The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

สื่อการเรียนการสอน "ชนิดของคำในภาษาไทย"

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ploy29340, 2021-10-26 14:34:19

ชนิดของคำในภาษาไทย

สื่อการเรียนการสอน "ชนิดของคำในภาษาไทย"

บ ห ศ ฒ ซ ธ ง อ บห

ร ฟ ล ฑ รฟ

ข้อสังเกต

1. คำสันธานบางคำใช้เข้าคู่กัน เช่น ไม่…ก็ , กว่า…ก็ , เพราะ…จึง , ถึง…ก็ , แม้…ก็ เป็นต้น

2. คำสันธานอาจอยู่ในตำแหน่งต่างๆในประโยคก็ได้ เช่น

อยู่ระหว่างคำ : อีฟชอบสีม่วงและสีขาว

อยู่หลังคำ : คนก็ดี สัตว์ก็ดี รักชีวิตด้วยกันทั้งนั้น

อยู่คร่อมคำ : ถึงเป็นเพื่อนก็อย่าวางใจ

อยู่ระหว่างประโยค : ตูนจะดื่มน้ำส้มหรือดื่มนม

อยู่หลังประโยค : เราจะทำบุญก็ตาม บาปก็ตาม ควรคิดถึงผลกรรม

อยู่คร่อมประโยค : แม้เต้จะกินมากแต่เต้ก็ไม่อ้วน

3. ประโยคที่มีคำสันธานนั้น จะแยกออกเป็นประโยคย่อยได้ตั้งแต่ 2 ประโยคขึ้นไป

4. คำบางคำเป็นได้ทั้งคำสันธานและคำบุพบท เช่น
คำว่า "เมื่อ" ให้พิจารณาว่าถ้าสามารถแยกเป็น 2 ประโยคได้ก็เป็นคำสันธาน เช่น
"เมื่อ 16 นาฬิกา อาร์ทได้ออกจากโรงเรียนไปแล้ว" ( เป็นคำบุพบท )

"เมื่อเราได้ยินเสียงระฆัง หมวยได้ออกจากโรงเรียนไปแล้ว" ( เป็นคำสันธาน ) เป็นต้น

5. คำว่า "ให้" เมื่อนำมาใช้เชื่อมประโยคก็จัดเป็นคำสันธาน เช่น "เขาทำท่าตลกให้เด็กหยุด
ร้องไห้" เป็นต้น

6. คำว่า "ว่า" เมื่อนำมาใช้เชื่อมระหว่างประโยคก็จัดเป็นคำสันธาน เช่น "หนังสือพิมพ์ลงข่าวว่า
มีการกวาดล้างพวกมิจฉาชีพครั้งใหญ่" เป็นต้น

7. คำประพันธสรรพนามหรือคำสรรพนามเชื่อมประโยค คือ คำว่า "ผู้ ที่ ซึ่ง อัน" จัดเป็นคำ
สันธานด้วย

สตรีผู้มีความงามย่อมเป็นที่สนใจของคนทั่วไป
คนที่กำลังเล่นกีตาร์นั่นเป็นพี่ชายของวี
ฝ้ายอยู่ในตลาดซึ่งมีคนพลุกพล่าน

บ ห ศ ฒ ซ ธ ง อ บห

ร ฟ ล ฑ รฟ

แบบทดสอบ
เรื่อง คำสันธาน

1. ข้อใดเป็นคําสันธานที่เชื่อมความที่เป็นเหตุเป็นผล
ก. คุณกบผมรู้จักกันมาตั้งแต่เมื่อไร
ข. เขามาโรงเรียนสายเพราะรถติด
ค. เธอจะดูโทรทัศน์หรือฟังวิทยุ
ง. เขาชอบเล่นเกมแต่ฉันชอบอ่านหนังสือ

2. ข้อใดไม่ใช่คําสันธานที่เชื่อมความขัดแย้งกัน
ก. ผมต้องการพูดกับเขา แต่เขาไม่ยอมพูดกับผม
ข. กว่าเราจะเรียนจบเพื่อน ๆ ก็ทำงานหมดแล้ว
ค. พอฝนหยุดตกกบก็ร้องทันที
ง. เขาวิ่งเร็วมากแต่ว่าไม่เหนื่อยเลย

3. ข้อใดเป็นคําสันธานที่เชื่อมความคล้อยตามกัน
ก. ฉันให้อาหารปลาพร้อมทําความสะอาดตู้เลี้ยงปลา
ข. ถึงเขาจะเกเร แต่ก็มีน้ำใจ
ค. เธอจะดูโทรทัศน์หรือฟังวิทยุ
ง. เขาชอบเล่นเกมแต่ฉันชอบอ่านหนังสือ

บ ห ศ ฒ ซ ธ ง อ บห

ร ฟ ล ฑ รฟ

4. ข้อใดเป็นคําสันธานที่เชื่อมความที่ขัดแย้งกัน
ก. ฉันและเขาเป็นเพื่อนสนิทกันมานาน
ข. เขามาโรงเรียนสายเพราะรถติด
ค. ไม่เธอก็เขาต้องไปช่วยแม่ทํางาน
ง. ฉันชอบดื่มนม แต่น้องชอบดื่มน้ำอัดลม

5. คําสันธาน มีหน้าที่อย่างไร
ก. ใช้เรียกชื่อคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่
ข. ใช้เรียกแทนชื่อคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่
ค. ใช้ขยายคําอื่นให้มีความหมายชัดเจนยิงขึ้น
ง. ใช้เชื่อมข้อความหรือประโยคให้เข้ากัน

6. ข้อใดเป็นคําสันธานที่เชื่อมความให้เลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่ง
ก. ทั้งเขาและฉันต่างเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน
ข. เขามาโรงเรียนสายเพราะรถติด
ค. เธอจะดูโทรทัศน์หรือฟังวิทยุ
ง. เธอต้องขยันให้มากกวานี้มิฉะนั้นจะสอบตก

7. ฉันและน้องชอบเล่นกีฬา มีคําสันธานใดอยู่ในประโยค
ก. เชื่อมความที่คล้อยตามกัน
ข. เชื่อมความขัดแย้งกัน
ค. เชื่อมความให้เลือกเอาอยางใดอย่างหนึ่ง
ง. เชื่อมความเป็นเหตุเป็นผล

บ ห ศ ฒ ซ ธ ง อ บห

ร ฟ ล ฑ รฟ

8. ถึงแม้ว่าเขาไม่สบายแต่ก็ยังมาโรงเรียน มีคําสันธานใดอยู่ใน
ประโยค
ก. เชื่อมความที่คล้อยตามกัน
ข. เชื่อมความขัดแย้งกัน
ค. เชื่อมความให้เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
ง. เชื่อมความเป็นเหตุเป็นผล

9. เธอต้องการอ่านหนังสือหรือต้องการนอนพัก มีคําสันธานใด
อยู่ในประโยค
ก. เชื่อมความที่คล้อยตามกัน
ข. เชื่อมความขัดแย้งกัน
ค. เชื่อมความให้เลือกเอาอยางใดอย่างหนึ่ง
ง. เชื่อมความเป็นเหตุเป็นผล

10. ที่นี่เสียงดังเพราะฉะนั้นคนจึงไม่อยู่กัน มีคําสันธานใดอยู่ใน
ประโยค
ก. เชื่อมความที่คล้อยตามกัน
ข. เชื่อมความขัดแย้งกัน
ค. เชื่อมความให้เลือกเอาอยางใดอย่างหนึ่ง
ง. เชื่อมความเป็นเหตุเป็นผล

รบ หศ ฟฒซ ธจ งล อ ฑร ฟ
แบบฝึกหัด
เรื่อง ชนิดของคำสันธาน

ตอนที่ 1 ให้นักเรียนแยกประโยคต่อไปนี้ และบอกคำสันธานที่ใช้เชื่อมประโยคว่าเป็นสันธานชนิดใด

ตัวอย่าง เมื่อแม่ไปวัดพ่อก็เข้ามา
แม่ไปวัด พ่อเข้าบ้าน
เมื่อ.....ก็ เป็นคำสันธานชนิด เชื่อมใจความเนื้อความคล้อยตาม

1.ผมตั้งใจเรียนเพราะฉะนั้นผลงานจึงออกมาดี




เป็นคำสันธานชนิด

2.ครูอยู่สีฟ้าหรือสีเขียว




เป็นคำสันธานชนิด

3.นักเรียนมาเรียนหรือมาเล่น




เป็นคำสันธานชนิด

4.พอเขามาถึงเขาก็หมดแรง

ตอนที่ 2


เป็นคำสันธานชนิด

นำคำสันธานมาเติมในประโยคให้ได้ใจความ

หรือไม่ก็ ครั้น...จึง หรือ เพราะฉะนั้น จึง

พอ...ก็ แต่ว่า ถึงแม้ว่า...ก็ และ

ฉะนั้น กว่า...ก็

1. ถั่วจะสุก งา ไหม้ 4.ฉัน น้องชายชอบเล่นฟุตบอลหลังเลิกเรียน

2.เขาอ่านหนังสือทุกวัน เขา สอบได้ที่หนึ่ง 5. พ่อมาถึงบ้านแล้ว แม่ นำน้ำมาให้พ่อดื่ม

3.ธิดามีน้ำใจกับเพื่อนเสมอ เพื่อนจึงรักธิดา 6.ที่นี่เสียงดังมาก คนจึงไม่อยากอยู่

ชื่อ-นามสกุล..................................................................ชั้น ป.6/.......เลขที่.........

