ศิลปะยุคเมโสโปเตเมีย

บทเรียนโปรแกรมรายวิชา ประวตั ศิ าสตร์ศลิ ปะ รหัสวิชา ศ33102
ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 6

ชดุ ท่ี 3

นายเอนก ตรีภมู ิ

ครู อนั ดับ คศ.3
กลุ่มสาระการเรียนรศู้ ิลปะ โรงเรียนหนองสองห้องวิทยา

สานักงานเขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษามัธยมศกึ ษา เขต 25
สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน

บทเรยี นโปรแกรมรายวชิ า ประวตั ศิ าสตร์ศลิ ปะ รหัสวชิ า ศ33102
ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6

ชดุ ท่ี 3

นายเอนก ตรภี ูมิ

ครู อันดับ คศ.3
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ศิลปะ โรงเรียนหนองสองห้องวิทยา

สานกั งานเขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษามธั ยมศึกษา เขต 25
สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน

มาตรฐานการเรยี นรชู้ ว่ งชน้ั

มาตรฐาน ศ 1.2 เข้าใจความสมั พันธ์ระหวา่ งทัศนศิลป์ ประวตั ศิ าสตรแ์ ละวฒั นธรรม

เห็นคณุ คา่ งานทศั นศลิ ปท์ ่เี ปน็ มรดกทางวฒั นธรรม ภูมิปญั ญาทอ้ งถน่ิ ภูมิปัญญาไทย
และสากล

ตวั ชว้ี ดั ชว่ งชน้ั

ม 4-6/3 อภปิ รายเกย่ี วกบั อทิ ธพิ ลของวฒั นธรรมระหวา่ งประเทศ ที่มผี ลตอ่

งานทัศนศลิ ปใ์ นสงั คม

คาแนะนาในการใชบ้ ทเรยี นโปรแกรม

บทเรียนแบบโปรแกรม เป็นการเรียนรดู้ ว้ ยตนเองของผเู้ รยี น ดงั น้นั นกั เรยี น
ควรจะปฏิบตั ิตามขอ้ แนะนาในการเรยี น จงึ จะทาใหป้ ระสบผลสาเรจ็ ในการเรยี นรู้
ซ่งึ ข้อแนะนามี ดังนี้

1. อ่านและทาความเขา้ ใจในเนอื้ หาของแต่ละกรอบอย่างรอบคอบ
2. ตอบคาถามของแตล่ ะกรอบความรู้ แล้วตรวจสอบคาตอบทปี่ รากฏอยู่ใน

หนา้ ถัดไป
3. คาตอบของนกั เรยี นท่มี ีลกั ษณะใกล้เคยี งกบั คาตอบเฉลยอนโุ ลมใหถ้ ูก
4. ศกึ ษากรอบความรตู้ ามลาดับของเนอื้ หาทจ่ี ดั ให้
5. ไมค่ วรเปดิ ดเู ฉลยกอ่ นตอบคาถาม
6. เมือ่ ศกึ ษาครบทกุ กรอบความรูแ้ ลว้ ใหน้ กั เรยี นทาแบบทดสอบความรู้

ทา้ ยบทเรยี นเพื่อเปน็ การตรวจสอบความร้ทู ี่ได้เรยี นผา่ นไป

กรอบท่ี 1

เมโสโปเตเมยี (Mesopotamia)
เปน็ อารยธรรมเก่าแก่ ที่เกิดข้ึนระหว่างลุ่มแม่นา้ ไทกรีสและยเู ฟรติส โดยทัว่ ไปดินแดน

เมโสโปเตเมยี จะมลี ักษณะภมู ิอากาศร้อนและแห้งแลง้ จะมีเฉพาะบริเวณสองฝั่งของแม่น้าเทา่ นน้ั
ทอี่ ดุ มสมบรู ณ์ อารยธรรมเมโสโปเตเมีย เชอื่ วา่ มีมานานไม่แพอ้ ียปิ ต์ เพราะไม่มหี ลกั ฐานใดๆ
ท่บี ง่ บอกวา่ ไดร้ บั อทิ ธิพลมาจากอียปิ ต์ โดยดินแดนแถบนี้จะประกอบดว้ ยผู้คนหลายเชอื้ ชาติ
เข้ามาตง้ั ชมุ ชนของตนเอง แตท่ เี่ ปน็ ชนชาติทีเ่ ก่าแกท่ ี่สดุ คอื ชนชาตซิ ูเมอร์ และบาบโิ ลเนยี

