คุณค่าด้านต่าง ๆ โคลงสุภาษิตอิศปปกรณำ

โคลงสุภาษิตพระราชนพิ นธ์

พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกล้าเจา้ อยู่หัว

โคลงสุภาษติ อิศปปกรณา

กจิ กรรม
คาตอบอยู่ขอ้ ใด

คณุ คา่ ด้านเน้อื หา

ข้อท่ี ๑

ขอ้ ใดไม่ใช่ “คณุ คา่ ด้านเนื้อหา” ทผ่ี ้เู รียนควรได้รบั

ก. ใหต้ ระหนกั ในพลังแหง่ ความสามัคคี
ข. สะทอ้ นใหเ้ หน็ วิสยั ทัศนข์ องคนพาล
ค. ให้เหน็ โทษแห่งความประมาท
ง. ใหเ้ หน็ โทษแห่งกรรม

ขอ้ ท่ี ๒

นทิ านเรอ่ื งใด ให้ขอ้ คดิ คติสอนใจวา่ ไม่ควรดูถูกผทู้ ่ดี ้อยกวา่ ตน

ก. บดิ ากบั บุตรทงั้ หลาย
ข. สนุ ัขปา่ กบั ลกู แกะ
ค. ราชสหี ก์ บั หนู
ง. กระตา่ ยกับเต่า

ข้อที่ ๓

นิทานเรือ่ ง “สนุ ัขปา่ กับลูกแกะ” ใหค้ ุณค่าดา้ นเนื้อหาขอ้ ใด

ก. ให้ตระหนกั ในพลังแห่งความสามัคคี
ข. สะทอ้ นให้เหน็ วิสยั ทศั นข์ องคนพาล
ค. ให้เหน็ โทษแห่งความประมาท
ง. ให้ขอ้ คดิ คติสอนใจวา่ ไมค่ วรดูถูกผทู้ ี่ด้อยกว่าตน

ขอ้ ท่ี ๔

นิทานเรอ่ื ง “บิดากับบุตรท้งั หลาย” ใหค้ ุณคา่ ด้านเนื้อหาขอ้ ใด

ก. ใหต้ ระหนกั ในพลังแห่งความสามคั คี
ข. สะทอ้ นใหเ้ หน็ วิสยั ทัศน์ของคนพาล
ค. ใหเ้ หน็ โทษแห่งความประมาท
ง. ใหข้ ้อคดิ คตสิ อนใจวา่ ไม่ควรดูถูกผู้ท่ดี อ้ ยกว่าตน

คณุ ค่าดา้ นวรรณศลิ ป์

ขอ้ ที่ ๕

ข้อใดไม่ใช่ “คณุ คา่ ดา้ นวรรณศลิ ป์” ทีผ่ ้เู รยี นควรไดร้ บั

ก. ลีลาในการเล่าเร่ือง
ข. บทเจรจา
ค. ฉาก
ง. การเลน่ คา

ขอ้ ท่ี ๖

การสัมผสั อักษร คือคุณคา่ ด้านวรรณศลิ ป์ขอ้ ใด

ก. การเล่นคา
ข. การใชภ้ าษาเชงิ เปรียบเปรย
ค. บทเจรจา
ง. ลีลาในการเลา่ เร่ือง

ขอ้ ท่ี ๗

“ใชถ้ อ้ ยคาทเ่ี รียบง่าย แตเ่ รยี บเรียงไดส้ ละสลวย” คือขอ้ ใด

ก. การเล่นคา
ข. การใช้ภาษาเชิงเปรียบเปรย
ค. บทเจรจา
ง. ลีลาในการเลา่ เร่ือง

ข้อที่ ๘

“การเปรยี บเทยี บ” คือข้อใด

ก. การกลา่ วเกนิ จรงิ
ข. การนาส่งิ ท่ีตา่ งกนั มาเทยี บกนั
ค. การนาสง่ิ ท่ีเหมือนกันมาเทยี บกนั
ง. ทาส่งิ ไมม่ ชี ีวิตให้มีชวี ิต

คณุ คา่ ด้านสงั คม

ขอ้ ท่ี ๙

ข้อใดไม่ใช่ “คณุ คา่ ดา้ นสังคม” ท่ีผเู้ รียนควรไดร้ บั

ก. สะทอ้ นให้เห็นความสาคญั ของสถาบันครอบครัว
ข. สะท้อนให้เหน็ การพงึ่ พาอาศยั
ค. สะท้อนใหเ้ ห็นวสิ ัยของคนพาล
ง. สะท้อนให้เห็นการพ่งึ พาตนเอง

ข้อท่ี ๑๐

นทิ านเรอ่ื ง “บดิ ากบั บุตรทง้ั หลาย” ใหค้ ณุ ค่าด้านสังคมขอ้ ใด
ก. สะทอ้ นใหเ้ หน็ ความสาคัญของสถาบันครอบครัว
ข. สะท้อนใหเ้ หน็ การพงึ่ พาอาศัย
ค. สะท้อนให้เหน็ วิสัยของคนพาล
ง. สะทอ้ นใหเ้ หน็ การพง่ึ พาตนเอง

ขอ้ ท่ี ๑๑

นิทานเรอื่ งใด สะทอ้ นให้เห็นการพึง่ พาอาศยั

ก. ราชสหี ก์ บั หนู
ข. กบเลอื กนาย
ค. กากับเหยือกนา้
ง. ชาวนากับงูเห่า

ขอ้ ที่ ๑๒

นทิ านเรอื่ งใด สะท้อนให้เห็นวิสัยของคนพาล

ก. กากับเหยือกน้า
ข. กบเลอื กนาย
ค. สุนขั ปา่ กับลูกแกะ
ง. ชาวนากับงเู ห่า

คณุ คา่ ด้านขอ้ คดิ

ข้อท่ี ๑๓

ขอ้ ใดไมใ่ ช่ “คณุ ค่าดา้ นข้อคิด” ท่ีผู้เรยี นควรไดร้ บั

ก. ความสามัคคคี อื พลงั เอาชนะทุกอยา่ ง
ข. คนเราตอ้ งรจู้ ักพ่งึ พาตนเอง
ค. คนพาลมกั หาความผิดใหแ้ กผ่ ู้อน่ื เสมอ
ง. ความประมาทจะนาพามาซึ่งความลม้ เหลม

ข้อที่ ๑๔

นทิ านเรือ่ ง “กระตา่ ยกับเตา่ ” ให้คณุ ค่าดา้ นขอ้ คดิ ข้อใด

ก. ความสามัคคคี อื พลงั เอาชนะทกุ อย่าง
ข. คนเราตอ้ งรู้จกั พึ่งพาตนเอง
ค. คนพาลมักหาความผิดใหแ้ ก่ผู้อ่ืนเสมอ
ง. ความประมาทจะนาพามาซึ่งความล้มเหลม

ขอ้ ที่ ๑๕

“ความประมาทหรือหยิ่งทะนง” พุทธสุภาษิตนี้สอนเรอื่ งอะไร
ก. รจู้ กั พึ่งพาตนเอง
ข. รู้จกั พึ่งพาคนอืน่
ค. ความประมาท
ง. ความไมป่ ระมาท

จบกิจกรรม