ระเบียบกรมสรรพากร-ภาษีมูลค่าเพิ่ม พ.ศ.2559 part2

๒๑.๓ เมอ่ื ได้รับทราบผลการพิจารณาการคดั คา้ นคาสั่งเพกิ ถอนการจด
ทะเบียนภาษีมูลคา่ เพ่ิม ให้ดาเนินการดังนี้

๒๑.๓.๑ กรณีท่ีสัง่ ยกเลกิ คาส่ังเพิกถอนการจดทะเบยี นภาษีมูลคา่ เพิม่ ของ
ผู้ประกอบการจดทะเบียนรายใด

ก. สว่ นบริหารงานทัว่ ไป สานกั งานสรรพากรพื้นท่ี หรอื ฝ่ายบริหารงานทวั่ ไป
สานักบริหารภาษธี รุ กิจขนาดใหญ่ แลว้ แต่กรณี

(๑) นา ภ.พ.๗๘ พรอ้ มสาเนาทอี่ ธบิ ดีกรมสรรพากร หรอื ผู้ที่อธบิ ดี
กรมสรรพากรมอบหมาย ลงนามแลว้ มาบนั ทกึ เข้าทะเบียนคุมรายการและ
จัดทาบญั ชีดว้ ยระบบคอมพวิ เตอร์ (TCL)

(๒) สง่ ภ.พ.๗๘ ให้ผู้ประกอบการจดทะเบยี น โดยทางไปรษณยี ล์ งทะเบียน
ตอบรับ ภายใน ๓ วนั นับแตว่ นั ท่ีได้รบั คาสั่ง

(๓) จัดพิมพ์ใบนาสง่ เอกสาร (บ.ช.๑๒.๑) จานวน ๒ ฉบบั ฉบบั ท่ี ๑ ใช้
นาสง่ สาเนา ภ.พ.๗๘ โดยเรียงตามลาดับเลขคมุ เอกสาร (DLN) ไปให้สว่ น
กรรมวธิ แี ละคืนภาษี สานักงานสรรพากรพืน้ ที่ หรือส่วนกรรมวิธีและคนื ภาษี
สานักบริหารภาษธี รุ กจิ ขนาดใหญ่ หรือส่วนเทคโนโลยีสารสนเทศ สานกั งาน
สรรพากรภาค แล้วแตก่ รณี ภายใน ๓ วันนบั แต่วนั ทีไ่ ดร้ บั คาสัง่ เพอื่ ทาการ
บันทกึ ขอ้ มลู สว่ น บ.ช.๑๒.๑ ฉบบั ที่ ๒ เก็บเข้าแฟ้ม

(๔) เม่ือปฏิบตั ติ าม (๑) - (๓) แลว้ ให้ดาเนนิ การตอ่ ดังน้ี

(๔.๑) กรณีสานกั งานสรรพากรพน้ื ที่ เมือ่ ไดร้ ับใบทะเบยี นภาษีมลู คา่ เพิ่ม
และสาเนา ภ.พ.๗๘ จากสว่ นกรรมวิธีและคืนภาษี สานกั งานสรรพากรพืน้ ท่ี
หรือส่วนเทคโนโลยีสารสนเทศ สานกั งานสรรพากรภาค แล้วแต่กรณี ให้
ตรวจความถูกตอ้ งของข้อความในใบทะเบยี นภาษีมูลค่าเพมิ่

- ถ้าไมถ่ กู ตอ้ ง ให้ส่งสว่ นกรรมวธิ ีและคืนภาษี สานักงานสรรพากรพื้นท่ี หรอื
สว่ นเทคโนโลยสี ารสนเทศ สานักงานสรรพากรภาค แล้วแต่กรณี เพ่อื ทาการ
แก้ไขให้ถกู ต้องตามค่มู ือการบนั ทึกข้อมูลระบบงานภาษีมูลคา่ เพ่ิม และให้
ประทบั คาว่า “ยกเลิก” ด้วยหมึกสแี ดง ลงบนใบทะเบยี นภาษมี ลู ค่าเพมิ่ ฉบับ
ทขี่ ้อความไมถ่ ูกต้อง แลว้ เกบ็ เขา้ แฟ้ม “ใบทะเบยี นภาษีมูลคา่ เพ่มิ ยกเลกิ ”

- ถา้ ถูกต้อง ให้ตรวจวา่ ผู้ประกอบการจดทะเบยี นคืนใบทะเบยี น
ภาษมี ลู ค่าเพิม่ ฉบบั เดิมหรือไม่

- ถ้าไม่คนื ใหป้ ระทับคาว่า “ยกเลิก” ด้วยหมกึ สแี ดงลงบนใบทะเบยี น
ภาษีมูลคา่ เพมิ่ ฉบับใหม่ แล้วเก็บเขา้ แฟ้ม “ใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพ่ิม
ยกเลกิ ” และเกบ็ สาเนา ภ.พ.๗๘ เข้าแฟ้มคาสัง่ ยกเลิกคาสง่ั เพิกถอนการจด
ทะเบียนภาษีมูลคา่ เพม่ิ แยกเป็นรายสานักงานสรรพากรพื้นที่สาขา เรียง
ตามลาดับเลขคุมเอกสาร (DLN)

- ถา้ คนื ให้เสนอผ้มู ีอานาจออกใบทะเบียนภาษีมูลคา่ เพิม่ เพือ่ ลงนามในใบ
ทะเบยี นภาษมี ูลคา่ เพม่ิ ฉบับใหม่ และมอบใบทะเบยี นภาษีมูลคา่ เพม่ิ ฉบับ
ใหม่ให้ผูป้ ระกอบการจดทะเบียน หรือจดั สง่ ทางไปรษณียล์ งทะเบยี นตอบรับ
ภายใน ๓ วนั ทาการนบั แตว่ นั ท่ีผูม้ ีอานาจ ฯ ลงนาม และเกบ็ สาเนา ภ.พ.๗๘
เขา้ แฟ้มคาส่งั ยกเลิกคาสง่ั เพิกถอนการจดทะเบยี นภาษีมลู คา่ เพม่ิ แยกเป็น
รายสานักงานสรรพากรพน้ื ท่ีสาขา เรียงตามลาดับเลขคุมเอกสาร (DLN)

(๔.๒) กรณีสานกั บริหารภาษีธุรกจิ ขนาดใหญ่ เมอื่ ไดร้ บั สาเนา ภ.พ.๗๘ จาก
สว่ นกรรมวธิ ีและคืนภาษี ใหเ้ กบ็ เข้าแฟ้มคาสง่ั ยกเลกิ คาส่ังเพิกถอนการจด
ทะเบียนภาษมี ลู คา่ เพม่ิ แยกเปน็ รายสานักงานสรรพากรพื้นทส่ี าขา เรียง
ตามลาดับเลขคมุ เอกสาร (DLN)

(๕) ปดิ ประกาศรายชอ่ื และเลขประจาตวั ผ้เู สียภาษอี ากรของผู้ประกอบการ
จดทะเบยี นท่ีไดร้ ับการยกเลิกคาสั่งเพิกถอนการจดทะเบยี นภาษีมลู ค่าเพ่ิม
ในท่ีเปิดเผย

ข. สว่ นกรรมวิธีและคืนภาษี สานกั งานสรรพากรพนื้ ท่ี หรือส่วนกรรมวธิ แี ละ
คนื ภาษี สานกั บริหารภาษีธุรกจิ ขนาดใหญ่ หรอื ส่วนเทคโนโลยีสารสนเทศ
สานกั งานสรรพากรภาค แล้วแตก่ รณี

(๑) เมื่อไดร้ ับสาเนา ภ.พ.๗๘ จากสว่ นบรหิ ารงานทวั่ ไป สานักงานสรรพากร
พื้นที่ หรือฝ่ายบริหารงานทว่ั ไป สานักบริหารภาษธี รุ กิจขนาดใหญ่ แล้วแต่
กรณี ใหท้ าการบันทึกขอ้ มลู ตามค่มู ือการบันทกึ ขอ้ มลู ระบบงาน
ภาษมี ูลค่าเพ่ิม ภายใน ๓ วนั ทาการนบั แตว่ นั ท่ไี ด้รบั สาเนา ภ.พ.๗๘ และ
ประทบั คาวา่ “บันทึกข้อมลู แล้ว” ด้วยหมึกสแี ดงลงบนสาเนา ภ.พ.๗๘ และ
จดั พมิ พ์ใบทะเบยี นภาษีมูลค่าเพ่มิ ดว้ ยคอมพวิ เตอรเ์ ป็นรายสถาน
ประกอบการ หรือรายสาขา เสมือนผูป้ ระกอบการจดทะเบียนมไิ ดถ้ ูกเพิก
ถอนการจดทะเบยี นภาษมี ูลค่าเพ่ิม

(๒) เมื่อปฏบิ ตั ิตาม (๑) แลว้ ให้ดาเนินการตอ่ ดังนี้

(๒.๑) กรณีสานักงานสรรพากรพน้ื ท่ี หรอื สานกั งานสรรพากรภาค แล้วแต่
กรณี ใหส้ ง่ ใบทะเบียนภาษีมลู ค่าเพม่ิ และสาเนา ภ.พ.๗๘ ไปใหส้ ว่ น
บรหิ ารงานทว่ั ไป สานักงานสรรพากรพ้ืนท่ี ภายใน ๓ วนั ทาการนับแต่วนั ที่
ประมวลผลขอ้ มลู แล้วเสร็จ เพื่อดาเนนิ การตอ่ ไป

(๒.๒) กรณีสานกั บรหิ ารภาษีธุรกจิ ขนาดใหญ่ ให้ตรวจความถูกต้องของ
ข้อความในใบทะเบยี นภาษมี ูลค่าเพ่ิม

- ถา้ ไมถ่ กู ตอ้ ง ใหท้ าการแกไ้ ขให้ถกู ต้องตามคู่มือการบันทึกขอ้ มูลระบบงาน
ภาษีมูลคา่ เพมิ่ และให้ประทบั คาวา่ “ยกเลิก” ด้วยหมึกสีแดง ลงบนใบ
ทะเบียนภาษีมูลค่าเพ่มิ ฉบับทีข่ ้อความไมถ่ ูกตอ้ ง แลว้ เก็บเข้าแฟ้ม “ใบ
ทะเบียนภาษมี ลู ค่าเพิ่มยกเลิก”

- ถ้าถกู ต้อง ใหต้ รวจวา่ ผู้ประกอบการจดทะเบยี นคืนใบทะเบียน
ภาษีมูลคา่ เพิ่มฉบับเดมิ หรอื ไม่

