The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Ma Chimo, 2023-10-20 10:43:14

Sport

Sport

Keywords: Sport

A FAVORITE SPORT VOLLEYBALL - BASKETBALL FOOTBALL - BATMINTON - BOXING EDITED BY 2023 CHAYADA SUKAPIBAN


B


C คำ�นำ� หนังสือเล่มนีจัดทำ�ขึ้นเพื้ ่ อเป็นส่วนหนึ่ งของวิชา การออกแบบสิ่ งพิมพ์เพื่ อ ให้ได้ศึกษาความรู้ในเรื่ องของกีฬาหลากหลายประเภท เช่น กีฬามวยไทย มวยสากล เป็นต้น การเข้าใจในกฎกติกาในการเล่นกีฬา ผู้จัดทำ�หวังเป็นอย่างยิ่ งว่าการจัดทำ�หนังสือเล่มนีจะมีข้อมูลที้ ่ เป็น ประโยชน์ต่อผู้ที่ สนใจศึกษาเรื่ องราวประวัติของกีฬาประเภทต่างๆเป็น อย่างดี ชญาดา สุนทราภิบาล 64544301005-5


D


E สารบัญ


F


1 volley ball


2 ประวัติกีฬา วอลเลย์บอล กีฬาวอลเลย์บอลถือกำ เนิดขึ้นในปี ค.ศ. 1895 โดยนายวิลเลียม จี. มอร์แกน ผู้อำ นวยการฝ่ายพลศึกษา ของสมาคม วายเอ็มซีเอ เมืองฮอลโยค รัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศอเมริกา ซึ่งได้เกิดขึ้นเพียง 1 ปี ก่อนการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกสมัยใหม่ ครั้งที่ 1 ณ กรุงเอเธนส์ โดยเขามีความคิดที่ต้องการให้มีกีฬาสำ หรับเล่นในช่วง ฤดูหนาวแทนกีฬากลางแจ้งเพื่อออกกำ ลังกายพักผ่อนหย่อนใจยามหิมะตก


3 เขาได้เกิด แนวความคิด ที่จะนำ ลักษณะและวิธีการ เล่นของกีฬาเทนนิส มาดัดแปลงใช้เล่น จึงใช้ตาข่ายเทนนิสซึ่งระหว่างเสาโรงยิมเนเซียม สูงจากพื้น ประมาณ 6 ฟุต 6 นิ้ว และใช้ยางในของลูกบาสเกตบอลสูบลมให้แน่น แล้วใช้ มือและแขนตีโต้ข้ามตาข่ายกันไปมา แต่เนื่องจากยางในของลูกบาสเกตบอลเบา เกินไป ทำ ให้ลูกบอลเคลื่อนที่ช้าและทิศทางที่เคลื่อนไปไม่แน่นอน จึงเปลี่ยนมาใช้ ลูกบาสเกตบอล แต่ลูกบาสเกตบอลก็ใหญ่ หนักและแข็งเกินไป ทำ ให้มือของผู้ จนในที่สุดเขาจึงให้บริษัท Ant G. Spalding and Brother Company ผลิต ลูกบอลที่หุ้มด้วยหนังและบุด้วยยาง มีเส้นรอบวง 25-27 นิ้ว มีน้ำ หนัก 8-12 ออนซ์ หลังจากทดลองเล่นแล้ว เขาจึงตั้งชื่อเกมการเล่นนี้ว่า “มินโทเนตต์” (Mintonette)


4 ค.ศ. 1928 ดร.จอร์จ เจ ฟิเชอร์ (Dr. George J. Fisher) ได้ปรับปรุงและ เปลี่ยนแปลงกติกาการเล่นวอลเลย์บอล เพื่อใช้ในการแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอลใน ระดับชาติ และได้เผยแพร่กีฬาวอลเลย์บอลจนได้รับสมญานามว่า บิดาแห่งกีฬา วอลเลย์บอล


