1
แบบรายงานผลการปฏิบัตทิ ี่เปน็ เลศิ (Best Practice)
ชอ่ื ผลงาน การพัฒนาชุดสอ่ื ประสม เรื่อง หรรษา สระ-า เพอื่ พฒั นาทักษะการอา่ นและการเขยี นสะกดคำ
กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย สำหรบั นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
ตำแหน่ง ครู อนั ดับ คศ.1
สถานศกึ ษา โรงเรียนอนุบาลตาก สังกัดสำนักงานการศึกษาประถมศกึ ษาตาก เขต 1
ความเปน็ มาและความสำคัญ
ภาษาไทยเป็นเอกลักษณ์ของชาติ เป็นสมบัติทางวัฒนธรรม อันก่อให้เกิดเอกภาพและเสริมสร้าง
บุคลิกภาพของคนในชาติให้มีความเป็นไทย เป็นเครื่องมือในการติดต่อสื่อสารเพื่อสร้างความเข้าใจ
และความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน (กระทรวงศึกษาธิการ, 2552, หน้า 37) การอ่าน เขียนจึงเป็นทักษะทางภาษาที่
สำคัญและจำเป็นอย่างมากในการดำรงชีวิตของคนในยุคปัจจุบัน เพราะขณะนี้วิทยาการและเทคโนโลยีต่างๆ
ได้เปลี่ยนแปลงเจริญก้าวหน้ามาก และเป็นไปอย่างรวดเร็ว การติดต่อสื่อสารก็ยิง่ เพิ่มความสำคัญในธุรกิจการ
งานเพิ่มมากขึ้น จนสภาพของสังคมกลายเป็นสังคมข่าวสาร (Information society) รวมทั้งข้อมูลต่าง ๆ ใน
ชีวิตประจำวันจะตอ้ งอาศยั การอ่าน จึงสามารถเขา้ ใจและส่ือความหมายกนั ไดถ้ ูกต้อง แม้จะมกี ารนำเทคโนโลยี
มาใช้ในการติดต่อสื่อสาร แต่ก็ไม่สามารถทดแทนการอ่านได้ ตรงกันข้ามคนยุคนี้จะต้องอ่านเพิ่มขึ้นเสียอีก
ฉะนน้ั คนเราจำเปน็ ต้องมีทักษะในการอ่านด้วย (วรรณี โสมประยรู , 2553, หนา้ 127) นอกจากนี้ ภาษาไทยยัง
เป็นเครื่องมือในการเรียนรู้ การบันทึกเรื่องราวจากอดีตถึงปัจจุบัน ดังนั้นจึงควรสอนภาษาไทยให้คนรักการ
อ่าน การเขียน ที่จะแสวงหาความรู้ ประสบการณ์ บันทึกความรู้และข้อมูลข่าวสารโดยสอนภาษาไทยให้ใช้
ภาษาไทยได้ถูกต้องในฐานะเป็นวัฒนธรรมทางภาษาให้ผู้เรียนเกิดความชื่นชมซาบซึ้งและภูมิใจในภาษาไทย
ตลอดจนภมู ิปญั ญาทางภาษาของ บรรพบุรษุ ท่ีได้สร้างสรรค์ไว้ (กระทรวงศึกษาธิการ, 2552, หน้า 7-8)
นอกจากทักษะการอ่านมีความสำคัญแล้ว การเขียนเป็นทักษะหนึ่งที่มีความสำคัญที่ใช้ถ่ายทอดมรดก
ทางวัฒนธรรม เพราะการเขียนเป็นหลักฐานที่ช่วยให้คนรุ่นหลังทราบความเป็นมาของอดีตจนถึงปัจจุบัน การ
เขียนจึงเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งที่ช่วยให้โลกเจริญก้าวหน้า นอกจากนี้การเขียนยังมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิด
กบั ทกั ษะการฟัง การพดู และการอ่านด้วย ตามปกติคนท่ีฟังมากอ่านมาก และพูดดยี ่อมเขยี นได้ ดังน้ันจึงควรมี
การสง่ เสริมทักษะการเขยี นเพื่อประโยชนใ์ นการพฒั นาทักษะทางภาษา (วรรณี โสมประยรู , 2553, หน้า 146)
ด้วยความสำคัญดังกล่าว หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ได้กำหนดให้
ภาษาไทยเป็นทักษะที่ต้องฝึกฝนจนเกิดความชำนาญในการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสารการเรียนรู้อย่างมี
ประสิทธิภาพและเพื่อนำไปใชใ้ นชีวิตจรงิ (กระทรวงศึกษาธิการ, 2552, หน้า 37) แต่ปัจจุบนั สภาพการจัดการ
เรียนการสอนภาษาไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาระการอ่าน เขียนยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร โดย
การศึกษาจากผลการประเมินความสามารถด้านการอ่าน (Reading Test : RT) ปีการศึกษา 2563 ร้อยละ
78.15 และผลการประเมินความสามารถด้านการอ่าน (Reading Test : RT) ปีการศึกษา 2562 ร้อยละ
81.91 พบวา่ มคี ะแนนเฉลยี่ ร้อยละ รวม 2 ดา้ นลดลงร้อยละ 3.76
2
และจากการศึกษาสาเหตขุ องการลดลงของผลการประเมินความสามารถด้านการอ่าน (Reading Test
: RT) พบวา่ คณุ ครูขาดการใช้ส่ือท่ีน่าสนใจ และนกั เรียนขาดการทบทวนบทเรียน ซ่งึ สง่ ผลต่อนักเรียนไม่ได้รับ
การฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง ครูไม่มีการสอนซ่อมเสริม ไม่มีแบบฝึกที่ดีและเหมาะสมกับนักเรียน และดึงดูดความ
สนใจของนักเรียน ครูต้องดูแลให้ความสนใจต่อนักเรียนอย่างใกลช้ ิด เมอ่ื นกั เรียนอ่านและเขียนสะกดคำผิดครู
ต้องช่วยแก้ไขทันทีอีกหนึ่งประเด็นทีไ่ ม่ควรมองข้ามคือกลุ่มเด็กเล็ก จากผลสำรวจชี้ให้เหน็ ว่าพ่อแม่ผู้ปกครอง
ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 63.80 ยังขาดความเข้าใจในเรื่องการอ่านหนังสือของเด็กเล็ก โดยให้เหตุผลว่าเด็กยังมี
อายนุ ้อยเกินไป ทำใหเ้ ด็กกลุ่มนี้ คิดเป็นจำนวนราว 1.1 ล้านคน ไมไ่ ดร้ ับการปลูกฝังนสิ ัยรักการอ่านเหตุเพราะ
ความเข้าใจผิดของผู้ปกครอง ดังนั้นการรณรงค์ให้ความรู้และทำความเข้าใจในการส่งเสริมการอ่านในเด็กเล็ก
เช่น การเล่านิทานให้ลูกฟังเป็นประจำ (กิตติรัตน์ ปิติพานิช, 2562) จากสภาพปัญหาดงั กลา่ ว ถ้าหากนักเรียน
ไมไ่ ดร้ บั การฝึกฝนด้วยวธิ กี ารและเครื่องมือที่เหมาะสมแลว้ ก็จะพัฒนาความสามารถด้านการอ่านและการเขียน
สะกดคำของนักเรียนได้ไม่ดีเท่าที่ควร ซึ่งการแก้ปัญหาการอ่านและการเขียนสะกดคำของนักเรียนสามารถแก้
ได้หลายวิธี เช่นการจัดการเรียนรู้แบบใช้คำถาม การจัดการเรียนรู้แบบค้นพบ การจัดการเรียนรู้แบบบรรยาย
สอนโดยใช้สื่อประสม ซึ่งเป็นการนำสื่อหลายๆ ประเภทมาใช้ร่วมกันทั้งวัสดุ อุปกรณ์ และวิธีการ เพื่อให้เกิด
ประสิทธภิ าพและประสิทธผิ ลสูงสดุ ในการเรียนการสอน โดยการใช้สือ่ แตล่ ะอย่างตามลำดับข้นั ตอนของเนื้อหา
และในปจั จุบันมีการนำคอมพวิ เตอร์มาใชร้ ว่ มดว้ ย เพือ่ การผลิต หรอื การควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ต่าง ๆ
ในการเสนอข้อมูลทั้งตัวอักษร ภาพกราฟิก ภาพถ่าย ภาพเคลื่อนไหวแบบวีดิทัศน์และเสียง ต่อมาเมื่อมีการ
นำเอาเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ผ่านระบบเครือข่ายมาใช้จัดการเรียนการสอนแพร่หลายมากขึ้น (กิดานันท์
มลิทอง, 2543, หน้า 493-500) สอดคล้องกับ ธนิตา ภูธา และวัชรินทร์ ศรีรักษา (2551, หน้า บทคัดย่อ) ได้
การพัฒนาสอื่ ประสมเสริมทักษะการอ่าน วิชาภาษาไทย เร่ือง มาตราตวั สะกด ของนกั เรียนชั้นประถมศึกษา 2
โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลยั ขอนแกน่ (ศึกษาศาสตร์) ระดับประถม พบว่า มีค่าดชั นปี ระสทิ ธิผล (E.I) มีค่าตั้งแต่
0.50 ขนึ้ ไป และนกั เรียนมีความพึงพอใจต่อสื่อประสมเสริมทักษะการอา่ น วชิ าภาษาไทย อยู่ในระดับพึงพอใจ
มาก (= 2.70)
จากสาเหตุปัญหาต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น จึงทำให้ผู้ศึกษาค้นคว้าในฐานะครูผู้สอนภาษาไทย
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีความคิดว่าพื้นฐานสำคัญเบื้องต้นที่สำคัญยิ่งที่ครูผู้สอนมีวิจัยภาษาไทยทุกคนควรให้
ผู้เรียนมีการฝึกฝนตั้งแต่เริ่มเรียนเนื่องจากเพิ่งเลื่อนชั้นจากอนุบาล คือ การปลูกฝังการอ่านและการเขียน
ที่ถูกต้องให้กับผู้เรียน ผู้ศึกษาค้นคว้าจึงมีความสนใจและได้จัดทำวิจัยเรื่อง การพัฒนาชุดสื่อประสม เรื่อง
หรรษา สระ-า เพื่อพฒั นาทกั ษะการอ่านและการเขียนสะกดคำ กลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย สำหรับนักเรียน
ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 1
3
วตั ถุประสงค์
1. เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของชุดสื่อประสม เรื่อง หรรษา สระ-า เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและ
การเขียนสะกดคำ กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย สำหรับนกั เรียนช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 1
2. เพอ่ื เปรียบเทียบผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนระหว่างกอ่ นเรียนกับหลังเรียน ดว้ ยพฒั นาสื่อประสม เรื่อง
หรรษา สระ-า เพื่อพฒั นาทกั ษะการอ่านและการเขียนสะกดคำ กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย สำหรับนกั เรียน
ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 1
3. เพื่อศึกษาทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 หลังได้รับการ
จัดการเรียนรโู้ ดยใชช้ ุดสือ่ ประสม เรื่อง หรรษา สระ-า เทียบกบั เกณฑร์ ้อยละ 80