- ถ้าไม่คืน ให้ประทับคาวา่ “ยกเลิก” ด้วยหมึกสีแดงลงบนใบทะเบียน
ภาษีมูลค่าเพมิ่ ฉบับใหม่ แล้วเก็บเข้าแฟ้ม “ใบทะเบยี นภาษมี ลู คา่ เพ่มิ
ยกเลกิ ” แล้วส่งสาเนา ภ.พ.๗๘ ไปให้ฝ่ายบริหารงานทัว่ ไป เพอื่ ดาเนินการ
ตอ่ ไป

- ถา้ คืน ให้เสนอผ้มู ีอานาจออกใบทะเบียนภาษีมลู ค่าเพิ่ม เพื่อลงนามในใบ
ทะเบยี นภาษมี ลู คา่ เพม่ิ ฉบับใหม่ และมอบใบทะเบียนภาษีมูลคา่ เพม่ิ ฉบบั
ใหมใ่ หผ้ ู้ประกอบการจดทะเบยี น หรอื จัดส่งทางไปรษณยี ล์ งทะเบียนตอบรับ
ภายใน ๓ วนั ทาการนบั แตว่ นั ทผ่ี มู้ อี านาจ ฯ ลงนาม แล้วส่งสาเนา ภ.พ.๗๘
ไปใหฝ้ า่ ยบรหิ ารงานทวั่ ไป เพือ่ ดาเนนิ การต่อไป

๒๑.๓.๒ กรณผี มู้ อี านาจพจิ ารณาอุทธรณต์ ามพระราชบญั ญตั ิวธิ ีปฏิบตั ิ
ราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ ส่งั ไมย่ กเลกิ คาสั่งเพิกถอนการจด
ทะเบียนภาษีมลู คา่ เพิม่ ของผปู้ ระกอบการจดทะเบียนรายใด ใหส้ ว่ น

บรหิ ารงานทวั่ ไป สานกั งานสรรพากรพ้ืนที่ หรือฝ่ายบริหารงานท่วั ไป สานกั
บริหารภาษีธรุ กิจขนาดใหญ่ แลว้ แต่กรณี แจง้ เปน็ หนงั สอื โดยทางไปรษณยี ์
ลงทะเบียนตอบรบั ให้ผปู้ ระกอบการจดทะเบยี นรายนั้นทราบ ภายใน ๗ วนั
นับแต่วนั ทไี่ ดร้ บั ทราบผลการพิจารณา”

ข้อ 22 การสั่งขดี ช่ือผู้ประกอบการจดทะเบียนออกจากทะเบยี น
ภาษีมูลคา่ เพ่มิ

22.1 ผู้มอี านาจอนุมัติส่ังขีดช่อื ผู้ประกอบการจดทะเบยี น ไดแ้ ก่ อธิบดี
กรมสรรพากรหรือผู้ทอี่ ธบิ ดีกรมสรรพากรมอบหมาย

22.2 กาหนดเวลาการส่ังขดี ช่อื

(1) กรณผี ู้มอี านาจอนุมตั ไิ ด้สง่ั ถอนทะเบยี นภาษีมลู คา่ เพ่ิม ให้ส่งั ขดี ชื่อ
ภายใน 30 วนั นับแตว่ ันท่ีมคี าสั่งถอนทะเบียนภาษีมลู คา่ เพ่ิม

(2) กรณผี ้มู ีอานาจอนมุ ตั ไิ ด้สั่งเพิกถอนการจดทะเบียนภาษีมลู คา่ เพมิ่ ใหส้ ั่ง
ขดี ชอ่ื ดังนี้

(2.1) กรณผี ปู้ ระกอบการจดทะเบียนไม่ยน่ื หนังสือคัดคา้ นคาสัง่ เพิกถอนการ
จดทะเบยี นภาษีมูลคา่ เพม่ิ ให้สงั่ ขดี ช่อื ภายใน 30 วนั นับแต่วนั พ้นกาหนดให้
ผูป้ ระกอบการย่ืนหนงั สอื คดั คา้ นคาสั่งเพิกถอนการจดทะเบยี น
ภาษีมลู คา่ เพ่ิม

(2.2) กรณีผู้ประกอบการจดทะเบียนยื่นหนงั สือคดั คา้ นคาสัง่ เพกิ ถอนการจด
ทะเบยี นภาษมี ูลค่าเพิ่ม แตส่ รรพากรภาค หรอื ผู้อานวยการสานักบรหิ าร
ภาษธี รุ กจิ ขนาดใหญ่ แลว้ แต่กรณี ไมเ่ ห็นดว้ ยกับการคดั ค้านคาส่ังเพกิ ถอน
การจดทะเบยี นภาษมี ูลค่าเพิ่ม และได้รายงานความเห็นพรอ้ มเหตุผลไปยังผู้
มีอานาจพจิ ารณาอุทธรณต์ ามพระราชบญั ญัตวิ ิธีปฏบิ ัติราชการทางปกครอง
พ.ศ. 2539 แลว้ หากผ้มู ีอานาจพิจารณาอทุ ธรณ์มีคาส่งั ไมเ่ หน็ ดว้ ยกับการ
คัดค้านคาส่งั เพิกถอนการจดทะเบียนภาษมี ลู ค่าเพิม่ ของผปู้ ระกอบการจด
ทะเบยี นรายดงั กลา่ ว ใหส้ ั่งขีดชื่อภายใน 30 วันนบั แต่วนั ที่ผู้มอี านาจ
พิจารณาอุทธรณ์สั่งการ

(3) กรณีผ้ปู ระกอบการจดทะเบียนเลิกประกอบกิจการ ให้สงั่ ขีดชื่อภายใน
30 วนั นบั แต่วันทที่ ราบผลการตรวจว่า ไมม่ ภี าษคี า้ งชาระและเลกิ ประกอบ

กิจการจริง แตท่ ัง้ นี้ต้องไม่เกิน 6 เดอื นนับแต่วนั ทร่ี ะบกุ ารเลิกประกอบ
กจิ การใน ภ.พ.09

(4) กรณผี ปู้ ระกอบการจดทะเบยี นโอนกิจการทงั้ หมด หรือนิติบคุ คลควบ
เขา้ กัน หรือผู้ประกอบการทเ่ี ป็นบคุ คลธรรมดาถึงแก่ความตาย และไม่มี
ผูจ้ ัดการมรดกหรือทายาทยื่นขอโอนกิจการของผ้ปู ระกอบการท่ถี งึ แก่ความ
ตาย ให้ส่งั ขีดชื่อภายใน 30 วันนับแตว่ ันทเี่ ลิกประกอบกจิ การตามที่ระบไุ ว้
ใน ภ.พ.09

22.3 เม่อื ผู้มีอานาจอนมุ ัตไิ ดส้ ั่งขีดชอ่ื ผู้ประกอบการจดทะเบียนรายใดออก
จากทะเบยี นภาษมี ูลค่าเพิ่มแล้ว ใหด้ าเนินการดังนี้

ก. ฝา่ ยบริหารงานทั่วไป สานกั งานสรรพากรพ้ืนที่ หรอื สานักบริหารภาษี
ธุรกิจขนาดใหญ่ แล้วแต่กรณี

(1) จดั ทาหนงั สือแจง้ ขีดชอื่ ผปู้ ระกอบการจดทะเบยี นออกจากทะเบยี น
ภาษีมูลคา่ เพ่ิม (ภ.พ.79) พร้อมสาเนา 1 ฉบับ เสนอผมู้ อี านาจ ฯ เพ่ือลง
นาม

(2) บันทกึ ภ.พ.79 เข้าทะเบยี นคุมรายการและจดั ทาบญั ชดี ว้ ยระบบ
คอมพวิ เตอร์ (TCL)

(3) ส่ง ภ.พ.79 ให้ผู้ประกอบการจดทะเบียน โดยทางไปรษณยี ล์ งทะเบยี น
ตอบรับภายใน 3 วนั นบั แตว่ นั ทมี่ คี าสัง่ ขีดช่ือ

(4) จดั พิมพใ์ บนาส่งเอกสาร (บ.ช.12.1) จานวน 2 ฉบับ ฉบบั ที่ 1 ใชน้ าสง่
สาเนา ภ.พ.79 โดยเรียงตามลาดับเลขคุมเอกสาร (DLN) ไปใหฝ้ า่ ยกรรมวิธี
สานักงานสรรพากรพืน้ ท่ี หรอื สว่ นกรรมวธิ แี ละคนื ภาษี สานกั บรหิ ารภาษี
ธุรกิจขนาดใหญ่ หรือสว่ นเทคโนโลยีสารสนเทศ สานักงานสรรพากรภาค
แล้วแตก่ รณี ภายใน 3 วนั นับแต่วันท่มี คี าสงั่ ขีดช่อื เพ่ือทาการบันทึกขอ้ มลู
สว่ น บ.ช.12.1 ฉบับท่ี 2 เก็บเขา้ แฟ้ม

(5) เม่อื ไดร้ ับสาเนา ภ.พ.79 จากฝา่ ยกรรมวธิ ี สานักงานสรรพากรพืน้ ที่
หรอื สว่ นกรรมวธิ ีและคนื ภาษี สานกั บริหารภาษธี รุ กจิ ขนาดใหญ่ หรอื ส่วน
เทคโนโลยสี ารสนเทศ สานกั งานสรรพากรภาค แล้วแตก่ รณี ใหป้ ฏิบตั ิดังนี้

(5.1) กรณีสานักงานสรรพากรพนื้ ท่ี ให้ตรวจผลขอ้ มูลจากระบบ FVAT
online กับสาเนา ภ.พ.79

- ถา้ ไม่ถูกตอ้ ง ให้สง่ ฝ่ายกรรมวธิ ี สานกั งานสรรพากรพ้นื ท่ี หรอื ส่วน
เทคโนโลยสี ารสนเทศ สานักงานสรรพากรภาค แล้วแต่กรณี เพ่อื ทาการ
แกไ้ ขให้ถกู ตอ้ งตามคมู่ อื การบนั ทกึ ขอ้ มูลระบบงานภาษมี ลู คา่ เพม่ิ

- ถา้ ถูกต้อง ใหเ้ ก็บสาเนา ภ.พ.79 เข้าแฟ้มหนังสือแจง้ ขีดชื่อผู้ประกอบการ
จดทะเบียนออกจากทะเบยี นภาษีมลู คา่ เพิ่มแยกเป็นรายสานกั งานสรรพากร
พ้ืนท่ีสาขา เรยี งตามลาดบั เลขคุมเอกสาร (DLN)

