The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หนังสือe-book ระบบแสงประกอบเสียง

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by nat160, 2022-02-02 01:53:38

หนังสือe-book ระบบแสงประกอบเสียง

หนังสือe-book ระบบแสงประกอบเสียง

แสงสว่าง

คอื คล่นื แม่เหล็กไฟฟ้าท่ีสามารถจะผ่านวัตถุหน่ึงได้
ง่าย โดยท่ีปราศจากตัวนาซ่ึงความเร็วของแสงสูงถึง
300 ล้านเมตรต่อวินาที และแสงท่ีเดินทางมาจากดวง
อาทติ ย์มายังโลกใบนใ้ี ช้เวลาเพยี ง 8.3 วนิ าที

ลเู มน แคนเดลา อลิ มู แิ นนซแ์ ละลมู แิ นนซ์

หนว่ ยวัดปรมิ าณของแสง เรยี กว่า ลูเมน (Lumen)
อิลูมิแนนซ์ (Illuminanace) หมายถึง ความสว่างของแสง

ท่ีกระทบลงบนวัตถุเรียกว่า ความส่องสว่าง มีหน่วยเป็นลูเมน
ต่อตารางเมตร

ลูมิแนนซ์ (Luminance) หมายถึง ความส่องสว่างท่ี
สะท้อนออกมาจากวัตถุเรียกว่า ความส่องสว่าง มีหน่วยเป็น
แคนเดลาต่อตารางเมตร

อุณหภูมขิ องสี

การบอกสขี องแสงจากอุณหภูมขิ องสจี ะเขา้ ใจชดั เจนกว่า
การบอกสโี ดยทวั่ ไป เช่น สที บ่ี อกดว้ ยอุณหภูมิ 3,500 องศา
เคลวนิ หมายถึง สที ่เี ห็นเม่อื เผาวตั ถุดา โดยวตั ถุดาเม่อื ถูก
นามาเผาดว้ ยอุณหภมู ติ า่ งกนั จะมสี ตี ่างกนั

color temperature ค่าอณุ หภมู ิของสที ี่เปล่ียนไปตามอณุ หภมู คิ วามร้อน

•เม่อื ใหค้ วามรอ้ นจนทาให้วตั ถสุ ดี ารอ้ นไปท่รี ะดับ 2000เคลวนิ
จะได้แสงโทนสีแดง
•เม่อื ให้ความร้อนจนทาให้วัตถุสีดารอ้ นไปท่รี ะดบั 3000เคลวนิ
จะไดแ้ สงโทนสแี ดงอมสม้
•เม่อื ใหค้ วามร้อนจนทาให้วัตถุสดี าร้อนไปท่รี ะดบั 3500เคลวิน
จะได้แสงโทนสสี ม้
•เม่ือให้ความร้อนจนทาให้วตั ถุสดี าร้อนไปท่ีระดบั 5000เคลวนิ
จะได้แสงโทนสแี สงสวา่ งอมเหลืองนดิ ๆ
•เม่ือใหค้ วามรอ้ นจนทาใหว้ ตั ถสุ ีดารอ้ นไปท่ีระดับ 5500เคลวนิ
จะได้แสงโทนสขี าว
•เม่ือให้ความรอ้ นจนทาใหว้ ัตถุสีดารอ้ นไปท่ีระดับ 8000เคลวนิ
จะได้แสงโทนสีน้าเงิน

อุณหภูมิในช่วงต่างๆท่เี กิดการเปล่งแสงสีสันตา่ งๆขน้ึ มาเปน็ อุณหภูมิ
สี color temperature มีหน่วยเป็น K องศาเคลวิน ซ่ึงเม่ือเรามา
เทียบดูหากเราต้องการแสงสีขาวท่ีระดับ6500kท่ีเป็นแสงเดย์ไลท์
จะต้องทาการเผาให้วัตถุสีดามีค่าอุณหภูมิท่ี6500k ถ้าเทียบเป็น
องศาเซลเซียสจะมีความร้อนถึง 6,227 C ถึงจะได้แสงไฟสีขาว
ออกมาในระดบั 6500เคลวนิ

ความสมั พันธร์ ะหว่างอุณหภมู ิของสีและการสอ่ งสวา่ ง
ดูทึบเหกาินกไมปีกหาารใกชม้หีกลาอรดใชท้ห่ีมลีออุ ณดหทภ่ีมูมีอุิสณีสหูงแภลูมะิสมีตีค่ าวแาตม่มสีค่อวงาสมวส่า่องตง่สากว่า็จงะ
มากก็จะทาให้แสงจ้ามากเกินไป

