The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แนวทางการจัดทำร่างกฎหมาย

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by aram.du, 2021-12-04 01:48:45

แนวทางการจัดทำร่างกฎหมาย

แนวทางการจัดทำร่างกฎหมาย

แนวทางในการจดั ทำรา่ งกฎหมาย
บทท่ี แ๒นกวาทรารง่าใงนพกราะรรจาัดชทบ�ำญั รญ่างัตกิ ฎหมาย

บทท่ี ๒ การร่างพระราชบัญญัติ

ในสำนักงานกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา แต่จะให้ได้รับเงินเดือนหรือค่าจ้างต่ำกว่าเงินเดือน
หรอื คา่ จา้ งทีไ่ ด้รับอยู่เดิมไม่ได้”

๒บทที่ (๖) การรองรับค่าตอบแทนของบุคคลในกรณีกลับเข้ารบั ราชการใหม่
มาตรา .. เพ่ือประโยชน์ในการบรรจุบุคคลซึ่งเคยเป็นข้าราชการและออกจาก
ราชการไปก่อนวันที่พระราชบัญญัติน้ีใช้บังคับกลับเข้ารับราชการ ให้ปรับอัตราเงินเดือน
ท่ีผู้นั้นได้รับอยู่ก่อนออกจากราชการให้เข้าข้ันและชั้นตามบัญชีอัตราเงินเดือน...(ชื่อประเภท
ขา้ ราชการตามกฎหมายฉบบั ใหม่)...ที่ใชบ้ งั คบั อย่ใู นวนั ที่กลับเขา้ รับราชการ
ในกรณี ที่ ผู้ เข้ ารับราชการเป็ นผู้ ซึ่ งออกจากราชการก่ อนมี การปรับอั ตรา
เงินเดือนตาม...(ช่ือกฎหมายฉบับเดิม)... ให้ปรับเงินเดือนที่ผู้น้ันได้รับอยู่ก่อนออกจากราชการ
ตาม...(ระดับศักด์ิของกฎหมายฉบับเดิม)...น้ัน ๆ เสยี ก่อน แลว้ จึงปรับเงินเดือนตามวรรคหน่ึง
ในกรณีที่มีการปรับเงินเดือนของผู้ที่กลับเข้ารับราชการตามวรรคหนึ่ ง
และวรรคสองแล้วยังปรากฏว่าผู้เข้ารับราชการได้รับเงินเดือนไม่ถึงข้ันต่ำของชั้นตามบัญชีอัตรา
เงินเดือน...(ช่ือประเภทข้าราชการตามกฎหมายฉบับใหม่)...ท้ายพระราชบัญญั ตินี้
ให้...(ชื่อคณะกรรมการตามกฎหมายฉบับใหม่)...เป็นผู้พิจารณาว่าผู้น้ันสมควรได้รับการบรรจุ
ในชั้นหรือขั้นใด ทั้งน้ี ...(ช่ือคณะกรรมการตามกฎหมายฉบับใหม่)...จะกำหนดให้ได้รับเงินเดือน
ในช้นั ที่ตำ่ กว่าขนั้ ต่ำของช้นั เปน็ กรณีเฉพาะรายก็ได้”
ตัวอยา่ ง
- พระราชบัญญตั ิระเบียบขา้ ราชการฝา่ ยอยั การ พ.ศ. ๒๕๒๑
“มาตรา ๗๔ เพอ่ื ประโยชน์ในการพิจารณาบรรจุบุคคลซงึ่ เคยรับราชการ
และออกจากราชการไปก่อนวันท่ีพระราชบัญญัติน้ีใช้บังคับเข้ารับราชการ ให้ปรับเงินเดือน
ท่ีผู้นั้นได้รับอยู่ก่อนออกจากราชการให้เข้าช้ัน และข้ันตามบัญชีที่ใช้บังคับอยู่ในวันที่กลับ
เข้ารบั ราชการ
ในกรณีท่ีผู้เข้ารับราชการเป็นผู้ซึ่งออกจากราชการก่อนมีการปรับอัตรา
เงินเดือนตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ (ฉบับท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๐๗
พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ (ฉบับท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๑๐ ประกาศของคณะปฏิวตั ิ
ฉบับท่ี ๓๖๐ ลงวันท่ี ๑๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๕ หรือพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการ
ฝ่ายอัยการ (ฉบับท่ี ๕) พ.ศ. ๒๕๑๗ ให้ปรับเงินเดือนที่ผู้น้ันได้รับอยู่ก่อนออกจากราชการ
ตามพระราชบญั ญัติและประกาศนนั้ ๆ เสยี ก่อน แลว้ จึงปรบั เงนิ เดอื นตามวรรคหนง่ึ
ในกรณีที่มีการปรับเงินเดือนของผู้ท่ีกลับเข้ารับราชการตามวรรคหนึ่ง
และวรรคสองแล้วยังปรากฏว่าผู้เข้ารับราชการได้รับเงินเดือนไม่ถึงข้ันต่ำของชั้นตามบัญชี

130

๑๓๐

แนวทางในการจดั ทำรา่ งกฎหมาย ๒บทท่ี
แนวทางบในทกทาี่ ร๒จกัดาทร�ำรร่า่างงพกรฎะหรามชาบยัญญัติ

บทท่ี ๒ การร่างพระราชบัญญัติ

อัตราเงินเดือนข้าราชการอยั การท้ายพระราชบัญญัตินี้ ให้ ก.อ. เป็นผพู้ ิจารณาว่าผูน้ น้ั สมควร
ได้รับการบรรจุในชั้นหรือขั้นใด ท้ังนี้ ก.อ. จะกำหนดให้ได้รับเงินเดือนในชั้นที่ต่ำกว่าข้ันต่ำ
ของชนั้ เปน็ กรณีเฉพาะรายก็ได”้

- พระราชบัญญัติเงนิ เดือนและเงนิ ประจำตำแหน่ง พ.ศ. ๒๕๓๘
“มาตรา ๑๖ เพ่ือประโยชน์ในการบรรจุบุคคลซ่ึงเคยเป็นข้าราชการ
และออกจากราชการไปก่อนวันทีพ่ ระราชบัญญัตินใ้ี ช้บังคับกลับเข้ารับราชการ ให้ปรับอัตรา
เงินเดือนท่ีผู้นั้นได้รับอยู่ก่อนออกจากราชการให้เข้าอันดับและขั้น ระดับและชั้น ระดับ
และขนั้ หรือช้นั และขัน้ แล้วแต่กรณี ตามบญั ชีอตั ราเงนิ เดอื นทา้ ยพระราชบญั ญัติน้ี หรือตาม
บัญชีอัตราเงินเดือนท้ายพระราชกฤษฎีกาท่ีออกตามความในมาตรา ๑๔ แล้วแต่กรณี
ท่ีใช้บังคับอยู่ในวันท่ีกลับเข้ารับราชการ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการท่ีคณะรัฐมนตรี
กำหนด
ในระหว่างท่ีบุคคลตามวรรคหน่ึงออกจากราชการ ถ้ามีกฎหมายกำหนดให้
ปรับอัตราเงินเดือนของข้าราชการประเภทเดียวกันกับผู้น้ันมาก่อนการปรับอัตราเงินเดือน
ตามพระราชบัญญัติน้ี ให้ปรับเงินเดือนที่ผู้นั้นได้รับอยู่ก่อนออกจากราชการตามกฎหมายน้ัน ๆ
เสยี ก่อน แล้วจงึ ปรบั เงนิ เดือนตามวรรคหนงึ่
ในกรณีที่ไม่สามารถปรับเงินเดือนของผู้ที่กลับเข้ารับราชการตามวรรคหนึ่ง
และวรรคสอง ให้คณะกรรมการบริหารงานบุคคลที่เก่ียวข้อง เป็นผู้พิจารณาว่าผู้น้ันสมควรได้รับ
บรรจุในอันดับและขั้น ระดับและช้ัน ระดบั และข้นั หรือชนั้ และขนั้ ใดเปน็ การเฉพาะราย”

(๗) การรองรบั การเปล่ียนแปลงคณุ สมบัตเิ รอ่ื งอายุของพนกั งาน

มาตรา .. ...(ชื่อตำแหน่งของผู้บังคับบัญ ชาสูงสุดของพนักงาน
ตามกฎหมายฉบับเดิม)...ของ...(ชื่อหน่วยงานหรือองค์กรตามกฎหมายฉบับเดิม)...ผู้ใด
มีอายุครบ...(จำนวนอายุท่ีกำหนดไว้สูงสุด)...ปีบริบูรณ์แล้วในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
หรือจะมีอายุครบ...(จำนวนอายุท่ีกำหนดไว้สูงสุด)...ปีบริบูรณ์ ภายในระยะเวลา
...(จำนวนวัน)...นับแต่วันท่ีพระราชบัญญัติน้ีใช้บังคับ ให้ผู้นั้นคงอยู่ในตำแหน่งต่อไปได้
...(จำนวนวัน)...นับแต่วันที่พระราชบัญญัติน้ีใช้บังคับ และถ้าไม่ได้รับการต่ออายุการทำงาน
ตามความใน...(บทบัญญัติท่ีเก่ียวกับการต่ออายุการทำงานภายหลังจากที่อายุของบุคคล
ดังกล่าวครบกำหนดจำนวนอายุสูงสุด)... ก็ให้พ้นจากตำแหน่งในวันถัดจากวันครบกำหนด
...(จำนวนวัน)...นบั แต่วันทีพ่ ระราชบญั ญัตนิ ้ใี ช้บังคับ

131

แนวทางในการจัดทำรา่ งกฎหมาย
บทท่ี แ๒นกวาทรารงา่ ใงนพกราะรรจาัดชทบ�ำัญรญ่างัตกิ ฎหมาย

บทที่ ๒ การร่างพระราชบัญญัติ

ตัวอย่าง
- พระราชบัญญตั กิ ารทา่ เรือแหง่ ประเทศไทย (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๐๒
“มาตรา ๕ ผู้อำนวยการหรือพนักงานของการท่าเรือแห่งประเทศไทย
๒บทที่ ผู้ใดมีอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์แล้วในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ หรือจะมีอายุครบ
หกสิบปีบริบูรณ์ภายในระยะเวลาเก้าสิบวันนับแต่วันท่ีพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ผู้น้ัน
คงอยู่ในตำแหน่งต่อไปได้เก้าสิบวันนับแต่วันท่ีพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ และถ้าไม่ได้รับ
การต่ออายุการทำงานตามความในมาตรา ๓๑ ทวิ ก็ให้พ้นจากตำแหน่งในวันถัดจากวันครบ
กำหนดเก้าสิบวนั นบั แตว่ ันทพ่ี ระราชบัญญตั ินี้ใชบ้ งั คับ”
- พระราชบญั ญตั ิการรถไฟแห่งประเทศไทย (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๐๒
“มาตรา ๗ ผู้ว่าการหรือพนักงานของการรถไฟแห่งประเทศไทยผู้ใด
มีอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์แล้วในวันที่พระราชบัญญัติน้ีใช้บังคับ หรือจะมีอายุครบหกสิบปี
บริบูรณ์ภายในระยะเวลาเก้าสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ผู้นั้นคงอยู่ใน
ตำแหน่งต่อไปได้เก้าสิบวันนับแต่วันท่ีพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับและถ้าไม่ได้รับการต่ออายุ
การทำงานตามความในมาตรา ๓๓ ทวิ ก็ให้พ้นจากตำแหน่งในวันถัดจากวันครบกำหนด
เก้าสิบวันนบั แตว่ ันท่ีพระราชบัญญตั นิ ีใ้ ชบ้ ังคับ”

๓.๓ บทเฉพาะกาลรองรับกฎหมายลำดับรอง
การกำหนดบทเฉพาะกาลรองรับกฎหมายลำดับรองท่ีออกตามกฎหมายเดิม

ช่วยให้การปฏิบัติการตามกฎหมายฉบับใหม่สามารถดำเนินการต่อไปไดอ้ ย่างตอ่ เนอ่ื งไม่ติดขัด
โดยกำหนดให้นำรายละเอียดตามท่ีกำหนดไว้ในกฎหมายลำดับรองที่ออกตามกฎหมายฉบับเดิม
มาใชบ้ ังคับไดต้ ่อไปเพียงเท่าทไี่ ม่ขัดหรอื แย้งกับกฎหมายฉบับใหม่ จนกว่าจะมีกฎหมายลำดับรอง
ตามกฎหมายฉบับใหม่ใช้บังคับ แต่ต้องไม่เกินระยะเวลาท่ีกำหนดนับแต่วันท่ีกฎหมายฉบับใหม่
ใช้บงั คบั ซึ่งมีแนวทางการเขียน ดงั ต่อไปนี้

(๑) การรองรับกฎหมายลำดับรองท่ีออกตามกฎหมายฉบับเดิม กรณีท่ีเป็น
กฎหมายปรับปรุง

มาตรา .. บ รรดา...(ป ระเภ ท กฎ ห มายลำดับ รอง)...ที่ ออกตาม
...(ชื่อกฎหมายฉบับเดิม)...ท่ีใช้บังคับอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัติน้ีใช้บังคับ ให้ยังคง
ใช้บังคับได้ต่อไปเพียงเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับพระราชบัญญัติน้ี จนกว่าจะมี...(ประเภท
กฎหมายลำดบั รอง)...ตามพระราชบัญญตั ินี้ใช้บงั คบั

การดำเนินการออก...(ประเภทกฎหมายลำดับรอง)...ตามวรรคหนึ่ง
ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน...(จำนวนวัน เดือน หรือปี)...นับแต่วันท่ีพระราชบัญญัติน้ี
ใช้บังคับ หากไม่สามารถดำเนินการได้ให้รัฐมนตรีรายงานเหตุผลท่ีไม่อาจดำเนินการได้
ตอ่ คณะรัฐมนตรีเพอื่ ทราบ

132

แนวทางในการจัดทำรา่ งกฎหมาย ๒บทท่ี
แนวทางบในทกทา่ี ๒รจกัดาทร�ำรร่า่างงพกรฎะหรามชาบยัญญัติ

บทท่ี ๒ การร่างพระราชบัญญัติ

ตัวอยา่ ง
- พระราชบัญญตั ิการแขง่ ขนั ทางการค้า พ.ศ. ๒๕๖๐
“มาตรา ๙๒ บรรดากฎกระทรวง ประกาศ หลักเกณฑ์ หรือระเบียบท่ี
ออกตามพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. ๒๕๔๒ ที่ใช้บังคับอยู่ในวันก่อนวันที่
พระราชบัญญัตนิ ใี้ ช้บงั คับ ใหย้ งั คงใชบ้ ังคบั ได้ตอ่ ไปเพยี งเท่าทีไ่ มข่ ัดหรือแย้งกับพระราชบญั ญตั ินี้
จนกว่าจะมีกฎกระทรวง ประกาศ หรือระเบยี บ ท่ีออกตามพระราชบญั ญตั ิน้ใี ชบ้ ังคับ

การดำเนินการออกกฎกระทรวง ประกาศ หรือระเบียบตามวรรคหน่ึง
ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในสามร้อยหกสิบห้าวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัติน้ีใช้บังคับ
หากไม่สามารถดำเนินการได้ ให้รัฐมนตรีรายงานเหตุผลที่ไม่อาจดำเนินการได้ต่อคณะรัฐมนตรี
เพ่ือทราบ”

- พระราชบญั ญัติแร่ พ.ศ. ๒๕๖๐
“มาตรา ๑๘๗ บรรดากฎกระทรวง ประกาศ ระเบียบ หรือคำสั่งท่ีออก
ตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. ๒๕๑๐ และพระราชบัญญัติพิกัดอัตราค่าภาคหลวงแร่
พ.ศ. ๒๕๐๙ ท่ีใช้บังคบั อยใู่ นวนั ก่อนวนั ที่พระราชบัญญัตนิ ี้ใช้บังคบั ใหย้ ังคงใช้บงั คับได้ต่อไป
เท่าท่ีไม่ขัดหรือแย้งกับพระราชบัญญัติน้ี ท้ังน้ี จนกว่าจะมีกฎกระทรวง ประกาศ ระเบียบ
หรอื คำสง่ั ที่ออกตามพระราชบัญญตั ินี้ใชบ้ งั คับ
การดำเนินการออกกฎกระทรวง ประกาศ หรือระเบียบ ตามวรรคหนึ่ง
ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในสองปีนับแต่วันท่ีพระราชบัญญัติน้ีใช้บังคับ หากไม่สามารถ
ดำเนนิ การได้ ให้รฐั มนตรีรายงานเหตุผลทไี่ ม่อาจดำเนนิ การไดต้ อ่ คณะรัฐมนตรีเพ่ือทราบ”
อย่างไรก็ดี ขณะนี้มีการประกาศใชพ้ ระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำ
ร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธ์ิของกฎหมาย พ.ศ. ๒๕๖๒ ซ่ึงมีผลใช้บังคับตั้งแต่
วันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ เป็นต้นมา แนวทางในการเขียนจึงปรับปรุงเป็นดังน้ี เพื่อให้
สอดคล้องกบั สาระสำคญั ของกฎหมายดงั กล่าว

มาตรา .. บ รรดา...(ป ระเภ ท กฎ ห มายลำดับ รอง)...ท่ี ออกตาม
...(ชื่อกฎหมายฉบับเดิม)...ท่ีใช้บังคับอยู่ในวันก่อนวันท่ีพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ยังคง
ใช้บังคับได้ต่อไปเพียงเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับพระราชบัญญัติน้ี จนกว่าจะมี...(ประเภท
กฎหมายลำดับรอง)...ตามพระราชบัญญัติน้ีใช้บังคับ ท้ังนี้ ให้ดำเนินการออก...(ประเภท
กฎหมายลำดับรอง)...ตามพระราชบัญญัติน้ีให้แล้วเสร็จภายใน...(จำนวนวัน เดือน หรือปี
(ไม่เกนิ สองป)ี )...นบั แต่วันท่ีพระราชบญั ญัติน้ใี ชบ้ ังคับ

133

แนวทางในการจดั ทำรา่ งกฎหมาย
บทท่ี แ๒นกวาทรารง่าใงนพกราะรรจาัดชทบ�ำัญรญ่างัตกิ ฎหมาย

บทท่ี ๒ การร่างพระราชบัญญัติ

(๒) การรองรับกฎหมายลำดับรองท่ีออกตามกฎหมายฉบับเดิม กรณีที่เป็น
กฎหมายฉบบั แกไ้ ขเพ่ิมเตมิ
(ก) กำหนดรองรับโดยระบุมาตราท่ีมีการแก้ไขเพิ่มเติมซ่ึงเป็นมาตราที่ให้
๒บทที่ อำนาจในการออกกฎหมายลำดับรองเรื่องนนั้ ๆ ไวใ้ นเนือ้ หาของบทเฉพาะกาล

