3503-2108
การผสมเทยี ม
Artificial Insemination
บทท่ี 1
ความสาคญั และประโยชน์ของการผสมเทียม
1. หวั ข้อการสอน
1.1 ประวตั ิการผสมเทียม
1.2 ประโยชน์ของการผสมเทียม
1.3 ขอ้ เสียของการผสมเทียม
2. สาระสาคญั
ปี พ.ศ. 2499 กรมปศุสัตวจ์ ึง ไดเ้ ปิ ดสถานีผสมเทียมแห่งแรก ที่จงั หวดั เชียงใหม่ และได้
มอบหมายใหน้ ายสัตวแพทยท์ ศพร สุทธิคา ปฏิบตั ิหนา้ ที่เป็นหวั หนา้
การผสมเทียม เป็ นการพฒั นาการผสมพนั ธุ์โดยการเลียนแบบและประยุกต์การผสมพนั ธุ์
ตามธรรมชาติ ซ่ึงหากปฏิบตั ิได้ถูกตอ้ งตามข้นั ตอนจะมีคุณอนันต์ แต่หากปฏิบตั ิผิดข้นั ตอนจะมี
โทษมหนั ต์
3. จุดประสงค์การสอน
3.1 ผเู้ รียนทราบประวตั ิความเป็นมาของงานผสมเทียม
3.2 ผเู้ รียนเขา้ ใจความหมายของการผสมเทียม
3.2 มีความรู้ความเขา้ ใจเก่ียวกบั ประโยชน์และโทษของการผสมเทียม
4. เนื้อหา
4.1 ประวัติการผสมเทียม
การผสมเทียม (Artificial insemination) ตามพจนานุกรม ฉบบั ราชบณั ฑิตยสถาน หมายถึง
การผสมพนั ธุ์ดว้ ยวิธีฉีดน้าอสุจิเขา้ อวยั วะสืบพนั ธุ์ของเพศเมีย โดยไม่ไดร้ ่วมสัมพนั ธ์ทางเพศกนั
เป็ นการปฏิบตั ิงานที่คลา้ ยการทาหนา้ ท่ีของพ่อพนั ธุ์ตามธรรมชาติ ต่างกนั เพียงปริมาณน้าเช้ือท่ีใช้
ผสมเทียม นอ้ ยกว่าปริมาณน้าเช้ือจากการผสมพนั ธุ์ตามธรรมชาติมาก แต่ก็เพียงพอที่จะทาให้ผสม
ติด ตาแหน่งที่ปล่อยน้าเช้ือก็ตา่ งกนั พ่อพนั ธุ์จะปล่อยน้าเช้ือที่ช่องคลอด(Vagina) แตก่ ารผสมเทียม
ปัจจุบนั จะปล่อยน้าเช้ือที่ตาแหน่งตวั มดลูกเป็ นส่วนใหญ่ เพื่อลดการถูกกกั ตวั อสุจิของหลืบที่คอ
มดลูก (Cervix) นอกจากน้ี น้าเช้ือท่ีใชผ้ สมเทียม ยงั ผสมดว้ ยยาปฏิชีวนะ เพ่ือลดการติดเช้ืออนั เกิด
จากการสืบพนั ธุ์ เป็นตน้
การผสมเทียมยงั หมายถึง การขยายพนั ธุ์สัตว์ ดว้ ยเทคนิคท่ีสามารถป้องกันการแพร่โรค
ทางการสืบพนั ธุ์ ก่อนท่ีจะเรียนรู้ถึงวิธีการผสมเทียม ควรทราบถึงประวตั ิและวิวฒั นาการของงาน
ผสมเทียมเสียก่อน เพ่ือเป็นพ้ืนฐานในการศึกษาเรื่องการผสมเทียมเพ่ือพฒั นางานผสมเทียมตอ่ ไป
