เ ห่ ช ม ก ร ะ บ ว น เ รื อ
เจ้าฟ้าธรรมธิเบศไชยเชษฐ์สุริยวงศ์ (เจ้าฟ้ากุ้ง)
งานนำเสนอนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาภาษาไทย (ท ๓๓๑๐๑)
โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ เบญจมราชาลัย
ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๕
เจ้าฟ้าธรรมธิเบศไชยเชษฐ์สุริยวงศ์ (เจ้าฟ้ากุ้ง)
พระราชโอรสพระองค์แรกในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ
โดยแต่งขึ้นช่วงปลายสมัยอยุธยาตอนปลาย
และนับว่าพระองค์เป็นกวีเอกในสมัยอยุธยาตอนปลายเลยทีเดียว
เพราะมีความสามารถในเชิงนิรุกติศาสตร์ และฉันทศาสตร์
ทำให้มีผลงานของทั้งเรื่องของทางโลกและทางธรรม
โคลงสี่สุภาพ
คำศัพท์ ความหมาย
ปางเสด็จประเวศด้าว ชลาลัย ประเวศ การเข้ามา การเข้าถึง
ทรงรัตนพิมานชัย กิ่งแก้ว
พรั่งพร้อมพวกพลไกร แหนแห่
เรือกระบวนต้นแพร้ว เพริศพริ้งพายทอง
ด้าว แดน ประเทศ
พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศทรงเสด็จทางชลมารค ทรงประทับบน ชลาลัย น้ำ ห้วงน้ำ
เรือพระที่นั่ง หรือเรือกิ่ง และมีเรือของทหารล้อมรอบ
พิ มาน วิมาน ที่อยู่ประทับ
เรือพระที่นั่งเป็นขบวน ภาพของเรือพระที่นั่งนั้นสวยงาม ของเทวดา
เหมือนสีทองที่สะท้อนลงมาระยิบระยับ
กิ่งแก้ว ชื่อเรือพระที่นั่ง
กาพย์ยานี ๑๑ คำศัพท์ ความหมาย
พระเสด็จโดยแดนชล ทรงเรือต้นงามเฉิดฉาย เรือต้น เรือหลวง เรือของพระ
กิ่งแก้วแพร้วพรรณราย มหากษัตริย์
พายอ่อนหยับจับงามงอน
นาวาแน่นเป็นขนัด เรือ
เรือริ้วทิงธงสลอน ล้วนรู ปสัตว์แสนยากร นาวา
ชื่อเรือพระที่นั่ง
สาครลั่นครั่นครื้นฟอง กิ่งแก้ว
พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศเสด็จพระราชดำเนินโดยทางชลมารค แสนยากร กองทัพ ทหาร
ประทับบนเรือต้นในการเดินทาง ภาพของเรือกิ่งนั้นดูงามอร่าม
การพายเรือนั้นก็ดูงดงามอย่างพร้อมเพรียงกัน ขบวนเรือแน่น สาคร ท้องน้ำ แม่น้ำ ทะเล
เป็นแถวเป็นแนว ที่หัวเรือเป็นรูปสัตว์นานาชนิด เรือริ้ว เรือที่เข้ากระบวนยาวเป็น
มองเห็นธงเด่นสะพรั่งมาแต่ไกล เส้นเป็นสาย
กาพย์ยานี ๑๑ คำศัพท์ ความหมาย
เรือครุ ฑยุดนาคหิ้ว ลิ่วลอยมาพาผันผยอง เรือครุฑ เรือที่มีโขนเป็นรูปครุฑ
พลพายกรายพายทอง ร้องโห่เห่โอ้เห่มา
เพียงพิมานผ่านเมฆา พลพาย คนพายเรือ
สรมุขมุขสี่ด้าน หลังคาแดงแย่งมังกร
