The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Chayada Sangphadung, 2021-02-23 02:31:44

nongbua

nongbua

ประวตั ิศาสตรจ์ งั หวดั หนองบวั ลาภู

ความเจริญร่งุ เรืองแห่งอดีต

ดนิ แดนส่วนทเ่ี ป็นจงั หวดั หนองบวั ลำภใู นปัจจบุ นั ไดป้ รำกฏหลกั ฐำนแห่งกำรอยอู่ ำศยั ของ
มนุษยม์ ำนำนนับพนั ปี ตงั้ แต่สมยั ก่อนประวตั ศิ ำสตร์ หรอื ก่อนทม่ี นุษยจ์ ะมกี ำรประดษิ ฐต์ วั อกั ษรขน้ึ ใช้
เรมิ่ จำกกำรดำรงชวี ติ แบบเรร่ อนในสงั คมลำ่ สตั ว์ ทม่ี นุษยอ์ ำศยั อยตู่ ำมถ้ำ เพงิ ผำหรอื รมิ ฝัง่ น้ำ แสวงหำ
อำหำรดว้ ยกำรจบั ปลำ ล่ำสตั ว์ และพชื ผกั ทม่ี อี ยตู่ ำมธรรมชำติ เรร่ อ่ นเปลย่ี นแปลงทอ่ี ยอู่ ำศยั ไปเรอ่ื ยๆ
หลกั ฐำนท่ปี รำกฏใหเ้ หน็ ไดแ้ ก่ ภำพเขยี นสี และภำพสลกั หนิ ในเขตอำเภอโนนสงั ท่ถี ้ำเสอื ตก ถ้ำจนั ใด
ถ้ำพรำนไอ้ ถ้ำอำจำรยส์ นิ และถ้ำยม้ิ หรอื ภำพเขยี นสี ในเขตอำเภอสุวรรณคูหำ ท่ถี ้ำสุวรรณคหู ำและ
ถ้ำภูผำยำ เป็นต้น เรอ่ื ยมำจนถงึ กำรดำรงชวี ติ ในสงั คมกสกิ รรมทม่ี นุษยเ์ รม่ิ อยรู่ วมกนั เป็นชุมชน มกี ำร
เพำะปลูก เล้ยี งสตั ว์ ทอผ้ำ ทำเคร่อื งประดบั และหล่อโลหะแบบง่ำยๆ หลกั ฐำนทป่ี รำกฏใหเ้ หน็ ไดแ้ ก่
แหล่งโบรำณคดกี ุดกวำงสรอ้ ย และกุดคอเมย ในเขตอำเภอโนนสงั ซง่ึ พบโครงกระดูกมนุษยแ์ ละสตั ว์
เศษภำชนะดินเผำ เศษเคร่อื งประดบั สำรดิ รวมทงั้ เคร่อื งมอื เหล็กต่ำงๆ ท่มี อี ำยุร่วมสมยั กบั แหล่ง
โบรำณคดบี ้ำนเชยี งจงั หวดั อุดรธำนี ชุมชนโบรำณในลกั ษณะน้ีมปี รำกฏอยู่หลำยแห่งในเขตจงั หวดั
หนองบวั ลำภู