มาตรา .. บรรดา...(ประเภทกฎหมายลำดับรอง)...ที่ออกตามมาตรา ..
แห่งพระราชบัญญัติ...(ช่ือกฎหมายฉบับเดิม)… ท่ีใช้บังคับอยู่ในวันที่พระราชบัญญัติน้ี
มีผลใช้บังคับ ให้คงใช้บังคับได้ต่อไปเท่าท่ีไม่ขัดหรือแย้งกับบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติน้ี
ทั้งนี้ จนกว่าจะได้มีประกาศท่ีออกตามพระราชบัญญัติ...(ชื่อกฎหมายฉบับเดิม)... ซ่ึงแก้ไขเพมิ่ เติม
โดยพระราชบัญญัตินี้ในเรอ่ื งนนั้ ๆ ใช้บงั คบั

ตัวอย่าง
- พระราชบญั ญัตกิ ักพืช (ฉบบั ท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๕๑
“มาตรา ๒๕ บรรดากฎกระทรวงท่ีออกตามมาตรา ๑๐ มาตรา ๑๑
แห่งพระราชบัญญัติกักพืช พ.ศ. ๒๕๐๗ และมาตรา ๑๕ แห่งพระราชบัญญัติกักพืช
พ.ศ. ๒๕๐๗ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติกักพืช (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๒ ที่ใช้บังคับ
อยู่ในวันที่พระราชบัญญัตินี้มีผลใช้บังคับ ให้คงใช้บังคับได้ต่อไปเท่าท่ีไม่ขัดหรือแย้งกับ
บทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้ ท้ังนี้ จนกว่าจะได้มีประกาศที่ออกตามพระราชบัญญัติ
กกั พชื พ.ศ. ๒๕๐๗ ซ่ึงแกไ้ ขเพิ่มเตมิ โดยพระราชบญั ญตั ิน้ใี นเรอื่ งนนั้ ๆ ใช้บังคับ”

(ข) กำหนดรองรับโดยไม่ระบุมาตราที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา
ทใ่ี หอ้ ำนาจในการออกกฎหมายลำดบั รอง

“มาตรา .. บรรดา...(ประเภทกฎหมายลำดับรอง)...ที่ออกตาม
พระราชบัญญัติ...(ช่ือกฎหมายฉบับเดิม)... เฉพาะที่เก่ียวกับ...(เรื่องที่เก่ียวข้องกับกฎหมาย
ลำดับรองนั้น)... ที่ใช้บังคับอยู่ในวันก่อนวันท่ีพระราชบัญญัติน้ีใช้บังคับ ให้ยังคงใช้บังคับ
ได้ต่อไปเพียงเท่าท่ีไม่ขัดหรือแย้งกับพระราชบัญญัติ...(ช่ือกฎหมายฉบับเดิม)... ซึ่งแก้ไข
เพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติน้ี จนกว่าจะมี....(ประเภทกฎหมายลำดับรอง)...ตาม
พระราชบัญญัต.ิ ..(ชอ่ื กฎหมายฉบับเดมิ )... ซงึ่ แกไ้ ขเพม่ิ เติมโดยพระราชบัญญตั ินีใ้ ชบ้ ังคับ

134

แนวทางในการจัดทำรา่ งกฎหมาย ๒บทท่ี
แนวทางบในทกทาี่ ๒รจกัดาทร�ำรรา่ ่างงพกรฎะหรามชาบยญั ญัติ

บทที่ ๒ การร่างพระราชบัญญัติ

ตัวอย่าง
- พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพส่ิงแวดล้อมแห่งชาติ (ฉบับที่ ๒)
พ.ศ. ๒๕๖๑
“มาตรา ๑๗ บรรดากฎกระทรวง ข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศ หรือคำส่ังที่
ออกตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพส่ิงแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ เฉพาะท่ี
เกี่ยวกับการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบส่ิงแวดล้อมที่ใช้บังคับอยู่ในวันก่อนวันท่ี
พระราชบัญญัติน้ีใช้บังคับให้ยังคงใช้บังคับได้ต่อไปเพียงเท่าท่ีไม่ขัดหรือแย้งกับพระราชบัญญัติ
สง่ เสรมิ และรักษาคุณภาพสง่ิ แวดล้อมแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ ซึ่งแกไ้ ขเพมิ่ เตมิ โดยพระราชบัญญัตนิ ี้
จนกว่าจะมีพระราชกฤษฎีกา กฎกระทรวง หรือประกาศ ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษา
คณุ ภาพสิง่ แวดล้อมแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ ซ่งึ แก้ไขเพ่มิ เตมิ โดยพระราชบัญญัติน้ีใช้บงั คับ

การดำเนินการออกพระราชกฤษฎีกา กฎกระทรวง หรือประกาศตาม
พระราชบัญญัติน้ี ใหด้ ำเนนิ การให้แลว้ เสร็จภายในเก้าสบิ วันนบั แต่วันทพี่ ระราชบญั ญัตินใ้ี ชบ้ ังคบั
หากไม่สามารถดำเนินการได้ให้รัฐมนตรีรายงานเหตุผลท่ีไม่อาจดำเนินการได้ต่อคณะรัฐมนตรี
เพอื่ ทราบ”

หมายเหตุ
๑) กรณีที่กฎหมายฉบับใหม่มิได้กำหนดบทเฉพาะกาลเพื่อรองรับกฎหมาย
ลำดับรองท่ีออกตามกฎหมายฉบับเดิมไว้ หากหลักการในบทบัญญัติของกฎหมายฉบับ
ปรับปรุงหรือท่ีแกไ้ ขเพิ่มเติมนัน้ มิไดเ้ ปลยี่ นแปลงแก้ไขหลักการเดิม บรรดากฎหมายลำดบั รอง
ท่ีได้ใช้บังคับอยู่แล้วนั้นก็ยังคงใช้บังคับได้ ไม่จำเป็นต้องออกกฎหมายลำดับรองใหม่
แต่หากหลักการในบทบัญญัติท่ีแก้ไขเพ่ิมเติมน้ันได้เปล่ียนแปลงแก้ไขหลักการเดิมเป็นให้ใช้
หลักการใหม่แล้ว กฎหมายลำดับรองท่ีใช้บังคับอยู่แล้วนั้นย่อมเป็นอันใช้ไม่ได้ (เร่ืองเสร็จท่ี
๑๔๖/๒๔๙๔ และเรื่องเสรจ็ ท่ี ๑๓๙/๒๕๓๖)
๒) การเขียนบทเฉพาะกาลเพื่อรองรับกฎหมายลำดับรองที่ออกตามกฎหมายเดิม
ต้องเขียนในลักษณะที่ว่า ให้ยังคงใช้บังคับได้เท่าท่ีไม่ขัดหรือแย้งกับกฎหมายใหม่จนกว่า
จะได้มีกฎหมายลำดับรองตามกฎหมายใหม่ (เรื่องเสร็จที่ ๑๐๖/๒๕๑๗) มิใช่เขียนแต่เฉพาะ
ว่าให้กฎหมายลำดับรองตามกฎหมายเดิมยังคงใช้บังคับได้เท่าท่ีไม่ขัดหรือแย้งกับกฎหมายใหม่
เท่าน้ัน เพราะการเขียนเช่นน้ีมีผลทำให้กฎหมายลำดับรองซึ่งอาศัยอำนาจตามกฎหมายเดิม
มผี ลใช้บงั คบั ตลอดไป มใิ ชเ่ พยี งช่วงระยะเวลาหน่งึ เท่าน้นั ในขณะท่ีมีกฎหมายใหม่ใชบ้ ังคับแลว้

นอกจากน้ัน ในกรณีที่มาตรารักษาการตามกฎหมายฉบับเดิมกำหนดให้
รัฐมนตรีผู้รักษาการสามารถออกกฎกระทรวง ประกาศ ระเบียบ หรือข้อบังคับได้ แต่ใน
มาตราท่ีเป็นเนื้อหาสาระตามกฎหมายฉบับเดิมท่ีถูกแก้ไขเพิ่มเติมน้ันกำหนดให้มีการออก
กฎกระทรวงและประกาศเพียงสองประเภทเท่าน้ัน เมื่อกฎหมายฉบับแก้ไขเพ่ิมเติมยกเลิก
มาตราดังกล่าวย่อมมีผลทำให้กฎกระทรวงและประกาศที่ได้เคยออกโดยอาศัยอำนาจตาม

135

แนวทางในการจัดทำร่างกฎหมาย
บทท่ี แ๒นกวาทรารงา่ ใงนพกราะรรจาัดชทบ�ำญั รญ่างัตกิ ฎหมาย

บทท่ี ๒ การร่างพระราชบัญญัติ

มาตราดังกล่าวสิน้ สดุ ลงไปด้วย ซ่ึงหากยังมิได้มีการออกกฎกระทรวงดังกลา่ วในช่วงรอยตอ่ นี้
อาจมีปัญหาในทางปฏิบัติเกิดข้ึนต่อเจ้าหน้าท่ีและประชาชนได้ จึงจำเป็นต้องกำหนดให้นำ
กฎกระทรวงและประกาศที่ออกตามกฎหมายฉบับเดิมมาใช้บังคับไปพลางก่อนเท่าท่ีไม่ขัด
๒บทท่ี หรอื แย้งกบั กฎหมายฉบับใหม่ โดยมีบทเฉพาะกาลกำหนดให้กฎกระทรวงและประกาศท่ีออก
ตามกฎหมายฉบับเดิมมีผลใช้บังคับได้ต่อไป แต่ไม่กำหนดรายชื่อของกฎหมายลำดับรอง
ให้ครบถ้วนตามมาตรารักษาการที่มีรายช่ือกฎหมายลำดับรองที่ต้องออกมาใช้บังคับ
หลายประเภท
๓) การเขียนบทเฉพาะกาลรองรับกฎหมายลำดับรองให้มีผลใช้บังคับโดยมี
กำหนดระยะเวลานั้น มีคำวินิจฉัยของคณะกรรมการกฤษฎีกาวางแนวทางไว้ว่าระยะเวลา
ที่กำหนดไว้ในบทเฉพาะกาลเป็นเพียงข้อกำหนดเร่งรัดให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน
กำหนดมใิ ช่เป็นเงื่อนไขเวลาหรือกำหนดเวลาท่ีจะทำให้กลไกตามกฎหมายเดิมสิ้นผลไปทันที
ท่ีพ้นระยะเวลาท่ีกำหนดไว้ในบทเฉพาะกาล โดยบทบัญญัติดังกล่าวมีผลเกี่ยวข้องกับ
ความรับผดิ ชอบในทางบริหารท่ีต้องสามารถอธบิ ายได้ถึงเหตุแห่งความล่าช้า ทั้งนี้ ตามแนว
เรื่องเสร็จท่ี ๔๕๓/๒๕๓๒ เรื่องเสร็จท่ี ๑๔๙/๒๕๔๕ เรื่องเสร็จที่ ๒๙๗/๒๕๔๕ และ
เร่ืองเสร็จท่ี ๒๕/๒๕๔๙ อย่างไรก็ดี ปัจจุบันในข้ันตอนการเสนอกฎหมายฉบับใหม่
รัฐบาลได้ให้ ความสำคัญเก่ียวกับการเร่งรัดการดำเนิ นการออกกฎหมายลำดับรอง
ท้ังน้ี เพ่ือให้กฎหมายนั้นสามารถนำไปบังคับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยคณะรัฐมนตรี
ได้มีมติท่ีเกี่ยวข้องกับการเร่งรัดให้หน่วยงานของรัฐที่เป็นผู้รับผิดชอบตามกฎหมาย
ต้ องดำเนิ น การออกกฎ ห ม ายลำดั บ รองและรายงาน ความคื บห น้ าใน การจั ดท ำกฎ ห มาย
ลำดับรองน้ันต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบเป็นระยะ ได้แก่
- มติคณะรัฐมนตรีเมอื่ วันที่ ๓๐ กนั ยายน ๒๕๕๘
- มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันท่ี ๑๒ เมษายน ๒๕๕๙ และวันท่ี ๑๙ เมษายน
๒๕๕๙
- มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๕๙ และวันที่ ๑๖ พฤษภาคม
๒๕๕๙
- มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๖๐ และวันท่ี ๔ กรกฎาคม
๒๕๖๐
ภายหลังจากท่ีมีมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวข้างต้น บทเฉพาะกาลจึงมักจะมี
เน้ือหาส่วนหน่ึงเป็นการเร่งรัดให้หน่วยงานของรัฐที่เป็นผู้รับผิดชอบตามกฎหมายน้ัน
ต้องดำเนินการออกกฎหมายลำดับรอง โดยกำหนดมาตรการบังคับไว้ด้วยว่าหากไม่สามารถ
ดำเนินการได้ให้รัฐมนตรีผู้รักษาการตามกฎหมายนั้นรายงานเหตุผลท่ีไม่อาจดำเนินการได้
ต่อคณะรัฐมนตรเี พื่อทราบ

136

แนวทางในการจดั ทำร่างกฎหมาย ๒บทท่ี
แนวทางบในทกทา่ี ๒รจกัดาทร�ำรรา่ ่างงพกรฎะหรามชาบยัญญัติ

บทที่ ๒ การร่างพระราชบัญญัติ

อน่ึง ภายหลังจากท่ีพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมาย
และการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. ๒๕๖๒ มีผลใช้บังคับ ตั้งแต่วันที่
๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ โดยบทบัญญัติมาตรา ๒๒ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว
บัญญตั ิวา่

“กฎหมายท่ีมิใช่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญท่ีกำหนดให้ต้องมี
การออกกฎ หรือกำหนดให้รัฐต้องดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใด เพื่อที่ประชาชนจะสามารถ
ปฏิบัติตามกฎหมาย หรือได้รับสิทธิประโยชน์จากกฎหมายน้ันได้ หากมิได้มีการออกกฎ
ดังกล่าวหรือยังมิได้ดำเนินการน้ันภายในระยะเวลาสองปีนับแต่วันที่กฎหมายนั้นมีผล
ใช้บังคับ และบทบัญญัติในเรื่องนั้นก่อภาระหรือเป็นผลร้ายต่อประชาชน ให้บทบัญญัติ
ดังกล่าวเป็นอันส้ินผลบังคับ แต่ในกรณีท่ีบทบัญญัติในเรื่องน้ันให้สิทธิประโยชน์แก่ประชาชน
ให้บทบัญญัติดังกล่าวมีผลบังคับได้โดยไม่ต้องมีกฎหรือดำเนินการดังกล่าว ท้ังนี้ ระยะเวลา
สองปีดังกล่าวคณะรัฐมนตรีจะมีมติขยายออกไปอีกก็ได้แต่ไม่เกินหนึ่งปี และต้องมีมติ
กอ่ นท่ีจะครบกำหนดเวลาสองปีดงั กล่าว”

การบังคับใช้บทบัญญัติข้างต้นจึงมีผลเป็นการกำหนดระยะเวลาเร่งรัด
ทีห่ น่วยงานของรัฐทร่ี ับผิดชอบกฎหมายจะต้องดำเนินการออกกฎหมายลำดับรองให้แล้วเสร็จ
ภายในกำหนดระยะเวลาดังกล่าว ท้ังนี้ คณะรัฐมนตรีได้มีมติเม่ือวันท่ี ๒๔ มีนาคม ๒๕๖๓
ให้หน่วยงานของรัฐทุกแห่งตรวจสอบกฎหมายท่ีอยู่ในความรับผิดชอบเพ่ือดำเนินการ
ออกกฎหมายลำดับรองให้ทันภายในกำหนดระยะเวลาตามมาตรา ๒๒ วรรคสอง
แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวอย่างเคร่งครัด เพ่ือมิให้เกิดปัญหาในข้อกฎหมาย

ด้วยเหตุน้ี แนวทางในการกำหนดบทเฉพาะกาลเพื่อเร่งรัดและติดตาม
ให้มีการออกกฎหมายลำดับรองฉบับใหม่จึงสามารถกำหนดเน้ือหาไว้ในบทเฉพาะกาลได้
โดยจะต้องกำหนดระยะเวลาเร่งรัดไว้ไม่เกินสองปีตามท่ีบัญญัติไว้ในมาตรา ๒๒ วรรคสอง
แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว ส่วนการกำหนดให้รัฐมนตรีรายงานเหตุผลท่ีไม่อาจดำเนินการ
อ อ ก ก ฎ ห ม าย ล ำดั บ รอ ง ได้ ต่ อ ค ณ ะ รัฐ ม น ต รี เพื่ อ ท ร าบ แ ล ะ ก า ร ก ำ ห น ด ให้ มี ก า ร ข ย า ย
ระยะเวลาการออกกฎหมายลำดับรองน้ัน ไม่จำเป็นต้องกำหนดไว้ในบทเฉพาะกาลอีก
เนื่องจากสามารถบังคับตามหลักเกณฑ์ท่ีบัญญัติไว้ในมาตรา ๒๒ วรรคสอง ได้๒๐

๔) โดยหลักการแล้วเม่ือยกเลิกกฎหมายท้ังฉบับ กฎหมายลูกบทตามกฎหมายเดิม
ก็ต้องถูกยกเลิกไปด้วย เว้นแต่ มีบทเฉพาะกาลรองรับให้ใช้บังคับได้ต่อไป แต่ถึงจะมี
บทเฉพาะกาลรองรับให้ใช้ได้ต่อไปก็ต้องดูด้วยว่าสาระสำคัญของกฎหมายใหม่เปล่ียนไป
หรือไม่ หากสาระสำคัญเปล่ียนไปจากเดิม กฎหมายลูกบทเดิมก็คงใช้บังคับต่อไปไม่ได้
ซ่ึงคณะกรรมการกฤษฎีกาได้เคยมีแนวคำวินิจฉัยไว้ว่า กำหนดระยะเวลาให้ดำเนินการ

๒๐ บันทึกเรื่องพิจารณาเสร็จ ร่างพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
(เลขแฟม้ ท่ี ๑๖๑๑/๒๕๖๑)

137

แนวทางในการจัดทำรา่ งกฎหมาย
บทท่ี แ๒นกวาทรารง่าใงนพกราะรรจาัดชทบ�ำญั รญ่างตั กิ ฎหมาย

บทท่ี ๒ การร่างพระราชบัญญัติ

ออกกฎหมายลำดับรองในบทเฉพาะกาลเป็นเพียงบทเร่งรัดในการดำเนินการเท่านั้น ดังนั้น
จึงสามารถขยายระยะเวลาในการออกกฎหมายลำดับรองได้ สำหรับการกำหนดให้สามารถ
ขยายระยะเวลาในการดำเนินการออกกฎหมายลำดับรองได้โดยรัฐมนตรีต้องรายงานเหตุผล
๒บทท่ี ท่ีไม่อาจดำเนินการได้ต่อคณะรัฐมนตรีนั้น เน่ืองจากต้องการให้รัฐมนตรีรายงานเหตุผล
ที่ไม่อาจดำเนินการออกกฎหมายลำดับรองฉบับใหม่ได้ทันตามระยะเวลาท่ีกำหนด เพื่อเป็น
การเรง่ รัดและติดตามผลให้มกี ารออกกฎหมายลำดบั รองฉบับใหมข่ นึ้ ใช้บังคบั โดยเร็ว

