รหสัหลกัสตูร๖๓๙๑๘๑๐๐๑
รายงานการอบรม
การพฒันาสมรรถนะครมูืออาชพี ดา้นการจัดการเรียนรยู้คุใหม่
โดยใชแ้หลง่เรียนรู้นอกชั้นเรยีนและเทคโนโลยีเปน็ฐาน
นางสาวณฐักรณ์ขัติวงษ์
ตำแหนง่ครูค.ศ.๑
โรงเรียนอนบุาลตากอำเภอเมืองตากจังหวัดตาก
สำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศกึษาตากเขต๑
แบบรายงานผลการอบรม สมั มนาของข้าราชการและบุคลากรทางการศกึ ษา
โรงเรยี นอนบุ าลตาก
ส่วนที่ 1 ขอ้ มลู บคุ ลากร
ชอื่ – สกลุ นางสาวณัฐกรณ์ ขัติวงษ์
ตำแหน่ง
สถานศกึ ษา ครูคศ.1
สังกดั โรงเรียนอนบุ าลตาก เลขท่ี 99/8 ตำบลน้ำรมึ อำเภอเมืองตาก
ประเภทการไปราชการ
จังหวดั ตาก
รหสั หลักสูตร
หลกั สตู ร/หวั ขอ้ สำนักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษาตาก เขต 1
หน่วยงานดำเนินการ อบรม ศกึ ษาดูงาน ประชมุ ทางไกล
ระยะเวลา
การใชป้ ระโยชน์ สมั มนา นำนักเรยี นเข้ารว่ มกิจกรรม
จากการไปราชการ
639181001 เนื่องในงานวนั ครู คร้ังท่ี 65 พ.ศ. 2564
ค่าใช้จา่ ย
เอกสาร/ตำรา หลกั สตู ร การพัฒนาสมรรถนะครมู อื อาชีพ ดา้ นการจัดการเรยี นรู้ยุคใหม่
โดยใชแ้ หลง่ เรยี นรู้ นอกชนั้ เรยี น และเทคโนโลยีเป็นฐาน The
Development Learning Competency for Thai Professional
Teachers by Using Learning Resource and Information
Communication Technology
ครุ ุสภา
วนั ที่ 23 มกราคม – 23 กุมภาพนั ธ์ 2564 รวม 12 ชั่วโมง
ปฏิบัตงิ านในหนา้ ทร่ี ับผิดชอบ ขยายผลแก่บคุ ลากรในโรงเรยี น
เปน็ แบบอย่าง และเกยี รตยิ ศของโรงเรียน
อ่นื ๆ ระบ.ุ ..................................................
-
ส่วนท่ี 2 รายละเอยี ดการอบรม
การฝึกอบรม
ตามหลักสูตร การ
พัฒนาสมรรถนะครูมือ
อาชีพ ด้านการจัดการ
เรียนรู้ยุคใหม่ โดยใช้
แหล่งเรียนรู้ นอกชั้น
เรียน และเทคโนโลยี
เป็นฐาน เนื่องในวันครู
ครั้งที่ 65 พ.ศ. 2564
เป็นการพัฒนาครูให้มี
ความรู้ ทักษะ การปฏิบัติ ตลอดจนมีคุณลักษณะความเป็นครูในการพัฒนาสมรรถนะครูมืออาชีพ ด้านการ
จัดการเรียนรู้ยุคใหม่โดยใช้แหล่งเรียนรู้ นอกชั้นเรียน ขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาคุณภาพครูให้นำ
ความรู้ ประสบการณ์ที่ได้รับไปสู่การพัฒนานักเรียนให้มีคุณภาพต่อไป การเตรียมครูเพื่อให้มีสมรรถนะการ
จัดการเรยี นรู้เพือ่ รองรบั ผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 จงึ เป็นสง่ิ สำคัญซึง่ สมรรถนะที่สำคญั สำหรับครู ประกอบด้วย
1) การเรียนรู้เทคโนโลยีสู่การออกแบบการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ 2) การพัฒนาความรู้ด้าน
ศาสตร์การสอน 3) การวิจัยเพือ่ พฒั นาผู้เรียน 4) การพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการชมุ ชนแหง่
การเรียนรู้ทางวิชาชีพ และ 5) การหลอมรวมการบูรณาการระหว่างเนื้อหาสาระวิชา หลักวิชาชีพครู และ
เทคโนโลยีสารสนเทศเขา้ กับการจัดการ