(5.2) กรณีสานกั บริหารภาษีธุรกิจขนาดใหญ่ ให้เก็บสาเนา ภ.พ.79 เขา้ แฟ้ม
หนงั สอื แจง้ ขดี ชอื่ ผู้ประกอบการจดทะเบียนออกจากทะเบียนภาษมี ลู ค่าเพ่ิม

แยกเป็นรายสานกั งานสรรพากรพน้ื ท่ีสาขา เรยี งตามลาดบั เลขคมุ เอกสาร
(DLN)

ข. ฝา่ ยกรรมวธิ ี สานกั งานสรรพากรพ้ืนที่ หรือส่วนกรรมวิธีและคืนภาษี
สานกั บริหารภาษธี รุ กจิ ขนาดใหญ่ หรือสว่ นเทคโนโลยสี ารสนเทศ สานกั งาน
สรรพากรภาค แล้วแตก่ รณี

(1)เมื่อได้รับสาเนา ภ.พ.79 จากฝ่ายบริหารงานท่ัวไป สานกั งานสรรพากร
พ้ืนที่ หรือสานักบริหารภาษีธุรกิจขนาดใหญ่ แล้วแต่กรณี ใหท้ าการ
บันทกึ ข้อมลู ตามคมู่ อื การบนั ทกึ ขอ้ มลู ระบบงานภาษมี ูลคา่ เพ่มิ ภายใน 3
วันทาการนับแตว่ ันที่ไดร้ บั สาเนา ภ.พ.79 และประทบั คาว่า “ บนั ทกึ
ข้อมลู แลว้ ” ดว้ ยหมกึ สแี ดงลงบนสาเนา ภ.พ.79

(2) เม่อื ปฏบิ ัตติ าม (1) แล้ว ใหด้ าเนินการตอ่ ดังนี้

(2.1) กรณสี านักงานสรรพากรพ้ืนท่ี หรอื สานักงานสรรพากรภาค แลว้ แต่
กรณี ให้ส่งสาเนา ภ.พ.79 ไปใหฝ้ ่ายบริหารงานทั่วไป สานักงานสรรพากร
พนื้ ที่ ภายใน 3 วันทาการนบั แตว่ นั ท่ีบันทกึ ข้อมูลแลว้ เสร็จ เพอ่ื ดาเนนิ การ
ตอ่ ไป

(2.2) กรณสี านกั บริหารภาษธี ุรกิจขนาดใหญ่ ให้ตรวจผลข้อมลู จากระบบ
FVAT online กบั สาเนา ภ.พ.79

- ถ้าไม่ถูกตอ้ ง ใหท้ าการแก้ไขให้ถกู ตอ้ งตามคู่มอื การบนั ทึกข้อมูลระบบงาน
ภาษมี ูลคา่ เพ่มิ

- ถ้าถูกตอ้ ง ให้สง่ สาเนา ภ.พ.79 ไปให้ฝา่ ยบรหิ ารงานทวั่ ไป เพื่อดาเนนิ การ
ตอ่ ไป

22.4 กรณผี ูป้ ระกอบการจดทะเบยี นเป็นนิตบิ คุ คล ใหส้ านกั เทคโนโลยี
สารสนเทศจดั สง่ แฟ้มข้อมูลรายช่ือผู้ประกอบการจดทะเบียนทถ่ี ูกขดี ช่ือออก
จากทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และรายช่ือผปู้ ระกอบการจดทะเบียนทย่ี กเลิก
การออกจากทะเบียนภาษมี ูลค่าเพิ่มไปใหก้ รมพัฒนาธรุ กิจการค้าทาง
อเิ ล็กทรอนกิ ส์ และส่งหนังสือแจ้งการส่งขอ้ มลู ทางจดหมายอเิ ล็กทรอนิกส์
(e-mail) เวน้ แตม่ เี หตขุ ดั ขอ้ ง ให้ส่งหนังสอื แจง้ การส่งขอ้ มูลดังกล่าวโดยทาง
ไปรษณีย์

กรณที ่ผี ปู้ ระกอบการที่มคี าสั่งยกเลิกคาสั่งเพิกถอนการจดทะเบียน
ภาษีมลู ค่าเพม่ิ หรอื ไดไ้ ปจดทะเบียนภาษีมลู ค่าเพ่ิมใหมห่ ลังถูกขีดช่อื ออก
จากทะเบยี นภาษมี ลู คา่ เพมิ่ ไปแลว้ แต่ยังปรากฏหมายเหตุการขดี ชอื่
ผู้ประกอบการจดทะเบยี นออกจากทะเบียนภาษีมลู คา่ เพมิ่ ในหนงั สือรับรอง
การจดทะเบยี นนิติบคุ คล หากหนว่ ยจดทะเบยี นไดร้ ับแจง้ จากกรมพัฒนา
ธุรกจิ การค้า หรอื สานกั งานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวดั หรือผ้ปู ระกอบการ
จดทะเบียน ขอให้ยกเลิกหมายเหตุการขีดชือ่ ของผ้ปู ระกอบการจดทะเบยี น
ฯ ให้หนว่ ยจดทะเบียนแจง้ สานกั เทคโนโลยีสารสนเทศตรวจสอบขอ้ มูลและ
ปรบั ปรุงฐานข้อมูลให้ถูกตอ้ งตามข้อเท็จจรงิ แล้วแจง้ กรมพฒั นาธุรกจิ
การค้าเพอ่ื ยกเลกิ หมายเหตกุ ารขดี ช่ือของผ้ปู ระกอบการจดทะเบียนฯ ออก
จากหนงั สือรบั รองการจดทะเบียนนติ บิ ุคคล

22.5 ใหผ้ ู้ประกอบการจดทะเบียน ผู้ครอบครองทรพั ย์มรดก ผู้จดั การมรดก
หรอื ทายาทพ้นความรบั ผดิ ในฐานะผปู้ ระกอบการจดทะเบียนในวันทมี่ ีคาสงั่
ขีดชื่อผปู้ ระกอบการจดทะเบยี นออกจากทะเบียนภาษมี ูลคา่ เพมิ่

22.6 กรณผี ้มู อี านาจ ฯ ได้สั่งขดี ช่ือผ้ปู ระกอบการจดทะเบยี นรายใดออก
จากทะเบยี นภาษีมูลค่าเพ่มิ แลว้ ตอ่ มาผูป้ ระกอบการรายนั้นไดม้ ีหนงั สอื
คัดคา้ นว่า ไม่ได้รับคาสั่งเพิกถอนการจดทะเบียนภาษีมูลคา่ เพิม่ และยงั
ประกอบกจิ การอยู่ ใหป้ ฏิบตั ิเช่นเดียวกับข้อ 21.2 - 21.3

ข้อ 23 การจดทะเบียนภาษีมลู ค่าเพิม่ ชั่วคราว

23.1 ผปู้ ระกอบการที่อยูน่ อกราชอาณาจกั ร และเขา้ มาประกอบกิจการขาย
สนิ ค้า หรือให้บรกิ ารในราชอาณาจกั รเปน็ ครั้งคราว มกี าหนดเวลาในการ
ประกอบกิจการในราชอาณาจักรเกิน 1 ปี แต่ไมเ่ กนิ 3 ปี ตามประกาศ
อธบิ ดกี รมสรรพากร เก่ยี วกบั ภาษีมูลค่าเพม่ิ (ฉบบั ท่ี 43) ลงวนั ท่ี 29
มกราคม พ.ศ. 2536 มีสิทธยิ ื่นคาขอจดทะเบยี นภาษมี ลู คา่ เพ่มิ ชัว่ คราวได้
โดยย่ืนคาขอตามแบบทีอ่ ธิบดกี รมสรรพากรกาหนด ได้แก่ ภ.พ.01.2 จานวน
1 ชดุ มี 3 ฉบับ กอ่ นวนั เริ่มประกอบกิจการ ณ หนว่ ยจดทะเบยี นตาม
ระเบยี บนี้

23.1.1 เอกสารหลักฐานท่ีตอ้ งแนบพร้อม ภ.พ.01.2 ได้แก่

(1) ภาพถา่ ยสัญญาหรอื โครงการที่แสดงถงึ ค่สู ญั ญา ระยะเวลาของสัญญา
หรือวันท่ีโครงการเร่ิมตน้ และส้นิ สุด และมลู ค่าของสัญญา

(2) เอกสารตามขอ้ 6.2.5 (2) - (3)

23.1.2 การรบั คาขอจดทะเบียนภาษีมลู ค่าเพิ่มชัว่ คราว (ภ.พ.01.2)

(1) เมื่อไดร้ บั ภ.พ.01.2 จากผูป้ ระกอบการ ให้หนว่ ยจดทะเบยี นปฏิบตั ิ
เช่นเดียวกบั การรบั คาขอจดทะเบียนภาษมี ูลค่าเพ่มิ ตามปกติ แต่ให้แยกแฟ้ม
เก็บคาขอจดทะเบยี นภาษมี ลู คา่ เพ่ิมช่ัวคราวไวต้ า่ งหากจากแฟ้มเก็บคาขอ
จดทะเบยี นภาษมี ลู คา่ เพม่ิ ตามปกติ

(2) การออกใบทะเบยี นภาษีมลู ค่าเพมิ่ ชั่วคราว ให้หนว่ ยจดทะเบยี นนาใบ
ทะเบียนภาษีมลู ค่าเพ่มิ มาประทบั คาวา่ “ ชว่ั คราว ” ด้วยหมกึ สีแดงไวต้ รง
ก่ึงกลางดา้ นบนของใบทะเบียนภาษมี ลู ค่าเพ่มิ และอนุโลมให้ปฏบิ ตั ิ
เช่นเดยี วกับการออกใบทะเบียนภาษมี ูลคา่ เพม่ิ และให้ระบุ “ วนั ทีใ่ หเ้ ปน็
ผปู้ ระกอบการจดทะเบยี น ” และ “ ออกให้เม่ือวนั ที่ ” ดังนี้

“ วันทีใ่ ห้เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียน ” ใหร้ ะบุวนั ทย่ี ืน่ คาขอจดทะเบียน
ภาษีมลู ค่าเพิม่ ถึงวนั ทกี่ ารประกอบการส้นิ สุดลงตามอายุสัญญาโครงการ

“ ออกใหเ้ มื่อวันท่ี ” ใหร้ ะบุวนั ท่ีผมู้ ีอานาจอนมุ ัติลงนามในใบทะเบยี น
ภาษีมูลคา่ เพ่มิ

