The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ประเพณีภาคอีสาน และวัฒนธรรมประเพณีภาคอีสาน ของ นาย นฤพล เดชาชีววิทย์ ม.3/3 เลขที่20

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Naruepol Daysch, 2023-03-02 08:42:45

ประเพณีภาคอีสาน และวัฒนธรรมประเพณีภาคอีสาน

ประเพณีภาคอีสาน และวัฒนธรรมประเพณีภาคอีสาน ของ นาย นฤพล เดชาชีววิทย์ ม.3/3 เลขที่20

จัดท ำโดย นาย นฤพล เดชาชีววิทย์ ชั้น มัธยมศึกษาปีที่3 เลขที่20 01/04/2023 ประเพณีภาคอีสาน และวัฒนธรรมประเพณีภาคอีสาน


ค ำน ำ รายงานเลม่นี้จดัทา ขนึ้เพือ่เป็นสว่นหนึ่งของวชิา ประวัติศาสตร์ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ ๓ เพื่อให้ได้ศึกษาหาความรู้ในเรื่อง ประเพณีภาคอีสานและวัฒนธรรมประเพณีภาคอีสาน เพื่อให้ได้ศึกษาหาความรู้ในเรื่องราวประเพณีภาคอีสานและวัฒนธรรมประเพณีภาค อีสาน โดยได้ศึกษาผ่านแหล่งความต่างๆ อาทิเช่น ต ารา หนังสือ หนังสือพิมพ์ วารสาร ห้องสมุด และแหล่งความรู้จากเว็บไซต์ต่างๆ โดยรายงานเล่มนี้ต้องมีเนื้อหาเกี่ยวกับ ความเป็ นมาของประเพณีภาคอีสานและวัฒนธรรมประเพณีภาคอีสาน ประเภท ประเพณีวัฒนธรรมภาคอีสาน และความส าคัญของ ประเพณี วัฒนธรรมภาคอีสาน ผู้จัดท าคาดหวังเป็ นอย่างยิ่งว่าการจัดท าเอกสารฉบับนี้จะมีข้อมูลที่ เป็ นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจศึกษาประเพณีและวัฒนธรรมภาคอีสานเป็ นอย่างดี นาย นฤพล เดชาชีววิทย์


สำรบัญ เรื่อง หน้ำ ค าน า 1 สารบัญ 2 ภาคอีสาน 3 จังหวัดในภาคอีสานหรือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4 ภาษาที่ใช้ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 5 เพลงพื้นบ้าน 6 เพลงพิธีกรรม 7 เพลงร้องเพื่อความสนุกสนาน 8 เครื่องดนตรีพื้นบ้าน 9 นิทานพื้นบ้าน 10 การละเล่นพื้นบ้าน 11 เครื่องแต่งกาย 12 อาหารประจ าภาค 13


ภาคอีสาน หรือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งอยู่บนที่ราบสูงโคราช มีแม่น ้าโขงกั้นเขต ทางตอนเหนือ และตะวันออกของภาค โดยทางด้านใต้จรดชายแดนกัมพูชา ทาง ตะวันตกมีเทือกเขาเพชรบูรณ์ และเทือกเขาดงพญาเย็นเป็นแนวกน้ัแยกจากภาคเหนือ และภาคกลาง ซึ่งเทือกเขาทีสู่ง ทีสุ่ดในภาคอีสานคอืยอดภูกระดงึซงึ่เป็นตนก าเนิดของแม่น ้าสายส าคัญของชาวอีสาน ้ เช่น ล าตะคอง แม่น ้าชี และแม่น ้ามูลอีสาน มีเนื้อที่ประมาณ 170,000 ตารางกิโลเมตร ซงึ่เทียบไดก้บัหนี่งในสามของพื้นทีท่ง้ัหมดของประเทศไทย ซงึ่ประกอบดว้ยจงัหวดัตา่ง ๆ กว่า 20 จังหวัด ดังนี้


จังหวัดในภาคอีสานหรือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ - จังหวัดนครราชสีมา - จังหวัดกาฬสินธุ์ - จังหวัดขอนแก่น - จังหวัดชัยภูมิ - จังหวัดนครพนม - จังหวัดบุรีรัมย์ - จังหวัดบึงกาฬ - จังหวัดมหาสารคาม - จังหวัดมุกดาหาร - จังหวัดยโสธร - จังหวัดร้อยเอ็ด - จังหวัดเลย - จังหวัดสกลนคร - จังหวัดสุรินทร์ - จังหวัดศรีสะเกษ - จังหวัดหนองคาย - จังหวัดหนองบัวล าภู - จังหวัดอุดรธานี - จังหวัดอุบลราชธานี - จังหวัดอ านาจเจริญ ปราสาทหินศีขรภูมิอ.ศีขรภูมิ จ. สุรินทร์ เจดีย์มหามงคลบัว จ.ร้อยเอ็ด


ภาษาที่ใช้ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งนี้ในเรื่องของภาษาที่ใช้ในภาคอีสานนั้น อาจแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ อาทิ ภาษาหลกัทีใ่ชค้อืภาษาอีสาน ซึ่งถือวา่เป็นภาษาลาวสา เนียงหนึ่ง แตใ่นตวัเมือง ใหญ่ ๆ มักนิยมใช้ภาษากลาง ขณะที่บริเวณอีสานใต้นิยมใช้ภาษาเขมร และยังมี ภาษาถิ่นอื่น ๆ เช่น ภาษาผูไท ภาษาโส้ ภาษาไทยโคราช เป็ นต้น *เนื่องภาคอีสาน เป็ นภาคที่มีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่โดดเด่น ไม่ว่าจะเป็ นเรื่อง ของอาหารการกิน ดนตรีพื้นบ้าน นิทานพื้นบ้าน และศิลปะการฟ้ อนร า


เพลงพื้นบ้าน ส าหรับเพลงพื้นบ้านของภาคอีสานนั้น จะมีท่วงท านองแตกต่างกันตามแต่ละ พื้นที่ โดยจะแบง่เป็นพื้นทีใ่หญ่ๆ ไดแ้ก่อีสานเหนือ และอีสานใต้ซงึ่เพลงพื้นบา้น ของภาคอีสาน มักสอดแทรกแง่คิด เกี่ยวกับวิถีชีวิต และความเป็ นอยู่ของคนในพื้นที่ ไว้อย่างชัดเจน และสามารถแบ่งประเภทของเพลงพื้นบ้าน ได้ดังนี้ 1. เพลงพิธีกรรม 2. เพลงร้องเพื่อควาสนุกสนาน กลุ่มอีสานเหนือ กลุ่มอีสานใต้


1. เพลงพิธีกรรม ตัวอย่างเพลงพิธีกรรมของกลุ่มอีสานเหนือ ได้แก่ การล าพระเวส หรือการเทศน์ มหาชาติ การแหล่ต่าง ๆ การล าผีฟ้ ารักษาคนป่วย การสวดสรภัญญะ และการบายศรีสู่ ขวัญในโอกาสต่าง ๆ ฯลฯ สว่นตวัอยา่งเพลงพธิีกรรมของกลุม่อีสานใต้ไดแ้ก่เรือมมม็วต เป็นพธิีกรรมอยา่งหนึ่ง ของชาวสุรนิทร์ซึ่งมีความเชือ่มาแตโ่บราณวา่ "เรือมมม็วต" จะช่วยให้คนที่ก าลังเจ็บ ไข้ได้ป่วยมีอาการทุเลาลงได้ ผู้เล่นไม่จ ากัดจ านวน แต่จะต้องมีหัวหน้าหรือครูมม็วต อาวุโสท าหน้าที่เป็ นผู้น าพิธีต่าง ๆ และเป็ นผู้ร าดาบไล่ฟันผีหรือเสนียดจัญไรทั้งปวง


