หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เสภาเรื่อง ขนุ ช้างขุนแผน ตอนขุนช้างถวายฎกี า
เร่ืองท่ี 1 ความเป็ นมาและประวตั ิผ้แู ต่ง
แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 1 ความเป็ นมาและประวตั ิผูแ้ ต่ง
เวลา 1-2 ชวั่ โมง
1. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การอา่ นออกเสยี งบทเสภาเรอ่ื ง ขนุ ชา้ งขนุ แผน ตอนขนุ ชา้ งถวายฎกี า ตอ้ งอา่ นออกเสยี งใหถ้ กู ตอ้ งไพเราะและ
เหมาะสมสามารถทอ่ งบทอาขยาน วเิ คราะห์ วจิ ารณ์ตามหลกั การเบ้อื งตน้ และยงั ตอ้ งรปู้ ระวตั ผิ แู้ ต่งอกี ดว้ ย
2. ตวั ชี้วดั /จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
2.1 ตวั ช้ีวดั
ท 1.1 ม.4-6/1 อ่านออกเสยี งบทรอ้ ยแกว้ และบทรอ้ ยกรองไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง ไพเราะ และเหมาะสมกบั เรอ่ื งทอ่ี ่าน
ท 5.1 ม.4-6/1 วเิ คราะหแ์ ละวจิ ารณ์วรรณคดแี ละวรรณกรรมตามหลกั การวจิ ารณ์เบอ้ื งตน้
ม.4-6/6 ทอ่ งจาและบอกคณุ ค่าบทอาขยานตามทก่ี าหนด และบทรอ้ ยกรองทม่ี คี ุณค่าตามความสนใจและนาไปใช้
อา้ งองิ
2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1) อา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยกรองไดถ้ ูกตอ้ ง ไพเราะ และเหมาะสมกบั เร่อื งทอ่ี า่ น
2) อธบิ ายความเป็นมาของเสภาเร่อื ง ขนุ ชา้ งขุนแผน ตอนขนุ ชา้ งถวายฎกี าได้
3) บอกประวตั ผิ แู้ ต่งเสภาเร่อื ง ขนุ ชา้ งขุนแผน ตอนขนุ ชา้ งถวายฎกี าได้
4) ท่องจาและบอกคณุ ค่าบทอาขยานตามทก่ี าหนด และบทรอ้ ยกรองทม่ี คี ณุ ค่าตามความสนใจ และนาไปใช้
อา้ งองิ ได้
3. สาระการเรยี นรู้
3.1 สาระการเรยี นร้แู กนกลาง
1) การอา่ นออกเสยี ง ประกอบดว้ ย บทรอ้ ยกรอง เชน่ โคลง ฉนั ท์ กาพย์ กลอน
2) หลกั การวเิ คราะหแ์ ละวจิ ารณ์วรรณคดแี ละวรรณกรรมเบอ้ื งตน้
- จุดมงุ่ หมายการแต่งวรรณคดแี ละวรรณกรรม
3) บทอาขยานและบทรอ้ ยกรองทม่ี คี ณุ คา่
- บทอาขยานตามทก่ี าหนด
- บทรอ้ ยกรองตามความสนใจ
3.2 สาระการเรยี นรทู้ ้องถิน่
- ความเป็นมาและประวตั ผิ แู้ ต่งบทเสภาเร่อื ง ขนุ ชา้ งขุนแผน ตอนขนุ ชา้ งถวายฎกี า
13 วรรณคดฯี ม.6
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 เสภาเรื่อง ขนุ ช้างขนุ แผน ตอนขุนช้างถวายฎีกา 2) ทกั ษะการตคี วาม
เรื่องที่ 1 ความเป็ นมาและประวัติผู้แต่ง (ช่ัวโมงที่ 1)
4) ทกั ษะการสรา้ งความรู้
4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น
4.4 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต
4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
4.2 ความสามารถในการคิด
1) ทกั ษะการวเิ คราะห์
3) ทกั ษะการเปรยี บเทยี บ
4.3 ความสามารถในการแก้ปัญหา
5. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. มวี นิ ยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มงุ่ มนั่ ในการทางาน 4. รกั ความเป็นไทย
6. กิจกรรมการเรียนรู้
วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E)
ชวั่ โมงที่ 1
นักเรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 1 เรอื่ ง เสภาเรอื่ ง ขนุ ช้างขนุ แผน ตอนขนุ ช้างถวายฎีกา
ขนั้ ที่ 1 กระตุ้นความสนใจ คาถามกระตุ้นความคิด
สอ่ื การเรยี นรู้ : 1. หนังสอื เรยี น วรรณคดฯี ม.6 การขบั เสภานิยมนามาใช้ขบั สาหรบั
2. ซดี กี ารอ่านทานองเสนาะ วรรณคดีเรอ่ื งใดบ้าง