ม่านกรองทองรจนา สรมุข เรือต้น หรือเรือกิ่ง
ที่มีการประดับประดา
อย่างสวยงาม
เมื่อกวีเห็นเรือครุฑนั้นแล่นมาอย่างรวดเร็ว ทหารที่พายเรือ พิ มาน วิมาน ที่อยู่ประทับของ
ต่างช่วยกันเห่พร้อมเพียงกัน ส่วนเรือสรมุขนั้นแล่นมา เทวดา
เปรียบความสวยงามเหมือนวิมานบนสวรรค์ เคลื่อนผ่านหมู่เมฆ มังกร สัตว์ในนิยายจีน ในที่นี้
เรือสรมุขตกแต่งด้วยม่านสีทอง หลังคาสีแดงปักลวดลายรูปมังกร หมายถึง เรือที่มีโขน
เรือเป็นรูปมังกร
แย่ง ลายมังกร
มังกร
กาพย์ยานี ๑๑ คำศัพท์ ความหมาย
สมรรถชัยไกรกาบแก้ว แสงแวววับจับสาคร สมรรถ เรือศรีสมรรถชัย เป็น
เรียบเรียงเคียงคู่จร ดั่งร่อนฟ้ามาแดนดิน ชัย เรือพระที่นั่ง
งามชดช้อยลอยหลังสินธุ์
สุวรรณหงส์ทรงพู่ห้อย ลินลาศเลื่อนเตือนตาชม ไกรกาบ ชื่อเรือพระที่นั่ง คาด
เพียงหงส์ทรงพรมมินทร์ แก้ว ว่ามีการเลียนแบบชื่อ
เป็นเรือไกรแก้วจักร
รัตน์
เมื่อกวีเห็นเรือสมรรถชัย แล่นมาคู่กับเรือสรมุข แสงแวววับสะท้อนกับแม่น้ำ สุวรรณ ชื่อเรือพระที่นั่ง
มีความงดงามเหมือนว่ากำลังร่อนลงจากสวรรค์สู่พื้นดิน หงส์ มีโขนเรือเป็นรูปหงส์
เรือสุวรรรณหงส์ตกแต่งด้วยพู่ห้อยอย่างสวยงาม ล่องลอยอยู่บนสายน้ำ พรม พระพรหม
เปรียบดั่งหงส์ที่เป็นพาหนะของพระพรหม เคลื่อนมาให้ชม มินทร์
ลินลาศ ลีลาศ แปลว่า ไป
กาพย์ยานี ๑๑ คำศัพท์ ความหมาย
เรือชัยไวว่องวิ่ง รวดเร็วจริงยิ่งอย่างลม เรือชัย เป็นเรือสำหรับ
เสียงเส้าเร้าระดม ห่มท้ายเยิ่นเดินคู่กัน ข้าราชการรักษา
ดูดังเป็นเห็นขบขัน พระองค์ ลักษณะเรือ
คชสีห์ทีผาดเผ่น คั่นสองคู่ดูยิ่งยง
ราชสีห์ที่ยืนยัน ไม่ใหญ่มาก
เส้า ไม้กระทุ้งจังหวะ
เมื่อกวีเห็นเรือชัย แล่นด้วยความรวดเร็วเหมือนลม ราชสีห์ พญาสิงโต ในที่นี้
มีเสียงเส้าที่คอยให้จังหวะท้ายเรือ แล่นเคียงคู่กับเรือพระที่นั่งลำอื่น หมายถึง เรือที่มีโขน
เรือคชสีห์ ที่กำลังแล่นไปนั้น ดูแล้วชวนขบขัน เรือเป็นรูปราชสีห์
ส่วนเรือราชสีห์ที่แล่นมาเคียงกันนั้นดูมั่นคงแข็งแรง
คชสีห์ เรือที่มีโขนเรือเป็นรูป
คชสีห์ เหมือนราชสีห์
แต่มีงวง
ทีผาด ทีผาดเผ่น แปลว่า
เผ่น ท่าทางเหมือนกระโจน
กาพย์ยานี ๑๑
คำศัพท์ ความหมาย
เรือม้าหน้ามุ่งน้ำ แล่นเฉื่อยฉ่ำลำระหง เรือม้า เรือที่มีโขนเรือเป็นรูป
เพียงม้าอาชาทรง องค์พระพายผายผันผยอง ม้า ม้าเป็นพาหนะของ
โจนตามคลื่นฝืนฝ่าฟอง
เรือสิงห์วิ่งเผ่นโผน เป็นแถวท่องล่องตามกัน พระพาย