เมโสโปเตเมีย หมายถงึ
อารยธรรมทเี่ กิดข้ึนในบรเิ วณ

ใด

เฉลยกรอบท1่ี

ลมุ่ แมน่ า้ ไทกรสี และยเู ฟรตสิ

“ถา้ นกั เรยี นตอบผดิ ขอให้ทบทวนกรอบท่ี 1 ใหม่ นะครับ”

กรอบท่ี 2

ซเู มอรแ์ ละบาบโิ ลเนยี (Sumer and Babilonia)
เปน็ ชนชาตทิ ี่มีความเจรญิ รงุ่ เรือง ในดินแดนเมโสโปเตเมียยุคแรกโดยมีถิ่นฐานอยูใ่ กล้กับ

อ่าวเปอร์เซีย ต่อมาอาณาจักรบาบโิ ลเนยี มีความเจรญิ และเป็นปกึ แผ่นมากข้ึน มกี ษัตรยิ ป์ กครอง
สืบทอดกนั มาหลายสมัย แตก่ ษัตริยท์ มี่ ี ชือ่ เสยี ง และได้รบั ยกยอ่ ง มากท่ีสุด ก็คอื พระเจา้ ฮัมมูราบี
เพราะเปน็ ผูท้ รงออกกฎหมาย ทเ่ี ก่าแกท่ ี่สุด ซ่ึงกฎหมายดงั กลา่ วเปน็ กฎหมาย ท่บี นั ทึกดว้ ยอกั ษรล่ิม
หลงั จากทอ่ี าณาจักรบาบิโลเนยี ไดม้ ีความเจรญิ อยนู่ านหลายปี ตอ่ มาได้ถกู พวกฮติ ไตทบ์ ุกเข้ารุกราน
และเข้าครอบครองในเวลาต่อมา

ใครเปน็ ผ้อู อกกฎหมาย
ทเี่ กา่ แกท่ ่ีสดุ ของโลก

เฉลยกรอบที่ 2

พระเจา้ ฮมั มรู าบี

“ถ้านักเรยี นตอบผดิ ขอให้ทบทวนกรอบท่ี 2 ใหม่ นะครบั ”

กรอบท่ี 3

อกั ษรลม่ิ (Cuneiform )
คาวา่ Cuneiform แปลว่า ลมิ่ ชาวซูเมอร์เรียน เป็นชนชาติแรกในเมโสโปเตเมีย

ทีป่ ระดิษฐอ์ ักษรชนิดนี้ข้ึนใช้ ตัวอักษรของชาวซูเมอรเ์ รียนเขียนด้วยก้านอ้อ หรือไมท้ ี่ตดั เป็น
ปลายเหล่ียม แลว้ กดลงบนแผ่นดนิ เหนยี วทย่ี ังออ่ นตวั อยู่ หลังจากนั้นก็นาไปเผาหรือตากแดด
ให้แห้ง

อกั ษรลมิ่ สมัยเมโสโปเตเมีย
บันทึกใส่วสั ดุชนิดใด

เฉลยกรอบที่ 3

แผน่ ดนิ เหนยี ว

“ถ้านักเรยี นตอบผดิ ขอให้ทบทวนกรอบที่ 3 ใหม่ นะครับ”

กรอบท่ี 4

ความเชอื่ และศาสนา
เนื่องจากดินแดนแห่งน้ี มีความรุนแรงทางสภาพภูมิอากาศ ชาวซูเมอรเ์ รียนและบาบิโลเนีย