1. ครแู บง่ นกั เรยี นเป็นกลุ่ม กลมุ่ ละ 4 คน คละกนั ตามความสามารถ (เสภาพระราชพงศาวดาร เสภาพระราชวงั สนั
คอื เกง่ ปานกลางคอ่ นขา้ งเก่ง ปานกลางค่อนขา้ งออ่ น และออ่ น เสภาอาบหู ะซนั แต่เรอื่ งทเี่ ป็นทรี่ จู้ กั อย่าง
แพรห่ ลายและไดร้ บั ความนยิ มมากทสี่ ุด คอื
2. นักเรยี นแตล่ ะกล่มุ รว่ มกนั อภปิ รายเกย่ี วกบั หลกั การอ่านออกเสยี ง เรอื่ ง ขนุ ชา้ งขนุ แผน)
บทรอ้ ยกรอง ตามทเ่ี คยไดเ้ รยี นมา แลว้ ครใู หน้ ักเรยี นฟังซดี กี ารอา่ น
บทรอ้ ยกรอง จากนนั้ รว่ มกนั วเิ คราะหว์ า่ เหมอื นกบั ทน่ี กั เรยี นเคย
เรยี นมาหรอื ไม่ อย่างไร
3. ครสู ุ่มเรยี กนกั เรยี น 2-3 กล่มุ อา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยกรองเสภาเรอ่ื ง
ขนุ ชา้ งขนุ แผน ตอน ขนุ ชา้ งถวายฎกี า ตามหลกั ทเ่ี คยเรยี นมาให้
เพอ่ื นฟังทห่ี น้าชนั้ เรยี น โดยครแู ละเพอ่ื นนักเรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบ
ความถูกตอ้ งและใหข้ อ้ เสนอแนะ
4. ครถู ามคาถามใหน้ ักเรยี นชว่ ยกนั ตอบ เช่น
- การขบั เสภา เหมอื นหรอื แตกต่างจากการอา่ นบทรอ้ ยกรอง
หรอื ไม่ อยา่ งไร
- การขบั เสภานยิ มนามาใชข้ บั เม่อื ใด
โดยครคู อยกระตนุ้ ใหน้ ักเรยี นทุกคนมสี ่วนร่วมในการตอบคาถาม
เพ่อื ทบทวนความรเู้ ดมิ ของนกั เรยี น
5. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ
14 วรรณคดฯี ม.6
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 เสภาเรื่อง ขนุ ช้างขุนแผน ตอนขุนช้างถวายฎกี า
เรื่องที่ 1 ความเป็ นมาและประวตั ิผู้แต่ง (ชั่วโมงท่ี 2)
ขนั้ ท่ี 2 สารวจค้นหา
สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ : 1. หนงั สอื เรยี น วรรณคดฯี ม.6 คาถามกระตุ้นความคิด
2. หนังสอื คน้ ควา้ เพมิ่ เตมิ นักเรยี นคิดว่า เพราะเหตใุ ดคนในสมยั
3. หอ้ งสมดุ
4. แหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ โบราณจึงนิยมขบั เสภาแทรกในการเล่า
นิ ทาน
1. ครใู หน้ กั เรยี นแต่ละกลุ่มจบั ค่กู นั เป็น 2 คู่ แลว้ ใหแ้ ต่ละครู่ ว่ มกนั (เพอื่ ดงึ ดูดใจผฟู้ ัง และสรา้ งความน่าสนใจ
ศกึ ษาความรเู้ รอ่ื ง เสภาเร่อื ง ขนุ ชา้ งขนุ แผน ตอนขนุ ชา้ งถวายฎกี า ใหก้ บั เรอื่ งราวทเี่ ล่า แทนการเลา่ นทิ าน
จากหนังสอื เรยี น หนังสอื คน้ ควา้ เพม่ิ เตมิ หอ้ งสมุด และแหล่งขอ้ มลู แบบทวั่ ไป)
สารสนเทศ ในประเดน็ ตอ่ ไปน้ี
- ความเป็นมาของเร่อื ง คาถามกระต้นุ ความคิด
- ประวตั ผิ แู้ ตง่ นักเรียนคิดว่า เป้าหมายสาคญั ในการ
แลว้ บนั ทกึ ความรทู้ ไ่ี ดจ้ ากการศกึ ษาลงในแบบบนั ทกึ การอ่าน
แต่งเร่อื ง ขนุ ช้างขนุ แผน คอื อะไร
2. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยู่
ในดุลยพนิ จิ ของครผู สู้ อน)
ชวั่ โมงท่ี 2
ขนั้ ที่ 3 อธิบายความรู้
ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้ : —
1. นกั เรยี นแตล่ ะคกู่ ลบั เขา้ กลมุ่ เดมิ (4 คน) ผลดั กนั นาความรทู้ ไ่ี ดจ้ าก
การศกึ ษามาอธบิ ายใหเ้ พ่อื นอกี ค่หู น่งึ ฟัง ตามประเดน็ ทก่ี าหนด ดงั น้ี
- ความเป็นมาของเร่อื ง
- ประวตั ผิ แู้ ตง่
แลว้ ใหน้ ักเรยี นแตล่ ะคู่ ผลดั กนั ซกั ถามตามประเดน็ ทส่ี งสยั และผลดั
กนั อธบิ ายจนทกุ คนมคี วามเขา้ ใจชดั เจนตรงกนั
2. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั สรุปความรทู้ ไ่ี ดจ้ ากการศกึ ษาเป็นองค์
ความรขู้ องกลุ่ม
ขนั้ ท่ี 4 ขยายความเข้าใจ
ส่อื การเรยี นรู้ : ใบงานท่ี 1.1
