ี ไี่ ดร้ บั แตง่ ต้งั ใหก้ รอกและรวมคะแนน ซ่ึงไดจ้ ดั ลาดบั ท่ขี องผสู้ อบผา่ นแลว้ ให้

จดั ทาประกาศรายช่ือผผู้ ่านการเลือกสรรเสนอประธานกรรมการดาเนินการสรรหาและเลือกสรรเพ่อื รายงานให้

หวั หน้าสว่ นราชการ (ผ้รู บั มอบอานาจ) ทราบ และลงนามในประกาศรายชอ่ื ผผู้ ่านการเลือกสรรต่อไป โดย

กาหนดใหบ้ ญั ชรี ายชอื่ ผผู้ า่ นการเลอื กสรรมีอายตุ ามท่ีสว่ นราชการเหน็ สมควร แตท่ ง้ั นต้ี อ้ งไมเ่ กิน 2 ปี นบั แต่

วนั ประกาศรายช่อื ผูผ้ า่ นการเลอื กสรร

8

10. การเรียกผู้ผ่านการเลือกสรรมารายงานตวั
สว่ นราชการต้องเรยี กผผู้ า่ นการเลือกสรรมารายงานตัวและจัดจ้างตามจานวนอตั ราวา่ งภายใน

ระยะเวลาของอายุบัญชี แต่ในกรณีท่สี ่วนราชการมีเหตผุ ลความจาเปน็ ทจ่ี ะจดั จา้ งพนักงานราชการภาย
หลังจากบัญชฯี หมดอายุ สว่ นราชการตอ้ งมีการเรียกผูผ้ ่านการเลอื กสรรมารายงานตัวภายในระยะเวลาของ
อายบุ ัญชี และการทาสญั ญาจ้างต้องดาเนินการภายใน 30 วนั นบั จากวนั ท่ีบัญชีหมดอายุ

ส่งหนังสือแจ้งและกาหนดวันใหผ้ ู้ผา่ นการเลือกสรรฯ ลาดับท่ี ๑ มารายงานตวั เพอื่ แสดงความ
จานงเขา้ รบั การจดั จ้าง เมอ่ื ผผู้ ่านการเลือกสรรฯ มารายงานตัว ชี้แจงรายละเอียดต่าง ๆ เช่น วันกาหนดให้เข้า
ปฏิบัติงาน รับหนงั สอื พิมพ์ลายน้วิ มอื เปน็ ตน้ จัดทาหนังสอื ถงึ สถานีตารวจทอ้ งท่ตี ามภูมิลาเนาของพนักงาน
ราชการ เพอ่ื ขอใหต้ รวจสอบความประพฤตแิ ละพมิ พล์ ายนวิ้ มอื และให้พนักงานราชการกรอกเอกสาร (ประวัติ
พนักงานราชการ, สญั ญาจา้ ง) หลงั จากนั้นจัดทาหนงั สือเสนอคาสงั่ จ้างและสัญญาจา้ งพนกั งานราชการ ใหผ้ ูม้ ี
อานาจลงนาม

ข้นั ตอนการใช้บญั ชผี ผู้ า่ นการเลือกสรรพนักงานราชการท่ยี ังไมห่ มดอายุ

1. การใชบ้ ัญชีผูผ้ า่ นการเลือกสรรพนักงานราชการของส่วนราชการอนื่
เม่อื ส่วนราชการมอี ัตราวา่ ง และไมม่ ีบัญชผี ูผ้ า่ นการเลอื กสรรพนักงานราชการในตาแหน่งนัน้ ๆ

