The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

1.นายนันทพงศ์ พุฒด้วง เลขที่ 1
2.นายนนทพัฒน์ วินิจผล เลขที่ 4
3.นายวัชรินทร์ คงเซ็น เลขที่ 9
4.นางสาวกิตติวรา หงษ์ทอง เลขที่ 14
5.นางสาวญาณิศา ตุ้งซี่ เลขที่ 20
6.นางสาวณัฐมน ทิพย์กองลาศ เลขที่ 23
7.นางสาวพัทธนันท์ ดำโอ เลขที่ 29
8.นางสาวพิชญธิดา รักดี เลขที่ 30
9.นางสาววิรากานต์ สงพุ่ม เลขที่ 35
10.นางสาวสิริรัตน์ คำแก้ว เลขที่ 38

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/6

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Pattanan Dam-o, 2022-11-03 11:52:20

นาฏศิลป์ประเทศมาเลเซีย

1.นายนันทพงศ์ พุฒด้วง เลขที่ 1
2.นายนนทพัฒน์ วินิจผล เลขที่ 4
3.นายวัชรินทร์ คงเซ็น เลขที่ 9
4.นางสาวกิตติวรา หงษ์ทอง เลขที่ 14
5.นางสาวญาณิศา ตุ้งซี่ เลขที่ 20
6.นางสาวณัฐมน ทิพย์กองลาศ เลขที่ 23
7.นางสาวพัทธนันท์ ดำโอ เลขที่ 29
8.นางสาวพิชญธิดา รักดี เลขที่ 30
9.นางสาววิรากานต์ สงพุ่ม เลขที่ 35
10.นางสาวสิริรัตน์ คำแก้ว เลขที่ 38

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/6

Keywords: นาฏศิลป์มาเลเซีย

นาฏศิลป์
ประเทศมาเลเซีย

คำนำ

หนังสือนาฏศิลป์ประเทศมาเลเซีย เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา
ศ32102 จัดทำขึ้นโดยมีเป้ าหมายเพื่อให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยว
กับวัฒนธรรมของประเทศมาเลเซีย ประวัติความเป็นมา วิธีการ
แสดง เครื่องแต่งกาย เครื่องดนตรีที่ใช้ในการแสดงนาฏศิลป์
และโอกาสที่ใช้ในการแสดงนาฏศิลป์ ของประเทศมาเลเซีย

การจัดทำหนังสือนาฏศิลป์ประเทศมาเลเซียรายวิชา ศ32102
คณะผู้จัดทำได้ศึกษารายละเอียดของเรื่องต่างๆที่เกี่ยวข้องกับ
นาฏศิลป์ประเทศมาเลเซีย แล้วนำองค์ความรู้ที่ได้มาออกแบบการ
เรียนรู้ โดยแต่ละเรื่องประกอบไปด้วย ประวัติความเป็นมา วิธีการ
แสดงนาฏศิลป์ เครื่องแต่งกาย เครื่องดนตรีที่ใช้ในการแสดง และ
โอกาสที่ใช้ในการแสดง ซึ่งองค์ประกอบเหล่านี้จะช่วยให้นักเรียน
เกิดการเรียนรู้ เกิดกระบวนการความคิดได้อย่างครบถ้วน รวมไป
ถึงกระบวนการทำงานของผู้จัดทำ และสามารถนำความรู้ที่ได้ไป
ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้

คณะผูจัดทำ

สารบัญ 1
2
ประวัติการแสดงนาฏศิลป์ 7
วิธีการแสดงนาฏศิลป์ 8
เครื่องแต่งกายการแสดงนาฏศิลป์ 11
เครื่องดนตรีประกอบการแสดงนาฏศิลป์ 12
โอกาสที่ใช้ในการแสดงนาฏศิลป์
อ้างอิง