5 กติกา วอลเลย์บอล วอลเลย์บอล เป็นกีฬาที่แข่งขันกันระหว่าง 2 ทีม ทีมละ 6 คน โดยแบ่งเขตจากกัน ด้วยเน็ตสูง การทำ คะแนน จากลูกบอล ที่ตกในเขตแดนของฝ่ายตรงกันข้าม กฎข้อที่ 1 พื้นที่เล่นลูกบอล สนามมาตรฐานที่ใช้แข่งขันมีลักษณะ เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 18 x 9 เมตร ล้อมรอบด้วยเขตรอบสนาม กว้า งอยางน้อย 3 เมตร ทุกด้าน ที่ว่าง เหนือพื้นต้องไม่มีสิ่งใดกีดขวาง สูงขึ้น ไปอย่างน้อย 7 เมตร จากพื้นสนาม แต่สําหรับการแข่งขันระดับโลกของ สหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติและการ แข่งขันที่เป็นทางการ เขตรอบสนาม ต้องกว้างอย่างน้อย 5 เมตร จากเส้น ข้าง และ 6.5 เมตร จากเส้นหลัง ที่ว่าง เหนือสนามต้องสูงจากพื้นขึ้นไปอย่าง กฎข้อที่ 2 ตาข่าย ตาข่ายจะถูกขึงเป็นแนวดิ่งเหนือเส้นแบ่ง แดน สําหรับทีมชาย ขอบบนสุดต้อง สูงจากพื้น 2.43 เมตร ทีมหญิงสูง 2.24 เมตร โดยความสูงของตาข่าย วัดที่บริเวณกึ่งกลางของสนาม ความ สูงของตาข่าย (ที่เหนือเส้นข้างทั้งสอง กฎข้อที่ 3 ลูกบอล ลูกบอลจะต้องกลม ทําจากหนังฟอก หรือหนังสังเคราะห์ที่ยืดหยุนได้ ห่อหุ้ม ลูกทรงกลม ทําด้วยยาง หรือวัสดุที่ คล้ายคลึงกัน สีของลูกบอลอาจเป็น สีอ่อนๆ เหมือนกันทั้งลูก หรืออาจเป็น หลายสีผสมกันก็ได้ ลูกบอลต้องมีเส้น รอบวงยาว 65 - 67 เซนติเมตร มีน้ำ หนัก 260 - 280 กรัม และมีแรงดัน ลม 0.30 - 0.325 กิโลกรัม/ตาราง เซนติเมตร


6 กฎข้อที่ 4 การได้คะแนน การแข่งขันวอลเลย์บอลจะแข่งกันเป็น เซตทั้งหมด 5 เซต โดยทีมที่ทำ ได้ 3 เซต ก่อนจะเป็นทีมที่ชนะในการแข่งขันนั้น ซึ่งแต่ละเซตจะแข่งกันเมื่อทีมใดทีมหนึ่ง ทำ คะแนนได้ 25 คะแนนก่อน (ยกเว้น เซตสุดท้ายจะแข่ง 15 คะแนน) หากทํ า คะแนนได้ 24 -24 คะแนนเท่ากัน จะ ต้องแข่งขันกันต่อไปจนกว่าทีมใดทีม หนึ่งจะทําคะแนนนําห่าง 2 คะแนน (26 -24, 27-25,) โดยในการแข่งขัน แต่ละทีมจะได้คะแนนเมื่อ กฎข้อที่ 9 การเล่นลูกบอล การถูกลูกบอล คือการกระทําใดๆ โดย ผู้เล่นที่อยูในการเล่นทุกลักษณะ ซึ่ง แต่ละทีมสามารถถูกลูกได้มากที่สุด 3 ครั้ง (นอกจากทําการบล็อก) เพื่อส่ง ลูกกลับไปยังทีมตรงข้าม ถ้าถูกลูก มากกว่านี้ถือว่าทําผิดกติกา และผู้เล่น คนหนึ่งจะไม่สามารถถูกลูกบอล 2 ครั้ง ติดต่อกันได้ *ลูกบอลตกลงบนพื้นสนามในแดนของทีมตรงข้าม *ฝ่ายตรงข้ามทําผิดกติกา *ฝ่ายตรงข้ามถูกทําโทษ


7


8 อุปกรณ์ ในการเล่น ball Shose


9 STYLE


10 นักกีฬา พิมพิชยา ก๊กรัมย์


11 thaiza menezese Brenda Castillo


12


basketball 13


14 ประวัติ บาสเกตบอล การถือกำ เนิดขึ้นของกีฬาบาสเกตบอล เกิดขึ้นที่เมืองสปริงฟีลด์ รัฐแมสซาชูเซต ส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อ ค.ศ. 1891 (พ.ศ. 2434) โดย ดร.เจมส์ ไนสมิธ อาจารย์พละศึกษาของโรงเรียนคนงาน คริสเตียน ช่วงฤดูหนาว พร้อมกับกำ หนดกติกา 5 ข้อ สำ หรับการเล่น 1. ต้องใช้มือเล่นลูกบอล 2. แต่ห้ามถือบอลวิ่ง 3. ผู้เล่นสามารถยืนได้ทุกพื้นที่ ของสนาม 4. ผู้เล่นห้ามปะทะหรือถูกตัว กัน 5. จะมีห่วงติดตั้งไว้เหนือพื้น สนามกับเส้นเขตสนาม สูงจากพื้น ประมาณ 10 ฟุต ปัจจุบันเป็นวิทยาลัยสปริงฟีลด์ ต้องการให้มีการแข่งขันกีฬาในร่ม