หวั หนา้ ส่วนราชการสามารถขอใชบ้ ัญชีผู้ผา่ นการเลอื กสรรพนกั งานราชการของส่วนราชการอื่นได้ โดยมเี งื่อนไข
ว่าตาแหน่งท่จี ะขอใชบ้ ัญชีผ้ผู ่านการเลอื กสรรกับตาแหน่งท่มี ีการขึ้นบัญชีผผู้ ่านการเลือกสรรไวจ้ ะต้องมีลักษณะ
งานเหมอื นกนั หรอื คลา้ ยคลึงกนั และตอ้ งมีคณุ สมบัติเฉพาะสาหรบั ตาแหน่งอยา่ งเดยี วกนั หรอื คลา้ ยคลึงกนั โดย
สว่ นราชการผ้ขู อใช้บญั ชีดาเนนิ การดังน้ี

1.1 กาหนดหลกั เกณฑ์และวิธีการเลอื กสรรท้ังในส่วนของความรู้ความสามารถ ทกั ษะ และ
สมรรถนะท่ีจะประเมนิ เพม่ิ เตมิ และแต่งต้ังคณะกรรมการดาเนินการสรรหาและเลอื กสรรเพือ่ ประเมนิ ฯ ก่อน
การประกาศรายชือ่ ผผู้ า่ นการเลือกสรร

1.2 ประสานกับส่วนราชการเจา้ ของบัญชโี ดยตรงในเรือ่ งจานวนรายช่ือผู้ผา่ นการเลแอื ลกะสขร้อรมลู
ผูผ้ ่านการเลอื กสรรดังกล่าวท่ีต้องการ เชน่ อาจขอจานวนรายช่อื ผ้ผู า่ นการเลือกสรรจานวน 3 เท่าของ
ตาแหนง่ วา่ ง หรอื จานวน 5 เท่าของตาแหน่งว่าง เปน็ ตน้

1.3 เมอื่ ไดจ้ านวนรายชื่อและขอ้ มูลของผู้ผ่านการเลือกสรรแล้ว ตอ้ งแจง้ ผ้ผู า่ นการเลือกสรร
ตามรายช่อื ให้ทราบ เพ่อื มาแจง้ ความประสงค์สมคั รเข้ารบั การประเมนิ โดยควรทาเป็นหนังสอื ราชการถงึ ผผู้ ่าน
การเลอื กสรรทกุ คนโดยตรง ตามขอ้ มูลที่อย่ทู ไ่ี ดร้ บั จากส่วนราชการเจ้าของบัญชี

1.4 การขึ้นบัญชีผูผ้ า่ นการเลือกสรรจะมีอายบุ ัญชีเท่ากับระยะเวลาท่ีเหลอื ของอายบุ ัญชี
ผู้ผา่ นการเลือกสรรที่ขอใช้

2. การใชบ้ ญั ชีผผู้ ่านการเลือกสรรพนกั งานราชการในส่วนราชการเดยี วกัน
2.1 กรณเี ป็นอตั ราว่างในชื่อตาแหนง่ เดยี วกนั สว่ นราชการสามารถจัดจา้ งเป็น พนักงาน

ราชการตามลาดบั ทท่ี ี่สอบได้
2.2 กรณีเป็นอัตราวา่ งในชือ่ ตาแหนง่ อื่น แต่สว่ นราชการพจิ ารณาแลว้ ว่าอัตราว่างดังกลา่ ว

เป็นอตั ราวา่ งในงานลกั ษณะเดียวกนั หรือคล้ายคลงึ กัน และตอ้ งการบคุ คลทีม่ ีคุณสมบัติเฉพาะสาหรบั ตาแหน่ง
อย่างเดียวกันหรอื คลา้ ยคลงึ กนั หรอื ตอ้ งการใชบ้ คุ คลที่มคี วามรูค้ วามสามารถ ทักษะ และสมรรถนะในเรือ่ ง
เดียวกันหรอื คลา้ ยคลงึ กัน ใหเ้ ป็นดลุ พนิ จิ ของส่วนราชการท่ีจะจดั จา้ งตามลาดับที่ หรือประเมินความรู้

9

ความสามารถ ทกั ษะและสมรรถนะเพมิ่ เติมก็ได้ โดยกรณที ่มี ีการประเมนิ เพิม่ เติมให้ดาเนนิ การตามแนว
ทางการใช้บัญชผี ู้ผา่ นการเลือกสรรพนกั งานราชการของส่วนราชการอื่นข้อ 1.1, 1.3 และ 1.4