คำอุทาน

บ ห ศ ฒ ซ ธ ง อ บห

ร ฟ ล ฑ รฟ

คำอุทาน

คือ คำที่เปล่งออกมาเพื่อแสดงอารมณ์หรือความรู้สึกของผู้พูด เช่น ดีใจ เสียใจ ตกใจ
แปลกใจ สงสัย สงสาร เจ็บปวด โกรธ เป็นต้น

คำอุทานมักจะอยู่หน้าประโยคและมีเครื่องหมายอัศเจรีย์ (!) กำกับหลังคำอุทานนั้น
เสมอ คำอุทานนั้นจะช่วยสื่อให้ผู้อ่านเข้าใจถึงเจตนาและความรู้สึกของผู้ส่งสารได้ชัดเจนขึ้น
แบ่งเป็นคำอุทานบอกอาการ และคำอุทานเสริมบท ดังนี้

1. คำอุทานบอกอาการ 2. คำอุทานเสริมบท



ชะ, ชะชะ, ชิ, ชิชะ, ชิชิ คำที่เปล่งออกมาเมื่อรู้สึกโกรธหรือไม่ชอบใจ เช่น
ชะชะ ! แม่คนนี้มาทำอวดดี เดี๋ยวตีตายเลย

ไชโย คำที่เปล่งออกมาด้วยความดีหรืออำนวยพร เช่น
ไชโย ! เราชนะแล้ว

คำที่เปล่งออกมาด้วยความสงสารหรือรำคาญ เช่น โธ่, พุทโธ่
โธ่ ! น่าสงสารจัง ไม่น่าเป็นอย่างนี้เลย

ว้าย คำที่เปล่งออกมาแสดงอาการตกใจหรือดีใจ เช่น

ว้าย ! งูเข้าบ้าน

คำที่เปล่งออกมาเมื่อรู้สึกตกใจ เก้อเขิน หรือไม่พอใจ เช่น วุ้ย
วุ้ย ! น่ารำคาญ

หน็อยแน่ คำที่เปล่งออกมาเมื่อไม่พอใจหรือผิดหวัง เช่น
หน็อยแน่ ! ทำผิดแล้วยังจะอวดดีอีก

คำที่เปล่งออกมาแสดงความสงสารสังเวช เช่น อนิจจา
อนิจจา ! ไม่น่าเลย ช่างน่าสงสารเสียจริง ๆ

อ้อ, อ๋อ คำที่เปล่งออกมาแสดงว่ารู้แล้ว เข้าใจแล้ว นึกได้แล้ว เช่น
อ๋อ ! เรื่องนี้ฉันนึกออกแล้ว

บ ห ศ ฒ ซ ธ ง อ บห

ร ฟ ล ฑ รฟ

อ้าว ที่เปล่งออกมาเมื่อรู้สึกว่าไม่ตรงกับที่มุ่งหมายหรือคาดไว้ เช่น

อ้าว ! แม่ก็มาด้วยนึกว่ามาแต่พ่อ

คำที่เปล่งออกมาแสดงความแปลกใจ เช่น อื้อฮือ
อื้อฮือ ! มากจริง ๆ เลย

อุ๊ย คำที่เปล่งออกมาแสดงอาการตกใจ มักเป็นเสียงผู้หญิง เช่น เอ๊ย

อุ๊ย ! จักจี้นะ

คำที่เปล่งออกมาแสดงอาการว่าพูดผิดไป เช่น
เอ๊ย ! ไม่ใช่อย่างนั้นฉันพูดผิดไป

เอ๊ะ คำที่เปล่งออกมาแสดงความฉงนไม่เข้าใจหรือไม่พอใจ เช่น

เอ๊ะ ! ใครมากันเยอะแยะเลย (ฉงน)

คำที่เปล่งออกมาแสดงความรู้สึกเจ็บปวด หรือรู้สึกว่ามากยิ่งหรือแปลก เช่น โอย, โอ๊ย
โอ๊ย ! เจ็บจริง ๆ ฉันทนไม่ไหวแล้ว (รู้สึกเจ็บปวด)

โอ้โฮ คำที่เปล่งออกมาแสดงความตกใจหรือประหลาดใจ เช่น
โอ้โฮ ! วันนี้เธอมาเรียนแต่เช้าเลย

คำที่เปล่งออกมาแสดงความไม่พอใจ โดยปริยายหมายถึงแสดงอาการขู่ เช่น ฮึ่ม
ฮึ่ม ! อย่าให้เป็นทีเราบ้างก็แล้วกัน

เฮ่ย คำที่เปล่งออกมาแสดงความขัดแย้งไม่เห็นด้วยหรือเห็นว่าไม่สำคัญ เช่น

เฮ่ย ! เรื่องนี้เราไม่เห็นด้วยที่เธอจะนำไปพูดนะ

คำที่เปล่งออกมาเพื่อให้รู้ตัวหรือให้ยั้ง เช่น เฮ้ย
เฮ้ย ! ตื่นเสียทีซิสายมากแล้วนะ



เฮ้อ คำที่เปล่งออกมาแสดงความเบื่อหน่ายหรือไม่ถูกใจ เช่น

เฮ้อ ! ผมละเบื่อเหลือเกิน พูดไปก็เท่านั้น

บ ห ศ ฒ ซ ธ ง อ บห

ร ฟ ล ฑ รฟ

2. คำอุทานเสริมบท

เป็นคำอุทานที่ใช้เป็นคำสร้อยหรือคำเสริมบทต่างๆ คำอุทานประเภทนี้บางคำเสริมคำที่ไม่มี

ความหมายเพื่อยืดเสียงให้ยาวออกไป บางคำก็เพื่อเน้นคำให้กระชับหนักแน่น เช่น

- เดี๋ยวนี้มือไม้ฉันมันสั่นไปหมด


- หนังสือหนังหาเดี๋ยวนี้ราคาแพงมาก

- พ่อแม่ไม่ใช่หัวหลักหัวตอนะ



หน้าที่ของคำอุทาน

หน้าที่ของคำอุทาน มีดังนี้คือ

1. ทำหน้าที่แสดงความรู้สึกของผู้พูด เช่น
- ตายจริง! ฉันลืมเอากระเป๋าสตางค์มา
- โธ่! เธอคงจะหนาวมากละซิ
- เอ๊ะ! ใครกันที่นำดอกไม้มาวางไว้ที่โต๊ะของฉัน

2. ทำหน้าที่เพิ่มน้ำหนักของคำ ซึ่งได้แก่คำอุทานเสริมบท เช่น
- ทำเสร็จเสียทีจะได้หมดเรื่องหมดราวกันไป
- เมื่อไรเธอจะหางงหางานทำเสียที
- เธอเห็นฉันเป็นหัวหลักหัวตอหรืออย่างไร

3. ทำหน้าที่ประกอบข้อความในคำประพันธ์ เช่น
- แมวเอ๋ยแมวเหมียว
- มดเอ๋ยมดแดง
- กอ เอ๋ย กอไก่

บ ห ศ ฒ ซ ธ ง อ บห

ร ฟ ล ฑ รฟ

แบบทดสอบ
เรื่อง คำอุทาน

1.ข้อใดคือชนิดของคำอุทาน ข. อุทานเสริมอาการ
ก. อุทานบอกบท ง. อุทานบอกอาการ
ค. อุทานแสดงสภาพ

2. คำอุทานที่อยู่ในคำประพันธ์เรียกว่าอุทานชนิดใด

ก. อุทานเสริมบท ข. สร้อยคำ

ค. อุทานบอกอาการ ง. อุทานคล้องจอง

3. เครื่องหมายที่ใช้กับอุทานบอกอาการเรียกว่าอะไร

ก. ปรัศนี ข. อัศจรรย์

ค. อัศเจรีย์ ง. วิสรรชนีย์

4. ข้อใดไม่ใช่ประโยชน์ของอุทานเสริมบท
ก. เพิ่มเสียงของคำ
ข. เกิดความคล้องจอง
ค. เน้นความหมาย
ง. แสดงความรู้สึก

บ ห ศ ฒ ซ ธ ง อ บห

ร ฟ ล ฑ รฟ

5. ข้อใดเป็นคำอุทานแสดงความประหลาดใจ

ก. โอ๊ย! ข. อ่อ! ค. โอ! ง. อุเหม่!