2. เพลงร้องเพื่อความสนุกสนาน กลุ่มอีสานเหนือ -ไดแ้ก่หมอลา ซงึ่แบง่ ได้5 ชนิด คือ หมอล าพื้น หมอล ากลอน หมอ ล าหมู่ หมอล าเพลิน หมอล าผีฟ้ า กลุ่มอีสานใต้-ได้แก่ กันตรึม เจรียง เพลงโคราช


ทั้งนี้ ในปัจจุบันสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ของภาคอีสานมักนิยมประดิษฐ์การฟ้ อนร า ขนึ้มาใหม่ทา ใหม้ ีผแู้บง่ศลิปะการฟ้อนทง้ัชุดเกา่และชุดใหมท่ ีป่รากฏอยูใ่นภาคอีสาน ออกเป็ น 8 กลุม่ ใหญ่ซงึ่แตล่ะกลุม่จะออกมาในรูปของการแสดงพื้นเมือง ไดแ้ก่ 1. การฟ้ อนเลียนกิริยาอาการของสัตว์เช่น กระโนบติงต๊อง แมงตับเต่า และกบ กินเดือน ฯลฯ 2. การฟ้ อนชุดโบราณคดีเช่น ระบ าบ้านเชียง ร าศรีโคตรบูรณ์ ระบ าพนมรุ้ง และระบ าจัมปาศรี 3. การฟ้ อนประกอบท านองล าน า เช่น ฟ้ อนคอนสวรรค์ ร าตังหวาย เซิ้งสาละวัน และเซิ้งมหาชัย 4. การฟ้ อนชุดชุมนุมเผ่าภูไท 3 เผ่า คือ เผ่าไทภูพาน เผ่าไทยบุรีรัมย์ และเผ่า ไทยโคราช


5. การฟ้ อนด้วยเรื่องราวจากวรรณกรรม เช่น มโนห์ราเล่นน ้า 6. การฟ้ อนเซ่นสรวงบูชา เช่น ฟ้ อนภูไท แสกเต้นสาก โส้ทั่งบั้ง เซิ้งผีหมอ ฟ้ อน ผีฟ้ า ฟ้ อนไทด า เรือมปัลโจล ฟ้ อนแถบลาน ร าบายศรี เรือมมม็วต เซิ้งบั้งไฟ เซิ้ง นางด้ง ร าดึงครกดึงสาก และเซิ้งเซียงข้อง ฯลฯ 7. การฟ้ อนศิลปาชีพ เช่น ร าต าหูกผูกขิก ฟ้ อนทอเสื่อบ้านแพง เรือมกลอเตียล (ระบ าเสื่อ) เซิ้งสาวย้อต าสาด ร าปั้นหม้อ ร าเข็นฝาย เซิ้งสาวไหม ร าแพรวา เซิ้ง ข้าวปุ้ น ร าบ้านประโคก เซิ้งปลาจ่อม เซิ้งแหย่ไข่มดแดง และเรือมศรีผไทสมันต์ ฯลฯ 8. การฟ้ อนเพื่อความสนุกสนานรื่นเริง เช่น เซิ้งแคน ฟ้ อนชุดเล่นสาว เป่าแคน ร าโปงลาง ฟ้ อนกลองตุ้ม เซิ้งกะโป๋ เซิ้งท านา เซิ้งสวิง เซิ้งกะหยัง ร าโก๋ยมือ ร า กลองยาวอีสาน ระบ าโคราชประยุกต์ เรือมอันเดร เรือมซันตรูจน์ เรือมตลอก (ระบ ากะลา) และเรือมจับกรับ ฯลฯ