เรียนการสอนตามเนื้อหาสาระเฉพาะ
ทาง โดยการเรียนรู้จากแหล่งเรียนรู้
นอกชั้นเรียน การอบรมสรุปเนื้อหา
สาระสำคัญ ไดด้ ังนี้
STEM กบั ประเทศไทย 4.0 แมว้ ่ากิจกรรมการเรียนการสอนแบบ STEM ในระบบการศึกษาของประเทศไทย
จะมกี ารพดู ถงึ และมสี ถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (สสวท.) กบั กระทรวงศกึ ษารว่ มผลัก
มาตลอดหลายปีที่ผ่านมา กลับพบว่า การเรียนการสอนแบบ STEM ยังคงถูกนำมาบูรณาการการสอนใน
จำนวนที่น้อย อยู่ในระบบ สอศ. (สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา) ในส่วนของผู้เขียนเอง ก็พบเห็น
โดยตรงกับกลุม่ นักศึกษาปกี ารศึกษา 2552-2557 ทยี่ ังเป็นรูปแบบการเรยี นการสอนแบบเดมิ ท้งั ที่ไปบรรยาย
ในสถาบนั การศึกษาเอกชน และรฐั บาล อาจจะตอ้ งปรับคุณลักษณะของอาจารย์ระดับอุดมศึกษาให้มีการเพ่ิม
การวิเคราะห์ผู้เรียนเพิ่มมากขึ้น และผู้สอนเองต้องเพิ่มองค์ความรู้ใน 4 ศาสตร์ ดังกล่าว เพื่อได้ความคิด
สร้างสรรค์ ในการออกแบบการเรียนการสอนในห้องเรยี น ใหเ้ กดิ การเรียนรแู้ บบ STEM จรงิ จัง
ตามนโยบายของประเทศไทย 4.0 แลว้
ศาสตร์ชำนาญการของผู้เขียนนั้นคือ
เทคโนโลยีและวิศวกรรมศาสตร์ ที่เป็น
ส่วนที่เป็นกลไกขับเคลื่อนธุรกิจและ
การศึกษาไทย กรณีศึกษาหนึ่งที่
น่าสนใจสำหรับรูปแบบการออกแบบ
การเรยี นการสอนแบบ STEM น้นั กค็ อื
การเปลี่ยนห้องเรียนแบบนั่งบรรยาย
ใหก้ ลายเปน็ รูปแบบของหอ้ งทดลอง
ทเ่ี น้นการลงมือทำในรูปแบบ
ของโครงงาน (Project-Based) แล้วสนับสนนุ ในการนำโครงงานดังกลา่ วไปแข่งขนั ตามงานประกวด
ที่ภาคธรุ กิจไดจ้ ัดข้ึน พร้อมทัง้ ใหผ้ เู้ รยี นท่ไี ดท้ ำโครงงานดงั กลา่ ว
ไดแ้ ตกประเด็นองค์ประกอบของโครงงานท่ศี กึ ษาของตวั เอง ออกมาในรปู แบบของงานวจิ ยั รายงานการพฒั นา
โครงการ หรือบทความวิชาการ เพื่อเป็นการตอ่ ยอดทักษะของการแกป้ ัญหา เข้าใจปัญหา สร้างแนวทางการ
แก้ไข และเกิดทฤษฏีองค์ความรูใ้ หม่ๆ เก็บรวบรวม ในประเทศสหรัฐฯ เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ก็ได้มีการจดั
งาน 2016 National STEM Video Game Challenge [4] ซึ่งเป็นงานประกวดการออกแบบเกมในรูปแบบ
STEM ตามแนวทางของ ประธานาธิบดี บารัค โอบามา กับแนวคิดการศึกษาแบบ Educate to Innovate
Campaign [5] ที่เน้นการแนวทางของ STEM Education โดย 2016 National STEM Video Game
Challenge เนน้ กลุม่ เปา้ หมายไปทน่ี กั เรยี นไฮสคูล ที่ชอบเล่นเกม มคี วามฝันตอ้ งการจะพฒั นาระบบเกมและ
ออกแบบเกม โดยโครงการนี้มีความเชื่อว่า การเรียนรู้ด้วยเกม (Game-Based Learning) กลายเป็นพื้นฐาน
หนง่ึ ทมี่ แี นวโน้มต่ออิทธพิ ลการเรียนการสอนในหอ้ งเรียน เปน็ นวตั กรรมการสอนรูปแบบหนึง่ ของโลกไปแล้ว
ประกอบกับมีงานวิจัยมากมายที่ถูกต่อยอดจากการเรียนรู้ธรรมดา ไปเป็นกลไกของเกมเพื่อธุรกิจ เช่น