ประวตั ิงานผสมเทียม การผสมเทียม ไดเ้ ร่ิมกาเนิดข้ึนในโลก ประมาณปี พ.ศ.1865 โดย
นกั วิทยาศาสตร์ชาวอาหรับ ไดท้ าการผสมเทียมมา้ เป็นผลสาเร็จ โดยใชน้ ้าเช้ือมา้ ท่ีติดท่ีหนงั หุม้ ลึงค์
นามาผสมใหก้ บั แม่มา้ ที่กาลงั เป็นสดั ทาใหแ้ ม่มา้ ต้งั ทอ้ งและคลอด
ปี พ.ศ. 2220 ลีเวนฮุค (Leeuwenhoek) และแฮมม์ (Hamm) ได้ค้นพบสิ่ งมีชีวิตเล็ก ๆ
เคลื่อนไหวอยู่ในน้าเช้ือของสัตวต์ วั ผู้ จึงไดต้ ้งั ชื่อวา่ เอนิมลั คู (Animalcule) หมายถึงสิ่งมีชีวิตเลก็ ๆ
ในขณะน้ันยงั ไม่ทราบว่าส่ิงมีชีวิตเล็ก ๆ ที่เคลื่อนไหวอยู่ในน้าเช้ือของสัตว์ตัวผูค้ ืออะไร ปี
พ.ศ. 2323 ได้มีนักวิทยาศาสตร์ชาวอิตาลี ช่ือลาซาโล (Lazarro Spallanzani) ได้เขียนผลงานวิจัย
เกี่ยวกบั ผลสาเร็จของการผสมเทียม โดยไดท้ าการผสมเทียมสุนัข(1) ไดล้ ูกสุนขั ท่ีเกิดจากการผสม
เทียม 3 ตวั และไดท้ ดลองแยกน้าเช้ือโดยการกรอง พบว่าส่วนของน้าเช้ือที่ผา่ นเคร่ืองกรองออกมา
น้ัน ถา้ นาไปฉีดในแม่สัตว์ท่ีกาลงั เป็ นสัด ปรากฏว่าผสมไม่ติด แต่ถา้ เอาส่วนบนที่ติดกบั เคร่ือง
กรองไปผสม ปรากฏวา่ ผสมติดดีข้ึน และยงั พบวา่ ถา้ ทาให้น้าเช้ือเยน็ ลงระดบั หน่ึง จะสามารถเก็บ
รักษาน้าเช้ือไดน้ านมากข้ึน
ปี พ.ศ. 2457 ศาสตราจารย์ อะเมนเทีย (Prof. Amantea) ไดท้ าการประดิษฐ์อวยั วะเพศเมีย
เทียมของสุนัข (Artificial vagina) เพื่อใช้ในการรีดเก็บน้ าเช้ือจากพ่อสุนัข จนเป็ นจุดเริ่มต้น
ของการประดิษฐอ์ วยั วะเพศเมียเทียมของสัตวช์ นิดอื่น ๆ
ปี พ.ศ. 2479 นกั วิทยาศาสตร์ของประเทศเดนมาร์ค เริ่มพฒั นาการผสมเทียมโคนม โดยใช้
วิธีลว้ งเขา้ ทางทวารหนกั (Rectovaginal insemination) โดยใชม้ ือลว้ งเขา้ ทางทวารหนกั จบั คอมดลูก
(Cervix) แลว้ ใชป้ ื นฉีดน้าเช้ือสอดผา่ นช่องคลอด ผ่านคอมดลูก(Cervix) จนไปถึงตวั มดลูก (Body
of Uterus) และฉีดน้าเช้ือในมดลูกทาให้อัตราการผสมติดดีข้ึน หลงั จากน้ัน งานผสมเทียมได้