6. ป้องเศษรู้ว่าครูไม่พอใจเมื่อครูอุทานคำใดออกมา

ก. เอ๊ะ! ข. ตายจริง! ค. อ้าว! ง. ว้าย!

7. ข้อใดถูกต้อง ข. โอ๊ย! ฟ้าร้อง
ก. ว้าย! หนูมีหกล้ม ง. อ๋อ! น่าอิจฉาเหลือเกิน
ค. คุณพระช่วย! ไม่รอกันเลยนะ

8. ข้อใดมีคำอุทาน
ก.เสียงย่อมยอยศใครทั่วหล้า
ข. ว่าโอ้เรานี้ชั่วชอบกรรมชั่วนา
ค. คิดแล้วจึงร้องว่าไปเหวยไอ้ลิงไพรพารา
ง. เห็นสนุกทุกข์ถึงตัวจึงรู้

9. คำอุทานในข้อใดไม่จำเป็นต้องมีเครื่องหมายอัศเจรีย์
ก. ดู ข. นี่แน่ะ ค. แฮ ง. เออ

10. โครม เป็นอุทานชนิดใด ข. เสริมบท
ก. แสดงอาการสงสัยธรรมชาติ ง. แสดงเสียง
ค. แสดงอาการสงสาร

รบ หศ ฟฒซ ธจ งล อ ฑร ฟ

แบบฝึกหัด

เรื่อง ชนิดของคำอุทาน

ตอนที่ 1 ให้นักเรียน ลงในช่องว่างว่าคำใดเป็นคำอุทานเสริมบท

1.ของมันใช้ไม่ได้แล้ว อย่าไปเสียดงเสียดายมันเลย
2.อย่าใช้จ่ายมากนักสตุ้งสตางค์ยิ่งหายากอยู่
3.อย่าเสียอกเสียใจไปเลย ถึงคราวเคราะห์หามยามร้ายก็หลีกเลี่ยงไม่ได้
4.งานใหญ่โตอาหงอาหารมีพอกินกันหรือเปล่า
5.เป็นเด็กเป็นเล็กไม่รู้จักเคารพผู้ใหญ่

ตอนที่ 2 ให้นักเรียนนำตัวเลขหน้าข้อความทางขวามมือใส่ลงในช่องว่างทางซ้ายมือ

1. โอ๊ย ! มีดบาดมือ ก.ตกใจ

ข.สงสัย

2. อุ๊ย ! มดกัด ฃ.สงสาร
ค.โล่งใจ

3. ไชโย ! ฉันสอบผ่านแล้ว ฅ.บอกให้รู้ตัว
ฆ.ประหลาดใจ

4. เฮ้อ ! เหมือนยกภูเขาออกจากอก ง.หงุดหงิด
จ.เจ็บปวด

5. โอ้โฮ ! ทำไมใหญ่โตขนาดนี้ ฉ.ไม่พอใจ
ช.ดีใจ

ชื่อ-นามสกุล..................................................................ชั้น ป.6/.......เลขที่.........

เฉลย

แบบทดสอบและแบบฝึกหัด

รบ หศ ฟฒซ ธจ งล อ ฑร ฟ

เฉลยแบบทดสอบ
เรื่อง คำนาม




1 ตอบ ง
เพราะ คำนาม คือ คำที่ใช้ เรียกชื่อคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ รวมทั้ง
สิ่งที่มีชีวิต และไม่มีชีวิต ทั้งที่เป็นรูปธรรม และนามธรรม เช่น เด็ก พ่อ แม่
นก ช้าง บา้ น โรงเรียน ความดี ความรัก ฯลฯ

2 ตอบ ง
เพราะ มีการเจาะจงนามนั้น คือ เจาะจงไปที่กระเป๋าสีแดงใบนั้นเป็น
ของฉัน ซึ่งแตกต่างจากตัวเลือกข้ออื่น่ ที่เป็นการกล่ าวแบบไมเ่ จาะจงไปที่สิ่ง
ใดสิ่งหนึ่ง

3 ตอบ ค
เพราะ คำถามต้องการถามว่า ปากกา เป็นคำนามชนิดใด จึงสามารถ
ตอบได้ ว่ า ปากกา เป็นคำนามทั่วไป บ่งบอกถึงความไมเ่ ฉพาะเจาะจง แต่ ถ้ าข้ อ
คำถามถามว่ า ปากกาด้ ามนี้ เป็นคำนามชนิดใด คำตอบจะกลายเป็น คำนามชี้
เฉพาะ ทันที เพราะมีการเจาะจงไปที่คำนามนั้น

4 ตอบ ง
เพราะ วิสามานยนาม คือ คำนามแบบชี้เฉพาะทั้งคน สัตว์ สิ่งของ
และสถานที่ ซึ่งข้อ ง มีการบอกชื่ออำเภออยา่ งเฉพาะเจาะจง แตกต่างจากตัว
เลือกข้ออื่น ๆ ที่เป็นคำนามทั่วไปที่บอกแบบกว้าง ๆ

ชื่อ-นามสกุล..................................................................ชั้น ป.6/.......เลขที่.........

รบ หศ ฟฒซ ธจ งล อ ฑร ฟ

ตอบ ข

5 เพราะ ไข่ จะใช้ ลักษณะนามเป็น ฟอง ลูก หรือ ใบ เหตุที่ข้ออื่นผิด

สามารถอธิบายได้ ว่ า พระสงฆ์ เรียก รูป หรือ องค์ , จาน เรียก ใบ , ช้าง
ปกติเรียก ตัว แต่ ถ้ามีจำนวนมาก จะเรียก โขลง

6 ตอบ ข
เพราะ คำว่าเหล่ากาชาด คือ สมุหนามที่เป็นคำนามบอกหมวดหมู่
ของนามทั่วไป เพื่อบอกถึงลักษณะที่รวมกันเป็นหมู่เป็นพวก เหตุผลที่ตัว
เลือกอื่นผิด สามารถอธิบายได้ดังนี้
ข้อ ก ผิด เพราะ คำว่ าสามเหล่ าทัพ เป็นคำนามชี้เฉพาะ คือ สามเหล่าทัพ
เป็นกองทัพไทย แบ่งเป็นกองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ
ข้อ ค ผิด เพราะ มีการใช้ สมุหนามบอกความเป็นหมู่ แต่ คำผิด เครื่องบิน
ต้องใช้สมุหนามเป็นลำ ไม่ใช่ฝูง
ข้อ ง ผิด เพราะ คำว่า ฝูงนั้น เป็นคำนามชี้เฉพาะเจาะจงไปที่นกฝูงหนึ่ง

7 ตอบ ค.
เพราะ แม่ไก่ไล่แมลง มีแม่ไก่ เป็นประธาน มีคำว่าไล่ เป็นกริยา และ
มีคำว่าแมลง ทำหน้าที่เป็นกรรม

ชื่อ-นามสกุล..................................................................ชั้น ป.6/.......เลขที่.........

รบ หศ ฟฒซ ธจ งล อ ฑร ฟ

8 ตอบ ง
เพราะ อาการนาม คือ การ จะนำหน้าคำกริยา ส่วน ความ จะนำหน้า
คำวิเศษณ์ ถ้า การและความนำหน้าคำชนิดอื่น จะไมใ่ ช่วิสามานยนามแต่
เป็นนามทั่วไป ดังนั้นแล้วข้ อ ง จึงถูกเพราะการนำหน้าคำว่ านอน ซึ่งเป็น
คำกริยา แต่ตัวเลือกขอ้ อื่นเป็นการตามด้ วยคำนาม ซึ่งถือว่าเป็นนามทั่วไป

9 ตอบ ก
เพราะ ช้างบ้าน ใช้ลักษณะนามว่าเชือก ช้างป่าใช้ลักษณะนามว่า
ตัว และช้างที่อยู่กันเป็นฝูงใช้คำว่าโขลง

10 ตอบ ข
เพราะ คำนามมีทั้งหมด 5 ชนิด ได้แก่ สามานยนาม วิสามานยนาม
ลักษณะนาม สมุหนาม และอาการนาม

เฉลยคำนามแล้ว
ต่อด้วยสรรพนามได้เลย

ยาวไป ๆ

ชื่อ-นามสกุล..................................................................ชั้น ป.6/.......เลขที่.........