1. นักเรยี นแตล่ ะคนทาใบงานที่ 1.1 เรอ่ื ง สรรพสารน่ารู้ ตอน
ขนุ ช้างถวายฎีกา
2. นกั เรยี นแตล่ ะคนผลดั กนั อธบิ ายคาตอบในใบงานท่ี 1.1 แลว้ รว่ มกนั
สรุปเป็นคาตอบของกลมุ่
3. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ
15 วรรณคดฯี ม.6
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เสภาเรื่อง ขุนช้างขุนแผน ตอนขนุ ช้างถวายฎีกา
เร่ืองท่ี 1 ความเป็ นมาและประวัติผ้แู ต่ง (ช่ัวโมงท่ี 2)
ขนั้ ที่ 5 ตรวจสอบผล
สอ่ื การเรยี นรู้ : ใบงานท่ี 1.1
1. ครสู ุ่มเรยี กนักเรยี นแต่ละกลมุ่ ออกมานาเสนอผลงานในใบงานท่ี 1.1
หน้าชนั้ เรยี น ครแู ละเพ่อื นนกั เรยี นเป็นผตู้ รวจสอบความถกู ตอ้ ง
และใหข้ อ้ เสนอแนะ
2. นกั เรยี นร่วมกนั วเิ คราะหค์ ณุ ค่าและความสาคญั ของเสภาเรอ่ื ง
ขนุ ชา้ งขนุ แผน ตอนขนุ ชา้ งถวายฎกี า ครตู รวจสอบความถกู ตอ้ ง
เหมาะสม และเสนอแนะเพมิ่ เตมิ
3. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั สรุปความรเู้ รอ่ื ง ประวตั คิ วามเป็นมา และ
ประวตั ผิ แู้ ตง่ เสภาเร่อื ง ขนุ ชา้ งขนุ แผน ตอนขนุ ชา้ งถวายฎกี า
4. ครใู หน้ กั เรยี นแต่ละกลุม่ รว่ มกนั ฝึกอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยกรองเสภา
เรอ่ื ง ขนุ ชา้ งขนุ แผน ตอนขนุ ชา้ งถวายฎกี า แลว้ ครนู ดั หมายการ
อา่ นออกเสยี งเป็นรายบุคคล หรอื รายกลุ่มตามความเหมาะสม
(นอกเวลาเรยี น)
ครมู อบหมายให้นักเรยี นแต่ละกลุม่ ฝึ กท่องบทอาขยานเสภาเรอ่ื ง ขนุ ช้างขนุ แผน ตอนขนุ ช้างถวายฎีกา
แลว้ มาประเมินผลนอกเวลาเรยี นเป็นรายบุคคล โดยใหค้ รอบคลมุ ประเดน็ ตามทกี่ าหนด ดงั น้ี
1) ความถกู ตอ้ งของบทอาขยาน
2) ท่วงทานองการอ่านคาประพนั ธเ์ หมาะสมกบั ลกั ษณะคาประพนั ธ์
3) การบอกคณุ คา่ ของการท่องบทอาขยาน
4) การใหข้ อ้ เสนอแนะการนาบทอาขยานไปใชอ้ า้ งองิ
7. การวดั และประเมินผล เคร่อื งมือ เกณฑ์
แบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 1
วิธีการ ใบงานท่ี 1.1 (ประเมนิ ตามสภาพจรงิ )
ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 แบบประเมนิ การอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง
ตรวจใบงานท่ี 1.1 แบบบนั ทกึ การอ่าน รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจแบบบนั ทกึ การอ่าน แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การนาเสนอผลงาน แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกล่มุ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตความมวี นิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ มงุ่ มนั ่ ในการทางาน แบบประเมนิ การทอ่ งบทอาขยานเสภาเรอ่ื ง ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
และรกั ความเป็นไทย ขนุ ชา้ งขนุ แผน ตอนขนุ ชา้ งถวายฎกี า
ตรวจการท่องบทอาขยานเสภาเร่อื ง ขนุ ชา้ งขนุ แผน ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ตอนขนุ ชา้ งถวายฎกี า
16 วรรณคดฯี ม.6
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เสภาเรื่อง ขุนช้างขุนแผน ตอนขนุ ช้างถวายฎกี า
เร่ืองที่ 1 ความเป็ นมาและประวัติผู้แต่ง
8. ส่ือ/แหลง่ การเรียนรู้
8.1 สือ่ การเรยี นรู้
1) หนงั สอื เรยี น ภาษาไทย : วรรณคดแี ละวรรณกรรม ม.6
2) หนงั สอื คน้ ควา้ เพมิ่ เตมิ
- รน่ื ฤทยั สจั จพนั ธ.ุ์ (2544). เล่าเรอื่ งขนุ ช้างขนุ แผน จากเสภาเรื่องขนุ ช้างขนุ แผน. เชยี งใหม่ :
ธารปัญญา.