ขยายมากข้ึน และกระจายไปสู่สัตว์ต่าง ๆ มีการผสมเทียมสุนัข มา้ โค แพะ แกะ จนสามารถให้
กาเนิดลูกสัตวไ์ ดน้ บั แสนตวั
ปี พ.ศ. 2483 ไดม้ ีการพฒั นาน้าเช้ือ โดยฟิ ลลิป (Philips) และลาด้ี (Lardy) ไดท้ ดลองนาไข่
แดงผสมเป็ นสารเจือจางน้าเช้ือ พบว่าสามารถป้องกันอันตรายของตัวอสุจิในการลดอุณหภูมิ
ของน้าเช้ือ และทาใหส้ ามารถเกบ็ น้าเช้ือไดน้ าน 2 - 3 วนั
ปี พ.ศ. 2484 ซาลิสเบอร่ี(Salisbury) และคณะ ทดลองใช้โซเดียม ซิเตรท (Sodium citrate)
และ ไข่แดง เป็นบฟั เฟอร์ (buffer) ในสารเจือจางน้าเช้ือ สามารถเพิ่มปริมาตรน้าเช้ือ และแบ่งน้าเช้ือ
ไปผสมเทียมใหก้ บั สัตวไ์ ดม้ ากตวั
ปี พ.ศ. 2489 อรัมคริส (Alamquist) และคณะ ไดท้ ดลองเติมยาปฏิชีวนะลงไปในสารเจือ
จางน้าเช้ือ พบวา่ สามารถป้องกนั การเจริญเติบโตของเช้ือโรคในน้าเช้ือไดด้ ี
ปี พ.ศ. 2492 ซี โพล (C.Polge) และคณะ ชาวองั กฤษ ไดท้ าการแช่แขง็ น้าเช้ือไดส้ าเร็จโดย
เก็บน้าเช้ือในน้าแขง็ แหง้ อุณหภมู ิ -79 องศาเซลเซียส
ปี พ.ศ. 2495 พอล (Polge) และโรสัน (Rowson) ได้พบว่า การเติมกลีเซอรอล ลงในสาร
เจือจางน้าเช้ือ จะช่วยให้อสุจิรอดชีวิตจากการเก็บที่อุณหภูมิ -196 องศาเซลเซียส ซ่ึงเป็ นจุดเริ่ม
ในการผลิตนา้ เช้ือแช่แขง็
การผสมเทียมในประเทศไทยเร่ิมข้ึนโดย ในปี พ.ศ.2496 ศาสตราจารยน์ ีลล์ ลาเกอร์ลอฟ
ชาวสวีเดน ซ่ึงเป็นผเู้ ชี่ยวชาญจาก เอฟ.เอ.โอ. ไดเ้ ดินทางมาสารวจการเล้ียงปศุสัตวใ์ นประเทศไทย
โดยทุนของ เอฟ.เอ.โอ. จากน้ันได้เขา้ เฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หัวรัชกาลท่ี 9 เพื่อทูลเกลา้ ฯ
ถวายโครงการผลิตโคนมลูกผสมด้วยวิธีการผสมเทียมในประเทศไทย ซ่ึงวัตถุประสงค์
ของโครงการฯ คือ เพือ่ ให้ประเทศไทย สามารถผลิตน้านมไดเ้ องภายในประเทศ ทดแทนการนาเขา้
นมและผลิตภัณฑ์นมจากต่างประเทศ หลงั จากน้ัน ในปี พ.ศ. 2497 กรมปศุสัตว์ไดส้ ่งขา้ ราชการ
2 นายคือ นายสัตวแพทย์ทศพร สุทธิคา และนายสัตวแพทยอ์ ุทยั สาลิคุปต์ โดยทุน เอฟ.เอ.โอ.