๓.๔ บทเฉพาะกาลที่มสี าระสำคญั เฉพาะเรือ่ ง
กรณีท่ีมีการกำหนดบทเฉพาะกาลข้ึนด้วยเหตุผลและความจำเป็นเฉพาะเร่ือง

ตามวตั ถุประสงค์ของกฎหมายว่าด้วยเร่ืองน้ัน ๆ ซงึ่ ไม่อาจกำหนดให้อยู่ในกลุ่มที่ ๑ กลมุ่ ที่ ๒
หรือกลุ่มที่ ๓ ดังที่กล่าวมาข้างต้นได้ มีแนวทางการเขียนบทเฉพาะกาลในลักษณะต่าง ๆ
ดังตอ่ ไปนี้

(๑) การยกเวน้ มใิ ห้นำบทบัญญตั บิ างมาตราในกฎหมายฉบบั ใหม่มาใช้บงั คับ

มาตรา .. มิให้นำบทบัญญัติตาม...(บทบัญญัติตามกฎหมายฉบับใหม่
ท่ีกำหนดให้ต้องปฏิบัติ)...แห่งพระราชบัญญัติน้ีมาใช้บังคับแก่...(การใดหรือบุคคลใด)...
กอ่ นวันทีพ่ ระราชบัญญตั นิ ใ้ี ชบ้ งั คับ

ตวั อย่าง
- พระราชบัญญัติประกันชีวติ พ.ศ. ๒๕๓๕
“มาตรา ๑๑๙ มิให้นำบทบัญญัติตามมาตรา ๓๔ แห่งพระราชบัญญัตินี้
มาใช้บังคับแก่ผู้ท่ีเป็นกรรมการ ผู้จัดการ พนักงาน บุคคลผู้มีอำนาจในการจัดการ หรือที่ปรึกษา
ของบริษทั ตามมาตรา ๑๑๒ อย่แู ลว้ โดยชอบก่อนหรือในวันท่ีพระราชบัญญัตนิ ้ใี ชบ้ ังคับ”
- พระราชบญั ญัตปิ ระกันวินาศภัย พ.ศ. ๒๕๓๕
“มาตรา ๑๒๕ มิให้นำบทบัญญัติตามมาตรา ๓๕ แห่งพระราชบัญญัติน้ี
มาใช้บังคับแก่ผู้ท่ีเป็นกรรมการ ผู้จัดการ พนักงาน บุคคลผู้มีอำนาจในการจัดการ หรือที่ปรึกษา
ของบริษทั ตามมาตรา ๑๑๘ อยู่แลว้ โดยชอบกอ่ นหรอื ในวันที่พระราชบญั ญัตินีใ้ ชบ้ ังคบั ”

หมายเหตุ
๑) โดยหลักเมื่อกฎหมายฉบับใหม่มีผลใช้บังคับแล้ว การใด ๆ ท่ีกฎหมายฉบับใหม่
กำหนดไว้จะต้องดำเนินการใหเ้ ป็นไปตามกฎหมายฉบับใหม่น้ัน แต่ในบางคร้ังในระยะเร่ิมต้น
หากนำกฎหมายฉบับใหม่กำหนดมาใช้บังคับแล้ว อาจทำให้เกิดปัญหาในทางปฏิบัติได้
ดังนั้น เพื่อให้ในช่วงระยะเวลาเปลี่ยนผ่านระหว่างกฎหมายฉบับเก่าและกฎหมายฉบับใหม่

138

แนวทางในการจดั ทำร่างกฎหมาย ๒บทที่
แนวทางบในทกทาี่ ๒รจกัดาทร�ำรรา่ ่างงพกรฎะหรามชาบยัญญัติ

บทที่ ๒ การร่างพระราชบัญญัติ

จำเป็นต้องยกเว้นมิให้นำบทบัญญัติบางมาตราในกฎหมายฉบับใหม่มาใช้บังคับเพ่ือมิให้
เกิดปัญหาในทางปฏิบัติ เช่น กรณีที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายใหม่โดยกำหนดคุณสมบัติ
เพ่ิมขึ้น โดยมิได้กำหนดบทเฉพาะกาลเพื่อยกเว้นมิให้นำบทบัญญัติเก่ียวกับคุณสมบัติ
ท่ีแก้ไขใหม่น้ันมาใช้กับผู้ขออาชญาบัตรหรือประทานบัตรที่ได้ยื่นไว้ก่อนวันท่ีกฎหมายใหม่
ใช้บังคับและคำขอน้ันยังอยู่ระหว่างพิจารณา จึงมีประเด็นปัญหาว่า ผู้ขออาชญาบัตรหรือ
ประทานบัตรนั้นจะต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนตามกฎหมายใหม่หรือไม่ ซ่ึงกรณีปัญหาเช่นนี้
เม่ือกฎหมายใหม่ไม่มีบทเฉพาะกาลยกเว้นในเร่ืองคุณสมบัติให้แก่ผู้ท่ียื่นคำขอตามกฎหมายเก่า
ซ่งึ มไิ ด้กำหนดคณุ สมบัติของผู้ขอไว้ ดังนน้ั ผู้ท่ยี ื่นคำขอไวต้ ามกฎหมายเก่า แตไ่ ม่มีคุณสมบตั ิ
ครบถ้วนตามกฎหมายใหม่ย่อมขาดคุณสมบัติของผู้ขออาชญาบัตรหรือประทานบัตรที่จะได้รับ
การพิจารณาอนญุ าต (เรื่องเสร็จท่ี ๒๙๖/๒๕๑๖) เป็นต้น

๒) กำหนดยกเว้นไม่นำกฎหมายฉบับใหม่มาใช้บังคับหรือกำหนดให้มีการดำเนินการ
อย่างหน่ึงอย่างใดภายในระยะเวลาท่ีกำหนด การกำหนดระยะเวลาเช่นว่าน้ัน เม่ือได้ดำเนินการ
หรือพ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าวแล้ว บทเฉพาะกาลน้ันย่อมไม่มีที่ใช้บังคับอีกต่อไป
ซ่งึ หมายความว่าเนอ้ื หาของบทเฉพาะกาลในส่วนนั้นสิ้นผลใช้บังคบั ไปโดยปรยิ าย

ตัวอยา่ ง
- พระราชบญั ญตั ิการซ้ือขายสินคา้ เกษตรลว่ งหน้า พ.ศ. ๒๕๔๒
“มาตรา ๑๖๒ ภายในระยะเวลาสองปีนับแต่วันท่ีพระราชบัญญัติน้ีใช้บังคับ
มิใหน้ ำบทบญั ญัติมาตรา ๑๙ (๔) มาใชบ้ ังคับแก่การดำรงตำแหน่งของเลขาธกิ าร”
(๒) การกำหนดการสิ้นสุดการใช้บังคับบทบัญญัติใหม่โดยกำหนดเงื่อนไข
หรอื เงือ่ นเวลาไว้

มาตรา .. เมื่อพ้น...(เง่ือนไขหรอื เงอื่ นเวลา และบทบัญญตั ิเรื่องใดเร่ืองหนึ่ง
ตามกฎหมายฉบบั ใหม)่ ...

ตัวอยา่ ง
- พระราชบญั ญัตวิ ิธีปฏิบตั ริ าชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙
“มาตรา ๘๗ เมื่อได้มีการจัดตั้งศาลปกครองขึ้นแล้ว บทบัญญัติมาตรา ๔๘
ใหเ้ ปน็ อนั ยกเลกิ ”

139

แนวทางในการจดั ทำร่างกฎหมาย
บทที่ แ๒นกวาทรารงา่ ใงนพกราะรรจาัดชทบ�ำญั รญ่างัตกิ ฎหมาย

บทที่ ๒ การร่างพระราชบัญญัติ

(๓) การกำหนดระยะเวลาการชะลอการใช้บังคับบทบัญญัติใหม่บางมาตรา
เมอื่ กฎหมายฉบบั ใหม่มผี ลใชบ้ งั คับ

๒บทที่ มาตรา .. ...บทบัญญัติ...(มาตราท่ีประสงค์จะให้ให้ชะลอการใช้บังคับ)...
ยังมิให้ใช้บังคบั จนกวา่ จะพน้ กำหนด...(จำนวนวัน เดือน หรือป)ี ...นับแตว่ ันท่ีพระราชบัญญัตินี้
ใช้บังคับ

ตัวอย่าง
- พระราชบัญญตั ิคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. ๒๕๓๕
“มาตรา ๔๗ ฯลฯ ฯลฯ
ภายใต้บังคับวรรคสอง บทบัญญัติมาตรา ๒๓ ยังมิให้ใช้บังคับจนกว่า
จะพ้นกำหนดสามร้อยหกสิบวันนับแต่วันทพ่ี ระราชบัญญตั นิ ี้ใช้บังคบั ”

(๔) การกำหนดให้การอย่างใดอย่างหน่ึงตามกฎหมายฉบับเดิมเป็นตาม
กฎหมายฉบบั ใหม่

มาตรา .. ให้ถือว่า...(เรอื่ งใดเรอื่ งหน่งึ ตามทกี่ ฎหมายฉบับเดมิ ใหก้ ารรบั รอง
หรือคุ้มครอง)...ตาม...(ช่ือกฎหมายฉบับเดิม)... เป็น...(เร่ืองใดเรื่องหนึ่งตามที่กฎหมาย
ฉบบั ใหมร่ ับรองหรือคุม้ ครอง)...ตามพระราชบัญญัตนิ ้ี

ตัวอย่าง
- พระราชบญั ญัติสงวนและคุ้มครองสตั ว์ป่า พ.ศ. ๒๕๖๒
“มาตรา ๑๑๒ ให้สัตว์ป่าคุ้มครองตามกฎกระทรวงท่ีออกตาม
พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๓๕ เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตาม
พระราชบญั ญัตนิ ้จี นกว่าจะมกี ฎกระทรวงตามมาตรา ๗ ใช้บังคับ

ให้สัตว์ป่าคุ้มครองชนิดที่เพาะพันธุ์ได้ตามกฎกระทรวงท่ีออกตาม
พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๓๕ เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองท่ีเพาะพันธุ์ได้
ตามพระราชบัญญัตนิ ้ีจนกว่าจะมปี ระกาศของรฐั มนตรีตามมาตรา ๘ ใช้บังคับ

ให้สัตว์ป่าชนิดท่ีรัฐมนตรีประกาศกำหนดห้ามนำเข้าหรือส่งออกตาม
มาตรา ๒๓ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๓๕ เป็นสัตว์ป่า
ควบคมุ ตามพระราชบัญญตั นิ ้ีจนกวา่ จะมปี ระกาศของรฐั มนตรีตามมาตรา ๙ ใช้บังคบั ”

140

แนวทางในการจัดทำร่างกฎหมาย ๒บทท่ี
แนวทางบในทกทา่ี ๒รจกัดาทร�ำรรา่ ่างงพกรฎะหรามชาบยัญญัติ

บทที่ ๒ การร่างพระราชบัญญัติ

- พระราชบัญญตั ิกองทนุ เงินใหก้ ยู้ มื เพ่ือการศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๐
“มาตรา ๖๑ ให้ถือว่าหนี้ของผู้กู้ยืมเงินตามพระราชบัญญัติกองทุนเงิน
ใหก้ ู้ยืมเพื่อการศกึ ษา พ.ศ. ๒๕๔๑ และหน้ขี องผ้รู ับทุนการศกึ ษาแบบต้องใช้คืนตามระเบียบ
กระทรวงการคลัง ว่าด้วยการบริหารกองทุนเพ่ือการศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๙ ท่ีออกตาม
พระราชบัญญัติเงินคงคลัง พ.ศ. ๒๔๙๑ ที่ค้างชำระหรือยังไม่ถึงกำหนดชำระ เป็นหนี้ที่ผู้กู้ยืมเงิน
หรือผู้รับทุนการศึกษาแบบต้องใช้คืนนั้น จะต้องชดใช้คืนให้กองทุนตามพระราชบัญญัติน้ี
ทง้ั น้ี ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเง่อื นไขท่คี ณะกรรมการกำหนด”

(๕) การรองรับการดำเนินการตามกฎหมายฉบับเดิมที่ยังไม่แล้วเสร็จ
ใหด้ ำเนินการต่อไปจนแล้วเสร็จ

มาตรา .. ...(การดำเนินการอย่างใดอย่างหน่ึงตามท่ีกำหนดในกฎหมาย
ฉบับเดิมที่ค้างการดำเนินการอยู่ก่อนกฎหมายฉบับใหม่ใช้บังคับ)...ตาม...(ชื่อกฎหมาย
ฉบับเดิม)...อย่กู ่อนวันที่พระราชบัญญตั ินใี้ ช้บงั คับ ให้.....(การดำเนินการ) ตาม...(ชื่อกฎหมาย
ฉบับเดมิ )...จนกว่า (จะถงึ ท่ีสุด/ จะเสรจ็ สิ้น/ แล้วเสรจ็ )

ตวั อย่าง
- พระราชบัญญัติเครอ่ื งหมายการคา้ พ.ศ. ๒๕๓๔
“มาตรา ๑๒๑ การอุทธรณ์คำส่ังหรือคำวินิจฉัยของนายทะเบียน
และการคัดค้านการจดทะเบียนตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พุทธศักราช ๒๔๗๔
ท่ี ค้ า งพิ จ า ร ณ า อ ยู่ ก่ อ น วั น ท่ี พ ร ะ ร า ช บั ญ ญั ติ นี้ ใช้ บั งคั บ ให้ อ ยู่ ใน บั งคั บ ข อ งบ ท บั ญ ญั ติ
แห่งพระราชบญั ญัติเครื่องหมายการคา้ พุทธศักราช ๒๔๗๔ จนกว่าจะถึงท่ีสุด”
- พระราชบัญญัติวา่ ด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ. ๒๕๕๘
“มาตรา ๔๘ บรรดาการส่งตัว การรับแจ้ง การรับรายงาน และ
การสอบสวนเบ้ืองต้นทคี่ ้างดำเนินการอยู่ก่อนวันท่พี ระราชบัญญัติน้ีใช้บังคับ ให้ดำเนินการต่อไป
ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ. ๒๕๒๑
จนกว่าจะเสร็จส้ิน”
- พระราชบัญญตั กิ ารรับขนทางอากาศระหว่างประเทศ พ.ศ. ๒๕๕๘
“มาตรา ๕๙ คดีเก่ียวกับการรับขนทางอากาศภายในประเทศ
ท่ีค้างการพิจารณาอยู่ในศาลก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ศาลนั้นพิจารณาต่อไป
จนแลว้ เสร็จโดยถอื วา่ คดนี ั้นมใิ ช่คดเี ก่ียวกบั การรับขนทางอากาศตามพระราชบญั ญัตินี้”

141

แนวทางในการจัดทำร่างกฎหมาย
บทท่ี แ๒นกวาทรารงา่ ใงนพกราะรรจาัดชทบ�ำัญรญ่างตั กิ ฎหมาย

บทที่ ๒ การร่างพระราชบัญญัติ

(๖) การรองรับการอ้างถึงถ้อยคำใดหรือเร่ืองใดในกฎหมายฉบับเก่าให้เป็น
การอ้างถงึ ถ้อยคำหรือเรอ่ื งทบ่ี ญั ญัติไว้ในกฎหมายฉบับใหม่

๒บทที่ มาตรา .. บทบัญญัติแห่งกฎหมาย กฎ ข้อบังคับ ระเบียบ หรือคำส่ังอื่นใด
อ้างถึง...(เรื่องใดเรื่องหน่ึงตามที่กฎหมายฉบับเดิมกำหนดหรือ ให้การรับรอง)...
ตาม...(ชื่อกฎหมายฉบับเดิม)...ให้ถือว่าบทบัญญัติแห่งกฎหมาย กฎ ข้อบังคับ ระเบียบ
หรือคำส่ังนั้นอ้างถึง...(เร่ืองใดเร่ืองหนึ่งตามท่ีกฎหมายฉบับใหม่กำหนดหรือท่ีจะให้
การรบั รอง)...ตามพระราชบญั ญตั นิ ี้ แล้วแต่กรณี
ตัวอย่าง
- พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัว และวิธีพิจารณาคดีเยาวชน
และครอบครัว พ.ศ. ๒๕๓๔
“มาตรา ๑๔๒ บทบัญญัติแห่งกฎหมาย กฎ ข้อบังคับ ระเบียบ หรือคำส่ัง
อ่ืนใดอ้างถึงศาลคดีเด็กและเยาวชน สถานพินิจตามกฎหมายว่าด้วยการจัดต้ังศาลคดีเด็ก
และเยาวชนและกฎหมายว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีเด็กและเยาวชน ให้ถือว่าบทบัญญัติ
แห่งกฎหมาย กฎ ข้อบังคับ ระเบียบ หรือคำส่ังนั้นอ้างถึงศาลเยาวชนและครอบครัว สถานพินิจ
ตามพระราชบัญญตั นิ ี้ แล้วแต่กรณ”ี
(๗) การรองรับการกระทำความผิดและการลงโทษใหม้ ีอยู่ต่อไป
มาตรา .. ให้การกระทำความผิด...(ฐานความผิดตามกฎหมายฉบับเดิม)...
ตาม...(ช่ือกฎหมายฉบับเดิม)... ซึ่งได้กระทำก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับยังคงเป็น
ความผิดตอ่ ไป
ตัวอยา่ ง
- พระราชกำหนดถอนคืนเหรียญกษาปณ์ชนิดทองขาว ราคาห้าบาท ลักษณะ
เก้าเหล่ยี ม พ.ศ. ๒๕๒๑
“มาตรา ๕ ให้การกระทำความผิดฐานปลอมเงินตราตามประมวล
กฎหมายอาญาเกย่ี วกับเหรียญกษาปณต์ ามมาตรา ๓ ซง่ึ ไดก้ ระทำก่อนวันที่พระราชกำหนดนี้
ใช้บังคบั ยงั คงเป็นความผิดตอ่ ไป”

142

๑๔๒

แนวทางในการจดั ทำรา่ งกฎหมาย
แนวทางใบนทกทาี่ร๒จัดกทาร�ำรรา่่างงพกรฎะหรมาาชยบญั ญัติ

บทท่ี ๒ การร่างพระราชบัญญัติ

(๘) การรองรบั การดำเนินการลงโทษทางวนิ ัย

มาตรา .. ...(ช่ือประเภทของข้าราชการตามกฎหมายฉบับเดิม)...ผู้ใด...... ๒บทท่ี
ตามพระราชบัญญัตินี้มีกรณีกระทำผิดวนิ ัย หรือมีกรณีท่ีสมควรให้ออกจากราชการก่อนวันท่ี
พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ผู้บังคับบัญชา...(อำนาจในการสั่งดำเนินการทางวินัย
ตามกฎหมายฉบับเดิม)...ส่วนการ...(การดำเนินการทางวินัยบางเร่ือง)...ให้ดำเนินการ
ตามพระราชบัญญตั นิ ้ี เว้นแต่