Gamification กับขอ้ สรปุ ท่บี อกว่า วิดโี อเกมกับวยั รุ่นในสหรฐั ฯ ในปัจจบุ นั ส่งเสริมการพฒั นาความคิดอย่างมี
วิจารณญาณ และสามารถช่วยให้ผู้เรียนที่เรียนรู้ผ่านเกม มีทักษะการออกแบบแนวทางการแก้ปัญหา และ
สร้างแรงจงู ใจในการค้นหาความรทู้ เ่ี ก่ยี วขอ้ งทปี่ รากฏในเนื้อหาของวิดโี อเกม และโครงงานดงั กลา่ ว ยังสามารถ
สร้างความตระหนักรู้ของผู้เรียนต่ออาชีพนักพัฒนา ให้รู้กลวิธี และแนวทางศึกษาต่ออย่างไร จึงจะประกอบ
อาชพี นักออกแบบและพฒั นาเกมได้ อกี แนวทางหนึ่งคอื SMALLab ท่ีเนน้ ไปท่ี STEM Game กบั กลุม่ นกั เรียน
K-12 ใหอ้ อกแบบการเลน่ เกมในการสร้างความร้เู ร่ืองโภชนาการของตัวละคร [6]
สรุปได้ว่า การเรียนการสอนแบบ STEM เป็นการปูพื้นแรงงานบุคลากรในอนาคต ให้พร้อมกับการ
แข่งขันที่ตอบสนองไปยงั ความท้าทายของภาคธุรกิจ รัฐบาล และที่สำคัญที่สุดคือ การศึกษาทั้งชาติ สำหรับ
ประเทศไทยแล้วการปรับเปลี่ยนทักษะของผู้เรียนใหส้ ามารถคิดไดเ้ อง วิเคราะห์และสังเคราะห์ปัญหา พร้อม
รับมือกับการทำงานจริงได้ทันที จะสามารถสร้างความพึงพอใจให้กับตลาดนายจ้างและขยับขยายช่องว่าง
ความสำเรจ็ ระหวา่ งประเทศไทย
ก ั บ ป ร ะ เ ท ศ อ ื ่ น ๆ อ ย ู ่ ที่
สถาบันการศึกษาพร้อมจะ
เปลี่ยนแปลงหรือยังคงล้าหลัง
ตอ่ ไป เราเลอื กได้
ทกั ษะการคิดวิเคราะห์
(Analytical thinking)
เป็นความสามารถในการแยก
องค์ประกอบย่อยของสิ่งที่กาลัง
พ ิ จ า ร ณ า แ ล ะ ส า ม า ร ถ ร ะ บุ
ความสำคัญขององค์ประกอบย่อย
หรือบอกความสัมพันธ์ของ
องค์ประกอบย่อย หรือบอก
หลักการ ความเชื่อมโยงของ
เหตุการณ์กับหลักการดังกล่าวได้
พฤตกิ รรมทีบ่ ง่ ช้ีการคดิ วิเคราะห์
ทสี่ ำคัญประกอบดว้ ย
1. การวิเคราะห์องค์ประกอบ เปน็ การบอกถึงสว่ นประกอบยอ่ ยสำคญั ท่สี ่งผลตอ่ สถานการณ์หรือส่ิงท่ี
ยกมา พฤติกรรมท่สี อดคล้องกับการวเิ คราะหอ์ งคป์ ระกอบทสี่ ามารถประยุกต์เข้ากบั จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
2. การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ เป็นการบอกถึงความเกี่ยวข้อง เชื่อมโยงระหว่างองค์ประกอบย่อย
ลกั ษณะของความสัมพนั ธม์ หี ลายรปู แบบ เช่น องค์ประกอบย่อยมคี วามเกีย่ วขอ้ งกนั หรอื มีความขดั แยง้ กนั
3. การวิเคราะห์ความสำคัญ เป็นการระบคุ วามสำคัญ หรือการจดั ลาดับความสำคัญขององค์ประกอบ
ย่อย พฤตกิ รรมท่สี อดคลอ้ งกับการวิเคราะหค์ วามสำคญั ทส่ี ามารถประยุกต์กับจุดประสงค์การเรียนรู้
4. การวิเคราะห์หลักการ การบอกถึงโครงสร้างหลักของเหตุการณ์ที่แตกต่างกัน และบอกถึง
ความสมั พันธ์ระหว่างระบบได้
การคดิ สร้างสรรค์ (Creative thinking)
1. คดิ ริเริม่ (Originality) เปน็ ความสามารถในการคิดทีแ่ ปลกใหม่ แตกต่างจากความคดิ เดิม ประยุกต์
ใหเ้ กิดส่งิ ใหม่ ไม่ซำ้ กบั ของเดมิ
2. คดิ คลอ่ ง (Fluency) เป็นความสามารถในการคิดหาคาตอบได้อยา่ งคลอ่ งแคลว่ รวดเรว็