ไปศึกษาอบรมนานาชาติ ณ ราชวิทยาลยั สัตวแพทย์ กรุงสต๊อกโฮล์ม ประเทศสวีเดน ซ่ึงองค์การ
อาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติร่วมกับรัฐบาลสวีเดน ได้เปิ ดหลักสูตรฝึ กอบรมวิชาการ
สืบพนั ธุ์ รวมท้งั การผสมเทียมข้ึนเป็นรุ่นแรก
หลงั จากนายสัตวแพทยท์ ศพร สุทธิคา(2) ซ่ึงไดร้ ับการยกย่องเป็ นบิดาแห่งการผสมเทียม
ของไทย ไดส้ าเร็จการศึกษาวิชาการสืบพนั ธุ์และผสมเทียม ณ ประเทศสวีเดนสาเร็จ และเดินทาง
กลับประเทศไทย ได้เริ่มตน้ ด้วยการพยายามก่อต้ังสถานีผสมเทียม เพ่ือให้บริการผสมเทียมแก่
ปศุสัตว์ของเกษตรกร รวมถึงพยายามถ่ายทอดความรู้ด้านการผสมเทียมแก่นักวิชาการของ
กรมปศุสัตว์ ซ่ึงในขณะน้นั ยงั ไม่มีงบประมาณสนบั สนุนการดาเนินงานดงั กลา่ ว แตด่ ว้ ยความมุ่งมน่ั
และต้งั ใจจริง จนในปี พ.ศ. 2499 กรมปศุสัตว์ ไดเ้ ปิ ดสถานีผสมเทียมข้ึนที่จงั หวดั เชียงใหม่เป็ น
แห่งแรก และไดม้ อบหมายให้นายสัตวแพทยท์ ศพร สุทธิคา ปฏิบตั ิหน้าท่ีเป็ นหัวหน้าสถานีผสม
เทียมดงั กลา่ ว
4.2 ข้อดีและข้อเสียของการผสมเทยี ม(3)
4.2.1 ข้อดขี องการผสมเทยี มไก่
ก. สามารถเกบ็ พนั ธุป์ ระวตั ิไดง้ ่ายใชเ้ วลาส้ัน
ข. ประหยดั พ้นื ท่ีในการเล้ียงเหมาะสาหรับฟาร์มไก่ขนาดเลก็ ขนาดกลาง
ค. เสียค่าใชจ้ ่ายนอ้ ยกวา่ ในเรื่องการเล้ียงดูพอ่ พนั ธุ์และค่าอาหาร
ง. สามารถใชพ้ ่อพนั ธุ์ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพมากกวา่ เพ่ิมอตั ราการผสม
พันธุ์ ในฝูงหน่ึง ๆ ไก่ตัวผู้หน่ึงตัวจะผสมพันธุ์กับไก่ตัวเมีย 10 ตัว การผสมเทียมจะทาให้
อตั ราส่วนน้ีเพม่ิ ข้นึ 4 เทา่ ท้งั สองกรณีข้ึนอยกู่ บั สายพนั ธุ์
จ. สามารถใช้ไก่ตวั ผูท้ ่ีมีลกั ษณะที่ดีเย่ียมแต่มีอายมุ าก ไก่ตวั ผูท้ ี่แก่แลว้
น้นั สามารถใช้ในการปรับปรุงฝูงไดห้ ลายรุ่นโดยวิธีแช่แข็งสามารถเก็บรักษาน้าเช้ือของพ่อพนั ธุ์
ให้คงคุณภาพไดย้ าวนานหลายปี แมว้ า่ พ่อพนั ธุ์จะตายไปแลว้ ในทางตรงขา้ มภายใตก้ ารผสมพนั ธุ์
ตามธรรมชาติน้นั จะไปจากดั การใชป้ ระโยชน์ของช่วงชีวิตในวยั เจริญพนั ธุข์ องพวกมนั
ฉ. สามารถใช้ไก่ตวั ผูท้ ่ีไดร้ ับบาดเจ็บ ไก่ที่มีราคาน้ันเม่ือไดร้ ับบาดเจ็บ