รายละเอียดเพิม่ เตมิ
1. ผผู้ ่านการเลือกสรรทไี่ มป่ ระสงคไ์ ปรบั การประเมินความรู้ความสามารถ ทกั ษะ และ

สมรรถนะเพ่มิ เติมในสว่ นราชการที่ขอใช้บัญชี หรือผ้ผู า่ นการเลอื กสรรทไ่ี ปรบั การประเมินในสว่ นราชการทีข่ อ
ใชบ้ ญั ชีและไมผ่ ่านการประเมิน จะยังมีสทิ ธิทีจ่ ะไดร้ บั การจดั จา้ งในบญั ชีผผู้ า่ น การเลือกสรรของสว่ นราชการ
เจา้ ของบัญชี

2. เม่อื ส่วนราชการผขู้ อใช้บญั ชีได้มกี ารประกาศข้นึ บญั ชผี ้ผู ่านการเลอื กสรรพนกั งานราชการ
ใหม่แลว้ และเม่ือผผู้ า่ นการเลือกสรรมกี ารสละสทิ ธกิ ารจัดจา้ งในบญั ชผี ้ผู า่ นการเลือกสรรของส่วนราชการ
เจา้ ของบัญชี ผผู้ ่านการเลอื กสรรจะยังคงมีสทิ ธใิ นการจดั จา้ งในบญั ชผี ้ผู า่ นการเลอื กสรรของส่วนราชการผ้ขู อใช้
บญั ชอี ยู่

3. เมื่อส่วนราชการผูข้ อใชบ้ ัญชไี ด้จัดจา้ งผ้ผู า่ นการเลือกสรรแล้ว ควรแจ้งส่วนราชการ
เจ้าของบัญชีเพื่อเป็นฐานข้อมลู ของการจัดจ้างพนกั งานราชการในบัญชขี องส่วนราชการเจา้ ของบัญชีดว้ ย

ข้ันตอนการทาสัญญาจา้ งพนกั งานราชการ

1. เมื่อสว่ นราชการสรรหาและเลือกสรรพนกั งานราชการได้แลว้ ส่วนราชการต้องจัดทาสัญญาจ้าง
ผู้ผ่านการเลือกสรรในแนวทางตอ่ ไปน้ี

1.1 สว่ นราชการทาสญั ญาจ้างผ้ผู า่ นการเลอื กสรร ด้วยแบบสญั ญาจา้ งตามท่ีกาหนแดนบทา้ ย
ประกาศ คพร. เรื่อง หลักเกณฑ์ วธิ กี ารและเง่ือนไขการสรรหาและการเลอื กสรรพนักงานราชการ และแบบ
สัญญาจ้างของพนกั งานราชการ พ.ศ. 2552 โดยมรี ะยะเวลาการจ้างตามความจาเป็นหรือความเหมาะสมกับ
ภาระงาน หรือตามระยะเวลาสน้ิ สุดของงานหรือโครงการ เชน่ 2 เดือน 3 เดือน หรอื 2 ปี 3 ปี แต่ต้องไมเ่ กิน
4 ปี หรอื ไมเ่ กินระยะเวลาของกรอบอตั รากาลัง

1.2 เนื่องจากระบบพนักงานราชการ สว่ นราชการต้องใช้สัญญาจา้ งในการบรหิ ารจัดพกนากั รงาน
ราชการตลอดอายสุ ญั ญา ดงั นัน้ ส่ิงสาคัญของการทาสญั ญาจา้ ง คือ การกรอกขอ้ ความ หรือจดั ทารายละเอยี ด
ต่าง ๆ ในสญั ญาจ้างใหม้ คี วามชัดเจน ครบถ้วน และสมบรู ณ์ เชน่ คสู่ ญั ญา วันท่ีทาสญั ญา ชอ่ื ตาแหน่ง ขอบข่าย
งาน ระยะเวลาการจ้าง ค่าตอบแทน เหตทุ ่ที าใหส้ ญั ญาจา้ งส้ินสุด เปน็ ต้น ทงั้ นี้ ส่วนราชการสามารถเพิม่ เติม
ขอ้ ความในส่วนของข้อ 7 (4) และ (5) ของสัญญาจ้างจากทร่ี ะเบยี บสานกั นายกรฐั มนตรีว่าด้วยพนกั งาน
ราชการ พ.ศ. 2547 ข้อ 28 กาหนดได้