ดูยิ่งสิงห์ลำพอง
ระหง สง่างาม
เมื่อกวีเห็นเรือม้ากำลังมุ่งหน้าไปข้างหน้า ซึ่งเรือม้าทีลักษณะ เรือ เรือสิงห์ คือ เรือที่มี
สูงโปร่งเหมือนกับม้าทรงของพระพาย สิงห์ โขนเรือเป็นรูปสิงห์
เรือสิงห์ ดูเหมือนกับว่ากำลังจะกระโจนลงสู่แม่น้ำ (ราชสิงห์)
แสดงถึงความฮึกเหิม แล่นเป็นแถวตามกันมา
ลำพอง ฮึกเหิม
กาพย์ยานี ๑๑ คำศัพท์ ความหมาย
นาคาหน้าดังเป็น ดูเขม้นเห็นขบขัน นาคา งู ในที่นี้หมายถึง เรือที่มี
มังกรถอนพายพัน ทันแข่งหน้าวาสุกรี โขนเป็นรูปนาค
เพียงโจนไปในวารี
เลียงผาง่าเท้าโผน มีปีกเหมือนเลื่อนลอยโพยม สัตว์จำพวกกวาง ในที่นี้
นาวาหน้าอินทรี เลียงผา หมายถึง เรือที่มีโขนเรือ
เป็นรูปเลียงผา
เมื่อกวีเห็นเรือนาคดูเหมือนมีชีวิตชีวาแล้วชวนขบขัน พญานาค ในที่นี้หมายถึง
กำลังจะถูกเรือมังกรแล่นตามมาทัน วาสุกรี เรือที่มีโขนเรือเป็นรูป
เรือเลียงผา ทำท่าเหมือนจะกระโจนลงแม่น้ำ พญานาค
ส่วนเรืออินทรี ก็มีปีกที่เหมือนกำลังจะลอยไปในอากาศ
โพยม ท้องฟ้า อากาศ
อินทรี อินทรี ในที่นี้หมายถึง เรือ
ที่มีโขนเรือเป็นรูปอินทรี
กาพย์ยานี ๑๑ คำศัพท์ ความหมาย
มี่ เสียงดัง
ดนตรีมี่อึงอล ก้องกาหลพลแห่โหม ดังลั่น
โห่ฮึกครึกครื้นโครม โสมนัสชื่นรื่นเริงพล อึงอล
จากนคเรศโดยสาชล
กรีธาหมู่นาเวศ ยลมัจฉาสารพันมี โสมนัส ความสุขใจ ความปราบ
เหิมหื่นชื่นกระมล ปลื้ม ความเบิกบาน
เมื่อกวีเห็นเสียงดนตรีดังลั่นมีเสียงก้องมาจากแตรงอน กรีธา เคลื่อน ยก เดินทาง
เสียงพลทหารโห่ร้องอย่างครึกครื้น เกิดความความรื่นเริง เป็นหมู่ เป็นกระบวน
ในหมู่พลทหาร เรือเคลื่อนขบวนออกมา ดูเข้มแข็งเป็นภาพ
ที่ทำให้ชื่นอกชื่นใจ มองดูเหมือนฝูงปลาที่มีมากมายในสายน้ำ นาเวศ เรือ
นคเรศ เมือง
เหิมหื่น ฮึกเหิมมาก
การสรรคำ
การเลือกสรรคำมาใช้อย่างเหมาะสมกับชนิดของคำประพันธ์และเนื้อความที่บรรยาย
การเลือกใช้คำได้ถูกต้องตามความหมายที่ต้องการ
ตัวอย่าง
นาวาแน่นเป็นขนัด ล้วนรู ปสัตว์แสนยากร
เรือริ้วทิงธงสลอน สาครลั่นครั่นครื้นฟอง
กวีต้องการกล่าวถึงเรือ จึงเลือกคำที่มีเสียงและความหมายเหมาะสม
การเลือกใช้คำที่เหมาะแก่เนื้อเรื่องและฐานะของบุคคลในเรื่อง
ตัวอย่าง
พระเสด็จโดยแดนชล ทรงเรือต้นงามเฉิดฉาย
กิ่งแก้วแพร้วพรรณราย พายอ่อนหยับจับงามงอน
กวีเลือกใช้คำราชาศัพท์เพื่อให้เหมาะกับกษัตริย์
การใช้คำโดยคำนึงถึงเสียง
