2 วัตถุประสงค์ของการปลุกพืชบนที่สูง 1. ปลูกพืชเมืองหนาวที่ไม่สามารถปลูก ในที่อื่นได้ 2. ปลูกพืชที่ทำให้ได้คุณภาพของผลิตผล และผลประโยชน์ดีขึ้น 3. ปลูกพืชนอกฤดู 4. ปลูกพืชเพื่อผลิตเมล็ดหรือหัวพันธุ์ ในบรรดาพืชต่างๆ ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ มีพืชเมืองหนาวชนิดหนึ่งที่น่าสนใจเป็นพิเศษ ได้แก่ไม้ผลเขต หนาวชนิดผลัดใบ ไม้ผลชนิดนี้มีถิ่นกำเนิดในเขตหนาว จึงมีลักษณะทางสรีรวิทยาผิดแผกไปจากพืชเมืองร้อน อย่างมาก แต่การค้นคว้าวิจัยเป็นเวลานานพอสมควร ทำให้ประเทศไทยสามารถปลูกไม้ผลเขตหนาวผลัดใบได้ หลายชนิดบนที่สูงของประเทศไทย เช่น แอปเปิล สาลี่ ท้อพันธุ์ดี หรือพีช พลัม บ๊วย และพลับ เป็นต้น ความพยายามที่จะปลูกไม้ผลดังกล่าวนี้ เกิดจากความต้องการที่จะลด หรือทดแทนการสั่งเข้าผลไม้ ต่างประเทศ และความต้องการที่จะหาพืชยืนต้น ที่ทำรายได้ดีทดแทนรายได้จากการปลูกฝิ่น นอกจากนั้นไม้ ผลซึ่งเป็นไม้ยืนต้นนี้ จะช่วยให้ชาวเขาตั้งหลักแหล่งอยู่กับที่ โดยไม่จำเป็นจะต้องเคลื่อนย้ายทำไร่เลื่อนลอย อีกต่อไป นอกจากนี้ ยังมีประโยชน์ในแง่ของการรักษาต้นน้ำลำธารอีกด้วย ไม้ผลเขตหนาวชนิดผลัดใบจะมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วในฤดูร้อน พอถึงปลายฤดูร้อน ตาที่อยู่ ตรงซอกของก้านใบจะมีการพักตัว การพักตัวของตานี้ จะต้องอาศัยความหนาวเย็นในฤดูหนาวที่เพียงพอ มา ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสรีรวิทยา การพักตัวจึงจะสลายหมดสิ้นไป และเป็นเหตุให้ตานั้นเจริญออกมาได้ ขบวนการ นี้เรียกว่า "การแตกตา" อย่างไรก็ตามถ้าตาที่พักตัวไปแล้ว ไม่ได้รับความหนาวเย็นอย่างพอเพียง นั่นคือ ฤดูหนาวไม่หนาวพอ ตาจะไม่สามารถแตกออกมาได้ ต้นไม้ก็จะมีการเจริญเติบโตน้อย และในที่สุดก็ ต้องตายไป ด้วยเหตุนี้จึงไม่สามารถปลูกไม้ผลเขตหนาวในพื้นที่ต่ำ ซึ่งมีความหนาวเย็นในฤดูหนาวไม่มากนัก
3 ผลไม้เมืองหนาวที่ปลูกในไทย สตรอว์เบอร์รี(strawberry) ภาพที่ 2 สตรอว์เบอร์รี่ พันธุ์: 1. Tioga 2. Sequoia สภาพดินฟ้าอากาศที่เหมาะสม สตรอเบอรี่ ชอบดินร่วนปนทรายมีการระบายนํ้าดี ดินควรมีความเป็นกรดเล็กน้อยประมาณ 5-7 และยัง ต้องการช่วงแสงตํ่ากว่า 11 ชั่วโมง ในการติดผลถ้าอุณหภูมิยิ่งตํ่า จะทําให้การติดดอกออกผลดีขึ้น ระยะปลูก : 25 x 30 เซนติเมตร (10,000 – 12,000 ต้น/ไร่) การขยายพันธุ์: ใช้ไหล การเก็บเกี่ยว : ผลจะเริ่มเก็บเกี่ยวได้เดือนธันวาคมถึงกลางเดือนเมษายน การเก็บเกี่ยวต้องคํานึง ถึงระยะทาง จากแหล่งผลิตไปสู่ตลาด ถ้าระยะทางไกลต้องเก็บผลที่ไม้สุกเต็มที่ เพราะผลเน่าเสียง่าย ผลผลิต : 1,500 กิโลกรัม/ไร่ ราคาผลผลิต 50 บาท/กิโลกรัม สถานการณ์: สตรอเบอรี่ เป็นพืชที่ได้ยอมรับจากเกษตรกรเป็นอย่างดี และมีการขยายพื้นที่ปลูก อย่าง กว้างขวางในบริเวณภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย
4 พลับ (Persimmon) ภาพที่ 3 พลับ พันธุ์: 1. Fuyu 2. Xichu 3. Hyakume 4. Niu Scin สภาพดินฟ้าอากาศที่เหมาะสม พลับ สามารถขึ้นได้ดีตั้งแต่ระดับพื้นราบของจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย จนกระทั่งถึง 1,300-1,400 เมตร จากระดับนํ้าบนภูเขาสูงๆ ซึ่งมีอากาศหนาวเย็นตลอดปีทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดพันธุ์ของพลับนั้นๆ การเลือกพันธุ์ที่ เหมาะสมกับสภาพแต่ละท้องที่ จึงเป็นเรื่องจําเป็นและสําคัญมาก ระยะปลูก : 6 x 6 เมตร (เมตร (44 ต้น/ไร่) การขยายพันธุ์: เตรียมต้นตอ - เพาะเมล็ด ต้นตอที่ใช้คือ พันธุ์เต้าซื่อ และกล้วยฤาษี การเตรียมต้นพันธุ์ - ติดตา - ต่อกิ่ง - เสียบกิ่ง การตัดแต่ง : แบบ open center การเก็บเกี่ยว : ผลจะแก้เก็บเกี่ยวได้ตั้งแต่เดือน กรกฎาคม – กันยายน เก็บเกี่ยวโดยการใช้กรรไกรตัดที่ขั้วผล การผลิต : 3,500 กิโลกรัม/ไร่ ราคาผลผลิต 50-100 บาท/กิโลกรัม
5 สถานการณ์: ปัจจุบันผู้ปลูกขาดความรู้ทางด้านวิชาการต่างๆ เช่น ทางด้านวิชาการต่างๆ เช่น การบ่ม การ แปรรูป ฯลฯ แต่ในอนาคตจะมีการส่งเสริมให้ปลูกและเผยแพร่ความรู้ทางวิชาการให้มาก คาดว่าจะสามารถ ปลูกเป็นการค้า สําหรับบริโภคภายในประเทศ เพื่อลดการนําเข้าได้ บ๊วย (Japanese apricot) ภาพที่ 4 บ๊วย ชื่อวิทยาศาสตร์: Prunus mume พันธุ์: 1. Ping Ting 2. Jien Tow 3. เชียงราย สภาพดินฟ้าอากาศที่เหมาะสม บริเวณที่ปลูกบ๊วย ควรเป็นดินที่มีการระบายนํ้าดี ไม่ต้องการอากาศที่หนาวเย็นมากนัก ไม่ ต้องการอากาศที่หนาวเย็นมากนัก บางพันธุ์สามารถปลูกได้ดีแถบอําเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย และ โป่งแยง จังหวัดเชียงใหม่ส่วนพันธุ์จากต่างประเทศต้องการอากาศที่หนาวเย็นมากกว่า และขึ้นได้ดีใน บริเวณที่มีความสูงจากระดับนํ้าทะเลประมาณ 1,000 เมตร ขึ้นไป ระยะปลูก : 10 x10 เมตร (16 ต้น/ไร่) การขยายพันธุ์: 1. ปักชํา โดยใช้กิ่งจากต้นขนาดเล็ก (1ปีขึ้นไป) 2. ติดตา นิยมทําในช่วงที่พักตัว 3. ตอน ทําในฤดูฝน การตัดแต่ง : 1. แบบ open center