4. เพอ่ื ศึกษาความพงึ พอใจของนักเรียนต่อการใช้ชุดส่ือประสม เรอื่ ง หรรษา สระ-า เพ่ือพัฒนาทักษะ
การอา่ นและการเขยี นสะกดคำ กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย สำหรับนกั เรยี นชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1
เป้าหมาย
กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/1 โรงเรียนอนุบาลตาก สังกัดสำนักงานเขต
พื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตาก เขต 1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 20 คน ได้มาโดยการเลือก
แบบเจาะจง (Purposive selection)
ข้นั ตอนการดำเนินงาน
1. ศึกษาดชั นีประสิทธผิ ลของชุดสอื่ ประสม เรื่อง หรรษา สระ-า เพอื่ พัฒนาทักษะการอา่ นและการ
เขยี นสะกดคำ กลุม่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย สำหรบั นักเรียนชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 1
1.1 สำรวจปัญหาเกี่ยวกับการเรียนการสอนรายวิชาภาษาไทยซึ่งพบว่านักเรียน มีผลสัมฤทธิ์
ทางการเรียนต่ำมาจาก สื่อประกอบการเรียนการสอนยังขาดความน่าสนใจ ไม่สามารถกระตุ้นให้นักเรียนเกิด
การเรียนรู้ และกระบวนการในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนทย่ี ังไมเ่ หมาะสมกบั นักเรยี น
1.2 ศึกษาขอ้ มูลพน้ื ฐาน วิธี หลักการและเทคนิคการสร้างชุดสอ่ื ประสม เอกสารตำรา และงานวิจัย
ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาชุดสื่อประสม เรื่อง หรรษา สระ-า เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ซึ่งการสร้างชุดสื่อประสมนั้น มีการ
กำหนดจุดม่งุ หมาย เนือ้ หา กิจกรรมการเรยี นการสอน วัสดสุ ื่อการเรียนการสอน การวดั ผลประเมินผล เพื่อให้
บรรลจุ ดุ ม่งุ หมายอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ
1.3 ศกึ ษาหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พื้นฐานพุทธศักราช 2551 และหลกั สตู รกลุ่มสาระการ
เรยี นรู้ภาษาไทย สาระท่ี 1 การอา่ น และสาระที่ 2 การเขียน พร้อมท้งั กำหนดพฤติกรรมการเรยี นรู้ตามน้ำหนัก
ความสัมพนั ธ์ ในแต่ละดา้ น ซึง่ มขี ้นั ตอนดังนี้
1.3.1 ศึกษามาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้วี ดั
1.3.2 กำหนดสาระการเรยี นรใู้ นชุดส่อื ประสม
1.3.3 วิเคราะหส์ าระการเรียนรแู้ ละกำหนดเวลา
4
1.4 ศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง หลักการและทฤษฎีการสอนเชิงรุก (Active Learning)
ในการจดั ทำแผนการจัดการเรยี นรู้ หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 เรือ่ ง หรรษา สระ-า
1.5 สรา้ งชุดสอ่ื ประสม เรือ่ ง หรรษา สระ-า เพื่อพฒั นาทักษะการอา่ นและการเขียนสะกดคำ กลุ่ม
สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย สำหรบั นักเรียนช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 1
1.6 นำชุดสื่อประสม เรื่อง หรรษา สระ-า เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำ กลุ่ม
สาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่ผู้ศึกษาค้นคว้าสร้างขึ้นแล้ว จัดพิมพ์ฉบับ
ร่าง เตรียมเสนอผู้เชี่ยวชาญเพื่อเตรียมประเมินความเหมาะสม ผู้เชี่ยวชาญ 3 ท่าน เป็นแบบมาตราส่วน
ประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ ตามวธิ ีของลิเคอร์ท
1.7 ผลการประเมินความเหมาะสมด้านตา่ งๆ ของชุดกิจกรรมมาหาค่าเฉลีย่ (̅X) และส่วนเบี่ยงเบน
มาตรฐาน (S.D.) โดยกำหนดเกณฑม์ ีคา่ เฉลี่ยตง้ั แต่ 3.50 ข้นึ ไป และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานไมเ่ กิน 1.00 ถ้าชุด
กิจกรรมใดไม่เปน็ ไปตามเกณฑต์ ้องนำมาปรบั ปรงุ (รตั นะ บวั สนธ์, 2551, หน้า 169)
1.8 จัดพิมพ์ชุดสื่อประสม เรื่อง หรรษา สระ-า เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ให้ถูกต้องและสมบูรณ์ และ upload
ลงโปรแกรม OBEC Content
1.9 การศึกษาดัชนีประสิทธผลของชุดสื่อประสม เรื่อง หรรษา สระ-า เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน
และการเขียนสะกดคำกลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย สำหรับนกั เรยี นชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยการทดลองใช้
(Try out) คือการนำชุด ไปทดลองกับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่ไม่ใช่กลุ่มประชากร โดยสอนตาม
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ไดก้ ำหนดไว้
2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนกับหลังเรียน ด้วยสื่อประสม เรื่อง
หรรษา สระ-า เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับ
นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และศึกษาทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำ ของนักเรียนช้ัน
ประถมศึกษาปีที่ 1 หลังได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดสื่อประสม เรื่อง หรรษา สระ-า เทียบกับเกณฑ์
รอ้ ยละ 80
2.1 ศึกษาเอกสาร หนังสือ ตำราและบทความที่เกี่ยวข้องกับการสร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิ
ทางการเรียนชนิดเลือกตอบจากหนังสือการวัดผลการศึกษาของ สมนึก ภัททิยธนี (2546, หน้า 73 - 97)
เรื่อง หรรษา สระ -า เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับ
นักเรียนชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 ตลอดจนลักษณะเฉพาะและวิธกี ารสรา้ งแบบทดสอบ และแบบประเมินทักษะ
การอา่ นและการเขยี นสะกดคำ
2.2 ศึกษาแบบเรียน คู่มือครูวิชาภาษาไทย สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ตามหลักสูตรแกนกลาง
การศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 เพอ่ื วิเคราะห์หน่วยการเรียนรู้ เรอื่ ง หรรษา สระ -า
2.3 กำหนดสัดสว่ นความสมั พนั ธข์ องจำนวนขอ้ สอบวดั ผลสมั ฤทธิท์ างการเรียน แบบประเมนิ ทักษะ
การอ่านและการเขียนสะกดคำ เรื่อง หรรษา สระ-า กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้น
ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 ตามสาระการเรยี นรู้ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ และพฤติกรรมทตี่ ้องการวัด
5
2.4 สร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง หรรษา สระ -า สำหรับนักเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 แบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 3 ตัวเลือก วัดพฤติกรรมด้านความรู้ ความจำ ความเข้าใจ
การนำไปใช้ การวิเคราะห์ การสังเคราะห์ และการประเมินค่า จำนวน 20 ข้อ ต้องการข้อสอบแบบทดสอบ
วัดผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 10 ขอ้ แบบประเมินทักษะการอ่าน จำนวน 10 ข้อ และการเขียนสะกดคำ
จำนวน 10 ข้อ
2.5 นำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี น แบบประเมินทกั ษะการอ่านและการเขียนสะกดคำ
เรอ่ื ง หรรษา สระ -า สำหรับนักเรียนชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 1 เสนอต่อผูเ้ ชี่ยวชาญ 3 ทา่ น เพอ่ื ตรวจสอบความ
เที่ยงเชิงเนื้อหา (Content Validity) โดยการหาค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC : Index of Item Objective
Congruence) นำผลที่ได้จากการทดสอบมาวิเคราะห์รายข้อ เพื่อหาค่าความยาก (P) ซึ่งจะต้องอยู่ระหว่าง
0.20 – 0.80 และค่าอำนาจจำแนก (B) โดยใช้วิธีของเบรนเนน (บุญชม ศรีสะอาด, 2545, หน้า 84 - 90)
ซึง่ ต้องมีคา่ 0.20 – 1.00
2.6 นำข้อสอบ และแบบประเมินทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำ ที่มีค่าความยาก (p)
และค่าอำนาจจำแนก (B) ที่ไม่อยู่ในเกณฑ์มาปรับปรุงหรือตัดทิ้ง ผลจากการวิเคราะห์ได้แบบทดสอบจำนวน
10 ข้อ แบบประเมินทักษะการอ่าน จำนวน 10 ข้อ และการเขียนสะกดคำ จำนวน 10 ข้อที่ครอบคลุม
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ และมีคณุ ภาพเป็นไปตามเกณฑ์
2.7 นำข้อสอบ และแบบประเมินทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำท่ีตรงจุดประสงค์การเรียนรู้
อย่างครอบคลุมและมีคุณภาพดีเป็นไปตามเกณฑ์ จำนวน 30 ข้อ ซึ่งมีค่าความยาก (p) อยู่ระหว่าง 0.27 –