15 ต่อมา ดร.ไนสมิธ ได้กำ หนดหลักการเล่นเพิ่มเติม จำ นวน 13 ข้อ ซึ่งกลายเป็นก ติกาพื้นฐานของบาสเกตบอลในปัจจุบัน ได้แก่ 1. สามารถโยนลูกบอลไปที่อื่นด้วยมือทั้ง 2 ข้างหรือมือเดียว 2. สามารถตีลูกบอลได้ทั้งมือเดียวหรือ 2 มือ แต่ห้ามใช้กำ ปั้นทุบบอล 3. ห้ามถือลูกบอลวิ่ง 4. ต้องถือลูกบอลด้วยมือ แขน หรือลำ ตัว แต่ห้ามดึงลูกบอล 5. ห้ามดัน ผลัก ฝ่ายตรงข้าม 6. การกระทำ ตามข้อ 3-5 ถือว่าเป็นการ ฟาวล์ 7. หากผู้เล่นทีมเดียวฟาวล์ติดต่อกัน 3 ครั้ง ให้นับคะแนนแก่ฝ่ายตรงข้าม


16 8. นับคะแนนเมื่อลูกบอลเข้าห่วงไปแล้ว หรือยังค้างที่ก้านห่วง แต่ถ้าผู้เล่นฝ่าย ป้องกันไปสัมผัสหรือกระทบประตูก็นับ คะแนนให้เช่นกัน 9. หากลูกบอลออกนอกสนามให้ส่ง บอลเข้ามาเล่นในจุดที่บอลออก 10. กรรมการผู้ร่วมตัดสิน (Umpire) มีหน้าที่คอยจดบันทึกการฟาวล์ และ คอยช่วยผู้ตัดสินในด้านสถิติต่าง ๆ ทำ ให้ตัดสินได้ถูกต้องมากขึ้น 11. ผู้ตัดสิน (referee) มีหน้าที่ตัดสินในสนามในจังหวะต่าง ๆ, จับเวลา, ให้คะแนน เมื่อเกิดการทำ แต้ม, บันทึกคะแนน ฯลฯ 12. การแข่งขันแบ่งเป็น 2 ครึ่ง ครึ่งละ 5 คะแนน โดยมีเวลาพักครึ่ง 5 นาที 13. เมื่อจบการแข่งขัน ฝ่ายใดทำ แต้มได้มากกว่าเป็นฝ่ายชนะ แต่ถ้าเสมอกันก็ต้อง เล่นต่อจนกว่าจะมีฝ่ายใดทำ แต้มได้


17 นอกจากนี้ ดร.ไนสมิธ ยังเป็นผู้เริ่มผลักดันบาสเกตบอลให้เป็นกีฬาระดับ มหาวิทยาลัย จนสามารถตั้งเป็นลีกระดับมหาวิทยาลัยได้ในปี ค.ศ. 1938 (พ.ศ. 2481) ต่อมา ค.ศ. 1946 (พ.ศ. 2489) บาสเกตบอลเอ็นบีเอ จึงได้ถือกำ เนิดขึ้น ซึ่ง ถือเป็นการแข่งขันระดับอาชีพที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน celtics


18 กติกา บาสเกตบอล สนามที่ใช้ในการแข่งขัน มีขนาดทั้งหมด 28 คูณ 15 เมตร ขณะ ที่ในกรอบเขตโทษมีรัศมีเมื่อนับจาก แป้นบาสยาว 6.25 เมตร ลูกบาสเกตบอล มีเส้นรอบวงประมาณ 30 นิ้ว (76 เซนติเมตร) มีน้ำ หนักประมาณ 1 ปอนด์ (600 กรัม) แป้นบาสเกตบอลและห่วง 10 ฟุต (3.05 เมตร) เมื่อนับจากพื้นไป ถึงขอบห่วง และตัวแป้นนี้จะถัดเข้ามา จากเส้นหลัง 4 ฟุต (1.2 เมตร) จำ นวนผู้เล่น มีผู้เล่นฝั่งละ 5 คน ส่วนตัวสำ รองสูงสุดทีมละ 7 คน ซึ่งการเปลี่ยนตัวนั้น สามารถเปลี่ยนตัวได้ไม่จำ กัด โดยจะเปลี่ยนได้ในช่วงที่บอลตายเท่านั้น