(3) กรณีผปู้ ระกอบการจดทะเบียนภาษมี ลู ค่าเพ่ิมชัว่ คราว ขอรบั ใบแทนใบ
ทะเบยี นภาษมี ลู คา่ เพ่ิมชั่วคราว ใหผ้ ปู้ ระกอบการย่นื คารอ้ งเปน็ หนังสอื โดย
ไม่ตอ้ งย่นื ภ.พ.04 และให้เจา้ หน้าท่อี อกใบแทนใบทะเบยี นภาษมี ูลค่าเพ่ิม
ชัว่ คราวดว้ ยมือ (ระบบคอมพิวเตอรจ์ ะไมอ่ อกใบแทนใบทะเบยี น
ภาษมี ูลค่าเพิม่ ชว่ั คราวให้) และใหป้ ระทบั คาวา่ “ ใบแทน ” ด้วยหมกึ สีแดง
ไวต้ รงกึ่งกลางดา้ นบนของใบทะเบียนภาษีมลู ค่าเพิม่ ชั่วคราวน้ัน แล้วเสนอผู้
มีอานาจ ฯ เพอื่ ลงนามในใบแทนใบทะเบียนภาษีมูลคา่ เพม่ิ ชัว่ คราว

23.1.3 การแจ้งการเปล่ยี นแปลงการจดทะเบยี นภาษีมูลคา่ เพม่ิ เป็นการ
ชัว่ คราว ให้ผปู้ ระกอบการยนื่ คาขอแจ้งการเปลยี่ นแปลงการจดทะเบียน
ภาษีมลู ค่าเพม่ิ เปน็ การช่ัวคราวตามแบบทอ่ี ธิบดีกรมสรรพากรกาหนด ไดแ้ ก่
ภ.พ.09.1 จานวน 1 ชดุ มี 3 ฉบบั ณ หน่วยจดทะเบยี นท่ีได้จดทะเบยี น
ภาษีมูลค่าเพ่มิ ไว้ ในกรณดี งั ตอ่ ไปนี้

(1) กรณีท่ปี ระสงค์จะขายสินค้าหรือให้บริการเพิ่มเตมิ จากสญั ญาทีไ่ ดท้ าไว้
หรอื มกี ารขายสนิ ค้าหรือให้บริการกบั บคุ คลอ่ืนทมี่ ใิ ช่คู่สัญญาเดมิ ให้ยน่ื
ภ.พ.09.1 ภายใน 15 วัน นับแตว่ ันทม่ี กี ารเพิ่มเตมิ สัญญา หรือนับแต่วนั ที่
ขายสนิ คา้ หรือให้บริการแก่บุคคลอ่ืนทีม่ ิใชค่ ูส่ ญั ญา

(2) กรณีที่ประสงคจ์ ะขยายเวลาการเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียน ใหย้ ืน่
ภ.พ.09.1 พร้อมกับคืนใบทะเบียนภาษมี ูลคา่ เพ่ิม เพ่ือขอขยายเวลา ก่อน
การเปน็ ผู้ประกอบการจดทะเบียนส้นิ สดุ ลง โดยใหส้ รรพากรพนื้ ที่พจิ ารณา
อนมุ ตั ิหรือไมอ่ นุมัติให้ขยายเวลาการเป็นผ้ปู ระกอบการจดทะเบียน
ภาษมี ูลค่าเพิ่มช่ัวคราว

- กรณีอนุมัติ ใหส้ ง่ ภ.พ.09.1 ไปบนั ทกึ ข้อมลู ท่ฝี ่ายกรรมวิธี เพื่อออก ใบ
ทะเบียนภาษีมลู คา่ เพิม่ ฉบบั ใหม่ โดยวันที่ให้เป็นผปู้ ระกอบการจดทะเบยี น
ให้ระบวุ ันทยี่ น่ื คาขอจดทะเบียนภาษี มูลค่าเพ่มิ ครง้ั แรกถึงวันท่ีการเปน็
ผปู้ ระกอบการสิ้นสุดตามทไ่ี ดข้ อขยายเวลาครั้งหลังสดุ

- กรณีไม่อนมุ ตั ิ ใหแ้ จง้ ผลให้ผ้ปู ระกอบการทราบ

(3) กรณีเลิกประกอบกจิ การก่อนครบกาหนดเวลาท่แี จ้งไว้ ให้ยน่ื คาร้องเป็น
หนงั สือพร้อมกบั คืนใบทะเบียนภาษีมลู ค่าเพม่ิ

23.1.4 การรับคาขอแจ้งการเปลี่ยนแปลงการจดทะเบียนภาษมี ลู คา่ เพ่มิ เปน็
การชวั่ คราว (ภ.พ.09.1)

เมอื่ ไดร้ ับ ภ.พ.09.1 จากผปู้ ระกอบการ ใหห้ นว่ ยจดทะเบยี นปฏิบตั ิ
เชน่ เดียวกับการรับคาขอแจง้ การเปล่ยี นแปลงทะเบียนภาษีมูลค่าเพิม่
ตามปกติ แต่ใหแ้ ยกแฟม้ เก็บคาขอแจง้ การเปลี่ยนแปลงการจดทะเบียน
ภาษมี ูลคา่ เพม่ิ เป็นการช่วั คราว ไวต้ ่างหากจากแฟม้ เก็บคาขอแจง้
เปลย่ี นแปลงทะเบียนภาษีมลู คา่ เพิม่ ปกติ

23.2 ผูป้ ระกอบการทอ่ี ยนู่ อกราชอาณาจักร และไดข้ ายสินค้าใน
ราชอาณาจักรเป็นปกตธิ รุ ะโดยมีตวั แทนอย่ใู นเขตปลอดอากร ตามประกาศ
อธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกบั ภาษีมูลค่าเพมิ่ (ฉบบั ท่ี 169) ลงวนั ท่ี 1
ธันวาคม พ.ศ. 2549 มีสทิ ธิยืน่ คาขอจดทะเบยี นภาษมี ลู คา่ เพมิ่ ช่ัวคราวได้
โดยยื่นคาขอตามแบบทอ่ี ธิบดกี รมสรรพากรกาหนด ได้แก่ ภ.พ.01.6 จานวน
1 ชดุ มี 3 ฉบบั ณ หนว่ ยจดทะเบยี นที่สถานประกอบการของตวั แทนตั้งอยู่

23.2.1 เอกสารหลักฐานที่ต้องแนบพร้อม ภ.พ.01.6 ไดแ้ ก่

(1) เอกสารตามข้อ 23.1.1

(2) ภาพถ่ายหนังสือตง้ั ตวั แทนเป็นลายลกั ษณ์อักษร ซึ่งมีการรับรอง โดย
สถานทตู หรือสถานกงสุลหรือบุคคลอนื่ ที่ได้รับความเหน็ ชอบจากอธิบดี
กรมสรรพากร

(3) ภาพถ่ายใบรบั รองเป็นผูป้ ระกอบกจิ การในเขตปลอดอากร

23.2.2 การรบั คาขอจดทะเบยี นภาษีมูลคา่ เพ่ิมเปน็ การช่วั คราวในเขตปลอด
อากร (ภ.พ.01.6) ใหป้ ฏิบัตเิ ช่นเดยี วกบั การรับ ภ.พ.01.2

23.2.3 การแจง้ การเปล่ียนแปลงการจดทะเบียนภาษมี ลู คา่ เพมิ่ เปน็ การ
ชัว่ คราว ให้แจง้ การเปลยี่ นแปลง ณ หน่วยจดทะเบียนทสี่ ถานประกอบการ
ของตวั แทนตงั้ อยู่

(1) กรณที ี่ประสงคจ์ ะขยายเวลาการเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียน ให้ยน่ื คา
ร้องเป็นหนงั สือพรอ้ มกับคนื ใบทะเบียนภาษมี ูลค่าเพ่ิม เพ่อื ขอขยายเวลา
ก่อนการเป็นผปู้ ระกอบการจดทะเบียนสน้ิ สุดลง เม่ือหนว่ ยจดทะเบียนได้
รบั คาร้องขอขยายเวลาแลว้ ให้เสนอสรรพากรพ้ืนทพี่ ิจารณาอนุมตั ิ หรอื ไม่
อนุมัติใหข้ ยายเวลาการเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมลู คา่ เพม่ิ
ช่วั คราว โดยไม่ตอ้ งบนั ทกึ การรับคาร้องขอขยายเวลาเข้าทะเบียนคุม
รายการและจดั ทาบัญชีด้วยระบบคอมพวิ เตอร์ (TCL)

- กรณอี นุมัติ ให้ส่งคารอ้ งขอขยายเวลาไปบันทกึ ข้อมลู ทฝ่ี ่ายกรรมวธิ ี เพอ่ื
ออกใบทะเบยี นภาษมี ลู คา่ เพม่ิ ฉบบั ใหม่ โดยวันทีใ่ หเ้ ปน็ ผู้ประกอบการจด
ทะเบียน ใหร้ ะบุวนั ทยี่ ื่นคาขอจดทะเบยี นภาษมี ูลคา่ เพม่ิ คร้ังแรกถงึ วันทีก่ าร
เปน็ ผูป้ ระกอบการสนิ้ สดุ ตามทไี่ ดข้ อขยายเวลาครงั้ หลังสดุ

- กรณีไม่อนมุ ัติ ใหแ้ จ้งผลให้ผู้ประกอบการทราบ

(2) กรณีเลกิ ประกอบกิจการก่อนครบกาหนดเวลาท่ีแจ้งไว้ ใหย้ ่นื คาร้องเปน็
หนงั สอื พรอ้ มกบั คืนใบทะเบยี นภาษมี ลู ค่าเพม่ิ

ข้อ 24 หลกั เกณฑ์การจัดตั้งสถานประกอบการชัว่ คราวเปน็ สถาน
ประกอบการเฉพาะกิจ
24.1 ลกั ษณะสถานประกอบการเฉพาะกิจ ได้แก่

(1) ไมเ่ ขา้ ลักษณะเป็นสถานประกอบการตามมาตรา 77/1(20) แห่ง
ประมวลรษั ฎากร

(2) ผปู้ ระกอบการได้เข้าไปต้งั สถานประกอบการเพื่อควบคมุ งานเกนิ 6
เดอื น แตไ่ ม่เกิน 3 ปี