0.70 และค่าอำนาจจำแนก (B) มีค่า อยู่ระหว่าง 0.20 – 0.76 มาวิเคราะห์หาค่าความเที่ยงของแบบทดสอบ
แบบอิงเกณฑ์ จากผลการสอบครั้งเดียวโดยใช้วิธีของโลเวทท์ (Lovett) (บุญชม ศรีสะอาด, 2545, หน้า 96)
มคี า่ ความเทยี่ งเท่ากับ 0.97
2.8 จดั พิมพ์แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี น ที่ได้มาใช้เป็นแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน
ก่อนเรียน 1 ชุด และจัดทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน 1 ชุด โดยนำแบบทดสอบวัดผล
สมั ฤทธ์ทิ างการเรยี นก่อนเรยี นชดุ เดิมมาสลบั ข้อกนั เพ่อื นำไปใช้กบั กลุ่มตัวอยา่ ง
2.9 จัดพิมพ์แบบประเมินทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำ ที่ได้มาใช้เป็นแบบประเมินทักษะ
การอา่ นและการเขยี นสะกดคำ 1 ชุด เพอื่ นำไปใช้กบั กลมุ่ ตวั อย่าง
3. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อการใช้ชุดสื่อประสม เรื่อง หรรษา สระ-า เพื่อพัฒนา
ทักษะการอ่านและการเขยี นสะกดคำ กล่มุ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย สำหรบั นักเรียนช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 1
3.1 ศึกษาทฤษฎี หลักการ เกี่ยวกับการสร้างแบบประเมินความพึงพอใจและเอกสารงานวิจัยที่
เกยี่ วขอ้ งกบั การสร้างแบบประเมินความพงึ พอใจ
3.2 สร้างแบบประเมินความพึงพอใจ เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) ได้
กำหนดค่าออกเป็น 3 ระดับ โดยศึกษาความพึงพอใจ 3 ด้าน และนำแบบประเมินความพึงพอใจเสนอต่อ
ผเู้ ช่ียวชาญ 3 ทา่ น
6
3.3 นำผลการประเมินของผู้เชี่ยวชาญ มาวิเคราะห์หาค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) เพื่อวิเคราะห์
หาความตรงเชิงเนือ้ หาเพ่ือหาค่าดัชนีความสอดคลอ้ ง ผลปรากฏว่าค่าดัชนีความสอดคล้องของข้อคำถามทุกข้อในแบบ
ประเมนิ ความพงึ พอใจมีค่า 0.67 - 1.00
3.4 นำแบบประเมินความพึงพอใจไปทดลองใช้ (Try out) กับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
โรงเรียนอนุบาลตาก ที่ไม่ใช่กลุ่มตัวอย่าง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตาก เขต 1 ภาคเรียนท่ี 1
ปกี ารศกึ ษา 2564 จำนวน 19 คน หลังจากการทดลองแบบภาคสนาม
3.5 นำข้อมูลที่ได้มาหาคุณภาพของแบบประเมินความพึงพอใจโดยพิจารณาค่าอำนาจจำแนกเป็น
รายข้อแบบอิงกลุ่มโดยใช้ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์อย่างง่ายแบบ Pearson (Item - Total Correlation)
(สมนกึ ภัททิยธนี, 2546, หน้า 85 - 86) ซึ่งผลการวิเคราะห์ข้อมลู ได้คา่ อำนาจจำแนก (rxy) ต้ังแต่ 0.41 - 0.83
และวิเคราะห์หาค่าความเที่ยง (Reliability) ด้วยวิธีการหาค่าสัมประสิทธิ์แอลฟา (Alpha coefficient)
ตามวธิ กี ารของครอนบาค (Cronbach) (บุญชม ศรีสะอาด, 2545, หนา้ 99) ได้คา่ ความเท่ยี งของแบบประเมิน
ความพงึ พอใจทงั้ ฉบับเทา่ กับ 0.93
3.6 จดั พิมพ์แบบประเมินความพงึ พอใจของนักเรียนท่ีมีต่อการเรยี นโดยใช้ส่ือประสม เรอ่ื ง หรรษา
สระ-า เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เป็นฉบับสมบูรณ์แล้วนำไปไปทดลองใช้จริงกับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/1
โรงเรียนอนุบาลตาก สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตาก เขต 1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564
จำนวน 20 คน
ผลการดำเนินงาน
1. ผลตอ่ การพัฒนานักเรยี น
1.1 นักเรยี นมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลงั เรียนดว้ ยชดุ ส่ือประสม เรอ่ื ง หรรษา สระ-า เพ่ือพัฒนา
ทกั ษะการอ่านและการเขยี นสะกดคำ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรยี นชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 1 สูง
กวา่ ก่อนเรยี น อยา่ งมนี ัยสำคญั ทร่ี ะดับ .05
1.2 นกั เรยี นมีทกั ษะการอ่านและการเขียนสะกดคำ ของนกั เรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1 หลังได้รับ
การจัดการเรียนรู้โดยใชช้ ดุ สื่อประสม เรอื่ ง หรรษา สระ-า สูงกวา่ เกณฑ์ร้อยละ 80
1.3 นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการใช้ชุดสื่อประสม เรื่อง หรรษา สระ-า เพื่อพัฒนาทักษะการ
อ่านและการเขียนสะกดคำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 อยู่ในระดับ
มาก
1.4 นักเรียนร้อยละ 100 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นในรายวิชาภาษาไทย ท11101
เฉลี่ยรอ้ ยละ 80 ขึน้ ไป
1.5 นักเรียนมีผลการประเมินความสามารถด้านการอ่าน (Reading Test : RT) มีคะแนนเฉล่ีย
ร้อยละ 81.23
7
2. ผลตอ่ การพฒั นาสถานศกึ ษา และชมุ ชน
2.1 โรงเรียนมีนวัตกรรมต้นแบบที่ส่งเสริมให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ตามศักยภาพ ด้วยการจัด
กิจกรรมการเรียนรูเ้ ชิงรกุ (Active Learning)
2.2 ชุมชนมีสื่อประสมบรู ณาการหลกั สูตรท้องถนิ่ เช่น ความรูเ้ รือ่ ง พระเจ้าตากสินมหาราช เพื่อให้
นักเรียนเกดิ ความรกั ภาคภมู ใิ จในประวตั คิ วามเป็นมาของจงั หวดั ตาก
3. ประสิทธิภาพในการทำงาน และประโยชนท์ ี่ไดร้ บั จากผลงานหรอื นวตั กรรม
3.1 นักเรยี นเป็นนวตั กร (Innovator) ด้วยกระบวนการคิดเพื่อนำไปสกู่ ารสร้างสรรคส์ งิ่ ประดษิ ฐ์
หรอื เกดิ นวตั กรรมใหม่
3.2 นักเรยี นและผูป้ กครอง สามารถเรียนรรู้ ่วมกัน มีการซ่อมเสริม ทบทวนบทเรยี นไดด้ ้วยตนเอง
อย่างต่อเนื่อง
บทเรยี นที่ได้รบั
1. ครูผู้สอนควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้ก่อนใช้ชุดสื่อประสม เรื่อง หรรษา สระ-า
เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้น
ประถมศึกษาปีที่ 1 โดยศึกษาคำชี้แจง รายละเอียดของชุดสื่อประสม แผนการจัดการเรียนรู้ และเตรียม
อุปกรณ์การสอนใหค้ รบถ้วนตามทรี่ ะบุไว้ ใหพ้ รอ้ มเพอื่ ให้เกดิ ความสะดวกในการชดุ ใช้สอื่ ประสม
2. ในระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ พบว่า กิจกรรมในบางกิจกรรม นักเรียนใช้เวลามากเกินเวลา
ที่กำหนดไว้ จึงควรยืดหยุ่นเวลาได้ตามความเหมาะสม ทั้งนี้เนื่องจากนักเรียนบางคน มีทักษะการเรียนรู้
ท่ตี า่ งกนั
ปัจจัยแหง่ ความสำเรจ็
1. การศึกษาหลักการ ทฤษฎี การสรา้ งส่อื นวัตกรรม รวมไปถงึ การหาคุณภาพของเคร่ืองมือของชุดส่ือ
ประสม แบบทดสอบ แบบประเมินทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำ และแบบประเมินความพึงพอใจ
ทำให้ชดุ สอ่ื ประสม เรอ่ื ง หรรษา สระ-า เพือ่ พัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำ กลมุ่ สาระการเรียนรู้
ภาษาไทย สำหรบั นักเรียนชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 1 มีดัชนีประสิทธิผลของชดุ สือ่ ประสม ร้อยละ 0.85
2. โรงเรียนอนุบาลตากร่วมกับเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตาก เขต 1 และมหาวิทยาลัยราชภัฏ
วไลยอลงกรณ์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ให้การสนับสนุนการพัฒนาความรู้ ความเข้าใจโดยการจัดกิจกรรมเพื่อ
พฒั นากระบวนการจัดการเรียนรูด้ ้วย Active Learning
3. นักเรียนมีความกระตือรือร้นให้ความร่วมมือในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ รวมไปถึงผู้ปกครอง
มกี ารทบทวนบทเรียนและทดลองใช้นวัตกรรมทีน่ กั เรียนสร้างขน้ึ
8
การเผยแพร่
1. การเผยแพร่ผลงานในระดับสถานศึกษา
2. การเผยแพร่ผลงานในระดบั เขตพ้ืนที่การศกึ ษา/จงั หวัด
3. การเผยแพรผ่ ลงานในระดบั ภาค
9
4. การเผยแพรผ่ ลงานในระดับประเทศ
10
บรรณานกุ รม
กระทรวงศกึ ษาธิการ. (2552). หลกั สูตรการศึกษาข้นั พื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551. กรงุ ทพฯ: กรมวชิ าการ
กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
กิดานันท์ มลิทอง. (2543). เทคโนโลยีและการสือ่ สารเพ่ือการศกึ ษา. กรงุ เทพฯ: อรุณการพมิ พ์
กติ ติรตั น์ ปิติพานิช. (2562). ผลสำรวจการอ่านคนไทย ปี 61 เพ่ิมขึน้ เฉลยี่ 80 นาท/ี วัน อา่ นมากสดุ ในกล่มุ
วัยรุน่ น่าหว่ งเดก็ ตำ่ กว่า 6 ขวบ อ่านผา่ นทางมือถือเพมิ่ ข้ึน 3 เท่า.