ท่ีขาแต่ยงั คงนามาใชส้ าหรับการผสมเทียมได้
ช. กาจดั การจบั คู่ผสมพนั ธุ์ตามใจชอบ เม่ือมีการปฏิสนธิท่ีไม่ดีมีสาเหตุ
จากการจบั คผู่ สมพนั ธุท์ ่ีไมด่ ี
ซ. รู้ประวตั ิท่ีถูกตอ้ งแม่นยาของลูกไก่ที่ฟักจากไข่เหล่าน้ี มีประโยชน์
เพอื่ การวิจยั และการคดั พนั ธุ์ไก่
ฌ. ประสบผลสาเร็จในการผสมขา้ มสายพนั ธุ์ โดยทวั่ ไปแลว้ การผสม
ขา้ มสายพนั ธุ์ประสบผลสาเร็จอย่างมากภายใตส้ ภาวะที่เป็ นธรรมชาติ แต่บางคร้ังมีการแบ่งแยก
ชนิดของสี แม่ไก่บางตวั จะไม่ผสมกบั ไก่ตวั ผทู้ ่ีมีสีต่างกนั นอกจากพวกมนั จะถูกเล้ียงดูมาดว้ ยกนั (4)
4.2.2 ข้อเสียของการผสมเทยี มไก่
ก. น้าเช้ือสดและน้ าเช้ือแบบเหลวแช่เย็นท่ีใช้ในการผสมเทียมซ่ึงมี
คุณภาพดีมีอายกุ ารเกบ็ รักษาส้ัน
ข. น้าเช้ือที่แช่แขง็ ของไก่เมื่อนามาใชง้ านทาใหม้ ีอตั ราการผสมติดต่า
ค. ไม่เหมาะกบั การเล้ียงเพ่ือการคา้ ขนาดใหญท่ ่ีไม่ตอ้ งการทราบประวตั ิ
ง. สิ้นเปลืองแรงงานและเวลาสูงข้ึน
จ. ทาใหอ้ ายกุ ารใหไ้ ขแ่ ละเปอร์เซ็นตก์ ารไข่ต่าลง
ฉ. ผสมเทียมติดต่อกนั เป็ นระยะเวลานาน ๆ ทาให้เปอร์เซ็นตผ์ สมเทียม
ติดต่ากวา่ การผสมแบบธรรมชาติ
4.2.3 ข้อดีของการผสมเทยี มสุกร
ก. การผสมเทียมช่วยให้ยีนดีจากพ่อพนั ธุ์ดีแพร่กระจายไดอ้ ย่างรวดเร็ว
ทาให้ การปรับปรุงพนั ธุ์บรรลุจุดประสงคไ์ ดเ้ ร็วข้ึน เพราะการรีดน้าเช้ือจากพ่อพนั ธุ์ท่ีดีแต่ละคร้ัง
สามารถนามาเจือจางและแบ่งผสมให้กับแม่พนั ธุ์ได้ทีละหลาย ๆ ตัว เช่น พ่อพันธุ์สุกร 1 ตัว
รีดน้าเช้ือมาคร้ังหน่ึงสามารถใชผ้ สมใหแ้ ม่สุกรได้ 8 - 10 ตวั เป็นตน้
ข. การผสมเทียมช่วยทาใหส้ ามารถลดจานวนพ่อพนั ธุ์ที่ตอ้ งเล้ียง เพื่อใช้
ในการ ผสมพนั ธุ์ ทาใหล้ ดปัญหาเก่ียวกบั การจดั การฟาร์มและช่วยประหยดั คา่ อาหารไดอ้ ีกดว้ ย
ค. การผสมเทียมช่วยแก้ปัญหาด้านการผสมพนั ธุ์ เช่น ความไม่อยาก
ผสมพนั ธุ์ (low libido) ความสมบูรณ์พนั ธุ์ต่า (low fertility) นิสัยไม่ดีเก่ียวกับการผสมพนั ธุ์ หรือ
ปัญหาเร่ืองขาเสีย ขาอ่อน การผสมไม่ได้ของพ่อพันธุ์และแม่พนั ธุ์ ขนาดของพ่อและแม่พันธุ์
ที่ตา่ งกนั พ่อพนั ธุ์ที่อายมุ าก เป็นตน้