24.2 คาขอแจง้ เกย่ี วกบั การจัดตั้งสถานประกอบการชั่วคราวเป็นสถาน
ประกอบการเฉพาะกิจจะต้องเปน็ แบบทอ่ี ธิบดกี รมสรรพากรกาหนด

24.3 กาหนดเวลาการย่นื คาขอแจ้งการจดั ตั้งสถานประกอบการชวั่ คราวเป็น
สถานประกอบการเฉพาะกิจ ผ้ปู ระกอบการจดทะเบียนจะต้องย่ืนคาขอแจ้ง
การจดั ตง้ั สถานประกอบการชัว่ คราว เปน็ สถานประกอบการเฉพาะกจิ กอ่ น
วันจดั ต้ังสถานประกอบการเฉพาะกิจไม่นอ้ ยกว่า 30 วัน

24.4 หน่วยงานทีร่ ับคาขอแจ้งการจัดตั้งสถานประกอบการชว่ั คราวเป็น
สถานประกอบการเฉพาะกิจ ได้แก่ หน่วยจดทะเบยี นที่สถานประกอบการ
เฉพาะกิจต้งั อยู่

ข้อ 25 การรบั คาขอแจ้งการจัดตั้งสถานประกอบการชวั่ คราวเป็นสถาน
ประกอบการเฉพาะกิจ เม่อื ได้รบั คาขอแจง้ การจดั ตัง้ สถานประกอบการ
ชั่วคราวเป็นสถานประกอบการเฉพาะกิจจากผ้ปู ระกอบการจดทะเบยี น ให้
หนว่ ยจดทะเบียน ปฏบิ ัติดังตอ่ ไปนี้

25.1 พจิ ารณาเสนอความเหน็ ตอ่ นายทะเบียนภาษมี ลู ค่าเพิ่ม

25.2 เมอื่ นายทะเบยี นภาษีมูลค่าเพิม่ ได้สง่ั การแลว้ ให้แจ้งเป็นหนงั สือให้
ผูป้ ระกอบการจดทะเบยี นทราบ

25.3 ส่งสาเนาหนงั สือแจ้งการอนมุ ัตใิ ห้เปน็ สถานประกอบการเฉพาะกจิ ไป
ยังสานกั งานสรรพากรพ้ืนที่หรือสานักงานสรรพากรพ้ืนทส่ี าขา ทีส่ ถาน
ประกอบการเฉพาะกจิ ตั้งอยู่

ข้อ 26 การเตรียมการเกย่ี วกบั ใบทะเบียนภาษีมูลคา่ เพ่ิม (ภ.พ.20)

26.1 ใหส้ านักบริหารการคลังและรายได้สารวจปริมาณการใช้ ภ.พ.20 และ
พจิ ารณาจดั พิมพต์ ามระเบียบวา่ ด้วยการพัสดุ ในจานวนที่เหมาะสม แล้ว
จ่ายให้สานักงานสรรพากรภาค สานกั บรหิ ารภาษธี รุ กจิ ขนาดใหญ่ ตาม
ระเบยี บว่าดว้ ยการเบกิ จา่ ยแบบพมิ พ์

26.2 กรณี ภ.พ.20 สูญหาย ใหส้ านกั บริหารการคลงั และรายได้ หรอื
สานักงานสรรพากรภาค หรอื สานักงานสรรพากรพืน้ ท่ี หรือสานักบรหิ าร
ภาษธี ุรกิจขนาดใหญ่ แล้วแตก่ รณี ประกาศยกเลกิ ภ.พ.20 เลขทีท่ ่ีสญู หาย
ให้ทราบโดยท่ัวกัน

ข้อ 27 ให้สานักบริหารการคลงั และรายได้ และสานกั งานสรรพากรภาค
สารวจปริมาณการใชแ้ บบพิมพเ์ ก่ยี วกบั การจดทะเบยี นภาษมี ลู ค่าเพมิ่ และ
การแกไ้ ขเปลยี่ นแปลงทะเบยี นภาษีมลู ค่าเพิ่ม และพิจารณาจดั พิมพต์ าม

ระเบียบว่าด้วยการพสั ดใุ นจานวนท่เี หมาะสม แลว้ จ่ายให้หน่วยงานตา่ งๆ
ตามระเบียบว่าด้วยการเบกิ จ่ายแบบพิมพ์

ขอ้ 28 ภายในเดอื นตลุ าคมของทกุ ปี ให้สานกั บริหารภาษีธุรกิจขนาดใหญ่
และสานักงานสรรพากรพน้ื ที่ เบกิ แบบพมิ พต์ ามระเบียบว่าด้วยการเบกิ จา่ ย
แบบพมิ พจ์ ากสานักบริหารการคลงั และรายได้ หรือสานักงานสรรพากรภาค
แลว้ แตก่ รณี ให้เพียงพอแก่การใชง้ าน

ข้อ 29 การเตรยี มการเกย่ี วกับแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพ่มิ

29.1 ภายในเดือนกุมภาพันธข์ องทกุ ปี ให้สานกั บริหารการคลังและรายได้
ประมาณการ และจัดพมิ พ์แบบแสดงรายการภาษีมลู ค่าเพิ่มตามระเบยี บว่า
ด้วยการพัสดุ แลว้ ส่งให้ สานักงานสรรพากรภาค หรอื สานักบรหิ ารภาษี
ธุรกิจขนาดใหญ่ แล้วแตก่ รณี

29.2 ใหส้ านักงานสรรพากรภาค จัดสง่ แบบแสดงรายการภาษีมูลคา่ เพมิ่ ไป
ให้สานกั งานสรรพากรพ้นื ทีใ่ นท้องทีท่ ่ีรับผดิ ชอบ

29.3 ใหส้ านกั งานสรรพากรพน้ื ท่ี จัดสง่ แบบแสดงรายการภาษมี ูลคา่ เพม่ิ ไป
ใหส้ านักงานสรรพากรพ้ืนท่ีสาขาในท้องท่ที ่รี บั ผดิ ชอบ

29.4 ให้สานักงานสรรพากรพื้นท่ีสาขา หรือสานกั บรหิ ารภาษีธุรกจิ ขนาด
ใหญ่จา่ ยแบบแสดงรายการภาษมี ลู คา่ เพิ่มแก่ผเู้ สียภาษที ่มี าขอรบั ณ สานกั
งานฯ

ขอ้ 30 การเตรยี มการเกย่ี วกบั แถบชอ่ื
๓๐.๑ ใหส้ านกั บริหารภาษธี รุ กจิ ขนาดใหญ่ และสานักงานสรรพากรภาค
สารวจปรมิ าณการใช้แถบชื่อ และแจ้งใหส้ านักบริหารการคลงั และรายได้
ทราบภายในเดือนกันยายนของทุกปี และเมอื่ ได้รับแถบชอื่ จากสานักบริหาร
การคลังและรายได้แล้ว ให้จัดสรรใหห้ นว่ ยงานทรี่ บั ผดิ ชอบในการพิมพแ์ ถบ
ชอ่ื

๓๐.๒ ให้สานกั บริหารการคลงั และรายไดจ้ ัดซ้อื แถบชอ่ื ตามระเบียบ
สานกั นายกรฐั มนตรีว่าด้วยการพัสดุ และจ่ายให้สานักบริหารภาษธี ุรกิจ
ขนาดใหญ่ และสานกั งานสรรพากรภาค

๓๐.๓ ให้สานักงานสรรพากรพนื้ ที่ พิมพเ์ ลขประจาตวั ผ้เู สียภาษอี ากร ชื่อ
และที่อยขู่ องผปู้ ระกอบการจดทะเบยี นลงบนแถบชื่อ เฉพาะผปู้ ระกอบการ
จดทะเบยี นท่ียื่นคารอ้ งขอแถบชื่อ
ผู้เสียภาษีอากร (ถ.ช.๐๑) แลว้ ส่งไปให้ผปู้ ระกอบการจดทะเบียนท่ียน่ื คาร้อง
ขอแถบช่ือผู้เสียภาษีอากร (ถ.ช.๐๑) ใชป้ ดิ ลงบนแบบแสดงรายการ
ภาษีมูลค่าเพิ่มท่ีจะตอ้ งยนื่ ทงั้ ปี

๓๐.๔ ใหส้ านกั บริหารภาษีธุรกิจขนาดใหญ่ พิมพเ์ ลขประจาตัวผูเ้ สียภาษี
อากร ชื่อ และทีอ่ ยขู่ องผู้ประกอบการจดทะเบยี นลงบนแถบช่ือ เฉพาะ
ผู้ประกอบการจดทะเบียนทย่ี ่ืนแบบแสดงรายการภาษมี ลู คา่ เพมิ่ (ภ.พ.๓๐)
ณ หน่วยจดั เก็บ แล้วสง่ ไปให้ผู้ประกอบการจดทะเบยี นท่อี ยใู่ นการกากบั
ดแู ลใช้ปดิ ลงบนแบบแสดงรายการภาษีมลู ค่าเพม่ิ ทีจ่ ะตอ้ งย่นื ทัง้ ปี”

30.5 ให้สานกั บริหารภาษธี ุรกจิ ขนาดใหญ่ พมิ พ์เลขประจาตัวผู้เสียภาษี
อากร ช่ือ และที่อยู่ของผปู้ ระกอบการจดทะเบยี นลงบนแถบช่อื แลว้ สง่ ไปให้
ผู้ประกอบการจดทะเบียนทอี่ ยู่ในการกากบั ดแู ลใช้ปดิ ลงบนแบบแสดง
รายการภาษีมูลค่าเพิ่มทีจ่ ะต้องยน่ื ท้ังปี

ขอ้ 31 หลักเกณฑ์การย่นื แบบแสดงรายการภาษมี ลู คา่ เพิ่ม และแบบนาสง่
ภาษมี ูลคา่ เพ่ิม

31.1 แบบแสดงรายการภาษมี ูลค่าเพิ่ม และแบบนาส่งภาษีมูลคา่ เพม่ิ ท่ี
อธิบดีกรมสรรพากรกาหนด ได้แก่