3) ซดี กี ารอ่านทานองเสนาะ
4) ใบงานท่ี 1.1 เรอ่ื ง สรรพสารน่ารู้ ตอนขนุ ชา้ งถวายฎกี า
8.2 แหลง่ การเรยี นรู้
1) หอ้ งสมุด
2) แหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ
- http://203.172.244.194/ictwork51/pranee/p2.html
- http://www.thaigoodview.com/library/contest2551/thai04/o4/suriyothai/index.htm
17 วรรณคดฯี ม.6
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เสภาเรื่อง ขนุ ช้างขุนแผน ตอนขนุ ช้างถวายฎีกา
เรื่องที่ 1 ความเป็ นมาและประวตั ิผ้แู ต่ง
การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
แบบประเมนิ การท่องบทอาขยานเสภาเรือ่ ง ขุนชา้ งขุนแผน ตอนขุนชา้ งถวายฎีกา
(ช้นิ งานท่ี 1)
ลาดบั ท่ี รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1
32
1 ความถูกตอ้ งของบทอาขยาน
2 ท่วงทานองการอ่านคาประพนั ธเ์ หมาะสมกบั ลกั ษณะ
คาประพนั ธ์
3 การบอกคุณคา่ ของการทอ่ งบทอาขยาน
4 การใหข้ อ้ เสนอแนะการนาบทอาขยานไปใชอ้ า้ งองิ
รวม
ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../................
เกณฑก์ ารให้คะแนน 4
3
ดมี าก = 2
ดี = 1
พอใช้ =
ปรบั ปรุง =
เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
14 - 16 ดมี าก
11 - 13 ดี
8 - 10 พอใช้
ต่ากวา่ 8 ปรบั ปรงุ
18 วรรณคดฯี ม.6
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เสภาเรื่อง ขนุ ช้างขุนแผน ตอนขุนช้างถวายฎกี า
เร่ืองที่ 1 ความเป็ นมาและประวตั ิผู้แต่ง
ใบงานที่ 1.1 เรื่อง สรรพสารนา่ รู้ ตอนขุนชา้ งถวายฎีกา
คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นตอบคาถามต่อไปน้ี
1. เสภาเร่อื ง ขนุ ชา้ งขุนแผน ไดร้ บั ยกย่องจากวรรณคดสี โมสรใหเ้ ป็นยอดของวรรณคดปี ระเภทใด
2. เสภาเร่อื ง ขนุ ชา้ งขนุ แผน มเี คา้ ทม่ี าจากเรอ่ื งจรงิ ทเ่ี กดิ ขน้ึ ในสมยั ใด
3. การนาเรอ่ื ง ขนุ ชา้ งขนุ แผน มาขบั เสภา สนั นิษฐานว่าเกดิ ขน้ึ ในสมยั ใด
4. การขบั เสภามมี ลู เหตุมาจากอะไร
5. ประเพณีการขบั เสภาแต่เดมิ มามกี ารใชเ้ ครอ่ื งดนตรอี ะไรประกอบการขบั
6. การขบั เสภาประกอบวงป่ีพาทย์ เกดิ ขน้ึ ครงั้ แรกในสมยั ใด
7. การขบั เสภาประกอบวงป่ีพาทย์ เรยี กวา่ อะไร
8. การขบั เสภาทม่ี ปี ่ีพาทยร์ บั และมกี ารร่ายราประกอบ เรยี กว่าอะไร
9. กวผี แู้ ตง่ เสภาเร่อื ง ขนุ ชา้ งขนุ แผน ตอนขุนชา้ งถวายฎกี า คอื ใคร
19 วรรณคดฯี ม.6
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 เสภาเรื่อง ขุนช้างขุนแผน ตอนขนุ ช้างถวายฎกี า
เรื่องท่ี 1 ความเป็ นมาและประวัติผู้แต่ง
10. เสภาเรอ่ื ง ขนุ ชา้ งขุนแผน ตอนใดทเ่ี ป็นผลงานของสุนทรภู่
11. เสภาเร่อื ง ขนุ ชา้ งขุนแผน มที งั้ หมดกต่ี อน
12. เสภาเรอ่ื ง ขนุ ชา้ งขนุ แผน แต่งดว้ ยคาประพนั ธป์ ระเภทใด
13. กลอนเสภามลี กั ษณะต่างจากกลอนแปดอยา่ งไร
14. ในราชสานกั ตงั้ แตส่ มยั รชั กาลท่ี 2 เป็นตน้ มา มกั ขบั เสภาถวายในโอกาสใด
15. สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาดารงราชานุภาพ ทรงสนั นษิ ฐานว่า “พระพนั วษา” ในเร่อื งขนุ ชา้ งขนุ แผน
