The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

สื่อการสอน อิเล็กทรอนิกส์
วิชาภาษาไทย เรื่อง การเขียนสื่อสาร
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔
โดยนางสาวนวรัตน์ สร้อยสน
รหัสนักศึกษา ๖๓๑๕๑๘๒๘

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by นว รัตน์., 2022-10-11 05:24:41

การเขียนสื่อสาร ป.๔

สื่อการสอน อิเล็กทรอนิกส์
วิชาภาษาไทย เรื่อง การเขียนสื่อสาร
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔
โดยนางสาวนวรัตน์ สร้อยสน
รหัสนักศึกษา ๖๓๑๕๑๘๒๘

E-Book

กสื่าอรสเขาีรยน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔

การเขียนเพื่อการสื่อสาร

การเขียนเพื่อการสื่อสาร คือ การที่ผู้ส่งสารมีเจตนาถ่ายทอดความคิดไป
ยงัผู้รับสาร แล้วต้องการให้ผู้รับสารเกิดปฏิกิริยาตอบสนอง หรือเกิดความเข้าใจ
ใกล้เคียงสอดคล้องกับเจตนาของตน ทักษะการเขียนจึงมีส่วนสำคัญที่่ทำให้การ
สื่อสารของมนุษย์มีหลักฐาน

การเขียนสื่อสารที่ประสมความสำเร็จทำให้ผู้อ่านเข้าใจ รับรู้ เข้าใจ
วัตถุประสงค์ของผู้เขียนที่สื่อออกมาผ่านสารนั้นได้ จำเป็นต้องศึกษาวิธีการเขียน
เพราะการเขียนแต่ละรูปแบบมีวิธีการที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับเจตนาของผู้เขียนว่า
จะเสนอเรื่องใด กล่าวถึงอะไร อย่างไร ต้องคำนึงถึงการใช้ภาษาสื่อความให้ถูก
ต้องเหมาะสม ประกอบด้วย
๑. การเขียนคำแนะนำ
๒. การเขียนแนะนำตนเอง
๓. การเขียนแนะนำสถานที่
๔. การเขียนคำขวัญ

๑ การเขียนคำแนะนำ

การเขียนคำแนะนำ คือ การเขียนเพื่อบอกข้อปฏิบัติ ข้อควรรู้ วิธีใช้ หรือ
วิธีทำ ซึ่งจะช่วยสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่ผู้อ่าน ถือเป็นรูปแบบการเขียนที่ให้
ประโยชน์มาก

ลักษณะของการเขียนคำแนะนำ

๑. แนะนำวิธีการใช้
การเขียนในรูปแบบแรกจะเป็นลักษณะการเขียนเพื่อบอกวิธีใช้ ซึ่งเราอาจจะเห็นได้

ตามฉลากของใช้ เครื่องอำนวยความสะดวก ฯลฯ
๒. แนะนำแนวทาง

เป็นการเขียน แนะนำในลักษณะที่ให้แนวทางในการปฏิบัติ แนวทางในการป้องกัน
รักษา หรือบอกถึงแนวทางที่ให้ผู้อ่านได้นำไปปฏิบัติตามได้
๓. แนะนำข้อบ่งใช้

เช่น ฉลากของยา หรือผลิตภัณฑ์ที่ต้องมีการระบุข้อบ่งใช้ หรือ ข้อแนะนำสำหรับ
ผู้ใช้ยาให้เราสามารถใช้ ผลิตภัณฑ์ได้อย่างถูกต้องปลอดภัย
๔. แนะนำหลักการ

เป็นการให้ความรู้อย่างเป็นขั้นเป็นตอน ให้หลักการในการทำสิ่งต่าง ๆ

หลักการเขียนคำแนะนำ

๑. ใช้ภาษาเขียนที่เข้าใจง่าย ๒. ใช้ถ้อยคำให้สุภาพ
ได้ใจความเพื่อให้ผู้อ่านสามารถ ภาษาที่เขียนต้องนุ่มนวลไม่หยาบ
เข้าใจได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องอ่าน คายหรือเป็นภาษปากมากเกินไป
ยาว ๆ เพราะไม่เหมาะกับการนำมาเขียน
ให้ความรู้