ง. การผสมเทียมช่วยให้สามารถผสมพนั ธุ์ระหว่างพ่อพนั ธุ์และแม่พนั ธุ์
ที่อยหู่ ่างไกลกนั โดยไมต่ อ้ งทาการขนยา้ ยพ่อพนั ธุห์ รือแม่พนั ธุ์ใหเ้ กิดความยงุ่ ยาก
จ. การผสมเทียมช่วยป้องกนั การแพร่กระจายของโรคท่ีเกิดจากการผสม
พนั ธุ์ ถา้ ใชว้ ิธีการท่ีถูกตอ้ งและมีความระมดั ระวงั สามารถควบคมุ สุขภาพของสัตวไ์ ดเ้ ตม็ ที่
ฉ. การผสมเทียมในรูปของการใชน้ ้าเช้ือแช่แขง็ ทาให้สามารถเก็บน้าเช้ือ
ของพ่อพนั ธุ์ที่ดีเยยี่ มไวใ้ ชเ้ ป็นเวลานาน ถึงแมว้ า่ พ่อพนั ธุต์ วั น้นั อาจตายไปแลว้
ช. การผสมเทียมช่วยในการทดสอบลูก (progeny test) ของพ่อพนั ธุ์ได้
รวดเร็ว และแมน่ ยาข้นึ ทาใหก้ ารคดั เลือกพ่อพนั ธุเ์ ป็นไปอยา่ งมีประสิทธิภาพ
ซ. การผสมเทียมช่วยลดการส่ังซ้ือพ่อพนั ธุ์สัตว์ (จากต่างประเทศ) โดย
การสั่งน้าเช้ือแทน เพื่อใชใ้ นการขยายพนั ธุ์และปรับปรุงพนั ธุ์สัตวใ์ นฟาร์ม ซ่ึงสะดวก รวดเร็ว และ
ประหยดั ค่าใชจ้ ่ายกวา่
4.2.4 ข้อเสียของการผสมเทียมสุกร(5)
ปั จจุบัน ผู้เล้ี ยงสั ต ว์ใน ป ระเท ศไท ยได้น าเอาวิธี ก ารผ ส ม เที ยม ไป ใช้
เพ่ือการปรับปรุงและขยายพนั ธุ์สัตวก์ นั อยา่ งกวา้ งขวาง แต่บางคร้ังขาดการวางแผนการผสมพนั ธุ์
ท่ีดีและขาดความระมดั ระวงั อาจทาใหเ้ กิดโทษไดด้ งั น้ี
ก. ถ้าพ่อพันธุ์สัตว์ที่นามารี ดน้ าเช้ือเป็ นพ่อพันธุ์ที่มีลักษณะไม่ดี
เนื่องจากไม่ได้ มีการทดสอบอยา่ งจริงจงั หรือเป็นพอ่ พนั ธุ์ท่ีมีผลการทดสอบในดา้ นการใหผ้ ลผลิต
แต่อาจมียีนของลักษณะอันตรายที่ถ่ายทอดได้ทางพันธุกรรม เช่น ไส้เล่ือน เลือดไม่แข็งตัว
หัวพองน้า หรืออมั พาต แฝงอยู่ในตวั พ่อพนั ธุ์น้ัน จะทาให้เกิดการแพร่กระจายพนั ธุ์ที่ไม่ดี หรือยีน
เลวน้นั เขา้ ไปในฝงู สตั วไ์ ดอ้ ยา่ งรวดเร็ว
ข. การผสมเทียมมกั ใหอ้ ตั ราการผสมติดต่ากวา่ การผสมธรรมชาติ 5 - 10
เปอร์เซ็นตแ์ ละยง่ิ ต่าลงไปอีกหากผปู้ ฏิบตั ิขาดความชานาญ
ค. การผสมเทียมหากปฏิบัติไม่ถูกต้องขาดความระมัดระวงั หรือไม่
สะอาด อาจ เป็นสาเหตุใหเ้ กิดการแพร่กระจายของเช้ือโรคได้
ง. การส่ังน้ าเช้ือจากต่างประเทศ อาจนาเอาโรคทางพันธุกรรมหรือ