ประวัติการแสดง

นาฏศิลป์ มาเลเซีย

เป็นนาฏศิลป์ที่มีลักษณะคล้ายกับนาฏศิลป์ชวา ซันตน และบาหลี
มาก นาฏศิลป์ซันตนและบาหลีก็
ได้รับอิทธิพลมาจากมาเลเชีย ซึ่งได้รับอิทธิพลตกทอดมาจากพวก
พราหมณ์ของอินเดียอีกทีหนึ่ง ต่อมาภายหลัง
นาฏศิลป์บาหลี จะเป็นระบบอิสรามมากกว่าอินเดีย เดิมมาเลเซียได้รับ
หนังตะลุงมาจากชวา และได้รับอิทธิพล
บางส่วนมาจากอุปรากรจีน มีละครบังสวันเท่านั้นที่เป็นของมาเลเซียเอง
ในราวพุทธศตวรรษที่ 19 ถึง 20 ชวามีอิทธิพลและครอบครองมาเลเซีย
ตอนใต้เป็ นเมืองขึ้นของสุลต่าน
มายาปาหิตแห่งชวา ที่มะละกานั้นเป็นตลาดขายเครื่องเทศที่ใหญ่ที่สุดของ
ชวา ชาวมาเลเซียใช้ภาษาพูดถึง 3
ภาษา คือมาลายู ชวา และภาษาจีน ซึ้งมีทั้งแต้จิ๋ว ฮกเกี้ยน และกวางตุ้ง
ชาวมาเลเซียรับหนังตะลุงจากชวา แต่ก็ได้ดัดแปลงจนเป็นของมาเลเซียไป
รวมทั้งภาษาพูดมาเลเซียอีก
ด้วย

1

วิธีการแสดงนาฏศิลป์ประเทศมาเลเซีย

มักยองของชาวมาเลย์

กำเนิดในจังหวัดปัตตานี ในอดีตเคยเป็นการแสดงที่สร้างความ
บันเทิงให้แก่พระราชินี ธิดาของกษัตริย์ และสตรี ในพระราชวัง เมื่อผู้ชาย
ออกไปสู้รบการแสดงจะผสมผสานเรื่องราวความรัก การรำ การขับร้อง
และเรื่ องเล่าในยุคที่มาเลเซียรุ่งเรืองเข้าด้วยกันจนกลายเป็ นนาฏศิลป์ ที่มี
เสน่ห์น่าชม

กูดาเคปัง

ศิลปะการร่ายรำที่ชาวชวานำเข้ามาเผยแพร่ในรัฐยะโฮร์ การแสดงจะบอก
เล่าเรื่องราวชัยชนะในสงครามศักดิ์สิทธิ์ของอิสลาม ผู้แสดงจะนั่งคร่อม

บนม้าปลอมและร่ายรำไปตามจังหวะของเครื่องดนตรีประเภทเคาะ
ประกอบด้วยกลอง ฆ้อง และอังกะลุง

2

ซาปิน

รับความนิยมในรัฐยะโฮร์ กล่าวได้ว่าเป็นการร่ายรำดั้งเดิมของ
มาเลเซียที่สะท้อนให้เห็นอิทธิพลของศาสนาอิสลามได้เด่นชัดที่สุด เข้ามา
ในประเทศมาเลเซียเมื่อมิสชันนารีมุสลิมจากตะวันออกกลางเข้ามาเผยแผ่
ศาสนา จุดประสงค์คือการสวดมนต์และเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับ
ประวัติศาสตร์ของอารธรรมอิสลาม

โยเก็ต

ศิลปะการร่ายรำแบบดั้งเดิมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของมาเลเซีย
มีจังหวะที่สนุกสนาน นักแสดงหลายคู่ เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว สวยงาม
เน้ นอารมณ์ขัน ต้นกำเนิดมาจากการเต้นรำของชาวโปรตุเกส แพร่หลายใน
มะละกา ยุคที่มีการค้าเครื่องเทศ

3

ตาเรียนลิลิน

รู้จักในอีกชื่อหนึ่งคือ การรำเทียน ผู้แสดงจะเป็นผู้หญิง จะต้องร่ายรำอย่าง
อ่อนช้อย ในขณะเดียวกันก็ต้องพยายามไม่ให้เทียนในจานเล็กๆ ล้มลงมา