๓. นำเสนอด้วยวิธีที่หลากหลาย ๔. ใช้การยกตัวอย่างประกอบ
เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้อ่าน เพื่อช่วยให้ไม่ต้องใช้การอธิบายที่
ยืดยาว ทำให้ผู้อ่านเข้าใจได้ง่าย ๆ

ตัวอย่างคำแนะนำการรับบริการห้องสมุด

๑. วางกระเป๋าและของใช้ส่วนตัวที่จุดรับฝากของ
๒. ปิดเสียงเครื่องมือสื่อสารทุกชนิดก่อนเข้าใช้บริการ
๓.โปรดแต่งกายสุภาพ
๔. ห้ามนำอาหารและเครื่องดื่มเข้าห้องสมุด
๕. ห้ามส่งสียงดังรบกวนผู้อื่น
๖. เก็บหนังสือวางไว้ที่จุดพักหนังสือเมื่ออ่านเสร็จ
๗. หนังสือพิมพ์ วารสารและนิตยสารเมื่ออ่านเสร็จนำเก็บที่เดิม
๘. เข้าแถวใช้บริการยืม - คืนหนังสือตามลำดับก่อนหลัง
๙. ห้ามเขียน ฉีก ตัด ทำสัญลักษณ์ต่าง ๆ ลงบนอุปกรณ์และ

ทรัพยากรทุกชนิดของห้องสมุด
๑๐. ห้ามนำหนังสือออกนอกห้องสมุดก่อนได้รับอนุญาต

ตัวอย่างคำแนะนำแนวทางป้องกัน COVID-19

ที่มา : https://nockacademy.com/thai-language/thai-language

๒ การเขียนแนะนำตนเอง

ธรรมชาติของการเขียนแนะนำตนเอง คือ การเขียนที่ผู้เขียนมีวัตถุประสงค์
เพื่ออธิบาย ชี้แจง หรือสร้างความกระจ่างในสิ่งใดสิ่งหน่ึ่งให้แก่ผู้อ่าน หรือผู้รับสาร
โดยสิ่งที่ผู้เขียนจะแนะนำนั้นเป็นได้ทั้ง

๑. สิ่งที่เป็นรูปธรรม เช่น การแนะนำบุคคล สิ่งมีชีวิต อาคารสถานที่ สิ่งของ
การเขียนแนะนำรายชื่อ การเขียน แนะนำพันธุ์ปลาสวยงาม การเขียนแนะนำหนังสือ
ให้น่าอ่าน เป็นต้น

๒. สิ่งที่เป็นนามธรรม เช่น การแนะนำวิธีการเทคนิค หรือแนวความคิดต่าง ๆ
การเขียนแนะนำวิธิีประหยดัค่าใช้จ่ายประจำวัน การเขียนแนะนำวิธิีการชำระจิตใจให้
บริสุทธิ์ด้วยพระธรรม เป็นต้น

โอกาสของการแนะนำตนเอง เกิดขึ้นเมื่อต้องเข้าไปเป็นสมาชิกใหม่ในกลุ่ม
สังคมต่าง ๆ เช่น เข้าเรียนที่โรงเรียนใหม่ เข้าทำงานเป็นวันแรกย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่
จะต้องแนะำาตนเองให้เป็นที่รู้จักแก่กลุ่มสังคมนั้น ซ่ึ่งอาจเป็นการแนะนำเฉพาะตัว
หรือเป็นหมู่คณะ เกิดขึ้นได้ทั้งในโอกาสที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ

“การเขียนแนะนำตนเอง มีความเกี่ยวข้องกบัการพูดแนะนำตนเองในมิติที่ว่า
การเขียนจะถูกใช้ เป็นร่างเนื้อหาของการพูดแนะนำตนเอง ”