1.3 หวั หน้าสว่ นราชการ หรอื ผูท้ ห่ี ัวหน้าส่วนราชการมอบหมายเป็นผู้ลงนามในสญั ญในาฐจา้ นงะ
ของสว่ นราชการ กบั คู่สัญญา คอื พนกั งานราชการ

2. สว่ นราชการต้องควบคมุ หรอื ดูแลใหม้ กี ารปฏิบัติตามสญั ญาจ้างในระหว่างสัญญา เช่น การหกั ภาษี
เงินได้ การดาเนินการกรณมี ีการฝาุ ฝนื สัญญา เชน่ การเปดิ เผยความลบั หรอื การละเมิดลขิ สทิ ธิข์ องทางราชการ
เป็นตน้

3. กรณที ่ีสัญญาจา้ งของพนกั งานราชการสน้ิ สุด และสว่ นราชการมีภาระงานซ่ึงจาเป็นตอ้ งต่อสญั ญา
จ้างพนกั งานราชการ ส่วนราชการต้องทาสัญญาจา้ งใหม่ตามแนวทางปฏิบัติของการทาสัญญาจา้ งในคร้ังแรก
แตท่ ั้งนตี้ ้องเป็นไปตามขอ้ กาหนดเก่ียวกบั การประเมินผลการปฏบิ ตั งิ านตามประกาศ คพร. เร่ือง แนวทางการ
ประเมินผลการปฏิบตั งิ านของพนักงานราชการ กลา่ วคือ ผทู้ ่จี ะไดร้ ับการตอ่ สญั ญาต้องมผี ล การปฏิบตั งิ านท่ี
ผ่านการประเมินด้วยคะแนนเฉลีย่ ย้อนหลงั ไมเ่ กนิ 4 ปี ไม่ต่ากว่าระดบั ดี

10
กระบวนการสรรหาและเลือกสรรบคุ คลเพือ่ จดั จ้างเปน็ พนักงานราชการ (กรณกี ารสอบ)

หน่วยงาน วางแผนดาเนนิ การสรรหาและเลือกสรร
มตี าแหน่งวา่ ง
แตง่ ตั้งคณะกรรมการดาเนินการสรรหา
และเลอื กสรร

การประชมุ คณะกรรมการดาเนินการสรรหา
และเลือกสรร

จดั ทาประกาศรับสมคั ร

แพร่ขา่ วการรบั สมัคร

ตรวจสอบคุณสมบตั ิ รับสมคั รสอบ

ไม่มีคุณสมบตั ิ มีคุณสมบัติ
ไมป่ ระกาศรายชื่อ
การประกาศรายชอ่ื ผมู้ สี ทิ ธิเข้ารับการประเมิน

ดาเนินการประเมินสมรรถนะ คร้งั ท่ี 1 รายงานผลให้กรมฯ
(สอบข้อเขียน หรอื การทดสอบตัวอยา่ งงาน) ผ่าน สทส. เพอ่ื ทราบ
พร้อมส่งหลกั ฐานแนบ
ประกาศรายชอ่ื ผผู้ ่านการประเมนิ สมรรถนะ
ครง้ั ที่ 1 การสมัครของผ้ผู ่านการ
เลอื กสรรฯ
ดาเนินการประเมินสมรรถนะ ครง้ั ท่ี 2
(สอบสัมภาษณ์) ผผู้ า่ นการเลอื กสรร
มารายงานตวั และ
ประกาศบัญชรี ายช่อื ผ้ผู า่ นการเลอื กสรรเพอ่ื
จดั จ้างเปน็ พนกั งานราชการ ทาสัญญาจา้ ง