19 วิธีการและข้อบังคับในการเล่น - ต้องเคลื่อนที่ลูกบอลไปข้างหน้าด้วยการเลี้ยงลูกด้วยมือข้างเดียว คือให้ลูก กระเด้งพื้นขณะที่วิ่ง และมือจะต้องอยู่เหนือลูกเท่านั้น หากอยู่ในองศาอื่นถือว่า เป็นการถือลูก นอกจากนี้ยังห้ามเตะหรือชกลูกบาสเกตบอลอีกด้วย - หากนำ บอลขึ้นมาอยู่ในแดนฝั่งตรงข้ามได้แล้ว ห้ามส่งลูกกลับเข้าแดนตัวเอง - ภายใน 8 วินาทีที่ได้บอล ผู้เล่นจะต้องนำ ลูกเข้าสู่แดนฝ่ายตรงข้ามให้ได้ และต้อง ชู้ตภายใน 24 วินาที - หากผู้เล่นคนใดคนหนึ่งฟาวล์รวม 5 ครั้ง ภายในเกม ผู้เล่นคนนั้นจะไม่สามารถ เล่นเกมนั้นได้อีก ต้องออกจากสนาม เรียกว่า (foul out) เวลาที่ใช้ในการแข่งขัน แบ่งเป็น 4 ควอเตอร์ต่อเกม ควอเตอร์ ละ 10-12 นาที แล้วแต่ประเภทของการ แข่งขัน การนับคะแนน หลักการเล่นที่สำ คัญที่สุดของกีฬา บาสเกตบอล นั่นคือ การทำ แต้มด้วย การโยนลูกบอลเข้าห่วงของคู่แข่งให้ มากกว่า และพยายามป้องกันไม่ให้คู่ แข่งโยนลูกบอลเข้าห่วงของตัวเอง โดยที่ การโยนลูกบอลเข้าห่วงในพื้นที่นอก เขตโทษจะได้ 3 คะแนน, ในเขตโทษได้ 2 คะแนน และจุดโทษได้ 1 คะแนน


20 อุปกรณ์


21


22 นักบาส stephan kerry lebron james


23 micheal jordan james harden


24 FOOTBALL FOOTBALL FOOTBALL


25 ประวัติ ฟุตบอล ประวัติฟุตบอล (Football) หรือซอคเก้อร์ (Soccer) เป็นกีฬาที่มีผู้สนใจที่จะชมการแข่งขันและเข้า ร่วมเล่นมากที่สุดในโลก ชนชาติใดเป็นผู้กำ เนิด กีฬาชนิดนี้อย่างแท้จริงนั้นไม่อาจจะยืนยันได้ แน่นอน เพราะแต่ละชนชาติต่างยืนยันว่าเกิดจาก ประเทศของตน แต่ในประเทศฝรั่งเศสและประเทศ อิตาลี ได้มีการละเล่นชนิดหนึ่งที่เรียกว่า “ซูเลอ” (Soule) หรือจิโอโค เดล คาซิโอ (Gioco Del Calcio) มีลักษณะการเล่นที่ คล้ายคลึงกับกีฬาฟุตบอลในปัจจุบัน ทั้งสองประเทศอาจจะถกเถียงกันว่า กีฬา ฟุตบอล ถือกำ เนิดจากประเทศของตน อันเป็นการหาข้อยุติไม่ได้ เพราะขาดหลัก ฐานยืนยันอย่างแท้จริง ดังนั้น ประวัติของกีฬาฟุตบอล ที่มีหลักฐานที่แท้จริงสามารถจะอ้างอิงได้ เพราะ การเล่นที่มีกติกาการแข่งขันที่แน่นอน คือประเทศอังกฤษเพราะประเทศอังกฤษตั้ง สมาคมฟุตบอลในปี พ.ศ. 2406 และฟุตบอลอาชีพของอังกฤษเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2431


26 กีฬาฟุตบอล มีวิวัฒนาการไปพร้อมกับความเจริญก้าวหน้าของมนุษย์ตลอดมา ต้นกำ เนิดกีฬาตะวันออกไกลจะได้รับอิทธิพลมาจากสงครามครั้งสำ คัญ ๆ เช่น สงครามพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช ได้นำ เอา “แกลโล-โรมัน” (Gello-Roman) พร้อมกีฬาต่างๆ เข้ามาสู่เมืองกอล (Gaul) อันเป็นรากฐานส่วนหนึ่งของกีฬา ฟุตบอลในอนาคต และการเล่นฮาร์ปาสตัม (Harpastum) ได้ถูกดัดแปลงมาเป็น กีฬาซูเลอ