1. วัตถุโปร่งใส (Transparent Object) หมายถึง วัตถุท่ียอมให้
แสงผ่านไปได้เกือบหมดอย่างเป็นระเบียบ และเราสามารถมองผ่าน
วัตถุนไี้ ปเห็นต้นกาเนดิ แสงอกี ดา้ นหน่งึ ได้อย่างชัดเจน เช่น กระจกใส
น้า เป็นตน้

2. วตั ถุโปร่งแสง (Translucent Object) หมายถึง วัตถุท่ียอมให้
แสงผ่านไปได้อย่างไม่เป็นระเบียบโดยเราไม่สามารถมองผ่านวัตถุไป
เหน็ ต้นกาเนดิ แสงได้ชัดเจน เช่น กระจกฝ้า น้าขุน่ เปน็ ต้น

3. วัตถุทึบแสง (Opaque Object) หมายถึง วัตถุท่ีแสงผ่านไป
ไม่ได้เลย แสงจะถูกดูดกลืนหรือสะท้อนกลับหมด และเราไม่สามารถ
มองผ่านวัตถุชนิดน้ีไปยังอีกด้านหน่ึงได้ เช่น แผ่นโลหะ กระจกเงา
แผน่ ไม้ เปน็ ตน้

ลักษณะของแสงสี

สาหรับแสงสว่างภายในบ้านควรใช้หลอดไฟฟ้ าท่ีมีอุ ณหภูมิสี
ต่าคือ เลือกใช้หลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ชนิดวอร์มไวต์ สาหรับ
ระบบแสงสว่างภายในสานักงานต้องการความส่องสว่างถึง 600
ลูเมนต่อตารางเมตร ก็ควรใช้หลอดไฟท่ีมีอุ ณหภูมิของสีสูง
ประมาณ 5,000 องศาเคลวิน เลือกใช้หลอดไฟชนิดฟลูออเรส
เซนตช์ นิดเดย์ไลต์หรอื คลู ไวต์

การผสมสที ่ีมองเห็น

เม่ือแสงสีขาวมาตกกระทบวัตถุ แสงท่ีผ่านวัตถุหรือสะท้อน
จากวัตถุ อาจมีสีต่าง ๆ กันได้ ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติในการดูดกลืน
แสงของวัตถุ เราเรียกสารท่ีดูดกลืนแสงสีต่าง ๆ ในวัตถุว่าสารสี
(pigment) ถ้าเป็นวัตถุทึบแสงสารสีเหล่านี้จะดูดกลืนแสงสีบางส่วน
ไว้แล้วสะท้อนแสงสีอ่ืนออกมา เช่น เราเห็นวัตถุเป็นสีแดงก็เพราะ
สารสใี นวัตถุนัน้ ดูดกลืนแสงสอี ่ืนไวแ้ ล้วสะท้อนแสงสีแดงมาเข้าตาเรา
ถ้าเป็นวัตถุท่ียอมให้แสงสีบางแสงสีผ่านไปได้ เราเรียกวัตถุนั้นว่า
แผ่นกรองแสงสี (colour filter)

แผน่ กรองแสงสีมีประโยชน์อยา่ งย่ิงในเร่ืองการพิมพ์ภาพสีต่าง
ๆ เพราะแผ่นกรองแสงสีจะช่ วยแยกสีในการถ่ายภาพเพ่ือทา
แผ่นฟิล์มแต่ละสี ในการพิมพ์ภาพสีจะมีการพิมพ์ด้วยสีต่าง ๆ ที
ละครั้ง เร่ิมจากสีเหลืองก่อนแล้วจึงพิมพ์สีแดง สีฟ้า และสีดา
ตามลาดับ ผลจากการพิมพ์ซ้อนกันลงไปทาให้เกิดการผสมของ
สารสที าใหเ้ ราเหน็ แสงสตี ามตอ้ งการได้

รายละเอียดของหลอดไฟฟ้ า

หลอดไฟฟ้าท่ใี ช้งานท่ัวไปใช้แรงเคล่ือนไฟฟ้า 220 โวลต์ อายุการ
ใช้งานของหลอดไฟฟ้าแบ่งได้เป็น 2 ชนิด คือ อายุการใช้งานพิกัด
(Rate Life) กบั อายุการใช้งานทางด้านเศรษฐศาสตร์ (Economic Life)