๑. การเล่นเสียงสัมผัส แสงแวววับจับสาคร
ดั่งร่อนฟ้ามาแดนดิน
ตัวอย่าง
สมรรถชัยไกรกาบแก้ว
เรียบเรียงเคียงคู่จร
๒. การใช้คำเลียนเสียงธรรมชาติ
ตัวอย่าง
เรือครุ ฑยุดนาคหิ้ว ลิ่วลอยมาพาผันผยอง
พลพายกรายพายทอง ร้องโห่เห่โอ้เห่มา
๓. การเล่นคำพ้องเสียงและซ้ำคำ
ตัวอย่าง
สรมุขมุขสี่ด้าน เพียงพิมานผ่านเมฆา
ม่านกรองทองรจนา หลังคาแดงแย่งมังกร
การใช้ภาพพจน์
การใช้ภาพพจน์อุปมา
เปรียบสิ่งหนึ่งว่าเหมือนอีกสิ่งหนึ่ง
ตัวอย่าง
สุพรรณหงส์ทรงพู่ห้อย งามชดช้อยลอยหลังสินธุ์
เพียงหงส์ทรงพรมมินทร์ ลินลาศเลื่อนเตือนตาชม
กวีเปรียบเรือสุพรรณหงส์ว่าเคลื่อนไหวสง่างามเหมือนการเคลื่อนไหวของหงส์
การใช้ภาพพจน์อุปลักษณ์
เปรียบโยงความคิดอย่างหนึ่งไปสู่ความคิดหนึ่ง
ลีลาการประพันธ์
เสาวรจนี
บทชมความงามทางธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม
ตัวอย่าง
สุพรรณหงส์ทรงพู่ห้อย งามชดช้อยลอยหลังสินธุ์
เพียงหงส์ทรงพรมมินทร์ ลินลาศเลื่อนเตือนตาชม
สัลลาปังคพิสัย
บทแสดงความโศกเศร้า อาลัยอาวรณ์
คุณค่าด้านสังคม
สะท้อนวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนในสังคม
ความสำคัญของการคมนาคมทางน้ำ
การคมนาคมทางน้ำทำได้สะดวก คนไทยจึงอาศัยการคมนาคมทางน้ำเป็นส่วนใหญ่
ตัวอย่าง
กรีธาหมู่นาเวศ จากนคเรศโดยสาชล
เหิมหื่นชื่นกระมล ยลมัจฉาสารพันมี
สะท้อนขนบธรรมเนียมประเพณีของคนไทย
ประเพณีการเห่เรือ
การเห่เรือเล่นในคราวที่เจ้าฟ้าธรรมธิเบศรตามเสด็จพระราชบิดาทางชลมารคเพื่อ
ไปนมัสการพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี ผู้อ่านจะเห็นภาพการจัดกระบวนพยุหยาตราชลมารค
ชื่อเรือ และรูปสัญลักษณ์ของเรือ ซึ่งเป็นศิลปกรรมอันยอดเยี่ยมในกระบวนพยุหยาตรา
สรุปเห่ชมเรือ
กาพย์แห่เรือ เห่ชมกระบวนเรือ เน้นพรรณนาความสวยงามแปลกตาและ
สมรรถนะของเรือพระที่นั่งและเรือต่าง ๆ ในกระบวนเรือและธรรมชาติ
พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศเสด็จพระราชดำเนินโดยทางชลมารคได้
ประทับบนเรือต้นในการเดินทาง ภาพของเรือกิ่งนั้นดูแพรวพราว
ภาพการพายเรือนั้นก็ดูอ่อนไหวงดงามอย่างพร้อมเพรียงกัน
ขบวนเรือแน่นเป็นแถวเป็นแนวประกอบด้วยเรือที่หัวเรือเป็นรูป
สัตว์หลายๆ ชนิด มองเห็นธงเด่นสะพรั่งมาแต่ไกล การเดินขบวน
ทำให้เกิดเป็นคลื่นน้ำระลอก
เรือครุฑ บนเรือนั้นมีผลทหารกำลังพายเรืออย่างเป็นจังหวะพร้อม