https://today.line.me/th/v2/ article/9rBBDe เข้าถงึ เมื่อวนั ที่ 21 สิงหาคม 2564
ธนติ า ภธู า และวัชรนิ ทร์ ศรีรกั ษา. (2551). การพฒั นาสอ่ื ประสมเสริมทักษะการอา่ น วชิ าภาษาไทย เรือ่ ง
มาตราตัวสะกด ของนกั เรยี นชนั้ ประถมศึกษา 2 โรงเรียนสาธิตมหาวทิ ยาลัยขอนแกน่
(ศึกษาศาสตร์) ระดับประถม. คณะศึกษาศาสตร์, มหาวิทยาลยั ขอนแกน่ .
บญุ ชม ศรีสะอาด. (2545). การวจิ ยั เบื้องต้น (พิมพ์ครั้งที่ 7). กรุงเทพฯ: สุวรี ยิ สาส์น.
รัตนะ บวั สนธ์. (2551). การวิจยั และพฒั นานวัตกรรมการศกึ ษา. กรุงเทพฯ : คำสมัย.
วรรณี โสมประยรู . (2553). เทคนิคการสอนภาษาไทย. พิมพ์ครงั้ ท่ี 1 กรุงเทพมหานคร: ดอกหญ้าวิชาการ
สมนึก ภทั ทยิ ธนี. (2546). การวดั ผลการศกึ ษา (พิมพค์ รั้งท่ี 4). กาฬสินธ์:ุ ประสานการพิมพ.์
11
ภาคผนวก
(คูม่ ือการผลติ สอ่ื แผนการจัดการเรียนรู้ ภาพถา่ ย ชนิ้ งาน ฯลฯ)
12
\
13
คูม่ อื การผลติ ส่อื
ชื่อสื่อ ชุดสอ่ื ประสม เรื่อง หรรษา สระ-า เพ่ือพฒั นาทกั ษะการอ่านและการเขยี นสะกดคำ
ชือ่ ผผู้ ลิต กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย สำหรับนกั เรียนชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 1
นางสาวณัฐกรณ์ ขตั วิ งษ์
ระดับชัน้ ตำแหนง่ ครู อันดบั คศ.1
หน่วยการเรยี นรู้ โรงเรียนอนุบาลตาก
จำนวน สำนักงานเขตพนื้ ท่ีการศึกษาประถมศึกษาตาก เขต 1
ประถมศึกษาปีท่ี 1
หนว่ ยที่ 2 หรรษา สระ-า
3 ชว่ั โมง
ข้ันตอนการพัฒนาหาคุณภาพของส่ือหรอื นวตั กรรม
1. ศึกษาดัชนปี ระสทิ ธิผลของชุดสื่อประสม เรือ่ ง หรรษา สระ-า เพ่ือพัฒนาทกั ษะการอ่านและการ
เขยี นสะกดคำ กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย สำหรับนักเรียนชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 1
1.1 สำรวจปัญหาเกี่ยวกับการเรียนการสอนรายวิชาภาษาไทยซึ่งพบว่านักเรียน มีผลสัมฤทธิ์
ทางการเรียนต่ำมาจาก สื่อประกอบการเรียนการสอนยังขาดความน่าสนใจ ไม่สามารถกระตุ้นให้นักเรียนเกิด
การเรยี นรู้ และกระบวนการในการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอนทีย่ งั ไมเ่ หมาะสมกับนักเรยี น
1.2 ศึกษาข้อมูลพ้นื ฐาน วิธี หลกั การและเทคนคิ การสร้างชุดสื่อประสม เอกสารตำรา และงานวิจัย
ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาชุดสื่อประสม เรื่อง หรรษา สระ-า เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ซึ่งการสร้างชุดสื่อประสมนั้น มีการ
กำหนดจุดม่งุ หมาย เน้อื หา กิจกรรมการเรียนการสอน วสั ดสุ ื่อการเรียนการสอน การวัดผลประเมินผล เพ่ือให้
บรรลุจุดมุง่ หมายอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ
1.3 ศกึ ษาหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พน้ื ฐานพุทธศักราช 2551 และหลกั สูตรกลุ่มสาระการ
เรียนรู้ภาษาไทย สาระที่ 1 การอ่าน และสาระที่ 2 การเขียน พรอ้ มทงั้ กำหนดพฤตกิ รรมการเรียนรู้ตามน้ำหนัก
ความสัมพนั ธ์ ในแต่ละดา้ น ซ่ึงมขี น้ั ตอนดังนี้
1.3.1 ศึกษามาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวชว้ี ัด
1.3.2 กำหนดสาระการเรยี นรู้ในชดุ ส่ือประสม
1.3.3 วเิ คราะห์สาระการเรยี นรู้และกำหนดเวลา
1.4 ศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง หลักการและทฤษฎีการสอนเชิงรุก (Active Learning)
ในการจัดทำแผนการจัดการเรยี นรู้ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 เรื่อง หรรษา สระ-า
14
1.5 สรา้ งชุดส่ือประสม เรื่อง หรรษา สระ-า เพ่ือพฒั นาทักษะการอา่ นและการเขียนสะกดคำ กลุ่ม
สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปที ่ี 1
1.6 นำชุดสื่อประสม เรื่อง หรรษา สระ-า เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำ กลุ่ม
สาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่ผู้ศึกษาค้นคว้าสร้างขึ้นแล้ว จัดพิมพ์ฉบับ
ร่าง เตรียมเสนอผู้เชี่ยวชาญเพื่อเตรียมประเมินความเหมาะสม ผู้เชี่ยวชาญ 3 ท่าน เป็นแบบมาตราส่วน
ประมาณคา่ (Rating Scale) 5 ระดับ ตามวธิ ีของลเิ คอร์ท
รายการประเมิน n=3 ระดับความเหมาะสม
̅ . .