จงึ มคี วามคดิ เก่ียวกบั ปรากฏการณท์ างธรรมชาตติ ่างๆ วา่ เป็นการกระทาของอานาจลี้ลับ เช่น เช่อื ว่า
พ้ืนดิน ท้องฟ้า แมน่ ้า สายลม ฝน และพืชพันธ์ุตา่ งๆ ล้วนมเี ทพเจ้าสงิ สถิตอยู่ พระจึงกลายเปน็
ตวั แทนเทพเจ้า ดังน้ัน ผู้คนจึงนยิ มนาสิ่งของ ผลผลิตจากการทางานไปถวายพระ ดังน้นั วัดจึง
กลายเปน็ ศูนยก์ ลางของสังคม และความร่ารวย ผลงานศิลปกรรมตา่ งๆ จึงถูกสร้างขึ้นด้วยแรง
ศรัทธาตอ่ ศาสนา และชุมชนของวัดกลายเปน็ ชมุ ชนเมืองและเป็นนครรฐั ตอ่ มาชาวซูเมอรเ์ รยี น
และบาบโิ ลเนยี มีความเคร่งครดั ในศาสนามาก มกี ารนบั ถือเทพเจา้ ตา่ งๆ โดยเฉพาะเทพเจา้ ทาง
ธรรมชาติ

ชาวซูเมอรเ์ รียนมศี ูนย์กลาง
ทางสังคมอย่ทู ใี่ ด

เฉลยกรอบท่ี 4

อยทู่ ว่ี ดั

“ถา้ นักเรยี นตอบผดิ ขอใหท้ บทวนกรอบท่ี 4 ใหม่ นะครับ”

กรอบที่ 5

เทพเจา้ ท่ีสาคญั ไดแ้ ก่
เอน ลลิ (En - Lil) คือ เทพเจ้าผู้สร้าง ผ้คู รองพภิ พ และเปน็ เทพแหง่ พายุ
อนู (Anu) คอื เทพแี หง่ ทอ้ งฟ้า อากาศ และลม
เอ หรอื เอนกิ (Ea or Anki) คือ เทพแหง่ พ้ืนดินและแมน่ า้ เปน็ เทพเจา้ แห่งความดี
ผู้ทรงปญั ญา ผ้สู ร้างสิ่งมีชีวติ ในโลก
ชามาช (Shamash) คือ เทพเจ้าแหง่ ดวงอาทิตย์

เทพเจ้าผู้สร้าง ผู้ครองพภิ พ
คอื ใคร

เฉลยกรอบที่ 5

เอน ลลิ

“ถา้ นักเรียนตอบผิดขอให้ทบทวนกรอบที่ 5 ใหม่ นะครับ”

กรอบท่ี 6

ศลิ ปกรรมซเุ มอรแ์ ละบาบโิ ลเนยี
สถาปตั ยกรรม
สถาปตั ยกรรมมกั จะนยิ มสร้างด้วยอิฐ ชาวซูเมอร์เรียนได้ช่อื ว่าเปน็ ชาตแิ รกที่ใช้อิฐในการ
ก่อสร้าง โดยอิฐของชาวซเู มอรเ์ รียน ทามาจากดินเหนยี วตากแหง้ และต่อมา ไดพ้ ฒั นามาเป็น
อิฐเผา ซ่ึงจะมคี วามคงทนแข็งแรงมากข้ึน สถาปัตยกรรมที่สาคญั ได้แก่ ซิกูรัต (Ziggurat)
สร้างขึ้นเพือ่ ใชป้ ระกอบพิธกี รรมทางศาสนา ก่อสร้างด้วยอิฐตกแตง่ ดว้ ยกระเบอื้ งเคลอื บยกฐานสูง
ข้ึนจากระดบั พืน้ ดิน ข้างบนเป็นวหิ าร ของเทพเจ้า
นอกจากซกิ ูรตั แล้วในยุคบาบิโลเนยี ยงั นยิ มสร้าง ซมุ้ ประตูขนาดใหญ่ และท่มี ีชื่อเสยี งก็คอื
ประตูอีสตาร์ (Ishtar) ซงึ่ ในการกอ่ สร้างจะนาเอาเคร่อื งเคลือบดินเผามา ตกแตง่ ทั้งหมด

ซิกรู ัต (Ziggurat)
สร้างขึ้นเพื่ออะไร

เฉลยกรอบท่ี 6

ใชป้ ระกอบพธิ กี รรมทางศาสนา

“ถ้านักเรยี นตอบผิดขอใหท้ บทวนกรอบท่ี 6 ใหม่ นะครบั ”

กรอบที่ 7

ประตมิ ากรรม
ประตมิ ากรรมของ ชาวซเู มอรแ์ ละบาบโิ ลเนีย นิยมแกะสลักเปน็ แบบนูนสงู และรปู ลอยตวั