รบ หศ ฟฒซ ธจ งล อ ฑร ฟ

เฉลยแบบทดสอบ
เรื่อง คำสรรพนาม




1 ตอบ ข
เพราะ คำสรรพนาม มี 6 ชนิด ประกอบด้วย บุรุษสรรพนาม
ประพันธสรรพนาม วิภาคสรรพนาม นิยมสรรพนาม อนิยมสรรพนาม
และปฤจฉาสรรพนาม

2 ตอบ ข
เพราะ วิภาคสรรพนาม เป็นสรรพนามบอกความชี้ซ้ำที่ ใช้แทนนาม
หรือสรรพนาม ที่แยกออกเป็นส่ วนๆ หรือเป็นคนๆ หรือพวก ได้แก่ บ้าง
ต่ าง กัน เช่ น นักกีฬาต่ างดีใจที่ได้ ชัยชนะ เด็กนักเรียนบ้างก็อ่ านหนังสือ
บ้างก็รองเพลง เป็นต้น

3 ตอบ ง
เพราะ ประพันธสรรพนาม เป็นสรรพนามที่ใช้เชื่อมประโยค ทำหน้าที่
แทนคำนาม หรือสรรพนามที่อยู่ ข้างหน้ า และยังทำหน้าที่เชื่อมประโยคโดย
ให้ประโยค 2 ประโยคมีความเชื่อมกัน ได้แก่ คำว่ า ผู้ ที่ ซึ่ง อัน เช่ น บุคคล
ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม บริจาคเงิน 100บาท ผู้หญิงที่อยูใ่ นบ้านนั้นเป็นย่า
ของผม เป็นต้น

4 ตอบ ง
เพราะ คำว่า ท่าน สามารถเป็นได้ทั้งสรรพนามบุรุษที่ 2 ที่ใช้แทนผู้
ที่เรากำลังพูดด้วย และสามารถเป็นสรรพนามบุรุษที่ 3 ที่เราพูดถึงหรือผู้พูด
กล่าวถึงได้เช่นกัน

ชื่อ-นามสกุล..................................................................ชั้น ป.6/.......เลขที่.........

รบ หศ ฟฒซ ธจ งล อ ฑร ฟ

5 ตอบ ค
เพราะ ปฤจฉาสรรพนาม เป็นสรรพนามที่ใช้ถามที่ใช้แทนคำนามทั้ง
ยังมีเนื้อความเป็นคำถาม และสรรพนามบุรุษที่หนึ่งใช้พูดแทนตนเอง ในข้อ
ค คำว่า มีเนื้อความเป็นประโยคคำถาม และมีคำว่า ฉัน ในประโยคคำถาม
นั้นซึ่งคำว่า ฉัน เป็นสรรพนามบุรุษที่ 1

6 ตอบ ข
เพราะ มีการใช้คำว่า คุณ หากดูจากบริบทของประโยค จะสามารถรู้
ได้ทันทีว่าผู้พูดกำลังพูดกับผู้ฟังโดยแทนตัวผู้ฟังว่า คุณ ซึ่งถือเป็นสรรพนาม
บุรุษที่ 2 ที่ใช้แทนผู้รับสารหรือผู้ที่เราพูดด้วย เหตุที่ข้อ ก ผิดทั้ง ๆ ที่คำว่า
ท่าน เป็นได้ทั้งบุรุษที่ 2 และบุรุษที่ 3 เพราะว่า จากรูปบริบทในประโยคถือ
เป็นการกล่ าวถึงบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยใช้คำว่ า ท่าน แทนคนผู้นั้น ซึ่งถือ
เป็นสรรพนามบุรุษที่ 3 ที่ใช้ แทนผู้ที่ถูกกล่ าวถึงนั่นเอง

7 ตอบ ข
เพราะ ตัวเลือกอื่น ๆ เป็นการใช้สรรพนามบุรุษที่ 2 ที่ใช้แทนผู้รับสาร

หรือผู้ฟังที่เราพูดด้วย แต่ข้ อ ข เป็นการพูดถึงคนคนหนึ่งที่มาชา โดยใช้

สรรพนามบุรุษที่ 3 คือคำว่ า เขา แทน


8 ตอบ ก
เพราะ นิยมสรรพนาม คือ สรรพนามที่ใช้แทนนามชี้เฉพาะเจาะจง
หรือบอกกำหนดความให้ผู้พูดกับผู้ฟังเข้าใจกัน สิ่งที่คำถามให้มา มาการใช้
คำว่า นั่น ซึ่งคำว่านั่นถือว่าเป็น นิยมสรรพนาม เพื่อเจาะจงว่าสิ่งนั้นมีราคา
แพง

ชื่อ-นามสกุล..................................................................ชั้น ป.6/.......เลขที่.........

รบ หศ ฟฒซ ธจ งล อ ฑร ฟ

9 ตอบ ง
เพราะ ในประโยคของตัวเลือกข้อ ง มีคำว่า ใคร ที่บ่งบอกถึงความ
เป็นปฤจฉาสรรพนามทั้งเนื้อความที่อยู่ในรูปแบบคำถาม เหตุที่ข้ออื่นไม่ใช่
เพราะ ข้อ ก และข้อ ข เป็นอนิยมสรรพนามบอกความไม่เจาะจงโดยใช้คำ
ว่า ใคร ๆ และ อะไร ๆ และในตัวเลือกข้อ ค เป็นนิยมสรรพนาม โดยใช้คำ
ว่า นี้ เพื่อชี้เฉพาะว่ารถคันนี้เพิ่งประกอบเสร็จ

10 ตอบ ก

เพราะ คำว่า มัน ในรูปประโยคของตัวเลือกข้อ ก เป็นสรรพนามบุรุษที่ 3
ที่ใช้คำว่า มัน แทนผู้ ที่ถูกกล่ าวถึง ข้ออื่นผิดเพราะ คำวา่ มันของตัวเลือกขอ้
ข และข้ อ ง เป็นคำนาม และตัวเลือกขอ้ ค มีคำว่า มัน เป็นคำวิเศษณ์ที่
ขยายคำกริยาคือคำว่า คุย

รบ หศ ฟฒซ ธจ งล อ ฑร ฟ

เฉลยแบบทดสอบ
เรื่อง คำกริยา




1 ตอบ ค
เพราะ คำว่า เป็น คือกริยาที่ไม่มีความหมายในตัวเอง ใช้ตามลำพัง
แล้วไม่ได้ ความจำเป็นต้ องมีคำอื่นมาประกอบจึงจะได้ความหมาย ซึ่งคำว่า
แม่ เป็นประธาน คำว่าเป็น คือคำกริยา หากประโยคมีคำว่าแม่เป็น จะไม่ได้
ความในประโยค เพราะคำว่า เป็น คือ วิกตรรถกริยา ในประโยคจึงจำเป็น
ต้องเติม “ผู้ให้ กำเนิดลูกทุกคน” เพื่อให้ ประโยคนั้นได้ ความ

2 ตอบ ข

เพราะกริยานุเคราะห์หรือกริยาช่วย คือ คำกริยาที่ทำหน้าที่ช่วยคำกริยา
สำคัญในประโยคให้มีความหมายชัดเจนขึ้น เช่นคำว่า จง กำลัง จะ ย่อม
คง ยัง ถูก นะ เถอะ เป็นต้น ดังนั้นแล้ วขอ้ ข จึงถูก เหตุผลคือ ดินสอถูก
ขโมย มี ขโมย เป็นกริยาแท้ มีคำว่า ถูก เป็นกริยาช่วย เพื่อให้ความหมาย
ในประโยคชัดเจนขึ้นว่า ดินสอถูกขโมยไปนั่นเอง

3 ตอบ ค
เพราะ จากบริบทภายในประโยคที่ให้มานั้น ควรเติมกริยาคือคำว่า ชม ซึ่งจะ
ทำให้ ประโยคนั้นสมบูรณ์และเข้ ากับใจความจากประโยคที่คำถามได้ ให้มา
มากที่สุด

ชื่อ-นามสกุล..................................................................ชั้น ป.6/.......เลขที่.........