1. ด้านจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ มาก
1.1 สอดคล้องกบั เน้ือหา 4.33 0.58 มาก
1.2 ภาษาชดั เจนเข้าใจง่าย 4.00 1.00 มาก
1.3 ระบพุ ฤติกรรมท่ตี ้องการวดั ไดช้ ัดเจน 4.00 0.58
มาก
2. ด้านสาระการเรยี นรู้ 3.67 0.58 มาก
2.1 ความยากง่ายเหมาะสมกบั ช่วงวยั 4.33 0.58
2.2 นา่ สนใจและเป็นประโยชน์กับผเู้ รียน มาก
4.00 0.58 มาก
3. ด้านกจิ กรรมการเรยี นการสอน 3.67 1.00
3.1 เร้าความสนใจของผ้เู รยี น มาก
3.2 ส่งเสริมให้นักเรียนแสวงหาความรู้และ 3.67 0.58 มาก
3.67 0.58 มาก
ทำงานเป็นกลุม่ 4.00 0.58
3.3 เรียงลำดับจากงา่ ยไปยาก มาก
3.4 มคี วามรู้ความเข้าใจในเนื้อหาได้ดยี งิ่ ข้นึ 4.33 1.00
3.5 ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรรมการเรียน มาก
3.67 0.58
การสอน มากทส่ี ดุ
3.6 กิจกรรมการเรียนการสอนกระตุ้นความ 4.67 0.58
มาก
สนใจของผู้เรียน นำไปสู่การพัฒนาทักษะการ 3.67 0.58
อา่ นและการเขียนสะกดคำ มาก
3.67 0.58
3.7 จดั การเรยี นรมู้ ีความหลากหลาย
4. ด้านส่ือการเรยี นการสอน
4.1 ใช้สื่อการเรียนรู้ที่หลากหลายเหมาะสม
กบั เนอื้ หาและวยั ของผ้เู รียน
4.2 ใช้สื่อประสมประกอบการเรียนการสอน
ทส่ี ่งเสรมิ ทักษะการอ่านและการเขยี นสะกดคำ
4.3 ใชส้ ื่อการเรยี นร้ทู ่ีสอดคล้องกับเนือ้ หา
15
รายการประเมิน n=3 ระดบั ความเหมาะสม
̅ . . มาก
5. ดา้ นการวัดและประเมินผล 4.33 0.58
5.1 มีการประเมินอย่างต่อเนื่อง และมีการ 4.67 0.58 มากที่สดุ
ใหข้ อ้ มลู ย้อนกลบั แกผ่ ูเ้ รยี น 4.02 0.15 มากทส่ี ุด
5.2 การวัดและประเมินผลด้วยวิธีที่
หลากหลายสอดคล้องกบั จดุ ประสงค์การเรียนรู้
และความสามารถของผเู้ รียน
รวมเฉล่ยี
1.7 ผลการประเมินความเหมาะสมดา้ นตา่ งๆ ของชุดกิจกรรมมาหาค่าเฉลีย่ (̅X) และส่วนเบี่ยงเบน
มาตรฐาน (S.D.) โดยกำหนดเกณฑ์มีค่าเฉลี่ยตั้งแต่ 3.50 ขึ้นไป และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานไม่เกิน 1.00 ถ้า
รายการใดไมเ่ ปน็ ไปตามเกณฑ์ต้องนำมาปรบั ปรุง (รัตนะ บัวสนธ์, 2551, หน้า 169)
1.8 จัดพิมพ์ชุดสื่อประสม เรื่อง หรรษา สระ-า เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ให้ถูกต้องและสมบูรณ์ และ upload
ลงโปรแกรม OBEC Content
1.9 การศึกษาดัชนีประสิทธผลของชุดสื่อประสม เรื่อง หรรษา สระ-า เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน
และการเขยี นสะกดคำกลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย สำหรับนักเรียนชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 1 โดยการทดลองใช้
(Try out) คือการนำชุดสื่อประสมไปทดลองกับนกั เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่ไม่ใช่กลุ่มประชากร โดยสอน
ตามแผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ไดก้ ำหนดไว้
ตารางแสดงค่าดัชนีประสิทธิผลชุดสื่อประสม เรื่อง หรรษา สระ-า เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน
และการเขยี นสะกดคำกลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย สำหรับนักเรยี นชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 1
จำนวนคน คะแนนเตม็ คะแนนรวม คะแนนรวม ดัชนปี ระสทิ ธิผล (E.I.)
กอ่ นเรียน หลงั เรยี น
20 10 71 180 0.8450
จากตารางแสดงค่าดัชนีประสิทธิผลชุดสื่อประสม เรื่อง หรรษา สระ-า เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน
และการเขียนสะกดคำกลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาไทย สำหรับนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ 1มีดัชนีประสิทธิผล
ของชดุ สือ่ ประสม ร้อยละ 0.85
16
2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนกับหลังเรียน ด้วยสื่อประสม เรื่อง
หรรษา สระ-า เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับ
นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และเปรียบเทียบทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำ ของนักเรียนชั้น
ประถมศึกษาปีที่ 1 หลังได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดสื่อประสม เรื่อง หรรษา สระ-า เทียบกับเกณฑ์
ร้อยละ 80
2.1 ศึกษาเอกสาร หนังสือ ตำราและบทความที่เกี่ยวข้องกับการสร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์
ทางการเรียนชนิดเลือกตอบจากหนังสือการวัดผลการศึกษาของ สมนึก ภัททิยธนี (2546, หน้า 73 - 97)
เรื่อง หรรษา สระ -า เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับ
นักเรียนชั้นประถมศึกษาปที ี่ 1 ตลอดจนลักษณะเฉพาะและวธิ ีการสรา้ งแบบทดสอบ และแบบประเมินทักษะ
การอ่านและการเขียนสะกดคำ
2.2 ศึกษาแบบเรียน คู่มือครูวิชาภาษาไทย สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ตามหลักสูตรแกนกลาง
การศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 เพอื่ วเิ คราะห์หน่วยการเรยี นรู้ เรือ่ ง หรรษา สระ -า
2.3 กำหนดสัดส่วนความสัมพันธข์ องจำนวนข้อสอบวดั ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน แบบประเมนิ ทกั ษะ
การอ่านและการเขียนสะกดคำ เรื่อง หรรษา สระ-า กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนช้ัน
ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 ตามสาระการเรยี นรู้ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ และพฤติกรรมทตี่ อ้ งการวดั
2.4 สร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง หรรษา สระ -า สำหรับนักเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 แบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 3 ตัวเลือก วัดพฤติกรรมด้านความรู้ ความจำ ความเข้าใจ
การนำไปใช้ การวิเคราะห์ การสังเคราะห์ และการประเมินค่า จำนวน 20 ข้อ ต้องการข้อสอบแบบทดสอบ
วดั ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียน จำนวน 10 ขอ้ แบบประเมินทักษะการอ่าน จำนวน 10 ขอ้ และการเขียนสะกดคำ
จำนวน 10 ข้อ
2.5 นำแบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียน แบบประเมินทกั ษะการอ่านและการเขียนสะกดคำ
เรื่อง หรรษา สระ -า สำหรบั นกั เรียนชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 1 เสนอต่อผู้เชี่ยวชาญ 3 ท่าน เพอื่ ตรวจสอบความ
เที่ยงเชิงเนื้อหา (Content Validity) โดยการหาค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC : Index of Item Objective
Congruence) นำผลที่ได้จากการทดสอบมาวิเคราะห์รายข้อ เพื่อหาค่าความยาก (P) ซึ่งจะต้องอยู่ระหว่าง
0.20 – 0.80 และค่าอำนาจจำแนก (B) โดยใช้วิธีของเบรนเนน (บุญชม ศรีสะอาด, 2545, หน้า 84 - 90)
ซงึ่ ต้องมีค่า 0.20 – 1.00
2.6 นำข้อสอบ และแบบประเมินทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำ ที่มีค่าความยาก (p)
และค่าอำนาจจำแนก (B) ที่ไม่อยู่ในเกณฑ์มาปรับปรุงหรือตัดทิ้ง ผลจากการวิเคราะห์ได้แบบทดสอบจำนวน
10 ข้อ แบบประเมินทักษะการอ่าน จำนวน 10 ข้อ และการเขียนสะกดคำ จำนวน 10 ข้อที่ครอบคลุม
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ และมีคุณภาพเป็นไปตามเกณฑ์
2.7 นำข้อสอบ และแบบประเมินทักษะการอ่านและการเขยี นสะกดคำท่ีตรงจดุ ประสงค์การเรียนรู้
อย่างครอบคลุมและมีคุณภาพดีเป็นไปตามเกณฑ์ จำนวน 30 ข้อ ซึ่งมีค่าความยาก (p) อยู่ระหว่าง 0.27 –
0.70 และค่าอำนาจจำแนก (B) มีค่า อยู่ระหว่าง 0.20 – 0.76 มาวิเคราะห์หาค่าความเที่ยงของแบบทดสอบ
17
แบบอิงเกณฑ์ จากผลการสอบครั้งเดียวโดยใช้วิธีของโลเวทท์ (Lovett) (บุญชม ศรีสะอาด, 2545, หน้า 96)
มคี ่าความเทีย่ งเทา่ กับ 0.97
2.8 จัดพมิ พ์แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน ทีไ่ ด้มาใช้เป็นแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน
ก่อนเรียน 1 ชุด และจัดทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน 1 ชุด โดยนำแบบทดสอบวดั ผล
สมั ฤทธท์ิ างการเรยี นกอ่ นเรียนชดุ เดิมมาสลับข้อกนั เพือ่ นำไปใชก้ บั กลมุ่ ตวั อย่าง
2.9 จัดพิมพ์แบบประเมินทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำ ที่ได้มาใช้เป็นแบบประเมินทักษะ