(๑) ...(ข้อเท็จจริงท่ีได้มีการดำเนินการไปแล้ว)... ให้...(การดำเนินการ
ทางวินัยตามขน้ั ตอนท่ีให้ถือปฏิบัต)ิ

(๒) ...(ข้อเท็จจริงท่ีได้มีการดำเนินการไปแล้ว)... ให้...(การดำเนินการ
ทางวนิ ัยตามขนั้ ตอนทใี่ หถ้ อื ปฏิบัติ)

(๓) ...(ข้อเท็จจริงที่ได้มีการดำเนินการไปแล้ว)... ให้...(การดำเนินการ
ทางวินัยตามขน้ั ตอนท่ใี หถ้ อื ปฏิบัติ)

ตวั อย่าง
- พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
พ.ศ. ๒๕๔๗
“มาตรา ๑๓๔ ข้าราชการครูหรือข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ใดที่เป็น
ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตามพระราชบัญญัตินี้มีกรณีกระทำผิดวินัย
หรือมีกรณที ี่สมควรให้ออกจากราชการอยู่กอ่ นวันทพี่ ระราชบัญญัตินี้ใชบ้ ังคับ ให้ผู้บังคับบัญชา
ตามพระราชบัญญัติน้ี มีอำนาจสั่งลงโทษผู้น้ันหรือส่ังให้ผู้น้ันออกจากราชการตามกฎหมาย
ว่าด้วยระเบียบข้าราชการครูหรือกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือน แล้วแต่กรณี
ที่ใช้อยู่ขณะนั้น ส่วนการสอบสวนพิจารณาและการดำเนินการเพื่อลงโทษหรือให้ออกจาก
ราชการให้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติน้ี เว้นแต่

(๑) กรณีที่ผู้บังคับบัญชาได้สั่งให้สอบสวนโดยถูกต้องตามกฎหมาย
ท่ีใช้อยู่ในขณะน้ันไปแล้วก่อนวันท่ีพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ และยังสอบสวนไม่แล้วเสร็จ
กใ็ ห้สอบสวนตามกฎหมายนัน้ ต่อไปจนกว่าจะแล้วเสรจ็

(๒) ในกรณีที่มีการสอบสวนหรือพิจารณาโดยถูกต้องตามกฎหมาย
ที่ใช้อยู่ในขณะน้ันเสร็จไปแล้วก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ถือว่าการสอบสวน
หรือการพิจารณาน้ัน แล้วแตก่ รณี เป็นอันใช้ได้

(๓) กรณีท่ีได้มีการรายงานหรือส่งเร่ืองหรือส่งสำนวนเสนอให้ อ.ก.ค. กรม
ซ่ึงทำหน้าที่ อ.ก.พ. กระทรวง หรือ อ.ก.พ. กระทรวง แล้วแต่กรณี พิจารณาดำเนินการ
ตามกฎหมายที่ใช้อยู่ในขณะนั้นและ อ.ก.ค. กรม ซึ่งทำหน้าท่ี อ.ก.พ. กระทรวง หรอื อ.ก.พ.

143

แนวทางในการจดั ทำรา่ งกฎหมาย
บทที่ แ๒นกวาทรารง่าใงนพกราะรรจาัดชทบ�ำัญรญ่างตั กิ ฎหมาย

บทที่ ๒ การร่างพระราชบัญญัติ

กระทรวง พิจารณาเร่ืองน้ันยังไม่แล้วเสร็จก็ให้ อ.ก.ค.ศ. เขตพ้ืนที่การศึกษา หรือ อ.ก.ค.ศ.
ท่ี ก.ค.ศ. ต้งั หรอื ก.ค.ศ. แล้วแต่กรณี พิจารณาต่อไปจนกว่าจะแล้วเสร็จ”
- พระราชบญั ญตั ิระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๕๑
๒บทที่ “มาตรา ๑๓๓ ข้าราชการพลเรือนผู้ใดมีกรณีกระทำผิดวินัยหรือกรณีที่
สมควรให้ออกจากราชการอยู่ก่อนวันท่ีบทบัญญัติในลักษณะ ๔ ข้าราชการพลเรือนสามัญ
และลักษณะ ๕ ข้าราชการพลเรือนในพระองค์ แห่งพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ผู้บังคับบัญชา
ตามพระราชบัญญัติน้ีมีอำนาจส่ังลงโทษผู้น้ันหรือสั่งให้ผู้น้ันออกจากราชการตามกฎหมาย
ว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือนท่ีใช้อยู่ในขณะนั้น ส่วนการสอบสวน การพิจารณา
และการดำเนินการเพ่ือลงโทษหรือให้ออกจากราชการ ให้ดำเนินการตามพระราชบัญญัตินี้
เว้นแต่
(๑) กรณีท่ีผู้บังคับบัญชาได้ส่ังให้สอบสวนโดยถูกต้องตามกฎหมายที่ใช้อยู่
ในขณะน้ันไปแล้วก่อนวันท่ีบทบัญญัติในลักษณะ ๔ ข้าราชการพลเรือนสามัญ และลักษณะ ๕
ข้าราชการพลเรือนในพระองค์ แห่งพระราชบัญญัติน้ีใช้บังคับ และยังสอบสวนไม่เสร็จก็ให้
สอบสวนตามกฎหมายน้ันต่อไปจนกวา่ จะแล้วเสร็จ
(๒) ในกรณีท่ีได้มีการสอบสวนหรือพิจารณาโดยถูกต้องตามกฎหมาย
ที่ใช้อยู่ในขณะนั้นเสร็จไปแล้วก่อนวันที่บทบัญญัติในลักษณะ ๔ ข้าราชการพลเรือนสามัญ
และลักษณะ ๕ ข้าราชการพลเรือนในพระองค์ แห่งพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้การสอบสวน
หรือพจิ ารณา แลว้ แต่กรณนี ้ัน เปน็ อันใชไ้ ด้
(๓) กรณีท่ีได้มีการรายงานหรือส่งเรื่อง หรือนำสำนวนเสนอ หรือ
ส่งให้ อ.ก.พ. สามัญใดพิจารณาโดยถูกต้องตามกฎหมายท่ีใช้อยู่ในขณะน้ัน และ อ.ก.พ.
สามัญพิจารณาเร่ืองน้ันยังไม่เสร็จ ก็ให้ อ.ก.พ. สามัญ พิจารณาตามกฎหมายนั้นต่อไป
จนกว่าจะแลว้ เสรจ็ ”

(๙) การรองรบั อำนาจรัฐมนตรีในการขยายระยะเวลาทกี่ ำหนดในบทเฉพาะกาล
ตามกฎหมายฉบับใหมอ่ อกไปอีกได้

มาตรา .. ในกรณีที่มเี หตุผลอันจำเป็น ใหร้ ฐั มนตรมี ีอำนาจขยายระยะเวลา
ที่กำหนดตามมาตรา .. (มาตราของบทเฉพาะกาลตามกฎหมายฉบับใหม่ที่มีการกำหนด
ระยะเวลาไว)้ แห่งพระราชบญั ญัตนิ ้ีได้ เมอื่ ...(ผู้มีสิทธริ ้องขอขยายระยะเวลาตามบทเฉพาะกาล)...
ร้องขอโดยแสดงเหตุผลอันจำเป็นให้ปรากฏ แต่ระยะเวลาที่ขยายให้ดังกล่าวต้ อง
ไม่เกิน...(จำนวนวัน เดือน หรอื ปี)...นับแตว่ ันครบกำหนดระยะเวลาท่กี ำหนดไวต้ ามมาตรา ..
(มาตราของบทเฉพาะกาลตามกฎหมายฉบับใหม่ท่ีมีการกำหนดระยะเวลาไว)้

144

แนวทางในการจดั ทำร่างกฎหมาย ๒บทที่
แนวทางบในทกทา่ี ๒รจกัดาทร�ำรรา่ ่างงพกรฎะหรามชาบยญั ญัติ

บทที่ ๒ การร่างพระราชบัญญัติ

ตวั อย่าง
- พระราชบัญญัตปิ ระกันวนิ าศภัย พ.ศ. ๒๕๓๕
“มาตรา ๑๒๒ ในกรณี ที่มีเหตุผลอันจำเป็น ให้รัฐมนตรีมีอำนาจ
ขยายระยะเวลาท่ีกำหนดตามมาตรา ๑๑๓ มาตรา ๑๑๕ มาตรา ๑๑๖ และมาตรา ๑๑๗
แห่งพระราชบัญญัติน้ีได้ เมื่อบริษัทตามมาตรา ๑๑๒ ร้องขอโดยแสดงเหตุผลอันจำเป็น
ให้ปรากฏ แต่ระยะเวลาท่ีขยายให้ดังกล่าวต้องไม่เกินสองปีนับแต่วันครบกำหนดระยะเวลา
ทก่ี ำหนดไวต้ ามมาตรา ๑๑๓ มาตรา ๑๑๕ มาตรา ๑๑๖ และมาตรา ๑๑๗”

(๑๐) การรองรับอำนาจศาลและเขตอำนาจศาล
(ก) การรองรบั อำนาจศาลท่ีอ้างถึงแต่ยังมิได้จัดตงั้ ข้ึน

มาตรา .. ในระหว่างท่ียังมิได้มีกฎหมายว่าด้วยการจัดต้ัง...(ช่ือศาลท่ีจะจัดตั้ง
ข้ึนใหม่)...ใช้บังคับ ให้ศาลยุติธรรมมีอำนาจหน้าท่ีเช่นเดียวกับ...(ชื่อศาลท่ีจะจัดต้ังข้ึน
ตามกฎหมายฉบับใหม)่ ...

ตัวอยา่ ง
- พระราชบญั ญัติระเบียบบรหิ ารราชการเมืองพัทยา พ.ศ. ๒๕๒๑
“มาตรา ๑๑๔ ในระหว่างท่ียังไม่มีศาลปกครอง ให้ผู้มีสิทธิฟ้องคดี
ต่อศาลปกครองย่ืนคำฟ้องต่อศาลจังหวัดและถ้าเป็นการฟ้องคดีตามมาตรา ๒๙ ให้คำพิพากษา
ของศาลจังหวัดเปน็ ทีส่ ดุ ”

(ข) การรองรบั เขตอำนาจศาลในระหว่างท่ศี าลใหมย่ ังไม่เปิดทำการ

มาตรา .. ในระหว่างท่ียังมิได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเปิดทำการ
ตามมาตรา .. (มาตราท่ี ให้ อำนาจตราพระราชกฤษฎี กาตามกฎหมายฉบั บใหม่ )
ให้ศาล...(ชื่อศาลท่ีจะมีเขตอำนาจ)...มีเขตอำนาจตลอดจนถึงเขต...(ช่ือจังหวัด)...

ตวั อยา่ ง
- พระราชบัญญัตจิ ัดตง้ั ศาลจังหวดั พะเยา พ.ศ. ๒๕๒๐
“มาตรา ๕ ฯลฯ ฯลฯ
ในระหว่างที่ยังมิได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเปิดทำการตามมาตรา ๓
ให้ศาลจงั หวดั เชียงรายมีเขตอำนาจตลอดจนถึงเขตจังหวัดพะเยาดว้ ย”

145

แนวทางในการจัดทำร่างกฎหมาย
บทที่แ๒นวกทารารง่าในงพกราะรรจาัดชทบ�ำัญร่าญงตักิฎหมาย

บทท่ี ๒ การร่างพระราชบัญญัติ

พ.ศ. ๒๕๒๕ - พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลจังหวัดที่อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา

๒บทที่ “มาตรา ๔ ฯลฯ ฯลฯ
ในระหว่างที่ยังมิได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเปิดทำการตามมาตรา ๓
ให้ศาลจงั หวดั นครราชสีมามเี ขตอำนาจตลอดจนถึงเขตของศาลจงั หวดั สีคว้ิ ดว้ ย”

(ค) การรองรับการดำเนินการกับคดีที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาล
ท่ีเคยมีอำนาจหรือเขตอำนาจตามกฎหมายเดิม ในกรณีที่มีการจัดตั้งท่ีทำการศาลใหม่

มาตรา .. บรรดาคดีของเขต...(ชื่อเขตทางปกครอง)...ตามท่ีระบุไว้
ในวรรค... ซึ่งค้างพิจารณาอยู่ในศาล...(ชื่อจังหวัดของศาลตามกฎหมายฉบับเดิม)...
ใหค้ งพจิ ารณาพิพากษาโดยศาล...(ชือ่ จังหวัดของศาลตามกฎหมายฉบบั เดมิ )...

ตวั อย่าง
- พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลจังหวัดท่ีอำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่
พ.ศ. ๒๕๒๕
“มาตรา ๔ ฯลฯ ฯลฯ
บรรดาคดีของเขตอำเภอท้องท่ีอำเภอที่ระบุไว้ในวรรคหน่ึง ซึ่งค้าง
พิจารณาอยู่ในศาลจังหวัดเชยี งใหม่ ใหค้ งพิจารณาพิพากษาในศาลจังหวดั เชียงใหม”่
- พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลจังหวัดที่อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา
พ.ศ. ๒๕๒๕
“มาตรา ๔ ฯลฯ ฯลฯ
บรรดาคดีของเขตอำเภอท้องท่ีอำเภอท่ีระบุไว้ในวรรคหนึ่ง ซึ่งค้าง
พจิ ารณาอยู่ในศาลจังหวัดนครราชสีมา ใหค้ งพจิ ารณาพิพากษาในศาลจังหวัดนครราชสีมา”

(๑๑) การกำหนดระยะเวลาดำเนินการอย่างใดอย่างหน่ึงตามกฎหมายฉบับเดิม
เพอ่ื ใหเ้ ป็นไปตามกฎหมายใหม่

มาตรา .. ผู้ใด...(ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งตามท่ีกฎหมายฉบับเดิม
กำหนด)...อยู่แล้วในวันท่ีพระราชบัญญัติน้ีใช้บังคับ ให้/ต้อง....(ดำเนินการอย่างหนึ่ง
อย่างใด)...ภายใน...(จำนวนวัน)...นับแต่วันท่ีพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ และเม่ือได้
...(ดำเนินการตามที่กฎหมายฉบับใหม่กำหนด)...แล้ว ให้...(ดำเนินการตามที่กฎหมาย
ฉบับใหมอ่ นุญาต)...ตอ่ ไปได้ จนกว่าจะไดร้ ับแจ้ง.......จาก............

146

๑๔๖

แนวทางในการจัดทำรา่ งกฎหมาย ๒บทท่ี
แนวทางบในทกทา่ี ร๒จกัดาทร�ำรรา่ ่างงพกรฎะหรามชาบยญั ญัติ

บทที่ ๒ การร่างพระราชบัญญัติ

ตวั อย่าง
- พระราชบัญญัตงิ าช้าง พ.ศ. ๒๕๕๘
“มาตรา ๑๘ ผู้ใดค้างาช้างอยู่ในวันที่พระราชบัญญัติน้ีมีผลใช้บังคับ
ให้ยื่นคำขออนุญาตต่ออธิบดีภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัติน้ีมีผลใช้บังคับ
โดยต้องจัดทำบัญชีการได้มา การแปรรูป และการค้างาช้างด้วย และเมื่อยื่นคำขออนุญาต
แล้วใหค้ ้างาชา้ งตอ่ ไปไดจ้ นกวา่ จะได้รับแจ้งคำส่ังไม่อนุญาตจากอธบิ ดี

การยื่นคำขออนุญาตและการจัดทำบัญชีการได้มา การแปรรูป และการค้า
งาช้าง และการอนุญาตตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเง่ือนไขท่ีอธิบดี
กำหนดโดยประกาศในราชกิจจานเุ บกษา”

- พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธ์ุ
ทางการแพทย์ พ.ศ. ๒๕๕๘

“มาตรา ๕๔ ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมซ่ึงเป็นผู้รับผิดชอบหรือให้บริการ
เกี่ยวกับเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธ์ุทางการแพทย์ตามประกาศแพทยสภาว่าด้วย
มาตรฐานการให้บริการเก่ียวกับเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธ์ุอยู่ก่อนวันที่พระราชบัญญัติน้ี
ใช้บังคับ เม่ือได้แจ้งราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทยภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่
พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ดำเนินการต่อไปได้ จนกว่าจะมีประกาศแพทยสภาโดยความเห็นชอบ
ของคณะกรรมการเกี่ยวกับคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม และมาตรฐานในการให้บริการ
เกย่ี วกบั เทคโนโลยชี ่วยการเจรญิ พันธ์ุทางการแพทยต์ ามมาตรา ๑๕ ใชบ้ ังคบั ”

- พระราชบัญญัติสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ พ.ศ. ๒๕๕๘
“มาตรา ๕๕ ผู้ใดใช้หรือผลิตสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์อยู่ในวันท่ี
พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับให้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตตามพระราชบัญญัตินี้ภายในหน่ึงร้อย
แปดสิบวันนับแต่วันท่ีพระราชบัญญัติน้ีใชบ้ ังคบั และเมอ่ื ย่ืนคำขอแล้ว ให้ดำเนินการต่อไปได้
จนกวา่ จะได้รบั แจ้งคำส่ังไมอ่ อกใบอนุญาตจากผอู้ นุญาต”
- พระราชบัญญัตสิ ถานประกอบการเพอ่ื สุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙
“มาตรา ๔๙ ผู้ประกอบกิจการ ผู้ดำเนินการ และผู้ให้บริการในสถานที่
เพ่ือสุขภาพหรือเพื่อเสริมสวยที่ได้รับการรับรองตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กำหนด
สถานท่ีเพื่อสุขภาพหรือเพื่อเสริมสวย มาตรฐานของสถานท่ี การบริการ ผู้ให้บริการ หลักเกณฑ์
และวิธีการตรวจสอบเพื่อการรับรองให้เป็นไปตามมาตรฐานสำหรับสถานที่เพื่อสุขภาพ
หรือเพื่อเสริมสวยตามพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ. ๒๕๐๙ พ.ศ. ๒๕๕๑ อยู่ในวันก่อนวันที่
พระราชบัญญัติน้ีใช้บังคับ ให้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการ คำขอรับใบอนุญาต
เป็นผู้ดำเนินการ หรือคำขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการต่อผู้อนุญาตภายในหนึ่งร้อยแปดสิบวัน
นับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ และเมื่อย่ืนคำขอรับใบอนุญาตหรือคำขอขึ้นทะเบียนแล้ว
ให้ประกอบกิจการ ดำเนินการ หรือให้บริการต่อไปได้จนกว่าจะได้รับแจ้งคำสั่งไม่ออกใบอนุญาต
หรอื ไมร่ ับข้นึ ทะเบียนจากผู้อนุญาต แล้วแต่กรณ”ี