รบ หศ ฟฒซ ธจ งล อ ฑร ฟ

4 ตอบ ง
เพราะ เขาขันเชือก คำว่า ขัน ตัวนี้เป็นกริยาที่มีความหมายว่า ทำให้
ตึงหรือให้แน่นด้วยวิธีหมุนกวดเร่งเข้าไป เช่น ขันชะเนาะ ขันเกลียว ซึ่งถือ
เป็นคำกริยา ที่จำเป็นต้องมีกรรมมารองรับ จะอยู่โดด ๆ ไม่ได้

5 ตอบ ง

เพราะ คำที่ทำหน้าที่เชื่อมประโยค คือ คำสันธาน

6 ตอบ ก
เพราะ คำกริยา หมายถึง คำที่แสดงอาการของนามหรือสรรพนามเพื่อ
ให้รู้ว่า นามหรือสรรพนามนั้นทำหน้าที่อะไร หรือเป็นการแสดงการกระทำ
ของประธานในประโยค

7 ตอบ ค
เพราะ ข้อ ก และ ข้อ ข มีคำนามอยู่ในตัวเลือก คือคำว่า พี่แอนกับคำ
ว่าเครื่องบิน
ข้อ ง มีคำสรรพนามอยู่ในประโยค คือคำว่า คุณท่าน ดังนั้นแล้วข้อ ค จึงถูก
เหตุผลเพราะคำว่า กิน และ คำว่า เขียน เป็นคำที่แสดงอาการนั่นเอง

ชื่อ-นามสกุล..................................................................ชั้น ป.6/.......เลขที่.........

รบ หศ ฟฒซ ธจ งล อ ฑร ฟ

8 ตอบ ง
เพราะ ข้อ ง คำว่า บิน เดิน และคำว่า หาย เป็นกริยาที่เมื่ออยู่กับ
ประธานแล้ว ไม่จำเป็นต้องมีกรรมมารองรับก็สามารถรู้ความในประโยคได้
เช่น นกบิน เฉิงเฉิงเดิน ปากกาหาย แต่คำในตัวเลือกอื่น ๆ ยังมีคำที่
จำเป็นต้องมีกรรมมารองรับเพื่อให้ ได้ ใจความที่สมบูรณ์อยู่

9 ตอบ ค
เพราะ ข้อ ค มีประธานคือ เครื่องยนต์ กริยานุเคราะห์คือ กำลัง คำ
กริยาแท้คือคำว่า ทำ ซึ่งสกรรมกริยาคือ กริยาที่จำเป็นต้องมีกรรมมารองรับ
ประโยคถึงจะได้ความหมาย ดังนั้นแล้ วข้อ ค จึงถูก เหตุผลคือ ทำ เป็นกริยา
ที่ไม่สามารถอยู่เดี่ยว ๆ ได้ จำเป็นที่จะต้องมีกรรมมารองรับคือคำว่า งาน

10 ตอบ ก
เพราะ สุดาหัวเราะเสียงดัง มีคำว่า สุดา เป็นประธาน คำว่าหัวเราะ
เป็นกริยา ซึ่งคำว่าหัวเราะ ถือเป็นอกรรมกริยาที่ไม่จำเป็นต้องมีกรรมมารอง
รับก็สามารถเข้าใจความของประโยคได้ และในคำถามที่ใช้คำว่า เสียงดัง มา
ต่อท้ายคำว่าหัวเราะก็ไม่ใช้กรรมของคำว่าหัวเราะ แต่เป็นส่วนขยายกริยาซึ่ง
ต้องการบอกว่า สุดาหัวเราะเสียงดัง

ชื่อ-นามสกุล..................................................................ชั้น ป.6/.......เลขที่.........

รบ หศ ฟฒซ ธจ งล อ ฑร ฟ

เฉลยแบบทดสอบ
เรื่อง คำวิเศษณ์




1 ตอบ ค
เพราะ คำในตัวเลือกข้อ ค เป็นคำที่บ่งบอกถึงความชี้เฉพาะเจาะจง
หรือนิยมวิเศษณ์ เช่ น บ้านนั้นไม่ มีคนอยู่ ในตัวเลือกอื่นผิดเพราะ
ข้อ ก เป็นคำวิเศษปฤจฉาวิเศษณ์ซึ่งเป็นคำวิเศษณ์ที่แสดงคำถามหรือ
แสดงความสงสัย
ข้อ ข ผิด เพราะ เป็นคำวิเศษณ์บอกสถานที่ และข้อ ง ผิด เพราะเป็นกาล
วิเศษณ์หรือคำวิเศษณ์บอกเวลา

2 ตอบ ก
เพราะ รถโดยสารกำลังเลี้ยวขวา ในประโยคมีคำว่า ขวา ที่เข้าข่ายคำ
วิเศษณ์บอกสถานที่จริง แต่รูปประโยค รถโดยสาร เป็นประธาน คำว่ากำลัง
เป็นกริยานุเคราะห์หรือกริยาช่วย ดังนั้นแล้วคำว่า เลี้ยวขวา จึงเป็นกริยาแท้
ขอ้ อื่นผิด เพราะ ข้อ ข มีคำว่ า ทางเหนือ , ข้ อ ค มีคำว่ า บน ,ข้อ ง มีคำว่ า ไกล
ซึ่งคำเหล่านี้ล้วนเป็นคำสถานวิเศษณ์หรือคำวิเศษณ์บอกสถานที่

3 ตอบ ก

เพราะ ประติชญาวิเศษณ์ เป็นคำวิเศษณ์ที่ใช้แสดงการขานรับหรือ
โต้ตอบ เช่น ครับ ค่ะ ขอรับ นะคะ เป็นต้น

ชื่อ-นามสกุล..................................................................ชั้น ป.6/.......เลขที่.........

รบ หศ ฟฒซ ธจ งล อ ฑร ฟ

4 ตอบ ง
เพราะ คำว่า ยี่สิบ เป็นประมาณวิเศษณ์ที่บอกจำนวนหรือปริมาณ

ตอบ ก

5 เพราะ ก เป็น เพราะข้อ ก เป็นประโยคคำถามปกติ หากดูที่บริบท

ของประโยค ไม่ดูที่คำ จะพบว่า ก มีคำว่า ใคร ที่เป็นตัวบอกว่าคือ อนิยม
วิเศษณ์ ซึ่งเป็นวิเศษณ์ที่บอกความไม่ชี้เฉพาะเจาะจง แต่บริบทประโยคคือ
การถาม หากเจาะจงไปที่การถาม ข้อ ก จะกลายเป็นปฤจฉาวิเศษณ์ ที่เป็น
คำวิเศษณ์แสดงคำถาม ซึ่งไม่ตรงกับหลักการและหน้าที่ของคำวิเศษณ์
เพราะสิ่งที่สื่อถึงว่าประโยคนี้เป็นประโยคคำถามคือคำว่าใคร ซึ่งคำว่าใคร
ต้องเป็นคำวิเศษณ์ที่ขยายได้ทั้งนาม สรรพนาม กริยา และคำวิเศษณ์ แต่คำ
ว่า ใคร ในตัวเลือกข้อ ก ทำหน้าที่เป็นประธานในประโยค ดังนั้นแล้วจึง
สรุปได้ว่ าข้อ ก ผิด

6 ตอบ ข
เพราะ คำวิเศษณ์ หมายถึง คำที่ใช้ประกอบหรือขยายคำนาม คำสรรพนาม
คำกริยา หรือคำวิเศษณ์ เพื่อให้ ได้ใจความที่ชัดเจนมากขึ้น

ชื่อ-นามสกุล..................................................................ชั้น ป.6/.......เลขที่.........

รบ หศ ฟฒซ ธจ งล อ ฑร ฟ

7 ตอบ ค
เพราะ คำว่า เย็น ขาว เล็ก เป็นลักษณะวิเศษณ์หรือคำวิเศษณ์บอก
ลักษณะ เหตุที่ข้ออื่นผิด เพราะ คำในตัวเลือกอื่นมีคำกริยาปะปนอยู่ด้วย คือ
คำว่า กิน ขับ เดิน และคำว่า ยืน

8 ตอบ ข
เพราะ ข้อ ก มีคำวิเศษณ์ คือคำว่า กลิ่นหอม ที่เป็นลักษณะวิเศษณ์บอก
ลักษณะ
ข้อ ค มีคำวิเศษณ์ คือคำว่า นี้ เป็นนิยมวิเศษณ์ บอกความชี้เฉพาะ
ข้อ ง มีคำวิเศษณ์ คือคำว่ า เย็นนี้ เป็นกาลวิเศษณ์ เป็นคำวิเศษณ์บอกเวลา

9 ตอบ ง
เพราะ คำว่า หลังใหญ่ เป็นวิเศษบอกลักษณะ ขยายคำว่า บ้าน และ
หากพิจารณาดูบริบทของประโยค ข้อ ง จึงมีความเหมาะสมมากที่สุด

10 ตอบ ค
เพราะ คำว่า กลม เป็นวิเศษณ์บอกลักษณะ ขยายความว่า ขวด

ชื่อ-นามสกุล..................................................................ชั้น ป.6/.......เลขที่.........