โรคระบาด เขา้ มาแพร่กระจายภายในประเทศ
จ. การลดจานวนพ่อพันธุ์จากการใช้วิธีการผสมเทียม อาจทาให้เกิด
การผสมพนั ธุ์แบบเลือดชิดข้ึนในชว่ั ต่อไปไดโ้ ดยไม่ต้งั ใจ ซ่ึงการผสมเลือดชิดจะทาให้เกิดความ
เสียหายได้
4.2.5 ข้อดีของการผสมเทยี มโค
ก. สามารถปรับปรุงพนั ธุ์สัตวใ์ ห้ดีข้ึนได้อย่างรวดเร็ว น้าเช้ือพ่อพนั ธุ์
พนั ธุ์ดีจากการรีดน้าเช้ือเพียงคร้ังเดียว สามารถนาไปผลิตเป็ นน้าเช้ือแช่แข็งเพื่อทาการผสมเทียม
ใหก้ บั แม่พนั ธุไ์ ดห้ ลายพนั ตวั ดงั น้นั พนั ธุส์ ัตวข์ องประเทศจึงพฒั นาใหด้ ีข้นึ ไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว
ข. ย่นระยะเวลาในการพิสูจน์พ่อพันธุ์ สัตว์ท่ีจะเป็ นพ่อพันธุ์ได้น้ัน
จาเป็ นตอ้ งผ่านการพิสูจน์ความสามารถในการถ่ายทอดลกั ษณะท่ีดีไปสู่ลูกดว้ ยการผสมเทียมกบั
สัตวเ์ พศเมีย นับร้อยนับพนั ตวั เพ่ือเก็บขอ้ มูลจากลูกท่ีเกิดมา ในการท่ีตอ้ งผสมกบั สัตวต์ วั เมียเป็ น
ร้อยเป็นพนั ตวั เพื่อดูลกั ษณะของลูกท่ีเกิดน้นั ถา้ ใชก้ ารผสมตามธรรมชาติจะทาไดช้ า้ หรือแทบทา
ไมไ่ ดเ้ ลย ดงั น้นั การผสมเทียมจึงสามารถยน่ ระยะเวลาการพสิ ูจนพ์ ่อพนั ธุล์ งไดม้ าก
ค. สามารถทาให้สัตว์คลอดลูกได้ตามฤดูกาล โดยปกติเกษตรกรมัก
ตอ้ งการให้แม่โคกระบือคลอดลูกในตน้ ฤดูฝน ซ่ึงเป็ นช่วงท่ีมีน้าหญ้าบริบูรณ์ ถ้าปล่อยให้ผสม
กนั เองตามธรรมชาติ สัตวม์ กั จะคลอดไม่ตรงตน้ ฤดูฝน ทาใหค้ ลอดออกมาแลว้ ขาดอาหาร แต่ถา้ ใช้
การผสมเทียมโดยทาการผสมเทียมก่อนฤดูฝน 9 เดือน ลกู โคจะคลอดในช่วงฤดูฝนพอดี
ง. ตัดปัญหาในการเล้ียงดูสัตว์พ่อพันธุ์ ในการเล้ียงสัตว์โดยทั่วไป
มกั จาเป็ นตอ้ งเล้ียงพ่อพนั ธุ์อย่างน้อย 1 ตวั เพื่อให้คุมฝงู แต่เมื่อใชบ้ ริการผสมเทียม ไม่จาเป็ นตอ้ ง
เล้ียงสัตวพ์ ่อพนั ธุ์อีกตอ่ ไป เป็นการประหยดั คา่ ยาและค่าอาหารในการดูแลพอ่ พนั ธุ์
จ. ตัดปัญหาในการขนส่งสัตว์ไปผสมพนั ธุ์กัน การผสมพันธุ์ในอดีต
จะต้องนาสัตว์พ่อพันธุ์หรื อแม่พันธุ์ไปผสมพันธุ์กัน ซ่ึงโคเป็ นสัตว์ใหญ่ การขนส่งหรื อ
การเคล่ือนยา้ ยทาไดล้ าบาก ถา้ ใชก้ ารผสมเทียม เพียงแต่นาน้าเช้ือแช่แข็งและอุปกรณ์การผสมเทียม