การอา่ นและการเขยี นสะกดคำ 1 ชุด เพื่อนำไปใชก้ บั กลุม่ ตัวอยา่ ง
3. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อการใช้ชุดสื่อประสม เรื่อง หรรษา สระ-า เพื่อพัฒนา
ทกั ษะการอา่ นและการเขยี นสะกดคำ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 1
3.1 ศึกษาทฤษฎี หลักการ เกี่ยวกับการสร้างแบบประเมินความพึงพอใจและเอกสารงานวิจัย
ท่เี กีย่ วข้องกับการสรา้ งแบบประเมินความพึงพอใจ
3.2 สร้างแบบประเมินความพึงพอใจ เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) ได้
กำหนดค่าออกเป็น 3 ระดับ โดยศึกษาความพึงพอใจ 3 ด้าน และนำแบบประเมินความพึงพอใจเสนอต่อ
ผูเ้ ชี่ยวชาญ 3 ท่าน
3.3 นำผลการประเมินของผู้เชี่ยวชาญ มาวิเคราะห์หาค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) เพื่อวิเคราะห์
หาความตรงเชิงเนื้อหาเพ่ือหาคา่ ดัชนีความสอดคล้อง ผลปรากฏว่าค่าดัชนีความสอดคล้องของข้อคำถามทุกข้อในแบบ
ประเมินความพึงพอใจมีค่า 0.67 - 1.00
3.4 นำแบบประเมินความพึงพอใจไปทดลองใช้ (Try out) กับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
โรงเรียนอนุบาลตาก ที่ไม่ใช่กลุ่มตัวอย่าง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตาก เขต 1 ภาคเรียนที่ 1
ปกี ารศึกษา 2564 จำนวน 20 คน หลงั จากการทดลองแบบภาคสนาม
3.5 นำข้อมูลที่ได้มาหาคุณภาพของแบบประเมินความพึงพอใจโดยพิจารณาค่าอำนาจจำแนกเปน็
รายข้อแบบอิงกลุ่มโดยใช้ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์อย่างง่ายแบบ Pearson (Item - Total Correlation)
(สมนกึ ภทั ทิยธนี, 2546, หน้า 85 - 86) ซึ่งผลการวเิ คราะห์ข้อมลู ได้คา่ อำนาจจำแนก (rxy) ตั้งแต่ 0.41 - 0.83
และวิเคราะห์หาค่าความเที่ยง (Reliability) ด้วยวิธีการหาค่าสัมประสิทธิ์แอลฟา (Alpha coefficient)
ตามวธิ ีการของครอนบาค (Cronbach) (บญุ ชม ศรีสะอาด, 2545, หนา้ 99) ได้ค่าความเท่ยี งของแบบประเมิน
ความพงึ พอใจทัง้ ฉบบั เท่ากบั 0.93
3.6 จัดพมิ พแ์ บบประเมินความพึงพอใจของนักเรยี นท่ีมตี ่อการเรียนโดยใช้สื่อประสม เรือ่ ง หรรษา
สระ-า เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เป็นฉบับสมบูรณ์แล้วนำไปไปทดลองใช้จริงกับนักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 1/1
โรงเรียนอนุบาลตาก สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตาก เขต 1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564
จำนวน 20 คน
18
การใชง้ านสอื่ และนวัตกรรม
ชุดสื่อประสม เรื่อง หรรษา สระ-า เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำ กลุ่มสาระ
การเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ใช้ประกอบแผนการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาไทย
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 จำนวน 3 ชัว่ โมง ดงั น้ี
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 มารูจ้ ัก สระอา หนา้ 25 (ใชช้ ุดสอื่ ประสม หนา้ 1-9)
19
แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 2 นักสบื รุ่นจว๋ิ คน้ หาสระอา หน้า 28 (ใชช้ ดุ สอื่ ประสม หนา้ 10-19)
20
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 3 นวตั กร สระอา หน้า 31 (ใช้ชดุ สอื่ ประสม หนา้ 20-27)
21
ผลการดำเนนิ งาน
1. นักเรียนมีผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนหลังเรยี นดว้ ยชุดสอ่ื ประสม เรอื่ ง หรรษา สระ-า เพอื่ พัฒนาทักษะ
การอ่านและการเขียนสะกดคำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 สูงกว่า
กอ่ นเรียน อย่างมนี ยั สำคัญทีร่ ะดบั .05 ดงั ตาราง
ตารางแสดงค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสถิติทดสอบที และระดับนัยสำคัญทางสถิติของ
การทดสอบเปรียบเทยี บคะแนนสอบก่อนและหลงั เรยี นของนกั เรียน n = 20
การทดสอบ ̅ S.D. t Sig.(1-tailed)
กอ่ นเรยี น 3.55 1.15 5.45 1.32 18.51* 0.0000
หลงั เรียน 9.00 0.73
22
จากตารางพบว่า การทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีคะแนน
เฉลี่ย เท่ากับ 3.55 คะแนน และ 9.00 คะแนน ตามลำดับ และเมื่อเปรียบเทียบระหว่างคะแนนกอ่ นและหลัง
เรยี น พบว่า คะแนนสอบหลงั เรยี นของนกั เรียนสงู กวา่ ก่อนเรยี นอย่างมนี ยั สำคญั ทางสถติ ิท่รี ะดับ .05
2. นักเรียนมีทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 หลังได้รับการ
จดั การเรียนรโู้ ดยใช้ชดุ สอ่ื ประสม เรื่อง หรรษา สระ-า สงู กวา่ เกณฑ์ร้อยละ 80 ดังตาราง
ตารางแสดงคะแนนการประเมินทักษะการอา่ นและการเขียนสะกดคำ ของนักเรยี นชัน้ ประถมศึกษา
ปที ่ี 1 หลังไดร้ บั การจัดการเรียนรู้โดยใชช้ ดุ สื่อประสม เร่ือง หรรษา สระ-า จำนวน 20 คน
นักเรียน ทกั ษะการอ่าน ทกั ษะการเขียนสะกดคำ รวม รอ้ ยละ
คนที่
1 10 9 19 95.00
29 8 17 85.00
3 10 9 19 95.00
4 10 10 20 100.00
5 10 9 19 95.00
6 10 9 19 95.00
79 10 19 95.00
8 10 8 18 90.00
98 9 17 85.00
10 9 8 17 85.00
11 10 9 19 95.00
12 9 10 19 95.00
13 9 8 17 85.00
14 9 9 18 90.00
15 9 10 19 95.00
16 9 10 19 95.00
17 10 9 19 95.00
18 10 10 20 100.00
19 10 9 19 95.00
20 10 9 19 95.00
รวมเฉลีย 9.5 9.1 18.60 93.00
23
จากตารางพบว่า คะแนนการประเมินทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำ ของนักเรียนช้ัน
ประถมศึกษาปีที่ 1 หลังได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดสื่อประสม เรื่อง หรรษา สระ-า มีคะแนนเฉลี่ยรวม
18.60 คิดเป็นรอ้ ยละ 93.00 สงู กว่าเกณฑ์รอ้ ยละ 80
3. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการใช้ชุดสื่อประสม เรื่อง หรรษา สระ-า เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน
และการเขียนสะกดคำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 อยู่ในระดับมาก
ดังตาราง
ตารางแสดงผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้ชุดสื่อประสม เรื่อง หรรษา
สระ-า เพื่อพัฒนาทักษะการอา่ นและการเขยี นสะกดคำ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรยี นช้นั
ประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 20 คน
รายการประเมิน ̅ S.D. ระดบั
ความพงึ พอใจ
1. ด้านบรรยากาศการเรยี นรู้
1.1 ห้องเรียนมีอากาศถ่ายเท น่าเรียนและ 2.75 0.44 มาก
ใชจ้ ดั การเรยี นการสอนไดด้ ี
1.2 บรรยากาศในการเรยี นการสอนมคี วาม 3.00 0.00 มาก
สนกุ สนาน
1.3 บรรยากาศของการเรียนทำให้นักเรยี นมี 2.65 0.75 มาก
ความกระตือรอื ร้นในการเรียน
2. ดา้ นการจดั การเรยี นรู้
2.1 นักเรียนมีส่วนร่วมในการจัดการเรียนรู้ 2.90 0.45 มาก
ในห้องเรียน
2.2 กจิ กรรมการเรียนรสู้ ่งเสริมให้นักเรียนได้ 2.85 0.49 มาก
แลกเปลี่ยนความรคู้ วามคิดและกลา้ แสดงออก
2.3 กิจกรรมการเรียนรู้ทำให้นักเรียนเข้าใจ 2.75 0.44 มาก
ในเนือ้ หามากขน้ึ
2.4 กิจกรรมการเรียนรู้มีความเหมาะสมกับ 2.60 0.50 มาก
วัยของนักเรียน
2.5 กิจกรรมการเรียนรู้ส่งเสริมให้นักเรียน 2.85 0.49 มาก
มที ักษะในการอา่ นและเขียนสะกดคำดีขึ้น
24
รายการประเมิน ̅ S.D. ระดับ
ความพงึ พอใจ
3. ประโยชน์ที่ไดร้ บั
3.1 การจัดการเรียนรู้ทำให้เข้าใจเนื้อหาได้ 2.95 0.22 มาก
ง่าย
3.2 การจัดการเรียนรู้ช่วยให้นักเรียนสร้าง 2.65 0.59 มาก
ความรูค้ วามเขา้ ใจดว้ ยตนเองได้
3.3 กิจกรรมการเรียนการสอนนี้ทำให้ได้ 2.65 0.75 มาก
ทำงานร่วมกับผอู้ ื่น
รวมเฉลี่ย 2.78 0.46 มาก
จากตารางพบว่าความพึงพอของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อการใช้ชุดสื่อประสม เรื่อง
หรรษา สระ-า เพ่ือพฒั นาทกั ษะการอ่านและการเขยี นสะกดคำ กล่มุ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย สำหรบั นกั เรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ( X̅ = 2.78, S.D. = 0.46 ) เมื่อพิจารณา
ความพึงพอใจในแต่ละด้านพบว่า ด้านบรรยากาศการเรียนรู้ มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก (̅X = 2.80, S.D.