รบ หศ ฟฒซ ธจ งล อ ฑร ฟ

เฉลยแบบทดสอบ
เรื่อง บุพบท




1 ตอบ ก
เพราะ จากรูปและบริบทของประโยค ไม่ควรใช้คำว่า กับ แต่ควรใช้
คำวา่ แก่ แทน คือ ฉันเห็นแก่ เธอจึงไม่ ทำลายเขา

2 ตอบ ง
เพราะ ข้อ ก ไม่ควรใช้คำว่า สู่ ควรที่คำบุพบทที่เหมาะสมแก่ฐานะหรือ
ความเกี่ยวข้อง คือ คำวา่ แด่
ข้อ ข ควรใช้คำว่ า ที่ แทนคำว่า ใน
ข้อ ค ควรใช้คำว่า ด้วย แทนคำว่า โดย
ดังนั้นแล้ว ข้อ ง มีการใช้คำว่า เพื่อ ซึ่งเป็นการใช้คำบุพบทเหมาะสมกับความ
เกี่ยวข้องและความประสงค์ ข้อ ง จึงถูกที่สุด

3 ตอบ ง
เพราะ ข้อ ง มีการใช้คำบุพบทผิดจากบริบทของประโยค ประโยคที่ว่า ครู
สอนนักเรียนโดยความรัก ไม่ควรใช้คำว่า โดย คำบุพบทที่ควรใช้ให้เข้ ากับ
ประโยค คือ คำว่า ด้ วย

ชื่อ-นามสกุล..................................................................ชั้น ป.6/.......เลขที่.........

รบ หศ ฟฒซ ธจ งล อ ฑร ฟ

4 ตอบ ง
เพราะ ข้อ ก และ ข้อ ข มีคำว่า ใน และคำว่า บน เป็นบุพบทบอก
สถานที่ ,ข้อ ค มีของว่า แห่ง มีบุพบทบอกความเป็นเจ้าของ

5 ตอบ ก
เพราะ หากมองเป็นกลุ่มคำ แก่ ในข้อ ก คือ คนแก่ ที่เป็นคำนาม
ไม่ใช่คำบุพบท และหากมองให้ลึกลงไป คำว่ า แก่ ในข้อ ก คือคำวิเศษณ์
บอกลักษณะที่ขยายคำนามคือคำว่ า คน

6 ตอบ ข
เพราะ ตัวเลือกข้ออื่นเป็นประโยคเดี่ยวที่ไม่จำเป็นต้องมีคำบุพบทก็ได้
แต่ข้อ ข ควรที่จะเติมคำบุพบทคือคำว่า กับ ซึ่งจะได้ประโยคว่ า คุณพ่ อให้เงิน
กับน้อง เป็นการเสริมคำบุพบทบอกความประสงค์หรือเกี่ยวข้ องเพื่อให้ความ
ต่ อเนื่องกันและชัดเจนยิ่งขึ้น

7 ตอบ ค
เพราะ ผู้รับคือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ควรใช้บุพบทคือคำว่า
แด่ เพื่อแสดงถึงความเคารพและให้เหมาะสมกับฐานะ

ชื่อ-นามสกุล..................................................................ชั้น ป.6/.......เลขที่.........

รบ หศ ฟฒซ ธจ งล อ ฑร ฟ

8 ตอบ ง
เพราะ ข้อ ก และข้อ ค มีคำบุพบทคือคำว่า ใน และ บน ซึ่งเป็นคำ
บุพบทบอกสถานที่
ข้อ ข มีคำบุพบทคือคำว่า โดย เป็นคำบุพบทบอกความประสงค์หรือเกี่ยว
ข้ อง

9 ตอบ ข
เพราะ จากบริบทของประโยค ควรเติมบุพบทคำว่า เพื่อ จึงจะสัมพันธ์
กับความหมายในประโยคที่ให้มากับคำถามมากที่สุด ซึ่งจะได้ประโยคว่า พ่อ
แม่ทำงานเหน็ดเหนื่อยเพื่อลูก

10 ตอบ ข
เพราะความหมายของคำบุพบท คือ คำที่แสดงความสัมพันธ์ระหว่าง
คำ ข้อความหรือประโยค เพื่อให้ ความต่อเนื่องกัน และช่วยให้ข้อความนั้น
ชัดเจนยิ่งขึ้น

ชื่อ-นามสกุล..................................................................ชั้น ป.6/.......เลขที่.........

รบ หศ ฟฒซ ธจ งล อ ฑร ฟ

เฉลยแบบทดสอบ
เรื่อง สันธาน




1 ตอบ ข

เพราะ ในตัวเลือกข้อ ข มีการบอกเหตุผลที่เขามาโรงเรียนสาย และ
บอกสาเหตุว่าเป็นเพราะรถติด โดยมีคำสันธานเชื่อมคือคำว่า เพราะ บอก
ความเป็นเหตุเป็นผล

2 ตอบ ค
เพราะ ตัวเลือกในข้อ ค ไม่ใช่สันธานเชื่อมความขัดแย้ง แต่มีคำ
สันธานที่เชื่อมบอกความคลอ้ ยตามกันคือคำวา่ พอ...ก็… เพื่อแสดงถึงความ
คล้อยตามในประโยคว่า พอฝนหยุดตกเสร็จแล้ว กบก็ร้องหลังจากฝนตกเสร็จ
ทันที

3 ตอบ ก
เพราะ ตัวเลือกข้อ ข และข้อ ง มีคำว่า แต่ เป็นสันธานเชื่อมความขัด
แย้งกัน ,ข้ อ ค มีคำว่า หรือ เป็นสันธานให้เลือกอย่ างใดอย่างหนึ่ง
ขอ้ ก มีคำว่ า พร้ อม เป็นสันธานเชื่อมความคล้อยตามว่ า ฉันให้ อาหารปลาใน
ขณะเดียวกันก็ทำความสะอาดตู้เลี้ยงปลาด้วย ดังนั้นข้อ ก จึงถูก

4 ตอบ ง
เพราะ ข้อ ง มีคำว่า แต่ เป็นคำสันธานที่เชื่อมความที่ขัดแย้งกันว่า
ฉันชอบดื่มนม แต่น้องกลับชอบดื่มน้ำอัดลม

ชื่อ-นามสกุล..................................................................ชั้น ป.6/.......เลขที่.........

รบ หศ ฟฒซ ธจ งล อ ฑร ฟ

5 ตอบ ง
เพราะ หน้าที่ของคำสันธาน คือ คำที่ใช้เชื่อมข้อความหรือประโยค
ให้เป็นเนื้อความอันเดียวกันหรือให้สอดคล้องกัน

6 ตอบ ค
เพราะ ข้อ ค มีคำว่า หรือ เป็นคำสันธานเชื่อมความให้เลือกอย่างใด
อย่างหนึ่งว่าเธอจะเลือกดูโทรทัศน์ หรือ เธอจะเลือกฟังวิทยุ

7 ตอบ ก

เพราะ ประโยคที่คำถามให้มา ฉันและน้องชอบเล่นกีฬา มีคำว่า และ
เชื่อมความที่แสดงถึงความคล้อยตามกันว่า ทั้งฉันและน้องของฉันต่างชอบเล่น
กีฬาทั้งคู่

8 ตอบ ข
เพราะ ประโยคที่คำถามให้มา ถึงแม้ว่าเขาไม่สบายแต่ก็ยังมาโรงเรียน มีคำ
ว่า แต่ เป็นคำสันธานเชื่อมความที่ขัดแย้งกันว่า เขายังคงมาโรงเรียนเหมือน
เดิมถึงแม้ว่าเขาจะไม่สบายก็ตาม

ชื่อ-นามสกุล..................................................................ชั้น ป.6/.......เลขที่.........

รบ หศ ฟฒซ ธจ งล อ ฑร ฟ

9 ตอบ ค
เพราะ ประโยคที่คำถามให้มา เธอต้องการอ่านหนังสือหรือต้องการ
นอนพัก มีคำว่า หรือ เป็นคำสันธานที่เชื่อมความให้เลือกเอาอย่างใดอย่าง
หนึ่ง คือ ต้องการให้เธอเลือกว่า เธอต้องการจะอ่านหนังสือ หรือ เธอ
ต้องการจะนอนพัก

10 ตอบ ง
เพราะ ประโยคที่คำถามให้มา บอกสาเหตุว่าที่นี่เสียงดัง และผลของ
เหตุนั้นว่าเสียงดังคนจึงไม่อยู่กัน โดยมีคำวว่า เพราะฉะนั้น เป็นคำสันธาน
เชื่อมความเป็นเหตุเป็นผลในประโยค

ไปต่อที่เฉลยคำ
อุทานกันเลย !!!