6 2. แบบ modified leader การเก็บเกี่ยว : ผลเริ่มสุกตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม สามารถเก็บผลได้ตลอดทั้งเดือน ทยอยเก็บ วิธีเก็บเกี่ยว - เขย่าต้น - เก็บด้วยมือ สามารถเลือกเก็บเฉพาะลูกที่สุกได้ - ใช้สารเคมี ethephon พ่น การผลิต: 1,440 กิโลกรัม/ไร่ ราคาผลผลิต 25-30 บาท/กิโลกรัม สถานการณ์: ปัจจุบันผลผลิตที่ได้ยังไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาด แต่ในอนาคตคาดว่า พื้นที่ปลูกจะ เพิ่มมากขึ้นและผลผลิตจะเพียงพอต่อความต้องการ และอาจส่งเป็นสินค้าออกไปจําหน่ายต่างประเทศได้ กีวี (Kiwi fruit) ภาพที่ 5 กีวี่ ชื่อวิทยาศาสตร์ Actinidia deliciosa (A. Chev.) C.F.Liang et A.R.Ferguson var. deliciosa อยู่ในวงศ์ ACTINIDIACEAE กีวี เป็นไม้ผลเขตหนาว ถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบเหนือของหุบเขาแยงซี ประเทศสาธารณรัฐ ประชาชนจีน รู้จักกันมานานในชื่อ “ไชนิส กูสเบอรี่” (Chinese gooseberry) แต่ได้ถูกนำไปพัฒนาและปลูก เป็นการค้าที่ประเทศนิวซีแลนด์เป็นแห่งแรกและได้ เปลี่ยนเป็นชื่อ “กีวีฟรุต” เพราะนกกีวีเป็นสัญลักษณ์ของ ประเทศนิวซีแลนด์ กีวีต้องการความหนาวเย็นประมาณ 700-800 ชั่วโมง ดังนั้นพื้นที่ปลูกในประเทศไทยต้องมี ความสูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 1,200 เมตรขึ้นไป ที่น่าสนใจคือ กีวีเป็นพืชที่มีดอกไม่สมบูรณ์เพศ ที่มีดอก เพศผู้และดอกเพศเมียแยกต้นกัน ในการปลูกจึงต้องปลูกต้นที่มีดอกเพศผู้และดอกเพศเมียในบริเวณเดียวกัน
7 สาลี่ (Asian pear) ภาพที่ 6 สาลี่ พันธุ์: 1. Xiang Sui 2. Yokoyama Wase สภาพดินฟ้าอากาศที่เหมาะสม สาลี่ต้องการอากาศที่หนาวเย็นในช่วงฤดูหนาวอย่างเพียงพอ เพื่อทําลายการพักตัวของตาดอกและตาใบ ดังนั้น จึงสามารถปลูกได้ดีในแถบภูเขาสูงๆ ทางภาคเหนือของไทย ตั้งแต่ระดับ 1,000 เมตรขึ้นไป ระยะปลูก : 8 x 8 เมตร (25 ต้น/ไร่) การขยายพันธุ์: การเตรียมต้นตอ - เพาะเมล็ด - ปักชํา - ตอน ต้นตอที่ใช้คือ ต้นตอจากไต้หวัน (Tangli และ Nian li) การเตรียมต้นพันธุ์ - ติดตา - ต่อกิ่ง การตัดแต่ง : นิยมโน้มกิ่งให้ขนาดกับพื้นดินเพื่อให้ต้นแผ่กระจายออกไป จะทําให้แตกกิ่งแขนงและเกิด กิ่งสเปอร์(Spur) ได้รวดเร็ว มีผลให้การติดดอกออกผลเกิดขึ้นได้เร็วขึ้น เรียกการจัดทรงต้นแบบนี้ว่า ทานาชิ ตาแกะ (tanashitake) การเก็บเกี่ยว : ผลจะแก่เก็บได้ประมาณเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม พยายามอย่าทําให้ขั้วหลุดจากผล เพราะจะ ทําให้เสียราคา ผลผลิต : 3,080 กิโลกรัม/ไร่ ราคาผลผลิต 30-80 บาท/กิโลกรัม