27 กฎ กติกา กฎข้อที่ 1 สนามฟุตบอล สนาม เป็นสนามหญ้ารูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ความกว้างตำ ่สุด 50 หลา สูงสุด 100 หลา ความยาวต่ำ สุด 100 หลา สูงสุด 130 หลา กฎข้อที่ 2 ลูกฟุตบอล เป็นทรงกลม ทำ จากหนัง หรือวัสดุอื่น ๆ มีความยืดหยุ่น ตามความเหมาะสมที่ไม่ เป็นอันตรายต่อผู้เล่น เป็นฟุตบอลเบอร์ 5 มีเส้นรอบวงประมาณ 68-70 เซนติเมตร นำ ้หนักประมาณ 410-450 กรัม กฎข้อที่ 3 จำ นวนผู้เล่น จำ นวนผู้เล่นแต่ละทีม ลงได้สูงสุด 11 คน หนึ่งในนั้นเป็นผู้รักษาประตู และแต่ละ ทีมประกอบด้วยผู้เล่นตัวจริงและตัว สำ รอง ผู้เล่นตัวจริงจะเป็นผู้เล่นชุดแรก ที่ลงสนาม ส่วนผู้เล่นตัวสำ รองมีไว้เพื่อ สับเปลี่ยนกับผู้เล่นตัวจริงในกรณีที่ผู้เล่น ตัวจริงไม่สามารถเล่นได้หรือกรณีอื่น ๆ ตามความเหมาะสมหรือตามแต่ดุลยพินิจ ของผู้จัดการทีม (โดยการแข่งขันเพื่อจุด ประสงค์ในการคว้าแชมป์จะเปลี่ยนได้ 3 คนเท่านั้น และเมื่อ 18 มีนาคม 2559 ที่ ผ่านมา ฟีฟ่ามีมติเห็นชอบให้เปลี่ยนตัว สำ รองคนที่ 4 ได้ในช่วงต่อเวลาพิเศษ แต่ ถ้าเป็นการแข่งขันกระชับมิตรหรือเฉลิม ฉลองสร้างความสัมพันธ์จะมีการเปลี่ยน ตัวไม่จำ กัด) ผู้เล่นตัวจริงที่ลงสนามต้อง มีไม่ต่ำ กว่า 7 คน และไม่เกิน 11 คน และ หนึ่งในนั้นจะต้องมีผู้เล่นตำ แหน่งผู้รักษา ประตู 1 คน, ตัวสำ รองสามารถมีได้ไม่ เกิน 7 คน ถ้าเป็นการแข่งทั่วไป หรือเชื่อม ความสัมพันธ์ สามารถกำ หนดจำ นวน ตัวสำ รองได้ โดยต้องแจ้งให้กรรมการ ทราบก่อนการแข่งขัน


28 กฎข้อที่ 4 ระยะเวลาการแข่งขัน ช่วงเวลาของการแข่งขัน (Periods of Play) การแข่งขันแบ่งออกเป็น 2 ครั้ง ครั้ง ละ 45 นาทีเท่ากัน การรักษาเวลาเป็นหน้าที่ของผู้รักษาเวลา ซึ่งมีหน้าที่ตามที่ กำ หนดไว้ในกติกา 7ข้อ ระยะเวลาของการแข่งขันแต่ละครึ่งเวลา อาจจะมีการเพิ่ม การเตะโทษ ณ จุดโทษ เวลานอก (Time-out) ทั้งสองทีมมีสิทธิ์ขอเวลานอกเป็นระยะเวลา 1 นาที ได้ใน แต่ละครึ่งเวลา ภายใต้เงื่อนไขดังต่อไปนี้ 1. ผู้ฝึกสอนเท่านั้นที่มีสิทธิ์ในการขอเวลานอก 1 นาที จากผู้รักษาเวลา 2. การขอเวลานอก 1 สามารถร้องขอได้ตลอดเวลา แต่จะให้เวลานอก ก็ต่อเมื่อทีม ได้เป็นฝ่ายครอบครองบอล (ส่งลูกบอลเข้าเล่น) 3. ผู้รักษาเวลาต้องแสดงการอนุญาตสำ หรับการขอเวลานอกของทีม เมื่อลูกบอล อยู่นอกการเล่นโดยการใช้เสียงสัญญาณอื่น ๆ ที่แตกต่างจากเสียงสัญญาณ นกหวีดของผู้ตัดสินที่ใช้อยู่ 4. เมื่ออนุญาตให้เป็นเวลานอก ผู้เล่นทุกคนต้องรวมกันอยู่ในสนามแข่งขัน ถ้าต้อง ได้รับคำ แนะนำ จากเจ้าหน้าที่ทีม จะกระทำ ได้เฉพาะที่เส้นข้างบริเวณด้านหน้าที่นั่ง สำ รองของทีมตนเอง ผู้เล่นทุกคนต้องไม่ออกไปนอกสนามแข่งขัน เช่นเดียวกันกับ เจ้าหน้าที่ทีมที่ต้องให้คำ แนะนำ จะต้องไม่เข้าไปในสนามแข่งขัน 5. ถ้าทีมไม่ใช้สิทธิ์ในการขอเวลานอกในครึ่งเวลาแรก จะไม่สามารถนำ ไปทดแทน ในครึ่งเวลาหลังได้ พักครึ่งเวลา (Half - time Interval) การพักครึ่งเวลาต้องไม่ เกิน 15 นาที ข้อตกลง (Decisions) ถ้าไม่มีผู้รักษาเวลา ผู้ฝึกสอนต้องร้องขอเวลานอกได้จากผู้ตัดสิน ถ้าระเบียบการแข่งขันระบุให้มีการต่อเวลาพิเศษ ในกรณีที่การแข่งขันในเวลาปกติ ถ้าผลการแข่งขันจบลงด้วยการเสมอกัน การแข่งขันในระหว่างการต่อเวลาพิเศษ ของการแข่งขัน จะไม่มีการขอเวลานอก