147

แนวทางในการจดั ทำรา่ งกฎหมาย
บทที่ แ๒นกวาทรารง่าใงนพกราะรรจาัดชทบ�ำัญรญ่างัตกิ ฎหมาย

บทที่ ๒ การร่างพระราชบัญญัติ

(๑๒) การกำหนดรองรับให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการเพื่อให้เกิด
ความสอดคลอ้ งกบั กฎหมายฉบับใหม่

๒บทที่ มาตรา .. ให้...(ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งท่ีกฎหมายฉบับใหม่ประสงค์
ให้ ด ำ เนิ น ก า ร น้ั น เป็ น ไป ต า ม ก ฎ ห ม า ย ล ำ ดั บ ร อ ง ท่ี จ ะ อ อ ก ต า ม ก ฎ ห ม า ย ฉ บั บ ใ ห ม่ )...
ตามพระราชบญั ญัตินีใ้ ห้เสร็จสิน้ ภายใน...(จำนวนวัน)...นับแตว่ นั ทพี่ ระราชบัญญัตนิ ใ้ี ชบ้ งั คบั
ตวั อย่าง
- พระราชบัญญัตวิ ตั ถุอันตราย พ.ศ. ๒๕๓๕
“มาตรา ๙๒ ให้ทบทวนบรรดาวัตถุหรือสิ่งอ่ืนใดท่ีมีการประกาศกำหนด
ให้เป็นวัตถุมีพิษธรรมดาและวัตถุมีพิษร้ายแรงตามกฎหมายว่าด้วยวัตถุมีพิษ และดำเนินการ
ออกประกาศกำหนดเป็นวัตถุอันตรายชนิดท่ี ๑ ชนิดท่ี ๒ ชนิ ดที่ ๓ หรือชนิดท่ี ๔
ตามพระราชบัญญัติน้ีให้แล้วเสร็จภายในหกเดือนนับแต่วันท่ีพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ”
(๑๓) การกำหนดระยะเวลาดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายใหม่เพื่อจะได้
ไม่ตอ้ งรบั โทษ
มาตรา .. ผู้ใด...(กระทำการใดที่กฎหมายฉบับใหม่กำหนดเป็นความผิด
และกำหนดโทษสำหรับความผิดนั้นไว้)... ถ้าได้...(กระทำการตามท่ีกำหนด)...
ภายใน...(จำนวนวัน)...นับแต่วันที่พระราชบัญญัติน้ีใช้บังคับ ผู้น้ันไม่ต้องรับโทษ
ตัวอย่าง
- พระราชบัญญัติอาวุธปืน เคร่ืองกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และ
ส่ิงเทยี มอาวธุ ปนื (ฉบับท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๑๐
“มาตรา ๖ ผู้ใดมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนหรือวัตถุระเบิดไม่ว่าชนิด
หรือขนาดใดซึ่งยังไม่ได้รับอนุญาตโดยชอบด้วยกฎหมายและไม่อาจอนุญาตได้ตามกฎหมาย
ว่าด้วยอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน ถ้าได้นำ
อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิดดังกล่าวมามอบให้นายทะเบียนท้องท่ีภายในกำหนด
เก้าสิบวันนบั แต่วันทีพ่ ระราชบัญญตั นิ ี้ใชบ้ ังคับ ผู้นน้ั ไม่ตอ้ งรับโทษ”

148

แนวทางในการจัดทำร่างกฎหมาย ๒บทท่ี
แนวทางบในทกทา่ี ๒รจกัดาทร�ำรร่า่างงพกรฎะหรามชาบยญั ญัติ

บทที่ ๒ การร่างพระราชบัญญัติ

(๑๔) การรองรับให้สงิ่ ทีต่ อ้ งเสยี ภาษตี ามกฎหมายฉบบั เดมิ ไว้แล้ว เม่ือกฎหมาย
ฉบบั ใหมใ่ ชบ้ งั คับ ให้ไดร้ ับยกเว้นการเสียภาษีตามกฎหมายฉบับใหม่

มาตรา .. ...(ส่ิงท่ีกฎหมายฉบับเดิมกำหนดว่าต้องเสียภาษี)...ตามกฎหมาย
ว่าด้วย...(ช่ือกฎหมายเดิม)...ไว้แล้วก่อนที่พระราชบัญญัติน้ีใช้บังคับ และยังไม่ถึงกำหนด
เสียภาษีครั้งต่อไป ให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีตามพระราชบัญญัติน้ีจนกว่าจะครบ
กำหนดเวลาท่ีไดเ้ สียภาษไี ว้

ตวั อย่าง
- พระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒
“มาตรา ๑๖๗ ฯลฯ ฯลฯ
รถที่ได้เสียภาษีตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ไว้แล้วก่อนท่ีพระราชบัญญัติน้ี
ใชบ้ งั คบั และยงั ไมถ่ งึ กำหนดเสยี ภาษคี รั้งถัดไป ให้ได้รบั ยกเวน้ ไม่ต้องเสยี ภาษตี ามพระราชบญั ญตั ินี้
จนกวา่ จะครบกำหนดเวลาทไี่ ด้เสียภาษีไว”้

(๑๕) การรองรับบุคคลท่ีได้เสียภาษีตามกฎหมายฉบับเดิมไว้เกิน ให้มีสิทธิ
ได้รับคืนภาษีสว่ นทชี่ ำระไว้เกินเมอื่ กฎหมายฉบับใหม่มผี ลใช้บงั คับ

มาตรา .. ในกรณีท่ีปรากฏว่าผู้มีหน้าท่ีเสีย...(ช่ือภาษี)...ผู้ใดชำระ
...(ชื่อภาษี)...ไปแล้วก่อนวันที่พระราชบัญญัติน้ีใช้บังคับ เกินจำนวนที่ตนต้องเสีย ให้ผู้นั้น
ยื่นหลักฐานการชำระภาษีดังกล่าวเพ่ือขอรับภาษีส่วนที่เกินคืน ต่อ ...(ช่ือตำแหน่ง
ของพนกั งานเจ้าหน้าที่ท่ีกฎหมายฉบับใหม่กำหนดให้มีหน้าที่ในการคืนภาษีส่วนที่เกิน)...

เมื่ อ ...(ผู้ มี อ ำ น า จ สั่ ง คื น ภ า ษี )... ได้ ต ร ว จ ส อ บ ห ลั ก ฐ า น ว่ า ผู้ มี ห น้ า ท่ี
เสีย...(ชื่อภาษี)...ชำระภาษีเกินจำนวนท่ีตนต้องเสียจริง ให้คืนภาษีส่วนท่ีเกินภายใน
...(จำนวนวัน)...นับแต่วนั ที่ผ้มู ีหนา้ ท่เี สยี ...(ช่ือภาษี)...ย่ืนคำขอรับภาษสี ่วนทเ่ี กินตามวรรคหน่งึ

ตัวอย่าง
- พระราชกำหนดเปลี่ยนแปลงราคาปานกลางของท่ีดินท่ีกำหนดไว้สำหรับ
การประเมินภาษบี ำรุงท้องที่ประจำปี พ.ศ. ๒๕๒๕ ถงึ พ.ศ. ๒๕๒๘
“มาตรา ๖ ในกรณีที่ปรากฏว่าผู้มีหน้าท่ีเสียภาษีบำรุงท้องที่ผู้ใดชำระภาษี
บำรุงท้องท่ีสำหรับปี พ.ศ. ๒๕๒๕ ไปแล้วก่อนวันท่ีพระราชกำหนดนี้ใช้บังคับ เกินจำนวนที่ตน
ต้องเสีย ให้ผู้นั้นย่ืนหลักฐานการชำระภาษีดังกล่าวเพ่ือขอรับภาษีส่วนท่ีเกินคืน ต่อเจ้าพนักงาน
ประเมนิ

149

แนวทางในการจดั ทำร่างกฎหมาย
บทท่ีแ๒นกวทารารงา่ใงนพกราะรรจาัดชทบ�ำัญร่าญงัตกิ ฎหมาย

บทท่ี ๒ การร่างพระราชบัญญัติ

เมื่อหัวหน้าเขต นายอำเภอ หรือนายกเทศมนตรี แล้วแต่กรณี
ได้ตรวจสอบหลักฐานว่าผู้มีหน้าที่เสียภาษีบำรุงท้องที่ชำระภาษีเกินจำนวนที่ตนต้องเสียจริง
ให้คืนภาษีส่วนท่ีเกินภายในหน่ึงร้อยยี่สิบวันนับแต่วันท่ีผู้มีหน้าที่เสียบำรุงท้องท่ียื่นคำขอรับ
๒บทท่ี ภาษสี ่วนที่เกนิ ตามวรรคหน่ึง”

(๑๖) การรองรับคำส่ังทางปกครองท่ีออกไว้ก่อนวันที่กฎหมายฉบับใหม่
มีผลใชบ้ งั คับให้ใชบ้ งั คับตอ่ ไปจนกวา่ จะได้มีการปฏบิ ัติตามคำส่ังทางปกครอง

มาตรา .. บรรดาคำสั่งของ...(ผู้มีอำนาจในการออกคำส่ังทางปกครอง)...
ที่ออกไว้ก่อนวันท่ีพระราชบัญญัติน้ีใช้บังคับ ให้คงมีผลใช้ต่อไปจนกว่าจะได้มีการปฏิบัติตาม
คำส่งั นนั้ แล้ว

ตวั อย่าง
- พระราชบญั ญตั กิ องทนุ สงเคราะหเ์ กษตรกร พ.ศ. ๒๕๑๗
“มาตรา ๒๕ บรรดาคำสั่งของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
หรือผู้ท่ีได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในส่วนท่ีเกี่ยวกับการอนุญาต
ส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งสินค้าใด ๆ ที่ผู้ส่งออกต้องเสียค่าธรรมเนียมการส่งออก
และในส่วนที่เก่ียวกับค่าธรรมเนียมการส่งออก ท่ีออกไว้ก่อนวันที่พระราชบัญญัติน้ีใช้บังคับ
ใหค้ งมีผลใช้ไดต้ ่อไปจนกว่าจะไดม้ กี ารปฏิบตั ติ ามคำส่ังนน้ั แลว้ ”
(๑๗) การรองรบั การแบ่งสว่ นราชการในวาระเริม่ แรก

มาตรา .. ในวาระเริ่มแรก ให้...(ช่ือส่วนราชการที่ตั้งข้ึนตามกฎหมาย
ฉบับใหม่)...มีส่วนงาน ดงั นี้

(๑) ...(ชือ่ ของสว่ นงานตามกฎหมายฉบบั ใหม)่ ...
(๒) ...(ชื่อของส่วนงานตามกฎหมายฉบบั ใหม)่ ...
(๓) ...(ชื่อของส่วนงานตามกฎหมายฉบับใหม่)...
(๔) ...(ช่ือของสว่ นงานตามกฎหมายฉบบั ใหม)่ ...

ตวั อย่าง
- พระราชบัญญตั มิ หาวทิ ยาลยั วลยั ลกั ษณ์ พ.ศ. ๒๕๓๕
“มาตรา ๕๖ ในวาระเรม่ิ แรก ให้มหาวทิ ยาลัยมสี ว่ นงาน ดงั น้ี

(๑) สำนกั งานอธิการบดี
(๒) สำนักวิชาเทคโนโลยีการเกษตร

150

๑๕๐

แนวทางในการจัดทำรา่ งกฎหมาย ๒บทท่ี
แนวทางบในทกทาี่ ร๒จกัดาทร�ำรรา่ ่างงพกรฎะหรามชาบยญั ญัติ

บทที่ ๒ การร่างพระราชบัญญัติ

(๓) สำนักวิชาเทคโนโลยที รพั ยากร
(๔) สำนักวิชาเทคโนโลยีอตุ สาหกรรม
(๕) สำนักวชิ าวิทยาการจดั การ
(๖) สำนกั วิชาวิทยาศาสตร์
(๗) สำนกั วชิ าวทิ ยาศาสตร์สุขภาพ
(๘) สำนักวชิ าศลิ ปศาสตร์
(๙) สำนักวิชาสารสนเทศศาสตร์
(๑๐) สถาบันวจิ ัยและพฒั นา
(๑๑) ศูนยค์ อมพิวเตอร์
(๑๒) ศนู ยเ์ ครือ่ งมอื วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
(๑๓) ศนู ย์บรรณสารและสือ่ การศึกษา
(๑๔) ศูนย์บรกิ ารการศกึ ษา
(๑๕) ศูนย์บริการวชิ าการ”

151

แนวทางในการจัดทำรา่ งกฎหมาย
บทท่ีแ๒นกวทารารงา่ใงนพกราะรรจาัดชทบ�ำญั ร่าญงตั กิ ฎหมาย

บทที่ ๒ การร่างพระราชบัญญัติ

ส่วนท่ี ๑๐
บัญชีทา้ ยพระราชบัญญตั ิ

๒บทที่
๑. ความม่งุ หมายของบญั ชที า้ ยพระราชบัญญัติ
บัญชีท้ายพระราชบัญญัติเป็นส่วนหนึ่งของกฎหมายที่ปรากฏในส่วนท้ายสุด
ของพระราชบัญญตั ิในหนา้ ถดั ไปต่อจากผรู้ บั สนองพระบรมราชโองการของรา่ งพระราชบญั ญัตนิ ้ัน
ความจำเป็นในการกำหนดบัญชีท้ายพระราชบัญญัติข้ึนอยู่กับเนื้อหาสาระของพระราชบัญญัติ
ฉบับนั้นเองว่า จำเป็นที่จะต้องมีบัญชีท้ายพระราชบัญญัติหรือไม่ ซึ่งจะพบได้ในกรณีเน้ือหา
ของกฎหมายที่บังคบั แก่การนั้นมสี าระค่อนข้างยาว เช่น อัตราเงนิ เดือนหรอื เงินประจำตำแหน่ง
อัตราภาษี อัตราค่าธรรมเนียม หรือลักษณะของความผิดหลายลักษณะ เน้ือหาดังกล่าว
มีความจำเป็นท่ีต้องแยกออกจากบทบัญญัติส่วนอ่ืน หากบัญญัติไว้ในแต่ละมาตราจะก่อให้เกิด
ความสับสนแก่ผูใ้ ช้กฎหมายได้
ความมุ่งหมายของบญั ชที ้ายพระราชบัญญัติ มี ๓ ประการ คือ
ประการท่ีหนึ่ง เพื่อกำหนดรายละเอียดสำคัญของกฎหมายที่มีเนื้อหาเรื่องเดียวกัน
ให้มคี วามกะทดั รัดและสามารถเขา้ ใจได้ง่าย
ประการที่สอง เพื่อแก้ไขเพิ่มเติมเนื้อหา เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป เช่น การแก้ไข
จำนวนตวั เลข โดยไม่ต้องเสนอแก้ไขเพิ่มเติมบทบญั ญัติใด
ประการท่สี าม เพือ่ ใหผ้ ู้ใช้กฎหมายสามารถทำความเข้าใจสาระของกฎหมายได้ดยี ่ิงขึ้น
นอกจากนี้ ในการเขียนบทบัญญัติเพื่อจัดเก็บค่าธรรมเนียมนั้น สมควรเขียนไว้
ในพระราชบัญญัติ โดยให้รัฐมนตรีมีอำนาจกำหนดค่าธรรมเนียมในกฎกระทรวงได้
แต่จะต้องกำหนดไม่เกินกว่าอัตราขั้นสูงตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติซึ่งวิธีการนี้มีข้อดี
คือ เป็นหลักประกันว่าค่าธรรมเนียมท่ีรัฐมนตรีจะกำหนดน้ันต้องมีอัตราพอสมควร
ส่วนข้อเสียของวิธีการนี้ คือ หากรัฐมนตรีใช้อำนาจออกกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียม
ข้ันสูงสุดตามที่พระราชบัญญัติกำหนดไว้แล้วก็อาจมีผลทำให้เป้าหมายของวิธีการนี้
คลาดเคล่ือนหรือเสียความเป็นธรรมได้ (เรื่องเสร็จที่ ๖๘/๒๔๗๙) นอกจากน้ัน
คณะกรรมการกฤษฎีกา (กรรมการร่างกฎหมาย คณะที่ ๔) ได้เคยมีความเห็นเป็นแนวทางไว้ว่า
การท่ีกฎหมายบัญญัติให้ต้องมีบัญชีท้ายพระราชบัญญัตินั้นก็เพื่อกำหนดว่าในกฎหมายนั้น ๆ
จะมีการเกบ็ คา่ ธรรมเนียมใดบา้ ง (เรอ่ื งเสร็จที่ ๓๘๗/๒๕๒๘)

๒. แนวทางการเขียนบัญชที า้ ยพระราชบญั ญตั ิ
บัญชีท้ายพระราชบัญญัติมิใช่สิ่งจำเป็นต้องมีในกฎหมายทุกฉบับ แต่ข้ึนอยู่กับ

ความจำเป็นของเนื้อหาสาระในพระราชบัญญัติน้ัน ๆ ซึ่งหากจะกำหนดให้มีบัญชีท้าย
พระราชบญั ญัติก็ตอ้ งคำนึงถึงแนวทางการเขียนบัญชีท้ายพระราชบัญญตั ิ ดงั ตอ่ ไปน้ี

152

๑๕๒

แนวทางในการจัดทำรา่ งกฎหมาย
แนวทางบในทกทา่ี ร๒จกัดาทร�ำรร่า่างงพกรฎะหรามชาบยญั ญัติ

บทท่ี ๒ การร่างพระราชบัญญัติ

(๑) ผู้ร่างกฎหมายจะต้องทราบว่าบทบัญญัติในร่างพระราชบัญญัติจำเป็นต้อง ๒บทที่
กำหนดเรื่องใดบ้าง หากเป็นรายละเอียดที่สำคัญท่ีมีเน้ือหาค่อนข้างมากแต่จำเป็นต้องเขียน
ไว้ในกฎหมายระดับพระราชบัญญัติแล้ว การนำมากำหนดโดยเขียนเป็นบัญชีท้าย
พระราชบัญญัติและตารางท้ายพระราชบัญญัตินั้น ต้องไม่ทำให้บทบัญญัติของกฎหมายน้ัน
เกดิ ปัญหาในการใช้บังคับหรือการทำความเข้าใจในสาระของกฎหมาย

(๒) การใช้ถอ้ ยคำในบัญชีท้ายพระราชบัญญัติและตารางท้ายพระราชบัญญัติจะต้อง
ใช้ความระมัดระวังและสอดคล้องกับความในบทบัญญัติแต่ละมาตราของพระราชบัญญัติ
ทเี่ กยี่ วข้อง

การใช้ถ้อยคำในหัวข้อของบัญชีท้ายพระราชบัญญัติและตารางท้ายพระราชบัญญัตินั้น
จะต้องคำนึงถึงถ้อยคำท่ีใช้ในพระราชบัญญัติเป็นหลัก เช่น ในพระราชบัญญัติใช้ถ้อยคำว่า
“กำหนดค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายไม่เกินอัตราท้ายพระราชบัญญัติน้ี” ในการใช้ถ้อยคำ
ในหัวข้อของบัญชีท้ายพระราชบัญญัติจะใช้ถ้อยคำว่า “อัตราค่าธรรมเนียม...(ช่ือเรื่อง)...”
หรือใช้คำว่า “ค่าใชจ้ ่าย...(ชื่อเรื่อง)...”