เรื่องราวส่วนใหญเ่ ก่ยี วกบั นักรบ กษตั ริย์และเทพเจ้า การแกะสลักมีความนมุ่ นวลกวา่ ของชาวอยี ปิ ต์
และมกี ารแสดงลักษณะกล้ามเน้อื ไมม่ ีการบิดเอย้ี วตัว แต่จะเน้นดวงตาและจมูกใหม้ ขี นาดใหญ่

งานประตมิ ากรรมท่ีสาคัญอีกอย่างก็ คือ ศิลาจารึกของพระเจา้ ฮมั มูราบี โดยแกะบนแผน่ หิน
สดี ารูปสี่เหลีย่ ม มีอกั ษรลิ่มจารึกเป็นประมวลกฎหมายของพระเจา้ ฮมั มูราบี ตอนบนของแผ่นหนิ
เปน็ ภาพพระเจ้าฮัมมรู าบี กาลังยืนยกมือแสดงการคารวะต่อเทพเจ้าชามาส เทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์
ซึ่งกาลงั ประทานกฎหมายใหแ้ กพ่ ระเจ้าฮมั มรู าบี

ประติมากรรมของชาวซูเมอรเ์ รยี น
มกั จะเปน็ เรอื่ งราวเกย่ี วกับอะไร

เฉลยกรอบที่ 7

นกั รบ กษตั รยิ ์ และเทพเจา้

“ถ้านักเรียนตอบผิดขอใหท้ บทวนกรอบท่ี 7 ใหม่ นะครับ”

กรอบที่ 8

จติ รกรรม
ผลงานด้านจติ รกรรมของชาวซูเมอร์และบาบโิ ลเนีย มีนอ้ ยมาก สาเหตุคงเปน็ เพราะ

งานผลงานจติ รกรรมไมส่ ามารถแสดงออกทางความรสู้ กึ ได้เหมือนกบั งานประติมากรรม รูปแบบ
ผลงานจติ รกรรมจะมีลกั ษณะเรียบง่าย การระบายสีไมม่ แี สงเงา นยิ มใชส้ ีขาว นา้ เงิน สีแดงและ
สีดา เรื่องราวจะเก่ยี วกับสงคราม กษตั ริย์ เทพเจ้า และกิจกรรมตา่ งๆ ของนักบวช

เพราะเหตุใดชาวซูเมอร์เรียน
และบาบโิ ลเนยี น จึงไม่นยิ ม

สรา้ งงาน จติ รกรรม

เฉลยกรอบที่ 8

เพราะเขาเชอ่ื วา่ ผลงานจติ รกรรมไมส่ ามารถแสดงความรสู้ กึ ได้

“ถา้ นักเรยี นตอบผิดขอใหท้ บทวนกรอบที่ 8 ใหม่ นะครับ”

กรอบท่ี 9

แอสสเิ รยี (Assyria)
แอสสเิ รีย เปน็ ชนเผ่าเซมิติท่อี ยทู่ างตอนเหนือของดินแดนเมโสโปเตเมยี ซงึ่ ได้รบั ความ

เจรญิ มาจากบาบโิ ลเนยี พระเจา้ ไทกลัลฟิลเลส-เซอร์ ท่ี 1 เปน็ ผูร้ วบรวมและ ก่อตัง้ แอสสิเรีย
และหลุดพ้นจากอานาจการปกครองจากบาบิโลเนยี ต่อมาแอสสิเรียไดเ้ รอื งอานาจขยายอาณาจักร
ครอบคลุมอาณาจักรเมโสโปเตเมยี ทั้งหมด ชาวแอสสิเรยี เปน็ นักรบท่ีมคี วามสามารถและดุร้าย
เปน็ กองทพั ทมี่ ีความพร้อมในเร่ืองการรบมาก เน่อื งจากมอี าวธุ พร้อมเพยี ง

ลกั ษณะพเิ ศษของชาวแอสสิเรียน คือะไร

เฉลยกรอบท่ี 9

เปน็ นกั รบทมี่ คี วามสามารถ และดรุ า้ ย

“ถ้านักเรียนตอบผิดขอให้ทบทวนกรอบท่ี 9 ใหม่ นะครบั ”