เม่อื เข้ำสู่ยุคประวตั ิศำสตร์ หรอื เม่อื มนุษย์เรมิ่ มอี ำกำรประดิษฐ์ตัวอักษรข้นึ ใช้ ชุมชน
โบรำณค่อยๆ มพี ฒั นำกำรเข้ำสู่ชุมชนเมอื ง มกี ำรติดต่อแลกเปล่ยี น ค้ำขำยระหว่ำงกนั วฒั นธรรม
แบบทวำรวดเี ขำ้ มำมอี ทิ ธพิ ลครอบคลุมพน้ื ทใ่ี นภำคตะวนั ออกเฉียงเหนอื (ประมำณ พ.ศ. ๑๑๐๐ - พ.ศ.
๑๕๐๐) ในพน้ื ท่จี งั หวดั หนองบวั ลำภู พบโบรำณวตั ถุสมยั ทวำรวดี เช่น ใบเสมำหนิ ทรำย วดั พระธำตุ
เมืองพิณ อำเภอนำกลำง และใบเสมำหินทรำยวัดป่ ำโนนคำวิเวก อำเภอสุวรรณคูหำ เป็ นต้น
เม่อื สน้ิ สมยั ทวำรวดี วฒั นธรรมขอมเรม่ิ เขำ้ มำมอี ทิ ธพิ ลสบื แทน (ประมำณ พ.ศ. ๑๕๐๐ - พ.ศ. ๑๗๐๐)
ในพ้ืนท่ีจงั หวัดหนองบัวลำภู พบโบรำณสถำน และโบรำณวตั ถุสมยั ขอม เช่น ฐำนวิหำรศิลำแลง
ศลิ ำจำรกึ พระธำตุเมอื งพณิ อำเภอนำกลำง และจำรกึ อกั ษรขอมวดั ป่ำโนนคำวเิ วก อำเภอสุวรรณคูหำ
เป็นตน้
จงั สนั นิษฐำนว่ำ ในสมยั วฒั นธรรมทวำรวดี และสมยั วฒั นธรรมขอม ชุมชนโบรำณในเขตพน้ื ทจ่ี งั หวดั
หนองบวั ลำภู ยงั ไม่มลี กั ษณะเป็นชุมชนเมอื ง แต่คงเป็นชมุ ชนเลก็ ๆ ทก่ี ระจำยตวั อยทู่ วั่ ไป เม่อื สน้ิ สมยั
วฒั นธรรมขอม พ้นื ท่ใี นภำคตะวนั ออกเฉียงเหนือได้ปลอดจำกอทิ ธพิ ลของวฒั นธรรมต่ำงๆ อย่รู ะยะ
หน่งึ และวฒั นธรรมลำ้ นชำ้ งหรอื วฒั นธรรมไทย-ลำว ไดเ้ รมิ่ แผอ่ ทิ ธพิ ลเขำ้ มำแทน

ประมำณ พ.ศ. ๒๑๐๖ พระเจำ้ ไชยเชษฐำธริ ำช แห่งเวยี งจนั ทน์ ไดน้ ำผคู้ นอพยพเขำ้ มำอยู่
อำศยั โดยสรำ้ งพระพุทธรูปและศลิ ำจำรกึ ไวท้ ่วี ดั ถ้ำสุวรรณคูหำ อำเภอสุวรรณคูหำ และมำสรำ้ งบำ้ น
แปลงเมอื งขน้ึ ทบ่ี รเิ วณหนองซำชำ้ ง ซง่ึ เป็นหนองน้ำขนำดใหญ่เชงิ เขำภพู ำน โดยสรำ้ งวดั ในหรอื วดั



ศรคี ูณเมอื ง สรำ้ งพระพุทธรปู และสรำ้ งกู่ครอบไว้ สรำ้ งวหิ ำร ขุดบ่อน้ำ สรำ้ งกำแพงเมอื งดนิ ลอ้ มรอบ
ทงั้ ๔ ด้ำน และยกฐำนะข้นึ เป็นเมอื ง "จำปำนครกำบแก้วบวั บำน" (ปัจจุบนั อยู่ท่บี รเิ วณบ้ำนเหนือ
ตำบลลำภู ในเขตเทศบำลเมอื งหนองบวั ลำภู) มฐี ำนะเป็นเมอื งหน้ำดำ่ นของเมอื งเวยี งจนั ทน์แต่คน
ทวั่ ไปมกั นิยมเรยี กช่อื เมอื งตำมลกั ษณะภมู ปิ ระเทศว่ำ "เมอื งหนองบวั ลุ่มภู" ซง่ึ เป็นตน้ กำเนิดของเมอื ง
หนองบวั ลำภใู นปัจจบุ นั

พ.ศ. ๒๑๑๗ ในระหว่ำงท่ไี ทยเสยี กรุงศรอี ยุธยำ ครงั้ ท่ี ๑ สมเดจ็ พระนเรศวรมหำรำช ซ่งึ
ขณะนนั้ มพี ระชนมำยุ ๑๙ พรรษำ ไดต้ ำมเสดจ็ สมเดจ็ พระมหำธรรมรำชำ พระรำชบดิ ำ นำกองทพั ไทย
เพ่อื ไปช่วยกองทพั กรงุ หงสำวดตี เี วยี งจนั ทน์ เมอ่ื เสดจ็ ประทบั พกั แรมทบ่ี รเิ วณหนองซำชำ้ งหรอื หนอง-
บวั ลำภูในปัจจุบนั สมเดจ็ พระนเรศวรมหำรำช ได้ประชวร เป็นไขท้ รพษิ สมเดจ็ พระมหำธรรมรำชำ
และสมเดจ็ พระนเรศวรมหำรำช จงึ เสดจ็ นำกองทพั ไทย กลบั สกู่ รงุ ศรอี ยธุ ยำ