น่าจะหมายถงึ พระมหากษตั รยิ พ์ ระองคใ์ ด
20 วรรณคดฯี ม.6
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เสภาเร่ือง ขนุ ช้างขนุ แผน ตอนขุนช้างถวายฎีกา เฉลย
เรื่องที่ 1 ความเป็ นมาและประวัติผ้แู ต่ง
ใบงานท่ี 1.1 เรือ่ ง สรรพสารน่ารู้ ตอนขุนชา้ งถวายฎีกา
คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นตอบคาถามตอ่ ไปน้ี
1. เสภาเรอ่ื ง ขนุ ชา้ งขนุ แผน ไดร้ บั ยกยอ่ งจากวรรณคดสี โมสรใหเ้ ป็นยอดของวรรณคดปี ระเภทใด
ยอดของกลอนเสภา
2. เสภาเร่อื ง ขนุ ชา้ งขนุ แผน มเี คา้ ทม่ี าจากเรอ่ื งจรงิ ทเ่ี กดิ ขน้ึ ในสมยั ใด
สมยั อยธุ ยาตอนตน้
3. การนาเรอ่ื ง ขนุ ชา้ งขุนแผน มาขบั เสภา สนั นษิ ฐานว่าเกดิ ขน้ึ ในสมยั ใด
รชั สมยั สมเดจ็ พระนารายณ์มหาราช สมยั อยุธยาตอนกลาง
4. การขบั เสภามมี ลู เหตุมาจากอะไร
การเลา่ นิทาน
5. ประเพณกี ารขบั เสภาแตเ่ ดมิ มามกี ารใชเ้ คร่อื งดนตรอี ะไรประกอบการขบั
กรบั
6. การขบั เสภาประกอบวงป่ีพาทย์ เกดิ ขน้ึ ครงั้ แรกในสมยั ใด
รชั กาลที่2
7. การขบั เสภาประกอบวงป่ีพาทย์ เรยี กวา่ อะไร
เสภาทรงเครอื่ ง
8. การขบั เสภาทม่ี ปี ่ีพาทยร์ บั และมกี ารร่ายราประกอบ เรยี กวา่ อะไร
เสภารา
9. กวผี แู้ ต่งเสภาเร่อื ง ขนุ ชา้ งขนุ แผน ตอนขนุ ชา้ งถวายฎกี า คอื ใคร
ไมป่ รากฏนามผแู้ ต่ง
21 วรรณคดฯี ม.6
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 เสภาเร่ือง ขุนช้างขุนแผน ตอนขุนช้างถวายฎกี า
เร่ืองท่ี 1 ความเป็ นมาและประวตั ิผ้แู ต่ง
10. เสภาเร่อื ง ขนุ ชา้ งขนุ แผน ตอนใดทเ่ี ป็นผลงานของสุนทรภู่
กาเนดิ พลายงาม
11. เสภาเรอ่ื ง ขนุ ชา้ งขุนแผน มที งั้ หมดกต่ี อน
43 ตอน
12. เสภาเร่อื ง ขนุ ชา้ งขุนแผน แตง่ ดว้ ยคาประพนั ธป์ ระเภทใด
กลอนเสภา
13. กลอนเสภามลี กั ษณะตา่ งจากกลอนแปดอยา่ งไร
กลอนเสภามจี านวนคาในแตล่ ะวรรคไม่แน่นอน
14. ในราชสานกั ตงั้ แตส่ มยั รชั กาลท่ี 2 เป็นต้นมา มกั ขบั เสภาถวายในโอกาสใด
ขบั เสภาถวายเมอื่ ทรงเครอื่ งใหญ่
15. สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาดารงราชานุภาพ ทรงสนั นษิ ฐานวา่ “พระพนั วษา” ในเร่อื งขุนชา้ งขุนแผน
น่าจะหมายถงึ พระมหากษตั รยิ พ์ ระองคใ์ ด
สมเดจ็ พระรามาธบิ ดที ี่2
22 วรรณคดฯี ม.6
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 เสภาเร่ือง ขนุ ช้างขนุ แผน ตอนขุนช้างถวายฎีกา
เร่ืองท่ี 1 ความเป็ นมาและประวัติผ้แู ต่ง
แบบประเมิน การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง
คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตการอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยกรองของนกั เรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ งทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน
ลาดบั ท่ี ชื่อ-สกลุ ถกู ต้องตาม การแบง่ ออกเสียง การใช้ รวม
ของผรู้ บั การ ลกั ษณะคา วรรคตอน ชดั เจน น้าเสียง 16 คะแนน
ประพนั ธ์
ประเมิน 4321 4321 4321 4321
ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../................
เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 4 คะแนน
ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ตั ไิ ดถ้ ูกตอ้ ง ให้ 2 คะแนน
ปฏบิ ตั มิ ขี อ้ บกพร่องเลก็ น้อย ให้ 1 คะแนน
ปฏบิ ตั มิ ขี อ้ บกพรอ่ งปานกลาง
ปฏบิ ตั มิ ขี อ้ บกพรอ่ งมาก
เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
14 - 16 ดมี าก
11 - 13 ดี
8 - 10
ต่ากว่า 8 พอใช้
ปรบั ปรงุ
23 วรรณคดฯี ม.6
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 เสภาเร่ือง ขนุ ช้างขุนแผน ตอนขุนช้างถวายฎีกา
เรื่องท่ี 1 ความเป็ นมาและประวัติผ้แู ต่ง
แบบบนั ทึกการอ่าน
ช่อื หนงั สอื ชอ่ื ผแู้ ตง่ นามปากกา
สานักพมิ พ์ ปีทพ่ี มิ พ์
จานวนหน้า สถานทพ่ี มิ พ์ พ.ศ.
ราคา บาท อ่านวนั ท่ี เดอื น เวลา
1. สาระสาคญั ของเร่อื ง
2. วเิ คราะหข์ อ้ คดิ /ประโยชน์ทไ่ี ดจ้ ากเร่อื งทอ่ี า่ น
3. สง่ิ ทส่ี ามารถนาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจาวนั
4. ขอ้ เสนอแนะของครู
ลงช่อื นกั เรยี น ลงชอ่ื ผปู้ กครอง
)
( )(
ลงชอ่ื ครผู สู้ อน
()
เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 4 คะแนน
ให้ 3 คะแนน
ผลงานมคี วามสมบูรณช์ ดั เจน ให้ 2 คะแนน
ผลงานมขี อ้ บกพรอ่ งเพยี งเลก็ นอ้ ย ให้ 1 คะแนน
ผลงานมขี อ้ บกพร่องเป็นสว่ นใหญ่
ผลงานมขี อ้ บกพร่องมาก
24 วรรณคดฯี ม.6
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เสภาเรื่อง ขุนช้างขนุ แผน ตอนขนุ ช้างถวายฎกี า
เร่ืองที่ 1 ความเป็ นมาและประวตั ิผ้แู ต่ง
แบบประเมิน การนาเสนอผลงาน
คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่องทต่ี รงกบั
ระดบั คะแนน
ลาดบั ท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน
4321
1 นาเสนอเน้อื หาในผลงานไดถ้ ูกตอ้ ง
2 การลาดบั ขนั้ ตอนของเน้อื เร่อื ง
3 การนาเสนอมคี วามน่าสนใจ
4 การมสี ว่ นรว่ มของสมาชกิ ในกลุม่
5 การตรงต่อเวลา
รวม
ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../................
เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 4 คะแนน
ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสมบูรณ์ชดั เจน ให้ 2 คะแนน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี อ้ บกพร่องบางสว่ น ให้ 1 คะแนน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี อ้ บกพร่องเป็นส่วนใหญ่
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี อ้ บกพรอ่ งมาก
เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
18 - 20 ดมี าก
14 - 17 ดี
10 - 13
ต่ากว่า 10 พอใช้
ปรบั ปรุง
25 วรรณคดฯี ม.6
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 เสภาเรื่อง ขนุ ช้างขุนแผน ตอนขนุ ช้างถวายฎกี า
เรื่องท่ี 1 ความเป็ นมาและประวัติผู้แต่ง
แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานรายบคุ คล
คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ งทต่ี รงกบั
ระดบั คะแนน
ลาดบั ที่ ช่ือ-สกลุ ความมีน้าใจ การรบั ฟัง การแสดง การตรงต่อ รวม
ของผ้รู บั การ ความมีวินัย เอื้อเฟื้ อ ความ ความ เวลา 20
คิดเหน็ คิดเหน็ คะแนน
ประเมิน เสียสละ
43214321432143214321
ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../................
เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 4 คะแนน
ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 1 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้
เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
18 - 20 ดมี าก
14 - 17 ดี
10 - 13
ต่ากวา่ 10 พอใช้
ปรบั ปรุง
26 วรรณคดฯี ม.6
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เสภาเร่ือง ขนุ ช้างขุนแผน ตอนขุนช้างถวายฎกี า
เรื่องท่ี 1 ความเป็ นมาและประวัติผู้แต่ง
แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานกลมุ่
คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่องทต่ี รงกบั
ระดบั คะแนน
ลาดบั ที่ ชื่อ-สกลุ ความ การแสดง การรบั ฟัง การตงั้ ใจ การแก้ไข รวม
ของผรู้ บั การ รว่ มมอื กนั ความ ความ ทางาน ปัญหา/หรอื 20
ทากิจกรรม คิดเหน็ คิดเหน็ ปรบั ปรงุ คะแนน
ประเมิน ผลงานกลุ่ม
43214321432143214321
ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../................
เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 4 คะแนน
ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 1 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้
เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
18 - 20 ดมี าก
14 - 17 ดี
10 - 13
ต่ากว่า 10 พอใช้
ปรบั ปรุง
27 วรรณคดฯี ม.6
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 เสภาเร่ือง ขุนช้างขนุ แผน ตอนขนุ ช้างถวายฎีกา
เร่ืองท่ี 1 ความเป็ นมาและประวัติผ้แู ต่ง
แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ งทต่ี รงกบั
ระดบั คะแนน
คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พงึ ประสงคด์ า้ น 4321
1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเมอ่ื ไดย้ นิ เพลงชาติ รอ้ งเพลงชาตไิ ด้ และอธบิ ายความหมาย
กษตั ริย์ ของเพลงชาติ
2. ซ่ือสตั ย์ สจุ ริต 1.2 ปฏบิ ตั ติ นและชกั ชวนผอู้ น่ื ปฏบิ ตั ติ ามสทิ ธแิ ละหน้าทข่ี องพลเมอื ง
1.3 ใหค้ วามรว่ มมอื ร่วมใจ ในการทากจิ กรรมกบั สมาชกิ ในโรงเรยี น ชมุ ชน
3. มีวินัย รบั ผิดชอบ
4. ใฝ่ เรียนรู้ และสงั คม
5. อยอู่ ยา่ งพอเพียง 1.4 เป็นผนู้ าหรอื เป็นแบบอย่างในการจดั กจิ กรรมทส่ี รา้ งความสามคั คี
ปรองดอง และเป็นประโยชนต์ อ่ โรงเรยี น ชมุ ชน และสงั คม ชน่ื ชม ปกป้อง
ความเป็นชาตไิ ทย
1.5 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนบั ถอื ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ของศาสนา
และเป็นตวั อยา่ งทด่ี ขี องศาสนิกชน
1.6 เขา้ รว่ มกจิ กรรมและมสี ่วนรว่ มในการจดั กจิ กรรมทเ่ี ก่ียวขอ้ งกบั สถาบนั
พระมหากษตั รยิ ต์ ามทโ่ี รงเรยี นและชมุ ชนจดั ขน้ึ ช่นื ชมในพระราชกรณียกจิ
พระปรชี าสามารถของพระมหากษตั รยิ แ์ ละพระราชวงศ์
2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี กู ตอ้ ง และเป็นจรงิ