กับเปล่งเสียงโห่ร้อง
เรือสรมุข ลอยมาเปรียบสวยงามดั่งพิมานบนสวรรค์ที่กำลัง
เคลื่อนที่ผ่านหมู่เมฆ เรือสรมุขตกแต่งไปด้วยม่านสีทองหลังคาสี
แดงมีลวดลายมังกรประดับอยู่
เรือสมรรถชัย กำลังแล่นมาเทียบเคียงกับเรือสรมุขนั้น ประกอบไปด้วย
กาบแก้วขนาดใหญ่มีการเกิดแสงแวววับสะท้อนกับแม่น้ำ มีความงดงาม
มากเหมือนดั่งว่ากำลังร่อนลงจากสวรรค์ลงสู่พื้นดิน
เรือสุวรรณหงส์ มีผู้ห้อยอย่างสวยงามล่องลอยอยู่บนสายน้ำ เปรียบดั่ง
หงส์ที่เป็นพาหนะของพระพรหมเตือนตาให้ชม
เรือชัย แล่นด้วยความรวดเร็วเหมือนดั่งลม มีเสียงเส้าที่คอยให้จังหวะท้าย
เรือให้แล่นไปเคียงคู่กันไปกับเรือพระที่นั่งลำอื่นๆ
เรือคชสีห์ กำลังแล่นไปนั้นดูแลชวนขบขัน ส่วนเรือราชสีห์ที่แล่นมาเคียงคู่
กันนั้นดูมั่นคงแข็งแรง เรือม้านั้นกำลังมุ่งไปข้างหน้า ซึ่งเรือม้ามีลักษณะที่
สูงโปร่งเหมือนกับม้าทรงของพระพาย
เรือสิงห์ ดูเหมือนราวกับกำลังจะกระโจนลงสู่แม่น้ำ แสดงถึง
ความลำพองใจก็แล่นตามกันมาเป็นแถว ๆ
เรือนาค นั้นมองดูเหมือนกับมีชีวิตแล้วชวนขบขันกำลังจะถูกเรือ
มังกรแล่นตามมาทัน
เรือเลียงผา ทำท่าเหมือนกับกำลังจะกระโจนลงแม่น้ำ ส่วนเรือ
อินทรีย์ก็มีปีกที่เหมือนกับกำลังจะลอยไปในอากาศ
เสียงดนตรีนั้นดังลั่นมีเสียงก้องมาจากแตรงอน เสียงพวกทหาร
โห่ร้องกันอย่างครึกครื้น ทำให้เกิดความรื่นเริงในหมู่พลทหาร
๑. เรือต้น หรือเรือกิ่ง ได้แก่
เรือครุฑ
เรือสุพรรณหงส์
เรือศรีสมรรถชัย
เรือไกรสรมุข
๒. เรือชัย มีการกระทุ้งเส้าให้จังหวะประกอบการพายเรือ
๓. เรือรูปสัตว์ หรือเรือแสนยากร
คชสีห์ มังกร
ราชสีห์ เลียงผา
ม้า อินทรี
นาค
๔. เรือริ้ว คือเรือประกอบกระบวนการเห่ จัดเป็นหลาย ๆ สาย
แล่นเรียงขนานกัน
นายวาทะศิลป์ ห้วยหงษ์ทอง เลขที่ ๓
เลขที่ ๗
นายพันธวัช ฉิมฉลอง เลขที่ ๘
เลขที่ ๙
นางสาวธัญญภรณ์ สะดอนรัตน์ เลขที่ ๑๐
เลขที่ ๒๖
นางสาวบุญสิตา กสิกรรม
นางสาววรนิษฐา เพ็งพุด
นางสาวเบญญทิพย์ ก่อแก้ว
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖/๑
เสนอ
คุณครูปรียานุช เสนาธนศักดิ์
กาพย์เห่เรือเรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาภาษาไทย (ท ๓๓๑๐๑)
ภาคการเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๕
โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ เบญจมราชาลัย