กรอบที่ 10

ความเชอื่ และศาสนา
แอสสิเรียนบั ถอื เทพเจ้าเหมือนชนเผ่าอ่ืนๆ ในเมโสโปเตเมยี เทพเจา้ แต่ละองค์จะมี

เครื่องหมาย และเทวลยั เฉพาะตน เทพเจ้าทีส่ าคัญ ไดแ้ ก่
แอสสรุ ะ (Assura) เปน็ หวั หน้าเทพเจ้า และเป็นเทพเจา้ แห่งสงคราม
กลิ กาเมช (Gilgamesh) เทพเจา้ ผูท้ รงพลัง
อสิ ตาร์ (Ishtar) เทพีแห่งความรกั ความงาม
สนิ (Sin) เทพเจ้าแหง่ ราตรกี าล ความเยือกเย็นและการพักผอ่ น
ชามาส (Shamas) เทพเจา้ แหง่ ดวงอาทิตย์

ชาวแอสสเิ รียนยกย่องให้
เทพเจ้าองค์ใดเป็นหวั หน้า

เทพเจ้าทง้ั มวล

เฉลยกรอบท่ี 10

แอสสรุ ะ (Assura)

“ถ้านักเรยี นตอบผดิ ขอให้ทบทวนกรอบที่ 10 ใหม่ นะครับ”

กรอบท่ี 11

ศลิ ปกรรมแอสสเิ รยี
สถาปตั ยกรรม
สถาปตั ยกรรมยงั คงนยิ มก่อสร้างด้วยอิฐ อาคารส่วนใหญ่จะมีลักษณะทบึ ตัน แต่จะมี

ความเจริญก้าวหน้าทางด้านสถาปัตยกรรมมากกวา่ ชาวซูเมอร์และบาบิโลเนีย มีการสร้างประตู
รปู โค้งขนาดใหญ่ หน้าทางเข้าพระราชวัง มีหอคอยสงู ขนานเคยี งข้าง นากระเบื้องเคลอื บสี
มาใชใ้ นการตกแตง่ ตามทางเขา้ นิยมแกะสลักเป็นรูปววั หนา้ เปน็ คนมีหนวดเครา ข้างลาตวั
มปี กี ยืนเป็นยามรักษาการอยู่ทั้งสองข้าง

วสั ดุชนดิ ใดที่ชาวแอสสิเรียน
นามาใชใ้ นการตกแตง่ อาคาร

เฉลยกรอบที่ 11

กระเบอ้ื งเคลอื บสี

“ถา้ นักเรียนตอบผดิ ขอใหท้ บทวนกรอบท่ี 11 ใหม่ นะครับ”

กรอบที่ 12

ประตมิ ากรรม
งานประติมากรรมของแอสสเิ รียสว่ นใหญ่ จะเป็นงานแกะสลักแบบนนู สงู และนนู ต่า

งานแบบลอยตวั มเี พียงเลก็ น้อย เร่อื งราวทแี่ สดงออกมกั เปน็ เรือ่ งเก่ยี วกับสงคราม การต่อสู้
และการล่าสตั ว์ ซึ่งงานเหล่านีบ้ ่งบอกถึงนสิ ัยทด่ี ุร้ายของชาวแอสสเิ รยี รปู แบบการแกะสลัก
จะเปน็ รปู คนปนสตั ว์

ลักษณะเดน่ ของงานประตมิ ากรรมในยคุ นี้ก็คือ มกั จะแสดงกล้ามเน้อื ทชี่ ดั เจนรูปนกั บวช
กจ็ ะมหี นวดเครายาวและผมหยิกเปน็ ลอน ซึ่งบง่ บอกถึงความเหมอื นจริง ผลงานประติมากรรม
ทีม่ ีชื่อเสียง คือ รูปวัวมปี กี ศรี ษะเป็นคน และรูปแกะสลักนูนตา่ สงิ โตตัวเมียบาดเจบ็ ใกลต้ าย
บนตัวสิงโตจะมลี กู ธนูปักอยู่ ซ่ึงแสดงออกถงึ อารมณ์ ความเจบ็ ปวดได้อย่างดีเย่ียม ปัจจุบนั
งานชิ้นนี้อยทู่ ่พี ิพธิ ภัณฑ์กรุงลอนดอน