พ.ศ. ๒๓๑๐ ในสมยั พระเจำ้ สริ บิ ุญสำรแห่งเวยี งจนั ทน์ ซ่งึ ตรงกบั ต้นสมยั สมเดจ็ พระเจำ้
ตำกสนิ มหำรำช แห่งกรุงธนบุรี พระวอ พระตำ ขุนนำงผใู้ หญ่แห่งเวยี งจนั ทน์ เกดิ ควำมขดั แยง้ ภำยใน
กบั รำชสำนกั จงึ นำกำลงั คนอพยพเขำ้ มำอำศยั เมอื งจำปำนครกำบแกว้ บวั บำน โดยบูรณะและปรบั ปรงุ
ขน้ึ ใหม่ สรำ้ งกำแพงหนิ บนเขำภูพำนไวป้ ้องกนั ขำ้ ศกึ และเปล่ยี นช่อื เป็น "นครเข่อื นขนั ธ์กำบแก้วบวั
บำน" ตงั้ ตนเป็นอสิ ระไม่ขน้ึ กบั เวยี งจนั ทน์ กองทพั เวยี งจนั ทน์ จงึ ยกทพั มำโจมตสี รู้ บกนั อยปู่ ระมำณ ๓
ปี กย็ งั ไม่สำมำรถตเี มอื งได้ กองทพั เวยี งจนั ทน์จงึ ขอใหก้ องทพั พม่ำช่วยเหลอื จงึ สำมำรถตเี มอื งนคร
เขอ่ื นขนั ธก์ ำบแกว้ บวั บำนไดส้ ำเรจ็ โดยพระตำเสยี ชวี ติ ในทร่ี บ พระวอจงึ นำกำลงั คนอพยพตำมลำน้ำชี
ไปสรำ้ งเมอื งใหม่ทบ่ี ำ้ นดอนมดแดง หรอื เมอื งอุบลรำชธำนีในปัจจุบนั นครเข่อื นขนั ธ์กำบแก้วบวั บำน
จงึ กลบั ไปขน้ึ กบั เวยี งจนั ทน์อกี ครงั้ หน่งึ

พ.ศ. ๒๓๒๑ ในสมัยสมเด็จพระเจ้ำตำกสินมหำรำช แห่งกรุงธนบุรโี ปรดเกล้ำฯ ให้
เจ้ำพระยำมหำกษัตรยิ ์ศกึ ยกกองทพั ไปตีเวยี งจนั ทน์ได้สำเรจ็ นครเข่อื นขนั ธ์กำบแก้วบวั บำน หรอื
หนองบวั ลำภู จงึ ขน้ึ กบั รำชอำณำจกั รไทยตงั้ แต่นนั้ เป็นตน้ มำ

ระหว่ำง พ.ศ. ๒๓๖๙ - พ.ศ. ๒๓๗๑ ในสมยั รชั กำลท่ี ๓ แห่งกรุงรตั นโกสนิ ทร์ เจำ้ อนุวงศ์
แห่งเวยี งจนั ทน์ เป็นกบฏยกทพั ไปยดึ เมอื งนครรำชสมี ำ ครนั้ รวู้ ่ำทำงกรุงเทพฯ เตรยี มยกทพั ใหญ่มำ
ต่อสจู้ งึ ถอยกลบั มำตงั้ รบั ทห่ี นองบวั ลำภู ไดร้ บกบั กองทพั ไทยเป็นสำมำรถ จนพ่ำยแพก้ ลบั เวยี งจนั ทน์