ข้อมูลเพื่อการแนะนำตัวเอง การเขียนแะการพูดแนะนำตัวเองหากเนื้อหาสั้น
เกินไป การสื่อสารก็จะขาดความน่าสนใจ แต่ถ้าแนะนำตนเองยาวเกินไปหรือด้วยราย
ละเอียดที่ไม่จำเป็น ก็อาจทำให้ผู้รับสารเกิดควมเบื่อหน่าย ดั้งนั้น ข้อมูลในการแนะนำ
ตัวเอง คือ ชื่อและนามสกุล ส่วนข้อมูลอื่น ๆ ควรเลือกแนะนำตามความเหมาะสมขึ้น
อยู่กับผู้ฟัง สถานการณ์และโอกาส ข้อมูลเพื่อการแนะนำตัวเองประกอบด้วย

๑. ชื่อเล่น/สมญานาม
๒. ครอบครัว

๓. ภูมิลำเนา/ที่อยู่ปัจจุบัน
๔. การศึกษา

๕. วัน เดือน ปีเกิด
๖. ความถนัด/ความสนใจ

๗. งานอดิเรก
๘. อุปนิสัยส่วนตัว

๙. ความสามารถเฉพาะตัว

แนวทางเพื่อการแนะนำตนเอง การเขียนหรือพูดแนะำตนเอง เป็นสิ่งสำคัญใน
การสร้างความประทับใจให้แก่กลุ่มบุคคลที่รู้จักผู้สื่อสารเป็นครั้งแรก ขั้นตอนการ
แนะนำตนเอง สรุปได้ดังนี้
๑. กล่างคำทักทายอย่างสุภาพเหมาะสมกับผู้ฟัง
๒. กล่าวแสดงความยินที่เมื่อมีโอกาสได้แนะนำตนเอง
๓. นำเรื่องราวเกรี่ยวกับตนเองที่น่าสนใจมาสื่อสาร โดยคำนึงถึงภาพลักษณ์ของ

ตนเองในสายตาของผู้ฟัง
๔. แนะนำชื่อ-สกุล และเลือกข้อมูลอื่น ๆ ข้างต้นมาแนะนำตามความเหมาะสม
๕. แสดงความรู้สึกเชิงสร้างสรรค์ที่มีต่อการแนะนำตนเอง รวมถึงความคาดหวัง

มิตรภาพที่ยั่งยืน
๖. กล่าวคำ "ขอบคุณ หรือ สวัสดี"

ตัวอย่างคำแนะนำการรับบริการห้องสมุด

สวัสดีค่ะ ดิฉันชื่อเด็กหญิงปลายฟ้า รุ่งทวี ชื่อเล่นฟ้าค่ะ ดิฉันเกิดวันที่ ๒๘ มกราคม
ที่จังหวัดเชียงราย ปัจจุบันกำลังศึกษาและอาศัยอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ค่ะ ครอบครัวของ
ดิฉันมีทั้งหมด ๔ คนฉันเป็นลูกคนเล็กของครอบครัว ทุกคนรักและดูแลฉันให้ความอบอุ่น
แก่ฉันเสมอมาค่ะ ฉันเป็นคนที่ร่าเริง ชอบร้องเพลง เห็นใจคนรอบข้าง มีน้ำใจต่อเพื่อน ๆ
และฉันยังชอบประดิษฐ์ของเล่นเองด้วยนะคะ ความสามารถและความภูมิใจของฉันคือ
การได้เป็นตัวแทนของทางโรงเรียนเข้าร่วมการแข่งขัน ถือเป็นโอกาสที่ดีมาก ๆ เลยค่ะ
และฉันพร้อมแลกเปลี่ยนความรู้ความคิดเห็นจากทุกคนนะคะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ขอบคุณค่ะ