เรอื่ งราวที่แสดงผ่านงาน
ประติมากรรมของแอสสิเรีย
เน้ือหาสว่ นใหญ่เกย่ี วกบั อะไร

เฉลยกรอบท่ี 12

สงคราม การตอ่ สู้ และการลา่ สตั ว์

“ถา้ นักเรยี นตอบผดิ ขอใหท้ บทวนกรอบที่ 12 ใหม่ นะครับ”

กรอบท่ี 13

จติ รกรรม
งานด้านจิตรกรรมของแอสสิเรยี ปรากฏหลักฐานน้อยมาก สว่ นใหญ่จะเป็นการนาไป

ตกแตง่ งานประติมากรรม และเรือ่ งราวที่แสดงออกก็จะเปน็ ลักษณะเดยี วกนั กับประตมิ ากรรม
คือ เกย่ี วกับการทาสงคราม และการล่าสัตว์

งานจิตรกรรมของชาวแอสสิเรีย
มักจะแฝงอยใู่ นงานประเภทใด

เฉลยกรอบท่ี 13

งานประตมิ ากรรม

“ถ้านักเรยี นตอบผิดขอให้ทบทวนกรอบท่ี 13 ใหม่ นะครับ”

กรอบที่ 14

เปอรเ์ ซยี (Persia)
หลงั จากที่อาณาจักรแอสสิเรียไดเ้ สื่อมอานาจลง ชาวเปอร์เซยี ซึง่ เปน็ ชนชาติอนิ โดยโู รเปยี น

ทีอ่ าศัยอยูท่ างตอนเหนือ ได้สร้างอาณาจักรอยู่ทางตอนเหนอื เทอื กเขาตะวนั ออก กษัตรยิ ์ราชวงศ์
อะเคเมเนยี นของเปอร์เซีย ได้แผ่ขยายอานาจเขา้ ปกครองดินแดนตา่ งๆ ดว้ ยความบ้าคล่ัง แตใ่ น
ยุคน้ไี ดม้ พี ฒั นาการท่ที นั สมัยมากขึ้น มกี ารผลติ เงินเหรยี ญขน้ึ ใช้ นอกจากนั้นยงั ได้ดัดแปลง
ตวั อักษรคูนิฟอร์ม เป็นตัวอกั ษรของชาวเปอรเ์ ซยี มกี ารจัดระบบการปกครอง โดยแบง่ พ้ืนท่เี ป็น
จังหวัด หรือมณฑล ซ่งึ เรียกว่า แซแทรปปี (Satrapy)

เปอร์เซยี เรอื งอานาจ
ต่อจากชนชาตใิ ด

เฉลยกรอบที่ 14

แอสสเิ รยี

“ถ้านักเรยี นตอบผิดขอให้ทบทวนกรอบที่ 14 ใหม่ นะครับ”

กรอบที่ 15

ความเชอื่ และศาสนา
เปอร์เซยี มคี วามเช่ือเกี่ยวกบั ศาสนาที่แตกต่างไปจากชนชาติอ่ืนๆ ในสมัยนั้น กลา่ วคือ

ได้มีบคุ คลทปี่ ระกาศหลักธรรมคาสอน คอื โซโร-เอสเตอร์ โดยสอนใหค้ นตระหนักในการกระทา
ซึ่งเช่ือว่าการกระทาความดี ประพฤติตนอยูใ่ นศีลธรรม จะทาให้สามารถมีชีวติ อยู่ในโลกได้อย่าง
มีความสุขไมม่ ีการสร้างรปู เคารพ แตจ่ ะมีการประกอบพิธที างศาสนาในท่แี จง้ เชน่ ตามเนนิ เขา
เป็นการใช้ไฟ บวงสรวง เรียกว่า การบูชาไฟ

โซโลเอสเตอร์ ไดม้ ีคาสอน
ตรงกับหลักพระพทุ ธศาสนา

คอื อะไร

เฉลยกรอบท่ี 15

การทาความดอี ยใู่ นศลี ธรรมจะทาใหช้ วี ติ เปน็ สขุ

“ถ้านักเรยี นตอบผิดขอใหท้ บทวนกรอบที่ 15 ใหม่ นะครับ”