2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสง่ิ ทถ่ี ูกตอ้ ง ละอาย และเกรงกลวั ทจ่ี ะกระทาความผดิ ทาตาม
สญั ญาทต่ี นใหไ้ วก้ บั เพอ่ื น พ่อแม่ หรอื ผปู้ กครอง และครู เป็นแบบอย่าง
ทด่ี ดี า้ นความซอ่ื สตั ย์
2.3 ปฏบิ ตั ติ นตอ่ ผอู้ น่ื ดว้ ยความซอ่ื ตรง ไมห่ าประโยชนใ์ นทางทไ่ี มถ่ กู ตอ้ ง
และเป็นแบบอย่างทด่ี แี ก่เพอ่ื นดา้ นความซ่อื สตั ย์
3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั
โรงเรยี น และสงั คม ไม่ละเมดิ สทิ ธขิ องผอู้ น่ื ตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั ิ
กจิ กรรมตา่ งๆ ในชวี ติ ประจาวนั และรบั ผดิ ชอบในการทางาน ปฏบิ ตั ิ
เป็นปกตวิ สิ ยั และเป็นแบบอยา่ งทด่ี ี
4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหลง่ การเรยี นรตู้ ่างๆ
4.2 มกี ารจดบนั ทกึ ความรอู้ ย่างเป็นระบบ
4.3 สรุปความรไู้ ดอ้ ย่างมเี หตผุ ล
5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ ของตนเอง เช่น สงิ่ ของ เคร่อื งใช้ ฯลฯ อย่างประหยดั
คมุ้ ค่า และเกบ็ รกั ษาดแู ลอย่างดี และใชเ้ วลาอย่างเหมาะสม
5.2 ใชท้ รพั ยากรของส่วนรวมอยา่ งประหยดั คมุ้ ค่า และเกบ็ รกั ษาดแู ลอย่างดี
5.3 ปฏบิ ตั ติ นและตดั สนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตผุ ล
5.4 ไมเ่ อาเปรยี บผอู้ ่นื และไม่ทาใหผ้ อู้ น่ื เดอื ดรอ้ น พรอ้ มใหอ้ ภยั เมอ่ื ผอู้ น่ื
กระทาผดิ พลาด
28 วรรณคดฯี ม.6
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เสภาเร่ือง ขนุ ช้างขนุ แผน ตอนขุนช้างถวายฎีกา
เรื่องที่ 1 ความเป็ นมาและประวตั ิผ้แู ต่ง
แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (ต่อ)
คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่องทต่ี รงกบั
ระดบั คะแนน
คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พึงประสงคด์ า้ น 4321
5.5 วางแผนการเรยี น การทางานและการใชช้ วี ติ ประจาวนั บนพน้ื ฐาน
6. มงุ่ มนั ่ ในการทางาน ของความรู้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร
7. รกั ความเป็นไทย 5.6 รเู้ ทา่ ทนั การเปลย่ี นแปลง ทางสงั คม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรบั
8. มีจิตสาธารณะ และปรบั ตวั อย่รู ่วมกบั ผอู้ น่ื ไดอ้ ย่างมคี วามสขุ
6.1 เอาใจใสต่ ่อการปฏบิ ตั หิ น้าทท่ี ไ่ี ดร้ บั มอบหมาย
6.2 ตงั้ ใจและรบั ผดิ ชอบในการทางานใหส้ าเรจ็
6.3 ปรบั ปรงุ และพฒั นาการทางานอยา่ งรอบคอบ
6.4 ทุ่มเท ทางาน อดทน ไมท่ อ้ ต่อปัญหาและอปุ สรรค
6.5 พยายามแกป้ ัญหาและอุปสรรคในการทางานใหส้ าเรจ็
6.6 ช่นื ชมผลงานความสาเรจ็ ดว้ ยความภาคภมู ใิ จ
7.1 มจี ติ สานึกในการอนุรกั ษว์ ฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย
7.2 เหน็ คุณคา่ และปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย
8.1 รจู้ กั ช่วยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน
8.2 อาสาทางาน ชว่ ยคดิ ชว่ ยทา แบง่ ปันสงิ่ ของ ทรพั ยส์ นิ และอ่นื ๆ
พรอ้ มชว่ ยแกป้ ัญหา
8.3 ดแู ล รกั ษาทรพั ยส์ นิ ของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น ชมุ ชน
8.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรยี น ชมุ ชน
เพ่อื แกป้ ัญหาหรอื รว่ มสรา้ งสง่ิ ทด่ี งี ามตามสถานการณ์ทเ่ี กดิ ขน้ึ
ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../................
เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 4 คะแนน
ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 1 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้
29 วรรณคดฯี ม.6
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เสภาเร่ือง ขุนช้างขนุ แผน ตอนขุนช้างถวายฎีกา บนั ทึกหลงั แผนการสอน
เรื่องท่ี 1 ความเป็ นมาและประวัติผ้แู ต่ง
ดา้ นความรู้
ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น
ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
ดา้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบุคคล (ถา้ ม)ี )
ปัญหา/อุปสรรค
แนวทางการแกไ้ ข
ขอ้ เสนอแนะ ความเหน็ ของผ้บู ริหารสถานศกึ ษาหรอื ผทู้ ่ีได้รบั มอบหมาย
ลงชอ่ื )
(
ตาแหน่ง
30 วรรณคดฯี ม.6