ซิลาด

ศิลปะการต่อสู้ดั้งเดิมที่เก่าแก่ที่สุดของชาวมาเลย์ สามารถทำอันตรายคู่
ต่อสู้ให้ถึงแก่ชีวิตได้ ซิลาดยังถือเป็นศิลปะการร่ายรำแขนงหนึ่งด้วย ผู้
แสดงจะเคลื่อนไหวร่ายกายอย่างสง่างาม ตรึงผู้ชมให้หลงใหลในมนต์
เสน่ห์และความสวยงามของท่วงท่า

4

บังกรา

การเต้นรำและการแสดงดนตรีพื้นเมืองที่สนุกสนานของชาวซิกข์ ต้น
กำเนิดมาจากการเต้นรำในฤดูเก็บเกี่ยว ปัจจุบัน แสดงในงานเฉลิมฉลอง
ต่างๆ เช่น งานแต่งงาน หรืองานวันขึ้นปีใหม่ เป็นต้น เรื่องที่ใช้ในการ
แสดงส่วนใหญ่เกี่ยวกับความรัก ใช้จังหวะหนักของกลองดอลเป็นกลองคู่
ให้จังหวะในการขับร้องและร่ายรำ

ระบำไม้ไผ่

การร่ายรำแบบดั้งเดิม ในการแสดงจะใช้ท่อนไม้ไผ่ยาวสองท่อนวาง
ขนานกันกับพื้นในระดับข้อเท้า ไม้ไผ่จะกระทบกันตามจังหวะกลองเร็วๆ
ดังนั้น ในการกระโดดเหนือหรือระหว่างไม้ไผ่โดยไม่ให้ไม้ไผ่กระทบข้อเท้า
ผู้แสดงจะต้องมีความชำนาญสูง

5

ระบำของชาวโอรังอัสลี

ระบำดั้งเดิมของชาวโอรังอัสลีแห่งคาบสมุทรมลายู จากความเชื่อในเรื่อง
วิญญาณอย่างลึกซึ้ง ผู้ที่ร่ายรำมักจะเป็นหมอผีของเผ่า โดยถือว่าการร่าย
รำเป็นพิธีติดต่อกับโลกวิญญาณ ระบำเหล่านี้ได้แก่ เกงกูลังของเผ่ามาห์เม
รี เบอร์เจรอมของเผ่าจาห์ฮัต และเซวังของเผ่าเซมายและเตเมียร์ เป็นต้น

ซูมาเซา

การร่ายรำดั้งเดิมของเผ่าคาดาซานในรัฐซาบาห์ ปกติจะแสดงในพิธีกรรม
ทางศาสนาและงานฉลองต่างๆ แต่เดิมเป็นการร่ายรำเพื่อบูชาภูติผีเพื่อ
ให้การเก็บเกี่ยวพืชไร่ได้ผลดี ป้ องกันวิญญาณร้าย และรักษาอาการเจ็บ
ป่วย นักแสดงหญิงและชายจะเคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้าและอ่อนช้อย เลียน
แบบการเคลื่อนไหวของนกขณะบิน

6

เครื่องแต่งกายการแสดงนาฏศิลป์

ซาปิน

เครื่องแต่ง กายเป็นแบบเรียบๆ
ชาย : ใส่หมวกอิสลามหรือหมวกแขก ใสเสื้อกั๊ก นุ่งโสร่ง
หญิง : นุ่งกระโปรง เสื้อรัดรูป มีผ้าแพรคลุมศีรษะ เต้นรำตามจังหวะดนตรี

ซึ่งบรรเลงจากช้าไปหาเร็ว

ซิลาด

ผู้แสดง หรือผู้เข้าแข่งขัน จะมุ่งเน้ นความสวยงามของการแต่งกายเป็น
สำคัญ ส่วนใหญ่จะใช้เสื้อคอตั้ง นุ่งกางเกงขายาว มีผ้าโสร่งสวมทับ
พอเลยเข่าเล็กน้ อย เรียกว่าผ้าซอกอต และผ้าลือปักคาดสะเอว
หรือเข็มขัดทับโสร่งให้กระชับ เหน็บกริชไว้กับผ้าคาด “ลือปัก”
เสื้อผ้าที่สวมใส่จะเน้ นสีสันที่สวยงาม