กรอบที่ 16

ศลิ ปกรรมเปอรเ์ ซยี
งานศิลปกรรมเปอร์เซียเรียกไดว้ า่ เป็นศิลปะของกษัตริย์ เพราะกษตั ริยข์ องชาวเปอร์เซยี

เกือบทุกพระองคส์ นพระทยั ในเรอื่ งศิลปะ ทรงอปุ การะศลิ ปินและช่างฝีมือทั้งหลาย แต่อย่างไร
ก็ตาม ศิลปกรรมของเปอร์เซีย กไ็ ม่ไดม้ ีรปู แบบเป็นของตัวเองท่ีชดั เจน แต่จะเป็นการรวบรวม
ความเจรญิ ที่มอี ยู่ก่อนแล้วนามาปรับปรงุ ใหม่ ซ่ึงทาใหม้ ีความสวยงามวจิ ิตรไม่แพง้ าน
ศิลปกรรมในอดีตท่ีผ่านมา

ศิลปนิ ในยุคของเปอร์เซีย
จะได้รบั การดูแลจากใคร

เฉลยกรอบท่ี 16 พระมหากษตั รยิ ์

“ถา้ นักเรยี นตอบผิดขอใหท้ บทวนกรอบท่ี 16 ใหม่ นะครับ”

กรอบที่ 17

สถาปตั ยกรรม
สถาปัตยกรรมของชาวเปอร์เซยี ได้รบั อทิ ธพิ ลมาจากอียิปต์และกรีก การกอ่ สรา้ งไดน้ าเอา

วัสดหุ ลายชนดิ มาใชอ้ ย่างเหมาะสม เช่น ใชห้ ินเป็นพืน้ ผนงั ใชอ้ ฐิ และนาเอาเสาไมม้ าใชต้ กแตง่
ทาโครงเพดาน มีการตกแตง่ หัวเสาและแกะสลักเสาเปน็ ร่องคล้ายของกรีก

เปอรเ์ ซยี ได้รบั อิทธพิ ลในการ
สร้างงานสถาปตั ยกรรม
ลกั ษณะใดมาจากกรีก

เฉลยกรอบท่ี 17 การตกแตง่ หวั เสา

“ถ้านักเรยี นตอบผิดขอให้ทบทวนกรอบท่ี 17 ใหม่ นะครบั ”

กรอบที่ 18

ประตมิ ากรรม
ประติมากรรมทส่ี าคัญของเปอร์เซยี คอื การแกะสลักหัวเสาเปน็ รปู สัตว์ต่างๆ มีความ

สวยงามประณตี นอกจากนั้นยังรู้จกั นาเอาทองแดง และโลหะตา่ งๆ มาประดับตกแต่งอยา่ ง
วิจติ รพสิ ดาร ประตมิ ากรรมท่นี ิยมคอื แบบนนู ต่า โดยเฉพาะการแกะสลกั ฐานบนั ได กาแพง
หรือฝาผนัง เรอ่ื งราวส่วนใหญ่มักจะเปน็ ภาพกษัตริย์ ขนุ นาง และข้าทาสบริพารหรือพิธีกรรม
ต่างๆ ผลงานทีโ่ ดดเด่น มักจะเปน็ ผลงานศลิ ปะประเภทประณีตศลิ ป์ ซง่ึ จะนาสัตว์มาดัดแปลง
ประยุกตเ์ ปน็ สง่ิ ของเครอ่ื งใช้

ผลงานประติมากรรมประเภทใด
ของชาวเปอรเ์ ซีย ท่มี คี วามโดด

เดน่ มากทส่ี ุด

เฉลยกรอบที่ 18

ประเภทประณตี ศลิ ป์

“ถ้านักเรียนตอบผิดขอให้ทบทวนกรอบท่ี 18 ใหม่ นะครบั ”

กรอบท่ี 19

จติ รกรรม
ผลงานด้านจิตรกรรมของเปอรเ์ ซีย มไี ม่มากนกั ส่วนมากจะเปน็ การนาไปใช้ ตกแต่งผนงั

ภายในงานสถาปตั ยกรรมรูปแบบจะมลี ักษณะคล้ายกบั แอสสิเรีย
ศลิ ปกรรมเปอร์เซียเรมิ่ เส่ือมลง เมอื่ พวกมุสลิมหรืออาหรบั เข้ามาครองอานาจ ลกั ษณะงาน