รบ หศ ฟฒซ ธจ งล อ ฑร ฟ

เฉลยแบบทดสอบ
เรื่อง อุทาน




1 ตอบ ง

เพราะ คำอุทานมี 2 ชนิด คือ อุทานบอกอาการ และ อุทานเสริมบท
ดังนั้นข้อ ง จึงถูก

2 ตอบ ก
เพราะ เป็นคำอุทานที่เสริมกับคำเดิมเพื่อให้เสียงของคำสละสลวย
หรือเสริมความหมายให้ ชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งคำที่ใช้ เสริมนี้ไม่มีความหมายอะไร
คำอุทานพวกนี้ไม่ใส่เครื่องหมายอัศเจรีย์ (!) และมักจะพบในบทประพันธ์

ตอบ ค

3 เพราะ คำอุทานบอกอาการ จะอุทานแสดงความรู้สึกต่าง ๆ ซึ่งมักใช้

เครื่องหมายอัศเจรีย์(!) ต่ อท้ ายเพื่อให้ ผู้อ่ านออกเสียงได้ถูกต้อง

4 ตอบ ง
เพราะ คำอุทานเสริมบทจะมีไว้สำหรับเน้นความหมาย เพิ่มเสียงของคำ หรือ
ทำวห้เกิดคำคล้องจอง ยกตัวอย่างเช่น ลดราวาศอก อาบน้ำอาบท่า หยูกยา
เป็นต้น ดังนั้นแล้ว ข้อ ง จึงไม่ใช่ประโยชน์ของอุทานเสริมบท แต่เป็น
ประโยชน์ของอุทานบอกอาการ

ชื่อ-นามสกุล..................................................................ชั้น ป.6/.......เลขที่.........

รบ หศ ฟฒซ ธจ งล อ ฑร ฟ

5 ตอบ ค

เพราะ คำว่า โอ เป็นคำอุทานที่อุทานออกมาเมื่อเกิดอาการประหลาด
ใจ ข้อ ก เป็นคำอุทานเมื่อเกิดอาการบาดเจ็บ
ข้อ ข เป็นคำอุทานเมื่อเกิดอาการเข้าใจ
ข้อ ง เป็นคำอุทานที่ใช้ขู่หรือตวาดเมื่อเกิดอาการโกรธ

6 ตอบ ก

เพราะ เอ๊ะ คือ คำที่เปล่งออกมาแสดงความฉงนไม่เข้าใจหรือไม่
พอใจ ดังนั้นแล้ว การที่ครูอุทานคำว่า เอ๊ะ! ออกมา จึงทำให้ป้องเศษรู้ว่าครู
ไม่พอใจ

7 ตอบ ก

เพราะ คำว่า ว้าย เป็น คำที่เปล่งออกมาตอนแสดงอาการตกใจหรือ
ดีใจ ซึ่งเหมาะกับบริบทในประโยคที่ร้องอุทานคำว่า ว้าย เมื่อเห็นคนหกล้ม

8 ตอบ ข
เพราะ มีคำว่า ว่าโอ้ ซึ่งถือเป็นคำอุทานบอกอาการที่แสดงความรู้สึกในคำ
ประพันธ์

ชื่อ-นามสกุล..................................................................ชั้น ป.6/.......เลขที่.........

ร หศ ฟฒซ ธจ งล อ ฑร ฟ

9 ตอบ ค

เพราะ คำว่า แฮ เป็นอุทานเสริมบท ไม่ใช่อุทานบอกอาการ จึงไม่
จำเป็นที่จะต้องมีเครื่องหมายอัศเจรีย์(!)อยู่ท้ายคำ

10 ตอบ ง
เพราะ คำว่า โครม เป็นคำอุทานที่แสดงให้รู้ว่ามีเสียงดังผิดปกติ ใช้
ประกอบเสียงที่มีอะไรหล่นลงมาดังโครม

ข้อสอบ
ง่ายมาก
เลยใช่มั้ย
ล่ะ ฮี่ฮี่

ชื่อ-นามสกุล..................................................................ชั้น ป.6/.......เลขที่.........

รบ หศ ฟฒซ ธจ งล อ ฑร ฟ

แบบฝึกหัด

เรื่อง ประเภทของคำนาม

คำชี้แจง จงบอกประเภทของคำนามที่ขีดเส้นใต้ในประโยคต่อไปนี้ให้ถูกต้อง

สามานยนาม วิสามานยนาม สมุหนาม

ลักษณนาม อาการนาม

1. สุนทรภู่เป็นกวีเอกของโลก วิสามานยนาม
2. เขามาโรงเรียนตั้งแต่เช้า สามานยนาม
3. กรุงเทพมหานครเป็นเมืองหลวงของ วิสามานยนาม

ประเทศไทย อาการนาม
4. เขาชอบทำแต่ความดี อาการนาม
5. การออกกำลังกายทำให้สุขภาพแข็งแรง ลักษณนาม
6.เขาซื้อหนังสือมา 1 เล่ม สมุหนาม
7. ฝูงผึ้งทำรังอยู่บนต้นไม้ สามานยนาม
8. แม่ไปรับยาที่โรงพยาบาล สมุหนาม
9. ส้มกองนี้เน่าเกือบหมด ลักษณนาม
10.วันนี้มีนกมาเกาะหน้าต่าง 2 ตัว

ชื่อ-นามสกุล..................................................................ชั้น ป.6/.......เลขที่.........

รบ หศ ฟฒซ ธจ งล อ ฑร ฟ

แบบฝึกหัด

เรื่อง ชนิดและหน้าที่
ของคำสรรพนาม

ตอนที่ 1 จงบอกชนิดของคำสรรพนามที่ขีดเส้นใต้ในประโยคต่อไปนี้ให้ถูกต้อง

บุรุษสรรพนาม ประพันธสรรพนาม วิภาคสรรพนาม

นิยมสรรพนาม อนิยมสรรพนาม ปฤจฉาสรรพนาม

ปฤจฉาสรรพนาม 1. ใครมานั่งอยู่ข้างหน้าบ้าน

นิยมสรรพนาม 2. นั่นคือทะเลสาบ
บุรุษสรรพนาม 3. นาฬิกาเรือนนี้สวยจังเลยค่ะคุณขา

วิภาคสรรพนาม 4.เด็ก ๆ เล่นกันที่สนาม

อนิยมสรรพนาม 5. อะไรฉันก็กินได้ทั้งนั้น
ประพันธสรรพนาม 6. ปากกาที่วางอยู่บนชั้นเป็นของฉัน

ตอนที่ 2 จงบอกหน้าที่ของคำสรรพนามที่ขีดเส้นใต้ในประโยคต่อไปนี้ให้ถูกต้อง

ตัวอย่าง ใครมาทำอะไรในห้องนี้ ทำหน้าที่เป็นประธานของประโยค

1. เธอไปตลาดเมื่อเช้า ทำหน้าที่เป็นประธานของประโยค

2. ครูยินดีกับนักเรียนที่สอบผ่าน ทำหน้าที่เชื่อมประโยค

3. ฉันพาคุณย่าท่านไปเที่ยว ทำหน้าที่ขยายนาม

4. ฉันถูกหมากัดที่ขา ทำหน้าที่เป็นกรรมของประโยค

5. นักเรียนดีเด่นคือเขานั่นเอง ทำหน้าที่เป็นส่วนเติมเต็มหรือส่วนสมบูรณ์

ชื่อ-นามสกุล..................................................................ชั้น ป.6/.......เลขที่.........

รบ หศ ฟฒซ ธจ งล อ ฑร ฟ

แบบฝึกหัด

เรื่อง ประเภทและหน้าที่
ของคำกริยา

ตอนที่ 1 จงพิจารณาว่าประโยคต่อไปนี้เป็นคำกริยาประเภทใด

สกรรมกริยา อกรรมกริยา กริยานุเคราะห์
วิกตรรถกริยา กริยาสภาวมาลา

1. ฝนตกแรงมาก อกรรมกริยา
2. นายเขียวเป็นเหมือนญาติของฉัน วิกตรรถกริยา

3. เขาและเธอไปตลาด สกรรมกริยา

4. เธอไปตลาดมาแล้ว กริยานุเคราะห์

5. สูบบุหรี่เป็นภัยต่อชีวิต กริยาสภาวมาลา

ตอนที่ 2 จงบอกหน้าที่ของคำกริยาที่ขีดเส้นใต้ในประโยคต่อไปนี้ให้ถูกต้อง
ตัวอย่าง คุณพ่อปลูกต้นไม้ ทำหน้าที่เป็นภาคแสดงของประโยค

1. ท่องเที่ยวเป็นการเปิดโลกการเรียนรู้ ทำหน้าที่เป็นกริยาสภาวมาลา

2. คุณยายไปวัด ทำหน้าที่เป็นภาคแสดงของประโยค

3. ฉันมีปืนฉีดน้ำ ทำหน้าที่เป็นส่วนขยายคำนาม

4. เอมอรขับรถเร็ว ทำหน้าที่เป็นภาคแสดงของประโยค

5. ปลื้มจิตชอบเลี้ยงแมว ทำหน้าที่เป็นส่วนขยายคำนาม

ชื่อ-นามสกุล..................................................................ชั้น ป.6/.......เลขที่.........