ซูมาเซา

การแสดง ซูมาเซา มีการแต่งกายคือ สวมเสื้อผ้าสีดำและสีแดงแบบ
ดั้งเดิมและเล่นควบคู่ไปกับนกอินทรี

7

เครื่องดนตรีการแสดงนาฏศิลป์

วงดนตรี

มาเลเซียมีวงดนตรีพื้นเมืองสองชนิดได้แก่ วงกาเมลัน และวงโนบัต วงกา
เมลันมีต้นกำเนิดมาจากประเทศมาเลเซีย โดยเป็นวงดนตรีแบบดั้งเดิมซึ่่ง
เล่นดนตรีจังหวะเบาๆ เครื่องดนตรีที่ใช้ได้แก่ ฆ้องและเครื่องสาย ส่วนโน
บัตคือวงดนตรีในราชสำนักซึ่งเล่นเพลงทางศาสนาที่เคร่งขรึมมากกว่า
โดยเล่นให้แก่ราชสำนักเป็นหลัก เครื่องดนตรีที่ใช้ได้แก่ ปี่เซรูไนและปี่นา
ฟิ ริ

เรบานา อูบิ

ในสมัยอาณาจักรมาเลเซียโบราณ ชาวมาเลเซียใช้เสียงดังก้องของกลองเร

บานา อูบิขนาดใหญ่เป็นสัญญาณต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสัญญาณเตือนอันตราย

ไปจนถึงการประกาศให้ทราบว่ามีงานแต่งงาน ต่อมาจึงกลายมาเป็นเครื่อง

ดนตรีสำหรับใช้ในงานแสดงต่างๆ

8

คอมปัง

คอมปังคือเครื่องดนตรีดั้งเดิมของมาเลเซียที่ได้รับความนิยมมากที่สุด มัก
ใช้กันอย่างแพร่หลายในงานรื่นเริงต่างๆ เช่น ในขบวนพาเหรดงานวันชาติ

งานเลี้ยงที่เป็นทางการ และงานแต่งงาน คอมปังมีลักษณะคล้ายกับกลอง

แทมโบรีน แต่ไม่มีแผ่นโลหะสำหรับให้เสียงโลหะกระทบ พบได้บ่อยที่สุด

ในการแสดงของวงดนตรีขนาดใหญ่ ซึ่งจำเป็นต้องมีสร้างจังหวะที่แตกต่าง

กันเป็นจำนวนมาก เพื่อสร้างเสียงและจังหวะหลายๆ ชั้น

พิณกัมบัส

ผู้ที่นำพิณกัมบัสเข้ามาในประเทศมาเลเซียคือชาวเปอร์เซียและพ่อค้าจาก
ตะวันออกกลาง พิณกัมบัสหรือพิณอารเบียนี้สามารถเล่นเพลงพื้นเมืองของ
มาเลเซียได้หลายแบบ ส่วนใหญ่จะใช้เป็นเครื่องดนตรีที่ให้เสียงนำในวงกา
ซัล การผลิตพิณกัมบัสนั้นต้องอาศัยความละเอียดปราณีต เนื่องจากเครื่อง
ดนตรีชนิดนี้ทำจากไม้หลายชนิด ให้เสียงที่นุ่มนวลคล้ายกับเสียงจากฮาร์ป
ซิคอร์ด