ในสมยั พระบำทสมเดจ็ พระจอมเกลำ้ เจำ้ อยหู่ วั รชั กำลท่ี ๔ แห่งกรงุ รตั นโกสนิ ทร์ พระปทุม
เทวำภบิ ำล เจำ้ เมอื งหนองคำย ได้แต่งตงั้ พระวชิ โยดมภมุทธเขต มำสรำ้ งนครเข่อื นขนั ธ์กำบแก้วบวั
บำนขน้ึ ใหม่มฐี ำนะเป็นเมอื งเอก ช่อื เมอื ง "ภมุทธไสยบุรรี มั ย์" หรอื "ภมุทำสยั " โดยมพี ระวชิ โยดม-
ภมทุ ธเขต เป็นเจำ้ เมอื งคนแรก กำรปกครองเมอื งในลกั ษณะน้ี เรยี กว่ำ "ระบบกนิ เมอื ง"

พ.ศ. ๒๔๓๕ ในสมยั พระบำทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลำ้ เจำ้ อย่หู วั รชั กำลท่ี ๕ แห่งกรงุ รตั น-
โกสนิ ทร์ มสี มเดจ็ พระบรมวงศเ์ ธอ กรมพระยำดำรงรำชำนุภำพเป็นเสนำบดกี ระทรวงมหำดไทย
ไดป้ ฏริ ปู กำรปกครองส่วนภมู ภิ ำคจำกระบบกนิ เมอื ง โดยรวมหวั เมอื งเป็นมณฑลต่ำงๆ รวม ๖ มณฑล
ไดแ้ ก่ มณฑลลำวเฉียง มณฑลลำวพวน มณฑลลำวกำว มณฑลเขมร มณฑลลำวกลำง และมณฑล
ภูเก็ต มขี ำ้ หลวงใหญ่ (เฉพำะมณฑลลำวพวนเรยี กขำ้ หลวงต่ำงพระองค์) เป็นผรู้ บั ผดิ ชอบมณฑล เมอื



งกมุทำสยั ถูกจดั เป็นหวั เมอื งเอก ๑ ใน ๑๖ หวั เมอื ง ของมณฑลลำวพวน ซ่งึ ในขณะนัน้ มกี รมหม่นื
ประจกั ษศ์ ลิ ปำคม เสนำบดกี ระทรวงวงั เป็นขำ้ หลวงต่ำงพระองค์ บญั ชำกำรมณฑลลำวพวน

พ.ศ. ๒๔๓๗ ในรชั สมยั พระบำทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลำ้ เจำ้ อยหู่ วั ไดเ้ ปลย่ี นแปลงกำร
ปกครองหวั เมอื งส่วนภมู ภิ ำค เป็นมณฑลเทศำภบิ ำลและเปลย่ี นตำแหน่งขำ้ หลวงใหญ่ หรอื ขำ้ หลวงต่ำง
พระองคเ์ ป็นสมหุ เทศำภบิ ำล ขน้ึ กบั กระทรวงมหำดไทย

พ.ศ. ๒๔๔๒ ในรชั สมยั พระบำทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลำ้ เจำ้ อยหู่ วั ไดเ้ ปลย่ี นช่อื มณฑล
ลำวพวนเป็นมณฑลฝ่ำยเหนอื เมอื งกมทุ ำสยั เป็น ๑ ใน ๑๒ เมอื ง ขน้ึ กบั มณฑลฝ่ำยเหนอื

พ.ศ. ๒๔๔๓ ในรชั สมยั พระบำทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลำ้ เจำ้ อยหู่ วั ไดเ้ ปลย่ี นชอ่ื มณฑลฝ่ำย
เหนือ เป็นมณฑลอุดร และให้รวมเมอื งต่ำงๆ ในมณฑลอุดร เป็น ๕ บรเิ วณ ได้แก่ บรเิ วณบำ้ นหมำก-
แขง้ บรเิ วณธำตุพนม บรเิ วณสกลนคร บรเิ วณพำชี และบรเิ วณน้ำเหอื ง เมอื งกมุทำสยั ถกู รวมอยู่
ในบรเิ วณบำ้ นหมำกแขง้ ซง่ึ ประกอบดว้ ย ๗ เมอื ง คอื เมอื งหมำกแขง้ เมอื งหนองคำย เมอื งหนองหำร
เมอื งกุมภวำปี เมอื งกมุทำสยั เมอื งโพนพสิ ยั และเมอื งรตั นวำปี ตงั้ ทว่ี ่ำกำรบรเิ วณบำ้ นหมำกแขง้ โดย
ส่งขำ้ หลวงจำกกรงุ เทพฯ ออกไปเป็นขำ้ หลวงบรเิ วณควบคุมเจำ้ เมืองต่ำงๆ ซง่ึ มขี ำ้ หลวงตรวจรำชกำร
ประจำเมอื ง ควบคุมอกี ชนั้ หน่งึ