ไปเท่าน้นั กท็ าการผสมเทียมได้
ฉ. สามารถผสมพนั ธุ์สัตว์ต่างขนาดกันได้ (6) พ่อพนั ธุ์มกั มีขนาดใหญ่
แต่แม่พนั ธุ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งโคพ้ืนเมืองของประเทศไทย มกั มีขนาดเล็ก การปล่อยให้ผสมพนั ธุ์
กนั เองตามธรรมชาติ จะทาใหแ้ ม่โคบาดเจ็บได้ การผสมเทียมจะช่วยแกป้ ัญหาน้ีได้
ช. ป้องกนั โรคติดต่อที่เกิดจากการผสมพนั ธุ์กนั โดยปกติ ปลายหนงั หุ้ม
ลึงค์ (Prepuce) ของพ่อโค มกั เป็ นแหล่งสะสมของเช้ือโรคต่าง ๆ ดงั น้ัน ถา้ ปล่อยให้โคผสมพนั ธุ์
กนั เองตามธรรมชาติ โอกาสที่เช้ือโรคท่ีสะสมที่ปลายลึงค์พ่อโค จะติดไปสู่มดลูกแม่โคจึงมีมาก
แต่ถา้ ใช้วิธีการผสมเทียม จะช่วยแก้ปัญหาน้ีไปได้ นอกจากน้ี ในกระบวนการรีดเก็บและผลิต
น้าเช้ือแช่แข็งน้นั พ่อพนั ธุ์ตอ้ งผ่านการตรวจโรคติดต่อทุกปี ปัญหาโรคจากพ่อพนั ธุ์ที่แพร่ไปกบั
น้าเช้ือจึงหมดไป
ซ. ป้องกนั โรคระบาดท่ีเกิดจากการเคลื่อนยา้ ยสัตวไ์ ปผสมพนั ธุ์กนั การ
เคล่ือนยา้ ยสัตวไ์ ปผสมพนั ธุ์กนั ถา้ เคลื่อนยา้ ยสตั วท์ ่ีป่ วยเป็นโรคระบาด เช่น โรคคอบวม , โรคปาก
เทา้ เป่ื อย การเคล่ือนยา้ ยไปต่างท่ี จะทาใหต้ ิดตอ่ ไปสู่สตั วต์ วั อ่ืน ๆ ไดง้ า่ ย
4.2.6 ข้อเสียของการผสมเทยี มโค
ก. ถ้าพ่อพันธุ์ท่ีใช้ผลิตน้ าเช้ือ มีลักษณะท่ีไม่ดี ลักษณะท่ีไม่ดีน้ี จะ
แพร่กระจายไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว
ข. ถา้ เจา้ หนา้ ท่ีผูท้ าการผสมเทียม ขาดความรู้และความชานาญ หรือทา
การผสมเทียมดว้ ยความสกปรก อวยั วะสืบพนั ธุข์ องแมโ่ คอาจเกิดการติดเช้ือหรือบาดเจบ็ ได้
5. บทสรุป
ปี พ.ศ. 2499 กรมปศุสัตวจ์ ึง ไดเ้ ปิ ดสถานีผสมเทียมแห่งแรก ที่จงั หวดั เชียงใหม่ และได้
มอบหมายใหน้ ายสัตวแพทยท์ ศพร สุทธิคา ปฏิบตั ิหนา้ ที่เป็นหัวหนา้ และต่อมาไดร้ ับสมญาวา่ เป็ น
บิดาแห่งการผสมเทียมไทย
การผสมเทียม เป็ นการปฏิบตั ิงานที่คลา้ ยการทาหนา้ ท่ีของพ่อพนั ธุ์ตามธรรมชาติ ต่างกนั
เพียงปริมาณน้าเช้ือท่ีใชผ้ สมเทียม นอ้ ยกวา่ แต่กเ็ พียงพอท่ีจะทาให้ผสมติด ตาแหน่งท่ีปล่อยน้าเช้ือ
กต็ า่ งกนั ตดั ปัญหาในการเล้ียงดูสตั วพ์ ่อพนั ธุ์