และมีปรมิ าณมากในเวลาจากัด
3. คดิ ยืดหยุน่ (Flexibility) เปน็ ความสามารถในการคดิ หาคาตอบไดห้ ลายประเภท
และหลายทศิ ทาง ดดั แปลงจากสิง่ หนึ่งไปเป็นหลายส่ิงได้
4. คิดละเอียดลออ (Elaboration) เป็นความสามารถในการคิดรายละเอยี ดหรือขยายความคดิ
การแก้ปญั หา (Problem solving)
การแกป้ ญั หา เปน็ ความสามารถในการประยกุ ตใ์ ชค้ วามรู้ ทกั ษะ วธิ ีการหรอื ประสบการณ์ทมี่ ี มาใช้ใน
การแก้ปญั หาใหมห่ รือไมค่ ้นุ เคย ซ่งึ ตอ้ งประเมนิ พฤตกิ รรมตอ่ เน่ือง ประกอบดว้ ย การระบปุ ัญหา การเสนอแนว
ทางแกไ้ ขปัญหา การเลอื กวธิ ีการแกป้ ญั หา และการประเมนิ ผลและปรับปรงุ แก้ไข
การออกแบบการจดั การเรียนรู้
ได้ออกแบบการจดั การเรยี นรู้โดยใชข้ ้ันตอน 7 องค์ประกอบหลกั คือใชค้ วามรู้ในเนอ้ื หาผนวกกบั วธิ ี
สอน โดย ได้ออกแบบการจัดการเรยี นรใู้ นรปู แบบ STEM ตามแนวคดิ TPACK Model ทเี่ ป็นการออกแบบ
การจัดกิจกรรมการเรยี นการสอนในหอ้ งเรียนยคุ ใหมท่ ค่ี รูผู้สอนต้องมีความรเู้ ช่ียวชาญทางด้านเทคโนโลยี
วธิ กี ารสอนและเนือ้ หา
มขี ั้นตอนการสอนตามแนวสะเต็มศึกษา ดงั น้ี
1. ระบปุ ญั หา
2.รวบรวมขอ้ มลู และแนวคิดที่เกย่ี วขอ้ งกบั ปญั หา
3. ออกแบบวิธแี ก้ปญั หา
4.วางแผนและดำเนนิ การแก้ปญั หา
5. ทดสอบ ประเมินผล และปรับปรงุ แก้ไข
6. นำเสนอวิธกี ารแก้ปญั หา
ส่วนที่ 3. ประโยชนท์ ่ไี ด้รับ / การนำไปใช้
ตอ่ ตนเอง ไดแ้ ก่
1. มีความรู้ความเข้าใจในการพฒั นาตนเองให้เป็นครทู ี่มกี ารพัฒนาสมรรถนะครมู ืออาชพี ดา้ นการ
จัดการเรียนร้ยู คุ ใหม่ โดยใชแ้ หลง่ เรยี นรู้ นอกชน้ั เรียน และเทคโนโลยเี ปน็ ฐาน
ตอ่ หนว่ ยงาน ไดแ้ ก่
1. ประชาสมั พันธ์ถ่ายทอดความรู้ตอ่ เพอื่ นครู และบุคลากรทางการศกึ ษา ใหศ้ กึ ษานิทรรศการวันครู
ยอ้ นหลงั เพอ่ื ใหค้ รใู นสังกดั มกี ารพฒั นาสมรรถนะตัวเองใหเ้ ปน็ ครูมืออาชีพด้านการจดั การเรียนรยู้ คุ ใหม่
โดยใช้แหล่งเรียนรู้ นอกชน้ั เรียนแบะเทคโนโลยเี ป็นฐาน
ลงชื่อ ............................................... ผ้รู ายงาน
(นางสาวณัฐกรณ์ ขัตวิ งษ)์
ตำแหนง่ ครูโรงเรยี นอนบุ าลตาก
ความคิดเหน็ ของผ้อู ำนวยการสถานศึกษา
……………………………………………………………………………………...………………………..................………………
……………………………………………………………………………………...………………………………………..…………………………
………………………………………………………………………………………………………………………..…....................................
ลงชอ่ื ........................................................
(นายเสวก บญุ ประสพ)
ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรยี นอนบุ าลตาก
ภาคผนวก
1. เอกสารประกอบหลักสูตร
2. เกียรติบตั รการอบรมหลกั สูตร
3. หลกั สูตรครุ สุ ภา
เอกสารประกอบหลักสูตร
2. เกยี รตบิ ตั รการอบรมหลกั สตู ร
3. ประกาศรบั รองหลกั สตู รครุ สุ ภา