เครื่องดนตรีพื้นบ้าน เนื่องจากภาคอีสาน เป็ นแหล่งรวมวัฒนธรรม ทั้งเพลงพื้นบ้าน และการฟ้ อนร า ดังนั้น ชาวอีสานจึงให้ความส าคัญกับเครื่องดนตรีที่ใช้ในการบรรเลงท่วงท านองต่าง ๆ เป็ น อย่างมาก ดังนั้น เครื่องดนตรีของชาวอีสาน จึงมีครบทุกประเภท ทั้ง ดีด สี ตี เป่า อาทิ จะเข้กระบือ : เครื่องดนตรีส าคัญที่ใช้ในวงมโหรีเขมร เป็ นเครื่องดนตรีประเภท ดีดในแนวนอน มี3 สาย กระจับปี่ : เป็ นเครื่องดนตรีประเภทดีด โดยใช้กระที่ท าจากเขาสัตว์ กล่องเสียง ท า ด้วยไม้ขนุนหรือไม้สัก พิณ : เป็ นเครื่องดนตรีที่บรรเลงด้วยการดีด มี 2-3 สาย แตข่นึ้เป็นสองคู่ โดย ขนึ้คู่ 5 ซอกันตรึม : เป็ นเครื่องสายใช้สี ท าด้วยไม้ กล่องเสียงขึงด้วยหนังงู มีช่องเสียง อยู่ด้านตรงข้ามหน้าซอ โปงลาง : เป็ นเครื่องดนตรีประเภทที่บรรเลงท านองด้วยการตี โดยใช้บรรเลง ร่วมกันกับแคน


กลองกันตรึม : เป็นเครือ่งหนงัชนิดหนึ่ง ทา ดว้ยไมข้ดุกลวง ขงึหน้าดา้นหนึ่ง ด้วยหนังดึง ให้ตึงด้วยเชือก หืน : เป็นเครือ่งดนตรีกงึ่ดดีกงึ่เป่าอยา่งหนึ่งมีทง้ัทีท่า ดว้ยไมไ้ผ่และโลหะ โดยมี การเซาะร่องตรงกลางเป็ นลิ้นในตัว แคน : เป็นเครือ่งดนตรีประเภทเป่า ซงึ่เป็นที่รู้จักมากที่สุดของชาวภาคอีสาน เหนือ โหวด : เป็นเครือ่งเป่าชนิดหนึ่งทีไ่มม่ ีลนิ้เกดิจากกระแสลมทีเ่ป่าผา่นไมร้วก ปี่ไสล : ใช้บรรเลงในวงกันตรึม เป็ นปี่ประเภทลิ้นคู่ เช่นเดียวกับปี่ในที่มีลักษณะ เป็ นปี่ท่อนเดียว และมีลิ้นในตัว กรับคู่ : เป็ นกรับท าด้วยไม้เนื้อแข็ง ลักษณะเหมือนกับกรับเสภาของภาคกลาง


นิทานพื้นบ้าน นิทานพื้นบ้านของภาคอีสาน ต่างมีรูปแบบทั้งนิทานขนาดสั้น และนิทานขนาดยาว โดย บางเรื่องอาจหยิบยกเรื่องใกล้ตัวมาเล่า ขณะที่บ้างเรื่องเป็ นนิทานที่สอดแทรก จินตนาการ โดยเฉพาะเรือ่งอภนิ ิหารตา่ง ๆ ซงึ่นอกจากจะใหป้ระโยชน์ดา้นความ บันเทิงแล้ว นิทานพื้นบ้านของภาคอีสานมักสอดแทรกคติธรรม ค าสอน เพื่อให้ผู้ฟังได้ ตระหนกัถงึการใชช้ ีวติ ใหม้ากขนึ้ ทั้งนี้ นิทานพื้นบ้านของภาคอีสานที่เป็ นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย อาทิ แก้วหน้า ม้า อุทัยเทวี นางสิบสอง ปลาบู่ทอง กล่องข้าวน้อยฆ่าแม่ นางผมหอม ผาแดงนางไอ่ ทุ่ง กุลาร้องไห้ ขูลูนางอั้ว ฯลฯ ตัวอย่ำงนิทำน ต ำนำนผำแดงนำงไอ่