ก. แบบแสดงรายการภาษมี ลู คา่ เพม่ิ

(1) ภ.พ.30 กรณคี านวณภาษีจากภาษีขายหักดว้ ยภาษีซอ้ื

(2) ภ.พ.30.2 กรณปี รบั ปรงุ ภาษีซื้อที่เฉล่ยี ตามสว่ นของรายได้

(3) ภ.พ.30.3 กรณปี รับปรุงภาษีซือ้ ท่เี ฉลย่ี ตามสว่ นของการใช้พ้นื ท่ีอาคาร

ข. แบบนาส่งภาษีมูลค่าเพิม่
ภ.พ.36
31.2 ผู้มีหน้าทย่ี น่ื แบบ
31.2.1 กรณี ภ.พ.30 ภ.พ.30.2 ภ.พ.30.3 ไดแ้ ก่ บุคคลตอ่ ไปน้ี
(1) ผู้ประกอบการจดทะเบยี นภาษมี ลู คา่ เพมิ่
(2) ตวั แทนในราชอาณาจักรของผปู้ ระกอบการทอ่ี ยนู่ อกราชอาณาจกั รและ
ได้ขายสินค้าหรอื ให้บรกิ ารในราชอาณาจักรเป็นปกติธรุ ะ

(3) ผู้ทมี่ คี วามรับผิดตามกฎหมายว่าดว้ ยพกิ ัดอตั ราศุลกากรหรือผรู้ บั โอน
สนิ ค้า (ถา้ มีการโอนสนิ ค้า) ในกรณีสนิ ค้านาเข้าท่จี าแนกประเภทไวใ้ นภาค
วา่ ด้วยของท่ไี ด้รับยกเวน้ อากรตามกฎหมายวา่ ดว้ ยพิกัดอตั ราศลุ กากร ซ่ึง
ได้รบั ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 81 (2) (ค) แหง่ ประมวลรัษฎากร ถ้า
ภายหลงั สนิ ค้านน้ั ต้องเสยี อากรตามกฎหมายว่าดว้ ยพิกัดอัตราศลุ กากร

(4) นิตบิ คุ คลเดิมทป่ี ระสงค์จะควบเขา้ กนั และนิติบคุ คลใหมซ่ ง่ึ ได้ควบเข้า
กนั

(5) ผู้โอนและผู้รบั โอน กรณโี อนกิจการ

(6) ผู้อนุบาล หรือ ผู้พทิ กั ษ์ กรณผี ู้ประกอบการจดทะเบยี นหรือผนู้ าเข้าเป็น
คนไร้ความสามารถหรือเสมือนไร้ความสามารถ

(7) ผจู้ ัดการมรดก ทายาท หรือ ผคู้ รอบครองทรัพย์มรดก กรณี
ผู้ประกอบการจดทะเบียนหรือผนู้ าเขา้ เป็นบุคคลธรรมดาถงึ แกค่ วามตาย

(8) ผอู้ านวยการ ผู้จัดการ หรือ บคุ คลใดบคุ คลหน่ึงในคณะบุคคลทมี่ ใิ ชน่ ิติ
บคุ คล กรณผี ู้ประกอบการจดทะเบยี นหรอื ผู้นาเขา้ เปน็ คณะบคุ คลทมี่ ใิ ชน่ ิติ
บุคคล

(9) กรรมการ ผู้อานวยการ ผู้จัดการ หรือผมู้ ีหน้าทรี่ ับผิดชอบในการจัดการ
กรณีผู้ประกอบการเปน็ นิตบิ ุคคล

(10) ผู้ชาระบัญชีและกรรมการ ผอู้ านวยการ ผูจ้ ดั การ หรือผู้มีหนา้ ท่ี
รับผดิ ชอบในการจัดการซึง่ ดารงตาแหนง่ อยกู่ ่อนวันเลิกนิติบุคคลนั้น กรณี
ผูป้ ระกอบการจดทะเบยี นเปน็ นติ ิบคุ คลเลกิ กนั โดยมกี ารชาระบัญชี

31.2.2 กรณี ภ.พ.36 ได้แก่ บุคคลตอ่ ไปน้ี
(1) ผจู้ ่ายเงินคา่ ซื้อสนิ ค้าหรือคา่ บรกิ ารให้แก่
(1.1) ผูป้ ระกอบการทอ่ี ยนู่ อกราชอาณาจักร ซ่งึ ไดเ้ ขา้ มาประกอบกิจการ
ขายสนิ คา้ หรือใหบ้ รกิ ารในราชอาณาจักรเป็นการช่ัวคราว และไมไ่ ด้จด
ทะเบยี นภาษมี ูลค่าเพม่ิ เป็นการช่วั คราว ตามมาตรา 85/3 แห่งประมวล
รษั ฎากร
(1.2) ผปู้ ระกอบการทไ่ี ด้ให้บริการในต่างประเทศ และไดม้ ีการใช้บรกิ ารนั้น
ในราชอาณาจักร

(2) ผทู้ อดตลาดซ่ึงขายทอดตลาดทรัพย์สินของผ้ปู ระกอบการจดทะเบียน
ภาษีมลู ค่าเพมิ่

(3) ผู้รับโอนสินค้าหรือผู้รบั โอนสิทธิในบริการทเี่ สยี ภาษีมลู คา่ เพิม่ ไว้ในอตั รา
ร้อยละ 0 สาหรับการขายสินคา้ หรือการให้บริการกับองค์การสหประชาชาติ

ทบวงการชานัญพิเศษของสหประชาชาติ สถานเอกอคั รราชทตู สถานทตู
สถานกงสลุ ใหญ่ สถานกงสุล หรือองคก์ ารระหวา่ งประเทศอนื่ ๆ ที่ประเทศ
ไทยมีพันธกรณีตามความตกลงทจ่ี ะต้องใหผ้ ลปฏบิ ตั ิเท่าเทียมกบั สถาน
เอกอคั รราชทตู องค์การสหประชาชาติ หรอื ทบวงการชานัญพเิ ศษของ
สหประชาชาติ แตภ่ ายหลังไดม้ กี ารโอนกรรมสทิ ธิ์ในสนิ คา้ หรอื โอนสิทธิใน
บรกิ ารอันเปน็ เหตใุ หต้ อ้ งเสียภาษีมลู ค่าเพม่ิ

31.3 กาหนดเวลายื่นแบบแสดงรายการภาษีมลู คา่ เพิ่ม และแบบนาสง่
ภาษีมูลคา่ เพิม่

31.3.1 ภ.พ.30 จะต้องยืน่ ภายในวนั ที่ 15 ของเดือนถัดไปสาหรบั เดือนภาษี
หนงึ่ ๆ พร้อมกบั ชาระภาษี (ถ้าม)ี ไม่วา่ จะได้ขายสินคา้ หรือใหบ้ ริการใน
เดือนภาษีน้ันหรือไมก่ ต็ าม

31.3.2 ภ.พ.30.2 ภ.พ.30.3 จะตอ้ งย่นื ภายในวนั ที่ 15 ของเดอื นถดั จาก
เดือนภาษีทีม่ ีการปรับปรุงภาษซี ื้อ 31.3.3 ภ.พ.36 จะตอ้ งย่นื

(1) ภายใน 7 วนั นบั แตว่ ันสิ้นเดอื นของเดือนท่จี า่ ยเงินให้ผ้ปู ระกอบการจด
ทะเบียนภาษีมูลคา่ เพม่ิ หรือผู้ประกอบการ แล้วแตก่ รณี

(2) ภายใน 7 วัน นับแต่วนั สิ้นเดอื นของเดอื นทค่ี รบกาหนด 30 วันที่ความ
รับผิดในการเสียภาษีมูลคา่ เพมิ่ เกดิ ขนึ้

31.4 สถานที่ย่นื แบบแสดงรายการภาษีมูลคา่ เพ่มิ และแบบนาสง่
ภาษีมลู ค่าเพ่มิ ได้แก่ หน่วยจัดเก็บท่ีสถานประกอบการตั้งอยู่ หรือสถานท่ี
อ่ืนท่ีอธิบดกี รมสรรพากรกาหนด

31.5 ในกรณที ี่ผูป้ ระกอบการจดทะเบียนมสี ถานประกอบการหลายแหง่
หรือมีสานักงานสาขา ให้แยกยน่ื แบบแสดงรายการภาษมี ูลคา่ เพิ่มและชาระ
ภาษีเปน็ รายสถานประกอบการ เว้นแต่ผู้ประกอบการจดทะเบยี นได้รับ
อนุมัติให้ยื่นแบบแสดงรายการภาษมี ลู คา่ เพมิ่ และชาระภาษีรวมกนั ณ
สานกั งานสรรพากรพน้ื ที่สาขาแหง่ ใดแห่งหนง่ึ ใหถ้ อื ปฏบิ ัติต้งั แต่เดือนภาษีท่ี
ผ้มู อี านาจอนุมัตกิ าหนดเปน็ ตน้ ไป

31.6 กรณที ผ่ี ้ปู ระกอบการจดทะเบียนยน่ื แบบแสดงรายการภาษมี ูลคา่ เพ่มิ
ไว้ไม่ถกู ตอ้ งครบถ้วน ไมว่ า่ การคลาดเคล่อื นนัน้ จะเป็นเหตุใหจ้ านวนภาษใี น

เดอื นภาษเี ปลย่ี นแปลงไปหรอื ไมก่ ็ตาม จะยน่ื แบบแสดงรายการ
ภาษีมูลค่าเพิ่มเพม่ิ เตมิ ได้อกี พร้อมกบั ชาระภาษี (ถา้ ม)ี ให้ถูกต้องครบถว้ น

“ขอ้ ๓๒ การขออนุมัตยิ ่นื แบบแสดงรายการภาษมี ลู ค่าเพ่ิมรวมกนั

๓๒.๑ ผู้มสี ทิ ธิยนื่ คาขออนุมตั ิยน่ื แบบแสดงรายการภาษมี ลู ค่าเพ่ิมรวมกนั
ได้แก่ ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษมี ูลค่าเพม่ิ ที่มสี ถานประกอบการหลาย
แหง่ และประสงคจ์ ะขอยืน่ แบบแสดงรายการภาษมี ลู คา่ เพ่ิมรวมกนั ของ
สถานประกอบการทกุ แห่ง ณ สานกั งานสรรพากรพืน้ ทีส่ าขาท่มี ีสถาน
ประกอบการแห่งใดแห่งหน่งึ ตง้ั อยู่
๓๒.๒ คาขอย่นื แบบแสดงรายการภาษมี ลู ค่าเพ่มิ รวมกัน ไดแ้ ก่ ภ.พ.๐๒
จานวน ๑ ชุด มี ๓ ฉบบั

๓๒.๓ เอกสารหลกั ฐานทีต่ อ้ งแนบพร้อม ภ.พ.๐๒ ได้แก่รายละเอียดท่ตี ัง้
และลกั ษณะการดาเนินการของสถานประกอบการทุกแห่ง