9

พิณซาเป

ซาเปคือพิณชนิดหนึ่งของชนเผ่าโอรังอูลู หรือชนเผ่าที่ที่อาศัยอยู่ในแม่น้ำ

ในรัฐซาราวัก ซาเปเป็นเครื่องดนตรีที่ทำจากไม้ท่อนเดียวนำมาเจาะเป็น

โพรง และแกะเป็นช่อง มีลวดลายสีสันสดใส ในอดีต พิณซาเปใช้บรรเลง

เดี่ยวๆ ในพิธีรักษาโรค โดยเล่นในบ้านยาวของเผ่า ต่อมาจึงค่อยๆ กลาย

มาเป็นเครื่องดนตรีสำหรับบรรเลงในงานรื่นเริงในเวลาต่อมา ใช้บรรเลง

เป็นเสียงดนตรีหลักในระบำต่างๆ เช่น ระบำงายัตและดาตัน ยูลัด

10

โอกาสที่ใช้ในการแสดง

ซาปิน

สามารถพบเห็นได้ในรัฐยะโฮบารู ซึ่งรัฐนี้การเต้นซาปินได้รับความนิยมเป็น

อย่างมากและยังถูกยกเป็นการเต้นประจำรัฐยะโฮบารูและยังถูกยกเป็นศิลปะ

การแสดงประจำชาติของมาเลเซีย

มักยองของชาวมาเลย์

สร้างความบันเทิงให้แก่พระราชินี และธิดาของกษัตริย์ และสตรีในพระราชวัง

เมื่อผู้ชายออกไปสู้รบในสงคราม

โยเก็ต

เป็นหนึ่งในระบำพื้นเมืองที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของประเทศมาเลเซีย

โดยปกติแล้วแสดงโดยคู่นักเต้นระบำชาย-หญิงในช่วงเทศกาลต่างๆ ตาม

ประเพณี งานแต่งงาน และงานพิธีต่างๆ

ดาเรียนลิลิน

เป็นระบำพื้นเมืองที่มีชื่อเสียง มีจังหวะดนตรีที่สนุกสนาน มักจัดแสดงใน


เทศกาลและงานสังคมต่างๆ บังกรา

บังกราคือการเต้นรำและการแสดงดนตรีพื้นเมืองที่สนุกสนานของชาวซิกข์

มีต้นกำเนิดมาจากการเต้นรำในฤดูเก็บเกี่ยว ปัจจุบัน แสดงในงานเฉลิมฉลอง

ต่างๆ เช่น งานแต่งงาน หรืองานวันขึ้นปีใหม่ เป็นต้น เรื่องที่ใช้ในการแสดง

ส่วนใหญ่เป็นเรื่องราวความรัก

ซูมาเซา 11

คือการเต้นรำพื้นบ้านดั้งเดิมที่เป็นที่นิยมในรัฐซาบาห์และทั่ว

ประเทศมาเลเซีย มันเป็นประเพณีการฟ้อนรำ มักมีการแสดงในช่วง

เทศกาลเก็บเกี่ยวของทุกเดือนพฤษภาคม

อ้างอิง

https://strikernzero.blogspot.com/2017/06/blog-post.html
https://sites.google.com/dei.ac.th/ws31003t/%E0%B8%9A
%E0%B8%97%E0%B8%97-3-
%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%8F%E0%B8%A8%
E0%B8%A5%E0%B8%9B/%E0%B9%80%E0%B8%A3%E
0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%97-3-
%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%8F%E0%B8%A8%
E0%B8%A5%E0%B8%9B%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E
0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0
%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%
B8%99%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9
%84%E0%B8%97%E0%B8%A2?
fbclid=IwAR0oJwyFHHYi2PxxjLLYvMjQavPyh8YhlPdHH6e
7xbHcGt4_5k0bXYzTAek

12

สมาชิก




1.นายนันทพงศ์ พุฒด้วง เลขที่ 1

2.นายนนทพัฒน์ วินิจผล เลขที่ 4

3.นายวัชรินทร์ คงเซ็น เลขที่ 9

4.นางสาวกิตติวรา หงษ์ทอง เลขที่ 14

5.นางสาวญาณิศา ตุ้งซี่ เลขที่ 20

6.นางสาวณัฐมน ทิพย์กองลาศ เลขที่ 23

7.นางสาวพัทธนันท์ ดำโอ เลขที่ 29

8.นางสาวพิชญธิดา รักดี เลขที่ 30

9.นางสาววิรากานต์ สงพุ่ม เลขที่ 35

10.นางสาวสิริรัตน์ คำแก้ว เลขที่ 38

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/6


Click to View FlipBook Version