การกำหนดช่ือบัญชีท้ายพระราชบัญญัติไม่ควรนำชื่อพระราชบัญญัติมากำหนด
ต่อท้ายชอ่ื บญั ชี เนื่องจากอาจเกิดปญั หาในกรณีทมี่ ีการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติฉบับนั้น
เว้นแต่กรณีท่ีไม่มีการแก้ไขเพ่ิมเติมพระราชบัญญัติก็อาจใช้ช่ือพระราชบัญญัติต่อท้ายได้
เช่น พระราชบญั ญัตเิ วนคืนอสังหารมิ ทรัพย์

นอกจากน้ัน กรณีที่กฎหมายแม่บทใช้ถ้อยคำว่า “...บัญชที ้ายพระราชบญั ญัติ...”
ไม่ว่าเร่ืองใด ๆ ที่จะกำหนดไว้ในตอนท้ายพระราชบัญญัติจะมีการตีตารางเป็นช่องๆ ไว้
เน่อื งจากมีรายละเอียดของบญั ชจี ำนวนมาก แตห่ ากใช้ถ้อยคำว่า “...อัตราทา้ ยพระราชบัญญัต.ิ ..”
จะไม่มีการตีตารางในตอนท้ายพระราชบัญญัติแต่อย่างใด (เร่ืองเสร็จท่ี ๔๔๙-๔๕๔/๒๕๒๔)
ดังน้ัน เพ่ือให้รูปแบบการเขียนเป็นไปในแนวทางอย่างเดียวกัน ในกรณีที่กฎหมายแม่บท
ใช้ถ้อยคำว่า “...บัญชีท้ายพระราชบัญญัติ...” ก็สมควรใช้ถ้อยคำในมาตรารักษาการว่า
“...บัญชีท้ายพระราชบัญญัตินี้...” โดยในบัญชีท้ายจะใช้วิธีการตีตารางเป็นช่องและแถว
เพื่อแยกประเภทได้ชัดเจน

(๓) การกำหนดหัวข้อในบัญชีท้ายพระราชบัญญัติ ย่อมข้ึนอยู่กับบทบัญญัติ
ในส่วนที่เป็นเนื้อหาสาระ เช่น บทบัญญัติเนื้อหาสาระได้กำหนดให้มีการออกใบอนุญาต
หลายประเภท ในการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมสำหรับใบอนุญาตแต่ละประเภท
ท่ีจะกำหนดเป็นหัวข้อในบัญชีท้ายพระราชบัญญัติจะต้องมีจำนวนเท่ากับจำนวนใบอนุญ าต
ตามทปี่ รากฏในพระราชบัญญัตนิ ัน้ ด้วย

(๔) จำนวนหัวข้อในบัญชีท้ายพระราชบัญญัติ สมควรใช้วิธีการตีตารางกำหนด
จำนวนช่องและแถวตามจำนวนหัวข้อ และให้ใช้ตัวเลขแทนลำดับที่ของหัวข้อ เช่น
มีหัวข้อจำนวนส่ีเร่ืองในการกำหนดจำนวนหัวข้อในตารางของบัญชีท้ายพระราชบัญญัติ
ใหใ้ ช้ตัวเลขเรียงตามลำดับลงไปจนครบสี่เรือ่ ง โดยระบุตัวเลขไว้ในช่องลำดับท่ี

153

แนวทางในการจัดทำร่างกฎหมาย
บทท่ี แ๒นกวาทรารงา่ ใงนพกราะรรจาัดชทบ�ำญั รญ่างัตกิ ฎหมาย

บทที่ ๒ การร่างพระราชบัญญัติ

ในกรณีท่ีจำเป็นต้องแบ่งย่อยในแต่ละหัวข้ออีกก็สามารถกระทำได้ โดยควรใช้
ตวั เลขตามด้วยจุดและตวั เลขต่อไปมากกวา่ ที่จะกำหนดตามพยัญชนะ
(๕) ในกรณีท่ีบทบัญญัติในพระราชบัญญัติได้จัดแบ่งบัญชีท้ายพระราชบัญญัติ
๒บทท่ี ออกเป็นหลายบัญชี สมควรกำหนดจำนวนบัญชีแยกจากกัน และเรียงลำดับตามลำดับ
ความสำคัญของเรื่องให้สอดคล้องกับบทบัญญัติในพระราชบัญญัติด้วย เช่น พระราชบัญญัติ
ได้แบ่งบัญชีท้ายออกเป็นสามบัญชีก็อาจใช้ถ้อยคำว่า “บัญชี ก” “บัญชี ข” และ “บัญชี ค”
เพื่อให้สอดคล้องกับเนื้อหาของบทบัญญัติในกฎหมายแม่บท เช่น พระราชบัญญัติ
การประกอบธรุ กิจของคนตา่ งด้าวฯ
(๖) การเขียนบทบญั ญัติเพ่ือจดั เก็บคา่ ธรรมเนียมตา่ ง ๆ เพ่ือกำหนดวา่ ในกฎหมายน้ัน ๆ
จะมีการเก็บค่าธรรมเนยี มใดบ้าง สมควรเขียนไว้ในบัญชที ้ายพระราชบัญญัติ โดยควรจะต้อง
กำหนดในพระราชบัญญัติด้วยว่า ให้การใดต้องเสียค่าธรรมเนียมตามท่ีกำหนด นอกจากนี้
หากเป็นกรณีที่กำหนดเพดานอัตราค่าธรรมเนียมในบัญชีท้ายพระราชบัญญัติแล้ว ก็อาจจะ
ต้องพิจารณาด้วยว่า ให้รัฐมนตรีมีอำนาจกำหนดค่าธรรมเนียมในกฎกระทรวงได้ แต่ต้องกำหนด
ไม่เกินกว่าอัตราข้ันสูงตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติ (ส่วนใหญ่จะกำหนดไว้ในมาตรา
รักษาการ) เพื่อเป็นหลักประกันว่า ค่าธรรมเนียมท่ีรัฐมนตรีจะกำหนดนั้นต้องมีอัตรา
พอสมควรและเก็บไดไ้ ม่เกินอัตราที่กำหนดท้ายพระราชบัญญัติ
(๗) การยกเลิกอัตราค่าธรรมเนียมท้ายพระราชบัญญัติ และให้อำนาจรัฐมนตรี
กำหนดใหม่ในกฎกระทรวง ไม่จำเป็นต้องมีบทเฉพาะกาลรองรับใบอนุญาตที่ได้ออกไปแล้ว
เนื่องจากการเรียกเก็บค่าธรรมเนยี มเป็นเพียงค่าบริการหรอื ภาษีในการออกใบอนญุ าตเท่านั้น
จึงมิใช่องค์ประกอบหรือหลักเกณฑ์ในการพิจารณาออกใบอนุญาต ฉะน้ัน การแก้ไข
เปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกค่าธรรมเนียมย่อมไม่ส่งผลกระทบให้ใบอนุญาตที่ออกไว้แล้ว
เสียไปแต่อย่างใด นอกจากใบอนุญาตนั้นจะสิ้นอายุหรือถูกเพิกถอนโดยเจ้าหน้าที่ผู้อนุญาต
(เรอ่ื งเสรจ็ ท่ี ๘๖-๘๘/๒๕๒๕)
(๘) พระราชบั ญญั ติบางฉบั บสามารถกำหนดให้ นำอัตราตามที่ กำหนดใน
พระราชบัญญัติอื่นมาใช้ได้ เพื่อลดความซ้ำซ้อนในการร่างบทบัญญัติในลักษณะเดียวกัน
ในพระราชบัญญัติต่างฉบับกัน แต่มีหลักการเดียวกัน หรือเพื่อความสะดวกในการจัดเก็บ
รายได้ของรัฐ โดยไม่ต้องนำบทบัญญัติในพระราชบัญญัติอ่ืนมากำหนดในพระราชบัญญัติ
ทีใ่ หอ้ ำนาจรฐั ในการจดั เกบ็ รายได้ (เรื่องเสรจ็ ที่ ๓๗๖/๒๕๔๗)
(๙) กรณีท่ีไม่อาจดำเนินการกำหนดบัญชีท้ายพระราชบัญญัติโดยใช้รูปแบบ
มาตรฐานได้ ผู้ร่างกฎหมายจะต้องพิจารณาว่าควรจะกำหนดอย่างไรเพ่ือให้เกิดความเหมาะสม
และสอดคลอ้ งกบั เนื้อหาของรา่ งพระราชบัญญตั ิ

154

แนวทางในการจัดทำรา่ งกฎหมาย ๒บทท่ี
แนวทางบในทกทาี่ ๒รจกัดาทร�ำรร่า่างงพกรฎะหรามชาบยญั ญัติ

บทที่ ๒ การร่างพระราชบัญญัติ

๓. รูปแบบการเขียนบญั ชีทา้ ยพระราชบัญญัติ
(๑) กำหนดอตั ราค่าธรรมเนยี มทา้ ยพระราชบญั ญตั ิ

อตั ราคา่ ธรรมเนยี ม

๑. ...(ชือ่ คา่ ธรรมเนียม)... ฉบับละ .. บาท
๒. ...(ชอื่ คา่ ธรรมเนยี ม)... ฉบับละ .. บาท
๓. ...(ช่ือค่าธรรมเนยี ม)... ฉบับละ .. บาท
๔. การตอ่ อาย.ุ ................. ครง้ั ละเท่ากบั ค่าธรรมเนียม
.........................

ตวั อยา่ ง
พระราชบญั ญตั ิส่งเสริมและรักษาคุณภาพส่ิงแวดล้อมแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕

“อัตราคา่ ธรรมเนยี ม

๑. คำขอรับใบอนญุ าตเปน็ ผมู้ ีสทิ ธิ (ยกเลิก)
ทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดลอ้ ม ปีละ ๕,๐๐๐ บาท
ฉบบั ละ ๔๐ บาท
๒. ใบอนุญาตเปน็ ผูจ้ ัดทำรายงาน ปลี ะ ๔,๐๐๐ บาท
การประเมนิ ผลกระทบสิ่งแวดลอ้ ม ฉบับละ ๔๐ บาท
ปลี ะ ๔,๐๐๐ บาท
๓. คำขอรับใบอนญุ าตเป็นผคู้ วบคมุ คร้ังละเทา่ กบั คา่ ธรรมเนียม
๔. ใบอนุญาตเป็นผ้คู วบคุม ใบอนุญาต”
๕. คำขอรับใบอนญุ าตเป็นผรู้ ับจา้ งให้บรกิ าร
๖. ใบอนุญาตเปน็ ผรู้ บั จ้างใหบ้ รกิ าร
๗. การตอ่ อายใุ บอนญุ าต

155

แนวทางในการจัดทำรา่ งกฎหมาย
บทท่ี แ๒นกวาทรารงา่ ใงนพกราะรรจาัดชทบ�ำัญรญ่างัตกิ ฎหมาย

บทท่ี ๒ การร่างพระราชบัญญัติ

(๒) กำหนดตารางบัญชีทา้ ยพระราชบัญญัติทไี่ มม่ กี ารแบ่งขอ้ ยอ่ ย

๒บทที่ บัญช.ี .....(ช่ือเรื่อง)......

ลำดับท่ี รายการ (เรือ่ งทพ่ี ระราชบญั ญัติตอ้ งการกำหนด)
๑ ...(ช่ือของรายการ)... ...
๒ ...(ช่ือของรายการ)... ...
๓ ...(ชอ่ื ของรายการ)... ...
๔ ...(ชื่อของรายการ)... ...
๕ ...(ช่ือของรายการ)... ...

ตัวอยา่ ง
พระราชบัญญตั จิ ดทะเบียนเครือ่ งจกั ร พ.ศ. ๒๕๑๔

“บัญชอี ตั ราค่าธรรมเนยี ม

เลขลำดบั รายการ อตั ราคา่ ธรรมเนียมไม่เกิน
๑,๐๐๐ บาท หรือถ้าจดทะเบียน
๑. คา่ จดทะเบียนกรรมสิทธิเ์ ครือ่ งจกั ร หลายเครื่องในโรงงานหรือสถานที่
เคร่ืองละ เดียวและคราวเดียวกนั ไมเ่ กนิ
๒๐,๐๐๐ บาท
๒. คา่ จดทะเบียนโอนกรรมสทิ ธ์ิ ๕๐๐ บาท หรอื ถา้ จดทะเบียน
เครอื่ งจักร เครอ่ื งละ หลายเคร่ืองในโรงงานหรือสถานท่ี
เดยี วและคราวเดียวกัน
๓. คา่ ออกใบแทนหนังสอื สำคัญแสดง ไมเ่ กนิ ๑๐,๐๐๐ บาท
การจดทะเบียนเคร่ืองจกั ร ฉบับละ ๑๐๐ บาท”

156

แนวทางในการจดั ทำรา่ งกฎหมาย
แนวทางบในทกทา่ี ร๒จกัดาทร�ำรรา่ ่างงพกรฎะหรามชาบยัญญัติ

บทท่ี ๒ การร่างพระราชบัญญัติ

(๓) กำหนดตารางบัญชที ้ายพระราชบัญญตั ิทีม่ ีการแบ่งขอ้ ยอ่ ย

บัญช.ี .....(ช่ือเร่ือง)...... ๒บทท่ี

ลำดับที่ รายการ (เรื่องทพี่ ระราชบัญญัติต้องการ
๑ ๑.๑ ...(ชื่อของรายการ)... กำหนด)
๑.๒ ...(ชื่อของรายการ)... ...
๑.๓ ...(ชือ่ ของรายการ)... ...
๑.๓.๑ ...(ช่อื เรอ่ื ง)... ...
๑.๓.๒ ...(ช่ือเร่ือง)... ...
๑.๓.๒.๑ ...(ชื่อเร่อื ง)... ...
๑.๓.๒.๒ ...(ชื่อเร่ือง)... ...
๒ ...(ช่ือของรายการ)... ...
๓ ...(ชื่อของรายการ)...

157

แนวทางในการจัดทำร่างกฎหมาย
บทท่ี แ๒นวกทารารง่าในงพกราะรรจาัดชทบ�ำัญร่าญงัตกิ ฎหมาย

บทท่ี ๒ การร่างพระราชบัญญัติ

สว่ นที่ ๑๑
หมวดหมู่กฎหมาย

๒บทท่ี
๑. ความมงุ่ หมายของหมวดหมกู่ ฎหมาย
ใน ก า ร ร่ า ง ก ฎ ห ม า ย แ ต่ ล ะ ฉ บั บ จ ะ ต้ อ ง มี ก า ร ว า ง โ ค ร ง ส ร้ า ง ข อ ง ร่ า ง ก ฎ ห ม า ย
ว่าเน้ือหาสาระของร่างกฎหมายประกอบด้วยเรื่องใดบ้าง ร่างกฎหมายท่ีมีเนื้อหาสาระ
ค่อนข้างยาวและมีหลายเรื่องนั้น ผู้ร่างกฎหมายต้องเขียนและจัดเรียงเน้ือหาสาระของกฎหมาย
ให้ เป็ น ไป ตามล ำดั บ ต่อเนื่ องกันไป แล ะสอดคล้ องกัน ตามล ำดั บ ของเร่ืองอย่างเป็ น ระบ บ
โดยต้องคำนึงด้วยว่าเหตกุ ารณ์ใดเปน็ เรื่องท่ีสมควรเกิดขึ้นก่อนและเหตกุ ารณ์ใดเป็นเร่อื งทส่ี มควร
เกิดข้ึนภายหลงั เพื่อใหก้ ฎหมายน้ันอ่านแล้วไม่สบั สนหรอื วกวน เพราะหากไม่มกี ารจัดลำดับ
เรื่องให้ต่อเน่ืองและสอดคล้องกันตามลำดับอย่างเป็นเหตุเป็นผล ย่อมทำให้ผู้ใช้กฎหมาย
เกิดความสับสนและไม่เข้าใจ และยังทำให้ไม่มีประสิทธิภาพในการใช้บังคับกฎหมาย
การท่ีไม่มีการแบ่งแยกและจัดเรียงเนื้อหาสาระตามลำดับความสำคัญ ยิ่งทำให้ผู้ใช้กฎหมาย
ตอ้ งเสียเวลาในการอ่านและค้นหาเรื่องทต่ี ้องการทราบยากลำบากยิ่งขน้ึ เชน่ แยกบทบญั ญัติ
เร่ืององค์กรไว้กลุ่มหน่ึง และบทบัญญัติเกี่ยวกับการบริหารไว้อีกกลุ่มหน่ึงซ่ึงเป็นบทบัญญัติ
ท่ีต้องอยู่ภายหลังบทบัญญัติเกี่ยวกับองค์กร เพราะจะต้องมีการจัดต้ังองค์กรเสียก่อน
จึงจะเป็นบทบัญญัติรูปแบบการบริหารงานได้ ดังนั้น เพื่อแก้ไขปัญหาท่ีเกิดขึ้นดังกล่าว
จึงมกี ารนำวธิ ีการแบง่ หมวดหมกู่ ฎหมายมาใช้กับการเขียนกฎหมาย
การแบ่งหมวดหมู่กฎหมายเป็นเทคนิคการร่างกฎหมายที่นำมาใช้เพ่ือแบ่งแยก
และจัดเรียงเน้ือหาสาระตามลำดับความสำคัญของเรื่องออกเป็นกลุ่ม ๆ โดยมคี วามมุ่งหมาย
เพื่อให้ผู้ใช้กฎหมายและผู้อยู่ใต้บังคับกฎหมายมีความรู้ความเข้าใจในเน้ือหาสาระของ
กฎหมายเป็นอย่างดี ตลอดจนยังทำให้การอ่านและค้นหาเรื่องที่ต้องการทราบเป็นไปได้
อย่างรวดเร็ว
๒. แนวทางการเขียนหมวดหมกู่ ฎหมาย
การที่ผู้ร่างกฎหมายจะแบ่งหมวดหมู่ในกฎหมาย รวมตลอดถึงการแบ่งเน้ือหา
เป็นบทบัญญัติมาตราในกฎหมายอย่างเป็นระบบได้นั้น ผู้ร่างกฎหมายจำเป็นต้องทราบ
และเข้าใจถึงเนื้อหาสาระของกฎหมายน้ันทั้งฉบับเสียก่อน เพราะการแบ่งแยกและจัดเรียง
เน้ือหาสาระไม่อาจแบ่งแยกหรือจัดเรียงเน้ือหาสาระตามอำเภอใจ แต่ต้องพิจารณาแบ่งแยก
และจดั เรียงเน้อื หาสาระใหเ้ ป็นไปตามลำดับความสำคญั ของเร่ืองท่ีกฎหมายบญั ญัตดิ ว้ ย
ในการแบ่งหมวดหมู่กฎหมายซึ่งรวมถึงการจัดเรียงมาตราด้วยน้ัน ผู้ร่างกฎหมาย
มีหลักเกณฑ์ที่ควรพิจารณา ดงั ตอ่ ไปนี้