= 0.40 ) รองลงมาคือ ด้านกิจกรรมการเรียนรู้ มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ( X̅ = 2.79, S.D. = 0.47 )
และและด้านประโยชน์ท่ีได้รบั มีความพงึ พอใจมาก ( X̅ = 2.75, S.D. = 0.52 )
25
แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 1
รายวิชา ภาษาไทย รหสั วิชา ท11101 ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 1
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 เรอื่ ง หรรษา สระอา เวลา 3 ชวั่ โมง
เรือ่ ง มารู้จกั สระ อา เวลา 1 ชว่ั โมง
ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564 ครูผู้สอน นางสาวณฐั กรณ์ ขตั วิ งษ์
มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวช้วี ัด
มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ท 2.1 ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราว
ในรูปแบบต่าง ๆ เขยี นรายงานข้อมลู สารสนเทศและรายงานการศกึ ษาค้นควา้ อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ
ตัวชวี้ ัด
ท 2.1 ป. 1/1 คดั ลายมอื ตัวบรรจงเต็มบรรทดั
สาระสำคัญ
วิธีเขียนสระ -า จะลากเส้นจากบนลงล่าง การอ่านคำที่ประสมด้วยสระ -า ทุกคำ ออกเสียงยาว
และเขยี นสระ -า ไว้ขา้ งหลังพยญั ชนะตน้
สาระการเรียนรู้
วธิ กี ารเขยี นสระ -า
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. ดา้ นความรู้ (Knowledge : K)
1.1 อธบิ ายวิธีการเขยี นสระ -า
2. ดา้ นทักษะกระบวนการ (Process : P)
2.1 สระ -า ไดถ้ กู วธิ ี
2.2 ทักษะการทำงานเป็นกลมุ่
3. ดา้ นคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (Attitude : A)
3.1 มวี นิ ยั
3.2 ใฝ่เรียนรู้
3.3 มคี วามมุ่งมั่นในการทำงาน
26
กระบวนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
ขัน้ ที่ 1 ขั้นนำเขา้ สู่บทเรยี น
1. ครใู ห้นักเรยี นทำแบบทดสอบกอ่ นจะเร่มิ เรียน 10 ขอ้ ให้เวลา 10 นาที
2. ครทู อ่ งบทกลอน “มารู้จกั สระ อา ” ใหน้ ักเรยี นฟัง จากน้ันเปิดบทกลอนผา่ นจอโปรเจคเตอรใ์ ห้
นกั เรยี นดู และอ่านตามครูทลี ะวรรค จนคล่อง
ขน้ั ที่ 2 ข้ันสอน
3. ใหน้ กั เรียนช่วยกันหาช่อื ส่งิ ทีอ่ ยรู่ อบตัวเราที่มเี สยี งสระ -า
๏ ช่อื สัตว์ทบ่ี นิ ได้ (กา) ๏ ช่ือสัตว์ทอี่ ยู่ในนำ้ (ปลา)
๏ ช่ือสตั วอ์ ่นื ๆ (ม้า หมา ลา ช้าง) ๏ ญาติพนี่ ้อง (ย่า ยาย ตา อา น้า หลาน)
๏ สว่ นประกอบของร่างกาย (ปาก ขา หน้า ตา หนา้ ผาก นิว้ กลาง นิว้ นาง)
4. ครูให้นักเรียนทดสอบเสยี งสระให้นักเรียนออกเสียงให้นักเรียนออกเสียง อา และ อะ โดยลากเสียง
ยาวเพ่อื เปรยี บเทียบกนั และให้ใช้คำอื่น ๆ บา้ งเพือ่ ฝึกออกเสียง เช่น ขะ-ขา ละ-ลา
5. ครอู ธิบายให้นกั เรียนฟงั เพื่อให้รวู้ ่าสระใดมีเสยี งส้ันหรือยาวใหล้ องออกเสยี งสระนนั้ โดยลากเสียงให้
ยาว ถา้ ลากเสยี งยาวแล้ว สระนนั้ ไม่เปล่ียนเสียง แสดงวา่ เป็นสระเสียงยาว แต่ถ้าลากเสียงแลว้ เสียงสระ
เปล่ียนไปแสดงวา่ เปน็ สระเสียงสน้ั
6. ให้นักเรียนสังเกตวิธีเขียนสระ -า จากการเขียนสระ -า บนกระดาน จากนั้นช่วยกันอธิบายวิธีการ
เขยี น ครเู ขียนสระ -า ใหน้ ักเรยี นดูเปน็ ตวั อย่าง แล้วใหน้ กั เรียนฝึกเขียนโดยใช้น้ิวมอื ลากเส้นบนโตะ๊
7. ให้นักเรียนเขียนลากเส้นประสระ -า ด้วยลายมือบรรจง ลงในกระดาษที่ครูแจกให้ ครูตรวจสอบ
ผลงานนักเรียนเปน็ รายบุคคล
8. นักเรียนฝึกเขียนสระ อา ซ้ำอีก 1 ใบงาน โดยเขียนสระ อา ตามตัวอักษรที่หายไปด้วยลายมือตัว
บรรจงเต็มบรรทัด
ข้นั ที่ 3 ขน้ั สรุป
9. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกันสรุปความรู้ ดังน้ี
๏ วธิ เี ขยี นสระ -า จะลากเส้นจากบนลงล่าง
สื่อการเรยี นรู้
1. กระดาษสำหรับเขียนคำ
2. ชุดสื่อประสม เรื่อง หรรษา สระ-า เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำ กลุ่มสาระการ
เรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 (หน้า 1-9) จากดิจิทัลแพลตฟอร์ม OBEC Content
Centre
27
การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้
วธิ กี าร เครื่องมือ เกณฑก์ ารตัดสิน
ด้านความรู้ (Knowledge : K)
อธิบายวิธีการเขยี นสระ -า ใบงานคัดลายมือสระ -า 5 คะแนนข้ึนไป
ผ่านเกณฑ์
ด้านทักษะกระบวนการ (Process : P)
เขยี นสระ -า ได้ถูกวิธี แบบประเมินทกั ษะการเขียน ระดับคณุ ภาพ 2 ขึ้นไป
ผ่านเกณฑ์
ทกั ษะการทำงานเป็นกลุ่ม แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงาน ระดับคณุ ภาพ 2 ขึน้ ไป
เป็นกลมุ่ ผา่ นเกณฑ์
ดา้ นคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ (Attitude : A)
มวี ินัย ใฝ่เรยี นรู้ มุ่งมน่ั ในการทำงาน แบบประเมินคุณลักษณะอันพึง 8 คะแนนขน้ึ ไป
ประสงค์ ผา่ นเกณฑ์
28
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 2
รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วิชา ท11101 ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 1
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 เร่อื ง หรรษา สระอา เวลา 3 ชัว่ โมง
เร่ือง นักสบื ร่นุ จ๋ิว ค้นหาสระอา เวลา 1 ชั่วโมง
ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2564 ครูผสู้ อน นางสาวณัฐกรณ์ ขตั วิ งษ์
มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้วี ดั
มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ท 1.1 ให้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาในการ
ดำเนนิ ชีวิต และมีนสิ ยั รักการอ่าน
ตัวช้ีวัด
ท 1.1 ป.1/1 อา่ นออกเสียงคำ คำคลอ้ งจอง และข้อความสัน้ ๆ
สาระสำคญั
สระ -า มีเสยี งยาว ทำใหค้ ำท่ปี ระสมดว้ ยสระ -า ออกเสยี งยาวดว้ ย
สาระการเรยี นรู้
การอา่ นออกเสียงคำทีป่ ระสมด้วยสระ -า
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. ด้านความรู้ (Knowledge : K)
1.1 นักเรยี นสามารถอธิบายการอา่ นออกเสยี งสระ -า ได้
2. ด้านทักษะกระบวนการ (Process : P)
2.1 นกั เรียนสามารถหาคำที่ประสมด้วยสระ -า ได้
2.2 นกั เรียนสามารถอ่านสะกดออกเสียงคำที่ประสมด้วยสระ -า ได้
3. ดา้ นคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ (Attitude : A)
3.1 มีวินยั
3.2 ใฝ่เรยี นรู้
3.3 มคี วามมุ่งมน่ั ในการทำงาน
29
กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
ขั้นที่ 1 ขนั้ นำเข้าสบู่ ทเรยี น
1. ครูเปิดเพลง “สระอา สะกดใจ” ให้นักเรียนฟัง และบอกชื่อเพลงอธิบายสั้น ๆ ว่าเป็นบทเพลง
เกี่ยวกับเน้ือหาท่ีจะเรียนในวนั น้ี จากนั้นให้นกั เรียนแสดงความคิดเห็นจากเน้ือหาในบทเพลง “วันนี้จะเรียนใน
เรอ่ื งอะไร”
2. ครเู ปิดเพลง “สระอา สะกดใจ” ครสู อนร้องเพลงนักเรียน ให้ร้องเพลงทีละบรรทัด เม่อื ร้องวรรค
ตอ่ ไปให้ทวนวรรค ต้นดว้ ยทุกคร้ังจนจบเพลง
ข้นั ที่ 2 ขั้นสอน
3. ครใู ห้นักเรยี นชว่ ยกันหาคำทีป่ ระสมด้วยสระ -า ในเนื้อเพลง “สระอา สะกดใจ” จากน้ัน
ฝกึ จำแนกส่วนประกอบของคำนน้ั ๆ
4. ครูเปิด Power point คำที่ประสมสระ -า จากนั้นสอนนักเรียนอ่านสะกดคำสระอา โดยฝึกให้
นกั เรยี นอา่ นสะกดคำตามไปทีละรูปภาพ และร่วมกันบอกความหมายของคำนัน้ ๆ
5. ครูเปิดโปรเจคเตอร์ ใบความรู้การอ่านสระอา ทั้งที่มีตัวสะกดและไม่มีตัวสะกด ให้นักเรียนฝึกอ่าน