8 สถานการณ์: อนาคตจะมีการส่งเสริมให้ปลูกมากขึ้น ช่วยลดการนําเข้าจากต่างประเทศ และกําลังทดลองหา พันธุ์ใหม่ๆเพิ่มเติม แอปเปิล(Apple) ภาพที่ 7 แอปเปิล พันธุ์: 1. Anna 2. Ein Shemer สภาพดินฟ้าอากาศที่เหมาะสม การปลูกแอปเปิลที่จะให้ผลดีนั้น ต้องมีสภาพอากาศที่หนาวเย็นในช่วงฤดูหนาวอย่างเพียงพอ เพื่อทําลายการ พักตัวของตาดอกและตาใบ เช่นเดียวกับสาลี่ความสูงจากระดับนํ้าทะเลที่เหมาะสม คือประมาณ 1,000 เมตร ขึ้นไป ระยะปลูก : 2 x 4 ถึง 4 x 4 เมตร (100-200 ต้น/ไร่) การขยายพันธุ์: การเตรียมต้นตอ - กลบโคน (stooling) - ตอน - ต้นตอที่ใช้คือ MM. 106 การเตรียมต้นพันธุ์ - ติดต่อ - ต่อกิ่ง - เสียบกิ่ง
9 การตัดแต่ง : แบบ central leade หรือ open vase การเก็บเกี่ยว : ทั้งสองพันธุ์จะเก็บได้พร้อมๆกัน ประมาณเดือน มิถุนายน โดยการเก็บผลนั้นจะต้องรอให้ผล แก่เต็มที่เสียก่อน ผลผลิต : 2,000- 8,000 กิโลกรัม/ไร่ สถานการณ์: อนาคตจะมีการส่งเสริมให้ปลูกมากขึ้น เพื่อลดการนําเข้าจากต่างประเทศ องุ่น (Grape) ภาพที่ 8 องุ่น เป็นผลไม้ที่มีรสชาติหวาน กรอบ ซึ่งผลองุ่นจะมีลักษณะเป็นพวง ผลมีหลากหลายลักษณะ ขนาด และสี ภายในผลอาจจะมีเมล็ดหรือไม่มีก็ได้ ขึ้นอยู่กับพันธุ์ ซึ่งในประเทศไทยได้ปลูกองุ่นในแถบภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือบ้างเล็กน้อย และสามารถปลูกได้หลากหลายสายพันธุ์ นอกจากนี้องุ่นยังสามารถแปร รูปเป็น ไวน์องุ่น แยมองุ่น ลูกเกด เป็นต้น อโวคาโด (Avocado) ภาพที่ 9 อโวคาโด
10 เป็นผลไม้ที่มีเนื้อมันเป็นเนย ผลกลมรีหรือทรงลูกแพร์ มีทั้งพันธุ์เปลือกหนา และเปลือกบาง เนื้อสีเขียวออก เหลือง รสมัน เนื้อละเอียด ไม่มีกลิ่น ซึ่งในประเทศไทยสามารถเพาะปลูกอโวคาโดได้หลายสายพันธุ์ โดยปลูก ในภาคเหนือของประเทศไทยเป็นหลัก ทั้งนี้อโวคาโดยังเป็นผลไม้ที่มีสรรพคุณมากมายต่อร่างกาย และสามารถ นำมาเป็นส่วนประกอบในอาหาร และนำมาทำเครื่องดื่มได้อีกด้วย
11 เทคนิคปลูกผักเมืองหนาวนอกฤดูกาล ฤดูร้อน: เมื่ออุณหภูมิโดยรอบสูงเกินกว่าที่พืชเมืองหนาวเหล่านี้จะรับได้ แนะนำให้ใช้ฟางคลุมหน้าดิน เพื่อรักษาความชุ่มชื่นในดิน แต่ถ้าหากว่าอากาศร้อนและมีแสงส่องมามากเกินไป ให้นำกระดาษขาวหรือฟอยล์ อะลูมิเนียมมาคลุมแทน เพื่อสะท้อนแสงแดดออกจากดินช่วยลดอุณหภูมิให้ต่ำลง และยังช่วยรักษาความชุ่มชื่น ของดินได้ดี ฤดูฝน: หากอยู่ในช่วงเพาะเมล็ดในแผงเพาะกล้า เราจะต้องลดแรงกระแทกของน้ำฝนที่ตกลงมาด้วย การนำผ้าดิบหรือฟางมาคลุมหน้าดินไว้ในระหว่างที่ฝนกำลังตก และเปิดรับแสงแดดตอนเช้าหรือตอนเย็น หรือ ช่วงที่ไม่มีฝนตก เพื่อระบายอากาศและป้องกันความอับชื้น แม้ผักเมืองหนาวจะชอบความชื้นในดินขนาดไหน แต่เราก็ต้องดูแลให้ความชื้นนั้นสมดุลด้วยการเลือกดินเนื้อร่วนหรือดินร่วนปนทรายมาปลูก ไม่ให้ดินอุ้มน้ำมาก เกินไปจะช่วยให้ระบายน้ำได้ดี ไม่มีน้ำท่วมขัง หากใครปลูกในแปลงก็ควรก่อดินให้สูงและโปร่งคล้ายหลังเต่า เพื่อไม่ให้มีน้ำขังแถมยังรักษาการกัดเซาะของหน้าดินได้