การละเล่นพื้นบ้าน เนื่องจากภูมิประเทศภาคอีสานเป็ นที่ราบสูง ค่อนข้างแห้งแล้ง เพราะพื้นดินไม่เก็บน ้า ฤดูแล้งจะกันดาร ฤดูฝนน ้าจะท่วม แต่ชาวอีสานก็มีอาชีพท าไร่ท านา และเป็ นคนรัก สนุก ดังนั้นจึงสามารถหาความบันเทิงได้ทุกโอกาส โดยจะมีทั้งการร้องเพลง และฟ้ อน ร า ทั้งนี้ การแสดงของภาคอีสาน มักเกิดจากกิจวัตรประจ าวัน หรือประจ าฤดูกาล และ ลกัษณะการแสดงซงึ่เป็นลีลาเฉพาะของอีสาน คอืลีลา และจงัหวะในการก้าวเท้า ที่มี ลักษณะคล้ายเต้น แต่นุ่มนวลกว่า และมักเดินด้วยปลายเท้า โดยจะสบัดเท้าไปข้างหลัง สูง ซงึ่ตวัอยา่งเพลงพื้นเมือง ทีม่กันิยมขบัรองกนั ไดแ้ก่หมอลา เพลงโคราช เจรียง กันตรึม เพลงล่องโขง เพลงแอ่วแคน ขณะที่ การฟ้ อนร า ได้แก่ แห่นางแมว เซิ้งบั้งไฟ เซิ้งสวิง เซิ้งโปงลาง เซิ้งตังหวาย เซิ้งกระติบ ร าลาวกระทบไม้ ฟ้ อนภูไท เป็ นต้น


เครื่องแต่งกาย ชาวอีสานถือว่าการทอผ้าเป็ นกิจกรรมยามว่างหลังจากฤดูการท านา หรือว่างจากงาน ประจ าอื่น ๆ ดังนั้นใต้ถุนบ้านของชาวอีสานในอดีตจะมีการกางหูกทอผ้ากันไว้แทบทุก ครัวเรือน โดยผู้หญิงในวัยต่าง ๆ จะสืบทอดการทอผ้าตั้งแต่เด็ก โดยผ้าทอมือเหล่านี้ท า จากเส้นใยธรรมชาติ เช่น ผ้าฝ้ าย และผ้าไหม และจะถูกน าไปใช้ตัดเย็บท าเป็ น เครื่องนุ่งห่ม หมอน ที่นอน ผ้าห่ม และการทอผ้ายังเป็ นการเตรียมผ้าส าหรับการออก เรือนของฝ่ายหญิง รวมถึงเป็ นการผ้าที่ทอไว้ส าหรับฝ่ายชายด้วย ผ้าทอของภาคอีสาน สามารถจ าแนกออกเป็ น 2 ชนิด ดังนี้ 1. ผ้าทอส าหรับใช้ในชีวิตประจ าวัน 2. ผ้าทอส าหรับโอกาสพิเศษ


ผ้าทอของภาคอีสาน สามารถจ าแนกออกเป็ น 2 ชนิด ดังนี้ 1. ผ้าทอส าหรับใช้ในชีวิตประจ าวัน โดยผ้าทอชนิดนี้จะเป็ นผ้าพื้นไม่มีลวดลาย เพราะต้องการความทนทานจึงทอด้วยฝ้ ายย้อมสี 2. ผ้าทอส าหรับโอกาสพิเศษ เช่น ใช้ในงานบุญประเพณีต่าง ๆ งานแต่งงาน งาน ฟ้ อนร า ดังนั้นผ้าทอจึงมักมีลวดลายสวยงาม และมีสีสันหลากหลาย ทั้งนี้ จะมีประเพณีที่คู่กันมากับการทอผ้าคือการลงข่วง โดยบรรดาสาว ๆ ใน หมู่บ้านจะพากันมารวมกลุ่มก่อกองไฟ บ้างก็สาวไหม บ้างก็ปั่นฝ้ าย กรอฝ้ าย ฝ่าย ชายก็ถือโอกาสมาเกี้ยวพาราสีและนั่งคุยเป็ นเพื่อน บางครั้งก็มีการน าดนตรี พื้นบ้านอย่าง พิณ แคน โหวต มาบรรเลงจ่ายผญาโต้ตอบกัน ไม่ใช่งานเผานะครับมันคืองานลวก