สะกดคำสระอา ตามครู จากนน้ั นกั เรยี นฝึกสะกดอา่ นเอง
6. นกั เรยี นแขง่ กนั ออกมาอ่านสะกดคำทลี ะแถว คนไหนอ่านถกู ต้อง แถวน้ันจะได้ครงั้ ละ ๑ แต้ม
7. นกั เรียนทำกิจกรรม นักสืบรนุ่ จว๋ิ คน้ หาสระอา ครูแจกใบงานนทิ าน “พระเจ้าตาก ผู้กอบกู้เอกราช
ไทย” ใหน้ ักเรียนค้นหาคำท่ีประสมกับสระ -า จากนิทาน
8. ครูและนักเรียนร่วมกัน ตรวจสอบความถูกต้องโดยการหาคำจากนิทาน “พระเจ้าตาก ผู้กอบกู้
เอกราชไทย” รว่ มกนั
ขั้นท่ี 3 ข้ันสรุป
9. ครูและนกั เรยี นสรุปความรู้เรอ่ื งการอา่ น คำที่ประสมกบั สระอา พร้อมกันอีกครงั้
10. นักเรียนร้อง เพลง “สระอา สะกดใจ” รว่ มกันอกี ครั้ง
ส่ือการเรยี นรู้
1. ชุดสื่อประสม เรื่อง หรรษา สระ-า เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำ กลุ่มสาระ
การเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 (หน้า 10-19)จากดิจิทัลแพลตฟอร์ม OBEC
Content Centre
30
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้
วธิ กี าร เครื่องมือ เกณฑ์การตดั สิน
ด้านความรู้ (Knowledge : K)
สามารถอธิบายการอ่านออกเสียงสระ -า การสังเกต รอ้ ยละ 80 ขน้ึ ไป
ได้
ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (Process : P)
สามารถหาคำทป่ี ระสมด้วยสระ -า ได้ ใบงานนกั สืบรุน่ จวิ๋ คน้ หาสระอา รอ้ ยละ 80 ขึน้ ไป
สามารถอ่านสะกดออกเสียงคำที่ประสม การสงั เกต อ่านออกเสียงคำได้ถูกต้อง
ดว้ ยสระ -า ได้ ทกุ คำ
ทักษะการสื่อสาร แบบประเมนิ ทักษะการส่อื สาร ผ่าน 2 รายการขึ้นไปผ่าน
เกณฑ์
ด้านคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (Attitude : A)
รักชาติ ศาสตร์ กษัตริย์ มีวินัย มุ่งมั่นใน แบบประเมินคุณลักษณะอันพึง 8 คะแนนข้ึนไป
การทำงาน ประสงค์ ผา่ นเกณฑ์
31
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 3
รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วิชา ท11101 ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 1
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 เรื่อง หรรษา สระอา เวลา 3 ชั่วโมง
เร่อื ง นวตั กรสระอา เวลา 1 ชวั่ โมง
ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2564 ครผู ้สู อน นางสาวณัฐกรณ์ ขตั ิวงษ์
มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชวี้ ดั
มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ท 1.1 ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาในการ
ดำเนินชวี ติ และมีนสิ ัยรักการอา่ น
มาตรฐาน ท 2.1 ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราวใน
รูปแบบต่าง ๆ เขียนรายงานข้อมลู สารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ คว้าอย่างมีประสิทธภิ าพ
มาตรฐาน ท 4.1 เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลัง
ของภาษา ภมู ิปัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไว้เป็นสมบตั ิของชาติ
ตวั ชวี้ ดั
ท 1.1 ป. 1/2 บอกความหมายของคำและขอ้ ความท่ีอ่าน
ท 4.1 ป. 1/2 เขียนสะกดคำและบอกความหมายของคำ
สาระสำคญั
คำที่ประสมด้วยสระ -า ทกุ คำ ออกเสียงยาว และเขยี นสระ -า ไว้ขา้ งหลังพยญั ชนะต้น
สาระการเรยี นรู้
การเขียนคำทป่ี ระสมด้วยสระ -า
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1. ดา้ นความรู้ (Knowledge : K)
1.1 นักเรยี นสามารถประยกุ ต์ใช้ความรใู้ นการสรา้ งเกมบันไดงูสู่ สระ -า ได้
2. ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (Process : P)
2.1 นักเรยี นสามารถเขียนและอ่านคำท่ปี ระสมดว้ ยสระ -า ไดถ้ ูกตอ้ งตามความหมาย
2.2 นกั เรียนมที ักษะในการส่ือสาร
3. ดา้ นคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (Attitude : A)
3.1 มีวินยั
3.2 ใฝ่เรียนรู้
32
3.3 มคี วามมุง่ มั่นในการทำงาน
กระบวนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
ขน้ั ที่ 1 ขน้ั สงั เกต รวบรวมขอ้ มูล (Gathering : G)
1. ครใู หน้ กั เรียนรว่ มกันแสดงความคิดเหน็ โดยครูใชค้ ำถามดังตอ่ ไปนี้
แนวตั้งคำถาม
๏ ก ด ว -า ประสมเปน็ คำอะไรไดบ้ า้ ง
2. ครูอธิบายวธิ กี ารเล่นเกมบันไดงูตามขนั้ ตอน และสาธติ วิธกี ารเลน่ เกมเป็นตัวอย่างให้นักเรียนดู
ขน้ั ท่ี 2 ข้ันวิเคราะหแ์ ละสรุปความรู้ (Processing : P)
3. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน ครูให้นักเรียนระดมความคิดหาคำที่ประสมสระอา ภายใน
ห้องเรยี น โดยแจกกระดาษ ให้นกั เรียนกล่มุ ละ 1 แผ่น เพอ่ื ช่วยกนั เขียนประสมคำ
4. ใหน้ ักเรยี นแต่ละกลุ่มเขยี นคำท่ปี ระสมไดล้ งในกระดาษท่คี รูแจกให้ (นกั เรียนสามารถใช้
เดนิ หาคำภายในห้องเรยี นได้ตามอัธยาศัยเพือ่ ให้ได้คำท่หี ลากหลาย)
5. แต่ละกลุ่มนำกระดาษที่เขียนประสมคำสระอา แปะไว้บนกระดานและร่วมกันตรวจสอบความ
ถูกตอ้ ง
ขั้นที่ 3 ขน้ั ปฏิบตั ิและสรปุ ความรู้หลงั ปฏิบัติ (Appling 1)
6. นักเรียนรับกระดานบันไดงู (เป็นกระดานเปล่า) เพื่อนำมาสร้างเกมบันไดงู ครูอธิบายวิธีการเล่น
และวิธกี ารเขียนคำลงในกระดานบันไดงู (คำช้ีแจงการเลน่ อย่ใู นกระดานบันไดง)ู
7. นักเรียนสร้างเกมบันไดงู โดยใช้คำที่ประสมด้วยสระอาในการสร้างคำ จากนั้นเขียนลงในกระดาน
บนั ไดงู
ขัน้ ที่ 4 ข้นั สอื่ สารและการนำเสนอ (Appling 2)
8. นักเรียนนำเกมบันไดงูท่ีสำเรจ็ มาจับคเู่ ล่นกับเพื่อนในหอ้ ง กตกิ ากำหนดใหท้ ุกคนท่ที อยลูกเต๋าตกลง
ไปช่องไหนให้อา่ นสะกดคำนน้ั ๆ
9. นักเรยี นสลบั คู่กันเลน่ เกมบนั ไดงู จนกว่าจะได้ผู้ชนะของแต่ละคู่ (ผชู้ นะได้รบั รางวลั สะสมคะแนน)
10. นักเรยี นทำแบบทดสอบหลังเรียนเรอ่ื งหรรษา สระอา จำนวน 10 ข้อ
11. ครปู ระเมินนกั เรียนในด้านทักษะด้านการอ่านออกเสียงและการเขียนสะกดคำ จำนวนดา้ นละ 10
ข้อ จากนัน้ ครบู ันทึกคะแนนลงในแบบบนั ทึกคะแนนนักเรยี นเป็นรายบุคคล
ข้นั ท่ี 5 Self-Regulating
12. นักเรยี นนำเกมบันไดงูทท่ี ำสำเร็จไว้ในห้องสมุดเพ่ือเผยแพรผ่ ลงาน และเกิดประโยชน์กับผู้ท่ีสนใจ
33
สื่อการเรียนรู้
1. กระดาษสำหรับเขียนคำ
2. กระดานเกมบันไดงู
3. ชุดสื่อประสม เรื่อง หรรษา สระ-า เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำ กลุ่มสาระการ
เรียนรู้ภาษาไทย สำหรบั นักเรยี นชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 1 (หนา้ 20-27) จากดิจิทลั แพลตฟอร์ม OBEC Content
Centre
การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้
วธิ ีการ เครือ่ งมอื เกณฑ์การตดั สนิ
ร้อยละ 70 ขึน้ ไป
ด้านความรู้ (Knowledge : K)
ร้อยละ 80 ขนึ้ ไป
สามารถประยุกต์ใช้ความรู้ในการสร้าง กระดานบนั ไดงู ระดับคุณภาพ 2 ขน้ึ ไป
ระดับ 8 คะแนนข้นึ ไป
เกมบนั ไดงสู ู่ สระ -า ได้
ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (Process : P)
เขยี นและอ่านคำท่ีประสมด้วยสระ -า แบบบนั ทกี คะแนนดา้ นการอ่าน
และการเขียน
มที กั ษะในการสอ่ื สาร แบบสงั เกตพฤตกิ รรมนกั เรยี น
ด้านคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ (Attitude : A)
มวี นิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน แบบประเมินคุณลักษณะ
อนั พึงประสงค์