การแบง่ ประเภทของหลอดไฟฟ้ามีการแบง่ ออกเปน็ 2 ประเภท
น่ันคือ หลอดไฟฟ้าชนดิ อนิ แคนเดสเซนต์กบั หลอดไฟฟ้าชนิด
ฟลูออเรสเซนต์

หลอดไฟชนิดอินแคนเดสเซนต์

หลอดไฟฟ้าชนิดอนิ แคนเดสเซนต์ เป็นหลอดท่ีมีไส้ทามาจากลวด
ทังสเตนท่มี จี ุ ดหลอมเหลวสูงถึง 3,655 องศาเคลวิน เพ่ือยืดอายุการ
ใช้งานของหลอดในการใช้งานจริง จะมีอุ ณหภูมิต่ากว่านี้มาก
หลอดไฟอินแคนเดสเซนต์มีหลายชนิดดังนี้ คือ

หลอดไฟอนิ แคนเดสเซนตช์ นดิ จแี อลเอส
(General Service Lamp, GLS)
หลอดไฟอนิ แคนเดสเซนตช์ นดิ เปลวเทยี นและชนดิ ปิงปอง

หลอดไฟอนิ แคนเดสเซนตช์ นดิ พาร์ (PAR Lamp)
หลอดไฟฮาโลเจนแรงดนั ต่า (Low Voltage Halogen)

หลอดไฟทงั สเตนฮาโลเจน (Halogen Tungsten Lamp)

หลอดไฟชนดิ ฟลูออเรส

หลอดไฟชนิดฟลูออเรสเซนต์ เรียกว่า หลอดดิสชาร์จ (Discharge
Lamp) หมายถงึ เป็นหลอดไฟท่ีคายประจุ ไฟฟ้าได้ เป็นหลอดไฟท่ี
นิยมใช้กนั มากเน่ืองจากหาซื้อได้งา่ ย มีราคาถกู ประหยัดไฟฟ้า

วงจรไฟฟ้าของหลอดฟลอู อเรสเซนตช์ นิดอ่นุ ไส้หลอด

รูปท่ี 1.6 วงจรไฟฟ้าของหลอดฟลอู อเรสเซนตแ์ บบอุน่ ไสห้ ลอด

วงจรไฟฟ้าของหลอดฟลูออเรสเซนต์ แสดงดังรูปท่ี 1.6 (ก)
ประกอบดว้ ยหลอดฟลูออเรสเซนต์ 1 หลอด สวิตช์ปิด – เปิด 1 ตัว
สตาร์เตอร์ (Starter) 1 ตัว และบัลลาสต์อีก 1 ตัว วงจรไฟฟ้า
ทัง้ หมดตอ่ เข้ากับแรงดนั ไฟฟ้า 220 โวลต์

วงจรไฟฟ้ าของหลอดฟลูออเรสเซนตช์ นิดจุ ดติดทันทแี ละ
ชนดิ จุ ดตดิ เร็ว

รูป วงจรไฟฟ้าของหลอดฟลูออเรสเซนตช์ นดิ จุ ดตดิ ทันทแี ละชนดิ จุ ดติดเร็ว

วงจรไฟฟ้าของหลอดฟลูออเรสเซนต์ชนิดจุ ดติดทันทีและชนิด
จุ ดตดิ เร็วนี้ แสดงดงั รูปท่ี 1.7 มรี ายละเอยี ดดังน้คี ือ
1. หลอดฟลอู อเรสเซนตช์ นิดจุ ดติดทนั ที (Instant Start Lamp)
2. จะไมม่ กี ารใช้สตาร์เตอรแ์ ตอ่ ยา่ งใด
2. รูป แสดงหลอดฟลูออเรสเซนต์ชนิดจุ ดติดเร็ว (RapidStart
Lamp) ซ่ึงหลอดชนิดน้ีเป็นขั้วร้อน ไม่มีการใช้สตาร์เตอร์เพราะบัล
ลาสต์เปน็ ชนดิ มขี ดลวดอุ่นไสห้ ลอดในตัว

หลอดคอมแพคตฟ์ ลอู อเรสเซนต์

หลอดคอมแพคตฟ์ ลูออเรสเซนต์ (Fluorescent Compact Lamp)
เรยี กงา่ ยๆ คือ หลอดไฟตะเกยี บ