๓๒.๔ ผูป้ ระกอบการจดทะเบยี นทป่ี ระสงค์จะยืน่ แบบแสดงรายการ
ภาษีมูลค่าเพม่ิ รวมกัน จะต้องย่ืน ภ.พ.๐๒ ก่อนเดอื นภาษีทปี่ ระสงคจ์ ะยน่ื
แบบแสดงรายการภาษีมลู คา่ เพิม่ รวมกนั ณ หนว่ ยจดทะเบียน ซง่ึ สถาน
ประกอบการทเ่ี ป็นสานักงานใหญ่ตั้งอยู่ หรอื สานกั บรหิ ารภาษีธุรกิจขนาด
ใหญ่ แล้วแต่กรณี
๓๒.๕ ผู้มีอานาจอนมุ ัติใหย้ ่ืนแบบแสดงรายการภาษมี ูลคา่ เพมิ่ รวมกนั ได้แก่
อธบิ ดกี รมสรรพากร หรือผ้ทู ่อี ธบิ ดกี รมสรรพากรมอบหมาย”

ข้อ ๗ ใหย้ กเลกิ ความในข้อ ๓๓ ของระเบยี บกรมสรรพากรวา่ ดว้ ยการ
ปฏิบัติงานกรรมวธิ ภี าษมี ลู ค่าเพม่ิ พ.ศ. ๒๕๕๑ และใหใ้ ชค้ วามต่อไปน้ีแทน

“ขอ้ ๓๓ หลกั เกณฑก์ ารพจิ ารณาอนุมัตใิ ห้ย่นื แบบแสดงรายการ
ภาษีมลู คา่ เพม่ิ รวมกัน

๓๓.๑ ให้สรรพากรพืน้ ที่ พิจารณาอนมุ ัติให้ผูป้ ระกอบการจดทะเบียน
ภาษมี ลู คา่ เพมิ่

ทมี่ สี ถานประกอบการท่ีเป็นสานักงานใหญต่ ้งั อยู่ในการกากับดแู ลของ
สรรพากรพ้นื ท่ี และมสี ถานประกอบการหลายแห่งยน่ื แบบแสดงรายการ
ภาษมี ลู คา่ เพิ่มน้ันรวมกัน

๓๓.๒ ใหผ้ ู้อานวยการสานักบริหารภาษธี ุรกจิ ขนาดใหญ่ พจิ ารณาอนมุ ัตใิ ห้
ผู้ประกอบการจดทะเบยี นภาษมี ลู ค่าเพมิ่ ในการกากับดแู ลของสานักบรหิ าร
ภาษธี ุรกิจขนาดใหญ่ และมีสถานประกอบการหลายแหง่ ยนื่ แบบแสดง
รายการภาษีมูลคา่ เพิ่มรวมกัน

๓๓.๓ เวน้ แต่อธบิ ดกี รมสรรพากรจะกาหนดเปน็ อยา่ งอืน่ ให้พจิ ารณาอนมุ ตั ิ
ให้ผปู้ ระกอบการจดทะเบียนตามขอ้ ๓๓.๑ และขอ้ ๓๓.๒ ยืน่ แบบแสดง
รายการภาษีมลู คา่ เพิม่ ของทกุ สถานประกอบการรวมกนั ณ สานักงาน
สรรพากรพ้นื ทส่ี าขา ซึ่งสถานประกอบการท่ีผู้ประกอบการจดทะเบยี น
ประสงคจ์ ะขอยืน่ แบบแสดงรายการภาษีมลู ค่าเพ่มิ รวมกนั ต้งั อยู่ ตั้งแต่เดอื น
ภาษีที่ได้รับอนมุ ัตเิ ป็นตน้ ไป”

32.4 ผู้ประกอบการจดทะเบียนทีป่ ระสงค์จะย่ืนแบบแสดงรายการ
ภาษีมลู ค่าเพมิ่ รวมกนั จะต้องย่นื ภ.พ.02 กอ่ นเดอื นภาษีทีป่ ระสงค์จะย่ืน
แบบแสดงรายการภาษีมูลคา่ เพมิ่ รวมกนั ณ หน่วยจดทะเบียน ซงึ่ สถาน

ประกอบการท่ีเป็นสานกั งานใหญ่ต้งั อยู่ หรือสานกั บรหิ ารภาษธี รุ กจิ ขนาด
ใหญ่ แลว้ แตก่ รณี

32.5 ผ้มู ีอานาจอนุมตั ใิ ห้ย่ืนแบบแสดงรายการภาษมี ูลค่าเพิ่มรวมกัน ได้แก่
อธบิ ดกี รมสรรพากร หรือผู้ท่ีอธบิ ดีกรมสรรพากรมอบหมาย

ข้อ 33 หลักเกณฑ์การพิจารณาอนมุ ัติใหย้ ืน่ แบบแสดงรายการ
ภาษีมลู ค่าเพ่ิมรวมกัน

33.1 ให้สรรพากรพ้ืนท่ี พจิ ารณาอนุมตั ิใหผ้ ู้ประกอบการจดทะเบยี น
ภาษีมูลคา่ เพมิ่ ที่มีสถานประกอบการหลายแห่งยน่ื แบบแสดงรายการ
ภาษมี ลู คา่ เพ่มิ รวมกัน หากเขา้ หลกั เกณฑข์ ้อใดขอ้ หนึ่งดังน้ี

33.1.1 ผูป้ ระกอบการจดทะเบยี นมสี ถานประกอบการหลายแห่งตงั้ อยู่ใน
ทอ้ งท่จี ังหวัดเดยี วกัน

33.1.2 ผู้ประกอบการจดทะเบยี นมสี ถานประกอบการหลายแหง่ มไิ ด้ตงั้ อยู่
ในทอ้ งทจี่ งั หวดั เดยี วกนั โดยสถานประกอบการแห่งหนึง่ มีทัง้ ภาษีซอ้ื และ

ภาษีขาย หรอื มีเฉพาะภาษีซอ้ื หรือเฉพาะภาษีขาย แตส่ ถานประกอบการ
แห่งอื่นทุกแห่งไมม่ ีท้งั ภาษซี อื้ และภาษีขาย

33.1.3 ผ้ปู ระกอบการจดทะเบียนมีสถานประกอบการหลายแห่ง มิไดต้ ง้ั อยู่
ในทอ้ งที่จงั หวัดเดียวกนั โดยสถานประกอบการแหง่ หนงึ่ มีท้งั ภาษซี อื้ และ
ภาษีขาย หรอื มีเฉพาะภาษซี อื้ หรือเฉพาะภาษีขาย แตส่ ถานประกอบการ
แห่งอนื่ ทุกแหง่ มเี ฉพาะภาษีซือ้ หรือเฉพาะภาษีขาย หรือไม่มที ้งั ภาษีซ้อื และ
ภาษีขาย

33.1.4 ผูป้ ระกอบการจดทะเบียนซึง่ ประกอบกิจการต่อไปนี้

(1) การธนาคาร ตามมาตรา 91/2 (1) แหง่ ประมวลรัษฎากร

(2) การประกอบธุรกจิ เงนิ ทุน ธรุ กิจหลักทรัพย์ ธรุ กิจเครดิตฟองซเิ อร์ ตาม
มาตรา 91/2 (2) แห่งประมวลรษั ฎากร

(3) การรับประกนั ชวี ติ ตามมาตรา 91/2 (3) แห่งประมวลรัษฎากร

33.1.5 กรณีอนื่ ท่ีอธิบดีกรมสรรพากรเห็นสมควร

ในกรณสี ถานประกอบการตงั้ อยู่ในท้องท่ีกรงุ เทพมหานคร หรือในท้องที่
จงั หวดั นอกเขตกรงุ เทพมหานครทม่ี กี ารตง้ั สานักงานสรรพากรพ้นื ท่ีมากกวา่
1 แห่ง ใหถ้ ือวา่ สถานประกอบการตัง้ อยู่ในท้องทีจ่ ังหวดั เดียวกนั

33.2 เว้นแต่อธบิ ดกี รมสรรพากรจะกาหนดเปน็ อย่างอืน่ ให้พจิ ารณาอนมุ ตั ิ
ใหผ้ ปู้ ระกอบการจดทะเบยี นตามขอ้ 33.1 ย่นื แบบแสดงรายการ
ภาษีมูลค่าเพม่ิ ของทกุ สถานประกอบการรวมกัน ณ สานักงานสรรพากร
พ้ืนทสี่ าขา ซ่งึ สถานประกอบการที่ผปู้ ระกอบการจดทะเบียนประสงค์จะขอ
ยนื่ แบบแสดงรายการภาษมี ูลค่าเพิ่มรวมกันตัง้ อยู่ ต้ังแตเ่ ดือนภาษที ไ่ี ดร้ บั
อนมุ ัติเปน็ ต้นไป

“ขอ้ ๓๔ การรบั คาขอยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่มรวมกนั
๓๔.๑ ในเขตกรงุ เทพมหานคร
๓๔.๑.๑ สานักงานสรรพากรพ้ืนท่ี

ก. สว่ นบรหิ ารงานทั่วไป

(๑)เม่ือได้รับ ภ.พ.๐๒ พร้อมเอกสารแนบจากผู้ประกอบการจดทะเบยี น ให้
ปฏิบัติดงั น้ี

(๑.๑) ตรวจรายการท่กี รอกใน ภ.พ.๐๒ ว่า ถกู ต้องครบถ้วน และชดั เจน
หรือไม่

(๑.๒) บันทกึ การรบั ภ.พ.๐๒ เขา้ ทะเบยี นคุมรายการและจดั ทาบัญชีด้วย
ระบบคอมพวิ เตอร์ (TCL)

(๑.๓) คืน ภ.พ.๐๒ ฉบบั ท่ี ๓ ให้ผปู้ ระกอบการจดทะเบียนเก็บไวเ้ ปน็
หลักฐาน

(๑.๔) จัดพมิ พ์ใบนาส่งเอกสาร (บ.ช.๑๒.๑) จานวน ๒ ฉบบั แนบกบั ภ.พ.
๐๒ ฉบับท่ี ๑ และฉบับที่ ๒ พรอ้ มเอกสารแนบ

(๑.๕) บันทึกความเห็นใน ภ.พ.๐๒ ช่อง “ความเหน็ เจา้ หนา้ ท่ี” ว่า เข้า
หลกั เกณฑต์ ามข้อ ๓๓.๑ หรอื ไม่ แล้วเสนอผ้มู อี านาจอนมุ ัติ เพื่อพิจารณา
สงั่ การและลงนามในชอ่ ง “คาสง่ั ” ของ ภ.พ.๐๒ ฉบับที่ ๑ และฉบับท่ี ๒