12 ส่งผลไม้เมืองหนาวบุกตลาดจีน แม้ในปัจจุบันการพัฒนาผลไม้เมืองหนาวของไทย จะมีปัญหาในเรื่องพื้นที่เพาะปลูกที่มีจำกัด และ สภาพอากาศไม่หนาวมากเหมือนต่างประเทศก็ตาม แต่มีความเป็นไปได้เช่นกัน ที่ไทยจะผลิตผลไม้เมืองหนาว ส่งออกไปต่างประเทศ เนื่องจากไทยมีขีดความสามารถในด้านเทคโนโลยีสูง ประกอบกับการที่เกษตรกรของ จีนในพื้นที่ชนบทเริ่มเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรม และมีแนวโน้มสูงที่จีนจะปรับเปลี่ยนจากการเป็นผู้ผลิตสินค้า เกษตรมาเป็นผู้นำเข้า ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาคการเกษตรของไทย อย่างไรก็ตาม การส่งออกผลไม้เมืองหนาวนั้น จะต้องมีการศึกษาวิจัยให้ครอบคลุมในทุกด้าน ทั้งการ ผลิต การแปรรูป และการตลาด เนื่องจากที่ผ่านมายังไม่เคยมีการดำเนินงานอย่างจริงจัง ซึ่งขณะนี้มีเพียงการ ถ่ายทอดส่งเสริมให้ชาวเขาปลูก เพื่อแก้ปัญหาความยากจนเท่านั้น แต่การผลิตเพื่อส่งออกยังไม่มีงบประมาณ ทำการวิจัย ทั้งนี้จากการวิจัยพัฒนาศึกษาพันธุ์ไม้เขตหนาวร่วมกับโครงการหลวงที่ผ่านมา การถ่ายทอดเทคโนโลยี ให้เกษตรกรชาวเขา ถือว่าประสบความสำเร็จ โดยในขณะนี้ผลไม้เมืองหนาวของไทย อาทิ ลูกพีช สตรอเบอรี่ องุ่น และลูกพลับ ส่วนใหญ่จะจำหน่ายภายในประเทศ ซึ่งมีข้อได้เปรียบกว่าผลไม้เมืองหนาวที่นำเข้าจาก ประเทศจีน คือผลผลิตจะออกสู่ตลาดก่อนประมาณ 1-2 เดือน รวมทั้งมีความสดกว่าเพราะใช้ระยะเวลาขนส่ง ไม่นาน ภาพที่ 10 พืชและผลไม้ที่ถูกส่งออกไปยังต่างประเทศ
13 บรรณานุกรม กรมส่งเสริมการเกษตร. (2534). ไม้ผลสำหรับที่สูง. แหล่งที่มา http://eto.ku.ac.th/neweto/ebook/plant/tree_fruit/fruit49.pdf ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว. (2551). สืบค้นจาก หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 4 ธันวาคม 2551. ส่งผลไม้เมืองหนาวบุกตลาดจีน. แหล่งที่มา https://www.phtnet.org/news51/viewnews.asp?nID=779 มูลนิธิโครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน. สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ. พืชที่เหมาะสมสำหรับที่สูง. แหล่งที่มา https://www.saranukromthai.or.th/sub/book/book.php?book=12&chap=4&page=t12-4- infodetail10.html