๓ การเขียนแนะนำสถานที่

ธรรมชาติของการเขียนแนะนำสถานที่ คือ รูปแบบหนึ่งของการเขียนเล่าเรื่อง
จากประสบการณ์ตามความเป็นจริง โดยประสบการณ์นั้นเกิดขึ้นกับผู้เขียนหรือได้รับ
การบอกเล่ามาจากผู้อื่นซึ่งผู้เขียนจะสอดแทรกความคิดข้อสังเกตต่าง ๆ ของตนไว้

ข้อมูลเพื่อการแนะนำสถานที่ ในการเขียนจะต้องผ่านถ้อยคำภาษาที่เลือกใช้
โดยคำนึงถึงความถูกต้องเหมาะสม และอรรถรสที่ผู้อ่านจะได้รับ ผู้เขียนควรให้ข้อมูล
เกี่ยวกับสถานที่ที่เขียนถึงให้ครบทุกมิติ
เช่น

๑. ข้อมูลด้านภูมิศาสตร์
๒. ข้อมูลด้านประวัติศาสตร์
๓. ข้อมูลด้านสังคม วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต
๔. ข้อมูลด้านภาษาการแต่งกายอาหารการกิน
๕. ข้อมูลด้านการเดินทางแหล่งอาหาร ที่พัก ค่าใช้จ่ายในการเดินทางและ

การเตรียมความพร้อมสำหรับการเดินทาง
การแนะนำสถานที่ผู้เขียนจะต้องมีความรู้ ความเข้าใจในทุกแง่มุมเกี่ยวกับ
สถานที่นั้น ๆ ไม่ควร ฟังผ่านคำบอกเล่าของผูอื่น แต่ควรเขียนขึ้นจากประสบการณ์
ตรง รวมทั้งมีความรู้ ความเข้าใจ ความสามารถในการในการใช้ถ้อยคำอย่างมีศิลปะ
เพื่อให้ผู้อ่านได้รับทั้งความรู้และความบันเทิง

แนวทางเพื่อการแนะนำสถานที่ การเขียนแนะนำสถานที่เพื่อใหผู้อ่านเกิด
อรรถรส ความประทับใจ หรือเกิดความรู้สึกกระหายใคร่รู้ ความต้องการที่จะเดินทาง
ไปยังสถานที่ที่ผู้เขียนบอกเล่าด้วยตนเองขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ
ได้แก่
๑. การกำหนดขอบเขต

เนื้อหาของการเขียนแนะนำสถานที่ไม่ควรมีความยาวจนเกินไป เพราะอาจทำ ให้
ผู้อ่านเกิดความเบื่อ

ต้องให้ข้อมูลรอบด้านอย่างเพียงพอในขอบข่ายที่ว่า "ข้อมูลต้องทำให้ผู้อ่านรู้จัก
สถานที่นั้น ๆ ในทุกแง่มุม"
๒. การเลือกสถานที่

ควรเลือกสถานที่ที่น่าสนใจ สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ข้างต้นของผู้เขียน และ
กลุ่มเป้าหมายที่ต้องการสื่อสาร
๓. การใช้ภาษา

ผู้เขียนควรเลือกใช้ถ้อยคำภาษากึ่งทางการที่คงความสุภาพสื่อสารตรงไปตรงมา
ถ้อยคำเข้าใจง่าย และสร้างภาพในจินตนาการเกี่ยวกับสถานที่นั้น ๆ แก่ผู้อ่าน
๔. การลำดับเนื้อหา

ผู้เขียนควรถ่ายทอดเนื้อหาอย่างกระชับ ไม่สับสน
๕. ลีลาในการเขียน

ควรใช้ภาษาในระดับกึ่งทางการที่สุภาพและเป็นกันเองกับผู้รับสาร ใช้ภาษาที่
ถ่ายทอดบรรยากาศของสถานที่

๔ การเขียนคำขวัญ

คำขวัญ หมายถึง ถ้อยค้าที่ดีเป็นสิริมงคล บำรุงจิตใจ ให้ข้อคิดในการปฏิบัติ
และส่งเสริมกิจการไปในทางที่ดี