รบ หศ ฟฒซ ธจ งล อ ฑร ฟ

แบบฝึกหัด

เรื่อง ประเภทและหน้าที่
ของคำวิเศษณ์

ตอนที่ 1 จงนำคำวิเศษณ์ที่กำหนดให้ เติมลงในช่องว่างให้ประโยคมีใจความสมบูรณ์
และถูกต้อง

1. เต่ามักเดิน ช้า ส่วนกระต่ายมักวิ่ง เร็ว

2. ประภาจะเดินทางไปน่าน พรุ่งนี้ ช้า จัว๊
อย่างไร
3. กระดาษสีขาว จัว๊ แต่ถ่านสีดำ ปี ๋
วันนี้ เร็ว
4. ทำ อย่างไร ฉันจึงจะวิ่งเร็วเหมือนเธอ พรุ่งนี้

ปี ๋ ทำไม

5. ทำไม มานะจึงมาโรงเรียนสายใน วันนี้

ตอนที่ 2 จงบอกหน้าที่ของคำกริยาที่ขีดเส้นใต้ในประโยคต่อไปนี้ให้ถูกต้อง

ขยายคำนาม ขยายคำสรรพนาม ขยายคำกริยา ขยายคำวิเศษณ์ เป็นตัวแสดง

1.คนอ้วนที่เดินอยู่ข้างคนผอม คือพ่อของฉัน ขยายคำนาม
2. เขากินข้าวผัดของผมเอง ขยายคำสรรพนาม
3. ชุดประจำชาติของไทยสวยงามจริงๆ
4. ฉันเตี้ยกว่าเธอ เป็นตัวแสดง
5. กระเป๋าใบนี้ใหม่มาก เป็นตัวแสดง
6. เขาทั้งหลายสวดมนต์ข้ามปีที่วัด ขยายคำวิเศษณ์
7. แมวตัวใหญ่กินข้าวช้า ขยายคำสรรพนาม
ขยายคำกริยา

ชื่อ-นามสกุล..................................................................ชั้น ป.6/.......เลขที่.........

รบ หศ ฟฒซ ธจ งล อ ฑร ฟ

แบบฝึกหัด

เรื่อง ชนิดของคำบุพบท

ตอนที่ 1 จงทำเครื่องหมายถูก ในช่องที่เป็นคำบุพบท

1. นรินวาดภาพด้วยดินสองสองบี

2. บ้านของมานีอยู่ในหมู่บ้านแสนสุข

3. เขาบริจาคเสื้อผ้าแก่เด็กยากไร้

4. เขากินหมูย่างตั้งแต่ เมื่อคืน

5. มูมู่สุนัขของดารินแสนรู้ มาก

ตอนที่ 2 จงเลือกคำบุพบทที่กำหนดเพียงคำเดียว ให้เหมาะสมกับประโยคและถูกต้อง

1. มนุษย์ต้องคบหาสมาคมและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ซึ่ง กันและกัน

2. คนดีย่อมมีความกตัญญู ต่อ พ่อแม่

3. ยาเสพติดให้โทษ ต่อ ร่างกาย

4. ที่ดินนี้เหมาะ แก่ การเพาะปลูก

5. เชียงใหม่เป็นเมือง แห่ง การท่องเที่ยวทางธรรมชาติ

6.หนังสือเล่มนี้มีความรู้ทั่วไปเกี่ยว กับ จิตด้วย

7. เขาอ่านหนังสือ ตั้งแต่ เช้า จนตอนนี้ก็ยังไม่หยุด

8. เขาปลูกต้นไม้ไว้ ริม ระเบียง

ชื่อ-นามสกุล..................................................................ชั้น ป.6/.......เลขที่.........

รบ หศ ฟฒซ ธจ งล อ ฑร ฟ
แบบฝึกหัด
เรื่อง ชนิดของคำสันธาน

ตอนที่ 1 ให้นักเรียนแยกประโยคต่อไปนี้ และบอกคำสันธานที่ใช้เชื่อมประโยคว่าเป็นสันธานชนิดใด

ตัวอย่าง เมื่อแม่ไปวัดพ่อก็เข้ามา
แม่ไปวัด พ่อเข้าบ้าน
เมื่อ.....ก็ เป็นคำสันธานชนิด เชื่อมใจความเนื้อความคล้อยตาม

1.ผมตั้งใจเรียนเพราะฉะนั้นผลงานจึงออกมาดี

ผมตั้งใจเรียน ผลงานออกมาดี




เพราะฉะนั้น...จึง เป็นคำสันธานชนิด เชื่อมความที่เป็นเหตุเป็นผล

2.ครูอยู่สีฟ้าหรือสีเขียว

ครูอยู่สีฟ้า ครูอยู่สีเขียว




หรือ เป็นคำสันธานชนิด เชื่อมข้อความให้เลือก

3.นักเรียนมาเรียนหรือมาเล่น

นักเรียนมาเรียน นักเรียนมาเล่น




หรือ เป็นคำสันธานชนิด เชื่อมข้อความให้เลือก

4.พอเขามาถึงเขาก็หมดแรง

เขามาถึง เขาหมดแรง




พอ...ก็ เป็นคำสันธานชนิด เชื่อมความที่ขัดแย้งกัน

ตอนที่ 2 นำคำสันธานมาเติมในประโยคให้ได้ใจความ

หรือไม่ก็ ครั้น...จึง หรือ เพราะฉะนั้น จึง
และ
พอ...ก็ แต่ว่า ถึงแม้ว่า...ก็
ฉะนั้น
กว่า...ก็

1. กว่า ถั่วจะสุก งา ก็ ไหม้ 4.ฉัน และ น้องชายชอบเล่นฟุตบอลหลังเลิกเรียน

2.เขาอ่านหนังสือทุกวัน เขา จึง สอบได้ที่หนึ่ง 5. พอ พ่อมาถึงบ้านแล้ว แม่ ก็ นำน้ำมาให้พ่อดื่ม

3.ธิดามีน้ำใจกับเพื่อนเสมอ เพราะฉะนั้น เพื่อนจึงรักธิดา 6.ที่นี่เสียงดังมาก เพราะฉะนั้น คนจึงไม่อยากอยู่

ชื่อ-นามสกุล..................................................................ชั้น ป.6/.......เลขที่.........

รบ หศ ฟฒซ ธจ งล อ ฑร ฟ

แบบฝึกหัด

เรื่อง ชนิดของคำอุทาน

ตอนที่ 1 ให้นักเรียน ลงในช่องว่างว่าคำใดเป็นคำอุทานเสริมบท

1.ของมันใช้ไม่ได้แล้ว อย่าไปเสียดงเสียดายมันเลย
2.อย่าใช้จ่ายมากนักสตุ้งสตางค์ยิ่งหายากอยู่
3.อย่าเสียอกเสียใจไปเลย ถึงคราวเคราะห์หามยามร้ายก็หลีกเลี่ยงไม่ได้
4.งานใหญ่โตอาหงอาหารมีพอกินกันหรือเปล่า
5.เป็นเด็กเป็นเล็กไม่รู้จักเคารพผู้ใหญ่

ตอนที่ 2 ให้นักเรียนนำตัวเลขหน้าข้อความทางขวามมือใส่ลงในช่องว่างทางซ้ายมือ

1. จ. โอ๊ย ! มีดบาดมือ ก.ตกใจ
ข.สงสัย

2. ก. อุ๊ย ! มดกัด ฃ.สงสาร
ค.โล่งใจ

3. ช. ไชโย ! ฉันสอบผ่านแล้ว ฅ.บอกให้รู้ตัว
ฆ.ประหลาดใจ

4. ค. เฮ้อ ! เหมือนยกภูเขาออกจากอก ง.หงุดหงิด
จ.เจ็บปวด

5. ฆ. โอ้โฮ ! ทำไมใหญ่โตขนาดนี้ ฉ.ไม่พอใจ
ช.ดีใจ

ชื่อ-นามสกุล..................................................................ชั้น ป.6/.......เลขที่.........

ชนิดของคำ et
o
ในภาษาไทย 7 ชนิด s
hort n

สรุปเนื้อหาสาระสำคัญ
ของเนื้อหาวิชาภาษาไทย
เรื่อง ชนิดของคำในภาษาไทย
ในรูปแบบ Short Note
มีรูปภาพประกอบ เข้าใจได้ง่าย
เนื้อหาอ่านง่าย สบายตา สีสันสดใส
มีไฮไลต์สำคัญ ๆ ที่ควรรู้




สแกน เพื่อรับการ์ตูนเสริมความรู้


Click to View FlipBook Version