158

แนวทางในการจดั ทำรา่ งกฎหมาย ๒บทท่ี
แนวทางบในทกทาี่ ร๒จกัดาทร�ำรรา่ ่างงพกรฎะหรามชาบยัญญัติ

บทที่ ๒ การร่างพระราชบัญญัติ

(๑) ต้องพิจารณาโครงสร้างของร่างกฎหมายฉบับน้ันก่อนว่าเป็นอย่างไร มีเน้ือหา
ท่ีจะกำหนดมากน้อยเพียงใด ท้ังน้ี ผู้ร่างกฎหมายพึงระลึกว่า การแบ่งหมวดหมู่กฎหมาย
มีวัตถุประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้กฎหมายและผู้อยู่ใต้บังคับกฎหมายให้สามารถ
ทำความเข้าใจในเนื้อหาสาระของกฎหมาย ตลอดจนยังทำให้การอ่านและค้นหาเร่ืองที่ต้องการ
ทราบเป็นไปได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งข้ึน ดังน้ัน หากเน้ือหาสาระหรือจำนวนมาตรา
ของกฎหมายน้ันมีจำนวนน้อย ก็อาจไม่มีความจำเป็นต้องแบ่งหมวดหมู่ของกฎหมาย

(๒) ในกรณีท่ีโครงสร้างของกฎหมายฉบับน้ันไม่ยาวมากเกินไป แต่มีเนื้อหาสาระ
ที่ต้องกำหนดหลายเรื่อง อาจแบ่งกฎหมายออกเป็น “หมวด” “ส่วนที่” และ “มาตรา”
(เรื่องเสร็จที่ ๗๐๑/๒๕๔๑) ตามลำดับ โดยให้ยึดถือรูปแบบการแบ่งหมวดหมู่ดังกล่าว
เป็นแนวทางหลักของการแบ่งหมวดหมู่ของกฎหมาย อย่างไรก็ดี หากกฎหมายฉบับนั้น
มีโครงสรา้ งและเน้อื หาไมซ่ ับซอ้ น อาจแบง่ ออกเปน็ เพยี ง “หมวด” และ “มาตรา” ก็ได้

อย่างไรก็ตาม หากกฎหมายฉบับนั้นมีโครงสร้างยาวมากหรือผู้ร่างกฎหมาย
ประสงค์ที่จะจัดทำเป็นประมวลกฎหมายและการแบ่งโครงสร้างหมวดหมู่โดยการแบ่งเป็น
“หมวด” “ส่วนท่ี” และ “มาตรา” ยังไม่เพียงพอต่อการแบ่งแยกเนื้อหาของกฎหมาย
ก็อาจแบ่งโครงสร้างหมวดหมู่ที่แตกต่างไปจากแนวทางหลักท่ีมีการแบ่งเนื้อหาของกฎหมาย
เป็น “หมวด” “ส่วนที่” และ “มาตรา” โดยใช้วิธีเพิ่มหมวดหมู่ของกฎหมายท่ีใหญ่ข้ึนโดยเพ่ิม
เป็น “ลักษณะ” ซ่ึงเป็นหลักการเดียวกับประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ประมวลกฎหมาย
อาญา ประมวลกฎหมายวธิ ีพจิ ารณาความแพ่ง และประมวลกฎหมายวิธีพจิ ารณาความอาญา

(๓) กฎหมายฉบับแก้ไขเพิ่มเติมจะไม่มีการแบ่งหมวดหมู่ของกฎหมาย และแม้ว่า
กฎหมายฉบับแก้ไขเพิ่มเติมจะมีเนื้อหาของบทเฉพาะกาลไว้ด้วย ก็จะไม่มีการกำหนดหมวด
“บทเฉพาะกาล” ไว้แต่อย่างใด โดยเขียนเป็นมาตราบทเฉพาะกาลเพิ่มเติมในร่างพระราชบัญญัติ
แก้ไขเพิ่มเติมนั้นเอง เน่ืองจากเป็นบทเฉพาะกาลของร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม
แต่หากตอ้ งการให้มีการเพิ่มหมวดหมู่ขึน้ ใหม่หรือยกเลิกหมวดหมู่ใดในกฎหมายเดิม สามารถ
กำหนดได้ตามแนวทางของการแก้ไขเพม่ิ เตมิ กฎหมาย

(๔) วิธีการแบ่งแยกและจัดเรียงลำดับเนื้อหาสาระของกฎหมายนั้น ควรแบ่งแยก
และจัดเรียงบทบัญญัติในเร่ืองเดียวกันไว้ในหมวดเดียวกัน และใช้ช่ือของหมวดให้ครอบคลุม
เนื้อหาทั้งหมด และควรกำหนดช่ือหมวดหมู่ด้วยช่ือเต็ม หลีกเล่ียงการใช้คำย่อหรืออักษรย่อ
เช่น ควรหลีกเล่ียงการกำหนดช่ือหมวดเพียงคำว่า “คณะกรรมการ” แต่กำหนดด้วยช่ือเต็ม
ว่า “คณะกรรมการการเลือกต้ัง” เป็นต้น เว้นแต่ในกรณีท่ีหมวด “คณะกรรมการ” น้ัน มีเน้ือหา
ครอบคลุมถึงคณะกรรมการหลายคณะ เช่น คณะกรรมระดับชาติและคณะกรรมการระดับ
จังหวัด ท้ังนี้ เพ่ือให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการแบ่งหมวดหมู่ท่ีต้องการให้ผู้ใช้หรือศึกษา
กฎหมายสามารถเข้าใจโครงสร้างหรือเนื้อหาของกฎหมายได้โดยง่าย ไม่จำต้องค้นหา
รายละเอียดหรือคำขยายความเพ่มิ เติมอีก

159

แนวทางในการจดั ทำร่างกฎหมาย
บทที่ แ๒นกวาทรารงา่ ใงนพกราะรรจาัดชทบ�ำัญรญ่างัตกิ ฎหมาย

บทท่ี ๒ การร่างพระราชบัญญัติ

อนึ่ง ในบางกรณีบทบัญญัติน้ันอาจไม่ได้มีเน้ือหาโดยตรงของหมวดที่จัดแบ่งไว้
ผู้ร่างกฎหมายต้องพิจารณาว่าบทบัญญัติน้ันมีเนื้อหาใกล้เคียงกับหมวดใดแล้วนำบทบัญญัติ
ดังกล่าวไปจัดเข้าไว้ในหมวดน้ัน หรือมิฉะนั้นก็อาจจัดเข้าไว้ใน “หมวดทั่วไป” ในกรณี
๒บทที่ ที่เป็นเรื่องที่มีเน้ือหาเป็นการใช้บังคับท่ัวไป แต่อย่างไรก็ดี ถ้าบทบัญญัติน้ันมีข้อความ
ซ่ึงไม่อาจจัดเข้าไว้ใน ห มวดใดที่ มีเนื้ อห าใกล้ เคียงห รือในห มวดท่ั วไป ได้แ ละ บท บั ญ ญั ติ
กลุม่ ดังกล่าวมีจำนวนมาตรามากแล้ว กอ็ าจต้องพิจารณาจดั ไวเ้ ป็นอกี หมวดหน่ึงแยกต่างหาก
ซึ่งเรียกว่า “หมวดเบ็ดเตล็ด” โดยตำแหน่งของหมวดเบ็ดเตล็ดนี้จัดไว้ก่อนหมวด
“บทกำหนดโทษ” แต่ปัจจบุ ันมกั ไมค่ ่อยนิยมให้มีหมวดเบด็ เตล็ดแล้ว
(๕) การเรยี งลำดบั หมวดหมูก่ ฎหมาย มีหลักเกณฑ์ทัว่ ไป ดังต่อไปน้ี
(ก) บทบัญญัติท่ัวไปต้องอยู่ในลำดับก่อนบทบัญญัติเฉพาะเรื่อง เน่ืองจาก
บทบญั ญัติท่ัวไปนั้นเป็นบทบัญญัติทนี่ ำไปใช้บังคับกับเนื้อหาสาระในส่วนอื่น ๆ ของกฎหมาย
ฉบับน้ันท้ังฉบับ ส่วนบทบัญญัติเฉพาะเร่ืองจะเป็นบทบัญญัติที่ใช้บังคับกับกรณีใดกรณีหนึ่ง
เท่าน้ัน ซ่ึงในการแบ่งนั้นมักกำหนดให้มี “หมวด ๑ ...” โดยจะกำหนดไว้ถัดจากมาตรารักษาการ
ส่วนบทบัญ ญั ติเฉพาะเรื่องจัดเรียงไว้ในหมวดอ่ืนในลำดับถัดจากหมวดท่ัวไปตามลำ ดับ
ความสำคัญของแต่ละเรื่องด้วย โดยให้เรียงตามความสำคัญมากหรือจากเร่ืองท่ีเป็นหลักการใหญ่
ของพระราชบญั ญตั ินั้นไปหาเรือ่ งทีม่ คี วามสำคัญน้อยกว่าหรอื เป็นรายละเอียดปลีกย่อย
(ข) หมวดบทบัญญัติท่ีใช้บังคับเป็นการทั่วไปย่อมมาก่อนหมวดบทเฉพาะกาล
เนือ่ งจากบทบัญญัติดังกล่าวจะมีผลใช้บังคับตลอดไปจนกว่าพระราชบัญญัติฉบับนั้นจะถกู ยกเลิก
หรือแกไ้ ขเพมิ่ เติม ในขณะที่บทเฉพาะกาลน้ันมีผลใชบ้ ังคับเพียงช่วงระยะเวลาใดระยะเวลาหน่ึง
เท่าน้ันหรือเพื่อรองรับเร่ืองอย่างใดเร่ืองหน่ึงเท่านั้น เช่น รับรองสิทธิของผู้ที่เคยมีสิทธิ
อยู่แล้วให้ยังคงมีสิทธิต่อไป รับรองสถานะเดิมของผู้ท่ีเคยอยู่ภายใต้บังคับของกฎหมายเดิม
ท่ีถูกยกเลิกไปแล้ว หรือเพ่ือให้ฝ่ายบริหารได้มีเวลาในการเตรียมตัวเพื่อออกกฎหมายลำดับรอง
ต่อไปได้ เช่น ให้นำกฎหมายลำดับรองตามกฎหมายเดิมท่ีถูกยกเลิกมาใช้บังคับได้
ไปพลางก่อนจนกว่าจะได้มีการออกกฎหมายลำดบั รองตามกฎหมายฉบับใหม่
การเขียนชื่อบทเฉพาะกาล มีการกำหนดรูปแบบเป็นการเฉพาะ โดยจะไม่ระบุ
เลขหมวดดังเช่นหมวดอ่ืน ๆ แต่จะใช้รูปแบบว่า “บทเฉพาะกาล” (ไม่มีเลขหมวด) ทั้งน้ี
เพ่ือให้เกิดความชัดเจนว่าบทบัญญัติในหมวดบทเฉพาะกาลมีความมุ่งหมายเพื่อให้มีผลใช้บังคับ
เพียงช่วงระยะเวลาหนงึ่ เท่านน้ั มไิ ด้มีผลใชบ้ ังคบั ตลอดไปดังเช่นบทบัญญตั ิในหมวดอื่น ๆ
(๖) การจัดเรียงบทบัญญัติในแต่ละ “หมวด” หรือ “ส่วนท่ี” นั้นจะต้องจัดเรียงเนื้อหา
ในเร่ืองเดียวกันหรือที่มีความสมั พันธ์กันไว้ด้วยกนั โดยให้คำนงึ ถึงลำดับข้ันตอนในการดำเนินการ
ในเร่ืองนั้นดว้ ย เพ่อื ใหเ้ น้อื หาของเร่ืองเป็นไปตามเจตนารมณ์ของพระราชบญั ญัติฉบบั น้ัน

160

แนวทางในการจัดทำรา่ งกฎหมาย ๒บทที่
แนวทางบในทกทา่ี ร๒จัดกาทร�ำรรา่ ่างงพกรฎะหรมาชาบยญั ญัติ

บทที่ ๒ การร่างพระราชบัญญัติ

ในกรณีท่ีจำเป็นต้องแบ่งย่อยเน้ือหาในบทบัญญัติมาตราออกเป็นอนุมาตรา
ก็ต้องจัดเรียงลำดับตามความสำคัญของเรื่องเช่นเดียวกัน หากต่อมามีการแก้ไขเพิ่มเติม
เพียงอนุมาตราใดก็จะต้องพิจารณาเนื้อหาสาระของกฎหมายฉบับนั้นทั้งฉบับด้วยว่า
มีบทบัญญัติมาตราใดบ้างที่กล่าวอ้างถึงอนุมาตราเดิมที่ถูกแก้ไขเพ่ิมเติมนั้นมีความจำเป็น
ต้องแก้ไขเพิ่มเติมไปพร้อมกันด้วยหรือไม่ และหากในการแก้ไขเพิ่มเติมอนุมาตราน้ันแล้ว
มีการจัดเรียงลำดับอนุบัญญัตินั้นใหม่ ก็อาจมีผลกระทบถึงบทบัญญัติมาตราอ่ืนท่ีอ้างถึง
อนมุ าตราที่ถูกแก้ไขเพ่ิมเติมนนั้ ด้วย (เรื่องเสร็จที่ ๘๘๓/๒๕๔๒)

(๗) หากเน้ือหาสาระของกฎหมายฉบับน้ันมีลักษณะเหมือนหรือใกล้เคียง
กับกฎหมายฉบับอ่ืน สมควรนำรูปแบบการแบ่งหมวดหมู่และมาตราในกฎหมายฉบับอื่น
มาศึกษาเปรียบเทียบด้วย เพ่ือมิให้การแบ่งหมวดหมู่และมาตราในกฎหมายที่มีลักษณะ
เหมือนหรือใกล้เคยี งกนั แตกตา่ งกนั เชน่ กฎหมายเกย่ี วกับมหาวิทยาลัย

แต่อย่างไรก็ดี ในการนำรูปแบบการแบ่งหมวดหมู่ตามกฎหมายอื่นมาใช้
เป็นแบบการร่างกฎหมายน้ัน มิได้หมายความว่าจะหยิบยกมาใช้ได้ตามอำเภอใจ ผู้ร่างกฎหมาย
จะตอ้ งพจิ ารณาเปรียบเทียบโครงสร้างและเนื้อหาสาระของรา่ งกฎหมายฉบบั นั้นกับกฎหมาย
ทจี่ ะนำมาเป็นแบบด้วยว่ามีลักษณะคลา้ ยคลึงกนั หรือไม่ เพียงใด เน่ืองจากหลกั การตามกฎหมาย
แต่ละฉบับนั้นจะแตกต่างกัน และไม่ได้หมายความว่าสามารถนำรูปแบบของกฎหมายฉบับหน่ึง
มาใช้ได้กับร่างกฎหมายอกี ฉบับหนึ่งได้ในทันทีเสมอไป ควรต้องศึกษาเปรียบเทียบโครงสร้าง
และเน้ือหาสาระอย่างละเอียดรอบคอบเสยี ก่อน

(๘) ควรหลีกเล่ียงไม่แบ่งหมวดหมู่ย่อยมากจนเกินไป จนกระทั่งมีบทบัญญัติในหมวด
หรือส่วนนั้น ๆ เพียงมาตราเดียว แต่ควรพยายามจัดบทบัญญัติหลายมาตราเป็นหมวดหมู่
เดียวกัน เพื่อมิให้กฎหมายมีรายละเอียดหมวดหมู่มากเกินไป จนกระทั่งกระทบต่อวัตถุประสงค์
ของการร่างกฎหมายที่ต้องการให้ผู้ใชก้ ฎหมายสามารถทำความเขา้ ใจกฎหมายไดโ้ ดยง่าย

อย่างไรก็ตาม ในกรณีท่ีกฎหมายฉบับน้ันมคี วามจำเป็นต้องแบ่งเน้ือหาออกเป็น
หมวดหมู่แล้วพบว่ามีเนื้อหาเพียงหนึ่งมาตราท่ีไม่สามารถจัดเข้าหมวดหมู่อื่นได้ ก็สามารถ
แบ่งเน้ือหาเพยี งหน่ึงมาตรานั้นออกเป็นหมวดได้ แม้หมวดนนั้ จะมีเนื้อหาเพยี งหนึ่งมาตราก็ตาม

161

แนวทางในการจัดทำรา่ งกฎหมาย
บททแี่น๒วทกาารงใรนา่ งกพารระจรัดาทช�ำบรญั่างญกัตฎิ หมาย

บทที่ ๒ การร่างพระราชบัญญัติ

๓. รปู แบบการเขยี นหมวดหมกู่ ฎหมาย
รูปแบบการแบ่งหมวดหมขู่ องกฎหมาย มดี งั นี้

๒บทที่
รา่ ง
พระราชบัญญัติ
..................................................
พ.ศ. ....

..........................................
..........................................
..........................................
................................................................................................................................
..........................................
โดยท่ีเปน็ การสมควรมี/ปรับปรุงกฎหมายวา่ ด้วย..............................................
................................................................................................................................
..........................................
มาตรา ๑ พระราชบัญญัตนิ ี้เรยี กว่า “พระราชบัญญตั ิ............... พ.ศ. ....”
มาตรา ๒ พระราชบัญญตั นิ ใ้ี ห้ใช้บังคับ.........…….....................................
มาตรา ๓ ให้ยกเลกิ
(๑) พระราชบัญญัติ............... พ.ศ. ....
(๒) พระราชบัญญตั .ิ .............. พ.ศ. ....

162

แนวทางในการจดั ทำร่างกฎหมาย
แนวทางในบกทาทรี่จ๒ัดทก�ำารร่าา่งงกพฎรหะมรายชบญั ญัติ

บทที่ ๒ การร่างพระราชบัญญัติ

มาตรา ๔ ในพระราชบัญญตั ินี้ ๒บทท่ี
“..........” หมายความว่า ...............
“..........” หมายความว่า ...............
มาตรา ๕ (มาตรารกั ษาการ)

หมวด ๑
(ชื่อเรื่อง)

มาตรา .. ..............................................................................................
..................................................................

หมวด ๒
(ชื่อเรื่อง)

ส่วนที่ ๑
(ชื่อเรื่อง)

มาตรา .. ..............................................................................................
..................................................................

สว่ นท่ี ๒
(ช่ือเร่ือง)

มาตรา .. ...............................................................................................................
...........................................................................