29 กฎข้อที่ 5 วิธีนับคะแนน ถ้าลูกฟุตบอลลอยข้ามเส้นประตูเต็มใบ โดยการเล่นลูกที่ถูกกติกา (ได้แก่การใช้ เท้าหรือศีรษะ) ถือว่าได้ 1 คะแนน (ใน ภาษาฟุตบอลเรียกว่า 1 ประตู) อย่างไร ก็ดี มักมีคนเข้าใจผิดว่าการได้คะแนน คือ การที่ลูกบอลสัมผัสกับตาข่ายหลัง เส้นประตู ซึ่งจริง ๆ แล้วตาข่ายไม่มีส่วน เกี่ยวข้องกับกติกาฟุตบอล มีไว้เพื่อ รองรับลูกบอลที่เข้าประตูแล้วเท่านั้น กฎข้อที่ 6 ฟาวล์ ผู้เล่นคนใดเจตนากระทำ ผิดข้อหนึ่งข้อ ใด ดังต่อไปนี้ เตะ หรือ พยายามจะเตะคู่ต่อสู้ ขัดขาคู่ต่อสู้ คือทำ หรือพยายามจะ ทำ ให้คู่ต่อสู้ล้มลงด้วยการใช้ขา หรือ ด้วยการหมอบลงข้างหน้าหรือข้างหลัง กระโดดเข้าหาคู่ต่อสู้ ชนคู่ต่อสู้อย่างรุนแรง ชนคู่ต่อสู้ข้างหลัง นอกจากคู่ต่อสู้นั้น เจตนากีดกัน ทำ ร้าย หรือพยายามจะทำ ร้ายคู่ต่อสู้ หรือถ่มน้ำ ลายรดคู่ต่อสู้ ฉุด ดึง คู่ต่อสู้ ผลัก ดัน คู่ต่อสู้ เล่นด้วยมือ คือ ทุบ ต่อย ปัด เตะลูก ด้วยมือ หรือแขน กฎข้อที่ 7 ฟรีคิก การเตะฟรีคิกจะเกิดขึ้นต่อเมื่อผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามทำ ฟาวล์หรือล้ำ หน้าตั้งแต่จุด ที่ทำ ฟาวล์หรือตำ แหน่งล้ำ หน้า โดยจะผู้เล่นตั้งเตะลูกฟรีคิกตรงจุดที่ผู้เล่นฝ่าย ตรงข้ามทำ ฟาวล์หรือตำ แหน่งล้ำ หน้า


30 อุปกรณ์


31 football


32 นักกีฬา messi ronaldo


33 mbappe nemar


34


35 Badminton


36 ประวัติ แบดมินตัน กีฬาแบดมินตัน เริ่มต้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 7 ในประเทศจีน จากหลักฐานของภาพวาดเก่า ๆ ซึ่ง บ่งบอกว่ามีการใช้ขนไก่ มาทำ เป็นลูกขนไก่ใช้ใน การเล่น โดยชาวจีนนำ อีแปะที่มีรู แล้วใช้ขนไก่หลาย เส้นเสียบผ่านรูอีแปะสองสาม อันให้อีแปะ เป็นตัว ถ่วงน้ำ หนัก ใช้ เชือกมัด ตรงปลายเอาไว้ไม่ให้หลุด เวลาเล่นจะตั้งวง เล่นกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป หรือ จะเล่นพร้อมกัน 3-4 คน ใช้เท้าเตะกันไปมาทำ นองเดียวกันกับที่คนไทยเล่นตะกร้อ ล้อมวง และใน คริสต์ศตวรรษที่ 13 ปรากฏหลักฐานว่า ชาวอินเดียนแดงใน ทวีปอเมริกาใช้ขนไก่หรือ ขนนก เสียบมัดติดกับก้อนกลม ให้ปลายหางของขนไก่ ชี้ไปทางเดียวกันเป็นพู่กระจายออกด้านหลัง เวลาเล่นใช้มือจับก้อนกลมแล้วปา ไปยังผู้เล่นอื่น ๆ ให้ช่วยกันจับ ตลอดจนช่วงที่กล่าวมานี้ ยังไม่มีการใช้แร็กเกต หรือ อุปกรณ์อื่น ๆ ตีปะทะลูกขนไก่ แต่ใช้มือ หรืออวัยวะอื่น ๆ แทน จนกระทั่งใน ศตวรรษที่ 14 ชาวญี่ปุ่นได้มีการใช้ขนไก่ อเมริกาตอนใต้ใช้หญ้าฟางพันขมวดเข้า ด้วยกันจนเป็นก้อนกลม แล้วใช้ขนไก่หรือขนนกเสียบผูกติดกับหัวไม้ แล้วใช้ไม้แป้นที่ ทำ จากไม้กระดาน สลักด้วยลวดลายหรือรูปภาพหวดเจ้าลูกขนไก่ไปมา นับว่าเป็น วิวัฒนาการในรูปลักษณ์ของการเล่นแบดมินตันที่ใกล้เคียงกับยุคปัจจุบันมากที่สุด โดยมีการใช้แร็กเกตตีลูกขนไก่แทนการใช้อวัยวะของร่างกาย