ส่งหนังสือเรียกตวั ผู้ผา่ น
การเลือกสรร

11
กระบวนการสรรหาและเลือกสรรบุคคลเพอื่ จัดจา้ งเป็นพนกั งานราชการ (กรณกี ารนารายชือ่ )

หน่วยงานมตี าแหนง่ ว่าง

กรณีหน่วยงานมีบัญชีรายชือ่ ผู้ผา่ น กรณีหน่วยงานไม่มีบัญชีรายชอื่ ผู้ผา่ น
การเลือกสรร การเลือกสรร (ขอใช้บญั ชขี องหนว่ ยงานอืน่ )

มตี าแหนง่ วา่ ง มตี าแหน่งว่างช่ือไมต่ รง คน้ หาบญั ชผี ้ผู า่ นการเลือกสรรของ เว็บไซตห์ น่วยงานอ่นื
ชอ่ื เดียวกนั กับทขี่ น้ึ บัญชี เดียวกนั กบั ท่ขี ึ้นบัญชไี ว้ หน่วยงานอ่ืนและประสานงานกบั และเวบ็ ไซต์
สานักงาน ก.พ.
ไว้ แต่คณุ สมบตั เิ ฉพาะ หน่วยงานเจา้ ของบัญชี
ตาแหนง่ อยา่ งเดยี วกัน รวบรวมบัญชีรายช่ือ
ส่งหนงั สือแจ้งผูม้ รี ายชอื่ ขออนมุ ัติและแต่งตัง้ คณะกรรมการ และสรุปข้อมูลให้
ตามลาดับที่ ทสี่ อบ หรอื คล้ายคลงึ กนั ดาเนนิ การสรรหาและเลอื กสรร คณะกรรมการ
(สง่ ไปรษณีย์ EMS
กอ่ นวันรายงานตวั หรอื ประชุมคณะกรรมการ พจิ ารณา
ไม่น้อยกวา่ 5 วนั ) กาหนดวนั เวลา และสถานท่สี อบ
กาหนดวิธกี ารสอบสมั ภาษณ์ ฯลฯ
แจง้ ผู้ผา่ นการเลือกสรรเพ่อื ให้มา
สมัคร ตามรายช่ือทเ่ี จา้ ของบญั ชีส่ง ส่งหนงั สอื ขอใช้บัญชีผู้ผา่ นการ
มาให้ (สง่ ไปรษณยี ์ EMS กอ่ นวันรบั เลอื กสรรไปยงั หนว่ ยงานเจ้าของ

สมคั ร ไมน่ ้อยกวา่ 5 วัน) บญั ชี

รบั สมคั ร พร้อมตรวจคณุ สมบตั ิ ส่งสาเนาประกาศบัญชรี ายชอื่ ผู้
(ไมน่ อ้ ยกว่า ๓ วันทากา)ร ผ่านการเลอื กสรรฯ ใหห้ น่วยงาน

ประกาศรายชื่อผู้มสี ทิ ธสิ อบ เจา้ ของบญั ชี

ดาเนินการประเมนิ ความรู้ ประกาศบญั ชรี ายชอ่ื ผู้ผา่ นการเลือกสรร
ความสามารถ ทักษะ สมรรถนะ เพอื่ จัดจา้ งเป็นพนกั งานราชการ
(บัญชจี ะมอี ายเุ ทา่ กับระยะเวลาของ
(สอบสัมภาษณ์) บญั ชีหนว่ ยงานท่ขี อใช้)

ผู้ผา่ นการเลือกสรรมารายงาน ส่งหนังสือเรยี กตัวผผู้ ่าน
ตัวและทาสญั ญาจา้ ง การเลอื กสรรฯ