163

แนวทางในการจัดทำร่างกฎหมาย
บททแบ่ีนท๒วททกี่ ๒ารงกใรน่าางกรพรา่ารงะจพรัดารทชะ�ำบรราญั่าชงญบกัตฎัญิ หญมัตาิ ย

หมวด ๓

๒บทที่ (ช่ือเร่ือง)

มาตรา .. ...............................................................................................................
...........................................................................

หมวด ๔
บทกำหนดโทษ
มาตรา .. ...............................................................................................................
...........................................................................
บทเฉพาะกาล
มาตรา .. ...............................................................................................................
...........................................................................
ผูร้ บั สนองพระบรมราชโองการ
......................................
นายกรัฐมนตรี

164

แนวทางในการจัดทำรา่ งกฎหมาย ๒บทท่ี
แนวทางบในทกทาี่ ร๒จัดกทาร�ำรร่า่างงพกรฎะหรมาชาบยัญญัติ

บทที่ ๒ การร่างพระราชบัญญัติ

ตวั อยา่ ง
- พระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมิน
ผลสมั ฤทธข์ิ องกฎหมาย พ.ศ. ๒๕๖๒

พระราชบัญญัติ
หลกั เกณฑ์การจัดทำรา่ งกฎหมายและการประเมนิ ผลสัมฤทธ์ิของกฎหมาย

พ.ศ. ๒๕๖๒

…........................................
…….....................................
…….....................................
..................................................................................................................
............................................
โดยทีเ่ ป็นการสมควรมกี ฎหมายวา่ ดว้ ย.....................................................
..................................................................................................................
............................................
มาตรา ๑ พระราชบัญญตั นิ เ้ี รียกวา่ “พระราชบัญญตั ิ................. พ.ศ. ....”
มาตรา ๒ พระราชบญั ญตั นิ ้ีให้ใชบ้ งั คับ…………….....................................
มาตรา ๓ ในพระราชบญั ญตั ิน้ี
“..........” หมายความวา่ ...............
“..........” หมายความว่า ...............
มาตรา ๔ (มาตรารักษาการ)

165

แนวทางในการจดั ทำรา่ งกฎหมาย
บททแ่ีน๒วทกาารงรในา่ งกพารระจรัดาทช�ำบรญั ่างญกัตฎิ หมาย

บทที่ ๒ การร่างพระราชบัญญัติ

หมวด ๑
บททวั่ ไป

๒บทที่
มาตรา ๕ ................................................................................................
ฯลฯ ฯลฯ
มาตรา ๑๑ .............................................................................................
หมวด ๒
การตรวจสอบความจำเป็น การรับฟงั ความคดิ เห็น
และการวิเคราะหผ์ ลกระทบ

มาตรา ๑๒ .............................................................................................
ฯลฯ ฯลฯ

มาตรา ๒๐ .............................................................................................
หมวด ๓

การตรวจสอบเนื้อหาของร่างกฎหมาย

มาตรา ๒๑ .............................................................................................
ฯลฯ ฯลฯ

มาตรา ๒๔ .............................................................................................
หมวด ๔

การตรวจสอบผลการรับฟังความคิดเห็นและการวเิ คราะห์ผลกระทบ

มาตรา ๒๕ .............................................................................................
ฯลฯ ฯลฯ

มาตรา ๒๗ .............................................................................................

166

๑๖๖

แนวทางในการจัดทำรา่ งกฎหมาย ๒บทท่ี
แนวทางใบนทกทารี่ ๒จัดกทา�ำรรร่าา่ งงกพฎรหะรมาาชยบญั ญัติ

บทที่ ๒ การร่างพระราชบัญญัติ

หมวด ๕
การประเมินผลสัมฤทธิ์

มาตรา ๒๘ .............................................................................................
ฯลฯ ฯลฯ

มาตรา ๓๕ .............................................................................................

หมวด ๖
การเข้าถึงบทบัญญตั ิของกฎหมาย

มาตรา ๓๖ .............................................................................................
บทเฉพาะกาล

มาตรา ๓๗ .............................................................................................
ฯลฯ ฯลฯ

มาตรา ๔๐ .............................................................................................

ผู้รบั สนองพระบรมราชโองการ

......................................
นายกรฐั มนตรี

167

แนวทางในการจดั ทำรา่ งกฎหมาย
บททแี่น๒วทกาางรใรนา่ งกพารรจะรัดาทช�ำบรัญ่างญกัตฎิ หมาย

บทท่ี ๒ การร่างพระราชบัญญัติ

- พระราชบญั ญตั ิสงวนและคมุ้ ครองสตั วป์ ่า พ.ศ. ๒๕๖๒
พระราชบญั ญัติ

๒บทที่ สงวนและคุ้มครองสัตวป์ ่า
พ.ศ. ๒๕๖๒

…........................................
…….....................................
…….....................................
..................................................................................................................
............................................
โดยทเ่ี ป็นการสมควรปรับปรุงกฎหมายวา่ ดว้ ย..........................................
..................................................................................................................
............................................
มาตรา ๑ พระราชบญั ญัตินี้เรยี กว่า “พระราชบญั ญัติ................. พ.ศ. ....”
มาตรา ๒ พระราชบัญญตั นิ ี้ให้ใช้บังคบั .....................................................
มาตรา ๓ ใหย้ กเลิก
(๑) พระราชบัญญัติ............... พ.ศ. ....
(๒) พระราชบัญญตั ิ............... (ฉบบั ที่ ..) พ.ศ. ....
มาตรา ๔ ในพระราชบัญญัติน้ี
“..........” หมายความว่า ...............
“..........” หมายความว่า ...............
มาตรา ๕ (มาตรารกั ษาการ)

168

แนวทางในการจัดทำร่างกฎหมาย
แนวทางใบนทกาทรี่ จ๒ัดกทา�ำรรร่าา่ งงกพฎรหะรมาาชยบญั ญัติ

บทท่ี ๒ การร่างพระราชบัญญัติ

หมวด ๑ ๒บทท่ี
สตั วป์ ่า
สว่ นที่ ๑
ประเภทสตั ว์ป่า

มาตรา ๖ ................................................................................................
ฯลฯ ฯลฯ

มาตรา ๑๑ .............................................................................................
ส่วนท่ี ๒

การคมุ้ ครองสตั วป์ ่า

มาตรา ๑๒ .............................................................................................
ฯลฯ ฯลฯ

มาตรา ๑๖ .............................................................................................
สว่ นท่ี ๓

การครอบครองสัตว์ป่า

มาตรา ๑๗ .............................................................................................
ฯลฯ ฯลฯ

มาตรา ๒๑ .............................................................................................

169

แนวทางในการจัดทำรา่ งกฎหมาย
บททแี่ น๒วกทาารงรใา่นงกพารระจรัดาทช�ำบรญั ่าญงกตั ฎิ หมาย

บทท่ี ๒ การร่างพระราชบัญญัติ

ส่วนที่ ๔
การนำเข้า สง่ ออก หรือนำผา่ นซึ่งสตั ว์ปา่ และดา่ นตรวจสัตว์ป่า

๒บทที่
มาตรา ๒๒ .............................................................................................
ฯลฯ ฯลฯ
มาตรา ๒๗ .............................................................................................
สว่ นที่ ๕
การดำเนนิ กจิ การเพาะพันธ์ุสตั วป์ ่า และการค้าสตั วป์ า่

มาตรา ๒๘ .............................................................................................
ฯลฯ ฯลฯ

มาตรา ๓๑ .............................................................................................
ส่วนท่ี ๖

การดำเนินการต่อสัตว์ป่าอันตราย

มาตรา ๓๒ .............................................................................................
หมวด ๒
สวนสัตว์

มาตรา ๓๓ .............................................................................................
ฯลฯ ฯลฯ

มาตรา ๓๘ .............................................................................................

170

๑๗๐

แนวทางในการจดั ทำร่างกฎหมาย ๒บทท่ี
แนวทางในบกทาทร่ี จ๒ัดทกา�ำรรร่าา่ งงกพฎรหะมราายชบัญญัติ

บทท่ี ๒ การร่างพระราชบัญญัติ

หมวด ๓
คณะกรรมการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า

มาตรา ๓๙ .............................................................................................
ฯลฯ ฯลฯ

มาตรา ๔๖ .............................................................................................

หมวด ๔
เขตรักษาพันธส์ุ ัตว์ป่า

สว่ นท่ี ๑
การกำหนดเขตรักษาพันธส์ุ ัตว์ป่า

มาตรา ๔๗ .............................................................................................
ฯลฯ ฯลฯ

มาตรา ๕๑ .............................................................................................
สว่ นท่ี ๒

การคุ้มครอง บำรุง ดูแล และรักษาเขตรักษาพนั ธุ์สตั วป์ ่า

มาตรา ๕๒ .............................................................................................
ฯลฯ ฯลฯ

มาตรา ๕๗ .............................................................................................

171

แนวทางในการจดั ทำรา่ งกฎหมาย
บททแ่ีน๒วทกาารงรในา่ งกพารระจรัดาทช�ำบรัญ่างญกัตฎิ หมาย

บทท่ี ๒ การร่างพระราชบัญญัติ

หมวด ๕
เงินคา่ บริการหรือเงินค่าตอบแทน

๒บทท่ี
มาตรา ๕๘ .............................................................................................
ฯลฯ ฯลฯ
มาตรา ๖๑ .............................................................................................
หมวด ๖
เขตห้ามล่าสัตวป์ ่า
มาตรา ๖๒ .............................................................................................
ฯลฯ ฯลฯ
มาตรา ๗๐ .............................................................................................
หมวด ๗
การใชป้ ระโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพ
มาตรา ๗๑ .............................................................................................
หมวด ๘
การควบคุมและพนักงานเจ้าหนา้ ที่
มาตรา ๗๒ .............................................................................................
ฯลฯ ฯลฯ
มาตรา ๘๖ .............................................................................................

172

แนวทางในการจดั ทำร่างกฎหมาย ๒บทท่ี
แนวทางในบกทาทรี่ จ๒ัดกทา�ำรรร่าา่ งงกพฎรหะมราาชยบญั ญัติ

บทที่ ๒ การร่างพระราชบัญญัติ

หมวด ๙
บทกำหนดโทษ

มาตรา ๘๗ .............................................................................................
ฯลฯ ฯลฯ

มาตรา ๑๑๐ ...........................................................................................

บทเฉพาะกาล

มาตรา ๑๑๑ ...........................................................................................
ฯลฯ ฯลฯ

มาตรา ๑๒๑ ...........................................................................................

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ

......................................
นายกรัฐมนตรี

173

๑๗



๓บทที่

การร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม
และพระราชบัญญัติยกเลิก



แนวทางในการจัดทำรา่ งกฎหมาย ๓บทท่ี
บทท่ี ๓ การร่างพระราชบัญญัตแิ แกนไ้ วขทเพามิ่งใเตนิมกแารลจะัดพทระ�ำรรา่าชงกบฎัญหญมตั าิยยกเลิก
บทท่ี ๓ การร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมและพระราชบัญญัติยกเลิก

บทท่ี ๓
การร่างพระราชบญั ญตั แิ กไ้ ขเพมิ่ เตมิ

และพระราชบัญญตั ิยกเลกิ

พระราชบัญ ญั ติท่ี เป็นฉบับแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญ ญั ติที่ใช้บังคับ ซ่ึงโดยท่ัวไป
มักเรียกกันว่าพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมน้ัน มีโครงสร้างและรูปแบบบางประการ
ท่ีแตกต่างไปจากแบบกฎหมายทั่วไปของพระราชบัญญัติท่ีเป็นการตรากฎหมายใหม่
หรือที่เป็นการปรับปรุงกฎหมายโดยการยกเลิกกฎหมายเดิมแล้วกำหนดขึ้นใหม่ กล่าวคือ
แม้ว่าจะมีโครงสร้างของตัวกฎหมายท่ีคล้ายคลึงกับแบบกฎหมายทั่วไปของพระราชบัญญัติ
ก็ตาม แต่ก็ปรากฏลักษณะพิเศษเฉพาะบางประการที่จำเป็นต้องมีการพิจารณ าแบบ
ไว้แยกตา่ งหากเพอื่ ความเขา้ ใจทถี่ ูกต้อง

ใน ข ณ ะ เดี ย ว กั น ก า ร ก ำ ห น ด เนื้ อ ห า ใน พ ร ะ ร า ช บั ญ ญั ติ ดั ง ก ล่ า ว เพ่ื อ ให้ มี ผ ล
ทางกฎหมายเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมหรือยกเลิกหรือเพ่ิมเติมบทบัญ ญั ติบางส่วน
ของพระราชบัญญัติท่ีใช้บังคับ ก็มีแบบกฎหมายพิเศษท่ีใช้เฉพาะกับการแก้ไขเพิ่มเติมหรือ
การยกเลิกบทบัญญัติรายมาตราของกฎหมายหรือเพิ่มเติมบทบัญญัติในกฎหมายที่ใช้บังคับ
ท่ีมิได้มีรูปแบบการเขียนอย่างเดียวกับแบบกฎหมายท่ัวไปดังกล่าวทั้งหมดในทุกเรื่อง
จงึ จำเป็นตอ้ งนำมากลา่ วโดยละเอยี ดแยกเปน็ หวั ขอ้ ตา่ งหากเชน่ กัน

นอกจากน้ี ยงั มกี ารตราพระราชบญั ญัตเิ พ่ือยกเลกิ กฎหมายที่ใชบ้ งั คับในเรื่องใดเรื่องหน่ึง
ท้งั หมดโดยมิไดม้ กี ารตรากฎหมายใหม่กำหนดขึ้นใช้บังคบั ซึ่งเรียกกันโดยทั่วไปวา่ พระราชบัญญตั ิ
ยกเลิก การยกร่างพระราชบัญญัติเพื่อการนี้ก็นำโครงสร้างและรูปแบบกฎหมายท่ัวไป
ของพระราชบัญญัติท่ีกล่าวถึงในบทที่ ๒ มาใช้เช่นกัน แต่เพ่ือให้เข้าใจโครงสร้างในภาพรวม
จึงนำมากำหนดแนวทางการเขียนโครงสร้างของพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม บทกำหนด
การแก้ไขเพ่ิมเติมหรือยกเลิกมาตราและหมวดของกฎหมายที่แยกต่างหากจากแบบกฎหมาย
ท่ัวไปของพระราชบัญญัติ และโครงสร้างของพระราชบัญญัติยกเลิก โดยแบ่งเน้ือหาออกเป็น
๓ ส่วน ดงั ต่อไปนี้

ส่วนท่ี ๑ โครงสรา้ งของพระราชบัญญัติแกไ้ ขเพม่ิ เติม
สว่ นท่ี ๒ บทแกไ้ ขเพ่ิมเติมหรอื ยกเลกิ มาตราและหมวด
ส่วนท่ี ๓ โครงสร้างของพระราชบญั ญตั ยิ กเลกิ

175

แนวทางในการจดั ทำร่างกฎหมาย
บททแ่ี ๓นวกทารารง่าในงพกราะรรจาัดชทบ�ำัญร่าญงัตกิแฎกหไ้ มขาเพยม่ิ เตมิ และพระราชบัญญตั ยิ กเลกิ

บทท่ี ๓ การร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมและพระราชบัญญัติยกเลิก

ส่วนท่ี ๑
โครงสร้างของพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติม

๑. ความมุง่ หมายในการตราพระราชบญั ญตั ิแก้ไขเพ่ิมเติม

๓บทที่ เม่ือร่างพระราชบัญญัติได้ผ่านการพิจารณาของฝ่ายนิติบัญญัติและประกาศใช้เป็น
กฎหมายแล้ว อาจเกิดความจำเป็นในเวลาต่อมาท่ีจะต้องมีการแก้ไขเนื้อหาสาระของกฎหมาย
ที่บังคับใช้น้ัน ซ่ึงการแก้ไขเนื้อหาสาระของพระราชบัญญัติที่ใช้บังคับน้ัน โดยหลักต้องจัดทำเป็น
พระราชบัญญัติ ในรูปแบบของพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติม เพ่ือบัญญัติสาระในการแก้ไข
เพ่มิ เตมิ หรอื ยกเลิกบทบัญญัติของกฎหมายทีบ่ ังคับใช้ในเรื่องน้ัน
๒. โครงสรา้ งของพระราชบัญญตั แิ กไ้ ขเพิม่ เตมิ
โครงสร้างของพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมเป็นรูปแบบเดียวกับโครงสร้างตามแบบ
กฎหมายทวั่ ไปของพระราชบญั ญตั ิ ซึ่งสามารถแสดงใหเ้ ห็นได้ ดงั ตอ่ ไปน้ี
- บันทึกหลักการและเหตุผล

บนั ทึกหลักการและเหตผุ ล บันทึกหลักการ
ประกอบร่างพระราชบญั ญัติ.............................. (ฉบบั ที่ ..) และเหตผุ ล

พ.ศ. ....

หลกั การ
...........................................................................................
.......................................................................................................... .............

เหตุผล
...........................................................................................
.......................................................................................................... .............
.......................................................................................................................

176

แนวทางในการจดั ทำร่างกฎหมาย
บทท่ี ๓ การร่างพระราชบัญญัติแกไ้ ขแเพนมิ่วทเตามิ งแในลกะพารรจะัดราทช�ำบร่าญั งญกฎัตยิหกมเาลยิก
บทที่ ๓ การร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมและพระราชบัญญัติยกเลิก

- ตวั รา่ งพระราชบญั ญัติ

ร่าง ชื่อรา่ งพระราชบญั ญัติ
พระราชบญั ญตั ิ
.............................. (ฉบบั ท่ี ..) ๓บทท่ี

พ.ศ. ....

.....................................
.....................................
.....................................
...........................................................................................
..........................................
โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วย คำปรารภ
..........................................
พระราชบัญญัติน้ีมีบทบัญญัติบางประการเก่ียวกบั การจำกัด บทบญั ญตั ิจำกัดสทิ ธิ
สิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๖ ประกอบกับมาตรา .. มาตรา .. และเสรภี าพของบุคคล
และมาตรา .. ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้ ตามรัฐธรรมนญู
โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย

เหตุผลและความจำเป็นในการจำกัดสิทธิและเสรีภาพ เหตผุ ลในการจำกัดสิทธิ
ของบุคคลตามพระราชบัญญัตินี้ เพื่อ.....(ให้อธิบายเหตุผลความจำเป็น และเสรีภาพของบคุ คล
ในการจำกัดสิทธิและเสรีภาพ)..... ซ่ึงการตราพระราชบัญญัติน้ีสอดคล้อง ตามรัฐธรรมนญู
กบั เงื่อนไขทบี่ ญั ญัติไว้ในมาตรา ๒๖ ของรัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทยแล้ว

...........................................................................................
.........................................

มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติ ชอื่ ร่างพระราชบัญญัติ
.......................... (ฉบบั ที่ ..) พ.ศ. ....”

177


Click to View FlipBook Version