ศลิ ปะจึงได้เปลยี่ นแปลงไป

ชนกลุม่ ใด ทเ่ี ข้ามาเรอื งอานาจ
ตอ่ จากชาวเปอร์เซยี ในดินแดน

เมโสโปเตเมีย

เฉลยกรอบท่ี 19 มสุ ลมิ หรอื อาหรบั

“ถา้ นกั เรียนตอบผดิ ขอใหท้ บทวนกรอบท่ี 19 ใหม่ นะครับ”

กรอบท่ี 20

จบบทเรียน เร่ือง ศลิ ปะยุคเมโสโปเตเมียแล้ว
ขอใหน้ ักเรียนทาแบบทดสอบหลงั เรยี นอีกคร้ังเพื่อทบทวนความรู้
หากมีขอ้ ผิดให้ศึกษาทาความเข้าใจในเนอ้ื หาบทเรียนอกี คร้ัง นะครบั

แบบทดสอบความรู้ ชดุ ที่ 3 ศลิ ปะยคุ เมโสโปเตเมยี

คาชแี้ จง ให้นักเรยี นกาเคร่ืองหมาย (  ) ลงในกระดาษคาตอบ ในข้อทีเ่ หน็ ว่าถูกต้องที่สดุ

1. เมโสโปเตเมยี หมายถงึ อารยธรรมที่เกดิ ข้ึนระหว่าง 6. ชาวแอสสเิ รียน นาเอาวสั ดุชนดิ ใดมาตกแต่งอาคาร
ลมุ่ แมน่ ้าใด
ก. แยงซเี กยี ง กบั ฮวงโห ก. ดินเผา
ข. ดานุ กับ อิรวดี
ค. ไทกรสี กบั ยเู ฟรตสิ ข. กระเบ้อื งเคลือบสี
ง. ไนล์ กับ อเมซอน
ค. กระจกสีต่าง ๆ
2. ชนกลุ่มแรกทเ่ี ข้ามาตัง้ ถน่ิ ฐานเจรญิ ร่งุ เรืองอยใู่ น
อาณาจักรเมโสโปเตเมียคือกลมุ่ ใด ง. หนิ อ่อน
ก. บาบิโลเนีย 7. ศลิ ปินในยุคของเปอร์เซียมักจะไดร้ บั การดูแล
ข. แอสสิเรีย
ค. เจริโค จากใคร
ง. เปอร์เซีย
ก. กษัตรยิ ์
3. Cuneiform หมายถงึ อะไร
ก. อักษรภาพ ข. นายทุน
ข. อกั ษรโรมัน ค. ขนุ นาง
ค. อกั ษรขอม
ง. อักษรลม่ิ ง. พระ
8. อาณาจักรเมโสโปเตเมีย ปัจจบุ ันคอื บริเวณใด
4. ใครเปน็ ออกกฎหมายเก่าแก่ที่สุดของโลก
ก. พระเจา้ นารามสนิ ก. เอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้
ข. พระเจ้าเนบชู าดเนซซาร์
ค. พระเจ้าฮัมมูราบี ข. ดนิ แดนอ่าวเปอรเ์ ซีย
ง. พระเจา้ ซารก์ อนท่ี 2 ค. หมู่เกาะชวา

5. ลกั ษณะพิเศษของชาวแอสสเิ รีย คืออะไร ง. สหภาพโซเวียต
ก. เป็นนักรบท่ีมีความสามารถและดรุ ้าย 9. ข้อใดเป็นสถาปตั ยกรรมยุคเมโสโปเตเมีย
ข. เปน็ ผมู้ ีความสามารถเป็นเลศิ ทางดา้ นศิลปะ
ค. เป็นนักบญุ ทม่ี จี ิตใจงดงาม ก. Ziggurat
ง. เปน็ ผู้ทมี่ ีความอดทนเปน็ เลิศ ข. Pyramid
ค. Mastaba
ง. Rock Cut Tomb
10. ภาพวาดในยคุ เมโสโปเตเมยี สว่ นใหญเ่ ก่ียวขอ้ ง
กับเรือ่ งใด
ก. ภาพสตั ว์
ข. ภาพทิวทัศน์
ค. ภาพการสูร้ บ
ง. ภาพเทพเจ้า