37 คริสต์ศตวรรษที่ 14 ชาวญี่ปุ่น ได้มีการใช้ขนไก่ หรือขนนก เสียบผูกติดกับหัวไม้ และใช้ไม้ตี ลูกขนไก่นั้น โดยไม้ที่ใช้ตีทำ มา จากไม้กระดาน ตีลูกขนไก่ไป มานับว่าเป็นวิวัฒนาการในรูป ลักษณ์ของการเล่นแบดมินตันที่ ใกล้เคียงกับยุคปัจจุบันมากที่สุด โดยมีการใช้แร็กเกตตีลูกขนไก่ แทนการใช้อวัยวะของร่างกาย คริสต์ศตวรรษที่ 17 ตอนปลาย โดยเฉพาะใน ประเทศอังกฤษ จากภาพน้ำ มัน หลายภาพได้ยืนยันว่า กีฬาแบดมินตัน เล่นกันอย่างแพร่หลายใน พระราชวงศ์ของ ราชสำ นักต่างๆ ในทวีปยุโรป โดยอาจเรียกชื่อต่าง ๆ กัน อาทิ พระราชินีคริสตินา แห่งสวีเดนทรงจำ ลองไม้แบดมินตันมาจากแร็กเกตในกีฬาเทนนิส และใช้ขนไก่หรือ ขนนกเสียบติดกับหัวไม้ก๊อก เจ้าฟ้าชายเฟรดเดอริค มงกุฎราชกุมารแห่งเดนมาร์ก ทรงแบดมินตันในลักษณะเดียวกัน แต่ในตอนนั้นเรียกแบดมินตันว่า “แบตเทิลดอร์ กับลูกขนไก่” สมัยศตวรรษที่ 18 กษัตริย์ของปรัสเซีย เฟรดเดอริคมหาราช และพระเจ้าหลาน


38 ประวัติของ กีฬาแบดมินตัน มีบันทึกไว้ที่สามารถอ้างอิงได้ ในปี พ.ศ. 2413 (ค.ศ. 1870) ที่ประเทศอังกฤษ โดยมีเรื่องเล่าว่า นายทหารคนหนึ่งที่ไปประจำ การอยู่ในเมืองปูนา ประเทศอินเดีย (Poona เป็นเมืองเล็กๆ ห่างจากเมืองบอม เปย์ประมาณ 50 ไมล์) ได้เห็นกีฬาที่รวมการเล่นสองอย่างเข้าด้วยกันคือ การ เล่นปูนาของประเทศอินเดีย และการเล่นไม้ตีกับลูกขนไก่ (Battledore Shuttle Cock) ของยุโรป ในระยะแรกๆ การเล่นจะเล่นกันเพียงแต่ในหมู่นายทหาร ของกองทัพ และสมาชิกชนชั้นสูงของอินเดีย จนกระทั่งนายทหารอังกฤษที่ไป ประจำ การอยู่ที่เมืองปูนา นำ กลับไปเล่นในอังกฤษ ณ คฤหาสน์ แบดมินตัน ขอ งดยุคแห่งบิวฟอร์ด ที่กล๊อสเตอร์เชอร์ ในปี พ.ศ. 2416 (ค.ศ. 1873) เกมกีฬาตี ลูกขนไก่จึงถูกเรียกว่า แบดมินตัน ตามชื่อของสถานที่นับตั้งแต่นั้นมา