พ.ศ. ๒๔๔๙ ในรชั สมยั พระบำทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลำ้ เจำ้ อยหู่ วั ทรงโปรดเกลำ้ ฯ
ใหเ้ ปลย่ี นช่อื เมอื งกมทุ ำสยั เป็นเมอื งหนองบวั ลมุ่ ภู หรอื เมอื ง "หนองบวั ลำภู" หนองน้ำขนำดใหญ่กลำง
เมอื งท่เี ดมิ ช่อื หนองซำช้ำงจงึ เปล่ยี นช่อื เรยี กเป็นหนองบวั ลำภู หรอื หนองบวั ลำภูตำมช่อื เมอื ง และ
ยงั คงขน้ึ อยกู่ บั บรเิ วณหมำกแขง้

พ.ศ. ๒๔๕๐ ในรชั สมยั พระบำทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลำ้ เจำ้ อยหู่ วั ทรงโปรดเกลำ้ ฯ ให้
กระทรวงมหำดไทยรวมเมอื งต่ำงๆ ในบรเิ วณหมำกแขง้ ตงั้ เป็นเมอื งจตั วำ เรยี กว่ำเมอื งอุดรธำนี ส่วน
เมอื งในสงั กดั บรเิ วณให้มฐี ำนะเป็นอำเภอ เมอื งหนองบัวลำภู จงึ กลำยเป็น "อำเภอหนองบวั ลำภู"
ขน้ึ กบั จงั หวดั อุดรธำนี โดยมพี ระวจิ ำรณ์กมทุ ธกจิ เป็นนำยอำเภอคนแรก

อำเภอหนองบวั ลำภู มคี วำมเจรญิ รงุ่ เรอื งขน้ึ มำโดยลำดบั มชี ุมชนรำษฎรหนำแน่นขน้ึ
ประกอบกบั มอี ำณำเขตกวำ้ งขวำง พน้ื ทป่ี ระมำณ ๔,๐๐๐ ตำรำงกโิ ลเมตร ไมส่ ะดวกในกำรปกครอง
ดูแลรำษฎร ทำงรำชกำรจงึ ได้ยกฐำนะชุมชนท่มี คี วำมเจรญิ แต่อย่หู ่ำงไกล แยกกำรปกครองออกจำก
อำเภอหนองบวั ลำภู จดั ตงั้ เป็นกง่ิ อำเภอ รวม ๕ กงิ่ อำเภอ ตำมลำดบั ดงั น้ี

- กงิ่ อำเภอโนนสงั (พ.ศ. ๒๔๙๑)
- กงิ่ อำเภอศรบี ญุ เรอื ง (๑๖ กรกฎำคม ๒๕๐๘)
- กง่ิ อำเภอนำกลำง (๑๖ กรกฎำคม ๒๕๐๘)
- กง่ิ อำเภอสวุ รรณคหู ำ (๑๗ กรกฎำคม ๒๕๑๐)
ปัจจบุ นั กงิ่ อำเภอเหลำ่ น้มี ฐี ำนะเป็นอำเภอ
เน่อื งจำกรฐั บำลมนี โยบำยในกำรกระจำยอำนำจมำยงั ส่วนภมู ภิ ำค เพอ่ื ประโยชน์ในดำ้ น
กำรปกครอง กำรให้บรกิ ำรของรฐั กำรอำนวยควำมสะดวกแก่ประชำชน กำรส่งเสรมิ ให้ท้องท่เี จรญิ
ยงิ่ ขน้ึ ตลอดจนเพ่อื ควำมมนั่ คงของชำติ จงึ ไดพ้ จิ ำรณำเหน็ ว่ำจงั หวดั อุดรธำนี มอี ำณำเขตกวำ้ งขวำง