คำขวัญทั่วไปเป็นคำขวัญที่หน่วยงาน สถาบัน หรือองค์การต่าง ๆ คิดขึ้นใช้เพื่อ
เป็นคติเตือนใจ ให้ข้อคิด เชิญชวนให้ปฏิบัติหรือละเว้น

"มักเป็นข้อความกะทัดรัด มีสัมผัสคล้องจอง การเขียนคำขวัญทำให้จดจำได้ง่าย"

รูปแบบในการเขียนคำขวัญ

การเขียนแบบ๑ค. ำคล้องจอง
คือ

กาหรเรขือียคนำทสีั่ใมชผ้ัสมรเะดีเยดีวยกวันกัน

การเขียนคำขวั๒ญ.แบบร้อยกรอง ๓.
กขโาอครงลเคขงีำยฉปนันรคะทำ์พคตืักอนาามธ์พชแยบน์ิดบกนบลัั้นองคนัๆบ การเขียนคำขวัญแบบร้อยแก้ว

คือ
การเขียนที่เรียบเรียงขึ้นอย่าง
ไพเราะ โดยไม่มีข้อบังคับใน
เรื่องการสัมผัส เอก โท ทำให้

เขียนง่าย

หลักการใช้ภาษาในการเขียนคำขวัญ

๑. ใช้ถ้อยคำสั้นกะทัดรัด มีความหมายลึกซึ้ง ใช้คำตั้งแต่ ๒ คำขึ้นไป แต่ไม่
ควรเกิน ๑๖ คำ แบ่งเป็นวรรคได้ ตั้งแต่ ๑ - ๔วรรค
"เด็กฉลาด ชาติเจริญ"
"ห้องสมุด ดุจขุมคลัง แห่งปัญญา"
๒. เขียนให้ตรงจุดมุ่งหมาย แสดงความคิดในเรื่องใด เรื่องหนึ่งอย่างเด่นชัดหรือ
มีใจความสำคัญเพียงอย่างเดียวเพื่อให้จำง่าย
"ทิ้งขยะไม่เลือกที่ หมดราศีไปทั้งเมือง"
"ขับรถถูกกฎ
ช่วยลดอุบัติเหตุ"
๓. จัดแบ่งจังหวะคำสม่ำเสมอ
"ยอมลำบากเมื่อหนุ่ม ดีกว่ากลุ้มเมื่อแก่"

"กตัญญูระลึกอยู่ในจิต สุจริตระลึกอยู่ในใจ"

๔. เล่นคำทั้งเสียง สัมผัส และการซ้ำคำช่วยให้จำง่าย
"เด็กดีเป็นศรีแก่ชาติ เด็กฉลาดชาติเจริญ"

"ขับเร็วชิดขวา ขับช้าชิดซ้าย "
๕. เป็นคำตักเตือนให้ปฏิบัติในทางที่ดี

"ทำดีให้คนเกรง ดีกว่าเป็นนักเลงให้คนกลัว"

"เลือกตั้งเป็นหน้าที่ เลือกคนดีมาปกครอง"

ลักษณะของคำขวัญที่ดี

๑. เขียนตามวัตถุประสงค์
๒. ใช้ถ้อยคำถูกต้งตามหลักภาษาไทย
๓. คำขวัญนิยมใชคำสัมผัสคล้องจอง
๔. ใช้โวหารสำนวนเปรียบเทียบ
๕. คำชวัญ มีความกระชับ กะทัดรัด ชัดเจน
๖. แนวความคิดสร้างสรรค์
๗. มีเนื้อหาครอบคลุมเป้าหมาย
๘. มีพลังโน้มน้าวใจผู้ฟังให้จำและปฎิบัติตาม
๙. มีเจตนาที่ดี ต่อผู้ฟัง
๑๐. มีเป้าหมายชัดเจนเพียงเป้าหมายเดียว


Click to View FlipBook Version