39 กติกา แบดมินตัน 1. สนามและอุปกรณ์สนาม 1.1 สนามจะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืน ผ้าประกอบด้วยเส้นกว้างขนาด 40 มิลลิเมตร ตามภาพผัง ก. 1.2 เส้นทุกเส้นต้องเด่นชัด และ ควรทาด้วยสีขาวหรือสีเหลือง 1.3 เส้นทุกเส้นเป็นส่วนประกอบ ของพื้นที่ซึ่งกำ หนดไว้ 1.4 เสาตาข่ายจะต้องสูง 1.55 เมตรจากพื้นสนาม และตั้งตรงเมื่อขึงตาข่ายให้ตึง ตามที่ได้กำ หนดไว้ในกติกา ข้อ 1.10 โดยที่จะต้องไม่มีส่วนหนึ่งส่วนใดของเสายื่น เข้ามาในสนาม (เฉพาะรายการที่รับรองโดย IBF จะต้องใช้ระเบียบนี้ จนกระทั่ง 1 สิงหาคม พ.ศ. 2547 ทุกรายการที่แข่งขันจะต้องยึดตามระเบียบนี้) 1.5 เสาตาข่ายจะต้องตั้งอยู่บนเส้นเขตข้างของประเภทคู่ ตามที่ได้แสดงไว้ในภาพ ผัง ก. โดยไม่ต้องคำ นึงว่าจะเป็นประเภทเดี่ยวหรือเล่นคู่ 1.6 ตาข่ายจะต้องถักด้วยเส้นด้ายสีเข้ม และมีขนาดตากว้างไม่น้อยกว่า 15 มิลลิเมตร และไม่เกิน 20 มิลลิเมตร 1.7 ตาข่ายต้องมีความกว้าง 760 มิลลิเมตร และความยาวอย่างน้อย 6.1 เมตร 1.8 ขอบบนของตาข่ายต้องมีแถบผ้าสีขาวพับสอง ขนาดกว้าง 75 มิลลิเมตร ทับ บนเชือกหรือลวดที่ร้อยตลอดแถบผ้าขาว 1.9 เชือกหรือลวดต้องมีขนาดพอที่จะขึงให้ตึงเต็มที่กับหัวเสา 1.10 สุดขอบบนตาข่ายต้องสูงจากพื้นที่ตรงกึ่งกลางสนาม 1.524 เมตร และ 1.55 เมตร เหนือเส้นเขตข้างของประเภทคู่ 1.11 ต้องไม่มีช่องว่างระหว่างสุดปลายตาข่ายกับเสา ถ้าจำ เป็นต้องผูกร้อยปลาย ตาข่ายทั้งหมดกับเส


40 2. ลูกขนไก่ 2.1 ลูกขนไก่อาจทำ จากวัสดุธรรมชาติ หรือวัสดุสังเคราะห์ ไม่ว่าลูกนั้นจะทำ จากวัสดุชนิดใดก็ตาม ลักษณะวิถีวิ่ง ทั่วไป จะต้องเหมือนกับลูกซึ่งทำ จากขน ธรรมชาติ ฐานเป็นหัวไม้ก๊อก หุ้มด้วย หนังบาง 2.2 ลูกขนไก่ต้องมีขน 16 อัน ปัก อยู่บนฐาน 2.3 วัดจากปลายขนถึงปลายสุด ของฐาน โดยความยาวของขนใน แต่ละลูกจะเท่ากันหมด ระหว่าง 62 มิลลิเมตร ถึง 70 มิลลิเมตร 2.4 ปลายขนแผ่เป็นรูปวงกลม มี เส้นผ่าศูนย์กลางระหว่าง 58 มิลลิเมตร ถึง 68 มิลลิเมตร 2.5 ขนต้องมัดให้แน่นด้วยเส้นด้าย หรือวัสดุอื่นที่เหมาะสม 2.6 ฐานของลูกต้องมีเส้นผ่า ศูนย์กลาง 25 มิลลิเมตร ถึง 28 มิลลิเมตร และส่วนล่างมนกลม


41 8. การเปลี่ยนข้าง 8.1 ผู้เล่นจะเปลี่ยนข้าง :- 8.1.1 หลังจากจบเกมที่ 1 8.1.2 ก่อนเริ่มเล่นเกมที่ 3 (ถ้ามี) และ 8.1.3 ในเกมที่ 3 หรือในการแข่งขันเกม เดียว เมื่อคะแนนนำ ถึง 6 คะแนน สำ หรับ เกม 11 คะแนน / 8 คะแนน สำ หรับเกม 15 คะแนน 8.2 ถ้าผู้เล่นลืมเปลี่ยนข้างตามที่ได้ระบุ ไว้ในกติกาข้อ 8.1 ผู้เล่นต้องเปลี่ยนข้าง ทันทีที่รู้ตัวและลูกไม่อยู่ในการเล่น และให้ นับนับคะแนนต่อจากคะแนนที่ได้ในขณะ นั้น 9. การส่งลูก 9.1 ในการส่งลูกที่ถูกต้อง 9.1.1 ทั้งสองฝ่ายต้องไม่ประวิงเวลาให้ เกิดความล่าช้าในการส่งลูกทันทีที่ผู้ส่ง ลูก และผู้รับลูกอยู่ในท่าพร้อมแล้ว 9.1.2 ผู้ส่งลูกและผู้รับลูก ต้องยืนใน สนามส่งลูกทะแยงมุมตรงข้ามโดยเท้าไม่ เหยียบเส้นเขตของสนามส่งลูก


42 อุปกรณ์


43


44 นักกีฬา victor peter saina


Click to View FlipBook Version