รายงานผลให้กรมฯ ผา่ น สทส.
เพื่อทราบพรอ้ มส่งหลักฐานแนบ

12

ระเบียบทเ่ี กี่ยวข้องกับการดาเนนิ การสรรหาพนกั งานราชการ
1. ระเบียบสานักนายกรัฐมนตรวี า่ ด้วยพนกั งานราชการ พ.ศ. 2547 ลงวันที่ 13 มกราคม 2547
2. ประกาศคณะกรรมการบรหิ ารพนกั งานราชการ เร่ืองหลักเกณฑ์ วธิ กี ารและเง่อื นไขการสรรหา
และการเลือกสรรพนักงานราชการ และแบบสญั ญาจา้ งของพนักงานราชการ พ.ศ.2552 ลงวนั ท่ี 11
กันยายน 2552
3. ประกาศคณะกรรมการบรหิ ารพนกั งานราชการ เรือ่ ง การกาหนดลกั ษณะงานและคณุ สมบตั เิ ฉพาะ
ของกลุ่มงานและการจดั ทากรอบอตั รากาลังพนักงานราชการ พ.ศ. 2554 ลงวนั ท่ี 28 กมุ ภาพนั ธ์
2554
4. ประกาศคณะกรรมการบรหิ ารพนกั งานราชการ เรอ่ื ง การกาหนดลกั ษณะงานและคุณสมบัติเฉพาะ
ของกลมุ่ งานและการจัดทากรอบอัตรากาลังพนกั งานราชการ (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ.2555
5. คาส่งั กรมสง่ เสรมิ สหกรณ์ ที่ 197/2553 เรอื่ ง มอบอานาจการดาเนนิ การสรรหาและเลือกสรร
บุคคล เพอื่ จัดจ้างเปน็ พนักงานราชการ ลงวันที่ 24 พฤษภาคม 2553
6. คาสัง่ กรมสง่ เสริมสหกรณ์ ท่ี 565/2555 เรอ่ื ง มอบอานาจการลงนามในสญั ญาจา้ งพนกั งานราชการ
ลงวันที่ 26 พฤศจกิ ายน 2555
7. คาสัง่ กรมสง่ เสรมิ สหกรณ์ ที่ 542/2557 เรอ่ื ง มอบอานาจการดาเนนิ การสรรหาและเลอื กสรร
บคุ คลเพอ่ื จัดจ้างเปน็ พนกั งานราชการ และมอบอานาจการลงนามในสัญญาจ้างพนกั งานราชการ
ลงวนั ที่ 4 ธันวาคม 2557
8. คาส่ังกรมสง่ เสริมสหกรณ์ ที่ 293/2559 เรอ่ื ง มอบอานาจการดาเนินการสรรหาและเลือกสรร
บุคคลเพื่อจดั จ้างเปน็ พนักงานราชการ และมอบอานาจการลงนามในสญั ญาจา้ งพนกั งานราชการ
ลงวนั ที่ 6 กรกฎาคม 2559
9. คาสัง่ กรมสง่ เสรมิ สหกรณ์ ท่ี 291/2556 เรื่อง มอบอานาจการบรหิ ารงานบุคคลพนกั งานราชการ
ให้ผู้วา่ ราชการจงั หวัด ลงวันที่ 12 มิถุนายน 2556
10.คาสั่งกรมส่งเสริมสหกรณ์ ท่ี 292/2556 เรื่อง มอบอานาจการบรหิ ารงานบคุ คลพนักงานราชการ
ใหผ้ ู้วา่ ราชการจงั หวัด ลงวันที่ 12 มถิ ุนายน 2556
11.ประกาศกรมสง่ เสริมสหกรณ์ เรอ่ื ง การกาหนดคณุ สมบัติอายขุ ้ันสงู ของพนักงานราชการและกาหนด
ระยะเวลาส้นิ สดุ การจ้าง ลงวันที่ 28 กนั ยายน 2559

13


Click to View FlipBook Version