(๑.๖) นาใบนาสง่ เอกสาร (บ.ช.๑๒.๑) ฉบบั ท่ี ๑ แนบกบั ภ.พ.๐๒ ฉบบั ที่
๑ โดยเรียงตามลาดับเลขคมุ เอกสาร (DLN) ส่งให้สว่ นกรรมวธิ แี ละคนื ภาษี

ภายในวนั ทาการถดั จากวันท่ีผมู้ ีอานาจอนุมัตลิ งนาม เพอ่ื ทาการบนั ทึก
ข้อมูล ส่วน บ.ช.๑๒.๑ ฉบับท่ี ๒ แนบกบั ภ.พ.๐๒ ฉบบั ที่ ๒ พรอ้ มเอกสาร
แนบเกบ็ เข้าแฟม้ เกบ็ คาขอยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพ่มิ รวมกนั แยก
เป็นรายสานักงานสรรพากรพืน้ ท่ีสาขา เรยี งตามลาดับเลขคมุ เอกสาร (DLN)

(๑.๗) เมอ่ื ได้รบั ภ.พ.๐๒ ฉบบั ที่ ๑ จากสว่ นกรรมวธิ ีและคืนภาษี ให้ตรวจ
ผลข้อมูลจากระบบ FVAT online กับ ภ.พ.๐๒
- ถ้าไม่ถกู ต้อง ใหส้ ่งส่วนกรรมวธิ ีและคืนภาษี เพอื่ ทาการแก้ไขให้ถูกต้องตาม
ค่มู อื การบันทึกข้อมูลระบบงานภาษีมูลค่าเพิ่ม
- ถา้ ถูกต้อง ใหน้ า ภ.พ.๐๒ ฉบบั ท่ี ๑ เกบ็ เขา้ แฟม้ รวมกบั ภ.พ.๐๒ ฉบับท่ี ๒

(๑.๘) จัดทาหนงั สือแจง้ ใหผ้ ปู้ ระกอบการจดทะเบยี นทราบ
(๒) กรณไี ด้รับ ภ.พ.๐๒ ฉบบั ท่ี ๑ และฉบับท่ี ๒ พร้อมเอกสารแนบจาก
สานักงานสรรพากรพ้นื ทส่ี าขา ให้ปฏบิ ตั ดิ งั นี้
(๒.๑) ปฏิบัติเช่นเดยี วกบั (๑.๕) ของ (๑)
(๒.๒) นาใบสง่ เอกสาร (บ.ช.๑๒.๑) ที่ไดร้ บั จากสานักงานสรรพากรพน้ื ที่
สาขา เยบ็ ติดกบั ภ.พ.๐๒ ฉบับที่ ๑ โดยเรยี งตามลาดับเลขคุมเอกสาร (DLN)
สง่ ใหส้ ว่ นกรรมวิธีและคืนภาษี ภายในวันทาการถัดจากวันทผ่ี มู้ อี านาจอนมุ ตั ิ

ลงนาม เพ่อื ทาการบันทึกข้อมลู แล้วถ่ายเอกสาร บ.ช.๑๒.๑ แนบกบั ภ.พ.
๐๒ ฉบับท่ี ๒ พรอ้ มเอกสารแนบ เกบ็ เข้าแฟม้ เก็บคาขอย่นื แบบแสดง
รายการภาษมี ูลค่าเพิม่ รวมกนั แยกเปน็ รายสานักงานสรรพากรพื้นท่สี าขา
เรียงตามลาดับเลขคมุ เอกสาร (DLN

(๒.๓) ปฏิบตั ิเช่นเดยี วกบั (๑.๗) - (๑.๘) ของ (๑)
(๓) กรณีไดร้ บั ภ.พ.๐๒ และเอกสารแนบของผู้ประกอบการในการกากบั
ดแู ลของสานักบริหารภาษีธุรกจิ ขนาดใหญ่ ใหป้ ฏบิ ตั เิ ชน่ เดยี วกบั (๑.๑) -
(๑.๓) ของ (๑) แล้วจดั พมิ พ์ใบนาส่งเอกสาร (บ.ช.๑๒.๑) จานวน ๒ ฉบบั
ฉบบั ท่ี ๑ ใช้นาส่ง ภ.พ.๐๒ ฉบับที่ ๑ และฉบับที่ ๒ พรอ้ มเอกสารแนบ โดย
เรยี งตามลาดบั เลขคุมเอกสาร (DLN) ไปให้สานักบริหารภาษธี ุรกิจขนาดใหญ่
ภายในวันทร่ี บั ภ.พ.๐๒ โดยทางไปรษณียด์ ่วนพิเศษ (EMS) เวน้ แตเ่ หน็ วา่
การให้เจ้าหน้าท่ีนาส่งเองจะสะดวกและรวดเร็วกว่า กใ็ หก้ ระทาได้ สว่ น
บ.ช.๑๒.๑ ฉบบั ที่ ๒ เกบ็ เข้าแฟม้

ข. สว่ นกรรมวธิ ีและคืนภาษี

(๑) เม่ือได้รบั ภ.พ.๐๒ ฉบบั ท่ี ๑ จากสว่ นบรหิ ารงานท่วั ไปใหท้ าการบนั ทกึ
ขอ้ มูลตามคมู่ ือการบนั ทึกขอ้ มลู ระบบงานภาษีมลู คา่ เพ่มิ ภายใน ๓ วันทา
การนบั แต่วันทไี่ ด้รับ ภ.พ.๐๒ และประทบั คาวา่ “บนั ทกึ ขอ้ มลู แล้ว” ด้วย
หมกึ สีแดงลงบน ภ.พ.๐๒
(๒) ส่ง ภ.พ.๐๒ ฉบับท่ี ๑ ไปให้สว่ นบริหารงานทว่ั ไป ภายใน ๓ วันทาการ
นับแตว่ ันทบ่ี ันทกึ ขอ้ มูลแล้วเสร็จ เพ่ือดาเนนิ การตอ่ ไป

๓๔.๑.๒ สานักงานสรรพากรพน้ื ที่สาขา
(๑) เมื่อได้รับ ภ.พ.๐๒ พร้อมเอกสารแนบจากผูป้ ระกอบการจดทะเบียน
ใหป้ ฏบิ ัตเิ ช่นเดียวกับ (๑.๑) - (๑.๓) ของขอ้ ๓๔.๑.๑ ก. (๑) ยกเวน้ ภ.พ.
๐๒ ของผู้ประกอบการในการกากับดแู ลของสานักบรหิ ารภาษีธุรกิจขนาด
ใหญ่ ให้ปฏิบตั เิ ชน่ เดยี วกบั ขอ้ ๓๔.๑.๑ ก. (๓)
(๒) จดั พิมพ์ใบนาส่งเอกสาร (บ.ช.๑๒.๑) จานวน ๒ ฉบับ ฉบบั ท่ี ๑ ใช้
นาสง่ ภ.พ.๐๒ ฉบับที่ ๑ และ ฉบบั ท่ี ๒ พร้อมเอกสารแนบ โดยเรียง

ตามลาดบั เลขคุมเอกสาร (DLN) ไปให้สานกั งานสรรพากรพื้นท่ที ีร่ ับผดิ ชอบ
ภายในวนั ทไ่ี ด้รับ ภ.พ.๐๒ ส่วน บ.ช.๑๒.๑ ฉบบั ท่ี ๒ เก็บเขา้ แฟม้
๓๔.๒ สานกั บริหารภาษธี รุ กิจขนาดใหญ่

ก. ฝา่ ยบรหิ ารงานทว่ั ไป

(๑) กรณีได้รับ ภ.พ.๐๒ พร้อมเอกสารแนบจากผ้ปู ระกอบการในการกากบั
ดูแลของสานกั บริหารภาษีธุรกจิ ขนาดใหญ่ ใหป้ ฏบิ ัติดังนี้
(๑.๑) ปฏิบัติเช่นเดียวกับ (๑.๑) - (๑.๓) ของข้อ ๓๔.๑.๑ ก. (๑)
(๑.๒) จัดพิมพใ์ บนาส่งเอกสาร (บ.ช.๑๒.๑) จานวน ๒ ฉบับ ฉบับท่ี ๑ ใช้
นาส่ง ภ.พ.๐๒ ฉบบั ท่ี ๑ และฉบับที่ ๒ พรอ้ มเอกสารแนบ โดยเรียง
ตามลาดบั เลขคมุ เอกสาร (DLN) ไปใหส้ ว่ นวางแผนและประเมนิ ผล ภายใน
วันที่รับ ภ.พ.๐๒ ส่วน บ.ช.๑๒.๑ ฉบับที่ ๒ เก็บเขา้ แฟ้ม
(๑.๓) เมือ่ ได้รับ ภ.พ.๐๒ ฉบับท่ี ๑ พรอ้ มเอกสารแนบจากสว่ นกรรมวิธี
และคืนภาษี ให้เกบ็ เข้าแฟม้ เกบ็ คาขอยนื่ แบบแสดงรายการภาษีมูลคา่ เพม่ิ
รวมกนั แยกเปน็ รายสานักงานสรรพากรพ้ืนท่ีสาขา เรยี งตามลาดบั เลขคมุ
เอกสาร (DLN)

(๒) กรณไี ดร้ ับ ภ.พ.๐๒ ฉบบั ท่ี ๑ และฉบับท่ี ๒ พร้อมเอกสารแนบจาก
สานกั งานสรรพากรพ้นื ที่ หรือสานกั งานสรรพากรพน้ื ท่ีสาขา แล้วแต่กรณี
ให้ปฏิบัตดิ ังนี้

(๒.๑) ส่งใบนาสง่ เอกสาร (บ.ช.๑๒.๑) ท่ไี ดร้ บั จากสานักงานสรรพากรพน้ื ท่ี
หรอื สานกั งานสรรพากรพ้ืนทส่ี าขา แล้วแต่กรณี และ ภ.พ.๐๒ ฉบับท่ี ๑
และฉบับที่ ๒ พร้อมเอกสารแนบ โดยเรยี งตามลาดับเลขคมุ เอกสาร (DLN)
ไปให้สว่ นวางแผนและประเมินผล ภายในวันทีร่ ับ ภ.พ.๐๒ และถา่ ยเอกสาร
บ.ช.๑๒.๑ ฉบับที่ ๒ เกบ็ เขา้ แฟม้

(๒.๒) ปฏิบัติเชน่ เดยี วกบั (๑.๓) ของ (๑)