มี 3 แบบคือ วอรม์ ไวต์ คลู ไวต์ และเดยไ์ ลต์บลั ลาสต์ในหลอดตะเกียบน้ี
มี 2 แบบ คือ แบบอเิ ล็กทรอนกิ ส์กบั แบบธรรมดา

หลอดปรอทความดันสงู

หลอดปรอทความดันสูงเรียกว่าหลอดแสงจันทร์
หลอดปรอทความดันสูงใช้กับไฟถนน ไฟทางเดิน โรงงาน
อุตสาหกรรม
ท่ีมีเพดานสูงและอ่ืนๆ ตามต้องการ พัฒนาข้ึนมาแทนท่ี
หลอดฟลอู อเรสเซนต์

วงจรหร่ไี ฟของหลอดอนิ แคนเดสเซนต์
รูป วงจรหร่ีไฟของหลอดอินแคนเดสเซนต์ 1,000 วตั ต์

วงจรหร่ีไฟ (Light Dimmer) ของหลอดอินแคนเดสเซนต์
แสดงดังรูปท่ี 1.10 อธิบายการทางานของวงจรไดด้ งั น้ี คือ

1. วงจรหร่ีไฟอาศัยหลักการควบคุม การหน่วงเวลามา
จุ ดชนวนใหไ้ ตรแอคไดท้ างานนากระแสไฟฟ้า

2. อุปกรณ์ในการหน่วงเวลาประกอบตัวต้านทาน R 1 ตัว
ต้านทานปรับค่าได้ VR1 และตัวเก็บประจุ C1 อุปกรณ์ในการ
จุ ดชนวน (Trigger) คือ ไดแอค (Diac) และอุปกรณ์ท่ีทาหน้าท่ี
เป็นสวิตช์ อิเล็กทรอนิกส์ความเร็วสูง (High Speed Electronic
Switching) ได้แก่ ไตรแอค (Triac)

3. เม่ือปรับตัวต้านทานปรับค่าได้ VR1 ให้มีค่าความต้านทานท่ี
ต่าลง ยอ่ มจะทาใหแ้ รงดนั ท่ีตกคร่อมตัวเก็บประจุ C1 มีค่าสูงข้ึน
ทาให้ไดแอคและไตรแอคทางานนากระแสไฟฟ้าได้สูงข้ึน ทาให้
หลอดไฟ L1 สวา่ งมากขน้ึ
4. เม่ือปรับตัวต้านทานปรับค่าได้ VR1 ให้มีค่าความต้านทานท่ี
สูงข้นึ ยอ่ มจะทาใหแ้ รงดันท่ตี กคร่อมตัวเก็บประจุ C1 มีค่าลดลง
ทาให้ไดแอคและไตรแอคทางานนากระแสไฟฟ้ าได้น้อยลง
หลอดไฟ L1 จึงสวา่ งไดน้ อ้ ยลง
5. วงจรหร่ีไฟชุดนี้สามารถนาไปใช้งานกับหลอดไฟอินแคนเดส
เซนต์ได้เปน็ อยา่ งดี

ระบบแสงประกอบเสียงภายในอาคาร
ระบบแสงสว่างพ้ืนฐานประกอบดว้ ยระบบการใหแ้ สงหลัก

และระบบการใหแ้ สงรอง มรี ายละเอียดดังน้ี คือ
1.ระบบการให้แสงหลกั
(Primary System)
• หมายถงึ ระบบแสงสวา่ งเพ่อื
สะดวกในการทางาน

2.ระบบการให้แสงรอง
(Secondary Lighting System)