และมพี ลเมอื งมำก สมควรแยกอำเภอหนองบวั ลำภู อำเภอนำกลำง อำเภอโนนสงั อำเภอศรบี ุญเรอื ง
และอำเภอสุวรรณคูหำ ออกจำกกำรปกครองของจงั หวดั อุดรธำนี ตงั้ ขน้ึ กบั จงั หวดั หนองบวั ลำภู โดย
เม่อื วนั ท่ี ๑๙ มกรำคม ๒๕๓๖ คณะรฐั มนตีได้มมี ติเห็นชอบให้หลกั กำรจดั ตงั้ จงั หวดั หนองบวั ลำภู
ตำมทก่ี ระทรวงมหำดไทยเสนอ

และต่อมำคณะรฐั มนตรแี ละรฐั สภำได้อนุมตั ริ ่ำงพระรำชบญั ญตั ิจดั ตงั้ จงั หวดั หนองบวั ลำภู
ตำมรำ่ งเสนอของนำยเฉลมิ พล สนิทวงศช์ ยั และคณะแลว้ ประกำศจดั ตงั้ เป็นจงั หวดั หนองบวั ลำภูตงั้ แต่
วนั ท่ี ๑ ธนั วำคม ๒๕๓๖ โดยประกำศในหนงั สอื รำชกจิ จำนุเบกษำ ฉบบั พเิ ศษ เลม่ ท่ี ๑๑๐ ตอนท่ี ๑๒๕
ลงวนั ท่ี ๒ กนั ยำยน ๒๕๓๖

จงั หวดั หนองบวั ลาภใู นปัจจบุ นั

จงั หวดั หนองบวั ลำภู ตงั้ อยทู่ ำงทำงทศิ ตะวนั ตกเฉียงเหนอื ของภำคตะวนั ออกเฉียงเหนือ อยู่
ห่ำงจำกกรุงเทพฯ ตำมทำงหลวงแผ่นดนิ หมำยเลข ๒๑๐ เป็นระยะทำง ๖๐๘ กิโลเมตร หรอื ตำม
เสน้ ทำงกรงุ เทพฯ - ชยั ภูมิ หนองบวั ลำภู ประมำณ ๕๑๘ กโิ ลเมตร ห่ำงจำกจงั หวดั อุดรธำนี ประมำณ
๔๖ กิโลเมตร มีพ้ืนท่ีประมำณ ๓,๘๕๙ ตำรำงกิโลเมตร หรอื ประมำณ ๒.๔ ล้ำนไร่ ภูมิประเทศ
โดยทวั่ ไปเป็นท่รี ำบสูง ทำงตอนบนจะเป็นพ้นื ท่ภี ูเขำสูง แล้วลำดลงไปทำงทิศใต้ และทศิ ตะวนั ออก
ควำมสูงเฉล่ยี ประมำณ ๒๐๐ เมตร จำกระดบั น้ำทะเลปำนกลำง พ้นื ท่สี ่วนใหญ่เป็นดนิ ปนทรำย และ
ลกู รงั อุณหภูมสิ งู สุดเฉลย่ี ๓๕ องศำเซลเซยี ส อุณหภูมติ ่ำสดุ เฉลย่ี ๑๕ องศำเซลเซยี ส ปรมิ ำณน้ำฝน
เฉลย่ี ๙๒๘ มลิ ลเิ มตรต่อปี

ปัจจบุ นั แบ่งเขตกำรปกครองเป็น ๖ อำเภอ ไดแ้ ก่ อำเภอเมอื งหนองบวั ลำภู อำเภอโนนสงั
อำเภอศรบี ุญเรอื ง อำเภอนำกลำง อำเภอสุวรรณคหู ำ และอำเภอนำวงั ประกอบดว้ ย ๕๘ ตำบล ๖๓๑
หมู่บ้ำน ๙๗,๘๑๖ หลงั คำเรอื น ประชำกรรวม ๔๘๗,๐๕๕ คน เฉล่ยี ควำมหนำแน่นของประชำกร
เทำ่ กบั ๑๓๑.๕๓ คน ต่อตำรำงกโิ ลเมตร มสี มำชกิ สภำผแู้ ทนรำษฎร ๓ คน

ทม่ี ำ : สานักงานจงั หวดั หนองบวั ลาภู


Click to View FlipBook Version