เนื่องจากอีสานมีชนอยู่หลายกลุ่มวัฒนธรรม การผลิตผ้าพื้นเมืองจึงแตกต่างกัน ไปตามกลุ่มวัฒนธรรม เช่น กลุ่มอีสานใต้ คือกลุ่มคนไทยเชื้อสายเขมรที่ตั้งถิ่น ฐานอยู่ในแถบจังหวัดสุรินทร์ ศรีสะเกษ และบุรีรัมย์ เป็ นกลุ่มที่มีการทอผ้าที่มี สีสันแตกต่างจากกลุ่มไทยลาว อย่างไรก็ตาม รูปแบบการแต่งกายของชาวอีสานทั่ว ๆ ไป คือ ผู้ชาย มักนิยม สวมเสื้อ มอ่ฮ่อม ซึ่งเป็นเสื้อแขนสน้ัสีเขม้ๆ สวมกางเกงสีเดียวกับเสื้อจรดเข่า นิยมใช้ผ้าคาดเอวด้วยผ้าขาวม้า ขณะที่ ผู้หญิง มักสวมใส่ผ้าซิ่นแบบทอทั้งตัว สวมเสื้อคอกลม แขนยาว เล่นสีสัน แต่หากเป็ นงานพิธีต่าง ๆ อาจมีการห่มผ้าสไบ เฉียง สวมเครื่องประดับตามข้อมือ ข้อเท้า และคอ เพิ่มด้วย


อาหารประจ าภาค ในปัจจุบัน อาหารจากภาคอีสาน ถือเป็ นอาหารยอดนิยมที่แพร่หลายทั้งใน ประเทศ และต่างประเทศ ซึ่งเมนูที่ทุกคนคุ้นเคยกันดีได้แก่เมนูส้มต า โดยเฉพาะส้มต าไทย ที่สามารถรับประทานได้ทุกที่ ทุกเวลา เนื่องจากส้มต ามี ส่วนประกอบหลักคือผัก และสามารถรับประทานคู่กับ ข้าวเหนียว ข้าวสวย ขนมจีน ได้ตามที่ต้องการ นอกจากเมนูส้มต าแล้ว อาหารอีสานที่ได้รับความนิยมเป็ นอย่างมาก ได้แก่ ลาบ ก้อย ข้าวเหนียวไก่ย่าง ปลาร้าหลน ข้าวจี่ ผัดหมี่โคราช แกงอ่อม แกงผักหวาน ไข่มดแดง เป็ นต้น จากข้อมูลเบื้องต้นที่ได้น าเสนอไปนี้ อาจเป็ นเพียงการท าความรู้จักกับภาคอีสาน ในแบบภาพรวมเท่านั้น เพราะแท้จริงแล้ว ศิลปะ และวัฒนธรรมของภาคอีสาน ยังมีความสลับซับซ้อน และน่าค้นหาอีกมาก อย่างไรก็ตาม หากมีโอกาสก็อย่าลืม ไปเยือนอีสานถิ่นไทย เพื่อลองไปเรียนรู้มรดกทางวัฒนธรรมที่หลากหลายจาก สถานที่จริงกันนะคะ


ข้อมลูที่อยู่ในรำยงำนเล่มน้ีนำ มำจำก Kapook! Travel หรือเว็บไซต์ https://travel.kapook.com/view47157.html ขอบคุณครับ


Click to View FlipBook Version