• เป็นระบบแสงเพอ่ื ทาใหเ้ กดิ ความ
สวยงามและมศี ลิ ปะ

พื้นฐานระบบแสงเวทีและอุปกรณ์

พื้นฐานระบบแสงเวทีและอุปกรณ์ คือแสงสว่างช่วยให้เราแลเห็น
ภาพท่ีเกิดขึ้นบนเวที แต่ปริมาณของแสงสว่างนั้นมีอิทธิพลต่อการ
แลเห็นของผู้ชม จุ ดมุ่งหมายอันดับแรกของการแสดง คือ การ
นาเสนอหรือการทาให้ผู้ชมแลเห็น แต่จะให้แลเห็นอย่างไร เห็นเท่าไร
และนานเท่าไรนั้น เป็นส่ิงท่ีจะต้องพิจารณาอย่างละเอียดถ่ีถ้วน
เพ่ือให้บังเกิดผลลัพธ์ท่ีน่าช่ืนชมต่อสายตาผู้ชมและจุ ดมุ่งหมายของ
ผู้กากบั การแสดง เม่อื ต้องการให้ได้ผลลพั ธท์ ่ีนา่ ช่ืนชม กต็ ้องมีการ
วางแผนการจัดแสงให้อยู่ในขอบข่ายท่ีเหมาะสมกับการเคล่ือนไหว
ของตวั ละครและการดาเนินเร่ืองตงั้ แต่ตน้ จนจบ

ในการทาระบบแสงท่ีใช้ในงานคอนเสิร์ต หรืองาน อีเว้นท์ต่างๆ
และรวมไปถึงงานในโรงละคร งานแสดงต่างๆ งานแสดงศิลปะ ซ่ึง
ในปัจจุ บันหลายๆคนท่ีทาระบบแสงไม่ว่าจะเป็นทีมเล็กๆหรือบริษัท
โปรดักช่ันใหญ่ๆ รวมถึง เอฟเฟคต่างๆเช่น เลเซอร์ เคร่ืองสร้าง
ควันตา่ งๆเขา้ ไปด้วย

ในงานส่วนระบบหลักๆเหล่าน้ีคืออุ ปกรณ์ของระบบแสงไฟเวทีท่ีจะ
ประกอบด้วย สายไฟ สายสัญญาณ ตัวของอุปกรณ์ไฟ เคร่ือง
ควบคุมการหร่ีไฟ (Dimmer) โคมไฟรูปแบบต่างๆ และรวมไปถึง
ในส่วนของบอร์ดควบคุมไฟ ทุกๆอย่างต่างมีหน้าท่ีส่วนสาคัญ
ของส่ิงของเหล่านี้ และยังมีปัจจัยการควบคุมหลักอีกหน่ึงอย่าง
คือ… หวั ใจของผูค้ วบคุม …

หนา้ ท่หี ลักของไลท์ตงิ้ หรือระบบแสงไฟคอื

1. ผู้ควบคมุ ต้องวางแผนของระบบงานท่จี ะใช้ในงานนัน้ ๆ
2. ตวั ผูค้ วบคุมต้องมีอารมณ์รว่ มกบั บรรยากาศของงานนัน้ ๆ
3. ทาให้มองเห็นส่ิงท่กี าลงั เกดิ ขน้ึ บนเวทีหรอื เกดิ ขึ้นในการแสดง
4. สรา้ งแสงให้เห็นถึงมิติของเวที และความลึก และบรรยากาศ
ในการแสดง
5. กาหนดจุ ดสนใจของผูช้ ม
6. สร้างอารมณ์ของแสงด้วยการเลือกใช้สีสันมาอยู่ใน
บรรยากาศของเวที หรือภายในงาน
7. ผู้ควบคุมบอร์ดคอนโทรลต้องทาให้จินตนาการได้ถึงเวลาท่ี
ต้องการจะบ่งบอกประกอบกับการแสดงนั้น โดยใช้สีและ
ทศิ ทางของแสง

8. ใช้ระบบแสงเปน็ ววิ ทิวทัศนบ์ นเวที เช่นลวดลาย โกโบ (Gobo)
9. ผู้ควบคมุ อาจเลือกใช้เพียงบางตาแหน่งบนเวที เพ่ือให้ผู้ชมเห็น
เท่าท่ีผู้ออกแบบตอ้ งการให้เห็นและจินตนาการได้
10. ใช้ระบบแสงเป็น Visual Effect ร่วมกับเอฟเฟคจาพวกควัน
หรือแสงเลเซอร์ในงานคอนเสิร์ต และ ดีเจ

โปรแกรม

โปรแกรม DIALux เป็นโปรแกรมสาหรบั ออกแบบงานระบบไฟฟ้า
สอ่ งสวา่ ง Electrical Lighting System

QR CODE เวบ็ ช่วย
วดี ีโอเสรมิ

นักออกแบบไฟในงาน งานติดตัง้ ระบบแสงและเสียง การจดั การระบบแสงสีเสยี ง
คอนเสิรต์ ในรูปแบบงาน In Door


Click to View FlipBook Version